ตอนที่ 19
ตุ่บ! ตุ่บ! ตุ่บ! ผั๊วะ!!
ตุ่บ! ตุ่บ! ตุ่บ! ผั๊วะ!!
“กินให้มันดีสิวะด้า
จะรีบไปไหนของมึง” ผมกำลังตบหลังช่วยชีวิตไอ้ด้าอยู่ครับ
มันกำลังสำลักขนมเค้กก้อนใหญ่ที่มันเสือกกระเดือกลงไปทั้งชิ้น
“อ่ะ.....แดกน้ำเข้าไปซะ ดูดดี ๆ
ล่ะ เดี๋ยวเม็ดไข่มุกก็ติดคอมึงซ้ำเข้าไปอีกหรอก น้องมึงนี่แปลกว่ะโน่
แค่ขนมเค้กชิ้นเดียวยังไม่รู้จักแยกแยะว่าควรกินคำขนาดไหน สมควรแล้ว”
ไอ้แบงค์เลื่อนแก้วชานมไข่มุกให้มันพร้อมคำสวดใส่ชุดยาวตามประสาเด็กแว่นวิชาการ
วันนี้งานกีฬาสัมพันธ์มหาลัยเราเป็นเจ้าภาพครับ
ช่วงเช้าหลังจากส่งไอ้โป้งที่ฟุตบอลคลับเสร็จหลังจากนั้นก็นัดแนะกับไอ้แบงค์ไปเชียร์ไอ้ด้าแข่งบาส ส่วนไอ้ดิวกับไอ้คิมวันนี้ประจำอยู่ที่ปรัมพิธีตลอดไม่ต้องถามถึง
และแน่นอนครับผลการแข่งบาสมหาลัยเราชนะไปได้อย่าสวยงามขาดลอย 2 แต้ม 55 ก็เลยเป็นเวรเป็นกรรมผมต้องพาไอ้ด้ามาเลี้ยงนี่ล่ะครับ
อย่าถามเรื่องเมื่อคืนนะผมพยายามจะลบความทรงจำช่วงนั้นอยู่
หลีกเลี่ยงเรื่องเครียด ๆ เพลงเครียด ๆ
ไอ้โป้งตื่นมาทำแซนวิชให้กินตั้งแต่เช้าไม่รู้อารมณ์ดีอะไรนักหนา
“โน่ แฮ่ก แฮ่ก....ผมไม่ยอมนะ
เลี้ยงแค่นี้ผมไม่เอาอ่ะ” ไอ้คนที่สำลักอยู่ตะกี้ทั้งพูดทั้งส่ายหน้า
คิดดูละกันผู้ชายตัวใหญ่ ๆ ทำหน้างอน ๆ อยู่กลางร้านเค้ก อายคนฉิบหาย
นี่กูมากับเด็ก 5 ขวบรึเปล่าเนี่ย
ผมกับไอ้แบงค์มองหน้ากันด้วยความระอา
“ถ้าเย็นนี้เฮียโป้งชนะโน่ต้องพาผมไปด้วย
ผมรู้นะว่าวันนี้โน่จะไปเที่ยวกันน่ะ” ไอ้ตัวดียังพูดต่อ
“ด้า” ไอ้แบงค์เรียกมัน
“ถามจริง มึงไม่มีเพื่อนไม่มีฝูงเหรอวะ มาตัวติดพวกกูขนาดนี้ หนังสือหนังหาอ่านบ้างเปล่ามึง?”
ไอ้แบงค์ซักฟอกมันต่อ
“อ่านนนน.....แค่วันนี้อยากอยู่กับโน่
ผมเรียนหนักออก
จะได้พักก็เฉพาะช่วงนี้แหละเดี๋ยวก็ต้องเตรียมตัวสอบแล้ว แล้วตกลงโน่ให้ผมไปด้วยนะ” มันยังอ้อนผมต่ออีกครับไอ้เด็กนี่มันจริง
ๆ เลย
“มึงอ้อนไอ้โน่แบบนี้ระวังโดนตีนไอ้โป้งกับไอ้คิมนะเว้ย”
ไอ้แบงค์แซวขึ้น มันยังไม่รู้เรื่องผมกับไอ้คิมครับ
“ไม่สนหรอก โน่เป็นเหมือนพี่ผม
ผมตามโน่ไม่เห็นเป็นไร แล้วตกลงเย็นนี้ว่าไง? ให้ผมไปด้วยนะครับโน่”
มันตอบแบบไม่สนใจแถมยังหันมาถามผมต่ออีก
“เอออออ! มึงนี่ตัวรู้ดีจริง ๆ แล้วจะไปเชียร์ไอ้โป้งกับกูรึเปล่า?”
“ ไปครับไปโน่ไปไหนผมไปด้วย”
มันรีบตอบใหญ่เลย ไอ้แบงค์ส่ายหัวเบา ๆ
กับคำตอบที่เหมือนเด็กติดพี่ของมัน
ผมยกนาฬิกาขึ้นดู บ่าย 4 โมงแล้ว อีกชั่วโมงเดียวบอลจะเริ่มแข่ง
ผมเดินเอาบิลไปเคลียร์พวกมันสองคนออกไปยืนรออยู่ที่หน้าร้าน
จากนั้นเราทั้งหมดก็ตรงไปที่สนามใหญ่ทันที ไอ้แบงค์โทรหาไอ้ดิวจัดแจงนัดแนะกันเรียบร้อยให้มันหาที่นั่งเหมาะ
ๆ ทางฝั่งเราไว้ โชคดีที่มันทำงานอยู่แถวปรัมพิธีพอดี
เราไปถึงสนามบอลก่อนเวลาเล็กน้อย
ไอ้ด้าแวะซื้อผลไม้ไปนั่งกินด้วย ไอ้ดิวพอเจอพวกเราก็พาไปหาที่นั่งที่มันดิวกับไอ้โป้งจองไว้ให้ก่อน
เพราะฉะนั้นตอนนี้พวกผมก็เลยได้มานั่งหน้าสลอนอยู่ด้านหลังทีมนักกีฬาแบบชิดติดขอบสนามจริง
ๆ
“โน่!” ไอ้โป้งที่กำลังยืดเส้นยืดสายอยู่กลางสนามวิ่งเข้ามาหาทันทีที่พวกเรานั่งลง
“ขอกำลังใจหน่อยดิ” มันพูดทำหน้าทะเล้น
“จะเอาอะไรมือหรือตีน”
ผมตอบไปกวน ๆ
“........” มันเงียบเท้าสะเอวหรี่ตามองดูผมอย่างเอาเรื่องก่อนจะโน้มตัวลงมา
“เอาทั้งตัวเลย คืนนี้นะ!” พูดแล้ววิ่งเลยครับมันน่ะ
ผมชี้หน้าคาดโทษมันอย่างเอาเรื่องโทษฐานกวนประสาทอย่างแรง
มาเล่นบ้าอะไรที่แบบนี้ยิ่งกลัวคนได้ยินอยู่ ไอ้ด้าก็นั่งติดกันซะ!
ผมเบะปากแกล้งงอนลอยหน้าลอยตาไปตามเรื่องมองโน่นมองนี่
สายตาไปสะดุดกับร่าง ๆ นึงที่ยืนคุยกับอาจารย์อยู่หน้าโพเดี้ยมหลัก สีหน้ามันฟ้องมากว่าเหนื่อยล้าเหลือเกิน
แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงความดูดีไว้ในสไตล์มัน เรื่องเมื่อคืนแวบเข้ามาในใจผมอีกครั้ง...
