Monday, May 5, 2014

S.W.A.T - D (หน่วยสืบคดีโหด) *Yaoi * ตอนที่ 26




# 26 (มหาวิทยาลัยแห่งความลับ) ภารกิจอันตราย 



คืนนี้ไม่ใช่คืนเดือนมืด


แสงสะท้อนสีเงินยวงจากจันทร์ดวงโตสาดย้อมไปทั่วแนวสนามฟุตบอลขนาดใหญ่   ชายสองคนจงใจซ่อนตัวอยู่บริเวณที่รกร้างทางด้านข้างที่มีแต่พงหญ้าขึ้นรกเต็มไปหมด


ฟ็อกซ์ผมสงสัยคริสตินที่ยืนเหยียบแท่นปูนขนาดปานกลางซึ่งถูกโบกขึ้นมาอย่างหยาบ ๆ ผิดที่ผิดทางเรียกคนข้าง ๆเสียงเบา สายตาของคนทั้งคู่มองทอดไปที่กระท่อมเล็ก ๆ ซึ่งเป็นโรงเก็บเครื่องมือทำสวน ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสนามฟุตบอลมากนัก


หลังจากสุรชัยส่งข้อความเข้ามาเกี่ยวกับรถของผู้สูญหาย เขาสองคนก็ลอบกลับเข้ามาในมหาวิทยาลัยอีกครั้ง 


ตาลุงนั่นเป็นคนสวนของที่นี่ ทุกทีผมจะเห็นแกอยู่แถวตึกอธิการ ค่ำมืดจนป่านนี้ทำไมยังไม่กลับบ้านกลับช่องนะคริสอดไม่ได้ที่จะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา  ถึงจะเป็นลูกจ้างดีเด่นขนาดไหน เวลาจวนจะสองทุ่มแบบนี้ยังมานั่งพรวนดินถางหญ้าอยู่ริมสนามมืด ๆ ทำไมกัน


มึงดูรถคันนั้นสิฟ็อกซ์ชี้ไปที่รถกระบะสองตอนคันหนึ่งซึ่งจอดอยู่แถวแนวป่าไม่ไกลนัก ดูเก่ามากใช่ไหม”  ตัวรถน่ะยังใหม่แต่เศษใบไม้รอบบริเวณล้อ รวมทั้งต้นหญ้าที่ขึ้นจนเกือบจะบังตัวรถ มันเหมือนรถที่ถูกจอดตายนิ่งสนิทมาเป็นเวลานาน 


คริสตินพยักหน้ารับเบา ๆ ไปดูใกล้ ๆ กันไหม 


ไม่ต้อง!  แค่นี้กูก็พอจะรู้อะไรแล้ว”  เป็นรถที่มีลักษณะตรงกับที่สุรชัยรายงานมาทุกอย่าง


ถ้าตาลุงนั่นเป็นคนรักความสะอาดจริงถึงขนาดมานั่งดายหญ้าตอนกลางคืนแบบนี้ จะต้องไม่ปล่อยให้รถคันนั้นจอดอยู่ผิดที่ผิดทางแบบนี้แน่  แล้วคนสวนที่เข้าออกโรงเก็บเครื่องมืออยู่ตลอดจะไม่สงสัยหน่อยหรือว่านั่นน่ะคือรถใคร?”


ฟ็อกซ์หรี่ตาดูดี ๆ อีกครั้ง  “ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนอีกด้วย  มาจอดอยู่สุ่มสี่สุ่มห้าน่าสงสัยเป็นบ้าเลย


คริสตินทอดสายตามองไปในมุมกว้างอีกครั้ง


แม้กระท่อมจะอยู่ไม่ห่างจากสนามฟุตบอลนัก อาคารพละก็อยู่ใกล้กันแค่นิดเดียว เป็นถึงมหาวิทยาลัยเอกชนใหญ่ขนาดนี้ทำไมถึงไม่ค่อยมีเด็ก ๆ มาเล่นกีฬากันบ้างเลยนะ 


จะว่าไป แปลงดอกไม้แบบเดียวกันกับแถว ๆ ข้างตึกอธิการก็ปลูกไว้รอบ ๆ สนามฟุตบอลเหมือนกันนี่


ไปกันเถอะ!” ฟ็อกซ์กระตุกแขนคริสเบา ๆ ทำให้เขาสะดุ้งนิดหน่อยกำลังคิดอะไรเพลินอยู่พอดี


ลองเข้าไปถามลุงนั่นดูดีไหมครับคริสเสนอขึ้นมาอีก


เพี๊ยะ!!!


โอ๊ย!  ตีทำไมเล่าฟ็อกซ์โบกแบบเบา ๆ ไปที ทำเอาคริสถึงกับกุมหัวหน้างอ จะตะคอกก็ทำไม่ได้ ได้แต่กระซิบเสียงอุทาน


มึงจะแหวกหญ้าให้งูตื่นทำไมห๊ะ!มันก็จริงอย่างที่ฟ็อกซ์ว่า  ตาลุงคนสวนนั่นก็เข้าข่ายบุคคลน่าสงสัยอีกหนึ่งคน  แต่ตอบเขาดี ๆ ก็ได้นี่นา ใช้กำลังตลอด 


คริสแค่นเสียงเหอะเบา ๆ ในลำคอ 


กลับกันตอนนี้แหละ กำลังปลอดคนพอดีฟ็อกซ์ว่าแล้วก็เดินนำคริสตินหลบหลีกออกจากพงหญ้ารกตัดผ่านด้านหลังอาคารพละศึกษา   กว่าพวกเขาจะเดินออกมาถึงริมสนามได้ก็ลำบากเอาการอยู่เหมือนกัน เนื่องจากต้องระวังไม่ให้ตาลุงนั่นผิดสังเกตมากนัก พอตัดออกมาได้ก็พยายามเข้าไปรวมกลุ่มกับเด็กนักศึกษาไม่กี่คนที่เดินเตร่อยู่แถวนั้น


และถ้าคริสตินมองไม่ผิด แวบหนึ่งของหางตาเขาเห็นลุงคนสวนนั่นเงยหน้าขึ้นมามองที่พวกเขาขณะเดินตัดออกมาที่ริมสนามฟุตบอลนั่นด้วย 


แต่ก็เป็นแค่แวบเดียวจริง ๆ เพราะเมื่อเขาเพ่งมองดูดี ๆ ลุงคนนั้นก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้


คริสจึงละสายตาแล้วหันมามองคนที่เดินนำอยู่ด้านหน้าในขณะนี้


จู่ ๆ สายลมเย็นเฉียบก็โชยพัดเข้ามากระทบใบหน้าของเขา แม้จะสวมเสื้อคลุมอยู่แต่ก็ยังมิวายรู้สึกเย็นมากอยู่ดี คริสตินถูสองมือของตัวเองเบา ๆ แล้วล้วงกระเป๋าเสื้อทั้งสองข้างเพื่อบรรเทาความโหดร้ายของอากาศ กลางวันร้อนกลางคืนหนาวประหลาดชะมัดเลย!


