Tuesday, April 1, 2014

S.W.A.T - D (หน่วยสืบคดีโหด) *Yaoi * ตอนที่ 21


# 21  ฆาตกร / ปิดคดีคำให้การจากศพเกย์



เขาเกลียดผู้หญิง

ไม่เคยไว้ใจหรือชื่นชมต่อเพศหญิง ในความคิดของเขาร่างกายผู้หญิงมีค่าเฉพาะเพื่อใช้ระบายความใคร่ในรูปแบบที่เหล่าผู้ชายต้องการก็เท่านั้น

ตั้งแต่เด็กเขามักเป็นที่ระบายอารมณ์ของผู้หญิงที่เรียกตัวเองว่า แม่ไม่ว่าเขาจะทำอะไรจะหยิบจับสิ่งไหนก็ผิดอยู่เสมอ  แม่ไม่เคยให้กำลังใจ ไม่เคยปกป้อง ไม่เคยชื่นชมเขา แม้แต่ตอนที่เขาดีใจที่สุดเมื่อตอนสอบเข้าชั้น ม.1 ได้ แม่ก็ด่าว่าทุบตีเขาสารพัด

ไอ้เด็กเวร แกมันตัวซวยเกิดมาก็ทำให้กูตกอับเลิกกับผัวแล้วยังจะมาสอบได้ที่นั่นที่นี่ จะให้กูหาที่ไหนให้มึงเรียน ทำไมมึงไม่ตก ๆ ไปซะ ไอ้เด็กเปรต!!

เขามีปัญหาแต่เล็ก พ่อกับแม่หย่ากันตั้งแต่เขาอายุได้ 5 ขวบ ลือกันว่าแม่ของเขาใช้นาผืนน้อยของเธอทำมาหาเลี้ยงตัวเองและเขาจนเติบโต บ่อยครั้งที่เขาต้องทนได้ยินเสียงกระเส่าของเธอกับคนแปลกหน้าที่เธอพามาค้างขณะนั่งอ่านหนังสืออยู่ภายในห้อง เขาเคยโดนทำโทษให้ยืนอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องนานถึงสองวันสองคืนโดยไม่ให้นั่งไม่ให้นอนไม่ให้แม้กระทั่งน้ำสักหยดจากผู้ชายคนที่แม่พามาค้างด้วยนานกว่าทุกคน เมื่อเขาล้มลงไปก็จะถูกหิ้วขึ้นมาแล้วถูกโบยซ้ำแล้วซ้ำอีก จากไอ้คนโรคจิตที่มันชื่นชอบการทรมานเด็กเป็นชีวิตจิตใจ

เขาเคยโดนหนึ่งในบรรดาชายของแม่ใช้มีดขู่บังคับให้ใช้ปากทำรักให้มันจนสำเร็จ มิเช่นนั้นแล้วมันจะตัดจู๋เขาทิ้ง นั่นทำให้ประสบการณ์ในเรื่องเพศของเขายิ่งน่าตื่นกลัว 

สายเข็มขัดหนังเส้นโตฟาดลงที่ศีรษะเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากชายอีกคนที่แม่พามาค้างในอีกสัปดาห์ต่อมาเหตุผลเพียงเพราะเขาเดินผ่านแล้วบังหน้าจอโทรทัศน์ก็เท่านั้น 

แม่ไม่เคยต่อว่าผู้ชายเหล่านั้น  แม่ไม่เคยพาเขาไปหาหมอ

ไม่เคยมีคำพูดปลอบใจใด ๆ 

น้ำตาเขาเหือดแห้งไปเองเสมอ พร้อมกับรอยแผลเป็นในใจที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

มันผิดที่เขามักเรียนเก่ง เด็กฉลาดมักชอบถาม แต่ถามทีไรเขาโดนเธอตบปากจนเลือดกลบทุกครั้ง

แต่เขาก็ยังอยากจะถาม

เพราะนั่นหมายถึงเขาจะได้คุยกับแม่....

