Aeton’s Part
# 17 ความในใจของพี่เอย์
-สองเดือนก่อนหน้านั้น-
RRRRRR
RRRRRRRRRRRRR
เสียงมือถือปลุกผมกลางดึก
สอดมือควานๆหาไม่รู้เผลอเอาไปวางไว้ที่ตรงไหน เดี๋ยวนี้ผมชอบคุยกับหมาปิงก่อนจะนอนเพราะอย่างนั้นพอง่วงมากๆผมจะปล่อยโทรศัพท์ลงที่เตียงแล้วก็จะหลับไปเลย
“เออ” ผมงัวเงียกรอกเสียงลงไป
เมื่อเห็นว่าคนในสายคือซีซ่าร์พี่ชายของผมเอง
“เอย์มึงหลับหรือยัง” ตีสองตีสามแบบนี้คุณมึงจะยังนั่งถ่างตาอยู่ทำไมครับ เห้อถามไรของมันวะ
“มีเหี้ยไรรีบพูด”
“นาโทรหากู” นาไหน??
“นาไหน”
“นานะ
แฟนเก่ามึงไง” ตาผมสว่างทันที ถดๆตัวลุกขึ้นกึ่งนั่งกึ่งนอนพิงหัวเตียงไว้
นานะเป็นผู้หญิงคนแรกของผม เราจบกันนานมากแล้ว
คงไม่ต้องอธิบายมากหรอกมั้งคุณคงจะรู้ดีอยู่แล้วผมเคยบอกไปแล้วนะ เอาเป็นว่าผมกำลังสงสัยว่าเธอโทรหาไอ้ซ่าร์ทำไม
สามปีกว่าแล้วที่เราไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีกเลย
เท่าที่รู้มาคือเธอไปเรียนต่อที่บอสตัน
“ทำไม
นาโทรหามึงทำไม”
“นาบอกว่าเธอมีลูกกับกู”
“ห๊า!!!” ผมเด้งตัวลุกขึ้นนั่งในทันที
คือตกใจมากไอ้ซ่าร์มันเมาหรือไงพูดเรื่องอะไรแบบนี้
พอถามออกไปว่ามันไปแอบพบกันตอนไหนเพราะเธออยู่ที่โน่นไม่ได้ติดต่ออะไรกับพวกเรานี่
มันบอก..
“เด็กสามขวบแล้ว”
“หมายความว่ายังไง”
ผมสวน นี่อย่าบอกนะว่ามันเคยมีความสัมพันธ์กับนานะก่อนเธอจะไปเรียนต่อที่เมืองนอก
“ใช่ กูมีอะไรกับนาจริง”
!!!!
ผมเงิบไปเลยสิ
ช่วงนั้นเพิ่งเข้าปีหนึ่งเธอกับผมเรียนกันคนละมหา’ลัย
ผมเอาหมดทั้งกิจกรรมทั้งเรียนจนไม่มีเวลาให้เธอนานๆเราถึงเจอกันที
จนเธอมารู้ว่าผมมีเดียร์เป็นคู่หมั้นเราทะเลาะกันรุนแรงมากเธอถึงขนาดจะให้ผมเข้าไปคุยกับคุณย่าเรื่องถอนหมั้น
แต่ผมทำให้เธอไม่ได้ ไม่รู้ตอนนั้นคิดอะไรนะยังเด็กอยู่ด้วยมั้ง
ถามว่ารักไหมตอนนั้นก็ตอบได้เลยว่ารัก แต่ถึงขนาดจะให้ผมไปเคลียร์กับผู้ใหญ่แบบนั้นผมว่ามันยังไม่ใช่และยังไม่ถึงวัยที่ผมจะทำได้
ผมเคยบอกเธอนะว่าให้อดทนสักหน่อยรอผมเรียนจบก่อน แต่เธอไม่ฟัง
นานะเป็นคนที่ค่อนข้างเอาแต่ใจซึ่งผมเองก็ตามใจเธอได้บ้างในบางเรื่อง
เราทะเลาะกันรุนแรงจนเธอเริ่มประชด
มีข่าวว่าเธอควงคนนั้นคนนี้เปลี่ยนหน้าไปเรื่อย เพื่อน ๆ ผมที่เห็นต่างก็เข้ามาบอก
ผมเลยนัดเธอเพื่อเคลียร์ทุกอย่างในที่สุดเราจบกัน
ไม่นานหลังจากนั้นผมเคยเห็นเธอเป็นตุ๊กตาหน้ารถของไอ้ซ่าร์อยู่พักนึง แต่แล้ววันหนึ่งเธอเดินกลับเข้ามาหาผม ทว่าเรื่องราวไม่ลงตัวเพราะเธอยืนยันว่าจะแต่งงานกับผมให้ได้และขอให้ผมไปเคลียร์กับคุณย่า
ผมรู้สึกว่าคือมันไม่ใช่อ่ะ ผมยังเรียนอยู่ เธอเองก็เรียนอยู่เหมือนกัน
ทำไมต้องรีบร้อน พอผมปฏิเสธไปสองสัปดาห์ต่อมาเธอก็หายไปเลย มีข่าวว่าเธอไปเรียนที่บอสตัน
ผมตามไอจีเธอด้วยนะก็เห็นว่าเธออยู่ที่นั่นจริง มีรูปมีอะไรในที่สุดเราห่างกันเธอเปลี่ยนเบอร์เปลี่ยนไอจีซ่อนตัวตนทุกอย่าง
ผมเองก็มีคนนั้นคนนี้เข้ามา สามปีกว่ามานี่จะว่าผมลืมเธอไปจนหมดแล้วก็น่าจะได้ ที่เหลืออยู่คงเป็นแค่ความทรงจำดี ๆ
ที่เคยเกิดขึ้น อย่างน้อยเธอคือรักแรกของผมตั้งแต่สมัยมัธยมโน่นแน่ะ
“ลูกมึงแน่ใช่ไหมซ่าร์”
คือผมไม่ได้ใจร้ายนะ แต่คำถามนี้ค่อนข้างจำเป็นผมรู้จักเธอดีกว่าใคร
แล้วผมก็รู้เหตุผลในตอนนี้เลยว่าทำไมตอนนั้นเธอถึงได้อยากแต่งงานกับผมนัก แต่ผมไม่รู้ข้อนึงคือทำไมเธอไม่บอกซีซ่าร์ไปว่าท้องกับมันจะรอมาบอกอะไรเอาป่านนี้
จนลูกโต
“กูเห็นเขาแล้ว
เด็กชื่ออันวา นานะให้กูคอลวีดีโอคุยกับน้อง ถึงยังไม่แน่ใจกูก็ว่าน่าจะใช่
หน้าตาคือเหมือนเราทั้งคู่เลยเหี้ย!”
“ใจเย็นซ่าร์”
“ไอ้เอย์แม่งกูอึดอัด
กูอยากจะร้องไห้นี่กูมีลูกแล้วจริง ๆ เหรอวะ แล้วมันคืออะไรลูกกูกับผู้หญิงคนนั้น มึงก็รู้ใช่ไหมนานะกับกูก็แค่วินๆเรา คือเรา....เหี้ยกูพูดไม่ออก”
“ซ่าร์”
ผมเรียกมันเตือนสติ คือน้ำเสียงมันไปแล้ว
“มึงก็ระวังไว้ให้ดีล่ะ
หึหึ”
“มึงเหอะ
ทำอะไรไม่ป้องกัน กูนี่ไม่เคยพลาดเว้ย เป็นไงล่ะทีนี้ เป็นเรื่องใหญ่แน่”
“เลิกแดกดันแล้วช่วยกูคิด”
“แล้วทำไมนาเขาถึงมาบอกมึงเอาป่านนี้”
จุดนี้แหละที่ผมสงสัย
“อันนี้กูไม่รู้แต่เธอบอกไว้พร้อมจะพาลูกมาพิสูจน์หรือจะให้กูบินไปที่โน่นก็ได้
ขอแค่ให้กูยอมรับว่าเป็นพ่อของเด็ก เธอเปิดโปงเรื่องกูกับนักข่าวแน่”
“ต้องการเงิน?”
“ถามแล้วเธอบอกว่าไม่
แค่อยากให้กูประกาศกับสื่อมวลชนเรื่องเธอกับลูกแค่นั้น เอย์แม่งกูโคตรของความกลุ้ม”
ซีซ่าร์ท่าทางเป็นกังวลมากผมจึงปลอบใจมันไปว่าให้ใจเย็น
ๆ ค่อย ๆ คิดทุกอย่างต้องมีทางออก พร้อมขอเบอร์โทรศัพท์เธอบอกมันว่าผมจะช่วยเคลียร์ให้อีกแรง
กะจะถามเธอดี ๆ ว่าเธอต้องการอะไร
แล้วผมก็กดโทรหาเธอในคืนนั้นเลย
Rrrrrrrrrrr
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrr
รอสายนานไปหน่อย
แต่ในที่สุดเธอก็กดรับ เสียงเธอยังคงน่ารักและใสเหมือนเดิม
“เอย์ตั้นครับ”
ผมบอกไป
“...............”
เธอเงียบ ผมจึงเรียกเธออีกครั้ง คราวนี้เป็นเสียงสะอื้นเบา ๆ
“เอย์
ฮึกก...” คือเธอร้องไห้??
“นาครับ ผมรู้เรื่องทั้งหมดจากไอ้ซ่าร์แล้วนะ
ผมอยากคุยกับนาเรื่องนี้ ขอเวลาผมสักครู่ได้ไหม” ผมมองนาฬิกาที่หัวเตียงตีสามครึ่งแล้ว
ทางนั้นก็น่าจะประมาณบ่ายสองบ่ายสามแล้วล่ะ ไม่รบกวนเธอมากมายหรอกมั้ง
“ไม่ต้องใช้คำว่าสักครู่หรอกค่ะเอย์
สำหรับเอย์แล้วนาคุยได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนนาก็จะคุย ขอแค่..ฮึกก....แค่เป็นเอย์..”
เสียงเธอยังขาดๆหาย ๆ และปนสะอึกสะอื้นอยู่ คือผมก็ยังงงว่าเธอจะร้องไห้ทำไม
“นาอย่าร้องไห้นะครับ
เป็นอะไรเอย์โทรมาหานาไม่ชอบเหรอ หรือว่าไม่อยากจะคุยเรื่อง เอ่อ ลูก
ที่นาบอกว่าซ่าร์มันเป็นพ่อ”
“นาขอโทษค่ะเอย์
สิ่งที่นาอยากบอกมาตลอดและนากลัวมาตลอดคือเรื่องนี้ เกือบสี่ปีที่ผ่านมานาไม่เคยมีความสุขเลย
นารู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา นาทรยศความรักของเราไปมีอะไรกับพี่ชายของเอย์
คือนาไม่ได้ตั้งใจตอนนั้นนายังเด็กมาก นาคิดมาตลอด นาไม่อยากให้เอย์รู้นากลัวเอย์เกลียด
นาปรึกษาคุณแม่แล้วตัดสินใจหลบมาอยู่ที่นี่
ตอนแรกนากะว่าจะเลี้ยงดูลูกเอง จะไม่ให้เรื่องนี้รู้ไปถึงเอย์เด็ดขาด
นากลัวเอย์รับไม่ได้ที่นาทำแบบนี้ แต่ว่าตอนนี้อันวาโตขึ้นมาก ยิ่งโตก็ยิ่งเหมือนเอย์
นายังคิดเลยว่าทำไมเขาถึงไม่เกิดมาเป็นลูกของเอย์ ครอบครัวของเราคงจะสมบูรณ์แบบมากๆเลย”
“นาครับ ทำไมถึงพูดแบบนั้น”
คือผมกับเธอหยุดความสัมพันธ์ทางกายกันไว้ตั้งแต่เราเลิกกันครั้งแรก
ผมไม่ยอมมีอะไรกับเธออีกเพราะข่าวเรื่องเธอทำประชดผมไปควงคนนั้นคนนี้
ดีนะที่ตอนนั้นใจแข็งไม่งั้นตอนนี้ผมได้กลายเป็นคุณพ่อของลูกไอ้ซ่าร์มันแน่แล้ว
“ก็เพราะนาคุยกับพี่ซ่าร์แล้วพี่เขาไม่ยอมรับอันวา
พี่ซ่าร์บอกต้องขอพิสูจน์ดีเอ็นเอ ซึ่งนาก็พร้อมค่ะ นามั่นใจอันวาลูกพี่ซ่าร์แน่
ตอนนั้นนาไม่ได้ยุ่งกับใครเลยนอกจากพี่ซ่าร์คนเดียว แต่มาพูดกับนาแบบนั้นนาโมโหมาก
นาจะเปิดโปงเรื่องของเราให้สื่อมวลชนที่ไทยรู้ทุกอย่างเลย พี่ซ่าร์ดังขนาดนั้นเขาต้องยอมรับอันวากับนา
และต้องเซ็นชื่อรับรองอันวาเป็นลูกให้ถูกต้องด้วย”
“นาใจเย็น ๆ
นะครับ ค่อยคุยกันนะ”
“เอย์น่ารักไม่เหมือนพี่ซ่าร์
พี่ซ่าร์ไม่เคยรักนา นาก็ไม่ได้รักเขาเราสองคนแค่พลั้งเผลอ คนที่นารักคือเอย์ตั้นนะคะ”
“ไม่พูดแบบนี้อีกนะ
ไหนผมขอคุยกับน้องเอ่อ อันวาใช่ไหม
ให้ผมเห็นอันวาหน่อยได้ไหมครับ” จริง ๆ คือผมอยากเห็นหน้าเด็ก
จากนั้นเราสองคนก็เปลี่ยนมาแทงโก้กัน
อันวากำลังน่ารักมาก หน้าตาทรงผมปากคิ้วจมูกรูปหน้าเหมือนผมมากเลยจริง ๆ หึหึหึ
ผมนี่ใจหายวาบเลยนะถ้าตอนนั้นยังยุ่งกับนานะอยู่ล่ะก็ เด็กคนนี้เธอจะพูดว่าเป็นลูกผมไม่ผิดแน่
ผมบอกเธอไปว่าอยากให้เห็นใจ
ส่วนไอ้ซ่าร์มันเองก็คงตกใจยิ่งกำลังโด่งดัง เป็นไอดอลตัวอย่าง ได้รับสารพัดรางวัล
ผมขอร้องให้นาช่วยเห็นใจมัน
“นาไม่รู้
แต่นาแค่อยากให้อันวาได้มีคุณพ่อเหมือนคนอื่นเขา
อย่างน้อยให้มีคนที่อันวาได้เรียกว่าแด๊ดอย่างเต็มปาก”
“...............”