แต่พื้นที่โล่ง ๆ แบบนี้ ลมโกรกดีเหมือนกันแฮะ น่าเสียดายที่เป็นฤดูหนาว มันเลยหนาวมากไปหน่อยเท่านั้น


เสื้อมึง ?” ฟ็อกซ์หันหน้ามาถาม เขาลดระดับฝีเท้าลงเพื่อจะได้เดินตีคู่กับคนด้านข้าง  คริสก้มมองแจ็คเก็ตที่ตัวเองสวมแวบหนึ่ง  ทำให้รู้ว่าเขาลืมคืนเสื้อให้ทรตอนแยกกันเมื่อช่วงเย็น 


เสื้อเจ้าเด็กทรนั่นน่ะแหละ


ใส่ทำไม เสื้อคนอื่น


“........” คริสตินไม่รู้จะพูดตอบว่าอะไรดี  ฟ็อกซ์เองก็อาจจะพูดขึ้นมาลอย ๆ ก็ได้เขาจึงไม่ได้ใส่ใจจะตอบมากนัก


คืนนี้จะไปกับเจ้าเด็กนั่นใช่ไหม


ทรเป็นบุคคลใกล้ชิดคุณหญิงภาวีมากที่สุด ซ้ำยังชอบทำท่าทางแปลก ๆกับเขา หากคิดจะเข้าถึงตัวคุณหญิงนั่นจริง ๆ คงต้องใช้ทรเป็นสะพานข้ามไปสินะ


คิดแล้วรู้สึกตัวเองเลวยังไงชอบกล!
 

ครับใช่ นัดกันไว้แล้ว

.
.
.
.
.
.
.


ที่ห้องพิสูจน์หลักฐาน


ซาโต้ยืนพิงประตูในมือถือรายงานการแจ้งความและลงบันทึกประจำวันของสถานีตำรวจท้องที่ในเขตมหาวิทยาลัยที่พวกเขากำลังตามสืบกันอยู่


พ่อแม่ของเด็กที่หายไป ?”


มีญาติผู้สูญหายเข้าแจ้งความกับ สน. พื้นที่ว่าพบรถกระบะสองตอนของลูกสาวถูกจอดทิ้งไว้บริเวณป่าด้านหลังอาคารพละศึกษาใกล้กับสนามฟุตบอลของมหาวิทยาลัยนั่น  อีกทั้งฝ่ายญาติยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว่า ลูกสาวหายตัวไปตั้งแต่เปิดเทอมได้เพียงแค่อาทิตย์เดียว ตอนแรกก็คิดว่าคงหนีไปอยู่บ้านเพื่อนไม่นานอาจจะกลับมา  แต่ที่ไหนได้ดันมีเพื่อนไปบอกว่าพบรถของน้องคนที่หายตัวไปจอดอยู่ภายในมหาลัยแห่งนั้น ทางครอบครัวลองติดต่อเพื่อน ๆ หลายคนก็ไม่ได้คำตอบอะไรที่ชัดเจน


คริสรู้เรื่องรึยัง ?” ซาโต้ถามย้ำขึ้นอีก


ส่งข้อความบอกไปแล้ว  หัวหน้าฟ็อกซ์พาเข้าไปดูเองเลย ทั้งสองคนยืนยันมาแล้วว่าพบรถที่ว่านั่นจอดอยู่จริง ”  สุรชัยว่าพร้อมกับเปิดบันทึกรายงานแจ้งความคนหายของอีกสามคนที่เหลือ ซึ่งทั้งหมดเป็นล้วนเด็กนักศึกษาภาควิชา IT ของมหาวิทยาลัยนั้นทั้งสิ้น


มันน่าสงสัยว่าเด็กพวกนั้นหายไปไหนกัน


จะยังมีชีวิตอยู่หรือว่าเสียชีวิตไปแล้ว


แต่ถ้าถึงขนาดพบรถแต่ไม่พบคน


เหตุผลที่สองน่าจะมีความเป็นไปได้กว่ามาก


เดฟ!ซาโต้ขานเรียกคนที่นอนเอนหลังกอดหมอนใบใหญ่อยู่เก้าอี้ตัวโตของสุรชัย


ไปกันได้แล้ว วันนี้พวกเรามีนัดกับเด็กพวกนั้นที่ ZERO ผับนะ  อย่าลืม! 


เดฟได้ยิน แต่ยังไม่ยอมลืมตาตื่น เจ้าซาโต้ไอ้ตัวร้ายเมื่อคืนเล่นออนไลน์โทรศัพท์เขาซะขนาดนั้น เจ้าตัวเองคงหลับไปอย่างมีความสุขกับคนข้าง ๆ มีแต่เขาที่ต้องนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อย 


กว่าจะหลับตาลงได้ แย่จริง ๆ เลย


อ้อ อีกอย่างหนึ่งนะ”  สุรชัยพูดเสริมขึ้นอีก 


เห็นหัวหน้าบอกด้วยว่าคืนนี้หมวดคริสเองก็จะไปที่ผับนั่นเหมือนกัน  คงจะได้เจอกับพวกนายสองคนล่ะนะ


เห็นทีงานนี้คงไม่ใช่เรื่องดีเสียแล้ว ไม่ใช่แค่พวกเขาที่สืบเบาะแสดี ๆ มาได้ ทางฝ่ายคริสตินเองก็ไวไม่ใช่เล่นเหมือนกัน  เสียงเคาะช่องกระจกที่ด้านบนของบานประตูดังมาจากด้านนอก คอร์นเปิดประตูเข้ามาพร้อมส่งรายงานการเสียชีวิตของเด็กนักศึกษาคนหนึ่งซึ่งเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนั้น ให้กับซาโต้  มีผู้พบว่าเป็นศพอยู่บนห้องพักขนาดเล็กแถวหน้ามหาวิทยาลัย


สาเหตุการเสียชีวิตมาจากการใช้ยาที่มากเกินขนาดฉีดเข้าเส้น 


ซาโต้ปิดบันทึกรายงานลงอย่างช้า ๆ เป็นเดฟที่เดินมาฉวยรายรายงานเล่มนั้นไปเปิดดูอีกครั้ง


ยาเสพติด ?


เขาไม่รู้ว่าการตายของเด็กรายล่าสุดจะเกี่ยวข้องกับคดีที่พวกเขาตามกันอยู่รึเปล่า


แต่ถ้าเป็นคดีเกี่ยวกับยาเสพติดจริง อาจจะต้องให้เคนยะเข้ามาช่วยคดีนี้อีกแรง

.
.
.
.
.


