Tuesday, March 11, 2014

เพื่อนแบบนี้ก็มีอยู่ครับ(My friends) *Yaoi* บทที่ 1



บทที่ 1


กูขอโทดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดเสียงไอ้โป้งเพื่อนผมครับ ตอนนี้มันทำหน้าตลกสุด ๆ พร้อมกับยกมือไหว้ท่วมหัวปรก ๆ    

“........” เงียบครับ เรื่องอะไรผมจะตอบ

โน่ มึงอย่าโกรธดิวะ  กูไม่รู้จริง ๆ นะเว้ย ว่าแม่งจะโทรจิกมึงเงี้ย

ผมไม่ตอบมันหรอก แกล้งมัน ให้มันนอยด์เล่น ชอบเอาเบอร์ผมไปแจกมั่ว ๆ  แมร่งสาวมาป้อเข้าหน่อยเสือกแจกเบอร์ผม  คราวนี้ผมไม่ยอมแล้วครับ ยอมมันมาตลอดยอมตั้งแต่ม 4 จนตอนนี้เรียนมหาลัย ดันเข้าที่เดียวกันได้อีก แต่ฟางเส้นสุดท้ายของผมหล่นแล้วล่ะครับ

อยากรู้ไหมว่าทำไม ...... ไอ้โป้งมันหล่อครับ หล่อเหี้ย ๆ เลย ตัวมันสูงพอ ๆ กับผมนี่ล่ะครับ แถมก่อนเปิดเรียนมันไปโกรกผมเป็นสีทองแล้วเซตตั้งขึ้น โครตตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมันเลยอ่ะ  ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมครับว่ามีสาว ๆ เข้ามาหามันเยอะขนาดไหน  แต่คิดแล้วทุเรศครับ คนไหนที่เข้าหามันก่อนมันจะให้เบอร์ผมไปแทน ทีคนที่มันชอบล่ะก็นะ ......เบอร์มึงง่ะ..... งานเข้าสิครับผมอ่ะ จะนั่งจะนอนก็มีแต่เสียงโทรศัพท์รำคาญมาก ๆ ปิดเครื่องแม่งเลย   พี่ชายสุดที่รักดันโทรมาพอดี มีปัญหาเรื่องนี้มานานแล้วครับ หาว่าผมชอบปิดเครื่อง   คุย ๆ อยู่มีแต่สายซ้อน ผมล่ะจะบ้า ไม่ใช่ของผมทั้งนั้น(เหรอ)  พี่บ้ามันเลยงอนผม  นั่นแหละครับ....ฟางเส้นสุดท้าย.....

เฮ้ย”  เสียงไอ้หัวทองนั่นแหละเรียก

เฮ้ย......หายงอนแล้วใช่ป่ะ”  ไม่ถามเปล่า แถมใช้ข้อศอกเขี่ย ๆ 

“......”

มึง      เงียบทำไมอ่ะ

“......”

โน่ครับ   โป้งขอโทษ  นะนะสายตาอ้อนวอนเชียวนะมึง ผมแอบยิ้มในใจ

เอ้อออออออออออออออออออตัดรำคาญครับ  จริง ๆ ผมแค่แกล้งมัน ฮ่า ฮ่า

ป่ะ  ขึ้นเรียน”  ผมพูดพร้อมเก็บสมุดหนังสือที่วางอยู่ลงกระเป๋าสะพายแล้วเดินขึ้นตึกเรียนไปพร้อมกับมัน

.........

เข้าคลาสมาได้สักพัก  ตอนนี้เริ่มมีอารมณ์แล้วครับ (อย่าเข้าใจผิด อาจารย์เข้าช้า ผมเลยเริ่มหงุดหงิด หึหึ)  แถมไอ้ห่าหลังห้องหน้าตากวนตีน ยังนั่งสปีคอิงลิชใส่มือถือสุดชิคของมันอีกต่างหาก แมร่งพูดห่าอะไรฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่อง  แต่เสียงมันเข้าหูผมตลอดอ่ะ  ผมว่าคนอื่นก็คิดเหมือนกันแหละ เพาระแอบเห็นคนในห้องมองมันเยอะมาก (จริง ๆ มันหล่อมากครับ พูดเรื่องนี้แล้วแม่งเซ็ง เรื่องความหล่อไม่เข้าใครออกใคร ผมยอมแค่ไอ้โป้งคนเดียวมาตลอด ไม่คิดว่าเจอมันแล้วอันดับผมจะร่วงลงมาอีก )   แล้วไอ้นี่ก็นั่งทำเท่อยู่นั่น ไม่ได้สนใจคนรอบข้างเล้ย  จนอาจารย์เข้านั่นล่ะครับมันถึงหยุดโทร 
 


.........

