Sunday, April 6, 2014

..พี่เลี้ยง..THE DAY' I was your man(Yaoi-drama) บทที่ 25 The Last Regret



บทที่ 25  The Last Regret




-ก๊อก ก๊อก-


มือเล็กหมุนลูกบิดประตูผลักเข้าไปด้านใน มองเห็นที่โต๊ะหนังสือยังว่างเปล่า นึกแปลกใจเพราะเขาเห็นธาราธารเดินขึ้นมาแล้วชัดๆ วารินค่อยเอาดอกกุหลาบที่ถือขึ้นมาด้วยปักลงที่แก้วปากกา  ใบหน้าน่ารักแต้มรอยยิ้มบางเมื่อเห็นความสดใสของดอกไม้ที่ช่วยลดความตึงเครียดจากกองงานบนโต๊ะได้เป็นอย่างดี


“โอ๊ย!!” 


เสียงเล็กร้องอุทาน จู่ ๆ แขนบางถูกกระชากไม่ปราณีปราศัยจนตัวเขาลอยหวือเข้าไปกระแทกอยู่ในอ้อมกอดแข็งแกร่งของใครบางคนที่ยืนรออยู่หลังบานประตู


“ชอบนักหรือไงดอกไม้น่ะ”  


ธาราธารถามเสียงเครียด สองมือหนาผลักไหล่เล็กแล้วดันจนแผ่นหลังบางชิดผนัง  “โดยเฉพาะดอกที่ไอ้เตโชมันตัดให้ด้วยใช่ไหม ฮึ! ชอบนักใช่ไหม!!


เขาตะคอกแล้วลากวารินออกไปที่ริมระเบียงไม้นอกชาน ดวงตาคมกริบกวาดมองที่สนามหญ้าด้านล่างอย่างรวดเร็ว


“ธาร! พี่เจ็บ”


วารินที่ถูกรั้งแขนจนเจ็บปวดไปหมดพยายามแกะแขนเล็กๆออกจากมือของเขา พลางนึกสงสัยว่าเขากำลังกวาดตามองหาอะไร แต่แล้วเขาก็หันกลับมา ดวงตาคมกริบจ้องใบหน้าคนตัวเล็กอย่างเครียดขึง


“แค่ผมไม่ปรนเปรอให้สองอาทิตย์  ถึงกับอยู่ไม่สุขต้องไปใช้บริการไอ้เตโชเลยใช่ไหม”


เขากวาดตามองร่างเล็กๆด้วยสายตาที่เหมือนกับว่ารังเกียจกัน วารินถึงกับหน้าชากับถ้อยคำที่เขาพูดออกมาทั้งหมด เหมือนคนโดนตบซีกหน้าเข้าอย่างแรง หยดน้ำตาที่ไม่อยากจะให้ไหล พาลรื้นเอ่อขึ้นมาจนคลอหน่วย  


วารินรั้งแขนตัวเองออกอย่างแรงแต่ไหนเลยจะสู้แรงของอีกฝ่ายได้ ยิ่งดันยิ่งผลักเขายิ่งรัดให้แน่นยิ่งขึ้นไปอีก


“ทำไม! ทีกับผมกอดแค่นี้ต้องทำทีเป็นต่อต้าน ไม่ใช่ว่าพออยู่กับมันสองต่อสองรีบร่านไปซบอกมันหรอกเหรอ”


“ธาร! หยุดนะ! เลิกดูถูกกันได้แล้วไม่พอใจเรื่องอะไรจู่ ๆ เป็นบ้าอะไรขึ้นมา ไร้เหตุผลที่สุดเลย!


วารินเหลืออดต่อว่าเขาไปอย่างไม่เกรงกลัวอะไรแล้ว  แต่ทว่าเขาเองก็ตอกกลับมาอย่างทันควันเช่นกัน


“ก็พี่มันร่าน!”


เพี๊ยะ!!


เสียงฝ่ามือกระทบใบหน้าดังสนั่นไปทั้งระเบียงทันทีที่เขาพูดจบ


“พี่ทราย!


เขาสะบัดหน้ากลับมา ขบกรามจนแน่นส่งเสียงลอดไรฟันสวย ใช้ลิ้นดุนดันกระพุ้งแก้มรับรสเลือดฝาดที่สาดซ่านอยู่ในปาก เนื่องจากแรงตบนั่นไม่เบาเลย


“อย่ามาหยาบคายกับพี่นะ! ธารไม่มีเหตุผลพี่ไปทำอะไรให้กัน!


วารินเสียงสั่นเลือดขึ้นหน้าต่อว่าเขากลับไปอย่างไม่เกรงกลัว คนตัวเล็กรีบถอยหลังออกมาให้ห่าง นึกเกลียดคำว่า ร่าน เกลียดเวลาธาราธารด่าเขาด้วยถ้อยคำๆนี้  ทุกทีที่เห็นเขาเงียบไม่โต้ตอบนั่นคือเรื่องของทัตพลเพราะว่าเขาผิดจริง ๆ แต่ครั้งยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยจู่ ๆ ไม่รู้ทำไมอีกฝ่ายจึงขึ้นเป็นหมาบ้าแบบนี้


“เก่งนักนะ เก่งเกินไปจริง ๆ รู้อะไรไหม...กับคนแบบพี่น่ะ จะเอากลางแจ้งให้คนสวนมันดูเป็นบุญตาบ้างก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเหมือนกัน”


มือหนารีบเข้ามาคว้าแขนเล็กไว้ก่อนที่วารินจะวิ่งหนีได้ทัน เขากอดรัดแล้วเข้าบีบคางเล็กๆจนเจ็บปวดไปหมด วารินดิ้นจนสุดแรงขณะเขาตัดสินใจรัดแล้วช้อนตัวทั้งตัวลอยขึ้น


“ธาร!!”


