#
7
พัทยาใต้ ซอย 112 แหล่งสิงสถิตของชาวสีม่วง เอิ๊กกก
มอเตอร์ไซด์คันใหญ่บรรจงจอดลงด้านหน้าบาร์เล็ก ๆ ที่เรียงตัวติดกันหลายสิบร้านในซอยด้านซ้ายมือริมหาดพัทยาใต้ คริสยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู พร้อมลูบท้องไปมาหลังอิ่มแปล้จากการรับประทานอาหารที่โรงแรมเรียบร้อย (ฟาดไป 2 จาน ไม่ใช่บุฟเฟ่นะจ๊า)
ย้อนกลับไปเมื่อตอนเช้าหลังทานอาหารเสร็จเขากับซาโต้คู่หูก็บึ่งรถออกจากบางนามุ่งตรงมายังพัทยาทันทีเราเลี่ยงไปใช้เส้นทางเก่าแทนที่จะขึ้นมอเตอร์เวย์สบาย ๆ (เพราะเจ้าซาโต้มันพามามอเตอร์ไซด์ มันบ้ารึเปล่าก็ไม่รู้) ที่พักคือโรงแรมหรูระดับ 4 ดาว แถววงเวียนปลาโลมา หลังจากคริสหลับไปตื่นหนึ่งเต็ม ๆ ก็โดนซาโต้ปลุกขึ้นมาให้ลงไปหาอะไรกินกัน จากนั้นทั้งสองหนุ่มก็ออกเซอเวย์ลัดเลาะตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ ด้วยมอเตอร์ไซด์คันนี้นี่แหละ(เพิ่งรู้ว่าทำไมมอ’ไซด์ถึงดีกว่ารถยนต์ 55)
“ที่นี่เหรอวะซาโต้” คริสจับบ่าคู่หูพร้อมเหวี่ยงขาลงมายืนข้างรถ
สภาพโดยรอบครึกครื้นไปด้วยเสียงเพลงจากบาร์เปิดบาร์ปิดทั้งเล็กทั้งใหญ่หลากหลายเกรดที่ตั้งอยู่ติด ๆ กันไปหลายสิบร้านหันหน้าเข้าหากัน แสงไฟหลากสีจากบรรดาร้านรวงต่าง ๆ
ถนนที่ผ่ากลางซอยไม่ได้ใหญ่มากนักแต่ก็ไม่แคบจนเกินไป ที่ซอยแห่งนี้เน้นหลักการตลาดไปที่ชาวสีม่วงทุกประเภท ถึงอย่างนั้นก็ยังมีชายจริงหญิงแท้ทั้งไทยทั้งเทศแต่งตัวมิดบ้างไม่มิดบ้างเดินกันไปมาขวักไขว่
เป้าหมายของพวกเขาสองคนคือบาร์ปิดสุดหรูขนาด 2 ห้องที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม
บิลบอร์ดขนาดใหญ่ติดไฟโชว์หรารูปเหล่าชายงามหล่อล่ำสวมใส่น้อยชิ้นนอนโพสท่าเก็กหน้าสวยหล่อล่อเหยื่ออยู่ด้านบนของป้ายชื่อร้าน
‘Candy Gay Bar ’ สถานบันเทิงของคนวัยมันส์พันธุ์ม่วง
ชายสองคนที่ดูก็รู้ว่าเป็นการ์ดนั่งเล่นกันอยู่ด้านหน้า อาจเพราะยังไม่ดึกมานัก ถนนสายนี้จึงยังคงบางตาอยู่มาก ตามปกติน่าจะมีเด็กหนุ่มหน้าตาดี ๆ มายืนเรียกแขกหน้าร้านกันแล้ว
“อืม ครับ” ซาโต้ตอบเรียบ ๆ แต่นำให้คริสนึกอะไรไปไกลโข ‘มันจะพูดเพราะไปไหนเนี่ย ผมล่ะหน่ายจริง ๆ ทำเป็นห่างเหินไปได้ เอาก็เอาวะอยากพูดเพราะถ้างั้นก็จัดให้’
“งั้น เข้าไปกันเถอะ นายสอบปากคำนะฉันจะเป็นคนจดบันทึกคำให้การเอง” คริสล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตเตรียมหยิบกาแล็คซี่ตัวเก่งมาถือไว้
ผู้หมวดหนุ่มกำลังจะก้าวขาเดินข้ามถนนไป แต่ต้องชะงักเมื่อมือแกร่งเอื้อมมาคว้าแขนเขาเอาไว้อย่างเร็ว
“อะไร มีอะไร”
“เลื่อนมาชิด ๆ หน่อยครับ ช่วยทำท่าเหมือนเป็นคู่รัก”
ห๋า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! มึงพูดอะไรซาโต้!!
