บทที่ 2 พ่อครัวหัวป่า
สนามบอลคืนนี้ยังคึกครื้นไม่ต่างกับทุกวัน
ผมวิ่งเหยาะๆออกมาทิ้งตัวนั่งลงแถว ๆ ข้างสนามถอดเสื้อออกมาซับเหงื่อสะบัด ๆ
แล้วพาดลงที่ไหล่
“โอ๊ยเหนื่อย วันนี้ทำไมมันร้อนอะไรแบบนี้วะเนี่ย”
เสียงทุ้มของไอ้บาสดังมาแต่ไกล
มันกับไอ้วุฒิเดินเข้ามาสมทบกับผม สองตัวถอดเสื้อตั้งแต่ยังเล่นไม่เสร็จโน่น
พอนั่งลงได้ก็ควาน ๆ หาขวดน้ำแถวนั้นแล้วเปิดดื่ม
ไอ้บาสเริ่มเลื้อยถดไถอยู่กับพื้นหญ้ามันคงเหนื่อยแหละหัวนี่เปียกจนชุ่มอ่ะ ผมเองก็สะบัดๆหัวไล่เหงื่อไคลบ้างเหมือนกัน
ช่วงนี้ผมเผ้าเริ่มยาวปิดหน้าปิดตาเดี๋ยวคงต้องหาเวลาไปซอยออกบ้างแล้ว
“วันนี้ลูกพี่ซึม
ๆ นะ เป็นไรวะพี่ ไหนว่ามีงานดี ๆ เงินงาม ๆ เข้ามาไง ทำไมทำหน้าเป็นลูกหมาแบบนั้นน่ะ”
“ซึมที่ไหนกูก็ปกติ
แค่มีบางอย่างที่ต้องคิด” ผมทิ้งแผ่นหลังนอนลงที่สนามหญ้านั่นแหละ
สองมือหนุนรองหัวไว้ขณะที่สายตากำลังมองดูกลุ่มดาวที่เริ่มออกมาอวดแสงกันมากมายบนท้องฟ้า
ใช้เงาไอ้วุฒิบังแสงไฟจากโคมสปอตไลท์ที่ส่องสว่างจนทั่วสนามฟุตบอลไว้กันแสบตา
“นายจ้างลูกพี่ปิงเป็นคนแบบไหนอ่ะ
สวยป่ะ” ไอ้บาสที่นอนอยู่ใกล้ ๆ ผมถามขึ้น
มันกำลังทำมือวัดขนาดของดาว
“สวยเหรอ”
ผมทวนคำ นึกถึงหน้าคุณชายเอย์ตั้นลอยอยู่บนท้องฟ้า
แบบนั้นจะเรียกว่าสวยได้รึเปล่าวะ แต่เรื่องมันหล่อน่ะแน่นอนอยู่แล้ว
“สวยดิ
รวยด้วย” ผมโกหกมันครึ่งนึง อยากเห็นคนทำหน้าทำตาอิจฉาผมเล่น เม้มปากรอ
ในที่สุดมันก็พูดออกมาจริง ๆ
“หูยยยอิจฉา
จริงดิลูกพี่ เธอมีนามไพเราะเพราะพริ้งว่าอะไร
ลูกคุณหนูใช่ไหมอยู่คอนโดแถวนั้นต้องมีแต่พวกไฮโซนี่เนาะ” มันรีบตะแคงมาหา ทำหน้าทำตาอยากรู้เต็มที่
“เสือกจริงนะมึง
อยากรู้เรื่องคนโน้นคนนี้ไปทั่ว” ไอ้วุฒิเพิ่งจะมีบท ปกติมันไม่ค่อยพูดมากเหมือนหมาบาสอยู่แล้ว
พูดมาครั้งนี้เลยโดยไอ้บาสโบกหัวไปเต็ม ๆ
“เงียบเลยไอ้กืก”
กืก คือฉายาของไอ้วุฒิครับ
บางทีผมกับไอ้บาสก็เรียกมันแบบนั้น เนื่องเพราะมันกืกมาก คือมันจืด มันซื่อ มันช้า
และมันเฉื่อย เว้นแต่เวลาตีกันมันโกยเร็วที่สุดเลยครับ
“ว่าแต่เธอคนสวยชื่อไรอ่ะลูกพี่
บอกหน่อยดิ ลูกพี่ทำตาลอยแบบนี้ไม่ใช่ว่าคิดถึงเธอคนนั้นอยู่หรอกนะ”
“ชื่อเอย์ พี่เอย์”
“หูยยย
สาวรุ่นพี่ แบบนี้ให้สอนมวยเลยดิ”
อุ๊กก!!
