Saturday, May 17, 2014

S.W.A.T - D (หน่วยสืบคดีโหด) *Yaoi * ตอนที่ 28 งานและรัก




# 28 งานและรัก



ปัดโถ่โว๊ย!” 


ซาโต้สบถลั่น   หลังถูกหมาน้อยหน้าตาน่ารักวิ่งตัดหน้ารถ ทำให้เขาเสียหลักลงข้างทางไม่เป็นท่า ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก พอตั้งหลักได้เขาก็พยุงรถที่ล้มเมื่อสักครู่ขึ้นตั้ง  เจ้าหมาตัวต้นเหตุยืนลิ้นห้อยมองดูเขาอยู่ไม่ไกล ซาโต้ใช้หางตาชำเลืองมองมันแวบหนึ่ง ขณะตัดสินใจว่าจะด่าดีหรือไม่ด่าดี...


บ็อก!หมาน้อยเห่าเรียกเสียงเล็ก 


อะไร!”  


บ็อก!”  


เรียกทำไมชิ๊!  กูเองก็เจ็บนะ แล้วก็ไม่ได้ใจดีเหมือนคนบางคนด้วย!  แน่จริงมึงเห่าสองครั้งดิ่  คำว่าขอโทษน่ะ สองพยางค์เชียวนะมึง”  ยิ่งพูดยิ่งพาลกระทั่งหมา


“....บ๊อก ~บ็อก ~”  ลูกหมาเอียงคอนิดหน่อยก่อนพ่นเห่าสองครั้งจริงๆ เล่นเอาซาโต้อยากเตะท่าทางแบบนั้นให้กระเด็นไปถึงท้ายซอยโน่นเลย


เงียบเลย! 


บ๊อก~บ็อก~”  


ตัวเล็ก เงียบครับ!”  คราวนี้เงียบจริง แต่เปลี่ยนมาทำหน้าจ๋อยร้องอิ๋ง ๆ ๆในลำคอแทน ซาโต้ที่อารมณ์กำลังคุกรุ่นเห็นแบบนั้นถึงกับใจอ่อนขึ้นมา


บอกง่าย ๆแบบนี้สิถึงจะน่ารัก”  ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปใกล้แล้วย่อตัวนั่งลง เขายื่นมือออกไปลูบหัวมันเบาๆ กลับบ้านไปซะสิ เดี๋ยวคนที่บ้านก็เป็นห่วงเอาหรอก”  


อิ๊ง ~อิ๊ง ~”  หมาน้อยตัวเล็กกระโจนขึ้นบนตักเขา เลียมือเลียหน้าอย่างประจบเอาใจ  ซาโต้จึงได้แต่อุ้มมันไว้ในอ้อมแขน 


อย่าดิ้นสิวะ มึงกระโดดขึ้นมาเองไม่ใช่รึไง!พอเขาออกแรงกอดเข้าหน่อยเจ้าตัวเล็กก็ดีดดิ้นคลุกคลักทำท่าจะกระโจนออกจากตักลูกเดียว  


น่า...ขอกูกอดมึงไว้แบบนี้หน่อยนะ คนบางคนน่ะเขาไม่ยอมให้กูกอดอีกแล้ว 


ดวงตากลมบ็อคของเจ้าหมาแหงนมองคนที่กำลังกอดตัวเองไว้อย่างใสซื่อ ลิ้นสีแดงสดแลบเลียปลายคางเขาเล่นไม่ยอมหยุด  ซาโต้เองก็จ้องมองกลับอย่างเอ็นดู  พาลให้นึกถึงใบหน้าคนบางคนขึ้นมาเสียได้


เขามันบ้าที่ปล่อยคริสออกไปคนเดียวทั้งที่อีกฝ่ายก็บอกแล้วว่าจะไปสืบเรื่องงานแท้ ๆ 


เขามันบ้าที่ปล่อยให้อารมณ์โกรธเข้าครอบงำจิตใจทั้งที่เรื่องงานสำคัญมากกว่าอะไรทั้งหมด


เขามันบ้าจริง ๆ ที่ทิ้งคริสตินมาแบบนี้


หึ!”  


โมโหตัวเองชะมัด!   เมื่อเจ้าหมาถูกปล่อยลงจากตัก  มันก็หันมาเห่าเสียงเล็กอีกครั้งพร้อมดุนจมูกใส่มือเขาเบา ๆ จากนั้นจึงวิ่งเหยาะ ๆ หายต๋อมเข้าซอยไป โทรศัพท์มือถือถูกล้วงขึ้นมาแล้วกดโทรออก ใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะได้เสียงตอบรับจากปลายสาย



 .....รออยู่ด้านนอกอย่าเพิ่งเข้าไปคนเดียว เข้าใจนะครับ!  ”  



**



สามทุ่มเศษแล้ว

ด้านหน้ามหาวิทยาลัยยังคงคึกคัก  หลังจอดรถไว้หน้าร้านสะดวกซื้อที่ฝั่งตรงข้ามโทรศัพท์มือถือเครื่องใหญ่ก็สั่นขึ้น ภาพโชว์ที่หน้าจอเป็นสาเหตุให้คริสลังเลเล็กน้อยแต่ก็ยังตัดสินใจกดรับ


 ....รออยู่ด้านนอกอย่าเพิ่งเข้าไปคนเดียว เข้าใจนะครับ! ”   


ประโยคแค่นี้มีรึที่เขาจะฟัง คนที่เพิ่งพูดจาทำร้ายจิตใจกัน  คนที่จู่ ๆ ก็พูดปฏิเสธความรู้สึกของเขาไปจนหมดสิ้น มาตอนนี้มาบอกให้เขารอ


เห๊อะ!.....บ้ารึเปล่า


หลังทำทีเป็นเดินเตร่อยู่แถวนั้นครู่หนึ่ง คริสจึงเดินข้ามถนนแล้วลัดเลาะไปในทางมืด ๆ เพื่อมุ่งไปยังกำแพงด้านข้าง แม้ทางเข้าที่ประตูด้านหน้ายังไม่ปิดทั้งหมด แต่ผู้หมวดก็ยังเลี่ยงที่จะปีนเข้าทางกำแพงแทน ไม่มีปัญหาอะไรกับการกระโดดข้ามกำแพงสูง สองเท้าต้องรีบก้าวให้ไว จุดหมายปลายทางคือพื้นที่รกร้างด้านข้างสนามฟุตบอลแห่งนั้น


การแอบเข้ามาตามหาหลักฐานตามสัญชาตญาณโดยไร้หมายค้น ไม่ใช่อะไรที่สามารถอธิบายได้ทั้งหมด หมายค้นถูกกฎหมายไหนเลยจะรวดเร็วและกระจ่างเท่าการแอบสืบค้นตามสัญชาตญาณของนักล่า


ที่ด้านข้างของตึกอธิการแทบจะไม่มีนักศึกษาหลงเหลืออยู่แล้ว คงเพราะวันนี้เป็นวันหยุดและจวนจะดึก เด็กที่นี่จึงดูบางตามากเป็นพิเศษ คริสต้องรีบสาวเท้าให้ไว ตั้งใจหลบสายตาทุกคู่ที่เผอิญหันมองมา  เพียงไม่กี่นาทีตัวเขาก็มาถึงที่ริมขอบสนามฯเรียบร้อย  รอบข้างมืดมากปราศจากแสงไฟสปอตไลท์เหมือนเช่นทุกวัน  แต่เขาพอจะจำตำแหน่งของรถกระบะที่จอดตายคันนั้นได้  ขายาว ๆ สาวฝ่าดงหญ้าด้านข้างเข้าไปไม่ไกลนักเขาก็เข้ามายืนอยู่ข้างตัวรถ สายลมแรงที่จู่ ๆ พัดเข้ามาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำเอาท่อนแขนขาวถึงกับขนลุกชัน  ภาพในความฝันไหลเทเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง


นึก ๆ ไปแล้วเป็นฝันที่สยองอยู่เหมือนกัน  คริสอดไม่ได้ที่จะใช้สองมือลูบแขนตัวเองเบา ๆ แล้วตัดสินใจกระโดดขึ้นไปหมอบราบอยู่ท้ายกระบะรถ


แสงจากโทรศัพท์มือถือเป็นทางเลือกที่ดี ชายหนุ่มสะดุดตากับรอยอะไรบางอย่างที่ติดอยู่บริเวณซอกเล็ก ๆด้านหนึ่งของกระบะรถ เมื่อคราบนั้นตกกระทบกับไฟแอลอีดีของเครื่องมือถือ ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนมาก คริสรีบล้วงมีดพกอันเล็กออกมาขูดรอยคราบเจ้าปัญหาใส่ถุงพลาสติกปากรีดด้วยความชำนาญ ใช้เวลาไม่กี่วินาทีกล้องมือถือความละเอียดสูงก็ถูกถ่ายบันทึกรัวๆๆหลายช็อตติดต่อกันด้วยความรวดเร็ว คริสมองซ้ายมองขวาไปพลาง ทำธุระของตัวเองไปพลาง ในที่สุดก็เสร็จทุกซอกมุมที่อยากได้  และสุดท้ายอดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองแสงไฟสีส้มดวงเล็ก ๆ ที่ลอดออกมาจากห้องเก็บเครื่องมือซึ่งอยู่ไม่ไกลกันนัก  


หวังว่าตาลุงคนสวนนั่นคงไม่โผล่มาตอนนี้หรอกนะ


แม้จะอยากรู้อยากเห็นว่าเวลาค่ำมืดแบบนี้ตาลุงนั่นยังจะอยู่แถวนี้อีกไหม  แต่ทว่าอะไรบางอย่างก็ทำให้เขาหยุดความอยากรู้นั้นไป ชายหนุ่มจึงรีบสาวท้าวออกจากตำแหน่งนี้ให้ไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ 


ตอนนี้จุดหมายคือออกจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้เท่านั้น!  