เป็นแบบนั้นตั้งแต่เล็กจนโต

ในที่สุดเขาสอบเรียนต่อได้ที่มหาวิทยาลัยเล็ก ๆ แห่งหนึ่งทางภาคตะวันออก ความฝันของเขาเป็นจริงเขาไม่ต้องทนอยู่กับหล่อนอีกต่อไปงั้นหรือ   หรือจริง ๆ แล้วเขาไม่อยากจากแม่ไปไหนเลยต่างหาก

ความคิดเขาเริ่มสับสน

ไม่มีความยี่หระอะไรที่แม่แสดงออกมาตอนที่รู้ว่าเขาต้องไปเรียนต่างถิ่น

แม่ลูกเหมือนดั่งคนแปลกหน้า

มึงจะไปไหนก็ไป ไปแล้วไม่ต้องมายุ่งกับกูอีก ภาระกูจะได้หมดเสียทีสวรรค์โปรดกูจริง ๆ รีบไปเร็ว ๆ เลยยิ่งดี

เสียใจงั้นหรือ ????

ไม่หรอก  เขาจะได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่สักที

จะไม่มีใครที่รู้ว่าเขาเคยเป็นยังไง 

ทุกอย่างจะใสสะอาด

ในที่สุดเขาได้ไปเป็นผู้ช่วยหยิบจับทำความสะอาดเครื่องมือแพทย์อยู่ที่คลินิกเล็ก ๆ ประจำจังหวัด อาศัยหัวดีครูพักลักจำจึงพอจะมีวิชาความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ติดตัวมาบ้าง

และเหมือนดั่งฟ้าเป็นใจ โสเภณีคนหนึ่งสอบถามเขาเกี่ยวกับเรื่องทำแท้งเถื่อนนอกสถานที่ 

นั่นทำให้เขาเห็นช่องทางทำมาหากินที่เป็นรายได้ก้อนโต

เขารู้สึกเป็นสุขใจทุกครั้งที่ได้กดกรีดมีดลงไปที่เนื้อหนังของคน  เวลาที่เขาใช้เครื่องมือล้วงคว้านเข้าไปภายในอวัยวะเพศ เขาจะเห็นสีหน้าเจ็บปวดทรมานของคนเหล่านั้น เขามีความสุขทางกามารมณ์เหลือหลายบางครั้งถึงกับต้านทานไว้ไม่อยู่หลั่งออกมาจนสุขสมเลยก็มี

ความรู้สึกรักร่วมเพศของเขาเริ่มฉายชัดภายในจิตใจ เมื่อเกิดภาพซ้อนระหว่างที่ทำแท้งเถื่อนให้กับพวกโสเภณีเหล่านั้น เขาเห็นเป็นใบหน้านายแบบชายที่เขาหลงรักกำลังออดอ้อนด้วยความเจ็บปวด 

เขาเริ่มมีจินตนาการเรื่องการตัดอวัยวะเพศ และเริ่มหลอกตัวเองว่านั่นเป็นผลจากการถูกคุกคามทางเพศจากเหล่าผู้ชายของแม่ตั้งแต่เด็ก  เขารู้ว่าตัวเขาเริ่มมีพฤติกรรมแปลกแยก เข้ากับคนอื่นไม่ได้ แต่เขาก็เรียนรู้ได้ว่าเมื่ออยู่ร่วมกับคนอื่นๆบุคลิกภายนอกต้องดูดีเสมอ เขาพยายามเป็นอย่างมากเพื่อให้เหมือนคนปกติธรรมดาในสังคม แต่พอกลับมาถึงห้องเขาแทบขาดใจ

ระหว่างนั้นเขาไปพบจิตแพทย์สองสามครั้ง แต่หมอก็ชอบถามซอกแซกอยากรู้โน่นนี่  เขาเลยหยุดไปเสียดื้อ ๆ  

จู่ ๆ ก็มีความคิดจะลาออกจากมหาวิทยาลัย ในขณะที่งานหมอเถื่อนกระเป๋าหิ้วเริ่มมีลูกค้ามากขึ้นเป็นลำดับ 

โสเภณีพัทยากินเท่าไหร่ก็ไม่หมด แหล่งขุมเงินขุมทองของเขา

ตราบใดที่เขาไม่พลาด

รายได้เริ่มเป็นกอบเป็นกำ เขาย้ายตัวเองมาเช่าบ้านเล็ก ๆ อยู่ที่พัทยาเพื่อทำงานเต็มตัว ดาวน์รถมือสองสักคันมาไว้ขับเพื่อความสะดวกสะบาย 

