Saturday, March 14, 2015

ดอกฟ้ากับหมาวัด (Out Of Reach) ตอนพิเศษ - 05





Special เอย์เชน



วันนั้น....เป็นช่วงสายๆของวันหยุด

เสียงผลักบานกระจกเปิดเข้ามาเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นมอง เป็นคุณชายเอย์ตั้นแฟนเจ้าปิงเดินหน้ายุ่งเข้ามาด้านใน มองซ้ายมองขวาราวกับกำลังหาใครสักคนทั้งที่ผมนั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้แต่มันไม่เลือกที่จะเรียกถาม แล้วผมจะสนทำไม นั่งเคาะแป้นพิมพ์เขียนโปรแกรมของผมต่อไป จนคุณชายเดินเข้ามาด้านในแล้วยังไม่เห็นปิงนั่นแหละมันถึงได้เคาะโต๊ะผมพร้อมกับพับปลายแขนเสื้อขึ้นไปด้วย

“ปิงล่ะ..” เสื้อผ้าของมันคล้ายกับคนที่เพิ่งออกจากงานประชุมมา มันยกนาฬิกาข้อมือสีทองเรือนหรูขึ้นมาดูเวลาทำหน้าหงุดหงิด

“ไม่อยู่”ผมตอบไปแบบสั้น ๆ

“ขยายความหน่อยได้ไหม น่ารำคาญต้องให้กูเดาต่อเองว่ามันไปที่ไหนกับใครยังไงนี่น่าเบื่อว่ะ” ผมเงยหน้ามองมันทันที จะมาวีนแว๊ดๆอะไรอยู่ตรงนี้วะ บอกไม่อยู่ก็คือไม่อยู่ถามอะไรมากเรื่อง

“โทรหามันดิ” ผมว่า  และเป็นผมไหมที่ควรรำคาญมันมากกว่า อิคุณชายทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาข้าง ๆ ยกขาขึ้นไขว่ห้างกอดอกแล้วจ้องผมตาเขียว

“กูต้องโทรแล้วไม่ติดสิวะถึงได้ถามมึง บ้ารึเปล่านึกว่าใครเขาอยากจะพูดด้วยมากนักหรือไง”

ผมหันไปจ้องมันพร้อมถอนหายใจยาวเหยียด ไอ้คนไร้มารยาทมาออฟฟิศคนอื่นไม่ทักทายกันสักคำ พอจะถามก็แค่ใช้ปลายนิ้วชี้เคาะๆมาที่โต๊ะทำหน้าทำตาเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของตึก แล้วดูตอนนี้มันนั่งมองมาที่ผมนะ ไม่สนแม่งผมจ้องหน้าจอผมอย่างเดียวดีกว่า ปล่อยมันรอคำตอบเรื่องแฟนมันไปให้ตายเลย

“ตกลงไม่บอกใช่ป่ะ”

“เออ” ผมหันไปตอบ ตีคิ้วให้มันแบบท้าทาย กูไม่ตอบมึงง้างปากกูไม่ได้หรอก ปิงมันถูกลูกค้าขอร้องให้ไปดูเครื่องให้แบบด่วน ๆ แล้วรายนั้นใจดีไปหมดขัดไม่ได้เลยต้องออกไปทั้ง ๆ ที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เรานัดมาต่อเรื่องโปรแกรมกันแท้ ๆ สรุปงานไม่เสร็จอีก

เวลาล่วงผ่านไปไอ้แขกผู้มีเกียรติก็นั่งกดมือถืออยู่แบบนั้นแหละ ไม่ติดจนมันหัวเสียผมคิดว่าปิงคงปิดโทรศัพท์เอาไว้ เวลาทำงานบางทีไม่อยากโดนรบกวนพวกผมก็ปิดเครื่องกันออกบ่อย ๆ

