บทที่ 18
วันนี้วันศุกร์ผมมีเรียนทั้งเช้าทั้งบ่าย เต็มวัน! นึกถึงไอ้จดหมายรักสีชมพูขึ้นมาได้ เลยลองปรึกษาไอ้โป้งดู ไอ้เชี่ยดิวเสือกนั่งอยู่ตรงนั้นพอดี ช่างแม่ง! ผมอยากพูดนี่นาโอกาสกำลังดี ส่วนไอ้คิมถูกอาจารย์เรียกพบเรื่องงานซะงั้น
“แล้วมึงจะเอาไง” ไอ้โป้งถามขึ้น ทำเป็นเสียงเข้มนะมึง ทีเรื่องอย่างว่าล่ะก็อ้อนกูงี้อย่างกับเด็ก
“กูแอบออนเฟสมันดู แม่งเห็นทักกันด้วยว่ะ แล้วมันจะส่งจดหมายรักทำเหี้ยไร” ผมพูดอย่างอารมณ์เสียเลย
“คงอยากโรแมนติกมั้งสัส!” ไอ้ดิวมึงยิ่งพูดยิ่งหยาบว่ะ ผมมองหน้ามันนิดหน่อยก่อนนึกถึงเรื่องเมื่อเช้าผมเปิดเล่นคอมเช็คเฟสตัวเองเลยแอบล็อคอินเข้าของมันดู ห่าเอ้ย! ทักกันตอนตี 1 กูหลับอยู่ไม่รู้เรื่องเลยแม่ง! อยากบอกอีกอย่างหน้าตามันโคตรสวย ผู้ชายห่าไรไม่รู้อย่างกับทอม ผมอยากจะบ้า ตอนนี้อารมณ์เสียสุด ๆ เลยครับ
“เดี๋ยวคืนนี้ กูพามึงจัดการ” ไอ้โป้งเสนอขึ้น
“กูไปด้วย กูอยากรู้” ไอ้ห่าดิวแม่งเสือก
“มึงไม่ต้องไปเลย เดี๋ยวไอ้แบงค์ด่ากูอีก มันยิ่งหวงมึงอยู่พาไปเที่ยวหน่อยกูโดนประจำ” ผมรีบห้ามไว้ก่อนดีกว่า ไอ้ดิวยิ่งชอบทำเสียเรื่องอยู่ด้วย
“มึงห้ามไปบอกมันนะพวกกูจะแอบไปดูกันเอง ถ้ามันรู้ก่อน กูเอามึงตาย!” ผมคาดโทษมันไว้ มันเป็นคนปากเร็วต้องห้ามไว้ก่อน
“เออน่า ถ้างั้นได้ความยังไงมึงต้องโทรมาเล่าด้วย” ดูมันครับเรื่องของผมแท้ ๆ มันเสือกมาต่อรอง
“ถ้างั้น วันนี้มึงบอกมันว่าจะมาค้างกับกู” ไอ้โป้งพูดขึ้น
“อืม” ผมพูดแล้วยักคิ้วส่งให้มัน เป็นอันรู้กันครับ!
........
.......
ตอนนี้ผมกับไอ้โป้งจอดรถอยู่หน้าทางเข้าคอนโดไอ้คิมครับ 19.00 น. พอดี
“พวกมันนัดกันกี่โมง”
“ 2 ทุ่ม” ผมตอบพร้อมมองที่รถไอ้คิมยังจอดอยู่ที่เดิมไม่มีอะไรผิดปกติ
“กูว่ามันไม่ทำหรอกว่ะโน่ มึงอ่ะคิดอะไรเหมือนผู้หญิงชิบหายมึงเป็นไรเนี่ย!”
“ไอ้โป้ง!” ผมตะคอกใส่แล้วตีมันครับ
“กูแค่อยากรู้หรอกว่ามันจะไปตามที่เค้านัดจริงรึเปล่า กูก็หวงของกูเหมือนกันนะเว้ย!” ผมพูดไปมองรถมันไปอีก ทางเข้า-ออกก็ยังไม่มีใครออกมา
“ถ้าเป็นกูมึงจะหวงขนาดนี้รึเปล่าวะ” มันทำหน้างอน ๆ แต่ก็ช่วยผมมองทางอยู่เหมือนกัน
“หวงสิวะ! หวงเหมือนกันหมดแหละ ยิ่งมึงเป็นเมียกู กูยิ่งหวงใหญ่”
“ไอ้โน่ ! มึงพลิกกูได้ครั้งเดียวพูดอยู่นั่นแหละ ไม่มีทางอีกหรอกกูไม่มีทางพลาดอีกแน่” อ้าว ๆ แล้วมันมาโบกหัวผมทำไมเนี่ย ผมกูยุ่งหมดแล้ว
7.30 ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แอคคอร์ดดำคันนั้นยังจอดอยู่ที่เดิม
“โป้ง! ร้าน...............ที่มันนัดกัน อยู่ไกลไหมวะ?”