เขาตัดสินใจสมัครเป็นบาร์เทนเดอร์ที่บาร์แห่งหนึ่ง

แน่นอน....นั่นคือฉากหน้า 

กลางวันทำงานหมอเถื่อนทำแท้ง กลางคืนเป็นนักชงเหล้าชั้นยอด  

เมื่อเหนื่อยก็อยากพักผ่อน  

วันนั้นเป็นวันหยุดยาว ซื้อหานักเต้นชายคนหนึ่งกะจะไปเอาที่โรงแรมแถวชานเมือง ด้วยความปรารถนาเหลือหลายมิอาจห้ามตัวเองได้ พวกเขาจอดรถแวะข้างทาง 

จู่ ๆ มันถามถึงแม่เขา บอกเขาใจดีท่าทางคงเป็นคนรักแม่มาก 

มันบอกแม่เขาคงเลี้ยงเขามาอย่างดี เขาถึงอ่อนโยนกับมันขนาดนี้

มือหนาลูบที่ต่างหูเพชรข้างเดียวของมัน 

มันใส่เสื้อกล้ามรัดรูปสีขาว

หน้าตาบวกคำพูดฉอเลาะ น้ำเสียงออดอ้อนพาลให้นึกไปถึงเสียงของแม่กับชายแปลกหน้าคนแล้วคนเล่ายามที่เขาได้ยินเมื่อยังเล็ก

ยังไม่ทันได้ร่วมรัก ยังไม่ทันได้ทำอะไร

เขาก็เผลอใช้เนคไทด์เส้นเรียวรัดคอมัน แถมยังจับหัวมันโขกคอนโซนหน้ารถจนหมดสติไปตอนไหนก็ไม่รู้

แต่มันยังไม่ตายสักหน่อย ยังหายใจอยู่ แม้จะเบามากไปหน่อยก็เถอะ

เขาเริ่มพิจารณาร่างกายของมันช้า ๆ   มันเป็นผู้ชาย   มีอวัยวะเพศนูนเด่นชัด 

ไม่ได้

เดี๋ยวแม่จะรู้เรื่องรสนิยมของเขา  มันไม่ถูกต้อง

เขาจะตัดเฉือนอวัยวะส่วนนี้ของมันทิ้ง....ถ้ามันหายไป มันก็กลายเป็นผู้หญิงแล้ว

ผู้หญิงร่าน ๆ สมควรโดนลงโทษ 

จะทำยังไง....คิด ๆ ๆ

มีกระเป๋าเครื่องมือสำหรับทำแท้งอยู่หลังรถ

มีมีด มีไซริงค์  มี....

ไวอากร้า....ฉีดให้มันตั้งขึ้น...จะได้เฉือนออกง่าย ๆ แล้วยังทำให้มันแสดงสีหน้ามีความสุขพร้อมความเจ็บปวดให้เขาได้เห็น

หน้าตาแบบผู้หญิงแสดงความเจ็บปวด เขาเกลียดผู้หญิง โดยเฉพาะพวกร่าน ๆ ต้องโดนลงโทษแบบนี้

แต่เขาทำกับผู้หญิงจริง ๆ ไม่ได้ เดี๋ยวแม่รู้ แม่ก็เป็นผู้หญิง

เอาถุงเท้ายัดปากมันไว้ก่อน เนคไทด์เส้นนั้นก็มัดมือมันไว้

แยกขามันออกแล้วค่อย ๆ กดปลายเข็มลงไปที่โคนขา เล็งที่หลอดเลือดดำจะได้ออกฤทธิ์เร็ว ๆ 

สำเร็จ 

ดวงตามันเบิกโพลง มันตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

หึหึ

อวัยวะเพศมันค่อย ๆ ตั้งชันขึ้นจากฤทธิ์ของยา  ท่าทางมันจะเจ็บปวดมาก

เขายกมีดขึ้น บางเฉียบ คมกริบ

มันร้องไม่ออก มันยิ่งดิ้น สีหน้าหวาดกลัวแบบนั้นคือสิ่งที่ทำให้หัวใจเขาพองโต

มือหนาปลดเข็มขัดตัวเองออกพร้อมกำรูดอวัยวะเพศของตนอย่างสุขใจ

น้ำตามันไหลแล้วไหลอีก ขณะที่จุดสุดยอดของเขากำลังจะมาถึงในไม่ช้า

เขาจับหัวมันโขกแรง ๆสองสามครั้ง เพื่อสนองตัณหาขั้นสุดยอดของตัวเองเมื่อทุกอย่างพุ่งปรี๊ดสู่จุดสูงสุด

