Thursday, April 10, 2014

เพื่อนแบบนี้ก็มีอยู่ครับ(My friends) *Yaoi* ตอนที่ 23



ตอนที่ 23




โน่ครับ”  เสียงเรียกที่คุ้นเคยทำเอาผมถึงกับสะดุ้ง เป็นเพราะเผลอคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าจนสมองเริ่มเบลอ นี่ขนาดกำลังค้นแผ่น DVD เก่า ๆ เพื่อเอามาดูเล่นฆ่าเวลา


ว่าไงผมถามออกไปทั้งที่สายตายังจด ๆ จ้อง ๆ กับแผ่นหนังต่าง ๆ ที่อยู่ในมือ


มาทำขนมช่วยกันมันตอบทั้งที่ตัวกำลังง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอะไรบางอย่างอยู่ในครัว


หื้อ......ผมคิดว่าตัวเองหูฝาด


มึงว่าไงนะโป้ง?” คราวนี้ถึงกับทำเอาผมต้องลุกขึ้นถามมันดี ๆ 


มาทำขนมช่วยกู  เร็ว


ขนมไรวะ  มึงจะทำอะไรอีกผมลองเดินเข้าไปดูมันใกล้ ๆ 


กูจะทำคุกกี้เอาไว้ให้มึงน่ะสิ ชอบรสอะไรเอารสนมเนอะ กินแล้วตัวมึงหอมนมดีว่ะ


อื้อ  อะไรก็ได้ดูแล้วก็น่าสนุกดีอยู่หรอกกับส่วนผสมและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่วางเรียงอยู่บนโต๊ะ แต่ผมไม่ค่อยเก็ตอะไรแบบนี้เลย


หรือว่าเอารสโกโก้ด้วยมันยังเงยหน้าขึ้นมาถามต่อในขณะที่มือกำลังตอกไข่ใส่ลงในโถ โหโป้งมึงสามารถสุด ๆ ตอกไข่ด้วยมือข้างเดียวได้


ไม่เอาไม่ชอบโกโก้ เอารสนมอย่างเดียวเวลามึงจูบจะได้หอม ๆ ไงผมพูดแล้วมองหน้ามันอ้อน ๆ มันจะได้ลืมไปว่าผมไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากนั่งดูอย่างเดียว


แต่.....รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาแล้ว


อย่ายั่วครับโน่  เดี๋ยวทำไม่เสร็จ 


ไม่เห็นต้องรีบ  ทำตอนไหนก็ได้นี่นาความหมายของผมคือไว้วันที่ผมไม่อยู่ กลับห้องหรือออกไปข้างนอกทำธุระอะไรแบบนั้น


จริงนะ งั้นล้างมือ จะชวนกูไปทำอย่างอื่นใช่ไหม


อ๊ะ!  ไม่ใช่นะกูพูดเล่น มึงทำขนมของมึงไปเหอะผมปฏิเสธออกไปแต่รู้สึกทุกอย่างจะสายไปเยอะ เพราะเห็นมันละมือจากทุกอย่างแล้วหันไปล้างมือที่ซิงค์จนเสร็จแล้วเช็ดจนแห้ง


ไม่ได้..อยากยั่วกูเองทำไม ต้องมาให้ลงโทษเดี๋ยวนี้เลย มามันพูดพร้อมทั้งเดินทั้งวิ่งเข้าหา ตัวผมเองก็ไม่น้อยกว่ามันหรอกครับ หนีสิครับวิ่งมาถึงหน้าทีวีแล้วด้วย


มานี่  มาให้จูบก่อนเร็วเข้า


ไม่เอานะโป้งกูพูดเล่นโต๊ะเล็กหน้าทีวีถูกพวกผมเห็นเป็นสนามเล็ก ๆ ที่เราสองคนกำลังวิ่งดักทางซ้ายขวากันอยู่


เร็วครับ เมื่อคืนยังกินไม่อิ่มเลย มากินกันต่อเลย มา!”  ไอ้ทุเรศพูดเรื่องหน้าอายไม่อายปากบ้าง


โป้ง!!”  จับได้แล้วก็กอดแน่นเป็นบ้าเลย เล่นอะไรของมัน ผ้ากันเปื้อนก็ยังไม่ได้ถอดแท้ ๆ 


หน้าผากอุ่น ๆ ถูกโน้มลงมาแตะเข้ากับหน้าผากของผมเบา ๆ สายตาอ่อนโยนของมันทำเอาผมต้องเลี่ยงก้มลงมองที่ปลายเท้าตัวเองทันที


“.....รักมึงนะ  มากที่สุดแล้ว


“.....อื้อ  อย่าพูดบ่อยนักดิ  เดี๋ยวกูก็ติดหรอก


ก็พูดให้ติดน่ะ จะได้หนีไปไหนไม่ได้


ไม่เอาหรอก  ถ้าวันนึงมึงไม่อยู่แล้วกูจะทำยังไง


อยู่สิครับ กูจะอยู่บอกรักมึงทุกวันแบบนี้แหละ อย่าเบื่อกันก่อนก็แล้วกันนะมันจูบลงเบา ๆ ที่แก้มของผม


รักโน่ที่สุดครับ”  กระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นอีก สุ้มเสียงที่สั่นแต่ทว่ามั่นคงของมัน...


เป็นไร?  คิดมากเรื่องเมื่อเช้า?


