Tuesday, February 3, 2015

กวน T-E-E-N รัก (II Bad boys) # 3








III


บ่ายคล้อย....ที่โรงเพาะปลูกผักออแกนิกส์และผักไฮโดรโปนิกส์ ภายในงานเกษตรของมหาวิทยาลัย  ความจริงทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการควรจะสนใจในตัวพืชผัก แต่ไม่น่าเชื่อว่าที่มุมเล็กๆจะมีนักศึกษาจากคณะการโรงแรมสามสี่คนจับกลุ่มคุยกันอยู่

อร๊ายยยยยย อิกิ๊ฟ นั่นพี่เอสใช่ไหม กูเห็นพี่เขายืนดูอาจารย์ขายผักอยู่ตรงนั้น มึงบอกกูซิ ว่านั่นไม่ใช่กูตาฝาดไปใช่ไหม กรี๊ดดดดด พี่เอสประจำอยู่ที่นี่กูไม่อยากจะเชื่อ กรี๊ดดดคนพูดชื่อบอย เกย์สาวของคณะการโรงแรมที่แอบมองรุ่นพี่คนหนึ่งมานาน เขาขยี้เท้าด้วยความดีใจ ส่งเสียงกระซิบกระซาบ อยากจะกรี๊ดก็ทำดังๆไม่ได้  สองมือตบแก้มตัวเองเหมือนกำลังปลุกให้ตื่นขึ้นจากฝัน ปกติแล้วจะได้เจอเอสเขาต้องถ่อเข้าไปแอบดูถึงคณะวิศวะ แต่ตอนนี้คนที่เขาอยากเจอมาตลอดกลับมายืนอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาแล้ว

เออๆ ใช่จริงๆว่ะบอยนี่กิ๊ป หนึ่งในเพื่อนหญิงที่ชวนกันมาเดินเที่ยวงาน

โฮ้ย กูนึกว่ากูฝัน แบบนี้ต้องเป็นพรหมลิขิตแล้ว อิกิ๊ฟ มึงไปถามให้กูหน่อยดิ  พี่เขาชอบผู้หญิงหรือชอบผู้ชายวะ..

บ้า กูจะกล้าเหรอ..” 

นะ..เห็นใจกูหน่อยกูแอบมองพี่เขามาตั้งแต่ต้นปีแล้ว จนป่านนี้ยังไม่ได้คุยด้วยสักคำ มึงไปถามให้หน่อยว่าพี่เขาสนใจผู้ชายบ้างป่ะวะบอยคิดว่าวันนี้ต้องเป็นพรหมลิขิตชัดๆ เขาจะต้องรู้ความจริงข้อนี้ของเอสให้ได้

ไม่เอา พี่เขาไม่คุยกับกูหรอกดูหน้าตากูสิขี้เหร่กว่าผู้ชายอย่างมึงอีกอ่ะ

แต่อย่างน้อยมึงก็เป็นผู้หญิง นะกิ๊ปนะ..เขาอ้อนวอนเพื่อนอีก

ไม่เอาบอยกูไม่กล้าจริงๆนะเว้ย

ห้าร้อย กูจ้างมึง

ไม่เอา ไม่กล้าหรอก พี่เขาท่าทางคุยด้วยยากจะตาย

เจ็ดร้อย

ไม่เอาเว้ย ไอ้บอยมึงอย่าเพิ่มนะ

พันนึง นั่นพี่เขาเดินออกไปแล้ว มึงรีบตามไปเร็วเข้า

ไม่เอ๊า!!

พันสอง

ไอ้เหี้ยบอย ไม่ๆๆๆๆๆๆ

ถ้างั้นพันห้า สุดๆของกูแล้ว

สองพัน ถ้าพี่เขายอมคุยกะกูดีๆ กูจะถามไลน์พี่เขามาให้มึงด้วย

รีบไปให้ไวๆเลยมึง โน่น พี่เขาเดินออกไปแล้ว อิขี้งก!กิ๊ฟไม่รอช้า เธอยกมือกดไลท์ให้กำลังใจตัวเองก่อนวิ่งปรู๊ดออกไป บอยยิ้มเผล่หน้าบานด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง


.


ตลอดทั้งวัน เอสกับชิพประจำอยู่ที่อาคารปลูกผักออแกนิกส์  ความจริงวิศวะไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับงานประจำปีของมหาวิทยาลัยครั้งนี้เลย แต่เต้พี่รหัสของเขาซึ่งมีน้องชายเรียนเกษตรดั๊นมีสัมพันธภาพที่ดีกับรุ่นพี่ของคณะนี้เพราะงั้นอาจารย์เลยจัดนักศึกษาวิศวะบางส่วนมาดูแลโครงสร้างอาคารและรับผิดชอบเรื่องสถานที่จอดรถ เอสย้ายท่อรางพีวีซีสำหรับรดน้ำผักให้เคลื่อนที่ไปในตำแหน่งที่รุ่นพี่เกษตรเรียกร้อง ก่อนที่เขาจะถึงคิวพักในช่วงเย็น บุหรี่ในมือถูกจุดขึ้นแล้ว เขาเดินออกมาพักที่ด้านนอก

กูตัวดิ๊..ชิพเดินตามออกมาตบลงที่บ่าแกร่ง  แดดร่มลมตกแล้ว พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแสงสีส้มๆทอประกายไปทั่วทั้งลานงาน  ชิพย่อตัวนั่งยองๆลงที่พื้นมองดูเวลาที่ข้อมือหกโมงเย็นนิดๆ ขณะที่เอสยืนสูบอยู่เงียบ ๆ ตามสไตล์ เขามองไปโดยรอบ เห็นเด็กนักเรียนประถมกับอนุบาลใส่เอี๊ยมแต่งตัวน่ารักที่เดินมากับบรรดาผู้ปกครอง อย่างว่างานมีแค่ปีละหนึ่งครั้งบางคนบางครอบครัวถึงขนาดพาลูกมาดูว่าฟาร์มสัตว์ หรือว่าสถานที่ทำการเกษตรปลูกพืชผักต่าง ๆ ของจริงนั้นทำกันอย่างไร

ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่พวกเขาสองคนยืนอยู่เป็นคอกโชว์วิธีการเลี้ยงสัตว์ต่างๆ โซนด้านซ้ายมือเป็นที่โชว์ปลาสวยงามส่วนด้านขวาเป็นแปลงพืชผักสวนครัวซึ่งดึงดูดต่อสายตาที่สุดเพราะผลสีแดงสดของมะเขือเทศที่ตัดกับใบสีเขียว ๆ มีข้าวโพดต้นอ่อนต้นแก่แปลงใหญ่มาก แตงกวาที่ห้อยอยู่ตามซุ้มปลูกเตี้ยๆ  ฟักทองที่เลื้อยทอดยาวไปตามพื้นดินพื้นหญ้า รวมไปถึงแตงโม องุ่น พุทรายักษ์ที่มีซุ้มโค้งๆไม่สูงนัก คล้ายกับซุ้มของแตงกวา  เอสมองจากตรงนี้ถึงจะไกลไปบ้างแต่ก็ถือว่าเป็นจุดที่ดึงความสนใจของเขาได้มากทีเดียว

พี่คะ..เสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้เขาสองคนหันมาพร้อม ๆ กัน ชิพลุกขึ้นยืน เขาทิ้งบุหรี่ที่เพิ่งสูบได้แค่ครึ่งมวนลงเพื่อรักษามารยาท

ว่าไงครับ..เป็นชิพที่ตอบรับเธออย่างสุภาพ ในขณะที่เป้าหมายคนที่เธอถูกเพื่อนจ้างวานมาล้วงเอาข้อมูลกลับยืนดูดบุหรี่อย่างสบายอารมณ์ควันสีขาวหม่นกำลังค่อย ๆ ทยอยปล่อยออกจากปากเป็นรูปร่างแปลกๆราวกับว่าเขากำลังเล่นกับมัน  ดวงตาคมกริบจ้องมองอยู่ที่แปลงมะเขือเทศไม่ใกล้ไม่ไกล โดยไม่สนใจแลตามาที่เธอเลยแม้แต่นิดเดียว

เอ่อ คือว่ามีธุระกับพี่คนนี้น่ะค่ะ..กิ๊ฟชี้ๆตัวเป้าหมายทันที เอสหันมามองเธอหน่อยนึงเธอจึงรีบหลบ  มันเป็นเพราะค่าจ้างที่ล่อใจ กิ๊ฟจึงอยากจะรีบจัดการธุระให้เสร็จๆ มาก ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้รู้สึกว่าเอสนั้นช่างเป็นคนที่เข้าถึงได้ยาก แววตาเย็นชาที่ทอดมองมานั้นทำเอาเธอหนาวเหน็บแปลกๆ  คณะที่เพื่อนอีกคนกลับทักทายเธออย่างเป็นมิตรมากกว่า

คะ....คะ....คะ....คือ...อออ...เธอพูดไม่ออกใบ้รับประทานจนชิพอดอมยิ้มออกมาไม่ได้ เขากระซิบเอสบอกว่าอย่าทำหน้าดุนักน้องเขากลัว เอสปรายสายตามองเธอก่อนส่ายหัวแล้วหันไปมองโน่นมองนี่ต่อ

เอ้าไหนว่ามีธุระจะคุยกับเพื่อนพี่ครับ พูดไม่ออกไปซะแล้ว..ชิพแซว

พูดค่ะพูด หนูจะพูดเดี๋ยวนี้เลย หนูมีเรื่องอยากจะถามพี่ค่ะ พี่คนนี้....เธอรีบตั้งสติใหม่ ตบๆใบหน้าพลูลมหายใจลึกยาว

เฮ้ยไอ้เอส น้องเขามีเรื่องอยากจะถามมึงว่ะ..ชิพคว้าไหล่เอส เรียกเพื่อนตัวเองให้หันมามองที่น้องเขาบ้าง

ว่า...?”  เอสหันมาจ้องหน้าเธอ เขากำลังรอคำถาม แต่เป็นเธอที่ประหม่าแดกอีกแล้ว

“...........”

ตกลงไม่ถามใช่ไหมครับน้อง เพื่อนพี่มันขี้รำคาญเดี๋ยวเกิดเดินหนีขึ้นมาห้ามร้องไห้นะชิพแกล้งขู่

ถามค่ะถาม กิ๊ปถามแล้วค่ะ”  สาวขี้อายหลายรายมักเป็นแบบนี้เสมอเวลาที่จะเข้ามาขอข้อมูลจากพวกเขา ไม่เข้าใจจะอายไปทำไมนักหนา ถ้าอายก็ไม่ต้องเข้ามาถามแต่แรกก็จบ

รอฟังอยู่...เอสคาบบุหรี่ไว้ที่ปากแล้วพูดบอกเธอ เขาล้วงเอามือถือขึ้นมากดถ่ายรูปแปลงมะเขือเทศ สีแดงแซมเขียวที่สวยจนล่อตา  ส่วนกิ๊ปเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้ากำลังสนใจอยู่กับการถ่ายภาพเธอจึงรีบรวบรวมความกล้าแล้วถามออกมารวดเดียว

เพื่อนหนูฝากมาถามว่า  พี่เอสพี่ชอบผู้หญิงหรือผู้ชายคะ..” 

