Tuesday, April 29, 2014

..พี่เลี้ยง..THE DAY' I was your man(Yaoi-drama) Unseen 10 (ธารทราย)





Unseen-10 (ธารทราย)



-เช้าตรู่วันหนึ่งขณะวารินกับนับดาวกำลังจะไปจ่ายตลาด-



ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก


เสียงคนเคาะกระจกรัวทางฝั่งคนนั่ง วารินที่กำลังสตาร์ทรถอยู่รีบหันดู ขณะที่นับดาวเห็นคนเคาะแล้วไม่รอช้าเปิดประตูรถก้าวลงไปทันที


วันนี้ฉันจะไปตลาดกับพี่ทรายเอง


เขาว่าแล้วก้าวขึ้นมานั่ง ปล่อยนับดาวยืนงงอยู่ข้างรถ ขณะที่คนขับอย่างวารินหันมาจ้องเขานิ่ง   ไม่เข้าใจ?


พี่ออกรถสิ  เดี๋ยวสายรถจะติดนะ


ธารจะไปซื้ออะไร ฝากพี่กับดาวซื้อมาให้ก็ได้นี่ ตลาดเช้าคนเยอะ ร้อนด้วย ธารจะไหวเหรอ


เพราะรู้ว่าเขาเป็นคนขี้ร้อน ขี้รำคาญ วารินจึงไม่อยากให้เขาต้องไปผจญอากาศและผู้คนที่แออัดในตลาดช่วงเช้า


ขับไปเหอะน่าเขาว่าสบาย ๆ เท้าแขนกับขอบประตู เสยผมยุ่ง ๆ ให้เข้าที่ เมื่อกี้เพราะรีบร้อนลุกขึ้น แม้แต่น้ำก็ยังไม่ได้อาบ แปรงฟันล้างหน้าเสร็จรีบคว้าเอาเสื้อยืดกางเกงขาสั้นมั่ว ๆ ในตู้ออกมาใส่แล้ววิ่งออกมาเลย  กลัวไม่ทันวาริน


วารินมองเขาแล้วชั่งใจครู่หนึ่งแต่ก็ยอมออกรถ พอไปได้แค่ครึ่งทางเท่านั้นหูเล็กแทบชาเพราะเสียงบ่น


เขาบ่นโน่นบ่นนี่ เดี๋ยวก็ว่าแอร์ในรถร้อนบ้างล่ะ เดี๋ยวก็ว่าวารินขับรถไม่นิ่มบ้างล่ะ 


ก็แน่ล่ะสิ รถกระบะเก่า ๆ แบบนี้โช๊คมันจะไปนิ่มสู้เบนซ์ของเขาได้ยังไงกัน ปากเขาบ่นไปมือเขาก็หมุนกระจกลงไปด้วย


กระจกแบบนี้แย่จริง ๆ จะหมุนขึ้นลงแต่ละที ดีนะมันไม่ติดมือผมออกมาด้วยเนี่ย  เขาว่าประชด ทำหน้าหงิกงอใส่บานประตู


ใจเย็น ๆ สิธารค่อย ๆ หมุนวารินปราม


เห็นอารมณ์เขาเสียเพราะต้องหมุนตัวเปิดกระจกที่สุดแสนจะฝืดแล้วกลัวใจเขาจริง ๆ.... กลัวว่าเขาจะงัดไอ้ก้านตัวหมุนออกมาฟาดทิ้งลงข้างทาง


เดี๋ยวอาทิตย์หน้าว่าง ๆ ไปซื้อใหม่สักคัน ให้เตมันไปเลือกเอาเองเลย ไม่ไหวๆนั่งคันนี้ครั้งแรกมือไม้แทบแตก นั่งไปได้ยังไงวิทยุก็จะพังมิพัง แอร์ก็เย็นบ้างร้อนบ้าง  แถมกระจกยังฝืดแบบสุด ๆ อีก แล้วนี่อะไรเวลาขับพี่ต้องใช้เบาะรองหลังด้วยเหรอเนี่ย หึหึหึ


ไอ้คำบ่นช่วงแรกของเขาน่ะบ่นไปหน้าหงิกไปแต่พอมาพูดถึงว่า วารินต้องใช้เบาะรองหลังเวลาขับรถ เขากลับหัวเราะเบา ๆ ออกมาเสียได้ จนวารินต้องหันไปทำตาเขียวใส่


คุณชายกำลังนั่งนวดมือของตัวเองคงจะช้ำไม่น้อยหลังจากตั้งหน้าตั้งตาหมุนกระจกแบบนั้น  จริง ๆ แล้วเขาเป็นผู้ชายที่มีมือสวยมาก เรียวนิ้วยาวขาวสะอาดมาก ๆ  วารินเคยแอบมองแล้วคิดไปว่ามือเขาช่างเหมาะกับการทำหัตถการทางการแพทย์มากจริง ๆ


ธาร พี่ล่ะสงสัยจริง ๆ


เรื่องอะไร?”