“ 2 แยกก็ถึงแล้ว”
“ใกล้ ๆ ? ทำไม ? ทำไมใกล้ ?”
“กูจะรู้ไหมเนี่ย”
“หรือมันรู้จักคอนโดไอ้คิม มันนัดแบบให้ความสะดวกไรเงี้ย” เอาแล้วครับความคิดผมเริ่มเหี้ยอีกแล้วครับ
“มั้ง”
“อะไรมั้ง ? มึงก็ขยายความดิวะ”
“ก็ถ้าเป็นกู กูก็จะนัดอย่างนี้เหมือนกัน”
“แสดงว่าไอ้คิมบอกมันสิ ว่าพักอยู่ที่ไหน” ผมเริ่มเจาะหาช่องทางจับผิดเต็มที่
“โน่ กูว่ามึงใจเย็นดีกว่าว่ะ นี่กูนั่งอยู่ทั้งคนมึงยังแสดงออกชัดเจนขนาดนี้เลย?”
“โป้ง! ถ้ามันไปจริงกูมีแผนดี ๆ ว่ะ”
“แผนไรของมึง ?”
“เอาหูมึงมานี่”
“ @#&$@*&%$#@&$@$*&! ….. ”
“ !!!!!!! ”
“ เป็นไง อึ้งล่ะสิ แผนกูเจ๋งใช่ป่ะ”
“เปล่า !! กูอึ้งที่ว่าทำไมมึงต้องกระซิบด้วย ก็เราคุยกันอยู่แค่ 2 คนนี่หว่า!?”
“ จิ๊! ไอ้โป้งบ้า!”
“เฮ้ย ๆ มึงไปหัดจิ๊จ๊ะที่ปากมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย”
“........” แกล้งงอนดีกว่า ถามห่าอะไรของมัน
“อย่าทำอีกนะเว้ย”
“ทำไมวะ”
“มันน่ารัก! กูไม่อยากให้ใครเห็น”
“ไอ้บ้า!” ฝ่ามืออรหันต์ถูกฝาดลงแล้วครับ
“โน่! กูเขียวหมดแล้วเนี่ย .... ครับ ๆ โป้งขอโทษนะ นะ ไม่พูดแล้ว เลิกตีได้แล้ว กูเจ็บครับโน่ โอ๊ย!” ผมตะลุมฝ่ามือใส่มันไม่ยั้ง บังอาจมาแซวผมได้ ก็เพราะพวกมันนั่นแหละนิสัยผมจะเหมือนผู้หญิงขึ้นทุกวัน
เหลือบมองดูนาฬิกาอีกที 19.50 น.
“ โน่!!!! ”
“ ไรของมึง ? ”
มันไม่ตอบแต่ยักคิ้วส่งให้ผมแทน สายตาจับอยู่ที่ทางออกของคอนโด ไอ้คิม! กับชุดสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า เดินตรงไปที่รถของมัน
“ห่า! มันไปจริง” ผมสบถออกมาเบา ๆ
“ใจเย็นมึง! ดูไปก่อนมันจะขับไปไหน” พวกผมรอให้มันเลี้ยวรถออกไปสักพักค่อยขับตามออกไป เรารู้สถานที่อยู่แล้วเพราะงั้นไม่จำเป็นต้องเสี่ยง
พอรถจอดลงหน้าร้านปุ๊บสายตาผมก็สอดส่ายหารถไอ้คิมเลยครับและแน่นอนไม่มีอะไรเกินความสามารถ เห็นทันที! มันจ่ายทิปพนักงานโบกรถแล้วเดินเข้าไปด้านใน พร้อมคุยโทรศัพท์ไปด้วย
“เอาไง มึงจะเข้าไปป่ะ?” ไอ้โป้งถามขึ้น
“อืม ไปดิ มันเข้าโซนนั้นเดี๋ยวพวกเราไปอีกทางละกัน” ผมกับไอ้โป้งเดินเข้าร้านหาที่นั่ง กว่าจะเห็นมันได้มองตาแทบทะลัก มันเล่นไปนั่งซะหลบมุมใต้ต้นลีลาวดีอีกต่างหาก ไฟสีส้มมึงจะโรแมนติกไปมั้งสัด!
