#
19
“แน่ใจนะครับว่าจะไม่ไปรับเธอน่ะ”
หลังออกมาจากโรงแรมได้ทั้งคริสและซาโต้ก็มุ่งมาที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง
จริง ๆ แล้ววันนี้คริสมีนัดที่จะต้องไปรับเพื่อน‘อัญชิสา’ เธอจะเดินทางกลับมาถึงไทยในช่วงสายแต่เพราะงานที่เร่งเข้ามาโดยไม่รู้กำหนด
อีกทั้งหน่วย A(สุรชัยกับคอร์น)
ก็แจ้งเข้ามาให้หน่วยของพวกเขา D-dog ไปดูห้องที่ถูกเซ็ทไว้รอเหยื่อสำหรับเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ด้วย
“ไม่เป็นไร กูคุยกับเขาเข้าใจแล้ว”
สองหนุ่มก้าวตามกันออกมาจากลิฟต์ตัวเล็ก ๆ
ที่ค่อนข้างจะมืดเดินไปตามทางเดินแคบ ๆ
คริสตินยกโทรศัพท์มือถือขึ้นดูขีดรับสัญญาณที่แทบจะสแกนหาไม่เจอ
ดับแล้วดับอีก
“นั่นแฟนคริสเหรอ”
เขาปรายตามองไปที่คนพูดทันทีที่ได้ยิน
ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าลง
“ทำไม” ไม่รู้จะถามเซ้าซี้อะไรนักหนา
ตั้งแต่บนรถจนมาถึงที่นี่เจ้าซาโต้เฝ้าถามเขาเรื่องเลื่อนนัดอัญชิเป็นสิบรอบแล้ว
“เปล่า ก็ถามดู กลัวจะมีปัญหากัน
ที่จริงวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรมาก เผื่อว่า.....”
“ซาโต้มึงเป็นไรเนี่ย วันนี้มึงเซ้าซี้กู อารมณ์อย่างกับพวกสาวน้อยขี้สงสัยอย่างนั้นแหละ”
คริสหันหน้ากลับไปคุย เขากอดอกเอียงคอมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
“ก็...” ซาโต้ขมวดคิ้ว เขาแค่อยากจะพูดว่าถ้าเผื่อคริสตินอยากจะไปรับเธอหรือจะไปหา
เขาก็พร้อมจะขับรถพาไปได้ ก็อุตสาห์ให้ลูกน้องเอารถมาเปลี่ยนให้แล้ว
สาเหตุก็เพราะจะได้พาคริสไปรับเธอที่สนามบินนั่นเอง
ไม่เข้าใจตัวเอง
ดูเขาจะกังวลกับเรื่องนี้มากไปหน่อย
คริสใช้มือโยกหัวอีกฝ่ายเบา ๆ
สองคนเดินต่อไปตามทางเดินแคบ ๆ นั้นอีกครั้ง “ไรว้า คิดมากเรื่องกูเหรอเนี่ย
บอกไว้ก่อนอัญชิน่ะเขาไม่ใช่คนขี้น้อยใจหรือคิดมากอะไรหรอกนะ
กูคุยกับเขาเข้าใจแล้วมึงไม่ต้องห่วงหรอก”
“ผมก็แค่กลัวแฟนคริสเข้าใจผิดไง
เดี๋ยวก็หาว่าทำงานจนไม่มีเวลาให้อะไรแบบนั้นง่ะ” ซาโต้เหล่ตาพูดพร้อมทำหน้าปัญญาอ่อน
หน้าตาแบบนี้มึงก็ทำเป็นเนอะซาโต้
“โฮ่ ยังมีหน้ามาห่วงกูนะมึง
ตัวมึงน่ะเอาให้รอดเหอะ กูเห็นหมอเจด้าเขาโทรหามึงทีไรมึงคุยกับเขาไม่เคยเกิน 5
นาทีสักครั้ง”
“อะไร ๆ อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง”
ซาโต้ดึงแขนคริสไว้เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเดินนำไปจนเกือบถึงห้องที่นัดหมายกันไว้ก่อนหน้า
คริสหันกลับมามองด้วยท่าทีสงสัย
มึงจะจริงจังไปไหนวะเนี่ย
“ทีเรื่องตัวเองหลีกเลี่ยงซะไวเลยนะครับ”
“แล้วมึงจะเอาไรล่ะ ซักไซ้กูแบบนี้”
เออกูก็งงนะ
“บอกมาก่อน
ที่คุยกันเมื่อกี้นี่.....แฟนใช่ไหม ” สีหน้าจริงจังที่มาพร้อมกับคำถามโคตรไร้สาระ
เป็นอะไรที่คริสคาดไม่ถึงจริง ๆ ทำอย่างกับเด็กอนุบาลขี้หึงไปได้
แล้วมันจะหึงเราเพื่อ?
