Saturday, May 10, 2014

S.W.A.T - D (หน่วยสืบคดีโหด) *Yaoi * ตอนที่ 27 กับดักหัวใจ



# 27 (มหาวิทยาลัยแห่งความลับ) กับดักหัวใจ 




แค่สอบถามที่เคาน์เตอร์แถวทางเข้าฉุกเฉินก็รู้ได้ไม่ยากว่าคริสตินกับเดฟอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ 


ซาโต้ผลักบานประตูกระจกเข้าไปพลางมองดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือ ตี 3 แล้ว....เป็นเพราะมัวแต่ไปส่งเจ้าเด็กแสบสองตัวนั่นแถมยังต้องเสียเวลากับการวนรถไปมาสองฟากฝั่งของเมือง ด้วยใจที่ร้อนรุ่ม  พอเดินเข้ามาถึงหน้าห้องฉุกเฉินได้เขาก็รีบสอดสายตาผ่านช่องกระจกด้านบนของประตูทันที สองเตียงที่เต็มไปด้วยสายระโยงระยาง กับอีกหนึ่งเตียงที่นอนหลับตานิ่งสนิท


ทำไม่ไม่เห็นเจ้าพวกนั้นนะ!


ซาโต้!เสียงที่จู่ ๆ ดังขึ้นทำเอาซาโต้ถึงกับสะดุ้ง 


เจ!”  เจด้าทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ 


เจทำพิเศษที่นี่น่ะค่ะเธอเอียงตัวล้วงกระเป๋าเสื้อกาวน์แล้วส่งยิ้มมาให้


แล้วเอ่อ...สองคนนั้นล่ะครับ


เดี๋ยวเข้าไปคุยที่ห้องเจดีกว่า ตรงนี้รู้สึกว่าเราจะเสียงดังไปแล้วเธอพูดยิ้ม ๆ ว่าแล้วก็เดินนำไปที่ห้องพักแพทย์ไม่ไกลกันนัก  ที่หน้าห้องมีป้ายชื่อคุณหมอจิดาภาติดอยู่


เจให้พยาบาลพาขึ้นไปนอนพักข้างบนแล้วล่ะค่ะทั้งสองคนเลย ”  เจด้าเอ่ยหลังจากเข้ามาในห้องเรียบร้อยเธอชี้ให้ซาโต้นั่งลงที่เก้าอี้พร้อมกับตัวเองที่เดินไปกดน้ำร้อนลงแก้วเตรียมจะชงชาอุ่น ๆ มาให้ซาโต้


คนที่น่าห่วงไม่ใช่หมวดคริสหรอกนะคะแต่เป็นสารวัตรเดฟต่างหาก  สารวัตรน่ะใช้หลังมือรองไว้ที่ศีรษะของหมวดคริสก่อนเพราะงั้นตัวเองก็เลยได้แผลหนักเย็บไปหลายเข็มอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่เป็นอะไรมากหรอกนะรายนั้นน่ะเขาอึดอยู่แล้ว 


ซาโต้อดที่จะตกใจไม่ได้ทันทีที่ได้ยินว่าเดฟใช้ร่างกายตัวเองปกป้องคริสตินแบบนั้น


หมวดคริสไม่เป็นอะไรมากหรอกนะคะแค่มึนๆจากการโดนกระแทกชั่วขณะเท่านั้นตื่นมาอาการคงทุเลาแล้ว แต่ของสารวัตรนี่ต้องรอดูอีกทีก่อน เจกลัวว่าแผลจะติดเชื้อเธอวางแก้วชาลงตรงหน้าทั้งของซาโต้และของตัวเอง จากนั้นก็ลากเก้าอี้มานั่งลงข้าง ๆ 


ซาโต้ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ตาแดงเชียว คงยังไม่ได้นอนเลยใช่ไหมเจด้าใช้มือเกลี่ยเส้นผมที่ตกลงมาบดบังใบหน้าของเขาออกเบา ๆ อันที่จริงช่วงนี้ผมเขายาวขึ้นมากมันตกลงมาปิดบังใบหน้าซะจนมองไม่ค่อยออกว่าเขากำลังทำหน้าแบบไหนอยู่กันแน่


เมื่อคืนมีงานน่ะครับ  พวกผมสามคนรับผิดชอบร่วมกันแล้วก็เลย...เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาซาโต้หันซ้ายหันขวาเขาอยากจะขึ้นไปดูเพื่อนจะแย่อยู่แล้ว 


ถ้าจะขึ้นไปตอนนี้ก็เหมือนไปกวนนั่นแหละ ซาโต้นอนพักสักหน่อยดีกว่า เดี๋ยวสองคนนั้นตื่นแล้วเจจะให้พยาบาลมาเรียกนะ เจจะอยู่ตรงนี้เป็นเพื่อนเธอพูดทั้งที่มือยังคลอเคลียอยู่แถวใบหน้าคมนั้นไม่ห่าง สายตาที่มองดูเขาเต็มไปด้วยความห่วงใยมากมายเหลือเกิน 


และแน่นอนว่าเขาเองก็รับรู้!


ผมยาวแล้วนี่พรุ่งนี้ไปตัดดีไหมคะ เจว่างช่วงเย็น ถ้าไง.........


เจครับซาโต้เอ่ยแทรก  เขาค่อยแตะจับแขนเรียวบางของคุณหมอคนสวยไว้อย่างอ่อนโยน ผมขอคุยอะไรด้วยได้ไหม


สายตาที่แน่วแน่แบบนั้นของเขาทำเอาเธอถึงกับหน้าเปลี่ยน คงจะสะกิดใจอะไรขึ้นมาเล็ก ๆ 


ซาโต้นอนเถอะค่ะ เดี๋ยวเจ....


นะครับเจถึงแม้เธอคิดจะเปลี่ยนเรื่องแต่ไม่ทันที่อีกฝ่ายชิงพูดขึ้นมาก่อน  ดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่ตอนนี้ปราศจากแว่นบดบังจ้องมองเจด้าแน่วนิ่ง สายตาเหมือนกำลังขอร้องอ้อนวอนให้คนตรงหน้าต้องรับฟังคำพูดของเขาให้ได้....ในตอนนี้


อะไรกันซาโต้ทำหน้าอะไรแบบนั้น บอกแล้วไงหมวดคริสน่ะไม่เป็นไรแล้วล่ะค่ะคำพูดกลบเกลื่อนในสิ่งที่เธอรู้ดีอยู่ก่อนแล้ว ความรู้สึกของซาโต้มีหรือที่เธอจะไม่เคยรู้เลย


ผม......ขอโทษนะซาโต้เลื่อนมือไปกุมมือเล็ก ๆ นั่นไว้   ขอโทษที่ตอบแทนความรู้สึกดี ๆ มากมายที่คุณให้กลับคืนมาไม่ได้   ที่จริงแล้วเขาอยากจะพูดให้มันยาว ๆ แต่ก็กลัวว่าจะไปกระทบจิตใจที่บอบบางแบบนั้นชายหนุ่มจึงเลือกเฟ้นถ้อยคำให้สั้นที่สุดเข้าไว้  


ผมรู้ตัวแล้วว่าผมชอบอะไร และผมรักใคร ผม......เขาที่แทบจะพูดไม่ออกเมื่อเห็นความสั่นไหวในดวงตาคู่สวย


เมื่อก่อนที่ผมไม่ทำอะไรให้มันชัดเจนลงไปเป็นเพราะผมกำลังพยายามถามใจตัวเอง จนเมื่ออะไรหลาย ๆ อย่างที่ผ่านเข้ามา ทำให้ผมรู้ตัวแล้วว่า ใครคือคนสำคัญของผม”  