คล้ายทุกสิ่งระหว่างเขาทั้งสามคนหยุดชะงัก เธอรู้สึกตัวอีกทีเมื่อได้ยินเสียงขำเบา ๆ จากชิพ แต่กับเอสนั้น เขายังพ่นควันขาวออกจาปากอย่างไม่แคร์ก่อนทิ้งก้นบุหรี่ลงแล้วก้าวเข้าไปหาเธอใกล้ ๆ เอียงหน้าเข้าไปกระซิบที่ริมหูเล็ก

กลับไปบอกเพื่อนนะ ถ้าอยากรู้ให้มาถามเอง...

หัวใจกิ๊ฟแทบจะหยุดเต้นเมื่อมันใกล้มากถึงขนาดได้กลิ่นมินต์จาง ๆ ของบุหรี่ผสมกับกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆแบบของผู้ชายจากเขา เธอเงยหน้ามองเอสราวกับถูกเวทมนต์ดึงดูดสายตา

ตามนั้น....เสียงทุ้มที่ดังขึ้นปลุกสติของเธอให้กลับมาจนได้

ตะ..แต่  พี่คะ หนูกราบล่ะพี่บอกหนูหน่อยเถอะ ถ้ากลับไปโดยที่ไม่ได้คำตอบอะไรเลยเพื่อนมันเอาหนูตายแน่อ่ะ

“..........” เอสไม่ได้พูดอะไรกับเธอต่อ เขาส่ายหัวปฏิเสธอย่างเบื่อหน่ายเมื่อคุยแล้วดันไม่รู้เรื่อง  เขาเดินมาอีกฝั่งนั่งยอง ๆ ลงข้างชิพปล่อยให้เธอยืนเคว้งตาล่ะห้อยอยู่ตรงนั้น นานพอจนชิพอดที่จะสงสารไม่ได้

เพื่อนพี่มันใจร้ายแบบนี้แหละ ถ้ามันบอกว่าไม่แล้วก็คือไม่ครับ น้องกลับไปบอกเพื่อนเถอะนะ ตามที่พี่เอสเขาบอกอ่ะ อยากรู้ก็ให้เดินมาถามเอง

แต่เพื่อนหนูกลัวพวกพี่นี่คะเธอว่าเสียงอ่อน

กลัวทำไมพวกพี่ไม่กัดหรอก บอกเขาสิถ้าอยากรู้ให้มาถามเอง ใจไม่กล้าแบบนี้ไม่ได้แดกเพื่อนพี่หรอกครับแต่ว่าถ้าใจกล้าจนเกินงามเพื่อนพี่มันก็ไม่เอาอีกเหมือนกัน อันนี้ชิพไม่ได้พูดได้แต่นึกอยู่ในใจ เขายิ้มบางๆให้เธอ กิ๊ปกัดริมฝีปากเหมือนกำลังใช้ความคิด

เอางี้ได้ไหมคะ ถ้าพี่เอสไม่บอกก็ไม่เป็นไร งั้นถามพี่ก็ได้หนูจะได้มีคำตอบไปให้เพื่อน พี่คะพี่เอสเพื่อนพี่อ่ะชอบผู้หญิงหรือผู้ชายคะพี่..

ชิพรู้สึกว่าตัวเองกำลังโดนของร้อนเข้าเล่นงาน ผู้หญิงนี่จัดการด้วยยากเย็นที่สุด มิน่าไอ้เอสถึงได้หนีไปยืนอยู่อีกฝั่งให้เขาช่วยกันเธอให้ ชิพมองหน้าเธอแล้วนึกว่าถ้าไม่บอกอะไรออกไปคนแบบนี้คงไล่ไม่ไปแน่ ๆ เขาก็เลยก้มลงไปกระซิบใกล้ ๆ

มันชอบทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายนั่นแหละ..คราวนี้ไม่รู้ทำไมกิ๊ปจึงไม่รู้สึกประหม่า ทั้งที่ใกล้เหมือนกันแท้ ๆ   เธอทำตาลุกวาว ท่าทางดีใจสุดขีดแทบจะกระโดดจนตัวลอย เมื่อคำตอบออกมาแบบนั้น

จบนะทีนี้..ชิพพยักหน้าให้ เธอรีบพยักตอบรัว ๆ ก่อนขอบอกขอบใจแล้ววิ่งหายเข้าไปด้านในโรงปลูกผัก เอสเงยหน้ามองเพื่อน พอชิพนั่งลงเขาจึงถามว่าไปพูดยังไงเธอถึงยอมไป

ก็แค่ตอบคำถามแทนมึง

มึงตอบว่ายังไง...เอสสงสัย

ก็บอกไปว่ามึงชอบทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายไง

สัส...!.

อะไรของมึง นี่เขาเรียกตอบแบบกลาง ๆ เว้ย คนช่วยยังไม่รู้ตัวอีก

หาเรื่องให้กูล่ะสิไม่ว่า...เอสบ่นพึมพำเมื่อเสียงกรี๊ดดังลั่นมาจากด้านในชิพรีบลุกขึ้นวิ่งเข้าไปชะโงกดู ปรากฏว่าเป็นเด็กนักศึกษากลุ่มของกิ๊ฟที่กรี๊ดดดด แตกขึ้นมา

หึ ไงล่ะ..นี่น่ะเหรอที่เรียกว่าช่วยกูเอสส่ายหัว

เอาน่า โทษทีว่ะเพื่อน..ไม่มีคำไหนจะดีเท่าคำนี้อีกแล้วเมื่อชิพมองเห็นหน้าเพื่อนสาวแตกของน้องกิ๊ฟ เขาตบลงที่บ่าแกร่งอย่างปลอบใจ

สวยเหี้ยๆเลยเอสว่า

เอ๊ะไอ้สัส มึงอย่าไปว่าผู้หญิงงั้นสิวะ

“ผู้หญิง?” เอสเลิกคิ้วกวนตีนใส่  ชิพยิ้มแห้ง ๆ กลับมา ก็รู้อยู่หรอกว่าเอสหมายถึงอะไร

“มึงไม่รู้ไง สมัยนี้กระแดะๆไม่เป็นที่ต้องการของตลาดแล้วนะเว้ย ผู้ชายน่ะเขามองแค่ผู้ชายด้วยกันเท่านั้นล่ะ ไอ้ประเภทอยากสวยอย่างผู้หญิงน่ะ ควรปรับปรุงตัวนะรู้ยัง”

“แหม่...มึงพูดซะกูคิดว่ามึงเป็นจริง ๆเลยนะไอ้เพื่อนเหี้ย..” ชิพจับต้นคอเอสแล้วบีบ เพื่อนเขาคนนี้บทจะพูดก็หมดเปลือกซะ  เอสหันมายกยิ้มกวนตีนให้

“เป็นไม่เป็นไม่รู้ แต่ถ้าเจอคนที่ถูกใจจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกูก็เอา”

ตรงไปไหนสัส เอาบุหรี่ออกมาอีกดิ๊”  เอสไหวไหล่บอกหมด แล้วส่ายหัว ชิพเลยต้องล้วงเอาของตัวเองขึ้นมา


.


ไอ้แคปโว๊ยยยยย ทางนี้!เสียงอาร์เรียกมาจากที่ไกลๆ โบกไม้โบกมือเรียกชูถุงขนมขึ้นจนสูง  แคปเงยหน้ามองท้องฟ้า แดดร่มแล้วเพราะเริ่มเย็น  วันนี้เขารับหน้าที่เฝ้าแปลงมะเขือเทศและแปลงปลูกข้าวโพด แคปแบกจอบพาดใส่บ่าแล้วเดินเข้าไปหาเพื่อน
อ่ะ กินป่ะอาร์ชวนเขากินผลไม้ ที่ซื้อมาจากโซนขายของใกล้ ๆ แคปส่ายหัว เขาไม่ชอบกินของจุกจิกแบบนี้ อาร์เลยดึงมือเขาให้ตามไปดูที่แปลงปลูกแตงโม

มึงดูนี่ แตงโมลูกนี้ใหญ่น่าดูเดี๋ยวถ้ามีเด็กๆผ่านมากูจะเด็ดให้น้องเขาฟรีๆเลยอาร์อวดแปลงแตงโมของตัวเอง แต่แคปไม่สนใจจุดนั้น เขากำลังมองไปที่เครือของฟักทอง มันเหมือนมีหนอนขนหรืออะไรแปลกๆมาทำรังที่ดอก แคปจึงบอกอาร์ให้ระวังเพราะกลัวเด็กๆที่มาดูจะไปจับเข้าแล้วอันตราย อาร์รีบมากำจัดแล้วเขี่ยออก

เด็กๆชอบดูมะเขือเทศว่ะแคปบอกอาร์  เออก็มันสีสวยนี่หว่า

ข้าวโพดเด็กก็ชอบนะมึงแคปบอกต่ออีก อาร์พยักหน้า

กูเห็นน้องๆกลุ่มเมื่อกี้หิ้วฝักข้าวโพดออกไปด้วย  มึงระวังอาจารย์จะดุนะเว้ยไอ้แคปอาร์รู้ว่าแคปเป็นคนเอาให้แน่ ๆ เห็นเพื่อนเขาดุๆแบบนี้แต่แพ้เด็กๆนะขอบอก

ก็น้องเขาอยากได้กูเลยเด็ดให้..แคปว่าแล้วเอาจอบขุดๆวัชพืชที่รกออกให้ เสียงโทรศัพท์มือถือดัง เขาเลยเอาขึ้นมากดรับ

มีไร..สายจากปอที่อยู่โรงเลี้ยงสัตว์ วันนี้ปอรับหน้าที่เฝ้าแม่ไก่ออกไข่กับเฝ้าแม่วัวโคนม

(แคป มึงอยู่ไหนกูมีไรจะอวด)

อยู่ที่แปลงแหละ มีไรอ่ะทำเสียงตื่นเต้นไปได้แคปมองเห็นที่แปลงตัวเองมีกลุ่มเด็กๆเดินผ่านมาดูอีก เขาจึงพยักหน้าบอกอาร์ว่าจะไปเฝ้าแปลงก่อนแล้วเดินออกมา

(เอาน่า  เดินจะถึงแล้วเดี๋ยวมึงต้องตกใจแน่ๆกูมีอะไรเด็ดๆด้วย)

เออๆรีบมากูเฝ้าต้นข้าวโพดอยู่เนี่ย

อือๆ..

