Thursday, April 17, 2014

เพื่อนแบบนี้ฯ Season2 (coz you) *Yaoi* Intro




"coz you"   
เพื่อนแบบนี้ season 2(ภาคโต)



Intro



ฤดูกาล......แปรผัน
ท้องฟ้าสีน้ำเงินสดใสแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีส้มย้อมฉาบและค่อยคล้อยต่ำลงเปลี่ยนเป็นความมืดมิดเข้าแทนที่
เกลียวคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง
ราตรีทิวากล้ำกลายมิรู้จบ
ใบไม้เขียวสด....ร่วงโรยรา

5 ปี ผันผ่าน  เขาหินผาที่ว่าแข็งแกร่งก็ยังมีเศษหินร่วงหล่นผุกร่อนลงไป......ตามกาลเวลา



.....นับประสาอะไรกับใจคน......




ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศตกกระทบผิวแก้มใสจนทำให้คนที่นอนซุกหน้าอยู่กับหมอนต้องฝังจมูกซุกหน้ากดลงไปอีก แม้จะเป็นช่วงฤดูหนาวที่อากาศชื้นจนแสบจมูก แต่เจ้าของห้องติดการเปิดแอร์จนกลายเป็นความเคยชินไปซะแล้ว


เขาล้วงมือเข้าไปใต้หมอนควานหาไอโฟนคู่ใจ พยายามหรี่ตามองดู  05.50 น.  ที่ประตูห้องทุกอย่างยังมืดและเงียบ  หลับตาลงอีกครั้งเพียงแค่ต้องการจะ......คอย.....การกระทำของใครบางคนที่แสนคุ้นเคย...



คอย....เพราะไว้ใจและเชื่อใจ



เสียงเปิดประตูเบา ๆ ทำให้คนที่นอนอยู่อดที่จะระบายยิ้มออกมาไม่ได้ แม้ตาจะหลับแต่ก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักตัวที่กดลงบนที่นอนหนานุ่มนั่งอยู่ข้าง ๆ กัน


ตื่นได้แล้วครับโน่  เดี๋ยวสายนะ”  เบาและนุ่มยิ่งกว่าเสียงกระซิบ หวานเสียยิ่งกว่าคำบอกรักหรูหรา


“...หึ


แกล้งรึไงครับ ตื่นแล้วแต่ไม่ยอมลุก อยากไปทำงานสายรึไง  หืมม? ”  ปลายนิ้วแกร่งเกลี่ยปอยผมที่ปรกอยู่ข้างแก้มใสนั้นออกเบา ๆ  ร่างที่นอนอยู่พลิกตัวขึ้นมามองหน้าคนที่นั่งจ้องอยู่ด้านบน


อาหารเรียบร้อยแล้วครับ ลุกนะแขนเรียวจากคนด้านล่างยื่นออกมาดึงแว่นสายตาใสออกจากดวงตาคมกริบ พร้อมรอยยิ้มยั่ว


เข้ามาปลุกช้าเสียงต่อว่ามาพร้อม ๆ กับเรียวแขนที่ค่อย ๆ โน้มคอคนข้างบนให้ต่ำลงมาใกล้ริมฝีปากตนมากขึ้น....



มอนิ่งคิสครับ”  ร่างสูงจุมพิตลงที่ริมฝีปากบางเบา ๆ แล้วรีบละออก ขณะกำลังจะลุกขึ้นเขาถูกแขนบางดึงเกี่ยวเอาไว้ก่อน


คิม...


อย่าเล่นครับโน่  เดี๋ยวกูทนไม่ไหวมึงจะแย่นะ


ใครบอกจะเล่น มึงลืมไอ้นี่ต่างหากพูดจบยื่นแว่นสายตาที่ตัวเองยึดเอาไว้ก่อนหน้าส่งให้


