PART
โป้ง
“เยสสส!! สอบเสร็จแล้วโว้ย กูโล่งเป็นบ้าเลยว่ะแบงค์”
เสียงไอ้ดิวแหกปากดังขึ้นหลังจากพวกเราทยอยออกจากห้องสอบ และกำลังเดินลงมาจากตึก
ในที่สุดเทศกาลสอบปลายภาคก็ผ่านพ้นไปแล้ว
“พวกมึงจะไปไหนกันต่อวะโป้ง?”
เสียงไอ้แบงค์มันหันมาถามผมพร้อมยัดหนังสือที่มันถืออยู่ใส่ในมือไอ้ดิวให้ถือเอาไว้
“ไม่ได้ไปไหนว่ะ พวกกูจะกลับกันเลย วันนี้นัดกับสุดที่รักว่าจะทำของอร่อยให้กิน ใช่ไหมครับโน่
หืม” ผมพูดพร้อมเอื้อมมือไปกอดคอมันไว้
มันหน้าหราเลยครับท่าทางตกใจไม่เบา
แถมวันนี้มันมัดผมอะไรของมันเปิดเหม่งโชว์น่ารักเป็นบ้าเลย
ผมล่ะอยากพามันกลับห้องจะแย่อยู่แล้ว เจอมันศอกใส่ทันที่สิครับทำเอาผมเจ็บตัวไปหมด
ผมเลยเปลี่ยนเป็นจับมือมันไว้แทน ลืมสังเกตไอ้คนที่ยืนหน้าหงอยอยู่อีกคนข้าง
ๆ ตัวไปเลย
“โป้ง ปล่อยดิวะนี่มันมหาลัยนะมึง”
เสียงไอ้โน่โวยวายขึ้น จะชักมือออกลูกเดียวแต่ผมไม่ยอม
ยืนจับมันไว้งี้แหละครับ
“โหยยยย.....พวกมึงมาสวีทห่าอะไรแถวนี้วะ
อายพวกกูบ้างดิโว้ย!” เสียงไอ้ดิวแทรกขึ้นอย่างโมโห
“คิม แล้วมึง ? วันนี้มีโปรแกรมที่ไหนรึเปล่า” ไอ้แบงค์ถามแทรกขึ้นมา
“ วันนี้กูจะขึ้นเกาะเลย
ไม่รู้จะกลับมาวันไหนเหมือนกัน” มันพูดเศร้า ๆ
พร้อมทั้งชำเลืองมองไอ้คนที่ผมกำลังจูงมืออยู่ตอนนี้
ที่จริงก็ผมก็สงสารมันนะ
ตั้งแต่เหตุการณ์ที่มันไปมีเรื่องมีราวที่ผับ
วันนั้นมันร้องไห้ใหญ่เลยครับ แผลก็เต็มตัว
ทั้งกอดไอ้โน่ไว้แน่น ทั้งพร่ำพูดแต่คำว่าขอโทษ
ตัวผมที่ยืนอยู่หน้าประตูไม่กล้าแม้แต่จะเดินเข้าไปใกล้
ปล่อยให้พวกมันสองคนปรับความเข้าใจกันเอง แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น
ไอ้โน่ก็ยังไม่ยอมใจอ่อนกับมันเลย มันก็เลยเหงาอยู่แบบนี้
“ถ้างั้นก็แยกกันตรงนี้ละกันพวกกูจะรีบกลับ
ไปแล้วเว้ย แบงค์ ดิว คิมเดี๋ยวกูโทรหาหรือถ้ามีอะไรมึงก็โทรมาละกัน”
ผมต้องรีบบอกมันก่อนครับช่วงนี้ตั้งแต่มันเลิกกับไอ้โน่มันก็เละเทะขึ้นมาก
วันก่อนก็เมาหัวทิ่มไปทีแล้ว
“โน่ ไปครับ”
“คิม” ไอ้โน่เรียกมันไว้
แล้วเดินเข้าไปหา
“อย่าเหลวไหลนะ ถ้าเหงาก็โทรมาหากู เบอร์กูก็เบอร์เดิมนั่นแหละ เรายังเป็นเพื่อนกันนะ”
มันเดินไปตบลงบนบ่าไอ้คิมเบา ๆ
หน้าตาไอ้คนถูกปลอบเลยดูสดชื่นขึ้นมาหน่อย
“โป้ง! เดี๋ยวกลับมาแล้วกูไปหามึง
เตรียมห้องไว้ดี ๆ ล่ะกูจะไปนอนกับพวกมึงด้วย” มันพูดอมยิ้มแล้วยักคิ้วส่งให้หนึ่งที
“ไม่ต้องเลยมึงอยู่เกาะของมึงไปเหอะ”
ผมเองก็สวนไปแบบยิ้ม ๆ เหมือนกัน ความจริงก็พูดเล่นหรอกครับ
มันจะไปหาตอนไหนผมก็เปิดรับเหมือนเดิมนั่นแหละเนอะ
ความสัมพันธ์บ้าบออะไรผมเองก็งงไปหมด แต่ทำไงได้ก็ยอมรับมันแล้วนี่หว่า..
