#18 หมาเกรียน
“พี่เอย์รีบไปเถอะครับไหนว่าอาจารย์นัดสิบโมง
เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง พี่นานะไปกับผมนะครับนะ เดี๋ยวผมจะพาหาสถานที่ดี ๆเลย รับรองพี่ต้องประทับใจผมแบบไม่มีวันลืมแน่นอน”
นั่นคือสิ่งที่ผมบอกกับคุณชายเอย์ตั้นไว้ก่อนที่มันจะยัดบัตรเครดิตใส่มือผมแล้วออกจากห้องไป
ความจริงผมจัดการเรื่องในครัวจวนจะเสร็จแล้วนะเหลืออีกแค่นิดเดียว
เห็นคุณนานะเดินไปนั่งลงแถว ๆ โซฟาผมเลยเช็ดเคาน์เตอร์ต่ออีกหน่อย
“ให้พี่ช่วยไหมจ๊ะปิง”
เธอเดินเข้ามาถามยิ้มหวานน่ารัก ผมรีบหันมอง อะไรวะเมื่อกี้ยังเห็นเดินไปนั่งชูคอไขว่ห้างรออยู่ที่ห้องรับแขก
ทำไมจู่ ๆ เดินมาที่ครัวเร็วนัก
“คุณนานะรีบเหรอครับ
งั้นเดี๋ยวผม......
“อ๊ะเปล่าๆๆๆ
ไม่รีบจ๊ะ ปิงทำงานตามสบายเลยวันนี้พี่ว่างทั้งวัน
รอปิงเสร็จงานนี่แล้วเราค่อยออกไปกันเนอะ”
ผมยิ้มบางส่งให้ไม่ได้พิสวาสอะไรหรอกนะครับ
แต่ยังไม่อยากทำให้ไก่ตื่น หุหุ
ในหัวนี่กำลังคิดแผนการณ์บวกลบคูณหารเอาแบบน่ารักๆให้เธอจดจำผมไปอีกนานแสนนาน
หึหึ ผมก็ก้มหน้าทำงานเช็ดนั่นนี่ของผมต่อ แต่อดสงสัยนิดนึงไม่ได้ ยัยคุณนานะนี่เดินวนเวียนอยู่กับผมทำไมไม่ยอมไปนั่งรอดี
ๆวะเดี๋ยวเดินมาพิงทางซ้ายเดี๋ยวย้ายมาพิงทางขวา ผมเลยมองดูเธออีกครั้ง
อู๊ววววว
ทำไมผมเพิ่งสังเกตวะครับ เหี้ยเหอะ ดูชุดที่เธอใส่มาซะก่อน
แม่เจ้าเดรสเกาะอกสีเนื้อสั้นกุดเลยนี่หว่า ผมรีบเอามือขึ้นกาง ๆ
วัดขนาดแต่ไม่ให้เธอเห็น คืบนึงของมือผมยังจะยาวไปนะผมว่าไม่มีรอยกางเกงในเลยอ่ะใส่ป่ะวะให้ตายสิ
นมจากเต้าก็อื้มมมมันจะหลุดลงมาไหมไอ้ชุดเห้นี่น่ะ
โอ๊ยตายทำไมตอนแรกตูไม่เห็นวะมัวแต่เอาตาไปดูส่วนไหนของเธออยู่ แหม่ ผมก็ผู้ชายคนนึงนะครับดูดนมมาแล้วก็หลายยี่ห้อ
แต่ยี่ห้อคุณแม่ลูกหนึ่งแบบนี้ยังไม่เคยลอง มันจะอร่อยเหมือนยี่ห้อสาว ๆ
ป่ะวะหรือจะดูดแล้วฟันผุ กร้ากกกกก ผมก็นึกของผมไปเรื่อย ได้ดูดสักครั้งคงอิ่มไปหลายวันน้องอันวาจะโกรธกูป่ะวะข้อหาแย่งฟาร์มแม่น้องมาดื่ม
“ปิงนี่อารมณ์ดีจริงนะ
ยิ้มเก่งจังเลย” ผมก็มองนมมองตูดคุณพี่นั่นแหละครับไม่งั้นจะยิ้มทำไม บ้าสิ
“อา ครับ”
ผมเงยหน้ามองไอ้ฟาร์มที่เธอหอบมาจากบอสตันอีกครั้ง สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มร่าอยู่แบบนี้แต่เธอคงไม่รู้
เอาจริงๆเลยนะผมเริ่มสงสัยไอ้พี่เอย์มันเคยดื่มป่ะวะ
จิ๊! คิดแล้วโมโหมันต้องเคยแน่อยู่แล้วดิ่ ไม่เอาๆ ผมสลัดหัวนิดๆ ไม่คิดเรื่องไม่ดี
เราต้องคิดแต่เรื่องตลกขบขันชีวิตเราจะได้มีความสุข
“ปิงจ๋าพี่ถามไรนิดสิ”
เธอขยับเข้ามาใกล้
“ครับ”
ผมหันมอง ตอนนี้กำลังเอาผ้าเช็ดโต๊ะมาซักอยู่ที่ซิงค์ เธอก็ตามมายืนข้าง ๆ
“คือว่า....แฟนของเอย์น่ะ
เขามาที่นี่บ่อยไหมจ๊ะ”
หืม?? แหมพี่นานะครับ แผนสูงนี่หว่า
คิดจะหลอกถามไอ้ปิง เรื่องแฟนคุณชายงั้นเหรอ หึหึ คิดผิดคิดใหม่ได้เลยพี่ พี่น่ะถามได้ถูกคนเป๊ะเวอร์มาก
ถามถูกเจ้าตัวเข้าจริง ๆ เล้ยยยยยย
ผมได้ทีเลยสิ
“ก็บ่อยนะครับ
มาทุกอาทิตย์แหละ” นั่นไง เธอชักสีหน้าทันที ผมก็พูดจริงนะก็ผมมาทุกอาทิตย์จริงนี่
ไม่บาปหรอกไม่ได้โกหกอะไรสักหน่อย
“เหรอจ๊ะ
เอย์เขาเสน่ห์แรงแบบเนี๊ยะ มีสาว ๆ มาติดเอย์เยอะมากไหม”
“สาวๆมาติดเยอะสิครับ
มีทั้งสาวแก่แม่หม้ายนักเรียนนักศึกษาเลขาคุณครูโอ๊ยเยอะอย่าให้พูดเลย แต่ๆๆๆๆๆ
แต่แฟนตัวจริงของพี่เอย์ผมว่าน่าจะมีคนเดียวนะ” ผมแกล้งเธอ แอบมองปฏิกิริยาด้วยนะ
คุณนานะกัดปากแน่นเลย คิ้วสวย ๆ นี่ขมวดมุ่นเหมือนคนไม่ได้ดั่งใจ
“จริงเหรอ”
“จริงครับ ผมว่าพี่เอย์ไม่สนใจใครหรอกครับ
พี่เอย์รักแฟนคนนี้มาก เห็นว่าคนนี้น่ะชอบทำตัวแบบติดดิน
ธรรมดา ๆ กินอาหารข้างทางเดินถนนขึ้นรถเมล์ คือเป็นแค่คนธรรมดาเลยครับ
พี่เขาเลยบอกว่าชอบคนๆนี้มากๆ”
“แล้วสวยมากป่ะ
เธอสวยเท่าพี่ไหม”
“โอ๊ยย ไม่สวยครับ
ไม่สวยเลย ไม่มีคำว่าสวยเลยครับ จริงนะ” มีแต่คำว่าหล่อไง
คึคึ นี่ผมไม่ได้โกหกนะ ผมหล่ออ่ะ ทำไม
“ต๊ายตายจริงเหรอเนี่ย
ไม่อยากเชื่อเลย หรือว่าสเป็คเอย์เปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้ชอบคนแบบไหนเนอะ”
เธอพึมพำของเธอคนเดียว
“แล้วเขาเป็นยังไงหน้าตานิสัยอะไรแบบเนี๊ยะปิงพอจะบอกให้พี่ฟังบ้างได้ไหมจ๊ะ”
“อ๋อได้ครับ
ผมรู้ดีเลยว่าพี่เอย์ชอบคนแบบไหนนิสัยยังไง คุณนานะจะฟังไหมล่ะครับผมบอกพี่ได้นะ”
“จ๊ะๆฟัง ๆ ปิงใจดีจังเลยไม่ต้องเรียกคุณเคิณอะไรหรอกเรียกพี่ว่าพี่นานะเลยก็ได้”
“ได้ครับพี่นานะ
ผมจะเล่าล่ะนะ”
จากนั้นผมก็เล่าโน่นเล่านี่ให้เธอฟัง
เล่าว่าพี่เอย์ชอบคนผมสั้นใส่กางเกงแต่งตัวแบบลุย ๆ ชอบเล่นกีฬาทำงานบ้านเก่งแล้วที่สำคัญคือต้องทำตัวติดดินไม่ใช้เงินฟุ่มเฟือย
ผมบอกเธออีกนะว่ารู้สึกแฟนพี่เอย์คนล่าสุดนี่จะขับมอไซด์ด้วย
เธอตกตะลึงตานี่โตเลยสิ ยิ่งไอ้สีดำๆที่กรีดปาดมาบนขอบตานั่นดูใกล้ๆแม่งโคตรน่ากลัวอ่ะมันแหลม
ๆชี้ๆขึ้นไปด้วย แล้วเธอพูดแต่ไม่อยากเชื่อๆวนอยู่ประมาณสิบรอบได้
คือพึมพำนั่นแหละ
วันนี้พี่เอย์ใช้เบนซ์ดำเพราะงั้นบีเอ็มสีขาวจึงจอดแช่อยู่
ผมหยิบกุญแจที่อยู่ในห้องแล้วพาคุณนานะแฟนเก่าเข้ากรุของคุณชายไปทำธุระเรื่องเนิร์สเซอรี่ของน้องอันวา
เธอตกลงใจทันทีคือผมรู้บ้านเธอแล้วตั้งแต่เมื่อวานที่ไปส่งเพราะงั้นผมรู้ว่าแถวนั้นมีเนิร์สเซอรี่ดี
ๆ อยู่เลยพาเธอไปรู้จัก
“พี่หิวรึยังครับ”
ผมถาม พร้อมถอยรถออกจากซอย
คือโรงเรียนนี้อยู่ในซอยแคบมากดีนะที่ไม่มีรถผมเลยถอยได้สะดวก คุณนานะเอาแป้งขึ้นมาตบ ๆ
ผมก็งงนิดๆก่อนลงเธอก็ตบพอขึ้นมาเธอหยิบแป้งขึ้นมาตบอีกแล้ว
เอาเป็นว่าถึงเวลาเล่นสนุกของผมแล้ว
เอาแบบเบาะๆพอเนาะเดี๋ยวจะว่าผมไม่สุภาพบุรุษกับผู้หญิง
“เดี๋ยวผมพาพี่แวะทานข้าวนะครับ
พี่อยากไปร้านที่พี่เอย์ชอบพาแฟนไปกินไหมล่ะครับ ผมรู้จักนะร้านนั้น
เดี๋ยวผมพาไปกินได้ พี่เอย์เคยบอกว่าชอบคนที่ติดดินกินอะไรง่าย ๆ แบบนี้
ผมว่าพี่ควรจะเรียนรู้ไว้ถ้าพี่อยากชนะใจพี่เอย์นะครับ” ผมตะล่อม
“อ๊ะจริงเหรอ
ปิงจะพาพี่ไปจริงนะ” เธอทำน้ำเสียงตื่นเต้น คือจริง ๆ แล้วเธอก็อยากไปอยู่แล้วแหละ
เข้าแผนผมพอดี
“ครับ
เดี๋ยวผมจะพาพี่ไปลองกินดู แล้วพี่นานะจะได้รู้ไงว่าเดี๋ยวนี้รสนิยมพี่เอย์เขาเป็นแบบไหนยังไง
จะได้ทำตัวให้ถูกใจพี่เขาได้ไงครับ”
“ได้เลยจ๊ะ
ปิงพาพี่ไปกินเดี๋ยวนี้เลยนะ ดูซิว่ายัยนั่นจะกินหรูกินต่ำขนาดไหน
เดี๋ยวพี่เอามาปรับใช้เอง ว่าแต่ให้ปิงพาพี่ไปเป็นพอ”
“โอเคเลยครับพี่”
หึหึ ผมจัดให้เจ๊เลยครับ
ประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นรถบีเอ็มคันโก้ก็มาจอดลงที่หน้าร้านอาหารอีสานส้มตำแม่ตะนาวศรี
ผมก้าวลงจากรถเธอรีบเดินตามลงมายืนอยู่ข้าง ๆ กัน คือชุดแม่คุณก็นะ โคตรของความโป๊แล้วยังไม่พอยังจะใส่ส้นสูงแหมปรี๊ดอีกต่างหาก
