Wednesday, June 25, 2014

ดอกฟ้ากับหมาวัด (Out Of Reach) # 11 คำใบ้ของพี่เอย์





#11 คำใบ้ของพี่เอย์  >///<



ทำไมจู่ ๆ ฝนถึงตกลงมานะ

ผมรีบจอดมอไซด์ให้เข้าที่จากนั้นวิ่งตัดเข้าไปในตัวตึกใช้สองมือบังศีรษะนิด ๆ  ดีนะฝนแค่โปรยลงมานิดเดียว ช่วงนี้ฝนฟ้านึกอยากจะตกก็ตกไม่มีวี่แววเลย แย่จริง ๆ

เงยหน้ามองดูตัวเลขเปลี่ยนชั้นในลิฟต์ที่กำลังเคลื่อนตัวขึ้นไปเงียบๆ ผมไม่ได้แวะมาที่ห้องพี่เขาสองวันแล้ว แต่เชื่อเหอะถึงผมหายไปเป็นอาทิตย์ห้องคุณชายก็ไม่มีอะไรรกขึ้นมาหรอกครับ นั่นน่ะเขาเจ้าแห่งความสะอาด พี่เอย์ไม่เคยรื้อของมั่วซั่ว ขนมของกินเล่นหรือน้ำอัดลมแบบเป็นกระป๋องจะนั่งทานอยู่แต่ข้างนอกเท่านั้น ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่ผมจะเห็นซองขนมหรือกระป๋องที่จะทิ้งวางอยู่ภายในห้อง

“พี่เอย์ครับ” ผมเดินเข้าไปเคาะเรียกหลังจากเปิดเข้ามาในห้องนอน มันนั่งอยู่หน้าเครื่องแมคยิ้มแป้นเลย มิน่าแหละวันนี้ฝนถึงตก แอบสงสัยเหมือนกันนะมันกำลังเล่นเว็บอะไรวะผมเลยเดินเข้าไปดูแต่คุณชายไวมากผมเห็นมันไล่ปิดเว็บแล้วทำท่าทางพิรุธโคตรชัดเจนเลย

“หิวแล้ว” มันพูดพร้อมหมุนเก้าอี้ออกจากจอ หันมาทางผม

“พี่อยากกินอะไรอ่ะครับ” ผมถามมันแต่สายตามองไปที่หน้าจอ ซึ่งตอนนี้สกรีนเคลียร์มาก มันทำเสียงจิ๊จ๊ะในคอด้วยนะเหมือนคนโดนขัดใจอะไรบางอย่างผมรู้เลยว่าเมื่อกี้คือพี่ท่านทำอะไรสักอย่างแหง ๆ

“กระเพรากุ้งดีไหมครับ หรือจะเอากุ้งผัดน้ำพริกเผา”

“เอามะเขือเทศเย็น ๆ ”

“ครับ ๆ มะเขือเทศ แล้วข้าว?” พี่เอย์ชอบกินมะเขือเทศลูกใหญ่ ๆ ต้องของออสเตรเลียด้วยนะ ไปซุปเปอร์ทีไรมันจะให้ผมซื้อมาตุนไว้ให้ทุกที คุณชายชอบให้ฝานแช่เย็นไว้ให้ เห็นว่ากินแล้วสดชื่นเวลาอ่านหนังสือดึกๆ

“จะไปกินข้างนอก”

“ไปกินกับใคร” ผมยักยิ้มแกล้งถาม ย่อตัวคุกเข่าลงที่พื้นจ้องหน้ามัน

“คนเดียว แต่มึงต้องไปขับรถให้กู พอถึงร้านก็นั่งรออยู่ด้านนอกกูจะเข้าไปกินคนเดียว” หืมม พูดจาแปลก ๆ ไหงสู่ขอกันแล้วทำไมพูดจาแบบนั้นวะ ชิช๊ะ คุณชายเขินอ่ะดิ๊ ~

“ใจร้ายว่ะ” แน่นอนครับผมแกล้งทำเสียงงอน ทำใบหน้ากระเง้ากระงอด เพื่อรอคุณชายก้มลงมาง้อ แนบแก้มลงบนโต๊ะมองหน้าอ้อนมัน

“จิ๊! น่ารำคาญชวนมึงด้วยก็ได้”

ของมันแน่อยู่แล้วครับ ถ้าผมทำท่าทางอ้อนๆมันทีไรไอ้คุณพี่เอย์แพ้ทางผมทุกทีเหอะ มันชอบพูดว่าผมน่ารำคาญใช่ไหม แต่ถ้าผมไม่ไปด้วยนะ เชื่อเหอะเรื่องใหญ่มากกว่าคำว่าน่ารำคาญของมันอีก




เย็นวันนั้นเลยเป็นบุญปากอีกวันของผมรึเปล่าก็ไม่รู้นะ คือพี่เอย์ผมพาไปกินอาหารฝรั่งหรูหรา  ผมที่ใส่กางเกงสแล็คเด็กเทคนิคกับเสื้อคอกลมสีเขียวขี้ม้าคล้าย ๆ ของพวกเด็ก ร.ด. นั่นแหละครับคุณมองภาพออกไหมนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารหรู ๆ มีผ้าเช็ดปากสีขาว ๆมีแก้วไวน์ทรงสูงขาเรียว ๆ และสองข้างของมือผมเต็มไปด้วยมีดส้อมช้อนเล็กช้อนกลางช้อนใหญ่ช้อนซุปห่าอะไรก็ไม่รู้ ทำเอาผมเซ่อไปเลยว่าจะหยิบจับอะไรใช้กับอันไหน  แต่ผมนี่ก็อึดใช้ได้เลยนะทนนั่งกินอยู่กับมันเกือบชั่วโมงอ่ะ

“เป็นอะไรของมึง ดูทำหน้าซิ” พี่เอย์ถามขึ้น

ขากลับมันเปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นคนขับ ผมเลยต้องมานั่งอยู่ข้าง ๆ แทน ตอนนี้เราสองคนกำลังผจญกับการจราจรที่แสนโหดร้ายของเมืองหลวงแห่งนี้

 “ผมไม่ชอบเลยว่ะพี่ คือไอ้ร้านที่พี่พาไปกินน่ะ ไม่ไปอีกได้ไหมครับ”นี่คือผมกำลังจริงจังเลยนะ

“ทำไม มึงไม่พอใจเรื่องอะไร” พี่เอย์ตีไฟจอดรถลงที่ข้างทางเลย มันคงเห็นผมทำหน้าซีเรียสแบบมาก ๆ คือผมก็เกรงใจมันอยู่นะ ก็รู้ว่าอยากจะพาไปกินอะไรดี ๆ แต่คือมันไม่ใช่ผมอ่ะ ผมโคตรอึดอัดเวลาที่มันพาไปกินอะไรแบบนี้

“อาหารเขาไม่อร่อยเหรอ กูว่าก็ใช้ได้อยู่นะ”

 “เปล่าครับไม่ใช่แบบนั้น ตรงๆเลยนะพี่ คือผมกินไม่เคยอิ่มเลยอ่ะ อะไรก็ไม่รู้ทำเป็นก้อนเล็ก ๆ ชิ้นเล็ก ๆ มาให้ มีมีดมีส้อมมีช้อนสารพัดแบบ คือผมอยากกินข้าวอ่ะ ผมหิวข้าวไม่ได้หิวไอ้อาหารก้อนเล็ก ๆ ตักคำเดียวก็หมดแบบนั้น” ผมว่าหน้างอ ร่ายยาวไปเลยคืออยากให้มันรับรู้ไว้ว่าร้านแบบนี้นาน ๆ เราค่อยมาทีได้ไหม คือผมไม่ปลื้มอ่ะง่าย ๆ