ในที่สุดเขาก็เจอคนสำคัญคนนั้น  เหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายที่เขากับคน ๆ นั้นผ่านมันมาด้วยกัน ไม่มีครั้งไหน ๆ ที่เขาจะลืมได้เลย เขามีความสุขทุกครั้งและไม่เคยฝืนตัวเองเมื่ออยู่กับคนสำคัญของเขา


ผม....ขอโทษจริง ๆ นะครับ


“........ซาโต้เธอเอ่ยเสียงแผ่ว


ขอโทษนะครับเจซาโต้จ้องมองคนตรงหน้าที่ก้มหน้านิ่ง ที่จริงแล้วเขาไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของคน ๆ นี้เลย  เธอดีกับเขาทุกอย่าง รักเขามากมาย  ทุ่มเทความรู้สึก  ตั้งแต่เขาเข้ามาทำงานที่ตึกนี้แล้วได้รู้จักได้พูดคุยกัน เธอเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่งเลยก็ว่าได้


แต่เรื่องความรู้สึกของคนมันบังคับกันไม่ได้จริง ๆ 


กับเจ....ไม่มีทางจะเป็นไปได้เลยใช่ไหม”  


อันที่จริงแล้วเธอรู้มาโดยตลอดถึงความรู้สึกของซาโต้ที่มีต่อเธอ  ไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เธอออกปากซาโต้จะไม่เคยขัด ขออะไรได้ทุกอย่างไม่ว่าเมื่อไหร่ที่ไหน  จนเธอเผลอคิดไปเองว่าถ้าปล่อยให้ความสัมพันธ์เดินหน้าไปเรื่อย ๆ แบบนี้ สักวันหนึ่งซาโต้คงจะรักเธอได้ไม่ยาก แต่ในที่สุดเธอรู้แล้วว่าเธอคิดผิดตั้งแต่วันที่เขาคนนั้นก้าวเข้ามาในชีวิตของคนที่เธอรัก 


“.......เจซาโต้พูดอะไรไม่ออกแล้วจริง ๆ 


หมวดคริสใช่ไหมคะ คนสำคัญคนนั้นของซาโต้”   


ใบหน้าคมพยักรับเบา ๆ ผมขอโทษนะ”   คำว่ารักเก็บไว้พูดกับคริสเท่านั้นจะดีกว่า แค่นี้เธอก็เจ็บเพราะเขามากพออยู่แล้ว แววตาที่มีแต่ความอ่อนโยนเมื่อพูดถึง  ‘คนสำคัญ’  จนทำให้คนที่เฝ้ามองอยู่อดจะคิดริษยาขึ้นมาไม่ได้   แต่เธอเองก็มีสปิริตมากพอ คุณหมอคนสวยสูดลมหายใจอัดลึกจนเต็มปอด แล้วเปลี่ยนมากุมมือซาโต้ไว้แทน


ขอบคุณนะซาโต้ที่ทำให้มันชัดเจนลงไปสักที   ความเป็นเพื่อนถือว่าเป็นอะไรที่มั่นคงและยืนยาวที่สุด เจจะคิดแบบนี้คงได้ใช่ไหมคะยังไงซะเธอและเขาก็เป็นเพื่อนร่วมงานกันอยู่แล้ว แถมยังเป็นเธอเองที่ทึกทักเอาขนาดนั้น ซาโต้ที่ปล่อยเลยตามเลยมาขนาดนี้ก็ทำให้เธอได้มีความสุขมากเกินพอแล้ว จากนี้ไปขอให้เพื่อนของเธอคนนี้ได้มีความสุขกับคนที่ตัวเองรักจริง ๆ สักที


นอนเถอะค่ะ ซาโต้เหนื่อยมากแล้วเดี๋ยวถ้าหมวดคริสตื่นแล้วเจจะปลุกให้นะ 


ในที่สุดก็เคลียร์เรื่องนี้ลงไปได้  ซาโต้เบาใจลงมากเมื่อได้ยินคำพูดแบบนั้นของเจด้า  เขาเอนตัวนอนลงที่โซฟากะว่าจะงีบหลับสักประเดี๋ยวแล้วจะได้เข้าไปหาคริส  จะต้องอธิบายและบอกเรื่องของเจด้าให้คริสเข้าใจสักที  เขาไม่อยากทำให้คริสไม่สบายใจอีกแล้ว


ตอนนี้เขาตัดสินใจแน่นอนแล้ว !

.
.
.
.
.


นี่คงจะเป็นฝัน

เขาคิดว่าตัวเองคงจะฝันไป เขายืนอยู่ท่างกลางความมืดมิดจู่ ๆ ก็มีลำแสงจาง ๆ ทอดผ่านเข้ามา เขาจึงได้รู้ว่าตัวเองนั้นยืนอยู่บนที่โล่งกว้างแห่งหนึ่ง ที่นี่ที่ไหนนะ! รู้สึกเหมือนเคยเห็นมาก่อน  ใช่แล้ว! ที่นี่คือสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยนั่น เมื่อลองหันมองไปอีกฟากที่ไม่ไกลกันนัก เขากลับมองเห็นรถกระบะสองตอนคันนั้น....   ที่หน้ากระโปรงรถมีเด็กสาวคนหนึ่งนั่งห้อยขาอยู่ ในมือกำดอกไม้ดอกหนึ่งไว้แน่นจนมือสั่น   จู่ ๆ สายลมเย็นเฉียบก็โชยพัดหอบเอากลิ่นหอมแปลกประหลาดเข้ามาแตะปลายจมูก  ผมยาวสีดำของเด็กสาวปลิวไสวลู่ไปตามกระแสลม สายตาเธอที่มองมาทางเขาช่างเศร้าสร้อยเสียเหลือเกิน เขาเหมือนกำลังถูกดูดลึกลงไปในดวงตาสีดำคู่นั้น  ลึกลงไป....ลึกลงไป.........


เหวออออ......!คริสตินสะดุ้งตื่น ใบหน้าขาวซีดชื้นเหงื่อเย็น 


ฝันบ้าไรเนี่ย!เขาอดที่จะอุทานออกมาไม่ได้ยกมือลูบหน้าลูบตาสงบสติ


ตื่นแล้ว ?” เสียงจากคนที่นั่งอยู่ด้านข้างเรียกให้เขาหันไปมองในทันที  


เดฟ? ” เป็นเดฟนี่เอง จริงสิเมื่อคืนเขาสองคนมาทำแผลที่โรงพยาบาล  ขณะกำลังจะพยายามลุกขึ้นนั่งสายตาก็ไปสะดุดอยู่ที่มือข้างหนึ่งของเดฟที่มีผ้ากอซผืนหนาพันเอาไว้   


มือนายเป็นไงบ้าง?  /  หายปวดหัวรึยัง?”  ทั้งคู่ถามขึ้นพร้อมๆกัน เล่นเอาต่างฝ่ายต่างบ่ายหน้าไปคนละทางกันเลยทีเดียว  


เดฟรีบยืนขึ้นเก้ ๆ กัง ๆ ใช้มือข้างที่ยังสมบูรณ์อยู่รินน้ำเปล่าแล้วส่งให้   คริสตินจึงรับแก้วน้ำมาดื่มอย่างเสียไม่ได้ 


ขอโทษนะเดฟเพิ่งได้ขอโทษเป็นเรื่องเป็นราว เรื่องเมื่อคืน  ผม.....


