บทที่ 1
“กูขอโทดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”
เสียงไอ้โป้งเพื่อนผมครับ ตอนนี้มันทำหน้าตลกสุด ๆ
พร้อมกับยกมือไหว้ท่วมหัวปรก ๆ
“........” เงียบครับ เรื่องอะไรผมจะตอบ
“โน่ มึงอย่าโกรธดิวะ กูไม่รู้จริง ๆ นะเว้ย ว่าแม่งจะโทรจิกมึงเงี้ย”
ผมไม่ตอบมันหรอก แกล้งมัน ให้มันนอยด์เล่น ชอบเอาเบอร์ผมไปแจกมั่ว ๆ แมร่งสาวมาป้อเข้าหน่อยเสือกแจกเบอร์ผม คราวนี้ผมไม่ยอมแล้วครับ ยอมมันมาตลอดยอมตั้งแต่ม 4 จนตอนนี้เรียนมหาลัย ดันเข้าที่เดียวกันได้อีก แต่ฟางเส้นสุดท้ายของผมหล่นแล้วล่ะครับ
อยากรู้ไหมว่าทำไม ...... ไอ้โป้งมันหล่อครับ หล่อเหี้ย ๆ เลย ตัวมันสูงพอ ๆ กับผมนี่ล่ะครับ แถมก่อนเปิดเรียนมันไปโกรกผมเป็นสีทองแล้วเซตตั้งขึ้น โครตตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมันเลยอ่ะ ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมครับว่ามีสาว ๆ เข้ามาหามันเยอะขนาดไหน แต่คิดแล้วทุเรศครับ คนไหนที่เข้าหามันก่อนมันจะให้เบอร์ผมไปแทน ทีคนที่มันชอบล่ะก็นะ ......เบอร์มึงง่ะ..... งานเข้าสิครับผมอ่ะ จะนั่งจะนอนก็มีแต่เสียงโทรศัพท์รำคาญมาก ๆ ปิดเครื่องแม่งเลย พี่ชายสุดที่รักดันโทรมาพอดี มีปัญหาเรื่องนี้มานานแล้วครับ หาว่าผมชอบปิดเครื่อง คุย ๆ อยู่มีแต่สายซ้อน ผมล่ะจะบ้า ไม่ใช่ของผมทั้งนั้น(เหรอ) พี่บ้ามันเลยงอนผม นั่นแหละครับ....ฟางเส้นสุดท้าย.....
“เฮ้ย” เสียงไอ้หัวทองนั่นแหละเรียก
“เฮ้ย......หายงอนแล้วใช่ป่ะ” ไม่ถามเปล่า แถมใช้ข้อศอกเขี่ย ๆ
“......”
“มึง เงียบทำไมอ่ะ”
“......”
“โน่ครับ โป้งขอโทษ นะนะ” สายตาอ้อนวอนเชียวนะมึง ผมแอบยิ้มในใจ
“เอ้อออออออออออออออออออ” ตัดรำคาญครับ จริง ๆ ผมแค่แกล้งมัน ฮ่า ฮ่า
“ป่ะ ขึ้นเรียน” ผมพูดพร้อมเก็บสมุดหนังสือที่วางอยู่ลงกระเป๋าสะพายแล้วเดินขึ้นตึกเรียนไปพร้อมกับมัน
.........
เข้าคลาสมาได้สักพัก ตอนนี้เริ่มมีอารมณ์แล้วครับ (อย่าเข้าใจผิด อาจารย์เข้าช้า ผมเลยเริ่มหงุดหงิด หึหึ) แถมไอ้ห่าหลังห้องหน้าตากวนตีน ยังนั่งสปีคอิงลิชใส่มือถือสุดชิคของมันอีกต่างหาก แมร่งพูดห่าอะไรฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่อง แต่เสียงมันเข้าหูผมตลอดอ่ะ ผมว่าคนอื่นก็คิดเหมือนกันแหละ เพาระแอบเห็นคนในห้องมองมันเยอะมาก (จริง ๆ มันหล่อมากครับ พูดเรื่องนี้แล้วแม่งเซ็ง เรื่องความหล่อไม่เข้าใครออกใคร ผมยอมแค่ไอ้โป้งคนเดียวมาตลอด ไม่คิดว่าเจอมันแล้วอันดับผมจะร่วงลงมาอีก ) แล้วไอ้นี่ก็นั่งทำเท่อยู่นั่น ไม่ได้สนใจคนรอบข้างเล้ย จนอาจารย์เข้านั่นล่ะครับมันถึงหยุดโทร
.........