ธารใจร้อนแถมขี้โมโหแบบนี้  ต่อไปเป็นหมอธารจะทำยังไง เผื่อคนไข้พูดอะไรไม่เข้าหูธารไม่ด่าเขาเปิงไล่ออกจากห้องตรวจเลยเหรอ แล้วเผื่อต้องเย็บแผลทำแผลโดยใช้เวลานาน ๆ ธารจะไม่รำคาญสอยเอาๆจนแผลคนไข้เสียรูปไปหมดเลยหรือไง


นี่พี่ทราย ผมน่ะเวลาเรียนหรือเข้าห้องปฏิบัติการขึ้นชื่อว่าใจเย็นที่สุดในห้องแล้วนะ พี่จำไอ้ฟ่างได้ป่ะ ไอ้คนที่พี่เจอวันมาลงทะเบียนให้ผมน่ะ เห็นมันใจเย็นเนิบๆแบบนั้น เวลาฝึกเย็บแผลนะมันสอยเอาๆจนหนังเทียมงี้กระจุยเลย  ส่วนคนที่พี่ว่าใจร้อน ๆ อย่างผมกลับได้รับคำชมจากอาจารย์ว่าเย็บแผลได้สวยและประณีตที่สุดนะครับ นี่ไม่ได้คุยนะ เรื่องจริงทั้งหมด ที่ผมใจร้อนนี่ร้อนกับพี่คนเดียวเหอะ


....ก็เพราะรู้ว่าวารินรักเขาถึงได้เอาแต่ใจด้วยไงล่ะ หึหึ...


ขณะที่คนขับอย่างวารินได้แต่หันมองเขาเป็นระยะๆด้วยสีหน้าที่เจื่อน ๆ บอกไม่ถูก  


ให้ตายเถอะ คำพูดเจ้าเด็กนี่เชื่อถือได้แค่ไหนนะ


พอมาถึงตลาดคุณชายก็เดินหลบคนแทบจะไม่ทันเดี๋ยวเดินชนร่มแม่ค้าบ้างล่ะ เพราะว่าเขาตัวสูงเดี๋ยวก็เดินไปชนแผงลอยบ้างล่ะถึงขนาดเกือบเดินชนหม้อแกงจืดขนาดใหญ่ดีที่วารินดึงเขาเอาไว้ได้ทัน จู่ ๆ นึกอยากหยุดก็หยุดเดือดร้อนคนมาด้วยต้องเดินกลับมาลากแขนเขาไปเพราะกลัวว่าเขาจะหลง  มากับเขาทำเอาวารินปวดหัวพูดขอโทษขอโพยแทบไม่ทัน


วารินเลือกซื้อทั้งของสดของแห้งรวมถึงผักสดต่าง ๆ ตามรายการที่นับดาวเขียนเอาไว้ โดยมีคนตัวสูงใหญ่ข้าง ๆ คอยถือถุงให้หนักแค่ไหนก็ไม่มีบ่น  อดจะนึกไปถึงวันเก่า ๆ ไม่ได้ ตอนนั้นแค่ถุงเดียวเขายังไม่ยอมถือช่วยเลย


วารินเผลออมยิ้มออกมา


พี่ทรายเดี๋ยวก่อน ผมอยากกินนี่อ่ะเขาคว้าไหล่เล็กไว้ ชี้ ๆ ไปที่ขนมฝักบัวทอดสีเขียวใบเตย มีคุณยายแก่ ๆ นั่งทอดด้วยเตาถ่านอันเล็ก


ขนมฝักบัวเนี่ยเหรอวารินหันถาม


เอา 10 ชิ้นครับเขานั่งยอง ๆ ลง บอกกับคุณยายคนขาย วารินจึงนั่งลงข้าง ๆเขา


ขอแบบขอบไม่ดำนะครับยายวารินพูดขึ้น คนขายมองหน้าแล้วยิ้มให้


จ้า รอเดี๋ยวนะพ่อหนุ่ม ยายทอดได้ทีล่ะชิ้นเอง


ไม่เป็นไรครับ คุณยายทอดเถอะ ผมจะนั่งดู” กลิ่นใบเตยหอมโชยติดปลายจมูก เขายิ้มอบอุ่นแบบที่วารินเห็นไม่บ่อยนักให้คุณยายตรงหน้า


พักเดียวคุณยายก็จัดขนมใส่ใบตองที่กลัดไม้เป็นกระทงสี่เหลี่ยมแล้วยื่นให้  อีกส่วนหนึ่งใส่ถุงให้เขาหิ้วกลับไปทานที่บ้าน ธาราธารอดปลื้มใจไม่ได้ที่ขนาดคนแก่ ๆ ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านยังรู้จักแยกภาชนะที่บรรจุเพื่อให้เขาสามารถรับประทานตอนนี้เลยก็ได้หรือจะนำกลับไปทานที่บ้านด้วยก็ได้