.......
.......
“อย่าหลับนะครับโน่” ผมเรียกมันครับ ตอนนี้ผมกำลังขับรถจะพามันกลับห้อง หลังจากแยกย้ายกับพวกเพื่อน ๆ ที่มหาลัยแล้ว ผมกับมันก็ออกมากันเลย
เราแวะซื้อของสดที่ TOP กะว่าจะทำอะไรอร่อย ๆ
ให้กินเป็นรางวัลที่เมื่อคืนมันทำตัวน่ารักกับผมมาก ผมเลยจับล่อไปสองทีเต็ม ๆ
เล่นเอาหมดแรงเกือบตื่นมาสอบไม่ทัน
“โน่ ไม่หลับนะครับ
นอนตากแดดไม่ดีนะ” ผมหันไปมองแล้วเขย่าตัวมันครับ
ไม่อยากให้มันนอนหลับทั้งที่แดดส่องอยู่แบบนี้
“โน่”
“อื้อออออ อย่ายุ่ง! ” มันหลับตาตอบหน้างอ
“ไม่ได้นะครับโน่
เดี๋ยวถึงห้องแล้วค่อยนอน กูเปิดแอร์เย็น ๆ ให้นะ”
“โน่”
“อื้ออออออ...... เพราะมึงนั่นแหละ!
กูไม่ได้ง่วงสักหน่อย กูเจ็บสะโพก! มึงอ่ะ
ทำเหี้ยไรกู....เมื่อคืน”
“.........” อ้าว!
ผมอึ้งไปเลยครับ ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง อดหัวเราะออกมาเบา
ๆ ไม่ได้
“ห้ามหัวเราะนะ” มันตะคอกงอนเชียว
“ครับ หึหึ ครับ ไม่หัวเราะครับ”
“บอกว่าห้ามหัวเราะไง เพราะมึงเลย มึงคนเดียว”
“ครับ ครับ เพราะกูคนเดียวเลยเนอะ
เดี๋ยวกลับไปกูทำผัดสปาเก็ตตี้ให้กินดีไหม วันก่อนกูเห็นเค้าทำให้ดูในทีวี
กูจำเอาไว้แล้ว จะทำให้มึงกินคนแรกเลย” ผมต้องชวนมันคุยครับกลัวมันหลับไปกลางแดดจริง
ๆ
“ไม่เอา! ไม่อยากเป็นหนูทดลอง
แล้วก็ไม่อยากกินเป็นคนแรกด้วย มึงพูดแบบนี้จะไปทำให้ใครกินอีกใช่ไหม?” เอาแล้วครับมันเป็นอะไรของมันเนี่ยทั้งพูดทั้งงอนทำเสียงอะไรของมัน
“ใช่หนูทดลองที่ไหนเล่า
หมูทดลองต่างหาก ฮ่าฮ่า”
“ไอ้โป้ง ไอ้บ้า หยุดพูดเลยนะ
เพี๊ยะ!!” เอาแล้วครับฝ่ามืออรหันต์ฟาดลงที่ต้นแขนผมอย่างแรงเลย
โอโนโน่เนี่ยเป็นงี้ทุกที เวลาเขินเวลางอนซาดิตส์กับผมประจำ
“ตอบกูมาเดี๋ยวนี้เลย..