เฮ้ยไม่เป็นไร  ก็มันเป็นงานนี่ คิดมากไปได้ดูสิเนี่ยผมไม่เป็นไรแล้ว เห็นไหมคริสวางแก้วน้ำจากนั้นทำท่าหมุนคอซ้ายขวากะว่าจะโชว์ให้ดูว่าตัวเองนั้นหายดีแล้ว แต่ก็ต้องรีบยกสองมือขึ้นมากุมหัวไว้ทันทีด้วยความที่ยังมึน ๆ อยู่นิดหน่อย ท่าทางแบบนั้นของคริสทำเอาเดฟหัวเราะขำ พอหัวหายมึนคริสก็ดึงเอามือที่มีผ้าพันแผลเข้ามาดูใกล้ ๆ 


เย็บไปหลายเข็มเลยเหรอ?” 


ไม่เป็นไรน่า ไม่ต้องมาดูหรอกเดฟรีบชักมือกลับ คริสตินได้แต่เลิกคิ้วงง  อะไรกัน! เมื่อคืนยังยอมให้เขากุมมือที่มีแต่รอยแผลอยู่ตลอดทาง แต่วันนี้ไหงท่าทีเปลี่ยนไปง่าย ๆ 


ผะ...ผมไม่รู้ว่าเย็บไปกี่เข็ม  เผลอหลับไปก่อนน่ะ”  เดฟเห็นคริสทำหน้าตาผิดหวังตอนชักมือกลับจึงได้แก้ตัวขึ้นตะกุกตะกัก แต่ความจริงแล้วเขาก็เผลอหลับไปจริง ๆ นั่นแหละ


นั่นสิ ผมเองก็หลับไปเหมือนกัน ไม่รู้เพราะว่ามึนหรือว่าง่วงกันแน่


ว่าแล้วทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน พอมาถึงโรงพยาบาลไม่คิดเลยว่าจะเจอกับหมอเจที่นี่   แค่เท่านั้นความรู้สึกวางใจเหมือนเจอหมอประจำตัวก็ผุดขึ้นทันที เขาสองคนเผลอหลับไปตั้งแต่ยังนอนทำแผลอยู่ด้วยซ้ำ


คริสตินยกสองมือขึ้นมานวดขมับพร้อมบิดขี้เกียจซ้ายทีขวาทีแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นกุมขมับทำหน้าเหยเกอีกครั้งเดฟเห็นแบบนั้นจึงยังรู้สึกกังวล นี่! ยังไม่หายดีอย่าเพิ่งขยับตัวมากสิถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงกัน!


ผมไม่เป็นไรแล้ว!  นายน่ะแหละทำไมไม่นอนอยู่บนเตียงมานั่งอยู่ตรงนี้ทำไมล่ะคริสตินโบ้ยหน้าไปทางเตียงว่างด้านข้างซึ่งก่อนหน้านั้นเดฟยังนอนอยู่แต่ไปๆมาๆตอนนี้หมอนี่ดันมานั่งที่ข้างเตียงเขาซะงั้น


ไม่ล่ะผมหายแล้วแผลแค่นี้เอง


งั้นก็เลิกห่วงผมสักที ผมน่ะไม่มีแผลเลยนะยิ่งไม่เป็นอะไรเลยด้วยซ้ำ


ก็แล้วมันเหมือนกันที่ไหน


ก็แล้วมันจะไม่เหมือนยังไงล่ะ ไหนว่ามาซิ!ไปๆมาๆก็เถียงกันอีก


คริสนี่กวนจริง ๆ นะ


นายนั่นแหละกัดผมตลอดอ่ะ ไม่ชอบผมขนาดนั้น?” 


ใครว่าไม่ชอบกันล่ะ


งั้นแสดงว่าชอบน่ะสิ!


มันก็ต้องชอ.......”  สารวัตรหนุ่มหยุดชะงักกลางครัน ขณะที่สายตากลมของคนบนเตียงกำลังจ้องเขาเขม็ง 


มะ....มันก็ต้องใช่อยู่แล้วว่า  ไม่ได้ชอบ  ”  


เดฟเน้นคำว่า ไม่ได้ชอบอย่างชัด ทำเอาคริสตินถึงกับกลืนน้ำลายเอื้อก ไม่รู้ทำไมเขากับเดฟเจอกันทีไรกัดกันได้ตลอดก็ไม่รู้


ไม่ได้ชอบก็ดี! อย่ามาชอบผมก็แล้วกัน ผมน่ะมีคนที่ผมชอบอยู่แล้ว เคยบอกนายไปแล้วนี่ตั้งแต่อยู่ที่ป่านั่นน่ะ เขาคนนั้นทั้งอ่อนโยนใจดีไม่กวนประสาทเหมือนคนบางคนด้วย!”  


หลงตัวเอง!  จะชอบเข้าไปได้ไง  เด็กๆผมแต่ละคนน่ารักกว่านี้หลายเท่าตัวเดฟรีบปฏิเสธ 


ชิ๊!”  คริสตินทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ พร้อมเมินหน้าไปอีกทาง


นี่ ขอสูบบุหรี่ได้ไหมปากถามไปมือก็ล้วงกระเป๋าแล้วหยิบซองขึ้นมาคาบตัวบุหรี่ไว้แล้ว


ไม่ได้! นี่มันโรงพยาบาลนะ นายยังปกติดีรึเปล่า!!”  คริสหันควับกลับมาดึงบุหรี่ออกจากปากคนพูดทันที  เห็นหน้าเจ้านี่แล้วมันจี๊ดจริง ๆ จะพูดกันดี ๆ ไม่ได้รึยังไงนะ!


จะไปไหนเดฟถามขึ้นเมื่อเห็นอีกคนกำลังทำท่าจะลงจากเตียง


ห้องน้ำ หลีกสิ!”  ตอบเสร็จก็ลุกขึ้นทันที แต่ทว่าอาการหน้ามืดเฉียบพลันหลังจากศีรษะโดนกระแทกหนัก ๆ มานั้นไม่ปราณีใครอยู่แล้ว


คริสกำลังจะทรุดกองลงที่พื้นขณะที่เดฟรีบคว้ารับเอาไว้แทบไม่ทัน ขาสะดุดพันกันยุ่งเหยิงไปหมดสองคนจึงกระแทกลงที่เตียงในท่าทางที่แบบว่า ชวนให้เข้าใจผิดกันน่าดู คริสตินที่ยังปรับสายตาไม่ทันเพราะหน้ามืดอยู่จึงนอนนิ่ง  มีแต่เดฟที่อยู่ด้านบนเท่านั้นถึงกับหน้าแดงระเรื่อไปหมด ริมฝีปากสีส้มสั่นระริกเพราะมันเผลอกระทบลงไปที่พวงแก้มขาวโดยไม่ตั้งใจ ชั่วเวลาไม่ถึงอึดใจคริสตินที่สายตาเริ่มโฟกัสเข้าที่ ยกสองมือขึ้นโอบคนด้านบนอัตโนมัติพอเห็นเป็นหน้าเดฟในระยะประชิดแบบนั้นถึงกับเหวอสุดขีดกำลังจะอ้าปากร้องตะโกนก็โดนมือของคนด้านบนปิดปากเอาไว้


เหวอออ  นายทำอะไรน่ะ!!”  เสียงอู้อี้เหมือนคนพูดไม่ชัดจากการโดนปิดปาก แต่เดฟเองก็พอเข้าใจ


อย่าเสียงดังนี่มันโรงพยาบาลนะครับ


นายก็ลุกสิ โถ่โว๊ยยย!! ปล่อยๆๆๆๆ !!!”  คริสที่พยายามจะโวยวาย  แล้วยังดิ้น ๆๆ ไม่ยอมหยุด


ถ้าไม่เงียบจะใช้ปากผมปิดแทนมือนะเอ้า!”  เท่านั้นแหละ คนที่ดิ้นอยู่ถึงกับนิ่งเงียบในทันที เขาจึงค่อยปล่อยมืออกมา


ลุกเซ่!!คนถูกทับเริ่มหน้างอ เลิกดิ้นก็แล้ว  เลิกโวยวายก็แล้ว  ยังนอนทับกันอยู่ได้


ลุกก็ได้แต่ขอถามอะไรอย่างหนึ่งก่อนได้รึเปล่า 


จะถามอะไรก็รีบ ๆเลย หลายเรื่องซะจริง!


