บทที่5
ผมได้ยินเสียงคนคุยกันนะ มีเสียงหัวเราะด้วย เฮ้ย ...ใครมาคุยเสียงดังแถวนี้วะแม่ง โคตรกวนเลย คนจะหลับจะนอน
ผมดึงเอาหมอนที่หนุนอยู่ขึ้นมาปิดหน้าปิดตาอุดหูไว้ แต่มิวายเสียงหัวเราะแม่งชัดขึ้นอีก
พยายามหรี่ตามอง เฮ้ย!ใครเปิดไฟเนี่ยกูแสบตา แล้ว อ้าว ทำไมไอ้คิมมันมายืนอยู่ตรงนี้ ข้าง ๆ
มันดันมีไอ้โป้งยืนอยู่อีก
ตกใจสิผมรีบลุกเลย (น่ากลัวเป็นบ้ามีผู้ชายสองคนมายืนมองกูนอน) สติเริ่มมา จำได้ว่านัดไอ้คิมตอนตีสี่นี่หว่า เหลือบมองนาฬิกา ตอนนี้ตี 4 สิบห้านาทีแล้ว พวกแม่งไม่ยอมปลุกกูเล้ย
“ลุกได้แล้วมึงเดี๋ยวสาย มันร้อนนะเว้ย” ไอ้คิมมันพูดจบดึงผ้าห่มผมออกแล้วเอามาพับที่ปลายเตียงซะเรียบร้อย
“ไปล้างหน้าแปรงฟันไปโน่ กูก็จะกลับไปนอนต่อแล้ว” ไอ้โป้งทั้งพูดทั้งดึงผมเข้าไปในห้องน้ำ พอมันยัดผมใส่ในห้องน้ำเท่านั้นแหละ เสียงหัวเราะดังลั่นอยู่ด้านนอกเลยครับ ไอ้พวกเพื่อนบ้าหัวเราะกูเข้าไปเถอะ ก็คนมันง่วงนี่หว่าแม่ง!!
.....
.....
.....
“อือ” เสียงผมเองครับ
“อื้อ ไม่เอา” นี่ก็เสียงผมอีก
“โน่ เข้าห้องน้ำป่ะ กูลงไปเยี่ยวก่อนนะเว้ย มึงรออยู่ที่นี่นะ” ไอ้คิมครับมันพูดพร้อมกับเขย่าแขนผมไปด้วย พูดจบมันเปิดรถเดินออกไปเลย ผมปรับเบาะลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ เกือบสว่างแล้ว มันแวะปั๊มอยู่แถวไหนสักแห่ง แล้วมันจะพาไปไหน กูยังไม่ได้ถามมันให้รู้เรื่องด้วยซ้ำ
ผมตื่นเต็มตาบิดขี้เกียจนิดหน่อย อ้าว ! ห่า ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้านี่หว่า เมื่อกี้ลงจากห้องก็ไม่มีใครทัก คิดแล้วเซ็งสุด ๆ เสื้อยืดย้วย ๆ กับกางเกงบอลเก่า ๆ โคตรทุเรศอ่ะ ดีนะมีเสื้อคลุมใครไม่รู้ใส่ให้ตอนไหนก็จำไม่ได้ มองไปเห็นมันยืนคุยโทรศัพท์อยู่หน้าเซเว่น ผมกำลังนอยด์อยู่สักพักมันขึ้นรถมาแล้วครับ
“คิม กูลืมเปลี่ยนชุดว่ะ พวกมึงไม่เตือน”
“อืม กูหยิบมาให้แล้ว วางอยู่เบาะหลัง” มันพูดพร้อมกดเปลี่ยนเพลงเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นนิดนึง ผมใจชื้นขึ้นมาหน่อยหันไปมองด้านหลังเห็นชุดตัวเองวางซ้อนกันอยู่จริง ๆ ด้วย
“แล้วรองเท้าอ่ะ” ขอเรื่องมากอีกนิดครับ ก็ตอนนี้ผมใส่แตะนี่นา ดูไม่เข้าชุดยังไงไม่รู้ เผื่อมันพาไปสถานที่ราชการจะทำยังไง
“ใส่ที่มึงใส่อยู่แหละ” ดูครับดูมันตอบ ผมเหลียวมองป้ายข้างปั๊มตอนมันเลี้ยวรถออกมานิดนึง (อ. บ้านบึง ) เห มันจะไปไหนวะเนี่ย ??
“เอ๋า ได้เหรอวะ”
“เออ กูก็ใส่เหมือนมึง มึงไม่สังเกต” รถยังคงมุ่งหน้าต่อไป
“ใครจะไปสังเกตมึงตั้งแต่หัวจรดเท้าล่ะวะ มืดก็มืด”
“หึ ทุกทีกูเห็นมึงมองกูตั้งแต่เท้าจรดหัวเลยนี่หว่า”
“.....” ห่าแม่งพูดจาน้ำเน่า ผมหันหน้าไปมองข้างทางดีกว่า เพลงช้ามาอีกและ บรรยากาศตอนนี้โคตรรดีเลยอ่ะ ถ้าได้มากับแฟนก็คงเพลินเพลินสุดๆ
อากาศตอนเช้า ๆ แบบนี้สบาย ๆมากเลยครับ ตอนนี้เราอยู่ที่ระยอง แถวท่าเรือ เห็นมันบอกว่าเราจะต้องข้ามไปที่เกาะเสม็ดกัน มันยืนคุยกับเด็กส่งเรือเรียบร้อยก็กวักมือเรียกผมให้ไปหา จากนั้นเราสองคนก็ลงเรือครับ เป็นสปีดโบ๊ทสีฟ้าขาว
ไอ้คิมลงไปก่อนแล้วผมก็ตามลงไป เห็นมันไปนั่งที่นั่งคนขับ ผมแปลกใจนิดหน่อยครับ หลังจากลงเรือด้วยความทุลักทุเล ผมก็นั่งลงแถว ๆ ด้านหลัง ใช่ครับ ! ไอ้คิมมันขับเรือเอง...กูจะรอดมั๊ยเนี่ย
“มานั่งตรงนี้ดิ ข้าง ๆ กูนี่” มันหันมาเรียกผม สตาร์ทเรือแล้วเริ่มขับออกไปอย่างช้า ๆ
“ม..มึง....ขับเป็นเหรอวะ” ผมเดินไปนั่งข้างมันครับ เรือโคลงเคลงนิดหน่อย กลัวด้วยผมว่ายน้ำไม่เป็นอ่ะ
“เป็นดิวะ เดี๋ยวกูสอน ให้พ้นตรงนี้ก่อนเรือนักท่องเที่ยวเยอะ” มันเริ่มเร่งความเร็วขึ้น ผมรู้สึกเลยครับว่าหัวเรือเชิดสูงขึ้นอ่ะ มันขับไปได้สักพักพอพ้นสันกั้นน้ำออกมา ก็ชะลอความเร็วลง
“มาเปลี่ยนที่กัน” พูดจบมันลุกขึ้นเลยครับผมกลัวสิ มันปล่อยพวงมาลัยเรือทำไม รีบไปนั่งแทนแล้วจับเอาไว้เลย
“คิม กูขับไม่เป็นนะเว้ย” แม่งทำห่าอะไรของมัน
“เหมือนขับรถแหละ มึงทำใจให้สบายก็พอ อย่าเกร็ง” มันยังไม่ยอมมานั่งครับยืนอยู่ด้านหลังผม ส่วนผมไม่ได้พูดอะไรตั้งหน้าตั้งตาบังคับพวงมาลัยอย่างระมัดระวัง มันลื่นมากครับ หมุนง่ายกว่าพวงมาลัยพาวเอร์ซะอีก มันค่อย ๆ สอนจนทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง.....แล้วเรือก็มุ่งหน้าต่อไปอย่างช้า ๆ
“อากาศดีว่ะ มึงหนาวรึเปล่า” มันถามผม
“อืม นิดหน่อย”
“เสื้อมึงบาง”
“ได้ข่าวว่ามึงเป็นคนหยิบมาให้กูเมื่อเช้า” ผมมองเห็นเกาะเสม็ดไม่ไกลเท่าไหร่แล้วครับ..... อืม... มันก็ไม่ยากอะไรนี่หว่า
“เดี๋ยวออกซ้ายนิดนึง กูจะพาขับดูรอบ ๆ เกาะก่อน ไม่ต้องกำแน่นหรอกพวงมาลัยน่ะ ” มันพูดจบก้มตัวลงมาประคองพวงมาลัยช่วยผมครับเรือมุ่งหน้าออกทางซ้าย ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่รดต้นคอผมอยู่....ใกล้...ใกล้มาก เรือยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ
“ตัวมึงหอมว่ะ”
“ห๊ะ”
“กูหนาวว่ะโน่” โทนเสียงต่ำ ๆ ข้าง ๆ หู รู้สึกถึงความใกล้ ที่ชิดเข้ามาอีกจากด้านหลัง ลมหายใจจากปลายจมูกโด่งที่แผ่วเบากระทบต้นคอ ผมไม่กล้าหันไปมองครับ ผมเป็นไรก็ไม่รู้ ผมไม่ต่อต้านมัน ความเงียบเข้าครอบงำเราสองคนอยู่พักนึง
“คิม ! มึงมานั่งดิวะ” แค่คำพูดง่าย ๆ แต่กว่าผมจะเค้นมันออกมาได้ ไม่รู้ทำไมมันยากนัก
“ไม่เอา กูหนาว ตัวมึงอ้วนบังลมพอดีเลย”
“เชี่ยคิม กูไม่อ้วน! กูหล่อออก”
“หึ หล่อก็หล่อครับผม” ทำไมผมรู้สึกว่าไหล่หนักชอบกลนะ หันไปดูนิดนึง มันใช้ปลายคางกดไว้ครับ ใบหน้าผมกับมันใกล้กันสุด ๆ เลย
“คิม อย่าเล่นดิวะไปนั่งดี ๆ กูไม่มีสมาธิขับนะเว้ย เฮ้ย แล้วมึงจะให้กูเลี้ยวตรงนี้เลยรึเปล่า”
มันไม่ตอบครับแต่หมุนพวงมาลัยเล็กน้อยไปทางขวา วิวตรงปลายเกาะนี่สวยมากเลยครับ เป็นแหลมยื่นออกมายาว ๆ อากาศก็กำลังดี แต่ผมจะถามในสิ่งที่ผมอยากรู้ครับ
“มึงพากูมาที่นี่ทำไม แล้วเรื่องโปรเจค?”
