Sunday, April 20, 2014

เพื่อนแบบนี้ฯ Season2 (coz you) *Yaoi* บทที่ 1





"coz you"  1





****ต่อจากIntro****





เฮ้ย!  ใจลอยนะมึง  กูเรียกครั้งที่ 108 แล้วเนี่ย”  เสียงหัวเราะของไอ้บีบีดังร่วนอยู่ข้างหูขณะที่พี่โอคนที่เรียกผม จ้องตาเขียวปั๊ด


เป็นไรอ่ะพี่ เหม่อตั้งแต่เช้าแบบนี้” ไอ้บีบียื่นหน้ายื่นตาถามต่อ


ครับหัวหน้า มีอะไรรึเปล่า?” ผมไม่ตอบไอ้เด็กนั่นแต่หันไปถามพี่โอแทน


มึงเตรียมเข้าประชุมพร้อมกับกู  แฟ้มอยู่นี่ไอ้บีมันเตรียมไว้ให้แล้ว ฝ่ายเราไม่มีอะไรต้องรายงานมากระบบเราค่อนข้างโอเค  ขนาดคุณภาพรรณยังไม่เคยคอมเมนต์เพราะฉะนั้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไรกับท่านประธานคนใหม่



ประชุม ?  กับประธานคนคนใหม่ ?



“....หัวหน้าให้ไอ้บีมันเข้าไม่ดีกว่า ?” 


กูก็ลงชื่อมันไปตั้งแต่แรกแล้วเห็นว่ามึงไม่ถูกกับคุณภาพรรณ แต่ไหงกลายเป็นชื่อมึงที่ออกมาได้ก็ไม่รู้ ก็ยังคุยกับมันอยู่เนี่ย แปลกว่ะคราวนี้คุณภาเธอไม่เข้าเห็นว่าบินด่วนไปมาเลเซียเป็นท่านคนใหม่กับเลขาเข้าแทน


พี่โน่เสร็จแน่  คุณเดนิสสุดหล่อเลขาคนสนิทของท่านรีเควสลงมาเองเลย


มึงระวังไว้หน่อยก็ดีโน่ ตระกูลนี้ยิ่งไม่ถูกกับมึง  ป่ะ ไปกันได้แล้ว ไปก่อนเวลาดีกว่ากูไม่อยากเด่นว่ะ”  พูดจบพี่โอลุกขึ้นเสียบปากกาลงที่กระเป๋าเสื้อสูท ผมเองก็ต้องลุกสิครับ หยิบแฟ้มที่ไอ้บีเตรียมไว้ให้แล้วเดินตามออกไปอย่างเงียบ ๆ 


พอมาถึงห้อง  JDA-5 (ห้องประชุมเล็ก) มีผู้จัดการพร้อมด้วยเลขาจากแผนกต่าง ๆ ทยอยกันเข้ามานั่งแล้วบางส่วน พี่โอแวะทักทายคนโน้นคนนี้ตามประสาคนอัธยาศัยดี โต๊ะที่ใช้ในการประชุมถูกจัดวางเป็นรูปตัวยู มีป้ายชื่อวางไว้ด้านอย่างหน้าชัดเจน ที่นั่งของพวกผมอยู่เกือบ ๆ ปลายตัวยูพอดี น่าจะโอเคไกลพอสมควรจากโต๊ะประธาน


ผมนั่งลงตรงเก้าอี้ที่มีป้ายชื่อของไอ้บีบีติดไว้ พี่โอมองที่ป้ายชื่อแล้วมามองหน้าผมอย่างงง ๆ สักพักคนเริ่มทยอยเข้านั่งจนเต็มรูปตัวยู  เหลือที่ว่างแค่ ที่เท่านั้น


....ในที่สุดก็เข้ามาแล้ว  ร่างสูงโปร่งที่ดูโดดเด่นอยู่เสมอ ไม่ได้สวมสูทหรูหรา มีเพียงเชิ้ตแขนยาวสีเข้มกับไทด์เส้นเรียวเท่านั้น   ผมเลี่ยงที่จะไม่มองใบหน้านั้นตรง ๆ ด้านหลังที่เดินตามกันมาติด ๆ คือคุณเดนิส เลขาหนุ่มหน้าสวยที่หอบแฟ้มเอกสารเข้ามาเต็มสองมือ


