# 25 (มหาวิทยาลัยแห่งความลับ) เรื่องรัก ๆ
ในหน่วย S.W.A.T-D
“ จะค้างที่นี่งั้นเหรอ ? ”
เคนยะยืนมองคนที่กำลังเข็นรถมอเตอร์ไซด์คันโตเข้ามาจอดในรั้วบ้าน โดยที่น้องชายตัวดีคริสตินวิ่งชนไหล่เขามุ่งเข้าครัวไปโน่นแล้ว
ดวงตากลมหันรีหันขวาง
“เอาน่า!” ซาโต้ตบลงที่ไหล่บาง “ต่อไปจะมาใช้บริการบ่อย ๆเลย เข้าบ้านกันเถอะ”
“เข้าบ้านงั้นเหรอ?” เคนยะยังงงไม่เลิก นี่บ้านเขานะ! ปกติซาโต้ไม่เคยมาค้างที่บ้านเขาเลยสักครั้ง ไม่ว่าภารกิจจะยุ่งยากแค่ไหน เขากับซาโต้คุยกันเฉพาะเรื่องงานเท่านั้นถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็แทบจะไม่ได้สนิทสนมกันอะไรกันเลย
ซาโต้พักอยู่ที่คอนโดไม่ไกลจากตึก สนง. ตำรวจฯ มากนัก ตามประสาหนุ่มโสดเขาใช้ชีวิตส่วนตัวที่เป็นอิสระไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวผูกมัดกับใคร มีเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คน เท่าที่เคนรู้ก็มีแค่เดฟและฟ็อกซ์ รวมถึงผู้หญิงที่เขาคบหาด้วยก็มีข่าวแค่กับหมอเจด้าแค่คนเดียว
รู้สึกว่าตอนนี้หมอนี่จะทำตัวสนิทสนมกับคริสแปลก ๆ
“ใช่ เข้าบ้าน ๆ” ว่าแล้วก็เดินนำเคนยะหายเข้าไปทันที
“เหมือนเคยได้ยินนะ คำพูดคุ้น ๆ” เคนหน้ายู่บ่นพึมพำอยู่คนเดียว รู้สึกได้ว่า คำพูดเมื่อสักครู่ของซาโต้นั้นช่างคล้ายกับที่ฟ็อกซ์เคยทำเคยพูดเมื่อก่อนไม่มีผิด เมื่อตอนที่เขารู้จักกันครั้งแรกหลังจากนั้นฟ็อกซ์ก็มาค้างบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้เรียกได้ว่ามาอยู่กินกับเขาเลยก็ว่าได้
หวังว่าเจ้าซาโต้คงไม่เดินตามรอยฟ็อกซ์หรอกนะ
..
ทางด้านคนตัวโต พอเข้ามาได้ปุ๊บ เขาก็ทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาปั๊บ ทำเอาคริสที่นั่งกินขนมดูทีวีอยู่ก่อนแล้วต้องขยับตัวออกอีกหน่อย ซาโต้เห็นแบบนั้นก็เขยิบเบียดเข้าไปอีกนิด คริสได้แต่หันมามองตาขวาง ขณะกำลังจะอ้าปากด่า มือที่รวดเร็วของซาโต้ก็หยิบขนมยัดลงไปที่ปากคริสทันทีแต่ลึกไปหน่อย เล่นเอาเขาแทบสำลัก ไอค่อก ๆ แค่ก ๆ ออกมา ซาโต้รีบทุบหลังให้เป็นพัลวัล มือไม้พันกันหยิบส่งขวดน้ำให้อีกฝ่ายผิดมั่วไปหมด
“ไอ้ซาโต้! ชอบแกล้งดีนัก ชอบแกล้งดีนัก! ” คริสตะลุมทุบลงที่หลังซาโต้อย่างแรงหลายต่อหลายทีหลังยกซดน้ำดื่มจนหมดขวด
“เจ็บครับเจ็บ พอแล้ว ๆ ” ซาโต้ยกไม้ยกมือปัดป้อง
“ชอบแกล้ง!” คริสตะโกนต่อว่าหน้างอ
“ขอโทษ” ซาโต้เสียงอ่อย เขาคว้าขนมมาใส่ปากตัวเองบ้างแล้วหันไปสนใจที่หน้าจอโทรทัศน์กำลังตัดเข้าข่าวด่วนภาคค่ำ
“โกรธรึเปล่า ?” จู่ ๆ ซาโต้ถามขึ้น
“โกรธเรื่อง ?” คริสหันหน้ามามองที่คู่หู
“ก็เรื่องที่ผมทิ้งเจ้าเดฟไว้กลางทางแบบนั้น”
“อืม โกรธ”
เรื่องของเรื่องคือเมื่อตอนที่ขับรถมาด้วยกัน ในระหว่างที่เกือบจะถึงคอนโดที่พักของเดฟอยู่แล้ว ไม่รู้ซาโต้คิดยังไงจู่ ๆ จอดรถแล้วให้เดฟเดินเข้าซอยไปเองซะงั้น
“ก็ผมโมโหนี่ เจ้านั่นน่ะถึงกับบอกว่าจะมาค้างที่นี่ด้วยเหมือนกัน ถ้ามันมาจริงคริสจะให้มันนอนที่ไหนล่ะครับ”
“ก็นอนกับมึงที่ห้องนี้ไง” จะไปยากอะไร
“ไม่! ” ซาโต้แสร้งสะบัดหน้าเอาแต่ใจ คริสปรายตามองการกระทำของคู่หูอย่างขำ ๆ ซาโต้ทำไมเป็นคนแบบนี้ไปได้ก็ไม่รู้ ดังนั้นเขาจึงแกล้งต่ออีกหน่อย
“งั้นก็ขึ้นไปนอนกับกูบนห้อง มึงนอนห้องนี้คนเดียว” คริสโบ้ย ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“คริส!” ซาโต้ขยับตัวหันมาจ้องคริสตินชัด ๆ “พูดแบบนี้ไม่จบนะครับนะ”
“เหรอ” ขอแกล้งอีกหน่อย
“รู้ใช่ไหมว่ามันชอบคริสน่ะ เจ้าเดฟมันชอบผู้ชายอยู่แล้วด้วย ผมไม่ไว้ใจมันนะ” เสียงทุ้มเริ่มดังขึ้นมาแล้ว คริสตินรีบมองเข้าไปในครัวเพราะกลัวเคนยะที่กำลังปรุงอาหารอยู่จะได้ยิน
“ซาโต้มึงจะพูดดังไปไหน เดี๋ยวพี่เคนได้ยินเป็นเรื่องพอดี” มึงแหละน่ากลัวยิ่งกว่าเดฟอีก ยังไม่รู้ตัว
ซาโต้จิ๊ปากบ่นอะไรพึมพำอยู่คนเดียว จากนั้นก็แย่งขนมมาคาบไว้อีกชิ้น