“ไม่ใช่เว้ย!!!” ไม่รู้ทำไมต้องไปแก้ตัวกับไอ้เจ้านี่ด้วย พอตอบออกไปก็รู้สึกกระดากชอบกล
คริสจึงรีบเลี่ยงเดินดุ่ย ๆ นำหน้าไป
ซาโต้พ่นลมหายใจพร้อมผุดรอยยิ้มทะเล้นแป้นแล๊น
ไม่เข้ากับหน้าหล่อ ๆ ของมันเลย ให้ตาย!
.
ด้วยสภาพตัวตึกที่ค่อนข้างเก่าและยังตั้งอยู่ในมุมอับของซอย
แต่เดิมห้องที่ถูกเซ็ทไว้ควรจะอยู่ที่ชั้น 2
แต่ต้องปรับแผนเล็กน้อยเมื่อทางเจ้าของอพาร์ทเม้นท์เคลียร์ห้องริมสุดได้ที่ชั้นนี้
ห้องใหม่ที่ได้จึงอยู่ที่ชั้น 5 เป็นห้องริมฝั่งขวาส่วนห้องที่อยู่ติดกันไปถูกเปิดไว้สำหรับให้ซาโต้คอร์นและสุรชัยใช้แสตนบายในช่วงที่คริสปฏิบัติภารกิจ
ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปดูห้องที่ตนเองต้องใช้งานเพื่อสำรวจความเรียบร้อย กล้องวงจรปิดและเครื่องดักฟังถูกติดตั้งไว้
6 จุดสำคัญ รวมถึงภายในห้องน้ำ
คริสเดินออกไปดูที่ระเบียงด้านหลัง เมื่อยื่นหน้าแหงนขึ้นไปมองที่ชั้นบนซึ่งเป็นดาดฟ้า
ก็เจอสุรชัยที่กำลังก้มมองลงมาโบกมือยิ้มให้อย่างอารมรณ์ดี ส่วนคอร์นนั้นกำลังติดตั้งและวางระบบอยู่ที่ห้องข้าง ๆ
หลังจากคริสสำรวจจุดสำคัญภายในห้องเรียบร้อยชายหนุ่มก็เดินไปรวมตัวกับเพื่อน
ๆ อีก 3 คนที่ห้องแสตนบาย
อุปกรณ์ทุกอย่างพร้อม คนพร้อม
โทรศัพท์ถูกคอร์นแฮกเพื่อตรวจจับคลื่นสัญญาณและดักฟังบทสนทนา
ในที่สุด ทุกสิ่งทุกอย่างพร้อม รอก็แต่เหยื่อเท่านั้น!
.
.
.
กลิ่นกาแฟลอยหอมตลบอบอวลไปทั่วร้าน
บริกรชายหญิงเดินเสิร์ฟลูกค้ากันให้วุ่น
ตามปกติร้านกาแฟมักจะเงียบสงบ แต่ร้านนี้ไม่ใช่
“วันนี้เราจะค้างที่อพาร์ทเม้นท์นั่น
สุรชัยกับคอร์นก็จะอยู่ด้วย สองคนนั้นจะพักที่ห้องแสตนบาย” ซาโต้พูดพร้อมรับชุดกาแฟและขนมเค้กที่พนักงานเพิ่งเอามาส่งให้ที่โต๊ะ
พวกเขาเลือกที่จะมานั่งร้านธรรมดา ๆ ที่ไม่ดูโดดเด่นอะไร
คริสตักขนมเค้กเข้าปากพร้อมดูดลาเต้เย็นอย่างเอร็ดอร่อย
ท่าทางเหมือนกำลังนึกอะไรบางอย่างอยู่โดยไม่ได้สนใจคำพูดของคู่หูที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเลยสักนิด
“ซาโต้ งานก่อน ๆ
ของมึงเคยทำอะไรแบบนี้บ้างรึเปล่า” จู่ ๆ คนตรงหน้าก็ถามขึ้น
นำให้ซาโต้เงยหน้าขึ้นจากเค้กนมสดสีกาแฟ
“ครับ ก็....เหมือนจะเคยอยู่บ้าง”
ต้องปลอบใจไว้หน่อย ผมจะไปเคยที่ไหนกันคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่มีผู้ต้องสงสัยเป็นเกย์แบบนี้ไม่ได้หาง่าย
ๆ นะครับ
เขาเองก็รู้ว่าคริสตินอาจจะค่อนข้างประหม่าเพราะนี่เป็นงานแรกคงจะอยากทำให้ดีที่สุดถึงขนาดเลื่อนนัดคนสำคัญแบบนี้จะบอกว่าไม่ทุ่มเทคงไม่ได้แล้ว
“เช่นงานอะไร ลองเล่าให้กูฟังบ้างสิ” ตั้งแต่ทำงานร่วมกับซาโต้มาก็ยังไม่เคยรู้ประวัติความเป็นมาของคู่หูคนนี้เลย
เคยได้ยินฟ็อกซ์บอกมาว่าซาโต้ทำงานมาตั้งแต่เด็กถึงแม้จะอายุมากกว่าเขาแค่ปีเดียวแต่ประสบการณ์ทำงานมากกว่าเยอะ
แต่เขากลับยังไม่เคยเห็นฝีมืออะไรของเจ้านี่เลยนอกจากชอบกลั่นแกล้งเขาซะเป็นส่วนใหญ่