วารินร้องดังลั่น เมื่อเขาทำท่าว่าจะโยนร่างทั้งร่างออกนอกระเบียง  ท่อนแขนเรียวกอดคอเขาไว้แน่นจนสั่น


“เก่งนักก็หลุดออกไปให้ได้สิ ไหนลองหนีผมให้ดูหน่อยซิ หืมม” 


คนในอ้อมแขนเงียบกริบทันทีมีแต่เสียงสะอึกสะอื้น จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อร่างกายของเขาถูกช้อนแล้วยื่นออกมานอกราวระเบียงแบบนั้น หากอีกฝ่ายปล่อยเขาเมื่อไหร่รับรองเขาตกไม่เหลือรอดแน่นอน


“มองลงไปซิ  ไอ้เตโชมันนั่งทำสวนอยู่ตรงนั้นไง ตะโกนเรียกมันสิ ร้องขอให้มันมาช่วยดีไหม สองอาทิตย์ที่ผมไม่ได้กลับมานี่จัดกับมันไปกี่รอบแล้วล่ะ ห๊ะ! ไหนลองบอกออกมาตรง ๆ สิ สารภาพออกมาให้หมดด้วยนะ!


“ธาร..ฮึกก..ไม่ใช่”


วารินยิ่งได้ยินถ้อยคำดูถูกแบบนั้นยิ่งร้องไห้หนักส่ายหน้าปฏิเสธเป็นพัลวัล ทั้งกลัวตกทั้งรังเกียจและชิงชังในถ้อยคำของเขาแต่ยังต้องกอดคอเขาไว้แน่น


“จะทำอีกไหม เข็ดแล้วหรือยัง” เขาก้มลงมองหน้าคนตัวเล็กที่เขาช้อนอยู่ในอ้อมกอด ใบหน้าเล็กนั่นเต็มไปด้วยคราบน้ำตา


“อย่าให้ผมเห็นว่าพี่อยู่กับมันสองต่อสองอีก แม้แต่ไปตลาดด้วยกันผมก็ไม่อนุญาต จำเอาไว้ด้วย!”


 เขาว่าจบแล้วปล่อยวารินลง กระชากแขนเล็กให้กลับเข้ามาด้านใน โดยที่ประตูระเบียงยังคงเปิดอ้ากว้าง ผ้าม่านสีครีมปลิวไสว


“ธาร!”


วารินอุทานลั่นเมื่อเขาผลักร่างเล็กให้นอนราบลงที่โต๊ะ มือใหญ่กวาดกองแฟ้มเอกสารร่วงกรูลงบนพื้นพรม


“เงียบซะ!”


จูบหนักหน่วงก้มลงมาปิดทุกถ้อยคำพูดที่อีกคนกำลังจะเอ่ยต้าน สองมือใหญ่กดข้อมือเล็กคร่อมลงบนโต๊ะ


“อื้ออ..”


เรียวลิ้นหนาชอนไชแทรกเข้าไปเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็ก ๆที่หลบหลีเขาไปมาอย่างชำนิชำนาญ  วารินจะไปสู้อะไรเขาได้แค่จูบยังหนีจากเขาไม่ได้เลยนับประสาอะไร 


กลิ่นนมจากซอกคอหอมลอยขึ้นมาแตะจมูกทำให้เขาอดใจไว้ไม่ไหวซุกไซ้ปลายจมูกคมฝังลึกลงที่ซอกคอขาวเนียนราวสัตว์ร้ายที่เข้าขย้ำเหยื่ออย่างไม่ปราณี  ร่างกายเล็กอ่อนปวกเปียกจากที่ต่อต้านในตอนแรกพลันเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบและความรัญจวนของเรียวลิ้น ธาราธารกระหวัดปลายลิ้นแตะชิมไปจนทั่วลำคอขาวที่บัดนี้ตะแคงขึ้นรับรอยจูบจากเขา 


อืมม..”


เขาดูดแล้วขบเบา ๆ ตีตราความเป็นเจ้าของบนเนื้อนวลอ่อนนุ่ม ทุกตารางนิ้วที่ซอกคอหอมเขาไม่ปล่อยให้มีส่วนไหนเล็ดลอดจากปลายลิ้นไปได้ 


จุมพิตแสนดุดันที่บัดนี้เปลี่ยนเป็นสุดแสนหวาน ยังคงถูกปรนเปรอให้อย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่าย ๆ วารินสะท้านน้อยๆเมื่อเขาสอดมือเข้าไปในเสื้อตัวเล็กแล้วสะกิดยอดอกชูชันที่เริ่มแข็งเป็นไตรอรับสัมผัสจากเขา  เขาเลื่อนริมฝีปากลงมาก่อนใช้มันปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดๆอย่างชำนาญ  วารินหอบหายใจหนักเมื่อเขาเปลี่ยนจากมือที่เค้นคลึงยอดอกเป็นเรียวลิ้นที่มาเกี่ยวดูด ทั้งเม้มทั้งดึง เกิดเสียงจ๊วบจ๊าบดังลั่นห้องหนังสือ


“อ๊ะ..”


ร่างเล็กบิดแอ่นลดทอนความรัญจวน กลั้นเสียงครางไม่ไหวอีกต่อไปเมื่อเขาดูดดึงยอดทรวงขึ้นมาแบบนั้น  วารินกำลังทำให้เขาคลั่งด้วยเรือนร่างที่ทั้งหอมหวานและเย้ายวน กลิ่นหอมแบบธรรมชาติชนิดที่เขาไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อน ไม่ว่าจะกกกอดร่างนี้เมื่อใดเป็นอันต้องตกลงไปในวังวนเสน่หาได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น


มือใหญ่สอดลงขยำขยี้อยู่ที่สะโพกมนก่อนดึงกางเกงกระชากลงที่ปลายเท้าโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าร่วงกรูลงที่โต๊ะ ร่างเล็กขืนตัวเล็กน้อยแต่ก็แอ่นกายรับเรียวลิ้นจากเขาเมื่อปลายลิ้นสากลากเลื่อนลงไปสาละวนอยู่ที่รูสะดือกลางลำตัว


วารินสั่นสะท้านท่อนขาเรียวหุบเข้าหากันกักกันสายตาเจ้าเล่ห์ที่กวาดมองเรือนร่างขาวนวลเนียนด้วยอารมณ์แสนรัญจวน เขาใช้ร่างกายดันท่อนขาขาวให้แยกออกจากกันมีเพียงชั้นในสีขาวตัวจิ๋วเท่านั้นที่ปิดบังส่วนสำคัญไว้ในตอนนี้


“อื้ออ..ไม่เอาธาร..พอแล้ว”


เสียงเล็กร้องห้ามทั้งที่ร่างกายส่วนนั้นกำลังดีดตัวล้ำออกมานอกปราการจิ๋ว ธาราธารยกยิ้มร้ายที่ริมฝีปากอย่างพอใจ และแล้วอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายของส่วนล่างก็ถูกดึงกระชากทิ้งอย่างไม่ใยดี


“อ๊าา...”