บอกแล้วให้นอนห้องเดียวกันก็ไม่เอา กว่ากูจะทำอะไรเสร็จก็เข้ามาปลุกสายแบบนี้น่ะสิ


แล้วใครกันที่แอบเข้ามานอนด้วยอยู่ทุกคืน


เมื่อไหร่จะใจอ่อนครับโน่  มันทรมานมากรู้ไหม”  สายตาที่ทอดลงมาเต็มไปด้วยแววตาแห่งความอ้อนวอน มือบาง ๆ นั้นยกขึ้นจับข้อมือแกร่งแล้วเอามาชิดที่แก้มตนเบาๆ


“....ไม่นานหรอกคิม ให้กูหมดสัญญากับโรงแรมบ้านั่นก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างของกูจะยกให้มึงทั้งหมดเลยแววตาที่ทอดออกมาพร้อมกับคำพูดที่เต็มไปด้วยร่องรอยของความเจ็บปวด


สัญญาบ้า ๆ นั่น ข้อตกลงห่วยแตก ความเป็นจริงที่แสนเจ็บปวด อิสรภาพที่ถูกจำกัดและสร้างขึ้นโดยผู้ใหญ่ที่เห็นแก่ตัว....




...ลูกชายคนเล็กของบ้านจิระพิพัฒน์ จะต้องเข้าทำงานชดใช้เป็นระยะเวลา 5 ปีนับตั้งแต่เรียนจบ...

เพราะฉันจะได้ให้คนอย่างเธอมาอยู่ในสายตาของฉันตลอดเวลายังไงล่ะ   หลานชายฉันเขาจะกลับมาพร้อมคู่หมั้นของเขา  ถึงวันนั้นเธออาจจะหมดสัญญากับทางเราแล้วก็ได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องบริษัทถ้าครบกำหนดเมื่อไหร่ ฉันจะคืนหุ้นทั้งหมดกลับคืนให้บ้านของเธอแน่นอน

รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ...เรื่องทั้งหมดมันเกิดเพราะตัวของเธอเองนะ...

โป้งเค้าฉลาดแน่อยู่แล้ว  เรื่องอะไรเขาจะเลือกเธอ  ธุรกิจของครอบครัวเขามันต้องสำคัญกว่าเป็นไหน ๆ ทั้งตำแหน่งว่าที่ประธาน  ตำแหน่งเจ้าของโรงแรม แค่เขาเลือกทิ้งเธอไปทุกสิ่งทุกอย่างก็จะอยู่ในกำมือของเขา


บ้านเรากำลังจะล้มละลาย บริษัทใหญ่ของญี่ปุ่นเทคหุ้นของเราไปเกือบหมด มันแกล้งกันชัด ๆ ทั้งที่เราติดต่อค้าขายกันแค่ล๊อตเดียวเท่านั้น

เราจำเป็นต้องขายบ้าน ขายโรงงาน สินทรัพย์ทุกอย่างที่ถูกรายงานโดยกฎหมายเราถูกยึดโดยบริษัทข้ามชาตินั้นเรียบร้อย

ป๊ากับแม่ไม่ยอมกลับเมืองไทยอีกเลยเป็นเพราะอายเสียงนินทาเรื่องการล้มละลายของบ้านเรา





อดที่จะหลับตาลงไม่ได้เมื่อคิดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น น้ำที่อยู่ในตารื้นขึ้นมาคลอหน่วยจนแทบจะปริ่มล้น 


ริมฝีปากของคนด้านบนประทับจูบลงบนเปลือกตาบางเบา ๆ เพื่อปลอบประโลม


ยังคิดมากอยู่อีก ?”




กูเกลียดคนบ้านมัน เกลียดโรงแรมนั่น แม้กระทั่งตัวมันกูก็อดที่จะรังเกียจไม่ได้ ผู้ชายเห็นแก่เงินที่ยอมทิ้งกูเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง....







