# 6
แสงที่ส่องจากม่านหน้าต่างบานกว้างเรียกให้ชายหนุ่มที่กำลังนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพรมหน้าทีวีพยายามเบิกตาตื่น
เสียงเคาะกระทะดังมาจากห้องครัวที่อยู่ใกล้ ๆ กัน
เช้าแล้ว??
คริสงัวเงียลุกขึ้นนั่ง สองมือเสยผมที่เริ่มยาวระใบหน้าให้เข้าที่ นาฬิกาข้อมือถูกยกขึ้นดูด้วยความเคยชิน
สมองค่อย ๆ ประมวลผลอย่างช้า ๆ สภาพรอบตัวที่ก่อนนอนมีแต่กองรูปภาพทุกช็อตทุกมุมของผู้เสียชีวิตทั้งสามราย
เอกสารต่าง ๆ ที่ถูกปริ๊นเพิ่มเติมออกมาตั้งแต่เมื่อคืนหลังจากกลับมาถึงบ้าน
เครื่องโน้ตบุ๊คที่ถ้าจำไม่ผิดยังไม่ได้ปิดเลยด้วยซ้ำ เอสเพ็น โทรศัพท์ ขนม พวงกุญแจ
ทุกอย่างที่เคยกระจัดกระจายอยู่รอบตัว ตอนนี้ถูกรวบและวางไว้อย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะหน้าทีวีเรียบร้อย
ต้องขอบคุณพี่เคน.....แสนดี
“ตื่นได้สักทีนะ” เสียงหวาน ๆ ของเคนยะเรียกรอยยิ้มน้องชายคนนี้ได้เสมอ
“เมื่อคืนพี่กลับตอนไหนครับ”
“เที่ยงคืนกว่าล่ะมั้ง จำไม่ได้เหมือนกัน”
เคนยะว่าพลางหยิบผ้าห่มของน้องชายขึ้นมาพับ ทำเอาคริสเพิ่งนึกออก
เออใช่ เมื่อคืนเขาหอบเอาหมอนเอาผ้าห่มออกมานอนเกลือกทำงานอยู่หน้าทีวีชั้นล่างจนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
“หิวไหม” รอยยิ้มของพี่นี่มันสวยจริง ๆ เหมาะกับแสงแดดยามเช้าเลย
สารวัตรหนุ่มเดินไปเทน้ำเปล่าใส่แก้วก่อนจะเดินเอากลับมาให้น้องชายที่ตอนนี้กดเปิดโทรทัศน์เพื่อฟังรายงานข่าวเช้าเหมือนทุก ๆ วัน(ถ้าตื่นเร็วนะ)
“คริส” เคนยะนั่งลงบนพื้นข้าง ๆ มือเรียวยาวเอื้อมไปหยิบกล่องอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะข้าง ๆมาถือไว้
“เปิดดูสิ พี่ให้ ไม่รู้นายจะชอบรึเปล่า”
กล่องหนังสีดำแบน ๆ ใบขนาดเกือบเท่ากระดาษ A4 ถูกส่งให้กับคริส อย่างเบามือ
คริสตินวางแก้วน้ำที่ดื่มจนหมดเกลี้ยงลงที่พื้นแล้วเปิดกล่อง ๆ นั้นออกดูอย่างระมัดระวัง
อาจเป็นของมีค่า เพราะท่าทางของพี่เหมือนถนอมกล่องนั้นมาก
ปืน??
ปืนพก รุ่นเล็ก
“พี่เคน!!!” คริสตาโต
“ชอบใช่ไหมล่ะ รามี่เชียวนะ อัลลอยด์ดำ 100% อัดลูกได้ 10 นัดเชียวล่ะ”
“แต่ว่า...นี่มันของพี่ไม่ใช่เหรอครับ”
คริสจำได้ว่าเคยเห็นเคนยะเอาออกมาขัดเมื่อไม่นานมานี้ เขาชอบปืนรุ่นนี้มาก มันเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับพกซ่อนมากจริง ๆ
ตัวเขาตอนนี้ใช้ .357 รุ่นลำกล้อง 4นิ้วอยู่(นี่ก็พี่เคนเลือกให้อีก) คริสไม่ค่อยสนใจเรื่องรุ่นหรืออะไร ๆ ของปืนมากนัก
เพราะไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหนรุ่นใด เขาก็พิสูจน์มาแล้วว่ามันยิงเข้าเป้าทั้งหมดนั่นแหละ
ขนาด .22 ที่ว่าชอบขัดลำกล้องบ่อย ๆ นั้น คริสยังจัดการมันซะลื่นไหลเชียว (ตอนเรียนนะ กับลูกซ้อม อิอิ ไม่ได้โม้)
“นายน่ะมีพรสวรรค์เรื่องโฟกัสของการยิง แต่งานของนายยังไม่ใช่อะไรแบบนั้นนี่นะ เพราะงั้นตอนนี้พี่เลยเลือกปืนรุ่นนี้ให้นายไปก่อน”
เคนยะพูดพร้อมลูบผมนิ่ม ๆ ของคริสไปด้วย
“ผมเริ่มยาวแล้วนะเรา”
“..พี่เคน..”