มันพยักหน้าเบา ๆ แทนคำตอบทุกอย่าง


อย่าคิดมากสิวะ ค่อย ๆแก้ไขไปเดี๋ยวทางออกก็มาเอง”  คำพูดปลอบใจสวยหรูที่ออกมาจากปากของผม ช่างตรงข้ามกับสิ่งที่ใจคิดจริง ๆ ครับ  


ผมใช้นิ้วเกลี่ยผมที่หน้าผากมันเล่นเบา ๆ ช่วงนี้ผมมันเริ่มยาวขึ้นมาหน่อยแล้ว รอยไถรูปดาวด้านข้างก็ถูกบดบังจนหมด เกือบจะกลายเป็นทรงไอดอลเกาหลีอยู่แล้วเชียว 


ผมมึงยาวมากแล้วนะ ปิดหน้าผากแบบนี้ไม่หล่อเลย


ต่อไปจะเอาลงไว้แบบนี้ตลอดไม่เซทตั้งขึ้นแล้วล่ะ 


ทำไม


ไม่อยากหล่อ ทำแบบนั้นให้โน่ดูคนเดียว จะไม่เปิดหน้าผากให้ใครดูอีก 


หึ  แน่ใจนะว่าปากน่ะ  วันนี้มึงทำคุกกี้ไม่ต้องใส่น้ำตาลนะโป้ง แค่นี้กูก็หวานจนเลี่ยนแล้ว



ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง  ติ๊งหน่อง  ติ๊งหน่อง 



มาแล้วไงไอ้ตัวดี  ขัดจังหวะกูได้ทุกทีสิน่า”  มันทั้งบ่นทั้งเดินไปเปิดประตูให้ไอ้ผู้มาใหม่ที่โทรมาบอกไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าจะมา


ทำอะไรกันอยู่วะ แม่งนานกว่าจะเปิดให้กูได้”  เสียงบ่นยาวเหยียดดังเข้ามาตั้งแต่ตัวคนยังเดินมาไม่ถึงโซฟาด้วยซ้ำ  มันโยนกุญแจรถลงบนโต๊ะแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น


คิม  มึงกดปุ๊บกูก็เดินไปเปิดปั๊บ นี่นะเรียกนานของมึง”  ไอ้โป้งยืนเท้าสะเอวพูดอยู่หน้าประตูยังไม่ยอมเดินเข้ามาด้านใน ตอนนี้ผมไม่สนใจพวกมันแล้วครับ นั่งลงเลือกแผ่นหนังของผมต่อว่าจะหาหนังดูสักเรื่องเมื่อกี้ก็โดนไอ้โป้งขัดจังหวะไปทีแล้ว


มึงรีบเข้ามาเถอะว่ะโป้ง ชุดกันเปื้อนอะไรของมึง ทำยังกับแม่บ้านรอผัว พอผัวเข้ามาก็บ่นเอาบ่นเอา    แล้วนี่มึงทำอะไรอยู่เนี่ย?” มันกินน้ำไปพลาง ชะโงกหน้าดูบนโต๊ะอาหารที่เต็มไปด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ นา ๆ ของไอ้โป้ง


มึงมาก็ดีเลย มาช่วยกูทำคุกกี้เดี๋ยวนี้ กูทำคนเดียวกว่าจะเสร็จได้มืดก่อน ไอ้โน่แม่งก็ทำอะไรไม่เป็นสักอย่างมันทั้งเดินทั้งบ่นเข้ามาในครัวจัดแจงของบนโต๊ะของมันต่อไป


อ้าว ๆ จะทำอะไรก็ทำไปดิ มาลามกูทำไมวะ ไม่ได้บอกว่าอยากกินสักหน่อยคราวนี้เป็นผมครับที่พูดขึ้นดัง ๆ ให้มันได้ยิน


ครับ ๆ โน่ไม่ผิดครับ เดี๋ยวโป้งจัดการเอง  กูทำ=มึงกิน สมการลงตัว OK” มันขึ้นเสียงสูงตรงคำว่าโอเค้ ประโยคฟังดูน่าตบขึ้นเยอะ


อืม  งั้นแหละมึงน่าจะรู้ตั้งนานแล้วนะ


มาดิวะคิม มึงจะไปนั่งดูทีวีกับมันทำไม กูรอมึงอยู่เห็นไหมเนี่ย!”  ยังครับ มันยังไม่ยอมจบไอ้คนที่อยู่ในครัวยังตื้อยอมไม่เลิก  


เฮ้ย  ไม่เอากูเหนื่อย ขับรถขับเรือมาตั้งหลายชั่วโมงร้อนก็ร้อนรถก็ติด กว่ากูจะผ่านแต่ละแยกเข้ามาได้เกือบหลับตั้งหลายรอบ”  มันพูดแล้วเหยียดขานอนลงที่โซฟาซึ่งมีผมนั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ว


อื้อ  คิม มึงลงไปข้างล่างดิ กูจะนั่งตรงนี้ผมเริ่มโวยวายเพราะขายาว ๆ ของมันเบียดเข้าด้านหลังผมเต็ม ๆ 


ไม่เอาอ่ะ อยากนอนข้าง ๆ โน่มันพูดขึ้นโดยที่ไม่ได้สังเกตไอ้คนที่อยู่ในครัวเลยสักนิด สายตาระยะไกลแต่โฟกัสมาที่ผมอย่างแรงเล่นเอาผมต้องแกล้งตีหน้าไม่รู้เรื่องทันที


กูนั่งด้วย อยากดูหนังด้วยเหมือนกัน”  นั่นไงครับในที่สุดมันก็มาจนได้  คุ๊กก้งคุกกี้อะไรของมันนั่นคงไม่ได้กินแล้วล่ะครับ เพราะตอนนี้มันสองคนเล่นนอนเบียดกันอยู่บนโซฟาตัวเดียว 


แล้วมึงมานอนเบียดกูทำไม่เนี่ยเสียงไอ้คนที่นอนอยู่ก่อนโวยวายขึ้น มันทั้งขยับตัวติดพนักพิงจนเรียกได้ว่าแน่นเอี๊ยด