“อะไรครับ ประหม่าเหรอ”
“ก็แน่สิวะ
กูก็ไม่เคยเรื่องอะไรแบบนี้ซะด้วยแถมไอ้หมอหื่นนี่ก็เป็นผู้ชายซะอีก
คิดแล้วกลุ้มฉิบหายเลย” คริสตินทำหน้าเซ็งสุดขีดแต่ก็ยังตักครีมเค้กสีขาวเข้าปากคำเบ้อเริ่มซาโต้มองแล้วก็อดขำในความน่ารักของคนตรงหน้าไม่ได้เมื่อคริสใช้ลิ้นเลียครีมที่มุมปาก
แล้วจู่ ๆ
ความคิดชั่วร้ายก็แล่นจี๊ดเข้ามาในหัวเมื่อได้เห็นท่าทางแบบนั้นของคู่หู
ซาโต้ขยับแว่นเล็กน้อย
“เอิ่ม.....อันที่จริง....ผมเองก็เคยเจอคดีพวกเกย์ลักษณะนี้อยู่บ้าง
แต่ก็...นานมาแล้วล่ะนะ” ท่าทีในคำพูดคงจะเต็มไปด้วยพิรุธ
แต่บังเอิญอีกฝ่ายกำลังก้มหน้าก้มตาสนใจอยู่กับขนมตรงหน้าจึงไม่ทันได้สังเกต
“หืออ” พอได้ฟังก็หูผึ่ง
“เหรอวะ แล้วไง
มึงเป็นตัวล่อเองเลยรึเปล่า”
โป๊ะเชะ! คำตอบเข้าเป้าเผง!
ซาโต้รีบหันหน้าไปนอกร้าน ทำทีเป็นดูนี่ดูนั่น เมื่อควบคุมสีหน้าตัวเองได้แล้วจึงหันกลับมา
“คริสว่าไงนะครับ” ลองแกล้งถามซ้ำอีกครั้ง ต้องทำท่าเหมือนไม่ใส่ใจเท่าไหร่
“กูถามว่า
คดีนั้นมึงเป็นตัวล่อเองเลยรึเปล่า” คริสค่อนข้างคาดหวังคำตอบพอสมควรดังนั้นจึงได้เน้นแต่ละคำของคำถามอย่างชัดเจน
“อ๋อ อื้อ
ๆ ใช่ครับ”
“เฮ้ย! จริงน่ะ?! แล้วคดีเป็นไงมั่งปิดสวยสมบูรณ์แบบไหม จับฆาตกรตัวจริงได้รึเปล่า
ไอ้ฆาตกรมันทำอะไรมึงบ้างแล้วมึงตอบโต้กลับไปยังไง” คนถามร่ายคำถามอย่างยาวไม่รู้จะตื่นเต้นอะไรนักหนา
ยังดีที่พอพูดประโยคหลังคริสตินเบาเสียงตัวเองลงมาหน่อย
ซาโต้ได้แต่หันซ้ายหันขวากลัวข้อมูลสำคัญ(?)เล็ดลอด
“ปิดได้สิครับดูด้วยใคร จบสวยงาม
จับคนร้ายง่ายแค่พลิกฝ่ามือ ” ซาโต้แกล้งโม้ไปเรื่อยเปื่อย
คนเราพอได้โกหกแล้วก็จำต้องโกหกต่อไป คิดแล้วตลกตัวเองเป็นบ้า
เมื่อก่อนเขาไม่ใช่คนที่จะมาทำอะไรแบบนี้ ตั้งแต่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคน ๆ
นี้ดูเหมือนท่าทีในการใช้ชีวิตของเขาจะเปลี่ยนไป
ไม่ว่าจะทำอะไรการได้แกล้งคนตรงหน้ามันช่างเป็นเรื่องที่น่ารื่นรมย์เป็นที่สุด
ผมสัญญาครับคริสถ้าแกล้งจนพอใจเมื่อไหร่ผมจะบอกความจริงนะ
หึหึ^^
ข้างฝ่ายคริสติน
ที่กำลังเอียงศีรษะครุ่นคิด หลังจากได้ฟังคำตอบนั้นของซาโต้
และแล้วชายหนุ่มก็คิดได้
“ซาโต้มึงบอกว่าเคยเป็นตัวล่อทำคดีเกี่ยวกับพวกเกย์
แล้วคดีก็ถูกปิดลงอย่างสวยงามจับฆาตกรตัวจริงได้สำเร็จ อย่างนั้นใช่ไหม”
“อ่าฮะ ใช่ ๆ” ซาโตกระพริบตาปริบ ๆ พยักหน้าทั้งปากคาบหลอดกาแฟอยู่
“แล้ว...ตอนที่มึงล่อให้ฆาตกรมาติดกับนี่
มึงใช้อะไรล่อ หืออ ร่างกายมึงเหรอ?? ไม่น่าเชื่อ”
“ ???!! ”
คนถามแสดงสีหน้าจริงจังจนซาโต้เองก็ถึงกับอึ้ง
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายอึก ๆ
ก็เออสิครับ ล่อฆาตกรคดีฆ่าข่มขืนน่ะ
มันก็ต้องใช้ร่างกายล่ออยู่แล้วไม่ใช่รึไง ยังอุตสาห์ถามผมออกมาได้นะ
ซาโต้นึกอย่างเจ็บใจที่โดนคริสสวนกลับอย่างซื่อ
แต่ก็ช่างเถอะ!
