Monday, March 31, 2014

S.W.A.T - D (หน่วยสืบคดีโหด) *Yaoi * ตอนที่ 20


# 20   



เช้ามืด


เด็กหนุ่มนอนเบิกตาโพลงอยู่บนเตียง


ผ้าปูที่นอนสีฟ้าขาวเปราะไปด้วยเลือดสีแดงสดที่ทยอยไหลออมาจากบางส่วนบางท่อนของอวัยวะ  แม้ดวงตาจะเปิดโพลงอยู่ แต่ประสาทสัมผัสทางการมองเห็นค่อย ๆ ลดต่ำลงจนน่าใจหาย  เนื้อตัวที่สั่นเทากับสติสัมปชัญญะที่กำลังจะหลุดหาย ในที่สุดทุกสิ่งทุกอย่างดำมืด ประสาทสัมผัสทั้ง 5 กำลังจะหยุดทำงาน  ของเหลวในกระเพาะเริ่มไหลย้อนขึ้นสู่หลอดลมปิดกั้นทางเดินหายใจ  เนื้อตัวที่สั่นเทาเริ่มชักกระตุก  ปากอ้ากว้างจากการสำลักของเหลวดำขลักจากภายใน เล็บทั้งสิบจิกเกร็งแน่น ดวงตาไร้แล้วซึ่งจุดโฟกัส 


ขณะที่อีกคนกำลังยืนหรี่ตามอง


เขาแสยะยิ้มอย่างพึงพอใจกับผลงานของตนเอง วันนี้ทุกสิ่งทุกอย่างเขาควบคุมได้และทำมันออกมาจนเกือบจะดี 


มือหนาที่สวมใส่ถุงมือยางเลอะเทอะไปด้วยเลือด เขากำด้ามใบมีดโกนสีเขียวไว้แน่น


เหลือแค่เก็บรายละเอียดอีกนิดหน่อย


ก็จะเรียกได้ว่าเป็นผลงานไร้ที่ติ สมบูรณ์แบบ....วันนี้ไม่เหมือนวันนั้น  คนที่กำลังจะหมดลมคนนี้มันสมควรแล้วที่จะต้องได้รับบทลงโทษแบบนี้


มันแรด  มันร่าน  มันยั่ว  ฉะนั้นมันต้องตาย!


....การฆาตกรรมมันต้องสนุกสนาน.... 


วันนั้น หนึ่งเด็กที่ทำให้เขาเกือบจะเผลอใจ  ไอ้เด็กเวร! เกือบทำให้เขาสูญเสียเป้าหมายสำคัญไป เกือบทำให้เขาละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเพียรทำมาตลอด  ผลงานในวันนั้นสำหรับไอ้เด็กนั่นมันเลยไม่สมบูรณ์แบบ ผลงานห่วยแตก


.....เด็กนั่นตายแบบหยาบ ๆ เกินไป....


เขาจะไม่ใจอ่อนแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว


ขณะที่ขายาว ๆ กำลังจะก้าวเข้าไปใกล้เพื่อชมผลงานศิลปะฆาตกรรมของเขาในอีกมุม เขาก็รู้สึกได้ว่ามีโลหะเย็น ๆ จ่อชิดอยู่ที่ท้ายทอยหนาของตัวเอง


มึงหยุดอยู่ตรงนั้นแหละ!!


เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้รอยยิ้มแสยะและขาของเขาหยุดชะงัก  


ผั๊วะ!!!


ไม่ต้องรออะไรทั้งสิ้น ด้ามกระบอกปืนสีเงินวาวฟาดลงที่ท้ายทอยเข้าอย่างจัง ทำเอาคนที่กำลังยืนดูผลงานของตัวเองอย่างภาคภูมิใจถึงกับเข่าอ่อน มีดโกนด้ามเล็กร่วงหล่นลงที่พื้นพร้อม ๆ กับตัวเขาที่ทรุดกองลงในพริบตา มือหนาถูกจับไพล่กันด้านหลังพร้อมกุญแจมือกดสับล็อคลงอย่างหยาบคาย


.