“ไปทำงานคราวนี้อาจจะต้องได้ใช้” สายตาที่อ่อนโยนของพี่
คริสมองดูลักษณะภายนอกของตัวปืนอย่างพิจารณา อืม.....สีดำสนิท สวยจัง มองเพลิน ๆ จนเผลออมยิ้มออกมา
“คิคิ บอกสักคำสิว่านายชอบ” เคนยะยิ้มหวานชอบใจ
ในขณะที่คริสใช้นิ้วลูบไปที่ด้ามปืนที่สลักสัญลักษณ์หัวกะโหลกไว้อย่างชัดเจน
บ่งบอกได้ว่ามันเคยเป็นของ ๆ พี่มาก่อนจริง ๆ
“ขอบคุณครับพี่”
คริสบอกเบา ๆ พร้อมหยิบซองกระสุนสำรองมาถอดออกดู แกร๊กก อืม..สั้น ๆ แต่บรรจุลูกได้เยอะจริงแฮะ สมเป็นรุ่นลูกดก
“ถ้านายชอบน่ะพี่ให้ได้ทั้งหมดนั่นแหละ เอ้อออ ตัวด้ามต่อนายไปหาซื้อเอาเองละกัน อันเก่าพี่เอาไปดัดแปลงใช้กับรุ่นอื่นแล้ว แถวพัทยามีร้านแบบนี้เยอะแยะ แต่อย่างนายอาจจะไม่ต้องใช้ล่ะมั้งไอ้ลำก้งลำกล้องอะไรนั่นน่ะนะ”
เคนยะตบลงที่ไหล่น้องชายเบา ๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปทางห้องครัวเพื่อทำอาหารต่อ
พลันสายตาคริสก็เหลือบไปเห็นผู้ชายหัวยุ่ง ๆ มีผ้าเช็ดตัวคล้องคอ สวมกางเกงนอนกับเสื้อนอนของพี่ ยืนหาวหวอด ๆ บิดขี้เกียจอยู่หน้าห้องน้ำ
ชายหนุ่มเบิกตากว้างเพื่อให้มองเห็นได้ชัด ๆ
“เฮ้ยยยย!!!” คริสอุทานดังลั่น
จะไม่ให้เขาตกใจได้ยังไง จู่ ๆ ก็เห็นไอ้พี่ฟ็อกซ์ยืนเหมือนวิญญาณเร่ร่อนอยู่ในบ้านเขาแบบนั้น!
มันมาตอนไหน! มันมาได้ยังไง! แถมยืนอยู่หน้าห้องพี่อีกต่างหาก
“เดี๋ยวซาโต้จะมารับนะคริส วันนี้นายต้องเริ่มทำคดีแล้ว อย่าลืมเอารามี่(ปืน)ติดตัวไปด้วย ส่วน .357ของนายให้หยุดใช้ไปก่อน เอาไปวางไว้ที่ห้องพี่ เดี๋ยวจะเช็ดให้ พอดีมีปืนที่จะต้องทำความสะอาดเหมือนกัน” เสียงตะโกนดังออกมาจากในครัว
คริสหันมาตั้งใจดูข่าวหลังจากเห็นว่าวิญญาณเร่ร่อนตนนั้นเดินเข้าห้องน้ำไปเรียบร้อย
‘เมื่อคืนฟ็อกส์กับพี่เคนคงจะไปดื่มกันมาล่ะมั้ง อะไรกันถึงขนาดขับรถกลับไม่ไหวต้องค้างที่นี่เลยเหรอเนี่ย’
ชายหนุ่มนึกในใจ แต่สายตาและประสาทสัมผัสทางหูกลับไปโฟกัสอยู่ที่จอโทรทัศน์ ซึ่งตอนนี้กำลังเข้าสู่รายงานข่าวด่วน
รายงานคดีฆาตกรรมยกครัวของเศรษฐีนีชื่อดังเจ้าของบริษัทรถทัวร์ยักษ์ใหญ่ทางภาคเหนือเคลียร์เสร็จเรียบร้อย ได้ยินมาเหมือนกันว่าเป็นผลงานของหน่วย T แต่คริสไม่กล้าถามอะไรให้มากความ เพราะยังไงหลังจาก S.W.A.T-D เคลียร์ทุกอย่างได้เรียบร้อย ก็จะต้องยกผลประโยชน์ให้กับทาง สน.พื้นที่อยู่ดี เพราะฉะนั้นไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องรู้สิ่งที่เกินเลยจากหน้าที่
‘มีรายงานความคืบหน้าคดีลอบสังหาร เสธ. ทหารคนดัง หน้ากระทรวงกลาโหม .... เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 22 นาฬิกา พล.ท. XXX XXXX ถูกลอบสังหารโดยการซุ่มยิงระยะไกล วิถีกระสุนเจาะทะลุกลางศีรษะอย่างอุกอาต เป็นเหตุให้ท่านล้มลงเสียชีวิตในทันที ขณะนี้กำลังควานหาตัวคนร้ายกันจ้าละหวั่น รายงานความคืบหน้าล่าสุด มีพลเมืองดีเห็นรถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่น่าสงสัยขับวนออกมาจากโรงแรมชื่อดังใกล้กับสถานที่เกิดเหตุในเวลาดังกล่าว ทั้งคนขับและคนซ้อนสวมเสื้อผ้าสีดำสนิทโดยเฉพาะคนซ้อน เห็นได้ชัดว่าแจ็คเก็ตที่สวมใส่ ปักลายหัวกะโหลกขนาดใหญ่ไว้ชัดเจน เหตุการณ์ล่าสุดเราจะรายงานต่อไปในข่าวภาคเที่ยงของวันนี้..........’
