# 32 จะมีไหมสักคนมาเปลี่ยนชีวิตของฉัน...เธอคือใคร
พี่เชนท่าทางหัวเสียตั้งแต่รถจอดลงที่หน้าบ้านแล้วกลายเป็นว่าคนที่เดินมาเปิดให้เป็นพี่ซ่าร์
เราเข้าถึงตัวเมืองเชียงใหม่กันราว ๆ ตีสองพี่เชนขับเร็วนะผมว่า แต่ผมก็มั่นใจพี่เขาค่อนข้างรอบคอบและระมัดระวัง
บ้านพี่ซ่าร์เป็นบ้านไม้สองชั้นสไตล์ล้านนาท่ามกลางสวนไม้ สวยมาก
ไฟดวงเล็กๆสีส้มถูกจุดอยู่ในโคมไฟเถาวัลย์ยาวตลอดแนวรั้ว
“ทำไมมึงไม่บอกกูก่อนวะ
ว่าเราจะต้องมาพักกันที่นี่” ผมกับพี่เชนกำลังหยิบเอาสัมภาระในรถคนล่ะใบออกมา
“อ้าวผมก็ว่าพี่รู้แล้วว่าเราจะมาพักที่บ้านพี่ชายพี่เอย์”
ผมพูดเบา ๆ แล้วลงจากรถ พี่ซ่าร์ยืนรออยู่ก่อนแล้วขณะที่พี่เชนเองก็ปิดประตูฝั่งพี่เขาเดินเข้ามาหาผม
“ให้ตายเหอะ
ถ้ากูรู้ว่าต้องถ่อมาพักที่บ้านไอ้นายแบบขี้เต๊ะไอ้ดาราขี้เก็กแบบนี้กูไม่รับปากแฟนมึงแน่ๆ”
เสียงบ่นเบา ๆ ดังขึ้นด้านหลัง
“พี่เชนไปว่าพี่ซ่าร์เขาทำไม
พี่ซ่าร์ใจดีนะครับ ไม่ขี้เก็กหรอกน่าตาพี่เขาหล่อแบบนี้แหละเลยดูเหมือนเก็กไง
จริง ๆ แล้วนิสัยดี” ผมอธิบายไปเบา ๆ แอบดุพี่เชนนิดๆด้วย คือยังไม่เข้าใจพี่เขาเป็นอะไรท่าทางไม่ชอบพี่ซ่าร์ตั้งแต่เจอกันครั้งก่อนโน่นแล้ว
เจ้าของบ้านเดินนำเข้าด้านใน
“มาเลยปิง เดี๋ยวขึ้นไปดูห้องกัน เอย์มันโทรมาบอกเมื่อวาน
ฉุกละหุกไปหน่อยแต่พี่ให้แม่บ้านเขาเตรียมห้องไว้ให้แล้ว”
“พี่ซ่าร์ครับ
นี่พี่เชนเจ้านายผมเอง คือจะเรียกว่าเป็นพี่ชายก็ได้ เราทำงานด้วยกันครับ
พี่เชนกับพี่เอย์อายุเท่ากัน” เราสามคนหยุดกันอยู่ที่หน้าบันไดทางขึ้น ผมถือโอกาสแนะนำสองคนให้รู้จักกันอีกครั้งกลัวว่าพี่ซ่าร์จะจำพี่เชนไม่ได้
“สวัสดีอีกครั้งนะครับเจ้านายน้องปิง
เจอกันครั้งที่สองแล้วนี่” พี่เขายิ้มให้พี่เชน ยื่นมือออกมาขอเช็คแฮนด์ทำความรู้จัก
แต่อีกคนทำท่าไม่สนใจ ฝ่ายนั้นเลยเก้อไปนิด ผมรีบใช้ไหล่สะกิดดันๆ
พี่เชนคิ้วขมวดมองหน้าผมก่อนถอนใจพรืดแล้วกระแทกเสียงห้วน “หวัดดีครับ”
พี่ซ่าร์ลดมือลง คือวืดไปเลยเพราะพี่เชนไม่ยอมยื่นมือมาจับด้วย พี่เขาเก้อไปเลยนะ ผมส่งยิ้มแห้ง
พี่ซ่าร์ลดมือลง คือวืดไปเลยเพราะพี่เชนไม่ยอมยื่นมือมาจับด้วย พี่เขาเก้อไปเลยนะ ผมส่งยิ้มแห้ง
“ขะ...ขึ้นไปกันเถอะครับ”
รีบพาเปลี่ยนเรื่องรุนหลังพี่ซ่าร์ให้เดินขึ้นไปพี่เชนดึงแขนผมไว้พูดเสียงเบา
“อย่าไปใกล้มัน”
“หือ??”
“กูไม่วางใจมัน
มึงอย่าไปใกล้มันดิ่ ทิ้งระยะห่างหน่อย”
“พี่เชนครับ
พี่ซ่าร์เป็นพี่ชายพี่เอย์” ผมกระซิบบอกย้ำ ไม่อยากให้พี่เขาซีเรียส
คิ้วขมวดตั้งแต่ขับรถเข้าบ้านแล้ว
“คุยอะไรกันเหรอ
ถึงแล้วนะนี่ห้องปิง เล็กไปไหม” เจ้าของบ้านเปิดห้องออกให้ดู ผมอมยิ้มห้องน่ารักมากเลยครับเห็นแล้วนึกถึงบ้านแม่
คือบ้านเราก็เป็นไม้นะแต่ไม่หรูหราแบบนี้
“ไม่เล็กเลยครับ
ขอบคุณมากผมชอบเลย”
“งั้นก็ดีแล้ว
ทำตัวตามสบายนะปิง เดี๋ยวพี่จะพาเชนเขาไปดูห้อง ปิงนอนเลยก็ได้ดึกมากแล้วพรุ่งนี้ต้องออกทำงานแต่เช้าใช่ไหม”
“ครับ ขอบคุณครับพี่” ผมปลดกระเป๋าสะพายลงจากบ่าแล้วหันไปหาอีกคน
“พี่เชนครับเจอกันพรุ่งนี้เลยนะ
นี้วันนี้ขอนอนก่อนละกันพี่ผมไม่ไหวแล้วว่ะ”
“มึงนอนได้นะ
กลัวรึเปล่า”
“เฮ้ยพี่
ผมไม่เป็นไร เจอกันพรุ่งนี้พี่เชนเข้าห้องเถอะครับ” พี่เชนมองผมอย่างชั่งใจก่อนพยักหน้า
ประตูปิดลงแล้วผมวางกระเป๋าที่ข้างเตียง ถอดเสื้อออกแล้วเข้าห้องน้ำล้างเนื้อล้างตัว
หนาวนะไม่อาบน้ำหรอกดึกแล้วด้วย กระโดดขึ้นเตียงห่มผ้าผืนโต กดไลน์บอกพี่เอย์ว่าถึงที่พักแล้วก่อนที่จะนอนหลับไป
Caesar’s Part
“มึงชื่อเชน?”
ผมถามขึ้นตอนที่เราเดินออกมาจากห้องของปิง มันไม่ตอบไม่หันมองผมด้วยซ้ำ
ยังมีหน้าหันหน้ากลับไปมองประตูของห้องของเจ้าปิง แฟนน้องชายผม
ตรง ๆ
เลยนะรู้สึกตงิดๆกับไอ้หมอนี่นิดหน่อย เมื่อกี้ปิงบอกมันอายุเท่า ๆ
กับไอ้เอย์เพราะงั้นผมจะใช้กูมึงกับมันคงไม่เป็นไรมั้ง
หน้าตาท่าทางแบดๆไม่เหมือนหมาปิง เพราะงั้นคุยแบบเถื่อนๆแม่งแบบนี้แหละไม่ต้องสุภาพมากมาย
“กูถามมึง ไม่ได้ยิน?”
ผมหยุดเดิน ถามจ้องหน้ามัน อะไรวะแม่งกวนตีนกูจริง ๆ ถามอะไรก็ไม่ตอบ พูดอะไรก็ไม่พูด
ไม่ได้เพิ่งจะเป็นด้วยนะท่าทางมันไม่ชอบขี้หน้าผมตั้งแต่เจอหน้ากันคราวก่อนแล้ว
แบบนี้ผมยิ่งอยากจะเอาชนะเลย
“เฮ้ กูกำลังถามมึงอยู่นะ”
“........” เออเอาเข้าไป
เงียบได้อีก
เมินผมทำเป็นหันมองโน่นนี่อย่าคิดว่าผมไม่รู้ว่ามันได้ยินแต่แกล้งทำเป็นไม่สนใจ ผมคันตีนสุด คืออยากบอกว่าไม่ใช่คนดีนะ
ภาพพจน์หน้าทีวีคือคนล่ะเรื่องกับชีวิตจริงของผมเลย ผมตัดสินใจหยุดลงที่หน้าห้องๆหนึ่ง
มันที่เดินตามจึงหยุดเช่นกัน
“นี่ห้องกู
มึงตามมาทำไม” ผมแกล้งมัน หมั่นไส้ว่ะแม่งถามไม่พูดดีนัก คือตัวมันสะพายกระเป๋าคาดใส่ไหล่คิดว่าผมจะพาเดินไปที่ห้องเหมือนกับปิงเลยเดินตามผมมาจริง
ๆ ผมก็ต้องเดินพามันไปส่งที่ห้องมันอยู่แล้ว แต่มันอยากกวนตีนดีนัก
ผมอมยิ้มรอดูหน้าคนโดนแกล้ง
“จะให้กูนอนห้องนี้....กับมึง?”