เอกสารถูกแจกลงตรงหน้าแต่ละคนโดยพนักงานเดินเอกสารอีกคน  พร้อมเสียงการแนะนำบรรยายงานแบบคร่าว ๆ จากเลขาหนุ่มคนนั้นทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษปนกันให้มั่วไปหมด ผมไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง ก้มหน้าก้มตาทำท่าเขียนโน่นนี่ของผมไปเรื่อย  จะว่าหลบสายตาของไอ้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เลขานั่นก็ได้  งานพรีเซนต์บรรยายลากยาวไปจนถึงถึงคิวพี่โอขึ้นบรรยายสรุปของฝ่ายเรา สายตาผมก็ยังโฟกัสอยู่ที่ใบงานตรงหน้าไม่มีการเงยขึ้นมองรอบข้างให้เสียอารมณ์ 


ก่อนการประชุมจบลง พี่โอได้รับกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่ถูกส่งมาโดยเลขาคนสนิทของมัน แกหันมามองหน้าผมเป็นนัยน์ ก่อนที่ทุกคนจะทยอยเดินตามหลังท่านประธานและเลขาออกไป


โน่”  พี่โอเรียกขึ้นเบา ๆ 


ครับ”  ผมตอบรับพลางลุกขึ้นรวบแฟ้มที่อยู่บนโต๊ะหอบใส่อก


“....คุณเดนิส เขียนมาว่าอย่างนี้”  ยื่นกระดาษโน๊ตแผ่นนั้นให้ผมดู



To Appointment  
Today 12.00 PM   Lunch with My BOSS
At  M-Rest No.0   
MR.ARTIP  Only.





ผมไม่ไป” ไม่ต้องคิดให้เสียเวลา  คำพูดที่หลุดออกมาจากปากโดยไม่ต้องแม้แต่จะใช้อะไรคิด


ไม่ไปไม่ได้ว่ะโน่  ถ้ามึงจะสังเกตอยู่บ้างตลอดการประชุม ท่านประธานมองหน้ามึงตลอดเวลาเลยว่ะ คุณเดนิสเขาส่งใบนัดนี่มาให้กู แสดงว่ารู้ว่ามึงอาจจะปฏิเสธ ฉลาดแม่งโคตร


ออกไปกันเถอะครับหัวหน้า คนอื่นเค้าไปกันหมดแล้ว” ผมพูดตัดบทแล้วเดินนำออกมาจากห้อง


คราวนี้มึงจะโดนเขาเกลียดอีกรึเปล่าวะ แต่ดูจากสายตาแล้วไม่เหมือนตอนคุณภาพรรณมองมึงเลยนะ” ผมไม่สนใจว่าแกจะพล่ามอะไรของแกต่อ รู้แต่ตอนนี้ในสมองไม่ได้คิดเรื่องไปอะไรนั่นเลย


โน่ อีก 15 นาทีจะเที่ยง มึงต้องขึ้นไปตอนนี้ไม่งั้นจะถือว่าเลท กินข้าวกับเจ้านายเชียวนะมึง” เราเดินมาถึงหน้าลิฟต์พอดี ผมกดเรียกลิฟต์เพื่อขึ้นไปที่ชั้นที่เราทำงานกันอยู่ พี่โอเองก็ดูเหมือนจะรู้ว่าผมไม่สบายใจ


เอาของไปเก็บที่ห้องแล้วเดี๋ยวกูไปส่งมึงที่หน้าโดม M-Rest ละกัน


ไม่ครับ ผมไม่ไปผมจะกินมาม่ากับพวกพี่ที่ห้องเราเลย”  


โน่  อย่าดื้อสิวะมึงอ่ะ อย่างนี้ทุกทีบทจะดื้อกูเองก็เอาไม่อยู่ อยากให้กูโทรฟ้องไอ้คิมรึไง” ท่าจะเป็นไม้ตายขั้นสุดท้ายที่แกใช้ออกมา


ผมไม่ตอบอะไรแต่ชักสีหน้าไม่พอใจให้แกได้เห็นชัด ๆ กันไปเลย เรื่องแบบนี้จะให้ไอ้คิมมันรู้ได้ยังไง ผมยังไม่บอกมันด้วยซ้ำว่าผู้ชายคนนั้นกลับมาแล้ว มันยิ่งคิดมากอยู่ด้วย


ถ้าไม่อยากให้บอกก็ทำตามหน้าที่ซะ


หน้าที่ ?”