อ้าววว ตายแล้วเหรอเนี่ย เสธ. คนนี้กำลังมีข่าวเรื่องค้าขายยาเสพติดข้ามชาติอยู่เลย ทำไมจู่ ๆ โดนเก็บไวอย่างนี้นะ สงสัยโดนพวกเดียวกันเก็บล่ะมั้ง
ขณะกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยฟ็อกซ์ที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินมานั่งลงที่โซฟาด้านหลังผู้หมวดหนุ่ม
“วู้ววว มึงดูอะไรไร้สาระ” คริสหันมามองคนพูดตาเขียว เอ๊า ก็คนดูข่าวอยู่มีปัญหาอะไรอีกล่ะเนี่ย
แต่แล้วจู่ ๆ ช่องข่าวด่วนก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นรายการการ์ตูนยามเช้าซะงั้น
“กูจะดูรีบอร์น กูชอบดีโน่ กูอยากมีรอยสักสวย ๆ เหมือนท่านดีโน่” จู่ ๆ มันเพ้ออะไรขึ้นมาอีกล่ะ ไอ้หัวหน้าวิปริต ผีเข้าผีออก
คริสมองฟ็อกซ์ที่ตอนนี้กำลังตั้งตาคอยตอนที่ดีโน่กำลังจะต้องปรากฏตัวออกมา(แต่ผมว่าฮิบาริหล่อกว่า อิอิ )
เพี๊ยะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! (อย่างดังอ่ะ ขอบอก)
“โอ๊ยยย!!! ไรเนี่ย เคนเป็นไรครับตบหน้าผมทำไม” ฟ็อกซ์กุมแก้มแล้วหันไปมองเคนยะที่ยืนค้ำหัวอยู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัวอย่างที่สุด
“ป๊าววว เหมือนว่ามียุงเกาะที่แก้มไง เลยจัดการให้”
คนมือหนักโปรยยิ้มแสนหวานให้อย่างงดงาม ประหนึ่งว่าเพิ่งยื่นดอกกุหลาบช่อโตให้พี่ฟ็อกซ์ยังไงยังงั้น
‘เอาไปเลยครับพี่ รอยยิ้มนางงามแบบนั้น’ คริสนึกตาลอย
“เคนอ่ะ ฟ็อกซ์เจ็บนะครับ”
เสียงอ้อน(-)ของท่านหัวหน้าคนเก่งเรียกให้คริสหันมามองด้านหลังอีกครั้งอย่างเหวอออออ พร้อมกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“เอ๊ะ พี่เคน เมื่อวานพี่ไปที่กระทรวงฯ มาไม่ใช่เหรอ แล้วไม่รู้ข่าวอะไรเรื่องลอบยิงเลยเหรอครับ”
คริสถามขณะดูรีบอร์นไปด้วย เหลือบมองฟ็อกซ์แวบหนึ่ง ตอนนี้มันเหมือนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เพราะท่านดีโน่ออกมาแล้ว เลยจดจ้องอยู่กับทีวีเป็นพิเศษ
“อ๋อ ไม่นี่ ไม่รู้เรื่องเลย สงสัยพี่คงออกมาก่อนล่ะมั้ง ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ตลกจริง ๆ เจ้าฮิบารินี่ทั้งหล่อทั้งโหดเลยเนอะ”
เคนยะตอบน้องชายแบบไม่ใส่ใจอะไร แถมยังพูดเรื่องการ์ตูนออกมาอีก
แสงที่ส่องจากม่านหน้าต่างบานกว้างเรียกให้ชายหนุ่มที่กำลังนอนเกลือกกลิ้งอยู่บนพรมหน้าทีวีพยายามเบิกตาตื่น
เสียงเคาะกระทะดังมาจากห้องครัวที่อยู่ใกล้ ๆ กัน
เช้าแล้ว??
คริสงัวเงียลุกขึ้นนั่ง สองมือเสยผมที่เริ่มยาวระใบหน้าให้เข้าที่ นาฬิกาข้อมือถูกยกขึ้นดูด้วยความเคยชิน
สมองค่อย ๆ ประมวลผลอย่างช้า ๆ สภาพรอบตัวที่ก่อนนอนมีแต่กองรูปภาพทุกช็อตทุกมุมของผู้เสียชีวิตทั้งสามราย
เอกสารต่าง ๆ ที่ถูกปริ๊นเพิ่มเติมออกมาตั้งแต่เมื่อคืนหลังจากกลับมาถึงบ้าน
เครื่องโน้ตบุ๊คที่ถ้าจำไม่ผิดยังไม่ได้ปิดเลยด้วยซ้ำ เอสเพ็น โทรศัพท์ ขนม พวงกุญแจ
ทุกอย่างที่เคยกระจัดกระจายอยู่รอบตัว ตอนนี้ถูกรวบและวางไว้อย่างเป็นระเบียบบนโต๊ะหน้าทีวีเรียบร้อย
ต้องขอบคุณพี่เคน.....แสนดี
“ตื่นได้สักทีนะ” เสียงหวาน ๆ ของเคนยะเรียกรอยยิ้มน้องชายคนนี้ได้เสมอ
“เมื่อคืนพี่กลับตอนไหนครับ”
“เที่ยงคืนกว่าล่ะมั้ง จำไม่ได้เหมือนกัน”
เคนยะว่าพลางหยิบผ้าห่มของน้องชายขึ้นมาพับ ทำเอาคริสเพิ่งนึกออก
เออใช่ เมื่อคืนเขาหอบเอาหมอนเอาผ้าห่มออกมานอนเกลือกทำงานอยู่หน้าทีวีชั้นล่างจนหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
“หิวไหม” รอยยิ้มของพี่นี่มันสวยจริง ๆ เหมาะกับแสงแดดยามเช้าเลย
สารวัตรหนุ่มเดินไปเทน้ำเปล่าใส่แก้วก่อนจะเดินเอากลับมาให้น้องชายที่ตอนนี้กดเปิดโทรทัศน์เพื่อฟังรายงานข่าวเช้าเหมือนทุก ๆ วัน(ถ้าตื่นเร็วนะ)
“คริส” เคนยะนั่งลงบนพื้นข้าง ๆ มือเรียวยาวเอื้อมไปหยิบกล่องอะไรบางอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะข้าง ๆมาถือไว้
“เปิดดูสิ พี่ให้ ไม่รู้นายจะชอบรึเปล่า”
กล่องหนังสีดำแบน ๆ ใบขนาดเกือบเท่ากระดาษ A4 ถูกส่งให้กับคริส อย่างเบามือ
คริสตินวางแก้วน้ำที่ดื่มจนหมดเกลี้ยงลงที่พื้นแล้วเปิดกล่อง ๆ นั้นออกดูอย่างระมัดระวัง
อาจเป็นของมีค่า เพราะท่าทางของพี่เหมือนถนอมกล่องนั้นมาก
ปืน??
