Unseen-0 (ทัตซี)
....ในวันที่ทัตพลนอนค้างคืนที่แกลเลอรี่
(ซี&ทราย) เป็นครั้งแรก.....
“ฮ้าววว ซี
ฉันไม่มีแปรงสีฟันนะ เดี๋ยวจะเดินออกไปซื้อที่ร้านค้าแถว ๆ นี้ก็แล้วกัน
น่าจะมีขาย เมื่อคืนก็นอนทั้งๆอย่างนั้นอึดอัดจะแย่”
ภูวดลมองดูผู้ชายตัวโตๆผมเผ้ายุ่งเหยิงส่งเสียงงัวเงียเดินหาวหวอดลงมาจากบันได
ที่คอมีผ้าขนหนูผืนใหญ่สีขาวคล้องไว้ ชุดนอนที่สวมอยู่ทั้งชุดล้วนเป็นของเขา
“อ่ะ นี่ครับ
ผมซื้อมาไว้ให้แล้ว” เขายื่นแปรงสีฟันสีฟ้าใหม่เอี่ยมส่งให้ คนรับยิ้มกว้างก่อนเข้าไปจัดการธุระส่วนตัวจนเสร็จ
ออกมาอีกทีก็แปลงโฉมเป็นคุณชายเรียบร้อย
“หิวแล้ว
มีไรกินบ้างอ่ะ” ออกมาก็ถามหาของกินดูไม่เหมือนคนมาขอนอนพักบ้านคนอื่นเลยสักนิด เขากวาดตามองคนตรงหน้าที่เดินมาชะโงกหน้าอยู่แถวๆห้องครัว เชิ้ตรัดรูปสีเข้มที่ทัตพลสวมอยู่นั้นมันฟิตดีจริง
ๆ เขาแปลกใจว่าคนใส่ไม่รู้สึกอึดอัดบ้างหรือไงนะ
ภูวดลวางกาแฟร้อนหอมฉุยลงให้ “ผมไม่รู้ว่าคุณใส่น้ำตาลหรือใส่ครีมไหม
เติมเองนะครับ”
“น้ำตาลซองเดียวไม่ใส่ครีม
จำไว้ด้วยก็ดีต่อไปจะได้ไม่ต้องถามอีก”
ทัตพลตอบสบาย ๆ
ขยับเนคไทเล็กน้อยพลางยกแก้วขึ้นจิบ เลื่อนหนังสือพิมพ์มาไล่ดูพาดหัวข่าวของวัน
ขณะที่ภูวดลคิ้วเริ่มกระตุกเหล่ตามองคนพูด
...ทำไมต้องให้จำไว้ด้วย??
ทำอย่างกับจะมากินบ่อย ๆ งั้นแหละ...
“เดี๋ยวผมจะออกไปตลาดหน่อย
ถ้าคุณจะกลับก็......
“ฉันไปด้วยสิ
ซีจะไปซื้อกับข้าวใช่ไหมเดี๋ยวฉันไปช่วยถือ”
เขารีบแทรกขึ้น ซดกาแฟรวดเร็วจบ ไม่รอฟังคำตอบจากอีกคนว่าจะอนุญาตหรือไม่ เดินออกไปสูบบุหรี่รออยู่ที่หน้าบ้าน
ภูวดลยิ่งงงหนักเข้าไปใหญ่ไหนเมื่อคืนเขาบอกว่าตอนเช้าจะรีบกลับ
แต่นี่จวนจะเจ็ดโมงอยู่แล้วเขายังไม่มีทีท่าว่าจะกลับเลยสักนิด
แล้วที่สำคัญแต่งตัวรูปหล่อมาดผู้ดีขนาดนี้จะไปเดินตลาดสดช่วยเขาถือของ??
“แค่ก..แค่ก..แน่ใจนะครับว่าจะไปด้วย
มันร้อนนะ” ภูวดลไอโขลกนิดหน่อย ทัตพลรีบทิ้งก้นบุหรี่ลงทันทีเขาใช้ปลายเท้าที่สวมรองเท้าหัวแหลมมันแผล็บบี้มัน
“โทษทีเธอแพ้รึเปล่า?”
