Thursday, March 20, 2014

S.W.A.T - D (หน่วยสืบคดีโหด) *Yaoi * บทที่ 12


# 12 


หลังจากสำรวจความเรียบร้อยของชุดพนักงานเสิร์ฟที่ตนสวมใส่อยู่เสร็จแล้ว ผู้หมวดคริสตินก็เดินเข้าไปเตรียมตัวอยู่หลังบาร์เหล้าทันที  

แต่เดิมนั้นตกลงกันไว้ว่าเมื่อเจ้าซาโต้เป็นนักเต้นแล้วตัวเขาจะต้องคอยคุมสถานการณ์ในฐานะเด็กเสิร์ฟ แต่ไป ๆ มา ๆ เจ้าซาโต้ไปคุยอิท่าไหนไม่รู้ จู่ ๆ เจ๊เปรี้ยวดันมีคำสั่งให้เขานั่งคอยอยู่หลังเคาเตอร์เป็นผู้ช่วยของบาร์เทนเดอร์แทน  ชายหนุ่มไม่อยากขัดให้มากความเพราะกลัวเรื่องแตกจึงได้แต่นั่งจุ้มปุ๊กรออยู่ที่นี่ พี่บาร์เทนเดอร์ตัวหลักก็แสนใจดีชวนคุยนั่นคุยนี่อยู่ไม่ขาดปาก

ไงฮะ มาทำใหม่เหรอจู่ ๆ เสียงเล็กรื่นหูก็เรียกให้คริสเงยหน้าจากแก้วเหล้าที่กำลังหัดผสม น้องหนึ่งเด็กที่นั่งมองเขาเมื่อเช้านี้นี่เอง

อ๋อ ครับคริสตอบไปอย่างเป็นมิตร

พี่หน้าตาดีนี่ ไม่ลองสมัครเป็นนักเต้นล่ะฮะ เงินดีนะ  แบบพี่ผมว่าต่ำ ๆ คงได้คืนละไม่น้อยเลยแหละ

ตัวเล็ก หน้าตาดี ผิวขาว อายุไม่น่าเกิน 17-18 นัยน์ตาสีดำโกรกผมสีน้ำตาลอ่อน คริสใช้สายตาสแกนโดยละเอียด ก่อนเลื่อนแก้วเหล้าที่เพิ่งหัดผสมส่งให้

เลี้ยงผมเหรอเด็กหนุ่มตรงหน้าเลิกคิ้วถาม 

กฎของที่นี่ก็เหมือนกฎของร้านอาหารทั่วไปนักเต้นและพนักงานไม่มีสิทธิ์ดื่มกินฟรี ยกเว้นน้ำเปล่าและอาหารจากหลังร้าน

ลองชิมให้หน่อยว่าใช้ได้รึเปล่าคริสส่งยิ้มให้แล้วตอบไปแบบเรียบ ๆ แต่น้องหนึ่งทำท่าทางยึกยักเหมือนกล้า ๆ กลัว ๆ เสียงของคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ คริสก็ดังขึ้น

กินได้น่า เดี๋ยวแก้วนี้หักจากบัญชีคิตตี้เขาก็ได้ เนอะพี่เม่นบาร์เทนเดอร์หนุ่มหล่อมือสวย(ผมสังเกตนะ)แซวน้องสองคนเบา ๆ เม่นกำลังก้ม ๆ เงย ๆ จัดการเกี่ยวกับตู้แช่ไวน์

หนึ่งผ่อนคลายขึ้นเยอะเมื่อได้ฟังคำพูดนั้นของเม่น สามคนคุยไปหัวเราะกันไปเรื่อยในขณะที่ลูกค้าทั้งขาประจำและขาจรเริ่มเข้ามากันแล้ว นาฬิกาดิจิตอลใต้เคาเตอร์บาร์บอกเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว นักเต้นระดับทั่วไป 4 – 5 คน เริ่มขึ้นไปโชว์สเต็ปเลื้อยเบา ๆ ทั้งสองฝั่งของเคาท์เตอร์ยาวที่เป็นรูปตัว ส่วนเวทีช่องกลางเมนหลัก มีไว้สำหรับโชว์ชุดพิเศษของแต่ละวันในช่วง สเปเชี่ยลไทม์(5 ทุ่มขึ้นไป)เท่านั้น