ในที่สุดก็มาถึงข้างตึกอธิการบดีอีกครั้ง ดอกไม้คุ้นตาดันแวบเข้ามาห้วงความคิด คริสถึงกับชะงักเท้าหันมองตรงไปที่แปลงดอกไม้นั่น จะว่าไปท่ามกลางความมืดมิดแบบนี้ตัวดอกยังชูช่อตั้งสวยแข่งกับแสงของดวงจันทร์ไม่มีผิด  เหมือนถูกดูดให้เดินเข้าไปใกล้ยิ่งขึ้นไปอีก ใกล้ขึ้นไปอีก ดอกไม้สีแดงสดคล้ายทานตะวันดอกเล็ก ๆ แต่ดูดี ๆ อีกทีมันไม่เหมือนซะทีเดียว คริสตินเหลียวซ้ายแลขวา


ถ้าจะเด็ดออกมาสักดอกจะเป็นไรมากไหมนะ


การกระทำของคนมักไปไวกว่าความคิดเสมอนั่นเป็นความจริง!  ตอนนี้ในมือกำดอกไม้นั่นไว้แล้วเรียบร้อย เสียง กลุก กลุก ดังขึ้นอยู่ไม่ไกล คริสจึงรีบวิ่งเข้าไปหลบที่ผนังด้านข้างทางเข้าชั้นใต้ดินของอาคาร พยายามทำตัวให้ลีบเล็กจนติดผนังเข้าไว้  เป็นเวลาเดียวกับที่โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงสั่นเรียกขึ้นมาพอดี ขณะสายตาสบเข้ากับแผ่นหลังใครบางคนที่ยืนอยู่แถวแปลงดอกไม้นั่น  


คุณลุงคนสวน?!


ปัดโถ่! ลืมปิดเครื่องจนได้”   คงเป็นเจ้าซาโต้


คริสค่อย ๆ กระดื๊บ ๆ ไปตามกำแพงให้เงียบเชียบที่สุดขณะที่มือก็ยังกำดอกไม้สีแดงนั่นอยู่ พร้อม ๆ โทรศัพท์มือถือที่ยังสั่นเรียกอยู่ไม่หยุด


จะโทรเรียกอะไรกันนักหนาวะ!”   


ทั้งสบถทั้งสาวเท้าเพื่อไปให้ถึงริมขอบรั้วเร็วที่สุด  ริมฝีปากสวยคาบก้านดอกไม้ไว้แล้วกระโดดขึ้นไปที่ราวกำแพงอย่างรวดเร็ว ขณะกำลังจะพลิกตัวเพื่อกระโจนลงอีกฝั่งหนึ่งของรั้ว ดวงตากลมก็สบเข้ากับดวงตาวาวของใครบางคนในความมืด คริสรีบปล่อยมือแล้วทิ้งตัวลงบนพื้นหญ้า เขาออกวิ่งโดยไม่สนใจอะไรอีกต่อไปเมื่อจับความรู้สึกที่ส่งผ่านมาจากสายตาวาวโรจน์ที่หลังกำแพงนั้นได้


แววตาที่แสดงถึงความโกรธเกรี้ยว......ยิ่งนัก! 


จะอะไรกันนักกันหนา กะอีแค่ดอกไม้ดอกเดียว     โครม!


เมื่อชนกับใครบางคนเข้าคริสถึงได้รู้สึกว่าตัวเองวิ่งมาได้ไกลถึงขนาดไหนแล้ว


หนีอะไรมาครับ?” เป็นซาโต้นั่นเอง

อย่าเพิ่งถาม ขึ้นรถเร็ว”  


แวบหนึ่งของหางตาสังเกตเห็นว่ารถของซาโต้จอดอยู่ข้างกันกับรถของเขา  คริสตินกระโดดขึ้นคร่อมรถตัวเองไว้พร้อมสตาร์ทอย่างไม่รอช้า ไม่มีเวลามาสนใจว่ามีใครวิ่งหรือเดินตามออกมารึเปล่า แต่ความรู้สึกตามสัญชาตญาณ...กับสายตาในความมืดแบบนั้น อีกทั้งหลักฐานที่ได้มาเมื่อสักครู่เขาจะไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปเด็ดขาด


แล้วรถ?”  เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีคนตัวหนักนั่งซ้อนท้ายอยู่  รถก็ขับออกมาจนไกลโขแล้ว


เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้เด็กมาเอา


ไฟถนนสีส้มเรียงรายไปตามเส้นทางสายหลักไกลจนสุดลูกหูลูกตา คริสโน้มตัวลงอีกหน่อยบิดคันเร่งให้แรงขึ้นอีกนิด เสียงท่อไอเสียขนาดใหญ่ดังระงมแต่นุ่มหู 


นึกอะไรครับ  เข้าไปเก็บดอกไม้กลางดึก?” เสียงแผ่ว ๆ ดังขึ้นริมหูเล็ก


ซาโต้!คริสอุทานขึ้นเบา ๆ เมื่อรู้สึกได้ว่าถูกสวมกอดเข้าที่เอว 


ทำไมไม่ยอมรอผมล่ะ เข้าไปคนเดียวแบบนั้น?”  


รู้ทั้งรู้ว่าการไปเข้าครั้งนี้ของคริสไม่ใช่แค่ดอกไม้นั่นแน่ เรื่องอันตราย ๆ แบบนั้นยังจะเข้าไปทำคนเดียว  ซาโต้หลับตาลงแน่น ใบหน้าคมซุกเข้ากับไหล่หลังของคนที่ตนเองสวมกอด  คริสหันกลับมามองคนที่ยังกอดเขาแน่นแล้วนิ่งเงียบ ลมหายใจอุ่นร้อนที่รินรดอยู่ริมหูแย่งชิงทุกคำพูดทุกความรู้สึกของเขาไปจนสิ้น  ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์เมื่อตอนหัวค่ำขึ้นก็คงดี....ถ้าซาโต้ไม่มาบอกกับเขาว่าจะคบกับผู้หญิงคนนั้น.....ก็คงจะดี


ปล่อยผมได้แล้วซาโต้  ทำแบบนี้มันไม่ดีนะ”  


ทั้งที่ไม่ตรงกับใจคิดเลยสักนิดแต่ก็จำเป็นต้องเว้นระยะห่างระหว่างเขาสองคนกันแล้ว  จากคำพูดมึงกู จากความสนิทสนมทุกอย่าง ต้องเว้นมันออกมาให้หมด  คริสไม่เข้าใจเอาซะเลยทั้งที่บอกว่าที่ผ่านมาแค่ล้อเล่นแท้ ๆ ทั้งที่บอกว่าคบกับอีกคนแต่มาทำแบบนี้กับเขาทำไม 


เห็นหัวใจเขาเป็นอะไรกัน! 


ซาโต้ยื่นสองมือไปจับแฮนด์รถไว้พร้อมดันตัวคริสให้โน้มต่ำลง ขายาว ๆ สลับตำแหน่งเหยียบกับคนข้างหน้า เขาโน้มตัวลงไปคร่อมคนที่ตัวเล็กกว่าไว้จนมิด  


ผมขับเอง 


ไฟถนนเรียงรายไกลจนสุดสายตาจะสามารถมองถึงได้  เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาเพิ่งบอกลาความรู้สึกกันไป ไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเพิ่งเตือนตัวเองถึงจุดยืนของความรู้สึก แต่ไม่กี่วินาทีที่ผ่านมากลับละทิ้งความถูกต้องทุกสิ่งไป ยอมให้หัวใจทำตามความต้องการแทบทุกอย่าง 


ขอแค่วันนี้เท่านั้น!


คริสเองก็หลับตาลงแน่นเมื่อแขนข้างหนึ่งของซาโต้สอดเข้ามาสวมช่วงเอวเขาไว้ แม้จะไม่เข้าใจถึงการกระทำที่ขัดแย้งกับคำพูดของเจ้าคู่หูคนนี้เอาเสียเลย แต่ทว่า..ความผิดชอบชั่วดีของเขาตอนนี้มันโดนความต้องการของหัวใจเหยียบไว้ซะจมมิดไปแล้ว


ขอแค่วันนี้เท่านั้น!


