Wednesday, April 9, 2014

เพื่อนแบบนี้ก็มีอยู่ครับ(My friends) *Yaoi* ตอนที่ 22



ตอนที่ 22  จุดเปลี่ยน




คฤหาสน์สวยยังใหญ่โตเหมือนเดิม ประตูรั้วอัลลอยด์สีทองที่ห่างจากตัวบ้านเป็นกิโล ไฮบริจสีขาวเคลื่อนตัวขับผ่านรูปปั้นน้ำพุปลาโลมาขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางสวนหน้าบ้าน 


ใช่ครับวันนี้โป้งมันพาผมกลับบ้านด้วยเห็นบอกว่าจะอยู่ค้างหนึ่งคืน พวกเราเลยจำเป็นต้องเอาไอ้ตัวเล็กมาด้วยกัน  ลูกหมาน่ารักพันธุ์ชิสุน้ำตาลขาวมัดจุกสีชมพูที่นั่งอยู่บนตักผมตอนนี้  คงนึกไม่ออกใช่ไหมครับว่าใครเป็นคนมัดจุกปัญญาอ่อนแบบนั้นให้มัน


ผมชำเลืองมองไอ้คนขับนิดนึงก่อนที่มันจะหยุดรถลงที่หน้าประตูใหญ่


ลงตรงนี้นะครับโน่ เดี๋ยวมีคนเอารถไปเก็บให้มันบอกพร้อมปลดเบลท์ออกเอื้อมมือไปหยิบถุงขนมที่วางอยู่เบาะหลังแล้วเปิดประตูก้าวลงจากรถ  ส่งกุญแจรถให้กับผู้ชายคนนึงในชุดฟอร์มบอดี้การ์ดของโรงแรมชื่อดังสุดหรูย่านสาทร ที่ยืนรออยู่ก่อนหน้า


คุณอาล่ะมันถามขึ้น พร้อมส่งถุงขนมให้กับป้าผู้หญิงที่มายืนรอรับกระเป๋าของพวกเราอยู่ 


คุณท่านรออยู่ด้านในครับเขาตอบด้วยท่าทางนอบน้อม


วันนี้คุณอาไม่ออกไปไหน ? ทำไมนายยังอยู่ที่นี่ 


ท่าทางและน้ำเสียงของมันดูไม่เหมือนโป้งคนที่ผมเคยรู้จักเลย ดูเป็นทางการ น่าเกรงขามยังไงชอบกล


พอคุณภารู้ว่าคุณปิยนัทจะกลับมาวันนี้ก็แคนเซิ่ลงานช่วงเย็นทั้งหมดเลยครับ ตอนนี้รออยู่ด้านใน อาหารพร้อมรับประทานเรียบร้อย 


ขณะที่เขาพูด เขาไม่สบตามันแม้แต่ครั้งเดียว ค้อมศีรษะไว้ตลอด


ป้าชื่น เดี๋ยวฝากเลี้ยงเจ้าตัวเล็กด้วยนะครับมันรับเจ้าตัวเล็กจากมือผมส่งให้ป้าแกอุ้มไป  พอได้หมาปุ๊บแกก็รีบเดินเข้าด้านหลังด้วยท่าทางแปลก ๆ จนผมอดมองตามไม่ได้ 


คุณอาแกไม่ชอบหมาน่ะ สมัยก่อนกูเคยแอบเอามาเลี้ยง โดนแกจับได้บ่นไปเป็นเดือนตอนนี้มันเลยต้องระหกระเหินไปอยู่ญี่ปุ่นกับแม่กูแทน 


แปลกจริง ๆ ครับ คนแบบนี้ก็มีอยู่ด้วย ไม่น่าเชื่อยังมีคนที่แข็งกระด้างขนาดนั้นอยู่ คนที่ไม่ชอบหมา ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย 


บ้านกูเปลี่ยนไปเยอะใช่ไหม”  


ใช่ครับผมอยากตอบอย่างนั้นมากแต่ก่อนผมเคยมาเล่นที่บ้านมันถ้าจำไม่ผิดน่าจะสัก ม.5 ไม่ก็ ม.6 แต่ตอนนั้นไม่เป็นขนาดนี้ บรรยากาศยังดูเหมือนบ้าน  อบอุ่นกว่านี้เยอะอาจเป็นเพราะตอนนั้นพ่อกับแม่มันยังไม่ย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นเต็มตัวแบบนี้ 


บ้าน....ที่แลดูบรรยากาศกดดัน....อาจเป็นเพราะคนที่อาศัยอยู่...รึเปล่านะ 


เราเดินมาถึงหน้าห้องอาหารพอดีครับ น้องปิ่นกับคุณอามันนั่งรออยู่ก่อนแล้ว


สวัสดีครับคุณอา  โน่เพื่อนผมครับมันทักคุณอาของมันแล้วแนะนำตัวผมทันทีเมื่อสายตาที่หัวโต๊ะคู่นั้นเลื่อนมาจับอยู่ที่ผม


เธอ....ผู้หญิงทำงานสมัยใหม่ผมซอยสั้นตีโป่ง ไม่จัดว่าสวยแต่เรียกว่าดูดีน่าจะเหมาะมากกว่า 