พี่คิตตี้เป็นแฟนพี่ซามอนเหรอฮะจู่ ๆ คนตรงหน้าก็ถามขึ้นนำให้คนที่กำลังฟังอยู่อย่างคริสถึงกับหน้าเหวอ

ไม่ต้องอายหรอกฮะ ที่หลังร้านน่ะเขาถามพี่ซามอนกัน  พี่เขาบอกพวกผมหมดแล้วแหละ  เรื่องธรรมดาน่าพี่ 

ฮึ่ยย!! พูดเองเออเองนี่คงเป็นนิสัยของมันสินะ คอยดูนะกลับไปกูจะจัดการมึงเอาให้เหวอไปเลย’ คริสได้แต่นึกในใจมือไม้ที่ขัดแก้วอยู่กดน้ำหนักลงจนเด็กหนุ่มตรงหน้าเริ่มเพ่งมอง 

คริสจึงเริ่มรู้สึกตัว

อ๋อ ครับ พี่ซามอนเขาว่าไงก็คงตามนั้นแหละผู้หมวดหนุ่มจำใจโปรยยิ้มหวานตอบ แต่ในใจเริ่มวางแผนการชั่วร้ายเพื่อเอาคืนไอ้คู่หูตัวแสบแล้ว(เอ๊ะ โหมดนี้คุ้น ๆ คล้ายเคนยะชอบกล)

คิคิ พี่คิตตี้นี่ตลกดีนะครับ งอนแฟนน่ารักจัง พี่เขารักหรอกถึงได้เปิดเผยขนาดนั้นน่ะน้องหนึ่งยังพูดต่อแบบซื่อ ๆ 

อ้อ  ครับ หึหึหึคริสแค่นเสียงลอดไรฟัน ด้วยใบหน้าฝืนยิ้ม พร้อมตาข้างซ้ายกระตุก หงึก ๆ 

หนึ่งนั่งคุยอยู่ที่บาร์เหล้ากับคริสบ้างเม่นบ้างอย่างถูกคอ  สักพักก็ขอตัวกลับเข้าไปด้านหลังเพื่อเตรียมตัวเนื่องจากเวลาตอนนี้ใกล้จะเริ่มโชว์แล้ว   ข้อมูลคร่าว ๆ ที่คริสได้มาก็คือ หนึ่งเป็นคนจังหวัดสุรินท์อยู่กับยายแค่สองคน  เมื่อทำงานได้เงินก็จะส่งกลับไปให้ยายเป็นประจำทุกเดือน เขาทำงานที่นี่มาได้ปีกว่าแล้ว

ผู้หมวดหนุ่มเริ่มสอดส่ายสายตามองหาคู่หู เมื่อเห็นว่าคนที่มาด้วยกันตั้งแต่สองทุ่มนั้นหายไปหลายชั่วโมงแล้ว

คิตตี้จู่ ๆเสียงเรียกก็ดังขึ้น คริสตินรีบลุกขึ้นมาจากใต้เคาท์เตอร์เนื่องจากก้มลงไปเก็บที่เปิดขวดที่ทำหล่นไปเมื่อสักครู่

ซาตะ เอ้ย! ซาม่อน  มึงหาย......คริสถามร้อนรน  แต่ซาโต้พยักหน้าให้เบา ๆ ตัดจังหวะ บอกให้รู้ว่าต้องเดินตามออกไป

พอเลี่ยงออกมาได้ก็โวยวายใส่ชุดใหญ่  "ซาโต้ มึงหายไปไหนมาตั้งหลายชั่วโมง ทิ้งกูนะมึงสองหนุ่มหยุดอยู่ที่มุมหนึ่งของร้าน

ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาเยอะแล้ว

ซ้อมเต้นอยู่ด้านหลังครับ ผมเดินออกมาดูคริสอยู่ตลอดนะสังเกตได้ว่าสีหน้าคนตอบชักแปลก ๆ 

แล้วนี่อะไร  มึงยังไม่แต่งตัวอีกรึไงคริสตินไล่สายตาดูคู่หูตั้งแต่หัวจรดเท้า

จะแต่งทำไมล่ะครับ มีแต่ต้องถอดออกทั้งหมดนั่นแหละซาโต้พูดหน้าบูด สีหน้าประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ชุดที่ใส่เข้ามายังไงก็ยังใส่ครบอยู่แบบนั้น