มึงจะไปทำให้ใครกินอีกใช่ไหม ?” อะไรกันเนี่ย
ตาเริ่มแดง ๆ ขึ้นมาแล้ว มือก็กำหมอนที่มันกอดไว้จนแน่น
มันจะรู้ตัวบ้างไหมเดี๋ยวนี้มันน่ารักมากเลยครับงอนผมบ่อยมาก สงสัยจะชอบให้ง้อ
“ไม่ทำครับ ไม่ทำให้ใครกิน
ทำให้โน่กินคนเดียวนะ” โธ่เว้ย! ขึ้นทางด่วนแบบนี้ขับช้าก็ไม่ได้ยังต้องมานั่งง้อกันอีก
“..........” จริงครับถูกงอนเรียบร้อย
เอาล่ะต้องงัดไม้ตายออกมาเลย
“โน่ครับ ไม่เอานะนะ
ไม่ทำให้ใครกินหรอก ทำให้มึงกินคนเดียวเลย กูสัญญา” ผมแอบมองมันนิดหน่อยดูซิว่ารีแอคชั่นเป็นยังไง
“จริงนะ”
“ครับ” ผมเอื้อมมือไปจับมือมันไว้แล้วเอาขึ้นมาจูบ
1 ที หันไปมองแวบนึง
มันยิ้มออกมาเรียบร้อยครับ หึ จริง ๆ เลยมันน่ะ
คราวนี้ผมก็ต้องจำเอาไว้สิครับว่าสำหรับผัดสปาเก็ตตี้น่ะ
ลิขสิทธิ์ของมันคนเดียวเท่านั้น!
พอมาถึงห้องมันก็วิ่งเข้าไปอาบน้ำทันทีคงจะร้อนแหละครับท่าทางจะเริ่มหิวแล้วด้วยเดี๋ยวอาละวาดงอนขึ้นมาอีกผมเลยรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดกางเกงขาสั้นแล้วเข้าครัวทันทีเลยกะว่ามันออกมาจะได้เกือบเสร็จพอดี
แต่......
“โป้ง! เสร็จยัง ?”
เฮ้ย!! นี่มันอาบน้ำหรือเดินผ่านน้ำกันแน่.....วะ
?!
“.........” ผมอึ้งมองมันในขณะที่มือยกมีดที่กำลังหั่นหัวหอมใหญ่ค้างอยู่
“หิวแล้ว” มันพูดแล้วนั่งยอง ๆ ลงบนเก้าอี้ ติดกิ๊ปปากเป็ดอันเบ้อเริ่มที่ผมเพิ่งซื้อให้ออกมาด้วย ช่างเหมาะกับใบหน้าขาว ๆ เหมือนการ์ตูน ของมันมากเลยครับแถมยังใส่เสื้อยืดสีชมพูตัวเล็ก ๆอีก น่ารักโคตรเลย
“หิวแล้ว” มันพูดแล้วนั่งยอง ๆ ลงบนเก้าอี้ ติดกิ๊ปปากเป็ดอันเบ้อเริ่มที่ผมเพิ่งซื้อให้ออกมาด้วย ช่างเหมาะกับใบหน้าขาว ๆ เหมือนการ์ตูน ของมันมากเลยครับแถมยังใส่เสื้อยืดสีชมพูตัวเล็ก ๆอีก น่ารักโคตรเลย
“มองไร รีบทำดิวะกูหิวแล้ว
มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าล่ะ? ” มันถามขึ้น
สายตาจับอยู่ที่หัวหอมที่กำลังหั่นอยู่
“งั้น มาหั่นหัวหอมต่อให้หน่อย”
“ไม่เอา...เหม็นมือกลัวแสบตาด้วย”
“ถ้างั้น เอามะเขือเทศไปล้างนะครับ”
“ไม่เอา....กลัวหนอน”
“งั้นมาช่วยกูหั่นแครอทเป็นรูปลูกเต๋าเล็ก
ๆ”
“ทำไม่เป็นหรอก”
“.......ถ้างั้นก็ช่วยไปคนเส้นที่กำลังต้มอยู่อย่าให้มันน้ำแห้งนะ”
มันเดินไปชะโงกหน้ามองเส้นสปาเก็ตตี้ที่กำลังถูกต้มเดือดปุด ปุด
อยู่ในหม้อแล้วหันมามองผม
“ไม่เอาดีกว่า ร้อน
แค่ดูกูก็ร้อนแล้ว งั้น....กูไปดู TV รอละกันนะโป้ง” พูดจบมันก็เดินออกไปกด TV
แล้วนั่งดูอยู่ที่โซฟา หัวเราะอะไรของมันอยู่คนเดียวไม่รู้ครับ
แล้วนี่ตกลงมันได้ช่วยอะไรผมรึยังเนี่ย ?!!!