เสียงเล็กครางสะอื้นเมื่อปลายลิ้นหนาแตะชิมที่หัวสีชมพูนุ่มนิ่ม เขาลงลิ้นรัวที่จุดกระสันก่อนครอบริมฝีปากลงแล้วรูดรั้งเป็นจังหวะ วารินครางเครืออย่างสุขสม



ครืดดด...ครืดดดดดด...



เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นอย่างไม่รู้เวล่ำเวลา ธาราธารชะงักนิดหน่อยนึกหน่ายในใจแต่เขายังคงก้มหน้าก้มตาลงลิ้นดูดเลียหัวสีชมพูไม่ยอมหยุด


“รับโทรศัพท์สิ”


เขาเงยหน้าขึ้นมานิดหน่อย เพื่อสั่งอีกคนให้รับเครื่องที่รบกวนความสุขเมื่อมันยังคงดังต่อเนื่อง วารินได้แต่ส่ายหน้าไปมาไม่อาจทำตามที่เขาบอกได้   เด็กหนุ่มทำเสียงฮึดฮัดในลำคออย่างคนไม่ได้ดั่งใจ ก่อนคว้าเอาโทรศัพท์ที่กองอยู่ข้าง ๆ มากดปุ่มเปิดลำโพงแล้วโยนวางไว้ที่หน้าอกคนตัวเล็ก


“ทราย ฮัลโหลทราย ได้ยินฉันไหม”


เสียงที่ดังลอดจากปลายสายทำให้วารินตาค้าง คนตัวเล็กกัดริมฝีปากกลั้นเสียงเต็มที่เมื่อคนที่ก้มหน้าอยู่กลางลำตัวเขาเหมือนยิ่งแกล้งดูดรั้งจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบน่าอาย  วารินจะคว้าโทรศัพท์มากดปิดแต่ธาราธารที่สายตาจับจ้องใบหน้าคนตัวเล็กอยู่รีบปัดมือนั้นออกขณะที่ริมฝีปากเขายังเฝ้าปรนเปรออยู่ไม่หยุด  วารินจึงจิกมือแน่นเข้าที่กลุ่มผมนุ่มเมื่อเขายิ่งก้มหน้าก้มตาบี้ลิ้นเข้าที่ส่วนอ่อนไหวต่อเนื่อง เรือนร่างบอบบางเสียวสะท้านท้องน้อยจนต้องแอ่นตัวรับกลั้นเสียงร้องเต็มที่


“ทราย นี่ฉันทัตพลนะ ทรายได้ยินฉันรึเปล่า”


เพียงแค่ได้ยินชื่อทัตพลดังลอดออกมาธาราธารชะงักกึกทันที เขาเงยหน้ามองวารินเหมือนโกรธเกรี้ยวมาเป็นแรมปี


“ตอบเขาไปสิ”


“ครับ คุณทัต อ๊ะ...”


เขาเป็นคนสั่งให้ตอบเองแท้ ๆ แต่พอวารินตอบไปเท่านั้นเขาก็แยกขาเรียวขาวให้กว้างขึ้นอีก มือหนาผลักสะโพกสวยให้สูงขึ้นขณะเขาคุกเข่าอยู่ที่พื้น ลากลิ้นลงมาดูดดุนที่พวงด้านล่าง วารินกัดปากกลั้นเสียงจนเลือดห้อ สั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อลิ้นหนาลากลงมาฉกเข้าออกที่รูอ่อนนุ่มปราการสุดท้ายทางด้านหลัง


“ตอนนี้ฉันอยู่กับซี  เห็นเขาบอกว่าทรายไม่ค่อยสบายหายแล้วหรือยัง”


เสียงปลายสายส่งถามด้วยความเป็นห่วง แต่ลิ้นที่ฉกเข้าออกยังสร้างความกระสันให้กับร่างกายของคนตัวเล็กจนผิวกายแดงเห่อเป็นสีเพลิง วารินบิดแอ่นกายอย่างรัญจวนไม่รู้จะส่งเสียงตอบปลายสายไปได้อย่างไรเพราะดูเหมือนว่าธาราธารยิ่งได้ยินทัตพลพูดออกมาแบบนั้นเขายิ่งแกล้งเร่งความเร็วให้เพิ่มขึ้น


“ทราย! เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมไม่พูดกับฉันล่ะ”


“ตอบไปสิ แล้วอย่าคิดจะกดวางนะ ผมลงโทษพี่หนักแน่”


เขาเงยหน้าขึ้นมากระซิบใส่ด้วยเสียงที่แหบพร่าก่อนจะก้มลงไปดูดเลียต่อ คราวนี้ไม่ใช่แค่เรียวลิ้นที่ตวัดมือหนายังเอื้อมขึ้นมารูดรั้งแก่นกายสีสวยด้วยความรวดเร็ว วารินเสียวจนต้องผลักหัวทุยๆของเขาออกแต่อีกใจกลับไม่อยากให้เขาหยุดลง


“อะไรนะทราย ฉันได้ยินไม่ถนัด สัญญาณไม่ดีหรือไงนะ”  ทัตพลช่างไม่รู้เรื่องราว พร่ำบ่นออกมาจนธาราธารได้แต่แสยะยิ้มในใจ


