Saturday, January 30, 2016

กวน T-E-E-N รัก (ภาคพันธนาการหัวใจ) # 33





[บทที่33]




หลังจากคืนนั้นผ่านพ้นไปเกือบสองสัปดาห์

เมื่อพระจันทร์ลอยเด่นอยู่เหนือไร่แห่งรัก ใบองุ่นสีเขียวสดสะท้อนเงาของดวงจันทร์ที่มีเมฆาเคลื่อนตัวพาดผ่านด้วยสายลมอ่อนจาง

ท่ามกลางความมืดมิด ม่านหน้าต่างสีครีมยังโบกไสวม้วนชายขึ้นลงพลิ้วไปกับกลิ่นของลมเหมันต์ สภาพอากาศที่จู่ๆก็หนาวเย็นพาให้ร่างที่นอนซุกตัวอยู่ในผ้าห่มนวมผืนหนาแทบจะคลุมโปง กระชับหมอนข้างกอดให้แน่ยิ่งขึ้นไปอีก

หูยยยย หนาววววววว

แคปโยนโทรศัพท์มือถือทิ้งแบบลวกๆหลังจากกดวางสายลงไป

คุยกับใครงั้นหรือ?

คนเดียว! คนเดิม!! และคนเก่า!!!

นั่นแหละ..

คุณชายกลางแห่งรัชชา ไม่ใช่คุณชายกลางแห่งบ้านทรายทองอะไรนั่นหรอกนะ แคปไม่ได้รันทดขนาดจะเป็นคุณนายพจมานไปได้ นางเอกขนาดนั้นเขาขอบาย ยังติดนิสัยนางร้ายเยอะอยู่

แคปขมริมฝีปากยิ้มอยู่คนเดียว เมื่อนึกไปถึงเรื่องราวครั้งล่าสุดในห้องทำงานหรูหราของใครบางคน เอาจริงๆเสียงร้องเครือครางอร๊างอ๊าส์ของตัวเองยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าเป็นบ้าร้องออกมาแบบนั้นได้อย่างไร ทั้งท่าทางที่ไม่ได้ต่อต้านและสมยอมนั่นอีก เอสมันทำท่าจะเอาอะไรจะกินจะเลียตรงไหนของร่างกายนี้เขาก็ยอมแอ่นให้แบบง่ายๆ คิดแล้วแม่งเอ๊ย ได้แต่อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ตรงไหน

แคปกระชับหมอนข้างคู่ใจอีกรอบ ซบซุกใบหน้าเข้าไปจนจมหมอนสีตุ่นไม่รู้ว่าจะโกรธดีหรืออายดี เอาแน่ๆความรู้สึกอีกอย่างคือ

โคตรเขิน...

เมื่อนึกถึงตอนนั้นขึ้นมาอีกไม่รู้ต่อกี่รอบ ตอนที่ร่างกายของเขาค่ายๆถูกกดลงไปบนแก่นกายร้อนผ่าวนั่น ตอนที่เอสมันสวนร่างกายขึ้นมา ตอนที่เขาร้องครางเสียงหลง ตอนที่ดวงตาสองคู่สบกัน ตอนที่ร่างกายสองร่างยังขยับอยู่ไม่ยอมหยุด และตอนในตอนที่ความปรารถนาถูกปล่อยออกมาจนทะลักทลาย ทุกอย่างเหมือนถูกดึงขึ้นไป หัวใจอาบไปด้วยความเต็มอิ่ม เม็ดเหงื่อผุดพราย สลบไสลอยู่บนไหล่กว้างและบ่าหนานั่น

ฝ่ามือใหญ่ที่เฝ้าลูบหลังปลอบประโลม

มันอบอุ่น อ่อนหวาน ซ่านใจดีเป็นบ้า

เขินอีกแล้วว่ะแม่ง

กูน๊อกูวววววววววว

แค่กๆๆๆ พรวดดด

ไม่จริงไอ้สัส! กูยังเป็นผู้ชายอยู่ กูเป็นผู้ชาย กูยังเป็นผู้ชายแน่ๆ ไอ้สัสเอสมันปล้ำกู วันนั้นมันปล้ำกู ใช่แล้วมันปล้ำกูจริงๆนั่นแหละ ไอ้คนเลว ไอ้คนชั่ว คนนิสัยแย่มากๆ มันเอาแต่ใจ มันปล้ำกู เอสมันปล้ำกู!!

จู่ๆแคปลุกพรวดขึ้นนั่ง สองมือกำผ้าห่มหนาไว้แน่น สีหน้าแดงก่ำ ไม่รู้เพราะโกรธหรืออายหรือรู้สึกว่ามันดีจนแทบจะบ้า เขาขยี้หัวทุยๆของตัวเองจนยุ่งเหยิงก่อนที่ลมหอบหนึ่งจะพัดผ่านบานหน้าต่างเข้ามาอีกระรอก  ใบหน้าร้อนผ่าว ๆ ราวถูกเหล็กนาบทั้งที่เป็นลมจากอากาศที่หนาวเหน็บแท้ๆ ทว่าหลังจากนั้นมุมปากกลับจุดรอยยิ้มขึ้นมาแทบไม่รู้สึกตัว เขาล้มตัวลงนอนอีกครั้งแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาจนชิดคอ โผล่ให้เห็นแค่หัว ทั้งไม่เข้าใจตัวเองทั้งเข้าใจทั้งพยายามที่จะเข้าใจ

ทุกความรู้สึกต่อต้านตีกันมั่วซั่วไปหมด

บ้าชะมัด!! 

แคปนอนกลิ้งเขินอายอยู่แบบนี้มาหลายวันแล้ว

โถวไอ้คาปู นี่ชีวิตมึงจะไม่ได้เสียบใครอีกแล้วจริงดิวะโฮ้ยยยย!! กูล่ะสงสารมึงจากใจจริงจริ๊ง!!!!

ว่าจบทุบหมอนดังผลั่ก ถอนหายใจพรืดจนปอยผมที่ตกลงมาปรกตาสะบัดพลิ้ว

ซุกหน้าลงในหมอนนุ่ม  นึกถึงบทสนทนาเมื่อสักครู่ที่เขาโทรบอกไอ้จอมลามกซึ่งนั่งบัญชาการอยู่ที่ตึกรัชชานั่น


พรุ่งนี้ไม่ได้ไป อาทิตย์หน้ากูถึงจะเข้าไปหามึง

“.................” ทางนั้นเสือกเงียบไป แคปเริ่มใจเสีย

กูว่าแล้ว

อย่าเงียบดิวะ กูก็บอกมึงตามตรงอยู่นี่ไง ไม่มีปิดไม่มีบัง ไปได้ก็บอก ไปไม่ได้กูก็บอก ถ้าหายหัวไปเลยมึงเองก็จะเป็นห่วงใช่ไหมล่ะ

ได้ยินคนทางนั้นทำเสียงขึ้นฮึจมูก คำรามเบาในลำคอ หากแต่แคปกลับเย็นวาบตั้งแต่ปลายเท้าลามขึ้นมาจนถึงหัวใจ

หยะ..อย่าเงียบดิวะ กูไม่ว่างแค่สองอาทิตย์เองแค่สองอาทิตย์ เท่านั้นไม่ใช่ตั้งสองอาทิตย์นะ มันแปปเดียวเองจริงๆ จริงจริ๊ง!!

“...................”

ไอ้เอส

“.................”

เอส

“..................”

เอสครับ” 

“..................”

กะ....

ไหนว่าจะจีบ

“???”

แคปกลืนน้ำลายดังเอื๊อก!

ไหนว่ามึงจะจีบกู มึงชอบกูไม่ใช่เหรอ ชอบกูก็ต้องตามจีบกูดิ

เดี๋ยวก่อน  กูเคยบอกว่าชอบมันด้วยเหรอวะ 

กะ..กะ..ก็จีบนั่นแหละ ตะ..ตะ...ตะ...ตะ...แต่มันไม่ค่อยมีเวลาไง

กูไม่เข้าใจมึงเลย

ตายๆๆๆๆ ที่รักกูไม่เข้าใจ

เออนั่นแหละ กูจีบนะ ยังจีบมึงอยู่แต่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะงั้นขอจีบทางโทรศัพท์ก่อนได้ป่ะล่ะ เอาไว้ไปเจอกันแล้วกูจะจีบให้จังเบอร์เลยให้หอมแก้มด้วย ให้ทำทุกอย่าง

“..............”

ตายห่าเลย มันเงียบอีกแล้ว

ไอ้เลวววววว มึงเงียบทำไมฟร๊ะ!

อย่างอนนะเว้ยกูง้อไม่ค่อยเป็นนะให้ตาย

“..............”

เอส..”  แคปเสียงอ่อนฮวบลงไป ไม่ใช่แค่เสียง ใจเองก็ยวบลงด้วย

แล้วจะมาหาเมื่อไหร่ทางนั้นถามกลับมา แคปรีบโพล่งคำตอบออกไป อาทิตย์หน้า

ถ้ามีงานขึ้นมาอีกล่ะ มึงก็จะเลือกงานอีกใช่ไหม

ไม่ใช่แบบนั้น

กูอยากเจอมึง

รู้

งั้นต่อไปนี้กูจะจีบเอง

หา?!”

ตามนั้น

เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้มึง...มันบอกว่าจะจีบเอง จะจีบเขาเองงั้นเรอะ

เปิดกล้องดิ๊

เฮ้ยเปิดทำไม ไม่เอา

เปิด

ไม่เอาจะนอนแล้ว กูไม่เปิด

นอนแก้ผ้าหรือไงถึงไม่กล้าเปิด ไม่ต้องอายหรอกน่า กูเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

ไอ้สัสไม่ใช่แบบนั้นแคปหน้าแดงแปร๊ด

เปิดเร็วๆแคป

ไม่เอาไม่เปิดขี้เกียจ วันนี้อ้วนด้วยกินข้าวเยอะจ๊าดใครจะไปเปิดให้ดูหน้าเต็มๆกันเล่า

แคป

ไม่เปิด ไม่อยากเปิดนี่

นับแค่สาม

เปิดให้เห็นแค่สองวิแคปยู่ปากต่อรอง

ได้ เปิดสิคนฟังอมยิ้ม

แวป!!

แค่นั้นแหละ

ไม่เห็นหน้าเลยเหอะ มืดจะตาย

แคปหัวเราะร่า อีกฝ่ายก็แค่ต่อว่าไปเรื่อยๆ สองคนคุยกันนานจนลืมเวลา สุดท้ายแคปมันจะหลับคาหมอนไปแล้วสองสามรอบ เอสถึงค่อยกระชากเสียงเรียกให้อีกคนลืมตาโพลงขึ้นมา

ไอ้สัสกูตกใจ

หึหึ อ้วนตกใจเหรอครับ น่ารักว่ะ ขี้เหร่เอ๊ย

ปากเสีย เอาให้แน่จะชมน่ารักหรือจะด่าว่าขี้เหร่

เอสถึงกับพ่นขำเขาบอกอีกรอบว่าเมื่อกี้พูดผิด แคปน่ะขี้เหร่มั่กมากไม่ใช่น่ารัก พอฟังแบบนั้นแคปแยกเขี้ยวขู่ฟ่อๆ คนฟังจึงหัวเราะไม่หยุด

ลดหน่อยดิวะน้ำหนักอ่ะ เดี๋ยวยกไม่ไหวท่านั้นจะไม่ได้ทำนะบอกไว้ก่อน

บ้า ท่าเหี้ยไรแคปเข่นเขี้ยว เอสยังบ้าขำอยู่ไม่หยุดจากที่เกือบทะเลาะกันในตอนแรกไปๆมาๆก็คุยกันต่อไปเรื่อยๆ นอนกันเถอะดึกแล้วไหนว่าพรุ่งนี้จะตื่นมาปั่นจักรยานใช่ไหมล่ะ

พรุ่งนี้กูไปหาไม่ได้ มึงไม่โกรธนะ

อืม”  เอสรับคำเบา ๆ หากแต่แคปขมวดคิ้วนิดหน่อย เพราะว่าอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะโวยวายเหมือนตอนแรก เอสมันกลับข้ามเรื่องนี้ไปแล้วทำท่าชิลๆ

เออว่ะแทนที่เขาจะจะสบายใจ ใจดันหายขึ้นมาอีก

นี่แหละอิทธิพลของความรัก

รักแล้วคิดมากคิดมาย เรื่องเล็กน้อยเท่าขี้ตาก็เก็บมาคิดซะใหญ่โต บางทีก็นึกแปลกใจตัวเอง แคปเงียบหายไปจนเอสต้องเรียกออกมา พอคุยกันต่อเขาจึงปัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปจากใจ กลับมาคุยกันได้เหมือนปกติ

ทำความเข้าใจกับถ้อยคำที่เขาบอกอีกฝ่ายไปเอง บางทีคนเรามันก็ต้องเว้นที่ว่าง ให้พื้นที่ส่วนตัวในชีวิตของกันและกัน ไม่เหนี่ยวรั้ง ไม่ดึงดัน เราสองคนจะได้เข้าอกเข้าใจ

พอคิดได้แบบนั้นมุมปากเล็กกระตุกรอยยิ้มขึ้นมา

เดี๋ยวพฤหัสหน้ากูไปหานะ คิดถึงกูให้มากๆล่ะรู้ไหม

เสียงทุ้มปลายสายหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะบอกให้แคปกดวางสายไปก่อนแล้วตัวเองถึงจะวาง

เขาไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย จะมาดูแลความรู้สึกเหี้ยไรนักหนาวะแม่ง

แต่มันก็ดีล่ะนะ

ดีจนแคปเผลอยิ้มกว้างแล้วกลิ้งตัวไปมานั่นแหละ







เสียงดนตรีจังหวะคึกคักดังออกมาจากงานรื่นเริงริมสระว่ายน้ำของโรงแรมดัง ทันทีที่เขาก้าวเข้ามา สายตาทุกคู่ของหนุ่มสาวในงานต่างโฟกัสไปที่ร่างสูงสง่าในชุดสูทสีเข้ม ใบหน้าคมที่แสนเย็นชากับดวงตาคู่สวย เป็นที่รู้กันในวงสังคมว่าความหล่อของเขานั้นแสนอันตราย คล้ายกับหุบเหวแห่งไฟที่ลึกจนเกินหยั่งไม่ว่าใครอยู่ใกล้มักจะมอดไหม้และตกลึกลงไปจนหาทางออกได้ยากยิ่ง

ผู้ชายยิ้มยาก เข้าถึงไม่ได้และไม่ว่าใครก็หวังที่จะได้เห็นรอยยิ้มที่น้อยคนนักจะเคยได้เห็น รอยยิ้มที่เผยให้เห็นฟันกระต่ายสีขาวที่เรียงตัวเป็นชั้นอย่างมีเสน่ห์ หากแต่ตอนนี้ยังไม่มีรอยยิ้มแบบนั้นฉาบอยู่บนใบหน้าคม  เอสฉวยเอาเครื่องดื่มในแก้วทรงสูงจากบริกรที่เดินเสิร์ฟมาถือไว้ก่อนจะมองเห็นว่าญาติผู้พี่ตัวเองอยู่ที่จุดไหน