“กูเบื่อ” ผมพูดเมื่ออาจารย์สอนจบและเดินออกไปแล้ว
“ห๊ะ?” ไอ้โป้งรับคำเล็กน้อยก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกหาบรรดาแฟน ๆ มัน รายงานตัวเมื่อเรียนเสร็จมันว่างั้น
"ไปหาไรแดกเหอะ” เก็บของเข้ากระเป๋ามือถือก็สั่นเอาสั่นเอาเบอร์แฟน ๆ ไอ้โป้งนั่นล่ะครับ สาว ๆ มันคงรู้ว่ามันเลิกกี่โมง กำลังจะเดินออกจากโต๊ะแล็คเชอร์แล้วครับ
แต่.....ผมทำเรื่องเหลือเชื่อครับ ขามันไปเอง ผมไม่ได้ตั้งใจนะ .......ไอ้หล่อหลังห้องนั่นเดินผ่านโต๊ะผมพอดี ผมก็เลย..........
ตอนนี้มันคุกเข่าลงข้าง ๆ ตัวผมแล้ว ดีนะที่มือมันคว้าโต๊ะผมไว้ได้ซะก่อน ไม่งั้นล่ะก็ได้เห็นสุดหล่อหัวทิ่มแน่(ผมแอบหัวเราะในใจ ฮ่า ฮ่า ) หมั่นไส้มัน โทษฐานที่มันเก่งกว่าผม หล่อกว่าผม (มั้ง) แถมยังเพิ่งเห็นหัววันนี้วันแรกตั้งแต่เปิดเรียนมา (จริง ๆ แค่อาทิตย์เดียว) แกล้งแม่งซะเลย!!
“อ้าว มึง ลุกขึ้นดิวะ เป็นไรมากป่ะ” คนผิดต้องชิงลงมือก่อนครับ ฮ่า ฮ่า
หันซ้ายหันขวา ไอ้โป้งแม่งยืนคุยโทรศัพท์รออยู่หน้าห้องแล้ว
ไอ้หล่อมันลุกขึ้นมาแล้วครับ แถมกำลังจ้องผมอยู่ สายตาโคตร ๆ อ่ะ
“มึง” เสียงมันเย็นสุดยอดเลยครับ มีเรื่องแน่เลยกู แต่ทำใจดีสู้เสือไปก่อน
“ก...กูทำไม ? ”
“มึงไม่รูดซิป!” มันพูดได้หน้าตายมากกกก
ปฎิกิริยาผมเร็วเลยครับ มือซ้ายรีบคลำที่เป้ากางเกงทันที พร้อมก้มหน้าซีด ๆ ลงไปดู
แต่ยังไม่เร็วเท่ากับเสียงกระซิบของมันที่ดังอยู่ชิดใบหูผมเหลือเกิน
“กูหมายถึง.....ซิปกระเป๋ามึงอ่ะ! หึหึ ”
ไอ้ห่าาาาาาาาาาาาา!!!!
มันเดินอมยิ้มออกไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนผมอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี เพราะโดนมันหลอกครับ
.........
........
“เหี้ยโป้ง มึงจะรีบเดินไปไหนวะ หิวนักรึไงมึงอ่ะ กูเหนื่อยนะเว้ย” ผมทั้งวิ่งทั้งเดินกลัวตามมันไม่ทัน
“......”