“แล้วทำไมเพิ่งมาบอก ทำไมไม่บอกกูตั้งแต่ที่นั่งอยู่ในร้าน” มันส่ายหัวตีไฟเพื่อเคลื่อนตัวรถแทรกออกไป พี่เอย์เปลี่ยนมาใช้ทางด่วน เหยียบเร็วมาก

“ก็อยากจะบอกอยู่หรอก แต่คิดว่าพี่คงจะชอบไงแล้วร้านแบบนั้นมันจะมีข้าวสวยเหรอ คือผมอยากจะกินข้าว  กินผัด กินแกง กินต้มอะไรแบบนั้น ไม่ใช่ไอ้อาหารที่มันเป็นก้อนๆแล้วก็หยอดพวกครีมอะไรมาจึ๋งนึง”

“มึงก็เลยตามใจกูปล่อยให้กูสั่งทั้งที่ไม่ชอบก็ทนฝืนกิน  คิดว่ากูจะดีใจที่มึงยอมตามใจงั้นดิ”

“ก็เด่ะ” ผมพยักหน้าหงึก ๆก็ถูกส่วนนึงนะที่พี่เอย์พูดแต่คือผมคิดว่าร้านแบบนั้นคงมีแต่พวกขนมปังอาหารฝรั่งที่อุดมไปด้วยนมและเนยคุณรู้ไหมขนาดซุปผมยังกินไม่ค่อยเป็นเลย พี่เอย์เงียบไปเลยตั้งแต่ตอนนั้นไม่นานเราก็มาถึงคอนโด

“รีบขึ้นไปทำผัดกระเพราเผากุ้งให้กูกินที  กูเองอาหารแบบนั้นเดี๋ยวนี้ก็กินไม่ค่อยอร่อยแล้วเหมือนกัน”

“ไม่ไปอีกได้ไหมพี่ร้านแบบนั้น”

“แต่ร้านแบบที่มึงชอบกูก็กินไม่ค่อยเป็นเหมือนกัน”

“ถ้างั้นต่อไปผมจะเป็นคนทำอาหารให้พี่ทานเอง ผมก็กินได้พี่ก็กินได้แบบนั้นจะดีกว่าไหมครับ” เราสองคนอยู่กันในลิฟต์

“ต้องกินฝีมือมึงทุกวันน่ะเหรอ” ทำไมพี่เอย์ทำหน้างั้นวะ ฝีมือผมเป็นไงไม่ทราบ ก็เห็นกินหมดทุกครั้งนี่หว่า ผมเริ่มข้องใจนิด ๆ มันทำหน้าเหมือนคนนึกๆอะไรสักอย่าง

“ใช่แน่นอนสิ แต่เฉพาะวันที่ผมมาหรอก” อะไรวะพี่เอย์แม่ง เราเป็นแฟนกันแล้วไม่ใช่รึไง ทำท่าอย่างกับไม่อยากให้ผมทำข้าวให้ทานอย่างงั้นแหละ

“พี่?”

“..............” พี่เอย์ไม่ตอบอะไร มองผมเหมือนคนกำลังหนักใจอะไรสักอย่าง ผมนี่ใจแป้วเลยนะ

“พี่เอย์ครับ?”


“แบบนี้กูก็อ้วนแย่อ่ะดิ”


อ่ะโด่ววววววววววว  คึคึ  ผมฉีกยิ้มจนหน้าบาน เกาะเอวมันดันๆซุกๆออกไปนอกลิฟต์ มันทำเสียงเหมือนคนรำคาญผมอีกแล้ว ผมเลยคิดว่ามันไม่ชอบให้เกาะ แต่พอชักมือออกแค่นั้นล่ะพ่อคุณเอ้ยหันขวับมามองหน้าผมเลย ผมก็งงสิ หน้ามันงอแถมไม่ยอมเดินต่อ หยุดกึ๊กอยู่ตรงนั้น เป็นคนอื่นอาจจะไม่รู้หรอกว่ามันเป็นอะไรแต่ผมคนนี้รู้แล้วล่ะครับ

ผมมองหน้ามันแล้วยื่นมือข้างที่ผูกเชือกสีชมพูที่มันซื้อให้นั่นแหละ ออกไปวัดใจกันไปเลย ดูว่ามันจะยอมส่งมือออกมาไหม นับ หนึ่ง สอง สาม คุณชายเอย์ตั้นครับผมใจคอไม่ดีแล้วนะทำไมยืนมองหน้าผมนานจัง ยังมีอะไรต้องคิดมากมายอีกหรือไงเมื่อวันอาทิตย์ยังพูดกับผมเสียขนาดนั้น ตอนนี้เราต้องเป็นแฟนกันแล้วดิ มือผมที่ค้างอยู่กลางอากาศกำลังจะกินแห้วแน่แล้ว ขณะที่ผมนับในใจจนเกือบจะถึงสิบมือใหญ่และเย็นของพี่เอย์ก็ยื่นมาคว้าเอามือผมไปบีบไว้แน่น เราสองคนค่อย ๆ เดินไปตามทางก่อนจะถึงประตูห้องทั้งที่ยังจูงมือ พี่เอย์ไม่ได้พูดอะไรเลยแต่มือเริ่มอุ่นขึ้นแล้วผมหันไปมองหน้ามันขณะที่เราเดินมาถึงหน้าประตูพอดี

“พี่เ-

“กูตัดสินใจถูกต้องที่สุดแล้วที่เลือกซื้อคอนโดห้องริมแบบนี้”

มันคืออะไรกันวะ ผมขมวดคิ้วนิด ๆ กำลังทรานส์คำพูดมันอยู่ “คืออะไรอ่ะพี่” ถามไปเลยดีกว่า แปลไปก็ปวดหัว

“ก็เพราะระยะทางจากลิฟต์มาถึงห้องกูมันต้องเดินไกลที่สุดเลยไง”

หูยยยยยยยยไอ้คุณช้ายยยยยนี่มันกำลังหมายความว่าเราสองคนจะได้เดินจับมือกันนานๆอะไรเทือกนั้นรึเปล่าวะ นี่ผมเองก็เดานะ แต่หน้าพี่เอย์นี่ขึ้นสีเลย

“พี่เอย์จะกินผัดกระเพรากุ้งใช่ไหมงั้นเดี๋ยวผมทำเลยนะ”

“อือ”

“พี่เอย์ครับ”

“อะไร เดี๋ยวกูก็จะเข้าไปอาบน้ำเหมือนกัน มึงก็รีบไปทำสิ”

“พี่ก็ปล่อยมือผมสิครับ ไหนว่าจะไปอาบน้ำจับไว้แบบนี้หรือจะไปช่วยผมทำเหรอ” ผมพูดแค่นั้นแหละครับคุณชายรีบสลัดมือผมออกทันที “บ้าสิ กูแค่ลืมเฉย ๆ เหอะ”

“แน่ใจนะว่าแค่ลืม ไม่ใช่รู้สึกดีจนไม่อยากจะปล่อยเหรอ” ผมล้อมันเลยเจอโบกหัวกลับมาเบา ๆ ก่อนจะเดินเลี่ยงเข้าห้องไป

ผมล้างไม้ล้างมือให้สะอาดสวมผ้ากันเปื้อนไอ้ถูก ๆ สีเขียวลายหมีน้อย ของผมนั่นแหละครับ ยังไม่ได้ซื้อใหม่อะไรหรอกผืนนี้ยังใช้ได้ก็ใช้ไปเถอะเนาะถูกแพงไม่เห็นจะสำคัญเลย