“เฮ้ยๆ อย่ามาแย่งดิ ไปขอพี่เคนอยู่ในครัวโน่น” คริสโวยวายเพราะโดนแกล้งกลับ ซาโต้จึงหัวเราะลั่น เขาชอบเห็นใบหน้างอง้ำเอาแต่ใจของคริสตินเป็นที่สุด
ปกติแล้วคนภายนอกจะมองว่าเขาเป็นคนเย็นชา มีแต่คริสเท่านั้นที่เขาเล่นด้วยแบบนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังแปลกใจตัวเองอยู่เลย สายตาคมโฟกัสไปที่หน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง
ที่ข่าวด่านภาคค่ำกำลังฉายภาพ ข่าวการจับกุมวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งของจังหวัดทางภาคอีสานที่ลักลอบส่งยาเสพติดตามผับรวมถึงหลอกเด็กสาวส่งขายบริการให้กับพวกอาเสี่ยใหญ่ พวกนี้ทำงานกันเป็นแก๊ง คงจะมีเส้นสายระดับหัวกะทิที่ใหญ่โตพอสมควร
“จริงสิเคนยะ” ซาโต้ฉุกใจอะไรบางอย่างขึ้นจึงหันไปทางในครัวซึ่งตอนนี้เคนยะกำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหารจวนจะเสร็จอยู่แล้ว
“เรื่องคดีใหม่เป็นไงบ้าง เห็นฟ็อกซ์บ่นว่าท่าทางจะเป็นเรื่องใหญ่งั้นเหรอ?” เคนยะเพิ่งได้รับคดียาเสพติดยุ่งยากมาเมื่อวานพร้อม ๆ กับคดีที่พวกเขากำลังตามสืบกันอยู่
“ก็คิดว่างั้นล่ะนะ น่าจะเกี่ยวข้องกับพวกนักการเมืองบางคนอยู่เหมือนกัน แต่ยังไงก็...ไม่เกินความสามารถของผมหรอกน่า วางใจได้อยู่แล้ว” เคนว่าด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ชายหนุ่มถอดถุงมือผ้าออกแล้วแขวนเข้าที่
“มากินข้าวมา” เคนกวักมือเรียกสองหนุ่มที่หน้าทีวีให้เข้ามากินข้าวกันได้แล้ว
“ไม่รอฟ็อกซ์รึไง” ซาโต้ถามขึ้น
“จะไปรอทำไมคนแบบนั้นน่ะ” คริสตินรีบสวนขึ้น
ได้ยินชื่อฟ็อกซ์แล้วมันจี๊ด! วันนี้ได้อยู่กับพี่เคนมีความสุขจะตายไปไม่ต้องมีคนคอยแกล้ง ว่าแล้วเขาก็วิ่งแทรงซาโต้เข้าไปดูเมนูอาหาร ทีวงทีวีอะไรก็ไม่ปิด เป็นซาโต้ที่ต้องเดินย้อนกลับมาปิดให้เสียเอง
คริสหิวจนจะกินหัวคู่หูตัวเองได้อยู่แล้ว
เคนได้แต่ส่ายหน้ากับพฤติกรรมของเจ้าน้องตัวแสบ แต่ก็ยังเลื่อนเก้าอี้ออกให้เมื่อคริสตินเดินมาถึงที่โต๊ะ
มีแค่น้องคนนี้เท่านั้นที่เขายอมให้ทุกอย่าง
“ฟ็อกซ์คงจะกลับดึกแหละ พวกนายกินกันก่อนเลย เดี๋ยวผมจะรอเอง” วันนี้ฟ็อกซ์มีประชุมด่วนที่กรมฯ เพราะงั้นเขาจึงไม่ได้แวะไปรับคริสตามที่ตกลงกันไว้
“พี่เคนไม่ต้องไปรอหรอก ฟ็อกซ์น่ะป่านนี้คงจะกินข้าวกับพวกผู้หญิงอร่อยจนลืม..........”
“ จะค้างที่นี่งั้นเหรอ ? ”
เคนยะยืนมองคนที่กำลังเข็นรถมอเตอร์ไซด์คันโตเข้ามาจอดในรั้วบ้าน โดยที่น้องชายตัวดีคริสตินวิ่งชนไหล่เขามุ่งเข้าครัวไปโน่นแล้ว
ดวงตากลมหันรีหันขวาง
“เอาน่า!” ซาโต้ตบลงที่ไหล่บาง “ต่อไปจะมาใช้บริการบ่อย ๆเลย เข้าบ้านกันเถอะ”
“เข้าบ้านงั้นเหรอ?” เคนยะยังงงไม่เลิก นี่บ้านเขานะ! ปกติซาโต้ไม่เคยมาค้างที่บ้านเขาเลยสักครั้ง ไม่ว่าภารกิจจะยุ่งยากแค่ไหน เขากับซาโต้คุยกันเฉพาะเรื่องงานเท่านั้นถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวก็แทบจะไม่ได้สนิทสนมกันอะไรกันเลย
ซาโต้พักอยู่ที่คอนโดไม่ไกลจากตึก สนง. ตำรวจฯ มากนัก ตามประสาหนุ่มโสดเขาใช้ชีวิตส่วนตัวที่เป็นอิสระไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวผูกมัดกับใคร มีเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คน เท่าที่เคนรู้ก็มีแค่เดฟและฟ็อกซ์ รวมถึงผู้หญิงที่เขาคบหาด้วยก็มีข่าวแค่กับหมอเจด้าแค่คนเดียว
รู้สึกว่าตอนนี้หมอนี่จะทำตัวสนิทสนมกับคริสแปลก ๆ
“ใช่ เข้าบ้าน ๆ” ว่าแล้วก็เดินนำเคนยะหายเข้าไปทันที
“เหมือนเคยได้ยินนะ คำพูดคุ้น ๆ” เคนหน้ายู่บ่นพึมพำอยู่คนเดียว รู้สึกได้ว่า คำพูดเมื่อสักครู่ของซาโต้นั้นช่างคล้ายกับที่ฟ็อกซ์เคยทำเคยพูดเมื่อก่อนไม่มีผิด เมื่อตอนที่เขารู้จักกันครั้งแรกหลังจากนั้นฟ็อกซ์ก็มาค้างบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้เรียกได้ว่ามาอยู่กินกับเขาเลยก็ว่าได้
หวังว่าเจ้าซาโต้คงไม่เดินตามรอยฟ็อกซ์หรอกนะ
..