..
“โน่ครับ มาชิม เสร็จแล้ว”
ผมเรียกเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเห็นมันกำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่พอดี
พอได้ยินผมเรียกเลยเดินเข้ามาหาแต่ยังแนบโทรศัพท์อยู่ที่หูไม่ยอมวาง
ผมมองหน้ามันประมาณว่ามาชิมของกูก่อนแล้วค่อยคุยต่อได้ไหมวะ แล้วใครวะที่เสือกโทรมาตอนนี้พอดิบพอดี
มันเลิกคิ้วเป็นเชิงถามปากก็คุยต่อไป ผมเริ่มโมโหแล้วครับเหนื่อยก็เหนื่อยเหนียวตัว
น้ำก็ยังไม่ได้อาบยังต้องมานั่งรอมันคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้
ทำเหมือนผมไม่สำคัญ แถมตอนนี้มันนั่งลงที่โต๊ะแล้วตั้งหน้าตั้งตาคุยอีกต่างหาก
ผมปิดสวิทเตาเลยไม่สนใจแม่งแล้ว
ถอดผ้ากันเปื้อนโยนลงบนเก้าอี้ใกล้ ๆ มันนั่นแหละกะให้มันสังเกตเห็นพอดี มันมองผมตาโตเลยครับ
ไม่สนหรอกผมก็งอนเป็นเหมือนกัน อะไร!!คุยกับใครก็ไม่รู้
ควับบบบบ!!
กอดครับ
มันรีบมากอดเอวผมไว้เลยครับ
ก่อนที่ผมจะเดินพ้นห้องครัว ถูไถจมูกลงที่แผ่นหลังฟึดฟัด ๆ
“หิวแล้ว จะไปไหนอีก” มันถามเสียงอ้อน วางโทรศัพท์เรียบร้อย
“............” แกล้งเงียบดีกว่า
หึงโว้ยไม่รู้แม่งคุยกับใคร
“คุยกับไอ้ด้า มันโทรมาถามว่าปิดเทอมไปไหน”
“.............”
“อื้อ โป้งไม่เอาไม่ให้โกรธ
ด้าเป็นน้องกู” มันกอดแน่นเลยครับคราวนี้
คุณคงไม่เคยเห็นมุมนี้ของมันใช่ไหม ประจำครับตั้งแต่เราเริ่มรู้จักกันเลย
ขี้อ้อนอย่างกับลูกหมาตัวเล็ก ๆผมน่ะไม่เคยโกรธมันได้นานสักที
ใจอ่อนสิครับผมน่ะ เดินเข้าไปใช้ส้อมพันเส้นขึ้นมาให้มันชิม
“อ่ะ! อ้าปาก
มึงไม่ต้องจับเดี๋ยวมือเปื้อน” ผมป้อนมันครับ
“ไง ? อร่อยป่ะ
?” ผมจ้องมันเลย อยากได้ยินคำตอบ
“.........” มันเงียบครับทั้ง
ๆ ที่เคี้ยวจนหมดแล้ว มองหน้าผมนิ่ง
“โน่” ผมเริ่มใจคอไม่ดีเลยครับ
ทำไมมันไม่พูดก็ไม่รู้ มันเดินไปเปิดตู้หยิบจานขึ้นมาแล้วส่งให้ผม
“ตักให้กูเยอะ ๆ เลย”
หึ ผมยิ้มเลยครับ...