คำพูดสุดท้ายที่มันทิ้งไว้ให้ก่อนขอตัวกลับไป “คนที่กูรักมีแค่มึงเท่านั้นโน่ กูจะรักตลอดไป
จำไว้ด้วยนะครับ”
ผมอยากกอดมันอีกสักครั้งครับ
ไม่ใช่แค่มันหรอกที่รักผม ผมเองก็รักมันเหมือนกัน
คงมีแต่เวลาเท่านั้น.....ที่จะพิสูจน์ทุกอย่างได้....
.....
....
“กูเก่งใช่ไหมโน่ ?” ไอ้โป้งวิ่งเข้ามาตะโกนใส่ผมทันทีที่เกมส์จบลงทีมเราเป็นฝ่ายชนะไปอย่างสวยงามด้วยสกอร์ 1-0 ผู้คนเริ่มวิ่งทยอยเข้าสนามเต็มไปหมด เสียงมาร์ชเชียร์ของมหาลัยเราดังกึกก้อง นักกีฬาตั้งแถวรับเหรียญ คนลุกฮือเต็มไปหมดกว่าพวกผมจะแทรกตัวออกมาได้ก็แทบแย่ พวกเราใช้เวลาสักพักไปรอไอ้โป้งอยู่บริเวณหน้าห้องเปลี่ยนชุดของนักกีฬาซึ่งอยู่ภายในตัวอาคาร ไอ้คิมเดินสวนเข้ามาพอดี มันหยุดมองผม
คงมีแต่เวลาเท่านั้น.....ที่จะพิสูจน์ทุกอย่างได้....
.....
....
“กูเก่งใช่ไหมโน่ ?” ไอ้โป้งวิ่งเข้ามาตะโกนใส่ผมทันทีที่เกมส์จบลงทีมเราเป็นฝ่ายชนะไปอย่างสวยงามด้วยสกอร์ 1-0 ผู้คนเริ่มวิ่งทยอยเข้าสนามเต็มไปหมด เสียงมาร์ชเชียร์ของมหาลัยเราดังกึกก้อง นักกีฬาตั้งแถวรับเหรียญ คนลุกฮือเต็มไปหมดกว่าพวกผมจะแทรกตัวออกมาได้ก็แทบแย่ พวกเราใช้เวลาสักพักไปรอไอ้โป้งอยู่บริเวณหน้าห้องเปลี่ยนชุดของนักกีฬาซึ่งอยู่ภายในตัวอาคาร ไอ้คิมเดินสวนเข้ามาพอดี มันหยุดมองผม
“มารอมัน ?” มันถามขึ้นด้วยสีหน้าโคตรเศร้า
“อืม” ผมตอบเลี่ยงไม่มองหน้ามันมากนัก
“คืนนี้พวกมึงไปไหนกัน”
มันหันไปถามไอ้แบงค์
“ที่..........นัดกันว่างั้น
มึงไปด้วยกันดิ”
“อือ..เดี๋ยวกูตามไป” มันตอบแล้วหันมามองผมนิดหน่อย
“แต่มึงห้ามเอาใครไปนะเว้ย!
เฉพาะมึง! คนอื่นพวกกูไม่ต้อนรับ” ไอ้แบงค์เน้นคำว่า
เฉาะมึง ลงไปอย่างชัด
“เจอกัน” มันพูดแล้วเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดนักกีฬา
สวนทางกับไอ้โป้งเดินออกมาพอดี
“เฮ้ยคิม!” ไอ้โป้งเรียกมันไว้ มันหยุดแล้วหันมามอง
“วันนี้พวกกูจะไปต่อกันที่.......มึงไปด้วยกันป่ะ
4 ทุ่มนะ ถึงแล้วโทรหากูก็ได้”
มันพูดจบเดินมา กอดคอผมลากออกไปด้วยกันทันที ผมเหลือบมองไอ้คิมเล็กน้อย เห็นมันยืนมองผมตาละห้อยแล้วก็เดินเข้าไปด้านใน
ผมแยกกับพรรคพวก
นัดแนะเรื่องคืนนี้กันเรียบร้อย ผมกับไอ้โป้งตรงกลับคอนโดกันก่อน
ผมยังไม่ทานข้าวเลย หิวจนแสบท้องไปหมดมันไม่ยอมแวะทานข้างนอกบอกจะทำให้กินเอง
ผมเลยต้องหิ้วท้องรอมันแบบนี้ล่ะครับ
“ขอบใจมากว่ะโป้ง” ผมพูดกับมันทันทีที่มันเลี้ยวรถออกมาจากประตูมหาลัย
“เรื่องไรวะ” มันหันมาถามนิดหน่อย
“เรื่องไอ้คิม มึง...ไม่ได้ทำเหมือนมันเป็นคนอื่น”
“....หึ มันจะเป็นคนอื่นไปได้ยังไงล่ะโน่ มันเป็นเพื่อนกูนะ
แล้วตอนนี้มันก็กลายเป็นเพื่อนคนนึงของมึงแล้วด้วย แค่เพื่อนนะ เข้าใจ๊!!”
มันหันมาเน้นประโยคหลังให้ผมได้ยินอย่างชัด ผมยิ้มบาง ๆ
ให้มันปรับเบาะเอนลงเล็กน้อย มันยื่นมือมายีหัวผมเล่นเบา
ๆ
“อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย
มึงจะต้องผ่านมันไปให้ได้ เดินไปพร้อมกันกับกู
ไม่มีอะไรที่มึงต้องกลัว” ผมหลับตาลงแน่นทันทีที่มันพูดจบ
มันจะเป็นอย่างนั้นจริง ?
อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนไม่ใช่รึไง ?
จากเพื่อน...กลับกลายไปเป็น...แฟน
จากแฟน.
.กลับกลายไปเป็น...เพื่อน
แค่นี้ก็ยืนยันความไม่แน่นอนของอนาคตได้แล้ว....
อย่าพูดคำสวยหรูให้กูได้ยินนักเลย
กูกลัว.........
กลัวความไม่แน่นอน!
.....
....
“ทางนี้โว้ย โน่!” เสียงไอ้ดิวโบกไม้โบกมือเรียกผมกับไอ้โป้งอยู่แถว ๆ ทางเข้าผับ โหย...มันแต่งตัวซะแปร็ด ตามสไตล์มันเปี๊ยบเลย
.....
....