“....”
“คิม” ผมเรียกมันยกไหล่ขึ้นนิดนึงให้มันรู้สึกตัว
“กูมีรีสอร์ทอยู่ที่นี่ พ่อกูยกให้ตอนกลับมาจากนอก” อ๋อหนึ่งในกิจการที่บ้านมึงทำว่างั้นเถอะ
“อืม แล้วไง”
“ทำระบบให้รีสอร์ทกูไหมล่ะ”
“รีสอร์ทมึงกันดารขนาดนั้นเลยรึวะ”
“หึ ตรงกันข้าม มึงดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ”
“คิม.....กูรู้สึกแปลก ๆ ว่ะ มึงมาขับเหอะ” ผมไม่อยากขับแล้ว พูดตรง ๆเหมือนโดนมันกอดอยู่เลยครับ
“ฮะ ฮะ มึงพึ่งรู้ตัวเหรอวะโน่”
ตกใจสิผมรีบลุกเลย (น่ากลัวเป็นบ้ามีผู้ชายสองคนมายืนมองกูนอน) สติเริ่มมา จำได้ว่านัดไอ้คิมตอนตีสี่นี่หว่า เหลือบมองนาฬิกา ตอนนี้ตี 4 สิบห้านาทีแล้ว พวกแม่งไม่ยอมปลุกกูเล้ย
“ลุกได้แล้วมึงเดี๋ยวสาย มันร้อนนะเว้ย” ไอ้คิมมันพูดจบดึงผ้าห่มผมออกแล้วเอามาพับที่ปลายเตียงซะเรียบร้อย
“ไปล้างหน้าแปรงฟันไปโน่ กูก็จะกลับไปนอนต่อแล้ว” ไอ้โป้งทั้งพูดทั้งดึงผมเข้าไปในห้องน้ำ พอมันยัดผมใส่ในห้องน้ำเท่านั้นแหละ เสียงหัวเราะดังลั่นอยู่ด้านนอกเลยครับ ไอ้พวกเพื่อนบ้าหัวเราะกูเข้าไปเถอะ ก็คนมันง่วงนี่หว่าแม่ง!!
.....
.....
.....
“อือ” เสียงผมเองครับ
“อื้อ ไม่เอา” นี่ก็เสียงผมอีก
“โน่ เข้าห้องน้ำป่ะ กูลงไปเยี่ยวก่อนนะเว้ย มึงรออยู่ที่นี่นะ” ไอ้คิมครับมันพูดพร้อมกับเขย่าแขนผมไปด้วย พูดจบมันเปิดรถเดินออกไปเลย ผมปรับเบาะลุกขึ้นมองไปรอบ ๆ เกือบสว่างแล้ว มันแวะปั๊มอยู่แถวไหนสักแห่ง แล้วมันจะพาไปไหน กูยังไม่ได้ถามมันให้รู้เรื่องด้วยซ้ำ
ผมตื่นเต็มตาบิดขี้เกียจนิดหน่อย อ้าว ! ห่า ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้านี่หว่า เมื่อกี้ลงจากห้องก็ไม่มีใครทัก คิดแล้วเซ็งสุด ๆ เสื้อยืดย้วย ๆ กับกางเกงบอลเก่า ๆ โคตรทุเรศอ่ะ ดีนะมีเสื้อคลุมใครไม่รู้ใส่ให้ตอนไหนก็จำไม่ได้ มองไปเห็นมันยืนคุยโทรศัพท์อยู่หน้าเซเว่น ผมกำลังนอยด์อยู่สักพักมันขึ้นรถมาแล้วครับ
“คิม กูลืมเปลี่ยนชุดว่ะ พวกมึงไม่เตือน”
“อืม กูหยิบมาให้แล้ว วางอยู่เบาะหลัง” มันพูดพร้อมกดเปลี่ยนเพลงเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นนิดนึง ผมใจชื้นขึ้นมาหน่อยหันไปมองด้านหลังเห็นชุดตัวเองวางซ้อนกันอยู่จริง ๆ ด้วย
“แล้วรองเท้าอ่ะ” ขอเรื่องมากอีกนิดครับ ก็ตอนนี้ผมใส่แตะนี่นา ดูไม่เข้าชุดยังไงไม่รู้ เผื่อมันพาไปสถานที่ราชการจะทำยังไง
“ใส่ที่มึงใส่อยู่แหละ” ดูครับดูมันตอบ ผมเหลียวมองป้ายข้างปั๊มตอนมันเลี้ยวรถออกมานิดนึง (อ. บ้านบึง ) เห มันจะไปไหนวะเนี่ย ??