มันไม่ตอบผมหรอกครับตอนนี้มันกำลังโทรคุยกับน้องนาว เด็กใหม่มันอยู่ ชี้มือชี้ไม้ว่าวันนี้แยกกันไปกิน ทั้งที่ผมเดินตามมันมาที่รถแล้วเนี่ยนะ ไอ้ห่ากว่าจะบอกกูนะมึง ดีนะที่รถผมจอดอยู่ตึกนี้เหมือนกัน ไม่งั้นมีงอนอีกรอบแน่ แถมชี้ไม้ชี้มือเสร็จทำท่าจะขึ้นรถเลย ไอ้ทุเรดดดดได้แฟนลืมเพื่อนนะมึงนะ
“แล้วเย็นนี้ว่าไงวะ” ผมออกเสียงเบา ๆ ให้มันพอได้ยิน
“เออ เดี๋ยวกูไปรับ” มันพูดออกมาทั้งที่กำลังโทรอยู่เนี่ยนะ (น้องนาวมึงคงพอใจหรอก)
หลังจากมันขับรถออกไปแล้ว ผมก็เดินเตร็จเตร่ไปที่ซุ้มโค๊กของตึกนี้หน่อย หิวน้ำครับ ได้ชาขาวเก็กฮวยสักขวดคงดี ผมชอบครับหวาน ๆ ดี ซื้อเสร็จก็เดินซดไปเรื่อย ตรงไปที่รถ วันนี้ไม่มีเรียนบ่ายกลับคอนโดเลยละกัน ข้าวเหรอ......กำลังคิดเพลิน ๆ
ปิ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!
“แม่ง! โคตรพ่อ กูตกใจหมด” ผมตกใจสุด ๆ เลยครับ รีบหลบไอ้รถบ้าที่อยู่ข้างหลังเข้าข้างทางทันที ผมว่าผมไม่ได้เดินกลางถนนนะ แล้วมาบีบแตรในมหาลัยแบบนี้ คนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ตามม้าหินอ่อน หันมามองกันหมด ไอ้ห่า ! อยากรู้จริงใครวะ ไม่มีมารยาทเลย
ยังไม่ทันได้คิดอะไรเป็นรูปเป็นร่าง ไอ้เจ้าของรถแอคคอร์ดดำคันนั้นมันค่อย ๆ เลื่อนกระจกลงขณะที่กำลังเคลื่อนรถผ่านตัวผมไปอย่างช้า ๆ มันหันมามองหน้าผมพร้อมสายตาเหยียด ๆ ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วก็ขับเลยผ่านไปอย่างรวดเร็ว
แหม่ะ!!!! เท่ตายล่ะมึง !
Tbc.
“........” เงียบครับ เรื่องอะไรผมจะตอบ
“โน่ มึงอย่าโกรธดิวะ กูไม่รู้จริง ๆ นะเว้ย ว่าแม่งจะโทรจิกมึงเงี้ย”
ผมไม่ตอบมันหรอก แกล้งมัน ให้มันนอยด์เล่น ชอบเอาเบอร์ผมไปแจกมั่ว ๆ แมร่งสาวมาป้อเข้าหน่อยเสือกแจกเบอร์ผม คราวนี้ผมไม่ยอมแล้วครับ ยอมมันมาตลอดยอมตั้งแต่ม 4 จนตอนนี้เรียนมหาลัย ดันเข้าที่เดียวกันได้อีก แต่ฟางเส้นสุดท้ายของผมหล่นแล้วล่ะครับ
อยากรู้ไหมว่าทำไม ...... ไอ้โป้งมันหล่อครับ หล่อเหี้ย ๆ เลย ตัวมันสูงพอ ๆ กับผมนี่ล่ะครับ แถมก่อนเปิดเรียนมันไปโกรกผมเป็นสีทองแล้วเซตตั้งขึ้น โครตตัดกับสีผิวขาว ๆ ของมันเลยอ่ะ ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมครับว่ามีสาว ๆ เข้ามาหามันเยอะขนาดไหน แต่คิดแล้วทุเรศครับ คนไหนที่เข้าหามันก่อนมันจะให้เบอร์ผมไปแทน ทีคนที่มันชอบล่ะก็นะ ......เบอร์มึงง่ะ..... งานเข้าสิครับผมอ่ะ จะนั่งจะนอนก็มีแต่เสียงโทรศัพท์รำคาญมาก ๆ ปิดเครื่องแม่งเลย พี่ชายสุดที่รักดันโทรมาพอดี มีปัญหาเรื่องนี้มานานแล้วครับ หาว่าผมชอบปิดเครื่อง คุย ๆ อยู่มีแต่สายซ้อน ผมล่ะจะบ้า ไม่ใช่ของผมทั้งนั้น(เหรอ) พี่บ้ามันเลยงอนผม นั่นแหละครับ....ฟางเส้นสุดท้าย.....