ร่างกายบอบบางอัดแน่นไปด้วยความปรารถนา วารินเสียวกระสันตั้งแต่ท้องน้อยร้อนไปทั่วทั้งตัวเหมือนไฟที่พร้อมจะระเบิด จะให้เขาเปล่งเสียงไปได้อย่างไรแค่นี้เขายังต้องยกมือขึ้นมาปิดกั้นเสียงร้องไว้  ธาราธารช่างทรมานเขาจนถึงขีดสุดจริง ๆ


“ห..หายแล้ว..ค..ครับ”


“ไม่เป็นไรแน่นะ อยากให้ไปรับหรือเปล่าเห็นซีบอกว่าทรายไม่ค่อยได้กลับบ้านโดนลูกชายฉันรังแกมากไหม”


“ป...เปล่าครับ ผ..ผมไม่เป็นอะไร”


วารินเค้นเสียงตอบกลับไปซ้ำยังต้องกลั้นเสียงคราง ธาราธารลงลิ้นกับช่องทางนุ่มนิ่มขณะที่มือก็ปรนเปรอให้อย่างเร็วไม่มีตก ยิ่งเขาได้ยินคำถามของทัตพล เขายิ่งจงใจแกล้ง รู้สึกพอใจที่ได้ทรมานคนตัวเล็กเล่น แต่แค่นี้มันยังน้อยไปเมื่อเขาเห็นวารินยกมือขึ้นปิดปากกั้นเสียงครางเขายิ่งแกล้งดูดดุนช่องทางสีสดจนเกิดเสียงน่าละอายวารินสะท้านตัวเกร็ง


“เสียงไม่ค่อยดีนะทราย หายาทานด้วยล่ะ อ้อ..ซีเขาฝากมาบอกว่าถ้าจะกลับวันไหนให้โทรมาบอกก่อนเขาจะได้ทำของที่ทรายชอบเตรียมไว้ให้ อย่างวันนี้ไม่รู้นึกยังไงทำกุ้งเปรี้ยวหวานให้ฉันทานจนพุงกางไปหมดแล้วเนี่ย ถ้ามาทุกวันมีหวังหุ่นฉันพังแน่ แล้วทรายไม่ต้องกลัวว่าซีเขาจะเหงานะ ฉันจะมาอยู่เป็นเพื่อนเขาให้เอง”


คนฟังไม่อาจแยกแยะประสาทได้อีกต่อไป ไม่รับรู้แล้วว่าทัตพลพูดเรื่องอะไรมาบ้าง ถึงอยากจะตอบรับแต่กลัวว่าเสียงมีพิรุธจะหลุดรอดออกไปให้ได้อาย เมื่อธาราธารไม่ปล่อยให้วารินได้ทำอย่างนั้น เขายังคงแกล้งกันด้วยการบุกรุกด้วยลิ้นไม่พอ วารินแทบคลั่งเมื่อเขาเปลี่ยนมาครอบครองลงที่แท่งร้อนอีกครั้ง พร้อมรูดรั้งริมฝีปากขึ้นลงอย่างชำนาญในขณะที่เรียวนิ้วร้ายเริ่มสอดแทรกเข้ามาที่โพรงคับแคบด้านหลัง วารินถึงกับผงกหัวขึ้นดูภาพน่าอายนั่น ร่างเล็กหอบหายใจสะท้านทนดูไม่ได้กับภาพตรงหน้า เขาทิ้งศีรษะลงตามเดิม กลั้นใจเปล่งเสียงกับโทรศัพท์อีกครั้งก่อนที่สติจะกระเจิงไปมากกว่านี้


“คุณทัต..อ๊ะ..ครับ..ผมไม่เป็นอะไร..ฝ..ฝากบอกพี่ซีด้วย..แค่นี้ก่อนนะครับ..ผมต้องเตรียม ท...ทำอาหารแล้ว”


“ลูกชายฉันมันแย่จริง ๆ เลยนะ ทนหน่อยนะทรายถ้าหากเธอมีเหตุผลจำเป็นที่ต้องอยู่ที่นั่นต่อ แต่ถ้าหากว่าถึงที่สุดแล้วจริง ๆ ให้โทรมาหาฉัน ฉันจะไปรับเธอออกมาเอง”


ไม่รู้ทัตพลนึกอย่างไรถึงได้โทรหาวารินวันนี้ ตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่ก็ไม่เคยโทรมาแต่ดันโทรมาตอนที่เขาจะโดนธาราธารกลั่นแกล้งได้พอดีแบบนี้ พอธารธารได้ยินว่าทัตพลอาสามารับวารินออกจากที่นี่ เขายิ่งเพิ่มแรงดูดดุนที่จุดเสียวกระสันส่วนปลายยอดจนวารินสะดุ้งเฮือก นิ้วร้ายสอดเพิ่มเป็นสองกดหาจุดกระสันแล้วเร่งจังหวะสวนเข้าออกให้เร็วขึ้นกว่าเดิม


“ค..ครับ..ผ..ผม..แค่นี้ก่อน...อ๊าาธาร!


โชคคงยังดีที่ถ้อยคำสุดท้ายอีกฝ่ายยังไม่ได้ยิน เพราะธาราธารเอื้อมมือขึ้นมากดปิดบทสนทนาที่แสนทุลักทุเล เขาฟาดโทรศัพท์เหวี่ยงไปอีกทางอย่างเสียอารมณ์


“ธาร..พอแล้ว อย่าทำ...พี่ไม่ไหว”


เสียงหวานครางกระเส่า มีหรือที่คนอย่างเขาจะฟังคำร้องขอ เขากลับเพิ่มความเร็วของนิ้วมือจากสองให้เป็นสาม ขณะที่อีกมือเฝ้ารูดรั้งแก่นกายร้อนของคนตัวเล็กจนวารินแอ่นสะท้านเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดพรายขึ้นทั่วร่างกาย เสียงครางที่กลั้นไม่ได้อีกต่อไปดังระงมไปทั่วทั้งห้อง


“ฮ..อื้ออ..ธาร..” วารินไม่ได้ดั่งใจไม่ทันใจไม่ถึงใจทุกอย่างปนเปกันมั่วไปหมดส่งเสียงรัญจวนน่าอาย


“บอกสิว่าพี่ไม่ต้องการ แล้วผมจะหยุด”


เขาเลื่อนตัวขึ้นมาถามขณะที่ปลายนิ้วเฝ้ากดย้ำๆอยู่ในจุดที่วารินแทบคลั่ง  เสียงเล็กครางลั่นศีรษะส่ายรับใจหนึ่งอยากให้เขาหยุดแต่อีกใจอยากได้สิ่งที่มันยิ่งใหญ่กว่านิ้วมากมายเหลือเกิน


“ธาร..อย่าแกล้ง..อื้ออ..”