“เอ๋า ได้เหรอวะ”
“เออ กูก็ใส่เหมือนมึง มึงไม่สังเกต” รถยังคงมุ่งหน้าต่อไป
“ใครจะไปสังเกตมึงตั้งแต่หัวจรดเท้าล่ะวะ มืดก็มืด”
“หึ ทุกทีกูเห็นมึงมองกูตั้งแต่เท้าจรดหัวเลยนี่หว่า”
“.....” ห่าแม่งพูดจาน้ำเน่า ผมหันหน้าไปมองข้างทางดีกว่า เพลงช้ามาอีกและ บรรยากาศตอนนี้โคตรรดีเลยอ่ะ ถ้าได้มากับแฟนก็คงเพลินเพลินสุดๆ
อากาศตอนเช้า ๆ แบบนี้สบาย ๆมากเลยครับ ตอนนี้เราอยู่ที่ระยอง แถวท่าเรือ เห็นมันบอกว่าเราจะต้องข้ามไปที่เกาะเสม็ดกัน มันยืนคุยกับเด็กส่งเรือเรียบร้อยก็กวักมือเรียกผมให้ไปหา จากนั้นเราสองคนก็ลงเรือครับ เป็นสปีดโบ๊ทสีฟ้าขาว
ไอ้คิมลงไปก่อนแล้วผมก็ตามลงไป เห็นมันไปนั่งที่นั่งคนขับ ผมแปลกใจนิดหน่อยครับ หลังจากลงเรือด้วยความทุลักทุเล ผมก็นั่งลงแถว ๆ ด้านหลัง ใช่ครับ ! ไอ้คิมมันขับเรือเอง...กูจะรอดมั๊ยเนี่ย
“มานั่งตรงนี้ดิ ข้าง ๆ กูนี่” มันหันมาเรียกผม สตาร์ทเรือแล้วเริ่มขับออกไปอย่างช้า ๆ
“ม..มึง....ขับเป็นเหรอวะ” ผมเดินไปนั่งข้างมันครับ เรือโคลงเคลงนิดหน่อย กลัวด้วยผมว่ายน้ำไม่เป็นอ่ะ
“เป็นดิวะ เดี๋ยวกูสอน ให้พ้นตรงนี้ก่อนเรือนักท่องเที่ยวเยอะ” มันเริ่มเร่งความเร็วขึ้น ผมรู้สึกเลยครับว่าหัวเรือเชิดสูงขึ้นอ่ะ มันขับไปได้สักพักพอพ้นสันกั้นน้ำออกมา ก็ชะลอความเร็วลง
“มาเปลี่ยนที่กัน” พูดจบมันลุกขึ้นเลยครับผมกลัวสิ มันปล่อยพวงมาลัยเรือทำไม รีบไปนั่งแทนแล้วจับเอาไว้เลย
“คิม กูขับไม่เป็นนะเว้ย” แม่งทำห่าอะไรของมัน
“เหมือนขับรถแหละ มึงทำใจให้สบายก็พอ อย่าเกร็ง” มันยังไม่ยอมมานั่งครับยืนอยู่ด้านหลังผม ส่วนผมไม่ได้พูดอะไรตั้งหน้าตั้งตาบังคับพวงมาลัยอย่างระมัดระวัง มันลื่นมากครับ หมุนง่ายกว่าพวงมาลัยพาวเอร์ซะอีก มันค่อย ๆ สอนจนทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง.....แล้วเรือก็มุ่งหน้าต่อไปอย่างช้า ๆ
“อากาศดีว่ะ มึงหนาวรึเปล่า” มันถามผม
“อืม นิดหน่อย”
“เสื้อมึงบาง”
“ได้ข่าวว่ามึงเป็นคนหยิบมาให้กูเมื่อเช้า” ผมมองเห็นเกาะเสม็ดไม่ไกลเท่าไหร่แล้วครับ..... อืม... มันก็ไม่ยากอะไรนี่หว่า
“เดี๋ยวออกซ้ายนิดนึง กูจะพาขับดูรอบ ๆ เกาะก่อน ไม่ต้องกำแน่นหรอกพวงมาลัยน่ะ ” มันพูดจบก้มตัวลงมาประคองพวงมาลัยช่วยผมครับเรือมุ่งหน้าออกทางซ้าย ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่รดต้นคอผมอยู่....ใกล้...ใกล้มาก เรือยังคงเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ
“ตัวมึงหอมว่ะ”
“ห๊ะ”
“กูหนาวว่ะโน่” โทนเสียงต่ำ ๆ ข้าง ๆ หู รู้สึกถึงความใกล้ ที่ชิดเข้ามาอีกจากด้านหลัง ลมหายใจจากปลายจมูกโด่งที่แผ่วเบากระทบต้นคอ ผมไม่กล้าหันไปมองครับ ผมเป็นไรก็ไม่รู้ ผมไม่ต่อต้านมัน ความเงียบเข้าครอบงำเราสองคนอยู่พักนึง
“คิม ! มึงมานั่งดิวะ” แค่คำพูดง่าย ๆ แต่กว่าผมจะเค้นมันออกมาได้ ไม่รู้ทำไมมันยากนัก
“ไม่เอา กูหนาว ตัวมึงอ้วนบังลมพอดีเลย”
“เชี่ยคิม กูไม่อ้วน! กูหล่อออก”
“หึ หล่อก็หล่อครับผม” ทำไมผมรู้สึกว่าไหล่หนักชอบกลนะ หันไปดูนิดนึง มันใช้ปลายคางกดไว้ครับ ใบหน้าผมกับมันใกล้กันสุด ๆ เลย
“คิม อย่าเล่นดิวะไปนั่งดี ๆ กูไม่มีสมาธิขับนะเว้ย เฮ้ย แล้วมึงจะให้กูเลี้ยวตรงนี้เลยรึเปล่า”
มันไม่ตอบครับแต่หมุนพวงมาลัยเล็กน้อยไปทางขวา วิวตรงปลายเกาะนี่สวยมากเลยครับ เป็นแหลมยื่นออกมายาว ๆ อากาศก็กำลังดี แต่ผมจะถามในสิ่งที่ผมอยากรู้ครับ
“มึงพากูมาที่นี่ทำไม แล้วเรื่องโปรเจค?”
“....”
“คิม” ผมเรียกมันยกไหล่ขึ้นนิดนึงให้มันรู้สึกตัว
“กูมีรีสอร์ทอยู่ที่นี่ พ่อกูยกให้ตอนกลับมาจากนอก” อ๋อหนึ่งในกิจการที่บ้านมึงทำว่างั้นเถอะ
“อืม แล้วไง”
“ทำระบบให้รีสอร์ทกูไหมล่ะ”
“รีสอร์ทมึงกันดารขนาดนั้นเลยรึวะ”
“หึ ตรงกันข้าม มึงดูก่อนแล้วค่อยตัดสินใจ”
“คิม.....กูรู้สึกแปลก ๆ ว่ะ มึงมาขับเหอะ” ผมไม่อยากขับแล้ว พูดตรง ๆเหมือนโดนมันกอดอยู่เลยครับ
“ฮะ ฮะ มึงพึ่งรู้ตัวเหรอวะโน่”
มันหัวเราะแล้วเดินมานั่งแทนที่ผม ตอนนี้คงใกล้ถึงแล้วล่ะ เห็นมันชี้มือชี้ไม้ให้ดูไกล ๆ พร้อมหักหัวเรือเข้าฝั่ง ......ไม่มีท่าเรือนะครับมีแต่สะพานไม้ยาว ๆ ทอดออกมา เห็นเด็กพนักงานของ รีสอร์ทวิ่งขึ้นมาที่เรือแล้วสวัสดีมัน มันโยนกญแจเรือให้ ผมก็รู้แล้วครับว่ามันคงเป็นคนสำคัญของที่นี่จริง ๆ เดินตามสะพานเล็กๆนิดหน่อยก็ขึ้นถึงหน้าหาดเลย ไอ้คิมตามลงมาติด ๆ มีพนักงานสองสามคนเดินมาหามันคุยอะไรกันสักพักมันก็แยกตัวออกมาเดินกับผม
“เดี๋ยวกินข้าวกัน แม่บ้านเค้าเตรียมไว้ให้แล้ว”
รีสอร์ทสวยมาก ๆ ด้านหน้าหาดเป็นบริเวณล็อบบี้ รวมที่ทานอาหารไปในตัวซึ่งกว้างมาก ๆ มีต้นหูกวางขนาดใหญ่มากอยู่ตรงกลาง ด้านซ้ายมือเป็นบาร์เหล้าเล็ก ๆใต้ต้นหูกวาง อีกต้น ส่วนด้านขวามือ เป็นผับขนาดใหญ่เลยครับด้านบนเป็นรูปเรือ แต่ตอนนี้กลางวันมันเลยดูโล่ง ๆ อ่ะนะ มีบาร์เล็ก ๆ อยู่หน้าผับอีกต่างหาก แต่ตอนนี้ปิดครับ สงสัยคงเปิดตอนดึก ฝรั่งเต็มไปหมด นอนอาบแดดย่างกันสด ๆ มีครอบครัวคนไทยนิดหน่อย แล้วก็คู่รักที่ไม่รู้ว่าเป็นชาติไหนหลายคู่เลยหน้าตาเอเชียนะ อาจเป็นจีน ญี่ปุ่น เพราะวันนี้วีคเอนล่ะมั้งคนเลยพลุกพล่าน
“คิม ห้องน้ำอยู่ไหนวะ”
“อ่อ ปะเดี๋ยวกูพาไป” แต่พวกผมยังไม่ทันจะได้เดินถึงไหนเลยครับคนโน้นคนนี้เข้ามาทักมันเต็มไปหมด ผมคิดว่าคงคุยอีกยาวแน่