อ้อมไปอีกฝั่งของเมืองเลยดีไหมครับ 


เสียงทุ้มแหบกระซิบโปรย  แม้จะอยากใช้ค่ำคืนนี้ให้ยาวนานที่สุด   แม้จะอยากให้เป็นอีกครั้งที่ทั้งเขาและเจ้าคนข้าง ๆ จะได้ใกล้ชิดกัน  เหตุผลบ้าบออะไรนั่นขอพักไว้ทีหลัง   แม้อยากจะให้คืนนี้เป็นครั้งสุดท้ายหากแม้เจ้านี่จะจากไปจริง ๆ   แม้ว่าอยากจะขอให้เขาได้รับไออุ่นจากอ้อมกอดนี้ให้นานขึ้นอีกสักหน่อย



แต่ทว่า....



          “หึ...ต้องรีบเอาตัวอย่างหลักฐานส่งตรวจ จะมัวมาเล่นกับนายอยู่ได้ไงล่ะ




          “ครับผม...ตามต้องการเลย”  



แม้น้ำเสียงที่ตอบกลับมาจะแสนเรียบ  แต่แววตาที่ฉายอยู่บนใบหน้าคมนั้นสุดแสนเจ็บปวด เล่นกับความต้องการของหัวใจ หลอกล่อความรู้สึกผิดชอบชั่วดีให้จมดิ่งลงในห้วงแห่งความนึกคิด  เวลาแค่ไม่กี่นาทีกับคนตรงหน้า  ขอเขาเก็บเกี่ยวมันไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้   รถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่โฉบตัวตัดออกฝั่งซ้ายของถนนเพื่อลัดเลาะไปตามหนทางเส้นทางเล็ก ๆ   


ในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ ทำไมงานจึงจำเป็นต้องมาก่อนเสมอด้วยนะ? 


**



ในซอยที่ทั้งมืดทั้งแคบ


หลังเสียงปืนดังสนั่นติดต่อกันหลายนัด วัยรุ่น 3 –4 คน ถูกยิงบาดเจ็บสาหัสนอนกองร่อแร่อยู่ที่พื้น เมื่อรถมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งหยุดลง ชายคนขับที่ป้ายใบหน้าด้วยสีดำกระโดดลงแล้วพุ่งเข้าไปหิ้วคอเสื้อหนึ่งในเด็กหนุ่มที่ถูกยิงขึ้นมาดูอาการ

ม...มึง!?”

 เด็กหนุ่มอุทานแผ่วเบาเมื่อเห็นใบหน้าของคนที่กำลังมองดูตนเอง  ที่ท้องกลางลำตัวเลือดสีเข้มเริ่มทยอยไหลออกมา ในแววตาหม่นสะท้อนดวงหน้าของชายผู้หนึ่งที่ดูเหมือนเพื่อนใหม่ที่เขาเพิ่งรับเข้าแก๊งมาไม่มีผิด 

เฮ้!  อย่าเพิ่งตายซะล่ะ จะเรียกรถพยาบาลให้ 
เขาว่า

พวกมึงเป็นใคร ริมาเสือกเรื่องของกูกับเพื่อน! 

เสียงตะคอกจากเด็กหนุ่มหัวเกรียนในมือ ถือปืนพกด้ามเล็กไม่รอช้าหันปลายกระบอกใส่ชายหนุ่มผู้มาใหม่  ภายใต้ใบหน้าที่ทาสีดำเช่นเดียวกัน ชายอีกคนกำลังยืนโทรศัพท์อยู่ข้างรถ  แผ่นหลังสีดำปักลายหัวกะโหลกใหญ่อันเบ้อเริ่ม
            
เห๊อะ!  เสือกเรื่องคนอื่น งั้นเจอนี่สักหน่อยเป็นไง!

ปัง!

ใครเขาสอนให้ยิงคนอื่นจากด้านหลังกัน ห๊า! 

อั่ก!!!

เมื่อเห็นเพื่อนที่ยืนเป็นเป้านิ่งโดนจ่อยิง ชายคนแรกรี่เข้าไปเตะปืนทิ้งแล้วฟาดหน้าแข้งเข้าที่ชายโครงเด็กหนุ่มมือปืนอย่างจัง พร้อมตะโกนถามเพื่อนที่ยืนโทรศัพท์อยู่ข้างรถ ติดต่อได้รึยัง?” 

ทว่าเพื่อนของเขายังไม่ทันได้ตอบอะไร เด็กอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเจ้าเด็กนรกคนแรกก็เหวี่ยงมีดสั้นเข้าใส่เขาเสียก่อน 

ฟิ้ววววว!!! ฉึก!!

บ้าเอ้ย!  เด็กเวร!! 

มือแกร่งพุ่งเข้าไปคว้ากระชากเอามือมีดมาเตะอัดเข้าไปอีก   อั่ก!!  อั่ก!!!  

เด็กนั่นถึงกับกระอักเลือดแดง ๆ ออกมาแล้วทรุดตัวลง

มึงทำลูกน้องกู งั้นเพื่อนมึงก็จงตายซะ!

 เสียงจากไอ้เด็กหัวเกรียนที่คาดว่าคงเป็นลูกพี่มองเห็นลูกน้องโดนเตะแล้วของขึ้น เด็กหนุ่มเก็บปืนของตนที่โดนเตะทิ้งเมื่อสักครู่ขึ้นมาเล็งใส่คนที่ยืนอยู่ข้างรถอีกครั้ง

ปัง!  

โฮ่..เฉียดไปนิดเดียว คนโดนจ่อยิงรีบเก็บโทรศัพท์มือถือเข้ากระเป๋า  ศีรษะได้รูปเอียงมองมาที่คนยิง ดวงตากลมหรี่ลงจ้องหน้าเด็กหนุ่มแล้วกระตุกยิ้มให้ ปืนเก็บเสียงที่หยิบขึ้นมาตอนไหนก็ไม่รู้ถูกเล็งเข้าใส่เด็กนั่นทันที

เด็กไม่ดีเลยนี่นา  ผู้ใหญ่กำลังโทรเรียกรถพยาบาลให้เพื่อน ๆ อยู่ไม่เห็นรึไงครับ หืม”  น้ำเสียงเย็นเฉียบจากใบหน้าอมยิ้มน่ารัก ลำแสงสีเขียวถูกจ่อเล็งเข้ากลางขมับเด็กนั่นในระยะไกล 

 ปัง! 

ไม่มีรีรอคำตอบ  เด็กเจ้าของปืนฟุบกองลงที่พื้นทันที    หนุ่มมือมีดกัดฟันกรอดเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองล้มลงไปต่อหน้าต่อตา เขาใช้โอกาสสุดท้ายขว้างมีดสั้นอีกเล่มเข้าใส่มือยิงคนนั้นระยะหวังผลที่คอหอยพอดิบพอดี แต่น่าเสียดายปฏิกิริยาหมอนั่นเร็วจนเกินคาด เฉี่ยวถากไปแค่ต้นแขนเท่านั้น

อั่ก!!!

หาเรื่องจริงนะ พวกเด็ก ๆ นี่ 

หนุ่มเสื้อดำคนแรกคำราม  เขาหิ้วเด็กมือมีดขึ้นมาแล้วต่อยเข้าที่ปลายคางจนเด็กนั่นกองลงไปนอนที่อยู่พื้นไม่เป็นท่า   เด็กหนุ่มยกมือขึ้นปาดเลือดที่ริมฝีปากพร้อมมองไปที่กลุ่มคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นพรรคพวกนอนกองอยู่ข้าง ๆ กัน 

ใช่แล้ว...ก่อนหน้าที่เขาและเพื่อนจะปะทะกับเจ้าคนทาหน้าดำสองคนนี้ เขาได้รับคำสั่งจากลูกพี่ใหญ่ให้มาตามเก็บคนในแก๊งเดียวกันเพราะระแคะระคายเรื่องที่มีตำรวจแทรกซึมเข้ามาเป็นสายจากเด็กมหาลัยกลุ่มนี้   วัยรุ่นชายสามหญิงหนึ่งจากมหาลัยเอกชนชื่อดังถูกเขาและเพื่อนยิงใส่อาการร่อแร่นอนกองอยู่ที่พื้น ขณะกำลังจะเก็บงานให้เรียบร้อยก็มีชายชุดดำสองคนทาหน้าสไตล์ทหารพรานเข้ามาสอดถึงกลางวง

ติดต่อรถพยาบาลเรียบร้อย  ผมจะรีบจบภารกิจล่ะนะ!”  เสียงจากชายคนที่ใช้ปืนเก็บเสียงยิงใส่เพื่อนเขาจนตายดังขึ้นในระยะใกล้
         
 “คำสั่งมาว่ายังไง?!  แล้วจะเอาไงกับไอ้เด็กเวรนี่?!” ชายอีกคนตอบรับ จ้องมองลงไปที่ดวงหน้าของเด็กนั่น

เด็กหนุ่มจิกพื้นจนแน่น กระทั่งน้ำตาแห่งความกลัวไหลอาบลงมา จิตวิญญาณภายในใจกำลังร่ำร้องดวงตาหม่นมีแต่แววสั่นไหว

เขาเป็นมือปืนของแก๊ง  ตอนที่ฆ่าคนเขาปราศจากซึ่งความกลัวคิดแต่เป็นเรื่องสนุก เมื่อได้ฆ่าแล้วก็ฆ่าต่อไปถือเป็นเรื่องสุดเท่โคตรเจ๋ง....แต่พอคิดว่าตัวเองจะถูกทำแบบนั้นบ้าง ก็เกิดกลัวขึ้นมา