“ไอ้โป้ง! กูว่าตรงนี้มันใกล้ไปนะเว้ย” ผมพูดขึ้น
“ไม่หรอก คิมมันนั่งหันหลังให้เรา ไอ้ห่านั่นก็ไม่รู้จักเรา ไม่มีปัญหา” ไอ้โป้งตอบอย่างไม่แคร์ ผมสั่งอาหาร 2-3 อย่างพอเป็นพิธีส่วนใหญ่สายตาจับจ้องอยู่ที่โต๊ะนั้นมากกว่าไม่รู้พวกมันคุยห่าอะไรกัน ไอ้สวยนั่นแม่งทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ จนสักพักเห็นไอ้คิมลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำ
♬。 ♫♫~♬ ♫~ในใจไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเข้ามา ทำให้แววตาฉันเห็นความสดใส♬。 ♫♫~♬ ♫~♬
โทรศัพท์ผมเอง
คิม!
“ เฮ้ย มันโทรมาว่ะโป้ง”
“รับดิ หลอกถามมันสิ” ห่าโป้ง! มึงเริ่มเหี้ยเหมือนกูแล้ว
“ครับ” ผมกรอกเสียงลงในโทรศัพท์
< ไรครับโน่ มึงพูดซะเพราะเชียว >
“อ๋อ....เออกู...เอ่อกำลังกินข้าวอยู่อ่ะ” ผมเหลือบมองเห็นไอ้โป้งตาเขียวเชียวครับ ก็กูเนียนไม่เก่งนี่หว่า
< อะไรครับกูยังไม่ได้ถามเลย! แล้วอยู่ไหนเนี่ย อยู่ห้องรึเปล่า ? >
“ อือ อยู่กับไอ้โป้งนี่แหละ”
< กินข้าวกับอะไรวะ >
“ เอออาหารที่นี่แม่งไม่อร่อยเลยว่ะ สู้ไอ้โป้งทำก็ไม่ได้ ”
< อ้าว! ไหนว่าอยู่ห้องไง! >
“อ๋อ...เออเพิ่งออกมาเมื่อกี้ มันพากูมากินข้าว”
< ไรวะโน่ มึงแปลกว่ะ พูดจากำกวม >
“อ้าวเหรอ เออ ไรวะโป้ง! สะกิดกูอยู่ได้” ประโยคหลังผมหันไปถามไอ้โป้งมันสะกิดผมใหญ่เลยจ้องผมตาแทบทะลัก ทำสัญลักษณ์ประมาณว่าให้ถามมันไม่ใช่ให้ถูกมันถาม
< โน่ มึงโอเคป่ะเนี่ย พวกมึงอยู่ไหนกัน >
“อยู่แถวนี้แหละ! เฮ้ย! ไม่ใช่ ! อยู่แถวห้องมันนี่แหละกินเสร็จแล้วกำลังจะกลับพอดี แล้วมึงอ่ะ กินข้าวยังวะ?”
<อือ กินแล้ว>
“เหรอ กินอยู่ห้องรึเปล่า เหงามะ” คราวนี้กูหลอกถามมึงเต็ม ๆ
<ออกมากินข้างนอกน่ะ นัดกับเพื่อนไว้>
“เหรอ ใครวะ? มึงกินข้าวกับใครอ่ะ”
<อืม... รุ่นน้องน่ะ ทีมวิจัยของ ดร.ถวัลย์>
“เหรอ...แล้วไปกันกี่คนวะ ท่าทางจะสนุกน่าดูไปกันทั้งทีมรึเปล่า?”
<......ก็ ......หลายคนแหละ! > ในที่สุดมึงก็โกหกกูจนได้ ไอ้คิม!