ผมพูดไม่ออกเลย คือไอ้ซ่าร์มันไม่ยอมอยู่แล้ว
ไอ้นี่ถ้าไม่คือไม่ แล้วยิ่งมันไม่ได้รักนานะด้วยยิ่งแล้วใหญ่
ผมรู้นะว่าความหมายตอนที่มันคุยกับผมนี่คือเอาแต่ลูกได้ไหมคือรับผิดชอบส่งเสียเลี้ยงดูแต่ลูก
แต่ไม่เอาแม่ คือมันไม่ชอบเธอถึงขนาดจะมาอยู่กินใช้ชีวิตด้วยกัน ผมเองก็ไม่รู้จะพูดยังไง
“ถ้าเอย์อนุญาตให้อันวาเรียกเอย์ว่าแด๊ดได้
นาก็จะถอยลงมาให้พี่ซ่าร์เขาก็ได้ค่ะ”
อ่าา....เธอพูดมาแบบนี้แหละครับ
ผมคิดนานจนเธอเรียกอีกรอบเลยนะ มันจะเสียหายไหมวะ เด็กน่ารักเผลอๆจะเป็นหลานจริง ๆ
ของผมด้วยให้เรียกแด๊ดคงไม่มีปัญหาหรอกมั้ง
“แบบนั้นก็ได้ครับ
แต่ให้เรียกเป็นแด๊ดดี้เอย์ตั้นนะ” ผมเผื่อๆไว้
ไม่แน่ต่อไปไอ้ซ่าร์เกิดอยากได้คำว่าแด๊ดจากลูกมันจริง ๆ
ขึ้นมาเด็กจะได้เรียกมันเป็นแด๊ดดี้ได้
นานะส่งเสียงดีใจใหญ่
พาอันวามาคุยกับผมอีกครั้ง จากนั้นมาเธอก็จะโทรหาผมช่วงตีสามตีสี่เกือบทุกวัน
เพราะอันวาเริ่มติดผม เธอจะให้อันวาคุยเล่นอยู่กับผม
ผมก็เออเด็กจะได้มีความอบอุ่นบ้างไรบ้าง ก็ยอมๆไป
ส่วนซีซ่าร์
ถัดจากนั้นหนึ่งสัปดาห์มันเดินทางไปหานานะกับอันวาถึงบอสตัน เพื่อตกลงเรื่องราวของครอบครัวมัน
ซีซ่าร์ให้ตรวจดีเอ็นเอที่นั่นเลย ซึ่งผลออกมาคือเด็กเป็นลูกมันจริง ๆ
บทสรุปที่ได้คือมันจ่ายค่าชดเชยให้เธอสิบล้านและตกลงว่าจะจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ทุกเดือนตลอดจนน้องเรียนจบแต่ซ่าร์มันไม่เอาตัวเธอนะมันยอมรับเฉพาะเด็กเท่านั้น
ซึ่งนานะเองก็ดูพอใจ แต่เธอมีข้อเสนออีกอย่างซึ่งเกี่ยวกับผมโดยตรงเลยก็คือ
เธอขอให้ผมกับเธอกลับมาคบหากันเหมือนเดิม ไม่ใช่ในฐานะแฟนแต่เป็นในฐานะเพื่อน
พอไอ้ซ่าร์ได้ยินเท่านั้นแหละมันปรี๊ดเลย คือรู้จุดระสงค์ของเธอเลย
ผมเองก็ไม่ได้โง่หรอก ซ่าร์โทรบอกผมทันที
แต่ผมโอเคกลับไปเพราะคิดว่าแค่คำว่าเพื่อนผมไม่มีปัญหา แต่ถ้ากหามากกว่านั้นคือผมให้ไม่ได้
ผมขอคุยกับนานะ
ซ่าร์มันเลยให้เธอเข้ามาคุยกับผมในสาย
“ข้อเสนอของนาผมตกลงนะ
ไม่มีปัญหาที่เราจะกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง แต่มีเรื่องนึงที่นาจำเป็นต้องรู้
ตอนนี้ผมมีคนที่ผมรักและคบหาด้วยอยู่แล้ว ถ้านาจะมีจุดประสงค์อย่างอื่นอะไรผมขอให้นาเลิกล้มไปซะ
ผมจะเป็นคุณอาที่ดีให้กับอันวาถึงแม้อันวาจะเรียกผมว่าแด๊ดผมก็ไม่มีปัญหาเลย
อยากให้อันวาคุยกับผมเมื่อไหร่นาโทรมาได้ตลอด หลานผมทั้งคนผมคุยได้ครับ”
หลังจากนั้นซีซ่าร์ก็กลับจากบอสตันมันตรงมาหาผมทันที
ท่าทางสบายใจขึ้นมาก ผมเลยถามมันไปเรื่องน้องอันวา ทำไมไม่ยอมรับเปิดเผยไปเลยน้องน่ารักขนาดนั้นจะไปแคร์ทำไมกับสื่อควรจะดีใจที่มีลูกเป็นของตัวเอง
แต่มันบอกขอเวลามันอีกนิด ซ่าร์มันรู้อันวาเรียกผมว่าแด๊ดดี้เอย์ตั้น
มันเลยให้อันวาเรียกมันว่าแด๊ดดี้ซีซ่าร์ ผมเลยถามต่อ
ทำไมไม่จบลงที่นานะล่ะ ก็เห็นเมื่อก่อนชมตลอดว่าสวยน่ารักคือมันปลื้มเขาแหละเอาง่าย
ๆ ไอ้ซ่าร์มันบ้าพอตัวอยู่เหมือนกัน
แฟนผมทุกคนถ้าเลิกกับผมเมื่อไหร่มันตามเก็บเรียบหมด ตั้งแต่นานะยาวมาเรื่อย
“เอาเรื่องจริง
ๆ เลยไหม” มันถาม
“คือ?”
“กูว่านานะเขายังรักมึงอยู่มากว่ะเอย์
อันวาน่ะกูว่าเขาอยากจะให้มึงรับเป็นคุณพ่อตัวจริงเลยด้วยซ้ำ”
ผมได้แต่หัวเราะหึหึให้มัน
คือเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้ผมเองก็ไม่ได้อยากจะพูดคุยอะไรต่อให้มากความหรอกครับ
ตอนนี้ผมไม่ได้โสตไม่ได้ว่าง
หมาตัวดื้อที่ยึดครองหัวใจของผมไว้คุณคิดว่าคนอย่างมันจะยอมเสียผมให้ใครไปง่าย ๆ
เหรอ หมาปิง ผมชอบนะอยากเห็นมันหึงอยู่เหมือนกัน
ถ้ามันรู้เรื่องผมกับนานะรวมทั้งอันวาและไอ้ซ่าร์ไม่รู้จะงอนหน้าเขียวหน้าเหลืองขนาดไหน
คงจะผิดหวังที่ไอดอลคนโปรดของมันทำเรื่องแบบนี้ และคงจะไม่ชอบใจแน่ ๆ
ที่ผมให้แฟนเก่าเอาลูกของพี่ชายมาเรียกตัวเองว่าแด๊ด เพราะอย่างนั้นผมเลยไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ปิงฟังเลย
ผมว่าแค่ผมกับมัน เราสองคนแค่นี้ก็สุขใจแล้ว เรื่องปวดหัวของคนอื่นไม่สำคัญอะไรหรอก
.
.
.
“เอาจริงเหรอมึง”
ผมถามมัน
“จริงสิครับ
ป่ะ ผมพร้อมแล้ว” ปิงพูดพร้อมกับถอดแว่นของผมวางลงไว้ที่โต๊ะ
คือวันนี้ปิงมันแปลกมากผมเองไม่ได้เอะใจจนกระทั่งเราทานอาหารกันเสร็จผมเอาชีตเอาสูตรมานั่งท่องจู่
ๆ มันมานั่งเบียดๆกระแซะๆเข้าหาตลอดเออผมก็อยากเป็นนะไม่ใช่หินใช่ปูน
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นมันคว้าหมับมือผมเข้าไปจับลงที่ก้นตัวเอง หืมม ผมยิ้มรับในใจเลยสิครับ
คึคึ ใครจะคิดว่ามันจะเป็นฝ่ายชวนผมเองแบบนี้
“มึงแน่ใจแล้วนะปิง เร็วไปไหมกูรอได้นะ” ผมก็ถามย้ำถามซ้ำแล้วนะในเมื่อมันโอเคตอบว่าแน่ใจ แถมยิ้มปริ่มหน้าบานผมก็เริ่มเลยสิครับเปลี่ยนเป็นผ้าเช็ดตัวมานั่งรอมันที่เตียง
ปิงเป็นคนที่เตรียมพร้อมดีมากผมตกใจนิดนึงเลยนะตอนที่เห็นมันเตรียมตัวขนาดซื้อเจลหล่อลื่นกับถุงยางอนามัยแม้แต่แมสสาจออยมันก็ยังซื้อติดมาด้วย
“เริ่มเลยไหม” ผมดึงมันเข้ามากอด
รู้สึกแปลกไปนิดหน่อยตอนที่โดนมันขอเปลี่ยนท่าทางแล้วในที่สุดมันก็ผลักผมลง
ปิงซุกริมฝีปากลงที่ซอกคอผมทันทีในขณะที่ผมจับมันขึ้นมาจูบบิวท์อารมณ์กันก่อน
ในเมื่อมันอยากเป็นฝ่ายคุมเกมส์อยู่ด้านบนผมก็ปล่อยให้มันทำ
ปิงจูบเก่งนะคิดแล้วก็โมโหเหมือนกันไม่รู้ว่ามันไปฝึกกับใครหน้าไหนมาบ้างผมคิดแล้วเริ่มหงุดหงิดเลยจับมันพลิกลงด้านล่าง
แล้วผมก็เริ่มบรรเลงเพลงเล้าโลมใส่มันจนเคลิ้ม
เมื่อเห็นว่าได้ที่แล้วผมก็เลย...
“แว๊กกกกกกกก
พี่มาแหย่ก้นผมทำไมอ่ะ!”