พี่ครับ ผมขอโทษครับพี่  ต่อไปผมไม่ทำแล้วครับ ผมสำนึกแล้ว พี่อย่าทำอะไรผมเลยนะเด็กหนุ่มพยายามลุกขึ้นนั่งแล้วยกมือท่วมหัวไหว้คนที่กำลังเดินเข้ามาหา

ใช่แล้ว!  ถ้าเป็นคน ๆ นี้ล่ะก็ อย่างมากคงแค่เอาตัวเขาส่งตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายก็แค่นั้น พ่อเขาเป็นถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่  เดี๋ยวพอประกันตัวได้เขาก็ออกมาเตร่ได้ใหม่เหมือนเดิม  ถ้าเทียบกับไอ้หน้าเถื่อนเสื้อดำอีกคนที่มาด้วยกัน ฮ่ะ ฮ่ะ  โชคดีชะมัดที่เป็นเจ้านี่เดินเข้ามาใกล้  พูดดี ๆ กับมันสักหน่อยมันก็คงยอมใจอ่อน

พี่ครับ จับผมส่งตำรวจก็ได้ครับผมยอมแล้ว 

“............” ชายหนุ่มผู้มีดวงหน้าอ่อนโยนภายใต้รอยขีดทาด้วยสีดำไม่ได้ตอบอะไรให้มากความ เมื่อเดินเข้าไปใกล้เป้าหมายจนได้ระยะที่พอใจเขาก็หยุดยืนนิ่ง

 “พี่ครับ....


ริอาจเป็นฆาตกรตั้งแต่เด็ก ค้ายานรกแล้วยังเป็นมือปืนของแก๊ง
 
ตายไปกี่คนแล้วล่ะ...เพื่อนในแก๊งมึงน่ะ?

หมดอนาคตไปกี่คนแล้วล่ะ...คนที่พวกมึงขายยาให้น่ะ?

ปลายกระบอกปืนถูกจ่อลงที่กลางหน้าผากโหนกจนชิด 

นัยน์ตาเด็กหนุ่มเบิกโพลง...สั่นไหว

ยิ้มให้เด็กนี่สักหน่อยก็ดี  เดี๋ยวจะหาว่าใจดำ


ปัง!!


รอยยิ้มสยองจากใบหน้าที่แต้มสีดำเป็นทาง ช่างดูคล้ายหัวกะโหลกกำลังเริงร่าอยู่กับอาหารจานโปรดไม่มีผิด


จับงั้นรึคำสั่งวิสามัญฯนั่นน่ะ  ยังไม่เคยทำพลาดมาก่อนเลยนะ........หนุ่มน้อย


*


ขอแทรกรายงานข่าวล่าสุดให้ท่านผู้ชมทราบ เมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมาตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีกลุ่มวัยรุ่นถล่มยิงกันภายในซอยร้างหลังโรงเรียนช่างกลชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่รุดไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นวัยรุ่นชาย คนถูกยิงที่ศีรษะตายคาที่  ชายอีกสามคนและหญิงอีกหนึ่งคนบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลXX และรายงานล่าสุดแจ้งว่าวัยรุ่นชายทั้งสามคนเสียชีวิตแล้วระหว่างถูกนำตัวส่งสถานพยาบาลดังกล่าว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้พยานปากสำคัญคงเหลือแต่หญิงสาวในที่เกิดเหตุเพียงคนเดียวเท่านั้น



บนถนนทางหลวงอันเงียบเชียบ


เสียงดังกระหึ่มจากรถมอเตอร์ไซด์กลุ่มใหญ่ที่ขับตามติดกันมาเป็นขบวน วัยรุ่นหนุ่มสาวหลายสิบคู่กำลังเริงร่ากับรถแต่งหลากหลายสไตล์ แล่นโฉบไปด้วยความเร็วกำลังพอเหมาะ หนึ่งในนั้นเป็นคันที่เพิ่งแทรกตัวเข้ามาใหม่จากทางแยกของถนนเส้นเล็กสายหนึ่ง ชายสองคนในเสื้อคลุมดำพรางตัวเข้าปะปนกับกลุ่มรถวัยรุ่นอย่างกลมกลืน เสียงอันทรงพลังจากแรงขับเคลื่อนหลายสิบดังจนแสบโสตแก้วหู  รถคนแปลกหน้าที่ทาหน้าดำตีโค้งผ่านถนนสายเล็ก ๆ แล้วแยกตัวตัดเข้าไปในซอยที่ทั้งมืดทั้งแคบ ในที่สุดโผล่ออกมาที่ท้ายซอยเปลี่ยวแล้วเลี้ยวตัดเลี้ยวเข้าไปด้านในตัวตึกที่ทำการสำนักงาน โฉบลาดลงสู่ชั้นใต้ดินลานจอดรถประจำหน่วยของตนเอง  


‘S.W.A.T-D’




มูลเหตุเบื้องต้นของเหตุการณ์ในครั้งนี้คาดว่าจะเป็นการฆ่าปิดปากจากพวกเดียวกันเองของแก๊งยาเสพติดชื่อดังในหมู่นักเรียนมัธยมปลายที่เพิ่งมีข่าวกวาดล้างไปเมื่อไม่นานมานี้  หนึ่งในผู้ตายเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่หกซึ่งมีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้าแก๊งค้ายานรกชื่อดังที่ตำรวจติดตามความเคลื่อนไหวมานาน  ส่วนอีกรายมีตำแหน่งเป็นมือปืนของแก๊ง และอีกสามรายที่เหลือรวมทั้งอีกหนึ่งเด็กสาวเป็นเอเย่นยาสายอุดมศึกษาจากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังย่าน.....ที่คาดว่าจะตกลงผลประโยชน์กันไม่ลงตัว ความคืบหน้าของเหตุการณ์เราจะรายงานในช่วงข่าวหลังเที่ยงคืน



เมื่อรถจอดลงที่ลานจอดชั้นใต้ดินเรียบร้อย


แก๊งเดชา  หนึ่งในรายชื่อวิสามัญยกแก๊งน่ะ”  


ชายคนซ้อนกระโดดลงจากเบาะแล้วพูดขึ้น ในมือล้วงเข้าไปด้านในเสื้อคลุมเพื่อปลดสายสะพายปืนที่คาดไหล่ทั้งสองข้างออก  ชายหนุ่มลูบรอยแผลที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่จากรอยถากของมีดบริเวณหัวไหล่ เจ้าเด็กนั่นฝีมือไม่เลวเลยแฮะ 


แก๊งเดชาเป็นเครือข่ายยาเสพติดชื่อดังระดับมัธยมและอุดมศึกษาทางฝั่งตะวันออกของกรุงเทพ เคยมีข่าวลวงออกมาว่าลูกพี่ใหญ่เป็นแค่เด็กมัธยมศึกษาชั้นมอปลายเท่านั้น เด็กในสังกัดส่วนใหญ่แล้วเป็นเด็กจากมหาวิทยาลัยเอกชนและเด็กอาชีวะทั่วไป คราวนี้มีข่าวว่าพวกมันระหองระแหงกันเองและจะกำจัดกันในวันนี้พวกเขาจึงจัดเอาตัวเองไปสมทบด้วยซะเลย


มือนายโอเครึเปล่าเดฟ!”  ” เมื่อสำรวจว่าไหล่ของตนเองไม่เสียหายอะไรมาก เขาจึงสังเกตเห็นว่าที่หลังมือของเพื่อน ผ้าพันแผลที่พันอยู่แต่เดิมดันมีเลือดซึมออกมาให้เห็น 


งานสายยาเสพติดนี่ล้างบางไม่มีเว้นจริง ๆ นะเคน!  ผมพักผ่อนอยู่แท้ ๆ ยังไปลากออกมาจากเตียงซะได้


ฮ่ะ ฮ่ะ พูดอะไรตลก นั่นมันงานของนายไม่ใช่รึไง เด็กพวกนั้นน่ะ!?”   เด็กพวกนั้นที่เคนยะพูดถึงก็คือเด็กมหาลัยกลุ่มที่เดฟกับซาโต้ปลอมตัวเข้าไปสืบนั่นเอง 


ขึ้นไปอาบน้ำกันเถอะ กลิ่นดินปืนติดอื้อเลย”  


พิสูจน์หลักฐานห้องประจำหลังจากพวกเขาจบสิ้นแต่ละภารกิจ แต่ฟ็อกซ์ชอบเรียกมันว่า ห้องทำลายหลักฐานมากกว่าเนื่องเพราะเต็มไปด้วยสารระเหยที่ใช้ทำลายและสลายคราบเขม่าดินปืนรวมทั้งคราบเลือด   เมื่อเดฟก้าวลงมาจากรถ เขาสองคนจึงเดินลัดจากชั้นใต้ดินเพื่อขึ้นไปสู่ชั้นบนของตัวอาคาร


นาย...คบอยู่กับคริสงั้นเหรอเรื่องจริงรึเปล่า?” 