.


เสียงหวอรถร่วมกตัญญู เสียงวิทยุรับส่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เสียงคนเซ็งแซ่ดังระงมไปทั่วบริเวณบ้านเช่าเล็ก ๆ ในซอยใกล้กับสถานีขนส่งประจำเมืองพัทยา เจ้าหน้าที่ตำรวจดันตัวผู้ต้องหาเดินสวนออกมาพร้อมเสื้อเจ็คเก็ตสีครีมคลุมศีรษะปิดบังใบหน้าไว้ ตำรวจในเครื่องแบบหลายนายพยายามกันบรรดาคนมุงที่เริ่มตะโกนโหวกเหวกด่าทอบ้างก็ปาข้าวของต่าง ๆ เข้าใส่ผู้ต้องหากันจ้าละหวั่น


แถบเทปสีเหลืองถูกขึงพรืดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับทีมเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยต่างกรูกันเข้ามาเพื่อทำหน้าที่สารพัดสารเพของตนเอง 


ส่งศพไปที่นิติเวชของหน่วยผมเลย  เดี๋ยวผมไปรอที่สถานีฯ จะได้ส่งมอบคดีให้เรียบร้อย”  


เสียงจากนายตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบ ผู้ที่มองยังไง้ยังไงก็เหมือนกับเด็กวัยรุ่นลากมีดถือดาบแถวถนนกาญจนาตอนกลางคืนไม่มีผิดเพี้ยน เมื่อสักครู่เขาถอดแจ็คเก็ตของตัวเองโยนคลุมลงไปที่ศีรษะของผู้ต้องหาทำให้ตอนนี้ท่อนบนของเขาคงเหลือไว้แต่เสื้อแขนกุดสีดำลายไม้กางเขนโชว์กล้ามเนื้อแขนที่สวยงาม นั่นยิ่งทำให้ลุคเขาเหมือนแบดบอยเข้าไปใหญ่ หลังสั่งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำท้องที่คนหนึ่งเรียบร้อยชายหนุ่มก็เดินเลี่ยงออกมาจากห้องเกิดเหตุ


สภาพภายในตัวบ้านไม่มีใด ๆ ที่ผิดปกติ ตอนที่เขาแกะรอยตามมาถึงบ้านหลังนี้ น่าเสียดายที่ทุกอย่างนั้นสายเกินไป 


ย่อมเป็นความจริงที่ว่านั่นไม่ใช่ความผิดของเขา...แต่ใครจะรู้ลึก ๆ แล้วเขารู้สึกเสียใจอยู่ไม่น้อย


....ถ้าเขามาเร็วกว่านี้....


ดวงตาคมกริบมองเห็นจ่าสุรชัยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานประจำหน่วยวิ่งหน้าตั้งหอบแฟ้มบันทึกข้อมูลตรงดิ่งเข้ามา ช้าไปนะสุรชัยเขาท้วงขึ้นแล้วปรายตามอง


ขอโทษครับสารวัตรเดฟ 


สุรชัยรีบหยุดค้อมศีรษะทำความเคารพ พร้อมรับถุงมือและผ้าคาดปากจากเจ้าหน้าที่มาสวมไว้อย่างรวดเร็ว ตรงข้ามกับสารวัตรหนุ่มที่กำลังถอดถุงมือยางทิ้ง เขากำลังจะออกจากสถานที่แห่งนี้แล้ว