แค่นี้ก็แทนคำตอบทุกอย่างได้แล้ว
เราสองคนนั่งกินผัดสปาเก็ตตี้กับเบียร์วุ้นขวดเขียวที่มันแช่เอาไว้ให้
แล้วก็นั่งดู TV ด้วยกัน
จนสักพักผมเข้าไปอาบน้ำ เหนียวตัวตั้งแต่เมื่อกี้แล้วแต่ต้องทำกับข้าวก่อนเลยยังไม่ได้อาบ
พอออกมาเห็นมันนั่งหลับอยู่ที่โซฟา
ท่าทางจะอิ่มจัด ก็เล่นซัดซะ 2 จานแถมเบียร์อีกเป็นขวด หน้ามันแดงเลยครับ ผมจับมันนอนลงดี ๆ ปิด TV
แล้วเปิดเพลงเบา ๆ ให้ฟังแทน เอาไอแพดออกมานั่งจิ้มเกมส์ปัญญาอ่อนเล่นไปเรื่อย
มองดูเวลาอีกที 4 ทุ่มกว่าแล้ว
“โน่ครับ โน่” ผมปลุกมัน เกลี่ยไรผมที่ปกหน้าผากมันออก
จ้องหน้ามันใกล้ ๆหน้ายังกับการ์ตูนเลย ปากสีแดงหน่อย
ๆ เผยอขึ้นเล็กน้อยเหมือนกำลังเชิญชวนผมอยู่ นี่ขนาดผมจูบมันอยู่ทุกวัน
ก็ยังอยากจูบอยู่ตลอด คิด ถึงขนาดอยากลักหลับมันซะตอนนี้เลย
“โป้ง” มันเรียกเสียงงัวเงีย
“ครับ”
“กี่โมงแล้ว”
“จะห้าทุ่มแล้ว ไปนอนข้างในนะ”
“อุ้มหน่อย” ทำเสียงซะอ้อนเลย
“........”
“อื้อออออ” ดูครับดูมัน มันทำท่าขัดใจอย่างแรงเมื่อเห็นผมยังเฉยอยู่ ไม่ใช่ว่าไม่อยากอุ้ม หรืออุ้มไม่ไหวนะ แต่กลัวอดใจไว้ไม่อยู่ต่างหาก สงสารมันน่ะเมื่อคืนไม่รู้หายเจ็บรึยัง
“อื้อออออ” ดูครับดูมัน มันทำท่าขัดใจอย่างแรงเมื่อเห็นผมยังเฉยอยู่ ไม่ใช่ว่าไม่อยากอุ้ม หรืออุ้มไม่ไหวนะ แต่กลัวอดใจไว้ไม่อยู่ต่างหาก สงสารมันน่ะเมื่อคืนไม่รู้หายเจ็บรึยัง
“อื้ออออ อุ้มกูเร็ว” บ้าเอ้ย! มันยังอ้อนไม่หยุดอีก ทำไงได้ล่ะครับอุ้มก็อุ้ม
พอเข้ามาข้างในเรียบร้อยผมวางมันลงบนเตียงมันหันหน้าเข้าซุกหมอนข้างใบโปรดของมันทันทีแล้วก็เงียบไปเลย
“โน่....ไปแปรงฟันก่อนนะ
มึงกินแต่ของหวาน ๆ”
“อืม 5 นาที
เดี๋ยวลุก ปวดฉี่พอดีเลย” มันตอบเสียงอู้อี้ใบหน้ายังซุกอยู่ที่หมอน
“เอ๋า! ปวดก็ลุกดิวะ
อั้นไว้ไม่ดีนะ ลุก ลุกเร็วครับโน่ ถ้าไม่ลุกกูจับปล้ำจริงนะ” ฮ่าฮ่า ได้ผล
มันลุกทันทีเลยครับไม่ต้องเสียเวลาเรียกอีกเลย
พอแปรงฟันอะไรของมันเสร็จเรียบร้อยคราวนี้เดินออกมาหน้าตาสดชื่นเชียว
เปลี่ยนเป็นคนละคนกับเมื่อกี้เลย
“โป้ง!” มันเรียกผมอย่างดัง
“หือ” ผมนั่งพิงหัวเตียงฟังเพลงอย่างสบายใจ
“มึงเปิดเพลงทำไมวะ ?”