“มึงบอกทางกูมา เดี๋ยวกูไปเอง” ผมไม่ไหวครับปวดฉี่มาก ขืนรอมันคงแย่ มันก็ชี้ไม้ชี้มือบอกทางเข้าข้าง ๆ ล็อบบี้ ทีนี้ผมไปเองเลยครับ รอไม่ไหวแล้ว
หลังจากปลดเปลื้องความทุกข์เรียบร้อยผมเดินเลี้ยวออกมาอีกทาง เพิ่งสังเกตว่าอยู่ใกล้กับห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด บรรยากาศการจัดสวนสวยมาก ตลอดทางเป็นบ้านหลังเล็ก ๆ แต่ละหลังมีระเบียงออกมา ใช้โทนสีน้ำตาลขาว ทรงไทย ดูหรูหราเล่นระดับ ดีนะผมว่า มีต้นลีลาวดีอยู่ทุกหลังที่เดินผ่านเลยครับ หอมมาก
“คุณพลอย” เสียงเรียกครับ ค่อนข้างดังเลย ผมรีบหันหลังไปตามเสียงนั่น เห็นพี่สาวคนนึงวิ่งมาทางผมหน้าตาตื่น
“คุณพลอย !” หยุดครับ เธอหยุดกระทันหันเมื่อมายืนต่อหน้าผม ยังเรียกไม่เต็มเสียงดีเลย
เดี๋ยวนะ ! เรียกผมว่าพลอย พลอยอะไร ใครคือพลอย ผมเป็นผู้ชายชัด ๆ จะไปชื่อพลอยได้ยังไงวะ
“มีอะไรรึเปล่าครับ” ผมตกใจสิครับ มีผู้หญิงมายืนจ้องหน้าผมอ่ะ แถมเรียกพลอยเพยอะไรก็ไม่รู้ แต่ท่าทางเธอตกใจมากกว่าผมอีกครับ ผมไม่ใช่เหรอครับที่ควรตกใจอ่ะ แต่คนที่ตั้งสติได้ก่อนคือเธอครับ
“คุณ...เอ่อ...เป็นแขกมาพักที่นี่เหรอคะ”
“อ๋อ เอ่อ ไม่ใช่ครับ ผ...ผมมากับเพื่อน”
“เพื่อน?” ผมสังเกตพี่สาวแกใส่เสื้อฟอร์มพนักงานของที่นี่ครับ
“ครับ คิม เอ่อคุณคิม” ใช่ต้องเรียกมันว่าคุณคิม
“คุณเป็นเพื่อนคุณคิม ?” จะเสียงดังไปไหนครับพี่ อยู่ ๆ ก็ตะโกนขึ้นมาผมตกใจนะ
“อ่า ครับ” หน้าตาพี่เค้าเหวอมากเลยครับตอนนี้ อ้าว! ไอ้คิมเดินเข้ามาพอดี
“ไงมึง นึกว่าตกส้วมตายแล้ว”
“เอ๋าปากมึงเหรอนั่น”
“ปะ ไปกินข้าว กูหิวแล้ว”
ผมตอบรับแล้วหันไปมองหน้าพี่เค้านิดหน่อยก่อนจะหันกลับไปมองมันเป็นเชิงถาม
“อ๋อ โน่ นี่พี่จี๊ด แกเป็นผู้จัดการที่นี่อ่ะ ที่จริงทำทุกอย่างแหละเนอะ พี่จี๊ดครับนี่โน่...เอ่อ...เพื่อนผม” มันพูดแล้วส่งยิ้มหวานให้พี่เค้าหนึ่งทีครับ แต่ผมสังเกตว่าพี่แกยังอึ้งไม่หายกับอะไรบางอย่าง แต่เสียงไอ้คิมก็ดังขึ้นก่อนครับ
“คืนนี้ผมว่าจะค้าง พี่จี๊ดดูเรื่องห้องให้ด้วยละกันนะครับ” ไม่มีเสียงตอบครับ หน้าพี่แกสลดลงอีกต่างหาก มองมาที่ผมอีกด้วย
“คุณคิม...จะให้คุณโน่นอนห้องนั้นเหรอคะ” ซีเรียสครับ บรรยากาศซีเรียสแปลก ๆ
“ใช่..ผมจะนอนห้องนั้นกับโน่ ไปเตรียมห้องไว้ให้เรียบร้อยด้วย” พูดจบมันลากแขนผมออกไปจากจุดนั้นเลยครับ หน้าแม่งโคตรนิ่งอ่ะ ผมหันไปมองเห็นพี่จี๊ดยืนอึ้งเลย
เอ๊ะ ! แต่เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้มันบอกใครจะค้างกับใคร ผมจะต้องค้างที่นี่ด้วย ? แต่พรุ่งนี้มันวันจันทร์ไม่ใช่เหรอ เสื้อผ้าก็ไม่ได้เอามา อะไร ๆ ก็ไม่ได้เอามา.....
.....................
อากาศช่วงสาย ๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เรานั่งทานอาหารกันอยู่ที่ร้านอาหารใต้ต้นหูกวางหน้าหาดทั้งฝรั่งทั้งเอเชียนอนอาบแดดกันให้เพียบเลยครับ อาหารตาผมจริง ๆ ไม่อยากเชื่อเลยนะว่าไอ้คนที่มันนั่งกินข้าวอยู่ข้างผมตอนนี้ จะเป็นถึงเจ้าของรีสอร์ทใหญ่ขนาดนี้ ถึงว่า บางครั้งผมรู้สึกว่ามันดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ แต่บางทีนะ ก็รู้สึกว่ามันเหมือนเด็กมาก ๆ เลยครับ
“รีบกินเร็วมึง เดี๋ยวกูพาไปดูโปรแกรม กูบอกพี่บอยเค้าเซ็ทระบบรอแล้ว”
“เออ แล้วระบบเก่าที่มึงใช้อยู่อ่ะ ใครทำให้มึงวะ”
“กูจ้างบริษัทเล็ก ๆ ทำให้ว่ะ คนรู้จักพ่อกู”
“ต้องปรับปรุง ?”
“อืม ก็นิดหน่อยอ่ะ กูอยากได้ระบบที่มันสมบูรณ์แบบขึ้นอีกหน่อย รู้สึกว่ายังใช้ยากอยู่ว่ะ ไม่ตรงกับความต้องการของกูเท่าไหร่”
“.......” เห...ไอ้นี่ พูดเป็นงานเป็นการใช้ได้นี่หว่า
“เดี๋ยวมึงลองเข้าไปคุยกับพี่เค้าดูละกัน กูเคลียร์ทางนี้แป็บ” มันคงพูดถึงเรื่องงานของมันนั่นแหละครับ พอทานกันเรียบร้อยเราสองคนก็แยกย้ายกันทำงานครับ มันมอบงานส่วนของโปรเจคให้ผมจัดการเองทั้งหมด(ไม่ค่อยเห็นแก่ตัวเลยมึง) ส่วนมันเหรอครับ ไปทำงานส่วนตัวมันครับ o_o
ผมเข้าไปคุยเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ของรีสอร์ทกับพี่บอยที่ห้องกระจกเล็ก ๆ ด้านในหลังล็อบบี้ซึ่งมีโต๊ะอยู่แค่ 3 โต๊ะครับ โต๊ะของมัน โต๊ะผู้จัดการ(พี่จี๊ด)ซึ่งตอนนี้ไม่อยู่ และโต๊ะของพี่บอย
ผมคุยเพลินจนไม่รู้เลยว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีไอ้คิมมันมายืนเคาะกระจกเรียกผมครับ ทำท่าทำทางประมาณว่าหิวมั๊ยอะไรแบบนั้น ผมยังไม่หิวเลยครับตอนนี้กำลังโพรไฟล์งานคร่าว ๆ อยู่ ผมไม่ชอบให้คนมากวนตอนผมทำงานครับ คิดว่ามันน่าจะเข้าใจเพราะตอนนี้เลิกเกาะกระจกเซ้าซี้ผมแล้วครับ ผมกับพี่บอยเดินหน้าชุบชีวิตดาต้าเบสต่อไป(เมื่อกี้พี่บอยทำมันล่มครับ อิอิ)
พอนึกบางอย่างขึ้นมาได้ครับ เลยลองพูดขึ้นมาลอย ๆ “เอ่อ..เมื่อเช้ามีคนเรียกผมว่าคุณพลอยด้วยล่ะพี่” พูดแล้วก็ลองดึงไฟล์จากเครื่องพี่แกมาดูดีกว่า พี่บอยเงยหน้าขึ้นมองผมสักพักแล้วยิ้มออกมาครับ
“ก็เหมือนนะ ทำไมอ่ะ”
“เหมือน ?” ผมเงยหน้าจากแป้นพิมพ์แบบงงๆครับ
“อืม มากเลยล่ะ”
“แล้วคุณพลอยนี่เค้าคือใครอะพี่” โห..พี่บอยแกสุดยอดครับแป็บเดียวแกแชร์ไฟล์ดาต้าเบสเรียบร้อยเลย
“น้องพลอยเป็นแฟนคุณคิมน่ะ”
“ห๊ะ!?”