“เออ! แค่นี้นะเว้ย ไอ้โป้งมันเรียกแล้ว กูจะ-แดก-ข้าวต่อ” รู้สึกเสียงกูเริ่มแข็งขึ้นแล้วรีบวางก่อนดีกว่า
< ครับ ๆ พรุ่งนี้เดี๋ยวกูไปรับแต่เช้านะ >
พอกดวางเรียบร้อยก็เห็นมันเดินกลับมาที่โต๊ะครับ ไอ้สวยนั่นยิ้มรับมันอย่างหวานเลย มันสั่งเช็คบิล จากนั้นเดินออกไปด้านนอกพร้อมกัน พวกผมเองก็เร็วไม่แพ้กันไอ้โป้งจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ กำลังเดินออกมาเห็นพวกมันยืนพิงรถไอ้คิมคุยกันอยู่ ไอ้สวยนั่นยื่นหน้ายื่นตาเข้าไปใกล้แม่ง เชี่ยเอ๊ย! มันกำลังอ้อนไอ้คิม จนสักพักมันเปิดให้เค้าขึ้นรถแล้วขับออกไป ไอ้โป้งรีบออกรถขับตามเลยครับคราวนี้อยากรู้เหมือนกันมันจะไปไหน
รถพวกผมดันติดไฟแดง บ้าฉิบหาย! เฉียดไปแค่นิดเดียวคิดว่าคงหมดหวัง จนขับมาได้สักพักเห็นรถมันจอดอยู่ข้างทางไอ้โป้งตีไฟจอดลงทันทีแต่เลยพวกมันไปอีกหน่อย แต่ยังไงซะก็ยังมองเห็นได้ชัด ดูอยู่สักพักมันนั่งคุยอะไรกันไม่รู้
“ห่าแม่ง! กอดกันแล้วมึง”
ผมสบถออกมาอย่างดังเลย สายตาผมตอนนี้จ้องอยู่ที่รถพวกมันนั่นแหละ คล้องคอกอดกันแม่งโคตรทุเรศเลย คุยเหี้ยอะไรของมันท่าทางแบบนั้น ถ้ามันลองจูบกันนะผมจะเดินเข้าไปลากไอ้เหี้ยนั้นออกมากระทืบแน่เลย กูทนไม่ไหวแล้วโว้ย! หน้าแม่งใกล้กันฉิบหายอีกแค่นิดเดียว
มันกอดกันอยู่พักนึงแล้วมันก็ขับรถออกไป ไอ้โป้งกับผมรีบตามทันที เห็นมันจอดลงแถว ๆ คอนโดชื่อดังแห่งหนึ่งแต่แม่งเสือกอยู่ในซอยอย่างแคบ พวกผมขับตามมันเข้าไปไม่ได้เลยจอดรออยู่แถวหน้าซอย ใจร้อนไปหมดกลัวมันไม่ออกมาน่ะสิ แต่แป็บเดียวเท่านั้นรถมันก็ขับออกมา คงจะส่งเค้าเรียบร้อย ก็โกรธนะแต่ก็แอบดีใจเหมือนกัน ผมกับไอ้โป้งลองตามต่อไปก็เห็นมันขับรถกลับคนโดมันครับ
รู้สึกเหนื่อย ๆ ผมปรับเอนเบาะลงนอนพักสายตาสักหน่อย ไอ้โป้งเอื้อมมือไปหยิบเสื้อคลุมมันที่อยู่เบาะหลังมาห่มให้ ใช้มือลูบหัวผมเบา ๆ รู้สึกสมเพชตัวเองชะมัดกูจะตามมันมาทำไมเนี่ย ถ้าหากว่าเชื่อใจกันสักหน่อย !
ยังไงซะก็อดคิดไม่ได้อยู่ดี มันถึงขนาดกอดกันอยู่บนรถเนี่ยนะ เผื่อวันไหนห้ามใจไม่ได้จะทำยังไง คิดแล้วอยากลงไปกระทืบไอ้เวรนั่นอีกรอบ บังอาจมาลูบคมกูได้...คิดโน่นนี่ไปเรื่อยเปื่อยในที่สุดรถจอดลงที่คอนโดแล้วครับพอถึงห้องมันกับผมก็แยกย้ายกันอาบน้ำ ไอ้โป้งไม่กวนนะครับปกติถ้าอยู่ด้วยกันเราจะอาบน้ำด้วยกันตลอด แต่วันนี้มันไม่กวนเลยคงคิดว่าผมอารมณ์ไม่ค่อยดี
อาบน้ำเสร็จผมออกมานั่งเล่นกีตาร์อยู่บนเตียง ส่วนมันนั่งเขียนโปรแกรมเล่นจนสักพักเห็นมันปิดอุปกรณ์มันทุกอย่างแล้วขึ้นมาบนเตียงสวมกอดผมจากด้านหลังจูบเบา ๆ ลงที่ต้นคอ
“ทำได้ไหม” มันถามอ้อน ๆ
“อือ” ผมตอบไปมั่ว ๆ แต่พอคิดได้ว่ามันถามอะไรก็ตกใจนิดหน่อย
“อย่าคิดมากดิวะ โทรไปถามไหม” มันพูดขึ้น
“.........” ผมไม่ตอบนั่งเกลากีตาร์ต่อไป
“เดี๋ยวกูโทรให้” พูดจบมันเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่โต๊ะขึ้นมาโทร
“......มันปิดเครื่องว่ะโน่ &$@#&*%$@&” เสียงมันพูดอะไรหลังจากนั้นผมไม่ได้ยินหรอกครับ วางกีตาร์ไว้แล้วล้มตัวลงนอน ผมอยากหลับแล้วไม่อยากคิดอะไรอีก คงธรรมดาแหละเนอะมันเป็นคนเจ้าชู้อยู่แล้วจะให้เลิกทุกอย่างเลยก็คงยาก ผมจะทำเป็นไม่รู้เรื่องแล้วจะรอดูว่าพรุ่งนี้มันจะพูดอะไรให้ผมฟังบ้าง ไอ้โป้งห่มผ้าให้ผมครับ มันหรี่ไฟให้แล้วนอนกอดผมไว้
“ตั้งนาฬิกาปลุกให้กูด้วย ตี 4” ผมบอกมัน
“ อ่านหนังสือ ? ”
“เปล่า จะลุกขึ้นมาบุกมึงไง หึหึ” ตามันโตเลยครับ แค่ผมถามเล่น ๆ เนี่ยนะ
“อารมณ์ดีแล้วดิ”
“............”