พอกดวางสายได้ไม่ถึงหนึ่งนาที ปอกอบสองมือวิ่งเข้ามาหา แคปรีบชะโงกหัวเข้าไปดู ปล่อยเด็กๆเดินผ่านไปที่แปลงของอาร์

อะไรวะ..แคปเงยหน้าถามทั้งที่เห็นๆอยู่แล้วว่าปอประคองไข่ไก่หนึ่งฟองมาให้เขาดู

นี่อ่ะ กูเพิ่งเห็นมันตกออกมาจากตูดไก่เลยนะเว้ย มหัศจรรย์เป็นบ้า แม่ไก่ออกไข่ร้อนๆเลยไอ้แคปมึงดูเขาบอกแคปด้วยท่าทางภูมิอกภูมิใจ จริง ๆ แล้วแคปเองก็อยากจะไปเฝ้าไก่แม่พันธ์ออกไข่นั่นแหละแต่อาจารย์ดันจับเขามาเฝ้าแปลงผักเสียได้

จะเอาไงกับมัน แล้วมึงไปเก็บมาทำไมวะ ไม่เอาไว้ให้คนเขาดู

ไม่เอาอ่ะ กูจะเอามาอวดมึง

บ้าเอ๊ย เผื่อมันจะฟักออกมาเป็นลูกไก่ล่ะแคปชักเริ่มหวั่นๆ เมื่อเขารับไข่มามันยังร้อนอยู่มากจริง ๆ มือแทบลวก

งั้นเราจะทำยังไงดีวะปอกระซิบหน้าเครียด  แคปหันซ้ายหันขวา คนแถวนี้ค่อนข้างน้อย เขาเลยดึงแขนปอให้ตามเข้าไประหว่างซุ้มต้นข้าวโพดกับต้นมะเขือเทศ

ทำไรของมึง...ปอสงสัย แต่ก็ยอมเดินตาม

เราจะทำรังให้มันไง ถ้ามันอบอุ่นมันก็จะฟักออกมาได้ไม่ใช่เหรอวะ เอามันวางไว้ตรงนี้ดิ๊..แคปว่าแล้วใช้เสียมที่ลากติดมือเข้ามาด้วยขุดๆๆลงไปที่ดินแล้วเอาฟางข้าวโพดวางทำเป็นรังให้มัน

ตรงนี้น่ะเหรอ..ปอถามงงๆ

เอ๊อ ตรงนี้ล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาดูกันรับรองมึงได้เห็นลูกเจี๊ยบแน่ ๆ เชื่อกูดิ

กูไม่อยากจะเชื่อเลยปอหรี่ตาทำหน้าไม่เชื่อ แคปเลยโบกหัวเพื่อนแล้วแย่งเอาไข่มาวางไว้เองอย่างระมัดระวัง เขาลูบๆมันแล้วสั่งไข่ว่าให้รีบๆฟักออกมา

ออกไปได้แล้ว ปล่อยมันไว้ตรงนี้แหละแคปดึงเพื่อนให้ตามกันออกมา  พรุ่งนี้อาจารย์บอกให้กูรีดนมวัวโชว์ด้วย มึงอยากทำไหมปอหันมาถาม เมียงมองไปที่จุดของตัวเองคนเริ่มเยอะเขาเลยคิดว่าจะเดินกลับไปแล้ว

เอาดิ่ บ่ายๆกูว่างที่นี่ร้อนคนไม่ค่อยมี เดี๋ยวไปช่วยมึงก็ได้แคปเดินออกมาส่งเพื่อนได้แค่ครึ่งทาง เจอกลุ่มพี่รหัสของตัวเองมาเดินตรวจแปลง เขายกมือไหว้ทักทายกันตามปกติ

ไง  น้องไอ้เต้พายเป็นพี่รหัสของแคป เขาสนิทกับเต้เพราะรู้จักกันตั้งแต่เด็กเพราะงั้นเลยชอบแซวแคปแบบนี้บ่อย ๆ แล้วพูดไม่พูดเปล่ายังคว้าเอาคอขาว ๆ ของแคปเข้ามากอดไว้อีก แคปรีบยกออกแล้วชี้บอกอย่า พายหัวเราะ

ผมแคปครับมีชื่อนะมีชื่อ เรียกชื่อผมด้วยแคปส่ายหน้าหน่าย ๆ พร้อมกับล้วงกระเป๋าเสื้อชอปคว้าเอาใบตรวจแปลงส่งให้พายเซ็นต์

อ้าวเหรอ ชื่อไรนะลืม คาปูรึเปล่าน๊า..พายล้อเขา  พอเซ็นต์ชื่อเสร็จยัดใส่อกคืนแคป  พร้อมคำพูดล้อเลียน แคปรีบชี้หน้าแล้วบอกอย่าเรียกคาปูอีก พายหัวเราะแล้วเอามือยีหัวเล็ก

คืนนี้ว่างป่ะวะ..พายถาม

ทำไมครับ พี่พายมีอะไรแคปดึงปอให้หลีกทางรุ่นน้องอีกคนที่กำลังยกปุ๋ยผ่านเข้ามาที่แปลงผักของเขา

ไปแดกเหล้ากัน ที่เดิม

คืนนี้?” แคปทวนคำนิดๆ เขากำลังคิดว่าคืนนี้อาจไม่ว่าง มีเรื่องที่ค้างคามาตั้งแต่เมื่อวานที่เขากับเอสทะเลาะกันที่ร้านกาแฟแล้วแยมแฟนของเขาเข้าใจผิดเพราะคำพูดบ้าๆของไอ้เอสนั่น คืนนี้แคปต้องไปง้อแยมที่ห้อง

ทำไมวะ ไม่ว่างรึไง มันนัดใครป่ะเนี่ยไอ้ปอมึงรู้ป่ะ

นัดเมียมันมั้งพี่ปอตอบแบบไม่รู้สึกผิดสักนิดขณะที่แคปหันมองตาเขียว

แล้วแต่มึงละกันถ้าว่างค่อยไป ไม่ว่างก็ไว้วันหลังเว้ย กูไปนะ

ครับเจอกัน

พวกรุ่นพี่เดินกันไปแล้วปอเองก็โบกไม้โบกมือให้แล้วแยกไปเช่นกัน แคปเริ่มคิดถึงรังไข่ที่เขาไปทำเอาไว้กำลังจะเดินกลับไปดู มือเล็กๆก็มาคว้ามือของเขาเข้าไว้ แคปก้มลงมอง

พี่คะพี่ มะเขือเทศสีแดงอันนั้นหนูขอได้ไหม..เป็นเด็กผู้หญิงน่าตาน่ารัก มัดผมแกะผูกโบว์คิดว่าคงอยู่ระดับอนุบาล แคปมองซ้ายมองขวากลัวจะเป็นเด็กหลงทางกับผู้ปกครองแต่พอเห็นว่าคุณพ่อกับคุณแม่หนูน้อยยืนยิ้มเผล่มาทางนี้เขาก็โล่งใจ จูงมือเธอเดินไปดูต้นมะเขือเทศใกล้ ๆ

หนูชอบมะเขือเทศ เวลาหม่าม๊าทำข้าวผัดหนูอร่อยแคปย่อตัวนั่งยองๆลง หนูน้อยตามเข้ามานั่งลงที่ตัก เขาหนักนิดหน่อยแต่ก็ชอบ กอดเอวน้องไว้เพราะกลัวน้องจะตก

อยากได้เหรอครับแคปถามพลางประคองพวงมะเขือเทศสีแดงสดให้คนสวยดู เธอยิ้มคิกคักชอบอกชอบใจ แคบล้วงกรรไกรตัดกิ่งที่พกไว้ออกมาแล้วตัดให้เธอช่อเล็กๆหนึ่งอัน ดูท่าทางหนูน้อยมีความสุขมาก คุณแม่เธอยื่นโทรศัพท์มือถือส่งให้แล้วบอกขอรบกวนถ่ายรูปน้องหนูกับต้นไม้หน่อย แคปโอเคแต่คนสวยบอกจะถ่ายกับเขา  แคปเลยจำใจเซลฟี่ร่วมกับเธอ

กอดหนูแน่นๆเลย พี่ชื่อไยอ่ะพูดก็ยังพูดไม่ชัดแคปยีหัวเล็กอย่างเอ็นดู

พี่ชื่อแคปครับ แล้วหนูชื่ออะไรน๊า

หนูชื่อยาหยี โตขึ้นหนูจะมาเรียนดูแลผักเหมือนพี่แคป

ครับๆ ยาหยีคนเก่ง พี่แคปจะรอดูนะว่าคนสวยจะเข้ามาเรียนได้ตอนไหน

พอแคปพูดแค่นั้น น้องหยาหยีรีบกระโดดลงจากตักแล้ววิ่งไปหาคุณพ่อคุณแม่ดึงๆมือบอกจะกลับบ้านไปอ่านหนังสือแคปหัวเราะชอบใจเดินไปยื่นโทรศัพท์คืนให้กับคุณแม่ของเธอ

ขอโทษด้วยนะคะ น้องหยีชอบปลูกต้นไม้มากเลยค่า แต่เราอยู่คอนโดไม่มีพื้นที่ ต้นมะเขือเทศก็เพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก รบกวนมากๆเลย

ไม่เป็นไรครับ ถ้าว่างวันหลังพาน้องมาอีกก็ได้ผมยินดีแนะนำให้ทุกอย่างแคปเห็นหยกเก็บมะเขือพวงที่เขาตัดให้ยัดใส่เสื้อเอี๊ยมอนุบาล เธอหันมาโบกมือบ๊ายบายเขาก่อนถูกคุณแม่จูงไปดูคอกสัตว์ต่อ


.


มองอะไรของมึง  จ้องอยู่นานแล้วนะเว้ยไอ้เอสชิพหันไปเรียกเพื่อนเมื่อเห็นว่าตั้งแต่ตอนที่ยัยน้องกิ๊ฟอะไรนั่นเข้ามาถามคำถามประหลาดๆกับเอส เพื่อนเขามองไปที่แปลงพืชไร่พืชผักนานแล้ว

เปล่า เข้าไปกันเถอะเอสทิ้งบุหรี่แล้วกอดคอชิพพาเดินเข้าไปด้านใน ขณะที่ชิพหันมองที่แปลงมะเขือเทศดีๆอีกครั้ง ถ้าเขาไม่เข้าใจอะไรผิดผู้ชายคนที่กำลังยืนโบกมือให้เด็กผู้หญิงผมยาวมัดแกะใส่ชุดเอี๊ยมอนุบาล  มันน่าจะเป็นไอ้คนที่เพื่อนๆเขามันบอกว่าเป็นน้องชายของเฮียเต้  ชิพหยุดชะงักเท้าทันทีทำให้เอสเองก็ต้องหยุดเดินด้วย เขาหันมาเลิกคิ้วถามว่าชิพเป็นอะไร

ชิพชี้ตรงไป

คนนั้นน่ะ ใช่ไอ้แคปไหมวะ น้องชายพี่เต้ที่มีเรื่องกับพวกมึงวันนั้นน่ะ..แค่ได้ยินคำถามเอสก็ไม่จำเป็นต้องมองตามเรียวนิ้วเพื่อนให้เสียเวลา เพราะเขารู้อยู่ก่อนแล้วว่าใช่หรือไม่ เห็นแบกจอบเดินไปเดินมาระหว่างแปลงผักก็เสียวสันหลังแล้ว

ไม่รู้เอสตอบหน้านิ่ง

ไม่รู้ได้ไงวะ กูเห็นมึงมองอยู่นานแล้วนี่หว่าชิพถามตรงไปตรงมา จนเอสต้องหันมาจ้องหน้าเพื่อน เขาตัดสินใจส่ายหัวแล้วบอก...