ผมยันโครมมันไปที
“แบบกูนี่ยังต้องให้สอนอีกเหรอ” มันถึงกับกุมท้องขดตัวเป็นกุ้ง
แกล้งแสดงสีหน้าเจ็บปวดเต็มที่ กลิ้งตัวไปนอนหนุนตักไอ้วุฒิ
จริง ๆ ผมเคยแต่กับรุ่นน้องนะ
ได้ยินมาเหมือนกันเขาว่าสาว ๆ รุ่นพี่น่าลองแต่ไม่รู้ทำไมช่วงนี้ชอบมองแต่ผู้ชายตัวเล็กน่ารักปากแดงชมพูๆไม่รู้
“ลืมไปๆลูกพี่ปิงจัดว่าเด็ดอยู่แล้วล่ะเนาะ
ขนาดน้องพริ้ง เลดี้ของพี่โตยังมาติดใจในลีลา
นับประสาอะไรจะไปให้ลูกคุณหนูอย่างคุณเอลิเซียสอนมวยให้ เนอะๆ”
“เอลิเซียพ่องดิ เขาชื่อเอย์ เว้ย เอย์เฉย ๆ พี่เอย์”
ผมไม่ได้บอกว่าเอย์ตั้นเพราะขี้เกียจฟังมันบ่นว่าผมโกหกเรื่องไอ้พี่เอย์เป็นผู้ชาย
เลยปล่อย ๆ ไปก่อน
“อ้าวแล้ววันนี้ลูกพี่ไม่ไปทำงานล่ะ”
“ไม่ไป พรุ่งนี้วันอาทิตย์กูจะไปแต่เช้าเลย”
“แหม่
คิดถึงคุณเอลิเซียคนสวยใช่ไหม อย่าๆๆ ดูสายตาก็รู้แล้วว่าอยากเจอเขาใจจะขาด
ไรอ่ะพี่ เธอสวยขนาดลูกพี่มานั่งเหม่อนอนเหม่ออยู่เนี่ย”
“เออสวยดิ
แล้วที่กูซึมกะทือทั้งวันอยู่เนี่ยเพราะกำลังคิดไม่ตกอยู่ว่าจะทำอะไรเพื่อสร้างความประทับใจให้เขาดี
เอาแบบให้เห็นสิ่งที่กูทำแล้วอึ้งทึ่งเสียวสุด ๆ ไปเลย ไรแบบเนี๊ยะ”
“แก้ผ้าดิ” มันสวน
“สัส กูไม่ใช่มึงนะ
ยังไม่อยากโดนตำรวจจับข้อหาอนาจาร เอาดี ๆ กูซีเรียสนะเนี่ย”
จริง ๆ
แล้ววันนี้ผมนั่งคิดยืนคิดนอนคิดทั้งวัน ความจริงไอ้คุณชายมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก
วันนั้นผมต่างหากที่ทำเกินไป คนบางคนกินไม่เป็นจริง ๆ นะอาหารบางอย่าง ทั้งที่มันจำผมได้ขนาดนั้นก็ยังจะจ้างไว้ทำงาน ถ้าเป็นคนอื่นเผลอ
ๆ ไล่ตะเพิดกลับบ้านตั้งแต่เห็นแล้ว
เพราะอย่างนั้นแหละครับ
ผมเลยอยากจะทำอะไรดี ๆ ตอบแทนให้คุณชายเขาบ้าง
“อะไรดีอ่ะ
อืมม เขาจ้างพี่ไปทำความสะอาดบ้านให้ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นพี่ก็ลอง ขัด ๆ ถู ๆ
เอาจนพื้นขึ้นเงาวาววับอะไรแบบนั้นไปเลยไหมพี่”
“ไม่เอาหรอก
แบบนั้นเกิดลื่นหัวฟาดพื้นขึ้นมากูไม่ซวยเหรอ”
“งั้นจะซื้อดอกไม้ไหมล่ะ
ซื้อดอกไม้แล้วจัดแจกันรอบห้องไปเลยเอาเป็นเดินไปทางไหนก็เจอแต่กุหลาบสีแดงแห่งรัก
ผมว่าแค่เธอเห็นขี้คร้านจะกรี๊ด ๆ ๆ ฉันชอบมาก ขอบใจปิงมากนะจ๊ะ
มามะมาเป็นของเจ๋เจ้เถอะ กร๊ากกกกก”
จบคำพูดหมาบาสไอ้กืกวุฒิแทบจะสำลักน้ำ
มันคงกำลังจินตนาการอยู่ ส่วนผม
ได้แต่ส่ายหัวอย่างระอาใจกับแนวความคิดทุเรศทุรังของไอ้หมาบาสมัน
นี่มันยังคิดอยู่อีกว่าพี่เอย์เป็นผู้หญิง โถๆถ้าเป็นอย่างที่ไอ้บาสว่าจริง
ไม่กลายเป็นว่าผมหวังสูงคิดจะเอื้อมไปโน้มกิ่งดอกฟ้าลงมาเชยชมเหรอวะเนี่ย แล้วตัวใหญ่ๆแบบนั้นผมจะกอดจะกกมันแบบไหน
“เอาดี ๆ
เอาดี ๆ ไอ้บาสมึงนี่ก็เล่นไปเรื่อย รู้จักไหมคำว่ากูจริงจัง” ผมเน้นเสียง
ละสายตาจากหมู่ดาวเพื่อปรายตามามองมันโดยเฉพาะ
“งั้นถ้าลูกพี่จริงจังกับเขาจริง
ๆ ก็ต้องนี่เลย ส้มตำแม่ตะนาวศรี ของดีของแซบ
ให้เธอได้ทานฝีมือว่าที่แม่ผัวไงพี่ กร๊ากกกความคิดผมเข้าท่าใช้ป่ะ”
ไอ้วุฒิรีบเอามือใหญ่
ๆ อุดปากมันไว้ มันดิ้น ๆ สู้กันอยู่สองคน
ขณะที่ผมรีบลุกขึ้นนั่งลูบคางอย่างใช้ความคิดขณะมองหน้าพวกมันสองตัวไปด้วย
“เออ ก็เข้าท่าดีว่ะ”
แต่ไม่ใช่ว่าคิดจะเอาส้มตำของแม่ไปฝากมันหรอกนะ
เพราะรู้อยู่แล้วว่าคุณชายเขากินส้มตำไม่เป็น
ผมมีความคิดดี
ๆ กว่านั้นอยู่
เช้าวันต่อมา
“ป้า ซื้อหมูขีดนึงดิ
ขายให้ปิงได้ไหมครับ”
“ได้จ้า
สำหรับน้องปิงสุดหล่อ ครึ่งขีดป้าแดงก็ขายให้ได้”
ป้าแดงแม่ค้าขายหมูในตลาดสด
รู้จักผมตั้งแต่ตามแม่ไปตลาดตอนเป็นเด็ก
จนถึงทุกวันนี้แซวผมยังไงก็แซวอยู่อย่างนั้น แกชอบพูดว่าผมหน้าตาน่ารักอยากได้ไปเป็นลูกเขย
น่าเสียดายลูกสาวป้าแดงไม่สเป็คผมเลยแม้แต่นิด เห็นผมเจ้าชู้แบบนี้ผมก็เลือกกินอยู่นะ #ปิงขอโทษครับป้า
“นี่จ๊ะ
แปดสิบบาท ป้าแดงแถมให้อีกครึ่งขีดนะ ปิงจะได้อิ่ม ๆ”