“ไม่ต้องฝืนหรอกโน่ ถ้ามึงไม่มีความสุข กูจะทำไปทำไมล่ะวะ! เซ็กส์น่ะสำคัญก็จริงแต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างหรอกนะเว้ย!”
หึ! มันพูดได้ใจผมที่สุดเลยครับ อารมณ์ผมดีขึ้นมาทันที ลืมเรื่องเศร้าไปหมด มองหน้ามันด้วยแสงไฟสลัว ๆ แบบนี้แล้วก็อยากอยู่เหมือนกัน ผมกระชับกอดมันเข้ามากระซิบลงที่หู
“คำพูดมึงถูกใจกูมากเลยว่ะ! เดี๋ยวกูให้รางวัล”
พูดจบผมกระโดดขึ้นคร่อมตัวมันทันที ก้มลงจูบริมฝีปากสวย ๆ ของมัน มันลูบผมของผมอย่างอ่อนโยน สอดมือเข้ามาที่ท้ายทอย กดน้ำหนักลงนิดหน่อยเร่งความเร็วในการจูบ ขณะที่ส่วนล่างเริ่มเสียดสีกันผ่านกางเกงบอลบาง ๆ ผมรู้ได้ทันทีว่าเราทั้งคู่ตื่นตัวกันแล้ว มันถอนมือออกจากศีรษะผม เอื้อมไปหยิบรีโมท CD ที่หัวเตียงกดเลือกเพลงที่มันต้องการขึ้นมา เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเซ็กส์กำลังจะเริ่มขึ้น
รีโมทถูกโยนลงข้างเตียงอย่างลวก ๆ ในขณะที่ผมยังอยู่ด้านบนสองมือของมันเริ่มขยำขยี้ลงที่สะโพกสองข้างของผม จังหวะเพลงแม่งเร็วชิบ วันนี้เพลงห่าอะไรของมันช่างสรรหามานะมึง! มันกระเถิบตัวให้สูงขึ้นใช้หมอนรองหลังพิงหัวเตียงไว้จ้องมองผมที่นั่งคร่อมตัวมันอยู่ด้านบนด้วยสายตาโคตรหื่นของมัน สองมือขยำนวดอยู่ที่สะโพกทั้งสองข้างคลึงไปตามจังหวะดนตรี ขบกัดปากผมเล่นเบา ๆ
“โป้ง! อย่ากัด! กูเจ็บ” ผมทุบลงที่หน้าอกมันชักเริ่มรู้สึกว่ามันขบเม้มแรงขึ้น มันอมยิ้มแล้วถอดเสื้อทั้งของมันและของผมออก
“ยังใส่อีกเหรอวะ สร้อยเส้นนี้” ผมถามขึ้นเมื่อสังเกตเห็นสร้อยเชือกที่ผมเคยให้มันเมื่อนานมาแล้ว
“เต้นให้ดูหน่อยสิ เต้นอยู่บนตัวกูนี่แหละ นะ” มันพูดยิ้ม ๆ เลี่ยงไม่ตอบคำถามก่อนหน้า
“ไอ้เหี้ย! มึงอย่าบ้า กูก็อายเป็นเหมือนกัน” ผมซบลงที่ซอกคอมันจูบที่ใบหูมันเล่น มือลูบอยู่ที่สร้อยเส้นนั้น
“อยากเห็น...ส่ายสะโพกร่อนเลยนะ หึหึ”
“จะทำก็รีบทำมึงชอบชวนคุยเดี๋ยวกูหมดอารมณ์แล้วอย่ามาเรียกนะเว้ย” มือมันสอดเข้ามาใต้กางเกงลูบลงที่เนื้อเนียนเปล่าของสะโพกสองข้างอย่างรวดเร็วขยำขยี้แม่งงงงง! เราสองคนจูบแลกลิ้นกันอย่างเมามัน อารมณ์ที่กระเจิงอยู่แล้วเริ่มกระเจิงขึ้นมาอีก อยู่ ๆ มันก็หยุดอีกครั้ง ประคองใบหน้าผมถอนจูบออก ผมชักสีหน้าอย่างคนขัดใจทันที
“เหี้ย! เล่นอยู่ได้” ผมส่ายหน้าพูดทุบฟาดลงที่หน้าอกแกร่งนั้นอีกครั้ง