“ต้องการผมไหม? อยากได้ผมหรือเปล่า??”


ในยามนี้ยังต้องคิดอะไรให้มากมายอีก เมื่อสติสตังถูกความปรารถนาทั้งหมดเข้าครอบงำ ร่างกายมิอาจทานทนต่อการปรนแปรอที่กลับหยุดชะงักลงดื้อๆ


“..ต้องการ..ธารช่วยที..พี่ต้องการธาร..”


วารินครางกระซิบเสียงแผ่วน้ำเสียงขาดห้วงดวงตาพร่าปรือมองคนที่ยืนอยู่ที่หว่างขาตนเองอย่างรวดร้าว ใจที่ทั้งต้องการทั้งอยากผลักไส ร่างสูงใหญ่ค่อยเคลื่อนกายโน้มต่ำลงมากระซิบเสียงเย็นเยียบพร้อมรอยยิ้มร้าย ๆ ที่ริมฝีปากสวย


“พี่เลือกเองนะ พี่ทราย”


บัดนี้ร่างกายบอบบางเหมือนถูกจับแยกออกเป็นสองส่วน วารินกรีดร้องดังลั่นเมื่อเขาค่อยสอดแทรกกายร้อนเข้ามาครอบครองทีละนิด ทีละนิด เขาอ่อนโยนไม่เหมือนทุกครั้งที่เคยทำ ความรู้สึกเหมือนถูกเติมเต็มก่อนที่สะโพกมนสวยจะถูกรั้งขึ้นไปเพื่อให้ส่วนสอดประสานกระชับแนบชิด


“ธาร..”


วารินครางเรียกเสียงแผ่ว รัญจวนใจสุดๆเมื่อเขาค่อยเริ่มเคลื่อนกายเข้าออก


“ครับพี่ทราย ผมอยู่ที่นี่แล้ว...อืมม..”


เสียงคำรามต่ำในลำคอหนาดังออกมาอย่างสุขสม เมื่อช่องทางคับแน่นบีบรัดเขาจนเคลื่อนกายแสนลำบาก การมีอยู่ของเขาในร่างกายเล็กทำให้วารินเปี่ยมสุข ครั้งนี้เขาไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เขาทำเหมือนกับว่าเขารักทะนุถนอมและต้องการ คำพูดอ่อนโยนที่เขาไม่เคยมอบให้มาก่อน บทเพลงรักอันแสนอ่อนหวานที่เขาเฝ้าปรนเปรอให้ ทำให้วารินสติกระเจิดกระเจิงไปไกลเกินกว่าจะรับรู้สิ่งใด วารินหลงระเริงลืมตัว เมื่อคิดว่าเราเป็นส่วนเติมเต็มของกันและกัน เขาคงยอมให้อภัยทุกอย่างและเปิดพื้นที่ในหัวใจให้ได้เข้าไปครอบครองอีกครั้ง


“ธาร...พี่รักธาร..”


ปุยเมฆสีขาวโพลนบนท้องฟ้า ตัดกับแสงสีเหลืองทองแห่งดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้างาม  วารินสุขสมจนล้นเอ่อ ไขว่คว้าความปรารถนามาครอบครองจนสมใจ เสียงลมหายใจหอบถี่ หยาดเหงื่อผุดพรายไปทั่วทั้งใบหน้าขาว  ระเบียงสวยเปิดโล่งลมโกรกพัดเอากลิ่นหอม ๆ ของกุหลาบหลากสีลอยขึ้นมาคละคลุ้งถึงในห้อง ปลายนิ้วหนาปาดเช็ดเม็ดเหงื่อออกให้ทั้งที่ยังเขยื้อนกายเข้าออกอย่างถี่ยิบ ดวงตาสีเข้มที่มองลงมาที่เรือนร่างใต้ร่างกายของเขาทอประกายอัดแน่นไปด้วยความต้องการที่ล้นเอ่อ


“อยากได้อะไร..บอกผมสิ”


“ธาร..ได้โปรด..ธาร..” เสียงเล็กครางเครือ


จุมพิตดูดดื่มลึกซึ้งถูกบรรจงมอบให้กับคนที่เงยหน้าร้องขอ ท่อนแขนเรียวยกขึ้นโอบรัดอย่างต้องการที่พึ่งพิง  เรือนร่างบิดแอ่นเสียวซ่านเหมือนร่างกายแทบระเบิดออกมา


“..พี่รักธาร..”


 เสียงจากหัวใจถูกเปล่งออกมาอีกครั้งเหมือนดั่งต้องการให้อีกคนพูดตอบกลับมาเช่นกัน


แต่ทว่ากลับไม่มีเสียงใด ๆ หลุดลอดออกมาจากร่างกายหนา


.....ผมก็รักพี่.....