อะไรวะแม่ง ดู๊ดูมันพูดนี่ผมรุ่นพี่มันไม่ใช่หรือไง หน้าผมชาไปกับคำพูดของมัน
“ถ้ามั่นใจงั้นก็เปิดเข้าไปดิ่”
“ปิงบอกมึงอายุเท่ากับน้องชายกู”
ผมสวนขึ้น มันจะพูดเพราะไปหน่อยไหม เรียกผมมึงตั้งแต่คำแรกที่ทักกันเลย
“มั้ง” ไอ้เหี้ย
กวนส้น
“งั้นมึงก็ต้องเรียกกูว่าพี่ดิ่....หึหึ ‘พี่ซ่าร์ครับ’ ไหนมึงลองเรียกดิ๊” มันหันขวับมามอง ผมอย่างขำอ่ะ แต่ยังกลั้นยิ้มไว้ได้ แสยะให้มันเห็นหน่อย ๆ
"พี่ซ่าร์ครับ ไหนห้องผมล่ะพี่ เหมือนปิงมันพูดไงแบบนั้นสิถึงจะน่ารัก ทำให้กูเอ็นดูจะดีกว่าไหมครับ น้องเชน” ผมอมยิ้มทำเสียงเป็นตัวอย่างล้อเลียนมัน
"พี่ซ่าร์ครับ ไหนห้องผมล่ะพี่ เหมือนปิงมันพูดไงแบบนั้นสิถึงจะน่ารัก ทำให้กูเอ็นดูจะดีกว่าไหมครับ น้องเชน” ผมอมยิ้มทำเสียงเป็นตัวอย่างล้อเลียนมัน
“หึหึ ขำว่ะ” จู่ๆมันหัวเราะขึ้น รอยยิ้มผมหุบลงทันที
“ทำไมกูต้องใช้คำว่าพี่กับคนที่แม้แต่น้องชายตัวเองก็ยังไม่เคยเรียกมันว่าพี่เลยสักคำ”
“มึงพูดเหี้ยไร”
“ตามนั้น
ได้ยินว่าแบบไหนล่ะ ลองทวนประโยคให้กูฟังสิ
แล้วจะบอกให้ว่ามึงได้ยินถูกต้องรึเปล่า”
อ่ะโหยยยยยย มันพูดเหี้ยไรวะผมแทบกระโจนเข้าไปชกมันแล้วถ้าไม่ติดว่าปิงเป็นคนพามันมาแล้วมันเป็นแขกของไอ้เอย์
ก็จริงที่เอย์มันไม่เคยเรียกผมว่าพี่ เราต่างกันแค่ปีเดียวเล่นหัวกันมาแต่เด็กเพราะงั้นมันไม่แปลกที่น้องผมจะเรียกผมแค่ซ่าร์
แต่กับไอ้เห้นี่มันใช่เหรอ??
มันควรจะให้เกียรติผมดิ่ อะไรแม่งวะ หน้าตากวนตีน พูดจากวนประสาท
แล้วนิสัยย้อนคำของมันอีกหลุดออกมาแต่ละประโยคนี่ผมแบบ....เชื่อมันเลย ได้ยินว่ามันเป็นโปรแกรมเมอร์เบอร์หนึ่งของยูเซย์
โปรแกรมเมอร์ปากหมาแบบนี้มีด้วยเหรอวะ
“กูจะเข้าห้องสักทีได้หรือยัง
หรือมึงยังอยากจะเสวนากับกูต่อจนถึงเช้า เดี๋ยวเข้าไปนอนคุยกันข้างในก็ได้นี่
มึงว่านี่ห้องมึงใช่ไหมนะ”
ผมข่มลมหายใจกัดฟันกรอด
บอกตัวเองอดทนไว้ ๆ ก้าวพรวดๆเดินถัดไปอีกห้องแล้วเปิดประตูผลั๊วะ!ออก
“เรื่องอะไรกูจะให้มึงเข้าไปนอนด้วย
หน้าอย่างมึงฝันไปเหอะจะได้เห็นแม้แต่เตียงนอนกู
เข้าไปดิ่ นี่ห้องมึงไง”
“หึหึหึ”
มันหัวเราะในลำคอแล้วเดินกระแทกไหล่ผมแทรกผ่านเข้าไป
“มึงหัวเราะเหี้ยไร”
ผมอดไม่ไหวตามเข้าไปถาม ประตูห้องปิดลง
“หัวเราะก็แปลว่าขำไง”
“นั่นแหละ
แล้วมึงขำเหี้ยไร” ผมก้าวเข้าหา มันนั่งลงที่เตียงเท้าสองแขนเอนตัวไปด้านหลัง
แสยะยิ้มมอง ทำท่าเหมือนตัวเองเหนือกว่า
“ทำไม?? ตามเข้ามาทำไมกูจะนอนแล้ว หรือมึงจะนอนด้วย
ไหนมึงบอกนี่ห้องกู”
“อย่ามากวนตีนกูให้มาก
กูพี่มึงนะ”
“กูจำได้สิ
มึงเป็นรุ่นพี่กูอยู่แล้ว มีอะไรดีกว่าเรื่องอายุที่มากกว่ากูแค่ปีเดียวล่ะ
แบบนั้นกูจะยอมเรียกมึงว่าพี่ให้ก็ได้”
“คเชนทร์!” ผมตะคอกขึ้นเสียงดัง โกรธมากนะบอกเลยกำหมัดแน่น
สายตาของมันเหมือนใครสักคนที่ผมเคยรู้จักเมื่อนานมาแล้ว
“ไหนเมื่อกี้ถามไงว่ากูชื่อเชนใช่ไหม
จะเอาไงแน่ตอนนี้รู้แม้กระทั่งชื่อเต็ม ๆของกู พวกดาราเนี่ยไม่เคยจริงใจหร๊อก
ทำหน้าตาว่าน่าเชื่อถือยิ้มร่ากับทุกคน มันก็มีเฟคกับเฟคนั่นแหละว๊า”
“ปากดีนักนะมึง
กูก็ถามไปตามมารยาท ก็แค่อยากจะชวนมึงคุย เห็นว่ามึงเป็นเพื่อนกับปิง”
“นั่นแหละที่เรียกว่าเฟค
งี้ไงถึงเกลียดพวกดารา รู้จักกูหรือก็ไม่ทำเป็นส่งยิ้มหวาน หึหึ โคตรตอแหลเลย”
“เกินไปหน่อยไหม
เราเพิ่งจะรู้จักกันนะ ออกตัวแรงไปรึเปล่าบอกไม่ชอบกันเนี่ย”
“ชิ น่าเบื่อ”
มันว่าแล้วลุกขึ้น
“ออกไปได้แล้วมั้งกูจะนอนแล้ว
ดาราน่ารำคาญ” คว้าเอากระเป๋าที่วางอยู่บนเตียงโยนโครมลงที่พื้นจากนั้นเดินหายเข้าห้องน้ำไป
ผมคำรามในคอไล่หลังอย่างขัดใจแต่มันไม่เห็น
ไม่คิดเลยว่าเจ้านายปิง
คนที่ไอ้เอย์บอกปิงนับถือเหมือนพี่ชายมันจะเป็นคนกวนตีนมากขนาดนี้ เดินออมาจากห้องปิดประตูเสียงดังโครมครามเอาให้มันสะดุ้งไป
เลยไม่เกรงใจใครแล้ว
ผมยืนสงบใจอยู่หน้าห้องไม่ถึงห้าวิด้วยซ้ำ
เสียงแกร็กล็อคกลอนดังจากภายใน ผมนี่กัดฟันกรอดเลยมันแสดงออกชัดเจนมากว่าไม่อยากให้ผมกวนไม่ชอบขี้หน้าผม
ชัดเจนมากจริงๆ
ไม่เคยมีใครทำกับผมแบบนี้
คนอย่างผมเจอใครมีแต่คนวิ่งเข้าหา
พี่ซ่าร์อย่างนั้น น้องซ่าร์อย่างนี้ ซีซ่าร์โคตรเท่ หลายๆคำพูดยกยอปอปั้น
มีแต่ไอ้เหี้ยนี่คนเดียว
มันเป็นบ้าอะไรของมัน??
คืนนั้นกว่าผมจะหลับลงเกือบตีสี่
ยังต้องถ่างตาตื่นมาเตรียมต้มน้ำไว้ให้แขกของน้องชายที่มาพักที่บ้านอีก
สำหรับหมาปิงผมเต็มใจเหอะปิงน่ารักผมชอบมัน เอาวะผมจัดการทำเบรคฟาสต์ง่าย ๆ
ไว้สองที่ส่วนตัวเองน่ะไม่เคยกินเช้าอยู่แล้ว จานของปิงผมจะแถมไข่ให้อีกสองฟอง
ผมชอบปิงนะปิงน่ารักเป็นเด็กดี
ผมชอบเขาตั้งแต่ได้รู้จักเขาผ่านทางน้องชายของผมเมื่อสามสี่ปีที่แล้ว
ปิงไม่ได้เปลี่ยนไปเลยยิ่งมารู้ว่าตอนนี้น้องประสบความสำเร็จผมเองก็ดีใจด้วย ปิงน่ารักกับผมพูดเพราะมีน้ำใจ
แหม่...