ผมทำกระเพรากุ้งกับไข่เจียวฟูฟ่องโดยไม่ลืมน้ำแกงจากซุปมิโซะง่าย ๆ แค่กดน้ำร้อนใส่เราก็ทานควบคู่กับอาหารได้เลย อันนี้รู้มาจากพี่เอย์ตอนไปซื้อของด้วยกันผมเห็นมันหยิบบอกว่าจะเอา พอลองเอามาทำดูอร่อยดีนะครับ ไม่ต้องไปเสียเวลาทำแกงจืดยาก ๆ กรณีที่เรามีเวลาน้อย

พี่เอย์อาบน้ำเสร็จเดินออกมาแล้ว ชุดนอนขายาวแขนยาวสไตล์คุณชายยังเรียบร้อยดูดีเหมือนเดิม มีผ้าเช็ดตัวสีขาวพาดคอออกมาด้วย มันคงสระผมเพราะเห็นเดินไปยืนเช็ด ๆ อยู่ริมผนังกระจกคงชมวิวแม่น้ำแบบที่มันชอบนั่นล่ะนะ

“ปิง”

“ครับ” ผมมองไปตามเสียงเรียก ตอนนี้อาหารเสร็จแล้วกำลังเก็บเช็ดอยู่

“วันหลังกูจะพามึงไปตรงโน้น” พี่เอย์ชี้ออกไป

“นั่นคือที่ไหนพี่” คุณนึกออกไหม คือผมยืนอยู่ในครัวไง ผมไม่เห็นจุดที่มันกำลังชี้หรอก พี่เอย์ยังยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

“มึงจะรู้เอง ไว้ตอนที่มึงนั่งอยู่ตรงนั้นเราสองคนจะมองมาที่ห้องนี้ด้วยกัน”

คุณเชื่อไหม.....พี่เอย์เป็นคนไม่ค่อยพูดมากนะ แต่คำพูดของมันแต่ละครั้งนี่ ทำไมโคตรกินใจผมเลยวะให้ตายเหอะ  พี่เอย์หันกลับมาแล้ว มันเดินเข้ามาทำท่าเหมือนหาของอะไรบางอย่างอยู่ใกล้ ๆ ผม

“พี่จะให้ผมฝานมะเขือเทศไว้ให้ไหมครับ ที่เราซื้อมาวันนั้นมันเหมือนจะสุกมากไปแล้วนะ ผมว่ากินวันนี้น่าจะกำลังดี”

“เอาดิ แช่ตู้เย็นไว้นะดึกๆเดี๋ยวกูเอาไปกินตอนอ่านหนังสือ”

ผมก็จัดการเปิดตูเย็นหยิบมะเขือเทศลูกโตออกมาล้างๆให้สะอาด รู้สึกแปลกๆเหมือนกันแม่งพี่เอย์เป็นอะไรของมันวะ เดินวนอยู่ด้านหลังผมนี่แหละ ผมหันซ้ายก็เจอมันพอหันขวาก็เจออีก มันกำลังหาอะไร??

“พี่หาอะไรอ่ะครับ” ผมถาม

“เปล่า”

เปล่าแต่ยังเดินหยิบโน่นจับนี่วนหลังผมอยู่ไม่หยุด

“หาอะไรถามผมได้นะ”

“เปล่านี่ กูไม่ได้หา”

แปลกคน คือคุณชายเดินวน ๆ ทำเป็นจับ ๆ วาง ๆ อยู่แถว ๆ ด้านหลังผมท่าทางแปลก ๆ

“เฮ้ย!! อะไรของพี่วะ  พี่มาจับก้นผมทำไม!!!


ผมสะดุ้งวาบหันไปแหวใส่ จ้องหน้ามัน ไอ้พี่เอย์แม่งกวนตีน

“กูจับตอนไหน ใช่เหรอทำไมกูไม่เห็นจะรู้สึกตัวเลย”

พี่เอย์แม่งเหี้ยยยย จับก้นคนอื่นแล้วพูดแบบนี้ มันไม่ใช่แค่ปัดผ่านหรือโดนแบบไม่ตั้งใจนะ คือมันบีบเลยหนึ่งที ผมต้องรู้สิก็ผมเป็นคนโดนทำนี่

“ทำหน้าแบบนี้อีกแล้วนะมึง คิดว่าทำแล้วน่ารักเหรอวะ ขี้เหล่เอ้ย”

“พี่แม่งแย่ว่ะ” ผมฝานมะเขือเทศทั้งที่หน้างอ ๆ แบบนั้นแหละ พอเสร็จก็ยัดจานเข้าตู้มันจะกินตอนไหนผมไม่สนแล้ว ตอนนี้คือโกรธงอน อะไรวะทำไมต้องมาบีบก้นกันด้วย

“โกรธทำไม  นี่กูกำลังจีบมึงอยู่เหอะ”  ห๊าา!!! มันพูดอะไรน่ะ ไอ้คุณชายประสาทใครเขาจีบกันบ้าบอแบบนี้วะ แบบนี้มันเข้าข่ายลวนลามแล้วแม่ง

“หวงตัวไปได้มึงเป็นผู้ชายแล้วให้กูจับตรงไหนล่ะ” อย่าๆ  อย่ามาทำเป็นงอน คนที่ต้องงอนมันคือกูคนนี้ต่างหาก

“พี่มันขี้โกง ห้ามมาแตะต้องผมอีกนะ” คงคิดว่าเราจูบกันแล้วพี่จะทำอะไรยังไงกับผมก็ได้ใช่ไหม ยังหรอก ยัง ทุกอย่างยังต้องตกลงกันอีกเยอะ!! บอกเลย

“งั้นให้กูไปจับของผู้หญิงคนอื่นแทนได้ใช่รึเปล่า” อย่ามาทำหน้าเหนือกว่าแบบนั้นนะโธ่เว้ย ไอ้พี่เอย์ วันนี้ผมเป็นไรวะตั้งแต่โดนมันจับก้นแม่งแพ้ทางมันตลอดอ่ะ

“พี่แม่ง ผมจะกลับแล้วนะ” ผมพูดตัดบท ถอดผ้ากันเปื้อนแขวนไว้ในที่ของมัน เจอคุณพี่เอย์ยกขาขึ้นตันทางไม่ให้ออกจากห้องครัว ผมเลยมองหน้ามัน

“พี่เอย์ ดึกแล้วพี่ ผมรีบ”

“กูกินคนเดียวไม่อร่อย”

แล้วคุณคิดว่าผมจะยอมไหม  ในที่สุดเราสองคนก็นั่งกินด้วยกันนั่นแหละครับ จริง ๆ ตอนแรกผมก็ทำเผื่อของตัวเองด้วยเหมือนกันแต่ที่บอกจะกลับเมื่อกี้คือไม่พอใจที่โดนมันจับก้นผมไง  ส่วนมันเอย์ตั้นจอมลามกก่อนกินข้าวไม่รู้อารมณ์ดีอะไรเดินไปเปิดเพลงเบา ๆ แล้วค่อยมานั่งลงข้าง ๆ กัน

“อะไรครับ” ผมเงยหน้ามองกำลังจะจ้วงช้อนแรกใส่ปากอยู่แล้ว ไอ้คุณชายมันจะเอาอะไรอีกวะจู่ ๆ ยื่นจานข้าวที่มีไข่ดาวสีเหลืองสวยโปะไว้ตรงกลางมาอยู่ต่อหน้าผม สายตามองไปที่ขวดซอสมะเขือเทศ ผมเลยพยักหน้าเข้าใจ ก็ลืมไปนิดๆนะว่าเวลากินไข่คุณชายชอบบีบซอสมะเขือใส่ด้วย  แต่คำพูดต่อจากนี้ต่างหากที่มันน่าตกใจ