มันโวยวายดังลั่นถดตัวถอยจนหัวไปชนกับหัวเตียงดังมากผมตกใจคิดว่าหัวมันจะแตกแล้วซะอีก
ปิงหน้าเสียไปนิดนึง แล้วตอนนั้นผมก็รู้ได้ทันที ที่แท้มันตระเตรียมมาทุกอย่างวันนี้ก็เพื่อจะกดผม
เด็กเอ้ยเด็กน้อย
ถามออกมาได้
“พี่เอย์
พี่เป็นรุกเหรอพี่”
อย่างผมนี่เหรอจะรับ
มันถามไม่ดูรูปร่างหน้าตาตัวเองวะ
สุดท้ายแล้ววันนั้นมันขอเวลาผมสามเดือน
ตอนแรกผมก็ไม่ยอมหรอกคือผมเองก็พีคขึ้นจนสุดแล้วได้แต่บอกให้มันอดทนเอา
แต่ปิงดูไม่พร้อมมากๆอาจเพราะมันไม่เคยรับให้ใคร ผมก็เข้าใจมันนะ คือเวลามีเซ็กส์เราต้องมีอารมณ์ร่วมกันใช่ไหม
ถ้ามัวแต่มากังวลผมว่ามันไม่ใช่เซ็กส์ที่ดีอ่ะ คือเชื่อใจแล้วปล่อยให้ผมทำเลย ผมอยากให้ปล่อยอารมณ์ออกมาให้เต็มที่เราสองคนจะมีความสุขไปด้วยกัน
ผมก้มลงดูดที่คอมันอีกครั้งปิงขยับเพื่อให้ผมจูบลงได้สะดวกมีเสียงครางเบา ๆ
ลอดออกมาผมไม่รู้มันกำลังมีอารมณ์ร่วมหรือยังไง
ผมไซร้เอาจนมันร้อนผ่าวและแดงระเรื่อไปทั่วทั้งตัว
คิดว่าวันนี้จะไม่พลาดแน่แล้วจู่ ๆ
สิ่งที่ผมไม่คาดว่าจะได้ยินได้ฟังในสถานการณ์แบบนี้ก็บังเกิดขึ้น
“พี่เอย์ครับ
ผมปวดขี้”
ทุกสิ่งทุกอย่างของผมคือเหมือนผมถูกถีบลงมากจากยอดตึกนั่นแหละ
มันพูดมาแบบนี้ ณ ตอนนี้คือมันใช่เหรอ?? ผมลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าไปจัดการตัวเองต่อในห้องน้ำ
พออะไรๆ เย็นลงแล้วก็แอบขำมันเหมือนกันนะ ถ้าผมคิดไม่ผิดนะหมาปิงมันเจ้าแผนการกับผมแน่นอน
ผมส่ายหัวและอมยิ้มอย่างตลกเจ้าเด็กบ๊องชอบทำอะไรเหนือคาดหมายอยู่ตลอด
เอาวะแค่สามเดือนไม่ได้นานเนิ่นอะไรมากมายหรอก ไหน ๆ
ผมกับมันก็คบกันอยู่แล้วจะรอให้มันพร้อมอีกนิดคงไม่เป็นไร
พอผมเดินออกมาจากห้องเห็นมันทำท่าทางประหลาดๆอยู่ใกล้
ๆ มือถือผม
ผมเลยลากคอมันเข้ามาเหวี่ยงลงที่โซฟาคือก็แค่แกล้งโกรธมันนั่นแหละมันเองก็รู้ตัวนะ
โถ่ก็ผู้ชายเหมือนกันมาโดนเบรกอารมณ์กันแบบนี้กว่าจะเอาลงได้ใช่ไหม คุณก็คิดดูเหอะ
RRRRRRR
RRRRRRRRRRRRRR
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
ผมนึกขึ้นได้กลัวว่าจะเป็นสายจากนานะ เพราะปิงที่ยืนอยู่ใกล้มากๆเดินเข้าไปชะโงกหน้าดูแล้วมันขมวดคิ้วนิด
ๆ ผมรีบลุกขึ้นไปคว้าเอามือถือออกมาคือผมรีบมากจนมือไปปัดเอามือปิง
มันมองผมด้วยแววตาที่เหมือนไม่เข้าใจแต่ผมเองก็ยังไม่สามารถพูดอะไรที่ชัดเจนในตอนนี้ได้
ผมเลี่ยงเข้าไปรับโทรศัพท์ในห้อง
นานะโทรมาคุยเรื่องที่เธอกำลังจะกลับมาเมืองไทย
คือเมื่อคืนเราคุยกันค้างไว้และไอ้ซ่าร์มันค่อนข้างกังวลผมต่อรองกับเธอ นาไม่ยอมคุยกับซ่าร์แต่เธอเลือกที่จะคุยผ่านผมทุกครั้งจนซ่าร์เองก็ยังงง
เธอรับปากว่าจะไม่แฉซีซ่าร์กับสื่อ ผมเลยบอกซ่าร์ว่าไม่น่ามีปัญหาอีกทั้งเด็กก็หน้าตาเหมือนผมมากกว่ามัน
คงไม่มีปัญหาใหญ่โตอะไร แต่ติดอยู่ที่ว่าเธอจะให้ผมคอยเทคแคร์เธอและอันวาตลอดหนึ่งเดือนที่เธอจะอยู่ที่นี่
คือผมก็สงสารเด็กนะ
เธอคุยกับผมทีไรก็เอาน้องอันวามาเป็นตัวล่อทุกทีซึ่งผมก็รู้แต่ก็ต้องคุยเพราะอันวาหลานผมน่ารักมากคุยเก่งยิ้มเก่งที่สำคัญหน้าตาคือเหมือนผมมากจริง
ๆ
วันนั้นปิงกลับไปทั้งที่ผมเองก็รู้สึกว่ามันสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
เซ้นต์ผมมีนิดๆเหมือนกันว่ามันอาจจะคิดเรื่องของนานะแต่ปิงไม่เคยรู้ว่านานะเป็นผู้หญิงคนแรกของผม
น่าจะคิดแค่ว่าผมคุยกับผู้หญิงบางคนอยู่ ผมลูบหัวมันตอนเดินลงไปส่งที่รถ
นี่คือคำปลอบใจที่ดีที่สุดของผมแล้ว
ตอนนี้คือทุกอย่างยังไม่ชัดเจนผมกะไว้ว่าผมจะบอกเรื่องนานะและอันวาในวันที่เธอกลับมาที่เมืองไทย
ปิงจะได้เห็นเด็กคนนั้นหลานของผมและที่สำคัญน่าจะต้องให้ไอ้ซ่าร์อยู่ด้วย
ทั้งที่..
“เรื่องนี้จะต้องเป็นความลับ
มึงรู้ใช่ไหมว่าจะให้คุณพ่อคุณแม่หรือคุณย่ารู้ไม่ได้ กูไม่ได้รักนานะ
ไม่อยากถูกจับแต่งงานนะบอกไว้ก่อน”
“มึงจะให้กูปิดเรื่องให้มึง”
“ใช่
กูกับนานะตกลงกันแล้ว ถ้ากูยอมจ่ายและส่งเสียอันวาตลอดเธอก็ไม่มีปัญหาอะไร”
“คือกูจะบอกใครไม่ได้เลย”
“ขอร้องมึงสักเรื่องนะเอย์
ถือว่ากูขอร้อง รู้น้อยเท่าไหร่ยิ่งดี
คือตอนนี้ก็มีแค่นานะมึงกูแล้วก็คุณแม่ของเธอแค่นั้น”
.
.
“แล้วถ้าวันนึงเกิดพี่เขาเลิกเป็นทอมขึ้นมา
พี่เอย์จะแต่งงานกับเธอไหมครับ”
“ก็ถ้าตอนนั้นเราสองคนยังคบกันอยู่
กูก็ไม่คิดจะแต่งงานกับใคร”
นั่นคือคำถามที่มันถามผมหลังจากที่เราดูดนตรีกับจบ
เราทั้งหมด ผม ปิง และเพื่อน ๆ ของมันเดินมาส่งเดียร์กับไอ้ซ่าร์ขึ้นรถกลับและปิงมันถามผมขึ้นมา
คำตอบที่ผมตอบไปคือออกมาจากใจของผมเลยจริงนะ ผมไม่รู้สึกอยากจะแต่งงานหรืออะไรเลย
ยิ่งผมได้รู้จักตัวตนของมันผมยิ่งรู้สึกว่ามันใช่สำหรับผมมากขึ้นทุกวัน
ปิงเป็นเด็กดี เป็นตัวของตัวเอง
ปิงไม่เคยเปลี่ยนแปลงตัวเองอะไรเลยทั้งที่มันคบกับคนแบบผมแล้ว
ถ้าเป็นคนอื่นคงจะทำตัวหรูหราเท้าไม่ติดดินขึ้นมาแล้วแต่กับปิงไม่ใช่
มันต่างหากที่พยายามพาผมเดินลงไปหามัน
พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ผมกลายเป็นแค่คนธรรมดา
เมื่อก่อนผมเป็นคนที่ใช้เงินเก่งมากมือเติบฟู่ฟ่าใช้ชีวิตแบบคุณชาย แต่เดี๋ยวนี้แม้แต่อาหารเวลาเราไปซื้อของมันยังใช้คูปองส่วนลดไม่ก็ไปดูของที่เขามีโปรโมชั่นพิเศษทั้งที่ผมบอกว่าให้ซื้อไปเลยอย่าไปสนใจเรื่องราคาแต่ปิงบอกว่ามันจะเลือกสิ่งที่ดีกับราคาต่ำๆมาทำให้ผมแทน
วันนั้นถือว่าเซอร์ไพร้ซ์มากอยู่เหมือนกันถึงไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมนั่งมอไซด์แต่ไม่เคยคิดเลยว่าครั้งหนึ่งในชีวิตจะได้เป็นคนนั่งซ้อนท้ายแฟนตัวเองแบบนี้
แน่นอนผมไม่ใช่ผู้หญิงและความรู้สึกของผมคือผมต่างหากที่ควรจะเป็นคนขับให้มันนั่ง
แต่ปิงมันชอบทำให้ผมรู้สึกว่าผมเป็นผู้หญิงของมัน เป็นคนที่มันคอยเทคแคร์
มันดูแลผม จีบผมทำทุกอย่างที่ทำให้ผมได้อาย
ซึ่งนั่นคือผมชอบนะ...
"ข้าแต่งกับเอ็ง เอ็งเป็นของข้า
ใครเรียกภรรยา แต่ข้าเรียกเมีย.....”