ผมพาเธอเข้าไปในร้านแม่จะคิดไปว่าผมพาแฟนเข้าบ้านป่ะวะเนี่ย
แต่ก็จำเป็นต้องพามาจะแกล้งเธอทั้งทีเดี๋ยวไปเป็นลมเป็นแล้งอยู่ที่อื่นผมจะแย่เอา อย่างน้อยตรงนี้ผมยังเทคแคร์เธอได้
“อ้าวปิง”
พอเข้าไปได้แม่ร้องทักทัก กำลังจะอ้าปากพูดอะไรกับผมต่อไม่รู้เห็นคุณผู้หญิงเดินตามเข้ามาด้วยแม่อ้าปากหวอหุบไม่ลงเลย
ลำบากผมต้องเดินไปสะกิดๆบอก เพื่อนพี่เอย์เขาอยากลองกินส้มตำ
ผมเลยพามาแม่กับพี่ขมเลยถึงบางอ้อ พี่ขมมองผมไม่วางตาเลยคงกำลังคิดว่าผมโกหกรึเปล่าแฟนผมไหมอะไรแบบนั้น
แกเดินมาสะกิดตอนที่ผมเดินมาสั่ง
“ท่าทางจนนะคนนี้”
พี่ขมพูดไรวะ ผมขมวดคิ้วยื่นหน้าไปถามใกล้ ๆ “อะไรอ่ะพี่ขม ปิงไม่เก็ต”
“อ้าวก็ถ้ารวยจริงต้องมีเงินตัดเสื้อผ้าให้ยาวกว่านี้ดิ
นี่คือไม่มีเงินใช่ไหมล่ะชุดถึงขาดบนไม่พอล่างแบบนี้น่ะ” โอ๊ยน้อ พี่ขมเล่นมุข
ไอ้ผมก็ตั้งใจฟังอยู่ตั้งนาน เราหัวเราะกันร่วนก่อนผมจะหันไปบอกกับแม่
“จัดเต็มครับแม่
โซโล่เดี่ยวสายฟ้าแลบอย่าให้มีคลื่นอื่นใดมาแทรกได้”
“โอเคลูกรัก”
แม่ผมตอบแบบขำๆ ดีนะวันนี้มีลูกค้าอยู่แค่สองโต๊ะ
แต่แค่นั้นก็มองคุณนานะแทบไม่วางตาแล้ว
ผมนี่อายแทนเธออ่ะชุดเธอแม่งเดรสบ้าบออะไรวะเดินสามก้าวก็ต้องคอยดึงลงอยู่ตลอดเพราะมันรั้งขึ้นไปเรื่อยเลยพาลจะเห็นง่ามก้นอยู่แล้ว
ลืมบอกไปตอนนี้เธอนั่งไขว่ห้างอวดเรียวขาสวยอยู่ที่โต๊ะพลาสติสีแดง หน้าตานี่บอกบุญไม่รับเหอะ
คงจะร้อน ผมแกล้งเธอไม่เอาพัดลมมาเปิดให้ แถมยังชี้ให้เธอไปนั่งโซนที่แดดมันส่อง ๆ
แล้วบอกพี่เอย์ชอบมานั่งกับแฟนโต๊ะนี้
“ปิงแน่ใจนะว่าร้านนี้”
เธอถาม
“ร้านนี้แหละครับ
เดี๋ยวผมจะสั่งเมนูที่พี่เอย์ชอบสั่งให้แฟนทาน มาให้พี่นะ พี่นาต้องทานให้หมดนะครับต้องเก่งแบบแฟนพี่เอย์คนนั้นห้ามให้เหลือไม่งั้นผมไม่สนับสนุนพี่นะ
บอกไว้ก่อนแฟนพี่เอย์เด็ดมากเธอทานได้หมดทุกชนิดที่นี่เลยถ้าพี่ทำได้ผมนี่แหละจะสนับสนุนพี่แบบสุดตัว
พี่เอย์ชอบขอความคิดเห็นจากผมนะเดี๋ยวผมช่วยไฟท์ให้เอง พี่โอเคใช่ไหมครับ”
“โอเคครับ จัดมา!!” คุณนานะตอบเสียงดังฟังชัดเชิดหน้าชูคอหลังตรงเปรี๊ยะอยู่ที่โต๊ะ
แม่กวักมือไวๆเรียกๆผมเข้าไปถาม
“ปิง
ทำไมเพื่อนคุณเอย์เขาแต่งตัวแบบนั้นล่ะลูกเขาไม่ร้อนเหรอใส่กระโจมอกสั้นจู๋แบบนั้น”
“แม่ครับไม่ใช่กระโจมอกเขาเรียกเดรสสั้นกุด”
“นั่นแหละๆ สั้นกุดๆคือมันร้อนไหมแดดวันนี้ก็แร๊งแรงแม่กลัวผิวสวย
ๆ ของเธอจะไหม้เกรียมนะ รีบกินรีบพากลับนะปิง อยู่ร้านเราไม่ได้หรอกชุดแบบนี้ต้องกินในที่หรูๆห้องแอร์สิลูกห้องแอร์”
“ไม่หรอกครับแม่
พี่คนนี้เขาอึดถึกและบึกบึน เขาด้านไปหมดทั้งตัวนั่นแหละ”
“เอ๊เจ้าปิงไปว่าผู้หญิงเดี๋ยวเหอะ
แม่เคยสอนเหรอเป็นผู้ชายต้องให้เกียรติผู้หญิงนะลูก อย่าลืม”
“คราบๆปิงไม่ลืมหรอก
ว่าแต่แม่ตำส้มให้ปิงยังอ่ะ” พอผมถามแม่เหมือนเพิ่งนึกได้เลยเริ่มบรรเลงส้มตำลาวปูปลาร้ารสจัด
ผมชะโงกหน้าดูเห็นแม่ใส่พริกนิดเดียวเลยตักพริกใส่เพิ่มลงไปอีกเยอะๆ แม่ถลึงตาใส่ ผมเลยบอกไปว่าเธอชอบๆ แม่ถึงค่อยทำให้ต่อพอจะเสร็จผมชี้ๆให้แม่เติมพริกลงไปอีกคราวนี้แม่ไม่ยอมแล้วบอกเดี๋ยวไส้ขาดกันพอดีผมเลยเออพอก็พอ
จากนั้นผมเดินไปตักบรรดาอาหารที่คิดว่าเด็ดสุดลาวสุดและแปลกสุดไปให้เธอ
บนโต๊ะตอนนี้เลยประกอบไปด้วย
ตำลาวปูปลาร้า ตำซกเล็ก แกงหน่อไม้ ซุปหน่อไม้ ต้มยำไก่บ้าน ลาบปลา ลาบหมู ขนมจีนน้ำยาลาวและสุดท้ายเด็ดสุด
พี่ขมเป็นคนทำเมนูนี้เองกับมือ แกงขี้เหล็กปลาย่าง ที่โคตรของความขมปี๋ ผมยืนมองหน้าเธอแล้วก็ขำ
คุณนานะคนสวยที่ตอนนี้เหงื่อแตกซกไปทั้งตัว
คือเธอร้อนแล้วผมไม่ยอมยกพัดลมมาให้อีกทั้งสีหน้าที่เธอกำลังกวาดตามองของกินบนโต๊ะ
ปากเธอเบะออกแล้วทำจมูกย่นเหมือนเหม็นมาก ผมสีน้ำตาลบลอนด์ที่เหมือนตุ๊กตาเริ่มชื้นเปียกเหงื่อเม็ดโป้ง
“ทานเลยครับพี่นานะ”
ผมวางกระติบข้าวเหนี่ยวอันจิ๋วให้เธอเป็นอย่างสุดท้ายพร้อมหย่อนตัวนั่งลงตรงข้ามกับเธอ
“ทานให้หมดเลยนะครับ
แฟนพี่เอย์นะกินของพวกนี้เก้งเก่ง พี่นาอย่ายอมแพ้นะครับ เดี๋ยวผมบอกพี่เอย์ให้
พี่ต้องจัดการให้เกลี้ยงทุกจานเลย”
เสียงเธอกลืนน้ำลายดังเอื๊อกหลุดออกมาอย่างดัง
ผมรู้ไม่ใช่หิวหรืออยากกิน แต่เป็นเพราะเธอกำลังคิดว่าจะกินมันเข้าไปได้ยังไงต่างหาก
“ไม่กินล่ะครับ
ร้านนี้อร่อยนะ พี่เอย์เองก็ยังชอบทานเลย” โอ๊ยยผมจะบาปมากไหมเนี่ย
อยากให้คุณมาเห็นหน้าเธอตอนนี้มากคือหน้าจืดแบบสุดๆ อย่าร้องไห้นะเว้ยไม่อยากจะบาปหรอกนะ
“ลองดูนะครับ
พี่เอย์จะต้องปลื้มแน่ที่พี่นานะทำตัวติดดินได้แบบนี้” ผมตะล่อมอีกครั้ง ตักส้มตำราดลงไปในจานขนมจีน ในที่สุดเธอหลับหูหลับตากินๆๆๆยัดๆๆๆซดๆๆๆ
ขณะที่ผมคอยประเคนน้ำกับส่งกระดาษทิชชู่ให้เธออยู่ไม่ขาด
เวลาดำเนินไปเรื่อย
ๆ
“อีกนิดพี่อีกนิด
นี่ๆแกงนี่พี่เอย์ชอบสั่งมาให้แฟน” ผมตักแกงขมๆดำๆใส่ในจานให้เธอ
คุณนานะสู้ตายตักขึ้นมากินหน้าตานี่เบะสุดฤทธิ์ คือเธอร้องไห้ไปกินไปนะ
ผมก็เออสะใจแต่แอบสงสารว่ะ ยื่นน้ำส่งให้เธอไปด้วย
“ปิง”
เสียงแม่เรียกผมหันไปดูคุณนายยืนหน้าเครียดคิ้วขมวดผมเลยเดินเข้าไปหา
“ปิงแม่ว่าพอเถอะลูก
ท่าทางเธอไม่ไหวแล้วนะทั้งกินทั้งร้องไห้แบบนั้น ดูน้ำหูน้ำตาซินั่นน่าสงสารออก”
คือเอาจริง ๆ เลยนะปากเธอนี่เจ่อแดงลิปสติกเปื้อนไปหมดแล้วเหงื่อที่ท่วมตัวทำให้อายไลเนอร์ที่เธอกรีดไว้มันเปื้อนเลอะขอบตาแถมเธอยังร้องไห้เพราะความเผ็ดมันเลยไหลสีดำลงมาเป็นทาง
ส่วนผมเผ้าที่ถูกดัดเป็นลอนสวยงามอย่างตุ๊กตาเมื่อเช้าตอนนี้เปื้อนเละไปด้วยเหงื่อที่แตกซกๆ
เธอใช้หลังมือปาดเหงื่อเม็ดโป้งที่ไหลอย่างกับสายน้ำอยู่ที่คางพร้อมสูดปากสูดจมูกด้วยความเผ็ด
น้ำหูน้ำตาน้ำมูกนี่พาลจะย้อยลงที่โต๊ะ
สาธุผมจะบาปมากป่ะวะ
คือผมขำ
“ปิง ซู้ด
เผ็ด โอ้ววว ซู้ดเผ็ด อ่าห์ อ่าห์ เผ็ดๆ ซู๊ดดดด เผ็ดดด ฮือๆ ฟึ๊ดๆ อ่าห์ๆ”
คือเธอทั้งปาดน้ำหูน้ำตาทั้งสูดปาดสูดขี้มูกปาดเหงื่อ ทั้งมองหน้าผมไปด้วย
ผมนั่งกลั้นขำทั้งสงสารทั้งขำ ยื่นทิชชู่ส่งให้เธออีก
“อร่อยไหมครับพี่”
ในที่สุดเธอซัดจนหมดโต๊ะจริง ๆ
คือผมอยากบอกนะส้มตำเนี่ยยิ่งเผ็ดยิ่งหยุดไม่ได้นะบอกเลย
เพราะพอหยุดปุ๊ปร้องไห้เลยน้ำตาไหลต้องกินไว้ตลอดแล้วเราก็จะเผ็ดไปเรื่อยอยู่แบบนั้น
คือโคตรของความทรมานผมไม่ค่อยชอบกินหรอก
“ปิงซู้ด
เผ๊ดเผ็ด ปิงพี่ ซู้ด พี่เก่งใช่ไหม ฟึ๊ดๆ ซู๊ดส์ พี่เก่งเนอะซู้ด
เผ้ดต้องบอกเอย์นะซู้ด ”
RRRRRRRR
RRRRRRRRRRRRRRRR
โทรศัพท์เข้าพอดีผมเลยกดรับ
เป็นพี่เอย์โทรมา มันถามว่าผมมาเธอทำธุระเสร็จยังกลับกันแล้วใช่ไหม
ผมเลยตอบไปว่าเสร็จแล้วทานข้าวอยู่
“ที่ไหน” เสียงคุณชายเครียดมาตามสาย
“เอ่อ...คือ...”