สองคนที่รับผิดชอบคดีนี้ล่ะ? เขาถามหาหน่วย D


รีบไปที่สถานีแล้วครับ พอสารวัตรแจ้งไป ภารกิจทุกอย่างก็ถูกยกเลิก ซาโต้พาหมวดคริสไปรออยู่ที่นั่นแล้ว
สุรชัยชี้แจงอย่างเก้อเขิน เมื่อภารกิจที่วางกันไว้ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาคว้าน้ำเหลวไม่เป็นท่าเป้าหมายที่คาดว่าจะใช่ กลับกลายเป็นไอ้หมอหื่นธรรมดา ๆ ไม่มีพิษมีภัยถึงขนาดจะทำการฆาตกรรมใครได้


สุดท้ายคนที่จัดการปิดฉากคดีนี้ได้ก็เป็นสารวัตรเดฟหัวหน้าหน่วย T ผู้โด่งดัง  สุรชัยมองแผ่นหลังกว้างที่กำลังเดินออกไปจากตัวบ้าน หลบหลีกฝูงชนและรถทำข่าวท้องถิ่นหลายคันที่มาล้อมจับกลุ่มเซ็งแซ่อยู่ด้านหน้า ไม่นานนักมอเตอร์ไซด์สีดำคันใหญ่ซึ่งเหมือนกับของซาโต้เปี๊ยบก็เคลื่อนที่ออกจากซอยเล็ก ๆ นั่นไปอย่างรวดเร็ว


ถ้าหากระดับความน่ากลัวของฟ็อกซ์เป็น 10 ล่ะก็ เดฟที่อายุอานามพอ ๆ กับซาโต้ ก็อาจจะเรียกได้ว่าสูสี แต่หน้าตาและบุคลิกของหนุ่มคนนี้ดูเถื่อนกว่ามิใช่น้อย


ยิ่งไปกว่านั้น รสนิยมแปลกประหลาดของเขาก็เป็นที่รู้กันทั่วทั้งหน่วยงาน เสือกลัดมัน(Tiger) ที่มักควงเด็กหนุ่มมหาวิทยาลัยหน้าตาดีถึงดีที่สุดเปลี่ยนไปเป็นว่าเล่น


ใช่!  เดฟเป็นเกย์  ไม่มีแคร์สื่อ เปิดเผยจนน่าตกอกตกใจ 


แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้งานของเขาเสียแม้แต่น้อย   ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานี้ ชายหนุ่มได้รับภารกิจพิเศษคู่ขนานให้ไปทำงานไกลถึงชายแดนไทย-กัมพูชา  ในที่สุดภารกิจเสร็จสิ้นสมบูรณ์แบบ ไม่นึกไม่ฝันว่าเขาจะเป็นคนมาปิดคดีนี้ให้กับหน่วย D หน่วยของเพื่อนซี้ ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยน้องสุดท้องของ SWAT-D

.
.
.
.

กูก็บอกแล้วว่ากูไม่ถนัดงานขาว ๆ แบบนี้ มึงจะซักทำหอกอะไรนักหนาวะเดฟ 


น้ำเสียงเดือด ๆ จากคนตรงหน้า ทำเอาเดฟแค่นเสียงดัง เหอะก่อนจะหันกลับมามองคนพูดที่กำลังนั่งคิ้วขมวดอย่างหัวเสีย ตอนนี้พวกเขานั่งอยู่ที่ระเบียงด้านหน้าของสถานีตำรวจประจำเมืองฯ


แน่นอนว่าคนพูดเองก็รู้ว่านั่นมันข้อแต่ตัวชัด ๆ 


มึงผิดแล้วซาโต้ เพราะมึงไม่เคยทำงานจับคู่กับใครนอกจากเคนยะต่างหาก คนอย่างมึงมีแต่ต้องให้ลุยเดี่ยว ไม่ก็ต้องให้เคนยะคุมมึง แล้วไอ้เด็กใหม่นี่ใคร? ฟ็อกส์ไว้ใจขนาดให้ลงงานคู่กับมึงนี่นะ 