ผมผลักมันกระเด็นแทบจะตกสะพาน
ช่างหัวมันดิ ก็มันอยากมาจีบผมไม่เข้าเรื่องทำไมผมก็อายเป็นเหอะ
ผมไม่ใช่คนหน้าด้านหน้าทนแบบมันสักหน่อย
“พี่เอย์ครับ พี่รักผมใช่ไหม”
ในที่สุดมันก็ถามคำถามนี้ออกมาจริง
ๆ ปิงเป็นเด็กที่อยากรู้ก็จะถามเลย มันไม่เคยกั๊ก ตอนนี้ก็จ้องหน้าผมอยู่คงจะรอคำตอบจากผม
จริง ๆ ก็อยากตอบไปเลยเหมือนกันนะแต่ผมเป็นเป็นคนแปลก นิสัยไม่ดีอยู่อย่างคือ
ถ้าผมจะพูดคือผมจะพูดเอง
ผมจะไม่ให้ใครมาบังคับหรือถามแล้วชี้นำให้ผมตอบในลักษณะนั้นนี้
ผมคิดว่าปิงมันรู้อยู่แล้วว่าผมคิดยังไงด้วยการกระทำที่ผ่านมาของผมๆมั่นใจว่าผมสื่อถึงมันว่าผมคิดยังไงกับมันแล้วแน่นอน
แต่ตอนนี้คือมันต้องการแค่คำยืนยัน
“คำพูดกับการกระทำ
มึงว่าอันไหนสำคัญกว่ากัน” ผมถามมัน
“...การกระทำครับ”
ปิงตอบออกมา ทำหน้าตาเหมือนคนยอมจำนนในคำตอบ ผมนิ่งไปรอให้มันคิด
คือผมเป็นคนแบบนี้ ผมจะรอจนมันคิดและยอมรับได้เอง
การกระทำของผมชัดเจนมากเพียงพอที่มันจะมั่นใจผมได้แล้ว ถ้าหากว่ายอมรับความเป็นตัวผมได้เราสองคนจะเดินไปด้วยกันได้ไกลมาก
ๆ
เผลอๆบางที อาจจะตลอดไปเลยด้วยซ้ำ
ในที่สุดปิงเริ่มยิ้มนิดๆผมรู้มันยอมรับตัวตนของผมได้แล้ว
เช่นกันที่ผมเองก็ยอมรับตัวตนของมันได้
มันจะบ้าจะเฮ้วจะดื้อจะมึนตรงและเกรียนแค่ไหน ผมคนนี้รับได้หมดแล้ว ถ้ามันยอมรับความเป็นตัวผมตรงนี้ได้คือเราสองคนเคมีเข้ากันแล้วนะผมว่า
ผมเลยกะว่าไว้วันพิเศษความหมายดี ๆ เวลาพิเศษจริง ๆ ของสองเราผมจะพูดคำนั้นที่มันอยากฟัง
แต่คงต้องในสไตล์ผมนะ เพราะผมไม่ค่อยเหมือนใคร คำว่าผมรักคุณเรียบๆแบบนั้นไม่มีทางออกจากปากผมหรอก
มันต้องมีสไตล์และโรแมนติกมากไปกว่านั้น
แต่จู่ ๆ
เรื่องที่ไม่คาดว่ามันจะถาม มันก็ดันคิดถามขึ้นมาได้
“พี่ไม่เคยบอกรักใครเลยเหรอ
สักครั้งก็ไม่เคยจริงอ่ะ”
ผมหน้าชาไปนิดพอได้ยินคำนั้นจากปากมัน
ผมไม่อยากโกหก และนี่น่าจะเป็นอีกเรื่องเหมือนกันที่ปิงควรจะรู้
“มีแค่คนเดียว
เขาเป็นผู้หญิงคนแรกของกู”
แค่นั้นแหละครับ
ผมเหมือนรู้สึกว่าตัวเองทำผิดแบบฉิบหายเลย ปิงไม่พูดกับผมจนเรากลับถึงห้อง
มันทำท่าทีเย็นชาราวกับว่าผมเป็นอากาศธาตุไม่มีตัวตน คือมากจนผมกลัว
ระยะทางไม่ใช่ใกล้ ๆ จากสะพานพุทธถึงแถวๆคอนโดผมแต่ปิงไม่พูดอะไรกับผมสักคำ
จนมันเอ่ยคำลาออกมาตอนที่ส่งผมที่หน้าห้อง
ผมจึงดึงมันเข้ามาจูบ ยอมรับว่าดูดปากมันแรงมากจริง ๆ ความรู้สึกตอนนั้นคือผมกลัว กลัวว่าจะเสียมันไป
ปิงไม่เคยเป็นแบบนี้ มันไม่เคยนิ่งและเงียบมากขนาดนี้มาก่อน ท่าทีเย็นชาของมันทำเอาผมปวดหนึบไปทั้งใจ
“กูคิดว่าสำหรับมึง
มันคงเกินคำว่ารักไปแล้ว กูเลยไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาพูดกับมึงดี”
นี่คือคำง้อที่ผมคิดว่าดีที่สุดแล้ว
ผมรักมันนะ ผมสัญญาวันนึงจะบอกคำว่ารักกับมันแน่ คงจะเป็นเร็ว ๆ
นี้ผมจะหาโอกาสและช่วงเวลาดี ๆ ของพวกเรา
ผมเคยคิดว่าน่าจะเป็นเมคเลิฟครั้งแรกหรือถ้ามันไม่ยอมให้ผมทำก็อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราสัมผัสกันอย่างอ่อนโยน
โอกาสและช่วงเวลาที่พิเศษแบบนั้นถ้าผมเอ่ยคำว่ารักออกไปความทรงจำช่วงนั้นของเราจะเป็นอะไรที่พิเศษมากๆเลย
ในที่สุดมันก็ยิ้มแล้ว
รอยยิ้มของปิงน่ารักมาก ผมไม่รู้ตัวเองชอบได้ยินเสียงมันพูดเจื้อยแจ้วหรือหัวเราะร่าตั้งแต่เมื่อไหร่
ผมไม่เคยเบื่อ
“หมาปิง มาอยู่ด้วยกันเลยดีไหม”
ผมรู้คำพูดของผมอาจทำให้มันตกใจมาก
แต่ผมรู้สึกแล้วจริง ๆ ว่าเวลาที่เราสองคนใช้ร่วมกันทำไมมันถึงน้อยนัก
มันยังไม่พอผมต้องการใช้เวลาร่วมกับมันอีก
อยากพูดคุยอยากแชร์ทุกสิ่งทุกอย่างร่วมกัน ไม่ใช่แค่เรื่องแบบนั้นนะคุณอย่าเข้าใจผิด
เรื่องนั้นแน่นอนผมก็อยาก แต่ผมอยากให้ปิงเข้ามาเป็นส่วนนึงในชีวิตของผมมากกว่านี้
ผมคงเห็นแก่ตัวมากใช่ไหม
เขาว่ากันว่าถ้าเรามีความรักเราจะเริ่มรู้สึกว่าเราอยากจะครอบครองและเป็นเจ้าของคน
ๆ นั้นตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกแบบนี้กับมันมากขึ้นแล้ว
“อะไรกันยังไม่ไปสู่ขอกับแม่ผมเลย
จะชวนมาอยู่ด้วยแบบนี้ พี่เอย์แย่จริง ๆ นะครับ
เกิดผมท้องก่อนแต่งขึ้นมาเดี๋ยวคุณนายกับพี่ขมได้โวยวายลั่นบ้านแน่”
หึหึ
ช่วยไม่ได้มันอยากเปิดช่องทางให้ผมเอง
ไม่กี่วันหลังจากนั้นปิงโทรบอกผมว่าพี่ขมไม่สบายมันจำเป็นต้องอยู่ช่วยที่บ้าน
และคงไม่ได้มาหาผมที่ห้อง แล้วผมคนนี้จะอดทนได้นานแค่ไหนครับ
ในที่สุดผมขับรถไปจอดไว้ไม่ไกลจากร้านมันนัก
เห็นคุณแม่ของปิงขายของต้อนรับลูกค้าและเจ้าเด็กบ๊องของผมก็วิ่งหน้าวิ่งหลังช่วยงานเธออยู่ในนั้น
ปิงเป็นเด็กดีจริง ๆ ยิ้มให้ลูกค้าช่วยคุณแม่แบบไม่มีเหน็ดเหนื่อย
ทำไมผมดูอยู่ห่าง ๆ แบบนี้ถึงรู้สึกว่าน้องน่ารักมากจริง ๆ ผมมั่นใจแล้วว่า ผมรักมัน
วันนั้นผมมีโอกาสได้ไปทานข้าวที่บ้านเล็กๆของปิงกับคุณแม่ แม่ปิงน่ารักมาก
เธอนิสัยเหมือนปิงมากเลยทีเดียว ระหว่างทางที่เธอนั่งรถไปกับผมคุณแม่เงียบมากท่าทางเธอเจียมตัวแบบที่ขนาดผมเป็นเด็กยังดูออก
ผมเอื้อมตัวไปดึงสายเบลท์มากดเสียบลงให้ คุณแม่ยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน รอยยิ้มอบอุ่นที่เหมือนกับรอยยิ้มของปิงไม่มีผิด
อ่อนโยนและน่าทะนุถนอมมากๆ
ผมทานข้าวที่บ้านมันเสร็จ
ระหว่างนั้นมีกุเรื่องรานิดหน่อยด้วย เอาจริงๆอย่าให้ผมบาปเลยนะครับผมแค่อยากให้ลูกชายคุณแม่ไปนอนค้างด้วยกันก็แค่นั้น
ผมรับรองผมไม่ทำอะไรล่วงเกินมันมากไปกว่าแค่ภายอกแน่ คึคึ คือผมคิดถึงมันมากจริง ๆ
นะ เจ้าปิงมันไม่ยอมไปหาผมเลยนี่เป็นอาทิตย์เข้าไปแล้ว
“ปิงขับรถกลับดีๆนะลูกมันดึกแล้ว”
ในที่สุดผมก็พามันออกมาได้โดยความเต็มใจของคุณแม่ผู้สนับสนุนหลักอย่างไม่เป็นทางการเพราะเธอไม่รู้วัตถุประสงค์จริงของผมไง
เราแวะดูหนังกัน ก่อนที่ขากลับผมจะทำหน้าที่เป็นคนขับแล้วแวะซื้อโกโก้ร้อนให้มันที่ร้านกาแฟ
คือที่โรงหนังปิงนั่งหนาวมากผมทำอะไรไม่ได้ก็แค่ช่วยกุมมือมันไว้นั่นแหละ
“พี่เอย์เมื่อกี้มีคนโทรเข้ามาแน่ะพี่
เครื่องพี่น่ะ” พอกลับมาที่รถยื่นโกโก้ร้อนให้ปิงเลยบอกผมเรื่องโทรศัพท์
ยอมรับเลยว่าช่วงนี้ผมไม่ค่อยอยากให้มันเห็นมือถือผมเท่าไหร่
นานะชอบไลน์มาหาอยู่เป็นประจำ ทั้งที่ทุกคืนผมก็จะคอลวีดีโอคุยกับอันวาอยู่แล้ว
ผมก็ไม่เข้าใจนะว่าเธอจะโทรหรือจะไลน์ แชตออน ข้อความอะไรมานักหนา
“แฟนพี่เหรอ
สวยจังนะครับ”
“เปล่า แฟนกูไม่สวยเลยหน้าเหมือนลูกหมาขี้เหร่มากอ่ะ” ผมหมายถึงมันอ่ะแหละ
รู้อยู่หรอกมันคงเห็นรูปนานะที่อยู่ในเครื่องผม
เออก็ว่าจะเปลี่ยนเหมือนกันนะบังเอิ๊ญบังเอิญจริง ๆ มีแต่รูปนี้ของเธออีกต่างหาก
“เอาจริงๆดิพี่
ไม่เล่น เธอเป็นแฟนพี่เอย์เหรอครับ”
ผมหันมองมันทันทีคือไม่คิดว่าปิงจะถามคำนี้ออกมา
ก็รู้อยู่แล้วว่าผมกับมันคบกันอยู่ แล้วผมจะไปเป็นแฟนใครคนอื่นอีกได้ยังไง
ปิงดูเหมือนยังไม่ยอมเข้าใจมันทำท่าจะพูดต่อผมก็เลย...
“แค่เพื่อน เขาเป็นเพื่อนกู” ผมไม่ได้โกหกนะ
นานะเป็นแค่เพื่อนผมแล้วจริง ๆ เพียงแต่ผมยังลงรายละเอียดอื่น ๆ ให้มันฟังไม่ได้ ปิงคงกำลังคิดว่าผมไม่ชัดเจนในคำตอบ
มันเงียบไปผมจึงยกมือไปยีๆหัวมันคือสไตล์ปลอบใจของผม มันก็ทำหน้าสบายใจขึ้นแล้ว
คืนนั้นปิงสระผมให้ผมด้วยนะ
ตอนแรกทำท่าไม่ยอมหรอกแต่ทนลูกอ้อนผมไม่ได้ มันก็ต้องแบบนี้อยู่แล้วผมชอบให้มันดูแลเทคแคร์
เวลาที่มันดูแลผมๆรู้สึกดีแบบสุด ๆ ผมเอื้อมมือไปดึงมือมันมาจูบลงเบา ๆ
ปิงทำงานหนักมือเลยไม่ได้นุ่มนิ่มแบบมือผู้หญิงแต่ทำไมผมถึงชอบมากก็ไม่รู้
มือมันหอมมากจริง ๆ
“ปิงกูโอนเงินให้มึงน้อยไปรึเปล่าได้เช็คดูบ้างไหม”
“ไม่น้อยหรอกครับ
พี่เอย์ให้เยอะเกินไปด้วยซ้ำ”
“ทำร้านให้แม่ใหม่ดีไหม
เดี๋ยวกูออกแบบออกเงินให้ ที่ตรงนั้นน่ะเช่าเหรอหรือว่าของตัวเอง”
“พี่เอย์ครับ
เราจะไม่พูดเรื่องนี้กันอีกนะครับ ผมรู้พี่เห็นผมกับแม่วันนี้แล้วคงรู้สึกว่าอยากจะช่วยอะไรบ้าง
แต่คือเราสามคน ผม แม่ พี่ขม เราอยู่ของเรามาแบบนี้ใช้ชีวิตในแบบนี้ของเรา
พวกผมมีความสุขดีครับ ขอบคุณพี่เอย์มากที่นึกถึงกัน แต่ถ้าพี่รักผมกับแม่จริง ๆ
อย่าพูดเรื่องจะออกค่าใช้จ่ายอะไรนั่นอีกนะครับ
ผมขอ”
นี่แหละคือแฟนของผม
คนที่รักศักดิ์ศรีของตัวเองและอ่อนโยนกับผม ปิงน่ารักและเป็นเด็กดีมากจริง ๆครับ
คืนนั้นเป็นคืนที่ผมมีความสุขมาก
เราสองคนสัมผัสซึ่งกันและกัน
ผมรู้ปิงเขินอายนิดๆถึงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเราทั้งคู่แต่ผมรู้เราต่างก็เป็นครั้งแรกกับผู้ชายด้วยกันทั้งคู่
เมื่อความต้องการในส่วนลึกเรียกร้องผมทำตามสัญชาตญาณและรู้สึกดีมากๆขณะเดียวกันผมรู้มันเองก็รู้สึกดีไม่ต่าง
ปิงกลั้นเสียงครางไว้ไม่ดีเลยเพราะน้ำเสียงแบบนั้นของมันทำเอาผมกระเจิดกระเจิงยิ่งกว่าเก่า
มือของมันที่กำลังสัมผัสผมอยู่ ทำเอาผมร้อนรุ่มไปทั้งกาย ในที่สุดผมก็พามันแตะถึงเส้นขอบฟ้าขณะที่ผมเองก็ตามมันไปแบบติด
ๆ ปิงหลับตาลงแน่นผมเลื่อนตัวไปอีกนิดกะให้ริมฝีปากจรดลงที่ริมหู
ตั้งใจเอ่ยท่วงทำนองเหล่านี้...
You’re my everything
Forever and the day I need you close to me.
….You’re my everything
You never have to worry never fear for I am near.