ในที่สุดรถจอดลงที่ลานจอดอันแสนวุ่นวายหน้าผับใหญ่โคตรหรูแห่งหนึ่งแถวแยกรัชดา คริสตินหันซ้ายหันขวาเมื่อคนขับอย่างฟ็อกซ์ยังติดคุยโทรศัพท์ค้างอยู่  


ฮัลโหลเดฟ  กูไม่ค่อยได้ยินว่าไงนะ?   ที่โซนนอกติดสะพานน้ำตกงั้นเหรอ?”  ฟ็อกซ์กรอกเสียงลงไปที่หูฟังไร้สาย  เป็นเดฟนั่นเองที่โทรเข้ามานัดแนะเรื่องสถานที่ภายในผับ คริสตินรอจนคนขับอย่างฟ็อกซ์คุยเสร็จเรียบร้อย รายละเอียดคร่าว ๆ คือสองคนนั่นมาถึงที่ผับแห่งนี้แล้วและนั่งกันอยู่ที่โซนโอเพ่นแอร์ฝั่งทิศตะวันตก


ไอ้เด็กนั่นมันนัดกับมึงไว้ที่จุดไหนพอวางสายเรียบร้อยฟ็อกซ์ก็ถอดเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเองออกแล้วส่งให้กับคนข้าง ๆ 
 

อ่ะนี่ ใส่ของกูแทน!  ด้านนอกอากาศหนาว เสื้อนั่นถือเข้าไปคืนให้เรียบร้อยด้วย ดูแล้วขัดลูกตาชะมัด เอาเสื้อใครมาใส่ก็ไม่รู้! 


หลังออกมาจากมหาวิทยาลัยเขาสองคนแวะเข้าไปทานข้าวกับเคนยะที่บ้านคริสตินถือโอกาสขึ้นไปเปลี่ยนชุดแต่ก็ยังสวมเสื้อคลุมของทรติดลงมาด้วย 


ผมยังไม่ได้โทรหาเด็กนั่นเลยคริสรีบเปลี่ยนแจ็คเก็ตตัวใหม่ขึ้นใส่ทันที   ฟ็อกซ์สูงกว่าเขานิดหน่อย แต่เสื้อคลุมก็ใช้กันได้ทั่วไปอยู่แล้ว แขนเสื้อจึงถูกพับขึ้นในระดับที่พอเหมาะ


หอมจังแฮะ ฟ็อกซ์ใช้น้ำหอมอะไรนะ คริสทำหน้าทะเล้นหลับหูหลับตาสูดเอากลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเสื้อเข้าเต็มปอด


อย่ามัวแต่เล่น!หัวหน้าหนุ่มหยิกแก้มใสของคริสไปทีหนึ่ง พร้อมทำหน้าขึงขังเมื่อเห็นหน้าตาแบบนั้นของคนข้าง ๆ    

เราไม่รู้ว่าเด็กทรนั่นรู้จักกับเด็กอีกกลุ่มนึงรึเปล่า บางทีอาจไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกันเลย หรือบางทีอาจจะเกี่ยวข้องกันโดยตรงเลยก็ได้  ระหว่างพวกมึงสามคนถ้าใครได้ข้อมูลของคุณหญิงนั่นมาแน่นอนกว่าเราจะเทน้ำหนักไปที่ฝ่ายนั้นทันที”  ฟ็อกซ์ว่าพร้อมทอดสายตาไปที่บริเวณระเบียงไม้หน้าผับซึ่งเป็นทางเข้าสู่โซนด้านใน


มีป้ายเหล้ายี่ห้อดังตัวเบ้อเริ่มติดโชว์อยู่


พี่จะเข้าไปกับผมไหมล่ะคริสล้วงนามบัตรที่ทรให้ไว้เมื่อตอนเย็นขึ้นมาดู เขากดเมมเบอโทรศัพท์ลงเครื่องตัวเองด้วยความรวดเร็ว เสร็จแล้วก็ยัดเข้ากระเป๋าเสื้อตัวในไว้เหมือนเดิม


คริสมึงฟังนะ!ฟ็อกซ์หันมาจ้องหน้าเขาจริงจัง


เจ้าเด็กทรนั่นถือเป็นคนใกล้ตัวคุณหญิงภาวีที่สุดแล้ว พยายามเจาะเอาข้อมูลสำคัญมาให้ได้  ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากลพยายามเอาตัวรอดแล้วโทรหาคู่หูมึง พวกนั้นไม่ว่ายังไงก็จะรอกลับพร้อมมึง  เข้าใจนะ!
เป็นเพราะซาโต้กับเดฟไปจับคู่หาข้อมูลจากเด็ก ๆ พวกนั้น คริสตินจึงจำเป็นต้องลุยเดี่ยวอย่างที่เห็นกันอยู่


 “รู้หรอกน่าคริสว่าแล้วคว้าเอาเสื้อตัวที่ถอดออกเมื่อสักครู่มาถือไว้ กำลังจะเปิดประตูรถลง ฟ็อกซ์จึงใช้มือขยี้ผมนิ่มนั้นไปเบา ๆ 


 “ระวังตัวด้วยล่ะ


ห่วงผมด้วยเหรอ?” คริสตินแสร้งทำสายตาบ้องแบ๊ว


เพ้อเจ้อ!   กูห่วงมึงเพราะกลัวเคนไม่สบายใจต่างหากเล่าแทนที่จะโดนลูบศีรษะอย่างอ่อนโยนกลายเป็นว่าคริสตินโดนฟ็อกซ์ผลักหัวซะจนหัวเกือบทิ่ม


ว่าแล้ววว....”  คริสทิ้งน้ำเสียงล้อเลียน พอลงจากรถก็ปิดประตูเสียงดังทำเอาฟ็อกซ์ส่ายหน้าอย่างอ่อนใจ 


เจ้าเด็กนี่มันเอาใจยากซะจริง!  


เสียงเพลงจากผับดังลอดออกมาเบา ๆ จะว่าไปนี่ก็ดึกมากแล้ว  


ฮัลโหลทร ผมมาถึงแล้วนะ นายนั่งอยู่แถวไหนน่ะคริสต่อสายตรงถึงทร เสียงเพลงจากปลายสายที่ดังกว่าด้านนอกหลายเท่าตัวทำให้รู้ว่าทรน่าจะอยู่บริเวณด้านใน  ดวงตากลมเหลียวซ้ายแลขวานิดหน่อยแอบมองหาพวกซาโต้กับเดฟไปในตัวแต่ก็ไม่เห็นสองคนนั่น  สักพักเสียงจากปลายสายก็ตอบกลับมาว่าอยู่ที่จุดใด  คริสรีบพุ่งไปที่ประตูทางเข้าทันที


รอเดี๋ยวน้องชาย”  โชคไม่ดีที่ที่นั่งของทรดันอยู่โซนด้านใน จะต้องผ่านการตรวจบัตรก่อนถึงจะสามารถเข้าไปได้ 


บรรลุนิติภาวะหรือยังเราน่ะ 


ทำงานมีเงินเดือนแล้ว แบบนี้พี่คิดว่าไงล่ะคริสตินตอบหนึ่งในชายสองคนที่ยืนตรวจบัตรอยู่ด้านหน้า


ที่นี่อายุไม่ถึงสิบแปดเข้าไม่ได้ อยู่ได้แค่โซนด้านนอกเท่านั้นชายอีกคนที่ยืนคาบบุหรี่อยู่ด้วยกันพูดขึ้น  ไหนเอาบัตรมาดูซิ 