“ทางนี้โว้ย โน่!” เสียงไอ้ดิวโบกไม้โบกมือเรียกผมกับไอ้โป้งอยู่แถว ๆ ทางเข้าผับ โหย...มันแต่งตัวซะแปร็ด ตามสไตล์มันเปี๊ยบเลย
“ไอ้แบงค์ ?” ไอ้โป้งถามขึ้น
“ด้านในโว้ย ไอ้ด้าไอ้คิมก็มาแล้ว พวกอีฟ้ากับแฟนมันก็มาแล้วเหมือนกัน”
มันตอบแล้วเดินนำพวกผมเข้าไปด้านใน วันนี้พวกเรามากันเกือบครบทีม
พอเข้าเจอพวกมันนั่งกันอยู่ก่อนแล้วเป็นมุมตรงกลางติดกับผนังพอดี
โซฟาใหญ่ 3 ตัวหันหน้าเข้าหากัน
มีโต๊ะเครื่องดื่มอยู่ตรงกลาง โห...ผับหรูแม่ง! ผมไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเลย
ใครวะช่างสรรหา มองไปรอบ ๆ
เห็นเด็กมหาลัยเราอยู่หลายทีมเลยครับ คงนัดกันมาฉลองหลังงานกีฬาเหมือนกัน
ไอ้ดิวกับไอ้แบงค์นั่งเบียดกันอยู่น่ารักมากเลยครับเดี๋ยวก็ด่ากันเดี๋ยวก็หัวเราะกัน
ผมกับไอ้โป้งนั่งข้าง ๆ กัน ไอ้คิมนั่งติดกับไอ้ด้า ซึ่งไอ้ด้าก็นั่งอยู่ข้าง ๆ ผมนี่ล่ะครับ
มันนั่งเงียบไม่พูดไม่จา
ดื่มเครื่องดื่มในแก้วของมันไปมีแต่ไอ้ด้าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
คอยชงเหล้าเติมน้ำแข็งให้มันตลอด เออ..ให้มันดูแลกันและกันก็ดี(อันนี้กูแอบคิดเอง
555)
“ขยับมาอีก..เร็ว!” เสียงไอ้โป้งดังขึ้นข้างหู
“โป้ง มึงนั่งดี
ๆ สิวะ เบียดกูจนจะนั่งอยู่บนตักกูอยู่แล้วเนี่ย”
ผมว่ามันไปเมื่อผมเริ่มรู้สึกว่ามันเริ่มเบียดผมจนแน่นแถมยังบอกให้เขยิบไปหาอีก
แถมเอื้อมมือมากอดเอวไว้ มึงช่างไม่อายเพื่อน ๆ คนอื่นบ้าง
“ไรอ่ะโน่ กอดหน่อยก็ไม่ได้” ผมมองหน้ามันทันทีที่มันพูดจบ
ไอ้ห่าเพิ่งกินไปแค่แก้วเดียวมึงทำท่าทางอย่างกับเมาแล้ว นัวเนีย ๆ อยู่ข้าง ๆ
หูกูนี่แหล่ะ
“โป้ง อย่านะมึง”
ผมรีบหันไปดันหน้ามันไว้ครับ กลัวมันแอบมาหอมแก้ม
ตอนนี้จมูกเริ่มอยู่ไม่สุขแล้วด้วย มันหัวเราะออกมาเบา ๆ
แล้วหันไปคุยกับพี่พิมแฟนของฟ้าที่นั่งอยู่ข้างๆมันต่อ
“เดี๋ยวกูไปห้องน้ำแป็บ”
ผมลุกขึ้นแล้วบอกพวกมัน ไอ้คิมแหงนหน้าขึ้นมองเล็กน้อย
ส่วนไอ้โป้งคงไม่ได้ยินเพราะมัวแต่คุยกับพี่เค้าอยู่ท่าทางถูกคอกันน่าดู
“ผมไปด้วยโน่” ไอ้ด้าลุกขึ้นเดินตามออกมา
“ไปไหน? ” เสียงไอ้โป้งถามขึ้นตอนที่ผมกำลังจะเดินออกไป
“ห้องน้ำ เดี๋ยวมา” ผมตอบมัน มันพยักหน้าให้
พวกเราเดินลัดเลาะผ่านไปด้านข้างของอีกฝั่ง
ผับกว้างมากเลยครับมีชั้นลอยด้วย แถวบันไดสาว ๆ งี้ตรึม! นุ่งสั้น ๆ กันทั้งนั้น
มีคนส่งสายตาให้ผมด้วยนะแต่ไม่สนใจหรอกครับ
ตอนนี้สายตาจับอยู่ที่มือกลองของวงที่กำลังเล่นอยู่มากกว่า แม่ง! น่ารักโคตร
ใส่หมวกแค็ปดำผมยาวระมาที่คอที่สำคัญคือตุ้มหูไม้กางเขนฝังเพชรที่ยาวลงมาข้างเดียวนั่นมากกว่า
แม้จะใส่แค่เสื้อยืดขาวกับยีนส์สีอ่อนนั่งอยู่ด้านหลังกลองชุดใหญ่
ก็ไม่หลุดสายตาผมไปได้ โอยย.....นี่ผมกำลังมองผู้ชายอยู่หรือนี่??
ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย กูเป็นแน่นอนแล้ว 100 % ......
พอถึงห้องน้ำผมกับไอ้ด้าแยกกันจับจองคนละโถครับ
โทรศัพท์ไอ้ด้าเสือกดังขึ้นมาพอดี
มันชักสีหน้าเล็กน้อยก่อนขอตัวเดินออกไปรับด้านนอก(แน่นอนครับคงขัดความสุขมันอย่างแรง)
ผมจัดการตัวเองเรียบร้อยเดินออกมาล้างมือ กำลังจะเดินไปดึงกระดาษ ก็ต้องชะงัก อิเจส!! มันยืนพิงฝากอดอกจ้องมาที่ผม
โหยย...ไอ้เหี้ย
มึงจะใส่หมวกปิดลงมาแค่ไหนกูก็จำมึงได้อยู่ดีนั่นแหละ แต่งตัวซะแม่ง ทำเป็นลึกลับ
“ขอบใจมึงนะที่ช่วยรับบทนางร้ายแทนกู”
มันพูดขึ้นจ้องมาที่ผมอย่างท้าทาย
“หึหึ พี่คิมนี่ก็ซื่อดีเนอะ
คิดว่ากูเป็นคนดีซะงั้น แต่!.....ผู้ชายแบบนี้แหละที่กูชอบ
คุมง่ายดีว่ะ มึงว่างั้นมะ”
มันยื่นหน้ายื่นตาพูดใส่ผม ผมจ้องมันอย่างไม่เข้าใจว่ามันต้องการอะไรกันแน่
มันเดินเข้ามาหาจ้องหน้าผมนิ่ง ผมมองมันด้วยความเวทนา
นี่มันคงยังไม่รู้เรื่องผมกับไอ้คิม แต่อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวกูจะเล่นกับมันสักหน่อย
“กูชอบพี่คิม กูจะเอาเค้ามาเป็นของกูให้ได้ มึงเตรียมใจไว้ได้เลย!!”
“.........” โอ้โห ผมอึ้งเลย อะไรดลใจให้มันกล้าพูดถึงขนาดนั้น ไม่คิดว่ามันจะแรงได้ถึงขนาดนี้
“.........” โอ้โห ผมอึ้งเลย อะไรดลใจให้มันกล้าพูดถึงขนาดนั้น ไม่คิดว่ามันจะแรงได้ถึงขนาดนี้
“มาเที่ยวด้วยกันแต่นั่งห่างกันซะขนาดนั้น
กูดูก็รู้แล้วว่าพวกมึงมีปัญหากันอยู่ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ อ่อนนะครับโน่ มึงอ่ะ เดี๋ยวกูจะทำให้มึงดูเอง กูจะแย่งของ
ๆ มึงต่อหน้าต่อตามึงนี่แหละ เตรียมใจไว้ซะ!”