สวัสดีครับคราวนี้เป็นผมครับที่ยกมือขึ้นไหว้เธอ


มา...เข้ามานั่งเลยลูก วันนี้พาเพื่อนมาด้วยแปลกนะเรา 


คำพูดที่แสนอบอุ่น แต่ไม่เข้ากับบรรยากาศรอบตัวสักนิด เธอพยักหน้าให้พวกผมเข้าไปนั่ง จานอาหารถูกวางไว้ตามจำนวนคนเรียบร้อย ที่ด้านหลังเธอมีแม่บ้านคอยยืนดูความเรียบร้อยอยู่ห่าง ๆ 


ทานข้าวกันเลยนะเสร็จแล้วจะได้ไปคุยกันที่ห้องรับแขก 


นี่แหละครับความกดดันที่ผมพูดถึงทุกอย่างต้องเป็นทางการ กฎก็คือกฏ กฎของที่นี่มีไว้ปฏิบัติตามเท่านั้นไม่ได้มีไว้ให้ใครแหก ห้องอาหารมีไว้สำหรับทานอาหารเท่านั้น หากจะคุยคุณต้องไปคุยที่อื่น และในระหว่างทานอาหารไม่มีแม้แต่เสียงที่หลุดลอดออกมาจากปากของเธอ


หลังจากทานอาหารกันเรียบร้อย  ไอ้โป้ง ผม และน้องปิ่น ก็เดินคุยกันเข้ามาที่ห้องรับแขก น้องปิ่นเดินเลยไปเปิดทีวีให้ ผมเลยลด ๆ อาการเกร็งลงไปบ้าง น่าสงสารตัวเองจริง ๆ ครับหลงตอบรับมากับมันได้ไงก็ไม่รู้


ตอนนี้พ่อกับแม่เค้างานยุ่งมากเลยคงยังกลับมาไม่ได้ โทรไปหาเค้าแล้วใช่ไหมลูกเสียงเธอดังขึ้นที่หน้าประตูครับ 


ครับ โทรไปแล้ว 


แล้วเรื่องเรียน เป็นไงบ้าง?” เธอเดินเข้ามานั่งลงบนโซฟาหลุยส์สีทองตรงข้ามกับพวกผมพอดี


อีกแค่ 2 ปีก็จบแล้วนี่  จบแล้วจะได้ไปต่อนอกซะทีนะพ่อกับแม่เค้ารอเราอยู่รู้ไหม 


ผมไม่ได้หันไปมองครับว่าไอ้โป้งทำหน้ายังไง ทำเป็นไม่สนใจกับคำพูดนั้นของเธอแกล้งหันไปดูทีวี น้องปิ่นเองก็คงคิดไม่ต่างกับผม


ผมไม่ไปหรอกครับคุณอา ผมจะอยู่ที่นี่ เรียนต่อที่นี่เลยมันตอบพร้อมเลื่อนตัวเองให้ชิดกับตัวผมเข้ามาอีก ทั้งที่เราก็นั่งอยู่ข้างกันแท้ ๆ 


คิคิ   ชอบพูดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้นะเรา ก็รู้อยู่ว่าพ่อแม่เค้าตามใจเราแค่ไหน ที่จริงโป้งต้องไปตั้งแต่จบ ม.6 แล้ว  แต่เราก็ดื้อจนพ่อแม่เค้าใจอ่อน คราวนี้คงต้องเอาใจเค้าบ้างนะลูกมันนั่งหน้านิ่งเลยครับ น้องปิ่นเองก็เริ่มมองหน้าพวกผมไปมาแล้ว 


โป้งเธอเรียกมันพร้อมจับสายตามันล็อคค้างไว้ที่ดวงตาเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ  สายตาที่แสนกดดัน!


ตอนนี้ไม่มีใครที่ทำธุรกิจโรงแรมแล้วไม่รู้จักเมธามินทร์ของเรา โป้งต้องคิดได้นะลูก หนูต้องเรียนรู้โลกให้กว้างขึ้น จะเป็นคนที่อยู่เหนือคนน่ะเราต้องขวนขวายหาประสบการณ์ให้เหนือคนอื่น จะมาจมปลักเรียนแค่ที่ไทยอย่างเดียวไม่ได้หรอกนะ  เชื่ออา


“........”  มันนั่งเงียบ  สีหน้าเรียบเฉยจนดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่


ต่อไปโป้งต้องมาคุมงานที่โรงแรมแทนอา ต้องคุมกิจการทั้งหมดแทนพ่อกับแม่ โป้งเป็นลูกชายคนเดียวของที่บ้านนะลูก น้องเองก็จะได้สบายไปด้วย เรียนไปด้วยแล้วค่อย ๆ คิดไปว่าอยากจะไปเรียนต่อที่ไหน....