ทำไมมันแตกต่างจากอีกคนราวฟ้ากับเหวแบบนี้วะให้ตาย! ผมเคาะตะหลิวกับขอบกระทะอย่างสะใจเมื่อนึกบางอย่างออก จานนี้ผมจะให้ไข่ดาวมันแค่ครึ่งฟองบอกตอนทอดมันไหลหายไปเอง
ไส้กรอกก็แค่ชิ้นเดียวต้องบอกมันหมดพอดี ส่วนแฮมเอาชิ้นแข็ง ๆ นี่เลยชิ้นนี้ขี้เหล่สุด
ส่วนชิ้นสวยๆเก็บไว้ให้หมาปิง
เจ้าเอย์มันกำชับมาแล้วผมต้องเลี้ยงดูปูเสื่อน้องสะใภ้ผมให้ดี
อ้อที่จะลืมไม่ได้อีกอย่าง เดี๋ยวไอ้บ้านั่นมันต้องลงมาหากาแฟกินแน่ ๆ
นอนดึกขนาดนั้นต้องตื่นแต่เช้าแบบนี้ คึคึ เดี๋ยวตูจะซ่อนครีมซ่อนน้ำตาลแล้วบอกลืมซื้อมีแต่เมล็ดกาแฟเปล่าๆนี่แหละกินไม่กิน
โอ๊ยยยยแค่คิดก็ขำกลิ้งอยากดูหน้ามันว่ะ แดกกาแฟดำได้ตาค้างไปจนถึงตอนดึกแน่ ๆ
เสียงตึงตังดังขึ้นที่ด้านหลังผมรีบหันไปมอง
ไอ้โซ่ตรวนแห่งความดำมืดมันลงมาแล้วเชิ้ตสีดำผูกเนคไทสีเงินเส้นเล็กๆ
ขามันยาวมากพูดง่าย ๆ ผมว่ารูปร่างเหมือนเอย์ตั้นน้องชายผมไม่มีผิด แต่ผมไม่สนใจเซ้นต์แฟชั่นมันหรอก
เสื้อผ้าหรูหราดูดีกว่านี้ผมใส่มาหมดแล้วตอนถ่ายแบบเพราะงั้นเวลาอยู่บ้านผมจึงมักใส่เสื้อผ้าธรรมดา
ยิ่งอยู่ในช่วงพักผ่อนยาวแบบนี้ผมมาเชียงใหม่จะใส่เสื้อผ้าม่อฮ่อมเย็น ๆ โปร่ง
ไม่ก็ผ้าฝ้ายสวย ๆ สบาย ๆ ทุกครั้ง
มันลากเก้าอี้ออกมานั่งกางหนังสือพิมพ์อ่าน
ผมนึกโทษตัวเองนิดๆแม่งกูไม่เก็บหนังสือพิมพ์วะ แล้วเอาฉบับเก่าๆมาแทนที่ ทำท่าบอกไม่ได้ซื้อ
ทางที่ดีน่าจะหยิบของปีที่แล้วโน่นเลยมา
มองไปที่บันไดอีกครั้งปิงยังไม่ลงมา
คงกำลังแต่งตัวอยู่ตอนนี้เจ็ดโมงครึ่ง
“กาแฟอยู่ที่เคาน์เตอร์”
ผมถือจานอาหารเช้าค้างไว้สองมือ สองจานใหญ่ ๆ ยังไม่วางลงกลัวมันเห็นความแตกต่าง
มันพับหนังสือพิมพ์เก็บแล้วเงยหน้ามองผมจากนั้นลุกขึ้นไปที่เคาน์เตอร์
ผมรีบวางสองจานปรู๊ดลงทันทีจัดการครอบฝาชีไม้สองอัน พอหันกลับไปมองเห็นมันกำลังตักเมล็ดกาแฟใส่ช่องแล้วกดสวิท
เอาแก้วรองเครื่อง ผมยกยิ้มรอเวลาดูมันว่ามันจะทำยังไงต่อไป มีแต่กาแฟเปล่า ๆ
นมหรือครีมเทียมก็ไม่มี น้ำตาลหรือก็ไม่ หึหึ เอาแล้วไงเริ่มส่อง ๆ
หาอะไรบางอย่างข้างที่ชงกาแฟแล้ว มึงไม่เห็นหร๊อกกกกูซ่อนไว้แล้ว ไว้ปิงลงมาจะชงให้อย่างหวานมันและอร่อยเลย
“หวัดครับพี่ซ่าร์”
ผมสะดุ้ง เสียงปิงดังขึ้นผมรีบหันมา หมาน้อยในชุดเชิ้ตสีเทาเท่มาก
รูปร่างกำลังดีพอฟัดพอเหวี่ยงกับผมนั่งลงที่โต๊ะ
“ปิงนั่งทางนี้ครับ”
ผมรีบบอกน้อง
ปิงดันไปนั่งผิดฝั่งด้านนั้นมันเป็นจานที่ผมทำไว้แกล้งไอ้โซ่ตรวนแห่งความมืดนั่นไง
มันชื่อเชนใช่ไหม เชนกับโซ่ก็อันเดียวกันอ่ะแหละ เพราะงั้นเรียกมันโซ่ขึ้นสนิมได้ยิ่งดี
โทษฐานไม่รู้จักเด็กจักผู้ใหญ่
“พี่เชนหาอะไรน่ะครับ”
ปิงเดินเข้าไปหามัน
“น้ำเชื่อม”
ผมขมวดคิ้วทันทีที่มันตอบ
“พี่ซ่าร์ครับ
ที่นี่มีน้ำเชื่อมไหมครับพี่ หรือจะเป็นคาราเมลก็ได้พี่เชนเวลาทานกาแฟจะไม่ใส่น้ำตาลกับครีมเทียมน่ะครับ”
ปิงหันมาถาม ผมอึ้งไปนิดแต่ค่อย ๆ เดินไปที่ตู้เย็นแล้วเปิดหยิบให้
ปิงรับไปแล้วบีบลงให้มัน
ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่ไม่อยากจะบอกเลยว่าไอ้ห่านี่มันทำไมต้องรสนิยมเดียวกันกับผมเลยวะ
หายากนะคนที่กินกาแฟดำแล้วไม่ใส่น้ำตาลหรือครีมแต่ใส่น้ำเชื่อแทนเพราะมันจะเพิ่มความขมปี๋ขึ้นไปอีก
เมื่อก่อนผมไม่กินแบบนี้แต่ช่วงที่ถ่ายละครติดๆกันหลายวันมีรุ่นพี่เขาแนะนำมาผมลองกินดู
ติดใจ
“ปิงกินกาแฟไหมเดี๋ยวพี่ชงให้”
“ขอบคุณครับ
เดี๋ยวผมชงเองก็ได้” ปิงเดินมาหยิบแก้วผมเลยปราดเข้าไปรับ ชนกับไอ้โซ่ตรวนมันหันมามองตาเขียว
อะไรของมันวะผมจะเทคแคร์น้องมึงเดินมาขวางทางเอง
แล้วก็นะมึงไม่นับถือกูเป็นพี่เพราะงั้นเชิญมึงเทคแคร์ตัวเองไปเหอะ
“พี่ชงให้เอง ปิงไปนั่งเถอะ”
“พี่ซ่าร์ทำไมถึงอยู่เชียงใหม่ล่ะครับ
ผมขออนุญาตถามได้ไหม” ปิงนั่งลงแล้วเปิดฝาชีเล็กๆออก รอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปากขณะที่อีกคนเปิดฝาชีออกเหมือนกัน
มันกลับหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ผมขำ
“พักน่ะ
ชาร์ตแบบสักสองสัปดาห์ก่อนกลับไปลุยงานอีก” ผมตอบปิง แอบหันไปมองแล้วขำจานอาหารของไอ้คุณคเชนทร์
แหม่ ถ้าสมน้ำหน้านี่มันจะบาปป่ะวะ ผมแกล้งเด็กผมก็รู้แต่มันอยากมาอวดดีปีนเกลียวผมก่อนทำไม
“ดีจังเลยครับมีหยุดพักเหนื่อยด้วย
ชาร์ตพลังธรรมชาติที่เชียงใหม่เนี่ยโอเคมากๆเลย” ผมวางกาแฟลงให้น้อง
“ต่อไปถ้าปิงมาเที่ยวบอกพี่ได้เดี๋ยวเอากุญแจแล้วขึ้นมาพักฟรี
ๆ ได้เลย พี่อนุญาต”
“ขอบคุณมากครับ
แค่นี้ก็เกรงใจพี่มากแล้ว พี่ซ่าร์ใจดีจริง ๆ ใช่ไหมครับพี่เชน”
คุณคิดว่ามันจะตอบเหรอ
ผมรอฟังคำขอบคุณของมันจนเหนื่อยก็ไม่มีคำนั้นหลุดออกมาจากปากมันหรอก
ท่าทางเจ้าปิงจะไม่สังเกตจริง ๆ
ว่าอาหารในจานตัวเองเยอะมากเมื่อเทียบกับจานของคนตรงข้ามที่ทุกอย่างมีแค่อย่างละครึ่ง
มันก้มหน้าก้มตากิน
“เดี๋ยวพวกผมต้องออกไปแล้วครับ
พี่ซ่าร์จะออกไปไหนหรือเปล่า”
“ไม่หรอกพี่นอนเล่นอยู่บ้านนี่แหละเดี๋ยวดึกๆจะพาไปเที่ยวนะ
ตอนเย็นกลับมาทานข้าวด้วยกันไหม”
“ไม่!” คำแรกที่มันพูดกับผมวันนี้ เกือบจะเป็นเสียงตะคอกด้วยซ้ำ