ตึกกระจกสูง 59 ชั้นตั้งตระหง่านใจกลางกรุง มองยังไง ๆ ก็เรียกว่าสุดที่จะหรูหรา หลังคาทรงไทยที่ยื่นออกมาด้านหน้าแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมตะวันออกกับตะวันตกได้อย่างลงตัว


LexusVan สีดำโฉบผ่านป้ายชื่อขนาดยักษ์ที่ขนานไปกับทางขึ้นเนินเพื่อเข้าตัวล็อบบี้ของโรงแรมแล้วขับอ้อมลงมา ตัดผ่านทางลงชั้นใต้ดินด้านข้าง ในที่สุดรถจอดลงหน้าลิฟต์สำหรับพนักงานที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน


มารับเย็นหน่อยนะ วันนี้กูกะเคลียร์งานยาวเลย 


อธิป จิระพิพัฒน์ หรือ โน่ หนึ่งในพนักงานดูแลระบบของโรงแรมดังสุดหรูย่านสาทร


ไหนว่าเกลียดที่นี่วะ  ทีเวลางานล่ะก็กระตือรือร้นสุด ๆ เลยนะมึงอ่ะ”  


ภัทร อัครดำรงกุล หรือ คิม  ผู้เป็นทั้งเพื่อนและแฟนเก่า(มั้ง)  เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มหาวิทยาลัย ทำธุรกิจรีสอร์ทดังอยู่ที่เกาะเสม็ดและมีออฟฟิศจำเป็นอยู่แถวสีลม ความสัมพันธ์ปัจจุบันกับโน่ ?   คลุมเครือสุดขีดไม่รู้ว่าตั้งอยู่ในระดับไหน  เพื่อน ?   ญาติ คนรัก ?


แม้แต่ในสายตาคนในโรงแรมเองก็ยังตอบไม่ได้   3 ปีที่คอยเทียวรับเทียวส่งกันตลอด แต่โน่ก็ยังปากแข็งไม่ยอมเปิดเผยถึงฐานะของเจ้าของรถแวนสีดำคันนั้น  แต่ก็นะ  ก็ทั้งคู่เป็นผู้ชายหน้าตาดีนี่นา จะให้มาป่าวประกาศโต้ง ๆ ว่าคบกันอยู่มันก็ยังไง ๆ  คงไม่อยากให้เหล่าหญิงแท้ทั้งหลายเสียดายล่ะมั้ง


ตุบ!!!

เสียงแฟ้มเอกสารโดนกระแทกลงบนโต๊ะทำงานสุดรก! ด้านซ้ายก็เครื่องคอมพิวเตอร์ ด้านขวาก็เครื่องคอมพิวเตอร์ ตรงกลางก็เครื่องโน้ตบุ๊คที่ฮาร์ดดิสกำลังจะเจ๊งแหล่มิเจ๊งแหล่


อะไรกันครับพี่โน่ อารมณ์เสียแต่เช้าเลยนะบีบี  เด็กรุ่นน้องพนักงานใหม่ที่เพิ่งเข้ามาเมื่อ 2 เดือนที่แล้วร้องทักทันทีที่ผมโยนแฟ้มที่หอบมาจากบ้านเมื่อเช้าลงบนโต๊ะทำงานแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้


หัวหน้าทำไมยังไม่มาวะ เดี๋ยวนี้หัดเข้าสายกว่าลูกน้องผมบ่นไปเรื่อยเปื่อยแค่หาเรื่องคุยกับเจ้าคนที่นั่งอยู่โต๊ะข้าง ๆ ก็แค่นั้น 


โดนเรียกประชุมตั้งแต่ 7 โมงแล้ว  พี่โน่น่ะแหละที่สาย วันนี้เค้าเรียกประชุมหัวหน้าทุกฝ่ายเลย


จริงอ่ะ ?” ผมไม่รู้เรื่องหรอกครับไม่สนใจด้วยเพราะผมไม่เคยได้เข้าประชุมอะไรแบบนั้นอยู่แล้ว


เออแล้วมึงทำเรื่องเบิกซื้อฮาร์ดดิสตัวใหม่ให้กูรึยังเนี่ย ?”  ต้องถามขึ้นมาเนื่องจากสายตาสะดุดอยู่ที่โน้ตบุ๊คตัวเก่งที่วางอยู่ตรงหน้า


เรียบร้อยแล้วครับ แต่จะอนุมัติเมื่อไหร่อันนี้ตอบไม่ได้


ไม่เป็นไรว่าแต่มึงเป็นคนเซ็นต์ขอเบิก เพราะถ้าเป็นชื่อกูยังไงซะเงินงบห่าอะไรนั่นก็ไม่เคยได้รับอนุมัติอยู่แล้ว”  สัญญาเหี้ย ๆ ที่จุกอยู่แถวหน้าอกนี่มันช่างยาวนานจริง ๆ ผับผ่า!