อาภาครับ ผมไม่คิดที่จะไปที่ไหนหรอกครับ ผมจะอยู่ที่เมืองไทย เรียนที่นี่แล้วก็ทำงานที่นี่เลยมันสวนคำพูดขึ้นมา ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังจนผมกับน้องต้องหันมอง


คิคิ  อะไรกันจ้ะ หรือว่ามีสาว ๆแล้ว เลยไม่อยากถูกจับแยกใช่ไหมเนี่ย   ใช่ไหมจ๊ะโน่ โป้งเค้ามีแฟนแล้วใช่รึเปล่า?” คราวนี้เธอหันมาถามผมครับ ไอ้โป้งหันมามองหน้าผมด้วยสายตาที่มีแต่แววแห่งความกังวลอยู่เต็มเปี่ยม 


ไม่มีหรอกครับคุณอา  ผมไม่อยากพูดเรื่องนี้แล้ว ไว้เราค่อยคุยกันนะครับ ผมขอตัวขึ้นข้างบนก่อน 


เอางั้นก็ได้ วันหลังค่อยคุย  อาให้คนเตรียมห้องไว้ให้เพื่อนเราเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยว...


ไม่ต้องหรอกครับ ผมจะให้โน่นอนที่ห้องผมเลย ขอตัวนะครับ 


มันพูดแทรกขึ้นแถมพอพูดจบยังดึงมือผมให้ลุกตาม  ผมรีบยื้อมือออกทันทีที่สังเกตว่าสายตาของอามันจับแช่อยู่ที่มือของพวกเรา



แต่มันไม่ยอมปล่อยจับซะแน่น! เหมือนต้องการประกาศให้อามันรู้



อาภาของมันลุกขึ้นยืนทันทีด้วยท่าทางที่ช็อกสุด ๆ กับสิ่งที่เห็นอยู่ตอนนี้ 



โป้ง!!”  เธอเรียกมันอย่างดังเลยครับ 



ทั้งสองคนจ้องกันนิ่ง บรรยากาศมาคุสุด ๆ 



ไม่มีใครพูดอะไร ต่างคนต่างใช้สายตาพูดกัน....



คนนอกอย่างผมดูไม่ออกหรอกครับว่าเค้าพูดอะไรกันบ้าง 



จนกระทั่ง...



ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวนะครับ พรุ่งนี้จะกลับแต่เช้าเลยไม่รอให้อามันพูดอะไรต่อครับมันดึงมือผมตามออกไปทันที ผมไม่ได้หันกลับมามองว่าสีหน้าของคนที่มองตามหลังพวกผมจะเป็นยังไง


แต่คิดว่า.....คงไม่มีอะไรที่น่าประทับใจหรอกครับ


......



ทันทีที่ประตูห้องถูกปิดลง อ้อมแขนใหญ่จากด้านหลังก็เข้ามาโอบรัดช่วงเอวผมไว้อย่างหลวม ๆ 


อย่าคิดมากนะครับโน่”   น้ำเสียงที่แสนนุ่ม กับลมหายใจร้อนผ่าวรดลงที่ต้นคอ


ไม่ได้คิดหรอก  มึงเหอะอย่าคิดมากละกัน”  ผมแกล้งผลักหัวมันเบา ๆ ทั้งที่ตัวเองก็เริ่มรู้สึกใจคอไม่ค่อยดีแล้ว


“.....กลัวโน่ไม่สบายใจ”  


หึ......มึงจะมาอ้อนอะไรตอนนี้ กูเองก็เริ่มคิด ๆ แล้วเหมือนกันล่ะวะ
 

แต่.....


ผมหันกลับไปหามัน


โป้ง  กูไม่เป็นไร บอกแล้วไงว่าไม่คิดมากหรอก ตอนนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว  ไปอาบน้ำกันดีกว่ากูง่วงแล้ว 


ครับ อาบด้วยกันนะ เดี๋ยวกูอาบให้มันพูดพร้อมถอดเสื้อผมออก แล้วจูบลงเบา ๆ ที่ปลายจมูกรั้น 


รักโน่นะครับพูดจบก็สวมกอดผมไว้อีกครั้งแล้วก็นิ่งไป...


“.....โป้ง ?”


“...........” เงียบ


รีบอาบน้ำเหอะ  นะ”  ผมละตัวออกจากมัน  มันเองก็รีบเบี่ยงตัวเดินหลบหน้าเข้าไปในห้องน้ำทันที


เดี๋ยว!”  ผมคว้าแขนมันไว้เมื่อสังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ


มึงร้องไห้ ทำไมตาแดง 


เปล่า  ง่วงนอนแสบตามันเลี่ยงหันหน้าไปอีกทางแล้วตอบ


ผมชักใจไม่ดีเลยครับท่าทางมันจะคิดมากเรื่องที่มันพูดอยู่เหมือนกัน  เราสองคนอาบน้ำด้วยกันจนทุกอย่างเรียบร้อย สังเกตสีหน้ามันเริ่มดีขึ้นมาหน่อย ผมกับมันนุ่งผ้าเช็ดตัวคนละผืนเดินออกมา แอร์เย็นจัดจนผมต้องห่อไหล่ไว้ด้วยความหนาว  ขนลุกไปหมด


