บทที่7
“อ๊าา ธารๆ ฮ..อื้มม” เด็กหนุ่มใต้ร่างครางเสียงกระเส่า
“ธ...ธารเป็นอะไรอ่ะ
วันนี้ท่าทางแปลก...นะ” สองมือบรรจงลูบไล้แนวสันกรามของใบหน้าคมเข้มของคนที่กำลังเคลื่อนกายเข้าออกอยู่บนร่างกายของเขา
ทุกครั้งที่ธาราธารทำเหมือนจะจูบแต่พอก้มลงมาแล้วกลับละออกไปเสียดื้อๆ
ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
“อ๊าา....ธารจูบเต้หน่อย
จูบหน่อย..จูบ....” เมื่อใกล้จะถึงปลายทางเตเต้ร้องขอ
โน้มคอแกร่งลงมาใกล้ๆ ขณะที่ธาราธารกระแทกตัวถี่ยิบแต่ยังไม่ยอมก้มลงมอบจูบให้แก่คนด้านล่าง
“อ..อ๊าา..อ๊าาา.ธาร”
เมื่อส่งอีกฝ่ายจนถึงสวรรค์
ธาราธารกระแทกกายเข้าออกอีกไม่กี่ครั้งก็ตามเตเต้ไปติดๆ
เขาละตัวออกทันทีลุกขึ้นปลดถุงยางอนามัยทิ้งถังขยะจากนั้นก้มลงหยิบเสื้อผ้าที่กองเรี่ยราดอยู่ตามพื้นขึ้นมาใส่
สายตาคมกริบมองดูคู่ขาตนเองนอนหอบอยู่ที่เตียง
“กลับแล้วนะ เดี๋ยวจะล๊อคห้องให้นอนไปเลยก็ได้”
เขาหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาวางใบพันไว้ให้จำนวนหนึ่งก่อนหยิบโทรศัพท์ยัดใส่กระเป๋ากางเกงขณะสายตากำลังมองหากุญแจรถ
“เดี๋ยวสิธาร เป็นอะไรน่ะ
มานอนสิพรุ่งนี้ค่อยกลับนะ เหมือนทุกทีไง” เต้ลุกขึ้นมาดึงแขนธาราธารไว้ เขาทั้งเหนื่อยทั้งงัวเงียแต่ก็สงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นอะไรกันแน่
“เกิดอะไรขึ้นหรือไงเล่าให้เต้ฟังได้นะ
วันนี้ธารแปลกไปจริงด้วย ”
“เปล่าหรอก” ธาราธารก้มลงหยิบพวงกุญแจที่ตกอยู่
“ไม่เชื่อ
ธารไม่เคยเป็นแบบนี้ หรือว่าไปรักใครเข้าแล้วรู้สึกผิด ที่มานอนกับเต้แบบนี้”
ธาราธารหันขวับมองหน้าคนพูดทันที
“ไร้สาระ! จะเอาไหมเงินถ้าพูดมากจะเก็บคืนนะ”
“เอาดิ!
ไม่ถามแล้วก็ได้ คนอุตสาห์หวังดี”
เสียงบ่นงึมงำไล่หลังของคนที่รีบคว้าใบพันปึกนั้นไว้กับตัว
“จะไม่มาสักพักนะ” เขาพูดอย่างเย็นชาแล้วเดินออกไปทันที เสียงเขวี้ยงอะไรสักอย่างหลังบานประตูนั่น
แต่ธาราธารก็ไม่ได้ใส่ใจ
เด็กหนุ่มสตาร์ทรถแล้วถอนใจ
ห้าทุ่มแล้วแต่เขายังอยู่ในชุดนักศึกษา เมื่อข่มตาลงนึกย้อนกลับไปขณะกำลังทำกิจกรรมร่วมรักกับคู่ขาเมื่อครู่
มีอย่างที่ไหนพอแทรกลิ้นจูบลงไปจิตใจดันนึกไปถึงช่วงเวลาที่จูบกับวารินเมื่อเช้าขึ้นมาเสียอย่างนั้น
เขารีบถอนจูบออกมาแทบจะไม่ทัน พอตั้งสติใหม่คิดจะลองดูอีกครั้งความรู้สึกต่อต้านของร่างกายดันออกฤทธิ์พาลจะหมดอารมณ์ไปเสียดื้อๆ
ทำเอาเขาต้องหลับหูหลับตาซอยถี่ยิบให้เสร็จไวๆอารงอารมณ์หายหมด
พอกลับมาถึงห้องเขาจัดการถอดเสื้อผ้าออกเกลี้ยงคว้าเอาผ้าเช็ดตัวมานุ่งแล้วหยิบโทรศัพท์มากดหาวารินทันที
“ครับธาร”เสียงใสดังขึ้นที่ปลายสาย
“พี่ใช้วีดีโอคอลดิ๊”
“ห๊ะ?