“เดี๋ยวกูจะพามึงไปกินของอร่อย
ๆ น่าเบื่อทำไมต้องหมกตัวอยู่แต่ในบ้านจะไปไหนก็ไม่กล้า ใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ
ทำอะไรก็ต้องปิดบังเปิดเผยไม่ได้สักอย่าง กูรันทดแทนจริง ๆ กับชีวิตแบบนี้”
“พี่เชน”
ปิงทำตาดุใส่มัน คำพูดมันแทงใจผมทุกคำเลย มันตวัดสายตามองมาก่อนจะเรียกปิงให้ขึ้นรถปิงหันมายิ้มเจื่อนๆให้ผม
“ขอโทษนะครับพี่ซ่าร์ปกติพี่เชนใจดีไม่เคยเป็นแบบนี้เลยครับ”
“ไม่เป็นไร
พี่ไม่ถือหรอก” ผมตอบแล้วยิ้ม กลัวน้องไม่สบายใจ
มองตามท้ายรถที่ขับออกไปปิงวิ่งลงมาปิดประตูแล้วโบกมือให้ผม
ที่นี่ไม่มีแม่บ้านประจำเพราะผมนาน ๆ จะขึ้นมาทีเพราะงั้นงานบ้านหลายอย่างผมจึงต้องทำเอง
ในที่สุดเขาสองคนก็ออกกันไปแล้ว
คำพูดทั้งหมดที่ออกมาจากปากของมัน ไอ้คนอวดดีติดอยู่ในหัวผมซ้ำไปซ้ำมา
เรื่องจริงของตอนนี้ก็คือผมเริ่มเอียนกับชีวิตที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ในวงการบันเทิง
จะเดินไปไหนทีต้องปลอมตัวไม่ก็พรางตัวให้มิดชิด เวลาส่วนตัวแทบจะไม่เคยมี ใช้ชีวิตเพื่อสังคมทำอะไรต้องแคร์สื่อไปทุกอย่าง
ผมรักหน้าตาตัวเองมากกว่าทุกสิ่งทุกอย่างชื่อเสียงสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด แต่ ณ
ตอนนี้ผมก้าวผ่านจุดนี้มาแล้ว
ความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใส่ยิ่งกว่าพายุเมื่อตอนเกิดเรื่องน้องอันวาลูกชายของผมเอง
ผมอิฉาไอ้เอย์แทบจะบ้าเมื่ออันวาเรียกมันว่าแด็ดดี้แทนที่จะเป็นผมที่อันวาเรียกเป็นคนแรก
แต่เรื่องราวก็ผ่านพ้นมานานตอนนี้อันวาโตขึ้นมาก
เขาเรียนอยู่ที่ฟลอริด้า ผมไปหาลูกบ่อยนะเดือนล่ะครั้งนี่คือดีมากแล้วสำหรับระยะทางระว่างเมืองไทยกับอเมริกา
ส่วนนานะแม่ของอันวาเธอกำลังคบหากับผู้ชายคนใหม่ซึ่งเขาก็เป็นคนดีเข้าใจและใจดีกับอันวามาก
ผมเองก็ยินดีไปกับเธอด้วย พวกเราโตๆกันแล้วไม่ใช่เด็กๆอย่างแต่ก่อนอีก
เมื่อตอนที่เอย์ตั้นอยู่นิวยอร์กเห็นว่านานะพาอันวาไปหามันสองครั้งได้นอกนั้นก็คอลวีดีโอคุยกันเหมือนทุกที
แต่อันวาจะรู้และเข้าใจไปโดยปริยายแล้วว่าแด็ดดี้จริง ๆ ของเขาก็คือผม
ผมไม่แคร์แล้วหากตอนนี้จะมีสื่อเปิดเผยเรื่องของผมกับนานะและอันวาขึ้นมา
ผมยินดีที่จะยืดอกยอมรับว่าผมนี่แหละคือคุณพ่อตัวจริง
ปิงกับคเชนทร์กลับมาถึงบ้านราวทุ่มเศษ
เห็นว่าไปเดินตลาดไนท์กันมา หมาปิงหน้าบานยิ้มร่าเลย ผมรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยตอนที่เห็นไอ้เชนมันกอดคอแฟนน้องชายผมเดินเข้าบ้านมือใหญ่ของมันยีหัวปิงเล่นอย่างเอ็นดู
คือคุณเข้าใจใช่ไหมว่ามันใช่เหรอแบบนี้คือเรียกว่าพี่น้องแน่
ๆ ใช่ไหม ผมสงสัยในสายตามันตั้งแต่เอย์ตั้นน้องชายผมบอกให้ช่วยสังเกตดู
แน่นอนว่าปิงคงไม่ได้คิดอะไรแต่ไอ้โซ่ตรวนนี่ขอผมดูมันไปอีกสักพักก่อน ยังไม่ไว้ใจบอกตรง
ๆ
“พี่ซ่าร์ครับ
ผมซื้อขนมมาฝากพี่” ปิงยื่นลูกชิ้นปิ้งส่งให้ ผมอมยิ้ม ปิงก็ยังคงเป็นปิง
ไม่สงสัยเลยทำไมเจ้าเอย์รักมันมากขนาดนี้
ลูกชิ้นปิ้งสองไม้ T_____T
“พี่เชนบอกพี่ซ่าร์ไม่กินจุ
เพราะว่าพี่ซ่าร์เป็นนายแบบ รักษาหุ่น” ปิงเดินมานั่งลงที่โซฟาข้างผม
ทั้งสองคนถอดเนคไทกันออกหมดแล้ว มันจะรู้ไหมลูกชิ้นปิ้งราดน้ำซอสหวาน ๆ เป็นอะไรที่ผมชอบมากกกกกแล้วออกไปหาซื้อกินยากด้วย
หน้าตาแบบผมเดินไปไหนใครก็รู้จัก เพราะงั้นอาหารพื้น ๆ แบบนี้ผมจึงไม่ค่อยมีโอกาสได้กิน
ผมมองไปที่ไอ้ตัวขัดลาภ
มีอย่างที่ไหนไปบอกน้องมันว่าผมรักษาหุ่นไม่กินจุ บอกให้รู้ ผมน่ะกินจุมาก ไม่ได้เลือกกินเหมือนไอ้เอย์นะ
แต่คือผอมเองรูปร่างแบบนี้เอง แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยอ้วนเลย
“แล้วเป็นไงเรา
งานที่บริษัทนั่นไปดูแล้วโอเคไหม”
“ครับ ก็โอเค
คุยที่นั่นเสร็จตั้งแต่ก่อนเที่ยงแล้วล่ะครับพี่เชนประเมินงานแปปเดียวทางเจ้าของเขาอยากให้เราทำให้อยู่แล้วเลยไม่มีปัญหาอะไร”
“งั้นก็ดีแล้ว”
ผมยกนาฬิกาขึ้นดู
“ปิงกับเชนไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยไหม
เดี๋ยวพี่พาออกไปนั่งกินเหล้ากัน”
“กินเหล้า?” ปิงทำตาโตหันมาหาผม
ผมกำลังยัดลูกชิ้นปิ้งเข้าปาก
“ใช่ครับ
เดี๋ยวพี่จะเที่ยว
เชียงใหม่ตอนดึกๆสวยนะขับรถเล่นรอบเมืองเสร็จแล้วไปนั่งกินเหล้าปั่นกันต่อ
ไม่เมาหรอกรับรอง เราสามคนไม่มีใครคออ่อนหรอกใช่ไหม”
“พี่เชนครับ ”
ปิงหันไปหามัน ทำท่าเหมือนจะถามว่าเอาไง
“ตามใจมึง”เสียงทุ้มตอบเรียบๆ
มันกำลังแกะอมยิ้มกิน
“แต่พี่กินได้เหรอครับพรุ่งนี้ขับรถกลับนะ”
ปิงถูกมันผลักหัวจนเงิบ
“มึงเหอะอย่าเมาล่ะขี้เกียจนอนเฝ้าหมา”
“โหยผมไม่เมาหรอกมีแต่พี่แหละ”
“หึหึหึ”
มันหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
ผมรู้สึกบางอย่างในใจนะ
เวลาที่มันพูดคุยกับปิงดูอบอุ่น สายตาก็อ่อนโยน คเชนทร์จะดูเป็นตัวของตัวเองมากเวลาที่คุยกับน้อง
แต่กลับกันทุกครั้งที่มันคุยกับผมท่าทางเหมือนกำลังปิดบังอารมณ์ที่แท้จริง
คือเหมือนปิดซ่อนอะไรไว้ ตั้งใจพูดจาร้าย ๆ ตั้งใจทำเย็นชาใส่ผม
เพราะอะไร??