หน้าที่ของลูกน้องที่ดีไง  แค่นายจ้างชวนกินข้าว หลับหูหลับตากินเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ เขาอาจจะมีเรื่องตักเตือนอะไรเรา นั่งฟังไปสักพักให้เขาบ่นจนพอใจ แล้วค่อยขอตัวเลี่ยงออกมาก็แค่นั้น”  


น่าจะเป็นกลยุทธ์ที่แกใช้อยู่ประจำครับ เพราะแกไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของพวกผมเลยพูดออกมาแบบนี้ซึ่งผมก็ไม่โกรธแกนะ ถือเป็นคำแนะนำอย่างหนึ่งของรุ่นพี่


ก็ได้ครับ ผมจะขึ้นไปตอนนี้เลย” เราเดินมาถึงห้องพอดี ผมวางแฟ้มลงบนโต๊ะแล้วหันไปยักคิ้วให้ไอ้บีนิดหน่อยก่อนเดินออกไปกดเรียกลิฟต์


ห้อง M-Rest อยู่ชั้น 59 ห้องอาหารชั้นบนสุดของโรงแรม ที่ต่อเป็นยอดโดมขึ้นมา จะต้องจองล่วงหน้าเท่านั้นถึงจะเข้าใช้ได้ แต่สำหรับเจ้าของโรงแรมอย่างท่านปิยนัท คงจะไม่ต้องจองอะไรล่ะมั้ง  คิดแล้วกดลิฟต์ไปที่ชั้น B-1 ดีกว่า จุดมุ่งหมายคือห้องอาหารชั้นใต้ดิน ที่ซึ่งผมกับคิมมานั่งทานกันเป็นประจำช่วงเย็น ๆ ถ้าผมทำงานเลทและมันไม่มีธุระอะไร มันจะมานั่งคอยผมอยู่ที่นี่ตลอด  


คนที่มันคอยอยู่ชั้นบนสุดแบบนั้นก็ปล่อยให้มันคอยไปเถอะเรื่องอะไรผมต้องยอมทำตามคำสั่งของคนแบบนั้นด้วย ถ้าเป็นเรื่องงานล่ะก็ว่าไปอย่าง...



...

..



เฮ้ย!   บรรยากาศแบบนี้มันอะไรกันวะ  ไอ้บีบีก้มหน้าก้มตาคีย์อะไรบางอย่างอยู่ที่หน้าจอ ส่วนหัวหน้าเองก็นั่งเขียนอะไรไม่รู้อยู่บนโต๊ะ เด็กฝึกงานอีก คน ก็นั่งทำโปรแกรมอยู่ที่เครื่องรวมริมกระจก  ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู 12.45 น. อะไรมันจะขยันขนาดนั้นไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน


อะแฮ่ม! อะไรกันวะเนี่ย วันนี้ฝนคงตกห่าใหญ่แน่ ไอ้บีบีมึงขยันไปป่ะ กูไม่เคยเห็นมึงทำงานช่วงพักมาก่อนเลยนี่หว่า หืม ”  ผมเดินไปนั่งบนพนักวางแขนของเก้าอี้มันแล้วคล้องคอมันเล่น  มันยื้อคอไว้ไม่ยอมหันมา


ตึง!!!


เสียงอะไร?!   ดังมาจากโต๊ะผม ผมรีบหันไปมอง


ตายห่า!!!


ไอ้เลขาคนนั้นของไอ้โป้ง!  มันมานั่งหน้ายักษ์อะไรอยู่ที่นี่ นั่งอยู่ที่โต๊ะผมแล้วยังจ้องมาที่ผมตาเขียวปั๊ดเลย


จะขึ้นไปได้รึยัง ?  บอสผมไม่ได้ว่างขนาดนั่งรอคุณได้เป็นชั่วโมงหรอกนะ


หล่อจริง ๆ ครับแต่ทำหน้าทำตาหมาไม่แดกเป็นบ้า มันทำหน้าอย่างกับโกรธผมมาเป็นชาติ แถมยังลุกเดินออกไปรอที่หน้าประตูซะด้วย พี่โอรีบหันหน้ามาพยักเพยิดให้ผมตามออกไป


ขอโทษนะครับคุณเดนิส แต่ผมทานอาหารกลางวันเรียบร้อยแล้วรบกวน...