กว่าจะมาถึงนะมึง

ติดประชุม

คนตอบเขย่าไวน์ในมือแล้วยกขึ้นจิบ กวาดสายตามองโดยรอบก่อนที่ลูกพี่ลูกน้องคนสนิทที่เป็นถึงนายทหารคนดังจะเรียกบริกรอีกคนให้เข้ามารับสูทเนื้อดีจากทายาทหนุ่มแห่งรัชชาไปเก็บเอาไว้ให้  เอสปลดกระดุมเสื้อลงสามเม็ดเผยท่าทีสบายๆ

เสียงดนตรีเปลี่ยนจังหวะเป็นแซกโซโฟนบรรเลงเพลงที่ให้อารมณ์สุดแสนเซ็กซี่ สาวสวยในชุดรัดรูปสีแดงสด ลำคอเพรียวระหงคว้านลึกยังมีขนเฟลอร์สีขาวนุ่มสวยคล้องอยู่ เธอเดินเข้ามาส่งรอยยิ้มยั่วยวนก่อนทิ้งสะโพกสวยนั่งลงข้าง ๆ

เอสเพียงแค่ปรายตามองเธอเท่านั้น

หวัดดีค่ะเอสเธอร์ไม่เจอกันนานนะ

งานฉลองวันเกิดของญาติผู้พี่ในแวดวงชั้นสูง งานน่าเบื่อที่เอสไม่เคยจะนึกชอบเลยสักนิด

หนาวไหมคะ แจนช่วยให้คลายหนาวได้นะเธอใช้สายตาเปิดเผย ขยับชิดเข้าไปอีกเบียดหน้าอกอิ่มเข้ากับต้นแขนแกร่ง บุคคลฝั่งตรงข้ามอย่างนายทหารมองยิ้ม ๆ หากแต่พอดูใบหน้าญาติผู้น้องตัวเองแล้วเขาถึงกับนึกกลัว กำลังจะอ้าปากขอความเป็นส่วนตัวจากเธอ เลขาหน้าโหดของเอสก็เดินเข้ามาถึงพอดี

ขอโทษครับนายปอโค้งศีรษะทำความเคารพเจ้าของงาน ก่อนที่จะหันมากล่าวขอโทษกับเจ้านายตัวเอง รถติดหนักมากทำให้เขาเสียเวลา วนอยู่กว่าสองรอบกว่าจะเข้าถึงที่จอดได้

ตามสบายเลยนะปรเมท

ขอบคุณครับหมวด

ปอรับเครื่องดื่มมาจากเจ้าของงานอย่างมีมารยาทก่อนจะวางแก้วลงแล้วลุกขึ้นยื่นมือเข้าไปหาสาวสวยคนข้างกายของเจ้านายตน

เต้นรำกับผมสักเพลงนะครับ

สาวชุดแดงแก้มสีสุกปลั่งหันมองเอสที่ไม่ได้แยแสเธอแม้แต่นิด หากแต่ปอกลับจ้องหน้าเธอแล้วส่งยิ้มให้ ในที่สุดเธอยอมปล่อยมือออกจากแขนแกร่งของคนที่เธอสนใจแล้วตอบรับออกไปเต้นรำกับเลขาหมายเลขสองของรัชชาด้วยสีหน้าเขินอาย

หึ  เลขามึงนี่รู้งานดีจริงๆนะ” 

เมื่อโดนญาติผู้พี่แซวเอสจึงกระตุกรอยยิ้มครางรับในลำคอ

ดวงตาคมกริบมองไปที่ฟลอร์ตรงกลางที่มีคู่รักหลายคู่เต้นรำอยู่ด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือคู่ของปรเมท เต้นไปคุยไป จบไปถึงสองเพลงปอเดินกลับมาพร้อมสาวสวยคนนั้น เธอฉีกยิ้มเอียงอายกำลังจะนั่งลงข้างกายเอสเช่นเดิมหากแต่คราวนี้คนที่เธอคิดว่าช่างแสนสุภาพอย่างปอชิงนั่งลงข้างกายเจ้านายของเขาแทนที่ผู้หญิงอย่างเธอ

คนสวยหน้าเสีย เสียงขำเบา ๆ ดังออกมาจากหญิงสาวสามสี่คนที่นั่งขนาบข้างนายทหารคนดัง เอสที่กำลังหันไปคุยอยู่กับใครอีกคนหันกลับมามองนิดหน่อยหากแต่ไม่ได้สนใจ สาวชุดแดงคงเสียหน้าพอสมควรเธอฉวยเอาแก้วเครื่องดื่มแล้วเดินตึงตังออกไปยังโต๊ะที่เต็มไปด้วยเพื่อนฝูงของเธอ

ใจร้ายจริงๆนะมึงนายทหารค่อนขอด เอสส่ายหัวมองเลขาตัวเองก่อนตอบลูกพี่ลูกน้องออกไป

จะว่ากูก็ดูตัวเองซะก่อน

ฮึ เห็นเมื่อก่อนชอบ ก็นึกว่ายังเพลบอยตัวพ่ออยู่  ทิ้งลายอีกแล้วเหรอวะ

คนฟังแค่นเสียง ก่อนหันไปใช้สายตาสั่งเลขาว่าให้ขยับห่างออกไปเสียที ไม่รู้จะนั่งชิดใกล้อะไรนักหนา

ผมกลัวจะมีผู้หญิงมานั่งใกล้เจ้านายอีกปอตอบหน้านิ่งสำเนียงซื่อ  แต่เรียกสีหน้าแปลกใจจากเจ้านายเขาได้ เอสถึงกับคิ้วกระตุก

มึงก็เลยมานั่งเบียดกูอยู่แบบนี้เนี่ยนะ

ปอพยักหน้าเบา ๆ เขาขยับห่างออกไปอีกประมาณสองเซ็นต์ เอสชำเลืองมองแล้วก็ส่ายหัว ได้ค่าจ้างจากเพื่อนมึงมาหรือไง

ก็หลายตังค์อยู่ครับนาย หรือจะให้แคปมันต่อเข้ามาอยู่ในสายตอนนี้เลย ผมเองก็พร้อม

เอสหรี่ตาจ้องหน้าเลขาส่วนตัว บางทีก็นึกหมั่นไส้มันแบบฉิบหายเลยให้ตาย แต่นึกอีกทีช่างโชคดีจริงๆที่วันนั้นเขาเลือกให้ปอมันมารับตำแหน่งนี้

เชื่อไหมว่าคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดสำหรับเขาไม่ใช่ใครที่ไหน ไม่ใช่ไอ้แบงค์ ไม่ใช่ใครต่อใคร หากแต่เป็นไอ้หมอนี่นี่แหละ...ปอ เพื่อนสนิทที่สุดของแคป

ทำหน้าที่ของมึงได้ดีมาก เอสจรดแก้วเหล้าเข้ากับริมฝีปาก

ขอบคุณครับนาย

งานเลี้ยงแบบเป็นส่วนตัวจบลงในเวลาไม่ดึกมากนัก กว่าเอสจะขอแยกตัวออกมาได้ปอนี่มึนจนเกือบจะเมา ดีหน่อยที่เขาฝึกมามากพอ ในตอนที่คุณนาคินฝึกฝนฝีมือการใช้อาวุธการต่อสู้และวินัยในการทำงานให้กับเขา มันมีคอร์สดื่มเพื่อเจ้านายด้วย ในตอนนั้นเขานึกกังขาอยู่ตลอด มาถึงบางอ้อเอาเมื่อตอนไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ที่เอสต้องออกงานสังคมมากมาย และเขาต้องทำหน้าที่ดื่มแทนเป็นครั้งคราว ช่วยรับมือและกันหญิงสาวมากหน้าหลายตาให้ถอยห่าง ถึงอย่างนั้นก็มีบ้างบางคนที่เล็ดลอดเข้าไปจนได้

ถึงตอนนี้ถ้าถามว่าหากจะต้องนอนกับบรรดาผู้หญิงพวกนั้นแทนเจ้านายตัวเองเขาจะสามารถทำได้หรือไม่ คำตอบก็คือ ได้

ไม่ใช่เพื่อหน้าที่ หากแต่เพื่อเพื่อนรักของตัวเอง

บอกแล้วไงคนอย่างเขา ไม่เหมาะที่จะมีใคร และไม่เหมาะที่จะรักใครหรือรับผิดชอบหัวใจใครทั้งสิ้น

เพราะความคิดที่ว่า...มิตรภาพของคำว่าเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญและยึดเหนี่ยวหัวใจของเขาให้ก้าวเดิน...เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว









พ่อกับอาฟี่จะไปมัลดีฟ!!

เด็กไม่รู้จักโตสองคนแหกปากขึ้นพร้อมกัน โก้ตีแขนลูกชายคนเล็กเบา ๆ

โวยวายอะไรเจ้าแคป

แคปที่นั่งอ้าปากหวอในมือยังถือแก้วเอสเพรสโซ่เย็นเจี๊ยบ ข้าง ๆ กันมีเจ้าอาร์ที่ทำหน้าที่เป็นลูกคู่ชั้นดีอยู่

กรุ๊ปทัวร์จีนเพิ่งมาลงสองคันแต่ตอนนี้แคปกับอาร์เคลียร์ได้หมดจดเรียบร้อยสมบูรณ์แบบ เขาสองคนมานั่งดื่มกาแฟแก้เมื่อยทั้งๆที่อากาศวิปริตหนาวสะบัดในรอบหลายสิบปี(กรมอุตุฯว่างั้น)

คาปูเข้าไปใส่เสื้อให้หนาๆหน่อยไป อาร์เองก็เหมือนกันเสื้อกันหนาวเยอะแยะทำไมสองคนยังใส่แค่เสื้อยืดตัวเดียวแบบนี้ล่ะ
แคปก้มมองเครื่องแต่งกายของตัวเองแล้วมุ่นคิ้ว เขาตื่นแต่เช้ามาออกกำลังทำโน่นทำนี่สั่งงานนายโชนอยู่ในสวน เรื่องหนาว? ไม่กลัวอยู่แล้ว ที่สำคัญเสื้อยืดที่ใส่มันแขนยาวนะ ก็อยากรับอากาศเย็นมั่งไรมั่งแหละ มันได้ฟีลดี

เฮียโก้อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่องดิ บอกผมมาก่อนเรื่องจะไปเที่ยวกับอาฟี่น่ะ เรื่องจริงเหรอครับแล้วจะไปเมื่อไหร่กันน่ะ

อีกสามสัปดาห์ อาฟี่เคลียร์งานเสร็จเห็นว่าจะลาพักร้อน

พาผมไปด้วยดิ นะๆแคปแกล้งอ้อน เจ้าร์อาร์เองก็ใช่ย่อยอ้อนตาม

ใช่ๆครับใช่ พาพวกผมไปด้วยสิครับเฮียโก้ คิดเสียว่าพาพนักงานตัวเล็กๆไปพักผ่อนก็ได้ ชาร์ตไฟกลับมาผมทำงานเต็มที่เลยไงเนอะแคปเนอะ

คาปูกับอาร์อยากไปเหรอลูกโก้อมยิ้ม พลางหยิบโถเมล็ดกาแฟที่คัดเสร็จเรียบร้อยไปวางไว้ที่ใหม่ เขาเดินเข้าไปดึงแก้วกาแฟเย็นของแคปออกจากมือแล้ววางลงให้ ลูกชายจอมกวนมือเย็นเฉียบทำหน้าบอกหนาวๆๆ

ผมสัญญาฮะว่าจะกินไม่จุ จะนอนเบียดกันกับเจ้าอาร์ จะกินแต่มาม่า เราสองคนจะไม่ใช้เงินเกินงบเลยแม้แต่บาทเดียว

ใช่ๆอาร์เสริมความ ทำให้โก้มองสองคนแล้วส่ายหัวอย่างละเหี่ยใจ

ไม่ใช่ว่าพ่อจะใจร้ายนะ แต่ทริปนี้อาฟี่บอกว่าเป็นทริปของฝาแฝดเท่านั้น

หือ? ทริปฝาแฝดหมายความว่าไงครับพ่อ

ก็คนที่ไปต้องฝาแฝดเท่านั้นไง ไม่ใช่แฝดไม่อนุญาตให้ร่วมทริปนะ

อ้าวสองหนุ่มอ้าวขึ้นมาพร้อมกัน หน้าตาผิดหวังสุดๆ

น่านะ เอาเป็นว่าเดี๋ยวกลับมาพ่อซื้อขนมอร่อยๆมาฝาก แคปกับอาร์อยากได้อะไรจดรายการมาเลยเดี๋ยวพิจารณา ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นไม่ต้องเสียใจพ่อไปแค่อาทิตย์เดียวเองไม่ใช่จะนาน

ตั้งอาทิตย์นึง!เหมือนนัดกันอีกครั้ง สองคนพูดจบมองหน้ากันแล้วก็ขำ เขาพูดขึ้นมาพร้อมกันทำไมวะนั่น

แค่อาทิตย์เดียว เดี๋ยวลาเต้กลับมาพ่อจะคุยเรื่องนี้ดู ถ้าหากเขาลาพักร้อนได้จะให้กลับไร่มาอยู่กับลูก

โหเฮียเต้ยุ่งตลอดนั่นแหละครับพ่อ ปีนี้ได้ยินข่าวว่าคุณเอย์เจ้านายเฮียรับโครงการใหญ่นับสิบๆโครงการตั้งแต่ต้นปีเลยด้วยซ้ำ เฮียเต้ยังบอกเลยว่าปีนี้อาจจะต้องควบไซต์งานสองแห่งในเวลาเดียวกัน ผมว่าเฮียไม่ว่างชัวร์ๆ

นั่นก็ไม่แน่หรอกคาปู เห็นอาฟี่บอกว่าคุยไว้แล้ว เต้จะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนลูกได้ แต่พ่อจะต้องคุยอีกที

เอ้อพรุ่งนี้วันเสาร์เฮียเต้กลับครับพ่อ โทรบอกผมเมื่อเช้า

อือฮึ แล้วลูกอย่าลืมว่าต้องไปทำความสะอาดห้องให้เฮียเขาด้วย คาปูกับอาร์โอเคใช่ไหม

อาร์กับแคปยกมือทำสัญลักษณ์ว่าโอเคพร้อม ๆ กันจากนั้นแคปจึงถามเรื่องทริปแฝดขึ้นมาอีกรอบ แต่คำตอบคราวนี้ทำเอาสองหนุ่มหันมองหน้ากันแล้วเม้มปาก