หนาวววว....โป้ง กูหนาวจะแย่แล้ว ลดแอร์หน่อยดิพูดไปปากก็สั่นไป ส่วนมันยืนแก้ผ้ากำลังใส่กางเกงเน่า ๆ ของมันอยู่ไม่มีสั่นเลยสักนิด มันเดินไปหยิบรีโมทขึ้นมาปรับลดแอร์ให้


ผ้านวมผืนใหญ่ถูกมันผึ่งกางออกแล้วโอบคลุมลงมาที่ตัวผมพร้อมอ้อมกอดที่รัดจนแน่น


อื้อ  ยังไม่ได้ใส่ผ้าเลย อย่าเล่น 


หายหนาวรึยัง”  


“..........” ผมปล่อยให้มันกอดไว้อย่างนั้น จนกระทั่ง


โป้ง ? ”


ขออยู่แบบนี้สักพักนะ  ให้กูได้กอดมึงไว้แบบนี้นาน ๆ  


น้ำเสียงที่สั่นนิด ๆ ของมันทำเอาผมต้องนิ่งฟังเสียงแม้แต่เสียงของลมหายใจที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่


โน่ครับ


“.......”


โป้งรักโน่นะ  มากที่สุดแล้ว


พูดแล้วมันก็เดินไปหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกงตัวที่ถอดพาดไว้ อะไรบางอย่างเล็ก ๆ อยู่ในมือมัน ผมพยายามเล็งในขณะที่มันเดินไปนั่งลงที่หน้าทีวี  ปลายเตียง


flash drive ?!! 


มันเปิดตู้ใต้ TV ออกมา


เครื่องเสียง!!


เรียบร้อยครับ ถูกเสียบเข้าไปเรียบร้อย เพลงช้า ๆ เพลงโปรดนำทางของมันกำลังเริ่มเลย


มันลุกขึ้นมาแล้วครับ เดินจ้องเข้ามาเรื่อย ๆ แถมยกยิ้มหน่อย ๆ  สายตาแม่มเจ้าชู้สุดๆ


ผมเองก็ถอยลงไปเรื่อย ๆ เหมือนกัน 


ไม่เอานะมึง อะไรกันเมื่อกี้ยังตีหน้าเศร้าอยู่เลย


มันไม่ตอบครับ ยิ้มอย่างเดียว เอื้อมมือไปหรี่ไฟลงจนเหลือแต่แสงสลัว


โป้ง ไว้วันหลังเหอะ เดี๋ยวอามึงได้ยิน คนอยู่เยอะแยะผมไม่มีทางถอยแล้วขาชนเข้ากับเตียงอย่างจัง


ไม่เอาไม่ได้ครับโน่ วันนี้กูตั้งใจไว้แล้วมันถึงตัวผมทันทีที่พูดเลย  แย่แน่เสื้อผ้าก็ยังไม่ได้ใส่  มีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว กับผ้าห่มคลุมไว้เท่านั้นเอง


สองมือหนาสอดลึกเข้าที่เส้นผมแสนนุ่มเลื่อนลึกเข้าไปถึงท้ายทอย...


มันมอบจุมพิตที่หวานล้ำราวกับไอติมหวานเย็นรสโปรดที่ทำให้ผมทั้งสดชื่น และรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้สัมผัส


มือหนาค่อย ๆไล้ปลายนิ้วลงมาที่ไหล่บางทั้งสองข้าง  จนผ้าห่มนวมผืนใหญ่ที่คลุมตัวผมอยู่เลื่อนตกลงมากองอยู่แทบเท้า....


ในที่สุดฝ่ามือหนาเลื่อนลงมากระตุกผ้าเช็ดตัวออกเบา ๆ 


โป้ง...ผมเรียกมันแล้วยื้อตัวออก


จะทำเบา ๆ นะครับ  สัญญา”   


เสียงกระซิบที่นุ่มนวล จังหวะการขบเม้มที่ติ่งหูนิ่มกับลมหายใจที่รวยรดลงในซอกรูหู ทำเอาผมเสียวจนใจกระเจิง 


ผมหลับตาลงปล่อยอารมณ์ไปตามจังหวะการลูบไล้ของนิ้วมือมัน


สองกายกอดรัดท่ามกลางแสงสลัวของหลอดไฟสีส้ม


แอร์ที่เย็นช่ำ กับเสียงเพลงที่บรรเลงขับกล่อมอยู่เบา ๆ 


ผมไม่รู้ว่าแบบนี้เรียกว่าถูกหรือผิด....


ผมมอบใจและกายให้มันไปแล้ว....


และนี่....


ก็คือการปลอบประโลมที่อบอุ่นที่สุด ที่ผมและมันจะสามารถมอบให้กันและกันได้.....