ปืนพก รุ่นเล็ก
“พี่เคน!!!” คริสตาโต
“ชอบใช่ไหมล่ะ รามี่เชียวนะ อัลลอยด์ดำ 100% อัดลูกได้ 10 นัดเชียวล่ะ”
“แต่ว่า...นี่มันของพี่ไม่ใช่เหรอครับ”
คริสจำได้ว่าเคยเห็นเคนยะเอาออกมาขัดเมื่อไม่นานมานี้ เขาชอบปืนรุ่นนี้มาก มันเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับพกซ่อนมากจริง ๆ
ตัวเขาตอนนี้ใช้ .357 รุ่นลำกล้อง 4นิ้วอยู่(นี่ก็พี่เคนเลือกให้อีก) คริสไม่ค่อยสนใจเรื่องรุ่นหรืออะไร ๆ ของปืนมากนัก
เพราะไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อไหนรุ่นใด เขาก็พิสูจน์มาแล้วว่ามันยิงเข้าเป้าทั้งหมดนั่นแหละ
ขนาด .22 ที่ว่าชอบขัดลำกล้องบ่อย ๆ นั้น คริสยังจัดการมันซะลื่นไหลเชียว (ตอนเรียนนะ กับลูกซ้อม อิอิ ไม่ได้โม้)
“นายน่ะมีพรสวรรค์เรื่องโฟกัสของการยิง แต่งานของนายยังไม่ใช่อะไรแบบนั้นนี่นะ เพราะงั้นตอนนี้พี่เลยเลือกปืนรุ่นนี้ให้นายไปก่อน”
เคนยะพูดพร้อมลูบผมนิ่ม ๆ ของคริสไปด้วย
“ผมเริ่มยาวแล้วนะเรา”
“..พี่เคน..”
“ไปทำงานคราวนี้อาจจะต้องได้ใช้” สายตาที่อ่อนโยนของพี่
คริสมองดูลักษณะภายนอกของตัวปืนอย่างพิจารณา อืม.....สีดำสนิท สวยจัง มองเพลิน ๆ จนเผลออมยิ้มออกมา
“คิคิ บอกสักคำสิว่านายชอบ” เคนยะยิ้มหวานชอบใจ
ในขณะที่คริสใช้นิ้วลูบไปที่ด้ามปืนที่สลักสัญลักษณ์หัวกะโหลกไว้อย่างชัดเจน
บ่งบอกได้ว่ามันเคยเป็นของ ๆ พี่มาก่อนจริง ๆ
“ขอบคุณครับพี่”
คริสบอกเบา ๆ พร้อมหยิบซองกระสุนสำรองมาถอดออกดู แกร๊กก อืม..สั้น ๆ แต่บรรจุลูกได้เยอะจริงแฮะ สมเป็นรุ่นลูกดก
“ถ้านายชอบน่ะพี่ให้ได้ทั้งหมดนั่นแหละ เอ้อออ ตัวด้ามต่อนายไปหาซื้อเอาเองละกัน อันเก่าพี่เอาไปดัดแปลงใช้กับรุ่นอื่นแล้ว แถวพัทยามีร้านแบบนี้เยอะแยะ แต่อย่างนายอาจจะไม่ต้องใช้ล่ะมั้งไอ้ลำก้งลำกล้องอะไรนั่นน่ะนะ”
เคนยะตบลงที่ไหล่น้องชายเบา ๆ แล้วลุกขึ้นเดินไปทางห้องครัวเพื่อทำอาหารต่อ
พลันสายตาคริสก็เหลือบไปเห็นผู้ชายหัวยุ่ง ๆ มีผ้าเช็ดตัวคล้องคอ สวมกางเกงนอนกับเสื้อนอนของพี่ ยืนหาวหวอด ๆ บิดขี้เกียจอยู่หน้าห้องน้ำ
ชายหนุ่มเบิกตากว้างเพื่อให้มองเห็นได้ชัด ๆ
“เฮ้ยยยย!!!” คริสอุทานดังลั่น
จะไม่ให้เขาตกใจได้ยังไง จู่ ๆ ก็เห็นไอ้พี่ฟ็อกซ์ยืนเหมือนวิญญาณเร่ร่อนอยู่ในบ้านเขาแบบนั้น!