“ไม่เป็นไรครับ
ว่าแต่คุณจะไปด้วยแน่เหรอมันร้อนจริง ๆนะ”
“เอากุญแจมาสิ
เดี๋ยวฉันขับให้ หรือจะไปรถฉัน” เขายื่นมือออกไปขอกุญแจรถจากอีกคนแทนคำตอบ
ภูวดลมองหน้าเขาชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ยอมส่งกุญแจรถให้ แน่นอนว่ารถคันเล็กสะดวกกว่าเป็นไหน ๆ
ไม่นานนักรถญี่ปุ่นคันเล็กสีขาวสะอาดก็มาจอดลงที่ตลาดสด
กว่าจะหาที่จอดได้ทัตพลต้องวนถึงสามรอบ
“ทีหลังไปซุปเปอร์ดีกว่านะ
ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องที่จอดรถ อาหารสดผักสดอะไรก็มีเหมือนกันนี่ เธอจะได้ไม่ลำบากไง”
“ที่นี่แหละครับดีแล้ว
ผมมาตั้งแต่เด็กไม่เห็นรู้สึกว่าลำบากอะไร คุณจะรออยู่บนรถก็ได้
ไม่ต้องตามลงไปหรอก”
“หึ
ไม่เอาอ่ะ ฉันมีของที่อยากกิน จะได้บอกให้เธอซื้อไปทำด้วย”
เขาว่าอย่างเอาแต่ใจไม่สนคนเดินข้างกันสักนิด ว่าจะเต็มใจทำให้ทานหรือเปล่า
ทัตพลชี้เอาโน่นเอานี่
จนภูวดลมองแล้วมองอีก ทั้งนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินทองเพราะเขาแย่งจ่ายก่อนเสียทุกครั้ง ผู้คนในตลาดต่างมองเขาเป็นตาเดียวทั้งบุคลิกรูปร่างและการแต่งตัว
เขาดูเหมือนนายแบบหนุ่มรูปหล่อไม่มีผิดเพี้ยน ไม่น่าจะพลัดหลงมาเดินตลาดสดต๊อกต๋อยแบบนี้ได้
นี่ถ้าไม่บอกว่าเขามีลูกที่โตเป็นหนุ่มแล้ว คงไม่มีใครเชื่อ ทั้งท่าทางนิสัยใจคอดูเหมือนเด็กหนุ่มคนอายุยี่สิบกว่าๆเท่านั้น
“ร้อนนน ไม่ไหวแล้ว ฉันไปอาบน้ำอีกสักรอบดีไหมนี่
ทำไมที่นี่ไม่ติดแอร์ล่ะมันร้อนมากเลยนะซี”
พอกลับมาถึงบ้านเขาก็บ่นนั่นนี่
รีบเอาหน้าไปจ่อพัดลมอย่างกับเด็ก ๆ
ภูวดลนึกไปถึงวาริทันทีร้อนเมื่อไหร่ทำแบบนี้ตลอด
เขามองดูคุณชายเจ้าปัญหาอีกครั้ง นึกสมน้ำหน้านิดๆมีอย่างที่ไหนใส่เชิ้ตแขนยาวฟิตเปรี๊ยะแถมผูกไทด์จนปิดคอหอยไหนจะแสลคฟิตๆนั่นอีก
ภูวดลแอบขำในใจ
“ซี ไอ้นี่น่ะ
อย่าเพิ่งทำนะ เดี๋ยวฉันจะกลับมากินตอนเย็น”
เขาลุกขึ้นมาจู้จี้อีกครั้ง
ชี้ๆบอก ภูวดลที่กำลังรื้อถุงอาหารสดผักสดออกมาถึงกับชะงัก “ค..คุณจะมาอีกหรือครับ”
“มาสิ
อุตส่าห์ซื้อมาตั้งเยอะ ติดใจกับข้าวฝีมือซีแล้ว ไม่รบกวนมากหรอกใช่ไหม”
เขาจ้องภูวดลเหมือนรอฟังคำตอบ แต่อีกฝ่ายดันเลี่ยงก้มหน้าก้มตาล้างผัก พยายามบอกตัวเองว่าต้องเข้าใจ
เขาคงเหงาเพราะมีปัญหาครอบครัวคงจะอยากได้เพื่อนสักคนไว้เป็นที่ระบายที่ปรึกษา
“มา ฉันล้างให้
ซีไปทำอย่างอื่นเถอะ” เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
เมื่อเห็นว่ายังไม่สายมากจึงอาสาช่วย แย่งผักมาล้างต่อ
“คุณไม่ไปทำงานหรือครับ
เดี๋ยวจะสายนะ” ภูวดลกะไล่ทางอ้อม
“ยังไม่ได้กินอะไรเลย
จะไปได้ยังไง ใจร้ายจังนะกะไล่ฉันทางอ้อมรึเปล่าเนี่ย” เขาพูดดักคอ ทำหน้าเจ้าเล่ห์รู้ทัน
“ป..เปล่าครับ
ผมแค่ถามดูเห็นคุณดูนาฬิกากลัวว่าคุณจะเข้างานสาย” ภูวดลแก้ตัวอึกอัก ทั้งที่ความจริงอยากไล่เขาใจจะขาด
“ฉันล้อเล่นน่า
ทำหน้าจริงจังตลอดเลยนะ อายุเพิ่งจะสามสิบสามแต่ดูทำหน้าเข้าสิ
เหมือนคนจะสี่สิบแล้ว”
“ใครจะไปหน้าอ่อนอย่างคุณกันล่ะครับ”
ภูวดลรีบสวน เขาค่อนข้างแสลงใจไม่ชอบให้ใครแซวเรื่องอายุ
ตั้งแต่เด็กเขามักจะโดนต่อว่า ว่าชอบทำตัวแก่กว่าวัยอยู่เสมอ ทั้งที่หน้าตาก็ไม่ได้แก่อะไร
“ครับๆโทษทีนะ
ไม่โกรธพี่ทัตใช่ไหม”
ทัตพลใช้น้ำเสียงทุ้มนุ่มเปลี่ยนสรรพนามตัวเองเรียบร้อย ก้มลงมองคนที่ยืนล้างผักใกล้ ๆ
ภูวดลหันไปถึงกับสะดุ้งรีบก้าวถอยหลังไม่รู้ตัว
ทัตพลหัวเราะร่ามีความสุขที่แกล้งอีกฝ่ายได้
วันนั้นทัตพลกลับมาอีกทีตอนเย็น เขาทานข้าวร่วมกับภูวดล เล่าเรื่องโน่นนี่ให้ฟัง ทั้งระบายปัญหาที่ทำงานและแผนงานคร่าว ๆ เรื่องรีสอร์ท เสร็จแล้วจึงปลีกตัวช่วยรดน้ำต้นไม้ขณะที่ภูวดลล้างจาน พอค่ำก็มานั่งดูอีกคนวาดรูป
จนกระทั่งดึกๆจึงกลับไปพักที่คอนโดส่วนตัว
********************************
(สั้นๆ^^)