“.....น้องชายเคนยะ หมวดคริสฟ็อกซ์ค่อนข้างมั่นใจเลยเอามาฝึกพวกคดีเล็ก ๆ ก่อนถึงจะจับยัดเข้างานเบื้องหลัง ได้ยินมาว่าวิถีกระสุนเยี่ยมไม่แพ้เคน นอกนั้นกูไม่ได้ซัก


อ้อ...เด็กเส้นนี่เอง  แล้วมึงพอจะเห็นแววอะไรบ้างรึเปล่า อยู่ด้วยกันมาเป็นอาทิตย์


แววเหรอ


ยังเลย เขายังใหม่ยังทำงานเบื้องหน้าอยู่ แล้วอีกอย่างนี่ก็เป็นคดีแรกของเขาด้วย”  ซาโต้แทบอยากจะเขกหัวตัวเองสักป้าบ โทษฐานที่ใส่ใจตัวคดีน้อยไปหน่อยแถมยังนำทางคริสไปผิด ๆ  เป็นเพราะเขาอาศัยข้อมูลจากคอมพิวเตอร์มากเกินไปในขณะที่เดฟมักสืบจริงโดยอาศัยสัญชาตญาณและการลงพื้นที่จริงมากกว่า 


มัวทำเหี้ยอะไรอยู่วะ เหลวไหลฉิบหาย นี่ถ้าเคนไม่วานกูช่วยสืบป่านนี้จะตายไปอีกซักกี่ศพ พวกมึงนี่จริง ๆ  


แบดบอยหนุ่มพูดพร้อมปรายตามองไปยังห้องขังผู้ต้องหาชั่วคราวของสถานีตำรวจท้องที่ เป็นปกติที่จะต้องทำการฝากขังก่อนส่งขึ้นศาลแล้วส่งเข้าเรือนจำอีกต่อหนึ่ง  ชายหนุ่มในห้องขังนั่งกอดเข่าหันหน้าเข้าหากำแพงอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง เดฟควักบุหรี่ขึ้นมาพร้อมตบล้วงหาไฟแช็คให้วุ่น ซาโต้เห็นแบบนั้นได้แต่ส่ายหัว


มึงก็รู้ว่ามันไม่ดี ยังจะสูบ


รสใหม่เว้ย เย็นฉิบหายเลยว่ะแต่อ่อนน่าดู เหมือนไม่ได้สูบแหละเมื่อเจอไฟแช็คแล้วเขาก็จัดการจุดบุหรี่ขึ้นทันที


ควันขาว ๆ ซึ่งไม่มีกลิ่นของเมนทอลเลยสักนิดพ่นออกไปด้านนอกระเบียง


เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าหน้าที่คนหนึ่งปรี่เข้ามาแจ้งว่าสถานีโทรทัศน์หลายช่องแจ้งเข้ามาขอทำข่าว เนื่องจากเป็นคดีที่ค่อนข้างดัง ซาโต้จึงชี้แจงไปว่าให้สารวัตรท้องที่เป็นคนตัดสินใจได้เลย เพราะพวกเขาจะทำเรื่องส่งมอบคดีให้เสร็จเรียบร้อยภายในวันนี้ จากนั้นเขาจึงหันมาคุยกับเดฟต่อ 


กูก็รู้นะว่าผิด  มึงจะว่าอะไรก็ว่าไปเหอะ กูพลาดจริงกูก็ยอมรับซาโต้แย่งบุหรี่มาจากปากเดฟแล้วอัดเข้าปอดตัวเองแรง ๆ หนึ่งอึกใหญ่ เดฟเองถึงกับอึ้ง ซาโต้เป็นคนรักความสะอาดและรักสุขภาพมาก แม้แต่เรื่องอาหารการกินยังต้องพิถีพิถันซึ่งต่างกับเขาแทบจะเรียกได้ว่าคนละขั้ว เขาแทบไม่เคยเห็นเพื่อนคนนี้แตะต้องบุหรี่มาก่อนเลย 


แต่ทำไมวันนี้?? 