อะไรทำไมอ่ะ” ถึงจะถามไปแบบนั้นวารินก็ยอมจิ้มโหมดวีดีโอคอลคุยกับเขาอยู่ดี
“ทำไมยังอยู่ที่โรงแรม”
ธาราธารคิ้วขมวด วารินยิ่งตกใจเมื่อเห็นเขานั่งโชว์หน้าท้องตึงเปรี๊ยะอยู่ในจอโทรศัพท์มือถือ
“ทำงานดิ
มีอะไร”
“หิวข้าว” เขาตอบไปเรียบ
ๆ พร้อมปรับมุมกล้องใหม่ คราวนี้ให้เห็นแค่ใบหน้ากับหน้าอกของเขาเท่านั้น
“อ้าวทำไมยังไม่กินอ่ะ
ไปทำให้ไม่ได้นะวันนี้ทำงาน ธารมีธุระอะไรรึเปล่า”
วารินชักสงสัยว่าอีกฝ่ายกำลังตั้งใจจะทำอะไรกันแน่
นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวมาคุยโทรศัพท์กับเขาเดี๋ยวโชว์ซิกแพ็ค เดี๋ยวโชว์ไหล่ เดี๋ยวโชว์หน้าอกฟิตๆนั่น
“ไม่มีหรอกแค่นี้นะ
อ้อ..ค่อยเจอกันวันศุกร์เลยช่วงนี้ผมเรียนตลอดพี่ไม่ต้องแวะมาก็ได้”
“ครับผม
ช่วงนี้งานที่โรงแรมก็ยุ่งมีจัดเลี้ยงรับรองตลอดเลยพี่เองก็ไม่ค่อยจะว่าง ธารดูแลตัวเองไปก่อนนะครับ”
วารินส่งยิ้มแป้นแล๊นหน้าอย่างใหญ่ลงไปที่หน้าจอ
ทำเอาธาราธารกลั้นขำอยู่คนเดียว พอวางสายเสร็จเขาก็เดินผิวปากอารมณ์ดีเข้าห้องน้ำไป
สายน้ำเย็นฉ่ำภายใต้ฝักบัวลาดรดลงบนศีรษะได้รูป เขายันแขนข้างหนึ่งไว้กับผนังแล้วเริ่มคิดวนเวียนไปมา
เขาจัดมุมกล้องแบบนั้นทำไม?
แค่ได้ยินเสียงอีกฝ่ายอย่างนั้นหรือ?
“อ่าา....พี่ทราย...”