คำพุดที่ไม่มีวันหลุดออกมาจากปากของเขาให้ได้ยิน  เขาตอกย้ำถาโถมเข้าใส่ขณะที่วารินแอ่นกายขึ้นรับ ธาราธารกระหน่ำตอกลงมาดั่งพายุที่จู่ ๆ ก็สาดซัดกระแทกกระทั้น วารินร้องเสียงหลง ขาเรียวที่ถูกเขาจับพาดไว้เกี่ยวเกาะสะโพกสอบรัดแน่น เขารุกรานใส่ไม่มียั้งเหมือนคนกำลังไล่ล่า จับคนตัวเล็กลุกขึ้นแล้วอุ้มไว้ขณะส่วนนั้นยังสอดประสานวารินกอดคอเขาไว้แน่น ร่างสูงใหญ่เดินออกมาที่ประตูหน้าระเบียง


“อย่าธาร! ไม่เอาตรงนี้”  


วารินส่ายหัวปฏิเสธพัลวัน ซุกศีรษะเล็กเข้าที่ไหล่เขาแน่นเพราะรู้สึกอายและไม่อยากจะให้มีใครเห็น แต่ธาราธารหรือจะยอมหากเขาต้องการ สองมือหนาประคองสะโพกกลมกลึงขึ้นลงจนเสียงดังพับๆๆ วารินร้องลั่นเมื่อเขาโหมร่างกายสวนขึ้นแบบไม่มียั้ง


“อ๊าา...ธาร! ไปข้างในได้โปรด”


“ทำไมล่ะครับหืมม  ไอ้เตโชมันจะได้เห็นๆกันไปเลยไม่ดีหรือยังไง...อ่าา..”


เขาวางร่างคนตัวเล็กลงที่พื้นด้วยความรวดเร็วรั้งสะโพกสวยขึ้นชันแล้วคร่อมกายกระแทกกระทั้นลงไปเมื่อรู้สึกว่าตนเองแทบจะทานทนต่อความอัดอั้นอีกไม่ไหว วารินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่เขาพูดก่อนหน้านั้นหมายถึงอะไร ความปรารถนาสีดำมืดช่างน่ากลัวนัก เสียงทุ้มครางต่ำในลำคอดังลั่นไปทั้งห้อง ไม่นานนักธารรักสีขาวขุ่นของคนตัวเล็กก็แตกออก เสียงครางสุขสมของวารินดังสะท้านสะเทือนเมื่อได้รับการปลดปล่อย ขณะที่อีกฝ่ายไม่ยอมโดนทิ้งนานเขากระแทกกายรัวถี่อีกไม่กี่ครั้งความอุ่นร้อนก็ฉีดพล่านเข้าใส่ร่างเล็กจนหมดสิ้น ร่างกายที่เหนื่อยหอบของเขาคร่อมแผ่นหลังเล็กของวารินก่อนถูกเขาดันราบนอนลงไปด้วยกันไม่สนแล้วว่าเป็นพื้นพรมหรืออะไร


“อ่าา...พี่ทราย แบบนี้ถึงใจพี่ไหม ดีกว่าของไอ้เตโชมันรึเปล่า”


เขาคำรามเสียงต่ำชิดที่ใบหูเล็กขณะที่ดวงตายังเต็มไปด้วยความปรารถนา ส่วนกลางลำตัวยังแช่อยู่ในร่างกายอีกคนไม่ยอมถอนออก วารินเบิกตากว้างสติเริ่มกลับมาอีกครั้งฉุกคิดกับสิ่งที่เขาพร่ำถาม


“ธ..ธาร! ทำไมพูดแบบนั้น พี่ไม่..”


“ไม่เคยกับมันแค่รอบเดียวใช่ไหม? ไม่เป็นไรเดี๋ยวคืนนี้ผมจะสนองความร่านให้พี่อีก จะเอาให้ลืมบทรักของใครต่อใครที่พี่เคยผ่านมาให้หมดเลยดีไหม หืมม”


วารินหันหน้าไปดูคนที่นอนซ้อนตัวเองไว้ ธาราธารส่งยิ้มให้ แต่ทว่าแววตากลับนิ่งลึกจนยากที่จะคาดเดาได้  รอยยิ้มร้ายที่เหมือนรอยยิ้มของปีศาจปรากฏขึ้น


“ธารหมายความว่ายังไง??” วารินน้ำตาหล่นร่วงลงทันที ความรู้สึกเหมือนถูกเขาดึงขึ้นถึงสวรรค์แต่พลันถูกถีบตกลงมาด้วยเงื้อมือของมัจจุราช


“ก็หมายความว่าบทรักของผมมันสนองความร่านของพี่ได้พอไหม? ถึงใจไหมไงล่ะ”


เขาว่าแล้วค่อยถอนกายออกอย่างระมัดระวัง น้ำรักสีขาวยังไหลตามออกมาแต่ธาราธารไม่ได้สนใจ วารินน้ำตาไหลพรากกับคำพูดแสนดูถูกดูแคลนของเขาคนนี้ 


“ไม่ต้องมาจับ! เสียงเล็กตะโกนลั่น วารินยันตัวลุกขึ้นหลีกหนีมือที่กำลังจะช่วยดึงตัวเขาขึ้นมา ดวงตามีหยาดน้ำเอ่อคลอ


ถ้าคิดแบบนี้ก็ไม่ต้องมายุ่งกัน!”


เขารีบคว้าแขนเรียวไว้แล้วจับไหล่ทั้งสองข้างบีบแน่นด้วยสีหน้าที่ดุดัน


“โกรธทำไม! ที่ผมทำไปเมื่อกี้ก็แค่อยากรู้ว่าระหว่างผมกับไอ้คนสวนนั่นใครมันจะลีลาถึงใจพี่มากกว่ามันก็เท่านั้น และมันก็ช่วยไม่ได้นะถ้าหากพี่จะตีความสารพัดไปเอง พี่คิดว่าคนอย่างผมจะยอมยกโทษกับความร่านของพี่ได้ง่ายขนาดนั้นเลย? เคยบอกแล้วไงคนอย่างพี่มันไม่มีคุณค่าอะไรสักนิดก็แค่ที่ระบายเวลาที่ผมอยากมันก็เท่านั้น! ไม่มีวันสูงค่าขึ้นมาได้อย่างคนอื่นเขาหรอกนะ จำใส่ใจเอาไว้!”