“จิ๊  ปิดเครื่องทำไมวะแม่ง..” เสียงมันบ่นอยู่คนเดียวโยนมือถือลงข้างตัว หยิบวารสารแถวๆนั้นมานั่งอ่านเล่นจนเบื่อเอามือถือมาเปลี่ยนเป็นเล่นเกมส์ซะได้ ตอนนี้ยิ้มแล้ว ผมว่ามันบ้าแน่ ๆ เดี๋ยวทำหน้ายุ่งเดี๋ยวก็ยิ้ม

RRRRRRRRR

RRRRRRRRRRRRRR

เสียงโทรศัพท์มือถือมันดัง ถ้าเดาไม่ผิดต้องเป็นเจ้าปิงโทรมาแล้วแน่ ๆ โดนบ่นไปประมาณหนึ่งบทสวด จากนั้นหน้ามันก็แดงแล้วกลับมายิ้มต่อได้อีกหัวเราะคิกคัก เขินเหี้ยไรของมันไม่รู้ทำหน้าทำตาแม่ง  ผมส่ายหัว

“ห๊ะ! อะไรนะหมาปิงมึงจะบ้าเหรอกูจะไปซื้อเป็นได้ยังไง ปลาเผา ส้มตำไทย ไก่ย่าง ขนมจีนน้ำยา ข้าวเหนียว แคปหมู แล้วก็อย่าลืมปลานึ่งแจ่ว!

(............) ทางนั้นคงจะพูดอะไรมาสักอย่างอิคุณชายทวนคำสั่งจนหน้าจืดไปหมด มันเงียบไปอีกครั้งราวกับตั้งใจฟังคำสั่งอะไรต่ออีก

“กูสั่งไม่เป็นหรอกนะ มึงกลับมาแล้วค่อยเดินออกไปซื้อเองเหอะ” มันว่าใส่โทรศัพท์

(...........)

“ทำไมต้องเป็นกูด้วยวะ มึงโทรหาลูกพี่มึงดิ นั่งพิมพ์บ้าๆบอๆอยู่เนี่ย ไม่เห็นมันจะทำอะไร..” ผมเหลือบตาขึ้นมองมันทันที เจอะสายตาหงุดหงิดของมันแล้วตัวเองก็หงุดหงิดบ้างเหมือนกัน บ้าฉิบมันหาว่าผมนั่งทำเรื่องบ้าๆบอๆเหี้ยไรของมัน โปรแกรมนี้มูลค่าเป็นล้านๆเชียวนะ โค๊ดโปรแกรมน่ะต่อให้เก่งขนาดไหนถ้าไม่เคยได้เรียนรู้บวกกับพรสวรรค์ฟ้าประทานจ้างให้ก็ทำไม่ได้หรอกฮึ่ยยย  ยังเป็นมาพูดว่างานบ้าๆบอๆ ชิ  ผมมองมันและมันเองก็มองมาที่ผม ต่างคนต่างตาเขียวปั๊ดใส่กัน สักพักมันโยนอะไรสักอย่างฟาดมาผมรับเกือบไม่ทันก่อนที่ตัวมันจะลุกออกไปคุยโทรศัพท์ต่อที่ระเบียงหน้าออฟฟิศ คงจะคิดว่าผมแอบฟังตายห่าล่ะ หน้าตานี่งออย่างกับปลาทูอ่าวไทย

ตอนนี้มันเดินเข้ามาแล้ว ลากเก้าอี้นั่งลงที่หน้าโต๊ะหยิบปากกาจากโถขึ้นมาเขียนๆๆๆอะไรสักอย่างในกระดาษโน๊ตจากนั้นเลื่อนส่งมาให้ผม

รายการอาหารที่มันคุยกับเจ้าปิงเมื่อกี้นี้แหละ

“อะไร” ผมถามทั้งที่เห็นแล้วนั่นแหละ

“ปิงมันบอกให้มึงออกไปซื้อมารอ” มันบอกหน้าตาเฉย จ้องผมสักพักก็หลบทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ หยิบอะไรแถวๆนั้นขึ้นมาดูแบบมั่ว ๆ ผมรู้ได้ทันทีว่าปิงสั่งมันนั่นแหละ อิคุณชายแผนสูงจะให้ผมไปซื้อให้แทน หึหึหึ

อย่าฝัน!