เขาแทบไม่อยากเชื่อกับเสียงครวญครางของตนเองขณะที่มือขวารูดรั้งแก่นกายเร่าร้อนด้วยความรวดเร็วประหนึ่งไม่ได้เอาออกมาเป็นอาทิตย์ทั้งที่เพิ่งทำไปไม่ถึงสองชั่วโมงด้วยซ้ำ
น้ำรักสีขาวขุ่นพุ่งเลอะเปรอะผนังมากมายเสียจนเขาตกใจ
พอๆกับอารมณ์ที่พีคสุดขีดยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เมื่อนึกไปถึงช่วงเวลาที่ได้จูบไซ้ชอนไชซอกคอหอมหวานของวารินเมื่อเช้า
“อาา..” ธาราธารแทบคลั่งสะโพกสอบเกร็งจัดขณะมือยังสาวแท่งร้อนเข้าออกไม่ยอมหยุด
ดวงตาคมหลับตาพริ้มแล้วจินตนาการถึงใบหน้าเล็กนั่น รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ
เรียวลิ้นนุ่มนิ่มที่หลบหลีกเขาไปมาอยู่ในโพรงปากอุ่นร้อนนั่น ริมฝีปากเล็กๆที่อ้าค้างเวลาที่เขาทำให้ตกใจ
และเรียวปากนั่นกำลังเผยอรอรับการปลดปล่อยของเขาอยู่ เขาหลับตาแน่นแอ่นสะโพกเด้งเข้าเด้งออกขณะที่มือยังขยับสาวไม่ยอมหยุดเดี๋ยวช้าเดี๋ยวเร็วดึงเวลาเพื่อให้ร่างกายรับความสุขสมเต็มที่
“พี่ทรายยย....อืมม...อ่าา...” เสียงทุ้มต่ำครางยาวเรียกชื่ออีกคนไม่ขาดปาก
เขากระตุกสองสามทีก่อนทรุดตัวนั่งลงที่ขอบอ่าง ใบหน้าคมซบลงที่ฝ่ามืออย่างสิ้นเรี่ยวแรง
ไม่ได้...เขาจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้
เขาจะต้องจัดการความรู้สึกตัวเองให้จบก่อนที่วารินจะมาอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้
.
.
“นี่! ไม่คิดจะทักกันจริงอ่ะ”
แรงสะกิดเรียกจากด้านหลังทำให้ธาราธารหันกลับไปดู
“นั่งด้วยคนสิ”
ชนาธิปเดินอ้อมลงมาอีกขั้นเพื่อจะมานั่งฟังบรรยายข้างกันกับธาราธาร
“ธาร นายเก่งรึเปล่า”
ตากลมโตกวาดมองสมุดหนังสือที่อยู่บนโต๊ะของอีกฝ่ายอย่างประเมิน
“ไม่รู้สิ”
ธาราธารตอบนิ่งๆ
“เราชอบนายนะเป็นตัวของตัวเองดี
ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำอันไหนที่ไม่อยากทำก็กล้าที่จะปฏิเสธออกมาตรงๆ”
ชนาธิปส่งยิ้มกว้างขณะกำลังจะพูดต่ออาจารย์ประจำวิชาก็เดินเข้ามาพอดี
พอถึงช่วงพักเบรกชนาธิปยังหาเรื่องคุยกับอีกฝ่ายไม่หยุดจนธาราธารทนไม่ไหวเขาขอให้ฟ่างเพื่อนที่นั่งข้าง
ๆ และเป็นรูมเมทในหอพักหลอกๆของเขาเข้ามาสลับนั่งแทน
“โหเบื่อเราขนาดนั้น?”