“หึหึ เห็นมึงทำหน้าขัดใจแบบนี้น่ารักชิบหายว่ะโน่” พูดแล้วยังเสือกกัดปากกูอีก
“เร็วดิ กูไม่อยากรอแล้ว” ผมอ้อนมันเสียงสั่น ซบลงไปที่บ่ามัน
“หึ ครับครับ ร้องให้ดังกว่าเสียงเพลงเลยนะ จุ๊บ”
มันทั้งลูบทั้งคลึงสะโพกตามจังหวะเพลงอยู่สักพัก พลิกตัวกลับให้ผมลงไปอยู่ด้านล่างอย่างรวดเร็ว กดน้ำหนักลงที่การดูดจูบเร่งเร้าสะโพกทั้งมันทั้งผมให้ถูไถเสียดสีกันแรงขึ้น มือมันลูบวนลงไปดึงขอบกางเกงผมออกพร้อม ๆ กับสองมือของผมที่ยกขึ้นคล้องรอบคอมันไว้ผมแอ่นสะโพกขึ้นเพื่อให้ทุกอย่างง่ายเข้า มันนวดคลึงจับส่วนล่างของผมอย่างชำนาญ ริมฝีปากลากไล่ลงไปดูดกัดขบเม้มที่ยอดอกสีชมพู
“อืมม...อ๊ะ!..ไอ้เหี้ยอย่ากัด!”
ผมฟาดลงที่ต้นแขนมันอย่างแรง ได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ มันดูดยอดอกอย่างแรงแทนคำตอบส่งมา “อ๊ะ! โป้ง!” เรียวลิ้นสากลากลงไปวนอยู่ที่สะดือสักพักก็ลากไล้ต่ำลงไปจนถึงส่วนที่อ่อนไหว มันยกขาข้างนึงของผมขึ้นแล้วไล้เลียอยู่บริเวณขาหนีบทั้งสองข้างลากเรื่อยมาจนครอบลงไปที่น้องชายของผมจนมิดด้าม
“อื้ออ โป้ง!!”
ผมใช้สองมือจิกหัวมันไว้อย่างแรงกดเข้าออกเพื่อนำจังหวะให้เป็นไปตามความต้องการของตัวเอง มันใช้ปากรูดเข้าออกจนผมขนลุกซู่ด้วยความเสียววววซ่าน
“อ๊าส์...โป้งพอ กูไม่ไหวแล้ว”
มันเลื่อนตัวขึ้นมาเราแลกจูบกันอีกครั้ง มันเอื้อมมือไปหยิบบางอย่างที่หัวเตียง ผมเด้งตัวขึ้นนิดหน่อย เจลเย็น ๆ ถูกป้ายและกดเข้าไปในส่วนที่นุ่มนวลและอ่อนไหวที่สุด
“นิดเดียวนะ” มันกระซิบที่ข้างหู
“โป้ง เจ็บ อ๊ะ!” ตัวผมเกร็ง มันขยับและเพิ่มจำนานนิ้วเพื่อขยายช่องทางวนอยู่นานจนเห็นว่าทุกอย่างเริ่มเข้าที่
“นอนคว่ำนะครับโน่” ผมพลิกตามอย่างว่าง่าย ยกสะโพกขึ้นเพื่อรอรับสิ่งแข็งขืนจากลำตัวมัน ผมเกร็งหน้าท้องผ่อนลมหายใจ จุกครับแต่มันหยุดจังหวะเพื่อให้ผมปรับสภาพความพร้อม ผมแอ่นสะโพกขึ้นอีกครั้งคิดว่าเมื่อทุกอย่างลงตัว
“อื้มม...อ๊าา......