กูจะนอนตรงนี้เสียงบ่นงึมงำในลำคอจากไอ้คนที่เพิ่งล้มตัวลงนอน 


พวกมึงมัวแต่เถียงกันจนไม่ได้สังเกตตูดกูเลยใช่ไหมว่าแทบจะไม่เหลือพื้นที่ให้กูนั่ง ผมสุดจะทนรีบลุกออกจากตรงนั้น ดึงหมอนที่รองหัวพวกมันทั้งสองคนมากอดไว้อย่างสบายใจ ไอ้โป้งรีบลุกขึ้นนั่งหน้างอทันที ส่วนไอ้คิมทั้งนอนทั้งหัวเราะไม่นานก็เผลอหลับไป


เราสามคนใช้ชีวิตแบบนี้กันไปเรื่อย ทำอาหารทานกัน ดูหนัง ช๊อปปิ้ง กินด้วยกันเที่ยวด้วยกันนอนด้วยกัน พอถึงวันศุกร์ไอ้คิมมันจะไปค้างที่เสม็ดหนึ่งคืนวันต่อมาก็กลับมาทันที ทำเอาไอ้โป้งถึงกับงอน  ผมกับไอ้คิมช่วยมันทำคุกกี้จนสำเร็จใน 2 อาทิตย์ถัดมา แม้จะช้าไปหน่อยแต่ดูเหมือนทุกอย่างลงตัว เรานั่งหัวเราะกับท่าทีปัญญาอ่อนของมันสุดขีดหลังจากผมกับมันช่วยกันอาบน้ำให้ไอ้ตัวเล็ก หลังจากนั้นเป็นหน้าที่ไอ้คิมเป็นคนไดร์ให้จนแห้งชโลมน้ำยาเคลือบเส้นขนจนสวย และไอ้โป้งพยายามมัดแกะสองข้างให้กับมันทั้งที่ขนมันยังไม่ยาวพอจะมัดสองแกะได้เลยด้วยซ้ำ ในที่สุดไอ้คนที่พยายามก็ต้องยอมกลับไปมัดจุกเดียวให้ไอ้หมาน้อยสุดที่รักของมันเหมือนเดิม





แต่ทว่าความสุขใช่ว่าจะอยู่กับเราได้นาน......




เร็วหน่อยสิวะโป้ง มึงขับช้าฉิบหายกูกลัวไม่ทัน”  ผมเร่งไอ้คนขับยิกยิก ขณะที่มันเองก็เหยียบแบบสุด ๆ อยู่แล้ว 


อะไรครับโน่อีกตั้งชั่วโมงกว่าเครื่องจะแลนดิ้งมึงจะรีบไปไหนเนี่ย”  ไอ้คนที่นั่งอยู่เบาะหน้าอีกคนสวนขึ้น


ไม่รู้ล่ะ กูว่ากูไปรอก่อนย่อมดีกว่าอยู่แล้ว เฮียกูยิ่งไม่เหมือนคนอื่นเค้าอยู่”  


พี่ผมเนี่ยมันแปลกครับเรียนจบอินทีเรียมาก็ไม่ยอมไปช่วยงานที่บริษัทออกแบบของพ่อกับแม่ แต่มันกับเพื่อนหุ้นกันทำบริษัทเล็ก ๆ เกี่ยวกับการออแกไนซ์งานต่าง ๆ จนกระทั่งล่าสุดโดนป๊าบังคับขั้นเด็ดขาดให้มันไปงานช่วยอยู่ที่สิงคโปร์เห็นว่าบริษัทเราสามารถประมูลงานออกแบบตกแต่งภายในทั้งหมด ในเครือข่ายของกลุ่มเงินทุนใหญ่กลุ่มหนึ่งของญี่ปุ่นซึ่งมีโรงแรมในเครือมากมายที่กำลังผุดขึ้นตามประเทศต่าง ๆ หลายประเทศในตอนนี้มันเลยต้องถูกดึงตัวไปช่วยงานโดยด่วน


 ส่วนผม ลั้นลาสุด ๆ ไม่ค่อยได้รู้เรื่องธุรกิจของที่บ้านมากนัก อาจเป็นเพราะผมไม่ชอบงานทางด้านออกแบบตกแต่ง จึงไม่ค่อยสนใจมาแต่ไหนแต่ไร และผมก็เป็นลูกคนสุดท้องที่ป๊ากับแม่ตามใจ และไว้ใจให้เฮียเป็นคนดูแลผมอยู่แล้ว มันไม่เคยให้ผมต้องลำบาก ผมอยากเรียนคณะสาขาอะไรก็ได้หมดขอแค่ผมชอบ   เราไม่เคยห่างกันจนกระทั่งผมเรียนมหาวิทยาลัย  เพราะอย่างนี้มันจึงเห็นผมเป็นคนสำคัญที่สุดของมันและผมเองก็อยากให้มันเห็นด้วยว่าผมไม่เคยละเลยมัน เมื่อมันบอกว่าจะมาหาผม กี่โมงผมก็ต้องตรงเวลาครับไม่ยอมสายแม้แต่นาทีเดียว


นั่นไงเค้าเพิ่งประกาศเอง สบายใจแล้วสิเสียงไอ้โป้งดังขึ้นพร้อมยื่นมือหนัก ๆ ของมันขยี้ลงบนหัวผมเมื่อเห็นว่าท่าทางกังวลใจของผมหายเป็นปลิดทิ้งขณะที่กำลังแหงนหน้าดูตารางเวลาที่บอร์ด


ไป  เราไปรอตรงนั้น เฮียมึงมาแล้วจะได้เห็นหน้ามึงชัด ๆ”  ไอ้คิมแกล้งประชดผมเข้าไปเต็ม ๆ ไอ้คนที่เดินอยู่ข้าง ๆ ถึงกับหัวเราะออกมา