“เฮ้ย” เสียงไอ้หัวทองนั่นแหละเรียก
“เฮ้ย......หายงอนแล้วใช่ป่ะ” ไม่ถามเปล่า แถมใช้ข้อศอกเขี่ย ๆ
“......”
“มึง เงียบทำไมอ่ะ”
“......”
“โน่ครับ โป้งขอโทษ นะนะ” สายตาอ้อนวอนเชียวนะมึง ผมแอบยิ้มในใจ
“เอ้อออออออออออออออออออ” ตัดรำคาญครับ จริง ๆ ผมแค่แกล้งมัน ฮ่า ฮ่า
“ป่ะ ขึ้นเรียน” ผมพูดพร้อมเก็บสมุดหนังสือที่วางอยู่ลงกระเป๋าสะพายแล้วเดินขึ้นตึกเรียนไปพร้อมกับมัน
.........
เข้าคลาสมาได้สักพัก ตอนนี้เริ่มมีอารมณ์แล้วครับ (อย่าเข้าใจผิด อาจารย์เข้าช้า ผมเลยเริ่มหงุดหงิด หึหึ) แถมไอ้ห่าหลังห้องหน้าตากวนตีน ยังนั่งสปีคอิงลิชใส่มือถือสุดชิคของมันอีกต่างหาก แมร่งพูดห่าอะไรฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่อง แต่เสียงมันเข้าหูผมตลอดอ่ะ ผมว่าคนอื่นก็คิดเหมือนกันแหละ เพาระแอบเห็นคนในห้องมองมันเยอะมาก (จริง ๆ มันหล่อมากครับ พูดเรื่องนี้แล้วแม่งเซ็ง เรื่องความหล่อไม่เข้าใครออกใคร ผมยอมแค่ไอ้โป้งคนเดียวมาตลอด ไม่คิดว่าเจอมันแล้วอันดับผมจะร่วงลงมาอีก ) แล้วไอ้นี่ก็นั่งทำเท่อยู่นั่น ไม่ได้สนใจคนรอบข้างเล้ย จนอาจารย์เข้านั่นล่ะครับมันถึงหยุดโทร
.........
“กูเบื่อ” ผมพูดเมื่ออาจารย์สอนจบและเดินออกไปแล้ว
“ห๊ะ?” ไอ้โป้งรับคำเล็กน้อยก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรออกหาบรรดาแฟน ๆ มัน รายงานตัวเมื่อเรียนเสร็จมันว่างั้น
"ไปหาไรแดกเหอะ” เก็บของเข้ากระเป๋ามือถือก็สั่นเอาสั่นเอาเบอร์แฟน ๆ ไอ้โป้งนั่นล่ะครับ สาว ๆ มันคงรู้ว่ามันเลิกกี่โมง กำลังจะเดินออกจากโต๊ะแล็คเชอร์แล้วครับ
แต่.....ผมทำเรื่องเหลือเชื่อครับ ขามันไปเอง ผมไม่ได้ตั้งใจนะ .......ไอ้หล่อหลังห้องนั่นเดินผ่านโต๊ะผมพอดี ผมก็เลย..........
ตอนนี้มันคุกเข่าลงข้าง ๆ ตัวผมแล้ว ดีนะที่มือมันคว้าโต๊ะผมไว้ได้ซะก่อน ไม่งั้นล่ะก็ได้เห็นสุดหล่อหัวทิ่มแน่(ผมแอบหัวเราะในใจ ฮ่า ฮ่า ) หมั่นไส้มัน โทษฐานที่มันเก่งกว่าผม หล่อกว่าผม (มั้ง) แถมยังเพิ่งเห็นหัววันนี้วันแรกตั้งแต่เปิดเรียนมา (จริง ๆ แค่อาทิตย์เดียว) แกล้งแม่งซะเลย!!