“เมื่อก่อนคุณคิมพามาด้วยประจำแหละ พักหลังไม่เห็นเลยนะ อืม...ไอ้ไฟล์ตรงนี้มันดึงไม่ขึ้นอ่ะครับ” พี่แกพูดไปทำงานไป แต่....
......ทำไม...ผมรู้สึกเจ็บแปล็บ ๆ ที่หัวใจก็ไม่รู้ครับ ตอนนี้มือผมหยุดนิ่งเลย ผม...ไม่รู้ว่าจะกดคีย์ตัวไหนต่อไปดี ผม...เป็นอะไรก็ไม่รู้...รู้สึกร้อน ๆ ที่หน้า ผม..คิดเรื่องคิมครับ ผมคิดเรื่องของมันทำไม มันจะมีแฟนหรือไม่มีก็ช่าง เรื่องของมันไม่เกี่ยวกับผมไม่ใช่เหรอครับ
เมื่อตั้งสติได้ผมรีบไล่ความรู้สึกอันนั้นทิ้งไปแล้วกลับมาจดจ่อกับงานโปรแกรมของผมต่อ ผมต้องมีสติกับงานตรงนี้ก่อน ทำกันไปได้สักพักไอ้คิมมันก็เข้ามาครับ ผมรู้สึกแปลก ๆ ตอนที่เห็นหน้ามันนะ เหมือนไม่สนิทใจเหมือนเดิมไงไม่รู้ ทั้งที่...........ผมก็ไม่รู้จะพูดไงอ่ะ
“คิมกูง่วงว่ะ กูเข้าไปนอนก่อนดีกว่า”
“ไปดิ เดี๋ยวกูพาไป หิวปะ” ผมเลือกที่จะไม่ตอบคำถามมันครับตอนนี้รู้สึกอารมณ์ไม่ดีเลย
หลังจากนั้นเราสองคนก็เดินกลับไปที่บ้านพักครับอยู่ไม่ไกลจากล็อบบี้เท่าไหร่ แต่ก็เป็นจุดเซนเตอร์ของรีสอร์ทพอดี มันบอกว่าหลังนี้เป็นของมันครับ ไม่เปิดให้คนภายนอกใช้เด็ดขาด เพราะฉะนั้นของภายในห้องพักจึงเป็นของส่วนตัวมันทั้งสิ้น (งั้นผมก็ใช้ได้เต็มที่ใช่ไหมเนี่ย)
พอเจอที่นอนปุ๊ป ผมล้มตัวนอนเลย เหนื่อยอ่ะ เค้นสมองเขียนโปรแกรมตั้งหลายชั่วโมง (นี่แค่เล่น ๆ กับพี่บอยนะ) คิดโน่นคิดนี่เพลิน ๆ ก็หลับไปไม่รู้เรื่องเลยครับ ตื่นมาอีกที นาฬิกาที่หัวเตียงบอกเวลา 2 ทุ่มกว่าแล้ว แต่ไม่รู้สึกหิวครับ มองไปที่โต๊ะข้างเตียงมีโน้ตบุ๊ควางอยู่ ผมถือวิสาสะเดินไปเปิดเครื่องนั่งเล่นรอไอ้คิมมันมาเรียกครับ(ตอนนี้ไม่รู้หายหัวไปไหน)
รู้สึกมึน ๆ เลยลุกไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตาก่อนจะกลับมานั่งลงที่หน้าจอกะว่าจะแชร์เบสมาดูเล่นต่อสักหน่อย แต่.....
!!!! อึ้งครับ ! ตอนนี้ผมอึ้งมาก อึ้งกับภาพที่โชว์หราอยู่บนหน้าจอ desktop ของมัน ภาพผู้หญิงถ่ายคู่กับไอ้คิมดูยังไงก็เป็นภาพคู่รักชัด ๆเต็ม ๆ หน้าเลยครับ..... แต่นั่น ไม่ทำให้ผมตกใจเท่ากับเรื่องที่ว่า ผู้หญิงคนนั้น หน้าเหมือนผมมาก ๆ เลยครับ โคตรเหมือนอ่ะ! ต่างกันแค่ผมสั้น กับผมยาวแค่นั้นเอง
ผมขนลุกเลยครับ ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างประดังประเดเข้ามาตั้งแต่ตอนรู้จักมันวันแรก จนถึงวันนี้ ผมบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง ผม....ยังอึ้งอยู่ ไม่มีอารมณ์เล่นคอมฯ แล้วครับ ปิดเครื่องทันที แล้วลุกออกจากห้องไปเลย บอกตามตรงรู้สึกผิดหวังครับ ที่มันทำตัวแปลก ๆ กับผมมาตลอดเป็นเพราะผมหน้าเหมือนผู้หญิงของมันหรือไง
เดินเตร็จเตร่ไปสักพักก็มาถึงแถว ๆ ร้านอาหารหน้าหาด ตอนนี้คึกคักมากครับ แสงไฟสีส้มถูกประดับประดาเป็นทางยาวไปรอบ ๆ หาด ร้านต่อร้านยาวไปเรื่อย ๆ หน้ารีสอร์ทริมหาดตอนนี้ ปูเสื่อสีแดงยาวมีโต๊ะพับทรงญี่ปุ่นตั้งเรียงรายพร้อมเบาะนุ่ม ๆ วางไว้รอบ ๆ รอคนมาจับจองในแต่ละโต๊ะ บางโต๊ะว่างครับ แต่ส่วนใหญ่ตอนนี้ถูกจับจองเกือบหมด เสียงเพลงช้าดังคลอมาเบา ๆ จากผับด้านข้างที่ตอนนี้ยังไม่มีคนมากนักเนื่องจากยังหัวค่ำอยู่
“ชอบมั๊ยวะ บรรยากาศแบบนี้” เสียงไอ้คิมครับ ตอนนี้มันมายืนอยู่ข้าง ๆ ผม เราสองคนมองออกไปที่ทะเลมืด ๆ
“......”ผมไม่ได้ตอบคำถาม พอเห็นหน้ามันกลับรู้สึกหงุดหงิด ไม่รู้เป็นไร นึกถึงรูปที่เห็นเมื่อกี้แล้วหงุดหงิดฉิบหาย
“กูให้คนเตรียมอาหารไว้แล้ว ไปเหอะ” พูดจบมันจูงมือผมเดิน ผมละมือออกมันหันมามองนิดหน่อยแต่ไม่ได้พูดอะไร เราเดินไปทางโต๊ะญี่ปุ่นที่ถูกจัดไว้บนผืนทรายหน้าหาด อาหารสามสี่อย่างถูกจัดวางไว้ มีแก้วเปล่าสองใบตั้งอยู่ข้างขวดเหล้าทรงสูงสีดำ