กูเบื่อ”  ผมพูดเมื่ออาจารย์สอนจบและเดินออกไปแล้ว

ห๊ะ?ไอ้โป้งรับคำเล็กน้อยก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกหาบรรดาแฟน ๆ มัน  รายงานตัวเมื่อเรียนเสร็จมันว่างั้น

"ไปหาไรแดกเหอะ”  เก็บของเข้ากระเป๋ามือถือก็สั่นเอาสั่นเอาเบอร์แฟน ๆ ไอ้โป้งนั่นล่ะครับ สาว ๆ มันคงรู้ว่ามันเลิกกี่โมง กำลังจะเดินออกจากโต๊ะแล็คเชอร์แล้วครับ

แต่.....ผมทำเรื่องเหลือเชื่อครับ  ขามันไปเอง ผมไม่ได้ตั้งใจนะ .......ไอ้หล่อหลังห้องนั่นเดินผ่านโต๊ะผมพอดี ผมก็เลย..........

ตอนนี้มันคุกเข่าลงข้าง ๆ ตัวผมแล้ว ดีนะที่มือมันคว้าโต๊ะผมไว้ได้ซะก่อน  ไม่งั้นล่ะก็ได้เห็นสุดหล่อหัวทิ่มแน่(ผมแอบหัวเราะในใจ ฮ่า ฮ่า ) หมั่นไส้มัน โทษฐานที่มันเก่งกว่าผม   หล่อกว่าผม (มั้ง) แถมยังเพิ่งเห็นหัววันนี้วันแรกตั้งแต่เปิดเรียนมา (จริง ๆ แค่อาทิตย์เดียว)  แกล้งแม่งซะเลย!!

อ้าว มึง  ลุกขึ้นดิวะ เป็นไรมากป่ะคนผิดต้องชิงลงมือก่อนครับ ฮ่า ฮ่า 

หันซ้ายหันขวา ไอ้โป้งแม่งยืนคุยโทรศัพท์รออยู่หน้าห้องแล้ว

ไอ้หล่อมันลุกขึ้นมาแล้วครับ แถมกำลังจ้องผมอยู่  สายตาโคตร ๆ อ่ะ

มึงเสียงมันเย็นสุดยอดเลยครับ  มีเรื่องแน่เลยกู แต่ทำใจดีสู้เสือไปก่อน

“ก...กูทำไม ? ”

มึงไม่รูดซิป!”  มันพูดได้หน้าตายมากกกก

ปฎิกิริยาผมเร็วเลยครับ มือซ้ายรีบคลำที่เป้ากางเกงทันที พร้อมก้มหน้าซีด ๆ ลงไปดู

แต่ยังไม่เร็วเท่ากับเสียงกระซิบของมันที่ดังอยู่ชิดใบหูผมเหลือเกิน

กูหมายถึง.....ซิปกระเป๋ามึงอ่ะ!  หึหึ

ไอ้ห่าาาาาาาาาาาาา!!!!

มันเดินอมยิ้มออกไปอย่างอารมณ์ดี  ส่วนผมอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี เพราะโดนมันหลอกครับ

.........

........

เหี้ยโป้ง  มึงจะรีบเดินไปไหนวะ หิวนักรึไงมึงอ่ะ กูเหนื่อยนะเว้ยผมทั้งวิ่งทั้งเดินกลัวตามมันไม่ทัน

“......”  

มันไม่ตอบผมหรอกครับตอนนี้มันกำลังโทรคุยกับน้องนาว เด็กใหม่มันอยู่  ชี้มือชี้ไม้ว่าวันนี้แยกกันไปกิน ทั้งที่ผมเดินตามมันมาที่รถแล้วเนี่ยนะ  ไอ้ห่ากว่าจะบอกกูนะมึง  ดีนะที่รถผมจอดอยู่ตึกนี้เหมือนกัน ไม่งั้นมีงอนอีกรอบแน่  แถมชี้ไม้ชี้มือเสร็จทำท่าจะขึ้นรถเลย  ไอ้ทุเรดดดดได้แฟนลืมเพื่อนนะมึงนะ

แล้วเย็นนี้ว่าไงวะผมออกเสียงเบา ๆ ให้มันพอได้ยิน

เออ   เดี๋ยวกูไปรับ”  มันพูดออกมาทั้งที่กำลังโทรอยู่เนี่ยนะ  (น้องนาวมึงคงพอใจหรอก)

หลังจากมันขับรถออกไปแล้ว ผมก็เดินเตร็จเตร่ไปที่ซุ้มโค๊กของตึกนี้หน่อย หิวน้ำครับ ได้ชาขาวเก็กฮวยสักขวดคงดี ผมชอบครับหวาน ๆ ดี   ซื้อเสร็จก็เดินซดไปเรื่อย ตรงไปที่รถ วันนี้ไม่มีเรียนบ่ายกลับคอนโดเลยละกัน ข้าวเหรอ......กำลังคิดเพลิน ๆ 


ปิ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!