มันถามหน้าตาตื่น
“.......ก็ อยากฟัง” ผมตอบแล้วแกล้งเสหน้าไปทางอื่น
“แต่-กู-ไม่-อยาก-ฟัง” ชัดถ้อยชัดคำและชัดเจนครับ มันพูดพร้อมหยิบรีโมทขึ้นมากดปิดทันที
พร้อมกับเดินไปหรี่ไฟลง
“โน่ครับ วันนี้โป้งอยากฟัง” ผมอ้อนมันครับ
ต้องโทษมันนั่นแหละเมื่อกี้ดันอ้อนให้ผมอุ้ม ผมเลยอยากขึ้นมาอ่ะดิ
“ไม่ต้องเลยมึง เมื่อคืนก็เพิ่งทำ
ยังเจ็บไม่หายเลย จะมาอยากฟังเพลงอะไรตอนนี้” มันบ่นแล้วนั่งลงข้าง
ๆ ซุกรีโมทเอาไว้ใต้หมอน
“โอโนโน่” เรียกแบบนี้หมายถึงอ้อนมากที่สุดแล้วครับ
ผมกอดเอวมันโน้มตัวมันลงมานอนซบพุงผมไว้
“นะ...”
“ไม่เอา” มันส่ายหน้าแล้วแกล้งนอนหลับ
ผมจับมันนอนลงดี ๆ แล้วมองหน้ามันใกล้ ๆ สักพักมันแอบหรี่ตาขึ้นมาดู
พอเห็นผมจ้องมันอยู่ก็รีบหลับตาลงต่อทันที ตลกสุด ๆ เลยครับ
ลองแกล้งมันดูดีกว่า....
“ให้-ทำ-เอา-ป่ะ ?” ผมกระซิบลงที่ข้างหูมัน
หึหึ มันเบิกตาขึ้นทันที
“ให้กูทำจริงนะ?”
โอ้ยยยย.......มึงจะรีบถามไปไหนครับผมกลั้นหัวเราะแทบจะไม่อยู่
“อืม” ผมพยักหน้าตอบไป
“ แต่!! ...มึงต้องให้กูทำก่อน หลังจากนั้นตามึง OK
? ”
ผมแกล้งหลอกล่อมันครับ
ไม่มีทางหรอกตั้งแต่โดนมันพลิกได้วันนั้นผมแทบบ้า หลังจากนั้นผมระวังตัวสุด ๆ แค่ครั้งเดียวเท่านั้นล่ะ
ตอนนี้ในหัวเริ่มลำดับแผนการณ์(ชั่วร้าย)ทั้งหมด
ต้องเล่นท่าพลิกแพลงเอาจนมันกระเจิง==>มันเหนื่อยจนหมดสภาพ==> มันต้องเผลอหลับไป==>ตื่นมาอีกทีก็เช้า==> Mission complete. YESS!!
ขณะความคิดกำลังถูกจัดเป็นสเต็ปดั่งการอัดข้อมูลลงบนเซกเตอร์
“โป้ง”
“ครับ” ผมตอบอย่างนุ่มนวลที่สุด
คิดว่ามันคงหลงกลแน่แล้ว
“กูเปลี่ยนใจแล้ว!! กูไม่ทำ กูจะนอน
กู๊ดไนท์มึง”
“ !!!?? ” ค้างสิครับผมอ่ะ
มันเอาผ้าห่มคลุมถึงหัวเลยครับ ไม่สนใจผมหรืออะไรทั้งสิ้น
เป็นงี้ตั้งแต่เด็กเลยเวลางอนแล้วชอบคลุมโปง
ผมเองก็ไม่อยากกวนมันแล้วล่ะครับ พรุ่งนี้ว่าจะพามันไปค้างที่บ้านด้วยแล้วค่อยจัดการที่บ้านตัวเองดีกว่าตื่นเต้นดี พอคิดได้อย่างนั้นก็เผลอยิ้มออกมา ผมกอดมันไว้จัดผ้าห่มของมันให้เข้าที่กลัวว่าจะหายใจไม่ออก แล้วเราก็หลับไปด้วยกัน
ผมเองก็ไม่อยากกวนมันแล้วล่ะครับ พรุ่งนี้ว่าจะพามันไปค้างที่บ้านด้วยแล้วค่อยจัดการที่บ้านตัวเองดีกว่าตื่นเต้นดี พอคิดได้อย่างนั้นก็เผลอยิ้มออกมา ผมกอดมันไว้จัดผ้าห่มของมันให้เข้าที่กลัวว่าจะหายใจไม่ออก แล้วเราก็หลับไปด้วยกัน
มีมันนอนอยู่ข้าง ๆ แบบนี้ไปตลอดก็คงดี.....
ช่างเป็นคืนที่มีความสุขจริง ๆ
Tbc.