“พี่ซ่าร์ครับ
แต่พรุ่งนี้คือพี่เชนต้องขับรถกลับ”
“แค่เหล้าปั่นน่าปิง
ไม่กระเทือนหรอกคนหน้าตาแบบนั้น”
“หึ” ทั้งมันทั้งผมแสยะยิ้มแล้วหรี่ตามองกัน
คือหมั่นมันมากกำลังจะใส่ไปอีกสักดอกแต่หมาปิงมันจัดการเอาอมยิ้มที่กำลังแกะยัดใส่ปากพี่ชายมันก่อน
เจ้าบ้านั่นทำหน้าทำตาเอ๋อไปเลยดิ่
“เอ้ยยยยยยย
ไอ้ปิงทำอะไรกูเนี่ย” มันโวยวายขึ้น
“ก็พี่ทำหน้าแปลกๆผมก็นึกว่าพี่คงจะหิวดิ่”
“กูไม่หิวมึงแหละกินไปเองเลย”
“เย้ยยยยยยยพี่เชนผมไม่อ๊าววววววว”
เสียงสองตัวมันแกล้งกัน กลายเป็นว่าตอนนี้เจ้าปิงโดนพี่ชายมันยัดอมยิ้มอันเดิมเข้าปาก
สองคนนั่งกอดคอกันไว้ ปิงหน้างอไอ้เชนบิดแก้มกลมๆขอมันจนแดง
ไม่ชอบใจเลยจริง
ๆ ปิงมันแฟนน้องชายผมนะ
“ซี้ดดดด
หูยเปรี้ยว” เสียงปิงมันซี๊ดปากหลังจากดูดเหล้าปั่นสีสวย เราสามคนนั่งชิลกันอยู่ในโซนเอ้าท์ดอร์ของร้านเหล้าปั่นเล็กๆ
“สมดิ่
มึงอยากเลือกรสนี้ทำไมกูบอกแล้วว่ามันจะเปรี้ยว”
“ก็พี่เชนเลือกสีนั้นอ่ะ
ผมเลยเลือกสีนี้มา จะได้สลับกันดูดรู้หลาย ๆ รส”
“เอางั้นเอาของกูไปดูด”
มันสลับแก้วของตัวเองกับของปิง แล้วตักกับข้าวใส่จานให้ “กินนี่ด้วย จะได้ไม่เมามึงกินข้าวห่างหลายชั่วโมงแล้ว”
“แอร๋ แก้วนี้ทำไมขมงี้ล่ะ” ปิงเบ้หน้าแลบลิ้นแผล็บๆเหมือนหมามาก
“อะไรของมึงเรื่องมาก
กิน ๆ ไปเหอะ”
“คร้าบๆ”
ผมหัวเราะแล้วเลื่อนจานกรีนนัทไปให้เห็นปิงชอบ
ไอ้พี่ชายตัวดีตวัดสายตาใส่ก่อนจะเลื่อนจานนั้นออกแล้วเปลี่ยนเป็นเกรียบกุ้งไปวางแทน
ผมแกล้งไม่ใส่ใจ เรากำลังทำสงครามประสาทกันอยู่หรือไงผมคิด บ่อยครั้งที่สายตาเผลอสบกันพอดี
ตอนแรกผมไม่คิดหรอกว่าตัวเองจะหลบแต่มันคืออะไรวะ
ตาสบกันทีไรเป็นผมที่ยอมเบนออกไปก่อนทุกทีสิ
แล้วเราสามคนก็นั่งดูดเหล้าปั่นกันไป
หมาปิงท่าจะชอบมันเติมเป็นเหยือกที่สี่แล้ว เดินเซนิดๆด้วยนะ แต่มันไม่เมาหรอก
“เฮ้ยพี่ผมจะไปสั่งอีก”
ปิงลุกขึ้นยืนผิดท่าเซจนจะล้มไอ้เชนรีบรับเอาตัวน้องมันไว้
“เมาแล้วมึง”
“เมาที่ไหน
ผมแซบอ่ะ ที่กรุงเทพไม่มีเหล้าปั่นรสชาติพวกนี้
ที่นี่พิเศษเดี๋ยวพรุ่งนี้กลับแล้วผมจะกินเยอะๆเลย”
“จะกินสีอะไรเดี๋ยวกูเดินไปสั่งให้เอง”
“ฉีม่วง
ฉองแก้วเยยย” เมาจริงนี่หว่า ยิ้มตาหวานมาก
ผมดูหน้าไอ้เชนตายังใสอยู่มันแดกเข้าไปแค่สองเหยือก
ส่วนผมต้องใส่หมวกแคปมามิดชิดดื่มแค่เหยือกเดียว นั่งก้มหน้าตลอด
ครืดดดดดดดดดด
ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
มือถือปิงที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นเรียก
ผมชะเง้อคอไปดู น้องชายผมเองหน้ามันบานเต็มหน้าจอ ปิงเม็มรูปได้ทุเรศสุด
“ปิง
แฟนมึงโทรมา” ไอ้เชนยกมือถือส่งให้ “นั่งนี่นะเดี๋ยวกูออกไปสั่งมาให้”
ผมนั่งมองคนที่เดินออกไปสั่งเครื่องดื่มที่เคาน์เตอร์
สลับกับมองปิงที่นั่งคุยโทรศัพท์ มันจะดูแลกันดีเกินไปป่ะวะ ผมก็คิด ไอ้เอย์คงจะด่ากราดยับมาแน่
ๆ ปิงหน้าบูดเลยแหงล่ะต้องฟังออกแล้วว่าเมา พอมันวางสาย
ไอ้น้องชายตัวดีโทรเข้าเครื่องผมทันที
“ไอ้เหี้ยซ่าร์มึงพาปิงไปกินเหล้า?” มันแว๊ดขึ้นตั้งแต่ผมยังไม่ฮัลโหลเทส ผมรีบดึงโทรศัพท์ออกห่างจากหู
“นิดหน่อยเองแค่เหล้าปั่นแถวบ้าน”
“บ้านพ่องเด่ะ เหล้าปั่นร้านนั้นใช่ไหม ร้านดัง ๆ แถวนิมมาน”
“แสนรู้นะมึง”
“ดูแลให้หน่อย
ปิงเวลาเมาแล้วมันชอบอ้อนอย่าให้ไอ้เหี้ยนั่นนอนกับมันนะ มึงเคลียร์ให้ดี
ดูให้กูด้วย”
“รู้น่า”
“แต้งส์” ผมกำลังจะวาง
“ซ่าร์เดี๋ยว”
“มีอะไรอีก”
“กูไว้ใจมึงนะ
คนนี้กูจริงจังมึงรู้ใช่ไหม หมาปิงของกูนะเว้ยไม่อนุญาตมึงเหมือนทุกคนที่ผ่านมา”
“คร้าบรู้แล้วครับท่านเอย์ตั้น
ท่านประธาน น้องซีซ่าร์จะดูแลให้ดีเลย ไว้ใจได้”
ผมประชดมันเสร็จแล้วกดวาง
เชนเดินกลับมาตอนที่ผมวางหูพอดี
ปิงมันนั่งยิ้มตาหวานเล่นอะไรบางอย่างอยู่ในมือถือ
“ไหวนะ
กูสั่งให้อีกสองเหยือก”
“ไหวพี่ แต่พรุ่งนี้พี่ขับนะผมช่วยไม่ไหวหรอก”
“กูเคยบอกว่าจะให้มึงขับ?”
“ฮิฮิ”
มันยิ้มตาหยีเจอไอ้เชนบิดจมูกไปทีมันปัดออกอย่างแรงเลย
เราสามคนนั่งดูดเหล้ากันต่ออีกฟังเพลงไปเรื่อย
ผมยกมือถือขึ้นดูเวลาเกือบจะห้าทุ่มแล้ว บรรยากาศในร้านชิลมากเพลงเบา ๆ ช้า ๆ
คลออยู่ตลอดเป็นเพลงเย็น ๆ สบายฟังง่าย
ตุ่บบบ!!
ผมสะดุ้งขึ้น
จู่ ๆ ปิงโยนมือถือโครมลงที่โต๊ะหน้าตานี่ไม่สบอารมณ์เอามากๆ คเชนทร์เองก็คงสังเกตเหมือนกันกับผม
เป็นมันที่เร็วกว่าคว้าเอามือถือปิงขึ้นมาแล้วพลิกหน้าจอดู มันส่ายหัวแล้วโยนโทรศัพท์ลงที่โต๊ะทันทีเหมือนกัน
ท่าเดียวกันเปี๊ยบ
“โทรไปถามมันดิ่”
เสียงคเชนทร์ ปิงส่ายหน้าจับเอาเหยือกเหล้ามาดูดต่อ มันไม่ทันใจยกซดเลย
“ไม่มีอะไรหรอกแค่รูปถ่ายคู่กัน
มึงอย่าไปคิดอะไรมาก กิน ๆเข้าไปเดี๋ยวเมาแล้วมึงก็จะลืมได้เอง กลับไปค่อยถามดู”
ผมมองไปที่หน้าจอมือถือ
ปิงใช้ซัมซุงจอใหญ่ ภาพจากอินสตาแกรมโชว์รูปถ่ายคู่ของน้องชายผมกับใครสักคนข้างๆ
ผมถือวิสาสะหยิบขึ้นมาดู
จริง ๆ
มันก็แค่รูปถ่ายคู่ของเพื่อนผู้ชายสองคนปกติทั่วไปแต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้นคือ สองคนในรูปนั่งอยู่ข้างกันที่เก้าอี้ชายหาด
เอย์ตั้นนั่งอยู่ที่เตียงผ้าใบส่วนอีกคนตัวเล็กน่ารักนั่งอยู่ที่ตรงพนักวางแขนของเก้าอี้โน้มตัวไปใกล้กอดคอเอย์มันไว้
โพสท่ายิ้มใส่กล้องหัวชนกัน
ท่าทางโคตรจะสนิทสนม....ผมรู้มานิดหน่อยเหมือนกันว่าตอนนี้เอย์มันอยู่ที่ปราณบุรี
กับใคร??