“มึงไปเองดิ” ผมบอก

“ปิงมันบอกว่ามึงรู้ว่าร้านไหนเพราะฉะนั้นให้มึงไป”

“แต่กูว่าปิงมันบอกให้มึงไปมากกว่านะ ถ้าไม่รู้ร้านล่ะก็เดี๋ยวกูจะชี้ให้ดู ท้ายซอยนี่เองร้านเพิงเล็กๆร้านโปรดของแฟนมึงไง”

“ท้ายซอย?” มันทวนคำถามผมพยักหน้าบอกเออๆ

“มึงแหละไปซื้อ” มันยกข้อมือขึ้นดูเวลาอีกแล้ว หน้าเริ่มเครียดขึ้นนิดๆ ท่าทางกังวล

“เป็นไรอีก ก็แค่ท้ายซอยพอมึงเดินไปสุดซอยก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยเล็กๆต่อไปอีกนิด เดินไปเดี๋ยวก็เห็นเองอ่ะ” บ้าฉิบมันทำเอาผมไม่มีสมาธิทำงานต่อเลยเหอะ

“แต่ปิงมันบอกให้มึงไปเองนี่”

“พอๆ กูรู้หรอกว่ามันให้มึงนั่นแหละไป ถ้าปิงมันจะสั่งกูนะมันโทรเข้าเครื่องกูแล้วไม่ต้องผ่านมึงให้เสียเวลาหรอก รีบไปดิเดี๋ยวมันมาได้มีเรื่องหรอกก็รู้อยู่มันทำงานมาเหนื่อยๆโมโหหิวขึ้นมาล่ะมึงง้อยากแน่ ๆ”

“เออก็ได้กูจะไป แต่มึงต้องไปกับกู”มันว่า

“ไม่ใช่เรื่อง”

“แล้วมึงไม่กิน?”

“หึ ไม่กิน”

“ไม่กินแล้วมันสั่งเหี้ยไรเยอะแยะมันสั่งมาเผื่อมึงด้วยชัดๆ  ลุกเลยอย่าลีลา” มันไม่ว่าเปล่าจู่ๆกดปิดเครื่องผมเฉยเลย ผมนี่ลุกเลยสิครับบ้าฉิบหายข้อมูลกูเมื่อกี้ยังไม่ได้บันทึกเลยเหอะ

“ทำบ้าอะไรของมึง”

“ตื่นเต้นทำไมก็แค่หน้าจอ มึงบ้ารึเปล่าไหนว่าทำงานไอทีโดนกูปั่นหัวแค่นี้หน้าตาตื่นเลยเรอะ ขำว่ะ”

“มึงนี่มัน จริงๆเลยบ้าเอ๊ย” ผมทนไม่ไหวทั้งด่าทั้งจัดการปิดเครื่องเดินไปคว้าเอากุญแจรถแล้วโยนส่งให้มัน

“มึงขับ”

“อะไร ไหนว่าแค่ท้ายซอย” มันรับกุญแจรถมอไซด์ไว้แล้วถาม

“ท้ายซอยกูก็ขี้เกียจเดินร้อนเหี้ยๆ” ผมคว้าเอาหมวกแคปสีดำใบเก่งสวมเข้าที่หัวแล้วเดินกระแทกไหล่มันออกมา อิคุณชายเบะปากเดินตาม พอลงมาถึงรถมันทำตัวมีปัญหาขึ้นมาอีก

“ขับไม่เป็น” มันบอก ผมนี่ยืนกอดอกควบคุมระดับลมหายใจ ยุบหนอพองหนอ นี่ตกลงผมต้องเทคแคร์มันอีกใช่ไหม

“เออๆกูขับ” ผมบอกมันแบบเซ็งๆ คว้าเอากุญแจมาจากมือ ขึ้นคร่อมเคเอสอาร์คันเก่งที่เจ้าปิงมันไปถอยออกมาใช้ในบริษัท เบาะโคตรสั้นเหมาะกับการขับคนเดียวนะผมว่า