ทางด้านคนตัวโต พอเข้ามาได้ปุ๊บ เขาก็ทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาปั๊บ ทำเอาคริสที่นั่งกินขนมดูทีวีอยู่ก่อนแล้วต้องขยับตัวออกอีกหน่อย ซาโต้เห็นแบบนั้นก็เขยิบเบียดเข้าไปอีกนิด คริสได้แต่หันมามองตาขวาง ขณะกำลังจะอ้าปากด่า มือที่รวดเร็วของซาโต้ก็หยิบขนมยัดลงไปที่ปากคริสทันทีแต่ลึกไปหน่อย เล่นเอาเขาแทบสำลัก ไอค่อก ๆ แค่ก ๆ ออกมา ซาโต้รีบทุบหลังให้เป็นพัลวัล มือไม้พันกันหยิบส่งขวดน้ำให้อีกฝ่ายผิดมั่วไปหมด
“ไอ้ซาโต้! ชอบแกล้งดีนัก ชอบแกล้งดีนัก! ” คริสตะลุมทุบลงที่หลังซาโต้อย่างแรงหลายต่อหลายทีหลังยกซดน้ำดื่มจนหมดขวด
“เจ็บครับเจ็บ พอแล้ว ๆ ” ซาโต้ยกไม้ยกมือปัดป้อง
“ชอบแกล้ง!” คริสตะโกนต่อว่าหน้างอ
“ขอโทษ” ซาโต้เสียงอ่อย เขาคว้าขนมมาใส่ปากตัวเองบ้างแล้วหันไปสนใจที่หน้าจอโทรทัศน์กำลังตัดเข้าข่าวด่วนภาคค่ำ
“โกรธรึเปล่า ?” จู่ ๆ ซาโต้ถามขึ้น
“โกรธเรื่อง ?” คริสหันหน้ามามองที่คู่หู
“ก็เรื่องที่ผมทิ้งเจ้าเดฟไว้กลางทางแบบนั้น”
“อืม โกรธ”
เรื่องของเรื่องคือเมื่อตอนที่ขับรถมาด้วยกัน ในระหว่างที่เกือบจะถึงคอนโดที่พักของเดฟอยู่แล้ว ไม่รู้ซาโต้คิดยังไงจู่ ๆ จอดรถแล้วให้เดฟเดินเข้าซอยไปเองซะงั้น
“ก็ผมโมโหนี่ เจ้านั่นน่ะถึงกับบอกว่าจะมาค้างที่นี่ด้วยเหมือนกัน ถ้ามันมาจริงคริสจะให้มันนอนที่ไหนล่ะครับ”
“ก็นอนกับมึงที่ห้องนี้ไง” จะไปยากอะไร
“ไม่! ” ซาโต้แสร้งสะบัดหน้าเอาแต่ใจ คริสปรายตามองการกระทำของคู่หูอย่างขำ ๆ ซาโต้ทำไมเป็นคนแบบนี้ไปได้ก็ไม่รู้ ดังนั้นเขาจึงแกล้งต่ออีกหน่อย
“งั้นก็ขึ้นไปนอนกับกูบนห้อง มึงนอนห้องนี้คนเดียว” คริสโบ้ย ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
“คริส!” ซาโต้ขยับตัวหันมาจ้องคริสตินชัด ๆ “พูดแบบนี้ไม่จบนะครับนะ”
“เหรอ” ขอแกล้งอีกหน่อย
“รู้ใช่ไหมว่ามันชอบคริสน่ะ เจ้าเดฟมันชอบผู้ชายอยู่แล้วด้วย ผมไม่ไว้ใจมันนะ” เสียงทุ้มเริ่มดังขึ้นมาแล้ว คริสตินรีบมองเข้าไปในครัวเพราะกลัวเคนยะที่กำลังปรุงอาหารอยู่จะได้ยิน
“ซาโต้มึงจะพูดดังไปไหน เดี๋ยวพี่เคนได้ยินเป็นเรื่องพอดี” มึงแหละน่ากลัวยิ่งกว่าเดฟอีก ยังไม่รู้ตัว
ซาโต้จิ๊ปากบ่นอะไรพึมพำอยู่คนเดียว จากนั้นก็แย่งขนมมาคาบไว้อีกชิ้น
“เฮ้ยๆ อย่ามาแย่งดิ ไปขอพี่เคนอยู่ในครัวโน่น” คริสโวยวายเพราะโดนแกล้งกลับ ซาโต้จึงหัวเราะลั่น เขาชอบเห็นใบหน้างอง้ำเอาแต่ใจของคริสตินเป็นที่สุด
ปกติแล้วคนภายนอกจะมองว่าเขาเป็นคนเย็นชา มีแต่คริสเท่านั้นที่เขาเล่นด้วยแบบนี้ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังแปลกใจตัวเองอยู่เลย สายตาคมโฟกัสไปที่หน้าจอโทรทัศน์อีกครั้ง
ที่ข่าวด่านภาคค่ำกำลังฉายภาพ ข่าวการจับกุมวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งของจังหวัดทางภาคอีสานที่ลักลอบส่งยาเสพติดตามผับรวมถึงหลอกเด็กสาวส่งขายบริการให้กับพวกอาเสี่ยใหญ่ พวกนี้ทำงานกันเป็นแก๊ง คงจะมีเส้นสายระดับหัวกะทิที่ใหญ่โตพอสมควร
“จริงสิเคนยะ” ซาโต้ฉุกใจอะไรบางอย่างขึ้นจึงหันไปทางในครัวซึ่งตอนนี้เคนยะกำลังจัดเตรียมโต๊ะอาหารจวนจะเสร็จอยู่แล้ว
“เรื่องคดีใหม่เป็นไงบ้าง เห็นฟ็อกซ์บ่นว่าท่าทางจะเป็นเรื่องใหญ่งั้นเหรอ?” เคนยะเพิ่งได้รับคดียาเสพติดยุ่งยากมาเมื่อวานพร้อม ๆ กับคดีที่พวกเขากำลังตามสืบกันอยู่
“ก็คิดว่างั้นล่ะนะ น่าจะเกี่ยวข้องกับพวกนักการเมืองบางคนอยู่เหมือนกัน แต่ยังไงก็...ไม่เกินความสามารถของผมหรอกน่า วางใจได้อยู่แล้ว” เคนว่าด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม ชายหนุ่มถอดถุงมือผ้าออกแล้วแขวนเข้าที่
“มากินข้าวมา” เคนกวักมือเรียกสองหนุ่มที่หน้าทีวีให้เข้ามากินข้าวกันได้แล้ว
“ไม่รอฟ็อกซ์รึไง” ซาโต้ถามขึ้น
“จะไปรอทำไมคนแบบนั้นน่ะ” คริสตินรีบสวนขึ้น
ได้ยินชื่อฟ็อกซ์แล้วมันจี๊ด! วันนี้ได้อยู่กับพี่เคนมีความสุขจะตายไปไม่ต้องมีคนคอยแกล้ง ว่าแล้วเขาก็วิ่งแทรงซาโต้เข้าไปดูเมนูอาหาร ทีวงทีวีอะไรก็ไม่ปิด เป็นซาโต้ที่ต้องเดินย้อนกลับมาปิดให้เสียเอง
คริสหิวจนจะกินหัวคู่หูตัวเองได้อยู่แล้ว
เคนได้แต่ส่ายหน้ากับพฤติกรรมของเจ้าน้องตัวแสบ แต่ก็ยังเลื่อนเก้าอี้ออกให้เมื่อคริสตินเดินมาถึงที่โต๊ะ
มีแค่น้องคนนี้เท่านั้นที่เขายอมให้ทุกอย่าง
“ฟ็อกซ์คงจะกลับดึกแหละ พวกนายกินกันก่อนเลย เดี๋ยวผมจะรอเอง” วันนี้ฟ็อกซ์มีประชุมด่วนที่กรมฯ เพราะงั้นเขาจึงไม่ได้แวะไปรับคริสตามที่ตกลงกันไว้
“พี่เคนไม่ต้องไปรอหรอก ฟ็อกซ์น่ะป่านนี้คงจะกินข้าวกับพวกผู้หญิงอร่อยจนลืม..........”