ชนาธิปเบะปากแอบบ่น
“ธารมันเป็นคนเข้าใจยากน่ะ
นายไม่ต้องไปสนใจมันหรอก”ฟ่างปลอบ
“งั้นเราคุยกับนายแทนก็ได้
เราชื่อธิป ชนาธิป SCCH นะนายอ่ะ”
“เราข้าวฟ่าง เรียกแค่ฟ่างก็ได้ SI เหมือนธาร เราคุยได้แต่ตอนนี้นะพอเริ่มเรียนแล้วเราไม่คุย”
“ครับๆทราบแล้วคราบคุณฟ่าง”
ชนาธิปคุยกับข้าวฟ่างแต่สายตายังคงแอบมองธาราธารเป็นระยะ
ยิ่งเห็นอีกฝ่ายไม่สนใจเขายิ่งรู้สึกท้าทายขึ้น
หลังเรียนเสร็จชนาธิปรีบวิ่งตามธาราธารมาที่รถ
“นี่ธารเดี๋ยวก่อนสิ
ขายาวจริง ๆ เราเดินตามไม่ทันนะเนี่ย แฮ่กๆๆ”
เขาทั้งพูดทั้งหอบหายใจซ้ำร้ายหนังสือสมุดที่อยู่ในนั่นอีก
“ธารมีเรียนต่ออีกรึเปล่า”
“มีอีกทีตอนเย็น หมดธุระแล้วใช่ไหม หลีก!”ธาราธารทำท่าจะก้าวขึ้นรถแต่ชนาธิปรีบเข้ามาดึงแขนไว้
“พาเราไปด้วยสิ ธารจะไปไหนน่ะ”
ธาราธารใช้สายตามองดูชนาธิปอย่างพิจารณา
คนๆนี้นั่งมองเขามาตั้งแต่วันปฐมนิเทศแม้กระทั่งตอนนั่งเรียนตากลมๆคู่นั้นยังเอาแต่จ้องมองเขาไม่ห่าง
สายตาที่มองมาทำท่าทางอย่างกับรู้จักคุ้นเคยกันมานานอย่างไรอย่างนั้น
“ทำไม?”
เมื่ออีกฝ่ายถามขึ้นทั้งสั้นทั้งห้วน
ชนาธิปรีบหลบสายตาคมนั่นทันที
“อ....อะไรเหรอ”
“ทำไมนายต้องมาตามติดฉัน
เรารู้จักกัน?”
“ธารทำไมพูดแบบนี้ก็เราเป็นเพื่อนกันแล้วไงไม่รู้ล่ะวันนี้ธารไปไหนธิปไปด้วย”
ชนาธิปไม่พูดเปล่าเขาเปิดประตูรถสปอร์ตคันเล็กของธาราธารแล้วขึ้นไปนั่งรอทันที
ธาราธารได้แต่ส่ายหัวก่อนก้าวขึ้นรถปิดประตูอย่างดังแล้วขับตรงออกไป
รถเลี้ยวเข้ามาจอดลงหน้าร้านอาหารในซอยเล็กด้านหลังมหาวิทยาลัย
หอในของนักศึกษามากมายตั้งอยู่ในซอยแห่งนี้
ธาราธารเดินเข้าไปนั่งลงที่โต๊ะประจำทันที
“ว่าไงครับคุณหมอธาร
วันนี้เปลี่ยนเด็กอีกแล้วดิ่” แจ๊บEG เด็กหนุ่มเจ้าของร้านยังคงคอนเซปปากดีเหมือนเดิม
เขายื่นเมนูให้กับชนาธิปที่เพิ่งนั่งลงข้างๆธาราธาร
“แหมๆวันก่อนเล่นวัยผู้ปกครอง
วันนี้กลับมาควงรุ่นเดียวกันแล้วโว๊ย เจ๋งว่ะสมแล้วที่เป็นรุ่นน้องกู” แจ๊บลากเสียงกระซิบกระซาบแต่สายตาจดจ้องอยู่ที่คนตรงข้ามธาราธาร
และเสียงพูดเขาดังมากจนชนาธิปยังเหล่มอง
“พูดมาก พี่เหอะไม่ไปเรียนรึไงมากี่ทีก็เห็นอยู่เฝ้าร้านนะ
หรือว่าลาออกแล้ว”
“ปากหมาเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
กูไม่ได้ลาออกเว้ยแต่อาทิตย์แรก โดด! ตกลงมึงกินอะไร? แล้วเนี่ยๆเขากินไรอ่ะสั่งให้เขาดิมึงไอ้ธาร” แจ๊บชี้ๆไปที่ชนาธิป
“อะไรก็ได้เอามาเหอะ”
“เออไอ้อะไรก็ได้ของมึงเนี่ยมันยากยิ่งกว่ารายชื่ออาหารทั้งหมดในเมนูกูอีกนะ
แล้วของน้องล่ะครับรับเป็นอะไรดี” แจ๊บแจกยิ้มการค้าให้ชนาธิปเต็มที่
“เอาเหมือนของธารก็ได้ครับ”
“แหมๆหวานกันจังนะ
ระวังไว้หน่อยล่ะไอ้ธารมันเจ้าชู้วันก่อนนะมันยังควง....”