“อ้าว ขึ้นมาสิวะยืนรอเห้ไรอีก” ผมเรียกมันหลังจากสตาร์ทเรียบร้อย คุณชายยืนลังเลอะไรสักอย่าง เหมือนมันจะถอยหลังออกไปผมเลยคว้ามือมันดึงเข้ามาแล้วบอกให้ขึ้นคร่อมมาเลย

“เบาะแคบฉิบหาย” มันว่า

“ช่วยไม่ได้โทษแฟนมึงดิ ปิงกับไอ้บาสมันไปเลือกกันมาเอง”

“มึงก็ขยับไปดิวะ สั้นแบบนี้กูจะนั่งได้ยังไง ร้อนก็ร้อน เหี้ย” มันบ่นอุบดันหลังผมบอกให้ขยับ พร้อมใช้มือบังแดดที่ส่องใส่หน้า

“จะให้กูขยับไปไหนได้อีก แค่นี้ไข่กูก็ติดถังแล้ว มึงรีบหน่อยกูร้อนแดดเปรี้ยงกลางหัวเนี่ยร้อนเหมือนกันนะ”

“แล้วกูไม่ร้อนหรือไง มึงร้อนเป็นคนเดียว?” อะไรของมันวะไม่ยอมขึ้นมาจริง ๆ ยืนทำหน้ายุ่งอยู่ได้ หาเรื่อง

“แล้วจะเอาไง ไปไม่ไป”

“กูจะเอาหมวกแบบมึงอ่ะ” มันมองมาที่หมวกแคปของผม

“ไม่มี มีใบเดียว ขึ้นมาสักทีอย่าเรื่องมาก ร้อนนะเนี่ย” ผมโมโหแล้ว

“กูร้อนกว่า กูไม่มีหมวก” มันเถียง

“โฮ้ยยย เอาไปเลยไปมึงใส่ไว้เลย” ผมคว้าเอาหมวกตัวเองใส่ลงที่หัวมัน ดึงแขนบอกให้คร่อมขึ้นมาได้แล้วน่ารำคาญ ในที่สุดรถก็เลี้ยวออกจากออฟฟิศ ผู้ชายตัวโตๆสองคนนั่งซ้อนกันอยู่บนมอไซด์คันเล็กๆ เป็นภาพที่ไม่น่าดูเลยจริง ๆเบรกแต่ละทีแม่งอัดมาที่ตูดกูนี่แหละขนลุกไปหมด

“มึงจะเบรกเชี่ยไรนักหนา มานั่งในจุดกูบ้างแล้วจะรู้ว่าก้นมึงมันไม่น่าพิสมัยเลยสักนิด” มันพูดเรื่องเห้ไรของมัน

“ปากดีนัก ถ้ามันไม่จำเป็นกูจะเบรกให้โง่เหรอโดนมึงอัดมาแบบนี้มาอยู่จุดกูบ้างจะรู้ว่าน่ากลัวกว่ามึงเยอะ” ผมว่าผมได้ยินเสียงมันหัวเราะต่ำๆ พอหันหน้าไปดูเจอมันเบะปากให้แต่ผมไม่สนใจขับของผมต่อ ไม่กี่นาทีหลังจากนั้นรถก็จอดลงที่หน้าร้านขายอาหารอิสาน มันรีบกระโดดลงจากรถไม่ต้องถามว่าคนมองเพียบไหม เพียบบบบบบครับ เพราะว่ามันขาวมากผิวโคตรชมพูเลยทำให้ดูโดดและเด่นเกินไป คนแบบนี้ไม่น่าพาไปไหนมาไหนด้วยที่สุด น่าอายเพราะมันหล่อเกิน