“ทำไมไม่ตอบ
มึงไปกินกันที่ไหน” อ้าวเห้ยมันเสียงโมโหทำไมวะเนี่ย ก็แค่นั่งกินอยู่ที่บ้านเอง
จะว่าไปผมไม่ได้กินเลยนะมีแต่คุณนานะเธอกินอยู่คนเดียว
“โอ้วววปิง
สุดยอดเลย ซู้ด โอยยย ไม่ไหวแล้ว ซู้ดส์ โอ้ววปิง พี่ซู้ดส์”
เสียงพี่นานะแทรกขึ้นแล้วดั๊นลอดเข้าไปในสายไอ้คุณชายตะคอกผมดังลั่น
“หมาปิง! มึงทำเหี้ยไรอยู่ อยู่ที่ไหนบอกกูเดี๋ยวนี้เลย” โอ๋ยยยท่าทางไม่ไหวผมรีบชูโทรศัพท์ออกห่างจากหูแล้วเดินไปหาแม่
บอกแม่คุยกับพี่เอย์หน่อย
เห็นแม่เออออครับๆอะไรกับมันอยู่พักนึงก็ส่งมือถือคืนมาให้ผม เดี๋ยวนี้พี่เอย์มาทานข้าวบ้านผมบ่อยสนิทกับแม่ไปแล้วนะ
“ไงพี่ยังสงสัยอะไรอีกไหม”
“มึงแกล้งเขาล่ะสิ
รู้อยู่แล้วว่าเขากินอะไรแบบนั้นไม่เป็น แสบนักนะ”
“ช่วยไม่ได้เหอะทำผมก่อนทำไม”
ได้ยินแต่เสียงคุณชายหัวเราะหึหึมาตามสาย
คุยต่ออีกหน่อยแล้วก็วางลงไป ผมเลยมานั่งลงที่โต๊ะดูเธอกินต่อ
“คุยกับใคร
พี่รอนานแล้วซู้ด โอ้โหปิงมันยอดมากมันแซบมากแต่มันก็เผ็ดและเหม็นมาก ฟึ๊ดๆ ซู๊ดส์
ต่อไปพี่คงไม่มาแล้วนะยกเว้นถ้าเอย์ชอบแบบนี้จริง ๆ พี่จะได้ทำใจไว้
พี่เก่งใช่ไหมอย่าลืมไฟท์ให้กันด้วยล่ะ” เธอสูดปากไปพูดไปร้องไห้ไปน้ำตานี่เช็ดยังไงก็ไม่หมด
“ครับ ๆ เก่ง ๆ เรากลับกันดีกว่าเนาะ”
ผมว่าผมแกล้งเธอพอแล้วล่ะ
เลยทำท่าไปจ่ายตังค์แล้วก็พาเธออกไป
“ไปนะครับแม่”
ผมร้องบอกแม่เบาๆ แต่เธอหันขวับมองมาทันทีคือเธอเดินออกไปก่อนแล้วนะ
ผมเลยรีบเดินตามไป หันมามองคุณนายอีกที แม่ยืนมองอยู่ผมเลยฉีกยิ้มแล้วส่งจูบให้อย่างกวน
ๆ พี่ขมงี้หัวเราะร่วนคุณนานะจนหน้าดำหน้าแดง แต่คุณนายแม่กลับชี้หน้าผมอย่างคนรู้ทันและคาดโทษ
ส่วนพี่นานะตอนที่เธอเดินข้ามถนนไปถึงรถโน่นแล้ว
“พี่นามัดผมหน่อยไหมครับ”
ผมยื่นยางมัดถุงแกงสีแดงๆส่งให้เธอ คือผมอยากให้คุณมาเห็นสภาพเธอตอนนี้มาก คือมันสะใจหุหุ
อย่ามาว่าผมไม่สุภาพบุรุษนะแต่ผมก็อยากแกล้งเธอนิดๆด้วยแหละแค่พามากินข้าวเองผมเลี้ยงอีกต่างหากแต่เธอดันลิ้นอ่อนเผ็ดมากเองนี่
ไม่ใช่ผมไม่ดูแลสักหน่อยผมยื่นน้ำยื่นกระดาษให้เธอตลอดเลยเหอะ
เป็นเธอที่เลือกกินต่อเองนะ ความจริงจะหยุดเลยก็ได้
“เช็ดให้หน่อย”
เธอยื่นกระดาษทิชชู่สวยๆส่งให้ ตอนนี้ในรถเปิดแอร์เย็นมาก เหงื่อเธอเริ่มแห้ง
เธอหันหลังให้ผมแล้วใช้มือสวยๆของเธอโกยผมสีน้ำตาลอ่อนที่ระลำคอยกขึ้น
คงจะให้ผมเช็ดเหงื่อที่หลังคอเธอออกให้ ผมมองดูอย่างอิหลักอิเหลื่อ
คือไม่ใช่ไม่อยากเช็ด แต่เธอใส่ชุดเกาะอกโชว์เนินไหล่และแผ่นหลังเพราะงั้นมันจะใกล้ชิดเกินไปไหมยังไง
“เช็ดสิ”
เธอแว๊ดเสียงสั่งท่าทางอารมณ์เสีย
เออทำไมทำเสียงงั้นวะ น้ำเสียงเริ่มแปลกๆ
หน้าตาไม่เห็นใจดีเหมือนเมื่อเช้าเลย ผมก็เช็ดๆให้เธอแบบเบา ๆ
จนเสร็จเธอหันไปนั่งตามปกติผมก็ออกรถ เธอเริ่มเปิดกระเป๋าถือแบรนด์เนมใบเล็กๆเอาแป้งเอาอะไรขึ้นมาเมคอัพหน้าเธอใหม่
ผมก็ขับรถไปเรื่อยๆ
“แว๊ดดดดดดดดดดดด”
เธอแว๊ดขึ้นดังลั่นหันไปอีกทีผมตกใจมากคือเธอกำลังกรีดตาใหม่แต่ผมดันขับแบบรุนแรงไปหน่อยผลคือไอ้สีดำๆลากยาวลงมาเกือบถึงแก้ม
“บ้าหรือไง
ขับให้มันดีสิ ต้องแต่งใหม่อีกแล้ว”
“ครับๆโทษทีครับ”
“ประสาท”
เธอทำท่าหัวเสีย ลงมือเมคอัพต่อไป
ผมก็แอบๆมองหน่อยนึงคือจะดูว่าเธอเช็ดไอ้รอยเปื้อนตะกี้ออกไหม ความจริงผมแกล้งเบรกหรอกเอาให้หน้าคว่ำไปเลย
หึหึกะจะแกล้งยั่วให้โมโหใครจะรู้ว่ากำลังกรีดตาอยู่เล่า
ตอนนี้คือหันไปอีกทีเธอเริ่มสวยเริ่ดเหมือนเดิมแล้ว
น่าโมโหอยู่อย่างคือวันนี้ร้อนมากแต่เธอดันปัดแอร์เข้าหาตัวเองหมดเลย
เสียงสูดปากสูดจมูกหายไปคนสวยคงหายเผ็ดแล้ว แต่ปากเธอก็ยังเจ่ออยู่ดี
“ไปช็อปปิ้งนะ
อยากไปช้อปปิ้ง เมื่อเช้าพี่เห็นเอย์เขาให้บัตรเรามาด้วยใช่ไหม
ปิงนี่สนิทกับเอย์ดีนะ เขาไว้ใจเราขนาดให้ถือบัตรเครดิตสีเทาเลยเหรอเนี่ย”
เธอปรายสายตามองมาที่ผม คือผมไม่รู้จู่ ๆ เธอเป็นอะไรขึ้นมา
ทำไมกิริยาที่แสดงออกถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ทั้งที่ก่อนเข้าไปกินอาหารยังพูดดีกับผมอยู่เลย
ตอนนี้คำพูดคำจาแดกดันมากหรือจับได้ว่าผมแกล้งเธอ?
“นี่
ร้านเมื่อกี้น่ะ แม่ปิงใช่ไหม คนที่ใสเสื้อผ้าฝ้าย ที่ตำส้มตำมะละกอนั่นน่ะ” ผมหันมองเธอทันที
รถติดไฟแดงด้วย ทำไมเธอรู้??
“ใช่ครับนั่นแม่ผมเอง
ขอโทษด้วยนะครับไม่ได้แนะนำให้พี่นารู้จัก”
“นี่อย่ามาเรียกฉันว่าพี่นะ
แล้วก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ฉันต้องไปรู้จักคนแบบแม่นายด้วย เป็นแค่ลูกแม่ค้าขายส้มตำลาว ๆ
วาสนาดีนะเอย์เขาถึงจ้างมาทำอาหารให้ทานได้ คนแบบนายมันแย่จริง ๆ” ผมหน้าชาไปหมดเลย
คืออะไรวะผมตั้งตัวไม่ทันจู่ ๆ ก็เปลี่ยนสรรพนามเรียกผม จู่ ๆ ก็บอกไม่ให้ผมเรียกพี่ทั้งที่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้ายังบอกให้ผมเรียกอยู่เลย
ที่สำคัญเธอแทนตัวเองว่าฉัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เรียกแทนว่าพี่อย่างนั้นอย่างนี้ คือว่าผมงงมาก
“นายโกหกล่ะสิที่ว่าเอย์เขาชอบพาแฟนมากินที่นี่
เรื่องจริงก็คือนายแค่อยากจะพาฉันมาอวดกับแม่ของนายใช่ไหม
เห็นเขาซุบซิบกันตั้งหลายครั้ง ดีนะตอนที่เดินออกมาฉันได้ยินนายกับแม่นายพูดกัน
น่าเกลียดนะปิงฉันจะฟ้องเอย์ว่านายพาฉันมาแกล้ง อยากให้คนที่บ้านคิดเหรอว่าตัวเองควงคนสวย
ๆ รวย ๆ แบบฉันได้ คอยดูนะเอย์ต้องไล่ตะเพิดนายออกแน่ๆ ฉันจะฟ้องเอย์”
ผมเบี่ยงรถออกอีกเลนทันทีเหยียบมิดเลย
คือโมโหมาก อิยัยนานะนาเน่าอะไรนี่มันเพี้ยนรึไงมันมีลูกน่ารักแบบน้องอันวาจริงเหรอ??