“พี่แจ๊บไปได้แล้วผมหิว”
ธาราธารดักคอขึ้น
เขาขยับเน็กไทด์คลายออกเล็กน้อย ชนาธิปเองก็พลอยทำตามไปด้วย เขาเองก็ร้อนเหมือนกันรู้สึกแอร์ร้านนี้ไม่เย็นเลยสักนิด
“นี่วันก่อนพาใครมาอ่ะ
แฟนเหรอ” ชนาธิปชะโงกหน้าเข้ามาถามใกล้ ๆ ธาราธารเหลือบมองคนพูดนิดหน่อยแล้วหันหน้าไปทางอื่น
ไม่ตอบ
“อยากเห็นจังเลยน้า
สวยป่ะ”
เขามองดูท่าทางลอยหน้าลอยตาของชนาธิปแล้วดันนึกไปถึงวาริน
ดวงตากลมโตใสแจ๋วเหมือนเด็กๆ ปากเล็กๆขยับเอื้อนเอ่ยเดี๋ยวยู่เดี๋ยวเม้มแน่น ใบหน้าหลากหลายอารมณ์เวลาที่ต่อบทสนทนากับเขา
....ตลก....
“สวยอ่ะดิ
ยิ้มใหญ่เชียวนะ” พอถูกแซวมาแบบนี้ธาราธารหุบยิ้มแทบไม่ทัน
เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเผลอยิ้มออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่
...นี่มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว...
“นายมีเรียนอีกตอนไหน”
หลังทานอาหารกันเสร็จธาราธารถามขึ้น
“พร้อมธารนั่นแหละ
แล็บเคมีตอนเย็น ทำไมเหรอจะชวนไปไหนรึไง”
“เปล่า ฉันจะไปส่งนายตอนนี้เลย”
“ไม่เอาๆ
ธิปบอกแล้วไงวันนี้ธารไปไหนธิปไปด้วย” ชนาธิปรีบวิ่งขึ้นไปนั่งบนรถใส่เข็มขัดนิรภัยเรียบร้อยเมื่อเห็นว่าธาราธารจะทิ้งตนไว้
ธาราธารเดินเข้าไปลาเด็กหนุ่มเจ้าของร้านเขาก็เดินมานั่งในตำแหน่งคนขับทันที
“จะกลับไปนอน
แน่ใจเหรอว่าจะไปด้วย”
“เอาดิ
ธิปเองก็ง่วงเหมือนกันไปนอนที่ไหนกันดี ห้องธารเหรอ หรือจะไปห้องธิป”
เขาตีไฟเลี้ยวแล้วจอดลงข้างทางหันมามองชนาธิปอย่างจริงจัง
“นายพูดแบบนี้รู้ไหมฉันตีความหมายว่าอะไร”
“อ...อะไร”
ชนาธิปทำหน้างง
“ช่างเถอะ
เดี๋ยวจะไปส่งนายก่อนละกัน”
ธาราธารถอนใจเฮือกใหญ่
เขายังไม่อยากมีสัมพันธ์พิเศษกับคนแปลกๆที่จู่ๆก็มาตามติดเขา ขึ้นชื่อว่าเป็นเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันแค่วันเดียวซ้ำยังต้องเรียนด้วยกันไปอีกเป็นปี
ชายหนุ่มเลี้ยวรถกลับเข้าเขตอาคารเรียน
“ธารไม่เอานะก็บอกแล้วไงวันนี้ธารไปไหนเราจะไปด้วย
ธารให้ธิปไปด้วยนะๆๆ ธิปยอมตามใจธารทุกอย่างเลย”