“มึงจีบกูมั่งดิ่”  

“ห๊ะ!! จีบ?” ผมทวนคำอย่างดังเลย พี่เอย์พูดอะไรวะแม่ง จีบยังไง จีบแบบไหน ผู้ชายที่ไหนเขาจีบกัน เออพูดจาแปลก ๆ สายตามันยังจ้องที่ขวดซอสมะเขืออยู่ผมเลยหยิบขึ้นมาแบบงง ๆ ไอ้คุณชายนับวันโฟร์ดี

“เอารูปที่มึงคิดว่าสวยที่สุดนะ” มือผมชะงักค้างอยู่กลางอากาศ ขณะกำลังจะยื่นส่งขวดซอสไปให้ พี่เอย์พูดออกมาแบบนั้นแสดงว่ามันอยากให้ผมบีบให้ อ้อมันต้องการให้ผมจีบมันแบบนี้เอง แหม่ๆน้องเอย์อยากได้แบบนี้ก็ไม่บอก โอเคได้ๆ พี่ปิงจัดให้หนักๆเน้น ๆ เลยครับเอย์ทั้นพริ๊นซ์

หึหึหึหึ หน้ามันเริ่มบูดลงเรื่อย ๆ ขณะที่จ้องจานของตัวเองที่ผมบีบซอสใส่เป็นคำว่า สวยที่สุด ก็มันอยากบอกว่าให้ผมทำรูปที่คิดว่าสวยที่สุดผมก็เลยบีบคำนี้ให้ไง คึคึคึ เอย์ตั้นจะสู้หมาปิงได้ยังไง กร๊ากกกกก ไม่มีผู้ชายที่ไหนหรอกครับจะชอบให้ชมว่าตัวเองสวยที่สุด ฮิฮิ นึกแล้วตลก

ผมมองหน้ามัน เห็นมันนั่งกัดปากแน่นใบหน้านี่งอเชียว ดูๆไปเหมือนเด็กผู้ชายคุณหนูเอาแต่ใจตามโรงเรียนอนุบาลเลยว่ะ พี่เอย์แม่งตลก ผมเปลี่ยนมาบีบซอสใส่จานตัวเองบาง ตั้งใจทำเป็นรูปหัวใจอย่างสวยเลย เห็นมันมองหน้าตานี่บูดบึ้งลงอีก คิ้วขมวดจนจะเป็นโบว์อยู่แล้ว ผมกลั้นหัวเราะไว้ เจอมันยันโครมใต้โต๊ะมาทีผมนี่ขาแทบหลุดอ่ะ แต่สู้สิครับยันคืนไปเหมือนกันนะเรื่องอะไรจะยอม พี่เอย์นี่ท่าทางมันจริงจังเป็นบ้าเลย หน้าตาโกรธผมมากที่ไม่ยอมบีบซอสเป็นรูปตามที่มันคิด

คุณรู้ใช่ไหมว่ามันอยากให้ผมบีบเป็นรูปอะไร ใช่แล้วครับรูปหัวใจนั่นแหละ แต่เรื่องอะไรจะยอมทำตามง่าย ๆ แบบนั้นก็ธรรมดาดิ่ เวอร์ชั่นหมาปิงมันต้องเกรียนอิอิ  ผมใช้ความเร็วที่มีอยู่ในตัวสลับจานข้าวมันกับผม แล้วแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ตอนนี้จานมันเลยมีรูปหัวใจดวงเบ้อเริ่มวางไว้ ส่วนจานผมเสือกเป็นคำว่า สวยที่สุด ซะนี่ เออว่ะ ผมแกล้งมันเองก็ลืมเอง ไรวะคำนี้ไม่เห็นเข้ากับผมสักกะนิด

“ฮ่าๆๆๆ เหมาะกับมึงดีนี่หว่า ชอบเหรอจ๊ะคำนี้” ดู๊ดูมันถามทำเสียงน่าถีบเป็นที่สุดนี่ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นนายจ้างและรุ่นพี่นะผมเบิร์ดกะโหลกไปแบบเต็ม ๆ แน่แล้ว   คุณก็รู้นี่ผู้ชายแมนๆที่ไหนจะชอบให้ชมกันว่าสวยล่ะครับ ตอนนี้เป็นผมแล้วที่คิ้วขมวดส่วนท่านเอย์ตั้นนั่งยิ้มปริ่มอารมณ์ดีหน้าบานเป็นกระด้งขณะจ้วงข้าวใส่ปาก เราสองคนทานกันไปเรื่อย ๆ

“หมาปิง”

“อะไรครับ”

“ศุกร์นี้ไปเปิดบัญชีกันไหม มึงว่างหรือเปล่า”

“เปิดทำไมพี่” ผมกินเสร็จเรียบร้อยพอดีเลยลุกขึ้นรวบจานของเราทั้งคู่เดินไปล้าง ซิงค์ก็อยู่ใกล้ ๆ โต๊ะนั่นแหละ

“ต่อไปกูโอนเงินเข้าให้มึงเลยดีกว่า จะได้เงินเป็นก้อนเผื่ออยากใช้อะไรก็เบิกออกมาได้ บางทีคนที่บ้านมึงก็อาจจะช่วยเหลือเขาได้นี่”

ผมยืนมองหน้ามันนิ่งเลย คือพี่เอย์พี่ทำไมนึกถึงผมขนาดนั้นเลย คือผมซึ้งว่ะพี่ พี่พูดถึงคนที่บ้านนี่คือพี่นึกถึงแม่กับพี่ขมของผมใช่ไหม กลัวว่าถ้าหากที่บ้านเดือดร้อนจะไม่มีเงินเป็นก้อนมาใช้อะไรแบบนั้นเหรอ พี่เอย์ครับคือผมเกรงใจมาก น้ำใจของพี่ช่างประเสริฐนัก ผมคนนี้เกรงใจมากเลยครับพี่ เกรงใจ สุดโคตรจะเกรงใจ คึคึ

“เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเอาหมายเลขบัญชีมาให้เลยครับพี่ไม่ต้องไปเปิดใหม่ให้เสียเวลา กรุณาโอนเข้าให้ผมให้ตรงเวลาและเต็มจำนวนด้วย ถ้าตกหล่นแม้แต่บาทเดียวผมจะฟ้องร้องกรมแรงงานเป็นถึงคุณชายพูดแล้วห้ามคืนคำ ถวายบังคมพะยะค่ะ”

ผมแกล้งทำท่าเหมือนในหนังจีนร่ายคำพูดประหลาด ๆ  เห็นพี่เอย์นั่งขำจนปวดท้องนั้นแหละครับ เดี๋ยวนี้รู้แล้วดิ่ว่าผมพูดเล่นพูดจริงตอนไหนยังไง ผมล้างจานสองสามใบเสร็จจึงเดินเข้ามาหามันตอนนี้พี่เอย์เขาเปิดการ์ตูนนั่งดูอยู่นะ วันนี้มาแปลกคุณชายดูชินจัง


“พี่เอย์” ผมนั่งลงข้าง ๆ มันหันมามอง

“คือผมสงสัยว่ะพี่ ช่วยตอบผมนิดนึงนะ”

“อะไร”

“พี่ครับ ตกลงคือเราสองคนตอนนี้เป็นอะไรกันเหรอ”

“อะไรของมึง จู่ ๆ ถามอะไรมากมายอีกเนี่ย” มันเอาขาขึ้นมาขัดสมาธิ คือตอนนี้เรานั่งกันอยู่บนโซฟานะครับ พี่เอย์กอดหมอนอิงเอาไว้แล้วหันมามองหน้าผม

“ก็คำตอบของพี่มีผลต่อการตัดสินใจของผมนะ พี่ตอบมาก่อนดิ”