“....love you ”
แน่นอนครับถ้อยคำสุดท้ายไม่ได้มีอยู่ในเพลงใดๆทั้งสิ้น
เป็นคำที่ผมตั้งใจจะบอกมันอยู่แล้ว ผมเคยบอกไปแล้วนี่
คำรักมันต้องเอ่ยตอนเมคเลิฟมันถึงจะลึกซึ้ง ถึงแม้นี่ไม่ใช่เมคเลิฟโดยสมบูรณ์ แต่เราก็สัมผัสกันและกันไปแล้ว
ผมผิดเหรอที่ผมจะเอ่ยคำนี้กับมัน ปิงท่าทางตกใจไม่น้อยแต่ผมเนียนครับ
ไม่บอกหรอกว่าเพลงที่ผมร้องให้ฟังกับถ้อยคำนั้นเป็นผมที่ตั้งใจทำเพื่อมันมากแค่ไหน ผมจึงบอกมันแค่ว่า นั่นน่ะคือผมละเมอ!
ปิงหลับไปในอ้อมกอดของผม
แต่คุณเชื่อไหมเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางดึกผมสะดุ้งตื่นกลายเป็นผมต่างหากที่อยู่ภายใต้อ้อมกอดมัน
ผมรีบลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์มากดรับมองดูหน้าคนข้าง ๆ ที่หลับสนิท ปิงคงเหนื่อยมากวันนี้ช่วยแม่ขายของทั้งวันแล้วผมยังทำกับมันแบบนั้นอีกมันคงจะเหนื่อยจนหลับแบบไม่รู้เรื่องเลยนั่นแหละ
ผมลูบหัวมันเบา ๆ ก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือแล้วเดินออกไปรับสายด้านนอก
“ฮัลโหลครับอันวา”
“แด๊ดดี้เอย์ตั้น
อันวาคิดถึงคร้าบ อันวาไม่สบายอันวาตัวร้อน อันวาคิดถึงเอย์ตั้น.......บลาๆๆ”
เรานัดกันเกือบทุกวัน
อันวาชอบเล่นกับผมมาก เรียกผมแด็ดดี้ๆตลอดคือผมก็สงสารนะวันไหนผมไม่ไหวจริง ๆ
จะโทรบอกนานะก่อน เธอจะได้ไม่ต้องต่อสายมาหา
มีบางครั้งเช่นครั้งนี้ผมบอกว่าไม่ว่างแต่เธอก็ยังต่อสายมาคือน้องไม่สบายเพ้อหาผม ผมคุยกับอันวานิดหน่อยคือคุยกันแบบชนิดที่ว่าอันวาหลับคาโต๊ะไปเลย นานะจึงพาอันวาไปนอนจากนั้นเธอบอกผมอย่าเพิ่งวางเธอจะคุยเรื่องกำหนดกลับเมืองไทย
ซึ่งผมก็เออออไป
มีแซวเธอว่าอ้วนนิดหน่อยด้วยเพราะเธอส่งรูปตอนไปเที่ยวกับอันวาและคุณแม่ของเธอมาให้ดู
ในที่สุดเธอพูดถึงเรื่องกลับมาเมืองไทยของเธออีกครั้ง
บางทีนานะก็ชอบพูดอะไรแปลก ๆ เธอคุยกับผมเหมือนคนที่ยังรักกันมากมาย
ทั้งที่ความเป็นจริงผมคอยย้ำกับเธอเสมออยู่แล้วว่าผมมีคนที่ผมรักอยู่แล้ว
ซึ่งเรื่องของผมกับเธอมันจบลงแล้วจริง ๆ ผู้หญิงที่จะคอยแต่รื้อฟื้นเรื่องราวเก่า
ๆ บางทีผมก็เบื่อนะถ้าไม่เห็นแก่อันวาที่เป็นหลาน คุณคิดว่าผมยังจะนั่งทนคุยกับเธอต่ออยู่แบบนี้ไหม
หลังคุยเสร็จผมนั่งนิ่ง ๆ อยู่สักสองสามนาทีได้คือก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ผมรู้ว่าอันวาสำคัญแต่วันนี้ปิงมานอนกับผมทำไมผมถึงต้องลุกออกจากเตียงแบบนี้ด้วยถ้าปิดเครื่องไปทุกอย่างคงจบ
แต่คิดอีกทางวันนี้อันวาไม่สบายตัวร้อนแล้วก็เพ้อหาผมถ้าผมทำแบบนั้อันวาคงจะคิดถึงและเสียใจมาก
ๆ
“ออกมานานหรือยัง”
ผมตกใจมากเมื่อหันมาเจอปิงยืนกอดอกพิงผนังห้องมองผมอยู่ หน้าตาคือนิ่ง
ผมเลยถามว่าปิงออกมานานรึยังเผื่อบางทีอาจจะเห็นว่าผมคุยอยู่กับอันวา
ผมยังไม่เคยบอกเรื่องอันวากับมัน เรื่องของลูกชายซีซ่าร์ยังคงเป็นความลับของพวกผมอยู่
ผมเดินเข้าไปหาแล้วจับแขนมันพาเข้าห้อง
“โทษทีนะไปนอนต่อเถอะ ดึกแล้ว”
ปิงยื้อแขนตัวเองออกมันจ้องหน้าผมนิ่งเลย “ผมให้โอกาสพี่แค่ครั้งเดียว อธิบายมา”
“กูเคยบอกมึงแล้วนี่
เขาเป็นเพื่อนกู แค่เพื่อน”
ปิงประชดผมทันทีที่ผมตอบมันออกไปแบบนั้นมันเดินเข้าไปในห้องหยิบเสื้อผ้าขึ้นเปลี่ยน
ผมงี้ได้แต่ยืนมองอึ้งเลย แล้วผมพูดอะไรผิดรึไง? นานะเป็นแค่เพื่อนของผมจริง ๆ
ความรู้สึกกับเธอตอนนี้แทบจะกลายเป็นแค่คนรู้จักไปแล้วด้วยซ้ำ
ผมรู้ปิงโกรธที่ผมออกมานั่งคุยโทรศัพท์กับนานะอยู่แบบนี้ ทั้งที่วันนี้ผมควรจะนอนอยู่กับมันแต่ผมก็เลือกที่จะเดินออกมา
ทว่านั่นไม่ใช่เพราะนานะแต่เป็นเพราะอันวาหลานชายของผม
“ไปไหน” ผมถามมันปิงคว้าลูกบิดประตูไว้แล้ว
คือผมกำลังคิดนะว่ามันโกรธ? มากมายขนาดนั้นเลย??
“โทษทีพี่
ผมเพิ่งนึกขึ้นได้วันนี้ต้องพาคุณนายเธอไปตลาดแต่เช้า” มันโกหกผมรู้
“ปิงตอนนี้ตีสี่”
ผมดึงแขนมันไว้
“พี่เอย์ปล่อยครับ”
ผมพยายามดึงแขนมันไว้ แต่มันคือผลักไหล่ผมแรงมากเอาจนผมเซไปเลย ผมเลยโพล่งออกมา
“เชื่อใจกูได้ไหม เชื่อใจกูสิ มึงไม่เชื่อใจกูเหรอ”
นั่นคือคำพูดจากใจผมเลยนะ
ผมคิดว่าเรื่องของนานะไม่จำเป็นที่จะต้องอธิบายอะไรเลยเพราะไม่ใช่เรื่องสำคัญนานะเป็นแค่เพื่อนแค่คนรู้จักและถึงจะเป็นแม่ของหลานชายผม
แต่เธอก็เป็นได้แค่นั้น แต่ปิงคงจะคิดมากมายของมันจริง ๆ ผมเองก็ทำไม่ถูก แต่ผมก็เลือกที่จะไม่พูดเรื่องอันวาเพราะสัญญากับซีซ่าร์มันไว้แล้ว
ผมรอแค่นานะกลับมาผมจะต้องแนะนำให้ปิงรู้จักหลานชายผมอยู่แล้ว
ตอนนั้นผมจะบอกความจริงทั้งหมด เพราะคนที่สำคัญจริง ๆ กับผมคือปิง
และเหตุผลที่ผมคุยกับทางนั้นก็คือหลานของผม อันวา เหตุผลเดียวเลยจริง ๆ
“เขาชื่อนานะ
เป็นผู้หญิงคนแรกของกู...................................................................เราจบกันนานแล้ว”
“เชื่อใจกูได้ไหม”
ผมย้ำกับมันอีกครั้ง
ปิงเหมือนกับจะเย็นลง ผมจึงบอกเรื่องสำคัญเรื่องนึงกับมันต่อ
“เขาจะกลับมาวันเสาร์นี้ กูจะให้มึงไปรับเขานะ หน้าที่มึง”
“พี่แม่งโคตรใจร้ายเลยว่ะ”
ผมไม่รู้มันกำลังเข้าใจผมว่าอะไร
แต่คำว่า ‘หน้าที่มึง’ ที่ผมพูด
คือหน้าที่ของคนที่เป็นแฟนผม ในเมื่อวันนั้นเพื่อนผมอยากจะให้ไปรับแต่ผมไม่ว่างก็ควรเป็นหน้าที่ของแฟนผมที่จะต้องไปรับแทน ผมทำไม่ถูกต้องหรือ?
ผมอยากให้ปิงแสดงตัวกับเธอไปเลยว่าปิงเป็นใคร
“คุณเอย์ นี่ครับ”
พนักงานที่สปอร์ตคลับยื่นกุญแจล๊อคเกอร์ส่งให้ผม
ผมเดินไปคว้าเอาผ้าเช็ดตัวเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำแล้วยัดกระเป๋ากีฬาเก็บเข้าตู้
สายน้ำวันนี้เย็นเฉียบจนบาดผิวกาย ปิงหายไปเลยตั้งแต่วันนั้น
คือผมก็รู้นะว่ามันไม่พอใจเรื่องที่ผมออกมานั่งคุยโทรศัพท์อยู่กับนานะ
ผมรู้มันคงออกมาไม่ทันตอนที่ผมคุยอยู่กับอันวา
หรือถ้าเห็นยิ่งจะปรี๊ดมากขึ้นยิ่งกว่านี้เพราะอันวาเรียกผมแด๊ดๆอยู่ตลอด
อีกแค่อาทิตย์เดียวนานะกับอันวาก็จะกลับมาถึงแล้ว
ผมจะรอจนถึงตอนนั้นแล้วจะบอกปิงทีเดียวไปเลย เพราะผมคิดว่าไม่จำเป็นที่ปิงจะต้องรู้คือมันไม่สำคัญสำหรับปิงเลยจริงนะ
ผมก็แค่นั่งคุยกับหลานชายเสร็จแล้วก็กะจะเดินเข้าไปนอนกอดมันต่อ หลานผมไม่สบายเพ้อหาผม
แต่ปิงดันออกมาเห็นว่าผมนั่งคุยกับผู้หญิงเพราะอันวาหลับไปแล้ว
ปิงเข้าใจเจตนาของผมผิด
ทำไมผมถึงไม่อธิบายไปว่าจริง ๆ แล้วนานะคือแม่ของหลานชายผม แค่นั้นเรื่องก็จบแล้วใช่ไหม
ก็เพราะผมไม่เห็นว่าเรื่องของนานะสำคัญสำหรับเราสองคนไง
คือผมจะบอกว่าไงดี ผมคิดว่านานะกับเด็กไม่มีอะไรที่ปิงจะต้องรู้เลย
มันเป็นเรื่องของซีซ่าร์กับนานะแล้วบังเอิญผมอยู่ในข้อตกลงด้วยก็แค่นั้น
แค่ปิงเชื่อใจผมไม่มีอะไรที่มันจะต้องกลัวหรือหวั่นใจเลย
ผมว่ายมาหยุดลงที่กลางสระ
คิดแล้วคิดอีก ผมรู้ว่าตัวเองผิดมากที่ทำมันเสียใจมากขนาดที่วันนั้นมันกลับไปกลางดึก
ถึงจะยอมให้ผมไปส่งแต่คือมันก็ทำเฉยชากับผมเสียจนผมนึกกลัว
ผมโมโหตัวเองที่เป็นคนปากหนัก
ผมจึงฟาดมือปัดสายน้ำที่เย็นเฉียบให้กระจายขึ้นหวังให้กระแทกใบหน้าตัวเองแรง ๆ
สักที ผมโมโหตัวเองมากที่ทำให้คนที่ผมรักต้องรู้สึกแย่
เสียใจ และเสียความรู้สึก
“อยู่ไหน”
ผมโทรหามัน ปิงตอบกลับมาว่ากำลังจะไปเตะบอล แค่นั้นแหละครับ
ตั้งแต่วันนั้นในเมื่อมันไม่ยอมมาหา เป็นผมเองก็ได้วะที่ต้องไปหามันแทน
ทั้งที่สนามบอล ที่ร้าน ที่บ้าน จนกระทั่งวันเสาร์...