“พี่เชนครับปิงง่วงนอน”
เสียงคนข้าง ๆ พูดขึ้นปิงเมามากแล้ว คเชนทร์รับเอาแขนมันไปพาดไว้ที่บ่า
“พวกเราจะกลับกันแล้ว
มึงไปคิดตังค์” ผมพยักหน้ารับเบา ๆ ลูบหัวน้องปลอบใจไอ้เชนทร์รีบดึงปิงออกจากมือผม
“พวกกูจะไปรอที่รถ”
เราใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้าน
ปิงนอนหลับอยู่ที่อกมัน
ผมมองผ่านทางกระจกหลังอยู่ตลอดคเชนทร์ไม่ยอมปล่อยปิงออกจากอกมันเลย สายตาที่มันจ้องมองออกไปมองข้างทางผมอธิบายไม่ถูก
“คืนนี้กูจะนอนห้องนี้กับปิง
มึงออกไปเลยก็ได้เดี๋ยวกูจัดการเปลี่ยนชุดให้มันเอง”มันนั่งลงที่เตียงเริ่มปลดกระดุมเสื้อปิงลง
รายนั้นหลับไม่รู้เรื่องไปแล้ว
“ทำแบบนั้นไม่ได้
มึงจะเช็ดตัวให้มันก็ทำไปเสร็จแล้วก็ออกไปที่ห้องมึง กูไม่อนุญาตให้มึงนอนที่ห้องนี้”
“ทำไม”
มันลุกขึ้นมา
“..........”
จะให้ผมตอบออกไปได้ยังไงว่าเอย์ตั้นมันสั่งกำชับมาทั้งที่ตัวมันเองก็ทำอะไรไม่รู้อยู่กับใครอีกคน
“กูจะลงไปเอาน้ำเย็น”
มันว่าแล้วเดินแทรกตัวออกไป
ผมนึกได้ว่าตัวเองเก็บมือถือปิงไว้เลยเอาขึ้นมาวางลงให้ที่ข้างเตียง
นึกยังไงไม่รู้ลองรีเฟรชหน้าจอนั้นดูใหม่ปรากฏว่าถูกลบทิ้งไปแล้ว
ผมล้วงมือถือตัวเองขึ้นมาทันที ดึกแล้วแต่ก็คิดว่าจะต้องโทรถามเอย์ให้รู้เรื่อง ผมเดินออกไปที่หน้าห้องกำลังจะต่อสาย
“อย่าโทรนะ
ไม่ต้องโทร” มันเดินขึ้นบันไดมาพร้อมเหยือกน้ำเย็นในมือคว้าหมับเอาโทรศัพท์ผมไป
“กูจะถามเอย์ให้”
“ไม่จำเป็น”
“แต่ปิงมันไม่สบายใจ
ถ้าหาก.....
“กูดูแลมันได้
บางทีน้องชายมึงอาจไม่จำเป็นอีกแล้ว”
“ไอ้เหี้ย! มึงชอบแฟนน้องชายกูเหรอ” ผมตะคอกขึ้น กระโจนใส่มันเลย
ไม่สนใจอะไรแล้ว คำพูดที่ออกมาจากปากมันคือเห้มากจริง ๆ
“หึหึ”
มันดึงมือที่ผมขยุ้มคอเสื้อมันออก แสยะยิ้มแล้วทำท่าจะเดินเข้าไปข้างใน ผมก้าวขวางไว้
“จริงไหม
มึงชอบปิงจริงเหรอ”
“นั่นมันเรื่องของกูไม่เกี่ยวกับมึง”
“แต่ปิงเป็นน้องกู
เป็นแฟนน้องชายกู มันรักมึงมากคำก็พี่ สองคำก็พี่ เวลาที่อยู่กับมึงเที่ยวบอกกับทุกคนว่ามึงเป็นพี่ชาย
ชั่วเอ้ยมึงทรยศความรู้สึกของมัน”
“มึงพูดเองทั้งนั้น
คิดไปเองแล้วก็พูด ไม่รู้อะไรจริงสักอย่าง
สักแต่จะพูด หลีกไป!” มันหัวเสียผลักผมออกแทรกตัวจะเข้าไปด้านในแต่ผมยังขวางไว้อีกเลยเจอมันสวนคว้าหมับเข้าที่คอเสื้อแล้วดันตัวผมกระแทกใส่ฝาผนังเสียงดัง
“เชี่ย! เดี๋ยวหลังกูเป็นรอย”
แรงมากผมเจ็บแผ่นหลังไปหมด
ร่างกายผมจะเป็นรอยด่างดำไม่ได้เด็ดขาดเวลาถ่ายแบบคุณก็รู้
“คเชนทร์
มึงพูดออกมาก่อนว่ามึงคิดยังไงกับปิง
กูไม่ยอมนะถ้ามึงคิดไม่ซื่อแล้วมาอยู่ข้างๆแฟนน้องชายกูแบบนี้ ไอ้ตัวอันตราย”
“ถอยไป!” มันว่า
“ไม่ถอย”
ผมตามรังควานมัน
“กูบอกให้ถอย”
ท่าทางมันเอาจริง
“ไม่ถอ- เย้ยยยยยยยยยย”
มันคว้าเอาคอเสื้อผมแล้วลากไปตามทางเดิน ผมทั้งเดินทั้งล้ม
“ไอ้เหี้ย
มึงปล่อยกู บ้าไปแล้ว กูแค่ถามว่ามึงคิดยังไงกับปิง ถ้าไม่ได้คิดก็แค่บอกกูมาสิวะ
อย่ามาทำแบบนี้กับ.....อุ๊กก!!” ผมถูกโยนโครมลงบนเตียงที่ห้องของมัน เชนแรงเยอะมากจริง ๆ
“นอนไป
นอนอยู่ตรงนี้อย่ามายุ่งเรื่องของกู” มันว่าแล้วหันหลังให้กำลังจะก้าวออกไปผมรีบลุกขึ้นวิ่งไปดึงคอเสื้อมันจากด้านหลังจนหน้าแหงน
ไอโขลกออกมา “อย่ามาอวดดีดับกูมึงบอกกูมาคิดไงกับปิง”
“หาเรื่องใส่ตัวจริง
ๆ นะมึง” มันคำราม
มันหันกลับมาจ้องหน้าผมอย่างนิ่ง
แววตาที่มองคล้ายใครสักคนขึ้นมาอีกแล้ว
ผมล้วงลึกความทรงจำของตัวเองยังไงก็นึกไม่ออก
เราสองคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อนผมมั่นใจว่าอย่างนั้น แต่สองครั้งแล้วที่ดวงตาสีดำสนิทคู่นี้จ้องผมราวกับว่าเราสองคนเคยรู้จักแล้วเป็นคู่แค้นกันมา
ผมไม่เคยมีศัตรูที่ไหน
ทำยังไงผมก็นึกไม่ออก
เฮือกกก!!
ผมสะดุ้ง เชนกระชากแขนผมแล้วเหวี่ยงลงที่เตียงอีกครั้ง
แรงมากจนผมแทบจุก มันเดินหน้าเข้าหาปลดกระดุมเสื้อตัวเองลง
“ไอ้เหี้ย! มึงคิดจะทำอะไร” ผมร้องขึ้นมาสุดเสียงเพราะมันกระโดดขึ้นคร่อมกดสองแขนผมลงจนจมฟูก
ผมดิ้นๆๆทั้งร้อง มันแสยะยิ้มสายตาโลมเลียไปทั้งตัว
“จำกูไม่ได้จริงเหรอ”
มันถามเสียงเย็น “หึหึ
ความจำมึงสั้นมากนะ”
“เชนมึงปล่อยกูก่อน”
“แต่ไหนแต่ไรกูไม่เคยอยากถูกตัวมึงเลยมึงรู้ไหม
มาถึงที่นี่ก็พยายามที่จะไม่พูดกับมึงแล้วแต่ใครกันที่มาคอยหาเรื่องเซ้าซี้กับกูอยู่ตลอด”
“ดะ....เดี๋ยว”
ผมเริ่มเจ็บแขนมันกดไว้แรงมากๆ
“กูจะคิดยังไงกับปิงเกี่ยวอะไรกับมึง”
“ไอ้เหี้ย ไม่เกี่ยวได้ไง
กูเป็นพี่ชายไอ้เอย์ ถ้ามึงคิดอะไรไม่ซื่อกูก็ไม่อยากให้มึงอยู่ใกล้ชิดน้องมันอีก
กูจะบอกน้องกูให้ระ....อื้อออออ ตุ๊บๆๆๆๆ”
มันเอามือมาบีบปากผมแรงมากน้ำตาแทบจะเล็ดก้มตัวลงมาประกบปากสอดแทรกปลายลิ้นแล้วบดบี้
ผมใช้มือที่เป็นอิสระทุบๆๆๆหลังมัน ประตูหน้าห้องยังเปิดอ้าไว้
“ปล่อยกะ........อื้มมมมมม
ชะ....เชนนนน”
แขนขาเราสองซัดกันนัวเนีย
ยิ่งผมขัดขืนมันยิ่งบ้า ผมทั้งเตะตั้งถีบทั้งทุบ จูบเหี้ยอะไรยาวนานมาก
ปากผมเจ็บระบบไปหมด
“ปล่อยกู! แฮ่กๆๆๆ”
ผมได้โอกาสตอนที่มันถอนจูบออกกระเสือกกระสนคว้าเอาอากาศเข้ามาหายใจ
“เชน มึงเป็นไบ??”