คำพูดยาวเหยียดกระแทกลงกลางหัวใจวารินเข้าเต็ม ๆ หัวใจดวงน้อยร่ำไห้พร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นอย่างรวดร้าว เขาเหยียบย่ำลงที่กลางใจแล้วยังขยี้ต่อด้วยปลายเท้าจนใจร้าวรานและชอกช้ำ


 “ทำไมถึงได้ใจร้ายขนาดนี้..ฮึกก..ทำไมถึงทำร้ายกันได้มากมายขนาดนี้..ฮึกก..”   ไหนเคยบอกว่ารักกัน ไหนเคยบอกว่าจะไม่ทำให้เสียใจ ทำไมถึงใจร้ายทำกันได้ลง


“เลิกทำตัวร่านๆซะสิ  แล้วผมอาจจะพิจารณายกโทษให้บ้างก็ได้”


ไหล่เล็กถูกปล่อยให้เป็นอิสระทันทีที่เขาพูดจบ หัวใจที่เต้นพลันอ่อนลง ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงอีกต่อไปเมื่อถูกเขาประณามหยามเกียรติจนสิ้นซากไม่เหลือแม้แต่ศักดิ์ศรี


“พี่ไม่ได้มีอะไรกับนายเตเลยทำไมธารไม่เชื่อ! แล้วกับพ่อของธารพี่เองก็ไม่ได้ตั้งใจ เราสองคนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ  ทำไมต้องมาโทษกันไม่คิดบ้างรึไงว่าพี่เองก็เสียใจเป็น ทำไม!! ทำไมไม่ถามพี่บ้างว่าพี่สมัครใจที่จะเป็นแบบนี้บ้างรึเปล่า..ฮือๆ.. ทำไมเอาแต่โทษพี่ ทำไมต้องมาว่ากันร่าน! ทำไมๆๆ!!!!!!!!!


ดวงตาที่แดงก่ำช้ำไปด้วยรอยน้ำตาวารินร้องตะโกนดังลั่นอย่างทนไม่ไหวอีกต่อไป กำปั้นเล็กๆทุบตีที่แผงอกกว้างอย่างต้องการที่ระบาย  ขณะที่ธาราธารนิ่งงันเขายืนเงียบเฉยอย่างเย็นชา


“ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้าง..ฮ.อึกก..”


เสียงเล็กสะอื้นไห้อย่างโหยหา ไม่มีเหลืออีกแล้วความแข็งแกร่ง เมื่อวารินยอมทอดกายให้เขาได้ทำตามแต่ใจแต่ทว่ากลับถูกเหยียบย่ำและหยามเหยียดกันเสียขนาดนี้


“ได้โปรดอย่าทำแบบนี้กับพี่ธาร...พี่รักธารนะ รักธาร! ได้ยินไหมว่าพี่รักธาร ฮือๆๆ”  


เขาค่อย ๆ ดันไหล่บางออกห่างจากตัวอย่างเชื่องช้า แววตาที่แสนบอบช้ำสบกับแววตาที่มีแต่ความนิ่งงันเย็นเฉียบ ท่าทีเย็นชาของเขาไม่เปลี่ยนไปเลยแม้ว่าวารินจะแสดงความเจ็บปวดให้เห็นมากมายเพียงไหน



...สายตาที่ทอดมองลงมามีแต่ความเลือดเย็น...



“ผมไม่ได้รักพี่อีกแล้ว...ที่มีก็แค่ความใคร่ อยากจะทำให้เจ็บปวดเพื่อให้หายแค้นก็เท่านั้น คนอย่างพี่อยากจะไปทำอะไรกับใครต่อใครอีกผมก็ไม่ว่าหรอก แต่อย่ามาเอากับคนใกล้ตัวผม อย่าให้ผมเห็นว่าทำตัวสนิทสนมกับคนในบ้านผมเหมือนเมื่อตอนกลางวันอีกก็พอ”



....ดั่งประกาศิตจากฟ้าผ่าลงมาตรงหน้า กรีดซ้ำลงบนหัวใจที่ย่อยยับ บาดแผลที่ถูกแทงจนลึกร้าวกลับโดนบดขยี้จนไม่เหลือแล้วซึ่งความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้แก่กัน ความอ่อนโยนพลันเลือนหายไปเมื่อเขาผลักไสร่างเล็กให้ถอยออกจากทาง คำพูดที่แสนเจ็บปวดยังดังสะท้อนซ้ำไปซ้ำมาไม่เหือดหายไปจากใจ.....



ดวงตาทอดมองแผ่นหลังกว้างด้วยความรวดร้าว ฝ่ามือเล็กกำแน่นจนสั่นสะท้าน


 เขาคว้าเอากางเกงที่กองอยู่บนพื้นโยนส่งใส่คนตัวเล็กก่อนที่ตัวเขาจะเดินเข้าห้องนอนที่มีประตูเชื่อมติดกับห้องหนังสือนี้


วารินทิ้งตัวลงที่โซฟาน้ำตาไหลพรากลงมาเป็นสาย เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นถูกปล่อยออกมาด้วยความคับแค้นอัดอั้น มือเล็กหยิบกางเกงขึ้นมาสวมใส่ ติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อยก่อนคว้าเอาโทรศัพท์มือถือที่หล่นกองอยู่บนพื้นขึ้นมาถือไว้กับตัว ถอนหายใจเฮือกใหญ่ปาดรอยน้ำตาทิ้งให้หมดทุกหยดหยาด ตัดสินใจเดินไปยังประตูเชื่อมและเปิดเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ธาราธารที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำสวมใส่กางเกงตัวใหม่เรียบร้อยกำลังจะหยิบเสื้อที่แขวนไว้ที่ราวในตู้


“ขายบ้านหลังนั้นให้พี่ได้ไหม? ธารจะขายเท่าไหร่ พี่จะขอซื้อคืน”