 แต่นั่นก็นำให้คริสหัวเราะ หึหึ เบา ๆ 

เอาน่า จะกลัวอะไรล่ะ กูก็อยู่นี่ด้วยทั้งคนชายหนุ่มเลิกคิ้วปรายตาลอกเลียนประโยคที่ซาโต้เคยพูดกับเขาไว้มาทั้งประโยคอย่างล้อเลียน 

นำให้ซาโต้หรี่ตาเขามองอย่างดุ ๆ 

ร้ายนะครับคริส  เดี๋ยวคืนนี้จะแกล้งให้หนักเลยคอยดูซาโต้มองคู่หูด้วยสายตาอย่างเจ้าเล่ห์(เปลี่ยนสีหน้าเร็วนักนะมึง)

อะไร ๆ มึงจะแกล้งอะไรกู อย่า! อย่าได้คิดอะไรแผลง ๆ เราพักโรงแรมไม่ใช่ที่บ้านเดี๋ยวข้าวของเขาแตกขึ้นมากูขี้เกียจควักเงินตัวเองจ่าย เงินเดือนยิ่งน้อย ๆ อยู่ผู้หมวดหนุ่มพาลคิดไปว่าแกล้งในความหมายของซาโต้คือแกล้งแบบเดียวกับที่ฟ็อกซ์ชอบแกล้งเขา

ซาโต้ได้ฟังดังนั้นรีบหันหน้าไปอีกทางเพื่อหลบรอยยิ้มขำของตัวเอง กลัวว่าอีกฝ่ายจะเห็น โถๆๆๆ  คริสครับ จะซื่อเกินไปแล้ว

ข้างฝ่ายคริสตินเมื่อพูดประโยคนั้นจบก็ไม่ใช่ว่าจะไม่คิดอะไรเสียเลย  เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจู่ ๆ ก็หันไป ความคิดประหลาดก็วูบไหวเข้ามาในหัวอย่างเร็ว  ‘ไอ้เหี้ยซาโต้ มึงอย่าได้คิดว่าจะกอดกูได้อีกแบบเมื่อคืน คราวนี้กูไม่มีทางยอมให้มึงแกล้งกูแบบนั้นอีกแน่

เสียงเพลงสากลเปลี่ยนไปเรื่อย เพลงแล้วเพลงเล่า

โต๊ะนั่งที่เคยว่างเปล่า ตอนนี้ถูกเติมเต็มไปด้วยเหล่าชายเทียมมากหน้าหลายตา 

แต่งหญิงบ้าง  แต่งชายบ้าง  แล้วแต่จะเลือกสรรปรุงแต่งเสื้อผ้าหน้าผมกันมา

เสียงกรี๊ดดังลั่นมาจากโต๊ะมุม เมื่อกระทาชายนักเต้นเดินไปร่อนสะโพกโชว์เดี่ยวอยู่บนเวทีลอยที่ยื่นติดไปกับโต๊ะ ๆ นั้น  แบงค์สีแดงสองสามใบถูกเสียบลงที่ขอบกางเกงในตัวจิ๋วอย่างหมิ่นเหม่

คริสตินเห็นดังนั้นจึงหันกลับมามองหน้าคู่หูตนอย่างรู้สึกผิด ซาโต้ มึงจะต้องได้ทำอะไรแบบนั้นเหรอวะเนี่ย กูขอโทษจริง ๆ ว่ะมึง 

แต่เหมือนซาโต้จะไม่ยี่หร่ะกับอะไรรอบข้างเลยสักนิด  ชายหนุ่มยังยืนเฉยดูพวกกระเทยโต๊ะนั้นกรี๊ดกร๊าดกับท่าเต้นสุดยั่วยวนสยิวกิ้วด้วยใบหน้าเฉย ๆ 

คริสมองไปทางบาร์เหล้าเห็นเม่นกวักมือเรียกเขาเบา ๆ มีลูกค้าทยอยเข้ามานั่งที่เคาเตอร์บาร์ 2 – 3 คนแล้ว ชายหนุ่มจึงคิดจะเดินเลี่ยงออกไป

ซาโต้กูต้องไปที่เคาเตอร์แล้ว มึงขึ้นโชว์ตอนไหน

ยังไม่รู้เลยครับ ต้องรอเป้าหมายของเราก่อน

เฮ้ย  หมายความว่าไง มึงคุยกับมาม่าเขาเหรอ

ครับเรียบร้อย แต่เฉพาะเจ๊เปรี้ยวคนเดียวเท่านั้นนะที่รู้

งั้นก็แสดงว่า  เมื่อวาน... 