ดูถูกคนเป็นผักเป็นปลาแบบนี้แค่รู้ว่าผมเป็นลูกแม่ค้าถึงขนาดเปลี่ยนกิริยาทำท่ารังเกียจใส่กัน
โคตรจะทุเรศอ่ะ
ผมเปลี่ยนเส้นทางรถขับเร็วมากแล้วพาเธอออกนอกเมืองไปเลยเอาให้ไกล ๆแถวนนท์ก็ดีนะเดี๋ยวพาไปทิ้งไว้ที่สุพรรณเลยดีกว่า
อย่ามาเล่นกับผมเหอะแรงมาแรงตอบนะบอกเลย เดี๋ยวแม่งทิ้งลงกลางทางแล้วจะยุ่ง
กะๆอยู่ดูๆว่าตรงไหนร้างแท็กซี่พ่องจะทิ้งให้
“นี่นายจะไปไหนน่ะ”
เธอแว๊ดขึ้น
“ก็พาคุณไปช้อปปิ้งไงครับ”
“แล้วทำไมมาทางนี้”
“ทางนี้รถไม่ติดไม่ต้องห่วงนะครับเดี๋ยวจะเหยียบให้มิดเลยคุณจะได้ไปช้อปไวๆไง”
ผมก็เหยียบบบบอย่างเดียวเลย ยัยคุณนานะนี่นั่งเกร็งจนเยี่ยวจะแตกแล้วนะผมว่าเออให้มันขมิบไป
ช่างเหอะก็แค่สะพานโค้งต่างระดับผมขับจนชินจะกลัวไรนักหนาก็ไม่รู้ โค้งหักศอกแบบนั้นสบายๆครับผมน่ะ
นั่นเห็นไหมผมขับลงมาแล้วปลอดภัยไร้กังวล
เสียงเธอถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมยกมือทาบอกปากนี่คงกำลังสวดภาวนาอะไรอยู่สักอย่าง
เอาจริง ๆ เลยนะตอนนี้ผมอยู่แถว ๆ นอกเมืองโน่นเลยแต่ห้างที่เธออยากจะไปมันอยู่สีลม
หึหึ
กึกกกก
กึกกกกก กึกกกกก กกก
ตายห่า
รถเสียเหรอวะ
ผมรีบเอารถที่ยังคงกึกๆกักๆ
จะดับมิดับอยู่ เคลื่อนเข้าข้างทางตีไฟไว้ และทันทีที่ท่านบีเอ็มเทียบท่าได้เครื่องก็ดับลงทันที
โอ๊ยตาย ๆ ไอ้รถคันนี้ที่มันไปเสียที่อัมพวานี่หว่า
คุณชายก็นะทำไมวันนี้ทิ้งคันนี้ไว้ให้ผมก็ไม่รู้
ผมหรี่ตารอฟังเสียงบ่นเลยคือหน้าตาคุณนายนี่ไปแล้ว ปากกำลังจะอ้าบ่นแล้วแน่ ๆ
“อะไรกันน่ะ
รถเป็นอะไรทำไมต้องจอดที่นี่” เธอโวยวายหันซ้ายหันขวา ผมรีบปลดสายเบลท์เดินลงไปเช็คดูตัวเครื่อง
ภาวนาอย่าเป็นอะไรเยอะนะ
“รถเป็นอะไรน่ะ
เสียเหรอ” เธอตามลงมาแล้วครับ ส้นสูง ๆ เดินฉับ ๆ มาเลย แว๊ดอยู่ข้าง ๆ ผมนี่แหละ
“ฉันถามนายก็ตอบสิ
รถเป็นอะไรน่ะเสียเหรอ”
ผมมองเธออย่างเหนื่อยใจ
คือคุณดูแค่นี้ไม่รู้เหรอครับจะถามทำซากอ้อยอะไรนักหนาผมยิ่งกลุ้มอยู่เนี่ย
“เข้าไปนั่งรอในรถไหมครับ
ตรงนี้ร้อนนะ” แล้วคือแดดแรงมาเลยจริงครับ
ผมไม่ได้แกล้งเรื่องรถเลยนะมันดับเองจริง ๆ กลัวเธอร้อนด้วยถึงผมอยากแกล้งเธอแต่ก็ไม่หนักขนาดเอาเธอมานั่งตากแดดหรอก
“บ้าสิ!
ใครจะไปนั่งในนั้นได้ร้อนจะตายชัก ติดเครื่องไม่ได้แบบนี้แย่มากเลย เฮ้
นายจะทำอะไรน่ะ” ผมก้มส่องดูใต้ท้องรถอีกครั้งแต่มองไม่เห็น
คือกลัวว่าจะเป็นเหมือนครั้งที่แล้วอีก เลยตัดสินใจจะถดตัวเข้าไปดู
“นี่นายบ้ารึเปล่า
ถนนมันร้อนนะถดหลังเข้าไปแบบนั้นเดี๋ยวหลังก็ไหม้หรอก บ้าชะมัดเลย ซวยจริง ๆ
มากับคนแบบนายนี่แหละถึงได้ซวยอยู่แบบนี้ไง
อะไรกันเป็นแค่ลูกแม่ค้าขายอาหารลาวอย่ามาพาฉันลำบากอยู่กลางถนนแบบนี้นะ
ฉันจะโทรหาเอย์” ผมปล่อยให้เธอแว๊ดไปเรื่อยก่อนปรี๊ดขึ้นสุดก็ตอนที่เธอพูดถึงคุณแม่ของผม
คือเธอจะว่าผมยังไงผมไม่สนใจเลยนะพอว่าแม่ผมเท่านั้นล่ะผมขึ้นเลย ผมมุดออกมาทันทีไม่ทำแม่งแล้วคือปล่อยเลย
“ปากคุณนี่นะ
เดี๋ยวผมจะทิ้งไว้ตรงนี้เลยดีไหม”
“นี่กล้าพูดกับฉันแบบนี้เหรอ
ทุเรศที่สุดฉันเป็นเพื่อนเอย์เป็นรุ่นพี่นายนะ
นายเป็นใครกันแค่ลูกจ้างชั้นต่ำไม่ใช่เหรอ มีสิทธิ์อะไรจะมาทิ้งฉัน
ฉันจะโทรหาเอย์”
“ไม่ต้องโทรเดี๋ยวผมจัดการเอง”
ผมคว้าโทรศัพท์มาจากหูเธอ คือเธอกำลังต่อสายอยู่แต่ผมคว้ามาปิดตัดไปเลย ไม่สนหรอก
ผมใช้เบอร์ผมต่อหาพี่เอย์แล้วบอกมันว่ารถเสียผมก็บอกสถานที่ไปพี่เอย์บอกให้ผมทิ้งรถไว้เลยแล้วนั่งแท็กซี่กลับมา
ผมก็เออออไปตามเรื่อง แต่คุณรู้ไหมแท็กซี่แถวนี้หายากมากกกก ไม่เห็นเลยเนี่ย
ผมยกมือปาดเหงื่อร้อนมากจริงครับ ผมผิดเองนะที่พาเธออกนอกเส้นทางมาแบบนี้
ยัยคุณนานะเดินไปนั่งยอง ๆ ลงข้างรถ
“จิ๊! นายมันแย่ที่สุด
ซวยๆๆๆ”
แค่นั้นแหละครับผมต่อสายหาไอ้บาสทันทีบอกมันขับมอไซด์มาคนละคัน
เดี๋ยวผมจะยืมใช้คันนึงเพราะรถเสีย
พวกมันถามผมว่าอยู่จุดไหนเดี๋ยวเอารถไปส่งให้ผมก็บอกมันไป มันบอกรอไม่เกินครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวซิ่งมาแปปเดียว
ผมก็เออๆไป
“พี่เอย์บอกให้ทิ้งรถไว้ที่นี่เลยแล้วให้เรากลับแท็กซี่
แต่เดี๋ยวเพื่อนผมจะมารับถ้าคุณนานะจะกลับแท็กซี่ก็ยืนรอไปคนเดียวเลยนะครับ”
ผมแกล้งพูดไปงั้นแหละ แอบ ๆ มองเธอด้วยว่าจะทำหน้าตายังไง ซึ่งก็ใช่จริง ๆ
ทันทีที่ฟังผมพูดจบเธอชักสีหน้าพร้อมหันมาแว๊ดใส่ผมทันที ขี้หูแทบหลุด
“เรื่องสิ! ใครจะบ้ายืนอยู่แถวนี้คนเดียวร้อนจนผิวไหม้หมดแล้วเนี่ย
ดูซิคนขับรถผ่านไปมาก็มอง ให้ฉันไปกับเพื่อนนายด้วยเลย”
“แน่ใจนะครับว่าจะไปกับพวกผม”
คือที่ผมกะไว้นะถ้าก่อนพวกไอ้บาสมาแล้วมีแท็กซี่ผ่านมาผมให้เธอขึ้นไปก่อนเลยเพราะตรงนี้ร้อนมากจริง
ๆ ครับ บ่ายสองกว่าอ่ะ เธอตากแดดจนต้องนั่งยองๆอยู่ข้างรถ กระโปรงโคตรของความสั้นนั่งลงไปนี่เห็นหมดแบบไม่ต้องคิด
ความจริงผมเห็นกางเกงในเธอแล้วล่ะอย่าให้ผมบาปเลยคือไม่ตั้งใจมันเห็นตอนที่ผมมุดใต้ท้องรถนั่นแหละแล้วเธอก็มายืนค้ำอยู่ข้าง
ๆ มันเลยเห็นไง ผมใจหล่อนะบอกเลยอุตส่าห์เดินไปยืนอยู่ข้าง
ๆตรงที่เธอนั่งยองๆพิงรถเพื่อบังแดดให้เธอ ยังมีหน้าเงยหน้าขึ้นมาค้อนผมอีกเอาดิ๊ ทำสายตาประมาณว่ามายืนใกล้ทำไม สมองนี่มัวแต่คิดเรื่องไร้สาระเหอะ
คนบังแดดให้ยังไม่รู้เรื่องอีกคิดแต่เรื่องหลงตัวเองถ้ามันไม่แดดผมจะมายืนอยู่ตรงนี้บังให้คุณเหรอครับห๊า
ถึงผมจะบ่นว่าเธอในใจแต่ผมก็ยืนอยู่งั้นแหละนะ
แดดมันร้อนสงสารคนใส่โชว์เนื้อหนัง ผิวสวยๆจะไหม้แดงก็คราวนี้
เรารอกันพักนึงไอ้วุฒิกับไอ้บาสก็มากันคนละคัน
หมาบาสแซวผมใหญ่ ผมเลยบอกเพื่อนพี่เอย์
มันถึงยอมลงเลิกแซว คือมันไม่ได้ดูหน้าคุณผู้หญิงเล้ยว่าเขียวเหลืองแค่ไหนอยากเล่นด้วยไหม
ตั้งหน้าแซวใหญ่เห็นสวยเซ็กซี่ไม่ได้ เหมาว่าแฟนผมอีกต่างหาก ผมเลยแอบบอกมันเธอมีลูกแล้วแค่นั้นแหละมันรีบโบกมือลาแต่ไอ้วุฒิเสือกอยากมีบทบอกมีลูกแล้วก็ไม่เกี่ยวเพราะลูกไม่มา
ผมเลยรีบไล่หมาสองตัวกลับไปให้ไว ไอ้บาสทิ้งรถมันไว้ให้ผม
ส่วนมันซ้อนท้ายไอ้วุฒิกลับไป มีหันมาโบกมือบ๊ายบายหน้าทะเล้นได้อีกเลยผมเลยแจกนิ้วกลางมันไปซะ
ผมหันไปมองคนที่นั่งยอง
ๆ พิงอยู่แถวประตูรถ เธอใช้หลังมือปาดเช็ดเหงื่อ เช็ดแล้วก็เช็ดอีก ทั้งที่กระโปรงสั้นกุดแบบนั้นรองเท้าก็สูงปรี๊ด
ส่วนบนเป็นเกาะอกแล้วก็นะ คือเป็นสีเนื้ออ่ะ คือสภาพชุดไม่เหมาะกับมอไซด์เลยเอาแค่นั้นพอ
ผมอดสงสัยไม่ได้อย่างนึงทำไมเธอไม่นั่งอยู่ในรถแล้วเปิดประตูอ้าไว้วะ
สงสัยจะนึกไม่ถึงมัวแต่ร้อน คึคึ ผมไม่บอกเธอหรอกปล่อยให้นั่งเมื่อยโชว์ขาขาว ๆ
อยู่แบบนั้นแหละ ผมเดินอ้อมไปเปิดประตูอีกฝั่งแล้วหยิบกระเป๋าถือเธอออกมา เห็นเธอชะเง้อมาดูด้วยนะคงกลัวผมจะหนีไปคนเดียว
“คุณนานะจะไปกับผมไหมครับ
หรือจะรอแท็กซี่อยู่ที่นี่”
“อย่ามาทิ้งกันนะ!” เธอลุกขึ้นมาแว๊ดผมอีกแล้วมองดูรถแล้วดูสภาพชุดเธอ
ชั่งใจนิดนึง เอาไงดีวะ ถ้าเธอนั่งซ้อนขึ้นมานี่คือโป๊อ่ะ บอกเลย
แล้วยังท่อนบนโชว์ไหล่โชว์อกของเธออีก
ผมถอนใจเฮือกใหญ่
ตัดสินใจเรื่องสำคัญ
“จะนั่งข้างหน้าหรือจะซ้อนท้ายผมครับ”
ผมให้เธอเลือก ยื่นกระเป๋าถือส่งให้เธอ ขณะที่มือผมเริ่มปลดกระดุมเสื้อตัวเองลง เธอมองผมไม่วางตาเลย
“ปิงนายทำบ้าอะไรของนายน่ะ
ถอดเสื้อออกทำไม” เธอทำหน้าไม่เข้าใจ แต่ผมก็ไม่หยุดหรอกนะถอดจนเหลือแต่เสื้อกล้ามนั่นแหละ เสื้อที่ถอดออกมานี่เปื้อนด้วยเพราะถดตัวกับถนนดูใต้ท้องรถเมื่อกี้แหละ
“อ่ะ ใส่ไว้” ผมยื่นเสื้อส่งให้ แต่เธอทำหน้างง
“อะไรนะ”
“ถ้าไม่อยากให้ผิวสวยๆของคุณเสียก็ใส่เอาไว้ซะ”
ผมยัดเสื้อผมใส่มือเธอ คือหน้าคุณนายนี่งอหักมาก แถมเอาเสื้อผมขึ้นมาดมอีกต่างหาก
“แหวะ ยี้เหม็น”
“เหม็นก็ต้องทนเดี๋ยวนั่งมอไซด์ตากแดดอีกนานกว่าจะถึง
ถ้าไม่อยากผิวไหม้คุณก็ต้องใส่” เธอทำหน้างออยู่ไม่นานก็ตัดสินใจสวมเสื้อเชิ้ตผมคลุมเกาะอกของเธอไว้
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นผมจะเอื้อมมือไปติดกระดุมให้นะแต่เป็นคุณนานะผมเลยไม่อยากจะสน
ผมคร่อมมอไซด์แล้วกดสตาร์ท รถของไอ้บาสก็ฟีโน่ธรรมดาครับขับง่ายมีที่วางเท้า
“ว่าไงครับจะนั่งหน้าหรือจะซ้อนท้าย” ผมหันไปถามอีกครั้ง
“บ้า! ใครจะนั่งหน้าให้นายกอดฉันกันล่ะ
ทุเรศบ้ากามลามก” เอาเข้าไปด่าผมให้พอ
“ขึ้นมาสิครับ เคยนั่งรึเปล่า ค่อย ๆ
ตะแคงขึ้นมานะรองเท้าคุณนี่ถอดแล้วเอามาวางไว้ตรงข้างหน้าผมนี่มา” ผมหันไปมอง เธอทำท่าเก้ๆกังๆก่อนก้มลงถอดรองเท้าแล้วเอามาวางไว้ที่พักเท้าด้านหน้า
จากนั้นเท้าเปล่าเปลือยขาวผ่องก็ก้าวขึ้นมานั่งซ้อนแบบตะแคงเธอรีบเกาะเอวผมไว้ทันทีนี่ขนาดรถยังไม่ออกตัวเลยนะ
มืองี้จิกผมแน่น ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอ้อออคนเรากระโปรงก็สั๊นสั้นเห็นไปถึงไหนต่อไหน
ถ้าขับเข้าเมืองติดไฟแดงนี่เธอได้เป็นอาหารตาชามโตแน่ๆ
ผมก็เลย...