พอใจยังซาโต้หรี่ตาพร้อมพ่นควันใส่หน้าเพื่อนซี้   


ไม่มีสำลักควัน ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ทั้งที่อัดเข้าไปมากมายขนาดนั้น เจ้าซาโต้มันยังแน่เหมือนเดิม เดฟส่ายหัวพร้อมยกยิ้มอย่างยอมแพ้ นี่คงเป็นการลงโทษตัวเองของเพื่อนสนิทเขาคนนี้ล่ะมั้ง หน้าตาหนุ่มแว่นแบบนี้ไม่เหมาะกับท่าพ่นควันขาวเอาซะเลย 


เดฟดึงบุหรี่กลับคืนมา ไอ้ห่า! มึงอมไว้ที่กระพุ้งแก้มล่ะสิ


หึ ทำเป็นรู้ทันเขาพูดยิ้มๆผลักหัวเดฟไปที


แล้วคู่หูมึงไปไหนซะล่ะ ทำไมไม่เห็นอยู่ด้วยกัน ไหนสุรชัยบอกว่ามึงพามารออยู่ที่นี่ก่อนแล้ว 


ซาโต้เบนสายตามองเข้าไปที่ห้องขังนั้นอีกครั้ง แววตาที่ลอดผ่านกรอบเลนส์นั้นยากจะบอกได้ว่าเขารู้สึกเช่นไร  


ถ้าพวกคุณรู้ว่าผู้ต้องหาคือใคร.....คงจะไม่เชื่อแน่นอน   หลายสิ่งหลายอย่างอาจจะต้องรอฟังจากการสอบปากคำอีกครั้ง


หมวดคริสเขาแวะไปดูสถานที่เกิดเหตุ กูเลยแยกมารอที่นี่ก่อน 


มีสัญญาณเรียกเข้า ซาโต้จึงล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรับสาย ที่หน้าจอโชว์รูปเจ้าของสายคนที่พวกเขากำลังพูดถึงอยู่พอดี คุยกันได้สักพักเขาจึงลุกขึ้นเตรียมพร้อมเมื่อมองไปเห็นท่านผู้กำกับประจำ สน. เดินทางมาถึงแล้วตรงดิ่งเข้าห้องทำงาน


คริสกำลังมา มึงจะรอเจอรึเปล่าเขาเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกงตามเดิม เตรียมตัวจะไปทำหน้าที่ของตน  เพราะตามหน้าที่แล้วเขาจะต้องเข้าไปรายงานผลการปฏิบัติงานเบื้องต้นให้หัวหน้าสถานีทราบก่อนส่งมอบคดีให้กับท้องที่ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป 


ไม่ดีกว่า  คดีคงไม่มีอะไรแล้ว มึงทำเรื่องส่งมอบให้ทางท้องที่เลยละกัน กูขอตัวกลับก่อนตั้งแต่กลับมายังไม่ได้แวะไปหาน้อง ๆ สักคนเลยว่ะ
เดฟตอบแหยง ๆ เขารีบหลบหลีกออกนอกเรื่อง แน่นอนว่าน้อง ๆ ที่เขาพูดถึงย่อมเป็นผู้ชาย  ชายหนุ่มยักคิ้วกวน ๆ ส่งให้ซาโต้พร้อมรับเสื้อแจ็คเก็ตสีครีมที่สิบเวรด้านหน้าเดินถืออกมาให้เขาตั้งแต่ที่เขาใช้มันคลุมหัวให้ผู้ต้องหาที่บ้านเช่าหลังนั้นแล้วก็ลืมไปเสียสนิท ชายหนุ่มพาดเสื้อขึ้นไหล่อย่างลวก ๆ  แล้วเดินดูดบุหรี่แยกออกไปอีกทาง 


เขาไม่ค่อยอยากเสวนากับพวกเด็กเส้นสักเท่าไหร่ อยู่ที่หน่วยนี้หากคิดจะทำงานทั้งสายดำสายขาวสำคัญที่สุดคือต้องเก่ง! หากเป็นการเก่งจากเส้นสายแล้วล่ะก็ เขาขอผ่านละกัน 