คริสตินค่อยล้วงบัตรอาจารย์(ตัวปลอม) ส่งให้อย่างเซ็ง ๆ    ที่นี่ตรวจเข้มงวดแบบนี้ น่าสงสัยอยู่เหมือนกัน หน้าตาเขาก็ไม่ได้ดูเด็กขนาดนั้นหัวหรือก็ไม่ได้เกรียน รึว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคือจะให้เฉพาะสมาชิกเท่านั้นที่สามารถเข้าด้านในได้


มาทำอะไรที่นี่ล่ะคนที่ถือบัตรถามขึ้น


มาพักผ่อนน่ะสิ  แต่ตอนนี้เริ่มเซ็งแล้วคริสตอบไปแบบไม่กลัวฟ้ากลัวฝน ชายคนที่คาบบุหรี่เริ่มจะชักสีหน้าใส่เขา  ขณะกำลังจะต่อปากต่อคำกันก็มีเด็กหนุ่มผมทองคนหนึ่งเดินเข้ามากระซิบกระซาบอะไรบางอย่างกับคนตรวจบัตรสองคนนั่น  คริสตินไม่อยากมีเรื่องยุ่งยากจึงได้แต่ยืนคอยอยู่เงียบ ๆ แต่ก็ได้ยินคำพูดอยู่คำหนึ่งเต็ม ๆ สองหู เด็กลูกพี่จากนั้นหนึ่งในชายสามคนก็หันมองมาทางเขา


อ้อ ทีแท้เป็นคนรู้จักของคุณทรโทษทีครับพวกเราไม่รู้จริง ๆ ถ้างั้นเชิญตามน้องชายคนนี้เข้าไปได้เลยพฤติกรรมแตกต่างกันหน้ามือเป็นหลังมือ เจ้าทรคงจะกว้างขวางที่ผับนี้น่าดูเลย


ใช้เวลาไม่นานนักเขาก็เดินมาถึงโต๊ะที่มีทรนั่งรออยู่ก่อนแล้ว


ที่โซฟาใกล้กับเวทีด้านในสุด เด็กหนุ่มนั่งไขว่ห้างเอนตัวสบาย ๆ ในมือถือโทรศัพท์กำลังคุยค้างอยู่  ส่วนมืออีกข้างถือแก้วเหล้าโยกเล่นไปมาเบา ๆ ที่ข้างตัวมีสาวสวยคนหนึ่งนั่งคุกเข่าชงเหล้าให้เขาอยู่


แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายขึ้นมานิดหน่อย ก็สามารถเปลี่ยนให้คน ๆ หนึ่งเป็นเหมือนหนุ่มเพลบอยเต็มตัวได้เลย


นั่งสิเมื่อทรหันมาเห็นคริสเขาพยักหน้าให้เล็กน้อยแล้วตบลงที่นั่งข้าง ๆ ตัว เป็นสัญลักษณ์ว่าให้นั่งลงใกล้กัน 


ช่างแตกต่างจากเด็กทรที่เขาพบที่มหาวิทยาลัยเมื่อตอนเย็นโดยสิ้นเชิง


นาย....เอ่อคริสตินอึ้ง ๆ ไปนิดหน่อยกับลุคแปลก ๆ ของคนข้าง ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ย่อตัวนั่งลง


มานั่งข้าง ๆ ผมนี่ก้นยังไม่ติดเบาะด้วยซ้ำคริสก็โดนดึงข้อมือเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ เด็กประหลาดเสียแล้ว 


ไม่ต้องอายหรอกน่า ตอนนี้ไม่ได้อยู่มหาวิทยาลัยซะหน่อย ทำตัวสบาย ๆ ดีกว่าทรยัดโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเสื้อไว้แล้วเอื้อมมือขึ้นมาพาดไว้ที่โซฟาด้านหลังคริส


นั่งดี ๆสิทรคริสพูดเสียงดุ ขยับตัวออกมาอีกนิดเพราะรู้สึกได้ว่าถูกคนข้าง ๆ เบียดจนตัวติดกันไปแล้ว 


อ้าว นี่ก็นั่งดีนะ หรือจะให้ขึ้นไปนั่งตักล่ะเขาตอบกวน ๆทั้งแกล้งเบียดคริสไปด้วย ผู้หมวดหนุ่มไม่รู้จะทำยังไงจึงได้แต่ผลักทรให้ห่างออกไปอีกก็เท่านั้น  พนักงานสาวที่นั่งชงเหล้าอยู่ถึงกับหัวเราะขำออกมาเบา ๆ 


อ่ะนี่ เสื้อนายผมเอามาคืนให้ ขอบใจอีกครั้งละกันเขาได้โอกาสยัดเสื้อคลุมที่ถือติดมือมาใส่ลงที่ตักคนข้าง ๆ แล้วชวนผมมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”


เปล่า ก็แค่หาเพื่อนมาฟังเพลงด้วยเท่านั้นเองเด็กหนุ่มยื่นแก้วเหล้าที่ถูกชงแล้วส่งให้คริสตินใกล้ ๆ 


กินได้รึเปล่า หรือว่าจะเอาเป็นอย่างอื่นแทนดี 


ไม่เป็นไร กินได้คริสรับแก้วมาแล้วจิบพอเป็นพิธี


ฮ่า ฮ่า  ทำหน้าแบบนั้นตลกจังเขากอดเอาคอคริสมากระซิบที่ข้าง ๆ หู  “ขมเหรอ  ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องฝืนกินหรอกนะเพราะคริสทำใบหน้าตลก ๆ ขณะจิบเหล้าขมนั่นเอง ปกติแล้วเขาดื่มซะที่ไหนกันล่ะ 


ไม่เอาน่าทร อย่าเล่น....คริสเอี้ยวตัวออกมาจากท่อนแขนนั่น แล้วชกต้นแขนธารไปเบา ๆ ทีนึง


อ่ะ อ่ะ ไม่เล่นแล้วฟังเพลงดีกว่า 


บทเพลงบรรเลงไปเรื่อยๆคริสตินก็ชวนทรคุยไปเรื่อยเช่นกัน จนเวลาล่วงเลยไปมากพอสมควร


ทร


ว่าไงครับ


นายรู้จักเด็กที่ชื่อ พิยดา รึเปล่า รู้สึกว่าชื่อเล่นจะชื่อ น้องดา อยู่คณะ IT นี่แหละลองเข้าเรื่องเลยละกัน นี่เป็นชื่อของเด็กสาวที่เป็นเจ้าของรถคันที่เขาเพิ่งไปดูมา


ทำไมเหรอ ทรที่กำลังจะยกแก้วขึ้นดื่มหันมามองคนถามอย่างงง ๆ 


เปล่าหรอก เห็นอาจารย์ที่คณะเขาคุยกันว่าเด็กคนนี้ไม่มาเรียนนานแล้วผมเลยลองถามดู เผื่อนายจะรู้จัก”  พูดจบคริสยกแก้วกระดกเข้าปากรวดเดียวหมด


นายรู้จักไหม?”  เคนยะเคยบอกว่าเขาเป็นคนที่โกหกได้แย่ที่สุด ไม่รู้ว่าคราวนี้จะเป็นยังไง


ไม่นะ  ไม่รู้จักธารเองพูดจบก็ยกซดรวดเดียวหมดเช่นกัน


*


เสียงเพลงยังคงดังไปเรื่อย ๆ นักร้องเพลงสดบนเวทีตอนนี้เปลี่ยนหน้าเป็นอีกคนไปแล้ว


ทรยกอีกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวก่อนจะหันหน้าเบนสายตาแดงก่ำมาหาคริส  “กลับไหม


หืม


กลับกับผม  ไปที่บ้าน 


บ้านทรที่ ๆ มีคุณหญิงคนนั้นอยู่  


โอกาสแบบนี้หากันได้ง่าย ๆ ซะที่ไหน


แต่ทว่า.....