เปล่าหรอก ไม่ได้ไปกับคณะทัวร์ อาฟี่จะพาพ่อไปเที่ยวกันแค่สองคนน่ะ เพราะงั้นลูกๆจงอยู่เฝ้าบ้านและห้ามมีคำถามอีก

คร้าบบบบ

สองคนขานรับพร้อมกันอย่างยอมจำนนโก้ยิ้มแล้วส่ายหัว งานสำคัญช่วงบ่ายก็คืองานรับรองลูกค้าที่จะมาเจรจาเหมาผลสละเพื่อส่งเข้าโรงงานหลักที่มาบตาพุดหนึ่งราย อีกหนึ่งรายจะเข้ามาดูแปลงสตอเบอรี่ทดลองที่แคปกับอาร์กำลังโหมกันสร้างขึ้นมาเมื่อครึ่งปีก่อน ตอนนี้ออกผลผลิตงดงามกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พร้อมจะเปิดให้บริการเต็มตัวในช่วงปลายปี มีรายการโทรทัศน์หลายรายการติดต่อเข้ามาขอบันทึกเทปถ่ายทำแต่เฮียโก้ยังชะลอเรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเพราะมีโครงการจะปลูกเพิ่มเติมอีกราวสี่พันกระถางโดยมีแคปอาร์และโชนเป็นผู้ดูแลโรงเพาะปลูกแบบอวกาศไม่ยอมให้ต้นไม้สัมผัสกับเนื้อดิน

นั่นคืองานสำคัญมากๆที่ทำให้แคปไม่สามารถปลีกตัวเข้ากรุงเทพได้มาสองสัปดาห์แล้ว พอเคลียร์ลูกค้ารอบบ่ายจนเสร็จเกือบๆจะเย็นโก้จึงสั่งให้อาร์ขึ้นไปถูห้องให้ลาเต้ขณะที่แคปจอมโวยวายโดนสั่งให้เช็ดบานหน้าต่างกับเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและทำความสะอาดตระเตรียมห้องเอาไว้ 

ถ้าลูกๆจัดการห้องเฮียเขาเรียบร้อยพ่อจะโทรบอกให้ลาเต้ซื้อของโปรดมาให้อีกเยอะๆเลย

ผมเอาหมูหยองกรอบของโปรดสามกิโล

มึงอ่ะอ้วนเป็นหมูแล้วแคปอาร์กระทุ้งศอกใส่ แคปหันมาตวัดสายตาเขียวๆมอง ขึ้นสามโลลดลงมาแล้วหนึ่งกิโล มันอ้วนตรงไหนวะ??

ก็เดี๋ยวเฮียเต้ปิดงานที่โคราชแล้วไง จะได้กินอีกตอนไหนก็ไม่รู้ เห็นบอกว่างานต่อไปอาจจะได้มาทำที่นี่ไม่ก็ชลบุรี ถึงตอนนั้นบ้านเราจะได้พร้อมหน้าพร้อมตากันอีก ผมดีใจครับเฮียโก้ ดีใจจนอยากกินเยอะๆเลย

แคปทำไม้ทำมือราวกับบูชาสรวงสวรรค์ โก้ได้แต่ส่ายหัวกับความช่างพูดของแคป เขารีบไล่ให้สองคนเข้าบ้านใหญ่ไปทำความสะอาดห้องเตรียมไว้ให้ลูกชายคนโตก่อนที่ตัวเองจะเดินเข้าไปที่หลังครัวของร้านเพื่อเตรียมเมนูอาหารช่วงเย็น ในตอนนั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นพอกดรับสายก็รู้ว่าพรุ่งนี้ไม่ใช่แค่ลาเต้เท่านั้นที่จะกลับมา กระทั่งคนที่หายไปทำงานถึงห้าวันอย่างน้องชายฝาแฝดของเขาก็จะกลับมาถึงไร่ด้วยเช่นกัน

มือเรียวขาวสะอาดดันแว่นที่สวมอยู่เบา ๆ ก่อนคลี่รอยยิ้มออกมา







ไอ้อาร์ มึงเอาถังลงไปเปลี่ยนน้ำมาให้กูใหม่หน่อยดิไป แม่งดำฉิบหายห้องพี่กูไม่อยู่แค่เดือนเดียวทำไมฝุ่นถึงเยอะแบบนี้วะเนี่ย

อาร์ถือไม้ถูพื้นจ้องหน้าประท้วงคนขี้บ่นคนขี้ใช้  แคปจึงชี้บอกว่าถ้าไม่ยอมเอาไปเปลี่ยนมาให้เขาจะเอาผ้าขี้ริ้วสีดำๆนี่ปาใส่หน้าให้สิวขึ้นแทน ว่าแล้วก็ทำท่าจะปาจริงจนอาร์ต้องรีบโยนม็อบในมือทิ้งแล้วเข้าไปฉวยเอาถังน้ำสกปรกๆที่แคปเช็ดคราบฝุ่นต่าง ๆ ลงไปเปลี่ยน

เฮ้  มึงแวะไปเอากาแฟมาให้กูอีกแก้วด้วยนะเว้ยไอ้อาร์ บอกเฮียโก้ว่าเป็นค่าถูห้องยังเดินลงมาไม่สุดขั้นบันไดแคปตะโกนโหวกเหวกตามลงมาซะงั้น อาร์ชะงักขา เท้าสะเอวเงยหน้าไปโต้ตอบ

เรื่องสิ  มึงลงไปบอกเองเลย เย็นขนาดนี้แล้วกูว่าเฮียโก้ไม่ชงให้แบบชัวร์ๆ เดี๋ยวต้องกินข้าวกันแล้ว เกิดอิ่มจนกินข้าวเย็นไม่ลงมึงกับกูจะโดนดีแน่ๆอ่ะ

เอาเหอะน่า กูอยากกินอะไรหวานๆนี่หว่า มึงไปแอบบอกพี่พายชงให้กูหน่อยก็แล้วกันคราวนี้เป็นแคปโผล่ออกมาพร้อมกับไม้ถูพื้นในมือ

ถ้ามึงไปเอากาแฟมาได้ กูจะเป็นฝ่ายถูห้องนี้ให้เองแคปยักคิ้วกวนตีนพร้อมชี้ๆที่ไม้ถูก แลกกันๆ

อาร์ไม่เสียเวลาที่ต้องคิดเขาพยักหน้าฉีกยิ้มบอกโอเคแล้ววิ่งหายแนปไปเลย แคปผิวปากหวือมองดูเวลาที่ข้อมือ ห้าโมงเย็นแล้วเดี๋ยวอีกสักพักเฮียโก้คงจะปิดร้าน ทานข้าวกันจากนั้นคงจะขึ้นมาตรวจสภาพห้องของเฮียเต้  กวาดตามองอีกครั้งรอบๆห้องผลงานทำความสะอาดของเขาและเจ้าอาร์

เอาเถอะ เดี๋ยวจะถูอีกสักรอบสองรอบ

แคปว่าอย่างอารมณ์ดีเอนตัวนอนลงบนเตียงที่ถูกรื้อผ้าปูออกใหม่เพื่อผัดเปลี่ยนหากแต่ยังไม่เสร็จ หมอนผ้าห่มก็ตากเอาไว้ด้านล่าง เขาปิดเปลือกตาลง อากาศหนาว ๆ ความขี้เกียจมักเข้ามากัดกิน แคปล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาพลางไถลตัวลงมาที่พื้นนั่งชันเข่าพิงเตียงเอาไว้ รอเจ้าอาร์อยู่นานพอสมควรกดเกมส์เล่นฆ่าเวลาก็น่าสนใจดี

ขณะที่อาร์ซักผ้าขี้ริ้วในถังจนเสร็จ เขาเปลี่ยนให้เป็นน้ำสะอาดแล้วหิ้วมาตระเตรียมไว้ที่หน้าบันได ก่อนจะเดินผิวปากอารมณ์ดีไปสวมรองเท้าเพื่อมุ่งออกไปที่หน้าไร่

ร้านกาแฟเล็กๆคือจุดหมายหลัก

ขอให้พี่พายชงให้น่าจะ แว๊กกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ขะ ขะ ขอโทษครับคุณอาร์ ผมขอโทษคุณเจ็บตรงไหนไหมโชนที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาชนเข้าอย่างจังกับอาร์ที่เดินอมยิ้มพึมพำอยู่คนเดียว คนตัวเล็กเซแถดๆจนโชนต้องคว้าแขนดึงเอาไว้ อาร์กำลังจะอ้าปากโวยแต่เห็นอีกคนหอบแฮกๆทำหน้าตาตื่นๆ ดูเหมือนว่ากำลังจะวิ่งเข้ามาที่บ้าน
มีอะไรหรือเปล่า นี่กำลังจะไปไหนทำไมถึงได้รีบร้อนแบบนี้

ผะ  ผะ ผม กำลังจะไปหาคุณแคปครับ

เออไอ้แคปมันอยู่ข้างบนน่ะ จะไปหามันทำไมล่ะ มีเรื่องอะไร ดูทำหน้าทำตาซิ ใจเย็นๆเห้ยมึงใจเย็นก่อนโชน

ครับๆๆ ผมใจเย็นแน่ ๆ แต่ผมต้องพบคุณแคปก่อนคุณอาร์ช่วยพาผมไปพบไม่ก็เรียกคุณแคปลงมาหน่อยได้ไหมล่ะครับ

อะไรของมึงวะ”  อาร์หรี่ตามองอย่างรู้สึกจับผิด ปกตินายโชนใจเย็นสุขุมเรียบร้อย เขากับโชนพูดมึงกูกันเพราะอายุอานามพอๆกันดูเหมือนโชนจะน้อยกว่าเสียด้วยซ้ำทว่ากลับดูมีความคิดความอ่านไม่ลนลานเหมือนตอนนี้เลยสักครั้ง

ผมไหว้ล่ะครับคุณอาร์ ผมรีบ

มึงรีบทำไม มีเรื่องอะไรวะ

เรื่องด่วนครับ เรื่องสำคัญถ้าคุณอาร์ไม่พาไปงั้นผมขอเข้าไปเรียกคุณแคปเองเลยนะครับ

เดี๋ยวอาร์ก้าวขาเข้ามาขวางทางเอาไว้ เรื่องด่วนอะไรของมึงห๊ะ

ตอนนี้คนถูกกักกันทำหน้าคล้ายจะร้องไห้เข้าไปทุกที มันมีบางอย่างแปลกไป บางอย่างที่ไม่ปกติ จนอาร์ต้องหรี่ตามองจับผิด มือเล็กคว้าคอเสื้อสีมอๆของอีกฝ่ายกระชากเข้ามาอย่างแรง

บอกเรื่องของมึงมา เรื่องด่วนเหี้ยอะไรถึงขนาดทำหน้าทำตาแบบนั้น

โชนชะงักไปชั่วครู่ ครั้นเขาจะบอกความเป็นจริงทั้งหมดเดี๋ยวอีกฝ่ายจะสงสัยได้ เขาจึงเลือกที่จะพูดบางส่วนที่สำคัญออกไป

มีคนมาหาคุณแคปครับตอนนี้จอดรถอยู่หน้าไร่ เขาบอกว่า...ชื่อเอส  เอสเธอร์!

หา!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! อาร์ร้องขึ้นมาตาโต ยกมือขึ้นปิดปากแทบไม่ทัน โชนยังตอกย้ำคำว่าจริงจังลงไปอีก

ผู้ชายคนนั้นหล่อๆตัวสูงๆ เซ็ทผมตั้งมาคนเดียวครับ ตอนนี้รออยู่แล้ว

ดะ ดะ ดะ ดะ เดี๋ยวกูจัดการเอง มึงไปกันไอ้ผู้ชายคนนั้นอย่าเพิ่งให้มันเข้ามาเด็ดขาด ห้ามให้มันขึ้นไปที่ร้านกาแฟด้วยเข้าใจกูนะ

เข้าใจครับผม!

โชนรับคำหนักแน่นวิ่งเผ่นหายไปหน้าไร่เรียบร้อย ขณะที่อาร์เองก็ฉุกคิดบางอย่างอยู่เหมือนกัน ทำไมโชนมันถึงได้หน้าตาตื่นแบบนั้นทำอย่างกับรู้ว่าเอสมันเป็นใคร อย่างไรก็ตามก่อนหน้าที่เขาจะคิดบ้าบอมากมาย เขาต้องรีบขึ้นไปบอกไอ้เพื่อนตัวดีก่อน

งานเข้ามันแล้วไอ้เพื่อนรัก!

ทันทีที่ซอยเท้าขึ้นบันไดแล้วถลาเข้าห้อง อาร์กระชากเอาโทรศัพท์มือถือจากแคปที่กำลังก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์มาถือไว้ คนถูกแย่งของถลึงตามอง แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยปากด่าอาร์มันยกนิ้วขึ้นชี้หน้าแคปแล้วขยับปากพูดบางอย่างให้ได้ยินกันแบบชัดๆ เต็ม ๆ ไม่มีวี่แววของการล้อเล่นเลยสักกะติ๊ด

ไอ้-เอส-มัน-มา-หา-มึง ตอนนี้รออยู่ที่หน้าไร่แล้ว!!

แคปตาเหลือก อ้าปากหวอยิ่งกว่าเดิม  ในใจเต้นระส่ำตุ่บตั่บตุ่บตั่บราวกับกลองศึกรัวรับกองทัพทหาร

คิดได้อยู่แค่อย่างเดียว

ตายห่ะ!

สะดุ้งสุดตัวเมื่อเจ้าอาร์จับไหล่ทั้งสองของเขาเขย่า

เร็วเข้าสิวะ มึงจะเอายังไงก็บอกมา

มันเอาจริงแคปพึมพำตาลอย  อาร์คิ้วขมวดจนเป็นปม ห๊ะ?”