มันหมดสติไป  คราวนี้ไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย

มีดบางเฉียบถูกปาดลงไปดั่งใจที่เขาต้องการ

เห็นไหม???  คน ๆ นี้เป็นผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายสักหน่อย 

นี่คือการลงโทษสำหรับพวกร่าน ยั่ว แรด 

มันตายแล้ว เลือดเต็มรถ

ไม่เป็นไร เดี๋ยวเช็ดถูหน่อยก็ออก

โยนศพทิ้งไว้แถวนี้ก็แล้วกัน

โสเภณีชาย นักเต้นชั้นต่ำ จะมีใครถามหา

ไม่มีแม้กระทั่งข่าว  ที่บาร์นั่นก็ยังเปิดกิจการต่อไป ทุกอย่างเงียบเชียบ

ตัวเขาเริ่มติดใจ

การฆ่าเป็นอะไรที่สนุกสนาน  มันยอดมาก 

ทุกครั้งที่มีอารมณ์ทางเพศรุนแรง ตอนกลางคืนเขาก็หิ้วไปเงียบ ๆ แล้วทุกอย่างก็หายไปในเช้ามืดของวันใหม่ 

บางรายก็เอาใส่ถุงขยะดำมัดปาก บางรายก็โยนทิ้งไว้ข้างทางเสียดื้อ ๆ  เป็นแบบนี้มาสาม สี่ ครั้ง

จนกระทั่ง หนึ่งเด็กคนนั้น

ไอ้เด็กบ้า! ชอบมาคุยกับเขา ทำตัวสนิทสนม มาทำใจเขาหวั่นไหว เกือบลืมเป้าหมายสำคัญไปซะแล้ว

การฆ่าในวันนั้นจึงไม่สมบูรณ์แบบ เขาใจเสาะเองไม่กล้าพอที่จะกดมีดลงไปบนร่างกายที่งดงามนั่น หนึ่งทำให้เขาเกิดอยากร่วมเพศขึ้นมาจริง ๆ จัง ๆ ทั้งที่เหยื่อรายก่อน ๆ เขาแค่สำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเท่านั้น  

ต้องฆ่ามันก่อนที่ตัวเขาจะแปลกมากไปกว่านี้

ในที่สุดมันก็ตาย

หึหึ  เสียใจนิดหน่อยถึงขนาดต้องมายืนแอบดูตอนที่เจ้าหน้าที่มาเก็บศพเพียงเพราะอยากเห็นเด็กนั่นเป็นครั้งสุดท้าย

ในที่สุดร่างที่ถูกห่อด้วยผ้าสีขาวก็ถูกหามใส่เปลออกมาจากทางเดินแคบ ๆ ของตึกนั่น 

จู่ ๆ รู้สึกเจ็บปวดที่หัวใจ    แต่ช่างมัน!!

เขาจะไม่คิดอะไรมากหรอก กะอีแค่เด็กร่าน ๆ คนหนึ่ง มันสมควรตายแล้ว

เหยื่อรายใหม่ที่เขาจะได้ จะต้องไม่สร้างความผูกพันเด็ดขาด มิเช่นนั้นแล้วเดี๋ยวใจเขาจะเจ็บปวดแบบหาสาเหตุไม่ได้อีก

และในที่สุดการฆ่า ก็เริ่มต้นอีกครั้ง

เด็กใหม่ จากบาร์เดิม

โดนเขาหิ้วกลับไปแบบเงียบ ๆ อีกแล้ว

แต่ครั้งนี้.....

ทุกอย่าง....จบสิ้น

.

.

รายงานข่าวด่วน    นายวรเดช รายากร หรือ เม่น ฆาตกรต่อเนื่องคดีฆาตกรรมนักเต้นชายบาร์เกย์ที่ถูกจับกุมตัวได้เมื่อเช้าวานนี้ได้พยายามทำการฆ่าตัวตายขณะอยู่ในห้องฝากขังของสถานีตำรวจประจำเมืองฯ โดยใบมีดโกนเล็ก ๆ ที่ถูกซุกซ่อนไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ ยังโชคดีที่เจ้าหน้าที่ประจำสถานีพบเห็นก่อนแล้วช่วยเหลือไว้ได้ จากการสอบสวนพบว่าคนร้ายเคยมีประวัติพบจิตแพทย์ในระหว่างศึกษาอยู่ระดับมหาวิทยาลัย แม้ว่า.........
 