“กูชอบกินยี่ห้อนี้ มันหอมดี” มันพูดขึ้นหลังจากเรานั่งลงข้าง ๆ กันครับ มีพนักงานเข้ามาจะชงเหล้าให้แต่มันส่ายหน้าให้เล็กน้อย เป็นอันรู้กันครับว่าอย่ามากวน พวกกูจัดการกันเอง
เสียงเพลงเบา ๆ เคล้าเสียงคลื่นที่สาดกระทบชายฝั่ง คิมมันจัดการชงเหล้าแล้วเลื่อนมาให้ผม จากนั้นก็จัดการกับแก้วของตัวเอง แล้วกระดกลงคอรวดเดียวจบ......จากแก้วที่หนึ่ง สอง สาม และแก้วต่อไป ขณะที่ผม แค่ยกขี้นจิบ ๆ เท่านั้นเอง
“เดี๋ยวก็เมาหรอกไอ้ห่า กินเหมือนตายอดตายอยาก” ผมครับที่พูดทำลายความเงียบระหว่างเรา
“ก็กูสบายใจอ่ะ” มันพูดยิ้ม ๆ สายตาทอดไปทะเลด้านหน้า เสียงเพลงแม่งโคตรเข้ากับบรรยากาศเลย ผมนั่งกินข้าวของผมไปเรื่อย ๆ
“อากาศดีว่ะ มึงไม่หนาวใช่มั๊ย”
“อืม กูร้อนด้วยซ้ำยังไม่ได้อาบน้ำเลย มึงก็กินข้าวบ้างดิวะ กินแต่เหล้าแบบนี้เดี๋ยวก็เมาหรอก”
“กูคอแข็ง ไม่เหมือนมึงนี่”
“ให้มันจริงเถอะว้า...อย่าให้กูได้ลากเข้าห้องล่ะ”
“...หึ” มันกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย สายตาทอประกายไปที่ทะเลกว้าง ผมอ่านความหมายอะไรไม่ออกหรอก ก้มดูเวลาตอนนี้ 4ทุ่มกว่าแล้ว รู้สึกเหนียวตัวอยากอาบน้ำมากเลย ลมก็เย็นนะไม่รู้ทำไมผมถึงร้อน
“เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนดีกว่า เหนียวตัวว่ะ มึงจะนั่งอยู่ตรงนี้ใช่มะ”
ผมพูดแล้วลุกขึ้นเลยครับไม่ไหวผมร้อนเหงื่อออกด้วย
“เสื้อกูอยู่ในตู้มึงเลือกใส่เลย.....เสร็จแล้วออกมาล่ะ เดี๋ยวกูพาไปนั่งต่อที่ผับ” ผมไม่ตอบหรอกครับเดินไปเลยดีกว่าสังเกตดูพวกครอบครัวคนไทยเริ่มบางตาลงแล้ว ที่เหลืออยู่ก็มีแต่กลุ่มวัยรุ่น ไทยบ้าง แต่ฝรั่งเยอะมากครับยิ่งดึกยิ่งเยอะ
อาบน้ำเสร็จเลือกเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นกับกางเกงยืดจั๊มขา 5 ส่วนสบาย ๆ ของมันมาใส่ แล้วเดินลากแตะออกมาหามันครับ อ้าว ! ไม่อยู่ที่เดิมแล้ว โซนนั้นเห็นพนักงานกำลังเก็บโต๊ะเก็บเสื่อ ผมกำลังยืนฟังเพลงอยู่ดี ๆ มีเด็กพนักงานเข้ามาเรียกผมแล้วชี้ไปตรงจุดที่ไอ้คิมมันนั่งอยู่ครับ ผมเลยเดินเข้าไปหา
“กินไร เดี๋ยวกูสั่งให้” โห...สุดยอดผับครับกว้างมากๆ มีเคาเตอร์บาร์ตัวยูอยู่ตรงกลางด้วย คนแม่งเยอะเทียบกับตอนหัวค่ำไม่ติดเลยอ่ะ
“ผับนี่ ของรีสอร์ทมึง?” ฝรั่งเยอะฉิบกอดจูบนัวเนียอยู่ข้าง ๆ กูนี่แหละ เสียงเพลงก็โคตรดัง พูดกันแต่ละครั้งต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ คนละบรรยากาศกับก่อนกูไปอาบน้ำเลยว่ะ อารมณ์ผมเริ่มมาแล้วครับ(อารมณ์นักเที่ยว อย่าเข้าใจผิด)
“อืม หนึ่งในโซนเอนเตอร์เทนของรีสอร์ทว่ะ” มันพูดจบก็กระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมด ผมพยักหน้าให้บาร์เทนดอร์นิดนึง ทว่าพอนั่งลงปุ๊บมันเลื่อนแก้วมันส่งมาให้
“กินกับกูดิ อันนี้ดีกว่า”
“อือ” ผมหยิบมาลองชิมดูครับ แม่งกัดคอชิบหายมันแดกลงไปได้ไง
“เต้นได้มั๊ยวะ” เพลงเพราะดี เค้าเต้นกันอยู่โครม ๆ เลย
มันไม่ตอบอะไรแค่ยิ้ม ผมยกแก้วขึ้นลุกไปเต้นสักพักก็เดินกลับมานั่งลงที่เดิม ตอนนี้หน้าไอ้คิมแดงมาก แต่มือมันยังยกซดไม่หยุด เรานั่งดื่มกันไปเรื่อย ๆพักใหญ่ ๆ จนรู้ว่าดึกมากเพราะเพลงเริ่มเปลี่ยนจังหวะแล้ว...... เพลงช้า ๆ นิ่ม ๆ พอให้คนฟังที่กำลังเมาได้ที่ซบกอดจูบกันนัวเนีย
ผมเองก็เริ่มมึน ๆแล้วล่ะครับเริ่มรู้สึกว่าคนข้าง ๆ มันนั่งจ้องผมนานมากแล้ว อึดอัดไงไม่รู้ผมหันไปมองครับแต่มันก็ยังจ้องอยู่อย่างนั้น พร้อม ๆ กับยกดื่มไปเรื่อยๆ
“ไรวะคิม มองกูอยู่ได้”
“มึงน่ารัก หน้ามึงแดง” ให้ตาย! เพลงแม่งเชี่ย! บรรยากาศโคตร ๆ เลย
“กูหล่อแน่อยู่แล้ว” ผมพูดแก้เขิน กระดกเหล้าเข้าปากอีก ลองหันไปมองนิดหน่อยมันยังจ้องอยู่ ผมนึกขึ้นมาได้เลยครับ ใช่ ! พลอย...มันเห็นหน้าผมแล้วนึกถึงพลอยของมันแน่นอน ทำไมผมรู้สึกเจ็บก็ไม่รู้นึกถึงเรื่องนี้ทีไร ผมคงเมาแล้วล่ะ นั่งกินเหล้าต่อไปเงียบ ๆ ดีกว่า.....