ปัง!!!!!
ประตูบ้านถูกถีบออกอย่างแรงจนกระเด็นไปถูกฝาผนังแล้วเด้งสะท้อนกลับมา ฟ็อกซ์ยืนเท้าสะเอวหน้าโหดเดินตรงรี่เข้ามาที่โต๊ะอาหารอย่างเร็ว คริสตินที่กำลังพูดถึงเขาอยู่พอดีถึงกับผวา ซาโต้กับเคนยะเองก็มองไปเป็นตาเดียว
อะไรจะมาพอเหมาะพอเจาะขนาดนั้น
“นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว” หนุ่มหน้าอ่อนว่าอย่างอารมณ์ดี ผิดกับสีหน้าเมื่อสักครู่อย่างกับฟ้ากับเหว เขาโยนกระเป๋าสะพายลอยข้ามไปหล่นลงที่โซฟา
“หิวจังเลยครับเคน นี่ถ้ามาไม่ทันกินพร้อมเคนนะ ผมได้สาปแช่งไอ้คนที่เรียกประชุมไปสามวันแปดวันแน่ ๆ” ฟ็อกซ์นั่งลงเตรียมพร้อมที่โต๊ะเรียบร้อย
“ มะ.....ไม่ได้กินมาแล้วหรอกเหรอ?” เสียงหวาน ๆ ถามตะกุกตะกัก
หืมม ?
“ยังครับ จะไปกินที่ไหนกันล่ะ”
จู่ ๆ ทำไมเคนยะถามแบบนั้น ถ้าไม่ติดธุระจำเป็นเร่งด่วนจริง ๆ เขาจะต้องมาทานข้าวเย็นพร้อมเคนเสมอ ถ้าจะไม่มาจะต้องโทรบอกเป็นเรื่องเป็นราว ไม่เคยละเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แล้วทำไมครั้งนี้ต้องถาม ?!
ฟ็อกซ์กลอกตาสองที ก็สะดุดลงที่ ไอ้ตัวดีคนข้าง ๆ ที่กำลังนั่งก้มก้มตาหลบเขาอยู่
“เจ้าคริส!”
คริสตินสะดุ้งจนหน้าหรา เมื่อเสียงโหด ๆ ของฟ็อกซ์ดังลั่นโต๊ะอาหาร
“ปะ....เปล่านะ ผมไม่ได้พูดอะไรเลย ” คริสส่ายหน้าจนปากสั่น ฟ็อกซ์เร็วมาก มือแกร่งจะพุ่งเข้าไปคว้าเอาคอเสื้อคริสติน แต่ติดที่มีอีกมือมาคว้าจับเขาไว้ซะแน่น
“คริสไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย” ซาโต้นั่นเองที่ช่วยคริสไว้ แถมยังแก้ตัวให้
“แน่ใจ ?”
“ก็....แค่บอกว่า” ซาโต้อึกอัก มองคริสและฟ็อกซ์สลับกันไปมา
“แค่บอกว่าอะไร!”
“แค่บอกว่า...นายคงจะหาอะไรกินกับสาว ๆ แถวนั้นเรียบร้อยไปแล้ว”
ไอ้ซาโต้!!!!!!!!! ไอ้คู่หูทรยศ!!!!!!!!
“แค่นั้นเอง” ซาโต้มึงยังจะพูดต่อ! คริสตินหลับตาปี๋เมื่อจบคำพูดของคู่หู ใบหน้าตลก ๆ รอรับการโบกกะบาลลงทัณฑ์จากฟ็อกซ์แต่โดยดี
แต่หลับตาอยู่นานก็ไม่เกิดอะไรขึ้น เขาจึงค่อย ๆ หรี่ตาขึ้นมองทีละนิด ๆ
เป๊าะ!!
“โอ๊ย! เจ็บง่ะ”
ฟ็อกซ์ใช้มือดีดหน้าผากคริสหนัก ๆ ไปหนึ่งที
“นี่แค่สั่งสอน” ฟ็อกซ์หรี่ตาเจ้าเล่ห์พร้อมเบาเสียงตัวเองลง “ส่วนของจริงกูจะให้ซาโต้เป็นคนจัดการมึงคืนนี้ หึหึหึ ”
คริสตินกำลังผวากับเสียงและท่าทางเย็น ๆ คล้ายวิญญาณร้ายของฟ็อกซ์
“คืนนี้มึงไม่รอดแน่.....ซาโต้จะแปลงร่างเป็นวิญญาณร้ายเร่ร่อนมาหลอกกินหัวมึงไอ้คริส!”
“พอ ๆ หยุดเดี๋ยวนี้นะฟ็อกซ์ ” เคนยะรีบปรามเมื่อเห็นว่าคนขี้แกล้งอย่างฟ็อกซ์ยังจะไม่ยอมเลิกเล่นง่าย ๆ คริสเองก็เป็นพวกขี้กลัวอยู่ด้วย
ใบหน้าขาวกำลังซีดลงไปเรื่อย ๆ ฟ็อกซ์หันมาเห็นหน้าตาพิลึกพิลั่นแบบนั้นของคริสจึงได้หัวเราะลั่นขึ้นมา กว่าจะหยุดลงได้ลำบากเคนยะต้องตักไข่เจียวคำโตยัดลงไปให้ลึก ฟ็อกซ์เกือบสำลักไข่ตายไปแล้ว เขารีบยกแก้วน้ำขึ้นมาซดแล้วตบหน้าอกตัวเองเป็นพัลวัล
“เคนโหดจังครับ แค่ก แค่ก ” ฟ้อกซ์ทั้งพูดทั้งสำลัก ยกแก้วน้ำซดแล้วซดอีก
“ก็ฟ็อกซ์ชอบแกล้งน้องนี่”
โห ไม่ได้แกล้งซักหน่อย! แต่ก็ไม่กล้าเถียงออกไป พอเหล่ตาไปมองไอ้คนข้าง ๆ ก็เห็นไอ้ตัวดีนั่งก้มหน้างุด ๆ อยู่
“อะไร ๆๆ มึงคิดว่ากูจะทำอะไรมึง” ฟ็อกซ์ว่าแล้วตักอาหารใส่จานให้เหมือนไม่เต็มใจนัก “อันนี้อร่อย กินซะ!”