แสดงว่างานของผมไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ต้นเหตุอาจเกิดจาก หัว-หน้า ของคุณ พรุ่งนี้คงต้องรอรับจดหมายพิจารณางานได้เลย” พอพูดจบก็เดินลิ่ว ๆ ออกไป ไอ้บ้านี่สันดานจริง ๆ 


ไปก็ได้!  ผมพูดอย่างฉุนเฉียวแล้วเดินกระแทกไหล่แซงมันออกมา ช่างมันสิ!  มันมาพูดแบบนั้นกับหัวหน้าผมได้ไง  ตัวเองอายุน้อยกว่าดูก็รู้ แค่ตำแหน่งใหญ่โตกว่าทำเป็นมาเบ่ง เซ็งสุด ๆ เลย


ผมออกจากลิฟต์มาก็ถึงด้านหน้าห้อง M-Rest  อยากบอกจริง ๆ ว่า ปีที่ทำงานอยู่ที่นี่ ไม่เคยขึ้นมาใช้บริการที่นี่เลย ได้ยินข่าวว่าค่าอาหารและเซอร์วิสชาร์ตแพงมาก นี่ยังไม่นับว่าต้องจองล่วงหน้ากันเป็นอาทิตย์อีก


ด้านหน้าทางเข้ามีพนักงานต้อนรับแต่งตัวด้วยชุดไทยประยุกต์สีงาช้างสวยมากเลยครับ  พอเดินเข้าไปจะแบ่งย่อยออกเป็น M-Rest 0-7  ซึ่งเป็นห้องส่วนตัวที่ไม่มีใครสามารถรบกวนได้ทั้งสิ้น เดนิสเดินนำไปทางซ้ายจนถึงห้องริม ห้องนี้ไม่เปิดให้บริการบุคคลภายนอก คนที่จะใช้ได้มีแค่ผู้บริหารระดับสูงเท่านั้น


ผมส่งแค่นี้ บอสรออยู่ด้านใน ตั้งแต่เที่ยง หวังว่าท่านจะได้ยินคำขอโทษจากปากคุณสักคำ” พูดจบก็สะบัดหน้าเดินหันหลังเลี้ยวออกไปทันที ท่าทางจะตั้งใจเน้นคำว่า ตั้งแต่เที่ยง ให้ผมได้ยินชัด ๆ สินะ
 

ผมผลักประตูไม้บานใหญ่เข้าไปเบา ๆ โต๊ะกระจกกลมครึ่งซีกถูกจัดวางไว้ที่ริมหน้าต่าง ดอกฟอร์เก็ตมีนอทสีน้ำเงินเข้ม  ถูกปักอยู่ที่แจกันกลางโต๊ะอย่างโดดเด่น   ยังไม่มีอาหารจัดวาง  มีแต่คนเท่านั้นที่นั่งคอยอยู่อย่างเงียบ ๆ 




คนๆนั้น.....ผู้ชายที่ทิ้งผมไปเมื่อ ปีที่แล้ว




                                “ออกไปจากชีวิตกูซะโน่ กูไม่ได้รักมึงแล้ว หัดเข้าใจซะบ้าง





ผมตัดสินใจก้าวเข้าไปด้านใน  บานประตูใหญ่ด้านหลังค่อยปิดลงอย่างช้า ๆ  แสงไฟสีส้มช่างเข้ากับวอลเปเปอร์สีทองโอบล้อมบรรยากาศให้อบอุ่นยิ่งขึ้นไปอีก


แต่ทำไม...ใจผมถึงหนาวเหน็บนัก  


ผมค่อยเดินเข้าไปใกล้   แต่แล้วต้องหยุดชะงักกับเสียงเพลงที่ดังคลออยู่เบา ๆ
ภายในห้อง   เพลงนี้.........



..รัก........รักเธอทั้งหมดของหัวใจ……

สิ่งเหล่านั้นเก็บไว้ข้างใน.........

เธอได้ยินไหม........คนดี

อยากขอ.......ให้ความรู้สึกที่ฉันมี

ส่งไปถึงเธอที่แสนดี  ว่าชีวิตนี้ฉันมีเธอ.....ดั่งความฝัน



จะพบกันอีกได้ไหม................





ทำไม ?


เปิดเพลงนี้ทำไม ?   เพลงที่ผม....เกือบ....จะลืมไปหมดแล้ว



เพลง.....ของเรา



เพลงที่มันเคยใช้มาตลอด........เวลาที่เราสองคนแสดงความรักต่อกัน...............



Tbc.