เรียวลิ้นเปียกชื้นดูดซับรสชาติของอีกฝ่าย กระหวัดเกี่ยวพัวพันไปทุกซอกทุกอณูเพื่อดูดกลืนกลิ่นกายและความอบอุ่นของกันและกัน อย่างเชื่องช้าเนิบนาบ


เสียงครางเครือราวกับคนเพ้อ....ความคิดเหตุผลทั้งปวงหลุดหายไปจากหัวสมอง 


อ้อมแขนที่โอบรอบลำคอหนาราวกับร้องขอสัมผัสให้มากขึ้นไปอีก 


กลืนกู...เข้าไปหมดเลยนะครับโน่”  สะโพกเล็กถูกถาโถมเข้าใส่เรียกเสียงครางดังระงม


กูรักมึงโน่   รักจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว”  


ร่างที่สั่นระริก.....จุดเชื่อมต่อที่แสนร้อนลุ่มดุจเปลวไฟแผดเผา พร้อมจะหลอมละลายให้เป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์


สะโพกถูกยกลอยขึ้นอีก กายกำยำถาโถมเข้าใส่พร้อมมอบจุมพิตประพรมทั่วใบหน้าหวาน เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดตอบรับแลกเปลี่ยนลมหายใจแห่งรักและความเชื่อใจ


เสียงร้องสุดข่มกลั้นจากความเสียวกระสันดังกึกก้อง  ร่างกายบอบบางถูกบดเบียดจนแทบแหลกสลาย 


กอดกู...โป้ง...กอดเอาไว้อย่าปล่อยนะ..อย่าไปไหนคำพูดที่หลุดออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจพร้อมหยาดน้ำที่คลอหน่วยอยู่ที่ดวงตาสีน้ำตาลสวย


กอดอยู่แล้วครับ ไม่มีวันปล่อยไปไหน 


น้ำเสียงที่อ่อนหวานช่างตรงข้ามกับการเคลื่อนไหวที่แสนรุนแรง มันจูบซับเข้าที่รอยน้ำตาจากดวงตาของผมอย่างอ่อนโยน


ทั้งหยาดเหงื่อหยาดอารมณ์ปนเปื้อนกันจนตัวเปียกชุ่มไปหมด


สติสัมปชัญญะเลือนหาย ความรู้สึกดื่มด่ำในรสรักราวกับถูกมอมเมา....ร่างกายแอ่นกระตุกรับของเหลวอุ่นร้อนทะลักทะลายทั้งของตัวเองและของคนด้านบนหยาดหยดไหลตามหน้าท้องและเรียวขาเป็นหลักฐานของความสุขสม


สองมือของมันประคองพวงแก้มสีชมพูระเรื่อพร้อมกดจูบลงบนริมฝีปากอ่อนนุ่มอย่างลุ่มหลง ปลายลิ้นเรียวสอดแทรกเข้ามาหยอกเย้าอยู่ภายในโปรงปากอุ่นอย่างอ่อนโยน รสชาติของจูบที่หอมหวานปานน้ำผึ้ง....




จะไม่หนีไปไหนครับ  กูสัญญา


....



...



เช้านี้มันปลุกผมแต่เช้าเลย เห็นบอกว่าจะพาลงไปเดินเล่นกันที่สนามหน้าบ้าน เราแวะไปเอาเจ้าตัวเล็กจากตึกแม่บ้านด้านหลังมาเพื่อมาเดินเล่นด้วยกัน ผมลืมเอาสายจูงมาครับเลยต้องปล่อยมันวิ่งเล่นไปเรื่อย 


คนที่เดินอยู่ข้าง ๆ กันตอนนี้ เลื่อนมือมาจับมือผมไว้ สองมือสอดประสานเข้าด้วยกัน


ขอโทษนะครับโน่มันพูดขึ้น ทำเอาผมต้องหันไปหามันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถาม


ขอโทษที่พามาที่นี่ ทำให้มึงต้องมารับรู้อะไรน่าปวดหัวมันพูดแล้วกระชับมือผมแน่นขึ้นอีก


หึ  ไม่เห็นเป็นไรเลยโป้ง ถ้ามีเรื่องอะไรกูก็อยากแชร์กับมึงทุกอย่างนั่นแหละ เราเป็นแฟนที่เหมือนกับเพื่อนสนิทยิ่งได้เปรียบกว่าแฟนทั่วไปนะมึง”  ผมพูดยิ้ม ๆ กะเย้ามันไปในตัว


พูดแบบนี้คิดถึงไอ้คิมรึไงครับ หืมมันหันมายิ้มให้ผม ดึงมือผมขึ้นมาแนบมันอกไว้


เปล่านะ ไม่ได้คิดสักหน่อยผมรีบปฎิเสธเลยครับ ไม่ได้คิดจริงนะ 


เดี๋ยวพรุ่งนี้มันก็กลับมาแล้วล่ะ เมื่อวานโทรมาบอกกู”  ผมแปลกใจนิดหน่อย ก็มันเพิ่งไปเมื่อวานเองทำไมจะกลับเร็วขนาดนั้น


มันคิดถึงมึงอ่ะสิ ยังไม่รู้ตัวอีกอะไรกันยังไม่ได้ถามเลยมันรู้ได้ไงว่าผมคิดอะไร


แต่กูเลิกกับมันแล้ว ตอนนี้เป็นแค่เพื่อน ต้องดัดนิสัยมันบ้างกูยังไม่ยอมคืนดีง่าย ๆ หรอก