“ซาโต้มึงจะนอนที่นี่ ?” จู่ ๆ ก็เปลี่ยนประเด็น
“อ่าฮะ”
“ดีแล้ว หึหึ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นที่มุมปากฟ็อกซ์แค่แวบเดียวเท่านั้น ใจคนเราลึกสุดจะหยั่งจริง ๆ ฟ็อกซ์ตัวร้ายกำลังคิดแผนการอะไรบางอย่างอีกแล้ว
.
.
.
.
“ซาโต้นายนอนที่ห้องนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวผมจะปูฟูกให้ ” เคนยะเดินหอบฟูกผืนใหญ่มาเต็มอ้อมแขน ขณะที่ฟ็อกซ์กับซาโต้นั่งดูทีวีกันอยู่
“เดี๋ยวให้ฟ็อกซ์มานอนเป็นเพื่อนด้วย”
ห๊ะ!!
ไม่พูดเปล่า เคนจัดการเลื่อนโต๊ะเล็ก ๆ ตรงหน้าทีวีออกแล้วปูฟูกลงไปบนพรหมทันที ฟ็อกซ์กับซาโต้หน้าตาเหรอหราไม่แพ้กัน
“เกี่ยวอะไรกับผมล่ะ!” ฟ็อกซ์รีบถดตัวลงมานั่งขวางทางไว้
“ให้เจ้าซาโต้มันนอนคนเดียวไปสิ” มือแกร่งคว้าเอาฟูกที่เคนเพิ่งวางลงมาพับ ๆ ๆให้เรียบร้อยเหมือนเดิม ซาโต้เองก็เหมือนรู้ทางกัน ชายหนุ่มรีบก้มลงคว้าหมอนคว้าผ้าห่มคว้าฟูกที่กองอยู่ข้างกันขึ้นมากอดอุ้มไว้กับตัว
“ผมจะไปนอนห้องคริส ไม่นอนที่นี่หรอก หนาวววววว” ว่าแล้วก็เดินมุ่งไปที่บันได เคนยะรีบคลานไปดึงขาไว้
“แต่ว่าคริสนอนดิ้น นายจะลำบากเอานะ”
ซาโต้มีรึที่จะสนใจ เป้าหมายของเขาคือห้องนอนเล็กด้านบนต่างหาก พอสลัดเคนยะออกได้ชายหนุ่มก็วิ่งขึ้นบันไดไปทันที
“แต่ว่า.....” เคนยะนั่งหมดอาลัยหน้ายู่
“เคนครับ ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก” ฟ็อกซ์ถลาเข้ามาปลอบ
“เจ้าซาโต้น่ะมันซื่อจะตาย!” ดวงตาสวยตวัดมองคนพูดอย่างกังวล
คำว่า ‘ซื่อ’ ของฟ็อกซ์นี่มันจะเชื่อถือได้แน่เหรอ ??
“สองคนเขาจะได้ปรึกษาเรื่องงานกัน งานน่ะงาน งานนนนน”
จำได้ว่าตอนที่รู้จักกันครั้งแรก เพื่อนเขาแต่ละคนต่างก็บอกว่าฟ็อกซ์เป็น ‘คนซื่อ’ ทั้งนั้น แต่เขาก็ค้นพบแล้วว่ามันไม่ใช่เลยแม้แต่นิดเดียว
“ไปครับ เราก็ไปนอนกันได้แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง คริสน่ะมันโตแล้วนะ” ฟ็อกซ์ลุกขึ้นลากท่อนแขนบางนั้นให้เข้าห้องไปพร้อมกัน
“มีแต่ผมนี่แหละที่ยังเด็กอยู่ ต้องให้เคนกล่อมนอนอยู่ทุกคืนเลยเนี่ย” เคนยะเจอลูกอ้อนจนนึกอะไรไม่ทัน
“บ้าจริง ๆเชียวฟ็อกซ์เนี่ย” เสียงเคนหวานจัง
“ไม่บ้าหรอก น่ารัก”
“ หลงตัวเอง”
“ก็นะ”
“ชิ๊! จะไปขัดปืนก่อนแล้วค่อยนอน”
“ไม่เอาง่วงแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ขัดให้”
“จริงรึเปล่า”
“จริง ฟ้อดดดดดดดดดดด”
“เดี๋ยวเหอะ”
“ชื่นใจจัง”
.
.
.
ปึง!!!!!!!
“เย้ย! ตกใจหมดเลยไอ้ซาโต้!” คริสสะดุ้งสุดตัวตะโกนโหวกเหวก ในมือยังถือโทรศัพท์ที่กำลังเล่นเกมส์ค้างอยู่
เป็นซาโต้ที่เตะประตูห้องเข้ามาอย่างแรง ในอ้อมแขนหอบทั้งหมอนผ้าห่มและฟูกจนเต็มสองมือ เขายืนอยู่หน้าห้องพร้อมใบหน้าบูดบึ้งเป็นเด็ก ๆ
“ไม่ยอมลงไปรับเค้า”
คริสตินมองท่าทางแบบเด็ก ๆ ของซาโต้อย่างง ๆ มันพูดว่า ‘เค้า’ ตลกว่ะ
“อ้าว ก็ไหนพี่เคนบอกว่าจะให้มึงนอนข้างล่างกับพี่ฟ็อกซ์ไง” คริสเดินออกมาที่หน้าประตูแล้วรับเอาผ้าห่มหมอนจากซาโต้มาอุ้มไว้แทน
“จะนอนกับกูเหรอ?” เขาดัน ๆ ตัวซาโต้เข้าห้องแล้วใช้สะโพกถด ๆ ถอยหลังปิดประตูอย่างทุลักทุเล
ซาโต้ยังนิ่ง....สงสัยงอนอยู่
“ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวใช้เสื้อผ้ากูก็ได้” คริสยื่นผ้าเช็ดตัวให้ผืนหนึ่ง อีกฝ่ายรับไว้แบบไม่เต็มใจนัก จากนั้นก็เดินปัดก้นเข้าห้องน้ำไป
ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีด้วยซ้ำ
“เมื่อกี้คุยกับใครอยู่” พออาบน้ำเสร็จซาโต้ที่นุ่งผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียวก็คลานขึ้นมาบนเตียง กลิ่นครีมอาบน้ำฟุ้งไปทั่วตัวกันเลย
“เปล่า”
“ไม่เชื่อครับ เห็นถือโทรศัพท์อยู่ชัด ๆ ”
“เล่นเกมส์”
“จริงเหรอ ไหนเอามาดูซิ” พูดแล้วเขาก็คว้าโทรศัพท์มากดอะไรยุกยิก ๆ อยู่สักพัก แล้ววางมันเอาไว้ ที่หัวเตียง!