เขายื่นมือไปรับ แล้วส่งแบงค์พันให้คุณยาย  วารินรีบกระตุกชายเสื้อเขาทันทีเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของคนขาย


ยายไม่มีทอนหรอกพ่อหนุ่ม ไม่มีใบย่อยเหรอจ๊ะ แค่ห้าสิบบาทเอง


ไม่มีทอนก็ไม่ต้องทอนหรอกครับ คุณยายเก็บเอาไว้ซื้อเตาใหม่เถอะนะเก่ามากแล้ว เดี๋ยวมันจะแตกใส่ขา แล้วจะบาดเจ็บได้นะครับ


คุณยายคนขายยิ้มกว้างโชว์ฟันที่ค่อยร่อยหรอลงไปมากแล้ว ก่อนที่เขาสองคนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกมา ธาราธารไม่ได้ว่าอะไรต่อจากนั้น เขาก้มหน้าก้มตาสนใจถ้วยใบตองที่มีฝักบัวร้อน ๆ วางอยู่


ทำไมไม่ลองกินดูล่ะธาร  ท่าทางจะอร่อยนะ


ผมก็อยากกินนะ แต่คือ....เขาว่าหน้าสลด เรียกให้วารินมองที่มือทั้งสองข้างของเขา ข้างหนึ่งถือถุงผักสารพัดชนิด อีกมือก็ถือถ้วยใบตองนั่นท่าทางจะร้อนเอาการเสียด้วย


เอามานี่มา เดี๋ยวพี่ถือเองวารินจะช่วยถือแต่เขาเบี่ยงของหลบออก


ไม่ต้องหรอกถุงมันหนัก  พี่เอาไอ้เจ้าถ้วยนี่ไปถือทีสิวารินรับถ้วยใบตองมาถือไว้


ป้อนมาสิ อยากกินแล้วเขาไม่ยอมเดินต่อ แต่ทำเสียงดื้อดึงอยากให้วารินป้อน


ไม่เอา หยิบกินเองสิ อีกมือก็ว่างอยู่นั่นไงเรื่องอะไรจะป้อน กลางตลาดน่าอายจะตาย


กินไม่เป็น กินยังไงหยิบกินได้ทั้งอันเลยเหรอ ยังไง ทำยังไง หิว เร็วดิ่


อ้าว สรุปนี่ยังไม่เคยกินเหรอเนี่ย


เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ ทำเอาวารินถึงกับงง


ก็เห็นยายแกน่าสงสาร จะให้เงินเฉย ๆ มันก็แปลก ๆ เลยหาเรื่องซื้อของแกไปอย่างนั้นแหละ ของแบบนี้ผมจะไปเคยกินตอนไหนกันล่ะ


จบคำพูดเขาวารินรีบหันหลังให้ทันทีกลัวจะปิดรอยยิ้มไว้ไม่ไหว เขามีด้านที่อ่อนโยนแบบนี้ด้วยหรือไงกัน แอบเก็บนิสัยแบบนี้ไว้ที่ไหนกันนะ


จู่ ๆ มือเล็กยัดขนมฝักบัวหนึ่งชิ้นเต็ม ๆ เข้าใส่ปากเขา


โอ๊ยยยย อ๊ออออออน!!!” เสียงเขาโวยวายทั้งที่มีขนมชิ้นใหญ่ยัดอยู่เต็มปาก


วารินหัวเราะร่าสะใจที่ได้แกล้งคนอย่างเขาเล่น



****************************************************

Unseen >>> Tbc.

เพื่อนแบบนี้ฯ Season2 (coz you) *Yaoi* บทที่ 3



เพื่อนแบบนี้ฯ Season2 (coz you) *Yaoi*  บทที่ 3





โดนปลุกขึ้นมาแต่เช้า แถมยังไม่มีอะไรให้รองท้องอีกต่างหาก วันนี้ไม่รู้ไอ้คิมมันเป็นอะไรของมันลุกลี้ลุกลนแปลก ๆ อาหารเช้าก็ไม่ยอมทำ เมื่อคืนกว่าจะเคลียร์กันได้ กว่าจะได้นอน นี่ยังต้องลุกมาอาบน้ำแต่เช้าอีก อากาศก็หนาวเดือนธันวาคมเข้าไปแล้ว


เราออกจากบ้านกันตั้งแต่ 6.30 ยังมืดอยู่เลย ถึงโรงแรมก็เจ็ดโมงกว่าพอดี มันบังคับให้วันนี้ต้องไปกินบุฟเฟ่ด้วยกันน่ะสิครับ ไม่รู้คิดอะไรปกติก็จะทำให้ผมทานที่บ้านแท้ ๆ