แว่วเสียงประกาศดังมาเป็นครั้งสุดท้าย ชายในร่างสูงสวมแว่นสีชากับยีนส์สีเข้มเสื้อคอปาดติดซิปดำขาว ดูโดดเด่นตั้งแต่เดินอยู่ในกลุ่มคนที่ค่อย ๆ ทยอยกันออกมา ผมโบกมือให้อย่างสูงกลัวว่าไอ้คนที่กำลังเดินเข้ามาจะมองไม่เห็น มันยกยิ้มมุมปากมาแต่ไกล


รอนานยังครับ  หืมมันพูดแล้วกอดเอาหัวผมเข้าไปหอมเต็ม ๆ เลยครับ นี่แหละครับการแสดงออกของมัน  


ตอนนี้มีสายตานึงที่กำลังจด ๆ จ้อง ๆ พวกผมอยู่ ไม่ต้องเดาให้ยาก  ไม่ใช่ไอ้โป้งแน่นอนเพราะเจ้าตัวนั้นมันชินแล้วมันเคยไปเที่ยวกับผมกับเฮียตั้งแต่อยู่ ม. 6 เลยรู้จักกันมาก่อน ส่วนไอ้คิมเจ้าของสายตาพิฆาตนั่นเพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรกก็ต้องมีตกใจกันบ้างเป็นธรรมดา


ไงมึง  ไม่ชอบกูรึไงกูเห็นมึงมองกูตั้งแต่อยู่ที่สนามบินแล้วเฮียนิวถามขึ้นขณะที่ไอ้คิมกำลังจด ๆ จ้อง ๆ อยู่กับการเช็คโน้ตบุ๊คของมันหลังจากเรากลับมาถึงห้องไอ้โป้งกันแล้ว


เฮียนิวคิดมากไม่มีอะไรหรอกไอ้คิมหน้ามันเป็นงั้นเอง”  ผมรีบแก้ตัวให้มันก่อนที่พี่ผมจะอารมณ์เสียไปมากกว่านี้ มีอย่างที่ไหนตั้งแต่สนามบินจนถึงที่นี่มันยังไม่พูดอะไรสักคำแถมยังแค่พยักหน้าใส่ตอนที่ผมแนะนำมันให้รู้จักกับเฮีย 


มึงเสร็จยังโน่เราจะได้กลับกันเลยเฮียถามขึ้นในขณะที่สายตาจ้องอยู่ที่หน้าจอโน้ตบุ๊คของไอ้คิม


เฮียนิวนอนนี่ดิ ที่นอนก็มีไอ้โน่มันก็ค้างที่นี่ประจำอยู่แล้วอยู่กันหลาย ๆ คนเดี๋ยวผมทำกับข้าวให้กินเองไอ้โป้งเสนอขึ้น ตอนนี้มันนอนดูทีวีอยู่บนพื้นท่าทางสบายใจสุด ๆ 


แล้วเฮียจะอยู่ถึงวันไหนอ่ะ”  ผมถามขึ้นเพราะนึกสงสัยอยู่เหมือนกันจู่ ๆ ก็บอกจะกลับมาเหมือนมีเรื่องด่วนมากมาย


กูเสร็จธุระวันไหนก็จะกลับเลยเป็นคำตอบที่คนตอบค่อนข้างซีเรียสอยู่เหมือนกัน


มาธุระ?” ผมถาม


อืมมันตอบในลำคอเบา ๆ ผมเลื่อนตัวขยับไปใกล้มันอีกนิดแล้วมองหน้ามันดี ๆ ท่าทางไม่ถูกต้องแน่แล้วซิกส์เซ้นส์บางอย่างบอกผม


มีอะไรมากรึเปล่า เกี่ยวกับที่บ้าน ?” แววตาที่เต็มไปด้วยคำถามและข้อข้องใจจากผมอาจทำให้มันอึดอัดขึ้นอีก แต่ผมก็ยังอยากจะรู้


ไม่มีอะไรหรอก ตกลงมึงจะให้กูค้างที่นี่ ?”


หรือว่าเฮียจะกลับไปค้างที่บ้าน แต่ไม่ไปด้วยนะ อยากกินข้าวฝีมือไอ้โป้งอร่อยดี ติดแล้วด้วย


“  !  อร่อยขนาดนั้นเชียว โป้งมึงใส่อะไรลงไปวะน้องกูถึงขนาดเอ่ยปากเนี่ยเฮียไม่พูดเปล่าครับขนาดปาลูกอมคูก้าที่วางอยู่บนโต๊ะใส่ไอ้คนที่นอนดูทีวีอยู่ตอนนี้


ใส่ใจสิครับเฮีย โน่ชอบหรือไม่ชอบตรงไหนยังไงผมรู้หมดแหละจบคำพูดปุ๊บมันก็โดนไอ้คนที่นั่งเล่นคอมอยู่ตอนนี้ถีบเข้าไปเต็ม ๆ เลยครับ


เชี่ยคิม! เล่นแรงนะมึงมันลุกขึ้นอาละวาดใส่ไอ้คิมทันที เจอไอ้คนที่นั่งอยู่ยักคิ้วกลับให้แบบกวน ๆ มันเลยต้องเม้มปากกัดฟันแล้วลงไปนอนดูของมันต่อไป


แล้วเอาไงตกลงนอนไหนผมถามขึ้นอีก


เออ กูค้างที่นี่ก็ได้วะ  พอใจยัง ไอ้น้องตัวดี 


เจ๋ง!  งั้นเรานอนบนเตียงกันให้ไอ้โป้งกับไอ้คิมมันลงไปนอนหน้าเตียง 


เรื่อง!”  ไอ้โป้งแทรกขึ้นอย่างดัง


ช่างดิ กูจะนอนกับเฮียกู 


แต่..มันกำลังจะเถียง


โป้ง! กูมีธุระจะคุยกับมึง พรุ่งนี้เดี๋ยวเราออกไปพร้อมกันอยู่ดี ๆ เฮียก็พูดขึ้น แล้วมองไปที่มัน


ธุระที่ไหน ให้ผมไปด้วยดิ 


มึงไม่ต้องไป!  กูจะไปกับไอ้โป้งแค่สองคน  มึงกับไอ้คิมรออยู่ที่นี่ 


น้ำเสียงที่จริงจัง กับสายตาที่เคร่งเครียด ทำเอาผมรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีเลย....
ฮ้าวววววววว!!!