“ตัดสินใจเหี้ยไรของมึง”

“เอาเถอะน่าพี่ตอบมาเร็วดิ”

พี่เอย์นิ่งไปหน่อยนึง เหมือนมันกำลังชั่งใจหาคำตอบ มันถอนหายใจเบา ๆ เอื้อมมือไปหยิบแก้วน้ำ 

“อยากได้ยินว่าอะไรล่ะ”

 รัก  อะไรแบบนั้-

“พรวดดดดดดด อะ แค่กๆๆๆ”  เสียงไอแค่กๆๆ ดังออกมาจากมัน พี่เอย์สำลักน้ำจนเลอะเทอะไปหมด แค่ผมเอ่ยคำว่ารักออกมา ผมต้องรีบลูบหลังตบๆทุบ ๆ กว่าทุกอย่างจะเข้าที่

“พี่อ่ะ ไม่โรแมนติกเลยเหอะ” ผมบ่น

“แล้วมึงอ่ะ โรแมนติกมากเลยสัส แค่กูบีบก้นก็ยังไม่ได้ ”

“นั่นๆๆ ยอมรับแล้วดิว่าบีบก้นผม” ผมชี้หน้ามันทำหน้าเหมือนคนรู้ทัน

“ห้ามยิ้มนะหมาปิง มึงไม่มีสิทธิ์ยิ้ม”

“เรื่องดิ่  ผมอยากยิ้มผมก็ยิ้มอ่ะ” ยิ่งมันว่าผมยิ่งยิ้มยั่ว ยักคิ้วแถมนิด ๆ

“จิ๊! มึงมันน่ารำคาญ เวลามึงยิ้มนะโคตรของโคตรของโคตรความขี้เหร่ที่สุดในสามโลกหล้า อะไรที่ว่าชนะอันดับหนึ่งของความขี้เหร่นะ ยังต้องแพ้ให้มึงอ่ะ”  

เห้ยจริงอ่ะ ผมตาโตเลย จากยิ้มๆนี่หุบงับลงทันที ไอ้พี่เอย์แม่งพูดจาใช้ไม่ได้เลย  หน้าผมตอนนี้เลยกำลังจะพับเข้าหากันแล้วคือรู้แต่ว่างอมาก ๆ งอขึ้นเรื่อย ๆ

“คึคึคึคึ พอแล้วปิงมึงแม่ง หน้าตามึง กูขำ ฮ่าๆๆๆ ” พี่เอย์เส้นตื้นฉิบหาย

“ไม่หยุด ผมจะทำหน้าตาแบบนี้แหละ พี่จะทำไม” เอาดิ่ผมจะทำให้มันขาดใจตายไปเลย อยากมาว่าผมขี้เหร่ดีนัก ชิช๊ะถ้าผมขี้เหร่ขนาดมันว่าจริงแล้วใครกันที่มาบอกว่า อยากใช้เวลาอยู่กับมึงทุกๆวัน  ผมแกล้งทำเสียงกระแดะล้อเลียนมันอยู่ในใจ หน้าผมนี่คงไปตามความคิดนั่นแหละไอ้พี่เอย์เลยลงมะเหงกมาที่หัวผมทีนึง

“กูบอกให้หยุดทำหน้าอย่างนั้น”

“ไม่หยุด” คราวนี้ผมแถมเบะปากใส่มันอีกด้วย

“จะไม่หยุดใช่ไหม กูเตือนมึงแล้วนะ”

“ไม่หยุด” ผมแม่งก็ดื้อจริง ๆ

“กูมีวิธีทำให้มึงหยุดมึงเชื่อไหม”

“วิธีอะไร ทำแบบไหน”

“แบบนี้......

“เย้ยยยยยย!!!!! ไม่อ๊าวววว!! พี่แม่งขี้โกงเอาเปรียบลวนลาม ทุเรศที่สุด” ผมดันหน้าอกมันไว้เลย มีอย่างที่ไหนพูดแล้วเอียงหัวเข้ามาทำท่าเหมือนคนจะจูบผมแบบนั้น หน้ามันเลยชะงักอยู่ห่างจากปากผมนิดเดียว

เราสองคนสบสายตากัน คุณเชื่อไหม.....คราวนี้ทั้งพี่เอย์ทั้งผมเราปล่อยให้เวลาตอนนี้ค่อยๆเดินต่อไป ผมเหมือนถูกนัยน์ตาคมกริบที่จ้องลงมาดึงดูดเอาไว้  ระหว่างเราไม่มีใครยอมลงให้กันก่อนเลย ไอ้บรรยากาศบ้า ๆ แม่งจะโรแมนติกไปทำซากเหรอเหี้ย!  หน้าผมร้อนผ่าวไปหมดแล้ว

“ชอบดิ่ มึงอ่ะ”  เป็นพี่เอย์ที่พูดขึ้น ดึงผมให้ขยับสายตาออกจากดวงหน้าคม

“ไม่มีทางหรอก ”

“กูไม่เชื่อ วันนั้นมึงจูบตอบกูโคตรเชี่ยวอ่ะ ไม่เรียกว่ามึงชอบให้เรียกว่าอะไร”

“นะ...นั่น ตะ..ตอนนั้นร่างกายมันไปเองเหอะ”

“จิ๊! น่ารำคาญ” มันผละตัวออกแล้วทำเสียงคำรามในคอ  ผมถอนใจเฮือกใหญ่เลยใจผมเต้นดังมากจนคิดว่าจะหลุดออกมาอยู่แล้ว  รีบถอยห่างออกมาก่อน ทำไมวะผมไม่เข้าใจเท่าไหร่นะคือเวลาอยู่ใกล้ชิดมันทีไรผมแม่งไม่เป็นตัวของตัวเองอ่ะ

“ผมจะกลับแล้วนะพี่” ผมลุกขึ้น กลับหอไปนอนทำใจปรับอารมณ์ดีกว่า อยู่กับมันแม่งใจเต้นตุ๊มๆต่อมๆตลอดเหมือนคนบ้าแล้ว

“ช่างหัวมึงดิ”

“ไม่สนกันเลยจริงอ่ะ” สงสัยจะงอน  อย่าบอกนะว่าเมื่อกี้อยากจูบแล้วผมไม่ให้จูบมันเลยหน้างอแบบนี้ ผมคว้าเอากระเป๋าขึ้นมาสะพายเตรียมกลับ

“หมาปิง”

“อะไรครับ”

“มึงได้ยินข่าวไหม ช่วงนี้ผีมอไซด์ออกอาละวาด ผีมันชอบซ้อนมอไซด์คนขี้เหล่ตอนดึก ๆ  มึงจะค้างที่นี่ก็ได้นะกูไมไปส่งนะกูกลัวผี”

ไอ้พี่เอย์แม่งกวนตีนจนนาทีสุดท้ายจริง ๆ  ใครจะบ้าไปเชื่อมัน แล้วถามจริงเหอะเพิ่งโดนมันบีบก้นมาใครหน้าไหนจะไปโง่ค้างคืนกับมัน ผมรีบเดินไปสวมรองเท้าแล้วบอกลามันเลยเห็นมันเดินไปหยิบกุญแจรถกับคีย์การ์ดเลยถามว่าจะไปไหน มันบอก

ไปส่งหมา  ดู๊ดู ผมเลยบอกมันว่าไม่ต้อง เดี๋ยวจะกลับเองพรุ่งนี้จะโทรบอกอีกทีว่าจะได้แวะมาไหม แต่ในที่สุดคุณชายก็ลงมาส่งผมถึงรถมอไซด์นั่นแหละครับ


คืนนั้นผมกลับถึงหอไม่ดึกมากนะยังมีเวลาทำการบ้านกับงานเขียนโปรแกรมต่ออีกนิดหน่อย แต่พอหัวถึงหมอนเท่านั้นแหละ....