“ขอบคุณครับ”
ผมจ่ายแบงค์ร้อยไปแล้วรับเงินทอนมาถือไว้แน่น
ที่วันนี้ตั้งใจมาตลาดเช้าไม่ใช่อะไรหรอกครับ
จะมาซื้อของสดไปทำอาหารให้คุณชายเธอรับประทาน
ก็เรื่องที่ผมปรึกษากับพวกไอ้บาสไอ้วุฒินั่นแหละ อยากจะสร้างความประทับใจและหวังจะขอบคุณและขอโทษไปทีเดียวในตัว
เห็นว่าวันก่อนได้ค่าจ้างมาตั้งพันนึงหรอกนะ อุตส่าห์เจียดมาตั้งสองร้อยกะว่าจะทำอาหารสักสองอย่างให้คุณชายเขากิน
โถ่เอ้ยอย่ามาติดใจฝีมือผมแล้วขอให้ทำอีกก็แล้วกัน
ผมซื้อผักกับของสดอีกนิดหน่อยก่อนจะเดินกลับไปที่รถ
เห็นชุดผ้ากันเปื้อนถูก ๆ ยี่สิบเก้าบาทขายอยู่ที่รถเข็น มองเงินทอนที่ตัวเองกำไว้
งบประมาณสองร้อยตอนนี้เหลือยู่แค่สี่สิบบาท ยังไงซะผมก็ตั้งใจจะใช้เพื่อคุณชายเขาทั้งหมดอยู่แล้วเพราะอย่างนั้นผมจึงเดินไปซื้อชุดกันเปื้อนนั้นอย่างไม่ลังเล
“น้องเอาลายไหนคะเลือกเลย”
แม่ค้าเขาถาม
“อันไหนก็ได้ครับพี่”
ผมตอบเธอไปไม่เรื่องมากหรอกลายไหนก็ใส่ได้ไม่มีปัญหาเพราะผมใส่เพื่อความสะอาดแค่นั้น
คราวนี้แหละคุณชายคงพอใจแน่ เห็นมันย้ำนักย้ำหนาชอบสะอาด ๆ
ผมจะทำอาหารให้กินทั้งทีต้องสวมใส่รัดกุมถูกต้องที่สุดแล้ว
เมื่อยื่นเงินให้
พี่เขาก็ทอนมา เหลือ สิบเอ็ดบาท
สายตาผมเห็นหมวกคลุมผมสำหรับทำอาหารที่เข้าชุดกันวางอยู่จึงลองถามพี่เขาเพิ่มอีก
“ยี่สิบเก้าเหมือนกันจ๊ะ”
เธอบอกราคามา แต่นั่นมันเกินงบประมาณไปหน่อยผมจึงแจกยิ้มหวานไปที แล้วบอกไม่เอา พร้อมนึกอะไรเด็ด
ๆได้อย่าง วันก่อนกลับบ้านแม่ให้ไปซื้อหมวกคลุมผมอาบน้ำที่ร้านอาแปะขายโชว์ห่วยข้างบ้าน
ราคาสิบบาท เป๊ะ!
ผมรีบกวาดตามองหาร้านแบบนั้นแล้วตรงดิ่งเข้าไปถามซื้อทันที
“ลื้อเอาสีอาราย”
เป็นอาซิ้มแก่ ๆ ถามขึ้น
“สีอะไรก็ได้ครับ”
“งั้นเอาสีนี้แล้วกัง
สกใสลี สีแลง ๆ สกใสเหมืองๆลื้อ” ซิ้มครับผมอยากรู้ว่าซิ้มมาอยู่เมืองไทยกี่ปีแล้ว
TT
ตอนนี้ผมจึงได้หมวกคลุมผมอาบน้ำมาไว้ในมือเรียบร้อย
เดินออกมาจวนจะถึงรถมอไซด์ เห็นขอทานน่าสงสารนั่งอยู่ผมเลยหยอดเหรียญหนึ่งบาทจากงบประมาณที่ผมตั้งไว้เองใส่ให้
พร้อมอธิฐานขอพรให้คุณชายเอย์ตั้นประหนึ่งใส่ซองห้าร้อยบาททำบุญไม่ขาดไม่เกิน
เช้า ๆ แบบนี้ที่คอนโดหรู ๆ นี่มันเงียบฉี่ดีจริง ๆ พวกคนรวยมักตื่นสาย ไม่รู้ใครเคยบอกผมไว้ น่าจะเป็นหมาบาสเรื่องไม่ดีผมจะยกให้มันไปก่อน ฮิฮิ ลิฟต์ที่ใช้ไม่รู้นะว่ามันลิฟต์ส่วนตัวหรือเปล่า แต่ผมไม่เคยเห็นมีใครมาใช้ลิฟต์ตัวนี้พร้อมผมสักครั้ง มองดูที่ตัวเลขเปลี่ยนชั้นไปเรื่อย ๆ ผิวปากฮัมเพลง ผมอารมณ์ดีเป็นพิเศษนะ อากาศวันนี้ไม่ค่อยมีแดดซะด้วย ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเจ็ดโมงตรงเป๊ะป่านนี้จ้างให้คุณชายก็ยังไม่เสด็จออกจากเตียงหรอก ดีแล้วสาธุอย่าเพิ่งตื่นมาเสียล่ะเดี๋ยวกิจกรรมเซอไพรซ์สร้างความประทับใจจะไม่เกิดผล
ติ๊ด
ผมทาบการ์ดผ่านเข้ามาแล้วเรียบร้อย ห้องเย็นเฉียบเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่มืดมากไปหน่อย ลองย่อง ๆ ไปแถว ๆ หน้าห้องนอนใหญ่แนบหูเข้าที่หน้าประตู อึ๋ยยประตูเย็นเฉียบอ่ะ ขณะที่เสียงทุกอย่างเงียบฉี่ ผมยิ้มกว้างสิครับแน่ใจแล้วว่าคุณเจ้าของห้องเขานอนหลับอยู่ในนั้นแน่ ๆ รีบเดินเอาถุงของสดต่าง ๆ ที่ซื้อไปวางไว้ที่โต๊ะในครัว รูดม่านรับแสงยามเช้าแทนที่จะใช้แสงของนีออน วิวแม่น้ำเจ้าพระยาตอนเช้า ๆ แบบนี้ก็สวยดีเหมือนกันนะ ถึงจะสูงไปนิดมองเห็นเรือเหลือลำนิดเดียวก็เถอะ ผมแกะเอาชุดกันเปื้อนรวมถึงหมวกคลุมผมที่ซื้อ ขึ้นมาสวมไว้ อมยิ้มนิดหน่อยเพราะคิดว่าถ้าคุณชายเขาตื่นมา แล้วเห็นว่าผมใส่ใจเรื่องความสะอาดจะต้องประทับใจผมมากแน่ ๆ