อ้าปากหาวอย่างกว้าง  ตื่นขึ้นมาไอ้คนที่นอนอยู่ข้าง ๆ เมื่อคืนก็ไม่อยู่แล้ว แถมไอ้สองคนที่นอนอยู่หน้าเตียงก็ไม่อยู่แล้วเหมือนกัน


เดินออกไปดูด้านนอก หนึ่งในนั้นกำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่กับการทำบางอย่างอยู่ในครัว


คิม  เฮียอ่ะ?”


ออกไปกับไอ้โป้งตั้งแต่เช้าแล้ว   มึงหิวไหมกูกำลังพยายามอยู่เนี่ย ไอ้โป้งแม่งก็เขียนวิธีไม่ละเอียด


มึงทำไรของมึงอ่ะ?”


ไข่กวนไรเนี่ยแหละ มันบอกให้ทำให้มึงตอน 10 โมง มึงจะตื่นพอดี”   อืม..ก็น่ากินดีอยู่หรอกแต่สีไม่สวยเหมือนไอ้โป้งทำเลยแฮะ


แครอทกับมะเขือเทศทำไมชิ้นใหญ่อย่างเนี่ยผมบอกและชี้ลงไปในจานที่มันเพิ่งตักมาวางให้


กินไปเหอะวะ เชื่อดินี่คือครั้งแรกของกูเลย ปกติมีแต่คนต้องทำให้กูแดกนะโว้ย กูจะยกเว้นมึงไว้สักคน โน่มันพูดแล้วดันจานมาที่หน้าผม นั่งลงแล้วจ้องมา


ล้างหน้ายังมันถามด้วยแววตาสงสัย


ล้างแล้ว   อ้าว! แล้วมึงไม่กินอ่ะผมถามมันดูเห็นมันนั่งกอดอกมองผม   อือ..ก็อร่อยดีนะรสชาติใกล้เคียงกับที่ไอ้โป้งทำเลยแฮะ มองดูที่มุมโต๊ะมีกระดาษลายมือไอ้เจ้าของสูตรแปะติดไว้ให้


กินเหอะ” 


สั้น ๆ ง่าย ๆ สำหรับคำตอบของมัน ผมนั่งทานจนอิ่มเรียบร้อยก็จัดการเก็บจานแล้วเดินไปนั่งดูทีวีอยู่ด้วยกัน มันรื้อหนังสือการ์ตูนบนชั้นของไอ้เจ้าของห้องลงมากองเต็มพื้นไปหมด ผมมองเห็นเรื่องนึงที่รู้สึกคุ้นมากเลยเดินเข้าไปนั่งดูกับมันด้วย เป็นเรื่องเก่าที่เคยอ่านเมื่อนานมาแล้วหนังสือชุดนี้มีอยู่ทั้งหมด 12 เล่ม ถูกห่อปกพลาสติกใสไว้อย่างดี


ลองหยิบมาพลิกเปิดดู เจอรูปถ่ายเก่า ๆ ร่วงลงมา 1 ใบ หยิบขึ้นมาดู เป็นรูปผมกับไอ้โป้งสมัยยังหัวเกรียนใส่ชุดนักเรียนกางเกงน้ำเงินนั่งกอดคอกันกินหมูกระทะงานวันเกิดเพื่อนอีกคน ตรงมุมปากยังมีรอยเปื้อนของขนมเค้กที่อยู่ในมือไอ้คนที่กำลังกอดคอป้อนกันอยู่


เห็นแล้วก็อดเผลอยิ้มออกมาไม่ได้...


โน่”  เสียงเรียกของไอ้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ดังขึ้น


ว่าไงผมรีบสอดรูปถ่ายใบนั้นเข้าใต้กล่องกระดาษทิชชู่ที่วางอยู่บนโต๊ะเล็กข้างตัว


หายโกรธกูรึยัง”  มันถามทั้งที่ตายังจ้องการ์ตูนที่อยู่ในมือ


“......ไม่ได้โกรธอะไรนี่”  แกล้งไม่รู้ไม่ชี้หยิบอีกเล่มขึ้นมาพลิกอ่าน มันวางเล่มที่ถืออยู่ลงแล้วหันมาถามจริงจัง


ไม่ได้โกรธจริงนะ งั้นให้กูหอมทีนึง


เฮ้ย!   ไม่เอานะมึง อย่ามาใกล้ผมรีบหลบเมื่อเห็นว่ามันยื่นหน้าเข้ามาแล้ว


หึหึ ไหนว่าหายโกรธแล้วไง โกหกกันนี่หว่า


ไม่ได้โกรธแล้ว แต่เราเป็นเพื่อนกันทำแบบนี้มันไม่ดีไม่ใช่รึไงคราวนี้ผมรีบลุกดีกว่าท่าทางผมจะเสียเปรียบแน่


ครับ ๆ ไม่ทำหรอกนั่งลงนะ เล่นอยู่แถวนี้แหละกูไม่กวนแล้วเดี๋ยวหาอะไรให้กินมันลุกขึ้นไปเปิดตู้เย็นหยิบโน่นหยิบนี่อยู่สักพัก


ไม่มีพวกข้าวเวฟเลยว่ะ มีแต่ของสด กูก็ทำไม่เป็นซะด้วย ออกไปหาอะไรกินข้างนอกกันดีกว่าโน่


งั้นมึงรอเดี๋ยว  กูเข้าไปเปลี่ยนชุดก่อน อยากไปตัดผมด้วย มึงพากูไปละกันคิม


...