มันกัดฟันพูดต่อหน้าผม
ไอ้ด้าเดินเข้ามาพอดี มันมองผมที่ตอนนี้กำลังเดือดได้ที่แล้ว ถึงจะเลิกกันแล้ว
แต่ก็แค่วันเดียวความรู้สึกหวงของผมก็ยังคงหลงเหลืออยู่แน่
ยิ่งถ้าต้องเสียไอ้คิมให้คนร้าย ๆ อย่างมัน ถึงไอ้คิมจะเป็นแค่เพื่อน ผมก็ยังเสียดายเลย
“โน่” เสียงไอ้ด้าเรียกสติผมให้กลับคืนมา
“โอ้โห.... มึงเองก็ใช่ย่อยนี่หว่า เล่นผู้ชายพร้อมกันหลายคนขนาดนี้
แบ่งให้กูสักคนสองคนคงไม่เป็นไรมั้ง ฮ่ะฮ่ะ” โหย.....กูจะไม่ไหวแล้ว
“มึงหยุดพูดเลยนะ! ไอ้เหี้ย! ”
ไอ้ด้าพูดขึ้นพร้อมผลักไหล่อิเจสให้ออกห่างจากตัวผม
“ด้า! ออกไปเหอะ
อย่าสนใจมัน” ผมต้องรีบพาไอ้ด้าออกไปก่อนดีกว่า
ท่าทางมันจะขึ้นแล้ว กำลังจะเดินพ้นประตูห้องน้ำอยู่แล้วผมนึกบางอย่างขึ้นมาได้
เดี๋ยวเล่นกับมันซะหน่อย
“ เจส” ผมเรียกมัน
“กูแดกมันจนอิ่มแล้วว่ะไอ้คิมน่ะ! ถ้ามันยอมให้มึงแดก มึงก็เอามันไปเหอะ
แต่!...ไอ้นี่มันแดกแต่ของดี ๆ นะโว้ย! มึงต้องทำใจหน่อย!!! ”
ไม่รอให้มันพูดต่อครับผมเดินออกมาทันที
ได้ยินแต่เสียงกรี๊ดยาว ๆ ดังแว่วออกมาจากด้านใน
“โน่ นานนนนน” พอนั่งลงปุ๊บมันก็ต่อว่าผมทันทีแถมทำหน้างอนปากจู๋อีกต่างหาก
“มึง 5 ขวบรึไงโป้ง
กูไปห้องน้ำนะครับห้องน้ำ” ผมจ้องมันทำตาให้ดูโตที่สุดมันจะได้กลัว
“จุ๊บ”
“ไอ้โป้ง ไอ้เหี้ย! ” ผมรีบหันซ้ายหันขวาทันที ไอ้นี่ทำบ้าอะไรของมัน
ยิ่งกลัวเพื่อนเห็นเสือกมาหอมที่คอกูอีก พอด่ามันมันก็หัวเราะร่าเลย
เอื้อมมือมากอดเอวผมไว้หลวม ๆ แล้วหันไปคุยกับพี่พิมแฟนของฟ้าต่อ
“มันทำอะไรโน่รึเปล่า เมื่อกี้”
เสียงไอ้ด้าดังขึ้นข้าง ๆ
“ฮึ อะไรนะด้า มึงว่าไร” ผมไม่ค่อยได้ยินครับเสียงเพลงค่อนข้างดังแล้วก็กำลังฟังไอ้โป้งโม้อยู่กับพี่พิมพ์เกี่ยวกับเครื่อง
GPS ที่พี่เค้าเพิ่งถอยมาใหม่ผมกำลังสนใจรุ่นนี้อยู่พอดี
“ไม่เป็นไรใช่ไหมเมื่อกี้ในห้องน้ำ”
มันหันมาถามอย่างจริงจัง
“อ๋อ ไม่เป็นไร ชิล” ผมพยักหน้าตอบมัน พวกเรานั่งคุยโน่นคุยนี่กันเรื่อยเปื่อย พอสักตีหนึ่งต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับ
ไอ้ดิวกับไอ้แบงค์กลับด้วยกัน ไอ้คิมกลับคนเดียว พวกฟ้ากลับรถพี่พิม
ส่วนผมกับไอ้โป้งเดินออกมากับไอ้ด้า
“ขับดี ๆ ล่ะมึง ยิ่งมอไซด์
กลางคืนมันอันตราย” ผมพูดขึ้นหลังจากส่งมันที่รถ จริง ๆ
แล้วเป็นทางผ่านไปรถพวกผมมากกว่าครับแต่มันคงไม่รู้หรอก ฮ่าฮ่า
“ไปแล้วครับโน่ ไปแล้วเฮีย
พาโน่กลับดี ๆ ล่ะ” มันโบกไม้โบกมือให้ผมกับไอ้โป้งก่อนสตาร์ทรถขับออกไป
ไอ้โป้งเอื้อมมือของมันมาซ้อนจับมือผมไว้
เราสองคนเดินจูงมือกันไปที่รถครับ
ไม่รู้ทำไมทั้งที่เส้นทางที่เราเดินไปนั้นมืดมากแต่ผมกลับไม่รู้สึกกลัวเลย
หรือจะเป็นเพราะเจ้าของมือใหญ่มือนี้...