คราวนี้ลองมาโฟกัสที่เครื่องครัวกันบ้าง ผมกวาดตามองโซนครัวดี ๆ อีกครั้ง ทำไมมันถึงได้หรูหราอลังการแบบนี้ เมียงๆมอง ๆ หามีดหาเขียง จานชามหม้อไหกระทะ รวมไปถึงเตาแก๊ส ให้ตาย! มันไปซ่อนตัวอยู่แถวไหนกันวะเนี่ย คือมันดูรู้นะว่าเป็นครัวแต่ทำไมผมหาอะไรไม่เห็นเลย ลองเปิด ๆ ส่อง ๆ เดี๋ยวนะ ลิ้นชักนี้มีช้อน มีด ส้อม ตะหลิวรวมถึงทัพพีต่าง ๆ ส่วนตู้นี้มีจานมีถ้วยมีแก้ว แล้วตู้นี้ล่ะ อ้อ เห็นละ เขียงพลาสติกอยู่นี่เอง ผมรีบคว้า ๆ เอาอุปกรณ์ที่จำเป็นออกมา
หม้อล่ะหม้อ? เปิด ๆ ปิด ๆ หาสุดฤทธิ์ มีหม้อสวย ๆ อยู่สองสามใบในล็อคเกอร์ชั้นบน มันนอนเงียบเรียบร้อยท่าทางเหมือนไม่เคยถูกใช้มาก่อนเลยนี่ ผมเอื้อมไปหยิบออกมาใบหนึ่งเล็ก ๆ มีกระทะแปลก ๆ แบน ๆวางอยู่ใกล้กัน อืม เอาไงดีมันจะทอดอะไรแบบไหนวะเนี่ย วู้ว พวกคนรวยนี่ของใช้มันแปลกประหลาดทั้งนั้นเลยวะ สุดท้ายผมยังงงๆอยู่กับเตาแก๊ส ไอ้สิ่งที่วางอยู่บนเคาเตอร์มันก็น่าจะใช่ แต่ทำไมมันไม่เหมือนของที่บ้านผมอ่ะ ผมก้ม ๆ เปิดตู้ด้านล้างมันไปทุกส่วนทุกซอก แอร๊~ ไม่มีถังแก๊ส ให้ตาย! แล้วไอ้ที่วางอยู่นี่คือมันต้องทำยังไง
ขณะที่ผมเริ่มซีเรียส ทางเลือกสุดท้ายที่ผมพึ่งก็คือมือถือกาก ๆ ของผมเอง ใช้มันเป็นตัวช่วยเสิร์ชหาวิธีใช้ไอ้เจ้าเครื่องแปลก ๆ นี่ ลองทำตามที่เขาบอกนิด ๆ หน่อย ๆ ถึงได้เข้าใจว่าไอ้นี่มันคือเตาไฟฟ้า ผมเริ่มอารมณ์ดีอีกครั้ง เพราะตอนนี้เครื่องใช้ทุกอย่างมีครบ จัดแจงเอาหมูเอาไก่มาล้าง วางเขียงพลาสติกไว้เตรียม สับหมู!
ใช่แล้วครับ สิ่งที่ผมจะทำให้คุณชายเธอรับประทานในวันนี้ก็คือ ลาบหมู กับ เอ็นไก่ชุบแป้งทอด ผมไม่ทำอาหารแบบลาว ๆ หรอกเพราะรู้ว่าคุณชายเธอรับประทานไม่เป็น ผมสืบมาแล้ว ลาบหมูกับเอ็นไก่ทอดเนี่ยมันอาหารไทยครับ ลองโทรถามพวกไอ้บาสไอ้วุฒิ มันก็บอกนะว่า ‘ไทย’ พวกมันนั่นแหละที่แนะนำกับผม มันบอกอย่างเวลาบ้านไหนมีงานรื่นเริงมงคลใช่ไหมก็ต้องมีลาบหมูไว้เสริมสิริมงคล ว่ากันว่าจะได้โชคได้ลาภ ขนาดข้างบ้านผมตอนย้ายมาอยู่ใหม่ ๆ ทำบุญขึ้นบ้านเขายังมีลาบหมูเป็นอาหารหลักเลย ครั้งนี้ผมได้งานใหม่ผมก็อยากจะทำลาบหมูไว้ให้เจ้านายกินเพื่อเป็นสิริมงคลบ้างไรบ้าง
รับรอง! ครั้งนี้คุณชายประทับใจผมมิรู้ลืมแน่นอน คึคึ
ป๊อกๆๆ ๆๆ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
♪ ♫ ♩ ♬ ♬。 ♫ ♫ ~ ♬ ♫ ~ ♬ ♪ ♩ มันแน่นอก (Yeh!) ก็ยกออก (Yeh!) ให้แบกเอาไว้ นานไป เดี๋ยวใจถลอก ♪ ♫ ♩ ♬ ♬。 ♫ ♫
ตอนนี้ผมอารมณ์ดีม๊ากมาก
กำลังสับหมูเตรียมทำอาหารไทย ๆ พร้อมฮัมเพลงลูกทุ่งยอดฮิต กับส่ายสะโพกนิด ๆ ประหนึ่งว่าห้องครัวหรูหรานี้เป็นของผมเอง คุณพี่เอย์คงกำลังนอนหลับใหลอยู่ที่เตียงนอนนุ่มนิ่มอย่างมีความสุข
ผมยังไม่อยากให้ตื่นขึ้นมาตอนนี้หรอกนะครับเพราะอาหารยังไม่เสร็จ ตะกี้ผมเพิ่งจะหาหม้อหุงข้าวเจอ ดีนะมีข้าวสารติดไว้อยู่ในตู้ตอนแรกผมตกใจเกือบตายนึกได้ว่าลืมซื้อข้าวมาด้วย
แต่ตอนนี้คือทุกอย่างโอเค ผมจะเตรียมอาหารพร้อมข้าวสวยร้อน
ๆ วางไว้รอคุณชายเขาตื่น ถ้าเห็นว่าผมใส่ใจดูแลขนาดนี้มีหรือจะไม่นึกขอบคุณผมสักครั้งโดยเฉพาะผมนี่ใส่ใจความสะอาดมากนะครับชุดกันเปื้อนกับหมวกคลุมผมที่ดัดแปลงมาจากหมวกอาบน้ำคงจะทำให้มันรู้สึกได้ว่าผมสะอาดสะอ้านใส่ใจกับอาหารของมันที่สุดแล้ว ครั้งนี้จะต้องทำให้คุณชายประทับใจให้ได้
อย่างน้อย ๆ เขาก็ไว้ใจให้ผมเข้านอกออกในได้ละกัน ถือซะว่าเป็นการขอบคุณ ผมแถมโปรโมชั่นทำอาหารเช้าให้ทานฟรี
ๆ ไม่คิดค่าแรงเพิ่ม
ป๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
♪ ♫ ♩ ♬ ♬。 ♫ ♫ ~ ♬ ♫ ~ ♬ ♪ ♩ มันแน่นอก (Yeh!) ต้องยกออก (Yeh!) เรื่องใหญ่อย่างงี้ บังยังไง ก็ยิ่งกระฉอก ♪ ♫ ♩ ♬ ♬。 ♫ ♫ ~ ♬ ♫ ~ ♬ ♪ ♩ เช็คเรตติ้งหน่อย baby ถ้าไม่เฟิร์มนะ honey เช็ดแล้วทิ้งเลย baby ♪ ♫
ผมยังคงร้องเพลงอย่างต่อเนื่อง
อารมณ์ดีเป็นบ้าเลย สับหมูไปร้องเพลงไปชมวิวริมน้ำเจ้าพระยาในมุมสูง ๆ แบบนี้ แอร๊ ~ ~
“เสียงอะไรวะแม่ง!!!”