ไม่อยากคุย


แล้วจอกันที่ตึกเว้ย 

ซาโต้ส่ายหน้าด้วยความระอาใจ มองตามไอ้เจ้าคน ไม่มีแบบแผน แบดบอยประจำหน่วยฯ  แม้ว่าคดีนี้เขาจะทำพลาด แต่ดีที่ได้เจ้าเพื่อนซี้คนนี้เข้ามาช่วยไว้ทันไม่อย่างนั้นเรื่องเกี่ยวพันถึงชีวิตคนแบบนี้จะทำเอาเขารู้สึกแย่ขนาดไหน ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกก่อนเดินไปทางห้องทำงานของท่านผู้กำกับ

.

.


โอ๊ย!!!! 

    
 เพล้ง!!!!!!!!!!!


คริสตินอุทานดังลั่นเมื่อกำลังวิ่งหน้าตั้งขึ้นบันไดที่หน้าสถานี เขาชนเข้ากับวัยรุ่นชายที่เดินโทรศัพท์สวนลงมาจาก สน. มือแกร่งคว้าเอาท่อนแขนคริสไว้ได้ตามสัญชาตญาณก่อนที่อีกฝ่ายเกือบจะร่วงตกบันไดเพราะแรงกระแทก ในมืออีกข้างยังคีบบุหรี่ค้างอยู่ พอสองฝ่ายตั้งสติได้ต่างคนก็ต่างจ้องมองสิ่งของที่ตกกองอยู่บนพื้นบันได

โทรศัพท์มือถือหน้าจอใหญ่รุ่นใหม่ยี่ห้อดังกระจกจอแตกร้าวออกเป็นสามเสี่ยง ดีที่มันยังไม่หลุดออกมา

คริสจ้องเจ้าของโทรศัพท์ตั้งแต่หัวจรดเท้า ดูท่าทางแล้ว น่าจะเป็นพวกเด็กวัยรุ่นที่ไปมีเรื่องมีราวแล้วโดนจับมาลงบันทึกประจำวันไว้ 

แต่โทรศัพท์ของเจ้านี่มันแตก  เพราะความรีบเพราะเขาวิ่งขึ้นผิดทางมาชนมันก็เลยตกแตก 


ไม่สิ! ถ้าเจ้านี่มันไม่มัวคุยจนเดินไม่ดูทางมันคงจะหลีกเขาได้ 

เหตุผลข้อหลังดูเข้าท่ากว่าเยอะ


เดินยังไงไม่ดูตาม้าตาเรือ บันไดก็ตั้งกว้างมัวแต่คุยโทรศัพท์อยู่ได้”  อยากตบปากตัวเองเป็นพันครั้งเมื่อพูดคำนี้ออกไป


รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองผิดเต็มประตู ใจจริงอยากพูดคำว่าขอโทษแต่ไม่รู้อะไรดลใจให้คำพูดประโยคนั้นดันหลุดออกจากปากไปได้  วันนี้ซวยจริง ๆ ทำคดีก็เหลวไม่เป็นท่าแถมยังมาทำโทรศัพท์ใครก็ไม่รู้เสียหายอีก ขอด่าไว้ก่อน 

ยังไง เขาก็ต้องชดใช้ให้เจ้านี่อยู่แล้ว


พวกเด็กแว้นรึเปล่าเนี่ย ถูกจับมาตั้งแต่เมื่อคืนญาติไม่มาประกันตัวรึไง? แย่นะวัยรุ่นสมัยนี้ด่าอีกทีแก้เขิน ไหน ๆ ก็ตัดสินใจจะซื้อให้มันคืนอยู่แล้ว 