ว่าไงนะ?!”  คิ้วเข้มขมวดมุ่น  จู่ ๆ เคนยะก็ถามขึ้นทำให้เขาหยุดเท้าแทบไม่ทัน เคนเองจึงต้องหยุดชะงักตามไปด้วย


เรื่องจริงไหม? เรื่องที่นายกับน้องชายของผมคบหากันอยู่น่ะ”  


ใครบอกนาย?” เดฟสวน


เจ้าซาโต้มันสงสัย เมื่อกลางวันมางอแงอยู่ที่ห้องผมแน่ะ 


ร่างสูงใหญ่ไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่ใบหน้าคมเครียดลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งสองคนต่างคนต่างก็เงียบแล้วก้าวเดินไปตามทาง  สักพักเคนยะจึงหันมองเมื่อรู้สึกได้ว่าอีกคนลดระดับความเร็วลง  เขาสองคนหยุดฝีเท้าลงเมื่อเดินถึงหน้าห้องพิสูจน์หลักฐานพอดิบพอดี  เดฟล้วงบุหรี่ขึ้นมาแล้วเลี่ยงไปยืนที่ริมราวระเบียง ดวงตาคมเข้มมองทอดออกไปที่ท้องฟ้ามืดโดยไร้ซึ่งจุดหมาย


มันบ้า!”   เสียงพึมพำแผ่วเบามาพร้อมกับกลุ่มควันสีขาวก้อนโต    “เข้าไปก่อนเลยเดี๋ยวผมตามไป  สูบบุหรี่แป็บ 


จริง ๆ แล้วเมื่อตอนที่เอารถเข้าจอด เดฟสังเกตเห็นรถมอไซด์ของฟ็อกซ์จอดอยู่ที่ช่องจอดก่อนที่พวกเขาจะเดินขึ้นมาแล้ว  วันนี้ฟ็อกซ์ใช้รถยนต์ออกต่างจังหวัดกับนายใหญ่ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ เคนเองก็ขับรถยนต์มาทำงานคงมีแต่คริสเท่านั้นที่จะใช้รถฟ็อกซ์ได้ แค่นั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าคริสตินอยู่ด้านในห้องนี้แน่นอนและซาโต้เองก็อาจจะอยู่ด้วยกัน   


เคนยะเคาะที่ช่องกระจกสองสามทีก่อนเปิดบานประตูเข้าไป


พี่เคนคริสที่นั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานของสุรชัยเรียกพี่ชายที่เดินเข้ามาด้วยหน้าตาที่ทาสีดำตลก  ๆ เขากับจ่าสุรชัยกำลังนั่งดูทีวีกันอยู่  รายงานข่าวด่วนช่วงดึกเพิ่งผ่านพ้นไป 


อ้าวออกมาได้ไงเนี่ย ไหนพี่ดูหัวสิ 


ผมหายแล้ว ไม่เป็นไรมากหรอกคริสแกะมือเคนยะออกหลังจากที่อีกฝ่ายแกล้งเข้ามาสำรวจโน่นนี่แถวศีรษะเขา 


เยี่ยมไปเลยครับผู้กอง  พวกนักข่าวเร็วกันจริง ๆ เจ้าคอร์นเองก็ไปรอเคลียร์กับท้องที่ให้ตั้งแต่หัวค่ำแล้วจ่าสุรชัยทักขึ้น เคนยะจึงพยักหน้ารับเบา ๆ วางปืนพร้อมสายสะพายที่ถือเข้ามาลงบนโต๊ะ  ทำไม้ทำมือเป็นสัญญาณว่าให้สุรชัยเช็ดปืนให้ด้วย
 

ต้องขอบใจเดฟเขาล่ะนะ ทำเรื่องวิสามัญฯให้กลายเป็นเรื่องชกต่อยได้นี่ เนียนมากจริงๆ


พวกนักข่าวเองก็ระบุว่าเป็นเหตุทะเลาะวิวาทภายในแล้วเก็บกันเองของแก๊งนั่นล่ะครับ ส่วนเรื่องสเก็ตใบหน้าทางเราสั่งห้ามทางท้องที่ไว้แล้ว


อือ...ปรารถนาเลยขอบใจมากสุรชัยกับคอร์นประสานงานเบื้องหลังได้ยอดเยี่ยมตามเคย แล้วพรุ่งนี้เวรใครกันล่ะ?” 


เคนยะถามพร้อมเปิดตู้เย็นหาน้ำเย็น ๆ ดื่ม  งานสำคัญของพรุ่งนี้คือ กำหนดการประหารนักโทษคดีอุกฉกรร 1 รายของเรือนจำเขต XXX  ซึ่งคอร์นกับสุรชัยเป็นคนดูแลตารางงานให้พวกเขาวนเวียนกันไปทุกเขตที่มีนักโทษต้องถูกยิงเป้า นักโทษ 1 ราย ต่อเพชฌฆาต 2 คน คนนึงถือกระสุนจริงอีกคนถือกระสุนเปล่า ยิงออกไปพร้อมกันโดยไม่สามารถทราบได้ว่าใครกันแน่ที่เป็นมือยิง


ผมจัดให้สารวัตรเดฟกับผู้หมวดคริส รับไปครับ


ทำไมไม่ให้คริสไปกับซาโต้ล่ะ?”


เพราะว่าครั้งที่แล้ว ผู้กองกับหมวดซาโต้เพิ่งไปด้วยกันมานะครับ 


อ้อ จำได้ละ  แล้วเจ้าซาโต้? อยู่ด้วยรึเปล่า?” 


เคนยะมองซ้ายมองขวาแล้วถามขึ้น คราวนี้น้องชายของเขาจะได้เป็นคนยิงลูกจริงหรือลูกหลอก คงต้องให้สองคนตกลงกันเองล่ะนะ  ส่วนครั้งล่าสุดของเขาเจ้าซาโต้รับเอาลูกจริงไปเต็ม ๆ จากการเป่ายิ้งฉุบปัญญาอ่อนที่เจ้าบ้านั่นคิดขึ้นมาได้ในระหว่างทาง แล้วผลก็ตกลงที่ตัวเอง 


ซาโต้ตรวจหลักฐานชิ้นใหม่อยู่ในแล็ปน่ะครับเดี๋ยวคงจะเสร็จแล้ว   แล้วสารวัตรเดฟ.....?”  ขณะสุรชัยกำลังจะถามว่าเดฟทำไมไม่มาด้วยกัน  ขายาว ๆ ของซาโต้ก็ก้าวออกมาจากด้านในห้องกระจกเล็ก รูปร่างสูงโปร่งสวมเสื้อกาวด์สีขาวเต็มยศ


ไงซาโต้ ?” เคนยะร้องทัก   “โฮ่ แต่งชุดแบบนี้แสดงว่ากำลังตรวจหลักฐานสำคัญอยู่สินะ?” 


เข้าไปอาบน้ำไปเคน กลิ่นดินปืนหึ่งเลยนี่ ทำงานมา?”


ซาโต้เดินมาถอดเสื้อกาวด์พาดไว้บนเก้าอี้แล้วนั่งลงข้างๆคริส  ดอกไม้ก้านแข็งสีแดงสดที่คริสเด็ดมาจากมหาลัยนั่นถูกชายหนุ่มหยิบขึ้นมาพิจารณาใกล้ ๆ  เป็นเวลาเดียวกับที่เดฟเปิดประตูเข้ามาพอดี


ไปเหอะเดฟ  เข้าไปอาบน้ำพร้อมกันผมรอนานแล้วเนี่ยเคนยะที่กำลังจะเดินเข้าด้านในอมยิ้มกวักมือเรียกเดฟไว ๆ 


เฮ้ยเดฟ!”  คริสรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปหา 


มือนายยังไม่หายนี่ทำไมถึงออกไปทำงานกับพี่เคนอีกล่ะ?”  ไม่ว่าจะยังไงเขาเองก็รู้สึกผิดเรื่องแผลที่หลังมือนั่น มันเกิดขึ้นเพราะเดฟปกป้องเขา


เรียกสารวัตรสิครับ  ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นนะปั้นสีหน้าเย็นชาได้อีก ทำเอาคริสหน้าเจื่อน


ครับ ๆ ท่านสารวัตร มือยังไม่หายดียังจะออกไปทำงานอีก?”


หายแล้วมือแกร่งรีบชักกลับหลังจากถูกคริสตินคว้าจับไปดู


แต่เลือดมันซึมออกมานะ พันใหม่ไหมเดี๋ยวผมทำ....


โครม!!!


เสียงเก้าอี้ตัวที่คริสนั่งอยู่ก่อนหน้านั้นโดนซาโต้ถีบจนล้มโครมคราม ทุกคนในห้องหันมามองกันเป็นตาเดียว


จะกลับกับผมหรือจะกลับกับเคนหรือว่าจะกลับกับ มัน!?” 


ซาโต้ที่เน้นคำว่า มันอย่างสุดเสียงลุกขึ้นตึงตังเดินสวนไปที่ประตู มือที่คว้าจับลูกบิดไว้ บีบแน่นจนเห็นเส้นเลือดสีเขียว


เฮ้ยจะรีบไปไหน เดี๋ยว....