ชอบมันจริงเหรอ เจ้าซาโต้น่ะ ”  เดฟพูดเบามากจนคล้ายเสียงกระซิบ


ชอบ! ชอบมาก!! ชอบที่สุดเลย!!! ชัดไหมที่นี้    


แตกต่างไปจากคริสที่แหกปากซะดังลั่นเพราะอยากจะตอบให้มันจบ ๆ สักทีโดนทับอยู่แบบนี้รู้สึกพิลึกยังไงไม่รู้    เดฟที่ได้ฟังถึงกับต้องยอมแพ้หัวใจที่แสนมั่นคงของคนข้างล่าง  เขาอดที่จะระบายยิ้มบางออกมาไม่ได้ พร้อมทั้งความรู้สึกอิจฉาเจ้าซาโต้จับใจ  


แล้วจะลุกได้ยังล่ะ ตอบก็ตอบไปแล้วเนี่ยคริสตินเริ่มโวยวายขึ้นมาอีก


หึหึ ก็อยากจะลุกอยู่หรอกครับ  แต่ใครกันล่ะที่นอนทับมือผมไว้!”  เดฟหัวเราะหึหึ แค่นเสียงต่ำลอดไรฟัน พอได้ฟังแบบนั้นคริสถึงได้รู้ว่าตัวเองนอนทับอะไรบางอย่างไว้จริง ๆ พอเบี่ยงตัวขึ้นนิดหน่อยเดฟก็ชักมือออกมาได้  แต่แล้วจู่ ๆ ก็เพิ่งนึกขึ้นได้เมื่อกี้เหมือนโดนขโมยจูบไปชัด ๆ 


นายน่ะ! นาย!!”  คริสตินตวาดแว๊ด รีบลุกขึ้นยกมือชี้หน้าคนที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ  


ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อยเดฟพึมพำเบา ๆ ยกมือเกาหัว   


แล้วเจ็บไหมล่ะนั่นน่ะคริสถามทั้ง ๆ ใบหน้าหงิกงอ พอเห็นมือที่เต็มไปด้วยแผลแบบนั้นก็อดที่จะห่วงไม่ได้ เมื่อกี้เขานอนทับไปเต็ม ๆ เกิดแผลฉีกขึ้นมาจะยุ่งยากเข้าไปอีก  
 

พอเดฟตีหน้าเศร้าพยักรับเบา ๆ เท่านั้นคริสยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ 


แต่ว่านะคนมือเจ็บกลอกตา


เจ็บแต่ก็คุ้มอ่ะ!”  ใบหน้าทะเล้นแบบนี้ของสารวัตรเดฟมีให้เห็นไม่บ่อยนัก  คริสตินได้แต่กัดปากหรี่ตาแค้น หนอยยย ว่าแล้วก็คว้าของใกล้มืออย่างแฟ้มสมุดอะไรสักอย่างแถวเตียงปาใส่คนที่ยืนยิ้มแผล่ไม่รู้ไม่ชี้ไปอย่างแรง  


อุ๊ก!!  



แต่ทว่า......



ความเข้าใจผิด’  มักเกิดขึ้นไม่เลือกที่เลือกเวลาจริง ๆ !!!!!



เฮ้ยซาโต้!  เข้าไปสิวะมายืนเหม่ออะไรอยู่ตรงนี้ 

เสียงเรียกดังขึ้นทางด้านหลังทำให้ซาโต้ที่ยืนมองการกระทำของสองคนในห้องตั้งแต่นอนทับกันอยู่บนเตียงต้องตื่นจากภวังค์   ฟ็อกซ์เดินเข้ามาตบลงที่บ่ากว้างแล้วก้าวนำเข้าไปในห้องพักผู้ป่วยอย่างไว


ไงไอ้หนู  เป็นเรื่องจนได้นะเราหัวหน้าหนุ่มเดินไปจับหัวคนที่นั่งอยู่บนเตียงพลิกซ้ายพลิกขวาเหมือนกำลังหาอะไรอยู่สักอย่าง


โอ๊ยๆๆพี่ฟ็อกซ์  ผมเจ็บนะทำไรเนี่ยคริสรีบปัดไม้บัดมืออีกฝ่ายออก 


อะโด่ ไม่เห็นจะมีแผลตรงไหนเล้ยยย


แล้วพี่เคน?” คริสมองซ้ายมองขวาไม่เห็นมาด้วยกัน


ไปส่งที่ทำงานแล้ว  กูไม่ให้มาที่นี่หรอกพอรู้ข่าวเรื่องมึงก็ลุกลี้ลุกลนหยิบจับอะไรให้วุ่นวายไปหมดกูเลยจับขังไว้ที่ห้องทำงานโน่นขืนให้เคนยะมาด้วยได้อาละวาดใส่เขาว่าไม่ดูแลน้องแน่ แค่นี้ก็กลัวจะโดนโกรธมากอยู่แล้ว   


เพราะมึงคนเดียวเลย!ฟ็อกซ์เอ็ดเสียงเบาใช้นิ้วจิ้ม ๆ ที่หน้าผากมนนั่น ทำเอาคนเจ็บถึงกับต้องรีบใช้สองนิ้วจิ้มอุดหูเอาไว้พร้อมหันหน้าหนี


โหยพี่  ผมไม่เป็นไรสักหน่อย คนที่เป็นนั่งอยู่โน่น!”  คริสโบ้ยไปทางเดฟกะให้ฟ็อกซ์ไปบ่นที่หมอนั่นแทน เดฟที่เดินเลี่ยงไปนั่งอยู่แถวโซฟาได้แต่เลิกคิ้วส่ายหน้าไม่รู้เรื่อง สักครู่ฟ็อกซ์จึงเดินเข้าไปหาแล้วนั่งลงข้าง ๆ 


มึงทำดีมากเดฟ”  อ้าววว ทีกับหมอนั่นล่ะก็ได้คำชื่นชม  คริสตินจึงอดที่จะนึกไม่ได้ว่าฟ็อกซ์นี่สองมาตรฐานจริง ๆ  จากนั้นเขาจึงเริ่มทำหน้าพิลึกพิลั่นเมื่อได้ยินคำพูดที่สองคนนั้นพูดกันเบา ๆ 


พูดก็พูดเถอะ!  ถ้าเป็นกูคิดไม่ออกนะเนี่ยว่าต้องใช้มือตัวเองรองไว้แบบเนี้ย”  ไม่รู้เป็นคำชมหรือคำพูดถากถางกันแน่ เดฟได้ฟังแล้วก็เริ่มทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน  ว่ากันตามตรงปฏิกิริยาตอนนั้นมันอัตโนมัติจริง ๆ เขารู้แต่ว่าคริสตินจะบาดเจ็บไม่ได้ก็แค่นั้น 


ถามจริงเถอะวะเดฟถ้าเป็นหัวไอ้ซาโต้มึงยังจะใช้มือตัวเองรองไว้ก่อนรึเปล่าวะ หึหึหึหึฟ็อกซ์ทั้งพูดทั้งหัวเราะเสียงต่ำ ท่าทางเหมือนปิศาจร้ายไม่มีผิด


พูดจาถากถางคนอื่นยังไม่พอยังจะกดลงให้จมไปอีก พี่ฟ็อกซ์ตัวร้ายแย่ชะมัดเลย! คงมีแต่คริสเท่านั้นที่มองออกว่าฟ็อกซ์กำลังคิดอะไรอยู่ ผู้หมวดหนุ่มได้แต่เบ้ปากบ่นงุบงิบในลำคอ ในที่สุดถึงได้สังเกตเห็นคนที่เลี่ยงนั่งอยู่เงียบ ๆ อีกฟากหนึ่งของห้อง  เป็นซาโต้นั่นเอง!