วารินพูดนิ่ง ๆ จริงจัง เพราะไม่อยากจะทนอยู่ในสภาพแบบนี้อีกต่อไปแล้ว หากไม่ใช่บ้านที่ภูวดลรัก บ้านที่เขาสองพี่น้องอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่เด็ก บ้านของพ่อกับแม่ วารินไม่มีทางยอมเขามากมายขนาดนี้แน่นอน 


คนฟังกระตุกเสื้อเชิ้ตออกจากไม้แขวน สะบัดไปด้านหลังแล้วสวมมันลงอย่างชำนาญเดินหน้าเข้าหาคนตัวเล็กขณะที่มุมปากยกยิ้มร้ายกาจ วารินก้าวถอยหลังไม่รู้ตัว


“เอาสิ อยากซื้อคืนใช่ไหม ผมขายไม่แพงหรอกพื้นที่เล็กๆแบบนั้น สัก...สองร้อยล้านก็คงจะพอ หึหึ จะจ่ายวันไหนล่ะ วันนี้เลยไหมหรือเป็นพรุ่งนี้ดี”


“ธาร!


วารินเม้มปากแน่น นิ้วเล็กๆบดเบียดด้วยความแค้นแสนแค้น เขาไม่รักแต่ไม่ยอมปล่อยไป อยากทำร้ายกันไม่จบสิ้น เงินสองร้อนล้านวารินไม่มีปัญญาจะหามาให้เขาได้อยู่แล้ว เขาเองก็รู้ทั้งรู้


“ว่าไง? ยังจะอยากซื้อคืนอยู่อีกรึเปล่า ถ้าไม่มีก็ทนอยู่ที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน ทำ หน้าที่ของพี่ให้ดี ๆ วันหนึ่งผมอาจเห็นใจยอมขายให้ในราคาร้อยสองร้อยบาทก็ได้”


รอยยิ้มของปีศาจยังประดับอยู่บนใบหน้าหล่อเหลา น้ำตาคนตัวเล็กไหลพรากลงที่สองแก้มเนียนอย่างรั้งไว้ไม่ไหว


“ทำไม! ทำไมต้องรั้งกันไว้ ในเมื่อไม่ได้รักกันแล้วธารจะมารั้งพี่ไว้ทำไม ทำไมต้องเอาบ้านหลังนั้นเข้ามาต่อรอง!


“เพราะผมอยากให้พี่เจ็บปวดไง ความผิดของพี่มันไม่ใช่จะยกโทษกันได้ง่ายๆหรอกนะนึกถึงสภาพที่ต้องมาเป็นผมบ้างสิ แม่ต้องกลายมาเป็นแบบนี้ขณะที่คนรักของตัวเองไปนอนกกอยู่กับพ่อ พี่คิดว่าผมต้องเจ็บมากมายแค่ไหนกัน!”


“แล้วพี่ล่ะ พี่ตั้งใจงั้นเหรอ!! พี่ต้องการให้มันเป็นแบบนี้หรือไง!!  อย่างน้อยถ้าหากมันเกินที่จะยกโทษให้จริง ๆ ก็ต่างคนต่างอยู่เถอะนะอย่าเหนี่ยวรั้งกันไว้อีกเลยแยกกันไปเลยดีกว่า!!  วารินสวนขึ้นทันที


“จะออกไปก็ได้นี่ ผมไม่เคยห้ามนะ”  เขาเท้าแขนเข้ากับขอบประตู จ้องมองลึกเข้าไปในตาดวงเล็กเหมือนอยากให้จดจำสิ่งที่เขากำลังจะพูด


“ผมเองก็ไม่ได้อยากให้พี่เข้ามาอยู่ ๆแล้ว ก็แค่ลองพูดดูเล่น ๆ ไม่คิดว่าจะเข้ามาจริง ๆ เห็นวันแรกผมยังตกใจเลยนะไม่คิดว่าพี่จะร่านเข้ามาหาผมได้ขนาด......”


เพี๊ยะ!!


เสียงฝ่ามือกระทบผิวหน้าดังกึกก้องไปทั่วห้องเป็นครั้งที่สองของวัน ธาราธารกัดฟันแน่นเขายังไม่หันหน้ากลับมา


“หยุดดูถูกกันเสียที ถ้าไม่รักก็ไม่ต้องมาพูดจาทิ่มแทงกันแบบนี้ ใจร้ายเกินไปแล้วจริง ๆ คนไม่มีหัวใจ!! ใจร้ายที่สุด!!


วารินฟิวส์ขาดตะโกนใส่หน้าเขาราวกับเสียสติ ผลักตัวเขาอย่างแรง ความเจ็บปวดที่ถาโถมใส่ทั้งร่างกายและคำพูดจากเขาเกินกว่าที่คนตัวเล็กจะรับได้ ร่างเล็กหันกลับอย่างเร็วแต่ต้องหยุดชะงักลงด้วยคำพูดของอีกคน


“เกลียดผมมากไหม?”


....เกลียดผมให้มากๆ ไม่ต้องมารักผม เกลียดผมยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งดี เราสองคนไม่อยู่ในฐานะที่จะรักกันได้อีกแล้ว....


ทันที่ที่เขาถามออกมาวารินเหมือนทำนบน้ำตาแตกพราก ยกสองมือเล็กขึ้นปิดใบหน้าสวยสะอึกสะอื้นไห้อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร


...เพราะว่ารักมากจึงได้เจ็บปวดหัวใจอยู่แบบนี้ ถ้าหากว่าเกลียดกันจริง ๆ คงไม่มีทางทนอยู่ในดูถูกแบบนี้หรอก...


 “เย็นนี้ผมมีนัด จะออกไปข้างนอกไม่ต้องทำอาหารเผื่อ”


....เขาทิ้งคำพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปทิ้งให้อีกคนยืนร้องไห้อยู่เพียงลำพัง....



....หากแต่ใครเลยจะรู้ หัวใจของเขารวดร้าวยิ่งกว่าถูกคมมีดกรีดเฉือนยิ่งนัก  เกลียดงั้นหรือ? ไม่รักแล้วงั้นหรือ?  ทุกอย่างกลับตรงข้ามกันทั้งนั้น.....


Tbc.