ตุบ!!!


คราวนี้ไม่ใช่ที่โต๊ะผมครับแต่เป็นโต๊ะข้าง ๆ อีกฟากนึง พี่โอหรือที่พวกผมเรียกว่าหัวหน้าเดินเข้ามาอย่างหัวเสียทิ้งตัวหนัก ๆ นั่งลงบนเก้าอี้ปกติตัวนึงแต่ไม่รู้ทำไมพอแกนั่งลงเก้าอี้มันถึงได้เล็กลงไปถนัดตา


บีบี  มึงไปชงกาแฟดำมาให้กูสักแก้วสิ


ได้เลยครับหัวหน้า ประชุมท่าทางจะเครียดนะครับ”  เจ้าเด็กใหม่ลุกขึ้นอย่างว่าง่าย


พวกมึงรู้ป่ะ โรงแรมเราจะเปลี่ยนบอร์ดบริหารใหม่ว่ะ ชื่อโรงแรมก็เลยต้องปรับเปลี่ยนนิดหน่อยด้วย” 


ผมกับบีหูผึ่งพอ ๆ กัน ต่างคนหันมามองที่หัวหน้าเป็นตาเดียวแต่ยังไม่กล้าเอ่ยปากถาม สักพักพี่แกก็พูดต่อ


 MT Grand Residence Bangkok Sathorn  เป็นไง ชื่อใหม่เจ๋งป่ะวะ


เฮ้ยพี่!  ทำไมต้องเติมสาทรด้วย หมายความว่า....?”  ไอ้บีบีถามตาโต


ถูกต้องไอ้น้อง!  ความลับที่ถูกปิดมาเป็นเวลานาน โรงแรมใหม่เค้าริเวอร์ไซด์อยู่แถวเจริญกรุงโน่น ได้ยินข่าวว่าบอร์ดใหม่จากญี่ปุ่นจะมาถึงวันนี้ซะด้วย แปลกชิบหายเลยว่ะ โละทีเดียวยกบอร์ดแบบนี้ มันน่าจะมีอะไรแม่ง ๆ


หรือว่าขาดทุน?!”  เสียงไอ้บีอุทานอย่างดัง


ขาดทุนบ้านมึงสิ กลุ่มเงินทุน MT ตอนนี้ถือเป็นกลุ่มที่ได้ความไว้วางใจ1ใน 3 จากตลาดหลักทรัพย์เอเชียเลยนะมึง แล้วไอ้โรงแรมใหม่ริเวอร์ไซด์นั่นก็เป็นโครงการของประธานคนใหม่เค้า   คงจะมาคุมเองล่ะมั้ง แล้วก็เลยควบโรงแรมนี้ไว้ซะเลย ไหน ๆ ก็จะมาทำงานที่ไทยแล้วนี่เนอะ


ประธานคนใหม่เหรอครับ”  ถ้วยกาแฟถูกวางลงตรงหน้าคนตัวใหญ่อย่างสุภาพ


อืม เป็นไปตามคาด มิสเตอร์ปิยนัท  ลูกชายคนเดียวของท่านน่ะแหละ



ว่าไงนะ จะกลับมาแล้ว ?


อันที่จริงพวกผมก็พอจะรู้ข่าวมาก่อนแล้วจากวารสารของโรงแรม  ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ลูกชายคนเดียวของท่านประธานใหญ่กลุ่ม MT หลังจากจบออกมาก็ลุยงานด้านโรงแรมมาตลอด    ช่วง 2 ปีที่แล้วก็เพิ่งพาโรงแรมหลักที่ญี่ปุ่นคว้า1ใน10 ของโรงแรมที่น่าพักที่สุดในโลก  ปลายปีที่แล้วได้ยินข่าวว่าจะขยายสาขามาไทยอีก 1 แห่ง ไม่คิดว่าจะสร้างริเวอร์ไซด์สปา ฯ ขึ้นมาเร็วขนาดนี้