ซาโต้! มึงมาเมื่อไหร่น่ะ?”  คริสรีบทักขึ้นจะว่าไม่ทันสังเกตก็ได้ เพราะมัวแต่ต่อปากต่อคำกับไอ้พี่ฟ็อกซ์อยู่น่ะสิ


ดีขึ้นแล้วใช่ไหมครับซาโต้เดินเข้ามาที่เตียงแล้วถาม   


ไม่เป็นไรสักหน่อยมึงทำหน้าอะไรเนี่ยคริสตินที่ไม่รู้เรื่องราว สังเกตได้ว่าสีหน้าของซาโต้ผิดปกติชัดเจนมาก


ไม่เป็นไรก็ดีแล้วครับ”  ซาโต้พูดด้วยสีหน้าเย็นชา  เขาเดินไปหาฟ็อกซ์พูดบางอย่างกันเบา ๆ เสร็จเรียบร้อยก็ออกจากห้องไปทันทีไม่หันมาบอกคริสเสียด้วยซ้ำ  


ซาโต้เป็นอะไรไป!?   เกิดอะไรขึ้นกับหมอนั่นกันนะ  


หลังจากนั้นไม่ถึงสิบห้านาทีเจด้าก็ขึ้นมาตรวจสรุปอาการทั้งเขาและเดฟ  พออนุญาตให้ไปพักต่อที่บ้านได้ คริสถึงกับลิงโลด แต่เดฟยุ่งยากนิดหน่อยเพราะจะต้องแวะไปล้างแผลทุก ๆ วันที่ห้องนิติเวช  ขืนให้มาล้างที่นี่คงจะต้องขับรถกันยาวแน่ ทางที่ดีทำอยู่ใกล้ ๆ จะดีที่สุด


หมอเจทำงานอยู่ที่นี่ด้วยเหรอครับ คริสตินถามขึ้น  พวกเขากำลังลงลิฟต์  ส่วนฟ็อกซ์แยกลงไปจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วแวะไปเอารถเพื่อมารับที่ฝั่งด้านหน้าของโรงพยาบาล


รับจ็อบพิเศษน่ะค่ะ อยากตรวจคนธรรมดาบ้างตรวจแต่ศพมากไปก็เบื่อนะ ที่สำคัญเข้าเวรกลางคืนเงินดีด้วย แต่เดี๋ยวช่วงบ่ายก็ต้องเข้าตึกแล้วล่ะเจด้าคุยเล่นด้วยอย่างอารมณ์ดี เรื่องที่ซาโต้คุยกับเธอเมื่อคืนไม่ว่ายังไงก็ลืมไม่ได้ แต่งานก็คืองาน เพื่อนก็คือเพื่อน คริสตินก็ถือเป็นเพื่อนร่วมงานของเธอคนหนึ่งเช่นกัน 


สารวัตรเองก็อย่าลืมต้องไปล้างแผลทุกวันนะคะ ถ้าอักเสบนิดเดียวก็ต้องรีบบอกแผลนิดหน่อยอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เธอหันไปกำชับเดฟ


พอรถจอดลงที่ด้านหน้าทั้งสามคนก็เดินมาถึงพอดิบพอดี  ฟ็อกซ์กดกระจกเลื่อนต่ำลงพร้อมกล่าวขอบคุณเจด้าอีกครั้ง เมื่อรถเคลื่อนออกจากโรงพยาบาลคริสที่นั่งอยู่เบาะหลังคนเดียวก็หวนนึกถึงเรื่องราวของวันนี้อีกครั้ง ทั้งเรื่องที่ซาโต้ทำเย็นชาใส่ ไหนจะเรื่องที่นัดไว้กับเจ้าเด็กทรนั่นอีก


ยังไงคงต้องโทรไปเลื่อนนัดก่อนเป็นอย่างแรก ว่าแล้วเขาก็กดโทรออกเบอร์ของทรทันที 

.
.
.
.
.


ใครกันล่ะเนี่ย ?!”


ที่ห้องสอบสวนแผนกคดียาเสพติด เคนยะเดินถือแฟ้มรายงานเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะ เขาสะดุดตากับกองอะไรบางอย่างม้วน ๆ อยู่บนโซฟาตัวยาวที่ๆฟ็อกซ์ชอบมาสิงสู่ใช้งีบหลับอยู่เป็นประจำ มองอยู่ครู่หนึ่งจึงได้เดินเข้าไปดูใกล้ ๆ 


ซาโต้!? ” เคนยะอุทานหลังจากเปิดผ้าห่มดูไม่คิดว่าคนที่นอนมุดม้วนอยู่ตรงนี้จะเป็นซาโต้ไปได้


น....นาย มานอนอะไรตรงนี้น่ะเคนถอยห่างออกมานิดหน่อยแล้วถามขึ้น อีกฝ่ายยิ่งมุดลึกลงไปอีก เหมือนไม่อยากพูดคุยกับเขาซะงั้น เขาจึงเดินเข้ามาให้ใกล้ขึ้นอีกนิด


ซาโต้ นายเป็นอะไรมากรึเปล่าจู่ ๆ มานอนอยู่ตรงนี้ผมตกใจนะถ้ารู้สึกง่วงจริงหรือไม่สบายจริงซาโต้จะพักอยู่ที่แลปนิติเวชอยู่แล้ว ที่นั่นเป็นห้องทำงานของเจ้านี่ คงไม่ถ่อขึ้นมาถึงชั้น 7 แบบนี้ แถมที่แลปนั่นยังมีที่นอนมีของใช้ส่วนตัวอยู่ครบ จะว่าไปไม่เคยเลยสักครั้งที่ซาโต้จะมาใช้บริการที่ห้องเขา


แปลก....


ไม่สบายเหรอ ดื่มอะไรร้อน ๆไหมเดี๋ยวผมชงให้


“...........”


หรือว่าจะเอาผ้าเย็น ผมมีนะหน้าตาดูไม่สดชื่นเลยนี่เคนก้มลงไปมองชายหนุ่มใกล้ ๆ อีกครั้ง ที่แท้ซาโต้ไม่ได้หลับเขานอนลืมตาอยู่ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มแบบนั้นเคนเห็นบ่อยจนไม่คิดว่ามันแปลกอะไร แต่แววตาที่ดูเศร้าสร้อยขนาดนี้....เขาเองก็เพิ่งจะเคยเห็น


เอาเหล้าแทนได้ไหม มาดื่มด้วยกันทีสิ


พูดอะไรน่ะ


ฮ่ะฮ่ะ พูดเล่นนนนเสียงหัวเราะที่ฟังยังไงก็รู้ว่าฝืนยิ่งทำให้เคนยะสงสัยเข้าไปใหญ่  ในที่สุดซาโต้ขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าซังกะตายสุด ๆ


นายเพิ่งมาจากข้างนอก ?” เขายกสองมือขึ้นเสยผม


อือใช่ ออกไปตรวจที่เกิดเหตุน่ะ เกี่ยวกับคดีนักศึกษาที่ตายเพราะเสพยาเกินขนาดนั้นน่ะแหละเคนยะเดินไปหยิบรีโมทปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้น


ปรับแอร์ขึ้นอีกหน่อยละกันนะ หนาวใช่ไหม”  เป็นเพราะตอนที่เข้ามาซาโต้เล่นห่มผ้าซะจนมิดชิดแบบนั้นเคนจึงคิดไปเองว่าซาโต้อาจจะหนาว


ไม่เป็นไรไม่หนาวหรอก  แล้วเรื่องงานตกลงว่าเด็กนั่นเกี่ยวข้องกับคดีคนหายรึเปล่า?”