.
.
.
.
.
.

ไหนล่ะลูกพี่พวกมึง?” ซาโต้ชักสีหน้าไม่ค่อยชอบใจนักใส่เด็กหนุ่มผมแดงและผมดำที่นั่งจิบเหล้าอยู่ต่อหน้าเขาและเดฟ


นัดพวกกูออกมา อย่าบอกนะว่าแค่จะมานั่งกินเหล้าฟังเพลงเรื่อยเปื่อยแบบนี้น่ะคืนนี้เด็กกลุ่มนี้โผล่มาที่นี่แค่สองคน เด็กผู้หญิงผมยาวและเด็กแว่นแท็บเล็ตไม่ได้มาด้วย


หึหึเด็กสองคนหัวเราะในลำคอ ถ้าซาโต้ฟังไม่ผิดเกือบจะพร้อม ๆ กันด้วยซ้ำ อยากเจอลูกพี่กูขนาดนั้น?” 


ก็เออสิวะ กูอยากได้งานไว ๆ เงินยิ่งขาด ๆ มืออยู่เนี่ย


ได้สิ แต่รอเวลาเดี๋ยว กูมีงานจะให้มึงทำอีกชิ้นหนึ่ง ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนที่จะเข้าเป็นแก๊งเดียวกับพวกกูเด็กผมแดงพูดจบเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นอะไรบางอย่างไม่สนใจคนด้านหน้าเลยสักนิด ซาโต้กับเดฟจึงได้แต่นั่งฟังเพลงฆ่าเวลาไปเรื่อย 


กูถามไรมึงอย่างได้รึเปล่าจู่ ๆ ซาโต้ก็นึกบางอย่างออก


อะไรล่ะเด็กหนุ่มผมดำถามขึ้น


มึงรู้จักผู้หญิงคนนี้ไหมซาโต้โชว์รูปถ่ายนักศึกษาหญิงคนหนึ่งที่หน้าจอมือถือส่งให้เด็กสองคนนั่นดู เป็นรูปของเด็กที่ชื่อ พิยดา  หรือ น้องดา นั่นเอง


รู้จักสิ ทำไมล่ะคราวนี้เป็นเด็กผมแดงตอบมา


อ๋อเปล่า  กูเคยแชตคุยกับเขาในเฟสน่ะ  เขาแนะนำกูให้มาเรียนที่นี่ แต่พอกูมาตามที่เขาบอกแล้วกูไม่เคยเห็นเขาที่นี่เลยว่ะ เลยสงสัยว่าเขาย้ายไปเรียนที่อื่นรึเปล่า” ซาโต้ตะล่อมถาม


มึงจะเคยเห็นได้ไงเล่า! เด็กนี่ตายแล้วมั้ง


ว่าไงนะ!เขากับเดฟแทบจะอุทานออกมาพร้อม ๆ กัน


หึหึ  พวกมึงอยากรู้เรื่องนี้ขนาดนั้นเลยเหรอวะเด็กหนุ่มยกแก้วซดรวดเดียวหมด


ก็อยากรู้สิ คนเคย ๆ คุยกันอยู่


ได้เลย!เด็กหนุ่มยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู  “งั้นพิสูจน์ใจกับพวกกูก่อน ไว้เราเป็นพวกเดียวกันแล้วมึงอยากรู้อะไรก็จะได้รู้ทุกอย่างนั่นแหละ 


จะให้ทำอะไรล่ะ พวกมึงนี่เงื่อนไขเยอะซะจริง”  


มึงเห็นผู้ชายสองคนนั่นรึเปล่าหนุ่มผมดำพูด เขาใช้แก้วเหล้าชี้ ๆ ไปทางฝั่งด้านหน้าของระเบียงไม้แถวประตูตรวจบัตร ถึงจะมีคนเดินผ่านไปมามากมายแต่เด็กหนุ่มสองคนที่กำลังเดินตามกันออกมาก็ดูแตกต่างจากคนอื่นมากอยู่


ทำไม?!” เดฟถามขึ้นเสียงแข็ง เขาจะดูไม่แตกตื่นเลยถ้าหนึ่งในสองคนที่เจ้าเด็กนี่มันชี้ ไม่ใช่คริสติน!


มึงไปเอาเลือดหัวไอ้คนที่เดินนำหน้านั่นมาให้กูทีซิ!


ว่าไงนะ !!


ไอ้หน้าหล่อที่สวมเดฟดำนั่นน่ะ กูหมั่นไส้มันว่ะ แม่ง 


คนที่เดินนำหน้า เป็นคริสชัด ๆ


ทำไมต้องทำแบบนั้น?!” ซาโต้ถามขึ้นทันที เดฟเองก็ตกใจไม่น้อยเช่นกัน เด็กพวกนี้คงยังไม่รู้ว่าคริสตินเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยของตนเอง ดูไกล ๆ แบบนี้คริสเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปที่มาเที่ยวเล่นกับเพื่อนฝูงไม่มีผิด  


เหตุผลยังบอกมึงไม่ได้ เสร็จงานแล้วกูจะบอกทีเดียวเด็กหนุ่มยกมือเป็นสัญลักษณ์ให้พนักงานเข้ามาคิดเงิน


ให้เมียมึงไปทำ!เจ้าเด็กนั่นชี้ไปที่เดฟ


อะไรนะ!


ส่วนมึงคราวนี้ชี้ไปที่ซาโต้   “ไปรอดูผลกับพวกกูอยู่ที่ด้านนอก  


ไอ้เด็กระยำพวกนี้คิดจะให้เดฟเข้าไปจัดการคริสตินเพื่อพิสูจน์ใจ แต่เหตุผลที่เลือกคริสเป็นเพราะอะไรกัน???