“ไหนอ่ะรายการ” ผมยื่นมือไปขอรายการที่มันจดไว้ จะส่งให้ป้าคนขาย มันบอกลืมเอามาด้วยเหี้ยเลยสิ ผมส่ายหน้าเซ็งแล้วจัดการสั่งๆๆๆแล้วก็สั่ง ร้อนมากๆเหงื่อผมไหลลงตามเสื้อเป็นทาง แดดร้อนร้านก็แคบไม่มีที่บังแดดด้วย ผมมองไปที่มันหน้ามันแดงไปหมด เหงื่อไหลตกลงเป็นทางยิ่งเสื้อด้านหลังมันเปียกโชก อิคุณชายหยีตาด้วยความร้อนเพราะมันยืนอยู่กลางแดด ผมรำคาญเลยพยักหน้าบอกให้มันเดินมายืนใกล้ๆตรงนี้มันร่มกว่า แต่มันไม่สนใจยืนทนร้อนอยู่นั่นและผมจะสนเหรอรอคิวต่อไปจนมองไปอีกที อะไรวะอย่าบอกนะว่ามึงจะเป็นลม พวกลูกคนรวยแม่งถูกแดดแค่นี้จะตายเอาให้ได้เลยหรือไงวะ หน้ามันแดงกว่าเดิมอีกเป็นเท่าตัวผมรีบเดินไปดึงมันเข้ามายืนใกล้ ๆ กัน

“ดึงไรเล่า กูร้อน” มันบ่น

“แล้วมึงคิดว่ากูหนาวรึไงล่ะ บ้าเอ๊ย มายืนตรงนี้” ผมหันไปดุ ใช้มือพัดๆให้ตัวเองกับมันด้วย พอเป็นลมจาง ๆ เรารอกันจนกระทั่งได้อาหารครบทุกอย่างผมเอื้อมมือออกไปรับ กำลังจะจ่ายเงินเจอมันส่งใบห้าร้อยให้ก่อน เออดีผมคิด พอเราเดินกันมาที่รถผมยื่นอาหารทั้งหมดให้มันบอกให้มันถือจะขับรถ มันไหวไหล่แล้วเบะปากบอกไม่  ดึงเอากุญแจจากผมไปคร่อมที่นั่งคนขับสตาร์ทรอ

“ไหนว่าขับไม่เป็น” ผมยืนถามเซ่อไปเลย มันหันมามองขยับหมวกที่สวมอยู่ที่หัวแล้วยักคิ้วกวนประสาท

“โกหกมึงไง จะขึ้นไม่ขึ้น ช้าเดินกลับเองนะ” รถทำท่าจะออกตัวผมรีบกระโดดขึ้นคร่อมทันที บ้าเอ๊ย โดนแกล้งขับๆเบรกๆตลอดทางเกือบตกไปตั้งหลายครั้ง โมโหเอามือข้างที่ถือถุงอาหารกอดแม่งเข้าที่เอวมันนั่นแหละ ไก่ย่างร้อนๆคงลวกพุงมันแน่ ๆ มันร้องขึ้นมาดังลั่นโวยวาย

“เหี้ย!!  มึงจะฆ่ากูเหรอ มันร้อนนะ”

“กูก็ร้อนเหมือนกัน รีบขับรีบถึงเล่นอยู่ได้” ผมตะคอกใส่หูมันไม่ปราณี

“ไม่ต้องมาสั่ง เดี๋ยวกูวนใหม่อีกรอบเลย มึงคงพอใจใช่ไหม”

“มึงลองดิ กูจะโยนกับข้าวทิ้งตรงนี้เลย..” ไอ้สัส ผมต่อประโยคด่ามันแบบไม่มีเสียง

“มึงไม่กล้าหรอก”

“อย่ามาท้านะมึง”

ในที่สุดรถเลี้ยวเข้ามาจอด ผมรีบลงแล้วเดินไปไขประตูเข้าออฟฟิศ ร้อนแทบตายพอเข้ามาเจอแอร์เย็นเฉียบอิคุณชายนอนแผ่ลงที่โซฟาทันที มันปลดกระดุมเสื้อลงจนเกือบหมด ผมรีบเอาของไปกองไว้ที่โต๊ะอาหารด้านหลัง จากนั้นเดินออกมานั่งจะทำงานของผมต่อ