ผมคิดว่าไม่นะ รายงานการชันสูตรออกมาแล้วด้วย  แล้วคนของเราก็สืบจนรู้มาแล้วว่าเด็กที่ตายใช้ยามานานตั้งแต่ก่อนจะเข้ามหาวิทยาลัยนี่แล้ว คิดว่าสองคดีไม่น่ามีอะไรเกี่ยวข้องกัน เพราะงั้นวันนี้ผมเลยลงตรวจสอบสถานที่เองกะว่าจะขอคดีนี้เข้ามาอยู่ในความดูแลสักหน่อย เอเย่นยาจากพวกเด็กมอปลายน่ากลัวไม่ใช่เล่นเลย


ซาโต้พยักหน้าเบา ๆ พอได้ยินแบบนั้นค่อยเบาใจหากสองคดีไม่มีความเกี่ยวข้องกันงานสืบสวนก็จะง่ายเข้า ยิ่งมีเคนยะเข้ามาช่วยรับคดียาเสพติดไปทำต่อแบบนี้ทุกอย่างคงจะง่ายขึ้นไปอีก  คงเหลือแต่เรื่องคดีคนหาย อย่างไรเสียคงต้องเร่งมือกันหน่อยแล้ว แต่ทว่าเดฟเองก็มาบาดเจ็บแล้วยังจะมีเรื่องส่วนตัวของเขากับคริสเข้ามาอีกยิ่งคิดยิ่งปวดหัว


ซาโต้หารู้ไม่ว่าขณะที่ตนเองกำลังคิดอะไรเตลิดตะเลยไปอยู่นั้น เคนยะที่นั่งมองดูเขาอยู่สังเกตได้ถึงความผิดปกติอะไรบางอย่าง


ซาโต้ นายมีเรื่องอะไรทำให้กังวลใจใช่ไหมเคนยะย่อตัวนั่งลงถาม


“..........”


ซาโต้ไม่ได้ตอบอะไร เพียงหันมองหน้าคนที่กำลังเอียงคอดูเขาอยู่ตอนนี้  จะว่าไปแล้วเคนยะกับคริสตินหน้าตาเหมือนกันมากเลยสมกับเป็นพี่น้อง จะต่างก็แค่ทรงผมเท่านั้นเคนยะคนพี่มีผมดำตรงสวย เลยทำให้ดูมีบุคลิกน่ารักเรียบร้อย ต่างกับคริสตินที่จะโกรกผมเป็นสีน้ำตาลเข้มและหยักศกกว่าเล็กน้อยเลยทำให้ดูคล้ายวัยรุ่นสมัยใหม่มากกว่า


“....เคนซาโต้เรียกขึ้นเบา ๆ


ผมน่ะ.....ชอบคริสนะ


หืม!!!


“...อ่อ  แล้วไงต่อ?”  ตกใจเหมือนกันนะเนี่ย


แต่ว่าผม.....เฮ้อ!!”  ซาโต้ถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาใช้สองมือขยี้หัวตัวเองจนยุ่งเหยิงไปหมดจากนั้นมุดๆๆลงไปที่ผ้าห่มหนานั้นอีกครั้ง ทำเอาคนที่รอฟังเรื่องราวอย่างเคนยังต้องหงุดหงิดไปด้วย


ซาโต้มีอะไรก็พูดให้จบสิ  นายเล่นพูดไปมุดไปแบบนี้จะให้ผมรับฟังยังไงไม่ทราบ!เคนอุตส่าห์รอฟังเรื่องราวแท้ ๆ จู่ ๆ คนพูดก็มุดๆหนีซะงั้น เขาจึงกระชากผ้าห่มออกแล้วยืนขึ้นท้าวสะเอวจ้องหน้าคนนอนอย่างเอาเรื่อง


ก็ลองไม่พูดต่อดูสิ!


ผมชอบคริสไม่ผิดแน่  ไม่ใช่ในฐานะเพื่อนแต่ชอบแบบคนรักที่ชอบกัน  พอรู้แบบนั้นผมก็พยายามเคลียร์ตัวเอง เคนก็รู้ใช่ไหมเรื่องผมกับเจด้า  เมื่อคืนพอมีโอกาสได้คุยกับเจผมเลยบอกเรื่องทุกอย่างออกไป  เจเองเขาก็เข้าใจนะแต่พอผมกะว่าจะไปบอกคริสว่าผมเคลียร์ทุกอย่างได้แล้วผมก็เห็น.....หึหึ ทั้งเห็นทั้งได้ยินเลยล่ะ  ผมเองก็เพิ่งรู้ว่าคริสกับหมอนั่นน่ะ มีใจให้กันอยู่ ไม่ก็อาจจะกำลังคบกันอยู่อะไรแบบนั้นเขายกสองมือลูบหน้าลูบแล้วก็ลูบอีก


เจ้านั่นมันเป็นของแท้ด้วยแหละคริสคงจะมั่นใจกับมันมากกว่า ทำไมผมถึงไม่เคยรู้มาก่อนเลยนะ  คริสน่ะหยอกล้อกับเจ้านั่นเหมือนที่ทำกับผมไม่มีผิด หน้าตาแบบนั้นสีหน้าแบบนั้นผมนึกว่ามีแต่ผมคนเดียวที่ได้เห็นซะอีก”    


ยิ่งพูดก็ยิ่งนึกถึงภาพที่ได้เห็นภายในห้องพักผู้ป่วยนั่น สองคนนั้นชอบกันไม่ผิดแน่ แล้วยังเรื่องที่คริสตะโกนลั่นว่า ชอบมาก นั่นอีก


ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ผมมันโง่จริง ๆ เผลอทำให้คริสลำบากใจซะได้ประโยคที่ขึ้นต้นด้วยเสียงหัวเราะแต่ทำไมมันฟังดูแล้วเศร้าขนาดนี้นะ


แล้วยังไง  แล้วหมอนั่นที่นายพูดถึงอยู่นี่เป็นใครกันล่ะ?”


เคน....ผมน่ะแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้น


เคนยะจากแต่เดิมเมื่อได้ฟังเรื่องราวคิ้วก็ขมวดเป็นปมอยู่แล้ว ตอนนี้ถึงกับยกมือขึ้นมานวดขมับ   คริสมีคนรักอยู่แล้วแถมยังคบกัน เขามันเป็นพี่ที่ไม่ได้เรื่องจริง ๆ ทำไมไม่เคยรู้เรื่องอะไรมาก่อนเลย!


เจ้าเดฟน่ะมันใช้ได้เลยใช่ไหมล่ะ ทั้งเท่ทั้งหล่อทั้งเก่งมองไปทางไหนก็สมบูรณ์แบบไปหมด แล้วยังเรื่องเมื่อคืนนั่นอีก แค่นี้เขาสองคนก็พิสูจน์ใจให้กันเห็นแล้วนี่ยอมเจ็บแทนกันซะขนาดนั้น คริสจะชอบมันก็คงไม่มีอะไรแปลกหรอก อย่างผมน่ะมันไม่มีความหมายอะไรอยู่แล้วน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยคำพูดตัดพ้อฟังดูแล้วเศร้าพิลึกเลย 


ผม...จะไม่ทำให้คริสต้องลำบากใจ ผมจะทำให้คนที่ผมรักมีความสุข


เคนยะหรี่ตามอง  เขาย่อตัวนั่งลงข้าง ๆ คนที่นอนก่ายหน้าผากเพ้ออยู่ตอนนี้    เดฟงั้นเหรอ?   