แม่ง!  โคตรพ่อ  กูตกใจหมดผมตกใจสุด ๆ เลยครับ รีบหลบไอ้รถบ้าที่อยู่ข้างหลังเข้าข้างทางทันที  ผมว่าผมไม่ได้เดินกลางถนนนะ  แล้วมาบีบแตรในมหาลัยแบบนี้  คนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ตามม้าหินอ่อน หันมามองกันหมด  ไอ้ห่า ! อยากรู้จริงใครวะ ไม่มีมารยาทเลย

ยังไม่ทันได้คิดอะไรเป็นรูปเป็นร่าง ไอ้เจ้าของรถแอคคอร์ดดำคันนั้นมันค่อย ๆ เลื่อนกระจกลงขณะที่กำลังเคลื่อนรถผ่านตัวผมไปอย่างช้า ๆ  มันหันมามองหน้าผมพร้อมสายตาเหยียด ๆ ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วก็ขับเลยผ่านไปอย่างรวดเร็ว


แหม่ะ!!!!  เท่ตายล่ะมึง !


Tbc.

..พี่เลี้ยง..THE DAY' I was your man(Yaoi-drama) บทที่ 7


บทที่7

“อ๊าา ธารๆ ฮ..อื้มม” เด็กหนุ่มใต้ร่างครางเสียงกระเส่า

“ธ...ธารเป็นอะไรอ่ะ วันนี้ท่าทางแปลก...นะ” สองมือบรรจงลูบไล้แนวสันกรามของใบหน้าคมเข้มของคนที่กำลังเคลื่อนกายเข้าออกอยู่บนร่างกายของเขา

ทุกครั้งที่ธาราธารทำเหมือนจะจูบแต่พอก้มลงมาแล้วกลับละออกไปเสียดื้อๆ ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา

“อ๊าา....ธารจูบเต้หน่อย จูบหน่อย..จูบ....”  เมื่อใกล้จะถึงปลายทางเตเต้ร้องขอ โน้มคอแกร่งลงมาใกล้ๆ ขณะที่ธาราธารกระแทกตัวถี่ยิบแต่ยังไม่ยอมก้มลงมอบจูบให้แก่คนด้านล่าง

“อ..อ๊าา..อ๊าาา.ธาร”

เมื่อส่งอีกฝ่ายจนถึงสวรรค์ ธาราธารกระแทกกายเข้าออกอีกไม่กี่ครั้งก็ตามเตเต้ไปติดๆ เขาละตัวออกทันทีลุกขึ้นปลดถุงยางอนามัยทิ้งถังขยะจากนั้นก้มลงหยิบเสื้อผ้าที่กองเรี่ยราดอยู่ตามพื้นขึ้นมาใส่ สายตาคมกริบมองดูคู่ขาตนเองนอนหอบอยู่ที่เตียง

“กลับแล้วนะ เดี๋ยวจะล๊อคห้องให้นอนไปเลยก็ได้”

เขาหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาวางใบพันไว้ให้จำนวนหนึ่งก่อนหยิบโทรศัพท์ยัดใส่กระเป๋ากางเกงขณะสายตากำลังมองหากุญแจรถ

“เดี๋ยวสิธาร เป็นอะไรน่ะ มานอนสิพรุ่งนี้ค่อยกลับนะ เหมือนทุกทีไง”  เต้ลุกขึ้นมาดึงแขนธาราธารไว้ เขาทั้งเหนื่อยทั้งงัวเงียแต่ก็สงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรกันแน่

“เกิดอะไรขึ้นหรือไงเล่าให้เต้ฟังได้นะ วันนี้ธารแปลกไปจริงด้วย ”

“เปล่าหรอก” ธาราธารก้มลงหยิบพวงกุญแจที่ตกอยู่

“ไม่เชื่อ ธารไม่เคยเป็นแบบนี้ หรือว่าไปรักใครเข้าแล้วรู้สึกผิด ที่มานอนกับเต้แบบนี้”

ธาราธารหันขวับมองหน้าคนพูดทันที “ไร้สาระ! จะเอาไหมเงินถ้าพูดมากจะเก็บคืนนะ”

“เอาดิ! ไม่ถามแล้วก็ได้ คนอุตสาห์หวังดี” เสียงบ่นงึมงำไล่หลังของคนที่รีบคว้าใบพันปึกนั้นไว้กับตัว

“จะไม่มาสักพักนะ”  เขาพูดอย่างเย็นชาแล้วเดินออกไปทันที  เสียงเขวี้ยงอะไรสักอย่างหลังบานประตูนั่น แต่ธาราธารก็ไม่ได้ใส่ใจ