เข้าวัตถุประสงค์การกลั่นแกล้งของเขาพอดี
“อื้อ ๆ ตามนั้นแหละ คริสเข้าใจถูกต้องแล้ว ”
“เหรอวะ ถ้างั้นมึงแนะนำกูบ้างสิ คราวที่แล้วเจอไอ้หมอหื่นนั่นในห้องน้ำที่บาร์
กูเกือบตายแล้วไหมล่ะ
ไม่รู้มันทำบ้าอะไรดีนะที่กูทนได้ถ้าความแตกขึ้นมาล่ะก็แย่เลย จบเห่” ใช่สิเขาโดนมันลวนลามทั้ง ๆ
อย่างนั้นคิดแล้วก็เซ็งพรุ่งนี้ถ้าหากผิดพลาดก่อนจะจับมันได้คาหนังคาเขาล่ะก็แย่แน่
ถ้ามันเป็นฆาตกรตัวจริงงานคงเหลวไม่เป็นท่า ไอ้พี่ฟ้อกซ์เอาเขาตาย
นึกแล้วสยอง
คริสตินยิ่งคิดยิ่งกลุ้มไม่รู้ว่าต้องล่อไปถึงจุดไหนถึงจะเรียกว่า
‘พอ’ แล้วต้องหยุด
ถ้าเกิดมันแก้ผ้าเขาขึ้นมาตัวเขาจะขัดขืนแบบไหนกัน
เกิดมันจับเขาผูกเชือกมันมือมัดปากปิดตาอีกมิแย่รึไง แถมยังเรื่องไวอากร้าแบบฉีดนั่นอีก
ตลอดวันที่ผ่านมาเขาเฝ้าครุ่นคิดถึงแต่เรื่องนี้ยังไม่กล้าปรึกษาใครเลย
ดีนะที่เจ้าซาโต้มันบอกมาว่าตัวเองมีประสบการณ์
ดีเลย งั้นต้องให้มันแนะนำดีที่สุด
“น่านะ ซาโต้กูขอร้องล่ะ
มึงช่วยบอกกูทีว่ามันมีทริคยังไงบ้างที่ใช้ต้อนไอ้ฆาตกรโรคจิตแบบนี้ให้จนมุมได้ง่าย
ๆ แล้วยอมรับออกมาเองน่ะ”
ในที่สุดคริสก็ติดกับผมจนได้ ฮ่ะฮ่ะ
ซาโต้ฝืนหน้านิ่งทั้งที่ใจอยากยิ้มใจจะขาด “ได้ครับ ไม่มีปัญหา”
ไหน ๆ ก็ไหน ๆแล้ว
เพิ่มเงื่อนไขเข้าไปอีกสักหน่อยก็แล้วกัน
“แต่มีข้อแม้ด้วย ถ้าคริสรับปากได้
ผมจะสอนทริคให้โดยใช้สถานที่จริงเลย คริสจะได้ชิน ๆ
ไว้ไม่ประหม่าเวลาเจอเข้ากับตัวเองวันพรุ่งนี้ไง ดีไหมครับ”
เอิ้ก ๆ ซาโต้ทั้งตอบทั้งกลั้นหัวเราะอยู่ในใจ โถโถ
ยิงนกนัดเดียวผมจะได้ถึงสองตัวเลย
เหตุผลเจ้าเล่ห์ของเขาช่างเข้าท่าอะไรเช่นนี้
“ข้อแม้อะไรของมึง” คริสตินขมวดคิ้ว วางช้อนตักขนมลง แล้วหยิบแก้วกาแฟขึ้นมาดูด
ซาโต้ยักไหล่ “ก็ไม่มีอะไรมาก
แค่ต่อไปคริสห้ามพูดมึงกูกับผมอีก พูดเพราะ ๆ ให้เหมือนกับที่พูดกับเคนยะกับฟ็อกซ์
แค่นั้นทำได้รึเปล่าครับ"
อ๋อ นึกว่าอะไร มึงนี่น้าชอบบังคับกูอยู่เรื่อย
พูดกันแบบนี้ก็สนิทดีอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่ชอบกันนะ “ทำไมวะ
กูว่าแบบนี้สนิทกันดีออก มึงแหละพูดครับ ๆ อยู่ได้
ทีกับคนอื่นไม่เห็นจะสุภาพเหมือนพูดกับกูเลย”
“อ้าว แล้วไม่ชอบรึไงครับ”
“ก็....ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ” คริสตินเริ่มอึกอักเถียงไม่ออก มันก็ดีอยู่หรอกมีคนมาพูดเพราะ ๆ ด้วย
แต่ว่า...