จะตัดทำไมก็ไม่รู้ ผมก็ยังไม่เห็นยาวมากเลย ทำทรงนี้ก็น่ารักดีอยู่แล้ว”  เสียงไอ้คนขับบ่นมาตลอดทางตั้งแต่เราแวะทานข้าวกันเสร็จตอนนี้มันกำลังพาผมไปร้านทำผมเจ้าประจำของมัน


กูร้อน เล็ม ๆ ออกนิดเดียว มึงอ่ะพูดมากคิม


ก็ดิ  ไม่อยากให้ตัดแบบนี้น่ารักดี


เร็วเหอะว่ะ มัวแต่พูดเมื่อไหร่จะถึงกูจะได้ตัดไหมเนี่ย กว่าจะไปต่อคิวอีก


ไม่ต้องต่อ กูโทรจองให้แล้ว


เอ๋า  ไหนว่าไม่อยากให้ไปตัด แต่มึงโทรจองคิวให้กู ? ”


แล้วกูขัดมึงได้ ?   เดี๋ยวก็งอนกูขึ้นมาอีก แค่คดีเก่ากูก็อานแล้ว ไม่อยากงานงอกอีกว่ะ?” มันพูดแล้วยิ้ม ๆ มาทางผม


ในที่สุดผมก็ได้ตัดผมสมใจอยากแม้จะไม่สั้นมากนักแต่ผมก็พอใจกับทรงใหม่นี้มาก ได้โกรกเป็นสีน้ำตาลอ่อน ๆ ด้วยทำให้ดูเบา ๆ ดี ไอ้คิมมันไปเดินซื้อของรอผมอยู่ซอยข้าง ๆ พอมารับแล้วเห็นเข้าอมยิ้มไม่หุบเลยครับมันบอกน่ารักดี เหมือนตัวการ์ตูนที่มันชอบ ผมแกล้งไม่สนใจคำพูดมัน แต่ก็แอบดีใจอยู่นิดหน่อย


กลับกันเหอะ ป่านนี้เฮียนิวกับไอ้โป้งคงกลับมาแล้วมั้ง เดี๋ยวกูจะรีบไปโชว์ให้มันดูด้วย


เซ็งว่ะ อะไรก็โป้ง อะไรก็โป้ง กูมันไม่มีความหมายแล้ว”  มันพูดพร้อมปิดประตูรถลงดังลั่นแล้วขับออกไปอย่างเร็ว


ก็กูเป็นแฟนมัน ตั้งแต่มันตกลงเป็นแฟนกับกูยังไม่เคยทำให้กูเสียใจแม้แต่ครั้งเดียว แถมมันยังทำกับข้าวอร่อย ไม่เหมือนคนบางคนแถวนี้ทำอะไรก็ไม่เป็น


ครับ ๆ กูไม่มีสิทธิ์ครับ กูมันคนไม่ดีครับ ขอโทษครับ


รู้ก็ดี....กำลังจะเถียงไปสักหน่อยโทรศัพท์ดันดังขึ้นมาก่อน



♫♫~ ~♫♫ ~ในใจไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเข้ามา ทำให้แววตาฉันเห็นความสดใส ♫♫~ ~♫♫~
เฮียนิว


ครับ

<โน่ กูจะกลับแล้วนะ>

อะไรนะ!ผมตกใจเลยครับ พี่ผมมันพูดอะไร

<ครับ จะกลับแล้ว คราวนี้กูรีบ อยู่เล่นกับมึงไม่ได้>

กลับตอนนี้ ทำไมอ่ะทำไมกลับเร็ว รอก่อนดิ เดี๋ยวไปส่ง”  ผมโวยวายขึ้นไม่เข้าใจทำไมอะไรมันกะทันหันแบบนี้

<กูออกมาแล้ว  มึงมาไม่ทันหรอก ไม่ต้องต้องคิดมาก กูมาธุระให้ป๊าเสร็จแล้วกูต้องกลับด่วน ถ้าเคลียร์ได้อาทิตย์หน้ากูจะมาหาใหม่>

อะไร ธุระอะไรนักหนา เฮียพูดเหมือนเรื่องสำคัญมาก บ้านเรามีอะไรทำไมไม่เล่าให้ผมฟังบ้าง

<...ไม่มีอะไรครับ อย่าคิดมากนะ เดี๋ยวถึงแล้วกูโทรหา อย่าดื้อนะครับโน่>

“....เฮีย

<โน่  โตแล้วนะ เราเข้าใจใช่ไหม ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่เค้าจัดการ  แล้วเดี๋ยวกูโทรหา >

“......อืม  มาหาอีกนะ ”  ผมตอบรับออกไปเบา ๆ แทบจะไม่ได้ยินเสียงซะด้วยซ้ำ หลังจากนั้นความคิดเริ่มประดังประเดเข้ามาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คิดแต่ว่าถ้ากลับไปถึงห้องแล้วต้องคาดคั้นถามเอากับไอ้โป้งให้รู้เรื่องให้ได้


ฝ่ามือหนัก ๆ แต่อบอุ่นขยี้ลงบนหัวผมเบา ๆ ผมรู้นี่คือการปลอบใจของไอ้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ มันไม่ได้เร่งความเร็วขึ้น แต่ก็ไม่ได้ขับให้ช้าลง ทุกอย่างยังคงปกติเหมือนเดิม



จนกระทั่ง....เรากลับมาถึงที่ห้อง......