งั้นแถมอีกประโยค


แล้วเอาเงินที่ไหนไปซื้อไปหาของใช้แพง ๆ แบบนี้ล่ะเนี่ย อย่าบอกนะว่าทำอะไรผิด ๆ แล้วโดนจับจนต้องมาลงบันทึกเอาไว้ อ้อออ รึว่านายไปดักตีหัวใครจนอีกฝ่ายเขาเอาเรื่องกลัวมากจนต้องวิ่งแจ้นมาให้พี่ ๆ ตำรวจเขาช่วยบันทึกกันไว้ก่อนใช่รึเปล่า”  

ฮ่าฮ่า ด่าร่ายยาวจนสะใจ ท่าทางแบดบอยแบบนี้มาสถานีตำรวจเพราะมีเรื่องแน่นอน คนไม่มีเรื่องที่ไหนเขาจะมาเดินเล่นสถานที่แบบนี้กันตั้งแต่ไก่โห่ 


พูดพอรึยัง 

น้ำเสียงทุ้ม ๆ กับสายตาเย็นชา เขาดีดบุหรี่ทิ้ง ก่อนจะออกแรงบีบที่แขนของครีสให้แรงขึ้นไปอีกแล้วทำท่าจะผลักลงมาจากขั้นบันไดจริง ๆ คริสตินถึงกับหน้าหราเพราะลืมไปว่าตัวเองนั้นยืนหมิ่นเหม่กับขั้นบันไดมากแค่ไหน ดีที่เจ้านี่ยังจับเขาเอาไว้อยู่

เฮ้ย ๆๆๆ เล่นอะไรเนี่ยเดี๋ยวแจ้งข้อหาพยายามฆ่าอีกข้อหาเป็นไง โดนเมื่อคืนยังไม่เข็ดจะเอาอีกใช่ไหม
ฮึคริสพยายามแกะมือแกร่งนั้นออกจากแขนตัวเอง ชายหนุ่มก้าวขึ้นมาอีกขั้นหาที่มั่นยืนจนได้ มองเห็นโทรศัพท์อีกครั้งก็นึกละอายใจ 

เก็บขึ้นมาให้สิ ทำตกไม่ใช่รึไง” 

เจ้าของโทรศัพท์พูดพร้อมปล่อยแขนผู้หมวดหนุ่มออก ในใจเสียอารมณ์สุด ๆ กำลังโทรนัดแนะกับเด็กในคอนโทรลแท้ ๆ ดันมีใครก็ไม่รู้เดินมาชนจนโทรศัพท์เขาตกแถมเสียหายอีกต่างหาก แต่นั่นยังไม่น่าเจ็บใจเท่าโดนเจ้านี่ด่าและเข้าใจผิดเขาไปต่าง ๆ นานา

จะให้ก้มลงไปเก็บเองเหรอ  ฝันเหอะ!

คริสตินเบ้ปากแล้วก้มลงไปเก็บขึ้นมาเช็ด ๆ ถู ๆ พร้อมพิจารณาที่หน้าจอ ไม่เสียหายเท่าไหร่มีแต่กระจกเท่านั้นที่ร้าวมากซ่อมให้ก็คงพอมั้ง 

เดี๋ยวจะเอาไปซ่อมให้ นายเอาบัตรนายมาสิ ซ่อมเสร็จแล้วจะติดต่อกลับไป คริสพูดห้วนๆ

ไม่เก่งไปหน่อยเหรอ ทั้งจะเอาโทรศัพท์ผมทั้งจะเอาบัตรผม ต้มตุ๋นหลอกลวงกันหน้าบันไดสถานีตำรวจเลยเนี่ยนะ”  ชายหนุ่มกอดอกเอียงศีรษะหรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ น่าตาก็ดีอยู่หรอกแต่ร้ายไม่เบาเลยเด็กมหาลัย สมัยนี้ 

ผู้หมวดคริสถึงกับตาโตพูดไม่ออกเมื่อได้ฟังคำพูดแบบนั้น 

ก็แล้วนาย...... 