ผมเพิ่งจะรู้จริง
ๆ ว่าผมคิดผิดมากที่ให้ปิงไปรับนานะ เพราะเมื่อผมกลับมาถึงห้องแล้วสีหน้าปิงไม่ดีเลย ถึงมันจะคุยจะถามโน่นนี่นั่นแต่คือผมรู้ว่ามันยังไม่ใช่ปิงที่ร่าเริงคนนั้น มันถามผมเรื่องอาหารเป็นนัยๆ ผมเลยรู้ทันทีว่านานะคงจะพูดอะไรแปลกๆให้ฟังแน่แล้ว ผมพยายามนะพยายามจะแหย่ให้มันกลับมาเป็นปิงคนเดิม
นั่งอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลาแม้กระทั่งตอนที่มันล้างจาน แต่เหมือนกับทุกอย่างจะไม่ช่วยอะไร
ผมเลยคิดว่าจะบอกตอนนี้เลยเพราะไหน ๆ นานะกับอันวาก็กลับมาแล้ว
“แล้วเด็กกลับมาด้วยรึเปล่า”
ผมถามให้แน่ใจ
“...กลับครับ”
บรรยากาศระหว่างเราชวนอึดอัดมากจริง
ๆ ผมสงสารปิงมากผมรู้ผมผิดมากจริง ๆ ที่ให้มันไปรับนานะครั้งนี้
เพราะปิงสุภาพบุรุษมาก
ผมน่าจะรู้อยู่แล้วมันไม่มีทางแสดงตัวกับเธอว่าเป็นคนของผมเด็ดขาด
“น้องน่ารักมากเลยครับ”
ปิงพึมพำขึ้น ส่งยิ้มบาง ๆ มาให้ผม จึงจึงตัดสินใจว่าจะบอกให้มันจบ ๆ ไปเลย
ปิงอาจกำลังคิดมากๆแล้วเมื่อเห็นหน้าตาของอันวากับผม ไม่งั้นจะพูดถึงทำไม
“เด็กคนนั้นน่ะ........”
ติ๊ดดดดดดด ติ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
โดนขัดจังหวะด้วยเสียงกริ่งประตู
ผมเลยบอกให้มันอยู่ด้วยกันห้ามหนี คือผมกะจะบอกทุกอย่างวันนี้อยู่แล้ว
“เอย์!”
นานะมาแล้วจริง ๆ ทันทีที่เธอเห็นผมเธอปล่อยมือเด็กแล้ววิ่งเข้าหาผมเลย
ผมมองอันวาที่ยืนอยู่กับปิงที่หน้าประตู เด็กหน้าเหมือนผมมากจริง ๆ
อันวาตัวเล็กนิดเดียวเดินเตาะแตะน่ารักมาก
ปกติคุยกันแต่ในโทรศัพท์ไม่ก็เครื่องคอมแต่วันนี้ผมเห็นหน้าอันวาชัดๆแล้ว
ผมไล่สายตามองขึ้นไปปิงมองนานะที่กำลังสวมกอดผมอยู่ด้วยหน้าตาที่ดูรู้เลยว่าโกรธ
“เอย์คิดถึงนาไหม
เอย์ดีใจไหมคะนากลับมาหาเอย์แล้วนะ” ผมยิ้มเจื่อน หมาปิงจ้องผมนิ่งเลย
ตอนนี้มันก้มลงไปอุ้มอันวาขึ้นมาแล้ว ผมยกมือขึ้นตบหลังนานะเบา ๆ
คืออยากบอกให้รู้ว่าเลิกกอดผมได้แล้วพอเถอะ ออกเถอะขอร้อง
ซึ่งเธอก็ละอ้อมกอดออกจากผมจริงนะผมงี้ถอนใจโล่งเลย
แต่เรื่องที่ทำให้เจ้าปิงมันฟิวส์ขาดก็คือเธอเดินเข้าไปหาปิงอุ้มอันวามาพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า...
“อันวา
มานี่ลูกมาไปหาแด็ดดี้เอตั้นกันนะ”
ถึงผมจะยืนอยู่ไกลแต่ก็ได้ยินและได้เห็นว่าปิงหน้าเจื่อนลงแค่ไหน
ผมรับอันวามาอุ้มอย่างเลี่ยงไม่ได้ จะเข้าไปบอกอะไรมันตอนนี้ก็ไม่ได้
ได้แต่ภาวนาขอให้ปิงอดทนสักหน่อยเดี๋ยวสองคนนี้กลับผมบอกมันทุกอย่างเลยจริง ๆ ผมจูบลงที่แก้มของันวาเบา ๆ
น้องยิ้มหวานมากเรียกเอย์ตั้น ๆ อยู่ตลอดคงดีใจที่เราได้เจอกันสักที
อันวากระซิบลงที่ข้างหูผมด้วยนะ “ดีใจได้เจอแด๊ดดี้เอย์ตั้น อันวาคิดถึงทุกวันเลย
เล่นกันๆ” ผมยิ้มให้หลานชายอย่างอ่อนโยน
เห็นปิงวางน้ำลงให้แล้วเดินเลี่ยงเข้าไปในห้อง
ผมกำลังจะลุกขึ้นไปตามแต่ปิงออกมาพอดีพร้อมด้วยกระเป๋าสะพายของมันในมือ
“ไปไหน”
ผมรีบลุกขึ้นไปถาม วางอันวาไว้กับนานะ
“ผมทำงานทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ
จะกลับแล้ว” ปิงไม่มองหน้าผมเลย
ก้มลงใส่รองเท้าอย่างเดียวผมดึงแขนมันขึ้นมา ปิงตาแดงมากถ้าผมมองไม่ผิด
“พี่-แม่ง-เหี้ย!”
ผมถอนหายใจทันทีที่ได้ยินคำนี้หลุดจากปากมัน
คือไม่ใช่แค่คำพูด หน้าตาปิงนี่คือผิดหวังเสียใจแบบมากๆเพียงแค่ไม่มีน้ำตาไหลออกมาเท่านั้นเอง
มันคงจะที่สุดความอดทนของมันแล้ว
“โคตรใจร้ายกับผมเลย”
และทันทีที่คำนี้หลุดออกมาจากปากมัน
ใจผมหล่นร่วงลงที่พื้นตอนนั้นเลย คือถ้ามันด่าผมแบบประโยคแรกผมไม่ว่าอะไรเลยนะ
แต่คำๆนี้ของมัน ทำให้ผมคิดได้ นี่ผมทำให้มันเจ็บปวดขนาดนั้นเลยเหรอ??
ผมใจร้ายกับมันมากขนาดนั้นเลย?? ผมดึงแขนมันเข้าหาตัวทันทีอยากกอดเพื่อปลอบใจ แต่ปิงยื้อไว้
ผมแม่งไม่ไหวแล้วคิดว่าจะพูดทุกอย่างตอนนี้แล้ว ผมเลยดึงมันเข้าไปในห้องกะให้มันใจเย็นลงแล้วจะพาออกมาหานานะด้วยกัน
ที่หลังประตูนั่น...
“คิดอะไรอยู่”
ผมถาม
“คิดว่าพี่เหี้ยมากไง”
“มึงด่ากูว่าเหี้ยสองครั้งแล้วปิง”
“น้อยไปนะผมว่า”
“ปิงๆ!” ผมเริ่มเดือด
ปิงกำลังโกรธมากผมรู้ แต่ตอนนี้ผมเองกำลังจะอธิบายให้มันฟังเช่นกัน
เรื่องที่มันเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นแด๊ดดี้ตัวจริงของอันวาแน่ ๆ คงจะเป็นเรื่องนั้น
“ผมไม่ขอโทษนะบอกเลย เรื่องของเราน่ะให้มันจบลงตรงนี้วันนี้แหละ
ผมยินดีด้วยนะลูกเมียพี่กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาขนาดนี้ น้องอันวาน่ารักมากจริง
ๆ ผมชอบน้องนะ แต่บอกตรงๆอีกอย่างละกัน ผมโคตรเกลียดเมียพี่เลยว่ะให้ตายเหอะ
ส่วนพี่ ผมจะยกให้พี่เป็นผู้ชายที่เลวที่สุดที่ผมเคยเจอมาเลย
เพื่อนผมนะยังไม่มีใครเลวได้ขนาดพี่เลย มีความสุขมากๆนะครับ
ครอบครัวสุขสันต์กันไปอย่าได้มีอะไรมาแผ้วพานนะ เลือกทางนั้นแล้วก็ขอให้โชคดี
แต่ถ้ามีอะไรขึ้นมาผมก็ขอให้พี่ยอมรับทางที่พี่เลือกให้ได้ก็แล้วกัน”
ผมปล่อยให้มันพูด
เออ เอาที่สบายใจ คนเราถ้าอัดอั้นต้องระบาย ผมจึงไม่ห้าม
ปล่อยให้มันพูดไปรอให้ใจเย็นผมจะบอกทุกอย่างเอง
“ใจเย็นลงแล้วใช่ไหม มึงนี่มันแสบจริง ๆ นะ
ด่ากูทั้งที่ยังไม่รู้ความจริงอะไรสักอย่าง มานี่!”
คราวนี้ผมลากมันเลยกะว่าจะเอาออกไปพูดต่อหน้านานะให้รู้เรื่อง
ปิงจะได้เข้าใจทุกอย่าง นานะก็ควรจะพูดยืนยันกับปิงเรื่องที่ผมคุยกับอันวาแทบจะทุกคืนด้วย
“พี่ปล่อยผม”
“ปิง
อย่าดื้อ” มันโวยวาย มือไม้แข้งขานี่ไปหมด คือผมกะจะดึงมันไปคุยข้างนอก
แต่คิดว่ามันคงไม่อยากให้นานะรู้ ผมจึงตัดสินใจจะบอกมันที่นี่ตอนนี้เลย
“พี่แหละปล่อย
อย่ามายุ่งกับผม ที่รักของพี่ครอบครัวของพี่รออยู่ข้างนอกโน่นเชิญออกไปหาสิ
พี่จะมายุ่งกับผมทำไม”
“ให้ตายเหอะ
มึงนี่มันที่สุดของเด็กดื้อจริง ๆ” ผมคว้าเอาตัวมันไว้ เด็กบ้าอะไรแรงดีจริง ๆ
ผมไม่ลากมันไปข้างนอกแล้วคุยข้างในนี่แหละแม่ง หมาปิงมึงคอยดูนะดื้อกับกูขนาดนี้เดี๊ยะกูเหวี่ยงลงเตียงแล้วจะยุ่งนะมึงนะ
“ปล่อยผม!!”
“เงียบแล้วฟัง อันวาไม่ใช่ลูกกู!! เด็กนั่นเป็นลูกของ.....
ก๊อก
ๆๆๆๆ ก๊อกๆๆๆ
“เอย์คะ
เป็นอะไรหรือเปล่า เอย์.....”
ผมส่ายหัวอย่างขัดใจ
คือไม่เข้าใจนานะจะอะไรนักหนาวะ
ผมหัวเสียเลยนะคือกำลังจะได้อธิบายอยู่แล้วยังมาขัดกันไว้อีกสองรอบแล้ววันนี้บอกเลย
ผมเดินไปเปิดประตูผั๊วะออก
“เอย์คะคือ....
“นาครับรออยู่ข้างนอกเดี๋ยวนึงนะ
เอย์ขอคุยกับปิงก่อน” นี่คือผมพยายามจะพูดให้ไพเราะและสุภาพที่สุดแล้วนะเดี๋ยวจะหาว่าผมไม่สุภาพบุรุษ
“เอย์คือมีเรื่องอะไรรึเปล่าคะ
คือว่า...
“ไม่มีอะไร ไม่ใช่เรื่องของนาหรอก โทษทีนะวันนี้ไม่สะดวกจริง ๆ เชิญกลับไปก่อนเลยก็ได้ ผมมีธุระต้องคุยกับปิง
โทษทีนะครับ”
ผมปิดประตูลงเลยบิดล็อคด้วยไม่สนใจอะไรแล้วคือตอนนี้คนของผมมันโกรธมากๆแล้วผมต้องเคลียร์ก่อน
ปิงยืนนิ่งอยู่นั่นมันมองผมอยู่ แต่คิดว่าอารมณ์มันดาวน์ลงหน่อยแล้ว
“ตัวแสบมานี่เลย” ผมเดินเข้าหามันดึงมือมันให้เดินตามมา
เมื่อผมหย่อนตัวนั่งลงที่ปลายเตียงมันจึงขยับเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น คือปิงเป็นเด็กที่น่ารักเขาคงจะรู้ว่าผมกำลังจะอธิบายอะไรบางอย่างเลยรอจะฟังในสิ่งที่ผมกำลังจะพูดแต่ลักษณะของเราสองคนตอนนี้มันอาจจะชวนเข้าใจผิดอยู่บ้าง
ถ้านานะเปิดเข้ามาเธอคงจะเห็นแหละว่าปิงมันยืนอยู่หว่างขาผมพอดี๊พอดี เสียอย่างเดียวหมาปิงมันทำสีหน้าเศร้ามาก
“คิดอะไรอยู่ฮึ
อย่าบอกนะว่ามึงคิดว่ากูเป็นพ่อของน้องอันวานั่นน่ะ”
“.........” ปิงเงียบไป
สีหน้ามันเศร้ามากจริง ๆ นี่ผมทำมันเสียใจมากขนาดนี้??