กูบอกว่ามันเอาจริง

จบคำพูดแคปถลาพรวดออกจากห้องเลี้ยวลงบันไดแบบแทบจะรูดราวลงไป อาร์ซอยเท้าตามแทบไม่ทัน ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นแคปมายืนกุมท้องหอบจนตัวโยนอยู่หน้ารถปาเจโร่สีดำคันโก้ปากทางเข้าไร่

เจ้าของรถ

หล่อแบบฉิบหาย

นี่มึงมาไร่ผลไม้หรือจะรอขึ้นเครื่องไปประชุมเดินแบบที่ปารีส

เดี๋ยวสิ

แต่ก่อนหน้านั้น

มันมาได้ยังง๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย

มอมแมมจริงๆ

คำพูดแรกที่ทักทายเมีย เอสกระตุกมุมปากนิดๆเมื่อเห็นแคปทำหน้าตาตื่นตัวเอ้ยตื่นเต้นได้ขนาดนั้น  คนถูกทักหน้าบึ้งขึ้น ครั้นยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดคราบเหงื่อที่หน้าผากเอสกลับยิ้มขำขึ้นอีก แคปเสยผมขึ้นไปอย่างลวกๆมองซ้ายมองขวาแล้วก้าวเข้าหาผู้มาเยือน

นึกยังไงถึงได้มา

คิด-ถึง-เมีย ชัดเจนจนคนฟังหน้าร้อนฉ่าหูแดงเถือก แคปกัดฟันกรอดฝืนรอยยิ้มเอาไว้ บอกตัวเองว่าห้ามดีใจจนออกนอกหน้า ช้อนสายตามองอีกฝ่ายที่ส่งยิ้มยั่วแสนเจ้าเล่ห์โดยไม่รู้เลยว่านี่มันคือรอยยิ้มพิมใจสุดแสนอันตราย เอาจริงๆคือแคปเขินจนอดใจไม่ไหวเผลอยิ้มตอบออกมาทีล่ะน้อย ทีล่ะน้อย ทว่ายังไม่ทันได้ฉีกยิ้มจนสุดปากเอสมันดันโพล่งออกมาอีกคำพูด

คำพูดที่ทำเอาคนรอยิ้มหน้าเจื่อนลงแบบหมอไม่รับเย็บ ก็ไม่มีใครให้ด่าให้แกล้งเลยน่ะ ไม่มาหามึงไม่รู้จะไปด่าใครดี

หนอยยยยยยยยไอ้สัส!

แคปแทบอยากจะร้องไห้ขณะที่เอสหัวเราะร่า คนตัวเล็กกว่าจึงก้าวเข้าไปหาอีกนิดชกต้นแขนแกร่งหนักๆเน้นๆหนึ่งทีก่อนถูกดึงให้ขยับเข้าไปหาแบบใกล้ ๆ ปลายจมูกโด่งคมเฉียดกดลงมา แคปตกใจจนตาแทบเหลือกเขาหลบได้หวุดหวิดนัก หากแต่ได้ยินเสียงขำทุ้มต่ำจากอีกฝ่าย เอสแกล้งก้มตัวลงไปหยิบดอกลีลาวดีดอกเล็กๆที่ร่วงหล่นอยู่แถวนั้นขึ้นมายื่นส่งให้

ไม่ชวนเข้าไปไหว้พ่อตาหน่อยล่ะแคปมันรีบรับมาแล้วยัดๆดอกไม้ใส่กระเป๋า ก่อนหันขวับมองเข้าไปที่ร้านกาแฟ ท้องฟ้าหมดแสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ไปแล้ว สีส้มเรืองรองอ่อนจางมีความมืดครึ้มเข้ามาแทนที่  อากาศหนาวจัดทว่าเย็นสบาย สายลมอ่อนๆพาเส้นผมนุ่มสวยปลิวไสว กลิ่นหอมของลั่นทมสีขาวต้นใหญ่ ใบไม้ดอกไม้ปลิดปลิวเป็นสายไล่ระดับลงมา

แคป

อาร์จับชายเสื้อแคปกระตุกเบา ๆ หน้าเสียไปเล็กน้อยเมื่อมองตามแคปเข้าไปที่หน้าร้านกาแฟนั่น ไม่ไกลกันเลย ถือว่าใกล้มาเสียด้วยซ้ำ เฮียโก้ในชุดบาริสต้าออกมายืนมองลูกชายคนเล็กกับเพื่อนชายคนสนิทด้วยสีหน้าที่อ่านยากเหลือเกิน

กูจะพามันเข้าไปแคปหันไปพยักหน้าให้อาร์ ในดวงตาแน่วแน่จับบ่าเพื่อนสนิทของตัวเองแล้วบีบเป็นนัยยะว่าให้เชื่อใจ อาร์พยักหน้าเบา ๆ ก่อนมองไปที่เอสซึ่งบัดนี้ถอดแว่นกันแดดออกแล้วก้าวเข้ามายืนข้าง ๆ แคป

วันนี้อยู่แต่เฮียโก้ มึงผ่านด่านแรกให้ได้ก่อนก็แล้วกัน

เอสไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่กดสวิทรีโมทเปิดฝาประตูหลังแล้วดันตัวแคปให้เดินเข้าไปเอาของบางอย่างในนั้น

นี่อะไรกันน่ะ!แคปถามพลางหันมองเจ้าของรถ เอสหยิบต้นไม้บางอย่างออกมาสูงราวหนึ่งเมตร มีดอกผลออกเต็มไปหมด แคปมองดูแค่ครั้งเดียวก็รู้แล้วว่าต้นอะไรหากแต่ปากยังคงถามไปอย่างนั้น

จีบลูกชายคนชอบกาแฟไม่ให้กูซื้อต้นกาแฟหายากมาบรรณาการจะให้กูซื้อหยกแพรไหมมาให้หรือยังไงเอสตอบอย่างเจ้าเล่ห์ อาร์เข้ามาช่วยรับต้นไม้นั่น

มึงก็ลงทุนเกิ๊นแคปว่าแล้วช่วยทั้งอุ้มทั้งหิ้วไปด้วยอีกคน อาร์มองสองคนที่เดินนำเข้าไป เขาเพิ่งถึงบางอ้อว่าทำไมคราวนี้เอสใช้รถโฟลวิลห้าประตู

ภาวนาให้กูทีล่ะ กาแฟต้นล่ะแสนน่ะมึงเอสหันมาบอกกับคนข้างกายในตอนที่เขาก้าวขึ้นบันได แคปถึงกับส่ายหัวแม้ว่าในใจจะยิ้มร่าเหลือเกิน

ไปถูกหลอกที่ไหนมาวะเนี่ย

โทรไปด่าเพื่อนมึงดิ เลขากูไง

แคปโคตรล่ะเหี่ยเพลียใจในตอนที่เดินขึ้นมาถึงหน้าร้านพอดิบพอดี โก้ยืนทำหน้านิ่งๆรออยู่แล้ว สาบานได้ด้วยเกียรติของไอ้หมาปอที่ไม่อยู่ ณ จุดนี้เลยว่า แคปแอบเห็นสายตาพออกพอใจจากพ่อของเขาในตอนที่เอสมันวางต้นกาแฟสายพันธุ์ดีหายากแบบฉิบหายลงต่อหน้าต่อตา ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้

สวัสดีครับ

เจ้าบ้านยืนนิ่งอยู่ชั่วขณะ ถึงจะแค่ไม่กี่วินาทีทำไมไม่รู้แคปรู้สึกเหมือนนานเป็นชั่วโมง อาร์เดินเข้ามายืนอยู่ข้างหลังคุณพ่อของเพื่อนสนิทเขา มองดูเสี้ยวหน้าของผู้ชายที่ได้ชื่อว่ายิ้มง่ายที่สุดในร้าน เสี้ยวหน้าที่หล่อเหลาไม่แพ้อาฟี่หากแต่บนใบหน้านั้นสวมแว่นสายตากรอบใสอยู่ตลอดจึงลดระดับความเท่ลงมาหากแต่กลายเป็นน่ารักและอ่อนวัยแทน

ริมปากเล็กของโก้ค่อยคลี่รอยยิ้มบางออกมา ก่อนที่เขาจะพยักหน้ารับไหว้เบาๆ แคปถึงขนาดถอนหายใจเฮือกใหญ่

พ่อครับทำเสียงอ้อนๆ ไม่ใช่แค่เสียง หน้าตาก็พาลอ้อนไปด้วย ก่อนที่จะหยิบต้นกาแฟที่ตามกิ่งก้านมีเมล็ดของมันออกมาเป็นพวงๆ

โก้ยิ้มเลยสิ

เอสมันเอามาฝากครับพ่อ  พ่อจะให้ผมลงไว้ให้ตรงไหนก็บอกได้นะ เดี๋ยวจัดการให้ ว่าแต่ เฮียโก้ชอบไหมครับ ชอบหรือเปล่า

คนถูกถามละสายตาจากลูกชายคนเล็กก่อนหันไปหาเอสแล้วมองนิ่งๆอยู่พักหนึ่งสุดท้ายส่งยิ้มน่ารักออกมาจากหัวใจ ชอบสิ ชอบมาก

ขอบคุณครับอาโก้เอสยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อมอีกครั้ง ละทิ้งมาดหยิ่งผยองของเสือหนุ่มแห่งรัชชาบัดนี้เขามายืนอยู่กับครอบครัวของคนที่เขารักและคิดจะร่วมชีวิต เขาก็จะเป็นเพียงเอสเธอร์คนธรรมดาที่ไม่ถือเนื้อถือตัว ในท่าทีในแววตาเต็มไปด้วยความอ่อนน้อม ซื่อสัตย์และจริงใจ เพราะว่าคนข้างๆ คนสำคัญของเขา กลัวว่าอีกฝ่ายจะไม่สบายใจจนยอมลดศักดิ์ศรีลดทุกๆอย่างของตัวเองลงได้ เพื่อคนๆเดียวของเขา

ความรักช่างยิ่งใหญ่

แต่ก่อนเคยได้ยินใครไม่รู้พูดเอาไว้

ไม่เจอกับตัวคงไม่ตระหนักได้ถึงขนาดนี้

เขาสบสายตากับคุณพ่อของแคปอีกครั้ง สายตามั่นคงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเคารพ...เช่นคืนวันเก่า ๆ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะรับรู้ได้หรือไม่เขาเพียงแค่อยากให้รู้ไว้ว่า ทุกอย่างที่ทำคือ.....จริงใจ

โก้ก้าวเข้ามา เอื้อมมือวางลงที่แผ่นหลังใหญ่ ก่อนลูบลงเบา ๆ อย่างเอ็นดู

ยินดีต้อนรับสู่ไร่แห่งรักนะเอส นานแล้วที่ไม่ได้เจอกันเลย

ผมมาที่นี่อีกได้ไหมครับเอสไม่รอช้า ยิงตรงเข้าเรื่องในทันที โก้ฟังแล้วขยับยิ้มไม่คิดว่าจะเจอรุกฆาตรวดเร็วขนาดนี้ เมื่อมองไปที่ลูกชายตัวเอง แคปมันนั่งลงจ้องเมล็ดกาแฟสดแบบไม่วางสายตา

แต่เชื่อเถอะ หูมันน่ะผึ่งยิ่งกว่าเจ้าอาร์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อีกนะนั่น

อันนี้ต้องแล้วแต่คาปู เขาเป็นเจ้าของไร่มีสิทธิ์จะให้ใครไปใครอยู่ก็ได้ทั้งนั้น ไม่ใช่อาหรอกนะ

ขอบคุณอีกครั้งครับอาโก้

อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันเลยสิ เรารีบกลับหรือเปล่า

ผมมีอีกคำถามเอสยอมเสียมารยาทไม่ได้ตอบ หากแต่ได้แค่ข้าวเย็นจากที่นี่คงยังไม่เพียงพอ เขานึกอยากได้สิ่งที่มากยิ่งกว่านั้น

ว่ามาเลยโก้ถึงกับกอดอดตั้งรับกันเลยทีเดียว แฟนลูกชายคนนี้รุกเก่งไม่เบา มิน่าล่ะเจ้าคาปูไปไหนไม่รอด ห้าปีฝังใจอยู่แค่คนๆเดียว

คืนนี้ผมขอค้างที่นี่ได้ไหมครับ

ไม่ใช่แค่โก้เท่านั้นที่ตกใจ ทั้งอาร์ทั้งแคปอ้าปากไปตามๆกัน เวลานั้นพี่พายผลักประตูกระจกจากด้านในร้านออกมาพอดี

คุณโก้ครับเดี๋ยวผมกลับไปเตรียมข้าวเย็น จะให้ปิดหน้าร้านเลยไหมครับ

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นทั้งหมดทั้งมวลก็ย้ายกันมานั่งอยู่ที่โต๊ะไม้สักรูปร่างกลมๆรีๆค่อนข้างแปลกสำหรับอาหารมื้อเย็นที่บ้านใหญ่

คาปูทำไมลูกถึงเงียบแบบนั้นโก้ว่าพลางตักผัดผักรวมกุ้งสดใส่จานให้เอส

ผะ...ผม กำลังอร่อยแคปตอบกุกๆกักๆอาหารเต็มปาก ใช้ศอกกระทุ้งให้เจ้าอาร์ช่วย รายนั้นก็แค่เออๆออๆข้าวเต็มปากเหมือนกัน

ตักกับข้าวให้เอสเขาสิ เพื่อนเราไม่ใช่หรือไง

กะ...ก็เฮียโก้บอกให้เอสมันไปนั่งข้าง ๆ นี่นา

ก็แล้วทำไม นั่งอยู่ตรงไหนลูกก็ต้องเทคแคร์ได้สิ

ตะ..ตะ...แต่...แคปไปต่อไม่เป็น อาร์เห็นแบบนั้นจึงยื่นมือเข้าช่วย

ไอ้เอสมึงมาเปลี่ยนที่กับกูไหมล่ะแต่พูดแล้วแทบอยากตบปากตัวเองสักสิบหน เจอเฮียโก้ตวัดสายตาหลังเลนส์ใสๆนั่นใส่จนเขาต้องรีบหลบฉาก

นั่งนี่แหละเอส นั่งข้างๆอา อยากทานอะไรต้องตักเองนะ ฝึกไว้ ทำใจให้ชิน ลูกชายอาน่ะเทคแคร์คนไม่ค่อยเก่ง ถึงขั้นทำไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ

ไม่เป็นไรครับ ผมตักเองได้

ทำตัวตามสบาย คืนนี้จะนอนค้างที่นี่ใช่ไหมนะ

ครับใช่

จะนอนที่ไหนล่ะ คิดเอาไว้หรือยัง

นอนกับแคปครับ

ผ่างงงงงง

อันนั้นเห็นจะไม่ได้ ช่วงนี้แคปนอนกับอา ถ้าอยากจะค้างก็โน่นเลย กระท่อมหลังสวน บ้านเจ้าอาร์โน่นแหละ เรานอนได้หรือเปล่าแบบนั้นน่ะ

ไม่รู้ทำไมแคปกับอาร์นั่งขนลุกขนชันกับบทสนทนาระหว่างเฮียโก้กับเอส น้ำเสียงราบเรียบขนาดนั้น ใบหน้าแสนสุภาพอ่อนโยนและแต้มรอยยิ้ม หากแต่คำพูดแต่ละคำเชือดเฉือนจนเสือหนุ่มแทบจะกลายร่างเป็นแมวเหมียว หากแต่มองดูเอสดีๆอีกที มันก็ยังนั่งหลังตรงหน้าตาฉาบไว้ด้วยความสุขุมมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง แคปรู้สึกดีจนเผลออมยิ้มออกมา

แคป ลุกไปเอาน้ำมาให้เพื่อนดื่มสิลูก

ครับพ่อ

กว่าอาหารมื้อนั้นจะจบลงได้แคปหารู้ไม่ว่าเอสได้เลือดซิบๆไปกี่สิบรอย หากแต่เจ้าตัวเองก็ยังคงยิ้ม สุดท้ายโก้เดินเข้ามาตบลงที่ไหล่หนาแล้วบีบ

พรุ่งนี้ลาเต้จะกลับมา อาฟี่เองก็จะกลับมาเหมือนกัน ถ้าไงตื่นแต่เช้าหน่อยแล้วก็เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้พร้อม

เฮียโก้!แคปที่กำลังหยิบเสื้อกันหนาวขึ้นสวมเพราะเตรียมจะออกไปส่งเอสที่บ้านหลังเล็กของอาร์ร้องขึ้น เขาหยิบกุญแจรถกอล์ฟมาถือไว้

พ่อพูดเรื่องจริงคาปู

แต่ว่า..