กินน้อยจัง เอาอีกไหมครับเดี๋ยวกูเดินไปตักมาให้


ไม่อ่ะ กินที่มึงทำอร่อยกว่าอีก”  ต้องแกล้งชมมันหน่อยต่อไปจะได้ไม่ต้องพามากินที่นี่อีก


ไม่อยากจะบอกเลยว่าพนักงานที่ยืนดูแลอยู่ที่ห้องนี้มีแต่คนรู้จักผมทั้งนั้น แต่ละคนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตอนมันกับผมเดินเข้ามาพร้อมกัน ก็คงรู้ ๆ กันอยู่ว่าพวกผมเป็นยังไงไม่ค่อยได้เปิดตัวพร้อมกันสักเท่าไหร่ครับ ก็นะนาน ๆ ทีให้พวกเค้าได้ยิ้มกันบ้าง


นี่ครับ ทาแยมเมลอนที่มึงชอบให้ด้วย กินให้หมดนะครับโน่ขนมปังปิ้งทาเมลอนแยมถูกเลื่อนมาให้


เฮ้ย!  มึงไปเอารสนี้มาจากไหนกูดูแล้วทำไมไม่เห็น


พกมาจากบ้านนะสิครับ ก็รู้ว่ามึงชอบหาซื้อที่เมืองไทยได้ที่ไหนล่ะ เดี๋ยวช่วงปีใหม่เราไปเที่ยวญี่ปุ่นกันกูจะซื้อมาเก็บไว้อีก


ซื้อทางเน็ตก็ได้ ไปทำไมให้ยุ่งยากผมแย้ง


ไม่ไปใช่ไหม จะพาไปเที่ยวเนี่ย ไม่ไปเนอะ


ป....ไปดิ พูดเล่นน่า กูยิ่งอยากได้เกมส์ใหม่ ๆ อยู่ด้วย


แค่เกมส์สั่งซื้อทางเน็ตก็ได้ ไปทำไมให้ยุ่งยากดูมันย้อนผมสิครับ


คิม!


โอ๋  ครับ ครับ กูพูดเล่นหรอก ดูปากซิน่ะ เชิดซะ!พูดแล้วเอามือมาดึงปากแหลม ๆ ของผมเล่น ผมรีบเม้มเอาไว้ทันที มึงช่างไม่ดูคนรอบข้างบ้างเลยเนอะ


แล้วอิ่มยังเนี่ย  สายแล้วกูจะขึ้นไปแล้วนะ


อืม เดี๋ยววันนี้เดินขึ้นไปส่งมันบอกแล้วพยักหน้าเรียกพี่คนดูแลโซนที่พวกผมนั่ง มาเคลียร์บิลนอก


เฮ้ย!  จะขึ้นไปทำไมกูไปเองได้


ไม่ได้ครับ ไอ้โป้งมันกลับมาแล้วช่วงนี้ปล่อยมึงห่างไม่ค่อยได้


เหอะ  หวงรึไง


แน่นอนสิครับ”  พูดจบโอบไหล่ผมดันเข้าไปในลิฟต์กดเรียกชั้น 10 ออฟฟิศพวกผมเอง เราเดินสวนกันกับพี่โอพอดี มันเลยขอตัวแยกไปคุยกับพี่เค้าที่โซนสูบบุหรี่เห็นบอกว่าไม่ได้เจอกันนาน ผมเดินเข้ามาในห้องวางกระเป๋าลงบนโต๊ะ  ไอ้บีบีนั่งอยู่ที่โต๊ะมันอยู่แล้วหันมามอง


ไรอ่ะพี่โน่ วันนี้ทำไมพาเฮียมาด้วยได้


ไม่รู้มันดิ คงอยากคุยอะไรกับพี่โอล่ะมั้ง”  ผมตอบปัด ๆ ไป


พี่โน่เจ๋งว่ะ เฮียคิมหล่อซะ!  คนเค้าพูดกันทั้งฟลอร์ วันนี้ไปโชว์หวานที่ห้องอาหารมาใช่ป่ะ


ใครบอกมึง


โห....มีคนโทรขึ้นมาบอกตั้งแต่เช้าแล้ว นั่งหยิกก้งหยิกแก้มกันงี้มันบอกพร้อมทำท่าทางล้อเลียนน้ำเสียงกระแดะๆ


เปรี้ยง!!!


เงียบไปเลยมึงอ่ะ โชว์หวานอะไรกัน  ครั้งต่อไปไม่ใช่แค่ปากกานะที่จะปาใส่มึง


โห  เล่นแรงอ่ะพี่เกือบโดนหน้าจอแล้วไหมล่ะ  ผมพูดเรื่องจริงก็ไม่ได้


พูดมาก เดี๋ยวกูจับมึงเข้าพวกด้วยแล้วมึงจะหนาว


ครับ ๆ ๆ ไม่กล้าแล้ว พี่โน่เนี่ยงอนแล้วน่ารักดีว่ะ


แชะ!