คราวนี้ชนาธิปไม่พูดเปล่าแล้วเขาโน้มตัวเข้ามาซบต้นแขนธาราธารไว้แน่นตามประสาเด็กขี้อ้อน
“ก็ได้ๆธิปสารภาพแล้วธิปแค่อยากให้ธารสอน
ธิปอยากเป็นให้ได้อย่างธารกล้าคิดกล้าทำกล้าที่จะปฏิเสธเวลาที่ชอบหรือไม่ชอบอะไร
ธิปชื่นชมธารมาตั้งแต่วันที่เราเจอกันวันแรกแล้ว คิดว่าถ้าอยู่ใกล้ๆธารแล้วธิปอาจได้นิสัยแบบนี้มาไว้บ้างอยากจะกล้าที่จะปฏิเสธ....ใครต่อใครบ้าง”
ชนาธิปพูดเสียงอ่อนและเริ่มขาดหายในตอนท้าย
เขาอ่านสายตาที่อีกฝ่ายก้มมองลงดูเขาอย่างคลางใจออกเพราอย่างนั้นเขาจึงจำใจสารภาพออกไป
เพื่อให้ได้อยู่ใกล้ชิดกับคนที่เขาชื่นชม
“ธารเป็นไอดอลของธิปเลยนะ
ธิปน่ะ......”
“ลงไป” รถจอดลงที่หน้าตึกเดิมธาราธารพูดเสียงเย็นชา และด้วยสีหน้านิ่งๆของเขาทำเอาชนาธิปกลืนน้ำลายอึกใหญ่ไม่กล้าต่อบทสนทนาอีก
แต่ร่างเล็กกว่าก็ดื้อดึงจะนั่งอยู่บนรถต่ออยู่ดี
“ถ้านายยังพูดไม่รู้เรื่อง
อย่ามาหาว่าฉันไม่เตือนนะ”
เขาทิ้งเวลาให้อีกฝ่ายนานถึงสิบนาทีชนาธิปก็ยังไม่ยอมก้าวลงไป
ธาราธารกระชากเกียร์แล้วขับออกถนนใหญ่อย่างรวดเร็วอีกครั้ง
.....ในเมื่อพูดดีๆไม่ชอบ......
“จะอาบน้ำก่อนไหม”
ทันทีที่ไขประตูห้องพักเข้ามาธาราธารก็พูดขึ้น ชนาธิปถึงกับยืนอ้าปากค้าง
“ท....ทำไมไม่ไปที่ห้องธารล่ะนี่มันโรงแรมไม่ใช่รึไง”
หนำซ้ำยังเป็นโรงแรมจิ้งหรีดเล็กๆข้างทาง ชนาธิปมองดูธาราธารที่เริ่มดึงเนคไทออกแล้วปลดกระดุมเสื้อตัวเองลงทีละเม็ด
ทีละเม็ด
“ล...แล้วทำไมต้องอาบน้ำ”
เขาเริ่มหน้าเสียหันซ้ายหันขวามองกระจกแผ่นใหญ่บนฝ้าเพดานและผนัง
“งั้นก็ไม่ต้องอาบทำเลยแล้วกัน”
ธาราธารนั่งลงที่ปลายเตียงดึงแขนชนาธิปกระชากเข้าหาตัวแล้วกดลงที่เตียงใหญ่
“ไม่จูบนะ”เสียงทุ้มเรียบสนิท ชนาธิปตาตั้งเมื่อธาราธารเริ่มฝังปลายจมูกโด่งลงที่ซอกคอเขา
มือขาวสะอาดสาละวนอยู่กับกระดุมเสื้อของคนตัวเล็กอย่างชำนาญ
“ธาร!” เด็กหนุ่มเสียงสั่นคว้าจับข้อมืออีกฝ่ายไว้แน่น
ชนาธิปจ้องมองคนที่คร่อมอยู่บนร่างเขาอย่างไม่เข้าใจ
“จะทำอะไร? ธิปเป็นผู้ชาย
ธารเองก็...”