“อ้าว ทำไมมึงไม่ไปเทอ่ะ” มันลุกขึ้นมามีปัญหากับผมอีก

“เรื่องดิ เดี๋ยวปิงมาค่อยให้มันเท” ผมว่า

“ไม่ได้ มึงต้องเทไว้ให้เรียบร้อยก่อน เดี๋ยวปิงมามันจะได้กินเลย”

“อะไรของมึงวะ เรื่องมากชะมัด” ผมกระแทกปากกาลงที่โต๊ะแต่มันไม่สนใจลุกขึ้นเท้าสะเอวสั่ง

“ลุก”

เฮ้ออ ผมรำคาญลุกๆไปเทๆให้มันจบๆจะได้รีบมาทำงานต่อ หยิบจานหยิบอะไรมาเรียงๆ ๆ ขณะที่ผมกำลังเทอาหารใส่จานมันนั่งมองแล้วทำหน้าตายุ่ง ๆ คิ้วนี่ขมวดแทบจะผูกติดเป็นโบว์ มองหน้าผมสลับกับอาหาร

“อะไร” ผมถาม

“ทำไมไม่มีอาหารที่กูกินได้เลยวะ”

“....!!???!!....” ผมงงว่ามันพูดอะไร กับข้าวเต็มโต๊ะบอกว่าไม่มีของที่มันกินได้ สักพักมันลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบไข่ไก่ออกมาสามฟองยื่นส่งให้ผม

“มึงทอด”

“เรื่องดิ” ผมรีบถอย อะไรวะของกินเต็มโต๊ะบอกกินไม่ได้ให้ผมทอดไข่ อยากกินอะไรทอดเอง เชิญ

“กูทำไม่เป็น” มันว่าขึ้นมาอีกผมไม่สนใจหรอก เดี๋ยวเมียมันกลับมาให้จัดการกันเองเถอะผมทั้งร้อนทั้งเหนื่อยเรื่องอะไรต้องมานั่งเทคแคร์มันวะ แฟนกูรึก็ไม่ใช่

“กูทำเองก็ได้ เลอะเทอะมึงอย่ามาว่านะ” ผมหลับตาลงตั้งสติกับงานตรงหน้าผมจะดีกว่า ไม่อยากสนใจเสียงนกเสียงกาที่ดังมาจากในครัว มือผมจัดการรัวงานของผมต่อไปขณะที่เสียงเคร๊งครั๊งโช๊งเช๊งดังอยู่ตลอดเดี๋ยวกระทะตกบ้างเดี๋ยวตะหลิวหล่นบ้างเสียงตอกไข่นานประมาณสิบครั้งได้ไม่รู้ว่าจริง ๆ มันทอดกี่ฟองกันแน่

“โฮ้ยยยย” ผมร้องขึ้นดัง ๆ อย่างหงุดหงิด แล้วลุกเดินเข้าไปหาคว้าของทั้งหมดมาทำแทน

“หลีกไปเดี๋ยวกูทำเอง”

สุดท้ายผมก็เป็นคนทอดไข่ให้มันจนได้ คุณชายเดินไปล้างไม้ล้างมือ นั่งยิ้มจนหน้าบานตอนที่ไข่เจียววางลงบนโต๊ะ และตอนนั้นเองที่ปิงมันผลักบานประตูเข้ามาพร้อมกับไอ้บาส

“พี่เอย์ครับผมซื้อข้าวผัดกุ้งมาฝากด้วย เจ้านี้ที่พี่ชอบไง แลกกันกับอาหารที่พี่ไปสั่งให้ผมใช่ไหมนะ”

“ดีมากหมาปิง กูจะกินข้าวผัดกุ้งนี่แหละ อย่างอื่นกูไม่สนหรอก”  มันรีบเดินยิ้มเข้าไปหาเมียมัน  ขณะที่ผมยืนมองดูจานไข่เจียวที่ค้างอยู่ในครัว  ไว้อาลัยให้ไข่ของผมและตัวผมเองสักสองสามนาที กูโดนมันหลอกให้ทอดไข่ซะจนเปื่อยไม่มีชิ้นดีเล๊ยยยยย


บ้าฉิบ!






*****Special Complete*****