ผมได้แต่นั่งฟังหัวหน้ากับไอ้บีคุยกันอย่างเงียบ ๆ ไม่มีความเห็นอะไรที่ออกมาจากปาก ทุกอย่างเกี่ยวกับชายคนที่พวกเขากำลังพูดถึงอยู่นั้น ผมไม่อยากสนใจ จะมาหรือจะไปเมื่อไหร่ผมไม่อยากรับรู้ 


ผมเหลือสัญญากับที่นี่อีกแค่ 2 ปีเท่านั้น หลับหูหลับตาทำให้มันจบ ๆ ไปซะ อิสระภาพของผมกำลังจะกลับมาแล้ว และที่สำคัญคุณภาพรรณประธานคนเก่าตอนนี้ข่าวว่ากำลังจะถูกเด้งให้ไปประจำอยู่ที่มาเลเซียแล้วด้วย



น้องโน่เป็นอะไรคะ!”  ผมรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่คนตรงหน้ายืนเท้าสะเอวจ้องหน้าผมอย่างเอาเรื่อง


พี่เรียกตั้งหลายทีแล้ว เหม่อลอยแบบนี้เมื่อเช้าทะเลาะกับเจ้าคิมมารึไง ?”  พี่หนิง เลขาสาวอกสะบึมขวัญใจพนักงานชั้น 10  กำลังแหกปากแดง ๆ ของเธอทักทายผม


พี่เข้ามาตอนไหนอ่ะ ?”


ไอ้โอ ห้องพวกมึงหนาวว่ะแม่ง เบาแอร์ลงหน่อยไม่ได้รึไงวะไม่ตอบคำถามผมแต่หล่อนหันไปแขวะท่านหัวหน้าเข้าให้ เจอพี่โอเบ้ปากไม่สนใจ


หนิงมึงแต่งตัวแต่ละชิ้นไม่เต็มเต็งทั้งนั้น ขาด ๆ แหว่ง ๆ ไม่หนาวก็แปลกล่ะวะ  แถมคอมฯโคตรรพ่อมึงตั้งอยู่ทางโน้นร้อนไม่ได้ซะด้วยหัดแหกตาดูซะบ้าง  มึงคิดว่าพวกกูไม่หนาวรึยังไง


ตกลงมึงเปิดแอร์ให้เครื่อง ? ”


ก็เออ


สัสโอ!”  ไม่ต้องตกใจนะครับพี่หนิงกับพี่โอแกเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนอยู่ เลยหยาบกันแบบนี้เป็นธรรมดา


มึงมีธุระไรกับลูกน้องกูก็รีบพูดไป เดี๋ยวหัวหน้ามึงได้โทรตามอีก กูรำคาญ


ชิ๊ !   น้องโน่เย็นนี้แวะไปช่วยพี่ที่ห้องแกรนด์ 2 ได้มะพี่อยากให้โน่คุมเครื่องให้พี่หน่อย เล่นกับคนอื่นมันไม่ค่อยเข้าขาน่ะเธอพูดแล้วโน้มหน้าอกสะบึมลงมาดันเคสตัวเน่า ๆ ที่วางอยู่ด้านซ้ายมือผม


เอ่อ....เย็นนี้ผม...


อื้ม...ไม่ให้ปฏิเสธนะจ๊ะ  โน่ช่วยงานพี่อยู่ตลอด ทำ-กับ-โน่-เข้าขาที่สุด เพราะงั้นงานนี้ พี่ขอ!   เจอกันที่ รีเซฟฯ 6 โมงนะ ออนทามจ๊ะไม่รอให้ผมตอบหรอกครับเธอเดินส่ายสะโพกออกไปเรียบร้อย


หึหึ   มึงแย่แน่ไอ้โน่  อีหนิงขอเข้าขากับมึงแบบนี้ เกาะมึงไม่ปล่อยแน่ มันยิ่งฮอตเรื่องเรียกงานเข้าโรงแรมอยู่ด้วย มึงเตรียมตัวทำโอทีตลอดทั้งเดือนเหอะมึง” 