“รู้อะไรไหม? คนบางคนแค่มองก็รู้แล้วว่าเป็นประเภทไหน
ยกตัวอย่างเช่น ‘นาย’ หลงรักฉันตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอเลยสิท่า”
เขาลากเสียงยิ้มๆที่ริมหูเล็กนั่น ตั้งใจส่งเสียงดูถูกเต็มที่
ขณะที่ตาก็หรี่มองอีกฝ่ายอย่างรู้ทัน
......คนอย่างนายมันดูง่ายชะมัด ชื่นชมฉันเสียขนาดนี้คงอยากนอนกับฉันจนตัวสั่นล่ะสิ.....
“ไหนบอกว่าอยากอยู่ใกล้ๆฉันไง
ถ้าทำแบบนี้จะได้อยู่แนบชิดติดกันเลยนะ หรือว่าไม่อยากอยู่ใกล้ฉันแล้ว”
“ต...แต่เราเป็นเพื่อนกัน
ธารเป็นเพื่อนธิป เรา....”
“เซ็กส์เฟรนไง
จะเอาหรือไม่เอา นายเลือกเองเถอะ” ธาราธารเท้าแขนดันตัวให้สูงขึ้น
เซ็กส์เฟรน? ชนาธิปทวนคำในใจ
ธาราธารพูดไม่ผิดเขาหลงรักชายหนุ่มตั้งแต่วันปฐมนิเทศนั่นแล้ว
เพียงแต่เขาแค่ปลอบใจตัวเองว่าทุกอย่างที่เขาคิดเป็นเพียงแค่ความชื่นชม ปลาบปลื้มรูปกายภายนอกของอีกฝ่าย
ถึงแม้ว่าจะรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้ๆ
เวลาที่มองเห็นใบหน้าคมคายเฉยเมยกับทุกสิ่งรอบตัวไม่ใยดีกับสิ่งที่คนอื่นๆหยิบยื่นให้ราวกับว่าไม่มีอะไรสำคัญมากไปกว่าสิ่งที่เจ้าตัวต้องการจริงๆเท่านั้น
ชนาธิปรู้สึกว่าธาราธารเป็นคนที่มีเสน่ห์เอามากๆ
“ธาร....”
เขาเรียกอีกฝ่ายด้วยเสียงที่เบาหวิว
ยกสองมือคล้องคอคนที่คร่อมทับตัวเขาเอาไว้
.....เขาตัดสินใจแล้ว....
ชนาธิปอยากจะเข้าใกล้คนๆนี้มากขึ้นไปอีก เขาคิดว่าถ้าตนเองได้เป็นส่วนหนึ่งของธาราธารแล้วล่ะก็
ธาราธารจะเปิดใจให้เขาได้เข้าไปใกล้ตัวตนที่แท้จริงยิ่งขึ้นบ้างไหม
“ธาร...”
เสียงเบาหวิวเรียกขึ้นอีกครั้ง ชนาธิปหลับตาลง เผยอปากคิดรอรับจูบด้วยความเต็มใจ
“นายนี่มันใจง่ายจริงๆนะ”
หัวใจดวงเล็กหล่นวูบ
จู่ๆธาราธารผละออกจากตัวเขา แล้วก้มลงไปฉวยเอาเนคไทหยิบเอาพวงกุญแจที่อยู่บนโต๊ะเดินออกจากห้องไปเสียดื้อๆ
ชนาธิปรีบวิ่งตามออกมายังติดกระดุมเสื้อไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ
ธาราธารนั่งรออยู่บนรถก่อนแล้ว
“ท...ทำไม
ทำไมถึงไม่ทำล่ะ” ถึงเขาจะอายแต่ก็อยากรู้
“ยังไม่คิดจะเอาเพื่อนตัวเองทำเมียหรอกนะ”
ธาราธารตอบเรียบๆ
เขาเลี้ยวรถเข้าเขตมหาวิทยาลัยอีกครั้งแล้วส่งชนาธิปลงในจุดที่อีกฝ่ายชี้บอก
.
.