Saturday, May 3, 2014

เพื่อนแบบนี้ฯ Season2 (coz you) *Yaoi* บทที่ 3(ต่อ)




(ต่อ)


สายตาสองคู่จ้องมองผมจนแน่นิ่ง  คนหนึ่งเท้าสะเอวมองผ่านแว่นตาใส ๆ ออกมา   อีกคนยืนกอดอกยกยิ้มมุมปากอย่างสุดกวน


ถ้าคนถูกมองกลายร่างเป็นหินได้  ผมคงจะแข็งเป็นหินไปแล้ว


หลังจากเรามาถึงบ้านรถไอ้คิมก็จอดรออยู่แล้ว มันกับไอ้โป้งขึ้นไปคุยอะไรกันก็ไม่รู้อยู่บนห้องตั้งนานสองนาน พอลงมาก็เป็นแบบนี้แหละครับ


ไอ้คนที่ยืนเท้าสะเอวอยู่เดินตรงเข้ามาหา สายตาใต้กรอบแว่นนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังโกรธได้ที่เลย


จริงเหรอครับโน่”  มันถามขึ้นเสียงแข็ง


อ...อะไรผมถอยหลังไปเรื่อย ๆ


ไอ้โป้งมันบอกว่ามึงเลี้ยงเด็กไว้ที่ทำงาน ทำตัวสนิทสนมถึงขนาดกอดคอหอมแก้มกัน


ปึก!     แผ่นหลังผมชนเข้ากับผนังแล้ว  มันดักซ้ายขวาไม่ยอมให้ผมเลี่ยงไปทางอื่น


ค....คิม  ไม่ใช่นะ  นั่นน่ะไอ้บีบีไง  มึงก็รู้จักนี่


ไอ้เด็กที่ส่งรูปมึงมาให้กูเมื่อเช้าใช่ไหม


อื้อ


ถ้างั้นไม่เป็นไรกูรู้ว่ามึงไม่ได้จริงจัง”  ฝ่ามือใหญ่ชันเข้ากับผนัง ปิดทางหนีของผมไว้ทั้งสองด้าน  สายตาจ้องอยู่ที่รอยกัดที่ลำคอ มือข้างนึงยกขึ้นมาลูบที่รอยนั่นเบา ๆ


เรื่องไอ้โป้ง  มึงจะให้โอกาสมันใช่ไหม”  ถ้อยคำเบา ๆ ที่คงจะมีแต่ผมเท่านั้นที่ได้ยิน  มือใหญ่เลื่อนมาลูบไล้ที่ข้างแก้มอย่างอ่อนโยน


กูเลือกมึง  เคยบอกไปแล้วนี่


โกหกไม่เก่งเลยครับโน่  จะถามอีกครั้ง  จะให้โอกาสมันใช่ไหม ยอมให้มันกัดแบบนี้เนี่ย หืม


“..........”


สายตาที่จ้องมองมาเต็มไปด้วยความหวังที่รอคอยคำตอบ


“....อื้อ


ดีแล้วครับ  ดีแล้วที่ตอบแบบนี้ อย่าโกหกกระทั่งหัวใจตัวเอง พรุ่งนี้กูจะพามึงไปอยู่ในที่ของเรา มึงไม่ต้องทนอยู่ที่นี่อีกแล้ว


หมายความว่ายังไง


เรื่องสัญญาของมึงกับทางโรงแรม มันจัดการยกเลิกให้เรียบร้อย  มึงเป็นอิสระแล้วโน่


ผมมองไปที่ไอ้โป้ง อยากถามออกไปว่าสิ่งที่ไอ้คิมกำลังพูดอยู่นั้นจริงรึเปล่า  มันพยักหน้าให้เบา ๆ


ไปกับกูนะครับ  ไปอยู่ด้วยกัน


แล้ว....?”


เดี๋ยวกูตามไปไอ้โป้งเดินเข้ามาพูดด้วยถ้อยคำหนักแน่น มันผลักไอ้คนที่ยืนอยู่กับผมซะจนเซออกไปด้านข้าง


“เชี่ยโป้ง!”  เสียงไอ้คิมสบถด่ามันเบา ๆ ไอ้โป้งยกนิ้วเป็นเชิงห้าม แล้วหันมามองที่ผม กอดเอวผมไว้แน่น


"ไว้ใจกูนะ พวกมึงสองคนไปกันก่อน กูเคลียร์ที่นี่ทุกอย่างเรียบร้อย รอน้องปิ่นกลับมาดูแลเรื่องราวแทนกู กูจะตามพวกมึงไป  ไม่ว่าจะได้ยินข่าวอะไรขอให้มึงหนักแน่น และเชื่อใจกู  นะครับโน่


พอแล้วโป้งมึง   จะกอดอะไรมันนักหนา เอามือมึงออกไปเร็ว ๆ เลย”  ไอ้คิมเข้ามาแกะไม้แกะมือมันออกจากเอวผม


คิมมึงอย่าหวงมากนักเลย มึงกอดมันอยู่คนเดียวมาตั้ง 5 ปี  สึกหรอไปถึงไหนต่อไหน กูกอดแค่นี้ทำเป็นมาหวง....