แย่แน่ผมก็คิดงั้น  ช่วงหน้าหนาวของทุกปีงานเข้าตลอด  แถมพี่หนิงยังเป็นนักออแกไนซ์ตัวยงของโรงแรม ถึงขนาดเอ่ยปากแบบนี้ทำเอาผมเซ็งจิตสุด ๆ


หลังจากเคลียร์งานทุกอย่างที่แพลนไว้ของวันนี้เรียบร้อยผมโทรบอกกับคิมเรื่องงานที่ต้องเลทไปจนถึงช่วงดึก คงต้องให้มารับดึกหน่อย  แต่ก็เป็นแบบนี้ประจำ งานโรงแรมถ้ามีด่วนเข้ามาก็ต้องไปช่วยพี่ ๆ เค้าอยู่เหมือนกัน


ถึงแม้ผมจะเกลียดที่นี่แต่งานก็ต้องเป็นงาน  มองดูนาฬิกาอีกที 17.30 น. ผมรีบลงลิฟต์กดไปที่ชั้น ตรงไปรอพี่หนิงอยู่ที่เค้าเตอร์ รีเซฟชั่นด้านหน้า ช่วงเย็นแบบนี้แขกกำลังรุมเลยครับ ได้คุยกับลูกค้านิดหน่อยถือว่าเป็นการช่วยพวกพี่ ๆ ไปในตัว


“Thank you มาก ๆ นะจ๊ะโน่อุตสาห์มาช่วย”    พี่ดา  รีเซพชั่นสาวสวยของโรงแรมบอกกับผม หลังจากเคลียร์แขกที่หน้าเคาเตอร์เรียบร้อย


ลงมาช่วยที่ไหนล่ะพี่ ผมลงมารอพี่หนิง นัดกันไว้แถวนี้ผมตอบแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ว่างด้านหลังเคาเตอร์รีเซพชั่น


ยัยหนิงโทรมาบอกแล้วว่าจะลงมาเลทหน่อยให้โน่รอที่นี่ไปก่อน”  เธอพูดพร้อมยื่นเอกสารให้เด็กฝึกงานคนใหม่เอาไปเก็บ


ผมนั่งมองโน่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย แต่ถึงกับอึ้ง! เมื่อสายตาไปสะดุดกับแผ่นโพสอิทขนาดยักษ์ที่ติดข้อความเอาไว้อย่างโดดเด่นใต้เคาเตอร์


To P’da
17.50 Welcome Drink Mr.ปิยนัทและเลขาฯ
18.15  บอร์ดบริหารกลุ่มใหม่เข้า
Reception รับ

(PS. ท่านชอบดื่มน้ำแอปเปิ้ลเย็น)



แย่แล้ว! ลืมไปซะได้ ดันมานั่งอยู่แถวนี้   ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูโดยอัตโนมัติ 17.50 น. เป็นเวลาเดียวกับที่ถาดเครื่องดื่มถูกส่งต่อให้กับพี่ดาเธอเดินออกไปแล้ว ยังไงก็ต้องรีบลุกออกจากจุดนี้ก่อน  ผมยังทำใจไม่ได้ที่จะต้องเจอผู้ชายคนนั้น  แต่.....


.....คนที่กำลังก้าวเข้ามาจากประตูกระจกหมุนอัตโนมัติ


โดดเด่นถึงขนาดที่คนด้านในอย่างผมยังต้องหันไปดู



เนคไทสีเงินเส้นเรียวดูโดดเด่นเหลือเกินเมื่อประดับอยู่บนเชิ้ตรัดรูปสีดำสนิทแบบนั้น นาฬิกาสุดหรูเรือนทองโผล่พ้นชายแขนเสื้อขณะกำลังเดินคุยโทรศัพท์เข้ามาด้านใน ทรงผมที่ถูกหวีเสยขึ้นอย่างลวก ๆ ช่างเข้ากันกับเรย์แบนด์กันแดดที่ปกปิดดวงตาคู่สวยไว้อย่างไร้ที่ติ




5   ปี .......