“นี่นายคิดจะทำอะไรอีกน่ะ” เธอแว๊ดขึ้นอีกเมื่อผมถอดเสื้อกล้ามที่สวมอยู่ออก ผมไม่อยากสนใจเธอเลยยื่นเสื้อที่ถอดวางไปที่ตัก
“เอาเสื้อกล้ามผมพันขาคุณไว้
กระโปรงคุณมันสั้นเกินไปถ้าไม่อยากให้คนอื่นเขามองก็ต้องทำ”
“จิ๊! ทุเรศ ” แต่เธอก็ดึงเอาไปนะ ผมหันไปแอบ ๆ
ดูเธอเอาเสื้อผมหุ้ม ๆ พันๆขาอ่อนเธอไว้มิดชิดเรียบร้อยเชียว ตอนนี้สภาพเธอโอเคแล้ว
มีแต่ผมนี่สิตอนนี้เลยเหมือนพวกชอบโชว์คือถอดเสื้อขับรถ
คุณคิดดูนะคืออากาศมันร้อนและแดดแรงมากผิวผมต้องไหม้อยู่แล้วแน่ ๆ แต่จะทำไงได้ล่ะ
ต้องเลือกผิวผู้หญิงไว้ก่อนใช่ไหม ผมทำแบบนี้ก็ถูกต้องแล้วนี่
ถึงเธอจะร้ายยังไงก็เป็นผู้หญิงอ่ะ เป็นเพศแม่ของผม
ผมออกรถแล้วขับตามสไตล์ผมเลย
เธอกรี๊ดกร๊าดอยู่ตลอดทางแถมเอามือมากอดเอวผมอีก
แล้วคุณคิดว่าผมไม่จั๊กจี้รึไงยิ่งไม่ได้ใส่อะไรเลยอีกต่างหาก
“กรี๊ดดด
นี่ปิงนายขับให้มันดีๆได้ไหม ฉันไม่เคยนั่งมอไซด์นะ กรี๊ดดด”
นั่นแหละครับเสียงเธอผมเบรกทีก็กรี๊ดผมซิกแซกทีก็กรี๊ดเล็บยาว ๆ
นี่จิกเอวผมจนเป็นรอยอ่ะแหละ พอเข้าเมืองผมเลยต้องลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยต่าง
ๆ คราวนี้เลี่ยงไม่ได้จริง ๆ รถต้องจอดติดไฟแดง เสียงคนบนรถเมย์แม่งแซวอย่างดังอ่ะบางคนควักมือถือขึ้นมาถ่ายรูปพวกผมด้วยนะคงเห็นว่าผมเกรียนเกิน
ผมหันไปมองไอ้พวกเด็กนักเรียนท่าทางแซบ ๆ ยกนิ้วโป้งให้ผมประมาณว่าเจ๋งโคตรลูกพี่ ผมเลยมองดูที่มือขาว ๆ
ของเธอกอดเอวผมไว้แน่นเชียว หึหึ สมน้ำหน้าเนอะๆคงจะกลัวมากเลยสิท่าเดี๋ยวน้องปิงจัดซิกแซกทิ้งท้ายก่อนถึงคอนโดคุณชายละกันตรงนั้นมันเป็นซอยคดเคี้ยวด้วยเอาให้คุณนายกรี๊ดลั่นซอยแตกไปเลย
ว่าแล้วผมก็หักมอไซด์เข้าซอยทันที ซอยนั้นผมเจนมากครับมาบ่อยลัดเลาะทุกครั้งที่มาคอนโดนี้
“กรี๊ดดดดดดดด
ปิงไอ้บ้า ช้าหน่อยๆ ฮือๆๆ กลัว เสียวจะตายแล้วขับบ้าบออะไรเนี่ย” ตายล่ะว๊าเธอร้องไห้รึเปล่าเนี่ย
กอดผมแน่นขนาดนี้หน้าอกหน้าใจแม่งเบียดอยู่หลังกูนี่แหละ
โอ่ยยยผมก็คนนะคุณของพาลจะขึ้นแล้ว เธอมีลูกแล้วมีลูกแล้ว ผมท่อง
แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยซบหน้าสวยๆของเธอที่ตอนนี้คงเต็มไปด้วยความกลัวแนบหลังผมแน่นเลยส่วนสองมือก็รัดเอวแน่นมากกกกก
พอถึงทางเข้าคอนโดคุณชาย
รถผมเลี้ยวเข้าคอนโดฝั่งซ้าย บังเอิ๊ญบังเอิญรถคุณชายเลี้ยวเข้าคอนโดฝั่งขวา ผมก็มองๆอยู่นะทำไมรถคุ้นจังวะ
จู่ ๆ ไอ้รถคันนั้นเบรกจึ๊กเลย ผมก็ค่อย ๆ ขับต่อไปคือไม่ได้หยุดแต่เห็นว่ากระจกรถมันเลื่อนลงแล้วไอ้พี่เอย์มองผมตาเขี๊ยวปั๊ดหน้าตานี่ซีเรียสมาก
ผมเลยรีบบิดเข้าไปจอดลงด้านใน มันตามมาจอดลงข้าง ๆ
“ลงได้แล้วครับหรือว่าอยากจะกอดผมให้นานกว่านี้อีก”
เธอที่นั่งซบหน้ามุดอยู่ที่หลังผมคงไม่ได้มองทางเลย พอรู้ว่าถึงเท่านั้นแหละเธอรีบก้าวลงจากรถทันทีดึง
ๆ จัดๆกระโปรงที่รั้งขึ้นให้เข้าที่ ปาเสื้อที่ใช้คลุมขาอ่อนมาให้ผม
ผมรับเอาไว้แทบไม่ทันขณะเธอจะสะบัดหน้าผมเลยมองไปที่ตัวเธออีกเธอรีบขยุ้มหน้าอกไว้คงกลัวผมมอง
อะไรกันวะผมก็แค่จะบอกว่าเสื้อเชิ้ตที่สวมอยู่น่ะถอดมาให้ผมได้แล้ว
ก็ถ้ากลัวคนมองจะใส่แบบโชว์ๆมาทำไม ผมก็ไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้เลย ให้ตายเหอะ
“เสื้อผมที่คุณใส่อยู่”
ผมบอกสั้น ๆ เธอทำท่าตกใจนิดนึงแต่ก็รีบถอดออกมาแล้วโยนส่งให้ผม คือไม่ใช่โยนหรอกปาใส่ผมเลย
พอเธอก้มลงไปหยิบรองเท้าเท่านั้นล่ะครับผมเลยเห็นว่าใครยืนจังก้าจ้องผมอยู่แล้ว
พี่เอย์ยืนมองตาเขียว
ไม่สิไม่ใช่เขียวหรอกผมว่ามีไฟลุกอยู่ในนั้นมากกว่า คือมันนิ่งมาก หน้าตานี่ดูรู้เลยนะว่าโกรธแบบมากๆ
“เอย์!” เธอรีบวิ่งโผเข้าไปหามัน
หัวนี่ยุ่งดูไม่ได้เลยล่ะ คือกระเซอะกระเซิงมาก
แต่พี่เอย์ไม่สนใจเธอเลยมันจ้องหน้าผมนิ่งเชียว
ผมรีบยักไหล่ให้คือบอกให้รู้ว่ามันช่วยไม่ได้จริง ๆ นี่หว่า ผมไม่ได้ทำอะไรแฟนเก่าพี่นะบอกเลย
อุตส่าห์หวังดีเอาเสื้อบังขาอ่อนให้เธอคลุมไหล่ให้เธอพี่ต้องขอบคุณผมดิ่ จะมายืนจ้องหน้าผมเพื่อ?
“เอย์คะรถเสีย ปิงน่ะขับรถเร๊วเร็วกว่านาจะมาถึงที่นี่นะเกือบตกรถตั้งหลายที
สงสัยอยากให้นากอดมั้งขับๆเบรกๆบ่อยมากเลยค่ะเอย์ เอย์ต้องจัดการเด็กเอย์นะ ปิงมองนาแปลกๆไงไม่รู้
ถอดเสื้อขับรถเพื่อให้นาได้กอดอีกด้วย บ้ากามรึเปล่าก็ไม่รู้ นาว่าไม่เข้าท่าหรอกค่ะเอย์
เด็กแบบนี้ไม่ไหวจริง ๆ ”
เอาเข้าไปแม่คุณขี้ฟ้องชะมัดเลย
ไม่ดูหน้ามันบ้างไอ้คุณชายกัดปากแน่นเชียว ผมจะเอาเสื้อขึ้นมาสวมแต่คุณเชื่อไหมมันเดินแว๊ปเดียวถึงตัวผมเลยมือใหญ่ของมันตรงเข้ามาคว้าเสื้อผมทั้งสองตัวแล้วกระชากออกไป
“ไม่ต้องใส่!” มันตะคอก ผมตกใจ ตอนนี้เสื้ออยู่ในมือมัน
“ขึ้นห้อง”
มันว่าแล้วดึงมือผมลากให้เดินตามไป แต่ผมบิดแขนออกคุณนานะรีบเข้ามาเกาะ
“เอย์
เป็นอะไรคะ เอย์โกรธปิงมากใช่ไหม เห็นไหมนาบอกแล้วเด็กคนนี้แย่มากพานาไปกินอาหารลาว
ๆ แล้วก็ทำรถเอย์เสียด้วยนะ ปิงแกล้งนาสารพัดเลยค่ะเอย์ เอย์ต้อง....