แกร๊กกก! 


เคน!ซาโต้ที่นอนลืมตานิ่งอยู่ถึงกับตกใจ จู่ ๆ ปลายกระบอกปืนสีเงินวาวก็มาจ่อติดอยู่ที่หน้าผากเขา แถมยังขึ้นลำไว้เรียบร้อย   


น้องชายผมน่ะไม่ใช่คนแบบนั้นหรอกนะ  ถ้าอยากรู้ความจริงก็ลองถามดูเลยไม่ดีกว่าเหรอ? มัวแต่มาหลบหน้าอยู่แบบนี้มันไม่ใช่นายเลยนะซาโต้!


ไม่ต้องถามผมก็ดูออก ปกติแล้วถ้าเป็นคนที่นายไม่ได้ชอบ  นายจะยอมให้เขาจูบรึเปล่าล่ะเคน แล้วถ้าไม่ใช่คนที่ชอบนายจะพูดว่า 'ชอบ'  'ชอบมากชอบที่สุดเลย' รึเปล่าล่ะซาโต้พูดจบก็คว้าเอาปืนมาจากมือเคนยะแล้วปลดล็อคออกทันที เขาลุกขึ้นยืนแล้วโยนปืนกระบอกนั้นลงที่โซฟา


ถ้าหากว่าคริสจะมีความสุขเมื่ออยู่กับทางนั้นผมก็จะเป็นฝ่ายถอยออกมา ผมจะไม่ทำให้คริสต้องลำบากใจ ผมรักคริส ผมจะทำให้เขาปล่อยมือจากคนอย่างผมโดยไม่ต้องมากังวลอะไรทั้งนั้น!ซาโต้คว้าเอาเสื้อคลุมที่วางอยู่บนเก้าอี้มาพาดไว้ที่ไหล่


ไปล่ะ ขอบใจมากที่ให้ยืมห้อง


ทำไมนายไม่ลองถามคริสไปตรง ๆ บางทีอาจไม่ใช่อย่างที่นายเห็นก็ได้นะ


นายไม่เห็นเองไม่มีวันเข้าใจหรอกเคน!

.
.
.
.
.
.

ทางด้านฟ็อกซ์พอแวะส่งเดฟที่คอนโดเรียบร้อยเขาก็กำชับให้ชายหนุ่มพักงานได้เต็มที่หนึ่งวันเต็ม ๆ เช่นเดียวกันกับคริสพอรถจอดลงที่หน้าบ้าน เขาก็สั่งกำชับนักหนาว่าห้ามออกไปไหนต่อไหนให้นอนพักจนกว่าจะหายจากอาการมึนที่ศีรษะ ซึ่งคริสก็รับปากอย่างว่าง่ายเช่นกัน


คริสใช้เวลานั่งเล่นนอนเล่นอยู่ข้างล่างจนเผลอหลับแล้วหลับอีกไปไม่รู้กี่รอบ  กระทั่งล่าสุดที่ตื่นมานั่นเพราะเคนยะโทรเข้ามาบอกว่าจะกลับมาถึงดึกมีงานด่วนเร่งเข้ามาเพราะงั้นให้เขาปิดบ้านให้เรียบร้อยไม่ต้องรอ พอมองออกไปที่ด้านนอกจึงได้รู้ว่าท้องฟ้ามืดค่ำลงแล้วนาฬิกาที่ข้อมือก็บอกเวลาจวนจะสองทุ่ม


นี่เขาหลับไปนานขนาดนั้นเชียวที่สำคัญวันนี้ยังไม่ได้ยินเสียงเจ้าซาโต้โทรเข้ามาบ่นเลย ตั้งแต่เช้าก็ทำหน้าตาประหลาดพูดกันไม่กี่คำก็เดินหนีออกไปซะงั้น ผ่านไปตั้งหลายชั่วโมงไม่เห็นโทรมาถามไถ่กันบ้าง  น่าแปลกชะมัด!


คริสตินล้วงโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากะว่าจะต่อสายหาเจ้าคู่หูตัวดี  แต่บังเอิญที่ว่ามีนามบัตรของทรร่วงติดออกมาด้วยเขาจึงหยิบขึ้นมาพิจารณาดี ๆ อีกครั้ง  เป็นนามบัตรธรรมดา ๆ สีเขียวอ่อนบนนามบัตรลงที่อยู่เป็นชื่อมหาวิทยาลัยแห่งนั้น แต่ทว่า คริสตินเพ่งสายตามองดูดี ๆ สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นรูปดอกไม้ซึ่งเหมือนกับดอกที่ปลูกอยู่ข้างตึกอธิการบดีนั่นไม่มีผิด แปลงที่เขามักพบลุงคนสวนนั่นนั่งพรวนดินอยู่เป็นประจำ


คริสหวนนึกไปถึงความฝันของเขา  ดอกไม้ที่เหมือนกับดอกไม้ในความฝันนั่น ...... ดอกไม้ที่เด็กสาวคนนั้นถือไว้แน่นซะจนตัวสั่น!


เขาลุกพรวดขึ้นทันทีคว้าเอากุญแจสำรองที่อยู่ในลิ้นชักโดยไม่ลืมที่จะหยิบเสื้อคลุมสีดำตราหัวกะโหลกของเคนยะที่วางพาดอยู่ตั้งแต่เมื่อวานขึ้นมาสวมด้วยความรวดเร็ว วันนี้ฟ็อกซ์ใช้รถคันใหญ่เพราะงั้นมอเตอร์ไซด์เลยจอดว่างไร้คนขับขี่


เอาล่ะ วันนี้ผมจะเป็นคนขับนายล่ะนะคริสตินตบลงที่ถังน้ำมันเบา ๆ พูดกับมอเตอร์ไซด์คันใหญ่ เขาไม่รู้ว่ามอไซด์ของฟ็อกซ์จะมีชื่อให้เรียกเหมือน น้องไอมิ้นของเจ้าซาโต้รึเปล่า แต่เคยได้ยินฟ็อกซ์บอกไว้ว่าคันนี้น่ะ ตัวผู้


พอล็อคประตูรั้วเสร็จเรียบร้อยเขาก็ขึ้นไปคร่อมอยู่บนเจ้ารถคันโตทันที ทว่าเป็นเวลาเดียวกับที่ซาโต้ขับไอมิ้นเลี้ยวเข้ามาเบรกตัวลงข้าง ๆ


สายตาคมจ้องคริสแน่นิ่ง   จะไปไหน?”


พอเห็นว่าอีกคนมาได้จังหวะพอดีคริสจึงอดที่จะส่งยิ้มให้ไม่ได้ แต่ว่ายิ้มหวาน ๆ ของเขาต้องกลายเป็นหมันเมื่อเจ้าคู่หูตัวดีดันทำหน้าโหดใส่ซะนี่   จะว่าไปแล้วเมื่อสักครู่เขาว่าจะโทรหาแต่พอเห็นนามบัตรนั่นเลยลืมเรื่องซาโต้ไปเลยรู้สึกผิดขึ้นมานิด ๆ เหมือนกัน 


มึงมาก็ดีเลยซาโต้กูว่าจะแวะไปมหาวิทยาลัยนั่นหน่อย ไปด้วยกันนะคริสพูดอย่างอารมณ์ดี


ซาโต้จอดรถเรียบร้อยจึงเดินเข้ามาหา จะไปทำไม นี่มันค่ำมืดแล้วนะคริสมีธุระอะไรที่นั่นงั้นเหรอ?”  ชายหนุ่มเอ่ยหน้านิ่ง


พอดีนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เอาเหอะน่ามึงไปกับกูก็แล้วกัน เอ้าขึ้นมาสิ!คริสเร่งยิก ๆ


เดี๋ยวก่อนครับ!”  ซาโต้จับแฮนด์รถข้างหนึ่งไว้  “ผมแค่จะแวะมาบอกเรื่องหนึ่ง พูดจบแล้วก็จะไป


หือ  เรื่องอะไรล่ะ?”