เด็กหนุ่มสตาร์ทรถแล้วถอนใจ ห้าทุ่มแล้วแต่เขายังอยู่ในชุดนักศึกษา เมื่อข่มตาลงนึกย้อนกลับไปขณะกำลังทำกิจกรรมร่วมรักกับคู่ขาเมื่อครู่ มีอย่างที่ไหนพอแทรกลิ้นจูบลงไปจิตใจดันนึกไปถึงช่วงเวลาที่จูบกับวารินเมื่อเช้าขึ้นมาเสียอย่างนั้น เขารีบถอนจูบออกมาแทบจะไม่ทัน พอตั้งสติใหม่คิดจะลองดูอีกครั้งความรู้สึกต่อต้านของร่างกายดันออกฤทธิ์พาลจะหมดอารมณ์ไปเสียดื้อๆ ทำเอาเขาต้องหลับหูหลับตาซอยถี่ยิบให้เสร็จไวๆอารงอารมณ์หายหมด

พอกลับมาถึงห้องเขาจัดการถอดเสื้อผ้าออกเกลี้ยงคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมานุ่งแล้วหยิบโทรศัพท์มากดหาวารินทันที

“ครับธาร”เสียงใสดังขึ้นที่ปลายสาย

“พี่ใช้วีดีโอคอลดิ๊”

“ห๊ะ? อะไรทำไมอ่ะ” ถึงจะถามไปแบบนั้นวารินก็ยอมจิ้มโหมดวีดีโอคอลคุยกับเขาอยู่ดี

“ทำไมยังอยู่ที่โรงแรม” ธาราธารคิ้วขมวด วารินยิ่งตกใจเมื่อเห็นเขานั่งโชว์หน้าท้องตึงเปรี๊ยะอยู่ในจอโทรศัพท์มือถือ

“ทำงานดิ มีอะไร”

“หิวข้าว” เขาตอบไปเรียบ ๆ พร้อมปรับมุมกล้องใหม่ คราวนี้ให้เห็นแค่ใบหน้ากับหน้าอกของเขาเท่านั้น

“อ้าวทำไมยังไม่กินอ่ะ ไปทำให้ไม่ได้นะวันนี้ทำงาน ธารมีธุระอะไรรึเปล่า”

วารินชักสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวมาคุยโทรศัพท์กับเขาเดี๋ยวโชว์ซิกแพ็ค เดี๋ยวโชว์ไหล่ เดี๋ยวโชว์หน้าอกฟิตๆนั่น 

“ไม่มีหรอกแค่นี้นะ อ้อ..ค่อยเจอกันวันศุกร์เลยช่วงนี้ผมเรียนตลอดพี่ไม่ต้องแวะมาก็ได้”

“ครับผม ช่วงนี้งานที่โรงแรมก็ยุ่งมีจัดเลี้ยงรับรองตลอดเลยพี่เองก็ไม่ค่อยจะว่าง ธารดูแลตัวเองไปก่อนนะครับ”  วารินส่งยิ้มแป้นแล๊นหน้าอย่างใหญ่ลงไปที่หน้าจอ ทำเอาธาราธารกลั้นขำอยู่คนเดียว พอวางสายเสร็จเขาก็เดินผิวปากอารมณ์ดีเข้าห้องน้ำไป

สายน้ำเย็นฉ่ำภายใต้ฝักบัวลาดรดลงบนศีรษะได้รูป  เขายันแขนข้างหนึ่งไว้กับผนังแล้วเริ่มคิดวนเวียนไปมา

เขาจัดมุมกล้องแบบนั้นทำไม?

แล้วเขาอารมณ์ดีเรื่องอะไร? 

แค่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายอย่างนั้นหรือ?

“อ่าา....พี่ทราย...”

เขาแทบไม่อยากเชื่อกับเสียงครวญครางของตนเองขณะที่มือขวารูดรั้งแก่นกายเร่าร้อนด้วยความรวดเร็วประหนึ่งไม่ได้เอาออกมาเป็นอาทิตย์ทั้งที่เพิ่งทำไปไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำ น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งเลอะเปรอะผนังมากมายเสียจนเขาตกใจ พอๆกับอารมณ์ที่พีคสุดขีดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เมื่อนึกไปถึงช่วงเวลาที่ได้จูบไซ้ชอนไชซอกคอหอมหวานของวารินเมื่อเช้า 