"ไลน์กับใคร เกือบทุกวันเลยนี่" ซาโต้เอนตัวลงนอนข้าง ๆ
"เพื่อน"
"เพื่อนไหน ผมรู้จักไหม" ไอ้คู่หูคนนี้ชักจะเหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกที คริสตินนอนนึก ปกติเจ้านี่มันเป็นแบบนี้งั้นเหรอ ?
"ก็คนนั้นแหล่ะ ที่เราไม่ได้ไปรับตอนเขากลับไทยนั่นไง ตอนนี้กลับไปแล้ว"
"แฟนคริสเหรอครับ?"
"ไม่ใช่หรอกเคยบอกมึงไปแล้วไง จะไปพูดถึงเขาทำไมวะ เสื้อผ้าอยู่ในตู้นะหาเอาเอง” คริสว่าพร้อมคว้าผ้าห่มผืนโตมาห่มเตรียมตัวจะนอน
“หาให้หน่อยนะ” พอถามจนเคลียร์แล้วเขาก็เริ่มอ้อน
“ไม่เอากูจะนอนแล้ว มึงหาเอาเองเสร็จแล้วก็ปิดไฟด้วย”
“โห ใจร้ายนี่”
“หาเอาเอง”
“งั้นไม่หา นอนแบบนี้แหละ” ว่าแล้วซาโต้ก็ลุกไปปิดไฟแล้วมุดเข้าในผ้าห่มผืนหนาของคริส ทำเอาอีกฝ่ายถดหนีแทบไม่ทัน
“ซาโต้! ตัวมึงเย็นนะ กูหนาวอย่ามาถูกตัวกู ไปใส่เสื้อผ้าไป”
“หนาวเหรอ งั้นเดี๋ยวกอด มาเร็วๆๆๆ” ยิ่งพูดยิ่งคว้าร่างคริสเข้ามาหา
“ไม่เอา! ไปใส่ชุดก่อน”
“คริสอย่าดิ้นมากสิครับเดี๋ยวผ้าเช็ดตัวหลุดนะ!”
“เรื่องของมึงดิ๊ อย่ามายุ่งกับกู๊!” คริสยังดิ้นต่อ มือไม้ปัดป่ายมั่วไปหมด
“อ้าว! แล้วถ้ามันหลุดขึ้นมา.......” คำพูดซาโต้ยังไม่ทันจะจบ คริสตินกระชากผ้าห่มผืนหนาของตัวเองตวัดทิ้งลงข้างเตียงพร้อมดีดตัวจะลุกขึ้นหนี
สายตาก็ต้องตะลึงเมื่อสะดุดอยู่กับอะไรบางอย่าง จากคนที่นอนแผ่หลาอยู่
คริสก้มลงไปเพื่อมองให้ชัด ๆ ว่ามันคืออะไร
แม้ว่าไฟในห้องจะปิดไปแล้ว แต่แสงรำไรจากระเบียงก็พอจะมองเห็นอะไรต่อมิอะไรอยู่บ้าง
ดวงตากลมเบิกกว้างจนค้างเติ่ง
“อ๊ากกกกก ไอ้ซาโต้!!!!! ไอ้วิปริต!!!!!!!!!!” เสียงร้องดังลั่นจากใบหน้าที่เหรอหราตื่นตูม
ที่แท้ตอนที่คริสกระชากผ้าห่มออกนั้น ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่ซาโต้นุ่งอยู่ดันติดออกไปด้วย ตอนนี้ซาโต้จึงนอนอยู่ในสภาพเปลือยหมดทั้งตัว มิหนำซ้ำอะไรต่อมิอะไรกำลังกึ่ม ๆ อยู่พอดี แต่ไม่ใช่แค่คริสเท่านั้นที่ตกใจซาโต้เองก็หน้าตื่นไม่แพ้กัน คริสตินคว้าได้หมอนได้ตุ๊กตาอะไรก็ขว้างเข้าใส่ไปแบบไม่มียั้ง
“คริส! พอแล้วครับ คริส!” ซาโต้มัวแต่เอามือปัดหมอนที่อีกฝ่ายขว้างมาจนไม่รู้จะเอามือไหนมาบังส่วนนั้นของเขาไว้
“ไอ้บ้าซาโต้ มึงแม่มทุเรศที่สุด! ยัง ยังไม่รีบลุกอีก ” คริสฟิวส์ขาดตะโกนด่าเสียงดัง คราวนี้ซาโต้ลุกขึ้นมาแล้วจริง ๆ เขาเห็นผ้าเช็ดตัวกองรวมอยู่กับผ้าห่มแถวใต้ขาคริสพอดีจึงจะเดินเข้าไปเก็บ คริสตินดันหันกลับมาพอดี
“ไอ้ซาโต้!!!!! มึงเดินเข้ามาใกล้กูทำไม ทุเรศที่สุด!” คริสรีบผลักซาโต้ออกห่างอย่างแรงซาโต้ในร่างเปลือยจึงคว้าเขาไว้เพราะจะเสียหลักล้ม คริสยิ่งร้องตกใจขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
“อย่าร้องสิครับคริส โถ่!”