สารวัตรเดฟ  หมวดคริส  คุยอะไรกันอยู่ครับเนี่ยท่าทางซีเรียสเชียว ไม่เข้าไปนั่งคุยกันดี ๆ”  สุรชัยที่หอบซองสีน้ำตาลพร้อมแฟ้มเอกสารมาเต็มอ้อมอกกำลังเดินขึ้นบันไดมา เจอสองคนกำลังคุยกันอยู่พอดี 

ผมเอาเอกสารมาให้ทางสถานีเซ็นนิดหน่อยนะครับเดี๋ยวจะกลับตึกแล้ว สารวัตรเดฟกำลังจะกลับแล้วเหรอครับสุรชัยยังพูดต่อโดยไม่สังเกตสถานการณ์ของทั้งคู่เลยสักนิด จบแล้วเขาก็เดินขึ้นไป


ทั้งเดฟทั้งคริสต่างอึก ๆ อัก ๆ เมื่อได้รู้สถานะของอีกฝ่าย


คริสตินกำลังนึกไปถึงว่าไอ้เจ้าเดฟคนนี้นี่เองที่โทรไปยกเลิกภารกิจของพวกเขาเมื่อตอนเช้ามืดวันนี้ แถมยังเป็นคนปิดคดีที่เขากับซาโต้เป็นคนรับผิดชอบให้อีกต่างหาก 

นี่น่ะเหรอคนที่มีตำแหน่งเป็นถึงสารวัตร ท่าทางไม่ให้เลยสักนิด หน้าเถื่อนยิ่งกว่าผู้ต้องหาซะอีก

สะ...สวัสดีครับสารวัตรเดฟ ยินดีที่ได้รู้จัก”  ฝืนใจทักไปหน่อยยังไงก็มีตำแหน่งสูงกว่าแถมเป็นผู้มีพระคุณ โถ่!ไม่ถูกชะตาเอาซะเลย

ขณะที่เดฟเองกลับมาตั้งสติได้ก่อนแต่ก็ยังเงียบปากไว้  ชายหนุ่มเหยียดยิ้มที่มุมปากเมื่อได้รู้ว่าคน ๆ นี้คือ หมวดคริส น้องชายของเคนยะ เด็กเส้น คนที่ว่า

ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ  เด็กเส้น หึหึเน้นคำสุดท้ายให้คนบางคนเจ็บใจเล่น เมื่อมองเห็นอีกฝ่ายกำลังจ้องเขาอย่างขัดใจ ตัวเขายิ่งรู้สึกสนุก 


ปากเขาเสียแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร


เด็กเส้นก็งี้แหละ ไม่ค่อยจะฉลาดนักหรอก ใช่ไหม หึหึ”    รอยยิ้มเหยียดปรากฏขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เขาโน้มตัวไปกระซิบลงข้างหูของผู้หมวดหนุ่มอย่างเยาะเย้ย เดฟดึงเอาโทรศัพท์ของตัวเองกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว พร้อมสาวเท้าลงบันไดไม่สนใจฝ่ายที่ยืนงงอยู่สักนิด


คริสได้แต่ยืนขัดใจมองตามอย่างหัวเสีย นิสัยเหมือนไอ้พี่ฟ็อกซ์เปี๊ยบ!’ ในเมื่อทำอะไรไม่ได้เขาได้แต่สูดลมหายใจลึกก่อนตัดสินใจเดินตามสุรชัยขึ้นไปบนสถานี 


ซาโต้กำลังรอเขาอยู่

เรื่องคราวนี้ฝากเอาไว้ก่อน ถึงเขาจะผิดที่ทำโทรศัพท์เสียหายแต่จะมาหลอกด่าแถมพูดกระทบกระเทียบกันแบบนี้ 

ช่างไม่ถูกชะตาเอาซะเลย


ไอ้สารวัตรเดฟ!   

Tbc.