“อาา..” ธาราธารแทบคลั่งสะโพกสอบเกร็งจัดขณะมือยังสาวแท่งร้อนเข้าออกไม่ยอมหยุด ดวงตาคมหลับตาพริ้มแล้วจินตนาการถึงใบหน้าเล็กนั่น รอยยิ้ม  เสียงหัวเราะ เรียวลิ้นนุ่มนิ่มที่หลบหลีกเขาไปมาอยู่ในโพรงปากอุ่นร้อนนั่น ริมฝีปากเล็กๆที่อ้าค้างเวลาที่เขาทำให้ตกใจ และเรียวปากนั่นกำลังเผยอรอรับการปลดปล่อยของเขาอยู่  เขาหลับตาแน่นแอ่นสะโพกเด้งเข้าเด้งออกขณะที่มือยังขยับสาวไม่ยอมหยุดเดี๋ยวช้าเดี๋ยวเร็วดึงเวลาเพื่อให้ร่างกายรับความสุขสมเต็มที่

 “พี่ทรายยย....อืมม...อ่าา...”  เสียงทุ้มต่ำครางยาวเรียกชื่ออีกคนไม่ขาดปาก เขากระตุกสองสามทีก่อนทรุดตัวนั่งลงที่ขอบอ่าง ใบหน้าคมซบลงที่ฝ่ามืออย่างสิ้นเรี่ยวแรง

ไม่ได้...เขาจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้

เขาจะต้องจัดการความรู้สึกตัวเองให้จบก่อนที่วารินจะมาอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้

.

.

“นี่! ไม่คิดจะทักกันจริงอ่ะ”  

แรงสะกิดเรียกจากด้านหลังทำให้ธาราธารหันกลับไปดู

“นั่งด้วยคนสิ” ชนาธิปเดินอ้อมลงมาอีกขั้นเพื่อจะมานั่งฟังบรรยายข้างกันกับธาราธาร

“ธาร นายเก่งรึเปล่า” ตากลมโตกวาดมองสมุดหนังสือที่อยู่บนโต๊ะของอีกฝ่ายอย่างประเมิน

“ไม่รู้สิ” ธาราธารตอบนิ่งๆ

“เราชอบนายนะเป็นตัวของตัวเองดี ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำอันไหนที่ไม่อยากทำก็กล้าที่จะปฏิเสธออกมาตรงๆ”
ชนาธิปส่งยิ้มกว้างขณะกำลังจะพูดต่ออาจารย์ประจำวิชาก็เดินเข้ามาพอดี พอถึงช่วงพักเบรกชนาธิปยังหาเรื่องคุยกับอีกฝ่ายไม่หยุดจนธาราธารทนไม่ไหวเขาขอให้ฟ่างเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ และเป็นรูมเมทในหอพักหลอกๆของเขาเข้ามาสลับนั่งแทน

“โหเบื่อเราขนาดนั้น?” ชนาธิปเบะปากแอบบ่น

“ธารมันเป็นคนเข้าใจยากน่ะ นายไม่ต้องไปสนใจมันหรอก”ฟ่างปลอบ

“งั้นเราคุยกับนายแทนก็ได้ เราชื่อธิป ชนาธิป SCCH นะนายอ่ะ”

เราข้าวฟ่าง เรียกแค่ฟ่างก็ได้  SI เหมือนธาร เราคุยได้แต่ตอนนี้นะพอเริ่มเรียนแล้วเราไม่คุย”

“ครับๆทราบแล้วคราบคุณฟ่าง”

ชนาธิปคุยกับข้าวฟ่างแต่สายตายังคงแอบมองธาราธารเป็นระยะ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายไม่สนใจเขายิ่งรู้สึกท้าทายขึ้น  หลังเรียนเสร็จชนาธิปรีบวิ่งตามธาราธารมาที่รถ

“นี่ธารเดี๋ยวก่อนสิ ขายาวจริง ๆ เราเดินตามไม่ทันนะเนี่ย แฮ่กๆๆ” เขาทั้งพูดทั้งหอบหายใจซ้ำร้ายหนังสือสมุดที่อยู่ในนั่นอีก

“ธารมีเรียนต่ออีกรึเปล่า”

“มีอีกทีตอนเย็น หมดธุระแล้วใช่ไหม หลีก!”ธาราธารทำท่าจะก้าวขึ้นรถแต่ชนาธิปรีบเข้ามาดึงแขนไว้

“พาเราไปด้วยสิ ธารจะไปไหนน่ะ”

ธาราธารใช้สายตามองดูชนาธิปอย่างพิจารณา คนๆนี้นั่งมองเขามาตั้งแต่วันปฐมนิเทศแม้กระทั่งตอนนั่งเรียนตากลมๆคู่นั้นยังเอาแต่จ้องมองเขาไม่ห่าง สายตาที่มองมาทำท่าทางอย่างกับรู้จักคุ้นเคยกันมานานอย่างไรอย่างนั้น

“ทำไม?”