ผมออกไปรอด้านนอก ถ้าหากจะให้ไปส่ง คริสก็ออกมาเรียกละกันนะครับ 


คริสตินยังพูดไม่ทันจบ ซาโต้ก็รีบแทรกขึ้นพร้อมกับก้าวออกไป โมโหตัวเองก็โมโหทั้งที่รู้ว่าไม่มีสิทธิ์แท้ ๆ ยังไปแสดงออกและพูดจาแบบนั้น แต่ภาพตอนที่คริสวิ่งเข้าไปจับเอามือเจ้านั่นขึ้นมาดูทำเอาซาโต้ฉุนจนแทบบ้า


เดฟรีบเดินเข้าไปด้านในถอดทั้งเสื้อเชิ้ตตัวนอกและเสื้อยืดตัวในออกอย่างรวดเร็ว ร่างกายร้อนรุ่มหัวใจเองก็ร้อนไม่แพ้กัน เจ้าบ้าซาโต้ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง มือแกร่งคว้าหมับเอาผ้าเช็ดตัวจากชั้นวางมาพาดบ่าไว้


ตามมันออกไปสิ ผมไม่ไปส่งนะ!”    สารวัตรหนุ่มเดินออกมาพูดอย่างมีอารมณ์  ทิ้งให้คริสที่ไม่รู้เรื่องราวงงเป็นไก่ตาแตกอยู่คนเดียว
 

เอ้า  จะตัดสินใจยังไงล่ะ?” เคนยะยืนกอดอกอมยิ้มอย่างมีเลศนัย


พี่เคน


ถ้าพี่ออกมาแล้วนายยังยืนอยู่ที่นี่ พี่จะพากลับไปด้วยนะ เพราะงั้นรีบตัดสินใจซะ
  

ก่อนจะก้าวเข้าห้องอาบน้ำตามเดฟไป  เคนยะยังพูดจาทิ้งให้น้องชายงุนงงคิดไม่ตก  คิ้วเรียวของคริสขมวดมุ่นคิดไม่ออกว่าผู้คนรอบข้างเขาเป็นอะไรกันไปหมด พี่เคนเป็นอะไรเดฟเองก็ทำท่าทางเย็นชาทั้งที่เมื่อตอนเช้ายังเล่นกันอยู่แท้ ๆ ส่วนซาโต้ไม่ต้องพูดถึงจู่ ๆ ทำหน้าตาบอกบุญไม่รับแบบนั้น  


เมื่อถอนหายใจได้เฮือกใหญ่ ๆ 


จ่าสุรชัย พรุ่งนี้ให้วางรายงานผลตรวจของหลักฐานชิ้นใหม่ไว้ที่โต๊ะเลยนะครับ  แล้วก็ถ้าพี่เคนอาบน้ำเสร็จช่วยบอกว่าผมออกไปกับซาโต้แล้วนะ


หลังออกจากห้องคริสก็เดินตามหาซาโต้ไปทั่วตึก ถามเจ้าหน้าที่หลายคนที่ยังไม่กลับก็บอกว่าไม่เห็น สุดท้ายโทรเข้าก็ติดต่อไม่ได้เพราะสายไม่ว่างอีก กระทั่งรุ่นพี่จากหน่วยปปส.อีกคนที่กำลังหอบของลงลิฟต์มาจากชั้นบนเจอเข้าจึงได้บอกกับคริสว่าเห็นซาโต้เข้าไปเบิกกุญแจชั้นดาดฟ้า ที่ซึ่งเป็นลานจอดเฮลิคอร์ปเตอร์ของหน่วย  เขาจึงได้ตามขึ้นไป


เมื่อเปิดประตูบานเล็กของบันไดทางขึ้นดาดฟ้าออกมาสายลมเย็นก็ปะทะเข้ากับใบหน้าทันที คริสห่อไหล่ด้วยความรู้สึกหนาวสองมือเสยผมที่ปลิวไสวเพราะแรงลม แสงดาวพร่างพรายจากบนท้องฟ้าไม่ได้ทำให้บรรยากาศรอบข้างสว่างไสวเท่าใดนัก  มองเห็นแผ่นหลังกำยำในความมืดของคนที่เขากำลังตามหายืนหันหน้าออกไปอีกฝั่งหนึ่งของตัวตึก พร้อมกลุ่มควันสีหมอกที่ลอยล่องอยู่รอบ ๆ ตัวคน


ซาโต้สูบบุหรี่?


ซาโต้คริสเดินเข้าไปหาแต่ยังไม่ทันจะถึงตัว  อีกฝ่ายหนึ่งก็หันมาเสียก่อน  


แค่นี้ก่อนนะครับเจ


สายลมที่พัดเข้ามากระทบใบหน้ายิ่งเพิ่มความดังของประโยคเมื่อสักครู่ให้ชัดยิ่งขึ้นอีก   ใบหน้าคมหันกลับมาที่เขา ในมือนั้นแนบโทรศัพท์มือถือไว้ที่หูตอบรับกับคนที่อยู่ปลายสายแล้วกดวางลงไป   


คริสตินที่ได้ยินถึงกับยืนนิ่ง


นี่เขาขึ้นมาที่นี่ทำไมกัน?


นี่เขาออกตามหาเพื่อที่จะกลับกับคน ๆ นี้งั้นหรือ?


นี่มันเรื่องบ้าบออะไร? ที่ทำให้เขาเจ็บปวดหัวใจอยู่แบบนี้....ทั้ง ๆ ที่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็บอกกับเขาไว้แล้ว ว่าใครคือคนที่เจ้าตัวเขาจะคบด้วย!


ทะ...โทษที  ไม่รู้ว่านายติดสายอยู่”  


ได้แต่ละล่ำละลักคำพูดแทบไม่ทัน  ซาโต้ใช้มือที่คีบบุหรี่กวักเรียกให้เขาเดินเข้าไปใกล้อีกหน่อย 


จะกลับกับผมเหรอ?”  


ไม่รู้อะไรดลใจให้คริสก้าวเดินเข้าไปยืนอยู่ข้างกัน สายตามองทอดออกไปที่ด้านนอก ทิวทัศน์ในมุมสูงของกรุงเทพยามค่ำคืนสวยงามมากจริง ๆ  ขณะที่อีกคนยืนหันหลังท้าวแขนพิงขอบระเบียงยาวนั่นไว้ สายตาที่ไร้ซึ่งกรอบเลนส์มองตรงไปยังประตูเล็กบานที่ซึ่งคริสเพิ่งเดินผ่านเข้ามาเมื่อสักครู่


ต่างคนต่างก็เงียบ มีแต่ควันบุหรี่สีจางเท่านั้นที่ระเริงลมลอยคละคลุ้งจนหายไปกับความมืดและสายลมอ่อน 


ทำไมวันนี้ถึงสูบล่ะ?”  คริสถามขึ้นเบา ๆ ปกติไม่เห็นเคยจะแตะ


ควันบุหรี่สีขาวถูกพ่นออกมาอย่างหนักหน่วงอีกครั้งก่อนที่ดวงตาสีเข้มจะจ้องมองมาทางเขา


 .....มีความสุข  ”


ความสุข?


แต่ดวงตาที่ปราศจากแว่นบดบังในตอนนี้ คริสกลับมองเห็นว่ามันไม่ได้มีวี่แววของความสุขปรากฏให้เห็นแม้แต่นิด  แต่ถึงกระนั้นคริสตินก็ไม่สามารถเข้าใจความหมายแกมประชดประชันของซาโต้ได้


ผมไม่รู้จริง ๆ ว่านายกำลังคุยกับหมอเจอยู่ถ้ารู้คงไม่มาเรียก ถ้าไงโทรกลับไปอีกดีไหม  เดี๋ยวผมกลับกับ.....


เลิกพูดถึงคนอื่นได้ไหม! 


น้ำเสียงและสายตาที่ดื้อรั้นแย่งชิงคำพูดต่อจากนั้นของคริสไปจนสิ้น   ซาโต้โมโหสุด ๆ กับคำพูดเว้นระยะห่างแบบนั้นของคริส ผมอย่างนั้น ผมอย่างนี้ แต่ก่อนพูดกูมึงสนิทสนมกับเขาอยู่แท้ ๆ 


ชอบมันนักรึไง? ไอ้เดฟน่ะ! 


“ ??!!! ”


มือแกร่งปาก้นบุหรี่ลงพื้นพอบดขยี้เสร็จขายาว ๆ ของเขาก็ก้าวเดินตรงรี่ไปที่เฮลิคอร์ปเตอร์ลำใหญ่ซึ่งจอดนิ่งสนิทอยู่กลางลานดาดฟ้ากว้าง  เขาเตะอัดเข้าไปที่ตัวลำอย่างแรงสองสามทีอย่างระบายอารมณ์


โธ่เว้ย!”  


มึงเป็นอะไรซาโต้?!”   คริสรีบเดินเข้าไปหา แต่ไม่ได้ชิดอะไรนัก  วันนี้ซาโต้แปลกไปทั้งวันจริง ๆ   ดวงตาคมเบนมองมาที่เขาอย่างเอาเรื่องจนคนที่ถูกมองรู้สึกได้ถึงแรงกระตุกที่หางตาคนจ้อง  ซาโต้ย่างสามขุมเดินหน้าเข้าหา


ซาโต้?”