ไม่รู้ กูไม่ได้มอง

ชิพร้องหึในลำคอทันที รู้ๆกันอยู่ว่ามอง ปากมึงจะแข็งไปไหนสัส  แต่ก่อนที่จะได้พูดตอบกลับอะไรเพื่อนเขาถูกลากตัวตามเข้าไปแล้ว  มีเสียงโทรศัพท์ของเอสเรียกเข้าเอสเอาขึ้นมากดรับ  เป็นเมี่ยงโวยวายมาตามสาย มีเสียงบุ้งแทรกเป็นระยะ

อะไรของมึงค่อยๆพูดกูฟังไม่รู้เรื่องเอสเอามือถือห่างออกจากหู เพราะเสียงที่วุ่นวายเกินพิกัดจากสถานีปลายทาง

(กูบอกให้มึงมาเก็บอิน้องฟางของมึงกลับไปที กูทนไม่ไหวแล้วโว๊ยยยยไอ้เหี้ยเอส เล่นเอาอะไรมาโยนให้กูเนี่ย)

เสียงเมี่ยงแว๊ดมาจากปลายสาย เอสส่ายหัวอย่างระอา เขาลืมไปเลยเมื่อเช้าเมี่ยงโทรมาบอกว่าฟางข้าวไปหาเขาที่ลานจอดรถ รออยู่ตั้งนานเพื่อนเขาก็หลบหลีกไม่ยอมบอกเธอว่าเขาอยู่ที่ไหน  เธอก็ทั้งบ่นทั้งทำ แม้แต่ข้าวเที่ยงก็มีไอ้เมี่ยงกับไอ้บุ้งไปหามาให้กิน ว่าไปแล้วเพื่อนที่แสนดีสองคนก็น่าสงสารใช่เล่น

เย็นแล้ว มึงบอกน้องเขากลับไปดิวะ

(เหี้ยไรไอ้เอสนี่กูหลบมาโทร ถ้ายัยฟางเน่ารู้ว่ากูโทรหามึงต้องจิกหัวกูให้พาไปหามึงแน่ ๆ อ่ะ บ้าฉิบผู้หญิงอะไรตื้อที่สุดในสามโลก เพื่อนเหี้ย!)

ใจเย็นไอ้เมี่ยง อย่าโวยวาย  เอามือถือไปส่งให้น้องเขาดิ๊ เดี๋ยวกูคุยให้

(เออดี รู้จักรับผิดชอบของๆตัวเองมั่ง....บลาๆๆๆ) เมี่ยงเดินบ่นไปหาฟางข้าว เจอเธอกำลังโบกๆรถให้เข้าจอด หน้าตานี่ดำเป็นแป้งหมี่ไหม้ ๆ คราบเหงื่อไคลเต็มตัวไปหมด สภาพสาวสวยเซ็กซี่เมื่อวานอย่าได้ไปถามถึง เมี่ยงยื่นโทรศัพท์ให้เธอแล้วบอกเอสจะคุยด้วย  ฟางข้าวดีใจจนอกแทบระเบิดเธอถอดมาสค์ปิดปากทิ้งทันที

(ฮัลโหลค่า พี่เอส)

เย็นมากแล้ว กลับได้แล้วมั้งเอสบอกเธอไป

(ฟางมาทำตามที่พี่บอกแล้ว พี่เอสจะรับเป็นพี่เทคให้ฟางได้ใช่ไหมคะพี่ พี่สัญญาไว้แล้วนะ)

“..............” เอสพ่นลมหายใจอย่างเซ็ง ๆ เมื่อทุกอย่างบีบให้เขาจำใจต้องตอบรับ ใครจะคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นจอมตื้อขนาดนี้

(พี่เอสจะผิดคำพูดกับฟางเหรอคะ  พี่สัญญาไว้แล้วนี่ ไม่ยอมนะฟางไม่ยอมไม่ยอมไม่ยอม ฟางข้าวเริ่มเบะปากน้ำเสียงเธอออดอ้อนเขาบอกให้รู้ว่ากำลังจะร้องไห้แน่แล้ว เอสยกมือขึ้นเสยผมอย่างหงุดหงิด สบถในคอ  ชิพที่ไม่รู้เรื่องก็จ้องหน้าว่าเพื่อนเป็นอะไร เอสถอนหายใจหนักๆ

ตามใจละกัน แต่เทคแคร์ไม่เก่งนะบอกไว้ก่อน ถ้าจะเอาเป็นพี่เทคต้องรับให้ได้

ข้อนั้นน่ะฟางรู้อยู่แล้วล่ะค่ะ ขอบคุณนะคะพี่เทคสุดหล่อ จุ๊บๆเอสมองหน้าชิพแล้วส่ายหัวหนักๆ เขาล่ะเหลือทนกับผู้หญิงคนนี้สุดๆไปเลย

ที่นี้จะกลับได้แล้วใช่ไหม เพื่อนพี่เขาจะได้ทำงานกันสะดวกสบายสักหน่อย

(แหมทำอย่างกับฟางมาขวางงั้นแหละ ฟางน่ะ......บลาๆๆๆ) เอสไม่รอให้เธอพูดจบ พอเห็นว่าเสียงเล็กๆเริ่มบ่นนั่นบ่นนี่ เขาก็ยัดมือถือส่งให้ชิพเอาไปคุยต่อ ผลสุดท้ายคนที่เคลียร์เรื่องยัยฟางข้าวให้ได้ก็คือชิพนั่นเอง

คืนนี้มึงไปป่ะวะ..ชิพยัดมือถือส่งคืนให้เพื่อนแล้วถาม เพราะว่าตอนบ่ายกลุ่มพี่ลำดับเดินมาชวนพวกเขาถึงที่ แล้วยังบอกว่าแวะไปชวนเมี่ยงกับบุ้งแล้วเรียบร้อย นี่ยังไม่รวมไอ้บุ้งโทรมาล๊อคตัวเขาแล้วเรียบร้อย ยังเหลือเอสที่ไม่รู้ว่าจะเอายังไง

ไปดิ่ กี่โมงมึงจะไปไง กูไปรับไหมหรือจะไปกับไอ้บุ้ง

ไอ้บุ้งบอกจะมารับกู

เอองั้นพวกมึงแวะรับไอ้เมี่ยงด้วย กูขี้เกียจวนไปทางนั้น แล้วค่อยไปเจอกันที่นั่นเลย


.


ดึกๆของวันนั้นแคปไปที่อพาร์ทเม้นท์ของแยมแฟนคนล่าสุดของเขา แน่นอนว่าเธอโกรธเขาตั้งแต่เมื่อวาน เพราะเอสดันไปพูดจาวางระเบิดใส่เขาที่ร้านกาแฟ จริงๆแล้วแคปสมควรโทรหาเพื่อเคลียร์กับเธอตั้งแต่เมื่อคืน แต่เขาก็พลาดมากเมื่อหลงลืมนั่งดูการ์ตูนกับปอจนเพลิน เผลอหลับกองกันอยู่หน้าทีวี จนกระทั่งป่านนี้ยังไม่ได้โทรหาเธอสักสาย แคปกะว่าคืนนี้จะมาค้างที่นี่ง้อเธอสักหน่อย

เขาเดินควงกุญแจรถอย่างอารมณ์ดีขึ้นบันไดมา ห้องเธออยู่แค่ชั้นสองเพราะงั้นไม่ต้องใช้ลิฟต์ให้เสียเวลา  กำลังจะถึงทางเลี้ยวหัวบันไดอยู่แล้วหูก็ดั๊นดีเกินไป  เสียงชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังพลอดรักกันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลทำให้เขาต้องชะงักเท้าเดิน

เสียดายจังเลยค่ะที่คืนนี้แบงค์อยู่ค้างกับแยมไม่ได้ แยมเหงานะเนี่ย แบงค์อ่ะแย่ที่สุดเลย

ไม่เอาน่า เมื่อกี้ทำให้หายเหงาไปตั้งหลายยกแล้ว คืนนี้แยมพักบ้างนะครับ

ก็แยมคิดถึงแบงค์นี่

น่ารักจริง ๆ แฟนใครน๊า..

คนบ้า แยมแฟนแบงค์เหอะ ไปได้แล้วขับรถดีๆล่ะ ถึงแล้วโทรมาบอกด้วย บายยยย จุ๊บ” 

แคบก้าวขึ้นไปดูสองคนเต็มตา ไม่ต้องมีคำอธิบายอะไรมากมายอีกแล้วเมื่อน้องแยมของเขายืนอยู่ในชุดผ้าขนหนูผืนเดียวคาบานประตูห้องแล้วเขย่งตัวห้อมแก้มไอ้เหี้ยนั่น แคปกำพวงกุญแจไว้แน่น ก่อนก้าวเข้าไปหาคนที่กำลังจะกลายเป็นอดีตแฟนในไม่กี่วินาทีข้างหน้า

ผั๊วะ...

กรี๊ดดดด พี่แคป!แยมอุทานขึ้นตาโต ขณะที่ฝ่ายชายเองเซถอยออกไปแคปไม่รอช้ากระชากคอเสื้อมันเข้ามาซัดซ้ำลงอีกหมัดโดยไม่จำเป็นต้องซักถามใดๆอีกแล้ว  แบงค์ล้มกองลงที่พื้น แคปจ้องหน้า เขาจำมันได้ในทันที ไอ้เด็กบริหารรุ่นเดียวกับแยม เคยเห็นมันประมาณสองสามครั้งแยมบอกเขาว่ามันเป็นแค่เพื่อน จริง ๆ จะว่าหวงไหมไม่เท่าไหร่ แต่ที่แค้นใจเพราะโดนเห็นว่าเป็นควายต่างหาก นั่นคือจุดพีคสำคัญ

พี่แคป แยม....ไม่ใช่นะคะพี่แคป ฟังแยมก่อนคือ....เธอแก้ตัวละล่ำละลัก ขณะที่มือจับไม่ให้ผ้าขนหนูที่นุ่งอยู่หลุดลงจากหน้าอก  ส่วนไอ้เด็กแบงค์นั่นทรุดกองลงที่พื้นมันไม่กล้าลุกขึ้นมาเพราะโดนแคปเหยียบไว้แล้วชี้หน้า

หลอกกูมานานรึยัง..แคปมองหน้าแยม เธอร้องไห้โฮ มีสองสามห้องเริ่มเปิดประตูออกมาดู

แยม นี่มันอะไรกันน่ะไอ้แบงค์ไม่เจียมจู่ ๆ ถามขึ้น แคปเลยกดน้ำหนักเท้าลงไปอีก

พี่แคปแยมขอโทษ แยมเลือกพี่แคปนะ คือมันไม่ใช่อ่ะ พี่แคปฟังแยมนะคะ”  แคปปล่อยไอ้แบงค์ออกจากตีนที่เหยียบไว้ ไอ้เด็กนั่นลุกขึ้นมา มันจ้องหน้าแยมด้วยแววตาแห่งความเสียใจ ถามเธอเสียงสั่น

แยมพูดอะไรน่ะ ไหนบอกว่ารักแบงค์ไง เราคบกันอยู่ไม่ใช่เหรอ

หยุดนะแบงค์ แยมเลือกพี่แคปต่างหาก

แต่แยมเป็นเมียแบงค์ เราคบกันมาตั้งเดือนนึงแล้วนะ

แยมบอกให้หยุดพูดไง!เธอตวาดขึ้นเสียงดัง แบงค์หน้าซีด แคปเลยเดินเข้าไปหาเธอ

ตกลงแยมเลือกพี่ใช่ไหม งั้นบอกมันไปสิ แยมเป็นเมียพี่ก่อนมัน ไล่มันกลับไปเลยถ้ารักพี่เลือกพี่แล้วแยมก็ไม่จำเป็นต้องมีมันอีกแยมมองหน้าแคปทันที ประโยคที่ดูเหมือนกับว่าแคปจะยกโทษให้เธอ ในที่สุดแยมตัดสินใจเลือกเขา