ผมหันไปมองหน้ามันนิดหน่อยก่อนจะแอบยิ้มอยู่คนเดียวในใจ
อดคิดไม่ได้ว่าถ้ามีมือใหญ่อีกมือจับผมไว้อีกข้างแล้วเดินไปพร้อมกันทั้งสามคนจะดีแค่ไหน...แต่ก็ต้องส่ายหัวไล่ความคิดชั่ววูบนั้นออกไป
“เดี๋ยวถึงแล้วกูทำโจ๊กให้กิน
ตอนนอนมึงจะได้สบายท้อง” มันพูดขึ้นทำลายความเงียบฉุดผมขึ้นจากภวังค์พร้อมกระชับมือให้แน่นขึ้นไปอีก
“ขับไหวรึเปล่า หรือจะให้กูขับ”
ผมถามขึ้นเพราะรู้สึกหน้ามันแดง ๆ ไงไม่รู้
“หึหึ ไหวสิไม่ได้เมาสักหน่อย
ที่หน้าแดงเพราะอย่างอื่นต่างหาก ไม่รู้เหรอ..หืมม”
มันพูดยิ้ม
ๆ พร้อมกดรีโมทเปิดรถส่งผมขึ้นฝั่งคนนั่ง ผมขึ้นรถได้ก็รีบปรับเอนเบาะเลยครับ
ชักง่วง ๆ แล้วร้านก็ค่อนข้างไกลจากคอนโด
เพราะงั้นกว่าจะถึงคงไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงแน่ ขอหลับสักตื่นก่อน
มันเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบา ๆ หยิบเสื้อคลุมที่วางอยู่เบาะหลังมาห่มให้ผมที่หน้าอก
“อืมม...........” ริมฝีปากอุ่น ๆ
ที่มีรสฝาดของเหล้าจูบลงมาที่ริมฝีปากผมอย่างอ่อนโยน..เรียวลิ้นอุ่น ๆ
สอดแทรกเข้ามาตวัดหยอกล้ออย่างนุ่มนวล...สักพักมันเพิ่มน้ำหนักขึ้นดูดดุนปลายลิ้นผมเล่น
“อื้ออ...โป้ง.....พอ..พอก่อน..แฮ่ก
ๆ ๆ ” ผมดันหน้าอกมันออก รีบส่ายหน้าควานหาอากาศหายใจ
มันอมยิ้มจ้องมองผมด้วยแววตาแสนซุกซน
“เล่นไรของมึง ทำไมวันนี้จูบกูแปลก
ๆ ” ทุกทีมันจูบเก่งมากผมไม่เคยขาดออกซิเจนแบบนี้เลย
“ก็อยากแกล้งอ่ะ เวลามึงงอนกูชอบดู” สายตาแม่ง!คงอยากเต็มที่แล้ว
“รีบกลับได้แล้วมัวแต่ดูดปากกูอยู่เนี่ย
มันจะถึงมั๊ยห้องน่ะ! กูจะนอน ถึงแล้วปลุกด้วย”
ผมเอาเสื้อที่ห่มอยู่ขึ้นมาคลุมหัวทันที หลับตานอนเลยครับ รู้สึกง่วง ๆ มึน ๆ ได้ยินแต่เสียงมันหัวเราะผมเบา
ๆ
รถเคลื่อนตัวออกไปแล้วผมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
พอถึงคอนโดไอ้โป้งปลุกขึ้นมาแล้วเราก็ขึ้นห้องไปด้วยกัน
พอถึงห้องปุ๊บผมทิ้งตัวนอนลงที่โซฟาทันทีครับ ง่วงมากอยากนอนต่อ ไม่อยากอาบน้ำแล้ว
คงเพราะมึนจากแอลกอฮอล์หน่อย ๆ ด้วย
สักพักไอ้โป้งเดินมาปลุกให้เข้าไปนอนดี ๆ
ด้านใน มันบังคับผมอาบน้ำจนได้ จับผมถอดเสื้อผ้าใครจะไปทนนั่งอยู่ได้ผมเลยรีบเข้าไปจัดการตัวเอง
มันตามเข้ามาด้วย เราสองคนอาบน้ำด้วยกันเป็นเรื่องปกติไปแล้วครับ
แต่คราวนี้มันรีบอาบรีบเสร็จเห็นบอกจะไปเตรียมอะไรไว้ให้กิน
พอมันออกไปผมถือโอกาสสระผมเลยรู้สึกหัวเหม็นบุหรี่มาก
เวลาไปเที่ยวแบบนี้ทีไรดึกดื่นแค่ไหนก็ต้องกลับมาสระครับไม่งั้นกลัวกลิ่นติดหมอน
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเป่าผมจนแห้ง
ผมหาบางอย่างที่หน้ากระจกไม่เจอเลยรีบวิ่งออกมาด้านนอก
“โป้ง ยางมัดผมกูล่ะ
อันสีดำน่ะ มึงแอบเอาไปรึเปล่า” ผมร้องถามมันพร้อมเดินหาไปทั่วห้อง
“เอ้ย! ผมกูสั้นขนาดนี้จะเอาไปมัดตรงไหนครับโน่”
มันตอบกลับมาจากในครัว
“แต่กูเห็นมึงชอบแอบเอาของกูมาเล่น
เมื่อคืนกูวางไว้หน้ากระจกดี ๆ มึงนั่นแหละที่เอาไป” ผมทั้งบ่นทั้งหา
ตรงเคาท์เตอร์ก็ไม่มี เปิดดูในลิ้นชักก็ไม่มี บนทีวีก็ไม่เห็น
“อะไรครับโน่กูไม่ได้เอาไปนะ
มึงอ่ะชอบวางของไม่เข้าที่เดี๋ยววันหลังหากล่องสวย ๆ ให้ใส่ให้ดีมั๊ย” มันยังบ่นตอบกลับมาอีก
ผมเริ่มสังเกตว่ามีชามโจ๊กวางอยู่ที่โต๊ะหน้าโซฟา ผมหันไปมองหน้ามัน
แล้วก็ก้มลงดูสิ่งที่อยู่ในชาม
“โจ๊กเซเว่น!” ผมอุทานออกมา
“ครับใช่”
“.........” ผมเงียบ
“โน่ครับ....ไม่เอานะ...อย่าบอกนะว่าจะใจร้ายให้กูตุ๋นโจ๊กของจริงให้มึงอ่ะ
ตี 2 แล้วนะครับที่รัก” มันพูดหน้าจ๋อยเดินถือแก้วน้ำกับไอติมแท่งใส่ถ้วยมาวางลงให้ผม
“แต่กูไม่ชอบกลิ่นมันหมูก็ไม่อร่อย”
ผมบอกแล้วนั่งลงกดรีโมทเปิดรายการที่ผมชอบ
ไม่ยอมแตะสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ทำไมครับ.....หืม” มันนั่งลงด้านหลังยกขาขึ้นมาคร่อมตัวผมไว้แล้วโอบตัวผมเข้าไปชิดในหว่างขาแกร่งของมัน
“ยางมัดผมกูก็หาย
แถมยังต้องกินโจ๊กที่กูไม่ชอบอีก” ผมเริ่มบ่นหน้างอ
“จุ๊บ! หูหอมจัง”
มันเปลี่ยนเรื่องจนได้สิ จูบลงที่หูทำเอาผมขนลุกซู่ไปหมด
“ไหนดูซิ ตั้งรึยัง หืม” มันไม่พูดเปล่าเอามือมาทั้งบีบทั้งนวดผ่านกางเกงบอลนุ่ม
ๆ ตัวเก่งของผม
“อื้ออ.....อย่าเล่น...เจ็บ”
ผมจับมือมันออก
“อยากจับ” มันพูดเสียงแผ่ว มือมันก็นวดเล่นไปเรื่อย
“ไม่เอาเดี๋ยว...อึม...อืมมม...”
เร็วจริง ๆ มันน่ะ ไม่รู้อะไรของมันนักหนาพลิกตัวกลับมาได้
ด้านบนปากก็ดูด ด้านล่างมือก็นวดไป มันทั้งนวดทั้งจูบอยู่ได้สักพักก็ละริมฝีปากนุ่มออกมาจ้องหน้าผมด้วยแววตาโคตรอ้อน
“ทำนะครับ วันนี้กูอยากทำ” พูดแล้วซบลงที่อกผม
“ก็ได้ แต่วันนี้ตากูนะ!”
ผมบอกหน้านิ่ง ใช้สายตาซุกซนมองมัน
“ !!!! ” อึ้ง!