“..........” ไร้เสียงตอบรับ มีแต่สีหน้าเคร่งเครียดที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ซาโต้ท่าทางน่ากลัวจนคริสต้องก้าวถอยหลังอัตโนมัติ


ซา.....!!!


ไม่ทันจะได้เรียกชื่อจบด้วยซ้ำ มือแกร่งกำยำกระชากคนที่ตัวเล็กกว่าให้เข้ามาจนชิดแล้วกดจูบบดบี้ริมฝีปากลงไปอย่างหยาบคาย ใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีลิ้นร้อนจาบจ้วงก็แทรกลึกเข้าไปในโพรงปากอุ่นได้สำเร็จเมื่อมือแกร่งหนาบีบสองแก้มนิ่มของคริสอย่างสุดแรง  เจ็บจนกระทั่งต้องยกสองมือขึ้นมาเกาะท่อนแขนแกร่งของผู้รุกรานเอาไว้


ซ....ซา... 


เสียงกระท่อนกระแท่นจากการพยายามควานหาอากาศเรียกสติจากคนที่กำลังมัวเมาคล้ายคนบ้า   แต่สติสัมปชัญญะของอีกฝ่ายคงขาดผึงไปแล้ว เพราะแม้จะเหนี่ยวรั้งยังไงแบบไหนริมฝีปากที่ถูกครอบครองก็ไม่สามารถหลุดออกจากการกระทำหยาบคายนั้นได้เลย


“...อื้ออ..


ยิ่งต่อสู้ดิ้นรนดึงดัน  ยิ่งปลุกอารมณ์ความต้องการรวมทั้งความโกรธให้โหมทะยานขึ้นสูง  มีกำลังกายมากมายแค่ไหนเขาทุ่มเทเข้าข่มอีกฝ่ายจนหมดสิ้น เหมือนสัตว์ป่าผู้หิวโหยเมื่อร่างกายแข็งแรงดันคนตัวเล็กกว่าจนแผ่นหลังบางชิดติดผนัง  บดขยี้อยู่อย่างนั้นจนตนเองพอใจ รสเลือดแปร่งปร่าในช่องปากปลุกสัญชาตญาณส่วนลึกให้ยิ่งดำมืดขึ้นไปอีก  มนุษย์เราล้วนแต่มีสัญญาณของการล่าและความรุนแรงซุกซ่อนอยู่  ยิ่งต่อต้านยิ่งชอบ ยิ่งดื้อดึงยิ่งอยากเอาชนะ ยิ่งหวงแหนยิ่งอยากได้มาครอบครอง ผิดชอบชั่วดีขาดสะบั้นลงไปตั้งแต่เรียวลิ้นอุ่นชำแรกริมฝีปากบางลงได้นั่นแล้ว  


“...ไม่เอา...ซาโต้! 


เสียงตะคอกแหบพร่าพร้อมร่างกายที่ขัดขืน ขณะซาโต้เริ่มกดตัวอีกฝ่ายให้ต่ำลง เรียวลิ้นหยาบโลนลามเลียลงไปถึงซอกคอขาว คริสรั้งเรียวขายืนต้านไว้จนถึงที่สุด ลมหายใจอุ่นร้อนเสียดสีอยู่ริมซอกหู พาความรู้สึกเสียวซ่านกระสันไปทุกขุมขน  เมื่อรู้สึกตัวว่าตนเองกำลังถูกโจมตีจนหัวใจเต้นไม่เป็นระส่ำ  ริมฝีปากงุ่นง่านของคนเอาแต่ใจก็โฉบลากขึ้นมาแย่งชิงลมหายใจอุ่นร้อนอีกครั้ง ร่างกายกำยำเริ่มสั่นสะท้าน ท่อนแขนแข็งแรงพยายามอย่างยิ่งที่จะรัดรึงอีกฝ่ายให้อยู่ในอ้อมอกใหญ่ขณะที่มือไม้เริ่มรุกไล้ไปทั่ว 


เมื่อซาโต้เริ่มรุกหนักเป็นเท่าตัว  คริสที่ไม่รู้จะทำยังไงแล้วจึงตัดสินใจหยุดนิ่ง!  นิ่งจากอาการขัดขืนดิ้นรนทุกๆอย่าง ลำแขนเรียวถูกปล่อยลงข้างลำตัวอย่างหมดอาลัย ดวงตากลมนิ่งเฉยไร้แววแห่งความรู้สึก   ซาโต้ที่ยังซุกไซ้อยู่ไม่ห่างกว่าจะได้สติก็ใช้เวลาพอสมควร  ไม่ใช่จะปล่อยให้คนตรงหน้าทำอะไรตามใจแค่ไหนก็ได้ แต่จะรอดูว่าเมื่อไหร่ที่คนๆนี้จะหยุดรังแกเขาเสียที  เมื่อไหร่ที่การกระทำบ้า ๆ กับเขาจะหยุดลง  


“..มึงเป็นอะไรซาโต้.....ยังจะทำแบบนี้กับกูอีกทำไมกัน?”   


เมื่อคนหนึ่งหยุด! ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว อีกฝ่ายจึงค่อยถอนริมฝีปากจาบจ้วงออกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ   น้ำตาหนึ่งหยดไหลลงมาผ่านซอกแก้มขาว แต่ซาโต้คงไม่มีวันได้เห็นเพราะเงาสีดำจากคอร์ปเตอร์ลำโตบดบังใบหน้าซีกหนึ่งของเขาไว้  เงาสะท้อนของคนตรงหน้าผ่านดวงตาสีเข้มของซาโต้พบเพียงใบหน้าสุดแสนผิดหวัง 


คริสไม่ได้โกรธที่โดนจูบ คริสไม่ได้โกรธที่อีกฝ่ายทำอะไรรุนแรงแบบนั้น


แต่คริสไม่เข้าใจ


ในเมื่อบอกกับเขาแล้วว่า....จะคบกับใครบางคน


ในเมื่อบอกกับเขาแล้วว่า....ที่ผ่านมาแค่เรื่องล้อเล่น


ในเมื่อบอกกับเขาแล้วว่า....ชายกับหญิงคู่กันถูกต้องที่สุด


แล้วมาทำแบบนี้กับเขาทำไมกัน???!!!


หัวใจของเขา....ความรู้สึกของเขา!   อยากตะโกนถามให้ดังลั่นทั่วทั้งตึก  ใจดวงน้อยกำลังร่ำร้องอยู่ไม่หยุด ยิ่งได้เห็นแววตาแสนเจ็บปวดของคนตรงหน้า ความไม่เข้าใจยิ่งเกิดขึ้นหลากหลายเท่าทวีคูณ


ไม่มีอะไรดีเท่ากับการตัดสินใจหันหลังให้ เพื่อจะได้เดินจากออกมา  แต่อ้อมแขนใหญ่กลับโผเข้าสวมกอด รั้งแผ่นหลังบางเอาไว้อย่างรวดเร็ว ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของซาโต้แทบทะลักทะลายลามจากปลายเท้าขึ้นมาจุกถึงยอดอก บ่ากว้างสั่นเทิ้มจากความรู้สึกร่ำไห้ที่อยู่ภายใน จิตใต้สำนึกร่ำร้องถึงความผิดที่เขาทำกับคนตรงหน้า  ใบหน้าคมกดซุกลงที่ไหล่หลังบางจนแน่น 


ทั้งสองคนปล่อยให้ความเงียบเชียบเข้ามาแทนที่ทุกอย่างอยู่ครู่หนึ่ง


ไม่ขอโทษหรอก...ผมไม่ขอโทษเด็ดขาดซาโต้เสียงสั่น กระซิบพร่าอยู่ที่ริมหูเล็ก 


พูดอะไร!?”


คริสจำตอนที่เราทำภารกิจด้วยกันครั้งแรกได้ไหมจำจูบแรกของเราสองคนได้รึเปล่า?”


ทำไม?”


ผมเริ่มไม่เข้าใจตัวเองแล้ว ว่าระหว่างทะนุถนอมอ่อนโยนกับคริสแบบสุด ๆ หรือว่าบดขยี้รุนแรงเหมือนที่ทำไปเมื่อกี้นี้ คริสชอบแบบไหนกันแน่?”


ซาโต้ มึงพูดอะไรน่ะ!?” คริสพยายามจะหันกลับมามองแต่ก็โดนกอดไว้แน่น 


ผมอยากจะทำมันทั้งคู่เลย อยากอ่อนโยนเวลาที่คริสยิ้มให้กับผม  แต่ก็อยากทำลายให้ย่อยยับเวลาที่เห็นคริสแคร์ใครคนอื่นแบบนั้น!


แคร์คนอื่น?”


ทุกอย่างก็เพราะ อยากให้คริสเป็นของผมแค่คนเดียวเท่านั้น! 


พูดจาเห็นแก่ตัว มึงมีหมอเจเค้าอยู่แล้วทั้งคน!


ไม่ได้คบหรอก....ผมไม่ได้คบกับใครอยู่ทั้งนั้น เรื่องเมื่อตอนหัวค่ำผมประชดทั้งหมดเลย ตอนนั้นพอคิดว่าคริสคบอยู่กับไอ้เดฟผมก็ทำอะไรไม่ถูก อยากจะถามก็ถามไม่ออก มันจุกไปหมด ก็เลยพูดประชดไปแบบนั้น ผม....