“บ้าเอ้ย
คิดจริงๆด้วยเหรอมึงเนี่ย”
ปิงมองผมอย่างคนที่ยอมจำนนว่ามันคิด
คือแค่ผมถามแบบนี้ออกไปมันก็คงจะรู้บ้างแล้วว่าอันวาไม่ใช่ลูกผม
แต่จะเป็นลูกใครคืออีกเรื่องที่ต้องรอฟัง ปิงหน้าจ๋อยลงมากจริง ๆ
ผมเลยเอื้อมมือไปเสยผมที่ปรกหน้าผากมันออก ทำหน้าลูกหมาแบบนี้น่ากัดปากจริงเลย
เดี๋ยวเหอะ
“มึงฟังนะปิง
อันวาเป็นลูกชายของไอ้ซ่าร์ พี่ชายกู หรือก็คือไอดอลคนโปรดของมึงนั่นแหละ”
ผมอยากให้คุณมาเห็นหน้ามันตอนนี้มาก
คือหน้าแบบคนที่ช็อก ช็อกมากๆ ปากนี่หวอเชียวตาก็เบิกกว้าง คือถ้าผมรู้สึกว่ามันตลกผมจะผิดจังหวะมากไปรึเปล่าวะเนี่ย
คือหน้ามันให้ตายเหอะ ผมรีบหันไปอีกทางกลัวมันจะว่าผมยิ้มเยาะอะไรมันรึเปล่า ปล่อยให้มันยืนเอ๋ออยู่นั่นแหละ ช็อกให้พอใจ
ซีซ่าร์ไอดอลคนโปรดขวัญใจมันนี่นะ ผมรู้นะผมนิสัยไม่ดี
แต่ตอนนี้คือผมกระหยิ่มยิ้มในใจอย่างคนที่..จิ๊! คือจะบอกยังไงดีวะเมื่อก่อนผมคิดแต่ว่าปิงชอบไอ้ซ่าร์มากผมแพ้ไอ้ซ่าร์แน่
ๆในความคิดของปิงผมเลยน้อยใจ แต่ตอนนี้คือ ผมรู้สึกว่าผมเหนือกว่าไอ้ซ่าร์ครับ
คึคึ ผมไม่มีข้อตำหนิผมบริสุทธิ์ผุดผ่องคู่ควรกับปิงมันอะไรแบบนั้น
ปิงคงจะชอบผมมากขึ้นแล้วเลิกชอบไอ้ซ่าร์ไปเลย ชัวร์
“ช็อคไปเลยเหรอมึง”
น้ำเสียงผมแฝงไปด้วยเสียงเย้ยๆนะผมว่า ปิดไม่มิดหรอก
“จะ....จริงเหรอครับพี่เอย์
เรื่องที่พี่พูดคือเรื่องจริงเหรอ” เห๊อะ อะไรจะช็อคไปขนาดนั้นแบบนี้มันจะแปลกไปหน่อยไหม
ผมขมวดคิ้วโมโหนิดๆ หันมองไปดูนาฬิกาที่หัวเตียง
คิดว่าป่านนี้นานะกับอันวาคงจะกลับไปแล้ว
ไว้วันหลังผมจะหาเวลาเล่นกับอันวาใหม่คือวันนี้ต้องเอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อน
พอผมหันมามองมันแค่นั้นแหละ มีสิ่งที่ทำให้ผมโมโหและเดือดขึ้นสุดขีดเลยก็คือ...
“หมาปิง! มึงร้องไห้หาพ่องมึงเหรอ ห๊า!!!”
น้ำตามันไหลอ่ะ
แต่แค่หยดเดียวนะ ผมเชื่อมันเลยให้ตายเหอะ กับผมนี่มันเสียใจใช่ไหมแต่ผมไม่เห็นน้ำตามันสักหยด
แต่กับไอ้ซ่าร์ บ้าฉิบ! มันจะร้องไห้ทำไมของมันวะ
ฮึ่ยยย ผมหมั่นเขี้ยวมันจริง ๆ แม่ง!!!
“มึงนี่มัน
จิ๊! พอรู้ว่าเป็นลูกไอ้ซ่าร์นี่มึงถึงกับหลั่งน้ำตาร้องไห้เชียวเหรอ
ทีกับกูนี่ไม่เห็นน้ำตาสักหยดจากมึงเลยนะ หมาเอ๊ย
มึงมันหมามากไปแล้ว”
ผมหน้าบึ้งใส่มัน
ปิงขยับมือนิดๆทำท่าจะดึงมือมันออกจากมือผมจะเช็ดหน้ามั้ง
คือตอนนี้ผมจับมือมันอยู่แน่นด้วยบอกเลย แต่ผมไม่ปล่อย ผมโกรธมันด้วยอะไรวะร้องไห้เรื่องไอ้ซ่าร์ทำไม
มันจะมีลูกหรือไม่มี เกี่ยว??
“พี่เอย์”
มันเรียกผมเสียงอ่อน ช่างหัวมันดิ ผมไม่หันไปมองมันบอกเลย เครียดดดดด
“พี่เอย์ครับ”
มันเรียกอีกครั้ง ผมยังไม่ยอมหันไปอีก
“ผมไม่ง้อเหอะ”
อะไรวะ! ผมหันขวับทันที
คือมันพูดเรื่อง นี่ผมกำลังงอนมันเรื่องไอ้ซ่าร์นะ
“ถึงจะเป็นลูกพี่ซ่าร์แล้วยังไง
พี่ผิดที่ไม่ยอมพูดยอมบอกผมอ่ะ ไม่รู้แหละพี่มีเหตุผมอะไรทำไมถึงปิดเงียบอยู่แบบนั้น
ผมไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง ปล่อยผมคิดเป็นบ้าเป็นหลังอยู่คนเดียว”
มันพูดแล้วนิ่งไปหน้าตานี่ดูก็รู้ยังโกรธมากอยู่
ผมนิ่งไปนิดหนึ่งแต่แล้วก็ตัดสินใจพูดคำนี้...
“ที่กูไม่บอกเพราะคิดว่ามันไม่สำคัญ
แต่ถ้ากูทำให้มึงโกรธกูก็ขอโทษด้วย”
คุณคิดว่าคนแบบผมจะพูดถ้อยคำเหล่านี้ออกมาได้ง่าย
ๆ ไหม คือที่ผมพูดออกมานี่อยากให้มันรู้เลยนะว่าผมจริงใจ
ที่ไม่บอกคือคิดว่าเรื่องนั้นไม่สำคัญจริงนะคือไม่เกี่ยวกับปิงแล้วไม่อยากให้มันต้องมาคิดมากไปด้วย
แต่ยอมรับว่าคิดผิดพลาดมากจริง ๆ
เมื่อรู้ว่าพอมันมารู้ทีหลังแบบนี้ยิ่งเสียใจและเสียความรู้สึกมากกว่า
ปิงอมยิ้มได้หน่อย
ๆ แล้ว ผมทายว่ามันพอใจกับคำขอโทษของผม
“น้องอันวาเป็นลูกพี่ซ่าร์จริงเหรอครับ”
“จริงดิ”
“แล้วคุณนานะเธอทำไมไม่ติดต่อกับพี่ซ่าร์?
ทำไมไม่ให้พี่ซ่าร์มารับเธอ? ทำไมต้องเป็นพี่?
แล้วพี่คุยอะไรกับเธอดึกดื่นแบบนั้นเกือบทุกคืน?
ใช้วีดีโอคอลทำไม?
และท่าทางที่เธอแสดงออกกับพี่มันคืออะไร?
ที่สำคัญ!
ในเมื่อพี่ซ่าร์เป็นพ่อของเด็กแล้วทำไมน้องอันวาถึงได้เรียกพี่ว่าแด็ดดี้เอย์ตั้น?”
อ่าา....นี่สินะสิ่งที่คาใจหมาน้อยมาโดยตลอด
มันถามรัวยาวออกมาแบบนี้คงโล่งใจไปนิดนึงเหมือนกัน ผมถอนใจจ้องหน้ามันนิ่งเลยพยายามสื่อความนัยให้มันรู้
อยากรู้เหมือนกันถ้าผมไม่พูดแล้วใช้แค่ความรู้สึกบอกปิงมันจะเข้าใจผมไหม
ผมรั้งเอวมันลงมาปิงนิ่งลงที่ตักผมพอดี
เดี๋ยวนี้ปิงพัฒนาขึ้นนิดๆนะผมว่าเมื่อก่อนผมให้มันนั่งตักนี่ทำท่าเก้ๆกัง ๆแปลกๆ
แต่เดี๋ยวนี้แค่ผมรั้งเอวลงมามันก็รู้แล้วว่าควรจะนั่งอยู่ตรงจุดไหน
มันเขินผมด้วยนะผมรู้
มีการใช้ไหล่ชนๆดันๆผมเล่นอีกด้วย
“อยากรู้ทุกอย่างจริงอ่ะ?”
ผมยกยิ้มถามมันด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ นึกอะไรดีๆออกแล้ว คึคึ ปิงพยักหน้ารับเบา ๆ
“ถ้างั้นคืนนี้ต้องค้างที่นี่กับกู
ไม่งั้นอด” ผมแกล้งลีลาท่ามาก กวนตีนมัน มันมองผมอย่างคนรู้ทัน
“พี่แม่งเจ้าเล่ห์”
“จะค้างป่ะล่ะ”
กลั้นใจรอฟังคำตอบ
“สัญญาสามเดือนของผม??” หืมม ยังจะกล้าทวงนี่ผมยังไม่ได้เอาคืนเลยนะ
มันด่าผมเหี้ยตั้งสองครั้ง
“ยังจะกล้าทวงนะมึง มึงชมกูตั้งสองครั้งแบบเน้นๆเลยนี่นะ”
“หือ?
ผมชมพี่เหรอ ชมว่าอะไรครับ ผมจำไม่เห็นได้” หึหึ อย่ามาปลาไหลกับกูนะหมาปิง
ไอ้คำว่าเห้ของมึงน่ะ ไม่เรียกว่าชมให้กูเรียกอะไร
“อย่ามาทำเป็น”
“พี่เอย์
เอาจริง ๆ ผมยังไม่เคลียร์นะ พี่จะอธิบายใช่ไหมครับ”
“อาห๊ะ
คืนนี้ไงบอกแล้วนี่”
“แต่นี่ก็ดึกแล้ว
บอกผมเลยดิ่”
“งั้นก็ปิดไฟสิ
เดี๋ยวบอกให้ตอนนี้เลย”
“พี่แม่ง
ผมยังไม่อาบน้ำเลยเหอะ” ผมดมๆมันทันที จะว่าไปตอนนี้เรานั่งกันอยู่ที่เตียงนี่หว่า
เขาว่ากันว่าคู่รักถ้าเคลียร์กันที่เตียงเรื่องใหญ่แค่ไหนก็จะกลายเป็นเรื่องเล็กจบง่ายหายไว
หึหึ ผมนี่ฉลาดไม่เบาแฮะ กดลงตอนนี้เลยจะโดนชกป่ะวะ
“อาบทำไมชอบเหม็นๆแบบนี้แหละ”
“อื้ออ อย่า”
ไม่ทันแล้วมั้ง ผมดูดเข้าที่ปากมันแล้วกดมันลงที่เตียงมือไม้นี่ต้องเร็วและประสานกันดีเยี่ยมไม่มีที่ติไม่งั้นเอาคนแบบมันไม่อยู่แน่
บอกเลยวันนี้ผมจัดเต็ม! ถ้าขั้นสุดท้ายคือสิบผมจะล่อมันถึงขั้นที่เก้าจุดเก้านั่นแหละ
แอบรักษาสัญญาไว้นิดๆ
“อ๊ะ
อ๊ะ...พี่เอย์อ๊ะ..”
มันจิกบ่าผมแน่นเชียวอะไรวะวันนี้ยอมง่ายจังไม่พลิกขึ้นมาอยู่ข้างบนรึไง ผมดูดคอมันแรง
ๆ ก่อนเลื่อนเป้าหมายลงไปดูดดึงที่ยอดอกสีชมพูน่ารักขอมัน
“อ๊ะ...อื้มม”
มันครางเครือ ปิงครับมึงจะทำเสียงโทนนี้ไปเพื่อ
กูพีคบอกเลย
“..ปิง..”
ผมครางเรียกมันเสียงต่ำ อู้อี้นิดหน่อยคือปลายจมูกเลื่อนเข้าชอนไชสูดดมมันไปตามซอกตามหลืบต่างๆ
ใครจะไปพอใจอยู่แค่หน้าอกมันกันล่ะ มือสองข้างของผมทำหน้าที่ประสานกับริมฝีปากได้ดีไร้ที่ติ
ปิงแอ่นกายขึ้นรับลิ้นร้อนของผมด้วยความเสียวกระสันและสั่นเทิ้ม
“ยะ...อย่า
ตรงนั้น อ๊ะพี่เอย์” มันหลับตาพริ้มส่งเสียงเซ็กซี่แอ่นกายยั่วยวนเมื่อผมลองลากปลายนิ้วเข้าหยอกเย้าส่วนน่ารัก
“ยะ...อย่า สะ..สามเดือน..อ๊ะพี่!” หึหึ
ท่าทางว้อน?แบบนี้มึงยังจะมาสามเดือนอยู่อีก
“เชื่อใจกู”
ผมเลื่อนตัวขึ้นไปกระซิบโกหกคำโต มื้อไม้ยังทำงานประสานกับริมฝีปากต่อไม่หยุด
“อ๊ะเหี้ย! เพี๊ยะ!!!” มันร้องขึ้นดังลั่นเมื่อผมสอดปลายนิ้วเข้าไปวนหาจุดสำคัญ
ก่อนฟาดมือตีแผ่นหลังผมดังเพี๊ยะ ดีนะมันไม่ทุบไม่งั้นมีจุกแน่
“ปิงไม่ได้ชอบเหรอครับ
หืม??”