โอ้วววว โป้ง!” สะโพกถูกดึงเข้าออกจากสองมือของมัน สองมือผมจิกลงที่หมอน เสียงครางอืออาทั้งผมและมันดังก้องแข่งกับเสียงเพลง มันโน้มตัวลงมาใช้มือจับใบหน้าผมให้หันไปแลกจูบอย่างหื่นกระหาย ไอ้โป้งมันเป็นประจำครับถ้าจังหวะมันเข้าที่เมื่อไหร่ มันซอยกระแทกไม่ยั้งผมแทบอยากจะบ้า! มือของมันเลื่อนมากุมน้องชายผมไว้ชักเข้าชักออกสอดคล้องกับจังหวะซอยถี่ ๆ แต่รุนแรงของมัน ผมแทบคลั่งตายกับความสุขที่แทบสำลักออกมา ความเร็วถูกเร่งขึ้นเรื่อย ๆ พอ ๆ กับจังหวะกลองของเพลงที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ที่ทั้งรุนแรงทั้งเร็วทั้งดัง เสียงครางกระเส่าทั้งของผมและมันไม่รู้มาจากความเสียวซ่านหรือความเจ็บ ทุกอย่างถูกความมืดจากอารมณ์เข้าครอบงำ
“อ๊ะ...โป้งๆ กูจะไปแล้วเร็ว ๆ...อ๊าา.. ” ผมครางเสียงสั่นในที่สุดแม้แต่เสียงเพลงก็ไม่ได้ยินความสุขของผมถูกปลดปล่อยออกมาเต็มมือของมัน มันรีบเอาขึ้นมาป้ายเข้าปากมันไปเต็ม ๆ ทั้งดูดทั้งเลียนิ้วมือตัวเองจนสะอาด จับตัวผมพลิกให้นอนหงายไล่จูบขึ้นมาจากหน้าท้องและลากขึ้นมาถึงยอดอก ซอกคอ ใช้มือดันขาสองข้างของผมพาดบ่ามันไว้ สอดใส่ส่วนสำคัญจนมิดด้าม
“อา..อืมม..” มันโน้มตัวลงมาจูบและมองหน้าผมใกล้ ๆ ขยับสะโพกเข้าออก
“อ๊าา..ซู้ดส์..โป้ง..” ผมซู๊ดปากด้วยความเสียวครางเรียกมันทุกอย่างสั่นไปหมด ความเร็วถูกเร่งขั้นแรงขึ้นแรงขึ้นและแรงขึ้นอีก มือของมันทั้งนวดทั้งคลึงน้องชายผมให้ตื่นตัวอีกครั้ง สักพักมันผ่อนจังหวะลง...อาจเพราะตอนนี้เป็นเพลงช้าบรรยากาศโคตรโรแมนติก จูบที่ชอนไชอย่างชำนาญกวาดชิมเอาความใคร่ในตัวผมออกมาจนหมด เสียงครางในลำคอถูกเปล่งออกมาอย่างลืมอาย สะโพกบิดเกร็งโต้ตอบเข้าออกกับจังหวะที่ดึงให้ช้าลงของคนด้านบน บทเพลงที่บรรเลงเปลี่ยนเป็นเพลงช้า มันขบกัดเม้มชิมไปทั่วใบหน้า ช่างต่างจากความเร็วด้านล่างที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเป็นเร่งขึ้นสักพักก็ปล่อยให้ช้าลงอีกเล่นเอาผมแทบคลั่ง ผมส่ายหน้าอย่างคนไม่พอใจ
“อื้ออ ” ผมไม่ได้ดั่งใจ มันยิ้มที่มุมปากหน่อย ๆ
“หึหึ” เสียงมันหัวเราะเบา ๆ ในลำคอพร้อมสายตาหื่นสุดบรรยายที่จ้องลงมาที่ผม
“เร็วดิวะ เล่นอยู่ได้นะมึง กูง่วงแล้ว” ผมพูดอย่างงอน ๆ มันจุ๊บลงที่ปากเบา ๆ
“อึ๊กก! เหี้ย! ” อัดเข้ามาซะเต็มแรง สีหน้าแม่งหื่นสุดเลย
“อ๊ะ.....จุก” ผมครางเสียงสั่น มันกระหน่ำกระแทกลงมาไม่ยั้ง เพลงแม่งเร็วชิบ จำไม่ได้แล้วว่าเป็นเพลงที่เท่าไหร่
“ไหนเมื่อกี้....อืออ...อยากได้เร็ว ๆ ...ไงครับโน่....หึหึ...อ่าา....” มันทั้งพูดทั้งขยับจนผมต้องจิกบ่ามันไว้แน่นด้วยความเสียวแบบฉิบหายเลยเสียวแม่งเหี้ย!