อึ้งสุดขีด ท่าทางมันช็อคมาก
ผมอยากหัวเราะจริง ๆ อยากให้มันเห็นหน้าตัวเองตอนนี้มากเลย ตลกสุด ๆ
ไอ้ตัวโคตรหื่นเมื่อกี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
ผมพลิกตัวขึ้นมาอยู่ด้านบนมันทันที
เอาจังหวะที่มันกำลังช็อคนี่แหละเหมาะสุด ถอดเสื้อมันออกด้วยความรวดเร็ว
ส่วนเสื้อของตัวเองน่ะไม่ต้อง เพราะผมไม่ได้ใส่อยู่แล้ว ก้มตัวลงไปจูบเข้าที่ยอดอกสีชมพูนั้นของมัน
ขบเม้มจนแดงไปหมด เสียงมันกัดฟันซี้ดปากดังมาเป็นระยะ ยิ่งได้ยินเสียงผมยิ่งได้ใจ
ใช้ขาข้างนึงถีบโต๊ะเล็กหน้าโซฟาออกห่างจากตัวเพราะกลัวชามโจ๊กจะหก ผมจู่โจมยอดอกชูชันอันน้อยนิดสองข้างของมันทั้งปากทั้งมือ
กระหน่ำให้มันสะใจไปเลย ทำไมมันมีนมก็ไม่รู้สงสัยออกกำลังกายบ่อย
ยิ่งเห็นก็ยิ่งดูดยิ่งดึง เมามันส์มาก
“อืมม......โน่...ซี๊ดส์” มันครางเสียงสั่น ยิ่งทำให้ผมหึกเหิมขึ้น
ใช้สะโพกถูไถเสียดสีกับสิ่งที่ตุงสุดขีดอยู่ใต้เนื้อผ้ามันบาง
“อ๊ะ! โน่” มันร้องขึ้นเมื่อผมลงฟันไปที่หัวนมมัน
อยากลองกัดแล้วดึงดูสักครั้ง วันนี้อารมณ์ประมาณซาดิสต์หน่อย ๆ ซะด้วย
มือมันทั้งลูบทั้งกำขยำอยู่ที่แก้มก้นสองข้างของผม ผมแกล้งลองเบรกจังหวะการเสียดสีด้านล่าง มันก็ชักสีหน้าขัดใจ
โอบสะโพกผมขึ้นลงถูไถของ ๆ มันต่อด้วยตัวเอง
“อ๊ะ!.....อืมม...โน่....อ่า..ซี้ดส์..อ๊ะ!”
ผมทั้งกัดทั้งดูดทั้งดึง กำลังมันส์จริง
ๆ ยิ่งได้ยินเสียงแบบนี้ของขึ้นเป็นบ้า ใครจะไปทนไหว
มันแม่งก็ร้องดังเวอร์แต่ผมก็ชอบครับแอ็คติ้งแบบนี้เป็นคุณสมบัติที่ดีของคนเป็นภรรยา(กูมั่ว)
ผมลากลิ้นขึ้นไปชอนไชอยู่ที่รูหูของมัน มันยิ่งครางหนักขึ้นไปอีก
ผมเหลือบมองมัน โหยย...หลับตาพริ้มเชียวนะมึง นี่ขนาดแค่ส่วนบน ถ้ากูเล่นช่วงล่าง
มึงจะไม่ร้องจนข้างห้องได้ยินรึยังไง ขณะความคิดกำลังเตลิดไปไกล
“เฮ้ย!!”
จู่ ๆ
มันพลิกตัวออกแล้วอุ้มผมขึ้นพาวิ่งเข้าห้องอย่างเร็ว มันรีบวางผมลงบนเตียง
หยิบรีโมทขึ้นมากดเปิดเพลงคราวนี้มันไม่เลือกเพลงเลยครับเปิดแม่งเพลงแรกเลย ผมที่กำลังอึ้งกับท่าทางของมันอยู่
มันคงอาศัยจังหวะนั้นแน่นอนขึ้นมาคร่อมทับตัวผมไว้ทันที
ไอ้ห่า!
กูเสียแต้มแน่คราวนี้
“ไม่ยอมหรอกครับโน่
กูแค่หลอกให้มึงดีใจนะ ฮ่าฮ่าฮ่า” มันพูดจบระดมจูบลงมาที่ซอกคอผมอย่างเร็วเลย
“โอ๊ย เชี่ย!!” ผมอุทานดังลั่น มือฟาดลงที่หลังเปลือยเปล่าของมันดังเพี๊ยะ!
มันเล่นดูดคอผมอย่างแรง แถมมองหน้าผมแล้วยิ้มอีกต่างหาก
“เดี๋ยวเป็นรอย อย่าทำดิกูไม่ชอบ”
“อะไรครับ ทีตัวเองทั้งกัด ทั้งดูด
ทั้งดึง กูไม่เห็นว่า”
“อื้อออ.......ก็มึงชอบนี่
กูเห็นมึงร้องเอาร้องเอา กูก็คิดว่ามึงชอบ” ผมส่ายหน้าเชิดปากแกล้งงอนมัน
“ก็ชอบ....กูแกล้งร้องดัง ๆ
ให้มึงมีอารมณ์ไง ดีมะ” มันกอดผมเต็ม ๆ ตัว
ละตัวจากด้านบนลงมานอนกอดอยู่ด้านข้างซุกใบหน้าลงที่ซอกคอ กระซิบลงข้าง ๆ หู
“ให้กูทำนะ กูทำให้ มึงนอนเฉย ๆ เดี๋ยวกูจัดการทุกอย่างเอง...นะ” ผมได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้างเพราะตอนนี้สติกำลังกระเจิงกับเพลงเร็วที่กำลังเริ่มขึ้นมาแล้วหลังจากผ่านสองเพลงช้าบิวท์อารมณ์มันเรียบร้อย
แน่นอนแล้วครับสัญญาณการเริ่มต้นของมัน....จังหวะแบบนี้
ผมค่อย ๆ หันไปมองมันช้า ๆ
สบกับดวงตากรุ้มกริ่มสุดแสนเจ้าชู้ที่อยู่ใกล้กันไม่ถึงคืบ สายตาแบบนี้.....
“แต่.....วันนี้ต้องเป็นตากู”
ผมทั้งพูดทั้งอยากจะร้องไห้
“อย่าดื้อนะครับที่รักของโป้ง
เดี๋ยวทำให้รู้สึกดี ๆ อย่ามาขอเบิ้ลละกัน
ร้องให้ดังชนะเสียงเพลงไปเลยนะ จุ๊บ”
มันพูดจบก็เริ่มบรรเลงทันที โอ้โห...มือไม้แม่งเร็วกว่าจังหวะกลองอีก
ยิ่งกว่าปลาหมึกเต้นระบำ รู้สึกตัวอีกทีตอนนี้ทั้งผมทั้งมันล่อนจ้อนกันเรียบร้อยครับ
มันพลิกตัวผมขึ้นมาด้านบนคร่อมตัวมันไว้ เราแลกจูบกันนัวเนีย
มือไม้ลุกลามอยู่แถวสะโพกทั้งขำขยี้บีบคลึงเค้นตามจังหวะเพลง ผมเลื่อนตัวขึ้นไปเพื่อให้หน้าอกอยู่ตรงตำแหน่งของปากมัน
มันตอบสนองเต็มที่ใช้ปากทั้งดูดทั้งดึงเสียงดังจ๊วบ ๆ อยู่ไม่ขาด
มือไม้ก็ปรนเปรอส่วนล่างอยู่ไม่หยุด นี่มันท่าอะไรกัน ผมคิดในใจ
กูจะเล่นพลิกแพลงอะไรขนาดนั้น
“อ๊ะ...โป้ง...อื้ออ.” ผมครางดังลั่นเมื่อถูกมันดูดเม้มที่ยอดอกชูชันนั้นอย่างแรง
มันกางขาของมันให้กว้างขึ้นอีกเพื่อแยกสะโพกผมให้กว้างมากขึ้น มือหนาลูบไล้เลื่อนต่ำลงมาแถวเนินสะโพกขาวจนเกือบจะถึงหน้าด่านอยู่แล้ว
มันไล้นิ้วขึ้นลงถูไถไปตามร่องก้น
“เดี๋ยวลองเล่นสลับด้านดูมั๊ย
โป้งทำให้....นะ” มันพูดเสียงอ้อน ๆ
“อื้ออ..ไม่เอา”
“มา หันก้นมาทางนี้.....หันมานะครับ
เดี๋ยวจะทำให้ร้องดัง ๆ เลย”
“อ๊าา..อื้มส์......”
ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!!
--- !!!!! ---
ทุกอย่างหยุดลง ผมพลิกตัวลงมานั่งลงข้าง ๆ
มันจ้องหน้าผม
ผมจ้องหน้ามัน ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!!
--- !!!!! ---
ทุกอย่างหยุดลง ผมพลิกตัวลงมานั่งลงข้าง ๆ
เรานิ่งกันสักพัก คิดว่าคงหูฝาด...
ในที่สุดเราเริ่มกันใหม่ เหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพลงก็บรรเลงต่อไป คราวนี้ผมถูกพลิกลงมาอยู่ด้านล่าง ลิ้นดูดลิ้น เกี่ยวกระหวัดรับส่ง ดูดดื่มพัวพัน ในขณะที่ผมคิดในใจว่าเสียดายท่าเมื่อกี้ฉิบหาย เอาไว้คราวหน้ากูต้องสานต่อให้จบให้ได้ ริมฝีปากนุ่ม ๆ ก็เลื่อนต่ำลงมาเพราะผมเริ่มดันหัวมันลงแล้ว อารมณ์เริ่มจะฉุดลงยาก ลิ้นรัวเร็วลงอยู่ที่เนินอกสักพักถูกผมดันลงมาถึงรอบสะดือสวยมันชอนไชเรียวลิ้นเข้าที่รูอย่างรู้งาน จนผมเสียวเกร็งหน้าท้องไปหมด ผมดันหัวมันต่ำลงไปอีกแอ่นสะโพกขึ้นให้มันรู้ว่าผมต้องการเต็มที่แล้ว มึงลงไปถึงจุดนั้นให้เร็วเลยที่รัก
“โอ้วว....โป้ง เร็วเลย....อื้มม..” ผมครางแบบโอเวอร์กะให้มันกระเจิงเต็มที่ มันยื้อหัวไว้ไม่ยอมลดต่ำลงไปตามแรงกด
“อื้ออ......อย่าแกล้ง....แดกของกูเร็ว ๆ ” มันทั้งจูบทั้งหัวเราะไม่ยอมทำตามใจผม ใจกูจะขาดอยู่แล้วกดหัวมันจนสุดแขนขณะที่สะโพกก็แอ่นขึ้นเพื่อให้เข้าใกล้ปากมันที่สุด
“โป้ง....กูเสียว..อ๊าส์..”
ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!!
---หยุดกันอีกครั้งครับ---
ต่างคนต่างหอบหายใจกันเต็มที่
เราจ้องหน้ากันอีกรอบ คราวนี้หูไม่ฝาดแน่รัวขนาดนี้
“ใครวะโน่ มาแม่ง!ดึกดื่นป่านนี้” มันพูดอย่างหัวเสียถอนหายใจดังเฮือก ส่ายหัวก้าวลงจากเตียงอย่างฉุนเฉียว หยิบบ็อคเซอร์ที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมแล้วเปิดประตูออกไปดังโครม
“เฮ้ย! กูไปด้วย” ผมพูดแล้วหยิบบ็อคเซอร์อีกตัวที่กองอยู่ข้าง ๆกัน ขึ้นมาใส่อย่างรวดเร็ว รีบวิ่งตามออกไปด้านนอกทันที
คิม!!!
มันเดินตาแดงเข้ามานั่งลงที่โซฟาด้วยชุดเสื้อผ้าที่ถูกเปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อย ขณะที่ไอ้โป้งยังยืนเซ่ออยู่ที่หน้าประตู ในมือยังจับลูกบิดอยู่เลยด้วยซ้ำ ผมเองก็หยุดชะงักจ้องมองไอ้คิมสลับกับไอ้คนที่ยืนอึ้งอยู่
เป็นไอ้โป้งครับที่ตั้งสติได้ก่อน มันเดินเข้าไปหาไอ้ผู้มาเยือนทันที
“ มึงมาทำไมวะ ? ”
“มานอนด้วย” มันตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติ ในขณะที่ผมกับไอ้โป้งมองหน้ากันอย่างอึ้ง!
“นะ....นอน...นอนนี่ ?” ไอ้โป้งถามตาโต
“อืม กูนอนไม่หลับ ขอมานอนกับพวกมึงด้วย กูไม่กวนหรอกพวกมึงจะทำอะไรก็ทำ กูจะนอนอยู่หน้าเตียงเงียบ ๆ ” พอพูดจบ มันก็เดินผ่านหน้าผมเปิดเข้าไปในห้องทันที
ไอ้โป้งมองหน้าผมอย่างอึ้งสุดขีด ผมเองก็อึ้งแดกไม่แพ้กัน ในที่สุดทั้งผมและมันก็เดินตามไอ้ผู้มาเยือนเข้าไปในห้อง เห็นมันกำลังปูฟูกลงเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบหมอนกับผ้าห่มที่มันเคยใช้ออกมา ทำอย่างกับเป็นห้องตัวเองก็มิปาน แล้วมันก็นอนลง ห่มผ้า มองมาที่ผมกับไอ้โป้งที่ยืนจ้องมันอยู่ที่หน้าประตู
“มานอนดิ กูนอนตรงนี้ คงไม่กวนพวกมึงใช่มั๊ย” พูดแล้วมันก็หลับตานอนเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา
ไอ้โป้งที่ตอนนี้ยืนอึ้งสุด ๆ ค่อย ๆ เดินเข้าไปที่เตียงอย่างช้า ๆ นั่งลงบนเตียงฝั่งที่ไอ้คิมนอนอยู่ หยิบรีโมท cd ขึ้นมา
กดหยุด
มองมาที่ผม พยักหน้าเรียกผมเข้าไปหา ผมเองก็เดินเข้าไปอย่างอึ้ง ๆ
“ใส่เสื้อซะ” มันส่งเสื้อยืดบาง ๆ ที่เตรียมเอาไว้ตั้งแต่ตอนอาบน้ำมาให้ผม
“โน่นอนฝั่งนั้นนะเดี๋ยวกูนอนตรงนี้เอง” ผมรับเสื้อมาใส่อย่างอึ้ง ๆ เสร็จแล้วก็ล้มตัวลงนอน ไอ้โป้งห่มผ้าให้เรียบร้อยก็ลุกไปปิดไฟแล้วเดินมานอนลงข้าง ๆ หันหน้าเข้าหาผม กอดผมเอาไว้แน่น
จนสักพัก
“.........โป้ง คลายออกหน่อยสิวะ กูอึดอัด ร้อนด้วย กูอยากถอดเสื้อ กูร้อน” ผมบอกมันเบา ๆ แล้วขยับตัวออก
“ไม่เอา ไม่ให้ถอด จะกอดเอาไว้งี้แหละ” มันกระซิบตอบแล้วซุกหน้าเข้ามาแถวซอกคอแน่นเข้าไปอีก
“จุ๊บ” มันจูบลงที่ซอกหูผมเบา ๆ
“อย่านะโว้ยโป้ง” ผมยื้อตัวออกแล้วกระซิบบอกมัน กลัวไอ้คนที่นอนอยู่หน้าเตียงได้ยิน
“อือ....รู้แล้วน่าไม่ทำหรอก” มันกระซิบตอบกลับเบาขึ้นไปอีก
“จุ๊บ...จุ๊บ...จุ๊บ” มันพรมจูบทั่วใบหูแถมแหย่ลิ้นเข้าไปอีกต่างหาก ไอ้ห่า! ไม่ยอมเลิกครับวุ่นอยู่กับกกหูกูนี่แหละ
“โป้ง...พอแล้วมึง” คราวนี้ผมต้องหันหน้ามาหามันดันตัวมันไว้ บอกมันเบา ๆ กลัวมันจูบลงมาอีก พอหันไปก็รู้ว่าตัวเองตัดสินใจผิดแน่แล้ว เพราะแววตาของมันเจ้าเล่ห์และซุกซนมาก จ้องอยู่ที่ปากผมตลอด มันเข้ามาแล้ว....ผมหลับตาแน่น
“จุ๊บ หึหึ” เฮ้อ...โชคดีที่มันแค่จุ๊บเบา ๆ แล้วละออก
เอาอีก! มันยื่นหน้าเข้ามาอีก คราวนี้แย่แน่ ผมเห็นมันเลียริมฝีปากด้วย ทำยังไงดี ผมจ้องมันตาโตเลยครับ
พรึ่บบบบบ!!!