มันมาตอนไหน! มันมาได้ยังไง! แถมยืนอยู่หน้าห้องพี่อีกต่างหาก
“เดี๋ยวซาโต้จะมารับนะคริส วันนี้นายต้องเริ่มทำคดีแล้ว อย่าลืมเอารามี่(ปืน)ติดตัวไปด้วย ส่วน .357ของนายให้หยุดใช้ไปก่อน เอาไปวางไว้ที่ห้องพี่ เดี๋ยวจะเช็ดให้ พอดีมีปืนที่จะต้องทำความสะอาดเหมือนกัน” เสียงตะโกนดังออกมาจากในครัว
คริสหันมาตั้งใจดูข่าวหลังจากเห็นว่าวิญญาณเร่ร่อนตนนั้นเดินเข้าห้องน้ำไปเรียบร้อย
‘เมื่อคืนฟ็อกส์กับพี่เคนคงจะไปดื่มกันมาล่ะมั้ง อะไรกันถึงขนาดขับรถกลับไม่ไหวต้องค้างที่นี่เลยเหรอเนี่ย’
ชายหนุ่มนึกในใจ แต่สายตาและประสาทสัมผัสทางหูกลับไปโฟกัสอยู่ที่จอโทรทัศน์ ซึ่งตอนนี้กำลังเข้าสู่รายงานข่าวด่วน
รายงานคดีฆาตกรรมยกครัวของเศรษฐีนีชื่อดังเจ้าของบริษัทรถทัวร์ยักษ์ใหญ่ทางภาคเหนือเคลียร์เสร็จเรียบร้อย ได้ยินมาเหมือนกันว่าเป็นผลงานของหน่วย T แต่คริสไม่กล้าถามอะไรให้มากความ เพราะยังไงหลังจาก S.W.A.T-D เคลียร์ทุกอย่างได้เรียบร้อย ก็จะต้องยกผลประโยชน์ให้กับทาง สน.พื้นที่อยู่ดี เพราะฉะนั้นไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องรู้สิ่งที่เกินเลยจากหน้าที่
‘มีรายงานความคืบหน้าคดีลอบสังหาร เสธ. ทหารคนดัง หน้ากระทรวงกลาโหม .... เมื่อคืนนี้ เวลาประมาณ 22 นาฬิกา พล.ท. XXX XXXX ถูกลอบสังหารโดยการซุ่มยิงระยะไกล วิถีกระสุนเจาะทะลุกลางศีรษะอย่างอุกอาต เป็นเหตุให้ท่านล้มลงเสียชีวิตในทันที ขณะนี้กำลังควานหาตัวคนร้ายกันจ้าละหวั่น รายงานความคืบหน้าล่าสุด มีพลเมืองดีเห็นรถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่น่าสงสัยขับวนออกมาจากโรงแรมชื่อดังใกล้กับสถานที่เกิดเหตุในเวลาดังกล่าว ทั้งคนขับและคนซ้อนสวมเสื้อผ้าสีดำสนิทโดยเฉพาะคนซ้อน เห็นได้ชัดว่าแจ็คเก็ตที่สวมใส่ ปักลายหัวกะโหลกขนาดใหญ่ไว้ชัดเจน เหตุการณ์ล่าสุดเราจะรายงานต่อไปในข่าวภาคเที่ยงของวันนี้..........’
อ้าววว ตายแล้วเหรอเนี่ย เสธ. คนนี้กำลังมีข่าวเรื่องค้าขายยาเสพติดข้ามชาติอยู่เลย ทำไมจู่ ๆ โดนเก็บไวอย่างนี้นะ สงสัยโดนพวกเดียวกันเก็บล่ะมั้ง
ขณะกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยฟ็อกซ์ที่เพิ่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็เดินมานั่งลงที่โซฟาด้านหลังผู้หมวดหนุ่ม
“วู้ววว มึงดูอะไรไร้สาระ” คริสหันมามองคนพูดตาเขียว เอ๊า ก็คนดูข่าวอยู่มีปัญหาอะไรอีกล่ะเนี่ย
แต่แล้วจู่ ๆ ช่องข่าวด่วนก็ถูกเปลี่ยนไปเป็นรายการการ์ตูนยามเช้าซะงั้น
“กูจะดูรีบอร์น กูชอบดีโน่ กูอยากมีรอยสักสวย ๆ เหมือนท่านดีโน่” จู่ ๆ มันเพ้ออะไรขึ้นมาอีกล่ะ ไอ้หัวหน้าวิปริต ผีเข้าผีออก
คริสมองฟ็อกซ์ที่ตอนนี้กำลังตั้งตาคอยตอนที่ดีโน่กำลังจะต้องปรากฏตัวออกมา(แต่ผมว่าฮิบาริหล่อกว่า อิอิ )
เพี๊ยะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! (อย่างดังอ่ะ ขอบอก)
“โอ๊ยยย!!! ไรเนี่ย เคนเป็นไรครับตบหน้าผมทำไม” ฟ็อกซ์กุมแก้มแล้วหันไปมองเคนยะที่ยืนค้ำหัวอยู่ด้วยสายตาที่หวาดกลัวอย่างที่สุด
“ป๊าววว เหมือนว่ามียุงเกาะที่แก้มไง เลยจัดการให้”
คนมือหนักโปรยยิ้มแสนหวานให้อย่างงดงาม ประหนึ่งว่าเพิ่งยื่นดอกกุหลาบช่อโตให้พี่ฟ็อกซ์ยังไงยังงั้น
‘เอาไปเลยครับพี่ รอยยิ้มนางงามแบบนั้น’ คริสนึกตาลอย
“เคนอ่ะ ฟ็อกซ์เจ็บนะครับ”
เสียงอ้อน(-)ของท่านหัวหน้าคนเก่งเรียกให้คริสหันมามองด้านหลังอีกครั้งอย่างเหวอออออ พร้อมกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“เอ๊ะ พี่เคน เมื่อวานพี่ไปที่กระทรวงฯ มาไม่ใช่เหรอ แล้วไม่รู้ข่าวอะไรเรื่องลอบยิงเลยเหรอครับ”
คริสถามขณะดูรีบอร์นไปด้วย เหลือบมองฟ็อกซ์แวบหนึ่ง ตอนนี้มันเหมือนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น เพราะท่านดีโน่ออกมาแล้ว เลยจดจ้องอยู่กับทีวีเป็นพิเศษ
“อ๋อ ไม่นี่ ไม่รู้เรื่องเลย สงสัยพี่คงออกมาก่อนล่ะมั้ง ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ ตลกจริง ๆ เจ้าฮิบารินี่ทั้งหล่อทั้งโหดเลยเนอะ”
เคนยะตอบน้องชายแบบไม่ใส่ใจอะไร แถมยังพูดเรื่องการ์ตูนออกมาอีก
ปิ้น ปิ้นนนน
เสียงแตรรถดังมาจากหน้าบ้าน สารวัตรหนุ่มเดินไปชะโงกมองนอกหน้าต่าง เพียงครู่เดียวคนมาใหม่ก็ก้าวเข้ามาในบ้านเรียบร้อย
“ไง ซาโต้” หนุ่มหน้าหวานกอดอกทักทายรุ่นน้อง ซาโต้มองไปหน้าทีวีเห็นเด็กโข่งไม่รู้จักโตสองคนกำลังนั่งหัวเราะการ์ตูนกันอย่างเมามันส์
กร๊ากกกกกกกกกกก กร๊ากกกกกกกกกกก กร๊ากกกกกกกกกกก กร๊ากกกกกกกกกกก
เอาเข้าไป หัวเราะกันจนตัวหงิกตัวงอได้ขนาดนั้น.....