“อ้าว มึง ลุกขึ้นดิวะ เป็นไรมากป่ะ” คนผิดต้องชิงลงมือก่อนครับ ฮ่า ฮ่า
หันซ้ายหันขวา ไอ้โป้งแม่งยืนคุยโทรศัพท์รออยู่หน้าห้องแล้ว
ไอ้หล่อมันลุกขึ้นมาแล้วครับ แถมกำลังจ้องผมอยู่ สายตาโคตร ๆ อ่ะ
“มึง” เสียงมันเย็นสุดยอดเลยครับ มีเรื่องแน่เลยกู แต่ทำใจดีสู้เสือไปก่อน
“ก...กูทำไม ? ”
“มึงไม่รูดซิป!” มันพูดได้หน้าตายมากกกก
ปฎิกิริยาผมเร็วเลยครับ มือซ้ายรีบคลำที่เป้ากางเกงทันที พร้อมก้มหน้าซีด ๆ ลงไปดู
แต่ยังไม่เร็วเท่ากับเสียงกระซิบของมันที่ดังอยู่ชิดใบหูผมเหลือเกิน
“กูหมายถึง.....ซิปกระเป๋ามึงอ่ะ! หึหึ ”
ไอ้ห่าาาาาาาาาาาาา!!!!
มันเดินอมยิ้มออกไปอย่างอารมณ์ดี ส่วนผมอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี เพราะโดนมันหลอกครับ
.........
........
“เหี้ยโป้ง มึงจะรีบเดินไปไหนวะ หิวนักรึไงมึงอ่ะ กูเหนื่อยนะเว้ย” ผมทั้งวิ่งทั้งเดินกลัวตามมันไม่ทัน
“......”
มันไม่ตอบผมหรอกครับตอนนี้มันกำลังโทรคุยกับน้องนาว เด็กใหม่มันอยู่ ชี้มือชี้ไม้ว่าวันนี้แยกกันไปกิน ทั้งที่ผมเดินตามมันมาที่รถแล้วเนี่ยนะ ไอ้ห่ากว่าจะบอกกูนะมึง ดีนะที่รถผมจอดอยู่ตึกนี้เหมือนกัน ไม่งั้นมีงอนอีกรอบแน่ แถมชี้ไม้ชี้มือเสร็จทำท่าจะขึ้นรถเลย ไอ้ทุเรดดดดได้แฟนลืมเพื่อนนะมึงนะ
“แล้วเย็นนี้ว่าไงวะ” ผมออกเสียงเบา ๆ ให้มันพอได้ยิน
“เออ เดี๋ยวกูไปรับ” มันพูดออกมาทั้งที่กำลังโทรอยู่เนี่ยนะ (น้องนาวมึงคงพอใจหรอก)
หลังจากมันขับรถออกไปแล้ว ผมก็เดินเตร็จเตร่ไปที่ซุ้มโค๊กของตึกนี้หน่อย หิวน้ำครับ ได้ชาขาวเก็กฮวยสักขวดคงดี ผมชอบครับหวาน ๆ ดี ซื้อเสร็จก็เดินซดไปเรื่อย ตรงไปที่รถ วันนี้ไม่มีเรียนบ่ายกลับคอนโดเลยละกัน ข้าวเหรอ......กำลังคิดเพลิน ๆ
ปิ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!
“แม่ง! โคตรพ่อ กูตกใจหมด” ผมตกใจสุด ๆ เลยครับ รีบหลบไอ้รถบ้าที่อยู่ข้างหลังเข้าข้างทางทันที ผมว่าผมไม่ได้เดินกลางถนนนะ แล้วมาบีบแตรในมหาลัยแบบนี้ คนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ตามม้าหินอ่อน หันมามองกันหมด ไอ้ห่า ! อยากรู้จริงใครวะ ไม่มีมารยาทเลย
ยังไม่ทันได้คิดอะไรเป็นรูปเป็นร่าง ไอ้เจ้าของรถแอคคอร์ดดำคันนั้นมันค่อย ๆ เลื่อนกระจกลงขณะที่กำลังเคลื่อนรถผ่านตัวผมไปอย่างช้า ๆ มันหันมามองหน้าผมพร้อมสายตาเหยียด ๆ ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วก็ขับเลยผ่านไปอย่างรวดเร็ว
แหม่ะ!!!! เท่ตายล่ะมึง !
Tbc.