“หุบปาก!” มันหันไปตะคอกใส่เธอ
สะบัดแขนเธอออกอย่างแรงแล้วเข้ามาคว้าเอามือผมไว้
“กลับไปได้แล้ว
ถ้าเป็นไปได้ไม่ต้องเสนอหน้ามาให้ผมเห็นอีกแล้วนะ
นานะคุณเป็นแค่แม่ของอันวาหลานชายผมเรื่องราวระหว่างเราอย่างอื่นขอให้คุณจบความคิดบ้าบอของคุณไว้แค่นั้นถ้าอยากจะเป็นเพื่อนกันน่ะก็ได้
แต่ผมรู้ว่าคุณไม่ได้อยากอยู่แค่นั้น ดูไว้ซะว่าตอนนี้ผมมีใครแล้ว”
มันว่าหน้าตาน่ากลัว น้ำเสียงเย็นเฉียบแต่ไม่สำคัญเท่าตอนสุดท้ายมันชูมือที่จับมือผมไว้แน่นขึ้นมาให้คุณนานะดู
หน้าตาเธอตอนนี้นี่แบบเหมือนคนตกใจสุดขีดทำใจยอมรับได้ยากอะไรแบบนั้น แล้วมันก็ลากผมเดินเข้ามาด้านในยัดเข้าลิฟต์เลยห้าสิบชั้นไม่พูดกับผมสักคำ
ผมมองๆตัวเองในกระจกคือผิวผมแดงมากหน้าอกหลังคอแขนคือถูกแดดเผาจนแดงเป็นทาง
ยิ่งหลังนี่มีรอยไหม้ด้วย ผิวผมยิ่งแพ้ง่ายอยู่แล้ว ผมหัน ๆ
ดูหลังตัวเองแบบไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ เจอสายตาไอ้คุณชายมองมาอย่างสมน้ำหน้ามั้งนะ
เลยรีบหลบทำไม่รู้ไม่ชี้ ผมรู้สิมันโกรธที่ผมให้ผู้หญิงมาซ้อนท้ายเกาะเอว
แต่ที่มันโกรธมากว่านั้นคือผมถอดเสื้อขับรถแล้วที่สำคัญคือเอาเสื้อตัวเองไปคลุมขาให้ผู้หญิง
ตายห่าทำไมหลายกระทงแบบนี้วะเนี่ย
ผมเอื้อมมือไปดึง ๆ จะเอาเสื้อที่มันถือไว้อย่างกล้า
ๆ กลัว ๆ มันรีบชักมือออก
มันกับผมเลยยืนจ้องหน้ากันเงียบๆอยู่ในลิฟต์ผมไม่กล้าพูดอะไรมาก
ยังไม่อยากเสี่ยงในลิฟต์ยิ่งแคบเกิดบ้าฆ่าผมหมกลิฟต์ขึ้นมาทำไง
เสียงติ๊งดังขึ้น
ประตูลิฟต์เปิดออก พี่เอย์ตรงดิ่งไปที่ถังขยะทันทีผมรีบถลาไปคว้าแขนมันไว้คือดูรู้ว่ามันกำลังจะยัดเสื้อผมทิ้งลงไปแน่แล้ว
“เอ้ยๆๆๆ อย่าครับพี่เอย์ เสื้อผมนะ เสื้อผม”
“กูจะทิ้ง!”
“อย่าครับอย่า
ตัวนี้ซื้อแพงด้วยตั้งเกือบสี่ร้อยแหนะขาดบาทเดียว”
“แล้วมึงทำเหี้ยไรล่ะ
รู้ตัวไหม ทำอะไรลงไปฮึหมาปิง” มันยัดสื้อผมลงถังโดยไม่แคร์ลากแขนผมดึงเข้าห้อง พี่เอย์รุนแรงมากพอเข้ามาในห้องได้มันเปิดห้องนอนแล้วเหวี่ยงผมขึ้นเตียงเลย
แรงเยอะมว๊ากกกก
คือปกติมันก็แรงเยอะกว่าผมอยู่นะแต่วันนี้คืออะไรวะโกรธบ้าอะไรขนาดนั้น
ผมรีบๆถดๆตัวลงมายืนอยู่ที่อีกฝั่ง คุณคิดสภาพผมนะยืนเปลือยท่อนบนอยู่คนละฝั่งฟากกับมัน
มันจ้องผมเหมือนจะฆ่าจะแกง
“จะให้กูลงโทษมึงยังไงดีฮึ
บอกซิ”
“แล้วพี่โกรธอะไรผมนักหนาเนี่ย”
ผมเริ่มแสบร้อนผิวที่ไหม้ เอามือถูๆแถวไหล่แถวหลัง
“นี่มึงไม่รู้จริงเหรอ
หืม ต้องให้กูบอกแน่ใช่ไหม” มันว่าเสียงสั่น เดินอ้อมเตียงมาแล้ว ผมรีบวิ่งปรู๊ดเหยียบข้ามเตียงมายืนอยู่อีกทาง
พี่เอย์จ้องผมเขม็งเลย เรายืนกันอยู่คนละฝั่งโดยมีเตียงกั้นไว้อีกครั้ง
“ผะ....ผมไม่ได้ทำไรผิด
ผมเป็นผู้ชายถอดเสื้อขับรถไม่เห็นเป็นไร” เอาจริงเลยนะพวกผมสามคน
บาสวุฒิผมเตะบอลเสร็จบางครั้งเราก็พาดเสื้อไว้ที่บ่าแล้วขับรถกลับบ้านเลย บ่อยไปเหอะ
“ตัวแสบเอ้ย
มึงนี่มันหมาของแท้เลยว่ะปิง มานี่!” ไอ้พี่เอย์เร็วมากคราวนี้ผมไม่ทัน มันเข้าถึงตัวผมในก้าวเดียวคว้าแขนผมแล้วเหวี่ยงลงที่เตียงเลย
ผมรีบลุกสิ เสียหลักนอนลงไปเกิดมันกดลงมาผมไม่แย่เหรอ
เวลามีเรื่องกันแม่งชอบพามาเคลียร์ในห้องไม่รู้บ้าอะไร
“นั่งเฉย ๆ” มันจับมือผมไว้แน่น
เอื้อมตัวไปเปิดลิ้นชักแถวหัวเตียงหยิบครีมอะไรออกมาสักอย่าง
“หันหลังมึงมานี่ เดี๋ยวกูทาเจลให้
ดูดิ๊หลังโคตรแดงไหม้แดดเป็นทางแบบนี้ มึงนี่มันจะเกรียนไปถึงไหน
บ้ารึเปล่าไปถอดเสื้อขับรถแบบนั้น กูอยากจะฆ่ามึงนัก”
“อึ๋ยใจร้ายว่ะพี่”
“อย่ามาทำเป็นปากดีนะปิง มึงผิดให้รู้นะว่าผิด”
“โอ๊ยยย!!”
ผมร้องลั่นมันจิ้มตรงที่แผลไหม้แน่ ๆ เลยเจ็บมาก
“สมน้ำหน้า”
“โหยพี่ก็คุณนานะเธอใส่ชุดแบบนั้นผมเลยต้องหาทางปลอดภัยให้
นั่งมอไซด์เดี๋ยวคนเขาก็มองอ่ะ” มันเริ่มแต้มเจลเย็นๆลงที่แผ่นหลังผมเป็นจุดๆแล้วทาวน ๆ
“ก็ช่างหัวเขาสิ
เขาใส่มาแบบนั้นแสดงว่าอยากโชว์ให้คนดู ถ้าเขาไม่อยากโชว์จะใส่มาทำไม มึงหวังดีเกินเหตุแล้วนานะเขาเห็นความดีมึงรึเปล่า
ก็เปล่าใช่ไหมแถมยังด่ามึงอีก”
เออมันก็จริงแหละ
แต่ถ้าจะให้เลือกย้อนเวลาไปได้ ผมก็จะถอดเสื้อให้เธอใช้คลุมขาเหมือนเดิมแหละ ผมสุภาพบุรุษนะ คึคึ
“มึงแม่ง ดูซิคอมึงแดงหมดแล้ว
ผิวตรงนี้ก็ไหม้ กูนี่อยากจะกระทืบมึงจริงนะปิง อย่าทำบ้าอะไรแบบนี้อีกนะ”
“ซี๊ดด อู๊ววว พี่เอย์ผมแสบ
อย่านวดแรงดิ่”
“จิ๊ สมน้ำหน้า กูจะทาจนหนังมึงลอกหลุดออกมาเลยนั่นแหละต่อไปจะได้หลาบจำ
มึงรู้ไหมรอยไหม้แบบนี้นะกว่าจะหายใช้เวลาเป็นเดือน ๆ มึงนี่มันแย่ๆๆๆๆ มึงมันแย่
ที่สุดของความแย่”
“โอ๊ย อย่าทาแรงดิ่พี่
โกรธไรเนี่ยไม่เห็นเป็นไรเลยมันจะหายตอนไหนก็ช่างมันเหอะผมไม่เห็นจะสนเลย
ถ้าผมไม่ให้เธอยืมเสื้อนะคนที่ต้องผิวเสียก็จะเป็นเธอนะ ผมว่าแบบนั้นไม่ค่อยดี”
“นี่มึงยังจะมาห่วงเขาอีกเหรอ”
“เปล่าห่วง ผมพูดไปตามความจริงอ่ะ
พี่เอย์พี่เป็นไรเนี่ย โกรธผมมากเลยเหรอ” มันทาเสร็จแล้วโยนหลอดเจลใส่ตักผม จากนั้นคว้าหมอนขึ้นมากอดนั่งหันหน้างอๆไปอีกทางเลย
แบบนี้อยากให้ง้อแหงแซะ ผมกวาดตามองดูรอบ
ๆ คือเราสองคนนั่งกันอยู่บนเตียง เออผมว่าเคลียร์แถวนี้ก็จะเร็วดีนะ
แต่ไอ้คนที่เสียเปรียบมันจะเป็นผมไหมหว่า เดี๋ยวก่อนๆคิดใหม่
“จิ๊! อื้ออ” เอาแล้วไอ้คุณชายเรียกผมง้อมันแล้วทำเสียงอื้ออ้าจิ๊จ๊ะแบบนี้แหละคือมันไม่ได้ดั่งใจ
เดี๋ยวนี้มีเอาไหล่มาชนๆดัน ๆ มันลอกเลียนผมนี่หว่าเวลาผมเขินนะชอบใช้ไหล่ตัวเองชนๆมันแบบนี้แหละ
แต่พี่เอย์เวลาโกรธแล้วอยากให้ง้อคือจะใช้ไม้นี้กับผม
“ครับง้อๆ พี่เอย์ไม่โกรธนะครับ โอ๋ๆ
โกรธที่ผมขับรถซ้อนสาวใช่ไหมอ่ะ ที่ตรงนั้นให้พี่ซ้อนได้คนเดียวเนอะๆ”
“จิ๊! ใครว่ากูโกรธมึง
กูไม่สนหรอกมึงจะขับรถแก้ผ้าซ้อนผู้หญิงคนไหนหน้าไหนยังไงกูไม่เคยโกรธเหอะ
ไม่เห็นจะสนเลย นมใครจะถูกแผ่นหลังมึงหรือใครจะกอดเอวซบหลังมึงแบบนั้น กูไม่สนบอกเลย กูชิว!”
อ่าา....โคตรชิว
คึคึ
ผมแอบยิ้มด้วยนะคือกลั้นไว้ไม่อยู่จริง ๆ มันปรายตามาเห็นว่าผมอมยิ้มพอดีกระโดดใส่ผมเลยดิ
ตอนนี้ตัวมันเลยคร่อมผมอยู่บนเตียงเรียบร้อย
“ยิ้มทำไม”
มันถาม มือนี่เหวี่ยงหมอนที่เกะกะมันลงทิ้งข้างเตียงแล้ว
“ผมตลกพี่ว่ะ”
“เรื่อง?”