ซาโต้เดินไปนั่งลงบนพื้นพรมข้าง ๆ คริสตินผู้เป็นคู่หู อีกฝ่ายหันมามองเล็กน้อยแต่ไม่ได้สนอะไรแล้วยังหันไปดูการ์ตูนต่อ
แต่แล้วก็ต้องหันมาใหม่อีกครั้ง
“เฮ้ยยยย!!!!! มึงมาตอนไหน” ขวัญมา ขวัญมา ขวัญลูกช้างกลับมา ตกใจหมดเลย ห่า!!! มาก็ไม่ให้ซุ้มให้เสียง
“ทำไมยังไม่อาบน้ำ แล้วเก็บของรึยังครับเนี่ย”
“เก็บแล้วววววว แล้วรู้ได้ไงเนี่ยว่ากูยังไม่อาบ”
“พูดเพราะ ๆ สิครับคริส” ซาโต้แย้งคิ้วขมวด
“มันจะพูดเพราะได้ยังไงก้านนนนมันยังไม่ได้แปรงฟัน หมาเน่าเลยเข้าไปอยู่ในปากมันทั้งตัว มึงเหม็นไหมล่ะนั่งใกล้ขนาดนั้นน่ะ ”
ฟ็อกส์พูดขึ้น พร้อมใช้เท้าเขี่ย ๆ คริสให้ออกห่างไปอีก ชิ่ว ๆ ๆ
“พี่ฟ็อกซ์!!!!” คริสหน้าบึ้งลุกขึ้นตะโกนสุดเสียงอย่างอาย พร้อมจับหมอนแข็ง ๆ ที่กอดอยู่บนตักฟาดใส่ฟ็อกซ์เข้าอย่างจัง
อีกฝ่ายเองก็เร็วไม่แพ้กันคว้าโทรศัพท์บ้านที่วางอยู่ขึ้นมากันเอาไว้
คริสเห็นหูโทรศัพท์หล่นลงมาสายระโยงระยาง ได้โอกาสพยายามเอาสายพันรอบคอฟ็อกซ์ให้ได้
“ตายซะเถอะมึง ไอ้พี่ฟ็อกซ์” คริสคำรามเสียงโหดกระโจนใส่ฟ็อกซ์จนล้มลงไปนอนทับกันอยู่ที่โซฟาทั้งคู่
“หึหึ มึงทำได้ก็ลองดู๊”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!”
ผู้หมวดหนุ่มร้องเสียงหลงเมื่อถูกอีกฝ่ายดึงกางเกงบอลหัวยืดที่สวมอยู่ลงมากองอยู่ที่หน้าขา แล้วฟาดฝ่ามือลงที่ก้นขาว ๆ ดัง ป๊าปปปปป!!!!!!!
“อ้ายยยยยยยยเหี้ยยยยยยยฟ็อกส์!!!!!!!!!!!!” คริสร้องลั่น ลืมเรื่องสายโทรศัพท์ที่กำลังตั้งอกตั้งใจรัดคออีกฝ่ายไปซะสนิท
ชายหนุ่มรีบดึงกางเกงขึ้นมาที่เดิมอย่างเร็วรวด พร้อมยืนกำหมัดกัดฟันกรอดดด กรอดดด
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ คริสเอ้ยยยย วันนี้กูรู้แล้ว มึงน่ะสู้ยังไงก็ไม่ชนะกูหรอก พะโล้เล็กว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ฟ็อกซ์ทั้งหัวเราะทั้งกระชากสายโทรศัพท์ที่พันกันยุ่งเหยิงออกลำคอ จนหัวแจ๊คของอีกฝั่งหักหลุดออกมาจากข้างผนัง
โทรศัพท์สีดำหล่นลงกระจัดกระจาย
ซาโต้ถดตัวถอยหลังนั่งมองด้วยสีหน้าเหยเกเหวอแตกจนแทบอธิบายไม่ถูก
บ้านนี้มันอะไรกัน !!!???