“อะไรของพี่วะ!!  พี่มาจับก้นผมทำไม!!!


ทำไมพี่เอย์ทำแบบนั้นวะ?  คือมันกำลังต้องการอะไร ผมเองก็พอจะรู้อยู่ว่าผู้ชายกับผู้ชายคบกันมันคือต้องอะไรยังไงแบบไหน แต่เอาจริง ๆ เลยนะผมว่ามันเร็วไปป่ะวะพี่  คือผมไม่เถียงผู้หญิงนี่คือสามอาทิตย์ช้าสุดสำหรับผม เพราะผมชอบคนแรง ๆแบบถึงใจ ผมไม่สนใจเรื่องพรมจรรย์อะไรนั่นหรอกเพราะคิดว่าหายากมากแล้วในยุคแบบนี้ แต่พอมาถึงทีของตัวเองคือผมกลุ้มใจ(ว่ะ)ครับ ทั้งผมทั้งมันเราผู้ชายทั้งคู่แมนๆ พี่เอย์ทำแบบนี้กับผม คือผมกำลังคิดว่าพี่กำลังต้องการบอกอะไรกับผมหรือเปล่า หรือนี่คือวิธีการบอกใบ้ของมันใช่ไหม ....

ว่ามันอยาก!








“ลูกพี่ปิง ทางนี้” เสียงไอ้บาสตะโกนเรียกผมอย่างดังทันทีที่ผมจอดรถมอไซด์ลงข้างสนามบอลที่เก่าเวลาเดิม ดูมัน มันโบกไม้โบกมือเรียกให้ผมเข้าไปหาไว ๆ อีกต่างหาก กว่าจะช่วยแม่เก็บร้านเสร็จวันนี้ผมเลยมาเลทไปนิด

“ลูกพี่!” ดู๊ดูมันยังเรียกอยู่ไม่ยอมหยุดจนผมต้องแจกนิ้วกลางส่งไปนั่นแหละถึงหยุดได้ ผมเปลี่ยนรองเท้าก่อนเป็นอันดับแรกคือผมแขวนสตั๊ดมากับรถนะครับใส่แตะขับมาเลยต้องก้มลงเปลี่ยน พอเสร็จก็วอร์มอัพก่อนนิดหน่อยจากนั้นไอ้วุฒิมันแท็กมือเปลี่ยนตัวออกมาผมจึงเข้าไปเล่นแทน

“เหนื่อยว่ะพี่” เสียงไอ้บาสมันบ่น

“กูไม่เห็นจะเหนื่อย” พวกเราสองคนเล่นกันจนเสร็จ ผมกับมันเลยออกมานั่งกันอยู่ข้าง ๆ สนามเหมือนเดิมโดยมีไอ้กืกวุฒินั่งรออยู่ก่อนแล้ว มันยื่นน้ำให้ผมกับหมาบาสคนละขวด แม่งน่ารักมากน้ำเย็นเจี๊ยบสงสัยขับรถออกไปซื้อมาแหง

“เมื่อวานพี่ปิงไม่มา”

“เออเมื่อวานกูไปทำงานไง”

“ที่ห้องคุณเอลิซ่าน่ะเหรอ”

ไอ้บาสมึงพูดขึ้นมาก็ดีเลย เดี๋ยวจะชี้แจงแถลงไขวันนี้ให้จบ ๆ ไปมึงจะได้เข้าใจสักทีว่าพี่เอย์ไม่ใช่ผู้หญิงแต่เป็นผู้ชาย

“พวกมึง” ผมทำท่าสุม ๆ หัวกันลงไป “ฟังกูดี ๆ นะสงสัยให้ถามแต่ก่อนอื่นจงฟังกูก่อนกูมีเรื่องสำคัญจะบอก” พวกมันคงหูผึ่งรีบก้มลงสุมหัวเพื่อฟังผม

“พี่เอย์เจ้านายกูเขาเป็นผู้ชาย ไม่-ใช่-ผู้-หญิง

“ห๋าาาาาาา!!!!!!!!” พวกมันสองคน ห๋า พร้อมกันอย่างยาว คือมันจะทำหน้าตกใจเหมือนเห็นช้างออกลูกเป็นลิงทำไมกันวะ เออผมก็งงนะ เลยพลอยทำหน้าแบบนั้นไปกับมันด้วย

“พวกมึงเป็นเหี้ยไรกัน”

“ก็ไหนลูกพี่บอกว่าตกหลุมรักคุณพี่เอย์อะไรนั่นไง แล้วยังไงอ่ะ โกหกอ่ะดิ่”

“เปล่า ไม่ได้โกหก นี่คือกูกับพี่เอย์คบกันแล้วเว้ย”

“ห๋าาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!” พวกมันสองคน ห๋า พร้อมกันอีกเป็นครั้งที่สอง คราวนี้ยาวกว่าครั้งแรกนิดนึง

“ปิงมึงพูดดี ๆ เอาจริง ๆ” ไอ้วุฒิเพิ่งมีบท

“ก็เออจริงอ่ะดิ คบกันแล้วนิดๆ” ผมบอก

“อะไรคือนิด ๆ”

“กูก็กลุ้มใจอยู่เนี่ย แต่เดี๋ยวกูจะถามพวกมึงก่อน กูเป็นแบบนี้แล้วพวกมึงยังจะคบกับกูต่ออีกไหมยังไง บอกมาตามตรงถ้ารังเกียจกูคือจบได้กูไม่ว่า แต่ถ้าหากทุกอย่างของเรายังเหมือนเดิมเราคือเพื่อนกัน มึงห้ามเอาเรื่องกูไปนินทาทั้งต่อหน้าและลับหลัง เราสามคนจะเป็นเพื่อนกันไปจนวันตาย”

“นี่กูต้องลุกขึ้นยืนทำความเคารพมึงป่ะวะไอ้เหี้ยปิง จริงจังหน่อยพวกกูรอฟังอยู่เนี่ย”

“มึงก็ตอบกูก่อนดิ รังเกียจกันรึเปล่า”

“ลูกพี่ถามแบบนี้โคตรจะดูถูกพวกผมเลย เสียใจว่ะ” ไอ้บาสแม่งจะทำงอนสร้างดราม่าหาพ่องมึงเหรอกูกะจะทำให้มันขำอยู่เนี่ย

“ถ้างั้นฟังนะกูมีเรื่องที่ปรึกษาใครไม่ได้แล้วมาปรึกษาพวกมึง” ผมกระซิบ คือผมก็ไม่เข้าใจจะกระซิบทำไมนั่งกันอยู่แค่สามคน

“เรื่องคือ?” ไอ้กืกวุฒิมึงแม่งทำท่าอยากรู้ผิดคาแรคเตอร์ไปหน่อยนึงนะ มึงต้องนั่งเงียบ ๆ สิ หมาบาสต่างหากที่ต้องเป็นคนซักกู

“ผู้ชายกับผู้ชายแม่งเอากันแบบไหนวะ”

“ห๋าาาาาาาาาาาาา!!!!!!!!” ครั้งที่สามแล้วที่มันพร้อมเพรียงกันห๋า

“นี่แหละทำกูโคตรกลุ้มเลย รู้สึกนิด ๆ แล้วด้วยว่าพี่เอย์เขาว้อนท์

“ไม่ต้องห๋าแล้วพวกมึง” ผมรีบท้วงขึ้นมาก่อนที่พวกมันจะห๋าพร้อมกันเป็นครั้งที่สี่

“คิดดีแล้วนะมึงไอ้ปิง / ลูกพี่ปิงตัดสินใจแน่นอนแล้วนะ” หมาสองตัวพูดขึ้นพร้อมกัน ผมเลยตีคิ้วให้มันเอาแบบโคตรกวนตีนกันไปเลย