เมื่ออีกฝ่ายถามขึ้นทั้งสั้นทั้งห้วน ชนาธิปรีบหลบสายตาคมนั่นทันที

“อ....อะไรเหรอ”

“ทำไมนายต้องมาตามติดฉัน เรารู้จักกัน?”

“ธารทำไมพูดแบบนี้ก็เราเป็นเพื่อนกันแล้วไงไม่รู้ล่ะวันนี้ธารไปไหนธิปไปด้วย”

ชนาธิปไม่พูดเปล่าเขาเปิดประตูรถสปอร์ตคันเล็กของธาราธารแล้วขึ้นไปนั่งรอทันที ธาราธารได้แต่ส่ายหัวก่อนก้าวขึ้นรถปิดประตูอย่างดังแล้วขับตรงออกไป

รถเลี้ยวเข้ามาจอดลงหน้าร้านอาหารในซอยเล็กด้านหลังมหาวิทยาลัย หอในของนักศึกษามากมายตั้งอยู่ในซอยแห่งนี้ ธาราธารเดินเข้าไปนั่งลงที่โต๊ะประจำทันที

“ว่าไงครับคุณหมอธาร วันนี้เปลี่ยนเด็กอีกแล้วดิ่”  แจ๊บEG เด็กหนุ่มเจ้าของร้านยังคงคอนเซปปากดีเหมือนเดิม เขายื่นเมนูให้กับชนาธิปที่เพิ่งนั่งลงข้างๆธาราธาร

“แหมๆวันก่อนเล่นวัยผู้ปกครอง วันนี้กลับมาควงรุ่นเดียวกันแล้วโว๊ย เจ๋งว่ะสมแล้วที่เป็นรุ่นน้องกู” แจ๊บลากเสียงกระซิบกระซาบแต่สายตาจดจ้องอยู่ที่คนตรงข้ามธาราธาร และเสียงพูดเขาดังมากจนชนาธิปยังเหล่มอง

“พูดมาก  พี่เหอะไม่ไปเรียนรึไงมากี่ทีก็เห็นอยู่เฝ้าร้านนะ หรือว่าลาออกแล้ว”

“ปากหมาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน กูไม่ได้ลาออกเว้ยแต่อาทิตย์แรก โดด! ตกลงมึงกินอะไร? แล้วเนี่ยๆเขากินไรอ่ะสั่งให้เขาดิมึงไอ้ธารแจ๊บชี้ๆไปที่ชนาธิป

“อะไรก็ได้เอามาเหอะ”

“เออไอ้อะไรก็ได้ของมึงเนี่ยมันยากยิ่งกว่ารายชื่ออาหารทั้งหมดในเมนูกูอีกนะ แล้วของน้องล่ะครับรับเป็นอะไรดี” แจ๊บแจกยิ้มการค้าให้ชนาธิปเต็มที่

“เอาเหมือนของธารก็ได้ครับ”

“แหมๆหวานกันจังนะ ระวังไว้หน่อยล่ะไอ้ธารมันเจ้าชู้วันก่อนนะมันยังควง....

“พี่แจ๊บไปได้แล้วผมหิว”

ธาราธารดักคอขึ้น เขาขยับเน็กไทด์คลายออกเล็กน้อย ชนาธิปเองก็พลอยทำตามไปด้วย เขาเองก็ร้อนเหมือนกันรู้สึกแอร์ร้านนี้ไม่เย็นเลยสักนิด

“นี่วันก่อนพาใครมาอ่ะ แฟนเหรอ” ชนาธิปชะโงกหน้าเข้ามาถามใกล้ ๆ ธาราธารเหลือบมองคนพูดนิดหน่อยแล้วหันหน้าไปทางอื่น ไม่ตอบ

“อยากเห็นจังเลยน้า สวยป่ะ”

เขามองดูท่าทางลอยหน้าลอยตาของชนาธิปแล้วดันนึกไปถึงวาริน ดวงตากลมโตใสแจ๋วเหมือนเด็กๆ ปากเล็กๆขยับเอื้อนเอ่ยเดี๋ยวยู่เดี๋ยวเม้มแน่น ใบหน้าหลากหลายอารมณ์เวลาที่ต่อบทสนทนากับเขา

....ตลก....

“สวยอ่ะดิ ยิ้มใหญ่เชียวนะ” พอถูกแซวมาแบบนี้ธาราธารหุบยิ้มแทบไม่ทัน เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเผลอยิ้มออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่

...นี่มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว...