“งั้นจะทำตามที่ขอได้รึเปล่าล่ะ
ถ้าแลกกันได้ผมจะสอนให้ทุกกระบวนท่าเลยนะ พรุ่งนี้จะได้เอาไว้รับมือได้ง่าย ๆ ไง”
ซาโต้แสร้งทำทีไม่ใส่ใจเท่าไหร่ พูดไปตักเค้กกินไปเรื่อย
“อือ ๆ เอางั้นก็ได้
จะพยายามละกัน มึงเหอะ รับปากจะสอนให้แน่นะ”
“ครับ ๆ ได้ ๆ สอนให้แน่นอนอยู่แล้ว”
ซาโต้มองซ้ายมองขวาโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ
พร้อมขยับแว่นเล็กน้อย “เอิ่ม.....ทุกทริคเลยดีไหม ” ชายหนุ่มทั้งพูดทั้งยิ้ม แต่คริสตินหารู้ไม่ว่า
รอยยิ้มนั่นมันแฝงไปด้วยความร้ายกาจขนาดไหน หึหึ
ผมไม่เบี้ยวหรอกครับคริส ทุกทริคของผมมันได้กำไรกันอยู่เห็น ๆ
คราวนี้จะแกล้งให้หน้าแดงหูแดงไปเลยคอยดูนะ 5555 ซาโต้ลำพองใจอย่างเจ้าเล่ห์
ต่างกับอีกคนที่รีบพยักหน้าตอบรับด้วยรอยยิ้มแสนซื่อบริสุทธิ์
“อื้อ ๆ ซาโต้มึง เอ้ย!
นายใจดีจริง ๆ”
ชายหนุ่มโล่งใจขึ้นมากเมื่อได้ยินคำสัญญานั้นจากคู่หู
ยังไงซะ เชื่อคนที่เคยผ่านอะไร ๆ มาก่อนน่าจะดีและปลอดภัยกว่า ขณะที่ฝ่ายซาโต้ก็ยกแก้วกาแฟที่จวนจะหมดขึ้นดูด
ชายหนุ่มอมยิ้มแล้วเบนสายตาออกไปที่นอกกระจกร้านบานใหญ่
ดวงตาภายใต้กรอบแว่นสีชาหรี่ลงอย่างเจ้าเล่ห์ ในใจกำลังบวกลบคูณหารถึงแผนการณ์ที่จะได้กลั่นแกล้งคนตรงหน้าอีกครั้ง
ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกมีความสุขนักที่จะได้แกล้งคน
ๆ นี้ ด้วยหน้าตาที่ค่อนไปทางน่ารักแบบแปลก
ๆ เวลาทำหน้าเอ๋อ ๆ เบิกตาโต เม้มปาก แกล้งทำจมูกย่น
มันทำให้เขาอยากมองเป็นที่สุด อีกทั้งเวลาโกรธไม่ได้ดั่งใจแล้วทุบตีด่าทอเขานั่นยิ่งทำให้เขามีความสุขไปกันใหญ่
นี่เขากลายเป็นไอ้โรคจิตไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ!