สว่างครับ จู่ ๆ ไฟทั้งห้องก็สว่างจ้าขึ้นมา ผมหรี่ตาขึ้นมา เห็นไอ้คิมยืนหน้ายักษ์มองพวกผมที่กำลังจูบกำลังหอมกันอยู่
“กูหิวน้ำ จะออกไปกินน้ำ” มันกระแทกเสียงอย่างดัง เวรกรรมอะไรไม่รู้ ทำไมจู่ ๆ มันก็มาที่นี่ แล้วที่สำคัญมันทำอย่างกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างผมกับมันเลย พอออกไปได้สักพักมันก็เดินเข้ามา ปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอน
“พวกมึงจะทำอะไรก็ทำไป ไม่ต้องสนใจหรอกว่ากูนอนอยู่ตรงนี้ด้วย” เสียงไอ้คนที่นอนอยู่หน้าเตียงส่งเสียงอย่างดังฝ่าความมืดขึ้นมา ไอ้โป้งหันไปมองมันนิดหน่อยก่อนหันมาทำหน้าขัดใจสุด ๆ กอดผมไว้แล้วหลับตาลง ส่วนผมก็อดที่จะตลกกับสีหน้าแบบนั้นของไอ้หื่นไม่ได้ วันนี้คงขัดใจมันน่าดู แต่ก็...นะ! ไม่ทำก็ดีเหมือนกันไม่งั้นได้เสียแต้มอีกแน่ กู!
พอเช้า ผมเดินออกมาจากห้องในสภาพงัวเงียสุดขีด ไอ้โป้งแต่งตัวชุดนักศึกษาเรียบร้อยมีชุดกันเปื้อนลายมิกกี้เมาส์ สวมทับไว้ เดินทำโน่นทำนี่อยู่ในครัว ผมมองหาไอ้ผู้มาเยือนเมื่อคืนนี้แต่ก็ไม่เห็นมัน
“โป้ง ไอ้คิมอ่ะ มันกลับแล้ว ?” ผมนั่งลงหยิบแซนด์วิชเข้าปากแล้วถามขึ้น
“โอ๊ย!!!” ผมอุทานดังลั่น
“ไรอ่ะ มึงตีกูทำไมเนี่ย!” ผมโวยวายขึ้นทันที ไอ้โป้งตีมือผมอย่างแรงแถมแย่งแซนด์วิชครึ่งอันที่เหลือกลับคืนไป
“ไปแปรงฟันสิครับโน่ ใครเค้าเคยกินอาหารก่อนแปรงฟันอย่างนี้” มันยืนโวยวายขณะบรรจงวางผักสลัดลงบนแผ่นขนมปัง ตามด้วยฮอตดอกต้มและมะเขือเทศชิ้นใหญ่ ผมมองอย่างเพลินเลย มึงสามารถจริง ๆ โป้ง
“ไม่เป็นไรหรอก กูอยากชิมรสชาดฝีมือมึงชัด ๆถ้าแปรงฟันก่อน สารเคมีที่อยู่ในยาสีฟันมันจะกัดลิ้นกู ทำให้รสชาดผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงนะ” ผมแถไปเรื่อย ค่อย ๆ เอื้อมมือไปหยิบแซนด์วิชชิ้นใหม่ที่เพิ่งทำเสร็จ
กำลังจะหยิบได้อยู่แล้วเชียว.....
พรุ๊บ!!
มันใช้ฝาชีเล็กครอบปิดจานนั้นไว้ทันที
--ผมชะงัก-- งอนมัน! ลุกขึ้นสะบัดหน้าเดินเข้าไปอาบน้ำทันทีเลย
พอจัดการตัวเองเรียบร้อย ออกมาอีกทีก็มีอาหารสองชุดถูกครอบเตรียมวางไว้คู่กัน เสียงเพลงฟังเบา ๆ สบาย ๆ คลออยู่แต่เช้า ไอ้โป้งเดินมาหยิบนมในตู้เย็นออกมาสองกล่องวางไว้คู่กับแซนด์วิชของเราคนละจาน มันกับผมนั่งลงข้าง ๆ กันทานอาหารสุดน่ารักและแสนอร่อยที่มันทำเตรียมไว้ให้
“เย็นนี้จะกินอะไร ข้างนอกหรือจะให้กูทำ” มันถามขึ้น ขณะผมกำลังคิดในใจ โอ้...กูได้เมีย เอ้ย! ผัว ถูกคนจริง ๆ
“ไปกินเซเวนเซ่นกันมะ กูอยากกิน ไม่ได้กินนานแล้ว แล้วค่อยกลับมาหาข้าวกินแถวนี้ต่อ” ผมเสนอออกไปพร้อมหยิบฮ๊อตดอกที่แบ่งไว้ยื่นให้ไอ้ตัวเล็กที่นั่งมองอยู่ข้างโต๊ะ
“ก็ดีเหมือนกันว่ะ จะได้ไปชอบปิ้งกันด้วย เดี๋ยวกูซื้อกิ๊บให้ใหม่ เห็นเค้าติดในทีวีอันใหญ่ ๆ น่ารักดี เอาไว้ติดเวลามึงอ่านหนังสือ”
“อืม แล้วอย่าลืมกล่องใส่ที่มัดผมของกูด้วย เอาแบบน่ารัก ๆ เลย ซื้อให้ตัวเล็กด้วยนะมึง” ตามใจมันก็แล้วกันครับ ผมข้างหน้ายาวมากแล้วด้วย ได้กิ๊บใหม่สักอันก็ไม่เลว แต่ให้ตายก็ไม่คิดติดออกไปนอกบ้านเด็ดขาด!!
Tbc.