“หน้ากูเหมือนแฟนมึงขนาดนั้น ?” ในที่สุดผมก็ถามออกมา ท่าทางมันตกใจกับคำถามของผมมาก แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ผมจึงพูดต่อไปครับ
“กูใช้คอมฯในห้องมึง เห็นหมดแล้วว่ะ” ผมพูดแล้วยกขึ้นอีกแก้วครับ.........รวดเดียว
“....พลอย..เขาเคยเป็นแฟนกู.....แต่ตอนนี้...เลิกกันแล้ว...เขาทิ้งกูไป” สายตามันฟ้องเจ็บปวดมากมายเลยครับ แต่ผมไม่ถามหรอกนะว่าทำไม ผมไม่อยากรู้
“มึงรู้ไหม ครั้งแรกที่กูเจอมึง กูตกใจหมดเลยว่ะ” มันพูดต่อ
“เสื้อกูอยู่ในตู้มึงเลือกใส่เลย.....เสร็จแล้วออกมาล่ะ เดี๋ยวกูพาไปนั่งต่อที่ผับ” ผมไม่ตอบหรอกครับเดินไปเลยดีกว่าสังเกตดูพวกครอบครัวคนไทยเริ่มบางตาลงแล้ว ที่เหลืออยู่ก็มีแต่กลุ่มวัยรุ่น ไทยบ้าง แต่ฝรั่งเยอะมากครับยิ่งดึกยิ่งเยอะ
อาบน้ำเสร็จเลือกเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นกับกางเกงยืดจั๊มขา 5 ส่วนสบาย ๆ ของมันมาใส่ แล้วเดินลากแตะออกมาหามันครับ อ้าว ! ไม่อยู่ที่เดิมแล้ว โซนนั้นเห็นพนักงานกำลังเก็บโต๊ะเก็บเสื่อ ผมกำลังยืนฟังเพลงอยู่ดี ๆ มีเด็กพนักงานเข้ามาเรียกผมแล้วชี้ไปตรงจุดที่ไอ้คิมมันนั่งอยู่ครับ ผมเลยเดินเข้าไปหา
“กินไร เดี๋ยวกูสั่งให้” โห...สุดยอดผับครับกว้างมากๆ มีเคาเตอร์บาร์ตัวยูอยู่ตรงกลางด้วย คนแม่งเยอะเทียบกับตอนหัวค่ำไม่ติดเลยอ่ะ
“ผับนี่ ของรีสอร์ทมึง?” ฝรั่งเยอะฉิบกอดจูบนัวเนียอยู่ข้าง ๆ กูนี่แหละ เสียงเพลงก็โคตรดัง พูดกันแต่ละครั้งต้องยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ คนละบรรยากาศกับก่อนกูไปอาบน้ำเลยว่ะ อารมณ์ผมเริ่มมาแล้วครับ(อารมณ์นักเที่ยว อย่าเข้าใจผิด)
“อืม หนึ่งในโซนเอนเตอร์เทนของรีสอร์ทว่ะ” มันพูดจบก็กระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมด ผมพยักหน้าให้บาร์เทนดอร์นิดนึง ทว่าพอนั่งลงปุ๊บมันเลื่อนแก้วมันส่งมาให้
“กินกับกูดิ อันนี้ดีกว่า”
“อือ” ผมหยิบมาลองชิมดูครับ แม่งกัดคอชิบหายมันแดกลงไปได้ไง
“เต้นได้มั๊ยวะ” เพลงเพราะดี เค้าเต้นกันอยู่โครม ๆ เลย
มันไม่ตอบอะไรแค่ยิ้ม ผมยกแก้วขึ้นลุกไปเต้นสักพักก็เดินกลับมานั่งลงที่เดิม ตอนนี้หน้าไอ้คิมแดงมาก แต่มือมันยังยกซดไม่หยุด เรานั่งดื่มกันไปเรื่อย ๆพักใหญ่ ๆ จนรู้ว่าดึกมากเพราะเพลงเริ่มเปลี่ยนจังหวะแล้ว...... เพลงช้า ๆ นิ่ม ๆ พอให้คนฟังที่กำลังเมาได้ที่ซบกอดจูบกันนัวเนีย
ผมเองก็เริ่มมึน ๆแล้วล่ะครับเริ่มรู้สึกว่าคนข้าง ๆ มันนั่งจ้องผมนานมากแล้ว อึดอัดไงไม่รู้ผมหันไปมองครับแต่มันก็ยังจ้องอยู่อย่างนั้น พร้อม ๆ กับยกดื่มไปเรื่อยๆ
“ไรวะคิม มองกูอยู่ได้”
“มึงน่ารัก หน้ามึงแดง” ให้ตาย! เพลงแม่งเชี่ย! บรรยากาศโคตร ๆ เลย
“กูหล่อแน่อยู่แล้ว” ผมพูดแก้เขิน กระดกเหล้าเข้าปากอีก ลองหันไปมองนิดหน่อยมันยังจ้องอยู่ ผมนึกขึ้นมาได้เลยครับ ใช่ ! พลอย...มันเห็นหน้าผมแล้วนึกถึงพลอยของมันแน่นอน ทำไมผมรู้สึกเจ็บก็ไม่รู้นึกถึงเรื่องนี้ทีไร ผมคงเมาแล้วล่ะ นั่งกินเหล้าต่อไปเงียบ ๆ ดีกว่า.....
“หน้ากูเหมือนแฟนมึงขนาดนั้น ?” ในที่สุดผมก็ถามออกมา ท่าทางมันตกใจกับคำถามของผมมาก แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ผมจึงพูดต่อไปครับ
“กูใช้คอมฯในห้องมึง เห็นหมดแล้วว่ะ” ผมพูดแล้วยกขึ้นอีกแก้วครับ.........รวดเดียว
“....พลอย..เขาเคยเป็นแฟนกู.....แต่ตอนนี้...เลิกกันแล้ว...เขาทิ้งกูไป” สายตามันฟ้องเจ็บปวดมากมายเลยครับ แต่ผมไม่ถามหรอกนะว่าทำไม ผมไม่อยากรู้
“มึงรู้ไหม ครั้งแรกที่กูเจอมึง กูตกใจหมดเลยว่ะ” มันพูดต่อ
“เหมือนกันโคตรๆ”
“เพราะแบบนี้เหรอวะ มึงถึงขอคบกับกู” ผมถามในสิ่งที่คาใจที่สุดออกไป
“...อืม....อยู่ใกล้มึง..แล้ว....เหมือนกูได้อยู่ใกล้เค้า” แม่ง...คิม....มึงใจร้ายว่ะ! เหี้ยโคตรเลย ผมไม่มีอะไรจะพูดต่อแล้วครับ คำพูดมันจุกอยู่ที่อก ตันไปหมด
..........
.........
ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างเราอยู่พักใหญ่จนในที่สุด......
“กูง่วงแล้ว ไปเหอะ” อยู่ ๆ มันก็ลุกขึ้น แถมยังเซนิดหน่อยด้วยผมรีบใช้มือจับแขนมันไว้
“สงสัยกูจะเมาจริง ๆ ว่ะ”
“กูก็บอกแล้วไงอย่ากินเยอะ มึงจะเดินถึงห้องมั๊ยเนี่ย” ผมบ่นไปงั้นแหละครับ ดับอารมณ์ตัวเอง
กว่าเราสองคนจะเดินไปถึงที่พักได้ ทุลักทุเลเล็กน้อย ผมไขกุญแจเข้าห้องแล้วเสียบคีย์การ์ดลงไป คิมมันเดินเข้าไปแล้วครับ ผมปิดประตูเรียบร้อยก็ตามเข้าไป เห็นมันนอนคว่ำอยู่บนเตียงแล้ว แถมนอนทับผ้าห่มอีกต่างหาก สงสัยเมาหนักหลับไปแล้วมั้ง ผมเข้าห้องน้ำล้างไม้ล้างมือเสร็จก็หรี่ไฟลงอ่อน ๆ แล้วเดินไปที่เตียงขณะกำลังสาละวนกับการลากผ้าห่มออกจากตัวมัน อยู่ ๆ มันก็กระชากเอาตัวผมลงไปกอดไว้กับตัวเลยครับ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ใจผมเต้นแรงมากเลย พอ ๆกับเสียงหัวใจของมันที่ตอนนี้แนบอยู่กับใบหูผม แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรมันก็กดปลายจมูกเข้ามาที่แก้มผมแล้ว (นี่กูถูกผู้ชายหอมแก้ม?)