คิดได้อย่างนั้นชายหนุ่มรีบดันแว่น
ตั้งสติหันกลับมาเคาะโต๊ะเบา ๆ
เป็นสัญญาณบอกให้อีกคนที่กำลังนั่งวาดอะไรบางอย่างเล่นบนโทรศัพท์มือถือต้องหยุดมือลงคริสเสียบปากกาเข้าที่เดิม สองหนุ่มลุกออกจากโต๊ะขณะที่ซาโต้คว้าบิลที่เสียบไว้ด้านข้างเดินไปต่อคิวจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์
ส่วนคริสเดินเลี่ยงไปยืนรอแถวหน้าร้าน
หลังจากกลับไปอาบน้ำทานข้าวพร้อมกับเปลี่ยนชุดที่โรงแรมเรียบร้อย
ตกดึกทั้งสองก็เข้ามาพร้อมหน้ากันที่ห้องสแตนบายซึ่งอยู่ติดกับห้องที่จะใช้จับเหยื่อโดยมีสุรชัยกับคอร์นรออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว
คริสมาในชุดนอนสบาย ๆ เสื้อยืดสีฟ้าอ่อนกับกางเกงห้าส่วนหัวยืดธรรมดา ๆ
ซาโต้เองก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่
สุรชัยกับคอร์นต่างหากที่ดูเหมือนจะพร้อมกว่ามากนัก เมื่อลองเทสอุปกรณ์ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเรียบร้อย
คริสกับซาโต้ก็ขอแยกตัวไปที่ห้องพักทันที
“ตุ้มหูกับเสื้อกล้าม
ไม่จำเป็นต้องใช้นะครับคริส เพราะจากรายงานการชันสูตร เหยื่อ 2 รายล่าสุดที่ผ่านมา
มีความเป็นไปได้มากที่หลักฐานสองสิ่งนี้จะเป็นของที่ฆาตกรสวมใส่ให้เหยื่อเองก่อนทำการฆาตกรรม”
“อือฮึ” คริสพยักหน้าเข้าใจ
รายงานนั่นเขาเองก็ได้อ่านมาบ้างแล้วเคนยะสรุปให้อย่างไร้ที่ติกันเลยทีเดียว
แต่แล้วเขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
“ซาโต้ไหนมึงว่าจะแนะนำทริคให้กูไง
อย่าบอกนะว่าลืมไปแล้ว” ซาโต้ที่กำลังเดินไปตรวจเช็คกล้องวงจรปิดและเครื่องดักฟังตัวที่ติดอยู่ใกล้กับเตียงที่สุด
หันกลับมามองเชิงดุ ๆ
ทันทีที่ได้ยินอีกคนยังพูดจาพ่อขุนรามกับเขาอยู่
เมื่อคริสเห็นสายตาแบบนั้นเลยนึกขึ้นได้
ชายหนุ่มรีบแก้ตัวใหม่ทันที “โทษที ๆ ว่าแต่นายจะสอนให้ได้รึยังล่ะ มันดึกแล้วนะหรือว่าลืมไปแล้ว”
“ครับ ๆ ไม่ลืมหรอก แล้ว...คริสจะเริ่มเลยรึเปล่า” ซาโต้เหล่ตาถามดู
ตอนนี้ตัวเขาเตรียมพร้อมอยู่ที่สวิทไฟเรียบร้อยพร้อมกับนึกบางอย่างขึ้นมาในใจ
‘ผมน่ะพร้อมก่อนที่คริสจะถามอีกครับไม่งั้นผมจะเดินมาดึงหัวแจ็คเพื่อตัดสัญญาณกล้องวงจรปิดและสัญญาณไมค์ของจุดนี้ทำไม
เผื่อเจ้าสองคนที่อยู่ห้องแสตนบายมันเห็นมันได้ยินอะไรขึ้นมา เคนยะไม่เอาผมตายเหรอ’
“ก็เริ่มเลยสิวะ จะรออะไรอีก”
สวิทไฟถูกปิดฉับลงทันทีหลังจบคำพูดของผู้หมวดหนุ่ม
แสงไฟหรี่สีส้มอ่อนจากระเบียงเริ่มเข้ามาแทนที่
“เฮ้ย! ต้องปิดไฟด้วยเหรอ”
“อ้าว ก็พรุ่งนี้หมอนั่นมันจะมาแต่เช้ามืดไม่ใช่รึไงครับ
ทุกสิ่งทุกอย่างจะได้สมจริงไง” เอาล่ะ
ในที่สุดก็เริ่มได้สักที แสงไฟรำไรแบบนี้พอจะซ่อนสีหน้าเจ้าเล่ห์ของเขาได้บ้างล่ะนะ
ซาโต้กำลังนึกถึงแผนการชั่ร้ายที่อยู่ในหัว
พอไฟถูกปิดลงเรียบร้อย
เขาก็เดินเข้ามาใกล้อีกฝ่ายที่นั่งอยู่ที่ปลายเตียง
“ผมจะสอนล่ะนะ” ชายหนุ่มถอดแว่นวางลงที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
คริสตินพยักหน้ารับทันที
“คริสนอนลงเลยครับ
ทำท่าเหมือนกำลังนอนรอมันอยู่นั่นแหละ”
หืออ......คำพูดแปลก ๆ
ของซาโต้ทำให้คิ้วเรียวของคริสตินขมวดเข้าหากันแทบจะทันที
มันแปลก ๆ.....รึเปล่า??