คริสตาโตนึกถึงเรื่องเมื่อวาน มิน่าล่ะเจ๊เปรี้ยวถึงได้ให้อิสระเขาขนาดนี้ ไอ้เขาก็หลงคิดว่าเจ๊แกใจดีแบบนี้กับพนักงานทุกคนเลยรึเปล่า อีกทั้งยังช่วยกันพี่แป๋วไม่ให้มายุ่มย่ามวุ่นวาย

พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นคนที่ตนกำลังนึกถึง

พี่แป๋วนั่งเทคแคร์แขกฝรั่งอยู่ที่โต๊ะหนึ่ง สงสัยแขกส่วนตัวล่ะมั้งคริสนึก แล้วสายตาก็ไปสะดุดลงกับชายที่ยืนอยู่หลังบาร์เหล้าอีกครั้ง

เม่น  ที่ตอนนี้เริ่มมองคริสตาเขียว กวักไม่กวักมือให้เขาเข้าไปช่วยเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้

ซาโต้ กูต้องไปแล้วโชคดีนะมึง ไว้มึงขึ้นเต้นกูจะคอยดูไม่กระพริบตาเลย ตั้งใจอ่อยให้ได้ล่ะเพื่อนคริสตินตบลงที่บ่าคู่หูเบา ๆ แล้วผุดยิ้ม  ไม่รู้ว่าเป็นยิ้มจริงใจหรือยิ้มเยาะเย้ยกันแน่

แต่คู่หูคนเก่งดันไม่ยิ้มด้วยซะนี่  ชายหนุ่มถองศอกลงที่ท้องผู้หมวดหนุ่มเบา ๆ 


เห็นแล้วอย่ากรี๊ดล่ะ  รู้เอาไว้ด้วยทุกอย่างเพื่องาน”   พูดจบปุ๊บก็เดินเลี่ยงออกไปทันที ทิ้งให้คริสตินเบ้ปากแลบลิ้นส่งให้ลับหลังเบา ๆ 


ห่า! กูจะกรี๊ดเพื่อ ????  หลงตัวเองไปแล้วไอ้ปลาแซลมอน!!
.
.
.
.
.
.
.
ในที่สุดช่วง โชว์ไทม์  ก็มาถึง(5 ทุ่มเป๊ะพอดิบพอดี)

อินโทรเพลง My Love ของ  Westlife ดังขึ้นกระหึ่มบาร์ 

ถึงคิวของน้องหนึ่งโชว์สเต็ปเทพอยู่ที่ส่วนกลางของเวทีที่ยื่นออกมา มีเสาสีเงินวาวหนึ่งต้นตั้งตระหง่าน แถมด้วยออฟชั่นเสริมอีกอย่างคือ เก้าอี้ขนาดกลางหนึ่งตัวที่ตั้งเด่นอยู่ข้างเสา

เพลง และ ลีลาคนดำเนินไปเรื่อย  

คริสจ้องมองตาโต  ไม่คิดไม่ฝันว่าเด็กหนุ่มท่าทางเรียบร้อยที่นั่งคุยกับเขาเมื่อกี้จะร้อนแรงได้ขนาดนั้น กางเกงในตัวจิ๋วสีขาวปักเพชรแวววับนั้นมันคล้ายจีสตริงมากไม่ใช่รึไง!!?

ในขณะที่เม่นเองแอบบอกออกมาเบา ๆ ว่า หนึ่งเป็นขวัญใจของลูกค้าที่นี่มาก ช่วงโชว์ไทม์ของทุกวันหนึ่งจะมีโชว์ไม่ต่ำกว่า 3 เพลง

แบงค์สีม่วงสีแดงหลายใบ ถูกเสียบลงที่ขอบกางเกงในตัวจิ๋วทั้งหน้าทั้งหลังอย่างหมิ่นเหม่ จุดประสงค์ที่แท้จริงของการเสียบแบงค์นั่นก็เพื่อจับต้องของบางอย่างที่ซ่อนตัวอยู่ในนั้น บางคนมือบอนถึงขนาดบีบทั้งหน้าทั้งหลังเลยก็มี


ลีลาการไหลเลื้อยโยกโหนเต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพ...