แบงค์นายกลับไปเหอะ แยมเลือกพี่แคป แยมรักพี่เขาและแน่นอนว่าพี่แคปมาก่อนแบงค์ เราจบกันตรงนี้เลย แยมจะไม่ติดต่อไปยุ่งเกี่ยวกับแบงค์อีกแล้ว”  แบงค์ก้มหน้าน้ำตาตกใน เขาส่ายหัวด้วยความเสียใจก่อนถอดแหวนที่สวมอยู่ที่นิ้วออกแล้วขว้างทิ้งลงไปด้านล่าง แยมเบะปากอย่างไม่สน คว้าแขนแคปเข้าไปกอด นั่นยิ่งตอกย้ำความเสียใจของแบงค์เข้าไปอีกก่อนที่เขาจะตัดสินใจหันหลังให้เธอแล้วเดินออกไป  แคปยืนกอดอกมองตามแผ่นหลังที่เลี้ยวลงบันได

พี่แคปเข้าห้องเถอะค่ะ เดี๋ยวแยมจะอธิบายทุกอย่างให้ฟังนะเธอหันมาดึงแคปบอกให้เข้าห้องไปด้วยกัน แต่น่าเสียดายที่แคปไม่ยอมขยับแม้แต่นิดเดียว แยมมองเขาอย่างงงๆ

จะให้กูเข้าไปทำไม

เอ๊ะ!   พี่แคปทำไมพูดกับแยมแบบนั้น ขึ้นมึงกูทำไมสาวสวยเริ่มจะรู้สึกกลัว ไม่เคยมีแม้แต่ครั้งเดียวที่แคปจะพูดจาหยาบคายกับเธอ แยมก้าวถอยหลังไม่รู้ตัว

พูดกับคนที่คิดว่ากูเป็นควายมาตลอดหนึ่งเดือน  กูว่านี่ยังน้อยไปนะ หรือว่าอยากได้อย่างอื่นนอกจากคำด่าอีกห๊ะ

พี่แคป....!

ยินดีด้วยนะที่มึงไม่เหลือใครเลย...สักคน”  เขาว่าส่งท้ายแล้วแสยะยิ้มให้  ที่จริงไม่อยากจะเลวเท่าไหร่แต่สถานการณ์ตรงหน้ามันพาไปจริง ๆ  ลองมาเจอคาตาแบบเขาไม่กระทืบแม่งทั้งคู่ก็บุญหัวแล้ว  แคปหันหลังจะกลับแต่เธอตามมาดึงไว้ที่ทางเดินอีก น้ำหูน้ำตาเริ่มไหล

แล้วทีพี่แคปล่ะ กับยัยแป้งเด็กวิทย์คอมไม่ใช่ว่าขี่กันสวมเขาให้แยมนานแล้วเหรอ ตัวเองทำได้แต่แยมทำบ้างนี่ผิดมากใช่ไหม

“.........” แคปส่ายหัวแล้วดึงมือเธอออกจากแขน กับคนที่เสียสติไปแล้วพาลลงที่คนอื่นๆเขาไม่อยากจะคุยด้วย

แยมไม่ให้พี่ไปนะ พี่แคปใจร้ายได้แยมแล้วจะทิ้งอ่ะ แยมจะประกาศให้เขารู้กันทั้งคณะเลยคอยดู

ก็เอาดิ่วะ  ถ้าอยากจะประจานตัวเองด้วยก็เชิญเลยแคปกระชากมือเธออกจากแขนเขาได้แรงมาก จนเธอเซไปติดประตูของห้องใกล้ ๆ แต่เขาไม่สนใจสับขาลงบันไดมาอย่างโมโห จุดบุหรี่ขึ้นสูบอย่างมีอารมณ์  แยมไปพาลเรื่องแป้งทั้งที่ไม่เคยรู้ความจริงด้วยซ้ำ แป้งเป็นแค่เด็กที่มาขอให้เขารับเป็นพี่เทค แคปเห็นน่ารักดีเลยหยอกเธอเล่น เคยพาไปทานข้าวกันแค่สองสามครั้ง แต่ยังไม่เคยมีอะไรลึกซึ้ง เพราะว่าเขาให้เกียรติแยม แล้วเป็นยังไง เขาโดนท่าทางเรียบๆร้อยๆของเธอหลอกเข้าให้แล้ว

(อะไรของมึง จะกลับป่ะเนี่ยคืนนี้) แคปต่อสายโทรหาปอ ทางนั้นพอเห็นว่าเป็นสายจากรูมเมทก็แหวใส่เลย เพราะดึกแล้วแต่แคปยังหายหัว

ออกไปกินเหล้ากัน มึงแวะไปรับไอ้อาร์ด้วย เจอกันที่ร้านเดิม พี่พายนัดไว้แล้ว

(โอเคได้ จะไปไม่บอกล่วงหน้านะมึงมีไรป่ะเนี่ย)

อารมณ์ดีกำลังจะได้เมียใหม่ไงแคปประชดใส่ตัวเอง

(อะไรของมึง)

อย่าถามมากสัส  เดี๋ยวเจอกัน

(เออๆกูแต่งตัวแปป มึงโทรไปบอกไอ้อาร์ไว้ด้วยล่ะ)

อืม..



.



รถยุโรปสีขาวเลี้ยวเข้ามาที่ลานจอดของผับชื่อดัง ย่านที่นักศึกษารู้จักกันดี  เอสเข้าเกียร์แล้วถอยรวดเดียว รถแต่งคันหรูเคลื่อนตัวเข้าช่องจอดได้อย่างสวยงาม เขาชินกับรถคันนี้มากกว่าคันอื่นๆที่เคยใช้งานมา ถึงแม้ว่าพี่สาวของเขาเพิ่งจะเอามาเปลี่ยนให้ใช้แลกกับรถญี่ปุ่นคันเล็กที่เขาจิ๊กเอาของเธอมาใช้ตอนต้นปีเพราะเห็นว่ามันสะดวกและน่ารักมากกว่า

รถสวยจังครับพี่เด็กโบกรถของผับยกมือไหว้เขา เอสยื่นแบงค์ร้อยให้หนึ่งใบ แน่ล่ะรถเขาแต่งไปไม่รู้กี่แสนไม่เรียกว่าสวยก็ไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไรแล้ว

จอดแถวนี้โอเคนะ

ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะไม่ให้ยุงมาไต่ไรมาตอมเลยพี่

ขอบใจไอ้น้องเอสยัดเพิ่มให้อีกใบ ยกยิ้มนิดๆอย่างเป็นนิสัยแล้วตบลงที่บ่าเด็กน้อย ปกติแล้วเขาไม่ค่อยชอบพูด เวลาที่ฟังอะไรถ้าชอบใจก็จะแค่อมยิ้ม บางครั้งไม่พอใจก็ยกยิ้มเช่นกัน  ที่จริงแล้วเคยมีคนบอกว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีรูปหน้าสวยมากโดยเฉพาะเวลายิ้ม ฟันของเขาจะเรียงตัวสวยงามดูด้านข้างมีรอยหยักเป็นชั้นคล้ายคนมีฟันกระต่าย ถ้าเขายิ้มแล้วใบหน้าจะหวานสวยน่ารักนั่นทำให้เขาไม่ชอบยิ้มเปิดเผยให้ใครได้เห็นเพราะไม่อยากโดนล้อเหมือนตอนเด็กๆ แต่ทว่านิสัยติดอมยิ้มแบบนี้กลับไม่เข้ากับลักษณะผู้ชายแมนๆเป็นแน่เพราะงั้นเขาจึงเลือกที่จะยกยิ้มขึ้นแบบกวนตีน เพื่อเพิ่มระดับความวกวนบนใบหน้าเขาขึ้นอีกหลายสิบเปอร์เซ็นต์ อันนี้คือข้อมูลที่ได้จากการวิเคราะห์ของไอ้พวกเพื่อน ๆ

ช้านะมึง..พอนั่งลงได้ บรรดารุ่นพี่เป็นสิบก็ใส่เขาทันที วันนี้วิศวะนัดรวมพลหรือไงวะเขานึกอยู่คนเดียวในใจ   ซึ่งแน่นอนนะว่ามีพี่รหัสเขาเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น

ทำเหี้ยไรอยู่วะ ไหนนัดกูบอกให้ตรงเวลาไงเมี่ยงย้ายจากที่นั่งข้าง ๆ ชิพไปนั่งลงอีกฝั่งของเอสทันที คว้าเอาแก้วว่าง ๆ แถวนั้นมาชงเหล้าแล้วยื่นให้เพื่อน

กูพูดแบบนั้นเหรอ..เอสรับแก้วขึ้นมาจิบชิม เขาส่ายหัวบอกอ่อนไปเมี่ยงเลยเติมเหล้าลงไปอีกนิด เต้แซวข้ามมาว่าระวังเมาเร็ว คืนนี้ยังอีกยาว ดื่มแบบอ่อนๆไปก่อน เอสยกยิ้มแล้วส่ายหัว

อ้าวไอ้นี่ มึงนัดกูบอกสี่ทุ่มอ่ะ..

หลับเขาตอบสั้น ๆ

เออดีหลับ นี่ถ้ามึงบอกจะมารับกู มิต้องรอถึงตอนนี้รึไงเนี่ย

บ่นไรเล่าน่ารำคาญ กูก็มาแล้วไงแดกเหล้าไปมึงอ่ะเขาผลักหัวเมี่ยงออก ขณะที่ฝ่ายนั้นก็เซ้าซี้ถามไม่หยุดจริงอย่างที่ว่า เมี่ยงจิ๊ปากใส่  เอสมองไปมองมาไม่เห็นบุ้งเลยถามขึ้น

ไอ้บุ้งล่ะวะมองหน้าถามชิพ

ยังไม่มาชิพจิบเหล้าแล้วตอบกลับมาเรียบ ๆ สีหน้าไม่แสดงอารมณ์อะไรทั้งนั้น คือถ้าเขาจำไม่ผิดชิพบอกเขาตอนเย็นว่าบุ้งจะรับมาที่นี่  แต่ชิพตอบว่ายังไม่มาเอสเลยขมวดคิ้วทำท่าสงสัย แต่คนที่ไขข้อข้องใจเขาได้ก็คือเพื่อนที่ชอบกินเผือกมากที่สุดอย่างเมี่ยง

ไอ้บุ้งมันไปรับเมีย เหี้ยชิพเลยต้องขับรถมารับกูเอง กูก็มาพร้อมมันนี่แหละ

อ้าวไหนมึงว่ามันนัดกับมึงไว้แล้วไงวะไอ้ชิพ

อืม มันมาถึงหอกูแล้วแหละ เมียมันเสือกโทรมาตามแม่งตอนกูจะก้าวขาขึ้นรถพอดี เซ็งสัสๆ