“คริสครับเพื่องาน ท่องไว้นะ
นี่ผมจะสอนงานให้ไง คริสตั้งใจฟังแล้วก็ทำตามอย่างว่าง่าย
ๆ นะครับเสร็จแล้วจะได้รีบนอน” ชายหนุ่มเดินมานั่งลงที่เตียงแล้ว
ส่วนคริสตินหลักจากพยักหน้าเข้าใจเขาก็คลานขึ้นไปนอนอย่างว่าง่ายเช่นกัน
ซาโต้ท้าวแขนนอนลงข้าง ๆ มือแกร่งค่อย ๆ
ปัดเส้นผมนิ่มที่เคลียใบหน้าขาวออกอย่างอ่อนโยน “ฟังดี ๆ นะ”
เสียงกระซิบแหบพร่าดังขึ้นใกล้ ๆ ในความมืด
“ถ้าเขา...ทำแบบนี้กับคริส” สายตาเจ้าเล่ห์ของซาโต้กลอกกลิ้ง ก่อนจะแตะจูบลงไปที่แก้มนิ่มนั้นเบา
ๆ “คริสจะทำยังไง??”
คริสตินตาโต
ทันทีที่อีกฝ่ายจูบลงที่แก้มใสของตนเอง
ชายหนุ่มเด้งตัวลุกขึ้นทันทีแต่ก็ถูกซาโต้ใช้ฝ่ามือดันหน้าอกไว้ให้นอนลงไปอย่างเดิม
“จุ๊ จุ๊ อย่าดื้อสิครับ
นี่ผมกำลังสอนภารกิจอยู่นะ ของจริงยิ่งกว่านี้อีกจะบอกให้” หึหึ ต้องขู่ไว้หน่อย
คริสได้แต่กระพริบตาปริบ ๆ คิดคำนวณอยู่ในใจ “ล....แล้วกูต้องทำยังไง
ต...ต้องหอมแก้มมันเหมือนกันใช่รึเปล่า”
“อ่าฮะ ไหนลองทำซิ
ดูว่าน้ำหนักการสัมผัสจะเป็นยังไง ใช้ได้ไหม”
ซาโต้ตอบด้วยสายตาหลุกหลิก
แต่เพราะด้วยความมืดดวงตาเจ้าเล่ห์แบบนั้นคริสจึงไม่อาจสังเกตเห็นได้ ปากนุ่ม ๆ จึงยื่นมาจูบลงที่แก้มซาโต้อย่างว่าง่ายพร้อมคำถามแสนซื่อ
“กูลงน้ำหนักแบบนี้มันแรงไปรึเปล่าวะ” ซาโต้รีบส่ายหัวปฏิเสธทันควัน
“พอดีแล้วครับแค่นี้กำลังดีเลย สีหน้าก็โอเคมาก ๆ”
ผู้หมวดหนุ่มพยักหน้าอย่างเข้าใจ ซาโต้จึงย่ามใจดำเนินแผนการชั่วร้ายต่อ
“แล้วถ้าเขา...ทำอย่างนี้กับคริสล่ะ......คริสจะทำยังไง”
จูบเบา ๆ ถูกกดลงที่ซอกคอขาว คริสตินถึงกับตาโตขนลุกว๊าบ!
“ซ...ซาโต้!”
ดวงตาสองคู่สบกันในความมืด
ซาโต้เอื้อมมือประคองแก้มนิ่มนั้นไว้อย่างแสนอ่อนโยน “คราวนี้ฟังดี ๆ นะครับ” คริสที่นอนตัวแข็งทื่อตั้งแต่โดนจูบลงที่ซอกคอ
ตอนนี้หูบอดไม่ได้ยินอะไรทั้งสิ้นอีกแล้ว
“แล้วถ้า....เจ้านั่นมันทำแบบนี้ด้วยล่ะ”
มือหนาเลื่อนสอดเข้าใต้เสื้อยืดตัวนิ่ม “......คริสจะทำยังไง?” เสียงกระซิบแผ่ว ๆ ที่ข้างหู
ทำเอาขนที่ลุกชันอยู่แล้วของคริสยิ่งลุกชันขึ้นไปอีก
ความรู้สึกชาวาบจากปลายเท้าพุ่งขึ้นมาสู่หัวใจ เขาได้ยินเสียงใจตัวเองเต้นดังมาก ๆ
มือไม้ที่ลูบไล้คลอเคลียอยู่แถวหน้าท้องแบนราบ กับสายตาที่จ้องส่งลงมา
คริสรีบตะปบมือของผู้บุกรุกไว้ทันที “ซ....ซาโต้กูว่ามัน.....”