จะด้วยความบังเอิญ? หรือความตั้งใจยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดอะไรสักอย่าง


ไร้สาระว่ะพวกมึง กูว่าเล่นอย่างอื่นดีกว่านะ  เล่นแบบนี้ไม่สร้างสรรค์เลย


ฮ่า ฮ่า พวกกูก็ไม่เคยได้สร้างสรรค์อะไรอยู่แล้ว พวกมึงจะทำหรือไม่ทำก็ว่ามา อย่าช้าไอ้เด็กนั่นมันจะเดินไปแล้วซาโต้กับเดฟมองไปที่คริสอีกครั้ง  เห็นกำลังโบกไม้โบกมือกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งอยู่คาดว่าคงกำลังยืนส่งกันกลับ


หาเรื่องจริง ๆ เดี๋ยวคนก็ได้แตกตื่นซาโต้ยังไม่ยอม


ก็เพราะกูจะให้คนแตกตื่นกันน่ะสิ ถึงเวลานั้นมึงจะต้องหนีเอาตัวรอดให้ได้กูจะดูว่าสถานการณ์แบบนั้นมึงยังจะสามารถรอดมาเจอผัวมึงอยู่ไหมมีพนักงานเข้ามาวางบิลพอดี เด็กผมดำล้วงธนบัตรสีเทาสามใบขึ้นมาวางที่ถาดบิลจากนั้นทั้งสองคนก็ชวนกันลุกขึ้น ซาโต้กับเดฟเองจึงจำต้องลุกขึ้นตาม


ส่วนมึงเด็กนั่นจ้องที่ซาโต้ ไปส่งพวกกูสองคน พวกกูไม่ได้เอารถมา ไอ้เหี้ยเปี๊ยกแม่งไม่ยอมมาตามนัดกูเลยไม่มีรถกลับอยู่เนี่ยไอ้เด็กแว่นที่ชอบเล่นแทปเล็ตชื่อเปี๊ยก โทรเข้ามาบอกเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วว่าไม่ได้แวะเข้ามาที่ผับทำเอาไอ้เด็กผมแดงนั่งฉุนมาตั้งแต่นั้น


ไปได้แล้วมึงเด็กนั่นหันไปพูดกับเดฟแล้วคว้าเอาแขนซาโต้ไว้


ไม่อ่ะ! พวกกูไม่อยากมีเรื่องซาโต้โพล่งขึ้นแล้วสะบัดแขนออก เขาจะยอมให้คริสเจ็บตัวได้ยังไงกัน


ก็ได้   ถ้าพวกมึงไม่กล้ากูจะทำให้ดูเป็นตัวอย่างเด็กผมดำพูดแล้วคว้าเอาขวดเหล้าที่มีของเหลวเหลืออยู่กว่าครึ่งมาไว้กับตัว กูจะเอาเลือดหัวมันออกมาให้พวกมึงดู ลูกพี่กูไม่ถูกกับไอ้เหี้ยทรคนที่เดินอยู่ข้างๆมันนานแล้ว เด็กไอ้หมอนั่นทุกคนพวกกูจะสั่งสอนให้หมดเลย 


เดี๋ยว!”   เดฟก้าวมาขวางเอาไว้


กูจะเป็นคนทำเอง!”  เขาแย่งเอาขวดเหล้าจากมือเด็กนั่นถือไว้แทน  


เดฟ!ซาโต้ฉวยเอาแขนเพื่อนแล้วร้องทาน


มึงไปกับพวกนี้เหอะ เดี๋ยวกูจัดการทางนี้เอง พวกมึงออกไปรอดูได้เลย ถ้าชุลมุนขึ้นมาซาโต้จะพาพวกมึงหนีออกไป  พรุ่งนี้ค่อยไปเจอกันที่มหาลัย


เดฟพยักหน้าเป็นสัญลักษณ์กับซาโต้ประมาณว่าแยกกันทำงานเสร็จแล้วให้รีบตามกลับไป เขาถอดแว่นหลอก ๆ ที่สวมอยู่พับเก็บใส่กระเป๋าเสื้ออย่างรวดเร็วพร้อม ๆ กับกระชากกระดุมเสื้อเชิ้ตจนเม็ดบนหลุดร่วงออกไป


ไม่จำเป็นอีกแล้วสำหรับภาพพจน์เด็กเรียน....เดฟกัดกรามจ้องเด็กสองคนเขม็ง


ฮ่าๆๆ เมียมึงเจ๋งดีว่ะซาโต้ตวัดนัยน์ตาสีเข้มจ้องไปที่คนพูดทันทีเล่นเอาเด็กผมแดงหลบแทบไม่ทัน ตอนนี้จิตใจสับสนจนถึงที่สุด เขาจะยอมให้เดฟทำบ้า ๆ แบบนั้นกับคริสตินได้ยังไง


ไว้ใจกูซาโต้!  มึงพาพวกนี้ออกไปให้เร็วที่สุดอย่าให้เห็นตอนกูพาคริสออกไปเดฟตบไหล่กระซิบให้คำมั่นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะขยับมือกำเอาคอขวดเดินหน้าเข้าหาเป้าหมายอย่างคริสติน!

.
.
.
.
.
.

ข้างฝ่ายทรกับคริสสองคนกำลังเดินตามกันออกมาจากผับด้านใน


ทำไมไม่ยอมให้ผมไปส่งนะพอทรรู้ว่าคริสไม่ได้เอารถมา เขาก็ตอแยจะไปส่งคริสเสียให้ได้


ผมนัดกับน้องชายไว้แล้วเดี๋ยวโดนงอน เจ้านั่นน่ะเห็นตัวโตแบบนั้นแต่งอนเก่งนะ


เหอะๆพูดไปเรื่อยเปื่อยนัดเนิดที่ไหนกันฟ็อกซ์กลับไปแล้วแท้ ๆ  จะว่าไปเขาเคยเห็นฟ็อกซ์งอนเคนยะอยู่บ่อย ๆ เหมือนกันเวลาที่พี่ชายเขาทำท่าไม่สนใจ นึกถึงท่าทางแบบนั้นของฟ็อกซ์แล้วก็ตลกดี


แต่นึกอีกทีก็น่าโมโห มันกลายเป็นน้องชายเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!


ท่าทางคุณจะรักน้องมากนะครับ พูดแล้วอมยิ้มไม่หยุดเลยนี่ ห่างกันกี่ปีเหรอ?”


ก็...ไม่กี่ปีหรอกฟ็อกซ์นะที่มากกว่าเขา แต่เจ้าเด็กทรคงคิดว่าเขามากกว่าฟ็อกซ์ โถ่!


งั้นเหรอครับ แต่หน้าตาก็พอ ๆ กันนี่เนอะ ถ้าไม่บอกว่าเป็นน้อง ผมคิดว่าเป็นแฟนคริสนะเนี่ย


แฟนไรเล่า  พี่  เอ้ย! น้อง


ขอโทษนะครับ แซวเล่นๆน่ะทรยิ้มตอบอย่างอารมณ์ดี จู่ ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือของเขาดังเข้ามาพอดี เขาจึงล้วงขึ้น
มากดรับ คริสตินได้โอกาสบอกลาเขาจึงขยับปากเป็นคำพูดว่า พรุ่งนี้ค่อยเจอกันให้กับอีกฝ่าย ทรจึงรีบคว้าดึงเอาแขนคริสไว้แล้วพูดออกมาเสียงดังทั้งที่ยังถือสายค้างอยู่  “อย่าผิดสัญญานะ”  คริสตินพยักหน้าให้เบา ๆ โบกไม้โบกมือลา ก่อนที่ต่างฝ่ายจะเดินเลี่ยงไปคนละทาง


บางที....ความแนบเนียนก็ต้องใช้เวลา รีบร้อนนักอาจจะเสียงานใหญ่ได้ ที่คริสตินไม่ได้ตอบตกลงไปบ้านทรหรือก็คือบ้านคุณหญิงนั่นในคืนนี้ แต่บอกปัดเป็นวันพรุ่งนี้แทน เนื่องจากพรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์วันหยุดของมหาวิทยาลัย มีโอกาสสูงมากที่จะได้พบคุณหญิงภาวี ป้าของทรที่นั่น


เสียงเพลงจากผับบริเวณโซนด้านนอกเปลี่ยนสไตล์เป็นเพลงคลาสสิคเบา ๆ คริสสอดสายตามองหาพรรคพวกอีกครั้งเขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูแวบหนึ่ง นี่ก็จวนจะตีหนึ่งแล้วบางทีทั้งซาโต้และเดฟอาจจะออกจากที่นี่แล้วก็ได้ ว่าแล้วก็ล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋าเสื้อคลุม กำลังจะกดโทรออกเบอร์เดฟเพื่อนัดแนะสถานที่ที่เจอกันตอนขากลับ


เพล้ง.......!!!!