โป้ง!  มึงพูดบ้าอะไรผมรีบเถียงแล้วเบี่ยงตัวออกไปอยู่ด้านหลังไอ้คิม


กอดบ้านมึงสิ กูไม่เคยได้ทำอะไรเลย ทรมานยิ่งกว่ามึงซะอีก นอนข้างมันทุกวันแต่จะทำอะไรมากกว่านั้นก็ไม่ได้ มึงคิดว่ากูต้องข่มใจตัวเองแค่ไหนไม่ทราบ ไอ้เชี่ยโป้งมึงไม่รู้จริงอย่ามาพูดดีกว่า


จริงเหรอวะคิม?!  มึง ฮะฮะ ตลกว่ะ ไม่ได้เรื่องเล้ย


ไม่ต้องมาหัวเราะกูเลยไอ้ห่า.......


ปล่อยให้พวกมันเถียงกันไปแบบนั้นแหละครับ ตอนนี้หัวใจผมพองโตมากแล้ว ความสุขของเรา 3 คนกำลังจะกลับมาอีกครั้งเพียงแค่ผมยอมเปิดใจ หลังจากผ่านอุปสรรคครั้งใหญ่มาได้


ผมได้แต่หวังว่าความสุขแบบนี้จะอยู่กับผมตลอดไปได้ ตราบใดที่มีมันทั้งสองคนอยู่เคียงข้าง ผมมั่นใจว่าเราจะก้าวเดินไปข้างหน้าโดยไม่กลัวอะไรอีกแล้ว ประสบการณ์ที่ผ่านมาสอนให้เราเติบโตขึ้น ไม่มีอะไรที่ผมต้องกลัว.......อีกแล้ว



....



...



...



แสงอาทิตย์คล้อยต่ำลงย้อมแสงสีส้มฉาบไปทั่วผืนท้องทะเลกว้าง ผมพลิกหน้ากระดาษบาง ๆ ของหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่งเปิดเข้าไปที่หน้าข่าวสังคม


ปิยนัท  เมธามินทร์ หนุ่มไฮโซสุดหล่อไฟแรงทายาทคนเดียวของ MT กรุ๊ป ปฏิเสธการแต่งงานกับไฮโซสาวสวยทายาทคนสุดท้องของตระกูล.....ซึ่งทำธุรกิจโรงแรมเช่นเดียวกัน


ละสายตาออกจากรายละเอียดในเนื้อข่าว



                ไว้ใจกูนะครับโน่ ไม่ว่าจะได้ยินข่าวอะไร ขอให้มึงหนักแน่นและเชื่อใจกู



เดือนกว่าๆ แล้วที่ผมย้ายมาอยู่ที่รีสอร์ทบนเกาะเสม็ดกับไอ้คิม  บรรยากาศเงียบสงบในตอนกลางวัน แต่กลับคึกคักขึ้นมาในเวลากลางคืน จะว่าไปก็ยังไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่


แต่ความเป็นส่วนตัวของที่นี่ ทำให้ชีวิตของพวกเรามีอิสระขึ้นมาก ชีวิตสบาย ๆ แบบไม่มีข้อแม้ ไม่มีใครคอยจับตามอง


ผมเลือกที่จะไว้ใจมัน เชื่อว่าไม่นานมันจะต้องตามพวกเรามา


แต่ไม่รู้ว่า........อีกนานแค่ไหน


มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ครับ


คิม”  มือหนัก ๆ โอบรอบคอผมไว้จากด้านหลัง พร้อมกับตัวคนที่นั่งลงบนผืนทรายซ้อนเอาตัวผมเข้าไว้


ดูข่าวนี้อีกแล้ว อ่านมาตั้งแต่เช้ายังอ่านไม่จบอีกเหรอครับ  คิดถึงมัน?”


อื้อ


โทรมาแล้ว


เอ๊ะ!


เดี๋ยวก่อน  เรื่องนั้นเดี๋ยวค่อยพูดนะ........”  มันจูบลงที่แก้ม แล้วโยกตัวผมเล่นเบา ๆ


ทะเลสวยเนอะ  ได้มานั่งมองกับโน่แบบนี้มีความสุขที่สุดเลยครับ” 


เท้าที่เปื้อนทรายของเราเขี่ยกันเล่นเบา ๆ เสียงเพลงจากผับหน้าหาดดังลอดเข้ามาแว่ว ๆ คลอเคลียไปกับบรรยากาศยามเย็นของลมทะเลอ่อน ๆ



........No matter what they tell us


No matter what they do


No matter what they teach us


what we believe is true.........