“พี่หึงผมกับแฟนเก่าพี่นี่เหรอ”
“ใครบอกกูหึง
ไม่เคยครับบอกเลย”
“จริงเหรอ
ไม่หึงจริงอ่ะ”
“จริงดิ”
มันเอามือขึ้นลูบแก้มผมเบา ๆ สายตานี่คือหวานฉ่ำมากแต่รู้สึกเหมือนกันนะว่ายังแฝงแววงอนเง้าอยู่นิดๆ
ผมเลยยกสองมือขึ้นประคองแก้มมันจ้องตากะจะให้มันเขิน
แต่ผิดคาดคุณชายไม่เขินครับมันจ้องผมไม่ให้หลุดลอดจากสายตามันเลย แต่ผมไม่เขินเหอะตอนนี้เราต่างคนเลยจ้องตากันอยู่
ผมยกหัวขึ้นไปจุ๊บปากมันนิดๆเจอมันกัดสวนมาผมนี่ตาแทบเหลือกคือมันไม่ยอมปล่อยอ่ะ
เจ็บโคตรน้ำตาแทบเล็ด
“ให้กูทำโทษยังไง
บอกมา” เอ๊ายังไม่จบ ผมรู้สึกเลยนะว่าในปากผมนี่เลือดไหลนิดๆแน่ รสชาติมันปะแล่มๆชอบกล
มันยกมือขึ้นมาบีบปากผมเอียงหัวแล้วกดจูบลงมาเลย
“อื้ออ~”
พี่เอย์รุนแรง ผมนี่ต้องยกมือขึ้นเกาะบ่ามันไว้ เจ็บแบบฉิบหายมันทั้งกัดทั้งดูดไม่มีความอ่อนโยนแม้แต่นิด
“อื้อออ เอ็บบบ” ผมโวยทั้งๆอย่างนั้น แต่มันไม่ฟังหรอกต้อนจูบเอาจนพอใจก่อนถอดริมฝีปากออกจากผม
“ฮ้า แฮ่กๆๆ”
ผมโกยเอาอากาศเข้าปอดแทบไม่ทัน คนบ้าแม่งทำเหี้ยอะไรไม่รู้ผมโมโหเป็นนะหายใจไม่ทันแม่งไม่เห็นใจกันเลยปกติมันไม่จูบแบนนี้เหอะ
“ต่อไปจะทำอีกไหม”
มันถามแต่ผมเงียบไม่ยอมตอบ มันเลยถามซ้ำอีก
“ปิง”
“..............”
ผมก็เงียบอีก คืออยากให้รู้ว่าเจ็บปากมากนะ นี่คือคุณลงโทษผมเหรอ
ผมทำอะไรผิดล่ะแค่ขับรถไม่ใส่เสื้อมากับแฟนเก่ามัน ไม่ใช่ว่าผมตั้งใจจะโป๊แต่ก็ไม่อยากให้คุณนานะเธอผิวไหม้
ผมแกล้งเธอเรื่องทานอาหารแล้วเลยไม่อยากแกล้งเธออีกทั้งที่จะทำเป็นเฉยก็ทำได้แต่ผมก็ยังยืนยันนะว่าถ้าผมย้อนเวลาได้ผมก็ยังจะถอดเสื้อให้เธอคลุมขาอยู่เหมือนเดิม
“มึงนี่มันดื้อจริง
ๆ นะหมาปิง จะพูดขอโทษไหมฮึ”
“ผมไม่ได้ทำอะไรผิด”
“แน่ใจว่าจะไม่พูด”
“...........”
“แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ผิด”
“พี่เอย์ผม...
“มึงรู้ไหมว่ากูโกรธมึงเรื่องอะไร”
ผมจ้องมันแล้วส่ายหน้า
แต่สุดท้ายก็ลองตอบออกไป “เรื่องที่ถอดเสื้อขับรถซ้อนท้ายผู้หญิง?”
“ถูกครึ่งเดียว
กูโกรธเรื่องที่มึงถอดเสื้อขับรถจริง แต่เหตุผลคือมันร้อนแล้วผิวมึงก็ไหม้
ตากแดดร้อน ๆ แบบนั้นไม่ใส่เสื้อเลยถ้าไม่สบายขึ้นมาจะทำยังไง พรุ่งนี้มึงจะสอบใช่ไหมอย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ”
ผมนิ่งไปเลยสิ คือก็เออผมผิดจริงตรงจุดนั้น แต่คือไงล่ะ จะให้ผมยอมมันง่ายๆเหรอ
“ขอโทษกูสักคำ”
มันว่าแล้วไล้ปลายนิ้วโป้งเข้าที่ริมฝีปากผม คือตรงที่โดนมันกัดตะกี้นั่นแหละ ผมรีบหันออก
“พี่เอย์ผมไม่ได้.....
“เชื่อมึงเลย”
มันสวนขึ้น ใช้มือบีบปากผมเบา ๆ แล้วกดจูบลงมา แต่ครั้งนี้ไม่รุนแรงแล้ว
พี่เอย์จูบเบามาก อ่อนโยนและลึกซึ้ง ทำเอาผมแทบเคลิ้มเผลอจูบตอบมันไปตั้งหลายครั้ง
คุณเชื่อไหมผมมีอารมณ์นะไม่ใช่ไม่มีแต่ผมต้องห้ามตัวเองไว้
พี่เอย์ยังตามจูบผมอยู่ไม่ยอมหยุดเสียงมันหอบหายใจโคตรแรงผมรู้มันเองก็พยายามจะถอนริมฝีปากออกแต่ก็ยังหยุดยั้งตัวเองไม่ได้
แถมมือไม้นี่เร็วมาสอดเข้ามาในเสื้อลูบไล้ขยำขยี้สะกิดหน้าอกแบนๆของผมแล้วเรียบร้อย
“อ๊ะ
พะ...พอแล้วพี่ พอ อ๊ะ..” ผมร้องห้าม
เสียงมันหัวเราะหึหึในลำคอก่อนถอนจูบออกมาด้วยแววตาที่เหมือนคนเสียดายของม๊ากมาก
มันแลบลิ้นเลียริมฝีปากตัวเองด้วยนะ ส่วนผมนี่กัดปากแน่นเลย กลัวมันจูบลงมาอีกต้องปิดปากไว้ให้ให้ดีๆ
เดี๋ยวเคลิ้มมากๆจะเตลิด ผมเองก็รักษานะเวลาสามเดือนจะว่าไปเหลืออีกแค่ไม่นานก็จะถึงแล้วนี่หว่า
“เด็กดื้อ” มันต่อว่าบิดจมูกหยอกล้อ
ผมเลยชกท้องมันเบาๆ ให้มันลุกออกจากตัวผมได้แล้ว อิพี่เอย์นิสัยแย่มันดึงมือผมลุกขึ้นแล้วลากเข้าไปโยนไว้ในห้องน้ำตัวมันเองก็เบียดแทรกเข้ามาด้วย
ผมเลยหันไปถลึงตามองว่ามันจะเข้ามาด้วยทำไม
“ทำโทษ”
“???”
“กูอาบน้ำให้”
“เห้ยไม่อ๊าวววบ้าเหรอใครจะไปทำแบบนั้นกัน
เกิดมาไม่เคยเหอะ พี่เอย์ปล่อยผมคร้าบบบบ ผมไม่อาบไม่อ๊าวววว” ผมวิ่งออกไปไม่ได้หรอกครับมันรั้งเอวผมไว้จนตัวแทบจะลอย
คือมันน่ะเร็วมากจริงนะเรื่องเทคออฟเอเวอรี่ติงจิงเกอเบลเนี่ย แปปปปปเดียวยีนส์ผมเลื่อนหลุดลงมาถึงหัวเข่าแล้ว
ดีนะยังมีบ็อกเซอร์อยู่ด้านใน สรุปแล้วคือตอนนี้ผมนั่งนิ่ง ๆ
อยู่ในอ่างโดยมีคุณชายผู้เป็นเจ้าของห้องนั่งอยู่ที่ขอบใช้ฝักบัวรดตัวผมให้
“ต้องล้างออกให้สะอาด”
มันทำเสียงและทำหน้าเหมือนคนโรคจิต
“ไรเล่าพี่อ่ะ”
“หันหลังมาดิ๊
อย่าดื้อนะมึง รอยลิปสติกยังติดอยู่ที่หลังมึงเลยนะ โหหหห มีรอยเล็บที่เอวอีกด้วย
เดี๋ยะเหอะๆ เกือบแล้ว เดี๋ยวกูโมโหขึ้นมาอีกนิดมึงจะยุ่งยาก นั่งเฉย ๆ ซะ”
พี่เอย์บ่นไรไม่รู้ บ่นไปอาบน้ำให้ผมไปผมก็นั่งนิ่ง ๆ ให้มันอาบนะ เอาวะลงโทษแบบนี้ก็ไม่มีปัญหาหรอก
มันลงครีมอาบน้ำรสเมลอนหอมมากชโลมให้ผมทั้งตัว มือมันแม่งก็นุ่มลื่นชะมัดจะเป็นไรป่ะวะถ้าผมหลับตาขอเคลิ้มนิดนึงก่อน
ผมเลยพริ้มเปลือกตาลงแล้วค่อย ๆ จะเอนพิงขอบอ่าง
“โอ๊ยยยย!! เชี่ยไรวะพี่มาหยิกพุงผมทำไม”
ผมสะดุ้งโวยวาย รีบเบิกตามองมันทันที พี่เอย์นั่งหน้าบูดเป็นตูดลิงอยู่
“ก็แล้วมึงจะทำหน้าแบบนั้นทำไมเล่า
ไหนว่าให้กูรอสามเดือน ทำหน้าทำตาแบบนั้นกูผิดสัญญาขึ้นมาอย่ามาโทษกันนะ” ผมเบะปากแลบลิ้นให้มันไปที แต่ไอ้พี่เอย์แม่งบ้าจู่ ๆ
มันกระโจนลงมาในอ่างจิกหัวผมแล้วจับเข้ามาดูดปากเลย คงทนไม่ไหวของมันแล้วนั่นแหละ ผมงี้ทั้งตัวมีแต่ฟองลื่นเลยสิครับส่วนมันเปียกไปหมดแล้วผมดิ้นมันก็ฟัดผมอยู่ในอ่างแต่ดิ้นได้พักเดียวแหละตอนนี้เราสองคนนัวเนียกันอยู่ คือผมเองก็ไม่ยอมหรอกนะ
มันจูบมาผมก็สู้ตายเหมือนกันไม่สนแล้วแม่ง เหี้ยเหอะผมเองก็อยากเสียบใครสักคนเหมือนกัน
ตายๆกูจะทำยังไง
“อี้เอย์ อื้ออ~” ผมพูดอู้อี้ ปากเราทั้งคู่ดูดสู้กันอยู่มันจิกหัวผม
ผมเองก็จิกหัวมันเหมือนกันเอาดิ๊~ มึงหื่นเป็นคนเดียวเหรอกูก็หื่นเป็นนะบอกให้ แต่ผมเร็วอีกอย่างนึงนะคือผมกระชากเสื้อมันถอดออกแล้วเรียบร้อยกางเกงก็ไม่เหลือ
ตอนนี้เราสองคนเลยเท่าเทียม น้ำในอ่างกระเพื่อมล้นออกมาตามจังหวะที่เราทั้งคู่ฟัดกัน
เสียงหอบหายใจทั้งผมทั้งมันคือทำไมวะ ผมไม่เข้าใจ ลักษณะของเราเหมือนกับคนตายอดตายอยากในเซ็กส์มากมาย
เราสัมผัสกันและกันจนแนบชิดไปทุกสัดส่วนผมนี่สั่นเทิ้มไปทั้งตัว มันเองก็ไม่ต่าง
“ไม่ไหวแล้วว่ะปิง
กูขอเหอะ” มันพูดเสียงแหบพร่าเหมือนคนไม่ทันใจมือไม้นี่ทั้งลูบทั้งขยำผมไปทั้งเรือนกาย พลิกตัวลงไปนั่งอยู่ข้างหลังจับผมนั่งอยู่ในตักระดมทั้งกอดทั้งจูบลงมาที่ต้นคอก่อนลากลิ้นร้อน
ๆของมันโลมเลียจนทั่วแผ่นหลัง คือมึงจะไม่ปล่อยกูไปสักตารางนิ้วเลย??