คริสตินหน้าแดงขึ้นมาทันทีเมื่อสเต็ปสุดท้ายของเพลง น้องหนึ่งขึ้นไปนั่งคร่อมบนเก้าอี้พร้อมโยกสะโพกขาว ๆที่ตอนนี้หันโชว์เข้าหาคนดูเด้งเข้าเด้งออกอย่างไม่มีอาย

เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากเหล่าชายเทียมทุกรูปแบบที่ด้านล่างดังจนแสบแก้วหู

เมื่อจบเพลง หนึ่งเดินโทง ๆ มีแต่กางเกงในตัวเดียวมาที่บาร์เหล้าผ่านสายตามากมายหลายคู่ขณะที่คริสยืนชงเหล้าให้ลูกค้าอยู่

บทสนทนาเกิดขึ้นระหว่างหนึ่งกับลูกค้าที่นั่งอยู่ก่อนแล้วอย่างออกอรรถรส 

วิสกี้ชั้นดีถูกเลื่อนส่งมาให้นักเต้นชั้นหนึ่งแก้วแล้วแก้วเล่าโดยคำสั่งของลูกค้าคนนั้น

แต่ก็เพียงพักเดียวเท่านั้น จู่ ๆ เจ๊เปรี้ยวก็เดินมาสะกิดเด็กหนุ่มบอกมีแขก VIP เรียกหา จากนั้นหนึ่งก็เดินหายไปในมุมมืดมุมหนึ่งของร้าน

เสียงเพลงจังหวะเร็วขึ้นนิดหน่อย.........................กระตุกอารมณ์ผู้หมวดหนุ่มให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง 

แสงไฟมืดบ้างสว่างบ้างกระพริบแวบวับไปกับจังหวะเพลงนำ

1 ในชายหนุ่มสองคนที่เดินขึ้นเวทีมาทำให้คริสตินถึงกับอ้าปากตาโตแทบถลนออกมาจากเบ้า

แผงอกแกร่งเปลือยเปล่า กับกางเกงชั้นในตัวจิ๋วสีดำสนิท มันใส่ที่รัดแขนเป็นเซทเดียวกับกางเกงชั้นในและสายรัดไหล่ทั้งสองข้าง สร้อยสีเงินรูปไม้กางเขนปักเพชรถูกผูกไว้กลางลำคอ  หน้าผากที่ถูกเซ็ทเปิด โชว์หราเรียวหน้าสวย แว่นสายตาสีชาอ่อนทำให้ใบหน้าละอ่อนนั่นดูเท่ขึ้นอีกจม  รวมถึงรองเท้าบูตครึ่งน่องสไตล์เฮฟวี่

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก / กรี๊ดดดดดดดดดดด / อร้ายยยยยยยยยยยยยยย~ ~ 

เสียงกรีดร้องที่ไม่รู้ของใครเป็นของใครดังสนั่นลั่นไปทั่วบาร์ เมื่อมีการแนะนำดีกรีเด็กใหม่สดซิงจากดีเจที่เปิดเพลงอยู่ด้านล่าง

คริสปลอบใจตัวเองว่าเสียงกรีดร้องที่ได้ยินนั่นคงไม่ได้หลุดออกมาจากเขาด้วยส่วนหนึ่งหรอกนะ

เพราะเขาเองแทบจะอดรนทนไม่ไหวทันทีที่คู่หูสุดเท่หันหลังโชว์กล้ามเนื้อสวยที่แผ่นหลังกว้างรอยสักเป็นตัวหนังสืออะไรบางอย่างบริเวณบั้นท้ายที่หมิ่นเหม่กับขอบกางเกงในนั่น เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมด้านล่างดังกระหึ่มไปทั้งบาร์

มันสักคำว่าอะไร??!! 