เสียงขวดเหล้าทั้งขวดถูกฟาดลงบนหัวจนเศษแก้วแตกกระจัดกระจาย



คริสตินยืนโงนเงนตาเบลอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง  เขารู้สึกได้แต่เพียงว่ามีของเหลวอะไรบางอย่างกำลังไหลอาบศีรษะของเขาเปียกราดลงสู่แก้มแล้วไหลลามลงไปถึงลำคอ กลิ่นคล้าย ๆ แอลกอฮอล์ระคนไปทั่วทั้งใบหน้า  เสียงคนกรีดร้องอื้ออึงดังระงมไปหมด  ผู้คนรอบข้างบางคนวิ่งแตกตื่นกรีดร้องเสียงหลง จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเจ็บหัวขึ้นมา พร้อม ๆ กับสายตาที่พล่าเบลอลงเรื่อย ๆ ร่างกายเริ่มไร้สูญถ่วงเหมือนมีคนเอาอะไรบางอย่างฟาดลงไปที่ด้านหลังศีรษะเขาอย่างแรง แต่ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างรองรับเอาไว้ก่อนเช่นกัน  


โทรศัพท์ที่กำลังถืออยู่ร่วงลงสู่พื้นพร้อม ๆ กับตัวเขาที่เข่ากำลังอ่อนเหมือนจะทรุดลงแน่แล้ว   ทันใดนั้นเองก็มีมือของใครบางคนมาโอบปิดรอบดวงตาเขาไว้จนแน่นจากทางด้านหลัง มีของเหลวเหนียว ๆ จากมือปริศนาไหลอาบลงมาที่ใบหน้าขาว


กลิ่นคาวเลือด!


คริส! ผมเองนะคนพูดตะโกนร้อนรนข้างหู ใช้มืออีกข้างโอบตัวเขาไว้ไม่ให้ล้มหมดสติ น้ำเลือดจากฝ่ามือใหญ่ไหลเลอะไปทั่วใบหน้าของเขา เสียงคนยังดังอื้ออึงอยู่ไม่ขาดสายขณะคริสถูกลากให้ทั้งเดินทั้งวิ่งออกไปกับคนๆนี้อย่างรวดเร็ว


เดฟจำเป็นต้องพาคริสหลบสายตาเด็กพวกนั้นให้เร็วที่สุด อาศัยช่วงชุลมุนทำทีว่าเขาเผ่นหนีออกไปแล้ว


ทนหน่อย!  ช่วยวิ่งให้เร็วขึ้นอีกนิดหลายคนที่เห็นเหตุการณ์คงแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เห็นคนที่ฟาดขวดเหล้าลงบนหัวใครบางคนกลับเป็นคนที่ช่วยเหลือและลากกันออกมาจากที่เกิดเหตุ 


น้ำเลือดทั้งเหนียวทั้งข้นไหลลงมาเรื่อย ๆ ไหลเข้าแม้กระทั่งปากของคนที่โดนปิดตาไว้แน่น คริสรู้สึกได้ถึงความฝาดและรสคาวเลือดภายในช่องปาก เขาพยายามจะหันหน้าหนีฝ่ามือนั่นแต่ก็ทำไม่ได้


เจ็บหัว....


เดฟ เดฟใช่ไหม?” คริสตินเสียงสั่น สติเริ่มไม่อยู่แล้ว หัวเขาเจ็บและมึนไปหมดมองอะไรก็ไม่เห็น สองขาก้าววิ่งไปตามแรงลาก


ครับใช่ผมเอง!  ผมจะพาไปโรงพยาบาลนะทนอีกนิดเดียว”  


เดฟ ผมมองไม่เห็น.....ผมเจ็บ”  ในที่สุดเข่าก็ทรุดลงแล้ว  เดฟจึงเสียหลักจากการวิ่งนิดหน่อยแต่ยังไงเขาจะต้องออกไปจากจุดนี้ให้เร็วที่สุด เขาตัดสินใจเปลี่ยนจากการประคองเป็นการแบกเอาคริสใส่หลังไว้ 


กอดคอผมไว้คริสพอยกคริสขึ้นหลังได้เขาก็สาวเท้าวิ่งต่อไปด้วยความเร็ว กอดไว้แน่น ๆ นะใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีเสียงโวยวายจากหน้าผับก็เริ่มห่างลง  เดฟรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นที่หลังมือของตัวเองเป็นอย่างมากแต่เขาไม่มีเวลาจะมาสนใจในเรื่องนั้น ยังคงตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อไปบนทางที่มืดมิดริมฝั่งถนนนั้นอีกหน่อย  


เลือดใครไหล เลือดผมเหรอ?” คริสถามเหมือนคนละเมอ เขารู้สึกเหมือนตัวเองลอยได้  เสียงอื้ออึงรอบข้างเงียบลงแล้ว เดฟมองซ้ายมองขวาค่อยบรรจงวางคริสตินลงที่ข้างทาง เขาถอดเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเองออกด้วยความรวดเร็ว ใช้มือตบแก้มคริสสองสามทีเพื่อเรียกสติ 


อย่าหลับนะคริส”  มือแกร่งขยุ้มเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเองใช้เช็ดเลือดที่เปื้อนตามใบหน้าและลำคอคริสตินออกอย่างเบามือและทำด้วยความเร็ว 


คริส!  มองเห็นผมไหม ลืมตาสิครับ!เดฟตะโกนร้อนรน เขาเริ่มทำอะไรไม่ถูกเช็ดเข้าที่ใบหน้าขาวนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าหวังให้รอยเลือดนั้นหมดไปแต่เลือดทำไมยังไหลออกมาไม่หยุดกันนะ คริสอย่าหลับนะ ลืมตา!