ไอ้บุ้งมันเลววววว ได้เมียแล้วทิ้งเพื่อน

ปากมึงเหรอนั่นเอสโบกหัวเมี่ยงหนึ่งที เมี่ยงทำปากมุบมิบ

ตีทำไมเล่ากูพูดจริง อะไรวะเมื่อก่อนแม่งก็มีเมียไม่เห็นจะเห่อแบบนี้เลย เดี๋ยวนี้อะไรๆก็ยัยน้องโรส น้องโรสทั้งปีเพื่อนฝูงนี่ทิ้งหมด อย่าบอกนะว่ามันคิดจะจริงจังกับยัยโรสนี่

นินทาไรกูวะ ทำหน้าทำตาเอาใหญ่แล้วนะมึงเดี๋ยวบอกไอ้เอสหาผัวให้แทนเมียหรอกบุ้งที่เพิ่งมาถึงเดินแทรกเข้ามานั่งข้าง ๆ ชิพ เขายกมือไหว้รุ่นพี่แบบเรียงยาว เสร็จแล้วหันมาจัดการเมี่ยงต่อ

ชงเหล้ามาดิ๊ อย่ามัวแต่เบะปาก เร็ว ๆเลย”  เมี่ยงยื่นมืออกไปคว้าแก้วเหล้ามาชงให้คนมาใหม่อย่างเสียไม่ได้ พอบุ้งรับมาดื่มเขาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงคว้าบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ เอสเอามาคาบไว้ตัวนึง สองคนยื่นหน้าไปต่อไฟกันต่อหน้าต่อตาชิพเลย

ไอ้พวกเหี้ยแม่ง...ชิพบ่นอุบอิบเพราะตำแหน่งของเขาอยู่ตรงกลางพอดิบพอดี  เอสหัวเราะเบา ๆ แล้วยื่นซองส่งให้เพื่อนชิพส่ายหัวบอกไม่  ส่วนเมี่ยงไม่สูบอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องถาม มันทำหน้าที่ชง เสิร์ฟพี่เสิร์ฟเพื่อนอย่างเดียว

มึงขับรถไปรับไอ้เมี่ยงเหรอวะบุ้งหันมาหาชิพใช้ไหล่สะกิดถามพร้อม ๆ กับล้วงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู มันสั่นเรียก

อือชิพตอบ

กินไรยัง...เขาไม่ยอมกดรับสาย เอาวางไว้บนโต๊ะปล่อยให้มันสั่นไป ชิพมองดูเห็นเป็นชื่อโรสก็มองหน้าบุ้งแล้วทำท่าเหมือนถามว่าทำไมไม่รับ บุ้งไม่ตอบเขาแต่ย้ำคำถามเดิมกับชิพอีก

มึงกินอะไรรึยัง อย่าบอกนะว่าท้องว่าง ๆ แล้วแดกเหล้าเลยเนี่ย..เพราะว่าตอนที่ไปรับชิพ เขาสองคนกะว่าจะไปหาอะไรกินกันก่อนแล้วค่อยไปรับเมี่ยงต่อ จากนั้นก็จะมากันที่นี่ แต่โรสแฟนของเขาดันโทรเข้ามาแล้วบอกให้รับเธอไปทานข้าว เขาเลยต้องทิ้งชิพไว้ที่หอ

ไม่หิวหรอก มึงรับดิ น้องเขาโทรนานแล้วเดี๋ยวมีเรื่องหรอกชิพชี้ๆไปที่โทรศัพท์ บุ้งมองอย่างชั่งใจและสุดท้ายทันทีที่หยิบขึ้นมากดรับชิพก็คว้าแก้วเหล้าของตัวเองแล้วย้ายมานั่งข้าง ๆ เมี่ยงทันที เอสกับเมี่ยงเลยต้องขยับ

เล่นเหี้ยไรกัน ย้ายที่ไปๆมาๆเต้ที่กำลังคุยออกรสอยู่กับเพื่อนๆของเขาแซวขึ้น ชิพยิ้มให้แล้วบอกไม่มีอะไร ขณะที่บุ้งคุยโทรศัพท์ได้แค่สองคำก็ลุกตามชิพออกมาแล้วเลื่อนตัวนั่งลงข้าง ๆกัน

อะไรวะ ตามมาทำเหี้ยไรกูอึดอัด มึงคุยกับเมียมึงไปดิชิพบ่นอย่างรำคาญ บุ้งปิดไมค์ที่มือถือแล้วมองหน้าชิพ

ก็แล้วมึงหนีมานั่งตรงนี้ทำไมล่ะวะ

น่ารำคาญพอชิพทำท่าจะลุกอีกบุ้งวางสายเลยแล้วดึงบอกให้นั่งลง

เป็นไรของมึง เป็นไรมากป่ะ กูจะนั่งไหนเรื่องของกูไม่ใช่ไง

“ไอ้ชิพ นั่งลง...” น้ำเสียงบุ้งเปลี่ยนเป็นจริงจัง กระชากแขนชิพให้นั่งลงจนได้ เขาถอนหายใจยาวก่อนยกมือขึ้นลูบหัวอีกฝ่ายแล้วยื่นแก้วเหล้าส่งให้คล้ายปลอบประโลมให้ใจเย็น  โทรศัพท์ที่ตั้งไว้ดันสั่นเรียกขึ้นอีกบุ้งส่ายหัวก่อนหยิบเอามากดปิดเครื่องแม่งเลย

“ปิดแล้ว พอใจยัง” เขากับชิพสบตากัน

“เรื่องของมึง ไม่เกี่ยวกับกู” ชิพคว้าเอาแก้วเหล้าในมือบุ้งมายกดื่มรวดเดียวจบ ก่อนที่สองคนจะมองสบตากันอีกครั้งอย่างเงียบ ๆ  

“เออ เรื่องของกู” บุ้งพึมพำแล้วส่ายหัว  ขณะที่เอสกับเมี่ยงที่นั่งสังเกตการณ์อยู่นานแล้วส่งซิกบอกกันโดยเฉพาะเมี่ยงที่ต่อมเผือกทำงานดีจนผิดปกติพยายามที่จะฟังสองคนคุยกันให้ได้ใจความ แต่จนใจที่เพลงดังจนเกินไปเขาเลยหันไปสะกิดถามเอส

“มึงคิดเหมือนกูป่ะวะ..” เมี่ยงกระซิบ

“ไม่คิดอะไรทั้งนั้น..” เอสไม่สนใจเขาฟังเพลงไปฮัมเพลงไป มือถือสั่นเรียก เสียงไลน์เด้งแล้วเด้งอีกเป็นร้อย ๆ เขาก็ไม่สนใจจะตอบกลับ เอสน่ะ ถูกเมี่ยงสะกิดให้สังเกตชิพกับบุ้งตั้งแต่เริ่มย้ายที่กันแล้ว

“พี่ครับ เหล้าจากคุณผู้หญิงโต๊ะนั้นครับ ของพี่คนนี้สองแก้ว แล้วก็สองแก้วนี้ของพี่คนนี้” น้องพนักงานเดินเอาแก้วเหล้าสี่ใบ มาวางส่งให้เอสและบุ้ง มีนามบัตรแนบมากับถาดด้วย เอสส่ายหัว ขณะที่บรรดารุ่นพี่ในพากันโห่แซว ความจริงทั้งโต๊ะที่นั่งกันอยู่ เต พี่รหัสเขาได้เหล้าฟรีมาหลายแก้วแล้ว คราวนี้เป็นของเอสกับบุ้งบ้าง เรื่องธรรมดาเวลามาเที่ยวไม่ว่าที่ไหนเบอร์โทรนามบัตรจะถูกแนบมากับแก้วเหล้าเชื้อเชิญถึงเขาเสมอ เอสมองโน่นนี่ไปเรื่อย จนสายตาเขาหยุดลงที่แผ่นหลังของสาวผมยาวรูปร่างดีคนหนึ่งที่ยืนอยู่แถวๆเคาน์เตอร์บาร์

“เฮ้ย ไปไหนวะ” เมี่ยงเงยหน้าถามเมื่อเห็นว่าจู่ ๆ เอสลุกขึ้น

“เดี๋ยวกูมา..”

.

 หลังจากปอวางสายลงไปแคปต่อสายหาอาร์ต่อนัดแนะเสร็จสรรพ เขาขับรถมาถึงหน้าร้าน ผับที่ชอบมานั่งจิบสุราเคล้าอาหารตากันบ่อย ๆ กับพวกรุ่นพี่ เด็กโบกรถทำมือเป็นสัญญาณให้เขาเลื่อนมาจอดที่ฝั่งนี้

รถแต่งจอดตรงนี้เลยครับพี่เสียงน้องพนักงานโบกรถพูดจาไม่ค่อยชัด แคปคิดว่าน่าจะมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ยังเด็กอยู่แต่ท่าทางแว๊นส์สุด

รถพี่เดี๋ยวผมจะดูแลให้อย่างดีเลยครับ ยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเด็กน้อยพูดประโยคเดิม ๆ เขารู้ว่าผู้ชายส่วนใหญ่รักรถ ยิ่งถ้าเป็นรถแต่งมาแต่ล่ะทีทิปหนัก ขอให้ดูแลดีๆเถอะ 

ใจมากไอ้น้อง”  แคปทำหน้าตายยื่นเหรียญสิบบาทส่งให้ น้องเขามองหน้าอย่างอึ้ง ๆ ก่อนที่แคปจะขำออกมาแล้วตบลงที่บ่าเล็กบอกไม่มีตังค์เดี๋ยวขากลับค่อยเอา น้องพนักงานค่อยยิ้มออกหน่อย

รถพี่สวยนะครับ จอดตรงนี้ดูเหมาะกับคันนี้มากๆเลย สีดำกับสีขาว แต่งเจ๋งทั้งคู่ข้างๆรถของเขาเป็นรถยุโรปสีขาวทั้งล้อทั้งตัวรถแต่งซะสวยเช้ง

ไม่ใช่รถพี่หรอก คันนี้ของเฮียว่ะ..แคปบอกน้องเขาไปตามความจริง สีดำคันนี้เป็นของเฮียโก้ซึ่งก็คือพ่อของเขา แคปจิ๊กมาไว้ใช้รับส่งสาว ๆ ตั้งแต่สองสามเดือนที่แล้วเพราะมันดูเท่และแมนดี  ส่วนคันเก่าของเฮีย  พี่เต้เอาไปใช้นั่นก็เท่มากพอกัน ตอนนี้พ่อเขาเลยต้องใช้รถแจ๊สคันเล็กของเขาแทน 

เดี๋ยวดึกๆถ้าพี่ออกมา รับรองรถพี่จะมันส์เงางามเป็นประกายเลย ผมดูแลให้ครับเพ่..