ตลกว่ะมึงโน่  อยากคืนดีกับเค้าจะแย่ยังเล่นตัวอยู่ได้ เดี๋ยวมันก็ทิ้งมึงไปจริง ๆ อย่ามาร้องโอดโอยละกันมันพูดพร้อมยิ้มล้อเลียน เจอผมฟาดลงไปเต็ม ๆ สิครับ ขนาดนั้นก็ยังไม่ยอมปล่อยมือเลย


คุณโป้งคะ”  พี่แม่บ้านคนนึงเดินเข้ามาหาพวกเรา


 “คุณภาท่านเรียกพบค่ะ รออยู่ที่ห้องรับรองเล็ก”   


“.....เดี๋ยวกูมา มึงขึ้นไปเก็บของรอก็ได้ เสร็จแล้วเราจะได้ออกไปกันเลย หรือจะเดินเล่นรออยู่แถวนี้ก็ตามใจ พอพูดจบมันก็เดินตามพี่แม่บ้านออกไปทันที


ผมเดินเล่นกับตัวเล็กซักพัก ก็เอามันไปฝากไว้ที่ตึกด้านหลังครับ กะว่าจะขึ้นห้องไปเก็บของนิดหน่อยก่อนที่จะกลับ 


แต่เสียงที่ดังลอดออกมาจากห้องมุมด้านหลังทางขึ้นบันไดใหญ่ ทำให้ขาต้องหยุดชะงักโดยอัตโนมัติ


เสียง......ที่ดังมานั้น....



“.....แกเป็นหลานชายคนเดียวของตระกูลเรา เป็นความหวังของทุกคน เป็นผู้สืบทอดทุกอย่างของพ่อกับแม่แก  ทำไมถึงได้ทำตัวแบบนี้ โป้ง ความรักงี่เง่าอะไรของแกที่แกบอกมาน่ะ แกคิดว่ามันจะยั่งยืนรึยังไง เสียงตะคอกที่ทั้งดังทั้งสั่นทำให้ผมตัดสินใจเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ 



เห็นอามันยืนอยู่หน้าโซฟาตัวใหญ่ในขณะที่ตัวมันนั่งฟังอยู่ที่โซฟาเงียบ ๆ 


ต่อไปแกต้องแต่งงานมีครอบครัว มีลูกมีเมียที่น่ารักดูแลธุรกิจของตระกูลเรา อย่าคิดอะไรตื้น ๆ เอาแต่ใจตัวเองแบบนี้


คุณอา! 


หยุดแค่นี้โป้ง!  แค่นี้ฉันก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว แกรู้ไหมเมื่อเช้าแม่บ้านเค้าพูดกันว่ายังไงตอนขึ้นไปเก็บห้องแก  แกไม่อายแต่ฉันอาย ตระกูลเราไม่เคยมีประวัติแบบนี้มาก่อนเลยโป้ง แกเป็นอะไรไปแล้วหลงอะไรมันนักหนา มันปรนเปรอแกมากขนาดนั้น ?”


คุณอาหยุดนะครับ!!”  มันลุกขึ้นตะคอกอย่างดังเลยครับ สองมือกำแน่น



ไปเรียนต่อนอกซะ!  เมื่อกี้อาโทรคุยกับแม่แกเรียบร้อยแล้ว จะส่งแกไปให้เร็วที่สุด  เรื่องมหาลัยแกไม่ต้องห่วงอาจะจัดการให้เอง


ผมไม่ไป!  ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมรักโน่มันไม่ใช่ความหลง เรารักกัน และผมจะอยู่ที่นี่ไม่สนใจชื่อเสียงเงินทองอะไรทั้งนั้น!มันพูดขึ้นเสียงจนเสียงสั่น


ไม่ไปไม่ได้  ถ้าแกไม่ไปคนที่จะเดือดร้อนที่สุดก็คือคนของแก ฉันจะทำทุกทางให้แกกับเด็กคนนั้นเลิกกัน ชั้นมีหลานชายคนเดียวไม่มีทางที่ฉันจะยอมให้เกิดเรื่องบ้า ๆ แบบนี้ขึ้นมาแน่


“.....คุณอาขู่ผม ?”


ไม่ได้ขู่  แกก็รู้ว่าฉันทำได้จริง  ถ้าฉันไม่แน่จริงฉันจะคุมโรงแรมใหญ่ขนาดนี้แทนพ่อแม่แกได้ยังไง  อย่าบีบให้ฉันต้องทำในสิ่งที่แกไม่อยากเห็น เชื่ออา พอได้แล้ว  เลิกกันซะ จบความสัมพันธ์ที่หน้าอับอายของพวกแกไว้แค่นี้ ลืมให้หมดทุกอย่าง ไปเริ่มต้นใหม่ที่อื่น เรียนจบแล้วอาจะหาผู้หญิงดี ๆมาให้แกเลือกถึงที่เลย


ผมไม่ไปครับคุณอา  ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้าย และผมจะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้นด้วย ผมไม่สนใจใคร ผมรักโน่คนเดียว! รักมานานแล้ว แล้วก็จะรักตลอดไป!