ไม่เป็นไรแคป อาโก้บอกแค่นี้ผมขอบคุณมากแล้วครับเอสหันไปบอกแคปก่อนค้อมศีรษะลงนิดๆเพื่อขอบคุณเฮียโก้สำหรับความจริงใจ ตรงๆแบบนี้เขารู้สึกว่ามันโอเคดี

อากาศหนาวรีบอาบน้ำแล้วใส่เสื้อหนา ๆ กันล่ะ เดี๋ยวคาปูขึ้นไปเอาหมอนเอาผ้าห่มไปให้เพื่อนด้วยก็ได้

ไม่เป็นไรครับพ่อ  บ้านอาร์มีที่นอนอีกชุดครับ หมอนมุ้งผ้าห่มครบ

หลังจากนั้นสามคนก็เดินไปจับรถกอล์ฟเพื่อตรงไปยังบ้านหลังเล็กๆสีฟ้าสดใสของอาร์ที่ตั้งอยู่เกือบกลางสวน

แคปเป็นคนขับ เอสนั่งข้าง ๆ ขณะที่อาร์นั่งด้านหลังชมวิวชมจันทร์ ลมเย็นๆอากาศก็หนาวหากแต่คนที่นั่งหันหลังให้สองคนด้านหน้าหูผึ่งสุดๆพยายามจะฟังว่าคู่รักข้าวใหม่ปลามัน มันพูดอะไรกันมั่ง ทว่าน่าเสียดายไม่มีใครพูดอะไรเลย เงียบทั้งหมด เจ้าอาร์เบ้หน้าค่อยๆหันไปแอบมอง ใบหน้าเล็กเห่อร้อนขึ้นมาราวไฟลวกเหตุเพราะเห็นเอสขยับเข้าไปจนชิดแคปแล้วคว้าเอามือข้างหนึ่งของคนขับเข้ามาจับไว้บนตักมัน

รถขับช้าๆมาจอดลงใต้ต้นเงาะที่ตอนนี้มีแต่ใบสีเขียวเพราะหมดฤดูกาลของมัน

ไงล่ะ บ้านกูน่ารักใช่ไหมอาร์เห็นเอสยืนมองบ้านหลังน้อยของเขาอย่างอึ้งๆจึงเดินเข้าไปชนไหล่แล้วทำหน้ากวนๆถาม คนถูกถามปรายสายตามองแล้วส่ายหัวบอกว่าไม่สวย

อาร์เข่นเขี้ยวมองเอสตาเขียว แคปเห็นสองคนเถียงกันเขาก็หัวเราะจากนั้นเดินเข้ามาผลักหัวเพื่อนสนิทเบา ๆ ก่อนรุนหลังเอสให้เดินขึ้นบันไดระเบียงบ้านไป

บ้านนี้ไม่มีห้องรับแขกหรอกนะ มึงคงต้องนอนห้องเดียวกับไอ้อาร์ เดี๋ยวกูจะปูที่นอนไว้ให้ ตรงนั้นลองดูซิว่าจะนอนได้ไหมอาร์เดินเข้าไปถอดเสื้อกันหนาวโยนลงที่เตียง แคปเองก็เดินเข้าไปเปิดตู้เสื้อผ้าเอาฟูก หมอนและผ้าห่มมาจัดวางไว้ เขาชี้บอกเอสที่ยังไม่ยอมเดินเข้าไปแต่กลับนั่งลงที่พื้นชานหน้าระเบียง ดูเหมือนมันกำลังเงยหน้ามองพระจันทร์

ที่นี่ไม่มีน้ำอุ่นด้วยนะเว้ย มึง รีบไปอาบน้ำเร็วเข้า ห้องน้ำอยู่ด้านหลังแคปหยิบเสื้อยืดใส่นอนย้วยๆของเขาเองที่นำมาทิ้งไว้ที่ตู้ของอาร์เตรียมเอาไว้ให้ จากนั้นหยิบผ้าขาวม้าผืนเก่าๆของอาร์มาส่งให้ เอสมองอย่างสงสัย แคปจึงไขความกระจ่าง

น้ำอุ่นน่ะมีแต่ต้องไปอาบที่บ้านใหญ่โน่น ที่นี่ใช้ไฟน้อยเพราะงั้นก็ต้องกินนอนกันแบบธรรมชาติ มึงอาบน้ำจากโอ่งหลังบ้านนั่น นี่ผ้าขาวม้า ส่วนนี่ผ้าเช็ดตัว เสร็จแล้วรีบขึ้นมา

อาบให้หน่อยดิเอสรับผ้ามาแล้วจ้องหน้า แคปมองซ้ายมองขวาให้วุ่น

บ้าหรือไง กลางแจ้งเนี่ยนะไม่โว้ย

ใส่ไม่เป็นนะเนี่ย อย่างน้อยก็นุ่งผ้าผืนนี้ให้กูหน่อย

แคปถอนใจอย่างระอาขณะที่เอสยังคงยืนยันว่าให้แคปสวมให้ แคปชี้หน้าแล้วส่ายหัว มึงต้องหัดใส่เอง เดี๋ยวขึ้นมานอนกูจะกางมุ้งไว้รอ”  คุณชายเอสทำหน้าเบ้ๆแคปจนใจลุกขึ้นแล้วคลี่ผ้าขาวม้าผืนนั้นออกพันท่อนล่างให้ดูเป็นตัวอย่าง

ง่ายๆแค่นี้แหละ มัดแน่นๆล่ะระวังหลุด

แล้วจะอาบแบบไหนล่ะ ถอดทั้งหมดเลยหรือ

บ้าหรือไง มึงก็ใส่กางเกงในอาบสิวะ เสร็จแล้วพันผ้าผืนนี้ไว้จากนั้นถอดกางเกงในออกมาซักแล้วก็ตากเอาไว้ข้าง ๆ โอ่งนั่นแหละ

บ้านนอกคอกนาจริงๆ

หนอยมึงอย่าปากดีไปนะ วิถีชีวิตแบบนี้หาไม่ได้จากเมืองกรุงของมึงก็แล้วกัน

เอสอมยิ้มเมื่อเห็นว่าแคปเริ่มหน้าบึ้ง สนุกที่ได้แกล้ง เขากดหัวเล็กเล่นเบา ๆ จากนั้นลุกขึ้นบอกว่าจะรีบอาบรีบขึ้นมา แคปถึงกับถอนหายใจลึกๆเดินเข้าไปหาอาร์

เตียงกูแคปนะเว้ย ไม่ยอมให้ขึ้นมานอนด้วยเด็ดขาด

รู้แล้วน่า ถึงเตียงใหญ่กูก็ไม่ยอมให้ขึ้นไปนอนกับมึงเด็ดขาด

อาร์เอาเท้ายันก้นแคปแรงๆหนึ่งที โหไอ้แคปกับเพื่อนกับฝูงก็ไม่เว้น ดูหน้ากูด้วย ถามกูยัง เห็นกูแบบนี้กูก็เลือกนะครับนะกูชอบผู้หญิงไอ้สัส คำนี้ละไว้ในใจพูดไม่ได้เดี๋ยวโดนมันโบก

แคปถลึงตาใส่ทันทีที่โดนดี คว้าหมับจับข้อเท้าอาร์ไว้แล้วลากจนคนตัวเล็กถึงกับสะเทือนเกือบตกลงหน้าเตียง เสียงหยอกเอินกันดังลั่นลงมาจนคนที่ยืนมองโอ่งน้ำเย็นเฉียบต้องเงยหน้าขึ้นไปดู เอสมองท้องฟ้าที่บัดนี้เต็มไปด้วยมวลหมู่ดวงดาราเปล่งประกาย มุมมองจากที่ตรงนี้กับมุมมองจากยอดหอคอยสูงของตึกรัชชาต่างกันราวเหวกับฟ้า หากแต่ไม่รู้ทำไมรู้สึกสบายใจเมื่อยืนอยู่ที่ตรงนี้มากกว่านัก จมูกโด่งๆสูดลมหายใจซึมซับเอากลิ่นไอดินและบรรยากาศดีๆที่เขาคิดเอาไว้อยู่แล้วว่า ณ วันหนึ่งเขาต้องได้มายืนอยู่กับคนรักของเขา

ความสุขทางใจ...

ขณะที่บนบ้านแคปกางมุ้งเสร็จ มองดูเวลาที่ข้อมือเป็นครั้งที่สิบ

ทำไมมันอาบนานจังวะแคปบ่น อาร์เองก็เห็นด้วย

มึงก็ลงไปดูมันหน่อยสิวะ อาบนานเหี้ยๆ ไม่ใช่ว่าสะดุดตกส้วมตายไปแล้วหรือไง หรือว่าเข้าห้องน้ำห้องส้วมกูไม่ใช่ชักโครกนะมึง มันนั่งเป็นรึเปล่าก็ไม่รู้ มึงลงไปดูมันเร็วเข้า ผัวมึงอ่ะ

ไอ้สัสปากหมา!แคปหันขวับถลึงตาใส่ อาร์กลืนน้ำลายอึ่ก

เออๆโทษๆ เอาเป็นว่ามึงลงไปดูมันก่อนเร็วเหอะ

มันปล้ำกู วันนั้นกูก็เล่าให้มึงฟังแล้วไงแคปไม่จบ ได้ยินคำว่าผัวทีไรแม่งของขึ้น เจ้าอาร์ไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลย

เออๆมันปล้ำมึงเข้าใจแล้วเพราะงั้นมึงรีบลงไปดูไอ้คนเลวที่ปล้ำมึงเลยไปอาร์เข้ามาดึงแคปแล้วชี้ๆบอกให้ลงไปได้แล้วกลัวไอ้หนุ่มชาวกรุงจะแข็งตายไปกับน้ำในตุ่มเสียก่อน แคปหน้าบึ้งหันมาจ้องหน้าเพื่อนก่อนขยับก้าวเดินออกไปจากห้องแบบไม่เต็มใจ

มันปล้ำกูจริงๆมึงเข้าใจไหมเนี่ย กูยังเป็นผู้ชายอยู่และไม่ใช่เมียใครหน้าไหน กูไม่อยากได้ยินคำพูดแบบนั้นอีกต่อไปมึงต้องไม่พูดว่าใครเป็นผัวกูหรือกูเป็นเมียใคร

ครับๆครับผมเข้าใจแล้วครับ ต่อไปไม่พูดแล้วมึงไม่เต็มใจสักนิดกูรู้สิ

แคปที่โผล่หน้ามาจากบานประตูค่อยโล่งอกหันไปคว้าเอาเสื้อนอนเก่าๆกับกางเกงหัวยางยืดเก่าเก็บมาถือไว้ก่อนวิ่งลงบันไดไปด้านหลังของตัวบ้าน

เหยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด... เบรกเอี๊ยดแทบไม่ทัน

เหยดแม่ง ขาวสุดๆ

แคปแทบผงะเมื่อเห็นเอสในผ้าขาวม้าแบบลูกทุ่งๆ ยอมรับกันตามตรงเมื่อก่อนก็ว่าเคยเห็นไอ้แผงอกกว้างๆกำยำของมันมาแล้วแต่ก็อย่างว่าช่วงนั้นโดนบังคับเสียจนไม่มีกะจิตกะใจจะดูห่าอะไรนักหรอก มันจะขาวจะผิวสวยแบบไหนเขาก็ไม่คิดจะสน ชอบผู้หญิงนี่หว่าจะให้มาระทดระทวยกับรูปร่างผู้ชายก็คงไม่ใช่

แต่ตอนนี้มันผิดกันว่ะความรู้สึก อย่างล่าสุดที่ตึกรัชชาตอนโดนมันปล้ำ(?)แล้วเขาคร่อมอยู่บนตัวมันเอสไม่ได้ถอดเสื้อนะ มันแค่ปลดกระดุมออกจนหมดเท่านั้นเลยทำให้ไม่ค่อยเห็นอะไรแบบชัดๆ เจ็บจนแทบจะตาย เสียวจนหลับหูหลับตาเพิ่งมาเห็นกันแบบจะๆก็วันนี้นี่ล่ะวะแม่ง  แม่เจ้าโว๊ย! ไล่ตั้งแต่ลำคอ ลูกกะเดือก กระดูกไหปลาร้า ร่องอกลงมาถึงหน้าท้องตึงเปรี๊ยะที่มีขนดกดำแพลมขึ้นมาจากริมผ้าขาวม้าที่มัดหมิ่นเหม่อยู่ที่เอวต่ำๆของมัน

แคปกลืนน้ำลายเอือก

มองแบบนี้กูท้องได้เลยนะแคป

เอสว่าแล้วกระตุกรอยยิ้มยั่ว ดวงตาแพรวพราวขยับก้าวเข้าหา ขณะที่แคปเริ่มเงอะงะทำอะไรไม่ถูกมือไม้ดูเหมือนเกะกะชอบกล เขาถอยกรูดจนหลังชนขอบบันได อีกฝ่ายก้าวเข้ามาทาบมือกับผนัง จากนั้นโน้มใบหน้าคมคายที่ตามปอยผมยังพราวไปด้วยหยดน้ำใสๆลงมาจนชิดติดริมหู

จะ...จะ ทำอะไรแคปครางถามใช้มือที่ยังกำเสื้อที่ถือลงมาดันหน้าอกกว้างของอีกฝ่ายไว้  เอสยิ้มเมื่อเห็นท่าทางประหม่าแบบนั้นของอีกฝ่ายมันทำให้เขาอดที่จะเอ็นดูไม่ได้ ขยับปลายจมูกโด่งแนบชิดลงไปอีก

เปล่า แค่จะขอเสื้อมาใส่ อากาศมันหนาวน่ะ

พลั่ก!