คริสตินนั่งตาลอยรับฟังรายงานข่าวช่วงเย็นอยู่ที่โซฟาตัวยาว

ไม่ว่าข้อแก้ตัวของคุณจะคืออะไร ไม่ว่าประวัติปูมหลังของคุณจะน้ำเน่าแค่ไหน   แต่คนผิดก็คือผิด คนผิดต้องถูกลงโทษและดำเนินคดีตามกฎหมาย จะหนักจะเบาขึ้นอยู่กับโทษที่คุณทำ

กลิ่นอาหารโชยมาแตะจมูกเขาหน่อย ๆ  ชายหนุ่มเริ่มลูบท้องแล้วเหลือบมองไปที่ห้องครัวเป็นพัก ๆ ปลาหมึกผัดไข่เค็มแน่เลย

นาฬิกาข้อมือบอกเวลา  18.30 น.

เสียงเครื่องยนต์ดับลงที่หน้าบ้าน เคนยะในชุดผ้ากันเปื้อนลายหัวกะโหลกถือตะหลิวเดินจ้ำอ้าวออกมาจากห้องครัวพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้มและน้ำเสียงหวาน ๆ 

มากันแล้วมั้ง คริสออกไปเปิดประตูหน่อย 

วันนี้ไม่รู้พี่เคนนึกครึ้มอกครึ้มใจอะไรบอกจะฉลองปิดคดีให้เขากับซาโต้ ทั้งยังจะเลี้ยงขอบคุณเจ้าสารวัตรเดฟนั่นอีก ถึงขนาดไปดักรอรับเขาที่ห้องทำงานตั้งแต่บ่ายสี่เพื่อชวนไปซื้อของสดกลับมาทำอาหารด้วยกัน

แล้วนี่อะไร!!  ทั้งสามคนมารถคันเดียวกันหมดเลย ไอ้พี่ฟ็อกซ์เป็นสารถีเองซะด้วย

คริสตินกำลังยืนจ้องแขกผู้มาเยือน ขณะมือก็ไขกุญแจรั้วไม้เตี้ย ๆ ไปด้วย วันนี้อากาศเย็นขึ้นกว่าเมื่อวานมาก สายลมโชยกระทบใบหน้าขาวจนแก้มเริ่มแดง 

น่าโมโห รบกวนความสุขของเขากับพี่ โดยเฉพาะไอ้เจ้าคนด้านหลังสุด มันแยกตัวไปยืนดูดบุหรี่อยู่ที่ริมฟุตบาทใกล้ ๆ ตู้ไปรษณีย์หน้าบ้าน ทำตัวแปลกแยกชอบกล

เร็วหน่อย กูจะเข้าไปหาเคน 

ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าประโยคนี้ใครเป็นคนพูด ขณะที่ซาโต้ยืนหัวเราะขำกับคำพูดและท่าทางเอาแต่ใจของฟ็อกซ์อยู่ข้าง ๆ วันนี้เขาไม่ได้สวมแว่นจึงมองเห็นดวงตาสีสวยได้ชัดเจนมาก
 
หนีกลับก่อน ขี้โกงนี่ครับพอเข้ามาได้ซาโต้ก็คล้องเขาคอขาว ๆ ของคู่หูเข้ามาหนีบไว้ทันที หนาวเหรอ

เปล่า  พี่เคนไปรับออกมาน่ะ รีบ ๆ เลยไม่ได้โทรบอกฟ็อกซ์เดินเข้าบ้านไปแล้ว คริสเอี้ยวคอไปมองที่หน้าบ้านอีกครั้ง เดฟสูบบุหรี่เสร็จพอดี เขาไม่ยอมเดินเข้าทางประตูแต่กระโดดข้ามรั้วเตี้ยเดินตัดสนามหญ้าตามเข้ามาเงียบ ๆ 

สายตาสบเข้ากับคริสแว้บหนึ่ง 

มุมปากยิ้มเยาะฉายขึ้นมาจากใบหน้าคมนั่น

รอยยิ้มเดียวกับที่เคยยิ้มให้เขาเมื่อวันนั้น ที่หน้าสถานี

มันตั้งใจยิ้มยั่วโมโหกันชัด ๆ!! 