หยุดพูดนะโป้ง เดี๋ยวนี้แกกล้าเถียงฉันขนาดนี้ ?   อย่าพูดถึงความรักวิปริตผิดเพศอะไรของแกนั่นแค่ฟังฉันก็จะอ้วกแล้ว”  เธอกัดฟันพูดท่าทางโกรธมาก


คุณอาคงไม่เคยรักใคร ถึงได้พูดแบบนี้กับผมมันเถียงขึ้นอีกทันที


โป้ง!!



“...ขอโทษครับ    ขอบคุณที่สั่งสอน ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวนะฮะ”  มันเดินเลี่ยงจะออกมา แต่อามันเลื่อนตัวมาบังเอาไว้


แกดื้อกับฉันไม่ได้หรอกตราบใดที่แกยังไม่ได้รับมอบอำนาจใด ๆ ฉันจะส่งแกไปเรียนต่อให้เร็วที่สุด จะไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้นอีกแล้ว


อาภาครับ ผมพูดคำไหนคำนั้นตั้งแต่เด็กคุณอาคงจำได้ ถ้าผมพูดว่าไม่ก็คือไม่คุณอาเองก็รู้จักผมดี เรื่องพ่อกับแม่ผมจะคุยกับพวกท่านเอง ถ้าไม่มีอะไรแล้ว....


หึ...หลานรัก แกฟังเอาไว้ดี ๆ   อาจะทำให้แกยอมไปแต่โดยดีเลยล่ะ   แทบจะมาขอร้องอ้อนวอนอาเลยด้วยซ้ำ แกมันยังรู้จักฉันน้อยไป 


“.....ถ้ามีเรื่องผมไม่ไว้หน้าคุณอาแน่”  มันพูดแล้วเดินจ้องเข้าหาอย่างใกล้ 


เสียใจ!!  เรื่องนี้ฉันรับปากแกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับตัวแกเองทั้งนั้น


คุณอา!!”  มันตะคอกสุดเสียง


แล้วแกจะทำอะไรได้.....หืมม  บอกสิว่าแกจะทำอะไรได้...ตราบใดที่แกยังเป็นเด็กอยู่อย่างนี้ รีบ ๆ โตเป็นผู้ใหญ่เสียสิ!  ยังไงแกก็ต้องนั่งตำแหน่งผู้บริหารอยู่แล้ว ถึงวันนั้นแล้วแกค่อยมาสั่งฉัน จะไล่ฉันออกแกก็ยังทำได้เลย 


ทั้งสองคนยืนจ้องหน้ากันอยู่สักพัก  ในที่สุดมันก็ตัดสินใจเดินออกมาอย่างหัวเสีย 



โน่!!”  



หน้ามันถอดสีเมื่อพบว่าผมยืนอยู่รออยู่ด้านหน้าทางเข้าห้องรับรองห้องนั้น เสียงเรียกของมันดังพอที่จะเรียกให้ผู้หญิงที่อยู่ในห้องคนนั้นหันมามองที่ผมอย่างเอาเรื่อง


ผมไม่รู้จะพูดอะไร พูดไม่ออก รู้แต่ว่าตอนนี้หัวใจของผมเต็มไปด้วยความเจ็บปวด กลั้นน้ำตาไว้ให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ กลัวไอ้คนที่เพิ่งเดินออกมาจะรู้ว่าผมอ่อนแอขนาดไหน



....ในเวลาแบบนี้ต้องเป็นผมเท่านั้นที่ปลอบมัน



....ในเวลาแบบนี้ต้องเป็นผมเท่านั้นที่ต้องพูดว่าไม่เป็นไร 



ผม....จะไม่ให้มันรู้เด็ดขาดว่าตอนนี้ความอ่อนแอและความเจ็บปวดกำลังเกาะกินจิตใจผมอย่างโหดร้ายที่สุด



"ไม่เป็นไร"




สองฝ่ามือที่แสนอบอุ่นกอบกุมเข้าด้วยกัน   รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากน้อย ๆ 



คำพูดคำเดียวที่ผมให้ไว้กับมันก่อนที่เราจะออกมาจากบ้านใหญ่โตหลังนั้น....



ไม่ว่ายังไงผมเลือกที่จะเชื่อใจมัน เชื่อ...ในถ้อยคำสัญญาของมัน





"จะไม่ไปไหน จะอยู่กับมึง กูสัญญา"





Tbc.