ผมหอบหายใจถามมัน แล้วยกหลังมือปาดเช็ดริมฝีปากตัวเอง ผลักตัวมันออกแต่มันยังคร่อมผมไว้แน่น
“กูเป็นผู้ชาย! กูไม่ได้เป็นไบ!! ไม่ได้เป็นเกย์!!! ”
“แต่มึงจูบกู
จูบกับผู้ชาย มึงเป็นไบแล้วแน่ ๆ”
“อย่ามาปากดี!” มันแว๊ดขึ้น
“กูบอกว่ากูเป็นผู้ชาย
ขยะแขยงมึงแทบจะแย่ รู้ไว้ด้วย จูบเมื่อกี้กับมึงกูแม่งโคตรรู้สึกแย่เหี้ยๆเลยว่ะ
เลวร้ายสัสๆ”
“ไอ้.....อื้มมมมมมมม
ตุ่บๆๆๆ ผั๊วะๆๆตุ่บๆ”
มันบ้าไปแล้วแน่
ๆ มันว่ารู้สึกแย่เหี้ยๆเลวร้ายสัสๆ แต่มันก้มลงมาดูดปากผมต่อ ผมจะงับลิ้นมันก็ทำไม่ได้
ถูกมันบีบปากไว้แน่นมาก กรามกูจะหลุดไหมผมคิด
“ปล่อยยยยยยย”
ผมครางเรียกทั้งที่ปากเรายังติดกัน มันยิ่งตวัดเอาลิ้นเกี่ยวผมรุนแรงขึ้น
เสียงดูดลิ้นดูดปากดังลอดออกมา เหี้ยเอ๊ยจูบกับผู้ชายผมเคยทำมาแล้วทั้งนั้นเด็กน่ารักหน้าไหน
ๆ ผมสอยมาหลายสิบ แต่ทำไมวะ
ทำไมถึงไม่มีใครจูบผมได้ถึงใจเหมือนไอ้หมาบ้านี่เลยสักคนเดียว
สัสเอ้ย!
ผมเผลอหลับตาลงแล้วจูบตอบมัน....อื้มม
~
“อื้ออ..” เชนแรงเยอะมากและรุนแรง
มันสอดมือเข้ามาที่เสื้อแล้วบีบบี้ที่ส่วนสำคัญสองติ่งเล่นนวดเฟ้นราวกับว่าหน้าอกผมดูมๆเหมือนพวกผู้หญิง
ปลายจมูกโด่งก้มซุกลงที่ซอกคอ
“อ๊ะ!” ผมสะดุ้งเฮือกร้องอย่างดัง มันดึงจุกนมผมแรงมาก บดบี้เข้าไปอีก
“กูเกลียดมึง”
มันพูดทั้งที่ยังระดมจูบ เลียปลายลิ้นร้อนไล่ไปตามโครงหน้า
ผมเอียงหัวตอบรับให้สอดคล้องกับจังหวะของมันอย่างลืมตัว ผมเริ่มรู้สึกได้แถว ๆ
หน้าขา
เชนกำลังมีอารมณ์.....แต่ไม่ใช่แค่มัน
“กูเกลียดหน้าตามึง
เกลียดท่าทางถือดีที่คิดว่าตัวเองหน้าตาดีเหนือกว่าใคร ๆ ของมึง” มันไล่จูบยาวลงไป
กระดุมเสื้อผมถูกปลดออกตอนไหนผมไม่รู้ตัวเลย
ลิ้นร้อนกำลังซุกซนป่าเถื่อนอยู่แถว
ๆ หน้าอกของผม มันอ้อล้ออยู่ตรงนั้นนานหลายนาที เสียงจ๊วบจ๊าบดังลั่นไปทั่วทั้งห้อง
ผมทั้งเจ็บทั้งเสียว
“อ๊ะ....
“มึงจำกูไม่ได้จริง
ๆ” มันว่าแล้วยืดตัวขึ้น ละทุกอย่างออกมามีแต่ตัวมันที่ยังคร่อมผมไว้ ถอดเสื้อที่สวมอยู่ออกทางหัว
“กูเคยท้าต่อยกับมึงสองครั้งตอนมอปลาย
แล้วทุกครั้งมึงก็ไม่เคยมาตามนัดเลยหายหัวตลอด ลากเอาแฟนกูไปปู้ยี่ปู้ยำ กว่าจะได้ตั๊นหน้ามึงแต่ล่ะหมัดกูตามจนรู้สันดานมึงไปหมดแล้วนั่นแหละ”
“ดะ....เดี๋ยว....
มันพูดเรื่องอะไร??!!
“กูไม่เข้าใจ
ผู้หญิงกี่คนต่อกี่คนของกูทำไมต้องไปเสร็จด้วยชื่อเหี้ย ๆ ของมึงด้วย ซีซ่าร์ ชื่อนี้กูโคตรเกลียดเข้าไส้เลยมึงรู้ป่ะ”
ผมสตั๊นไปหลายวิ
จ้องมองมันดี ๆ ในที่สุดภาพวันเก่า ๆ ค่อย ๆ ไหลเทย้อนกลับมา นานมากแล้วจริง ๆ
ผมแทบจำไม่ได้ เชนเป็นรุ่นน้องผมหนึ่งปี อยู่คนละโรงเรียน
แต่ผมที่หน้าตาดีตั้งแต่เด็กก็ถือว่าดังสุดในรุ่นนั้น
ผมกับน้องชายไปหว่านเสน่ห์จีบสาว ๆ ต่างโรงเรียนตลอด
ผมจะไปรู้ได้ไงใครมีแฟนแล้วหรือไม่มี ใครให้ผมก็เอาทั้งนั้น
ผู้หญิงของเอย์ส่วนใหญ่ใช้แล้วทิ้งเลยมันจะพูดออกไปตรง
ๆ ครั้งเดียวแล้วคือจบ สมัยนั้นผู้หญิงฮิตจดแต้มกันมากแต่แบบนั้นเอย์ตั้นมันไม่เอา
ผมเลยต้องขอให้มันช่วยสกรีน เอย์มันเก่งมากเรื่องดูหญิงสดไม่สด
แต่มีอยู่ไม่กี่คนที่เขาบอกว่าสนใจแค่ผมคนเดียวรู้สึกว่าคนนึงน่าจะเรียนอยู่มอสี่โรงเรียนสหแห่งหนึ่ง แล้วพอเรามีอะไรกันเธอติดผมแจ
ผมคิดว่าผมคือผู้ชายคนแรกของเธอนะ ชื่ออะไรจำไม่ได้รู้แต่เรานอนกันบ่อยมาก
แต่ผมไม่ปล่อยให้พลาดจนมีวันนึงเด็กผู้ชายที่เป็นรุ่นน้องเดินเข้ามาหาผมถึงในโรงเรียน
สายตามันแข็งกร้าวจ้องผมแบบชนิดที่แบบ...บอกไม่ถูกเลย คำพูดของมันสั้น ๆ ห้วน ๆ
แค่ประโยคเดียว
“มึงทำลายหัวใจของกู ผั๊วะ!”
นั่นแหละครับ
จุดจบของผู้ชายเจ้าชู้อย่างผมสำหรับสาว ๆ โรงเรียนนั้น
แต่โชคชะตามักเล่นตลก
พอผมขึ้นมอหกหน้าตารูปร่างคือรัศมีจับยิ่งกว่าเดิมทั้งชายทั้งหญิงมีมาให้ผมเลือกไม่เว้น
สาว ๆ โรงเรียนอื่นเข้ามาหาผมเพียบ คราวนี้คนที่ผมถูกใจเธอเป็นถึงดรัมเมเยอร์ไม้สองของโรงเรียนคริสเตียนชื่อดังที่สุด
เธออยู่มอห้า ผมไล่จีบเธออยู่แค่สองสามวันในที่สุดสอยลงมาได้สำเร็จ
เสร็จแล้วผมก็เบื่อ แต่ก็ยังเจียดเวลาไปนอนกับเธอบ้างถ้าว่าง
เราวินๆกันทั้งคู่ได้กันครั้งแรกผมจัดเธอบนรถ เธอร้องลั่น
ตามใจผมทุกอย่างไม่เคยขัด แต่แบบนั้นมันทำให้ผมเบื่อเธอเร็วขึ้น
ในที่สุดใครจะรู้เธอคนนี้ดั๊นเป็นสาวของไอ้หมาบ้าที่มันมาชกผมเมื่อตอนนั้น
ตอนมอสี่ คนเดียวกันเป๊ะ
“ไอ้เหี้ย
มึงจะตามจองล้างชีวิตกูไปถึงไหน ผั๊วะ!!”