ไอ้สารวัตรบ้า!!  เขาไปทำอะไรให้มัน

เรื่องราวบนโต๊ะกินข้าวไม่พ้นคดีฆาตกรรมที่เขากับซาโต้เพิ่งจะเคลียร์จบไปเมื่อวาน เคนยะขอบคุณเดฟเป็นครั้งที่สิบแล้วมั้งเท่าที่เขาจำได้   หลังอาหารค่ำจบลงทุกคนช่วยกันเคลียร์โต๊ะอาหาร ฟ็อกซ์ไล่ตะเพิด คริส ซาโต้และเดฟออกมาจากห้องครัว บอกตัวเองจะช่วยเคนล้างจานไม่ให้คนอื่นเข้าไปกวน คำสั่งเด็ดขาดของหัวหน้ามีหรือพวกเขาจะกล้าขัด สามหนุ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ก่อนจะแยกไปนั่งดูโทรทัศน์กันแบบเงียบ ๆ 

ซาโต้และเดฟไม่รู้คุยอะไรกันท่าทางถูกคอจนคริสที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เริ่มเซ็งเพราะหาที่แทรกคุยด้วยไม่ได้  เรื่องราวที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนของซาโต้ถูกเจ้าเดฟเอามาพูดเรื่องแล้วเรื่องเล่า ทั้งหัวเราะกันสนุกสนาน ใบหน้าน่ารักของคริสเริ่มงอนง้ำเมื่อเดฟหันมาปรายตามองที่เขาแบบเย้ย ๆ ประมาณว่า กูรู้เรื่องของซาโต้มากกว่า อะไรประมาณนี้ เกิดสงครามทางจิตวิทยาเล็ก ๆ  ระหว่างคนทั้งคู่ โดยที่คนกลางอย่างซาโต้ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไรด้วยเลยแต่กลับเป็นตัวแปรสำคัญ

อะไรซาโต้หันมาถามคริส เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำหน้าตาพิลึกพิลั่น เดี๋ยวก็เหล่ตา เดี๋ยวก็ขมวดคิ้ว เดี๋ยวก็เลิกคิ้ว สักพักก็หรี่ตาเม้มปากแล้วยังมีรอยยิ้มพิลึกโผล่ขึ้นมาเป็นบางครั้ง   คริสตินได้แต่ส่ายหน้าไม่รู้ไม่ชี้   สักพักเสียงข้อความเข้าของเดฟก็ดังขึ้น ชายหนุ่มจึงล้วงโทรศัพท์ที่หน้าจอร้าวไปบางส่วนขึ้นมากดดู   เขาลุกเดินไปที่ห้องครัวบอกลาเคนยะกับฟ็อกซ์เบา ๆ แล้วเดินมาตบลงที่ไหล่ซาโต้เบา ๆ เป็นการให้สัญญาณบอกลาก่อนจะเดินเลี่ยงออกไป

เคนยะจึงบอกให้คริสเดินออกไปส่งชายหนุ่มที่หน้าบ้าน 

คริสตินยังงงอยู่ว่าอีกฝ่ายจะกลับยังไง เพราะขามานั้นเดฟมาด้วยรถของฟ็อกซ์    เขาเดินตามแผ่นหลังกว้างนั้นออกไปแล้วนั่งลงที่ชิงช้าใกล้ ๆ กับรั้ว ขณะที่สารวัตรหนุ่มเดินออกไปรอใครบางคนอยู่ที่รั้วหน้าบ้าน บุหรี่ถูกจุดขึ้นมาอีกครั้ง

อากาศด้านนอกเริ่มเย็นขึ้นมาก คริสตินเพ่งมองใบหน้าคมเข้มภายใต้แสงไฟสีส้มของโคมถนนยามค่ำคืน หน้าตาก็หล่อดีอยู่หรอก แต่ชอบทำหน้าซีเรียสกับเขาอยู่เรื่อย ’  ควันขาว ๆ ถูกพ่นออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

แล้วเขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงเดินเข้าไปหาเดฟใกล้ ๆ  “เอามาสิ”  คริสแบมือยื่นออกไป

อะไรเดฟหรี่ตา

โทรศัพท์นายน่ะ มันแตกอยู่ไม่ใช่รึไง เดี๋ยวผมจะรับผิดชอบเองจะเอาใหม่หรือจะให้ผมเอาไปซ่อมให้ล่ะ