เออๆขอบใจ

แคปตอบสั้นๆชักขี้เกียจคุยกับคนขี้โม้  เขาเดินตัดเข้าไปด้านในของร้านเสียงดนตรีดังกระหึ่มลอดออกมา  โต๊ะเดิม ๆ ที่เคยนั่งดื่มกันเวลามากับพวกพี่สายพี่รหัสพี่ลำดับแม่งเยอะแยะจนเขาเองก็ไล่ไม่ค่อยถูก  แคปมองหาจนตาลายแต่ในที่สุดก็เจอ หลงมุมนิดหน่อยเกือบเดินขึ้นไปชั้นสองแล้วสิ

หวัดดีพี่..ทักทายบรรดารุ่นพี่สี่ห้าคนที่เรียนอยู่คณะเดียวกัน  ท่าทางจะเมานิดๆกันแล้ว

ไงไอ้แคป กูนึกว่ามึงจะไม่มาแล้ว เห็นไอ้พายบอกว่าชวนกูก็นึกว่ามันโกหก”  จิม พี่ลำดับของเขารวมถึงเป็นเพื่อนสนิทของพายถามขึ้น แคปนั่งลงแล้วขอแก้วเปล่า มีน้องพนักงานเข้ามาชงเหล้าให้ เสียงดนตรีดังกระหึ่มมากจนปวดหู ขนาดจังหวะดรอปลงแล้ว

แล้วพี่พายอ่ะครับ

ไอ้พายเหรอ...อืมมม ไปไหนของมันวะ ห้องน้ำมั้งเมื่อกี้ยังอยู่เลยนี่จิมหันไปถามคนอื่นๆ แต่ต่างก็ยักไหล่บอกไม่รู้เขาเลยสรุปเอาเองว่าพายไปห้องน้ำ

อ่อ...เขายกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด มองหน้าคนสวยชงเหล้าแล้วยิ้มให้ เธอขยับเข้าหาแล้วชงเพิ่มให้อีก

พี่แคป...เธอเรียก

จำกันได้ด้วยเหรอเขาถาม เชยคางเธออย่างหยอกล้อ เธอเอียงหน้าอย่างมีจริต

ลืมไปแล้วมั้ง...เธอเองก็หยอกเขากลับ แคปหัวเราะเบาๆ สาว ๆ ที่นี่หลายคนที่เขาหยอกล้อได้ มาบ่อยแต่ไม่เคยสอยใครกลับ ผู้หญิงทำงานกลางคืนที่มีแววตายั่วยวนแบบนี้เขาไม่นิยม

เป็นไรของมึง มาถึงก็แดกเอาแดกเอา แล้วเพื่อนๆมึงไม่มาด้วยกันล่ะวะหนึ่งในบรรดารุ่นพี่ถามขึ้นมา เมื่อเห็นแคปซัดเหล้าติดๆกันสองสามแก้วแล้ว แคปส่ายหน้าบอกไม่มีอะไร

เดี๋ยวมันตามมา ไอ้ปอไปรับไอ้อาร์อยู่ครับพี่

เออๆกินๆ จะออกไปเต้นก็ไปนะมึงเดี๋ยวไอ้พายมันก็มา ไม่ต้องรอมันหรอกแคปพยักหน้า เขายกแก้วเหล้าขึ้นมากรอกอีก แต่สายตาที่ดี๊ดีเกินคาดก็ดันไปเห็นใครสักคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาเหลือเกินนั่งดื่มอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์กับสาวผมยาวหุ่นดีที่ไม่จำเป็นต้องเห็นหน้าก็รู้ได้แน่ๆว่าสวยหยด!


 ...ไอ้เอสมึงเสร็จแน่ๆวันนี้  พระเจ้าช่างเข้าข้างกูจริงจริ๊ง หึ...


แคปแสยะยิ้มขึ้นเมื่อจำได้ดีเลยว่าคนที่นั่งอยู่นั่นคือเอส  ไอ้คนที่มันเคยบอกกับเขาครั้งล่าสุดที่เจอกันว่า ครั้งต่อไปตัวและก็อาจจะเป็นเพราะมัน ที่ทำให้แยมนอกใจเขาแบบเปิดเผยได้ขนาดนี้ เพราะคำพูดบ้า ๆ ของมันวันนั้น

หึ.....แคปคำรามในคอก่อนหยิบแก้วเหล้าแล้วลุกขึ้นในทันที

แผนการมีอยู่ในใจเขาแล้วเรียบร้อย ไม่กี่ก้าวจากจุดนั้นแคปก็เดินไปประชิดแผ่นหลังของเอสได้ แทรกตัวเข้าไประหว่างหญิงสาวกับคู่แค้น


รอนานไหมครับ ที่รัก...


คำพูดเด็ดๆที่มาพร้อมกับวงแขนเรียวเอื้อมมาคว้าลำคอแกร่งเข้าไปกอด เอสอ้าปากค้างเมื่อเห็นชัดๆว่า คนที่แทรกตัวเข้ามาระหว่างเขากับพี่สาวของเขาคือใคร 


ไอ้แคป!


ใบหน้าที่อยู่ห่างจากเขาไม่ถึงคืบแสยะยิ้มขึ้นอย่างกวนตีนก่อนหันไปหาพี่สาวของเขา แล้วพูดประโยคแปลกๆออกมาอีก..


โทษทีนะช้าไปหน่อย  ที่รักคุยกับใครอยู่ครับเนี่ย


คราวนี้เป็นเอสบ้างแล้วที่ยกยิ้ม เขาเข้าใจได้ในทันทีแคปคงกำลังคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนของเขา เขาส่ายหัวแล้วเหยียดยิ้มส่งไปให้คนข้าง ๆ ปล่อยให้กอดคอไปอยู่แบบนั้น จนกระทั่งพี่สาวของเขาโวยวายขึ้นมา

เอส!  นี่มันอะไรกันน่ะพี่แอมป์ อายุห่างกับเขาสิบปีแต่หน้าตายังสะสวยราวกับสาวยี่สิบกว่า ๆ เธอเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนของผับแห่งนี้

เอส  เรื่องจริงเหรอเนี่ย นี่มันจริงใช่ไหม แอมป์ถามย้ำขึ้นอีก ขณะที่แคปยิ้มรื่นส่งให้กับวงแขนที่ยังกอดคอเอสเอาไว้อยู่ เขากะให้ผู้หญิงคนนี้เข้าใจผิดเอสแบบเต็มที่ เห่อะ ทีใครทีมันล่ะวะ แต่แปลกที่เอสกลับไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นหรือดึงมือเขาออก เอสเพียงแค่ยกยิ้มจาง ๆ ยักคิ้วนิดๆท่าทางกวนตีนได้ดีมากเหลือเกิน

ตามนั้น...”  เอสตอบพี่  แอมป์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดเธอก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างขวางส่งมาให้ รอยยิ้มที่จริงใจแบบสุดๆเล่นเอาแคปงงและทำอะไรไม่ถูก

ไม่ใช่แค่ไม่โกรธ แต่แววตาของเธอดูเหมือนกำลังยินดีอะไรสักอย่าง

ตัวจริงชัดๆ คนอย่างแกครั้งเดียวก็ไม่เคยที่จะยอมรับว่ามีแฟน แต่คราวนี้ถึงขนาดยอมรับกับพี่  โอ่ยตายแล้ว น้องสะใภ้ฉันหรือนี่

หึหึ...เอสส่ายหัวขำกับคำพูดของพี่ตัวเอง ขณะที่แคปอึ้งแดกไปแล้วเมื่อแอมป์จ้องเขา จ้องเอาๆ

พากลับบ้านบ้างดิ่ พ่อกับแม่น่าจะอยากรู้จักคนของแกนะเว้ย ถึงจะเป็นผู้ชายก็เถอะแอมป์ที่ไม่รู้อะไรเลยว่าต่อไป

หึหึหึ...เขาแทบจะกลั้นขำไว้ไม่อยู่อีกแล้วเมื่อปรายตามองคนใกล้ ๆ วงแขนที่คล้องคอเขาเอาไว้เริ่มสั่นขึ้นนิดๆเมื่อแอมป์พี่สาวของเขาเอื้อมมือออกมาขอจับทักทาย ตัวแคปเย็นเฉียบทั้งที่กลิ่นเหล้าหึ่ง

ยินดีที่ได้รู้จักนะจ๊ะ พี่แอมป์เองนะเป็นพี่สาวแท้ๆของเอสเป็นหุ้นส่วนของที่นี่แหละ  ว่าแต่เราชื่ออะไรนะ แฟนเอสใช่ไหม คบกันมานานแล้วสิเนี่ย แย่จริง ๆ เลยทำไมไม่พากลับบ้านมั่งก็ไม่รู้ ว่าไงครับ เราชื่ออะไรนะหื้ม..

เหมือนโลกหยุดหมุนไปประมาณสิบวิฯ  ทั้งที่ดนตรีเสียงดังกระหึ่มแต่แคปกลับไม่ได้ยินเสียงห่าเหี้ยอะไรเลยสักอย่าง

ชื่อแคป  มันชื่อแคป

เอ๊ เจ้าเอสนี่ไปเรียกแฟนว่ามันได้ยังไง เรียกแคปเฉย ๆ สิ ไม่ก็อย่างอื่นที่ดูน่ารักน่าทะนุถนอม แคปเขาออกจะหล่อน่ารักหน้าตาขี้เล่นขนาดนี้

สองประโยคของน้องชายกับพี่สาวทำเอาแคปแทบตาเบลอเป็นลายก้นหอยม้วนไปม้วนมา  เขาเอื้อมมือสะเปะสะปะเข้าไปคว้าแก้วเหล้าที่อยู่บนเคาน์เตอร์มายกซดรวดเดียวหมดแล้ววางลงอย่างดัง ก่อนที่แอมป์จะดึงให้เขานั่งลงข้างเอส แคปก็ขัดขึ้นไม่ได้ มองดูหน้าตากวน ๆ ของคนข้าง ๆ ที่ส่ายหัวแล้วแสยะยิ้มเย้ย ยิ่งอยากยกตีนขึ้นมาแตะหน้ามันสักป๊าป แต่ก็เกรงใจพี่สาวของเอส บ้าเอ๊ยย

ไอ้สัส! กูเกลียดมึงจะตายห่าแล้วไอ้เหี้ยยยย..แคปกัดฟันพูดให้เอสได้ยินแค่คนเดียว แต่จนใจอีกฝ่ายยังยกยิ้มกวนตีนใส่ เขากำมือแน่นจนเส้นเลือดปูด ท่องนะโมๆรวมทั้งแผ่เมตตาไปสามจบ

หึ  ตลกไปนะ เมื่อกี้มึงยังเรียกกูที่รักอยู่เลยเอสกวนตีนเขาเพิ่มอีก

แม่งเอ๊ย..แคปคำรามลุกพรวดขึ้นทันที จนแอมป์เองยังตกใจ บราเทนเดอร์สองคนก็หันมามองเอสรีบดึงแขนเล็กไว้

อย่าซ่าให้มากนัก พี่ชายมึงนั่งอยู่แถวนี้นะ คงไม่อยากให้พี่มึงรู้หรอกใช่ไหมว่ามีเรื่องอยู่กับกู..เอสใช้ทั้งสายตาทั้งน้ำเสียงข่มขู่  แคปตกใจนิดๆเมื่อได้ยินว่าพี่เต้เองก็มา แอมป์ที่คิดว่าสองคนอาจทะเลาะกัน เธอดึงมือแคปบอกให้นั่งลงแล้วค่อย ๆ พูด แคปมองหน้าเธอ จนใจที่ถูกดึงรั้งไว้ขนาดนั้น เห็นแก่หน้าพี่ชายเขาที่มันมาอยู่แถว ๆ นี้ด้วย แคปบอกตัวเองว่าต้องอดทน

ขณะที่เอสใช้มือที่คีบบุหรี่ไว้หยิบเอาแก้วเหล้าขึ้นดื่มอย่างอารมณ์ดี เขากำลังนึกขำหน้าของคนข้าง ๆ  ไม่รู้แคปจะอดทนได้อีกนานแค่ไหน  

จนกระทั่ง....