“ผมรู้ๆ” ไอ้บาสพูดเหี้ยไรขึ้น ผมนี่หูผึ่ง

“ผมมีอะไรดีๆจะให้ลูกพี่ดู พรุ่งนี้ไปหอผมตอนเย็นเรางดบอลไปดูอย่างอื่นกัน คึคึคึ”

พวกผมอมยิ้ม ไอ้บาสมึงแม่งยอดเยี่ยมรู้งานดีจริง ๆ คืนนั้นพี่เอย์โทรมาทำท่าหาแก้วน้ำไม่เจอ ประจำเลยคุณชายอยากโทรหาผมทำแกล้งว่าหาโน่นนี่นั่นไม่เจอ กว่าจะวางต้องทะเลาะกันแขวะกันจนมันพอใจ ผมเลยบอกไปว่าพรุ่งนี้ไม่ได้ไปอีกจะไปอีกทีโน่นเลยวันเสาร์ พี่เอย์ก็เออๆไปตามเรื่อง ท่าทางจะง่วงมากผมเลยรีบตัดสายกลัวว่ามันจะหลับคาโทรศัพท์ไปก่อน







“อ๊ะ...อ๊าาาา...โอ๊ววว...อู๊ยยยยย...โอ๊วส์....อ๊ากกกกก....โอ๊ยยยยยยย....อื๊ออออออออออ”

เสียงนักแสดงชายทูชายในจอโทรทัศน์กับสีหน้าแสดงความเจ็บปวดถึงขีดสุด ทำเอาผมหน้าเหวอขึ้นเรื่อย ๆตามเสียงครางที่ดังมาจากหน้าจอ วันนี้คือวันที่เราสามคนนัดกันมาที่ห้องไอ้บาส มันโหลดบิทหนังเกย์ไว้แม่งตรึม ผมถามไอ้บาสมึงเป็นป่ะวะ มันบอกไว้ดูเป็นความรู้ ใครเชื่อมันก็บ้าแล้ว

เสียงครวญครางจากหน้าจอยังคงดังต่อไปไม่หยุด ผมหันไปมองไอ้หมาสองตัว ไอ้วุฒิแม่งนั่งตั้งอกตั้งใจดูฉิบหายส่วนไอ้บาสมันคงดูจนเบื่อแล้วหน้าตาเลยเฉย ๆ เหมือนเห็นเป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมนี่สิ หน้านี่คือเหวอแบบสุดที่จะเหวอแล้ว ตาเหลือกๆปากเหวอๆ สมเพชตัวเองว่ะ

“ไงลูกพี่ชอบอ่ะดิ๊~” ดู๊ดู ดูมันถาม

“สัสบาส มึงเด่ะชอบ เหี้ยแม่งชอบไปคนเดียวเหอะ”

“อ้าวไหนว่าอยากรู้ว่าเขาทำกันยังไงผมก็เอามาให้ดูนี่ไง”

“มึงลดเสียงหน่อยดิวะข้างห้องจะได้ยินป่ะเนี่ย” ผมนึกได้เริ่มหันหน้าซ้ายหันขวา แม่งเสียงไอ้ฝ่ายรับในทีวีก็ร้องซะอย่างดัง

“ไม่ได้ยินหรอก พี่ตั้งใจดูเหอะจำ ๆ ไว้เวลาทำจริง ๆ จะได้มีหลาย ๆ ท่า โอ๊ยยย!!” ผมสับมะเหงกมันโทษฐานพูดมาก แม่งคนกำลังตั้งใจดู ทำไงกูจะอินวะเหี้ยเอ้ย เคยคิดว่าอยากลองกับผู้ชายน่ารักตัวเล็ก ๆ แต่พอดูเข้าจริง ๆ ผมพูดตรง ๆ อารมณ์หดหายทำไมไม่เหมือนตอนที่จูบกับไอ้คุณชายเอย์เลยวะ ตอนนั้นแม่งพีคขึ้นทุกสัดส่วนอ่ะ ผมเพ่งมองในจออีกครั้งหน้าตาไอ้ฝ่ายรับก็โอ๊ยยย มึงเจ็บมากป่ะวะกูถามจริง

“กูรันทดแทนฝ่ายรับฉิบหายเลยว่ะ น่าสงสารร้องเสียงดังขนาดนั้นคงจะเจ็บปวดน่าดู” ผมนั่งกอดหมอนพูดไปเรื่อย ตอนนี้ถึงขนาดเอาฟันกัดขอบหมอนไปด้วยแล้ว คือแม่งไอ้ผู้ชายสองคนในทีวีมันบ้ามันทำอะไรกันวะผมก็อายนะ

“มันเสียวไงเขาเลยร้อง ไม่ใช่ว่าเจ็บหรอก” เสียงไอ้บาสไอ้หมาแสนรู้

“ไอ้เหี้ย มึงรู้ได้ไง” ผมหันขวับเลย

“พี่ก็ดูหน้าเขาดิ่ หน้าโคตรฟินเลยไม่เสียวแล้วให้คิดว่าเขาเป็นอะไร ดูๆนั่นเห็นไหมๆ ทั้งร้องทั้งสูดปากเลย ดูหน้าเขา  พี่ปิงดูหน้าเขา หน้าแบบนั้นเขาเรียกเสียวและรู้สึกดี”

ผมหันไปมองหน้าไอ้บาสแบบสงสัยมันนิดหน่อยแม่งบรรยายซะจนผมคิดว่ามันเคยทำเองมากับมือเลยนะเนี่ย พวกผมก็ดูๆกันไปประมาณสองสามเรื่องสั้น ๆ พอเสร็จไอ้วุฒิแม่งอุบาตมันลุกขึ้นขอตัวเข้าห้องน้ำเลยอ่ะ คนกืกๆนี่มันอันตรายกว่าพวกผมอีกนะบอกเลย

“พี่ปิงแล้วพี่กับคุณพี่เอย์ตกลงกันได้รึยังอ่ะว่าใครจะเป็นรับใครจะเป็นรุก เอ๊ะหรือว่าจะสลับกัน แบบนี้ก็มีเยอะเหมือนกันนะพี่”

“ยังเหอะ” ผมตอบขมวดคิ้ว พอคิด ๆ ดูแล้วแม่งขยาด หยึ๋ย น่ากลัว ทำไมไอ้คนในจอมันร้องเสียงดังน่ากลัวแบบนั้นวะ เวลาผมนอนกับผู้หญิงเธอร้องดัง ๆ ผมชอบใช่ไหมแต่ผมเป็นผู้ชายผมจะชอบทำเสียงต่ำๆอยู่ในลำคอมากกว่าคือผมคิดว่ามันเซ็กซี่ดี ผู้ชายจะร้องดัง ๆ ไปทำไมกัน

“แล้วลูกพี่คิดว่าตัวเองอยากจะเป็นฝ่ายไหนอ่ะ อยากโดนเขากอดหรืออยากเป็นฝ่ายกอดเขา”

“หมาบาส! มึงจะตรงไปไหนสัส  กูก็ไม่รู้เว้ย  มึงนี่ถามมากฉิบ  ช่วยกูคิดดิ๊!!” ผมพูดใส่อารมณ์กับพวกมันคือพอดูแล้วผมก็กลัว ถามใครก็อยากเป็นฝ่ายรุกกันทั้งนั้นแหละผมเองก็ตอบได้ทันทีเลยเหมือนกัน แต่ถ้าจะให้ไอ้พี่เอย์มันต้องเจ็บปวดแบบที่เห็นในหนังนี่ผมว่าผมจะคิดดูใหม่ก่อน