“นายมีเรียนอีกตอนไหน” หลังทานอาหารกันเสร็จธาราธารถามขึ้น

“พร้อมธารนั่นแหละ แล็บเคมีตอนเย็น ทำไมเหรอจะชวนไปไหนรึไง”

“เปล่า  ฉันจะไปส่งนายตอนนี้เลย”

“ไม่เอาๆ ธิปบอกแล้วไงวันนี้ธารไปไหนธิปไปด้วย” ชนาธิปรีบวิ่งขึ้นไปนั่งบนรถใส่เข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยเมื่อเห็นว่าธาราธารจะทิ้งตนไว้

ธาราธารเดินเข้าไปลาเด็กหนุ่มเจ้าของร้านเขาก็เดินมานั่งในตำแหน่งคนขับทันที

“จะกลับไปนอน แน่ใจเหรอว่าจะไปด้วย”

“เอาดิ ธิปเองก็ง่วงเหมือนกันไปนอนที่ไหนกันดี ห้องธารเหรอ หรือจะไปห้องธิป”

เขาตีไฟเลี้ยวแล้วจอดลงข้างทางหันมามองชนาธิปอย่างจริงจัง “นายพูดแบบนี้รู้ไหมฉันตีความหมายว่าอะไร”

“อ...อะไร” ชนาธิปทำหน้างง

“ช่างเถอะ เดี๋ยวจะไปส่งนายก่อนละกัน”

ธาราธารถอนใจเฮือกใหญ่ เขายังไม่อยากมีสัมพันธ์พิเศษกับคนแปลกๆที่จู่ๆก็มาตามติดเขา ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันแค่วันเดียวซ้ำยังต้องเรียนด้วยกันไปอีกเป็นปี ชายหนุ่มเลี้ยวรถกลับเข้าเขตอาคารเรียน

“ธารไม่เอานะก็บอกแล้วไงวันนี้ธารไปไหนเราจะไปด้วย ธารให้ธิปไปด้วยนะๆๆ ธิปยอมตามใจธารทุกอย่างเลย” คราวนี้ชนาธิปไม่พูดเปล่าแล้วเขาโน้มตัวเข้ามาซบต้นแขนธาราธารไว้แน่นตามประสาเด็กขี้อ้อน

“ก็ได้ๆธิปสารภาพแล้วธิปแค่อยากให้ธารสอน ธิปอยากเป็นให้ได้อย่างธารกล้าคิดกล้าทำกล้าที่จะปฏิเสธเวลาที่ชอบหรือไม่ชอบอะไร ธิปชื่นชมธารมาตั้งแต่วันที่เราเจอกันวันแรกแล้ว คิดว่าถ้าอยู่ใกล้ๆธารแล้วธิปอาจได้นิสัยแบบนี้มาไว้บ้างอยากจะกล้าที่จะปฏิเสธ....ใครต่อใครบ้าง”

ชนาธิปพูดเสียงอ่อนและเริ่มขาดหายในตอนท้าย  เขาอ่านสายตาที่อีกฝ่ายก้มมองลงดูเขาอย่างคลางใจออกเพราอย่างนั้นเขาจึงจำใจสารภาพออกไป เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่เขาชื่นชม

“ธารเป็นไอดอลของธิปเลยนะ ธิปน่ะ......”

“ลงไป”  รถจอดลงที่หน้าตึกเดิมธาราธารพูดเสียงเย็นชา และด้วยสีหน้านิ่งๆของเขาทำเอาชนาธิปกลืนน้ำลายอึกใหญ่ไม่กล้าต่อบทสนทนาอีก แต่ร่างเล็กกว่าก็ดื้อดึงจะนั่งอยู่บนรถต่ออยู่ดี

“ถ้านายยังพูดไม่รู้เรื่อง อย่ามาหาว่าฉันไม่เตือนนะ”

เขาทิ้งเวลาให้อีกฝ่ายนานถึงสิบนาทีชนาธิปก็ยังไม่ยอมก้าวลงไป ธาราธารกระชากเกียร์แล้วขับออกถนนใหญ่อย่างรวดเร็วอีกครั้ง

.....ในเมื่อพูดดีๆไม่ชอบ......

“จะอาบน้ำก่อนไหม” ทันทีที่ไขประตูห้องพักเข้ามาธาราธารก็พูดขึ้น ชนาธิปถึงกับยืนอ้าปากค้าง

“ท....ทำไมไม่ไปที่ห้องธารล่ะนี่มันโรงแรมไม่ใช่รึไง” หนำซ้ำยังเป็นโรงแรมจิ้งหรีดเล็กๆข้างทาง ชนาธิปมองดูธาราธารที่เริ่มดึงเนคไทออกแล้วปลดกระดุมเสื้อตัวเองลงทีละเม็ด ทีละเม็ด

“ล...แล้วทำไมต้องอาบน้ำ” เขาเริ่มหน้าเสียหันซ้ายหันขวามองกระจกแผ่นใหญ่บนฝ้าเพดานและผนัง

“งั้นก็ไม่ต้องอาบทำเลยแล้วกัน”