อึ่กก....เอสหันมองทันทีเมื่อศอกเล็กกระทุ้งเข้าที่ต้นแขนเขาอย่างแรง แคปจ้องเขาตาเขียว

ออกไปคุยข้างนอก มึงกูตัวต่อตัว”  ในที่สุดแคปก็หมดความอดทน เขาลุกพรวดขึ้น ก้มลงกระซิบเสียงเข้มใส่ ก่อนสบสายตากับแอมป์แล้วบอกขอตัว เธอที่ไม่รู้เรื่องราวมองตามแผ่นหลังเล็กที่เดินออกไปอย่างงงๆ

เป็นอะไรกัน แฟนแกเขาโกรธเหรอเธอถามน้องชาย เอสยกยิ้มแล้วส่ายหัว ขำพี่สาวตัวเองที่ยังคิดไปได้ว่าเขากับเจ้านั่นเป็นแฟนกัน

ไม่มีอะไรหรอก ไปนะเขาหันไปบอกเธอ บี้ก้นบุหรี่ลงที่จานเขี่ย

คุยกันดีๆล่ะ แล้วอย่าลืมพาเขาไปเที่ยวบ้านเราด้วยเข้าใจไหมเอสส่ายหัวใส่อีกครั้งก่อนเดินหันหลังตามแคปออกไป

ช้าเหี้ยๆ  จะเอาที่ไหน ตอบ!แค่เดินมาถึงทางออก ก็เจอคู่อริยืนกอดอกพิงกรอบประตูรออยู่ก่อนแล้ว ทำหน้าทำตาเสียอารมณ์อีกต่างหาก

แล้วแต่..เอสตอบหน้านิ่ง

ที่จอดรถเป็นไง ไม่มีคนแคปยักคิ้วใส่ ตั้งใจทำหน้าทำตากวนตีน แต่ดูยังไง๊ยังไงหน้าตาเอสก็กวนประสาทกว่าอยู่ดี แคปยิ่งมองยิ่งเครียด ไม่เข้าใจว่าเวลาที่เขาพูดแต่ละทีเอสจะอมยิ้มทำซากอ้อยเหรอ

ได้....

จบคำพูดเอส แคปหันหลังเดินออกมาที่รถตัวเองทันที แถว ๆ นี้ตอนจอดรถ เขาสแกนดูแล้วปลอดคน จะมีก็แต่ไอ้เด็กที่กำลังเช็ดกำลังขัดรถเขาอยู่ แคปโบกมือให้เจ้าเด็กนั่นเหมือนรู้ทัน รีบเดินเลี่ยงออกไป

มึงจะเอาเลยไหมแคปถามออกไปตรง ๆ คิดว่าแมนที่สุดแล้วสำหรับผู้ชายนัดตีกัน

มึงจะตีกับกู??” เอสกอดอกแล้วจ้องหน้าถาม แคปคิ้วขมวดขึ้นทันที

ก็ใช่ดิ่วะ ถามเหี้ยไรของมึง

น่ารำคาญ ขี้เกียจต่อยตี แดกเหล้าแข่งกันดีกว่าเอสเสนอทางเลือกอื่น วันนี้เขาไม่รู้สึกอยากจะมีเรื่องกับใครอะไรทั้งนั้น

หึ...มึงกลัวรึไงห๊ะ!  ซัดกันสองสามหมัดเสร็จก็จบแล้วไอ้เหี้ย  จะให้มานั่งแดกเหล้ากับมึงนี่กูว่า หึ ไม่ดีกว่าว่ะแคปเดินเข้ามาผลักไหล่แกร่ง ยื่นหน้าเข้าไปพูดใกล้ ๆ เอสคว้าไหล่เขาไว้ในทันทีแล้วบีบ

ตีกับกูในรถดีไหมล่ะ..เสียงทุ้มก้มลงกระซิบใกล้ ๆ แคปยังไม่เข้าใจในความหมายของคนตรงหน้า ตีกันในรถพื้นที่แคบ ๆ แบบนั้นจะไปตีกันได้ยังไง

ถ้ากลัว ก็ยืนเซ่อซ่าอยู่ตรงนี้แหละมึงอ่ะเอสว่าจบพร้อม ๆ กับเสียงปลดล๊อครถดังขึ้น แคปยิ่งงหนักไปอีกเมื่อรู้ว่ารถที่จอดอยู่ข้าง ๆ รถของเขาคือรถของเอส

จะขึ้นป่ะ!เอสยืนอยู่ที่ประตู ร้องข้ามมาถามเสียงดัง

ตีกับมึงบนรถมึงนี่นะ??” แคปถามกลับ คือเขายังไม่เคลียร์ ให้ตายสิ

ก็เออสิวะ ขึ้นมาเร็วเข้า กลัวรึไงไอ้ตัวอวดดีเอสตั้งหน้าตั้งตาด่าอีก แคปยิ่งโมโห

หนอยยย กูกลัวมึงเหรอวะห๊ะ!  ปัง..แคปก้าวพรวดเดียวขึ้นไปนั่งบนรถพร้อมปิดประตูเสียงดังมาก เอสหันมองตาเขียว ก่อนเหยียบรถกระชากออกไปด้วยความแรงและเร็ว

เชี่ยเอ๊ย..แคปสบถในคอ ก่อนทุบลงที่คอนโซลรัวๆเมื่อเพิ่งรู้สึกตัวว่าไม่น่าขึ้นมากับมันเลย

จอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จอดเดี๋ยวนี้ไอ้เหี้ยเขาร้องโวยวายออกมา เข็มขัดไม่ยอมรัดซ้ำยังทำท่าจะเปิดลงไปอยู่ตลอดจนเอสต้องเหยียบให้เร็วขึ้นอีก

จะร้องโวยวายทำไมวะ นั่งนิ่ง ๆ สิบ้าเอ๊ย

มึงจอดเลยนะไอ้เหี้ยเอส จอดให้กูลงเดี๋ยวนี้!ไม่ใช่แค่มือแล้วที่ทุบๆๆๆคอนโซนหน้ารถ แคปเอาเท้าขึ้นมาทั้งถีบทั้งผลักจนเอสต้องรีบจอดลงที่ข้างทาง

มึงเป็นบ้าเหรอ  ขึ้นมากับกูเองนะร้องบ้าบออะไรของมึงนักหนาห๊ะ  ห่าเอ๊ยแคปทำท่าจะเปิดลงเอสกระชากทีเดียวตัวเขาลอยแทบจะข้ามเกียร์

ไอ้สัส!  กระชากหาพ่องมึงเหรอ

เงียบปาก อย่าเล่นถึงพ่อกูไม่ชอบเอสกัดฟันพูด เอื้อมมือไปดึงเข็มขัดรัดข้ามตัวแคปไว้แล้วกดใส่ แคปฟาดมือกะซัดเข้าที่หน้าแต่เอสหลบทันแคปเลยจิกหัวเอสไว้แรงมาก

กูจะลง”  สองคนสู้กัน...

เดี๋ยวก็ถึงแล้ว มึงจะบ้าเหรอห๊ะ นั่งเงียบ ๆ นั่งนิ่ง ๆ เดี๋ยวถึงแล้วมึงกูตีกันให้พอใจเลย ผั๊วะ โอ๊ย!เอสที่แทบหมดพลังเพราะสู้กับคนที่เหมือนกับบ้า แคปทำไมถึงได้ดื้อด้านขนาดนี้ หน้าเขาโดนฟาดไปไม่รู้กี่ฝ่ามือถูกบ้างไม่ถูกบ้าง ทั้งแขนทั้งไหล่เขียวไปหมด จนสุดท้ายเขาหมดความอดทนผลักแคปจนกระเด็นกระแทกประตู

ไอ้สัส!...แคปร้องด่า ขณะที่เอสเจ็บตัวไปหมดจ้องหน้าอย่างกับโกรธกันมาเป็นชาติ ตะคอกขึ้น

กูบอกให้เงียบ! จะตีไหม มึงจะตีกับกูใช่ไหม อดใจไว้เดี๋ยวถึงแล้ว กูกับมึงตีกันเอาให้พอเลย

ก็แล้วมึงจะพากูไปที่ไหนละเหี้ย จู่ ๆ ขับรถออกมาโคตรเร็ว ทางก็มืดๆจะให้กูนั่งรอปล่อยให้มึงพากูไปเชือดที่บ้านร้างรึไงล่ะห๊ะ!

มึงบ้าไปแล้ว ดูหนังมากจนประสาทรึไงเอสส่ายหัว เขาเคลื่อนรถออกไปต่อ แคปเริ่มจะโวยวายขึ้นมาอีก

มึงสิบ้า   อ่ะ...จะไปไหนน่ะ

กูไม่พามึงไปฆ่าหรอก ยังไงก็ไม่ตายแน่ๆ

จบคำพูดเอส เขาเหยียบเร็วและแรงขึ้นอีกเป็นเท่าตัว พอแคปร้องโวยวายขึ้นอีกครั้ง มือใหญ่ก็คว้าเอาคอเขาเข้าไปล๊อคพร้อมปิดปากไว้แน่น

มึงจะเงียบสักทีได้ไหมวะห๊ะ อยากตายรึไงกูขับรถอยู่นะ

อึงอ้อออกอูอิ่อ้าอึงอะอาอูไออี้ไอ๋แคปพูดไม่เป็นศัพท์ ดูเหมือนว่าเอสใช้พลังแขนทั้งหมดที่มีปิดปากเขาไว้ด้วยมือเพียงข้างเดียว

เดี๋ยวจะถึงแล้วเหี้ย โวยวายบ้าบอ อยากโดนกูตบรึไง

อย่ามาว่ากูนะ มึงสิบ้า ไอ้เอสบ้า ไอ้เหี้ยโคตรบ้า มึงมันบ้า แคปโดนมือใหญ่ปล่อยออกมาแล้ว เพราะรถที่เริ่มมากขึ้น เอสจำเป็นต้องใช้สมาธิกับท้องถนนก่อน ยิ่งเมานิดๆอยู่ด้วย

นั่งนิ่ง ๆ กูขออีกสิบนาที ถึงแล้วมึงจะลงไปกระโดดโลดเต้นทำเรื่องบ้าบอร้องแหกปากอะไรก็เรื่องของมึง สิบนาทีกูขอแค่นั้น”  เอสกัดฟันพูด ส่ายหัวอย่างหงุดหงิดเมื่อเขาเองเพิ่งตระหนักได้เดี๋นี้เองว่า ไม่ควรชวนไอ้บ้าข้าง ๆ นี้ขึ้นมาด้วยเลย ให้ตายเหอะ


ขี้โวยวาย


บ้าบอ


มือหนักตีนก็หนัก


บ้ามากๆ


ไอ้สัส!แคปสบถหน้ายุ่ง กอดอกแต่ก็ยอมนั่งเฉย ๆ เป็นครั้งแรก



และสุดท้าย



ปากจัดฉิบหายเลยเหี้ย...





Tbc.