สายลมเย็นกรรโชกเข้ามาอีกครั้ง คริสกระชับปกเสื้อให้แน่นขึ้นขณะที่เขาสังเกตได้ว่าเดฟเองใส่แต่เสื้อเชิ้ตสีดำตัวบางเท่านั้น ควันบุหรี่สีขาวถูกพ่นออกไปอีกด้านหนึ่งโดยที่คนสูบหาได้ใส่ใจกับคำถามของคนตรงหน้าเลยสักนิด

แล้วนายจะเอายังไง จะมาทำท่าไม่ชอบหน้ากันแบบนี้อยู่ตลอดไม่ได้หรอกนะ ยังไงซะเราก็อยู่หน่วยเดียวกัน บางทีอาจจะต้องได้ร่วมงานกันก็ได้”  ความอดทนของคริสตินเริ่มจะหมด ใครจะรู้ว่าเขาต้องใช้พลังงานมากมายแค่ไหนในการพูดกับเจ้านี่แต่ละครั้ง

เดฟทิ้งบุหรี่ลง  พร้อมใช้เท้าบี้มันจนแบน สายตามองไปที่ต้นซอย ฮอนด้าแจสสีขาวกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ 

ไม่จำเป็น

ก็แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ โว๊ะ! ถามอะไรก็ไม่ตอบ ผมผิดอะไรมากนักหนารึไงถึงได้ทำท่าไม่ชอบหน้าผมซะขนาดนั้น  

เมื่อรถคันเล็กจอดลงกระจกฟิมล์ดำถูกลดให้ต่ำจนมองเห็นหนุ่มหล่อหน้าตาน่ารักยื่นหน้าออกมายิ้มโชว์เขี้ยวพร้อมโบกมือให้เดฟเบา ๆ   

อยู่เฉย ๆ ไปเหอะ”   

สั้น ๆ ง่าย ๆ ก่อนเดินไปที่รถคันเล็กนั่น ใบหน้าคมโน้มลงไปแตะที่ริมฝีปากนุ่มของคนในรถพร้อมรอยยิ้มอ่อนโยนที่คริสตินไม่เคยเห็นมาก่อน   เดฟปรายสายตากลับมาพร้อมส่งรอยยิ้มชั่วร้ายมาให้อีกครั้ง ก่อนเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อขึ้นรถ

คริสได้แต่ยืนอึ้ง ! 

มันจะมองมาเพื่อ ??   ว่ากันตามเหตุผลแล้วสาเหตุที่ทำให้เจ้านี่มันไม่ชอบหน้าเขาน่าจะมาจากเรื่องโทรศัพท์มือถือแน่ ๆ  แต่ดู ๆ ไปแล้วมันชอบทำหน้ายั่วโมโหเขาซะเหลือเกิน ไม่เคยพูดดีด้วยหรือยิ้มให้อย่างจริงใจเลยสักครั้ง แถมเวลาคุยเฮฮากับซาโต้ก็ชอบพูดเหน็บเขาตลอดแล้วยังหันมามองเขาเป็นระยะ ๆ คล้าย ๆ จะคอยสังเกตพฤติกรรม ยิ่งเขาทำหน้าโกรธมันยิ่งยิ้ม

โห....ไอ้สองมาตรฐาน!! 

ชายหนุ่มหรี่ตาเม้มริมฝีปากแน่น มองตามรถยนต์สีขาวนั้นไป เนื่องจากยังคุยกันไม่จบ ไม่เคลียร์อีกฝ่ายก็ชิ่งหนีไปเสียดื้อ ๆ แล้วที่สำคัญเขาก็ไม่เคยรู้มาก่อนด้วยว่าเดฟจะมีรสนิยมอะไรแบบนั้น ประเจิดประเจ้อไม่มีอายเขาสักนิด 

คิด ๆ ไปก็นำให้นึกถึงตอนที่จูบกับผู้ชายครั้งแรก  จูบเหรอ?   ใช่แล้วเขาเคยจูบกับเจ้าซาโต้!  