แคปผลักอกหนาออกอย่างแรง เอสยืนอมยิ้มมองคนหน้าแดงแป๊ดก่อนยื่นมือไปขอเสื้อจากแคป โดนอีกฝ่ายฟาดใส่แล้วชี้ไล่ให้สวมเข้าไปแบบด่วนๆ

เขินอะไรของมึง” 

เสื้อยืดสีตุ่นคอย้วยมาก ย้วยลงมาแทบจะเห็นหัวนมไอ้คนใส่ ถ้าย้วยลงอีกไม่กี่เซ็นต์คงลงมากองอยู่ที่สะดือ แคปมองแล้วมองอีกก่อนจะเอื้อมมือไปดึงๆจัดเสื้อแสงให้เข้าที่ เอสหรี่ตาเจ้าเล่ห์พลางเอียงหัวไหล่ลงทำให้คอเสื้อหลุดฮวบลงมากองโชว์หัวไหล่ขาวเนียนอีกครั้ง แคปแทบจะกุมขมับ เหลือกตาใส่คนขี้อ่อยขี้แกล้ง

ก็ยอมรับว่าผิวมันเนียน

ก็ยอมรับว่าไหล่มันสวย

แต่มันจะเข้าท่ากว่านะ ถ้าจะไม่มีขนรักแร้แบบผู้ชายแพลมออกมาแบบนั้น กรรม

ชอบล่ะสิเจ้าของไหล่ขาวยังหรี่ตาเอ่ยต่อ แคปฟาดมันไปแรงๆหนึ่งทีก่อนดึงแขนลากขึ้นมา

เงียบปากมึงไปเลย

เดินกันขึ้นมาถึงด้านบนเจ้าบ้านจึงชี้บอกให้แขกบ้านแขกเมืองไปนอนลงที่นั่น เอสว่าง่ายพยักหน้ารับจากนั้นมองไปที่อาร์แล้วหันมาถามแคป

ให้กูนอนกับมัน?”

อือ ทำไม

อย่ามาทำหน้าแบบนั้น อย่างกับกูอยากนอนร่วมห้องกับมึงนักนี่อาร์ฉวยเอาผ้าเช็ดตัวพาดบ่าเปิดประตูออกไปบ้าง เขาเองก็จะลงไปอาบน้ำเช่นกัน

ร่วมห้องนั่นไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้าให้ร่วมหมอนกับชายอื่นที่ไม่ใช่มึง ฆ่าให้ตายกูไม่ยอม

เอสบ่นอุบมุดเข้ามุ้งขณะที่คนฟังอย่างแคปยิ้มเผล่ ปริ่มอยู่คนเดียวก่อนมุดตามเข้าไป กระทั่งเอสดึงหมอนข้างบนเตียงเอามากอดแล้วเอนตัวลงนอน เขาดึงๆมือแคปบอกให้นอนเล่นด้วยกัน นอนลงมา

กูต้องรีบกลับเข้าบ้านไปอาบน้ำแคปว่า

ห้านาที แค่คุยกันเองเอสกระชับหมอนข้างนอนตะแคงขณะที่แคปเอนตัวลงแล้วก็นอนตะแคงเข้าหาอีกฝ่ายเช่นกัน คุยแบบไหนไอ้สัสแคปถามออกมาหน้าแดงก่ำ คนมองกระตุกมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์เอ่ยเสียงพร่า

คุยแบบนี้...

ริมฝีปากที่แนบเข้ามาทำเอาแคปเหมือนเด็กไม่ประสา เขาหลับตาลงพลางปัดป่ายมือขยุ้มเอาเสื้อย้วยของอีกฝ่ายไว้แน่น เสียงหัวเราะทุ้มต่ำพอใจดังลอดออกมาทั้งๆที่ริมฝีปากแค่เม้มๆย้ำๆไม่ได้ใช้ปลายลิ้นสอดเข้าไปเกาะเกี่ยวแม้แต่น้อย

จูบแบบเด็กๆหากแต่คนโดนจูบหลับหูหลับตาปี๋

น่ารักว่ะ

เอสคิดได้แค่นั้นจริงๆก่อนถอนริมฝีปากออกมา

มึงยิ้มทำไมแคปถามหน้าร้อนยิ่งกว่าโดนไฟลวก ซุกหน้าจนแทบจะชิดอกถ้าไม่โดนอีกคนเชยคางขึ้นมาก่อน

ใครจะคิด ว่ากูจะมีเมียขี้เหร่ได้ขนาดนี้หื้อ?”

ไอ้สัส กูยังเป็นผู้ชายอยู่ ไม่ได้ขี้เหร่แต่เรียกว่าหล่อมากต่างหาก หน้าตาแบบนี้คือหล่อแต่หน้าตาแบบมึงแถวบ้านกูเรียกโคตรของความขี้เหร่

คนฟังหัวเราะสุดจะเอ็นดู แคปฟาดผั๊วะๆหลายๆทีปากก็บอก กูเกลียดมึงที่สุด!

ครับๆๆกูขี้เหร่แต่มึงหล่อและที่สำคัญมึงยังเป็นผู้ชายเพราะแค่มึงยังมีเจ้านี่กูก็รู้แล้วล่ะว่ามึงเป็นผู้ชายของแท้แน่นอนเสียงทุ้มไม่พูดเปล่ายังแกล้งเอามือลงไปเฉียดลูกชายแคปที่ตอนนี้แข็งค้างเติ่งอยู่กลางลำตัว คนโดนจับถลึงตาทำหน้าโหดๆ แต่เอสหรือจะสน

หนาวว่ะขอซุกหน่อยสิว่าจบไม่รอคำตอบ มือใหญ่ซุกลงไปในที่อุ่นร้อนนั่น แคปหน้าร้อนฉ่าขณะที่เอสยิ้มแพรวพราว

ถ้ามึงหนาวก็มาซุกไข่กูได้นะเปลี่ยนกัน

เรื่องสิ ใครจะไปซุกวะกูไม่ได้บ้านี่หว่า เอามือมึงออกไปเลยไอ้สัส

ปากร้ายไม่เคยเปลี่ยน

หัวใจกูก็ไม่เปลี่ยนเว้ย เรื่องของกู

แก้มป่องๆโดนบีบจนปากจู๋ ริมฝีปากที่แนบลงมาอีกครั้งทำเอาซ่านไปทั้งหัวใจ

คืนนั้นกว่าเจ้าอาร์จะได้เข้าห้อง อาบน้ำเสร็จต้องนั่งหาวหวอดๆหนาวหงึกๆรออยู่หน้าห้องริมระเบียงที่เต็มไปด้วยไม้กระถางแขวนประดับมากมายนั่นแหละ ดีหน่อยคืนนี้ยุงไม่เยอะ ทั้งพระจันทร์ทั้งหมู่ดาวเปล่งแสงทอประกาย ดอกลั่นทมสีขาวสวยปลิดปลิวลงจากขั้วร่วงหล่น

สายลมหวีดหวิวควบคู่ไปกับเสียงหรีดหริ่งเรไรขับขาน...







พ่อครับ ไข่เจียวกุ้งของผมทำไมไม่ใส่ต้นหอมเลยอ่ะ

คาปูอย่าโวยวาย จานนั้นของเอสเขารายนั้นไม่กินต้นหอม พ่อจำได้นะ

โหของคาปูไม่มีแล้ว คิดถึงต้นหอมในจานไข่เจียวจริงๆเลยแคปดีใจอยู่นิดๆที่เฮียโก้จดจำบางอย่างเกี่ยวกับเอสได้หากแต่เขาปั้นหน้าทำหน้าเสียทำเสียงออดอ้อน ก็เมื่อคืนเขาออเดอร์ไข่เจียวกุ้งไว้กับพี่พายพ่อครัวใจดี ไหงพอเช้าตื่นมาในครัวกำลังวุ่นเรื่องอาหารแต่บนโต๊ะที่เต็มไปด้วยกับข้าวมากมายไม่เห็นจะมีไข่เจียวกุ้งใส่ต้นหอมมิกซ์กับมะเขือเทศของแคปเลย

โทรเรียกอาร์เร็วเข้า บอกให้พาเอสมาที่นี่ได้แล้ว ตื่นกันหรือยังล่ะเนี่ย

ตื่นแล้วครับ ผมปั่นจักรยานไปแอบดูมาแล้วเมื่อเช้ายังพาแวะไปดูโรงปลูกสตอเบอรี่เลยท่าทางดีใจใหญ่

อ้าวแล้วทำไมออกมากันช้าล่ะ

แคปกดโทรออก ยังไม่ทันได้รอสายเกินสองครั้งรถกอล์ฟคันเล็กสีขาวก็มาจอดลงหน้าบ้าน เอสในชุดเรียบร้อยเดินเข้ามา

ไงเอส ได้ยินว่าไปดูสเตอเบอรี่มาเหรอ ชอบไหม นั่นน่ะคาปูกับอาร์เขาช่วยกันดูแลอยู่เลยนะ

ครับสวยมากเอสตอบพลางกวาดตามองอาหารบนโต๊ะ โก้ถือจานปลาสลิดทอดเดินเข้ามา ชี้บอกแคปว่าให้รีบไปล้างมือตักข้าวได้เลย

เอสกับอาร์ก็ไปล้างมือเร็วเข้า มาทานข้าวพร้อมกันเดี๋ยวพ่อต้องรีบไปเปิดร้าน จวนจะแปดโมงแล้ว

พ่อครับแล้วอาฟี่จะมาตอนไหนอ่ะแคปตักแกงส้มมะรุมใส่จานให้เอส เจ้าอาร์เตะขาเขาอยู่ใต้โต๊ะบอกตักให้กันมั่ง แคปถลึงตาใส่แล้วแยกเขี้ยว วันนี้แคปนั่งข้างเอสส่วนอาร์นั่งข้าง ๆ โก้ พี่พายเดินเข้ามาหยิบน้ำในตู้เย็นโก้จึงเรียกให้มานั่งทานด้วยกัน

คุณโก้ตามสบายเลยครับ ผมเรียบร้อยแล้วเดี๋ยวออกไปเปิดร้านรอ

ฝากด้วยนะพาย

โก้ร้องบอกออกไปพายยกมือให้สัญญาณว่าโอเคไม่ต้องห่วง จากนั้นคุณพ่อหนุ่มแว่นจึงหันกลับมามองที่แคป

อาฟี่จะเข้ามาช่วงเย็น ลาเต้ก็เพิ่งโทรมาเห็นบอกว่าจะถึงตอนเย็นๆเหมือนกัน

ตลอดช่วงเช้าของวันนั้นเอสตามแคปเข้าไร่สุดท้ายช่วงบ่ายไปกินข้าวกันที่ครัวของร้านกาแฟ จากนั้นเขาก็อยู่ช่วยงานยาวที่นั่น

งานที่บริษัทยุ่งมากหรือเปล่าเอสโก้เพิ่งมองส่งลูกค้ารายหลังสุดออกไปจากร้าน เขาหันมาถามเอสที่กำลังช่วยคัดเมล็ดกาแฟช่วยอยู่ด้านในเคาน์เตอร์

ครับ ยุ่งนิดหน่อย

แล้วมาที่ไร่แบบนี้ไม่เป็นอะไรหรือ

ไม่ครับ สัปดาห์นี้ไม่มีงานประชุมวาระสำคัญความจริงมี แต่ให้ปอเข้าแทนกับน้องอุ้ม ไม่งั้นเลขาอย่างเจ้าปอหรือจะพลาดมาที่ไร่นี่

เอ๊ะเอสทำงานหน้าที่อะไรนะลูก ทำที่ตึกรัชชาใช่ไหม ที่เดียวกับเจ้าปอใช่หรือเปล่า

ครับใช่

แล้วทำแผนกอะไรล่ะ เอสทำเกี่ยวกับส่วนไหนของรัชชาหรือ

“...................”

โก้ไม่คิดเลยว่าตัวเองจะได้รับคำตอบเป็นจุดไข่ปลา เขาโคลงศีรษะแล้วกลอกตาพลางบ่นอุบกับตัวเองว่ากูไม่น่าถามออกไปเลย สงสัยว่าตำแหน่งงานจะสูงเกินไม่ก็ต่ำเรี่ยจนไม่กล้าพูด เดินเข้าไปตบไหล่หนาเบา ๆ แล้วบอกให้ออกไปนั่งพักหน่อยก็ได้  เอสช่วยคัดเมล็ดกาแฟจนเสร็จ

ผมออกไปหาแคปนะครับ

ไปสิ น่าจะออกมากันแล้วล่ะ ส่งลูกทัวร์กรุ๊ปสุดท้ายแล้ว

เอสถอดผ้ากันเปื้อนสีดำที่คล้ายกับชุดบาริสต้าออก เขาผลักประตูกระจกก้าวออกไป ลมเย็นๆปะทะใบหน้าคม แคปกวักมือเรียกจากที่ไกลๆ เอสมองซ้ายมองขวาเป็นโก้ที่เปิดประตูออกมายื่นกุญแจรถกอล์ฟส่งให้

เข้าไปชมไร่ดีๆใหม่สักรอบ แล้วเดี๋ยวออกมาทานข้าวเย็นพร้อมกัน ลาเต้ใกล้จะมาถึงแล้วล่ะ

ครับ

หลังจากนั้นแคปก็ทำหน้าที่พาคุณชายแห่งรัชชาชมสวน รถกอล์ฟคันเล็กเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆตามถนนที่ตัดเป็นเส้นเล็กๆผ่านต้นผลไม้ชนิดต่าง ๆ วกไปวนมาหากเจออันไหนที่น่าสนใจแคปจะจอดลงแล้วบอกให้เอสลงไปเด็ดมากินบนรถได้เลย

ถ้ามึงมาช่วงหน้าร้อน จะเห็นเงาะสีแดงๆออกลูกเต็มไปหมดเลยล่ะ ทั้งมังคุด ทั้งมะม่วง ทุเรียนก็เยอะนะ นั่นไงต้นนั้นน่ะต้นทุเรียน ส่วนต้นโน้นโซนโน้นทั้งหมดเป็นมังคุด เฮ้ยแล้วก็นั่นอย่ามัวแต่มองฝั่งนี้ ฝั่งนั้นเป็นซุ้มองุ่นทั้งหมดเลยแต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่ฤดูกาลของมันเพราะงั้นเลยเห็นแต่ต้นมันแบบนี้แหละ ใบเบยอะไรก็ไม่ค่อยจะมี เขาถึงว่าเที่ยวสวนผลไม้ต้องเที่ยวหน้าร้อนไงหน้าหนาวแห้งแล้งปลูกอะไรก็ไม่ค่อยจะติดหรอก อ่ะนั่นเดี๋ยวกูจะจอดให้มึงลงไปเด็ดขึ้นมากินได้นะ พุทราแอปเปิ้ลเยอะมากๆเลยใช่ไหมล่ะ

แคปจอดรถเอสก้าวลงไปแล้ววิ่งไปเด็ดมาสองลูกเช็ดกับเสื้อของแคปแล้วเขาก็เอาขึ้นมากัดกิน

เออลืมถาม กินได้เลยป่ะเนี่ย ต้องไปล้างไหม

แคปส่ายหัว กินได้แบบไม่ต้องล้าง ผลไม้ที่ไร่กูปลอดสารพิษทุกต้นไม่งั้นจะมีลูกค้าเข้ามาเก็บกินสดๆกันทุกวันหรอกหรือ แค่เช็ดให้สะอาดก็พอ

เอสยิ้ม แคปเองก็ยิ้ม คนนั่งป้อนคนขับจากนั้นพวกเขาก็หัวเราะกัน

แวะสเตอรี่อีกหน่อยได้หรือเปล่า

ได้ดิ มึงอยากเข้าไปดูอีกเหรอ

อืมเอสพยักหน้าบอกอือๆ แคปจอดรถลงแล้วเดินทักทายคนงานก่อนตามเอสที่ดิ่งเข้าไปก่อนแล้ว มีนายโชนที่ตอนนี้ได้รับหน้าที่ให้ดูแลโรงเพาะปลูกนี้วิ่งเข้ามาทำความเคารพเอสอย่างนอบน้อม

อะไรเนี่ยนายโชน รู้จักเพื่อนผมด้วยหรือไงเห็นทำท่าสนิทสนมกันตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วนะโชนยิ้มแห้งหน้าจืดไปนิดๆ ขณะที่เอสก็แค่ขำๆ พยักหน้าบอกโชนว่าให้ไปทำงานต่อไม่ต้องมาเทคแคร์เขาหรอก จากนั้นดึงแคปชวนไปดูอะไรบางอย่างที่เตะตาตั้งแต่เดินเข้ามา เขาใช้มือช้อนลูกสเตอเบอรี่สีแดงสดขึ้นมาจากกระถาง จากนั้นหันมาใช้สายตาถามแคปว่าเด็ดมากินได้ไหม หากแต่เจ้าของไร่ถลึงตาใส่แล้วตีมือใหญ่เสียงดังเพี๊ยะ!