และแล้วน้ำเสียงดับความสุขผมก็มา ทั้งเสียงทั้งตัวคุณชายเจ้าของห้องพรวดพราดหน้าง้ำหัวยุ่งออกมาจากห้องนอนทั้งที่ตายังไม่ลืมดี
ทำเอาผมถึงกับชะงัก ค่อย ๆ หุบยิ้มลงทีละน้อย มันยืนมองผมขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีกเหมือนคนพยายามมองให้ชัด
ขณะในมือผมยังถือมีดสับหมูค้างอยู่กลางอากาศแล้วจ้องหน้ามันกลับ
“คะ...คุ...คุณพี่เอย์ ตื่นแล้วเหรอครับ”
ผมถามเสียงตะกุกตะกัก หน้าตาคงคล้ายคนกำลังทำความผิดอะไรสักอย่างแล้วมันจับได้ โทษฐานใช้ห้องครัวเขาโดยยังไม่ได้ขออนุญาต
ใครจะรู้ว่าจะตื่นเร็วขนาดนี้ ส่วนคุณชาย จากตอนแรกที่เดินพรวดพราดตรงเข้ามาราวกับกำลังจะมาเอาเรื่องผมยังไงยังงั้น
กลับชะงักค้างเติ่งอยู่แค่ที่หน้าโต๊ะกินข้าวแล้วจ้องมองผมเขม็ง สายตามันเหมือนกำลังตกตะลึงอะไรบางอย่าง
มันมองผมอยู่ครู่หนึ่ง
ขณะที่ผมเม้มปากกำมีดสับหมูแน่น หรี่ตาหรี่หูรอฟังเสียงด่า
เพราะว่าผมคงจะสับหมูเสียงดังไปหน่อยแน่ ๆ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆกร๊ากกกก
โอ๊ยยยยยย กูขำ
ไอ้ปึงมึงแต่งตัวอะไรของมึงเนี่ยบ้ารึเปล่า โอ๊ยยยยยย กูตลก โอ๊ยยช่วยกูด้วย
อย่างฮา มึงๆ โอ๊ยยยยย กูขำมาก”
พี่เอย์หัวเราะจนตัวงอขณะที่ใช้สองมือกุมท้องแทบจะกลิ้งลงไปที่พื้นอยู่รอมมะร่อ
หน้านี่แดงเห่อไปหมดลามไปจนถึงคอและหู ขณะที่ผมกำลังคิดว่ามันขำผมเรื่องอะไรนักหนา
ก้มมองดูตัวเองอีกทีผมก็แค่ใส่เสื้อยืดคอกลมกับกางเกงห้าส่วนจั๊มขาแบบเดิม
แต่วันนี้มีผ้ากันเปื้อนลูกทุ่ง ๆ สีเขียวสดลายลูกหมีกับหมวกคลุมผมอาบน้ำสีแดงรูปหัวใจ
แล้วมันตลกตรงไหน?
ผมใส่เพื่อเน้นความสะอาดไม่ได้ใส่ให้มันดูสวยงามอะไรสักหน่อย
“ไอ้ปิง นี่มึงสติดีอยู่รึเปล่าวะ
โอ๊ยกูขำ 5555555555”
“ขำไรกันเล่า
คนเขาอุตส่าห์ตั้งใจตื่นแต่เช้าไปตลาดเพื่อมาทำอะไรดี ๆ ให้”
มันยังหัวเราะไม่หยุด
หรือมันหยุดลงไม่ได้ก็ไม่รู้ พอได้ยินผมพูดแบบนั้นเลยเดินเข้ามาดูใกล้
ๆ ชะโงกหน้ามามองสิ่งที่วางเรียง ๆ กันอยู่ที่โต๊ะ
ตายๆนี่มันจะว่ารกอีกรึเปล่าเพราะผมยังทำไม่เสร็จ ข้าวของมันเลยรกมากเป็นธรรมดา
“นี่มึงกำลังทำอะไรเนี่ย”
มันถามด้วยหน้าตาสงสัยสุด
“ผมกำลังทำอาหารให้พี่ทานไง
ตอบแทนน่ะตอบแทน แล้วก็ไถ่โทษเรื่องที่ผมแกล้งพี่ตอนนั้นด้วย”
“ออฟชั่นเสริมของมึงรึไง”
“เฉพาะช่วงนี้เท่านั้นแหละ”
ผมสวนไปทันที คิดว่าผมจะทำให้กินทุกวันเหรอ แบบนั้นต้องจ้างเพิ่มสิครับพี่
ค่าฝีมือผมน่ะคิดเป็นนาทีเลยนะ
“แล้วมึงทำอะไรเนี่ย
อาหารอะไรทำไมท่าทางมันดิบ ๆ แบบนี้ สกปรกรึเปล่า”
“ยัง! ยังไม่เสร็จเลยนี่แค่กำลังสับหมูอยู่ วู๊ว
คำก็สกปรกสองคำก็สกปรก ไว้รอกินตอนมันเสร็จแล้วดิ อย่ามากรี๊ดๆ ขอเติมอีกก็แล้วกัน”
“มึงว่าอะไรนะ
อะไรกรี๊ด ๆ พูดอะไรเบา ๆ”
“เปล่า ผมว่าพี่ไปอาบน้ำอาบท่าดีกว่า
เดี๋ยวออกมาได้กินเลย รับรองมือนี้เด็ดอร่อยสุด”
“แล้วทำไมวันนั้นหยิบเงินไปแค่นั้น
กูบอกยกให้มึงทั้งหมด มึงไม่ได้ฟัง? ตั้งใจขัดคำสั่งกูใช่ไหม”
“เปล่า
แต่ผมคิดค่าจ้างแค่ใบเดียวนั่นแหละ นี่ผมยังเจียดเอามาทำอาหารให้พี่ทานได้ด้วยนะ
เห็นไหมว่าผมเป็นเด็กดีช่วยนายจ้างประหยัดเงินมากขนาดไหน พี่น่ะก็ประหยัด ๆ