โป้ง”  ผมแทบวิ่งเข้ามาหามันตั้งใจอวดทรงผมใหม่เต็มที่เห็นมันยืนสวมผ้ากันเปื้อนทำอาหารอยู่ในครัว


ตัดผมใหม่เหรอครับโน่มันพูดขณะที่มือกำลังหั่นอะไรบางอย่างอยู่บนเขียงพลาสติกไม่ยอมหน้าผมดี ๆ


อืม  กูหล่อใช่ป่ะ”  ผมเดินเข้าไปถามมันใกล้ ๆ


“.....ครับ  โน่หล่อที่สุดมันก้มหน้าทำต่อไปไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามอง


ขณะที่ไอ้คิมเพิ่งเดินเข้าถึง มันเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาแล้วเดินไปเปิดทีวีนั่งดู


โน่ไปอาบน้ำก่อนนะ กูเตรียมน้ำไว้ให้มึงแช่ด้วย เดี๋ยวออกมาคงเสร็จพอดี


ทำอะไรเยอะแยะไปหมดกินกันแค่ 3 คนเอง


มีแต่ของที่มึงชอบทั้งนั้น กูทำสุดฝีมือเลย


จริงนะ งั้นไปอาบน้ำเดี๋ยวออกมา” 


ผมพูดแล้ววิ่งเข้าไปในห้องเตรียมตัวแช่น้ำอุ่น ๆ ที่มันเตรียมไว้ให้ วันนี้มันรู้ได้ไงว่าผมเหนื่อยอยากแช่ตัวอยู่พอดี ผมใช้เวลาไม่นานนักก็ชำระร่างกายเรียบร้อยเปลี่ยนเสื้อผ้าอะไรเสร็จกำลังนั่งเลือกแผ่นเพลงว่าจะเอาออกไปเปิดฟังตอนกินข้าว ได้ยินเสียงคนเถียงกันดังมาจากด้านนอก ผมรีบวิ่งออกไป ไอ้คิมกำลังหัวเสียเดินสวนทางตรงออกไปที่ประตู มันหยุดมองผมพักนึงด้วยสายตาจ้องมาอย่างไม่รู้ความหมาย แล้วมันก็เดินตรงออกไปทันที


ปัง!!   เสียงประตูปิดอย่างดังก่อนที่ผมจะหันกลับไปหาอีกคนที่ยังยืนหน้าเรียบเฉยอยู่ในครัว


อะไรโป้ง  มีอะไรกัน?” ผมเดินเข้าไปหามัน ที่มุมปากมันมีรอยช้ำนูนเด่นขึ้นมา


โน่ครับ  ทานข้าวกันเลยนะ วันนี้กูทำของโปรดมึงทั้งนั้นเลยมันไม่ยอมตอบคำถามแถมพูดหน้านิ่ง ไม่ยอมเงยหน้าสบตาผมเลย  กับข้าวทุกอย่างถูกจัดอย่างสวยงามวางเรียงอยู่บนโต๊ะ


มีแต่ของที่ผมชอบกินทั้งนั้น


เดี๋ยวกูตักข้าวให้”  มันพูดแล้วตักข้าวใส่จานวางลงให้ผม และของมันก็ด้วย


โน่กินให้หมดเลยนะครับ”  มันยังพูดต่อ แต่ไม่ยอมยิ้มเลยสักนิด


โป้ง  เมื่อกี้....


อย่าพูดเรื่องคนอื่นเลยนะ วันนี้ให้มีแต่เราได้ไหมไข่เจียวกุ้งถูกตักวางลงในจานผม ส่วนตัวมันตักกินข้าวเปล่า ๆ แล้วเคี้ยวอย่างฝืน ๆ


โป้ง มึงเป็นอะไรท่าทางแปลก ๆ” 


เดี๋ยวคืนนี้กูจะทำไอติมไว้ให้ กุญแจห้องอยู่กับมึงก็มี จะเข้ามาเอาตอนไหนก็ได้”  นี่มันพูดอะไรของมัน


มึงพูดอะไรโป้ง กูก็กินของกูอยู่ทุกคืนทำไมต้องพูดเรื่องกุญแจห้อง กูก็อยู่ที่นี่อยู่แล้วนี่


โน่ครับ กินข้าวให้ตรงเวลาด้วย มึงชอบตื่นสายเวลากินข้าวเลยเลทไปหมด กูบอกไอ้คิมไว้แล้วต่อไปให้ปลุกมึงแต่เช้า


ผมเงยหน้าขึ้นจ้องมันด้วยความงงสุด ๆ ไม่รู้ว่ามันพูดอะไรของมัน


เวลาอาบน้ำมึงชอบแช่ตัวนานเพราะฉะนั้นอุณหภูมิน้ำจะต้องอุ่นมากกว่าปกติ อันนี้กูก็บอกมันไว้แล้ว


“.........”


ตอนเย็นมึงชอบไปกินอาหารร้านดริฟที่สุด ถ้ามีเวลามึงจะไปกินที่นั่นตลอด  อันนี้กูก็บอกมันเอาไว้


โป้ง


ตอนดึก ๆ เวลาที่มึงละเมอฝันร้าย กูต้องคอยกอดมึงเอาไว้ไม่งั้นมึงจะตัวสั่น กูก็บอกไอ้คิมไว้แล้ว


โป้ง!!  มึงเป็นไรเนี่ยคราวนี้ผมทิ้งช้อนกับส้อมลงที่จานอย่างดังเลย มันพูดบ้าอะไรของมัน!


“...โน่ครับ....”  เสียงมันสั่นจนน่าตกใจ  น้ำตาคลอที่เบ้าตาทั้งสอง มันข่มกรามไว้จนแก้มมันสั่น




เลิกกันนะครับ




เหมือนเสียงฟ้าถล่มทลายแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย......เหมือนผมกำลังกระโดดจากตึกที่สูงที่สุดลงมาที่ก้นเหว.....


หัวใจผมดิ่งวูบ.... 