ธาราธารนั่งลงที่ปลายเตียงดึงแขนชนาธิปกระชากเข้าหาตัวแล้วกดลงที่เตียงใหญ่ “ไม่จูบนะ”เสียงทุ้มเรียบสนิท ชนาธิปตาตั้งเมื่อธาราธารเริ่มฝังปลายจมูกโด่งลงที่ซอกคอเขา มือขาวสะอาดสาละวนอยู่กับกระดุมเสื้อของคนตัวเล็กอย่างชำนาญ

“ธาร!” เด็กหนุ่มเสียงสั่นคว้าจับข้อมืออีกฝ่ายไว้แน่น ชนาธิปจ้องมองคนที่คร่อมอยู่บนร่างเขาอย่างไม่เข้าใจ

“จะทำอะไร? ธิปเป็นผู้ชาย ธารเองก็...”

“รู้อะไรไหม?  คนบางคนแค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นประเภทไหน ยกตัวอย่างเช่น นาย หลงรักฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยสิท่า”

 เขาลากเสียงยิ้มๆที่ริมหูเล็กนั่น ตั้งใจส่งเสียงดูถูกเต็มที่ ขณะที่ตาก็หรี่มองอีกฝ่ายอย่างรู้ทัน

......คนอย่างนายมันดูง่ายชะมัด ชื่นชมฉันเสียขนาดนี้คงอยากนอนกับฉันจนตัวสั่นล่ะสิ.....

“ไหนบอกว่าอยากอยู่ใกล้ๆฉันไง ถ้าทำแบบนี้จะได้อยู่แนบชิดติดกันเลยนะ หรือว่าไม่อยากอยู่ใกล้ฉันแล้ว”

“ต...แต่เราเป็นเพื่อนกัน ธารเป็นเพื่อนธิป เรา....”

“เซ็กส์เฟรนไง จะเอาหรือไม่เอา นายเลือกเองเถอะ” ธาราธารเท้าแขนดันตัวให้สูงขึ้น

เซ็กส์เฟรน? ชนาธิปทวนคำในใจ 

ธาราธารพูดไม่ผิดเขาหลงรักชายหนุ่มตั้งแต่วันปฐมนิเทศนั่นแล้ว เพียงแต่เขาแค่ปลอบใจตัวเองว่าทุกอย่างที่เขาคิดเป็นเพียงแค่ความชื่นชม ปลาบปลื้มรูปกายภายนอกของอีกฝ่าย ถึงแม้ว่าจะรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆ เวลาที่มองเห็นใบหน้าคมคายเฉยเมยกับทุกสิ่งรอบตัวไม่ใยดีกับสิ่งที่คนอื่นๆหยิบยื่นให้ราวกับว่าไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าสิ่งที่เจ้าตัวต้องการจริงๆเท่านั้น ชนาธิปรู้สึกว่าธาราธารเป็นคนที่มีเสน่ห์เอามากๆ

“ธาร....”

เขาเรียกอีกฝ่ายด้วยเสียงที่เบาหวิว ยกสองมือคล้องคอคนที่คร่อมทับตัวเขาเอาไว้

.....เขาตัดสินใจแล้ว....

ชนาธิปอยากจะเข้าใกล้คนๆนี้มากขึ้นไปอีก   เขาคิดว่าถ้าตนเองได้เป็นส่วนหนึ่งของธาราธารแล้วล่ะก็ ธาราธารจะเปิดใจให้เขาได้เข้าไปใกล้ตัวตนที่แท้จริงยิ่งขึ้นบ้างไหม

“ธาร...” เสียงเบาหวิวเรียกขึ้นอีกครั้ง ชนาธิปหลับตาลง เผยอปากคิดรอรับจูบด้วยความเต็มใจ

“นายนี่มันใจง่ายจริงๆนะ”

หัวใจดวงเล็กหล่นวูบ จู่ๆธาราธารผละออกจากตัวเขา แล้วก้มลงไปฉวยเอาเนคไทหยิบเอาพวงกุญแจที่อยู่บนโต๊ะเดินออกจากห้องไปเสียดื้อๆ

ชนาธิปรีบวิ่งตามออกมายังติดกระดุมเสื้อไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ ธาราธารนั่งรออยู่บนรถก่อนแล้ว

“ท...ทำไม ทำไมถึงไม่ทำล่ะ” ถึงเขาจะอายแต่ก็อยากรู้

“ยังไม่คิดจะเอาเพื่อนตัวเองทำเมียหรอกนะ”

ธาราธารตอบเรียบๆ เขาเลี้ยวรถเข้าเขตมหาวิทยาลัยอีกครั้งแล้วส่งชนาธิปลงในจุดที่อีกฝ่ายชี้บอก
.

.