ผมตัดสินใจคบกับเจด้าแล้วนะ!



คริสที่ยิ้มรอฟังอย่างอารมณ์ดีถึงกับหน้าชา เวลารอบตัวเหมือนมันหยุดนิ่งไปเสียดื้อ ๆ  หัวใจเขาตกวูบลงไปจนถึงปลายเท้า
 

“….หมายความว่ายังไง?.....”


ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่งไปหมด มีแต่ซาโต้เท่านั้นที่ยังเค้นรอยยิ้มอ่อนโยนไว้ได้


ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ก็หมายความอย่างที่พูดนั่นแหละ  เจด้าเขาทั้งสวยทั้งน่ารักนิสัยก็ดี ที่สำคัญรักผมมากด้วย มันก็ถูกต้องแล้วนี่ที่ผมจะตัดสินใจแบบนี้น่ะนะ


เขาที่ทั้งพูดทั้งหัวเราะยกมือขึ้นมานวดขมับตัวเองเบา ๆ แท้จริงแล้วคือปิดบังไม่อยากให้อีกคนได้เห็นสีหน้าที่แท้จริงของตน  เบ้าตาคนพูดร้อนผ่าวไปหมด


คริสจะต้องเห็นแต่รอยยิ้มของเขา  จะได้เดินจากเขาไปโดยไม่ต้องคิดอะไรมาก  ต้องทำให้รู้ว่าเขาเองมีความสุขดีกับทางเลือกนี้   คริสจะไม่ต้องลำบากใจอะไรเลยกับเรื่องของเขา


อย่างที่บอกไปนั่นแหละ เรื่องวันก่อนที่ผมพูดกับคริสเรื่องขอคบกันน่ะผมแค่ล้อเล่นนะ  อย่าไปคิดเป็นจริงเป็นจังไปล่ะ”   


“...เรื่องล้อเล่น? ”  คริสตินพึมพำ


แล้วก็...ภารกิจคืนนี้มันนอกเหนือจากแผน  เพราะงั้นคริสไปคนเดียวก็แล้วกันนะ  ผมเองต่อจากนี้ก็มีนัดกับเจเขาอีกด้วย เราว่าจะไปทานข้าวกันน่ะ แล้วคืนนี้ก็อาจจะค้างบ้านเจเขาเลย ” 


ค้างสีหน้าเปื้อนยิ้มกับคำพูดแบบนั้นของซาโต้บีบคั้นหัวใจคริสจนแหลกสลายลงไปแล้ว   


คริสครับ   ขอบคุณมากนะ.....ทุกอย่าง!”   


เสียงหัวใจตัวเองร้องไห้ดังลั่นจนซาโต้แทบจะยืนต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาฝืนส่งรอยยิ้มให้คริสตินได้เห็น แม้จะแปลกใจว่าคนตรงหน้าทำไมถึงได้มีแววตาที่แสนเศร้าขนาดนั้น แต่ภาพที่อยู่ในหัว การกระทำของทั้งคริสและเดฟเมื่อตอนกลางวันทำให้เขาต้องย้ำกับตัวเองอยู่เสมอ   ‘ไม่นานคริสก็จะลืมผมได้


“ .....เข้าใจแล้ว ” 


คริสตินเอ่ยคำพูดไว้เพียงแค่นั้น ในที่สุดรถก็เลี้ยวตัดออกจากหมู่บ้าน ไฟถนนสีส้มทอดตัวเป็นแนวยาวจนมองไม่เห็นว่าจะไปสิ้นสุดตรงที่ใด  ดวงตากลมที่มีน้ำเอ่อคลอหน่วยมานาน ในที่สุดก็ไหลรินลงมาแล้ว  หัวใจของเขาทำไมถึงได้เจ็บปวดขนาดนี้  เขาทำอะไรผิดไปงั้นหรือ  ซาโต้ที่แสดงสีหน้ายิ้มแย้มแบบนั้นเมื่อพูดถึงคุณหมอเจ  ซาโต้ที่หัวเราะร่าแบบนั้นเมื่อบอกเขาว่าตัดสินใจจะคบกับใครอีกคนและบอกว่าที่ผ่านมาเป็นแค่เรื่องล้อเล่น


ถ้าหากว่าเส้นทางสายนี้ซาโต้เลือกแล้วมีความสุข เขาเองก็ดีใจด้วยและจะไม่เหนี่ยวรั้งอะไร  ระยะห่างระหว่างเรา.....จะทำยังไงต่อไปดี



 .......จากนี้ เธอคงไปดี ก็ขอให้เธอจงสุขสบาย

 เธอจงเดินไปตามความฝันของเธอที่เธอตั้งใจ

แม้จะต้องเสียใจ แต่ฉันจะรับไว้เอง

อย่างน้อย เธอก็ทำให้ฉันรู้ว่าเคยมีความสุขเพียงใด

ได้เป็นคนที่เธอเคยรักก็ดีแค่ไหน

ฉันต้องยอมเข้าใจ เกิดมาแค่เพียงได้รักกัน

สุดท้ายไม่เป็นอย่างฝันฉันยอมทำใจ.......


จะต่างกันไหมกับอีกฝ่ายที่รถเลี้ยวตัดออกไปคนละฟากฝั่งของถนน จุดหมายที่แสนไกลเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะขับยาวไปถึงไหน  มีนัดกับเจด้าจะไปค้างกับเจด้าเรื่องโกหกทั้งเพ!    ไอมิ้นแล่นโฉบไปบนถนนสายหลักด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ไม่เคยมีครั้งไหนที่หัวใจจะเจ็บปวดได้ถึงเพียงนี้ เสียงร้องไห้ที่ดังระงมจากหัวใจดวงโตกึกก้องไม่เป็นจังหวะ โคมไฟแวววาวสาดแสงส่องถนนจนเหมือนจะสว่างไสวเป็นพิเศษ แต่ทว่าทำไมจิตใจกับดวงตาของเขามองเห็นแต่ความมืดมนแบบนี้  ถ้าหากว่า....ถ้าหากว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่ความฝัน  ก็คงจะดี......



เอี๊ยดดดดด____!!!!   โครมมม!!!!!!!!



รัก.........แม้รักยังไงก็รัก ได้เพียงหัวใจ

สุดท้ายต้องยอมเป็นคนที่ปวดร้าว

จากนี้..... เธอคงไปดี ก็ขอให้เธอจงสุขสบาย

เธอจงเดินไปตามความฝันของเธอที่เธอตั้งใจ

แม้จะต้องเสียใจ แต่ฉันจะรับไปไว้เอง

อย่างน้อย เธอก็ทำให้ฉันรู้ว่าเคยมีความสุขเพียงใด

ได้เป็นคนที่เธอเคยรักก็ดีแค่ไหน

ฉันต้องยอมเข้าใจ เกิดมาแค่เพียงได้รักกัน

สุดท้ายไม่เป็นอย่างฝันฉันยอมทำใจ......


(# Cr.เกิดมาแค่รักกัน Big Ass)


Tbc.