อะไรวะ ไอ้บี!  มึงบ้าป่ะเนี่ย”  อยู่ ๆ เอามือถือขึ้นมาถ่ายรูปผม


ก็พี่โน่หล่ออ่ะ   เดี๋ยว ๆ ส่งรูปก่อน” 


จะส่งไปไหนน่ะผมถามมันงง ๆ


เดี๋ยวได้รู้ผลกัน


มาแล้วครับ ผลของมัน ไอ้คิมเดินหน้าเครียดเข้ามาเลยหยุดลงที่หน้าประตูทำไม้ทำมือคาดโทษผมอย่างจัง เห็นไอ้บีบี ที่นั่งหัวเราะร่วนหันหลังให้แล้วผมอยากจะถีบมันจริง ๆ สร้างเรื่องให้กูอีกแล้ว


*


งานวันนี้ก็เรื่อย ๆช่วงเช้าผมลงไปช่วยที่ห้อง JDA-3 นิดหน่อย เป็นงานขนาดกลางก็ดูแลน้อง ๆ ติดตั้งเซทระบบเครื่องเสียงเล็ก ๆ ช่วงเที่ยงไม่ได้ไปไหนเราทานมาม่ากันที่ห้องทำงานเลย พอช่วงบ่ายสามกว่า ๆ โทรศัพท์จากเฮียนิวโชว์เบอร์เข้ามาหาผมแต่ผมไม่ได้รับสาย ก่อนเลิกงานเลยโทรกลับไป



เฮียบอกข่าวดีมาว่าทางกลุ่มเงินทุน MT ถอนฟ้องเรื่องทรัพย์สินของบ้านผมเรียบร้อย รอแค่ทนายความยื่นถอนล้มละลายเป็นอันว่าจบ โรงงานและหุ้นทั้งหมดถูกเคลียร์คืนให้ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ที่ไอ้โป้งบินไปสิงคโปร์ก็เพื่อไปขอโทษครอบครัวของผมด้วยตัวเอง



เฮียยังเล่าให้ฟังอีกว่าพ่อกับแม่ดีใจกันใหญ่แต่ก็ยังมีเคืองครอบครัวมันอยู่ ก็ของแบบนี้มันต้องใช้เวลาอยู่เหมือนกัน ชื่อเสียงที่สะสมมาไม่รู้ตั้งกี่ปีต้องมาพังทลายลงไป



แต่ที่เหนือความคาดหมายยิ่งกว่านั้นคือ ทางสาขาย่อยของ MT จะยอมอุ้มทุนธุรกิจของเราไปก่อนจนกว่าผลประกอบการจะเกินดุลแล้วจะปล่อยให้ทางเราเป็นอิสระ พูดง่าย ๆ คือจะยอมรับความเสี่ยงแทนนั่นเอง



ผมได้ยินแบบนั้นแล้วก็พลอยโล่งใจ ไม่นึกว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดีตามที่มันเคยบอกเอาไว้จริง ๆ ถ้างั้นสิ่งที่มันเคยพูดไว้กับผมเรื่อง งานของมันเสร็จแล้ว  มันหมายความว่ายังไงกัน ?



พี่โน่กลับเลยรึเปล่า ?” เสียงไอ้บีบีเรียกขึ้น



อืมไปดิวะ หิวฉิบหายตอนเที่ยงกินแค่มาม่าไม่อยู่ท้องเลยว่ะ



งั้นลงไปเร็วหน่อยกินข้าวหน้าโรงแรมกันก่อน   เฮียคิมจะมารับ 6 โมงไม่ใช่เหรอ



อืมก็ได้  แล้วมึงจะไปกินอะไร แถวนั้นมันเป็นเพิงไม่ใช่รึไง



แบบนั้นแหละยอดเลย พี่คงไม่เคยกินใช่ไหมส้มตำเพิงหมาแหงนน่ะ”  มันพูดถึงเรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงไอ้ด้าขึ้นมาได้ มันเคยพาไปกินร้านเป็นเพิงแบบที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่ด้วย   ตอนนี้มันไปทำงานอยู่ที่ประจวบฯ เห็นว่าเป็นบริษัทของพี่ชายงานกำลังไปได้สวยเลย



ผมกับไอ้บีบีกำลังเดินลงบันไดยาวด้านข้างทางขึ้นเนินของโรงแรมเพื่อไปยังร้านที่เราตกลงกันไว้



ไม่ได้ออกมากินข้าวกับพี่โน่แบบนี้นานแล้ว ตื่นเต้นเป็นบ้าอยู่ดี ๆ มันก็พูดขึ้น ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับคำพูดเปิ่น ๆ ของมัน มันช่างเหมือนกับไอ้ด้าจริง ๆติดผมอย่างกับตังเม ถึงจะตัวเล็กกว่าเยอะ แต่หน้าตามันน่ารักมากครับ ผมนึกหมั่นไส้อดที่จะแกล้งมันไม่ได้