ยังกินไม่ได้!  นี่กูยังต้องทดลองต่ออีกหน่อย ลูกเนี๊ยะลุ้นกันกับไอ้อาร์กว่าจะโต เจ้านี่มันเป็นพรีเซ็นเตอร์ของไร่เชียวนะมึง ลูกค้าบางคนมาเพราะอยากดูมันนี่แหละ ผลสวยใบงามลูกสาวกูเองมึงจะมาเด็ดกินฟรีๆได้ไงวะ

เสียเงินกูก็จะจ่ายนี่ ไม่กินฟรีหรอก

มันไม่ใช่แบบนั้นเว้ยมึงก็

น้อยใจเหอะ

อย่ามาทำงอนเป็นสาวนะเว้ยกูไม่ง้อบอกไว้ก่อน

ชิ

ไปหัดมาจากไหนเนี่ยไอ้นิสัยแบบนี้น่ะ เดี๋ยวเถอะๆ

สองคนเถียงกันไปเดินต่อปากต่อคำกันไป คนหนึ่งก็ช่างแกล้งช่างแหย่อีกคนก็ขึ้นง่ายหน้าตาโมโหด่าแว๊ดๆอยู่ตลอด โชนมองเจ้านายสองคนของเขาแล้วยิ้มออกมา

เจ้านายสองคนของเขายิ้มกว้างขนาดนี้ได้สักที

เอ๊ะอย่ามือบอนสิวะมึงนี่แคปตีมือเอสเป็นรอบที่สิบ คนถูกปรามหันมาทำหน้างอนหน่อย ๆ แคปชี้บอกว่าไม่ให้เด็ด

เดี๋ยวต้องรอให้มันโตกว่านี้ก่อน มาคราวหน้าเดี๋ยวกูจะเด็ดให้มึงกิน

เอสหยุดยืนแล้วอมยิ้ม กูมาอีกได้จริงเหรอ

มาไม่ได้เว้ย ไม่ให้มาแล้ว!ประชดล้วนๆ คำพูดจากใจจริงก็คือ ทุกเมื่อที่มึงต้องการ เอสเองก็เข้าใจนะ เขาผลักหัวแคปเบา ๆ แล้วเดินเลี่ยงไปดูกระถางอื่นต่อจนสักพัก

ออกไปกันเถอะว่ะ เดี๋ยวเฮ้ยเต้คงจะมาถึงแล้ว

กูมาอีกได้จริงๆใช่ไหมล่ะ

คนถูกถามนิ่งไปชั่วครู่ก่อนย่นจมูกแล้วพยักหน้าหงึกๆ เออ ตลอดเวลา

คำตอบที่ทำเอาหัวใจคนฟังพองโต เอสคว้าหมับมือเล็กมาจับจูงไว้ สองคนเดินออกมาขึ้นรถกอล์ฟขับออกไปด้วยกัน

มึงเตรียมตัวให้พร้อมหน่อยก็แล้วกันนะแคปจับเอาหมวกคาวบอยที่วางอยู่หน้ารถสวมเข้าที่หัวทุยๆผมตั้งๆของคนข้าง ๆ จะว่าไปเอสมันไปซอยผมมาใหม่เหรอวะ สั้นไปอีกนะสัส

เตรียมตัวทำไม

กูว่าเฮียเต้มาถึงแล้วน่ะสิ








ฮัดเช่ย!!

เต้ก้าวลงจากรถก็จามออกมาทันที เขาถอดแว่นกันแดดเหน็บเข้าที่หน้าอกเดินฉับๆขึ้นเนินร้านกาแฟไปหาเฮียโก้

พ่อครับเต้ยกมือขึ้นไหว้ โก้ยิ้มกว้างรับลูกชายคนโต ไม่เห็นกันนานหนึ่งเดือนเต้ดูคล้ำแดดขึ้นผมสั้นลงและดูเหมือนจะผอมลงอีกสักสองโลได้

มาแล้วเหรอเต้เปิดตู้เย็นคว้าแก้วคาปูชิโน่เย็นๆออกมายื่นส่งให้ แซนวิชทูน่าของโปรดถูกเตรีมไว้ให้อย่างเรียบร้อยสวยงาม

น้องล่ะครับพ่อ อยู่กับเจ้าอาร์?”

อยู่ในไร่แหนะ เต้เข้าไปตามสิลูก เรียกออกมาทานข้าวพร้อมกันเลยนะ เดี๋ยววันนี้ปิดร้านเร็วหน่อย

เต้พยักหน้ารับคำ เดินไปหยิบเอากุญแจรถกอล์ฟคันเล็กที่แขวนอยู่จากนั้นออกจากร้านลงบันไดหินเล็กๆที่ทำไล่ระดับไว้ข้างต้นลีลาวดีขนาดใหญ่ จับเอารถกอล์ฟขับช้าๆเข้าไร่ไป

ระหว่างทางเจอคนงานหลายคนเรียกทักทายกัน เต้จึงบอกให้แวะเข้าไปเอาของฝากที่บ้านใหญ่ก่อนกลับด้วย

ขอบคุณครับคุณเต้

ลุงกล้าเห็นเจ้าแคปไหมครับ

คุณแคปอยู่โรงปลูกสตอเบอรี่น่ะครับ เห็นเข้าไปพักนึงแล้ว

เต้พยักหน้ารับ ยกมือบอกขอบคุณก่อนเคลื่อนรถขับออกไปแบบเรื่อย ๆไม่รีบ

โตแล้วเหรอเนี่ยมะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์ที่เขาเป็นคนลงเอาไว้สิบกว่าต้นเมื่อปีที่แล้ว ในตอนนี้ออกลูกเต็มไปหมด สีเหลืองสีเขียวปะปน เขาก้าวลงจากรถเดินไปเอื้อมเด็ดมาหนึ่งลูกวางไว้ที่เบาะข้างคนขับ ยกข้อมือดูเวลาอีกทีเมื่อเห็นว่าจะเย็นย่ำมากแล้วจึงรีบบึ่งรถไปที่โรงเพาะเลี้ยงผลไม้จุดหมาย สุดท้ายไม่เจอใครเลยสักคนมีแต่นายโชนที่กำลังจัดการเรื่องท่อส่งน้ำเลี้ยงพันธุ์พืช

คุณแคปกลับออกไปแล้วครับ

ไหนๆก็เข้ามาแล้วเต้จึงเดินเข้าไปดูผลงานของแคปกับอาร์นิดหน่อย เขาได้ยินแคปมันโม้ทางโทรศัพท์เรื่องโรงเลี้ยงที่ภูมิอกภูมิใจนักหนาหลายทีแล้ว พอมาเห็นว่าสำเร็จได้แบบนี้ก็อดปลื้มใจแทนน้องชายไม่ได้ เดินดูสักพักจึงค่อยขับรถกลับออกไปอีกฝั่งทางของไร่







เฮ้ย!! รถเฮียเต้นี่หว่า

แคปแทบจะกระโดดลงจากรถกอล์ฟทันทีที่เอสขับออกมาจอดลงที่หน้าบ้าน รถเฮียเต้เข้าซองแล้วเรียบร้อยข้างกันกับปาเจโร่สีดำคันงามของเอสเลย เขารีบวิ่งพรวดพราดขึ้นไปแอบมองอยู่ที่กระจกหน้าร้านกาแฟ โก้เห็นจึงบอกว่าเต้เข้าไร่ไปตามหาแคป

เฮ้อค่อยยังชั่วแคปหายใจทั่วท้องรีบวิ่งกลับมาหาเอสที่ตอนนี้เดินไปนั่งเล่นรออยู่ที่แคร่ไม้ไผ่ใต้ต้นมังคุด

มึงเข้าบ้านก่อนเร็ว เฮียเต้มาแล้วเดี๋ยวกูต้องเข้าไปตรวจดูห้องเฮียให้เรียบร้อยอีกทีก่อนว่ายังไม่ทันจบดึงมือเอสฉุดให้ลุกขึ้นทั้งเดินทั้งวิ่งเข้าบ้าน แคปเริ่มลนลานนึกขึ้นได้ว่าห้องพี่ชายเขายังทำอะไรบางอย่างไม่เสร็จ มองหาไอ้อาร์ก็ไม่รู้มันหายหัวไปอยู่ที่ไหน มองไม่เห็นใครจำใจช้อนตามองเอสแล้วลากขึ้นไปด้วยกัน

กูไม่เข้าไปหรอกนะ เดี๋ยวรออยู่ตรงนี้เอสว่าพลางพิงราวบันได

เฮ้ย เข้าไปปูที่นอนช่วยแปปเดียวดิ มันหนักเหมือนกันนะที่นอนเฮียน่ะ

เอสส่ายหัวบอกไม่ลูกเดียว แคปจึงตัดใจรีบเข้าไปปูผ้าปูที่นอนผืนใหม่เอี่ยม เอาให้เรียบและตึงเปรี๊ยะ พอเสร็จเขาเดินออกมาไม่เห็นเอสแล้วจึงรีบตามลงมาที่ด้านล่าง ร่างสูงใหญ่สมส่วนยืนทอดสายตามองออกไปที่นอกหน้าต่าง

อากาศเย็นลงแล้ว

ท้องฟ้าเองก็เริ่มมืด

เมื่อค่ำคืนโรยตัวลงมา

อีกไม่นานเฮียโก้คงจะปิดร้านตามเข้ามาแล้ว

แคปหอบหมอนผ้าห่มและหมอนข้างที่เอามาตากผึ่งลมไว้หลังบ้านมาจัดการใส่ปลอกสวมเรียบร้อยก่อนยัดทุกอย่างใส่อกเอส คนถูกยัดไม่รู้ตัวได้แต่เลิกคิ้วงงมองของในอกพะรุงพะรังที่รับเอาไว้แบบจำใจนั่น

เอาขึ้นไปวางไว้ที่เตียงพี่กูที ห้องเมื่อกี้นั่นแหละมึงรู้ใช่ไหม

แล้วทำไมไม่เอาขึ้นไปเองวะแคป

เอาเถอะน่า

แคปไม่ตอบคำถามนั้นเขาเพียงแค่ใช้สายตาส่งแล้วดันคนตัวสูงให้เดินขึ้นบันได ขณะที่ตัวเองยืนรออยู่ด้านล่าง

เอสค่อยๆก้าวขึ้นมาลังเลชั่วขณะก่อนที่เขาจะบิดลูกบิดประตูแล้วเปิดเข้าไป ลมเย็นๆหอบหนึ่งพัดผ่านบานหน้าต่างเข้ามากระทบใบหน้าคม เงาสีดำของต้นไม้นอกชานพาดทับม่านหน้าต่างวูบไหว กลิ่นหอมอ่อนๆของลั่นทมกำจาย ทันทีที่เขากดเปิดสวิทไฟ ร่างทั้งร่างพลันสั่นเทิ้มขึ้นมา
เอสก้าวเข้าไปราวต้องมนต์สะกด วางสิ่งที่ถืออยู่ทั้งหมดลงที่เตียงใหญ่ทั้งที่สายตายังไม่สามารถละออกจากผนังห้องทั้งสี่ด้านได้เลย


...รูปของแคปกับพี่ชาย...


รูปถ่ายที่อัดแน่นไปด้วยความทรงจำหลากหลายตั้งแต่เด็กจนโต


ข้อความที่จดบันทึกด้วยลายมือของพี่รหัสที่เขาจดจำได้เป็นอย่างดี


ทั้งเป็นระเบียบ....งดงาม และบรรจงราวกับในตอนที่เขียนนั้นใช้ทั้งหัวใจทั้งร่างกายถ่ายทอดออกมา


แต่ละภาพ...


เรื่องราวที่กระตุกหัวใจเขาให้ไหลวูบ

.

.

.

.

คาปู เฮียเต้มารับแล้ว

เจ้าหนูตัวผอมผิวขาวสะพายเป้ใบใหญ่ยู่ปากแดงๆใส่พี่ชาย ทั้งที่ตัวเองกำลังขี่ชิงช้าโต้ลมจนเส้นผมสีอ่อนปลิวว่อน  คาปูยังอยากเล่นต่ออีกหน่อยครับ

เดี๋ยวพ่อกับอาฟี่จะรอนานนะ วันนี้เฮียเต้มารับเอง คาปูรอนานรึเปล่าเฮียขอโทษนะ วันนี้ทำเวรมารับช้าเลย

คาปูรอได้ครับ คาปูเล่นรอ ถึงจะรอน้านนานคาปูก็จะรอ คาปูรอเก่ง

กลับบ้านกันเถอะ ส่งมือมาให้เฮียเร็วๆจับกันไว้เดี๋ยวพาข้ามถนน

เฮียเต้ถือกระเป๋าให้คาปูไหมล่ะ

ส่งมานี่เลย

.

.

.

.


เฮียเต้..

หือ?”