ไว้บ้างเถอะยังเรียนอยู่เลยไม่ใช่เหรอทำไมใช้เงินเกินตัวนักล่ะ”
“นี่มึงกล้ามาสอนกูเหรอ”
“ไม่กล้าหรอกครับ
ใครจะกล้าล่ะ ผมก็พูดไร้สาระไปเรื่อยแหละคุณพี่เอย์อย่าใส่ใจเลยนะครับ”
มันชี้หน้าผมอย่างคาดโทษคงรู้ว่าเมื่อกี้ผมแกล้งประชดอะไรมันเบา
ๆ แหละ ว่าแล้วก็เดินหันหลังกลับไป จู่ ๆ ไม่รู้ทำไมมันหยุดแล้วหันกลับมาหาผมอีกครั้ง
คนกำลังจะสับหมูต่อเลยต้องชะงักกันอีก
“เอ๊ะ หรือว่ามึงกำลังทำอาหารลาว
ๆ อะไรนั่นอีก แบบที่ร้านมึงวันนั้นเหรอ ไอ้แกงอะไรดำ ๆ เหม็น ๆ นั่น”
“ไม่ใช่ครับพี่
ปัดโธ่ ผมรู้น่าพี่ไม่กินอาหารลาว ๆ รับรองได้นี่ไทยแท้” เดี๋ยวออกมาพิสูจน์นะจ๊ะ
ที่รักเข้าไปอาบน้ำได้เลย ผมนึกคำพูดต่อประโยคขำ ๆ อยู่ในใจ จะว่าไปไอ้คุณชายเอย์นี่หน้าตามันหล่อเหลามากจริงแหละขนาดเพิ่งตื่นหัวยุ่ง
ๆ ฟันยังไม่แปรงหน้ายังไม่ล้างก็ยังดูมาดผู้ดีขนาดนี้ หรือเป็นเพราะรูปร่างผิวพรรณมันดีก็ไม่รู้นะ
ผมใช้เวลาหลังจากนั้นประมาณสิบห้านาที
พี่เอย์อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามานั่งรอแล้วเรียบร้อย พอเริ่มทอดของบางอย่างควันนี่โขมงโฉงเฉงเต็มห้อง
มันรีบลุกขึ้นมาดูหน้าตาเหรอหรา
“ทำไรของมึง
ทำไมไม่เปิดเครื่องดูดควัน”
“ผมจะไปรู้เหรอ”
มันรีบเข้ามาเปิดสวิทเครื่องดูดควันที่อยู่ด้านบนเตาแก๊สให้ทำงาน
ผมรีบหรี่ตารอรับฟังคำด่าของมันอีกครั้ง ตาย ๆ
ใครจะไปรู้ว่ามันมีไอ้เครื่องแบบนี้ด้วยผมก็ลืมไปว่าห้องมันทั้งห้องแทบจะหาหน้าต่างไม่เจอเลย
ถ้าไม่มีไอ้เครื่องดูดควันผมกับมันวันนี้ได้จมอยู่ในควันตายแน่
“เสร็จรึยังล่ะเนี่ย
กูว่ามึงไม่ต้องลำบากดีกว่ามั้ง กูจ้างมาทำความสะอาดห้องนะ ถึงคิดจะแถมออฟชั่นเสริมเป็นอาหารดี
ๆ ก็ไม่น่าให้กูต้องมานั่งลำบากรอกินเลยนี่หว่า”
“เสร็จแล้วครับเสร็จแล้ว”
ผมรีบใช้ตะแกรงตักเอ็นไก่ชุบแป้งทอดขึ้นมาจากกระทะ แล้วยื่นส่งให้มัน
“อ่ะ
นี่เสร็จแล้วอย่างนึง ต่อไปเหลืออีกอย่างผมทำแปปเดียวเสร็จ เชิญคุณพี่เอย์นั่งรอได้เลยครับ”
มันมองเอ็นไก่ในจานครู่หนึ่งก่อนหยิบขึ้นมาดม
ๆ ทำท่าจะชิมแต่ก็วางลงไป “อะไร? แปลก ๆ
กินได้แน่เหรอ”
“ได้สิครับ
นั่นน่ะกินกับไอ้ที่ผมกำลังทำอยู่นี่ถึงจะอร่อย”
ผมเริ่มตั้งหม้อเพื่อคั่วลาบ
ต้องเอาสุกมากหน่อยเพราะคุณชายเขาเป็นคนอนามัยจัด
เทข้าวคั่วพริกผงใส่น้ำปลาบีบมะนาวแล้วเติมต้นหอมซอยลงไป
“ยี้เหม็น! ปิงมึงทำอะไรอีก ทำไมกลิ่นมันถึงแรงขนาดนี้”
“แป็บเดียวครับแป็บเดียว
เสร็จแล้ว ๆไอ้ปิงบริการพร้อมเสิร์ฟ” ผมรีบตักขึ้นมาแล้วเอาหม้อเอาไหไปแช่น้ำ
กลิ่นเครื่องปรุงที่ใช้ทำลาบมันก็แรงแบบนี้แหละ แต่เดี๋ยวตอนมันกินลงไปอาจจะชอบก็ได้ใครจะไปรู้
“นี่คืออะไร”
มันชะโงกหน้าเข้ามาดูใกล้ ๆ จานลาบหมูวางอยู่บนโต๊ะแล้วเรียบร้อย ผมว่าหอมดีออกทำไมมันต้องย่นจมูกโด่ง ๆ
ของมันด้วยนะ
“ลาบหมูไงครับ”
“อะไรคือลาบหมู”
สมแล้วที่เป็นคุณชาย ผมคาดเดาไว้ไม่ผิดจริง ๆ แอบ ๆ คิดอยู่นะว่ามันอาจจะไม่เคยกิน
“ลาบหมูก็คืออาหารไทยอย่างนึงแหละ
ส่วนนั่นคือเอ็นไก่ชุบแป้งทอด อาหารไทยเหมือนกัน”
ผมตักข้าวสวยร้อน
ๆ วางไว้ให้
ยืนรอดูว่ามันจะเลือกตักกินอะไรก่อน คุณชายเขาถือช้อนส้อมค้างอยู่นาน เหมือนตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะเลือกกินจานไหนก่อน
ครู่หนึ่งผ่านไป มันเงยหน้ามองมาที่ผมอย่างไม่รู้ความหมาย ผม...ผู้ซึ่งยังใส่ชุดกันเปื้อนและหมวกคลุมอาบน้ำสีสดใสนั่นอยู่
“วันนี้มึงต้องรีบกลับรึเปล่า”
“ก็ไม่ได้ไปไหนนะครับ
นอกจากไปช่วยแม่ที่ร้าน” ปกติวันอาทิตย์ผมก็ว่างนะ
“ไปซื้อของกับกูหน่อย
เดี๋ยวจ่ายค่าล่วงเวลาเพิ่ม”
“ได้เลยครับผม”
ผมรับคำด้วยความเต็มใจเมื่อมันพูดถึงสิ่งล่อใจที่ท้ายประโยค
ว่าแต่จนป่านนี้มันยังไม่ยอมกินสิ่งที่ผมทำเลยสักคำ ผมเริ่มใจเสีย ทำไมกันวะ
กับข้าวออกจะหอม ถ้าไม่กินเสียดายแย่นะ
และในที่สุดมันก็ลุกขึ้น
หันหลังเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำออกมาขวดนึง
จะว่าไปเมื่อกี้ผมลืมหาน้ำเตรียมไว้ให้มันนี่นา บ้าจริง ๆ
อุตส่าห์จะทำให้ประทับใจ
“ละ..แล้วทำไมพี่ไม่กิน
ผมตั้งใจทำให้นะ มันอาหารไทยจริง ๆ ไม่ใช่อาหารลาวหรอกพี่เอย์ทานได้นะครับ
ไอ้ปิงคนนี้รับรองความอร่อย”
“เดี๋ยวกูเข้าไปเปลี่ยนเสื้อ
มึงเก็บกวาดของที่มึงรื้อไว้ให้เรียบร้อย
เราจะออกไปซื้อของกัน”
“แล้ว พี่...คือ
พี่เอย์ไม่กินเหรอครับ” ผมเสียใจนิดหน่อยนะ อุตส่าห์ทำ
“ไม่อ่ะ กูกินไม่เป็นจริง ๆ ว่ะ โทษที”
มันว่าแล้วเดินเข้าห้องไป
ผมยืนมองอาหารที่ตัวเองทำด้วยอารมณ์แบบไหนน่ะเหรอครับ ตอนนี้แค่อยากเอาปี๊ปมารองน้ำตามาก อ๊ะ!ล้อเล่น
ก็แค่อยากมีถุงพลาสติกสักสองสามใบ เพราะผมจะได้ห่อกลับไปให้พวกไอ้บาสกับไอ้วุฒิมันกินกัน
ก็เพราะพวกมันนั่นแหละเสนอว่าต้องเป็นลาบหมูกับเอ็นไก่ทอด
รับรองประทับใจไม่รู้ลืมแน่
ที่นี้เป็นไงล่ะ คำเดียวเขายังไม่ยอมแตะของผมเลย
ประทับใจแบบโคตรๆเลยพวกมึง!
“ไปกันได้แล้ว”
พี่เอย์เดินออกมาจากด้านใน
เนื้อตัวหอมฉุยกับเสื้อผ้าที่แสนจะธรรมดาแต่เวลามันใส่แล้วทำไมถึงดูผู้ดีขึ้นมาก็ไม่รู้
ข้อมือขาว ๆ
ถูกสวมลงไปด้วยนาฬิกาเรือนทองที่คาดว่าคงเรือนละหลายตังค์เอาการอยู่
ประมาณว่าเงินเก็บผมทั้งหมดรวมกับรถมอไซด์หนึ่งคันและแมคอีกหนึ่งเครื่องก็ยังซื้อไม่ได้เอาแค่นั้นก็พอ
ผมมองสำรวจมันตั้งแต่หัวจรดเท้าประหนึ่งมองเรือนร่างของผู้หญิงสวย
ๆ คนหนึ่ง
“เป็นอะไร” มันหันมาถาม
ตอนนี้เราอยู่กันในลิฟต์
“พี่ดูหล่อจัง”
“ไอ้เหี้ย นี่มึงชมกูเหรอ” เขินแล้วพูดจาไม่น่ารักเล้ยคนเรา
ผมสอดมือเข้าในกระเป๋ากางเกง ผิวปากแสร้งดูตัวเลขเปลี่ยนชั้นไปเรื่อย
“ผมก็พูดไปตามความจริงที่เห็นแหละ
ว่าแต่....ผมใส่ชุดนี้ไปกับพี่ได้เหรอ”
“มึงจะใส่ชุดไหนก็ไปได้ทั้งนั้นล่ะ
หรือว่าห้างเขามีป้ายบอกไว้ว่าห้ามใส่กางเกงห้าส่วนกับเสื้อยืดถูก ๆ ไป” ไม่กัดผมสักวันนี่จะขาดใจตายไหมครับพี่ เน้นจังนะไอ้คำว่า
‘ถูกๆ’ เนี่ย
“ไม่ใช่แบบนั้น
แล้วพี่จะพาผมไปไหนอ่ะ”
“ซื้อของ”
“ของอะไร
ผมถามได้รึเปล่า”
“จิ๊”
มันทำเสียงจิ๊จ๊ะในคอ เหมือนคนไม่อยากให้ถามเรื่องมาก ผมก็แค่อยากรู้นี่ ไม่บอกก็ไม่บอกสิ
ทำท่าทางรำคาญผมทำไมยิ่งนอยด์ๆเรื่องที่มันไม่ยอมกินอาหารที่ผมทำอยู่
ในที่สุดผมก็เดินตามมันมาถึงรถบีเอ็มสีขาวแสนสวยคันโก้ “เดี๋ยวไปถึงมึงก็รู้เอง เลือกเอาดี ๆ ล่ะ
แล้วก็จำไว้ด้วยว่าต่อไปให้ทำในสิ่งที่กูซื้อให้วันนี้ นอกเหนือจากนี้ไม่จำเป็นต้องทำ
เพราะกูกินไม่เป็น”
หืมมม??