“งั้นมานี่!!!!เข้าไปด้วยกัน” คริสตินโกรธถึงขีดสุดกระชากแขนฟ็อกซ์ให้ลุกขึ้นยืนแล้วพยายามจะลากไปที่ไหนสักแห่ง
“ไปไหนจ๊าาาาาาาา พะโล้น้อยยยย หึหึหึ” หัวหน้าหนุ่มยังส่งเสียงยั่วอีกฝ่ายไม่ยอมหยุด
“เงียบนะ!!! ไปห้องน้ำด้วยกันเลย เดี๋ยวจะทำให้ดู๊ ถ้ามันขยายตัวเต็มที่แล้วผมไม่มีวันแพ้พี่เว้ยยยยย ” ของๆกูสาว ๆ ที่ไหนก็ชมทั้งนั้น ยอมตายไม่ยอมโดนสบประมาทแบบนี้แน่
“เฮ้ย ๆๆๆ มึงบ้ารึเปล่า ใครจะไปกับมึ้งงงง เคนครับช่วยฟ็อกซ์ด้วย ฟ็อกซ์โดนน้องเล็ก ๆ ของเคนรังแก กร๊ากกกกกกๆๆๆ”
ฟ็อกซ์ตั้งใจเน้นคำว่า เล็ก ๆ เต็มที่ จนคนที่ฉุดกระชากอยู่ เกินขีดจำกัดความอดทน พยายามจะเหวี่ยงแขนผู้มีตำแหน่งเป็นถึงหัวหน้ากะว่าจะให้อัดกระแทกผนัง เอาให้จุกกันไปเลย
แต่ก็ยังไม่เร็วเท่าอีกฝ่ายที่ใช้มืออีกข้างจับได้เก้าอี้พลาสติกแล้วเหวี่ยงฟาดเข้ากลางหลังคริสอย่างจัง ชายหนุ่มใช้แขนปัดออกจนเก้าอี้กระเด็นไปกระแทกราวบันได เสียงดังโครมคราม
แต่ยังไม่หมดแค่นั้น.....สองคนยิ้มเหี้ยมจ้องหน้าเดินเข้าหากันแล้ว
เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วมากคราวนี้ซาโต้ถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วถอยห่างออกไปจนติดเคาเตอร์ครัว
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายอึกใหญ่เมื่อมองดูหน้าเคนยะผู้กำลังยืนยิ้มอ่อนหวานกับการทำอาหารอย่างมีความสุข
เหมือนไม่เห็นว่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดอยู่เป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร
แถมยังฮัมเพลงเบา ๆ ในลำคอ ‘ยิ่งเธอวางใจ ยิ่งสนิทกันมากเพียงใด ยิ่งรู้สึกว่าเหมือนไกลออกไป ทั้งที่อยู่ใกล้ ๆ เธอ........’
บ้านนี้มันอะไร???
นี่เป็นรอบสองแล้วที่คิดแบบนี้ในช่วงเวลาไม่ถึง 15 นาทีตั้งแต่เข้ามานั่งที่นี่ ซาโต้ส่ายหัวอย่างระอา ตัดสินใจเดินเข้าไปช่วยสารวัตรหนุ่มปรุงอาหาร
ปล่อยเด็กไม่รู้จักโตสองคนทะเลาะกันต่อไป ทีวงทีวีอะไรไม่ต้องดูกันแล้ว
และแล้ว...
“โอ๊ยยยยยยย เจ็บ ๆๆๆๆๆ พอแล้ว ๆๆ ยอมแล้วครับหัวหน้า ผมยอมแล้ว”
ในที่สุดคริสตินก็ร้องขึ้น สองมือกุมท้องตัวงอ ฟ็อกซ์เดินยิ้มเผล่อย่างสบายอารมณ์หลังจากรังแกอีกคนหนึ่งได้
ชายหนุ่มกลับมานั่งดูการ์ตูนต่อไม่สนใจอะไร สภาพรอบตัวตอนนี้เละเทะถึงที่สุด เก้าอี้ล้มระเนระนาด หมอนกระจาย ปริ้นเตอร์หล่นลงมาจากโต๊ะเรียบร้อย (คิดว่าคงพังไปแล้ว) โทรศัพท์บ้านกองแตกอยู่ที่พื้น
ถึงเวลาที่เคนยะต้องเข้ามาคุมสถานการณ์
“คริส ไปอาบน้ำได้แล้ว รีบหน่อย เสร็จแล้วลงมาทานข้าวนะ” เคนส่งยิ้มหวานให้น้องชาย(แต่ไม่สนใจถามไถ่อาการ พี่น่ากลัวเป็นบ้า)
สารวัตรหนุ่มเดินเข้ามาเก็บของที่เกลื่อนอยู่ให้เข้าที่ ซาโต้เองก็เดินกลับมานั่งลงข้างๆฟ็อกซ์
คริสรีบถลาเข้ามาหยิบกล่องปืนที่วางไว้อยู่ที่พื้นข้างโซฟากำลังจะวิ่งขึ้นบันไดไป
แต่เสียงขี้แกล้งของหัวหน้าหนุ่มก็ดังขึ้นมาอีก
“ตามขึ้นไปสิซาโต้ ไปพิสูจน์แทนกูซิว่าพะโล้ของมันตอนตื่นเต็มตัวจะใหญ่จริงอย่างที่มันว่าไว้รึเปล่า ฮ่าๆๆๆๆๆ”
ซาโต้หน้าเหวอ ขณะที่คริสหน้าง้ำกำหมัดกัดฟันอย่างเจ็บแค้น
“ไปสิวะ มึงจะมานั่งอยู่ตรงนี้ทำไม กูกับเคนจะดูทีวีด้วยกัน”