“อาา..” ผมเสียว
“ปิง ขอนะ
นิดเดียวทนนะ กูพร้อมรบ”
มือไม้ที่รวดเร็วของมันนวดอยู่ที่ลูกชายผมที่กำลังน้ำตาเล็ดนิดๆแล้ว คือกูก็พร้อม
ผมก็อยากบอกมันเหมือนกันนะ มันติดอยู่นิดเดียวจริง ๆ ที่ว่าใครจะเป็นคนรับใครจะเป็นคนรุก
มันผลักผมให้เอนตัวไปข้างหน้าตั้งเข่าไว้เกาะขอบอ่าง
คือผมถูกผลักให้ลุกด้วยความเร็วแบบนั้นกับน้ำสบู่ทั้งอ่างคุณคิดดูว่าผมก็ต้องเกาะขอบอ่างไว้ตามสัญชาตญาณใช่ไหม
แต่พอเอี้ยวตัวกลับไปดู พระเจ้า! อิพี่เอย์แม่งจังก้าพร้อมเสียบผมอยู่แล้ว
มันจับสะโพกผมยึดไว้แน่นเลยหน้าตานี่มองจุดนั้นของผมเขม็งเลยอ่ะ คือถ้าเป็นการยิงปืนมันก็เล็งเป้าเรียบร้อยแล้วเหลือแต่เหนี่ยวไก
ซึ่งท่านี้ไม่เวิร์คสำหรับผมแบบมากๆคือมันเป็นท่าเสียเอกราชแน่แล้ว
ผมโอ๊ยยย ผมจะร้องแล้ว ผมจะร้องไห้แน่แล้ว
มันโน้มตัวมันลงมาทันทีจับหน้าผมให้หันมาสู้หน้ามัน หน้าผมนี่เสียแบบชัดมาก
“พี่เอย์”
ผมพูดเสียงสั่นคือกลัวนะตรง ๆ เลย
“ทีหลังห้ามทำอะไรแบบนี้อีกจำไว้
ครั้งนี้กูจะลงโทษสถานเบาเอาแค่ให้ท่าทางเหมือนเมคเลิฟ แต่ถ้ากูเห็นแบบนี้อีกกูไม่รอแล้วนะสามเดือนของมึง
บอกเลย” มันกระซิบเสียงกระเส่าขู่ผมกลายๆ คงรู้ว่าผมกลัว
แต่ผมสยิวเสียงมันมากกว่า มันขยับลูกชายโยกชิดร่องปราการผมทันทีเสียงอืออาดังลอดออกมาจากปากมันไม่หยุดน้ำล้นกระเพื่อมตามแรงขยับถูไถของมัน
จมูกโด่งระดมจูบลงมาทั้งต้นคอ เนินไหล่ แผ่นหลัง
ไล่ต่ำลงมาจนถึงสะโพกด้านล่าง แต่ที่ทำผมแทบอยากตายนั่นคือตอนมันลากปลายลิ้นลงมาตามร่องกลีบสีสวย
ผมสะดุ้งโหยงทันทีคือแบบโคตรของความเสียว พยายามกลั้นเสียงในคอไว้มือไม้นี่จิกขอบอ่างจนเกร็งไปหมด
พี่เอย์แม่งลามกมันไปทำเหี้ยไรอยู่แถวนั้น
จุดสำคัญของผม!
“อื้ออ...”
โอ๊ยยผมจะตายไหมนี่ มันกำลังทรมานผมมากมายจริง ๆ
ผมนึกทันทีตอนที่ผมเล้าโลมผู้หญิงเขาคงจะรู้สึกแบบนี้เหมือนกัน นี่ผมบาปมากนะบอกเลย
มาเอ็นดูเหี้ยไรกูจุดนี้ กูจะตายแร้ววววว
“อ๊า...”
พี่เอย์เริ่มชอนไชปลายลิ้น ผมเกร็งสะโพกแบบสุดเหนี่ยว รู้สึกลูกชายตัวเองน้ำตานองหน้า
คืออะไร?มันคืออะไรเหรอ? ผมแทบจะแตะเส้นขอบฟ้าเพียงแค่มันสัมผัสผมที่จุดนี้ โคตรสุดแสนจะสุข
มันเป็นไปได้ด้วยเหรอที่เราจะปลดปล่อยได้โดยที่เราไม่ได้แตะต้องอะไรส่วนนั้นเลย แล้วยิ่งมันเพิ่มความเร็วในการใช้ลิ้นผมนี่แทบสำลักความสุขแบบฉิบหาย
ผมทรมาน กลั้นเสียงครางเครือต่อไปไม่ไหว ลาวาทะลักเป็นสายเข้าใส่ในอ่างนั่นแหละ
“อ่ะ.... อื้ออ...”
มันจับตัวผมหันมาจูบอย่างอ่อนโยนก่อนจับมือผมให้ไปสัมผัสที่ลูกชายมันคือร้อนผ่าวแล้วก็พร้อมอย่างมากๆ
ผมแตะต้องแค่ไม่กี่ครั้งคุณชายก็เกร็งตัวแล้วปล่อยสายน้ำร้อนสีขุ่นพุ่งออกมา พี่เอย์หลับตาแน่นผมกระโจนเข้าหามันทันทีจิกหัวจับมาจูบ
คือผมรู้สึกดียังไงแบบไหนผมก็จะทำให้มันเหมือนกัน
พอเราได้ปลดปล่อยออกมาแล้วถ้าหากได้รับจูบที่อ่อนโยนจากอีกฝ่ายเราจะรู้สึกแบบดีมากๆผมเลยทำให้มันด้วย
เพราะมันเคยทำแบบนี้ให้ผม เราสองคนจูบกันท่ามกลางสายน้ำที่กระเพื่อมตัวอยู่ไม่หยุด
พี่เอย์เป็นคนโลภมากไม่พอใจอะไรง่าย ๆ
มันขอผมอีกรอบแต่ผมบอกไม่เอาแล้วในอ่างลื่นเวลาผมทรงตัวคือลื่นมาก ผมเหนื่อย
จริง ๆ
ผมก็นึกนะ
นี่ขนาดเรายังไม่ขั้นสุดท้ายมันยังหื่นกับผมขนาดนี้แล้วถ้าวันนั้นมาถึงจริง ๆ
นี่ผมจะเหลืองเลยไหม คือคุณชายก็ไม่ได้เล็กนะ ของมันของผมเท่ากันอ่ะ
สงสัยหลังสอบเสร็จนี่ผมคงต้องศึกษาวิธีของฝ่ายรับอย่างจริงจังซะแล้ว
อาจจะมีเทคนิคการรับแบบขั้นเทพขยับขยายยยยอะไรแบบนั้น
เดี๋ยวจะลองปรึกษาพวกไอ้บาสไอ้วุฒิดูอีกที เผื่อมีเทคนิคดี ๆ น่าลุ้นมาให้ผมใช้ได้บ้างคึคึ
ตกลงว่าคืนนั้นผมไม่ได้ค้างกับมันหรอกนะครับ
เพราะช่วงนี้ทั้งผมทั้งมันมีสอบด้วยกันทั้งคู่ พี่เอย์กำลังจะเรียนจบแล้ว ส่วนตัวผมก็กำลังจะจบ
ปวส.แล้วเช่นกัน เพราะอย่างนั้นสัปดาห์นี้ผมจึงบอกมันไปว่าคงจะไม่ได้มาหาบ่อยๆ
“มึงสอบเสร็จวันไหน”
พี่เอย์ลงมาส่งผมที่ด้านล่าง เราเดินลัดเลาะกันมาจนถึงที่ผมจอดรถเอาไว้
“วันศุกร์ครับ”
“ดีเลยงั้นวันเสาร์ทำตัวให้ว่าง”
“ทำไมครับพี่จะไปไหน”
“ไม่ต้องแวะมานะเดี๋ยวกูไปรับเอง”
“แอร๊~ จะชวนผมไปเที่ยวอ่ะดิ๊ ” ผมแกล้งทำหน้ารู้ทัน เราเดินมาถึงรถผมแล้ว พี่เอย์ยืนเท้าเอวหันซ้ายหันขวาทำท่าทางแปลกๆซึ่งผมก็ไม่รู้มันเป็นอะไร
แต่แล้วมันเดินเข้ามาคว้าหมับเข้าที่คอผมล็อคกอดไว้
“เปล่า
กูแค่หาพนักงานมาขับรถให้ ขี้เกียจขับเองว่ะ ขึ้นเขาแม่งน่ารำคาญ”
“ไปไหนอ่ะพี่
บอกผมล่วงหน้าหน่อยนะ” ผมหันไปถาม คือถ้าไปในเส้นทางที่ผมไม่รู้จักผมก็จะได้หาข้อมูลก่อนไง
“หึหึ
ไม่บอก” มันว่าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ ไอ้วิธีแบบนี้มันล่อคนอยากรู้ชัดๆเลย
แต่ช่างเหอะเดี๋ยววันเสาร์ผมก็คงได้รู้เองแหละ
“ไกลไหมพี่ค้างรึเปล่า”
“ค้างดิ”
“หึ งั้นไม่อ่ะ
ผมไม่ไป ถ้าค้างผมไม่ไปหรอกเสียเปรียบพี่ทุกที” ผมจับแขนมันออกจากคอผม
โคตรหนัก
“หึหึ
อย่ามาหลงตัวเองกูบอกเลยหน้าอย่างมึงอ่ะ กอดน้องโบกี้ยังดีกว่าเหอะ” โหหหหหห
พูดมาได้เนาะคนเรากอดโบกี้ยังดีกว่า แล้วเมื่อกี้ในอ่างน้ำใครกอดกูวะโคตรแน่นอ่ะ
เอ๊ะ! แต่เดี๋ยวก่อน มันพูดถึงใครวะโบกี้ ไอ้พี่เอย์แม่ง! น้องโบกี้ไหนของมันวะ
เดี๋ยวเหอะ น่าดูเลย กล้าพูดต่อหน้าผมเลยอ่อ
“เป็นไรอีกทำหน้าขี้เหร่อีกแล้วนะมึง
ไหนดูดิ๊ เป็นไรขึ้นมาอีก” มันล็อคคอผมเข้ามาอีกครั้ง เอาหน้ามันเข้ามาจ้องจนชิด
ผมเลยผลักมันออกแล้วมุดออกมาจากแขนมัน
“น้องโบกี้ไหนอ่ะ
พี่พูดถึงใครผมหึงนะ โบกี้ที่เป็นดารารึเปล่าคนที่สวย ๆ
น่ะหรือว่าโบกี้ที่เป็นนางแบบหรือโบกี้ที่เป็นดาวคณะพี่หรือว่าโบกี้ที่เป็น........”
“เป็นหมา
น้องโบกี้ หมาบ้านกูเองโว๊ยยยย”
แค่นั้นแหละครับ
มันขำผมใหญ่เลยผมงอนเลยสิ ชิ๊!
“เอ้อจำไว้เลย ปากพี่นี่แบบ คือถ้าเป็นเพื่อนหรือเป็นน้อง
ผมตบแล้วนะบอกเลย” เปรียบว่ากอดหมาดีกว่ากอดผมอ่ะ
“หมาปิงมึงกล้าเหรอ
พูดแบบนี้กับกูใช่ไหม ก็โบกี้เขาสวยจริงอ่ะขนงี้นิ๊มนิ่มพูดอะไรก็เชื่อฟังเวลากูกลับบ้านนะคอยมาเลียเอาใจไม่ดื้อไม่เกรียนเหมือนมึงนี่ต้องดึงต้องลากกว่าจะได้กอดแต่ละที
แล้วตกลงเอาไงวันเสาร์”
“ยังไม่รู้นะดูก่อน
ขอเล่นตัวนิสนุงนะจุ๊~” ผมฉีกยิ้มหน้าทะเล้น
“พี่ปิงไปแล้วนะครับน้องเอย์คนสวย
บ๊ายบายจุ้มปุ๊จุมปุ๊ก จุ๊บุ๊จิบิ ไม่โทรหาหรอกนะถ้าคิดถึงพี่ปิง
นู๋เอย์ต้องโทรหาเองนะจ๊ะ”
“ฝันดิ่
ใครจะโทรหามึง กูไม่เคยเหอะ” มันสวนแว๊ดขึ้นมาตาเขียว ผมแกล้งกระแดะทำปากจู๋ให้มันแล้วค่อยโค้งรถออกไปช้า
ๆ มองมันแล้วยื่นปากแบบทะเล้นๆอีกนิด อิพี่เอย์กลั้นขำจนไหล่ไหว
ผมเห็นนะมันน่ะแอบทำปากจู๋ตอบผมนิดๆด้วยล่ะ ในที่สุดรถผมก็เลี้ยวออกจากคอนโดหรูหรา
ตลอดสัปดาห์นี้คงจะไม่ได้มาสักพัก ไว้เสาร์หน้าค่อยว่ากันใหม่
เรื่องเรียนต้องมาก่อนแน่นอนอยู่แล้วครับ
ผมน่ะเด็กดีพอตัวนะ บอกเลย
Tbc.