ไม่พูดเปล่าซาโต้รวบเอาเอวแข็ง ๆ ของคู่หูที่ตอนนี้หน้าเหวอสุดขีดเข้ามาแนบชิดขณะตัวเองยืนพิงอยู่ที่รถมอเตอร์ไซด์คันโก้
ดู ๆ แล้วช่างเหมือนคู่รักเกย์ที่กำลังหยอกล้อออดอ้อนแง่งอนกันก็มิปาน
“มึงทำไรเนี่ยยยย ปล่อยกู๊!!!!!!!!!” คริสขืนเอวอย่างสุดกำลัง ไอ้เหี้ย กูแหยงนะเว้ยยยยย
“ชู่ว์ แป็ปเดียว ๆ พวกการ์ดมันมองอยู่ นิ่ง ๆ สิครับคริส”
“ไอ้ซาโต้มึงเล่นไรเนี่ย ปล่อยกูก่อน ปล๊อยยย”
คริสบอกตัวแข็ง สองมือดันแผงอกแกร่งของอีกฝ่ายสุดกำลัง คำพูดเพราะ ๆ สุภาพอะไรนั่นลืมไปหมดแล้ว (นี่ท่าทางผมคงเหมือนเกย์สาวแตกที่งอนแฟนสินะ ไอ้พวกเด็กที่นั่งอยู่บาร์ข้าง ๆ ถึงได้จ้องเอ้าจ้องเอาขนาดนั้น แต่ดูจริง ๆ แล้วมันจ้องเจ้าซาโต้มากกว่า อิอิ)
“จะให้เขารู้ไม่ได้ว่าพวกเราเป็นใคร ทุกอย่างต้องค่อย ๆ สืบ เราต้องแฝงตัวเข้าไป”
ซาโต้กระซิบกระซาบ นำให้คริสต้องเงี่ยหูเข้าไปใกล้อีกนิดเพราะเสียงเพลงสากลหลากหลายจากบาร์เปิดรอบข้างนั้นดังมาก
“ อะไรนะ แฝงตัวงั้นเหรอ”
“หน้าที่ของ D-dog ดมกลิ่น-สืบ-แฝง-ซ่อน นั่นคืองานของพวกเรา ฟ๊อกส์ไม่ได้อธิบายรึไงครับ”
“เปล่านี่ แล้วกูต้องทำไงบ้าง” บ้าเอ้ยยย ต้องโดนมึงกอดไว้แบบนี้เนี่ยนะ คริสได้แต่นึก ดิ้นคลุกคลักอยู่ในอ้อมกอดของคู่หู
“ทำตัวเป็นคู่รัก เดี๋ยวพาเข้าไปทำงาน”
“ห๊าาาา!!!!!!!!! คู่รัก!!!! มึงกับกูเนี่ยนะ” คริสอุทานตาโต จนซาโต้ต้องเอามือปิดปากอีกฝ่ายไว้อย่างเร็ว
ผู้หมวดหนุ่มไม่ได้เอะใจกับคำพูดประโยคหลังของคู่หูเลย
“เบา ๆ สิครับคริส โถ่! จะตะโกนอะไรเนี่ย”
สายตาหลายคู่เริ่มจด ๆ จ้อง ๆ มาทางพวกเขาแล้ว ซาโต้จึงรวบโอบเอวแข็ง ๆ นั้นให้แน่นขึ้นอีกหน่อย ทำเอาคริสหน้าเริ่มแดงแจ๋ขึ้นมาอีกครั้ง
“ซะ...ซาโต้มึงปล่อยกูก่อนได้รึเปล่า กูรู้สึกว่าคนมองเราสองคนอยู่ว่ะ กูอายยยย เร็วเข้ามึงปล่อยเลย เดี๋ยวสาว ๆ เข้าใจผิด กูยิ่งหาผู้หญิงยาก ๆ อยู่” ไอ้บ้าซาโต้ สายตามึงล่ะก็แม่ง ถ้ากูหาแฟนไม่ได้กูจะโทษมึงคนเดียวเลย จะมีใครมาถ่ายรูปกูตอนนี้ไปลงเฟสไหมวะเนี่ย ถ้าเพื่อนพ้องกูเห็นล่ะก็จะเอาหน้าไปไว้ที่หนายยย โถ่เว้ยยยย!!!
“จะอายอะไรล่ะ แค่มาซอยนี้เขาก็รู้กันแล้วว่าเราเป็นอะไร” ก็แล้วกูใช่ที่ไหนล่ะไอ้ห่า! กูบอกให้มึงปล่อยนี่มึงไม่ได้ยินเลยใช่ไหมเนี่ย โอ๊ยยยย อึดอัด
แต่แล้วคริสก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
เออวะ...