5 ปีที่หลาย ๆ อย่างเปลี่ยนแปลงไป  แม้กระทั่งคนที่ผมกำลังมองอยู่ตอนนี้



ดูเปลี่ยนไปเยอะมาก  อย่างกับคนละคน.....



ติ๊ด   ติ๊ด   ติ๊ด   ติ๊ด     ติ๊ด   ติ๊ด   ติ๊ด   ติ๊ด


ดูเหมือนว่าเสียงเตือนข้อความโทรศัพท์จะทำลายความเงียบที่เกิดขึ้นในโสตประสาทได้อย่างประหลาด  เมื่อตั้งสติได้ ผมรีบหันหลังแล้วเดินเลี่ยงออกไปด้านหลังเคาน์เตอร์อย่างเงียบ ๆ


ในที่สุดมึงก็กลับมาแล้วสินะ ?


การรอคอยที่ยาวนานโดยไร้จุดหมาย จบลงได้สักที  ?


กับผู้ชายที่ทิ้งกูไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว   


เพื่อให้มีวันนี้ของตัวเอง  ?



                “ออกไปจากชีวิตกูซะโน่ กูไม่ได้รักมึงแล้ว หัดเข้าใจซะบ้าง 




ประโยคที่ผมจำได้จนขึ้นใจนับตั้งแต่วันแรกที่เราเดินกัน.....คนละทาง........ 




ง่วง ? ”  ฝ่ามือใหญ่ขยี้ลงที่หัวผมเบา ๆ สายตาที่มองผ่านกรอบแว่นใสนั้นออกมาแสดงถึงความห่วงใยอย่างชัดเจน 



หลังจากงานที่ต้องไปช่วยพี่หนิงจบลง  เราโทรบอกกันก็แค่เรื่องเวลา ส่วนสถานที่น่ะเหรอ ? ไม่จำเป็นหรอกครับ! เพราะเรารู้กันดีทุกอย่างอยู่แล้ว



คิม  หิววผมบอกมันแล้วซุกหน้าลงกับหมอนเน่าใบโปรดที่ใช้กอดอยู่บนรถ ไม่รู้จะพูดอะไรจิตใจมันโหวง ๆ ชอบกล คิดว่ามันคงสังเกตเห็นอยู่บ้าง



กลับไปกินที่บ้านนะครับ  กูทำข้าวต้มปลาเตรียมไว้ให้มึงแล้ว  กูรู้สิ  เลิกดึกทีไรหิวแบบนี้ทุกที 




5 ปีที่ผ่านมา  จะว่านานก็ไม่นานแต่มันก็ไม่ใช่ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ไม่มีความหมายอะไรเลย    คิมดูแลผมทุกอย่างแทบจะเรียกได้ว่า 24 ชั่วโมง ออฟฟิศที่เปิดขึ้นที่สีลมก็เป็นเพราะต้องอยู่ดูแลผมที่นี่ ผมรู้ว่ามันเฝ้าคอยสัญญา 5 ปีที่ผมต้องทำให้กับที่โรงแรมนี้มาตลอด ซึ่งตอนนี้ก็เหลืออีกแค่ 2 ปีเท่านั้น    



ตั้งแต่จบออกมาคิมซื้อบ้านที่หมู่บ้านใหญ่แห่งหนึ่งสำหรับเราสองคน เพื่อน ๆ แซวกันใหญ่หาว่าผมกับมันจะแต่งงานอยู่กินอย่างเปิดเผย   แต่ใครจะรู้เบื้องลึกเบื้องหลังกันล่ะครับ คนที่น่าสงสารที่สุดอาจจะเป็นมันก็ได้ แต่ผมจะไม่ให้มันรอนานไปมากกว่านี้อีกแล้ว  รู้ว่ารัก  รู้ว่าต้องการ 
 


แค่อยากให้รอ.....รอเพื่อที่จะได้สิ่งที่มีค่าที่สุดจากหัวใจของผม



หัวใจของผมจะมอบให้กับคนที่คอยดูแลผมตอนนี้เท่านั้น ความรัก มิอาจแบ่งเป็น 2 ได้อีกแล้ว  รักของผมจะมีแค่หนึ่งเดียวและตลอดไป....



Tbc.