อันที่จริงแล้ว....เดฟลืมอะไรไปบางอย่าง


สายตาคมร้อนรนสอดส่ายหารถที่ถนนด้านหน้า สบโอกาสแท็กซี่คันหนึ่งผ่านมาพอดีเดฟรีบลุกขึ้นโบกอย่างไว


คริส! ลุกขึ้นนะเขาประคองคริสตินให้ลุกขึ้นยืน ยัดเสื้อเปื้อนเลือดเข้าไว้ในแจ็คเก็ตตัวใหญ่ที่คริสสวมอยู่


เมาน่ะครับลุงเดฟแก้ตัวกับคนขับแท็กซี่เพราะสังเกตเห็นว่าฝ่ายนั้นทำสีหน้าสงสัย เขาลากคริสตินขึ้นไปนั่งบนรถด้วยความเร็ว


จะไปไหนกันล่ะ  มีเรื่องมาเหรอไอ้หนุ่มชายคนขับถาม


ไป....... ครับเดฟบอกสถานที่ ๆใกล้กับโรงพยาบาลแถวนี้ให้มากที่สุด เพราะยังไม่อยากถูกคนขับไล่ตะเพิดลงจากรถด้วยความกลัวว่าเขาจะสร้างปัญหาหรอกนะ


ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวลุงส่งหน้าห้องฉุกเฉินเลยก็ได้ ผับนี้มีเรื่องบ่อยเลยลุงเจอประจำแบบพวกเอ็งน่ะ


ขอบคุณครับ 


แสงไฟจากโคมถนนที่เรียงรายเป็นแนวยาวสาดเข้ามากระทบเพียงฝั่งเดียวของใบหน้าขาวที่เขากำลังโอบกอดเอาไว้ รอยบาดจากเศษแก้วสองสามรอยปรากฏให้เห็นที่พวงแก้มขวา เดฟใช้มือสัมผัสที่บาดแผลเล็ก ๆ นั่น คริสตินจึงสะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย


“....คริส ”  อาจมีเศษแก้วฝังอยู่


นี่เขาทำบ้าอะไรลงไป!


ว่าแต่...เอ็งน่ะจะไม่เป็นอะไรเหรอลุงคนขับหันมาถามด้วยสีหน้าฉงนเมื่อรถติดไฟแดงทำให้เดฟหลุดจากภวังค์   เขาได้แต่เลิกคิ้วไม่เข้าใจว่าลุงแกหมายความว่ายังไง คนที่น่าจะห่วงคือคริสตินมากกว่าแต่ลุงดันถามเขาซะได้


คนขับแท็กซี่จึงเบนสายตาไปที่มือของเขา


ก็มือเอ็งมีแผลเหวอะหวะซะขนาดนั้น เลือดไหลออกมาไม่หยุดเลยนี่พ่อหนุ่ม 


เดฟได้ยินแบบนั้นจึงมองไปที่หลังมือของตัวเองที่ตอนนี้กำลังพยายามเช็ดหน้าให้กับอีกฝ่ายอย่างระมัดระวังกลัวว่าจะโดนรอยบาดนั่น


มิน่าล่ะ เช็ดเท่าไหร่เลือดก็ยังติดเต็มใบหน้าคริสอยู่


ที่แท้ตอนที่เขาฟาดขวดเหล้าลงที่ศีรษะของคริส  เขาใช้มือตัวเองอีกข้างรองกันเอาไว้ก่อนเพราะกลัวคริสตินจะเจ็บนั่นเอง!   ถึงกระนั้นแรงกระแทกที่มากมายจนขวดแก้วแตกกระจายก็ทำเอาคริสถึงกับจวนจะหมดสติอยู่ในขณะนี้    และเลือดนั่น! ออกมาจากหลังมือของเขาไม่ได้ออกมาจากศีรษะของคริสเลยสักนิด เพราะงั้นยิ่งเขาเช็ด ผ้าก็ยิ่งเปื้อนเลือดเช็ดเท่าไหร่ก็ไม่สะอาดสักที  


เอานี่ ถ้าไม่รังเกียจนี่ผืนใหม่เลยนะลุงคนขับเปิดลิ้นชักหน้ารถแล้วยื่นผ้าเช็ดตัวผืนเล็กส่งมาให้ 


พันไว้สักหน่อยดีกว่า ปล่อยให้เลือดไหลออกมามากเกินไปจะไม่ค่อยดีนะพ่อหนุ่ม 


ขอบคุณครับคุณลุงโชคดีจริง ๆ ที่เจอคนขับใจดีแบบนี้ เดฟรีบรับผ้ามาแล้วเช็ดลงที่ใบหน้าคริสตินอีกครั้งก่อนจะใช้ผ้าผืนเดียวกันพันฝ่ามือตัวเองไว้ 


ร่างกายตัวเองน่ะเขาไม่สนใจอยู่แล้ว ไม่ว่ายังไงสิ่งที่เขาห่วงที่สุดอยู่ตอนนี้ก็คือความปลอดภัยของคนข้าง ๆ มากกว่า


คริสพยายามปรือตาขึ้นมองแม้ความหนักอึ้งที่หัวยังมีมากโขอยู่ เขาได้ยินทุกอย่างที่ลุงคนขับแท็กซี่พูด คริสจึงกุมเอาฝ่ามือเปื้อนเลือดนั่นเบา ๆ พร้อมส่งสายตาเป็นเชิงถาม ว่าเกิดอะไรขึ้น ?


ผม....เป็นคนทำ  เดฟกระซิบเสียงสั่นพร่าแววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด   “  .......ขอโทษครับ  ” แก้มชื้นเหงื่อนั่นกระตุกเบา ๆ  คริสตินพยายามจะส่ายหน้าบอกให้รู้ว่าไม่เป็นไร แต่รู้สึกเหมือนหัวเขาจะขยับเขยื้อนอะไรไม่ได้เลย


เจ็บมากไหม? ” เดฟเอ่ยถามเสียงเบา  คริสตินจึงประคองฝ่ามือที่เต็มไปด้วยบาดแผลของเดฟเข้ามาไว้ที่หน้าอกตัวเอง     

แล้วนายล่ะ เจ็บมากรึเปล่า  


นอนลงไหม นอนที่ตักผมก็ได้   เดฟไม่ได้ตอบอะไรแต่เปลี่ยนมาเป็นถามคริสแทน สายตาของเขาช่างเต็มไปด้วยความห่วงใยมากมายเหลือเกิน


ไม่ล่ะ ผมขยับหัวไม่ค่อยได้”  คริสหลับตาลงแน่น จู่ ๆ น้ำนัยน์ตาก็พาลจะไหลลงมาดื้อๆไม่รู้เป็นเพราะความเจ็บความมึนหรือว่าความกลัว


กลัวสายตาแบบนั้นของเดฟ....กลัวความรู้สึกของคนข้าง ๆ  


เดี๋ยวซาโต้จะตามมาใช่ไหม? ”   คริสจึงโพล่งคำถามขึ้น


“.............” 


ไม่มีคำตอบอะไรดังลอดออกมา คริสเองสายตาก็พร่าลงเรื่อย ๆแล้ว สติที่เลือนลางรวมถึงความรู้สึกร้าวที่ศีรษะเหมือนสมองจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ  ภาพสุดท้ายที่เห็นและรู้สึกได้ก็คืออ้อมกอดใหญ่ที่รวบเอาเขาเข้าไปกอดไว้จนแน่นนั้นสั่นสะท้านอยู่ตลอดทาง


Tbc.