“ยังครับ ยังไม่หมด ผมเพิ่งจะแสดงให้ดูทีล่ะอย่างเอง คราวนี้ผมจะทำสามอย่างพร้อม
ๆ กันเลย คริสก็ลองนึกดูนะครับว่าจะตอบโต้ผมกลับมายังไง แต่!จำเอาไว้นะ นี่คืองาน!”
ไม่รอให้คนฟังตกลงหรือไม่ตกลง
ซาโต้เริ่มบรรเลงสามอย่างรวมเข้าด้วยกัน ตั้งแต่กดจูบเบา ๆ
ลงที่แก้มใสแล้วลากไล้ลามลงมาถึงซอกคอขาวขณะที่มือหนาไม่อยู่สุขสอดขึ้นไปวนอยู่ที่รอบอกและหน้าท้องแบนราบของคนที่นอนอยู่ข้างกัน
คริสตินหลับตาปี๋เขาแทบจะทนถึงกับทนไม่ไหวสองมือเรียวยกขึ้นมากอดคออีกฝ่ายไว้โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ซาโต้เองยิ่งแล้วใหญ่ตอนแรกกะแค่แกล้งสอนเล่น ๆ แต่ไหงไป ๆ
มามันถึงไม่อยากหยุดก็ไม่รู้
แย่แล้ว! ซาโต้นึก
ทำยังไงเราจะหยุดตัวเองลงได้!
แย่แล้ว! คริสตินเองก็นึก ชายหนุ่มตั้งสติพร้อมกำหนดลมหายใจ นี่คืองาน ห้ามคิดอะไรเรื่อยเปื่อยเจ้าซาโต้กำลังตั้งใจสอนเราอยู่ ถ้าเจอสถาณการณ์จริงพรุ่งนี้จะได้ไม่ตื่นเต้น เราจะต้องตอบโต้ให้ดีที่สุดไอ้หมอบ้านั่นมันจะได้หลงกลแล้วรีบลงมือกับเราไว ๆ งานจะได้เสร็จสักที
ข้างฝ่ายซาโต้ที่ยังหยุดตัวเองลงไม่ได้ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มมองเห็นสีหน้าของคนที่หลับตาพริ้มตอบรับจูบของเขาอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ
ตายห่า!!!
ซาโต้นึกไปว่าคริสกำลังเตลิดและมีอารมณ์จริง ๆ ตัวเขาเองก็เอาไม่อยู่แล้ว แย่ชะมัดควบคุมตัวเองไม่ได้ จนกระทั่ง!! จู่ ๆ คริสตินก็เบี่ยงขาออก เขารีบกระเถิบตามเข้าไปอีกตามสัญชาตญาณ แต่คริสก็ยังเบี่ยงขาออกอีก ขาเจ้ากรรมของเขาก็ดันกระเถิบเข้าใกล้อีกโดยอัตโนมัติ
เอ๊ะ ยังไง
“ไอ้ซาโต้!” คริสถอนปากออกแล้วเรียกชื่อเขาอย่างดัง
ซาโต้ตกใจหน้าหรา
“นี่มึงป็นบ้าไรเนี่ย!!!” คริสผลักเขาออกอย่างแรงแล้วลุกขึ้นนั่ง
“อ.....อะไรครับ” ไม่รู้ใครแกล้งใครล่ะตอนนี้
คริสไม่ตอบแต่ใช้สายตามองลงไปที่เจ้าน้องชายของอีกฝ่ายอย่างแค้น ๆ ซาโต้ได้แต่ไล่สายตามองตาม พอเห็นของของตัวเอง จะ จะ ถึงกับตกใจรีบใช้มือกุมเอาไว้อย่างเร็วแม้จะปิดไม่ค่อยมิดก็ตาม สาเหตุเพราะมันเด้งออกมาชัดเหลือเกิน
คนเจ้าเล่ห์กลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนแก้ตัวออกไปแบบเขิน ๆ “ ม....มันอยากเล่นด้วยมั้งครับ (^_^')” พูดจบไม่รอให้โดนด่ารีบวิ่งลงจากเตียงทันที
“ขอเข้าห้องน้ำแป็บ เดี๋ยวออกมาสอนต่อ”
“บ้า!!!!!! ใครจะเรียนกับมึงกัน กูไม่น่าหลงกลมึงเล้ยยย ” หมอนใบใหญ่ถูกเขวี้ยงเข้าใส่อย่างแรง ผู้หมวดหนุ่มหัวเสียนั่งหน้ายู่กอดผ้าห่มเม้มปากมือไม้สั่น
“ไอ้ซาโต้ ไอ้เจ้าเล่ห์!!”
ไหนพี่ฟ็อกซ์เคยบอกว่ามันแสนซื่อ แต่ทำไมเขาถึงโดนมันแกล้งตลอดก็ไม่รู้ แย่ชะมัดเลย
Tbc.