ผมลุกขึ้นยืนขึ้นอย่างช้า ๆ ถ้อยคำที่ผมได้ฟังมันชัด  จนไม่อาจบอกได้ว่าตัวเองฟังผิด


กินอีกสิครับโน่ ....ฮึกก.. กินให้หมด...กูทำให้มึงกิน...อึกก...สุดฝีมือกูเลยนะ”  มันตักข้าวเข้าปากทั้งที่น้ำตาไหลพรากลงมาไม่ขาดสาย


อยู่คนเดียว ..ฮึกก..อย่ากินแต่มาม่านะ มันไม่ดีกับกระเพาะมึงรู้..ฮ.อึกก..ฮึกก..ใช่ไหม


ไอติมก็อย่าเลือกกินแต่รสนม ให้กินรสอื่นบ้าง..ฮึกก..ซื้อเอาที่ท็อปก็ได้มึงชอบไปที่นั่นอยู่แล้ว..ฮึกก..


มึงไม่ชอบกินผลไม้อะไรเลย แต่ชอบแอ๊ปเปิ้ลที่สุด กูก็บอกมันไว้ ฮ..อึกก


ถ้ามึงอารมณ์ไม่ดี......


พอเถอะโป้ง!!  มึงพูดอะไร  ขอเลิกอะไรของมึง เงยหน้าขึ้นมาพูดกับกูให้รู้เรื่อง พูดออกมาดี ๆ 


ผมลุกขึ้นกระชากคอเสื้อมันอย่างแรงพร้อมอารมณ์ที่เดือดสุด ๆ


ถ้ามึงบังเอิญ  ได้ยินเพลงของเรา...นึกถึงกูบ้าง...ฮึกก..


พอแล้ว!” 


มันสูดลมหายใจเฮือกใหญ่


ถ้าอิ่มแล้วจะกลับเลยก็ได้ ไอ้คิมมันรอมึงอยู่หน้าห้อง ไม่ต้องสนใจกูอีก


โป้ง! มึงเป็นอะไรไป  บอกกูมาเดี๋ยวนี้ บอกมา!!” 


“.........”


ทำไมทำไมต้องขอเลิกมีเรื่องอะไรทำไมไม่บอกกู กูทำผิดอะไรมึงไม่พอใจอะไร ? โกรธกูเรื่องอะไรบอกกูมาสิ  ทำไมไม่บอกให้กูแก้ไข อะไรที่มึงไม่ชอบบอกกูไม่ได้เหรอ ขอเลิกกับกูทำไม!! 

ประโยคสุดท้ายทำให้ผมสุดจะกลั้นน้ำตาไว้ได้จริง ๆ


“.........” ไม่มีคำตอบที่ออกจากปากมัน มีแต่น้ำตาเท่านั้นที่ยังไหลลงมาไม่ขาดสาย


“......โป้ง”  เสียงผมสั่นไปแล้ว


......ผมอยากเข้าใจตัวมันมากกว่านี้.....


“....โน่


พรุ่งนี้กูจะไม่อยู่แล้ว  ไม่ต้องคิดถึงกูอีก ไม่ต้องตามหา  ลืมกูไปซะ ลืมเรื่องทุกอย่างของเราไปให้หมด ลืมให้หมดทุกอย่าง ไม่ต้องติดต่อ ไม่ต้องถามถึงกู จบความสัมพันธ์ทุกอย่าง หยุด...เรื่องของเราไว้แค่วันนี้  เวลานี้  คิดซะว่ามึงไม่เคยรู้จักกู....


“...ทำไม....  เรื่องอามึงรึเปล่า


“.......”


ทำไมไม่ค่อย ๆ แก้ไป ทำ...


ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น! ทุกอย่างกูตัดสินใจแล้ว


โป้ง!”


ออกไปซะ!


“.........” 


ออกไปได้แล้ว!!”


โป้ง!  ทำไม มึงสัญญาแล้ว...สัญญากับกูไว้


อย่าถาม!   ออกไป  ออกไปจากชีวิตกูได้แล้ว  ออกไป!!!” มันตะโกนไล่สุดเสียง ทั้งน้ำตาที่ไหลลงมาไม่หยุด


ทำไมต้องเลิก มึงไปนอกเราก็ยังติดต่อกันได้  กูจะไปหามึงก็ยังได้ผมพยายาม


ไม่ต้องไป!!  ห้ามไป!!!  เราเลิกกันแล้วมึงจะไปหากูทำไม!!


โป้ง!


กูไม่ได้รักมึงแล้ว หัดเข้าใจซะบ้าง โน่!  กูไม่ได้รักมึงแล้ว!” มันหันหลังให้ทันทีขณะที่แผ่นหลังกว้างนั้นสั่นเทาอย่างหนัก


ไปซะโน่  ออกไปจากชีวิตกูซะ!


ผมร้องไห้โฮจนถึงที่สุดเมื่อประโยคนี้ถูกปล่อยออกมาจากปากของมัน



น้ำตา......ไหลริน......


มันจะรู้ไหมว่าหัวใจของผมร้องไห้หนักยิ่งกว่าภายนอกที่เห็นมากนัก


....หัวใจที่แหลกสลายไปแล้ว....




ผมเดินออกมาช้า ๆ หยิบรูปถ่ายที่แอบสอดไว้ใต้กล่องกระดาษทิชชู่บนโต๊ะติดมือออกมาด้วย  รูปของผมกับมัน




หัวสมองพล่าเบลอไปหมด...




ความทรงจำต่าง ๆ ไหลเวียนเทถ่ายเข้ามา....




วันที่เราเจอกันครั้งแรก.....




วันที่กอดคอกันหัวเราะ  กอดคอกันร้องไห้.........




ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกัน....




ไม่เคยมีวันไหนที่ผม....ไม่มีมัน





คนที่เป็นทั้งเพื่อน.....เป็นทั้งแฟน....ที่ดีที่สุดของผม





Tbc.

(ใจเย็นๆ ยังไม่จบ ยังไม่จบ)