“คิม ! มึงปล่อยกูสิวะ ทำบ้าอะไรของมึง!” ผมตกใจดันหน้าอกมันออก แต่มันไม่ยอมขยับตัว
“ชู่ว....นอนเถอะ ง่วงแล้ว” ผมมองขึ้นไปเห็นมันหลับตาแล้วอมยิ้มครับ ไม่รู้มันรู้สึกตัวรึเปล่า ตอนนี้ผมขืนตัวไว้สุดกำลังเลย
“มึงปล่อยก่อนสิวะ กอดไว้งี้กูจะนอนได้ไงล่ะ” สองมือของผมดันช่วงลำตัวมันไว้ครับ ส่วนขาผมถูกสองขามันรวบพันไว้ ให้ตายเหอะขยับไม่ได้เลย
“อย่าดื้อครับโน่ กูง่วง” โทนเสียงต่ำ ๆ ของมันผมฟังแล้วขนลุกเป็นบ้าเลย ไม่แค่นั้นพูดจบมันยังกระชับกอดแน่นเข้าไปอีก
“ไม่เอา มึงปล่อยก่อนดิ” ผมไม่ยอม ได้ยินเสียงมันถอนหายใจหนึ่งครั้งแล้ว คลายอ้อมกอดออกนิดหน่อย ก่อนใช้ข้อศอกข้างนึงยันลำตัวขึ้นมามองหน้าผมชัด ๆ ตอนนี้ใบหน้าเราสองคนใกล้กันมากเลยครับ ผมได้กลิ่นเหล้าจากลมหายใจของมันอย่างชัดเจน สายตาที่จ้องมองลงมานั้นเป็นสายตาที่แสดงออกถึงความปรารถนาอย่างมากเลยครับ
“กูขอเถอะว่ะ”
ทันทีที่พูดจบ มันก้มลงมาประกบปากผมทันที ผมเม้มปากไว้แน่นหลับตาปี๋ มันจึงใช้มือข้างนึงขึ้นมาบีบปากผมเบาๆ แต่ผมยังคงขืนไว้ สองมือจิกผ้าปูที่นอนด้วยความหวาดกลัว มันค่อย ๆ ใช้ริมฝีปากนวดไปเบา ๆ รอบ ๆ ริมฝีปากของผมเหมือนกำลังแตะชิมสิ่งที่ห่างหายไปนาน ชิมไปรอบ ๆ เรื่อย ๆ ไม่เร่งรีบ... แปลกมากครับร่างกายของผมไม่ต่อต้าน ไม่รู้ว่าเผยอริมฝีปากรับจูบของมันตั้งแต่เมื่อไหร่ มันค่อยสอดลิ้นเข้ามาเบา ๆ ค่อย ๆ กวาดชิมความหอมหวานไปจนทั่ว สองมือของของผมยกขึ้นไปคล้องรอบคอมันอย่างลืมตัว เราสองคนแลกจูบกันอยู่เนิ่นนาน.....ผมปล่อยให้ความปรารถนาเข้าครอบงำหัวใจ อาจเพราะความเมาหรืออาจเป็นเพราะความต้องการที่อยู่ก้นบึ้งของจิตใจจริง ๆ ก็ไม่ทราบได้ ทั้งผมและมันต่างควบคุมสติไม่ได้อีกแล้ว........จนเวลาล่วงไปสักพักมันละริมฝีปากขึ้นมาแล้วจ้องหน้าผมด้วยแววตาแสนเจ็บปวด....ผมสบตามันในใจเต็มไปด้วยคำถามมากมาย...ทว่าจู่ ๆ มันก็พูดขึ้นด้วยเสียงน้ำสั่น ๆ แต่แผ่วเบาเหลือเกิน
“พลอยครับ ผมคิดถึงพลอย”
!!!!!!!!!!!!!
“เพราะแบบนี้เหรอวะ มึงถึงขอคบกับกู” ผมถามในสิ่งที่คาใจที่สุดออกไป
“...อืม....อยู่ใกล้มึง..แล้ว....เหมือนกูได้อยู่ใกล้เค้า” แม่ง...คิม....มึงใจร้ายว่ะ! เหี้ยโคตรเลย ผมไม่มีอะไรจะพูดต่อแล้วครับ คำพูดมันจุกอยู่ที่อก ตันไปหมด
..........
.........
ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างเราอยู่พักใหญ่จนในที่สุด......
“กูง่วงแล้ว ไปเหอะ” อยู่ ๆ มันก็ลุกขึ้น แถมยังเซนิดหน่อยด้วยผมรีบใช้มือจับแขนมันไว้
“สงสัยกูจะเมาจริง ๆ ว่ะ”
“กูก็บอกแล้วไงอย่ากินเยอะ มึงจะเดินถึงห้องมั๊ยเนี่ย” ผมบ่นไปงั้นแหละครับ ดับอารมณ์ตัวเอง
กว่าเราสองคนจะเดินไปถึงที่พักได้ ทุลักทุเลเล็กน้อย ผมไขกุญแจเข้าห้องแล้วเสียบคีย์การ์ดลงไป คิมมันเดินเข้าไปแล้วครับ ผมปิดประตูเรียบร้อยก็ตามเข้าไป เห็นมันนอนคว่ำอยู่บนเตียงแล้ว แถมนอนทับผ้าห่มอีกต่างหาก สงสัยเมาหนักหลับไปแล้วมั้ง ผมเข้าห้องน้ำล้างไม้ล้างมือเสร็จก็หรี่ไฟลงอ่อน ๆ แล้วเดินไปที่เตียงขณะกำลังสาละวนกับการลากผ้าห่มออกจากตัวมัน อยู่ ๆ มันก็กระชากเอาตัวผมลงไปกอดไว้กับตัวเลยครับ ผมตกใจทำอะไรไม่ถูก ใจผมเต้นแรงมากเลย พอ ๆกับเสียงหัวใจของมันที่ตอนนี้แนบอยู่กับใบหูผม แต่ก่อนที่ผมจะได้พูดอะไรมันก็กดปลายจมูกเข้ามาที่แก้มผมแล้ว (นี่กูถูกผู้ชายหอมแก้ม?)
“คิม ! มึงปล่อยกูสิวะ ทำบ้าอะไรของมึง!” ผมตกใจดันหน้าอกมันออก แต่มันไม่ยอมขยับตัว
“ชู่ว....นอนเถอะ ง่วงแล้ว” ผมมองขึ้นไปเห็นมันหลับตาแล้วอมยิ้มครับ ไม่รู้มันรู้สึกตัวรึเปล่า ตอนนี้ผมขืนตัวไว้สุดกำลังเลย
“มึงปล่อยก่อนสิวะ กอดไว้งี้กูจะนอนได้ไงล่ะ” สองมือของผมดันช่วงลำตัวมันไว้ครับ ส่วนขาผมถูกสองขามันรวบพันไว้ ให้ตายเหอะขยับไม่ได้เลย
“อย่าดื้อครับโน่ กูง่วง” โทนเสียงต่ำ ๆ ของมันผมฟังแล้วขนลุกเป็นบ้าเลย ไม่แค่นั้นพูดจบมันยังกระชับกอดแน่นเข้าไปอีก
“ไม่เอา มึงปล่อยก่อนดิ” ผมไม่ยอม ได้ยินเสียงมันถอนหายใจหนึ่งครั้งแล้ว คลายอ้อมกอดออกนิดหน่อย ก่อนใช้ข้อศอกข้างนึงยันลำตัวขึ้นมามองหน้าผมชัด ๆ ตอนนี้ใบหน้าเราสองคนใกล้กันมากเลยครับ ผมได้กลิ่นเหล้าจากลมหายใจของมันอย่างชัดเจน สายตาที่จ้องมองลงมานั้นเป็นสายตาที่แสดงออกถึงความปรารถนาอย่างมากเลยครับ
“กูขอเถอะว่ะ”
ทันทีที่พูดจบ มันก้มลงมาประกบปากผมทันที ผมเม้มปากไว้แน่นหลับตาปี๋ มันจึงใช้มือข้างนึงขึ้นมาบีบปากผมเบาๆ แต่ผมยังคงขืนไว้ สองมือจิกผ้าปูที่นอนด้วยความหวาดกลัว มันค่อย ๆ ใช้ริมฝีปากนวดไปเบา ๆ รอบ ๆ ริมฝีปากของผมเหมือนกำลังแตะชิมสิ่งที่ห่างหายไปนาน ชิมไปรอบ ๆ เรื่อย ๆ ไม่เร่งรีบ... แปลกมากครับร่างกายของผมไม่ต่อต้าน ไม่รู้ว่าเผยอริมฝีปากรับจูบของมันตั้งแต่เมื่อไหร่ มันค่อยสอดลิ้นเข้ามาเบา ๆ ค่อย ๆ กวาดชิมความหอมหวานไปจนทั่ว สองมือของของผมยกขึ้นไปคล้องรอบคอมันอย่างลืมตัว เราสองคนแลกจูบกันอยู่เนิ่นนาน.....ผมปล่อยให้ความปรารถนาเข้าครอบงำหัวใจ อาจเพราะความเมาหรืออาจเป็นเพราะความต้องการที่อยู่ก้นบึ้งของจิตใจจริง ๆ ก็ไม่ทราบได้ ทั้งผมและมันต่างควบคุมสติไม่ได้อีกแล้ว........จนเวลาล่วงไปสักพักมันละริมฝีปากขึ้นมาแล้วจ้องหน้าผมด้วยแววตาแสนเจ็บปวด....ผมสบตามันในใจเต็มไปด้วยคำถามมากมาย...ทว่าจู่ ๆ มันก็พูดขึ้นด้วยเสียงน้ำสั่น ๆ แต่แผ่วเบาเหลือเกิน
“พลอยครับ ผมคิดถึงพลอย”
!!!!!!!!!!!!!
Tbc.