..พี่เลี้ยง..THE DAY' I was your man(Yaoi-drama) พิเศษ Unseen 4 (ธารทราย)




Unseen-4 (ธารทราย)




-เหตุเกิดที่ร้านเค้ก-




“ธารเลือกดูสิ อยากทานอันไหน”


หลังซื้อของที่ซุปเปอร์เสร็จเมื่อรถขับผ่านร้านเค้กสุดโปรดวารินเลยบอกให้เขาแวะ แต่ธาราธารที่ตามลงมาด้วยดันทำท่าทางแปลกๆ คล้ายคนเพิ่งเคยเข้าร้านเค้กอย่างไรอย่างนั้น


“อันไหนก็ได้พี่เลือกเหอะ ผมกินไม่เป็นนะ”


“กินเค้กไม่เป็นเนี่ยนะ” วารินที่กำลังเลือกๆดูในตู้เค้กยืดตัวขึ้นอุทานเสียงกระซิบกับเขา น้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อสุด


“อือ ไม่เคยกินอ่ะไม่ชอบครีม”


“ถ้าอย่างนั้นเลือกกินเป็นฟรุตเค้กไม่ก็บราวนี่ไม่ก็ช๊อคโกแลตร้อน ๆ ก็ได้นี่ อันนี้อร่อยนะช็อคฯหน้านิ่มพี่ชายพี่ชอบมากๆเลย  เอาชิ้นนี้ครับแล้วก็นี่ด้วยสองชิ้น ธารเอาเป็นเค้กเมนลอนไหมหอมดีนะ หรือจะเป็นเครปเค้กก็ได้ ลองกินดู เอานี่อีกสองชิ้นด้วยครับ”


คนตัวเล็กชี้ ๆ สั่งพลางหันไปถามคนตัวสูงที่ยืนรออยู่ด้านหลังพลาง แต่สายตาเขาดันจ้องอยู่ที่ชั้นวางขนมแทน


“เอาคุ๊กกี้ได้ไหม รสนมนะ” เขาว่าแล้วเดินไปหยิบคุ๊กกี้รสนมบนชั้นออกมา ขวดโหลที่ใส่นารักมากๆ จนวารินอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้


“ชอบคุกกี้เหรอ?”


“เปล่า  ชอบกลิ่นนมต่างหาก”


“ถ้างั้นขอเป็นนมสดปั่นเพิ่มด้วยสองแก้วนะครับใส่วิปครีมด้วย” วารินออเดอร์เพิ่ม เขารีบดึงแขนเล็กไว้


“เดี๋ยวก่อนทำไมสั่งสองแก้ว ผมกินไม่เป็นนะนมปั่นน่ะ”


“อ้าวไหนบอกเมื่อกี้ว่าชอบนมไง”


“ชอบกลิ่นนม แต่ชอบดื่มกาแฟต่างหาก” เขาบอกวารินแล้วเดินเข้าไปใกล้เคาน์เตอร์


“ขอโทษครับ ผมขอเปลี่ยนเป็นกาแฟแก้วหนึ่งแทนนะ” ธาราธารหันไปสั่งที่คนขาย เด็กนักศึกษาที่ช่วยงานอยู่ที่ร้านหันมายิ้มกว้างให้กับเขาทั้งคู่


“เอาอะไรอีกไหม พาย? โดนัท?”


“เอาอันนี้ได้ไหม”


จู่ ๆ เขาก็ชี้ไปที่เค้กครีมที่มีลาวาสีนมไหลเยิ้มออกมา น่าทานมาก


“นั่นมันครีมนะ ไหนธารว่าไม่ชอบกินครีมไง”


“แต่ครีมแบบนี้ชอบนะ มันข้นเหมือนกับ.....”


เขาเดินเข้ามาใกล้ แล้วกระซิบถ้อยคำน่าอายที่ริมหูเล็กพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม วารินหน้าแดงเห่อ ศอกกลับที่ท้องเขาอย่างแรงเล่นเอาเขาถึงกับตัวงอ เด็กพนักงานในร้านหันมาส่งยิ้มกันอีกครั้งเมื่อเห็นเขาสองคนหยอกล้อกันแบบนั้น


“ขอบคุณมากครับ” วารินยื่นเงินจ่ายไปขณะที่เขารับเอาถุงขนมและแก้วเครื่องดื่มมาถือไว้เองทั้งหมด


“นั่งกินแถวนี้กัน” พอออกมาจากร้านเขาก็ชวนแวะนั่งที่เก้าอี้ไม้แถว ๆ ริมทางเดิน พร้อมยื่นแก้วนมปั่นให้วารินส่วนตัวเองก็ยกแก้วกาแฟขึ้นดูด


“ใช้ได้ไหม” วารินลองถามดู ร้านนี้ภูวดลติดใจรสเค้กมากแต่กาแฟยังไม่เคยสั่งทานกันมาก่อน ไม่รู้ว่ารสชาดจะใช้ได้หรือเปล่า


“ก็อร่อยนะ แต่....”


“แต่อะไร??”


ใบหน้าเล็กเงยถาม เพราะตอนนี้เขายืนขึ้นแล้ว ธาราธารหันมองซ้ายขวาก่อนโน้มตัวลงหาวารินใกล้ ๆ แล้วเอ่ยเสียงเบา



“แต่ผมชอบกาแฟที่พี่ชงให้มากกว่า มันทั้งหวาน ทั้งหอม ทั้งมันส์ รัญจวนใจสุดๆ ที่สำคัญครีมสีขาวแบบนั้นของพี่อร่อยกว่าวิปครีมที่ราดบนกาแฟแบบนี้....เยอะ!! หึหึหึ”





.......สรุปว่าคืนนั้น วารินต้องยกกาแฟขึ้นไปให้เขาอีกตามเคย......



************************************
Unseen>>> Tbc