“เอางี้! พี่มีรูปพี่เอย์เขารึเปล่าล่ะ เอามาให้พวกผมใช้พิจารณาในการตัดสินใจดิ๊  เดี๋ยวจะดูให้ว่าลูกพี่ปิงของพวกผมเหมาะจะเป็นฝ่ายไหนมากกว่า เชื่อหัวไอ้บาสเลย ผมบอกแล้วไม่เคยพลาด ทายผลบอลนะน้อยครั้งที่จะพลาดอ่ะ ตั้งแต่เปิดสนามมาเนี่ย”

ไอ้วุฒิออกมาจากห้องน้ำแล้ว ไอ้ห่าแม่งนานปาเข้าไปเกือบสิบนาที ผมชั่งใจนิดนึงก่อนล้วงโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า รูปที่ผมถ่ายกับพี่เอย์ที่อัมพวาคุณจำได้ใช่ไหม ที่คุณชายมันนอนกอดผมนั่นแหละ เห็นใบหน้ามันแค่เสี้ยวเดียวนะเพราะหน้าคุณชายซุกอยู่ที่ซอกคอผม

“เย้ยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!!” คราวนี้มันไม่ห๋าอีกแล้ว มันสองคนเฮ้ยออกมาพร้อมกันอย่างดัง แถมยังมีเอฟเฟคขาชี้โด่ชี้เด่ขึ้นมาแล้วถอยหลังครูดไปอีกอย่างไกล ผมเลยยันโครมไล่ถีบมันไปคนละที กว่าจะเขยิบ ๆ มานั่งสุมหัวกันใหม่ได้

“เป็นไง? ดูแล้วตอบอะไรกูได้บ้างยัง”

“ง่ายสุดเหอะ  พี่จะเอามาให้พวกผมดูทำม้ายยยย แค่ท่านอนก็รู้แล้วใครรุกใครรับ พี่ไม่ต้องกังวลไปหรอก แบบนี้พี่ปิงผมสบายตัวสบายตูดชัวร์ ๆ คนที่ต้องคิดมากน่ะมันคือคุณพี่เอย์ของพี่ต่างหากครับ ดูสิหน้าหล่อออกขนาดนี้ดีใจเถอะพี่ถ้าเขาว้อนท์มากก็จัดเต็มให้เขาไป คนที่จะเสียหายน่ะมันฝ่ายนั้น เราก็ทำเหมือนเขาเป็นผู้หญิงคนนึงนั่นแหละ อยากได้ก็ต้องเล้าโลม เดี๋ยวพออยู่บนเตียง.....

“พอๆๆไอ้เหี้ยบาสมึงจะร่ายยาวเกินไปแล้ว” ผมดักทางมันไว้แค่นั้นก่อนที่มันจะสาธยายไร้สาระออกมาต่อ

“มึงชัวร์นะว่าพี่เอย์กูเป็นรับ”

“ชัวร์ครับ พี่ก็ดูดิ่” มันชี้ๆลงที่หน้าจอมือถือผมเอง

“รุกที่ไหนเขาจะนอนกอดพี่ท่านี้ ง่าย ๆ เลย  พี่เคยนอนกอดผู้หญิงท่านี้ป่ะล่ะ”

“ไม่เคยหรอกไอ้เหี้ย มีแต่ผู้หญิงแหละ เวลาอ้อนกูเขาชอบนอนกอดกูท่านี้”                                               

“ก็เออเห็นไหมล่ะ ของมันชัวร์ไม่มั่วนิ่ม คุณพี่เอย์ของพี่เป็นฝ่ายรับของแท้และแน่นอน” ผมทำหน้าอย่างคนไม่อยากจะเชื่อในคำพูดมันแต่คิด ๆ ดูมันก็จริงพี่เอย์แม่งชอบอ้อนผมว่ะ ถึงมันจะชอบพูดโน่นนี่นั่นว่าผมแต่ผมก็รู้แหละนั่นน่ะมันกำลังอ้อนผมอยู่

“พี่เคยได้ยินใช่ไหมคำว่า ดอกฟ้ากับหมาวัด สุภาษิตเขาก็มี ดอกฟ้าก็หมายถึงหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ไงอะไรแบบเนี๊ยะ ส่วนหมาวัดเขาก็เปรียบเทียบกับผู้ชายที่มีฐานะต่ำกว่า ผู้ชายหมายปองดอกฟ้า คึคึ มันก็ถูกแล้วนี่พี่  อย่าไปคิดอะไรมากน่าเชื่อผม ลุยไปโลดในเมื่อเขาว้อนท์ขนาดให้ท่า นอนกอดพี่ขนาดนั้นแล้ว จัดๆไปเลย  คึคึคึคึ”

ผมนึกตามคำพูดแปลกประหลาดของไอ้บาสจนตาเหล่  ตายล่ะหว๋าผมต้องเป็นฝ่ายกอดคุณชายเหรอ อึ๋ยยนึกแล้วจั๊กจี้หัวใจว่ะ ผมแม่งปลื้มเมื่อนึกถึงตอนที่เรา....เอิ่ม ช่างเหอะอย่าให้พูดเลย แค่นี้ผมก็ยิ้มจนแก้มจะแตกอยู่แล้ว คึคึ ผมสัญญาครับพี่ ผมคนนี้จะไม่ทำให้พี่เอย์เจ็บมากมายหรอก ผมจะงัดประสบการณ์และท่วงท่าที่ผ่านมาทั้งหมดเข้าปรนเปรอเอาให้ถึงอกถึงใจพี่เอย์ไปเลย หึหึหึ ต่อไปจะให้ร้องเรียกแต่ ปิงครับๆพี่เอย์ขออีกเร็วอีกแรงอีกแบบนั้นไปเลย คอยดู

โอ๊ยยยยยยยยยยแม่งจี้ ผมขำ หน้าตาพี่เอย์ตอนร้องครางสะท้านลั่นห้องจะเป็นแบบไหนกันวะ 

อาจจะ....


“ปิงครับ อ๊าา อื้มมม เร็วอีก โอ๊ววววว อู๊วววววว ยอดเลยสุดๆอ่ะปิงๆ” 


อั๊ยยะ~ แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ....


“ปิงๆไวอีกครับไวอีก อย่าหยุดนะอย่าแกล้งพี่ที่รัก  อื้ออ อื้ออ โอ๊ววว สุดยอดเลยครับน้องปิงเลิฟยูจุ๊บๆ”


เอ๊ะหรือว่าจะเป็น...


“หมาปิงไอ้เหี้ย อ๊ะ มึงทำดีมาก เร็ว ๆ เลย ซี๊ดส์กูไม่ไหวแล้วแม่ง อ๊าา”


อึ๋ยยยยยยอันนี้เถื่อนไปหน่อย ไม่ๆๆๆๆ มันกำลังเคลิ้มไม่มีทางพูดคำหยาบคายแบบนั้นกับผมหรอก


ผมนึกแล้วยิ้มอยู่คนเดียว ^_^  ฮี่ๆ  ชักจะรอให้ถึงวันเสาร์เร็ว ๆ ไม่ไหวแล้วดิ๊ ~ ~ ~  ล้าล้าลั้นลาลั้นลา ~ ~ ไอ้ปิงคนนี้แหละจะจัดการสอยพี่เอย์ลงมาจากฟากฟ้าสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เอาให้สโลปแตะรันเวย์นุ่มนวลชวนเคลิ้มที่สุดเลยคอยดู



เชื่อมือผมได้เลย คึคึคึ  >///<



Tbc.