ฟ็อกซ์ใช้ข้อศอกสะกิดซาโต้เบา ๆ ให้ลุกขึ้น ชายหนุ่มก็ทำตามอย่างง่ายดาย แบบงง ๆ
“ไม่ต้องลุกขึ้นมาเลยซาโต้ ใครจะยอมให้มึงดูกัน ไอ้คู่หูงี่เง่า ไม่ได้ช่วยอะไรกูเลยนะมึงอ่ะ”
เมื่อเห็นว่าด่าฟ็อกซ์ไม่ได้คริสจึงพาลใส่ซาโต้เสียงดัง ทำเอาคนกำลังจะก้าวเดินต้องชะงักขากลางครัน หน้าเหวอ จู่ ๆ โดนด่าซะงั้น
“ไรว้าาาา ทีกับกูชวนเข้าห้องไปดูนั่นดูนี่ ทีกับคู่หูตัวเองล่ะก็ทำเป็นอาย หึหึหึ”
“คะ...ใครอายไม่ทราบ” คริสตอบกลับหน้าแดง
“ไปเลยซาโต้ ขึ้นไปพิสูจน์แทนกู เสร็จแล้วก็ลงมาบอกกันด้วยล่ะ หึหึ หึหึ”
คริสเหลืออดในที่สุดคริสก็กัดฟันตัดสินใจพูดออกมา
“เอาก็เอาวะ ซาโต้ มึงเป็นคู่หูกูนี่นะ จะเปิดให้มึงดูสักครั้งคงไม่เป็นไรหรอก
‘เหี้ยแล้วไหมล่ะกู’ ซาโต้ได้แต่คิดในใจ
เขามองคนหน้าแดงก่ำที่อยู่ตรงทางขึ้นบันได หารู้ไม่ว่าหน้าตัวเองก็แดงไม่แพ้กัน ทำเอาฟ็อกซ์ถึงกับกลั้นขำจนหน้าแดงตามไปด้วย
แต่ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นเสียงสวรรค์ก็ส่งมาโปรดทั้งสามจริง ๆ
“พอแล้วน่าฟ็อกซ์ แกล้งน้องเป็นเด็ก ๆไปได้ ดูสิแต่ละคนหน้าแดง ไปหมดแล้ว” เคนโปรยยิ้มหวาน ตบเบา ๆ ลงบนหน้าขาเพื่อนซี้
“ขึ้นไปอาบน้ำเถอะคริส ซาโต้นายก็มาช่วยจัดโต๊ะได้แล้วเดี๋ยวจะได้ทานข้าวกันนะ”
เป็นอันว่าทุกอย่างเคลียร์.......
คริสใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่นาน ชายหนุ่มแบกเป้ลงมาโยนไว้บนโซฟาดัง ปั๊ก!!
จากนั้นรีบตรงรี่เข้าไปที่ห้องครัวที่มีเหล่าชายหน้าตาดี 3 คนนั่งจับกลุ่มกันอยู่ก่อนแล้วท่าทางกำลังซีเรียสเหมือนปรึกษาเรื่องอะไรกันบางอย่าง
พอเขาเดินเข้ามานั่งลงข้างเคนยะ บทสนทนาก่อนหน้านั้นก็ถูกตัดจบลงในทันที
“ช้านะมึง” ไอ้หัวหน้าฟ็อกซ์ตัวดีขี้แกล้งตัดบทขึ้น
โถ่!! แค่สิบนาทีทำเป็นมาบ่นเหอะ
“รีบกินเถอะครับ จะได้รีบไปทำงาน” ซาโต้พูดขึ้นขณะยัดขนมปังเข้าปาก
ไอ้นี่ก็อีกคน ห่วงแต่งาน ๆๆ เพิ่งเป็นคู่หูกันได้วันเดียวสั่งหน้าสั่งหลัง เซ็งวะ
“คริส ไปอยู่ที่นั่นอย่าดื้อนะ เชื่อฟังซาโต้หน่อยล่ะรู้ไหม อย่าทำให้พี่เป็นห่วงมากนัก ซาโต้จะคอยโทรมารายงานพฤติกรรมของนายกับพี่ทุกวันนะ”
เคนยะส่งเสียงดุ ๆ ที่ไม่เข้ากับหน้าตาหวาน ๆ ให้กับผู้เป็นน้องชาย
“โหยยย ผมไม่ใช่เด็กซะหน่อย พี่เคนน่ะ”
“เอาเถอะน่า ทำตามแผนที่พวกพี่วางไว้ให้ก็แล้วกัน เดี๋ยวซาโต้จะค่อย ๆ บอกเอง”
คริสหยิบแซนวิชชิ้นโต้ขึ้นมากัด สายตาเหลือบมองคู่หูคนใหม่อย่างพิจารณา ‘พี่เคนคิดยังไงนะ ทำไมเขาต้องโดนคนแบบเจ้านี่คุมประพฤติด้วยก็ไม่รู้ อายุก็เท่ากันแท้ ๆ’
ผู้หมวดหนุ่มหน้ายู่ คิดโน่นคิดนี่ไปเพลิน ๆ ลืมฟังไปว่าสิ่งที่เคนยะพูดนั้นแฝงนัยยะอะไรไว้
สายตาซุกซนหยุดลงที่ดวงตาสีน้ำเงินนั่น
ซาโต้หน้านิ่งทำตาดุ พร้อมขยับปากพูดคำว่า ‘เร็ว’ แบบไม่มีเสียง
‘เอ้ออออออ ไม่ต้องมาเร่งกูเลย รู้หรอกน่าว่ามึงรีบน่ะ’ คริสนึกในใจแลบลิ้นใส่คู่หูที่นั่งอยู่ตรงข้ามกัน
นำให้มีแต่เสียงหัวเราะ หึหึ ในลำคอเบา ๆ จากคนตรงข้ามส่งกลับมาให้
วันนี้แล้วสินะ คงต้องเข้าโหมดงานเต็มตัวสักที
.
.
.
.
.
.
.
.
บาร์เกย์ ????
.
.
.
เฮ้อ!! ไม่เคยไปวะ
Tbc.