“มึงแหละมากอดกูทำไม ไอ้ทุเรศเนี่ย ปล่อยกูเลยนะ” ไม่ใช่โวยวายธรรมดาแต่ยังดิ้นแรงอีกด้วย
“ผมบอกว่าเงียบ ๆ ไง” ซาโต้ใช้มือปิดปากอีกฝ่ายไว้ “ เดี๋ยวเคนยะกับฟ็อกซ์ได้ยินจะแย่เอานะ”
“ปล่อยกู๊!!!” ทั้งดิ้นทั้งเตะทั้งต่อยลมมั่วไปหมดเสียงเล็กอู้อี้
“เงียบก่อนแล้วปล่อย” คริสยิ่งดิ้นเขายิ่งต้องกอดให้แน่น ทำให้เจ้าซาโต้น้อยที่กำลังล่อนจ้อนยิ่งเติบโตขึ้นไปอีก
“ไอ้อาโอ้อ่อยเอี๋ยวอี้ อ่อยยยยยย” เสียงพูดอู้อี้จากคนที่โดนอีกฝ่ายใช้มือกอดและปิดปากไว้แน่น
“เงียบแล้วนิ่ง ผมจะปล่อยโอเคนะ” ซาโต้เองก็รัดไว้อย่างแน่น ถ้าเคนได้ยินล่ะก็แย่แน่ เดี๋ยวได้ไล่เขาไปนอนข้างล่าง จบเห่กันพอดี
คริสตินเองก็เริ่มหมดแรง
“ไม่ตะโกนนะ สัญญามาก่อน”
“อื้อ อื้อ เอ็วเอ้าอูอ๋ายใอไอ้ออก”
“ครับ ๆ ปล่อยแล้ว ๆ ” ซาโต้ปล่อยมือออกจริง ๆ เขาก้มลงไปหยิบผ้าเช็ดตัวขณะที่คริสรีบคว้าผ้าห่มแล้วพุ่งขึ้นไปบนเตียง เอาผ้านวมผืนโตพันตัวไว้เหมือนก้อนดักแด้ไม่มีผิด มีแต่หน้าเล็ก ๆที่โผล่ออกมา
“เสื้อผ้าอยู่ในตู้รีบใส่เร็วเข้า! น่าเกลียดเป็นบ้ามึงน่ะ และถ้ามึงไม่ใส่นะ ก็เชิญลงไปนอนข้างล่างได้เลย” พอพุดเสร็จเขาก็รีบหันหน้าเข้าฝาผนังทันที
“โห ใส่ดิ ” ซาโต้เดินไปหยิบคว้ามามั่ว ๆ แล้วสวมอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาเองก็กระโจนขึ้นเตียงบ้าง สองมือขยี้ ๆ ผมให้เข้าที่ ก่อนจะนอนลงไปที่หมอนนุ่มใบใหญ่
“คริส”
“หือ”
“คริสครับ”
“อะไรล่ะ”
“รับผิดชอบผมนะ”
“รับผิดชอบอะไร”
“ก็....” ซาโต้พลิกตัวเข้าหา คว้าก้อนดักแด้เข้ามาอยู่อ้อมกอดของตนเอง
“ก็คริสเห็น....อะไร ๆ ของผมทั้งหมดแล้วนี่ ” ซาโต้เริ่มอึกอัก ขณะที่คริสตินเริ่มกลอกตาไปมา “คนขี้โกง คิดจะไม่รับผิดชอบผมรึไงครับ”
“เฮ้ยยย!” คริสรีบหันหน้ามาทันที
“อะไรของมึงซาโต้ เรื่องแค่นี้ธรรมดาจะตายไป ทำเป็นสาวน้อยบริสุทธิ์ไร้เดียงสาไปได้ จะมาโวยวายอะไรล่ะ”
ซาโต้ได้แต่คิดในใจว่าใครกันแน่ที่โวยวายจนห้องแทบแตก แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้
“ก็แล้วจะรับผิดชอบเค้ารึเปล่าล่ะ” ยังมากระแดะทำเสียงเหมือนผู้หญิง
“แล้วจะให้กูรับผิดชอบยังไง ไหนลองว่ามาดิ๊” คราวนี้คริสลุกขึ้นนั่งแล้วจ้องอีกฝ่ายในความมืด
คราวนี้จะมาไม้ไหนอีก
ซาโต้ทำท่าคิดเล็กน้อย “ก็......เพื่อความยุติธรรม.....คริสต้องให้ผมดูเหมือนกันไง”
ซาโต้พูดเสียงเรียบขณะที่คริสตินก็ทำท่ากลอกตานึก ๆ
“ซาโต้”
“ครับ” เสียงแหบพร่าเหมือนกำลังรอฟังคำตอบ
“มึงนอนเถอะนะ ความยุติธรรมอะไรนั่นกูไม่มีหรอก กูไม่ได้ทำงานที่กระทรวงยุติธรรมดำรงตำแหน่งท่านผู้พิพากษานะเว้ยยยยย!!!!!” ใครจะไปโง่ยอมให้มึงดูกัน พูดออกมาได้ทำเป็นมาอ้างความยุติธรรม มึงมันเจ้าเล่ห์ไม่เปลี่ยนเลย
คริสใช้หมอนหนุนของตัวเองตะลุมฟาดลงไปหนัก ๆ หลาย ๆ ที ซาโต้ไม่หลบแล้วคราวนี้เขาพลิกเกมกลับทันที มือแกร่งคว้าจับข้อมือคริสตินไว้แน่นแล้วขึ้นคร่อมกดข้อมือบางสองข้างลงกับที่นอนจนอีกฝ่ายได้แต่ฟาดแข้งฟาดขาอยู่ที่ปลายเตียงเพราะดิ้นไปไหนไม่ได้
“เด็กไม่ดี ขี้โกง”
“ใครกันแน่ที่ขี้โกง” คริสสวนขึ้นทันที ใบหน้าเด็ก ๆ นั่นเบี่ยงหน้าหลบสายตาคม แม้จะอยู่ในความมืดแต่เขาเองก็รู้สึกได้ว่าสายตาที่จ้องมองลงมานั้น หวานเชื่อมแค่ไหน
“........”
“อะไรของมึง! ปล่อยได้แล้วรีบนอนพรุ่งนี้กูต้องตื่น........”
“ทำได้ไหมครับ”
หืมม
“ทำกันนะ”
อะไรนะ คริสเริ่มพยายามฟังให้ชัด แต่ซาโต้ไม่พูดต่อแล้ว ใบหน้าคมโน้มต่ำลงมาเรื่อย ๆ
“ดะ.....เดี๋ยว” คริสขยับข้อมือไม่ได้ ซาโต้กดไว้จนแน่นจมยุบลงไปบนที่นอนหนา
ริมฝีปากสวยแตะจูบลงไปที่ปากนุ่มๆของคริสตินเรียบร้อย ซาโต้ย้ำจูบรอบริมฝีปากอยู่อย่างนั้นจนสักพักปลายลิ้นอุ่นของซาโต้ก็สอดแทรกตามเข้ามา
“ซาโต้ ไม่ทำนะ ไม่เอา” คริสเบียงหน้าหลบ เขารู้สึกได้เลยว่าคราวนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้ง
ไม่เหมือนจูบธรรมดาที่เคยทำ
ซาโต้กำลังเอาจริง
“ ผมรักคริสนะ ” เสียงแหบพร่าของคนเอาแต่ใจ กับคำพูดเชิญชวนเสียตัวที่สุดในสถานการณ์ขณะนี้
ดวงตาสีเข้มที่มองทอดลงมาอย่างอ้อนวอน สวยงามมากจริง ๆ
Rrrrrrrr Rrrrrrrrr Rrrrrrrr Rrrrrrrrr
เสียงเพลงจากโทรศัพท์มือถือของซาโต้ดังขึ้น ขัดจังหวะทุก ๆ อย่าง
แสงไฟสีฟ้ากระพริบอยู่ที่หัวเตียง ข้าง ๆ กันกับโทรศัพท์ของคริสติน “โทรศัพท์มึงน่ะ รับสิ”
“........” ซาโต้ยังนิ่ง จ้องลงมาที่คริสตินอย่างไม่วางตา
“ซาโต้! เผื่อเป็นเรื่องด่วน” คริสตินขืนข้อมือเตือนสติ
ในที่สุดเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้น เขาปล่อยข้อมือบางนั้นออกแล้วพลิกตัวเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์มากดรับ มือแกร่งเสยผมตัวเองสองสามครั้งแล้วเอนตัวนั่งพิงพนักหัวเตียงไว้
“ ครับเจ.....