แปลกใจเหรอครับ หน้าแดงหมดแล้วนั่นน่ะจู่ ๆ คนที่เขากำลังนึกถึงก็มายืนอยู่ต่อหน้า  คริสตกใจนิดหน่อยเขาจึงใช้สองมือลูบแก้มร้อนผ่าวของตัวเองเบา ๆ เรียกสติจากความคิดฟุ้งซ่านทั้งหลายของเขา

หนาวบอกไปแก้เขิน

เข้าไปข้างในเถอะ อากาศเย็นซาโต้พยักหน้าให้พร้อมคว้าเอามืออีกฝ่ายมากุมไว้แบบเนียน ๆ 

ซาโต้ปล่อยเลย กูไม่ใช่เด็ก ๆ นะไม่ต้องมาจูงหรอกคริสตินชักมือกลับเบา ๆ พร้อมเดินนำอีกฝ่ายขึ้นไป

ไม่เห็นเป็นไรเลย   เห็นไหมเมื่อกี้เจ้าเดฟยังจูบกับเด็กมันอยู่หน้าบ้าน ไม่เห็นมันอายสักนิด เรื่องธรรมดาจะตายไปเขาคว้าเอามือนุ่ม ๆ ของคริสมาจับไว้อีกครั้ง 

แล้วมันเหมือนกันซะที่ไหนเล่า นั่นมันสถานะแฟน แต่มึงกับกูอ่ะ......


เงียบ


เงียบกันไปทั้งคู่

“......พะ....เพื่อนกัน”  คริสตินส่งเสียงเบา ๆ ออกมาทำลายความเงียบ พร้อมกับเลี่ยงสายตาคมที่กำลังจ้องเขาแบบจะกินเลือดกินเนื้ออยู่ในตอนนี้

หืมม~

ซาโต้ปล่อยมือคริสตินออกอย่างว่าง่าย ถ้าหากคริสจะมองมาที่ดวงตาเขาตอนนี้ อะไร ๆ อาจจะชัดเจนขึ้นมาบ้างก็ได้

แต่คริสก็เลี่ยงที่จะสบ

ชายหนุ่มถอนใจยาวก่อนจะตัดสินใจเดินอ้อมไปข้างหลังคู่หูแล้วใช้แขนล็อคคอเอาไว้จนแน่น

พูดใหม่เสียงโกรธ ๆ กระซิบลงที่ข้างหู

ซ....ซาโต้กูเจ็บนะเว้ยมึงทำไรเนี่ย!คริสตินเริ่มดิ้น

พูดใหม่สิครับ

ซาโต้!!

พูด! ไม่งั้นผมไม่ปล่อย”  

ก็แล้วจะให้กูพูดว่าอะไรล่ะ ก็มึงกับกูเป็นเพื่อนกันจริง ๆ นี่

ก็แล้วถ้าไม่อยากเป็นแค่เพื่อนผมจะต้องทำยังไงล่ะครับซาโต้สวนมาขึ้นทันที เขาเองก็ตกใจที่คำพูดนี้หลุดออกมาจากปาก 

คริสพยายามจะหันหน้าไปมองน้ำเสียงจริงจังของอีกฝ่ายว่าพูดจริงหรือพูดเล่นแค่ไหน แต่ก็ติดที่ท่อนแขนนั่นยังล็อคเขาไว้จนขยับเขยื้อนคอไม่ได้เลย

เล่นแรงไปหน่อยนะซาโต้   จู่ ๆ น้ำเสียงหวานคุ้นหูดังขึ้นที่ประตูทางเข้า เคนยะยืนกอดอกอวดอมยิ้มหวานเชื่อม โดยมีฟ็อกซ์ยืนพิงประตูอยู่ด้านหลัง 

เล่นเอาซาโต้ใจหายว้าบ! 

เขาคนเดียวสู้สองคนนี้ไม่ได้แน่ ท่อนแขนแกร่งจึงรีบปล่อยออกจากลำคอขาวทันที พร้อม ๆ กับมือเรียวยาวของคริสโบกลงที่หัวคู่หูตัวเองอย่างเร็วทันทีที่เป็นอิสระ ซาโต้จึงได้แต่หันมองคนโบกตาเขียวปั้ด! 

ในใจคิดคำนวณการเอาคืนอย่างรวดเร็ว ทำยังไงคืนนี้จะได้นอนค้างที่นี่??’  ตั้งแต่จบภารกิจไป ก่อนนอนเขาก็ไม่มีใครให้คอยแกล้ง

ไม่มีคริสให้นอนกอดเหมือนทุกครั้ง

นอนคนเดียวไม่ไหวเลยจริง ๆ 


Tbc.