โอ่ยยยยย แย่แล้ว นี่กูใจสั่นทำเหี้ย!ไรเนี่ยยยยคริสหน้าซีดตาลอยไร้จุดโฟกัส

ฝ่ามือจากเม่นที่โบกไหว ๆ อยู่ด้านหน้าเรียกสติสตังผู้หมวดหนุ่มให้กลับคืนมาอีกครั้ง สัญชาตญาณตำรวจวิ่งปรู๊ดเข้าสู่กระแสเลือดเช่นเดิม

เม่นหัวเราะขำแซวเขาเบา ๆ แต่คริสตินหาได้แคร์ไม่

ชายหนุ่มเริ่มนึกถึงคำพูดของคู่หูที่บอกไว้ว่าถ้าเป้าหมายเข้ามาแล้วเขาจะขึ้นโชว์ทันที  สายตาจริงจังนั่นเริ่มสอดส่ายไปทั่วร้านอย่างร้อนรน

ไม่เจอ 

หายังไงก็หาไม่เจอใบหน้าผู้ต้องสงสัยที่จดจำมานั่นเลย  ทำเอาคริสถึงกับเริ่มเครียดหนักขมวดคิ้วแน่น 

จนกระทั้งเจ๊เปรี้ยวที่ยังคงนั่งอยู่ด้านหน้าเคาเตอร์เหล้าตอนนี้ ต้องสะกิดเขาเบา ๆ แล้วพยักเพยิดหน้าไปที่มุมสุดของบาร์มุมหนึ่ง 

คริสตินมองตามอย่างไว เพ่งสายตาทะลวงความมืดสุดชีวิต

ชายคนนั้น...

คุณหมอหนุ่มใหญ่วัย 39  คเชนทร์ โชนิน  เขากำลังนั่งคุยอยู่กับ น้องหนึ่งนักเต้นชายวัยละอ่อนอย่างออกรส ร่างกายบอบบางของน้องหนึ่งออดอ้อนถูไถอยู่ที่ในวงแขนแกร่ง ใบหน้าแสนสุภาพนั่นจดจ้องอยู่บนเวทีไม่วางตา 

คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจจริง ๆ 

ไอ้ซาโต้มันจะโดนใจเจ้าคุณหมอนี่บ้างไหมน้อคริสนึกๆ พลันก็คิดสงสารคู่หูตนเองขึ้นมาเมื่อเห็นเหล่ากระเทยหลากหลายทยอยไปยืนออหน้าเวทีรอเสียบแบงค์สีแดง ๆ สีม่วงสีเทาลงที่ขอบกางเกงในนั่น

แต่นักเต้นหน้าใหม่อย่างซาโต้กลับไม่ยอมเดินเข้ามาริมขอบเวทีเลยแม้แต่น้อย นั่นยิ่งทำให้เสียงเรียกจากด้านล่างยิ่งดังขึ้นไปใหญ่ โดยเฉพาะตอนนี้พี่แป๋ว อดีตคนเคยกรี๊ดเจ้าซาโต้เตรียมพวงมาลัยห้อยแบงค์แดง ๆ พวงเบ้อเริ่มรอคล้องชายหนุ่มด้วยสีหน้ายิ้มปริ่มสุดชีวิต

ในที่สุดเพลงโชว์ก็จบลงโดยที่เจ้าซาโต้ไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาเสียบเงินสักกะใบเดียว แม้กระทั่งพวงมาลัยจากเจ๊แป๋วมันก็ยังไม่ยอมก้มลงมารับ  เจ๊เปรี้ยวตรงรี่ไปรอรับชายหนุ่มที่ข้างเวทีทันที พร้อมพาเดินไปยังมุมที่น้องหนึ่งและเป้าหมายของเรานั่งอยู่ก่อนแล้ว 

ระหว่างเดินผ่านหน้าเคาเตอร์เหล้าซาโต้หันมาตีคิ้วกวน ๆ ส่งให้คริสติน 1 ทีแบบไม่รู้ความหมาย

แต่นั่นก็พาลทำเอาคริสหน้าแต้มสีขึ้นมาอีกไม่รู้ตัว เมื่อได้เห็นร่างกายกำยำที่เกือบจะเปลือยเปล่าของคู่หูเข้าแบบใกล้ ๆ  

เม่น บาร์เทนเดอร์หนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกันใช้ศอกสะกิดแซวชายหนุ่มเบา ๆ เขินหลายทีแล้วนะครับน้องคิต ฮิ้ววว 

คริสตินได้แต่ส่งยิ้มฝืน ๆหึหึ แทนคำตอบ เขินอะไรกันเล่า ผมอายแทนมันต่างหาก ไอ้ซาโต้บ้าไม่รู้กล้าทำไปได้ยังไง 

Tbc.