งั้นคืนนี้ไปค้างกับพวกกูป่ะล่ะ รับรองมึงได้แซบมากกว่าส้มตำลาวส้มตำไทยหลายสิบเท่า”  ผมยกแขนขึ้นไปคล้องคอมันแล้วลากเดินไปด้วยกันทำท่ายื่นจมูกไปใกล้ ๆ แก้มใส ๆของมัน  มันยื้อตัวไว้ทำหน้าทำตารับไม่ได้สุดขีด



พี่โน่ อย่า! ผมจั๊กจี้นะเล่นอะไรแปลก ๆ



ฮะฮะ  แกล้งมึงสนุกดีว่ะ แก้มมึงท่าทางจะนุ่มดีพูดแล้วเอามือบิดแก้มมันไปทีนึง



ไม่ดูแก้มตัวเองบ้าง น่าหอมกว่าแก้มผมอีก



อ้าวพูดงี้แปลว่าอยาก มาดิเดี๋ยวกูสงเคราะห์ให้ผมพูดแล้วยื่นหน้าไปเกือบ ๆ จะชิดริมฝีปากมัน



 เบนซ์สีดำโฉบผ่านทางโค้งขึ้นเนินมาสวนกับพวกผมพอดิบพอดี




เสียงลากล้อจอดลงดัง   เอี๊ยดดดดด! 





ผมกับไอ้บีบี หันไปมองเป็นตาเดียว กระจกหลังถูกเลื่อนลงจนสุดทั้งที่รถยังจอดไม่สนิทดี พร้อม ๆ คนที่อยู่บนรถจ้องมาอย่างแรง



สายตาอย่างกับเหยี่ยว!



ผมรีบเอามือที่กอดคอไอ้บีบีอยู่ลง ท่าทางมันจะกลัวมากก้มหน้าก้มตาโค้งตัวคำนับจนเกือบจะเก้าสิบองศาอยู่แล้ว



ทะ...ท่านประธาน”  เสียงไอ้บี



ผมมองผ่านสายตาสุดโหดของไอ้ท่านประธานนั่นไป เจอกับไอ้เลขาสุดหล่อของมันที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันจ้องผมกับไอ้บีบีอย่างเอาเรื่อง ไอ้เลขาหนุ่มนั่นเปิดประตูลงมาแล้วเดินเข้ามาหาผม



ขึ้นไปสิ บอสมีเรื่องอยากคุยกับคุณผมมองไปที่ไอ้โป้ง มันจ้องหน้าไอ้บีอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อซะอย่างนั้น



คุณอธิปเสียงเดนิสเลขาของมันเรียกผม



ผมไม่มีธุระอะไรกับบอสของคุณ



โน่!”  เสียงตะคอกดังออกมาจากในตัวรถ พร้อมกับตัวคนที่กำลังเปิดประตูลงมา แววตาที่จ้องผมลุกเป็นไฟเลย  ไอ้เลขามันหน้าตื่นรีบวิ่งเข้าหา



ขึ้นมาโน่!มันกัดฟันพูด จ้องผมตาแทบทะลัก ไอ้บีเองก็คงจะงง มันหาที่พึ่งเขยิบเข้ามาชิดผมจนเรียกได้ว่าตัวติดกันผมรีบขยับออก มันก็ขยับตามเข้ามาอีก



ก็รู้นะว่ามันกลัว สายตาไอ้โป้งที่มองมาเป็นใครก็กลัวกันทั้งนั้น แถมยังมีไอ้เลขานั่นอีก  ระหว่างที่เราเก้ ๆ กัง ๆ กันอยู่นั้น ไอ้โป้งปราดเข้ามาถึงตัวมันทันที ดีที่ไอ้เลขามันเข้ามาดักหน้าไว้ ลากมันออกไปพูดอะไรกันสักพัก ไอ้โป้งก็เดินกลับขึ้นไปนั่งรออยู่บนรถอย่างหัวเสีย



คุณอธิป ถ้าคุณไม่ไปรู้ใช่ไหมว่าเด็กคุณจะโดนอะไร อย่าทำเป็นเล่น บอสมีเรื่องจะคุยกับคุณ กรุณาขึ้นไปด้วยครับ อาจจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวของคุณ ทำไมคุณไม่คิดบ้างไอ้เดนิสพูดจบคว้าแขนผมลากขึ้นรถแล้วปิดประตูให้อย่างเร็ว



รถเคลื่อนตัวออกจากโรงแรมในทันทีโดยไม่รู้ว่ากำลังจะตรงไปที่ไหน



หันมานี่สิครับโน่” 



“.............” เรื่องอะไรผมจะทำตามที่มันสั่ง



โน่ครับ



ไม่หัน!