คริสตินได้ยินแค่นั้นจริง ๆ
เขาคว้าเอาเฮดโฟนที่หัวเตียงมาครอบใส่หูไว้แล้วกดปุ่ม Play ไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นเพลงอะไร ขอแค่ได้ยินเสียงอะไรก็ได้มากลบบทสนทนาของคนข้าง ๆ ให้เงียบไปเท่านั้นเป็นพอ
ซาโต้ปรายสายตาลงมาที่คนข้าง ๆ
มือแกร่งสอดลูบเรือนผมนิ่มไปมาเบา ๆ
โทรศัพท์สายเมื่อสักครู่ที่เขาเพิ่งวางลงไป เป็นเจด้าที่โทรเข้ามาคุยเรื่องเรื่อยเปื่อยไร้สาระ ถ้าเขาไม่มีภารกิจออกต่างจังหวัดเธอจะโทรมาเกือบทุกคืน ทำไมเขาถึงลืมไปได้นะ
ซาโต้คว้าหยิบโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องที่วางไว้อยู่ข้างกันขึ้นมา เป็นเครื่องของคริสตินที่เขาแสร้งกดเล่นเมื่อสักครู่ตอนเข้ามาที่ห้องนี้ครั้งแรก
“นอนได้แล้วมึง” เสียงแหบพร่าส่งตรงไปยังคนที่อยู่ปลายสาย “คริสหลับไปแล้ว”
“....................” ที่ปลายสายยังไร้เสียงโต้ตอบ
“กูรู้มึงยังไม่นอน เดฟ!”
ที่แท้ตอนที่ซาโต้แกล้งขอดูโทรศัพท์ของคริส เขากดโทรออกแล้วปล่อยสายค้างเติ่งไว้แบบนั้น เดฟผู้โชคร้ายจึงต้องฟังบทสนทนาทุกอย่างภายในห้องไปแบบเต็ม ๆ
“กูผิดมากไหม” ซาโต้เรียกพึมพำ เขารู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก เขาปล่อยให้เจด้าคิดเกินเลยกับเขาทั้งที่เขาจะพูดปฏิเสธไปแบบชัด ๆ ก็ทำได้แต่เขาก็เลือกที่จะปล่อยเลยตามเลย
“มึงทำคริสเสียใจ” ท่ามกลางความมืดมิด ในที่สุดเดฟส่งเสียงเย็นชามาให้
“...............” คราวนี้เป็นซาโต้เสียเองที่เป็นฝ่ายเงียบ
“มึงมันแย่จริง ๆ ถ้ามึงไม่คิดจะจริงจัง ถ้ามึงแค่จะแกล้งหยอกมันเล่น ๆ มึงอย่าเลยซาโต้ เด็กขายเยอะแยะไปถ้ามึงอยากลองของแปลก เล่นกับความรู้สึกคนน่ะ ไม่ดีหรอกนะ” เดฟใส่มาเป็นชุด ทุกบทสนทนาทั้งกับคริสและกับเจด้าเขาได้ยินหมดทุกถ้อยคำ
เขายอมรับเลยก็ได้ คำพูดที่คุยโต้ตอบกับหมอเจนั้นเหมือนคนเป็นแฟนคุยกันไม่มีผิด
“เดฟ......กูจริงจัง”
“ถ้ามึงจริงจังนะ เมื่อกี้มึงจะรับสายเจด้าเพื่อ? แล้วมึงยังยอมคุยยาวจนคริสหลับไปแบบนั้น มึงยังกล้าพูดนะว่ามึงจริงจัง”
ซาโต้มองดูใบหน้าไร้เดียงสาที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ข้าง ๆ เขาอีกครั้ง อดไม่ได้ที่จะใช้ปลายนิ้วไล้เกลี่ยที่แก้มใสนั้นเบา ๆ
“จริงจังสิ กูจริงจัง” ซาโต้พึมพำ
“อย่าพูดดีแต่ปาก ถ้าการกระทำของมึงยังไม่ใช่”
“หึ ทำไมวะ มึงพูดเหมือนมึงชอบมันอย่างงั้นแหละ”
“.............”
“เหี้ยเดฟ”
“............”
“หึหึ เป็นอย่างที่กูคิดจริง ๆ ”
“ซาโต้”
“..........”
“ดูแลมันดี ๆ สิวะ ไม่ได้ทำยากเย็นอะไรสักหน่อย มึงตัดสินใจให้แน่นอนไปเลย มึงทำแบบนี้คริสเสียใจนะเว้ย”
ซาโต้หัวเราะออกมาเบา ๆ “ตกลงว่ากูพลาดไม่ได้เลยใช่ไหมเนี่ย”
“แน่นอน! ถ้าวันไหนคริสมาร้องไห้กับกูเพราะมึงล่ะก็ กูจะไม่ปล่อยมันกลับไปให้มึงอีกเลย จำไว้ด้วยล่ะ!”
สิ้นเสียงของเดฟซาโต้กดสายทิ้งทันที อดไม่ได้ที่จะใช้มือขยี้หัวตัวเองเพื่อเรียกสติ เขาวางโทรศัพท์ของคริสตินไว้ที่ตำแหน่งเดิม ถอดเฮดโฟนที่ครอบศีรษะของคนที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องออกอย่างเบามือ เสียงเพลงร็อกลอดออกมาซะกระหึ่ม เมื่อจัดการกดปิดทุกอย่างเรียบร้อย อ้อมแขนใหญ่ก็คว้าเอาคนข้าง ๆ มากอดไว้ทั้งที่ตัวห่อผ้าห่มซะหนาขนาดนั้น
ซาโต้หอมแก้มนุ่มนั้นไปสองสามครั้ง แล้วกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
จะสนใจคำพูดของเจ้านั่นไปทำไม คริสนอนอยู่กับเขาตรงนี้แล้ว แม้ว่าจะกังวลกับคำพูดของเพื่อนอยู่บ้าง แต่ความหนักแน่นของเขาจะทำลายความหวังของเจ้านั่นให้หมดไปเลยคอยดู
ใครจะไปยกให้มึงกันไอ้เดฟ!
ตัวอุ่น ๆ นิ่ม ๆ หอม ๆ แบบนี้
หน้าตาแปลก ๆ แบบนี้
กูรักของกูจะตาย!
.
.
.
.
.
.
Tbc.