“นี่ๆซาโต้ กูว่าเอางี้ดีกว่า” คริสสะกิดเบา ๆ
“ว่าไงครับ”
“มึงกอดกูไว้แบบนี้ไม่ดีหรอก เดี๋ยวกูเป็นฝ่ายกอดมึงเองถึงจะดี ฮี่ๆๆ” คริสยิ้มเจ้าเล่ห์
เอาก็เอาสิวะ ถ้าจะต้องโดนมึงกอดล่ะก็นะ กูขอเป็นฝ่ายกอดมึงเองก็แล้วกัน ระดับกูต้องเป็นคิงเว้ยยยยย กูจะไม่ยอมเป็นควีนให้มึงสอยหรอก ฮ่า ๆๆๆๆ
นึกถึงเรื่องลามกเข้าแบบนั้นใบหน้าขาว ๆ ของคริสก็เริ่มแต้มสีขึ้นมาอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว ซาโต้เห็นแล้วยังอดขำไม่ได้ ‘ก็แค่งานทำไมต้องเขินขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้’ ชายหนุ่มได้แต่นึก
“อ่ะ อ่ะ ก็ได้ ๆ” วงแขนแกร่งค่อย ๆ คลายออก
แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น.....คริสตินยังไม่ยอมยกแขนขึ้นมาทำอย่างที่พูด นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มที่ตอนนี้ปราศจากแว่นสีชาบดบังก็จ้องเข้าไปในดวงตาอีกฝ่ายอย่าง ดุ ดุ
“เออ น่า ทำเดี๋ยวนี้แหละ ฮึ่ยยย”
คริสโวยอย่างรำคาญ แต่ก็วาดวงแขนขึ้นมาโอบรอบคอคู่หูไว้อย่างหลวม ๆ จนใบหน้านั้นห่างกันแค่คืบ
....ต่างคนก็ต่างเบนสายตาสวนไปคนละทาง....
‘ไอ้ห่านี่ก็ทำหน้าบ้าอะไรไม่รู้ อย่างกับกูไปเป็นคู่รักมันจริง ๆ งั้นแหละ ใจกูสั่นเลยแสรดดดด’ คริสนึกในใจ
‘คงจะพอตบตาพวกการ์ดได้แล้วล่ะมั้ง’ ซาโต้เองก็นึกขึ้นบ้าง(นึกแต่เรื่องงาน)
ชายหนุ่มตัดสินใจลุกจากเบาะรถที่พิงอยู่ เอี้ยวเอาคอขาว ๆ คู่หูเข้ามาไว้ในวงแขนแกร่งแล้วพาเดินข้ามถนนไปที่หน้าร้านเป้าหมายทันที เมื่อเจอการ์ดร่างยักษ์หน้าเข้มสองคนหน้าบาร์ขอตรวจดูบัตร ซาโต้จึงควักบัตร(ปลอม) 2 ใบขึ้นมายื่นส่งให้
“มาเร็วจังครับ ไม่ทราบว่าเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกรึเปล่าเอ่ย” หนึ่งในการ์ดหน้าดุดัน มีเคราหรอมแหรม ถามขึ้นด้วยเสียงดัดจริตสุดขีด
‘เกย์ชัวร์ กูว่า’ คริสนึก แสร้งดูโน่นดูนี่ไปเรื่อยเปื่อย
แต่ยังไม่ทันที่ซาโต้จะขยับปากตอบอะไร การ์ดอีกคนหนึ่งก็รีบแทรกขึ้นมาก่อน
“โชว์ชุดใหญ่จะเริ่มตอน 5 ทุ่ม นะครับ น้อง ๆ เข้าไปนั่งดื่มอะไรเย็น ๆ รอก่อนได้เลย ”
“อ้อ ไม่เป็นไรครับ ผมมาพบมาม่าซัง”
คำตอบนั้นไม่เพียงเรียกสีหน้าเหวอจากสองการ์ด แม้แต่คริสเองที่ตอนนี้ลำคอขาวถูกท่อนแขนหนัก ๆ พาดทับอยู่ยังต้องเหวอไปด้วยอีกคน
“ผมพาเด็กมาสมัครงานครับพี่”
ห๋า!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! อีกครั้งแล้ววววววว ไอ้ซาโต้มันพูดอาร้ายยยยยยยยย!!?????
“.....อ๋อ น้องคงเป็นแมงดาสินะ”
“ครับพี่ ตามนั้นเลย”
รอยยิ้มเหี้ย ๆ แบบนี้มึงก็ทำเป็นเหรอซาโต้
ไอ้คู่หูทรยศศศศศศศศศศศ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!