อยากถูกบังคับใช่ไหม  ชอบแบบนั้น? ” มันคว้าเอาข้อมือผมไปจับไว้จนแน่น ดวงตาที่จ้องมองคมวาบดุดัน



ไหนว่ามีธุระ ก็พูดไปสิข้อมือยังถูกตรึงไว้กับมือมันแน่น พยายามยื้อคืนเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล



ไอ้เด็กคนเมื่อกี้มันเป็นใคร



หึ  แย่ว่ะ พนักงานของตัวเองแท้ ๆ ยังจำไม่ได้



ความหมายของกูคือมันเป็นใครสำหรับมึง เดี๋ยวนี้ถึงขนาดกอดคอหอมแก้มใคร ๆ ก็ได้ใช่ไหม



ไม่ได้หอม! อย่ามาว่ากันนะ”  พยายามแกะมือมันเท่าไหร่ก็ไม่ออก รู้สึกเจ็บมากๆ



ไอ้คิมมันรู้รึเปล่าว่ามึงเล่นกับไอ้เด็กนี่แบบนี้



ไม่ต้องไปเอ่ยถึงคนอื่น รีบพูดธุระให้เสร็จผมจะได้ลงสักที



ตอบคำถามกูมา มึงกับไอ้เด็กเหี้ยนั่นถึงขั้นไหนแล้ว”  แววตาวาบไหวจ้องใกล้เข้ามามากยิ่งขึ้น



ถึงขั้นไหนก็ช่าง  ปล่อยมือ ออกไปห่าง ๆผมเบี่ยงตัวหนีจนหลังชิดประตูรถ



โน่!”  มันตะคอกแล้วกระชากข้อมือที่จับไว้แน่นอยู่แล้วเข้าหาตัว



อย่ามายุ่ง ถอยออกไป”  ผมผลักหน้าอกมันออกด้วยมือข้างที่เหลืออยู่ โดนกอดเอาไว้จนแน่น มันบิดข้อมือข้างที่จับไว้ไพล่ไปด้านหลัง



เจ็บ----------!



มึงขับของมึงต่อไป ได้ยินเสียงอะไรก็ไม่ต้องหันมา”  มันหันไปพูดกับคนขับรถ ในขณะที่กดตัวผมให้ต่ำลงจนติดเบาะ



หยุดนะ! พอแล้ว เป็นอะไร ปล่อย!”  เจ็บแขนเหลือเกิน แขนที่โดนไพล่ทับอยู่เจ็บมาก


กูจะไล่มันออกมันกัดฟันพูด แววตาที่จ้องมองจากด้านบนดุจดังสัตว์ร้ายที่จ้องจะตะครุบเหยื่อ



เป็นบ้าอะไร ปล่อยนะ....” 



กูหวงมึง  ไม่อยากให้มึงทำแบบนี้กับใคร แค่ไอ้คิมคนเดียวกูก็สุดจะทำใจได้ กูอดทนมาตลอด 5 ปี พอเห็นมึงทำแบบนั้นกับไอ้เหี้ยนั่นแล้วใจกูแทบขาด โน่!



ปล่อยเดี๋ยวนี้รีบพูดธุระมา แล้วก็จอดให้ผมลงเดี๋ยวนี้ เจ็บ ปล่อย!เจ็บจนน้ำตาผมจะไหลแล้ว แขนผมโดนกดทับไว้ด้านหลัง มืออีกข้างก็ถูกตรึงไว้กับเบาะจนขยับไม่ได้



ในที่สุดมันยอมปล่อยมือออกจากแขนที่ถูกกดทับไว้ด้านหลัง วงแขนผมอ่อนแรงจนชาไปหมด มือใหญ่ยกขึ้นมาแนบประคองแก้มผมไว้แน่น ปลายนิ้วโป้งปาดเช็ดคราบน้ำใสที่หางตา



อย่าทำแบบนี้อีกนะครับโน่ กูรับไม่ได้พูดจบกดริมฝีปากจูบลงมาที่ซอกคอจนรู้สึกถึงรอยย้ำที่ตั้งใจฝากเอาไว้



โอ๊ย------!”  ผมร้องออกมาเมื่อมันลงฟันฝังเข้าไป หางตาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำ   มือข้างที่เป็นอิสระก็อ่อนแรงเกินกว่าจะทุบตีมันได้แรง ๆ อย่างที่ใจต้องการ



ผมกัดริมฝีปากไว้แน่นสกัดความโกรธที่พวยพุ่ง ปลายลิ้นสากโลมเลียเข้าที่รอยกัดนั้นเบา ๆ ก่อนจะละตัวออก จ้องมองลงมาด้วยแววตาแสนรวดร้าว



กูรักมึงโน่ รักมาก รักจนไม่รู้จะทำยังไง.....ตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน เป็นเพื่อนกัน รักกัน จนกระทั่งต้องห่างกัน  จนถึงวันนี้ความรู้สึกนั้นก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง



...ได้โปรดอย่ารื้อฟื้น



...เพราะมึงเองที่เป็นคนขอจบความสัมพันธ์นั้น 



ขอร้อง...อย่าทำให้กูหวั่นไหวมากไปกว่านี้



เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว อย่ามาพูดเหมือนคนมีสิทธิ์อะไรแบบนั้น ปล่อย!”  มือข้างที่ไร้เรี่ยวแรงถึงอยากทุบตีก็ทำจนสุดแรงไม่ได้ รอยกัดที่ลำคอเจ็บจี๊ด ๆ ขึ้นมา



มันก้มลงไปเลียที่รอยนั่นเบา ๆ อีกครั้ง



เลือดออกริมฝีปากจูบลงที่รอยกัด



เจ็บเหรอครับ



หึ    มึงถามออกมาได้เนอะ  ถึงจะเจ็บแต่ก็จะไม่บอกมึงแน่อยู่แล้ว



ถ้าเจ็บ ทีหลังอย่าทำอีก อย่าทำตัวสนิทสนมกับใคร ๆ แบบนั้นอีก ไม่อย่างนั้นกูจะไม่ให้รอยแผลนี้จางออกไปเลย ไอ้พวกเหี้ยห่านั่นมันจะได้รู้ว่ามึงมีเจ้าของแล้ว



หยุดพูดนะ!  มึงไม่ใช่เจ้าของกู อย่ามาพูดอะไรแบบนั้น”  ผมขึ้นเสียงใส่อย่างสุดจะทน  ใครเป็นเจ้าของใคร มีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้



ถ้าอย่างนั้นก็ลองทำดูอีกครั้งสิครับ  กูจะได้เตือนความจำให้ ว่ามึงเป็นของ ๆ ใครแรงบีบย้ำที่ข้อมือหนักขึ้นเป็นเท่าตัว มือข้างที่เป็นอิสระถูกรวบจับไว้ด้วยมือใหญ่อีกครั้ง



“....พอแล้ว  ขอร้อง”  ผมตัดสินใจบอกออกไป เมื่อสังเกตเห็นแววตาที่เปลี่ยนไปของมัน ขุ่นมัวเต็มที่ด้วยอารมณ์โกรธ



เจ็บ!  พอแล้ว พอ  ได้โปรดใบหน้านั้นโน้มลงมาจนเกือบจะชิด



อย่า.....”  ผมร้องเสียงหลง เบี่ยงหน้าหนีสุดชีวิต ไม่อยากโดนกดในสภาพแบบนี้



“ ....หวงมาก รู้รึเปล่า จู่ ๆ แววตามันก็เปลี่ยนไปกลับกลายเป็นอ่อนโยน  อ้อมแขนประคองหลังผมรวบตัวขึ้นให้นั่งพิงเบาะไว้ ค่อยเกลี่ยปอยผมที่ระข้างแก้มผมเข้าทัดข้างหูอย่างแผ่วเบา



อย่าดื้ออีกนะครับโน่  กูไม่อยากทำให้มึงเจ็บ



“....ไหนว่ามีธุระจะคุย



มันถอนหายใจเฮือกใหญ่คล้ายต้องการสะกดอารมณ์บางอย่างไว้



โทรบอกไอ้คิมว่าวันนี้กูจะไปส่งมึงเอง



ไม่ต้องมายุ่ง ไปส่งกูที่โรงแรม กูจะกลับกับมันผมเถียงออกไปอย่างลืมตัว



เดี๋ยวนี้ดื้อกับกูตลอดเลยนะมันพูดแล้วเอาแขนมากอดคอผมไปซบไว้ที่บ่าแข็งแรงของมัน



ไม่อยากรู้หรือไง หืม  เรื่องทุกอย่าง........” 



เดี๋ยวกูโทรบอกมันเองดีกว่า จะได้ฟ้องเรื่องไอ้เด็กเหี้ยเมื่อกี้นี้ด้วยมันพูดต่อแล้วล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกง



อะไร!  บอกไปแล้วไงว่าน้องเค้าไม่เกี่ยว



เงียบไปเลยครับโน่ มึงอ่ะชอบเล่นอะไรไม่เข้าท่ากับ..



ไม่ให้โทรนะ มึงมีเบอร์มันได้ไง”  ผมพยายามคว้าเอาโทรศัพท์มันไว้ไม่ยอมให้มันกด  มือไม้เราปัดป่ายพันกันไปหมด



เบอร์บ้าน เบอร์มึง กูมีหมดแหละ



เดี๋ยว.....



ชู่ว์  เดี๋ยวโทรบอกให้อย่าโวยวายครับโน่”  ในที่สุดมือมันก็ชนะ ฝ่ามือใหญ่เอื้อมมาปิดปากผมไว้หลวม ๆ ทำเอาผมอ่อนใจ





Tbc.