คุณแม่ของเราหน้าตาเป็นยังไงเหรอ

คุณแม่เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกเลยล่ะ

คาปูอยากเห็นหน้าคุณแม่ อยากให้คุณแม่ไปรับที่โรงเรียน อยากให้คุณแม่กอดแล้วก็เล่านิทานให้ฟัง

คาปูหน้าเหมือนคุณแม่มากเลยนะรู้ไหม

เฮียเต้เคยเห็นคุณแม่ของพวกเราไหมฮะ

เกือบจะลืมหน้าไปแล้ว

งั้นคาปูรีบนอนดีกว่าเผื่อคืนนี้จะฝันว่าคุณแม่มานอนกอด

อืมนอนเถอะ เฮียจะกล่อมนะวงแขนใหญ่รั้งคนตัวเล็กเข้ามาซุกอยู่ในอก ริมฝีปากขยับเอื้อนเอ่ยเพลงช้าเบาๆขับกล่อมให้น้องชายอุ่นใจแล้วหลับตาลง ไม่ว่าคืนนั้นน้องชายจะมีคุณแม่อยู่ในความฝันหรือไม่หากแต่ตื่นนอนตอนเช้าวงแขนของคุณพ่อกับคุณอาของเขาจะโอบกอดสองพี่น้องไว้ตลอดทุกคืนวัน

.

.

.

.

คาปูเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมใครทำ

ฮึกก เฮียเต้ครับ เพื่อนล้อคาปูว่าเป็นเจ้าหัวเห็ด คาปูไม่เข้าใจทำไมพ่อถึงตัดผมทรงนี้ให้คาปู

หัวเห็ดแล้วยังไง หัวเห็ดแล้วน่ารักจะตาย มานี่มาเฮียจะหวีผมให้นะ ผมคาปูนิ่มจัง

แต่คาปูอยากจะหล่อเหมือนเฮียเต้

คนฟังหัวเราะ ปาดคราบน้ำตาให้น้องชาย เอาไว้โตก่อนคาปูค่อยหล่อ ตอนนี้เฮียให้ใช้คำว่าน่ารักไปก่อนก็แล้วกัน

.

.

.

.

เฮียเต้ คุณแม่ของเราอยู่บนดวงจันทร์หรือเปล่าฮะ

ไม่รู้สิ อาจจะใช่มั้ง

งั้นเฮียเต้อุ้มคาปูหน่อย เฮียเต้อุ้มๆ คาปูคิดถึงคุณแม่ คาปูจะเอื้อมมือไปถึงดวงจันทร์แล้วดึงคุณแม่ลงมาให้นะ  เฮียเต้อุ้มๆ”  เด็กน้อยเบะปากร้องไห้โยเย ชูสองมือจะเอื้อมคว้าดวงจันทร์  พี่ชายรีบโผเข้าไปหา

คาปูโตแล้วไม่งอแง

คาปูตัวเล็กๆ เฮียเต้อุ้มหน่อย กอดกัน กอดๆมือเล็กชูขึ้นเงยหน้าช้อนสายตามองพี่ชายที่รักยิ่ง

ไม่อุ้มหรอก ทำแบบนี้ดีกว่าเนอะ ฮึ๊บ สูงดีไหม คาปูตัวสูงกว่าเฮียอีกนะเนี่ย ให้ขี่คอเลยพี่ชายอุ้มเจ้าตัวดีขึ้นมาใส่คอแล้วทำท่าโยกเยกชูมือขึ้นบนท้องฟ้า จากร้องไห้กลายเป็นยิ้มร่าพยายามจะเอื้อมเอาพระจันทร์ดวงโต

คาปูจะเอาพระจันทร์ได้ไหมฮะ

ไหนลองคว้าลงมาซิ คาปูคว้าลงมาได้ไหมล่ะ

เฮียเต้เขย่งอีกหน่อยสิ คาปูจวนจะจับถึงแล้ว ฮึ๊บๆ

.

.

.

.

เฮียเต้ทำการบ้านเสร็จหรือยังครับ คาปูรออยู่เจ้าหนูถือหุ่นยนต์วิ่งเข้ามาหาพี่ชายที่นั่งทำการบ้านอยู่ เขาละมือมาจับแก้มกลมของน้อง

แล้วคาปูทำการบ้านหรือยัง เราต้องอ่านหนังสือทุกวันก่อนนอนนะ ถ้าไม่ทำระวังอาฟี่จะดุ

ทำไมเราต้องอ่านหนังสือด้วยล่ะฮะ

อืม อันนี้ก็ไม่รู้แฮะ เอาเป็นว่าต้องอ่านแหละ เฮียก็อ่านคาปูเห็นไหม อ่ะ คาปูอ่านเล่มนี้ก็ได้ มาอ่านด้วยกัน

แต่คาปูยังอ่านไม่ออก คาปูง่วงแล้วพี่ชายมองคนตัวเล็กขยี้ตา เขาวางมือลงบนหัวเล็กๆนั่น รู้ว่าน้องรอ

คาปูง่วงแล้วเหรอเด็กน้อยปีนขึ้นเตียงใหญ่ เต้ตามเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ

ครับ  เฮียเต้เล่านิทานให้คาปูฟังหน่อยนะ  คืนนี้เอาเรื่องอะไรดี

คืนนี้จะเล่าแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ล่ะ

โหหหหเจ้าหนูน้อยทำตาโตสักพักเอียงหัวเหมือนคิดบางอย่างออก แต่เรื่องนั้นเบื่อแล้ว คืนนี้อยากฟังพินอคคิโอนี่นา

โอ๊ยเรื่องนั้นก็เล่าจบไปนานแล้วเล่ายี่สิบกว่ารอบ คืนนี้เอาเรื่องเจ้าชายน้อยดีไหมหรือว่าลูกหมูสามตัวดีพี่ชายเชยคางเล็กขณะที่น้องชายฉีกยิ้มแก้มแดงพยักหน้าหงึกๆ บอกอะไรก็ได้ ก่อนจะลุกขึ้นไปเขย่งปลายเท้าจนสุดเพื่อกดสวิทดับไฟ พอห้องมืดก็ส่งเสียงกรี๊ดๆแล้ววิ่งเข้ามาซุกตัวในผ้าห่มของพี่ชาย ปีนป่ายนอนซบอยู่บนพุงอุ่นๆของพี่ สุดท้ายเด็กตัวเล็กก็หลับคาอ้อมอกของเขาทั้งที่นิทานยังไม่จบเลย มือใหญ่ลูบศีรษะเล็ก

.

.

.

.

เฮียเต้ครับ สอนการบ้านคาปูหน่อย

อย่าวิ่งดิเดี๋ยวลืนหรอก ไหนดูซิหน้าไหน

หน้านี้ๆ คาปูยังไม่เก่ง คาปูทำไมเป็นแต่คุณครูบอกว่าคาปูเป็นเด็กฉลาด

คาปูต้องบวกตรงนี้ก่อน เลขสองกับเลขห้าเราเรียกว่าหลักหน่วยนะ ห้ามบวกข้ามหลักรู้ไหม ลองทำดูเดี๋ยวเฮียตรวจให้

ครับ คาปูจะพยายาม

คนเก่งของเฮีย

.

.

.

.


คาปูอยากกินอะไร ข้าวผัดไหมหรือว่าไข่เจียวเดี๋ยวเฮียจะพาข้ามถนนไปซื้อนะ มามะ มาจูงมือกัน

ไม่เอาๆเด็กน้อยส่ายหน้าจนปากสั่น มือเล็กดึงมือพี่ชายบอกให้นั่งลง คาปูอยากให้เฮียเต้ทำให้กิน ทำข้าวผัดราดซอสมะเขือเทศ

หือ เอาแบบนั้นเหรอเจ้าเด็กขี้อ้อนซบใบหน้าซุกลงที่คอพี่  เต้ลูบหัวลูบหลังแล้วสัญญาว่าจะทำให้กิน  น้องตัวเล็กฉีกยิ้มกว้าง

คาปูรักเฮียเต้ที่ฉุดเลย...

เฮียเต้ก็รักคาปูที่สุดเหมือนกัน...





คนที่ยืนมองภาพถ่ายแห่งความทรงจำตกอยู่ในห้วงแห่งภวังค์ ครั้นมือที่ยกขึ้นสัมผัสบรรดารูปภาพและข้อความมากมายต้องชะงักเพราะว่าเสียงทุ้มน่ากลัวที่ดังมาจากด้านหลัง

คาปูคือหัวใจของกู

ราวกับทุกอย่างพลันหยุดนิ่ง เอสค่อยๆหันกลับมาเผชิญหน้ากับเจ้าของห้องตัวจริง

ถ้ามึงทำน้องกูเสียใจแม้แต่ครั้งเดียว กูจะฆ่ามึงให้ตายคาตีนกูเลย

วงแขนใหญ่ล็อคเอาคออดีตน้องรหัสเข้าหาตัว กดลงแรง ๆเพื่อชนเข้ากับศีรษะของตัวเองก่อนที่น้ำตาลูกผู้ชายจะร่วงหล่นลงข้างกาย

เฮียเต้..

แคปเสียงเครือก้าวเข้ามา เต้ดึงเอาตัวน้องชายมากอดไว้อีกข้าง ม่านน้ำตาแตกกระจายเมื่อแคปจับมือใหญ่ของคนที่เขารักทั้งสองคนมาวางไว้ด้วยกัน เอสตาแดงก่ำขณะที่เต้บีบมือน้องรหัสตัวเองเสียจนแน่น

ในตอนนั้นเองที่แคปวางฝ่ามือเล็กของตัวเองทาบทับลงไปแล้วร้องไห้โฮออกมา

ไม่ว่าใครที่มีอดีตร่วมกันมามองเห็นภาพตรงหน้าต่างก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

เต้ข่มกรามแน่นก่อนพยักหน้าเบา ๆ ขณะที่เอสเองก็กัดริมฝีปากจนสั่นไปทั้งตัว ทว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการที่จู่ๆเต้ก็ดึงทั้งสองคนเข้ามากอดไว้จนแทบจะจมลงที่อก ข้างหนึ่งคือน้องชายที่รักยิ่งอีกข้างคือน้องรหัสคนรักของน้องชายเขา เสียงสะอื้นไห้และขอบคุณครั้งแล้วครั้งเล่าดังลอดออกมาจากบ่าใหญ่ที่เปียกปอนไปด้วยหยาดหยดน้ำตานั่น


...ใครว่าผู้ชายร้องไห้ไม่เป็น...


กระเป๋าสตางค์ใบเก่าถูกหยิบขึ้นมา ก่อนที่เต้จะล้วงของชิ้นเล็กๆบางอย่างที่นอนแน่นิ่งอยู่ในนั้นยาวนานถึงห้าปีออกมา


..เกียร์..


ครั้งที่หนึ่งกูมอบให้มึงในฐานะของพี่รหัส  แต่ครั้งที่สองนี้กูมอบคืนให้มึงในฐานะของ....พี่ชาย ความหมายของเขาคือคนในครอบครัว เอสจ้องมองสิ่งที่วางลงบนฝ่ามือเขาแน่นิ่ง ตื้นตันจนไม่รู้จะอธิบายออกมาอย่างไร เขาค่อยเงยหน้ามอง

ไม่มีครั้งที่สามอีกแล้วเต้วางของสำคัญที่ครั้งหนึ่งเขาเคยกระชากออกจากลำคอขอน้องชายลงบนฝ่ามือสั่นเทิ้ม  เจ้าของที่แท้จริง

น้ำตาหนึ่งหยดไหลตกลงมา ม่านน้ำตาไม่สามารถกางกั้นทุกความรู้สึกของคนทั้งคู่ได้ เอสเอ่ยถ้อยคำที่กลั่นออกมาจากข้างใน ปลายเสียงสั่นเทิ้ม 

หัวใจของผมถูกสลักลึกไว้ด้วยชื่อของน้องชายเฮียนานแล้ว....ขอบคุณมากครับ

เฮียเต้.. ผมขอโทษ ขอโทษครับ..แคปที่ยืนมองอยู่ตลอดก้าวเข้าหาซุกหน้าลงที่พี่ พร่ำคำขอโทษ ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง หากแต่เต้กลับส่ายหน้าช้า ๆวางมือใหญ่ลงที่ศีรษะเล็ก ไม่ต้องขอโทษ มึงไม่ได้ทำอะไรผิดคาปู ตั้งแต่เล็กจนโตมึงคือความภาคภูมิใจที่สุดของเฮีย มึงโตขึ้นมากจริง ๆ สายตาที่มั่นคง แข็งแกร่งแบบนี้สิถึงค่อยสมกับเป็นน้องชายเฮีย ทำปัจจุบันของมึงให้มีความสุขที่สุดก็พอแล้วคาปู ความรักไม่มีแบ่งเพศ พวกมึงสองคนใช้เวลาพิสูจน์กันมามากเพียงพอแล้ว

แคปสะอื้นไห้ ดวงตาแดงก่ำไม่ต่างกันกับเอส มือใหญ่ของเต้ขยี้ลงที่หัวเล็กอีกครั้งก่อนกอดล็อคเอาไว้แน่น  อกกว้างที่อุ่นเสมอของพี่ชาย แคปเสียงสั่นพร่า ขอบคุณครับเฮียเต้

แคปคว้าจับมือของเอสเข้ามากอดเอาไว้ก่อนที่เต้จะล็อคเอาตัวอดีตน้องรหัสเข้ามากอดอีกหน

สามคนกอดคอกันร้องไห้

ไม่รู้ทำไมเอสถึงรู้สึกราวกับได้ยินคำขอโทษที่ถ่ายทอดมาจากหัวใจแข็งแกร่งของเฮียเต้

แคปสะอื้นจนตัวโยนเงยหน้ามองทั้งสองคนก่อนยิ้มออกมาทั้งน้ำตานองหน้า

กลิ่นลั่นทมหอมลอยเอื่อยเข้ามาอีกแล้ว สายลมอ่อนๆพัดผ่านจนเส้นผมทั้งสามคนปลิวไสว ดอกไม้โบราณยามราตรีส่งกลิ่นหอมกำจายไกล

หากมีใครอีกคนที่ยืนดูดบุหรี่พิงราวบันไดมองอยู่หน้าห้อง

ม่านควันสีเทาหม่นเผยให้เห็นสายตาคมกริบที่อ่านให้ตายอย่างไร ก็อ่านได้ไม่เคยออก


อาฟี่...







เมฆดูสวยงาม เมื่อยามมองฟ้า ฟ้าดูกว้างใหญ่เหมือนเก่า

เมื่อยังเล็กแหงนดูมือไขว่คว้าเอา สูงจังอยากตัวโตสูง

จ้องมองแสนนาน พี่ชายคงเห็นยิ้มเดินมาใกล้แล้วอุ้ม

ขี่คอจนเกือบสูงทัน จ้องมองบนฟ้านั่น

เอื้อมมือถึงจันทร์ จะเอาเป็นของเรา

...ครั้นโดนเขารังแก ร้องงอแงร้องไห้

พี่คนนี้ยังคอยคุ้มครองคุ้มภัย น้องเอยอย่ากลัวใครเขา

สองพี่น้องเดินไป น้องตามพี่ชาย

จับมือจูงน้องไปมองฟ้าอันกว้างใหญ่ ฟ้าคงไกลไป ขี่คอพี่สูงเอง...


(Cr.เพลงพี่ชายที่แสนดี)









Tbc.