เออ   ว่าจะถามตั้งหลายวันแล้ว  นั่นรีสอร์ทใครน่ะผมชี้มือไปที่รีสอร์ทสร้างใหม่ที่อยู่ด้านข้าง


น่ารักดีอ่ะคิม ทำเป็นบ้านทรงไทยหลังเล็ก ๆ เมื่อกี้กูเดินไปดูมาเค้าลงต้นลีลาวดีเต็มเลย


ชอบเหรอครับลีลาวดีน่ะ”  มันท้าวคางลงที่ไหล่ โอบตัวผมไว้หลวม ๆ


อื้อ....ชอบที่สุด


รีสอร์ทเราก็มีจะไปดูของคนอื่นทำไม สั่งเข้ามาอีกสิครับ อยากได้อะไรเพิ่มก็สั่งเด็ก ๆ เค้าไป ที่นี่เป็นของ ๆโน่แล้วนะ  กลายเป็นอาซ้อแล้วยังไม่รู้ตัวอีก


เจ้าของเป็นใครอ่ะ ฝรั่งหรือคนไทย ไอเดียเก๋ดี กูชอบบ้านแบบนี้ว่ะ


เดี๋ยวเจ้าของเขามามึงก็ลองถามดูสิ ได้ยินข่าวว่าเจ้าของหนีงานแต่งมาจากกรุงเทพว่ะ จะมาถึงวันนี้ซะด้วย


เฮ้ย!  จริงอ่ะคิม นี่มัน.....


มันเลื่อนตัวมานั่งข้าง ๆ มือใหญ่อบอุ่นกอบกุมมือผมขึ้นมาอย่างอ่อนโยน  เสียงเพลงไพเราะดังคลอเคลีย......



……I can’t deny what I believe


I can’t be what I’m not

I know our love forever

I know , no matter what……..



แหวนทองคำขาวฝังเพชรเม็ดเล็ก ๆ ถูกสวมลงบนนิ้วนางข้างซ้ายอย่างบรรจง แล้วยกขึ้นมาจูบอย่างนิ่มนวล สายตาเราทั้งคู่สบกัน



อยู่กับกูไปจนถึงวันสุดท้ายเลยได้ไหมครับโน่


“...คิม....

…….No matter if the sun don’t shine


Or if the skies are blue

No matter what the end is

My life began with you……..



ผิวอุ่น ๆ ที่ลำคอรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาเมื่อรับรู้ได้ว่ามีอะไรบางอย่างแตะกระทบ  ผมหันไปมองที่ด้านหลัง


โป้ง!


มือที่สวมแหวนยกขึ้นจับสร้อยคอขนาดพอเหมาะที่ส่วนปลายห้อยจี้รูปหัวใจสองดวงซ้อนทับกันไว้


จากนี้ไปจะไม่ปล่อยมือนี้อีกแล้วครับ  จะอยู่เคียงข้างตลอดไปเลย 



จูบหนัก ๆ ที่หลังคอช่างทำให้หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก


“....โป้ง.....


ครับ  มาแล้ว.....แล้วก็จะไม่ไปไหนอีกแล้ว จะอยู่ข้าง ๆ โน่ตลอดไปเลย


ทั้งสองข้างของผมนั่งอยู่ด้วยคนที่ผมรักทั้งสองคน  คนหนึ่งโอบเอวผมไว้ อีกคนโอบไหล่ผมไว้ มือสองข้างของผมถูกกอบกุมไว้ด้วยมือใหญ่ที่ทั้งเย็นและอุ่น


เรา 3 คน นั่งทอดสายตามองไปที่สุดปลายฟ้าตัดกับผิวน้ำทะเล ดวงอาทิตย์คล้อยตกลงแล้วแต่ยังมีแสงสีส้มโผล่พ้นขอบน้ำอยู่ ลมทะเลโบกพัดจนรู้สึกหนาวผิวกาย  หากแต่...หัวใจทั้ง 3 ดวงยังคงอบอุ่นอยู่ภายใต้ลมทะเลและเกลียวคลื่นที่ก่อตัวขึ้นอยู่เสมอ


……I can’t deny what I believe


I can’t be what I’m not

I know this love’s forever

That’s all that matters now

No matter what…….



No matter what 

No, no matter That’s all that matters to me.







***************************************************





*จริงๆแล้วเรื่องนี้ตอนนั้นโดนเราเขียนตัดจบไว้แค่นี้  แต่ ณ ตอนนี้ เราอยากจะเขียนตอนพิเศษต่อออกมาอีกเรื่อยๆ แต่ว่าแต่ละตอนคงต้องนานหน่อย เพราะอีกสองเรื่องเราก็ใช้เวลาว่าง ๆ อารมณ์ดี ๆ ถึงจะเขียนออกมาได้เช่นกัน  

*ขอบคุณที่อ่านกันมาจนจบ ถ้าคิดถึงก็แวะมาหาโน่ โป้ง คิม ได้เหมือนเดิมนะ(กับตอนพิเศษยาวหวานปนขม อิอิ รออ่านๆ)


* ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ..........ขอบคุณมากจริง ๆ