และแล้วนั่นก็เป็นจุดจบอีกครั้ง
ของผู้ชายเจ้าชู้อย่างผมที่โรงเรียนที่สองนั้นอีกครั้ง
ผมกำลังคิด ว่าคนที่ตามจองล้างไม่ใช่ผม
หากแต่เป็นมันคนนี้ต่างหาก ผมจ้องหน้าคนที่คร่อมร่างกายผมไว้ในตอนนี้
อะไรวะเมื่อก่อนผมสูงกว่ามันนะตัวก็ใหญ่กว่าด้วย
แต่ตอนนี้คือเชนรูปร่างสูงใหญ่มากจริง ๆ ผมยังจำรสชาติของหมัดหนักๆเน้น ๆ
ของไอ้เด็กบ้านั้นได้ดี ตอนนั้นมันเตี้ยกว่าผมนิดนึงได้หน้าตาท่าทางเหมือนพวกแบดบอยเด็กเถื่อน
ๆ หลังห้อง ชายเสื้อหลุดลุ่ยถือกระเป๋าจาคอบแบนๆ
ยืนสูบบุหรี่รอผมอยู่ที่รั้วหน้าโรงเรียน ผมหลับตาปี๋เลย
กลัวโดนชก เมื่อนึกไปว่าถ้าผมเป็นมัน ผมคงจะเกลียดตัวเองน่าดู
“มะ...มึงจะชกกูอีกเหรอ”
ไอ้เหี้ยวันนั้นกลับบ้านปากเขียวโดนแม่ซักใหญ่
เลยเป็นเหตุให้พ่อแม่ผมรู้หมดว่าผมเกเรแค่ไหน
“หึหึหึ
มึงจำได้แล้วงั้นเหรอ”
“......” ผมขยับมือแทบได้จะเตะขาขึ้นมาก็โดนมันทับขาไว้ หนักฉิบ
“ไม่ต้องกลัว
กูโตแล้วมีอย่างอื่นดีกว่าเรื่องชกต่อยเยอะ” มันลากปลายนิ้วแหย่เข้าที่ริมฝีปากผม
ผมทำท่าจะงับเลยโดนมันบีบปากเข้าให้อีก ผมดิ้นๆแล้วปัดมือมันออก
ไอ้เหี้ย
โคตรเจ็บ มันลวนลามร่างกายผมด้วยสายตาอีกแล้ว
ผมเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาจริง ๆ
“ตะ....แต่กูไม่ได้แย่งใครมาจากมึงอีกเลยนะ”
“นั่นมันก็ใช่”
“แล้วยังไงล่ะ
งั้นมึงก็ปล่อยกูทีเซ่ กูไม่ได้ทำอะไรผิดเลย”
“มึงร่ำไรกับกูเรื่องปิง”
“กูก็แค่ถาม”
ผมสวน นึกในใจ
จะว่าไปมันยังไม่ตอบคำถามผมเลยมันคิดยังไงกันแน่กับปิง
“แค่ถามกูก็ไม่ชอบ
ปิงมันน้องกู เรื่องของพวกกูสองคนมึงคนนอกไม่จำเป็นต้องสอดเข้ามารู้”
“แน่ใจว่ามึงคิดกับมันแค่น้อง”
ผมอยากตบปากตัวเองสถานการณ์แบบนี้ยังสอดปากใส่มัน
“ก็แล้วมึงเกี่ยวเหี้ยไรด้วย
ถ้ากูคิดกับปิงมากกว่าน้องจริง ๆ มึงก็คิดจะแย่งมันไปจากกูอีกงั้นสิ”
“ไม่ใช่
ไม่ใช่แบบนั้น!!” ผมตะโกนใส่หน้ามัน ผมเคยชอบปิงจริง ๆ ผมยอมรับแต่พอรู้ว่าเอย์ตั้นเอาจริงกับคนๆนี้ผมสลัดความรู้สึกออกไปได้ทันที
ปิงเป็นน้องผมคนหนึ่งเหมือนกัน ผมจะทำลายมันได้ยังไงปิงเป็นเด็กดี
มันปฏิเสธผมชัดเจนตั้งแต่ตอนนั้น แตกต่างจากผู้หญิงของคเชนทร์
“อย่าไปทำบาปอีกเลยซีซ่าร์ ลองเป็นเมียกูดูสักที ต่อไปนี้มึงจะได้ไม่ไปฟัดแฟนเขาเมียใครมั่วซั่วอีก อย่างน้อยๆมึงก็จะถูกตราหน้าไปแล้วว่ามึง เคยเป็นเมียกู”
“ไม่อ๊าววววววววววววววววววววววววววววว”
“หึหึ”
“ไอ้เหี้ย อย่าทำแรง
อึ่กกก....อ..ฮ้าา กูเจ็บบบ”
“เรื่องของมึง”
“โว๊ยยยยยยยยยยแต่กูเจ็บ เบาหน่อยสิวะ
มึงดูดแรงเหี้ยๆเลย คอกูจะเป็นรอยไม่ได้นะ”
“กูไม่สน”
“โอ๊ยยยยยยยยยย ไอ้หมาบ้ามึงจะกัดกูไปทั้งตัวเลยหรือไง
อะ..อื้มมมมมม......”
.
.
.
และนั่นจะใช่จุบจบครั้งสุดท้ายในความเจ้าชู้ผมคนนี้หรือเปล่า
# ซีซ่าร์หล่อโคตรพ่อ
ทุกสถาบัน
Tbc.
# มาแว๊ววววววววย ช้าไหม ไม่หรอกแค่สามสี่วันเอง วันนี้คล้ายตอนพิเศษเพราะเป็นพาร์ทของพี่ซ่าร์
ไม่รู้ชอบกันไหม เรื่อย ๆ กันไปนะคะ
# เอิ่ม..แบบนี้ค้างไหมหว่า ถ้าถามว่าพี่ซ่าร์จะเรียบร้อยโรงเรียนพี่เชนไหมน่ะเหรอ? หรือหมาบางตัวจะตื่นมาเสียก่อน
อาจจะเป็น....แบบนี้
V
V
ก๊อกๆ
“พี่เชนครับ”
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทั้งผมทั้งมันต่างชะงัก เชนเงยหน้าขึ้นจากซอกคอผมทันที
“พี่เชนครับปิงฝันร้าย ปิงนอนด้วยนะ”
เหี้ยแล้วมึง ผมนึกในใจ
“ปิงเปิดเข้าไปแล้วนะครับ”
มันเด้งตัวพรวดออกจากผม ตวัดผ้าห่มผืนโตเพียงแค่ครั้งเดียวคลุมผมไว้จนมิดชิด
เสียงสับสวิทไฟดังขึ้นแสงสว่างภายในห้องดับวูบ ผมแอบมุดหน้าออกมาดูนิดๆ
แกร๊กกกกก กกก มันเปิดประตูให้น้อง
“พี่เชนปิงเมาพี่ ฝันร้าย
นอนกับพี่ดีกว่า” ปิงขยี้ตาแล้วเดินแทรกตัวเข้ามาเลย
“เดี๋ยวก่อน มึงฝันอะไร” มันดึงแขนน้องไว้
“ไม่รู้เสียงใครทะเลาะกันรึเปล่า
เสียงดังผมกลัว ผมนอนกับพี่นะ ถ้าพี่อึดอัดเดี๋ยวผมนอนหน้าเตียงได้” ปิงเดินแทรกเข้ามาหาวหวอด
ดันตัวมันให้ออกจากทาง แต่เป็นมันที่รั้งแขนน้องไว้แน่น
มันก้มลงหยิบเสื้อ
“เดี๋ยวกูไปนอนเป็นเพื่อนมึงที่ห้องนั้นดีกว่า
ออกไปกันเลย”
“หือ? เอางั้นเหรอพี่”
“เออ อย่าถามมาก”
“ครับพี่เชน”
มันดึงแขนปิงให้เดินตามออกไป ผมถอนหายใจเฮือกโล่งอก
หึหึ ซีซ่าร์ไม่มีจบอยู่ที่ผู้ชายแบดบอยอย่างมึงหรอกเว๊ยไอ้คเชนทร์
เด็กกูต้องมีแต่หล่อขาวตี๋ตัวเล็กน่ารักน่าเอาน่าจูบ
พวกเถื่อน ๆแมนๆ อย่างมึงกูขอผ่านว่ะ เหอๆ
V
V
หรือว่าอาจจะเป็น....แบบนี้
V
V
ก๊อกๆ
“พี่เชนครับ ปิงเข้าไปนะ” ผมที่นอนคว่ำหน้าเพราะความเหนื่อยล้าและระบมมาทั้งคืน
รู้สึกเหมือนได้ยินเสียงใครเรียกที่หน้าประตู
แกร๊กกกกก กกก
“พี่เชนทำไมพี่......เย้ยยยยยยยยย!!!!!” ปิงก้าวเข้ามาพูดอะไรบางอย่างถึงกับร้องจ้าออกมาดังลั่น
น้องยืนตาเหลือกจ้องผมกับเชนที่นอนอยู่ข้างกันบนเตียงนอนสีขาวสภาพยับเยินยู่ยี่เพราะกิจกรรมฟาดฟัน
แล้วฟัดกันช่วงดึก
เด็กปอสามมาดูยังรู้เลยว่าเราสองคนผ่านศึกหนักกันมาแค่ไหน
“หืมม ปิง?? มีอะไรวะ” ไอ้คเชนทร์มันลุกขึ้นนั่งขยี้ตา
แล้วถามน้อง
ปิงยังยืนเอ๋ออยู่ตรงนั้น
“อะไรของมึงเป็นอะ....เย้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!”
คราวนี้เป็นเสียงไอ้บ้าข้างตัวร้องขึ้น มันกระโดดลงจากเตียงเร็วมากยืนตาโตมองผม
เหี้ยเหอะ ผมอยากถามว่าคนที่ทำให้กูมีสภาพเยี่ยงนี้
มันคือใครกันล่ะวะ
หึหึ แล้วผมคนที่น่าสงสารที่สุด จะลุกก็ลุกไม่ได้ระบมเจ็บแสบปวดก้นปวดตัวไปหมด
จะทำอย่างไรได้นอกจาก....
“โว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
พวกมึงออกไปให้หมดทุกคนเดี๋ยวนี๊ กูอ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย”
นี่คือจุดจบของ #
ซีซ่าร์หล่อโคตรพ่อ ทุกสถาบัน
# พิเศษให้เล่น ๆ ค่ะ ยังไม่รู้เลยว่าจะแบบไหน
ลองเลือกดูไหม??? แฮ่ๆ(ลูกหมาลิ้นห้อย)