“อื้ออออออ
อ๊ะ มะ...ไม่ได้ชอบ อ่ะ อ๊ะ”
“หึหึ
บนเตียงล่ะทำซึน อย่ามาเลียนแบบกูนะ บนเตียงกูตรงไปตรงมานะบอกเลย”
ผมยังไม่ถอนนิ้วออก
ทั้งที่ตัวเองนี่ลาวาแทบทะลักแล้ว
ยังมีหน้ากระซิบเสียงเซ็กซี่ใส่หูมันอีกพร้อมเป่าแล้วแหย่ปลายลิ้นหยอกเย้าเบา
ๆ มองดูลูกชายมัน ปิงเองก็ตั้งแบบสุด ๆคงแทบระเบิดแล้วเช่นกัน
“พี่แม่ง
อย่าเล่น อื้ออ อึกก!
อึกก!” มันทุบหลังผมคิดว่าคงจะเขินอาย
“ชอบนี่หว่าบอกออกมาได้ว่าไม่ได้ชอบ
หันไปทางซ้ายดิ่ดูกระจกซะหน้ามึงโคตรฟินอ่ะ”
ผั๊วะ!!
เต็มๆหลังผมเลย
“เหี้ยเหอะ
ผมอ๊ะ...ฮื้อออ อย่าแกล้งกัน ผมก็แค่บอกเหมือนที่พี่บอก ไม่ได้ชอบ แบบนั้นไง
อื้ออออออออออออออออออออ”
พอเถอะครับ
ผมจบถ้อยคำของมันด้วยริมฝีปากผมนั่นแหละบังอาจมาย้อนผมดีนัก
คาแรคเตอร์นั้นผมจองแล้วมันน่ะต้องตรงไปตรงมาสิ
เราจะมาสลับคาแรคเตอร์เมื่ออยู่บนเตียงกันงั้นเหรอ?? มันจะตลกไปป่ะวะ คึคึ คืนนั้นเราสองคนสุดยอดกันมาก นี่ขนาดยังไม่ได้ตัวมันร้อยเปอร์เซ็นต์นะผมยังจูงมือมันไปแตะถึงเส้นขอบฟ้าได้คนละตั้งสองที
หมาปิงแม่ง
ร่างกายมันโคตรทรมานผมมากมายจริง ๆ
คืนนั้นผมเล่าเรื่องราวต่าง
ๆ เหมือนอย่างที่เล่าให้พวกคุณฟังกันให้ปิงมันได้รู้
ผมล่ะสงสัยจริงนะไหนมันว่าอยากรู้นักหนา แค่ผมเล่าผ่านตอนที่คอลวีดีโอคุยกับอันวาเกือบทุกวันแค่นั้นปิงก็หลับลงไปเลยน่าจะเหนื่อยจัด
ผมนอนกอดมันไว้ในอ้อมแขน เราสองคนอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน เปลือยเปล่า ตัวปิงหอมครีมอาบน้ำมากผมก็นุ่ม อุณหภูมิจากผิวกายอุ่นร้อนกำลังดี
ผมสวมกอดมันไว้เต็มอ้อมแขนแต่ก่อนที่ผมจะหลับลึกลงไป หมาน้อยก็พาดท่อนขาของมันก่ายกอดมาที่ผมในขณะที่มือของมันจากที่นอนสงบเสงี่ยมอยู่ดี
ๆ กลับเข้ามากอบโกยเอาตัวผมเข้าไปให้ซุกหน้าอกมันไว้
ผมเพิ่งถึงบางอ้อก็ตอนนี้เอง
รู้แล้วว่าทำไมเวลานอนกับมันทุกครั้งตื่นมาสภาพผมนี่เหมือนผู้หญิงของมันไม่มีผิด
แต่ผมก็ปล่อยให้มันกอดไปนะ ไม่อยากปลุก
ถูกมันกอดไว้แบบนี้ผมว่าผมรู้สึกดีอยู่เหมือนกัน
-เช้าวันอาทิตย์-
“หอมจัง”
ผมเดินหัวยุ่งออกมาจากห้อง ปิงตื่นมาทำอาหารไว้รอแล้ว
มันอยู่ในชุดกันเปื้อนลูกทุ่ง ๆ ที่มันซื้อหามาไว้เองนั่นแหละ
บอกว่าจะหาให้ใหม่มันก็ไม่ยอมบอกว่าชอบอันนี้ ใส่ได้ไม่มีปัญหาผมเองก็ไม่อยากขัด
“พี่เอย์ทานข้าวครับ
ไหนพี่ว่าวันนี้จะออกไปดูไซด์งานกับอาจารย์ ทำไมตื่นสายแบบนี้ล่ะพี่”
“อ๋อ
สายๆน่ะ” เดี๋ยวนี้ปิงจัดจานข้าวเราสองคนไว้ข้างกัน มันนั่งลงข้างผม
อาหารวันนี้คือข้าวผัดแฮม มีมะเขือเทศกับแตงกวาเป็นเครื่องประดับ
มันรู้ผมชอบมะเขือเทศเพราะงั้นจานผมจึงมีมะเขือเทศเยอะกว่าแฮม
เราทานข้าวกันเสร็จผมเดินไปด้านหลังมันตอนที่มันล้างจานอยู่ เห็นต้นคอสวยๆของมันผมอมยิ้มเพราะนึกอะไรดี
ๆ ได้
ผมเดินไปอุ้มตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มาจากหน้าทีวี คือตัวเนี๊ยะมันจะวางอยู่ที่โซฟานั่งดูทีวีกับผมอยู่เป็นประจำ ผมยื่นหน้าหมีเข้าไปกดลงที่ต้นคอสวยๆของมันแล้วทำเสียง จ๊วบบบ! ดังๆเอาให้มันตกใจ
“อ๊ะ เพี๊ยะ!!” ปิงมือหนักมากจริง
ๆหัวน้องเงิบไปเลยดีนะผมให้น้องหมีลองเชิงไปก่อน มันมองผมตาเขียวปั๊ดเลย
“พี่เอย์แม่ง”
“กูไม่ได้หอมมึงนะ
น้องหมีโน่น” ผมบุ้ยใบ้ไปที่น้องหมี ตอนนี้โยนกลับไปนอนแอ้งแม้งอยู่หน้าทีวีแล้ว มันมองผมตาเขียวทำหน้าคาดทาอีกต่างหาก
“พี่เอย์เสียงผมแม่งแต๋วแตกว่ะพี่
เมื่อกี้พี่ได้ยินป่ะ” มันถามขึ้นคงได้ยินเสียงตัวเองร้องอ๊ะเมื่อตะกี้ ผมเห็นแล้วอดขำไม่ได้
ปิงโวยวายเรื่องเสียงตัวเองแล้วทำหน้าตาเหรอหราอย่างคนไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะส่งเสียงอะไรแบบนั้น
ผมก็เลย...
“ได้ยินตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”
ผมขำมันว่ะอะไรจะทำหน้าจริงจังขนาดนั้น
มันยังล้างจานอยู่แต่ล้างจดจ่ออยู่แค่ใบเดียวนั่นแหละ
“พี่แม่ง”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย
มึงอายใครล่ะ อายกู??”
“ไม่อายเหอะ
ผมแมน”
“ก็นั่นดิ่
จะไปคิดมากทำไม เสียงแบบนั้นทำให้กูได้ยินคนเดียวรับรองกูไม่บอกใคร
ไม่เห็นแต๋วแตกตรงไหนเลย” ผมโกหกมันนิดๆ เสียงโทนนั้นน่ะเร้าอารมณ์ดีจะตายแต๋วเติ๋วที่ไหนกัน
มันน่ะยั่วเก่งแล้วยังไม่รู้ตัวอีก ไอ้ท่าทางหลับตาพริ้มเงยหน้านิดๆเผยอริมฝีปากแล้วแลบลิ้นเลียขอบปากช้า
ๆ แบบเมื่อคืนน่ะ ผมนึกแล้วของพาลจะขึ้น ต้องก้มลงไปดู นอนก่อนลูกนอนๆ
ผมบอกลูกชายผม
“หมาปิงกูว่าตอนเราเอากันมึงต้องร้องดังแน่
ๆกูจะรอฟังนะๆเหลืออีกกี่วันเดี๋ยวกูรีบเข้าไปนับก่อน” ผมทำท่าจะเดินเข้าไปข้างใน
“ทุเรศว่ะพี่”
มันหันขวับมาทันที ดึงมือผมไว้เปื้อนฟองไปหมดเลย
“ไม่มีทางเหอะ
คอยดูนะ ผมน่ะจะเงียบกริบ แม้แต่เสียงเรียกชื่อพี่ก็ไม่มีหรอกคอยดู๊ววว”
หึหึหึ เออกูจะคอยดู เมื่อคืนมึงซึนบนเตียงนะกูว่า หึหึหึ
“พี่เอย์ครับ
วันนี้ผมทำห้องเสร็จแล้วขอออกไปเลยนะ” ผมยื่นมือเข้าไปล้างฟองออกเสร็จแล้วสอดมือเข้าที่เอวมันกอดมันเอาไว้
ดูมันล้างแก้ว
“ไปไหน
ที่ร้านเหรอพี่ขมยังไม่หาย??”
“หายแล้วครับแต่คือก็อยากไปช่วย
วันนี้ผมว่างทั้งวันอยู่แล้ว”
ผมพยักหน้ารับรู้
กะว่าตอนเย็นจะแวะเข้าไปหาโดยที่ไม่บอก ผมก็นั่งยิ้มวางแผนของผมคนเดียว
ติ๊ดดดดดดดด ติ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
ปิงเดินไปเปิด
คือเราก็มองหน้ากันก็รู้แล้วว่าใครจะมา ปรากฏว่าเป็นเธอจริง ๆ นานะมาแล้ว
ครั้งนี้อันวาไม่ได้มา เธอให้เหตุผลว่าจะให้ผมช่วยพาเธอไปหาเนิร์สเซอรี่ดี ๆ
ฝากอันวาเข้าเรียนสักเดือนสองเดือน
“โทษทีครับเอย์ไม่ว่างจริง
ๆนี่ก็กำลังจะออกไปข้างนอก”
“งั้นพรุ่งนี้ได้ไหมคะเอย์
นามาหาอีกนะๆ” เธอโผเข้ามาเกาะแขนผม เจ้าปิงมองตาเขียวแล้ว
“คือผมไม่สะดวก...
// พี่เอย์ให้ผมพาคุณนานะไปก็ได้นี่ครับ”
เสียงผมกับปิงพูดขึ้นพร้อมกัน ปิงมันเดินเข้ามาใกล้หยิบกระเป๋าส่งให้ผม
“พี่รีบไปเถอะครับไหนว่าอาจารย์นัดสิบโมง
เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง พี่นานะไปกับผมนะครับนะ เดี๋ยวผมจะพาหาสถานที่ดี ๆเลย รับรองพี่ต้องประทับใจผมแบบไม่มีวันลืมแน่นอน”
ผมขยับสายตามองปิง
เห็นมันปั้นยิ้มให้นานะ แต่คุณเชื่อไหม..รอยยิ้มแบบนั้นของมันผมว่ามันโคตรเจ้าเล่ห์และน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้
“เอย์ว่าไงคะ
จะให้นาไปกับน้องปิงเหรอ” ปิงหันขวับหาผมทันที สายตานี่คือบังคับให้ตอบเลยว่าใช่
ผมไม่รู้มันกำลังคิดทำอะไรอยู่
“อ่า ครับ
ให้ปิงพาเที่ยวละกันนะ เดี๋ยวผมต้องออกไปแล้วมีอะไรก็บอกปิง” ผมเห็นหมาปิงมันยกยิ้ม
ก่อนออกไปผมยัดบัตรเครดิตแบบฟรีไซน์ใส่มือให้มัน
ปิงฉีกยิ้มร่าแล้วบอกไม่ต้องห่วงแต่หน้าตามันนี่คือเจ้าเล่ห์แบบมากๆ
เอาเหอะ
ทำอย่างที่มึงสบายใจ
ไว้กลับมาเดี๋ยวผมได้รู้ว่ามันพานานะไปทำอะไรที่ไหนมาบ้าง
คอยดูความแสบของมันก็แล้วกัน
Tbc.