“พี่จะพาผมไปซื้ออาหารมาไว้ทำเหรอ”
“จิ๊”
มันจิ๊ปากเบา ๆ อีกครั้งก่อนเปิดรถแล้วพยักหน้าให้ผมขึ้นไปนั่งข้าง ๆ ไม่ตื่นเต้นหรอกนะผมเรียนช่างยนต์โรงเรียนผมมีคาร์แคร์และอู่ใหญ่สำหรับฝึกงานเพราะฉะนั้นรถหรู
ๆ ยิ่งกว่าบีเอ็มผมก็เคยขับมาแล้ว แต่ก็แค่ถอยเข้าถอยออกนั่นล่ะครับ ฮ่าๆ
ขับรถแปปเดียวก็มาถึงห้างหรูหราที่เหล่าคนรวย
ๆ ชอบมาเดินกัน มันตรงไปที่ลิฟต์ทันที ผมรีบเดินตามแต่ทิ้งห่างมากหน่อย
ไม่อยากถูกคนเปรียบเทียบนักหรอก ก็แหม่...เล่นแต่งตัวมาคนละเรื่องกับผมเลยนี่นา
ตอนนี้มันกับผมเหมือนคนไม่ได้มาด้วยกันนั่นแหละ
“เอาไป”
“อะไรอ่ะ”
มันยัดหนังสือตำราอาหารไทยกับอาหารฝรั่งอย่างละเล่มหนา
ๆ ประหนึ่งบรรณานุกรมอะไรสักอย่างใส่มือผม
“มึงอยากทำอาหารให้กูกินนักไม่ใช่เหรอ
ต่อไปก็ทำเมนูพวกนี้ นอกเหนือจากนั้นไม่ต้อง กูกินอะไรแปลก ๆ
ไม่ค่อยเป็น”
ตอนนี้ผมกำลังอึ้งแดกเลยครับ
ทั้งหมดทั้งปวงไม่ใช่อะไรหรอนะก็แค่กำลังคิดว่าคุณชายเขาคิดได้ยังไงว่าผมอยากจะทำอาหารให้เขากินเรื่อย
ๆ ต่อไปอะไรแบบนั้น คือจริง ๆ
พวกคุณรู้ใช่ไหมที่ผมทำวันนี้ก็เพราะตั้งใจจะสร้างความประทับใจ ขอบคุณและขอโทษ คือทำเนื่องในโอกาสพิเศษไม่ได้หมายความว่าผมจะต้องทำอาหารไว้ให้มันกินทุกวันสักหน่อยนี่
นี่มันกำลังเข้าใจผิดผมอยู่นะ
จะทำยังไงดี ผมทำเป็นแต่อาหารบ้าน ๆ ลูกทุ่ง ๆ
แล้วตำราที่มันยัดใส่มือผมนี่มันตำราอาหารฝรั่งทั้งดุ้นเลย อีกเล่มเป็นตำราไทยก็จริงแต่พวกแกงกระทิผมจะทำเป็นงั้นเหรอ
พระเจ้า! นี่ผมจะ....
“ต่อไปมึงต้องทำอาหารไว้ให้กูทุกครั้งที่มา
ไหน ๆ มึงก็ชอบ มีแก่ใจที่จะทำของให้กูกิน ”
“ผมนี่นะ”
“ใช่! กินข้าวบ้านก็ดีเหมือนกัน กูฝากท้องกับร้านอาหารมาสองสามปีแล้ว
ถ้ามึงหัดทำอาหารให้ได้อย่างในเล่มนี้นะ กูจะ......”
“จ่ายเพิ่มป่ะล่ะ”
ผมสวนขึ้นทันที มันหันขวับมามองหน้าทันควันเลยเหมือนกัน ผมกำลังจะตีคิ้วใส่นึกขึ้นได้ก่อนพอดีว่าไม่ควร
เลยรีบเอามือแกล้งเกาคิ้วเบา ๆ แล้วทำหน้าเหมือนคนเป็นชักกระตุก
มันมองผมด้วยสีหน้าสงสัยเต็มที คงคิดว่าจู่ ๆ ผมเป็นอะไรขึ้นมา
“มึงเป็นอะไร
ทำหน้าทำตา ประสาทดีรึเปล่าเนี่ย”
“ตอบก่อนดิ่ จะจ่ายเพิ่มป่ะ”
“ไอ้งก! กูกำลังจะพูดว่าจะพิจารณาโบนัสให้ มึงแทรกขึ้นมาก่อนทำไมล่ะ”
“ด้วยความเต็มใจครับผม กระผมขอโบนัสเป็นรายเดือนและกระผมจะตั้งใจเรียนรู้และทำสารพัดเมนูในเล่มนี้ให้คุณพี่เอย์รับประทานอย่างสุดความสามารถ”
ผมยัดตำราสองเล่มส่งคืนให้มัน
ส่งยิ้มให้ทีแล้วเดินไปยืนล้วงกระเป๋ารออยู่ด้านนอกเพื่อรอมันไปจ่างตังค์ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว รับปากไปงั้นแหละอาหารแปลก
ๆ ผมทำเป็นซะที่ไหน เดี๋ยวจะลองตะล่อม ๆ ไปเรื่อย ๆ สักวันหนึ่ง
คุณชายเอย์ตั้นผู้หรูหราอาจจะหันมาชอบส้มตำลาบหมูก็เป็นได้ใครจะไปรู้วะ
“เดี๋ยวแวะซื้อข้าว.......
มันเดินออกมาแล้ว
กำลังจะพูดอะไรต่อแต่ก็ต้องหยุดชะงักไว้แค่นั้นเมื่อโทรศัพท์มือถือของมันดังขึ้นมาเสียก่อน
“ครับ”
เสียงมันรับสาย ทางนั้นคงพูดอะไรมาสักอย่าง
“เดี๋ยวเอย์ไปรับ ไม่เกินสามสิบนาทีเจอกันครับ”
ถุงหนังสือหนัก
ๆ ถูกยัดส่งมาที่ผม “เดี๋ยวกูจะไปรับเด็กมากินข้าว วันนี้มึงกลับเย็นหน่อยเดี๋ยวจ่ายล่วงเวลาให้
อยู่ช่วยถือของให้กูด้วยรายนี้ท่าทางจะช็อปหนัก”
“เด็กแค่ไหนอ่ะพี่
เด็กสามขวบรึเปล่าผมเล่นเป็นเพื่อนได้นะ
ผมชอบเด็ก โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง”
พูดจบผมรีบเผ่นเลยสิครับจะยืนอยู่ให้โดนตีนคุณชายแกเหรอ
Tbc.