อะไรนะ?!”   ไม่ได้คบประชดเรื่องผมกับเดฟ?


ตอนนี้ผมไม่สนอะไรแล้ว คริสจะคบกับใครอยู่ก็ช่าง จะแคร์ใครผมไม่สน  ผมจะเอาคริสคืนมาให้ได้ ทั้งที่ผมรู้จักคริสก่อนแท้ ๆ จู่ ๆ ไอ้เดฟมันมาจากไหนคริสถึงไปตกลงใจกับมันเร็วขนาดนั้น ผมน่ะ....


เดี๋ยว! เดี๋ยวนะซาโต้


ผมไม่สน  ยิ่งได้ทำแบบเมื่อกี้ผมยิ่งไม่ยอมปล่อยคริสไปเด็ดขาดเลย


เดี๋ยวก่อนซาโต้หยุดพูดก่อน  เรื่องที่ว่าผมคบกับเดฟน่ะ ใครบอกกัน? ใครบอกนายว่าผมคบกับเดฟอยู่?” 


ก็ผมเห็นนะ  ที่โรงพยาบาลนั่นคริสบอกชอบมันแล้วยังนอนให้มันกอดอยู่บนเตียง ฮึ อย่ามาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ซาโต้ออกท่าทางเป็นเด็ก ๆ ขณะที่คริสเริ่มเข้าใจเรื่องทุกอย่างกระจ่างชัด ในที่สุดจึงหันหน้ามามองซาโต้ใกล้ ๆ


เพี๊ยะ!


คริสตบลงบนหน้าผากซาโต้อย่างแรงจนอีกฝ่ายหน้ามุ่นงุนงง ไม่ได้คบโว๊ย!


หือ??”


งี่เง่า!  ทีหลังไม่รู้ก็ให้ถามสิ   คิดเองเออเองแบบนั้นแล้วเป็นไง?”


มะ....ไม่ได้คบ??”


ก็เออสิวะ  กูจะโกหกมึงเพื่อ?”


แล้ว....???


แล้วที่มึงเห็นน่ะ มันก็เป็นอุบัติเหตุกูล้มลงไปเดฟเขาเลยรับเอาไว้ ส่วนเรื่องที่บอกว่าชอบนั่นน่ะ กูพูดถึงมึงต่างหากไม่เกี่ยวกับเจ้านั่นเลยสักนิด!”  ชิชะ มาหาว่าเขาคบกับเดฟ จะบ้าเร๊อะ


จริง?!!  จริงรึเปล่า?!  จริง ๆนะครับอย่าหลอกผมนะซาโต้ดีใจจนออกนอกหน้าเขย่าแขนคริสไม่หยุด


ฮึ่ยย  มึงนี่น้า ทำเอากูปวดตับไปทั้งวัน  เป็นตำรวจเสียเปล่าจริง ๆ สืบค้นข้อมูลแบบไหนกันวะถึงมาสรุปเรื่องกูกับเดฟแบบนั้น


อ้าว ไม่เคยได้ยิน? เขาว่าคนที่เก่งเรื่องงานมักตกอับเรื่องความรักนี่ครับ 


เพิ่งเคยได้ยินจากมึงนี่แหละ ไม่ต้องมาแก้ตัว ไป..กลับกัน


งั้น...วันนี้ไปค้างด้วยนะซาโต้คว้าเอาคอคริสเข้ามากอดจนแน่น แล้วส่งเสียงอ้อน ๆ 


ไม่เอาอ่ะ วันนี้พี่ฟ็อกซ์ไม่อยู่จะไปนอนกับพี่เคน


โอ๊ยเคนน่ะเค้าโตแล้ว คริสจะไปนอนด้วยทำไม๊?? ” เขาสองคนเดินลงบันไดแคบ ๆ มาตามทาง ซาโต้มองรอยขบกัดขึ้นสีแถวลำคอขาวที่เกิดจากการกระทำของตัวเองเมื่อสักครู่อย่างรู้สึกผิด แต่แววตานั้นกลอกกลิ้งเจ้าเล่ห์เหลือหลาย


เอ่อ...คริส  รอยอะไรอยู่ที่คอน่ะ?”  


หืมรอยอะไรวะ?”  คริสลองลูบๆจับดูอย่างไม่ใส่ใจเพราะเขาไม่สามารถมองเห็นได้


ปะ....เปล่า ยุงมั้ง?! ช่วงนี้เห็นออกข่าวยุงสายพันธุ์ใหม่กำลังออกอาละวาด”  เมื่อรู้ว่าอีกคนไม่รู้เรื่องก็แก้ตัวไปเรื่อยเปื่อย 


อือ...แต่ไม่คันนะ  ช่างมันเหอะเดี๋ยวก็หายไปเอง  ผิวกูนี่ไม่รู้เป็นไงโดนอะไรกัดนิดกัดหน่อยก็แดง แพ้ง่ายฉิบหายเลยว่ะ


ระ....เหรอครับ  แล้ว...ชอบไหมอ่ะ? ชอบแบบไหน?”


ชอบอะไรวะแบบไหนอะไรยังไง?”


ก็...แบบอ่อนโยนหรือว่ารุนแรงอะไรแบบนั้นน่ะ?”


“!!??” 


อายหรา??”


นี่! ว่าแต่เมื่อกี้หมอเจเค้าโทรมาหรือว่ามึงโทรไปกันล่ะ?” รีบเปลี่ยนเรื่องน่าจะดีกว่า 


ไม่บอก!ซาโต้ชิงปฏิเสธ ทำเอาคริสถึงกับฉุน  ปัดโถ่! กูก็แค่ถามเปลี่ยนเรื่องเว้ย ใช่ว่าจะอยากรู้จริง ๆ ซะหน่อย ชิ


ตอบดิ๊!คริสเร้า


คริสตอบผมก่อนดิ  แล้วผมจะตอบนะ เร๊ว!


ไม่เอาอ่ะ คำถามมึงโคตรงี่เง่า


บอกให้รู้....ผมน่ะอ่อนโยนแค่กับคริสคนเดียวนะ  ซาดิสต์ก็กับคริสคนเดียวเหมือนกัน! หึหึ


ไอ้บ้า! ถึงรถแล้วออกรถโว้ย! อย่าพูดมาก


คริสหน้าแดงทำไม?”  ยังจะมาถามก็เพราะมึงไม่ใช่รึไง?!


น่ารักซาโต้ในตำแหน่งคนขับเอนตัวพิงมาที่หน้าอกคนด้านหลังแล้วทำปากเป็นสัญลักษณ์จุ๊บๆแบบเซกซี่ใส่คริสสองที เล่นเอาอีกฝ่ายที่หน้าแดงอยู่แล้วยิ่งขึ้นสีหนักเข้าไปอีก


ในที่สุดรถมอไซด์คันเดิมของฟ็อกซ์ก็เคลื่อนตัวออกไปอีกครั้ง........ที่มุมหนึ่งใต้ต้นลีลาวดีใหญ่ใกล้ประตูทางออก อากาศเย็นๆในเวลาตีหนึ่งแบบนี้โรแมนติกใช่เล่น  หากว่าจะมีคนมาซ้อนท้ายเขาบ้างสักคนดั่งเช่นรถคันที่เพิ่งตีโค้งเลี้ยวซ้ายออกไป  เดฟทิ้งก้นบุหรี่อันที่ไม่รู้เท่าไหร่แล้วลงที่พื้น นัยน์ตาเพ่งมองที่หน้าจอโทรศัพท์มือถืออยู่อย่างนั้น  นิ้วแกร่งลูบกระจกจอที่บิ่นร้าวเบา ๆ  เมื่อนึกถึงครั้งแรกที่เจอกัน  เหตุผลที่เขาตั้งใจไม่เอามันไปซ่อม ก็เพียงเพราะว่า คริสตินเป็นคนทำมันแตก....ก็แค่นั้น


เบอร์โทรคุ้นเคยถูกกดโทรออกอย่างง่าย ๆ 


คืนนี้เจอกันหน่อยสิ?”


อะไรกันฮะดึกดื่นป่านนี้โทรมาหา คิดว่าผมว่างอยู่ตลอดรึไง?’


จะมาไม่มาล่ะ?”


เด็กคนนั้นเขาไม่ยอมกลับด้วยล่ะสิ ถึงได้เรียกผมน่ะ?’


พูดมาก


ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ หลงรักแฟนเพื่อนตัวเอง เจอปัญหายุ่งยากเข้าแล้วพี่เรา


คืนนี้นายไม่ต้องนอนนะ โทษฐานทำเป็นรู้ดีเรื่องคนอื่น


ไม่ไหวเลยน้า  เห็นผมเป็นที่ระบายอารมณ์แทนคนอื่นอยู่เรื่อย


อีก 15 นาทีเจอกัน


เดี๋ยว! อย่าเพิ่งวางสิฮะ


อะไร?!”


ถามจริงเวลานอนกับผมเคยนึกว่านอนกับคน ๆ นั้นบ้างรึเปล่า?’


 ....ไม่เคยหรอก 


ใจร้ายจังนะฮะ  โกหกไม่เนียนอีกตามเคย


วางแล้วนะ




Tbc.