“อ๊ะ โป้ง......กูไม่ได้....หมายความ....อ๊าาา!!!!” แตกแล้วครับผมปล่อยออกมาอีก มันกระหน่ำกระแทกต่ออีกพักนึงก็ตามกันมาติด ๆมันรีบเลื่อนตัวขึ้นมาปล่อยออกแถวบริเวณใบหน้าและริมฝีปากผมกะให้ผมทำความสะอาดให้เต็มที่ผมตอบสนองใช้ลิ้นกวาดสิ่งที่เลอะอยู่เข้าปากทันที มันก้มลงจูบปากและเลียไปทั่วใบหน้าเสยผมที่หน้าผากผมขึ้นจูบลงเบา ๆเป็นการตบท้าย
“กูเก่งใช่ไหม” มันถามเสียงสั่นเหมือนคนยังไม่หายเหนื่อย
“อืม.....อือ” ผมเหนื่อยมากไม่รู้อะไรแล้วรู้สึกแค่ว่ามันมันกระชับกอดผมไว้แน่นอยู่สักพัก ก่อนลุกออกไปเปลี่ยนเสียงเพลงให้เป็นเสียงเปียโนเปล่าขับกล่อมความง่วงให้เข้ามาแทนที่ สักพักรู้สึกได้ว่ามีคนเช็ดตัวเช็ดหน้าให้อย่างเบามือ ชุดถูกเปลี่ยนใหม่ ผ้าห่มถูกกระชับขึ้นที่หน้าอก อ้อมแขนหนัก ๆ กอดทับลงมา ลมหายใจรดลงที่ต้นคอ
เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ไอ้โป้งแม่งครั้งเดียวของมันแต่ทั้งอึดทั้งนานทั้งแรง! ผมเสียพลังงานแบบสุด ๆ คราวหน้าทีผมบ้างจะเอาให้มันหน้าเหลืองไปเลยคอยดูเถอะ(แต่ไม่รู้จะพลิกได้รึเปล่านะ555)
“ไม่มีทาง มึงอย่าได้คิด!” อยู่ ๆ มันก็พูดขึ้น มันรู้ได้ไงว่าผมคิดอะไร!
“กินแอ็ปเปิ้ลตอนนี้เลยไหมกูเอาเข้ามาให้แล้ว”
“อืม แต่กูนอนคว่ำอยู่เงี้ย จะแดกลงไปยังไงล่ะวะ วันนี้สอยกูซะร่วงเลยนะมึง คราวหน้าเลขคู่ตากูแน่!”
“หึหึ....นอนเถอะ”
“อืม”
“ กูรักมึงนะ จุ๊บ! ” เสียงกระซิบที่มาพร้อมกับจูบเบา ๆ ลงที่ใบหู
“เหมือนกัน”
.
.
.
Style
–II (คิม x โน่ )
วันนี้วันเสาร์ครับ ไอ้คิมไปรับผมมาจากคอนโดไอ้โป้งแต่เช้าตั้งแต่ขึ้นรถมาจนถึงห้องผมยังไม่ยอมพูดกับมันสักคำ แล้วตอนที่นั่งรถมันมาผมก็นั่งเบาะหลังด้วยไม่ยอมนั่งหน้าหรอก เรื่องอะไร! เมื่อคืนมันพาไอ้บ้านั่นไปไหนก็ไม่รู้แถมยังกอดกันบนรถมันอีกด้วย ผมยอมนั่งมาด้วยก็ดีเท่าไหร่แล้ว จนกระทั่งมาถึงห้องผมก็ยังไม่สนใจ เปิด TV เอาหนังสือมาอ่านที่โซฟาทำท่าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งที่มันทำทุกอย่าง
“โน่ครับ เป็นไรเนี่ย” มันนั่งลงข้างกันโอบเอวผมไว้
“.........” ผมไม่ตอบนั่งอ่านหนังสือต่อไป
“หิวอะไรเดี๋ยวเวฟให้กิน กูซื้อมาไว้เยอะแยะเลยนะ”
“ซื้อมาตอนไหน” ลองถามมันดูวันก่อนของในตู้เย็นหมดมันต้องซื้อเมื่อวานแน่นอน
“เมื่อวาน มีไอติมของมึงเยอะแยะเลย”
“เมื่อวานตอนไหน” ผมซักมันแต่ตายังจ้องหนังสืออยู่
“ตอนเย็น เอ้ย! ตอนดึก ๆ น่ะ หลังจากไปกินข้าวกลับมา” บ๊ะ! มันตอบเข้าทางผมพอดี
“มึงไปกินข้าวกับใคร ไหนบอกกูมาซิ!” คราวนี้ผมจ้องหน้ามันเลยเห็นมันทำหน้างงเล็กน้อย
“กับรุ่นน้องในทีมวิจัยนั่นแหละ มีไร?? ”
“รุ่นน้องที่ชื่อเจสนั่นรึเปล่า?” ผมจ้องหน้าเอาเรื่องเลย
“.....ใช่ มึงรู้จัก?”
“.........” อารมณ์กูขึ้นแล้ว ผมลุกออกจากตรงนั้นครับ เดินไปที่ห้องครัวไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันอยากจะสงบสติอารมณ์ก่อน มันเดินเข้ามากอดไว้
“ไรอ่ะโน่ เป็นไรครับ”
“กูเห็นการ์ดในกระเป๋ามึง เมื่อวานกูเลยลองตามไปดู เจอมึงกับไอ้เด็กนั่น” ผมพูดต่อไม่หันมามองมัน
“...........”
“ขากลับมึงไปส่งมัน พวกกูก็เห็น”
“...........”
“ตอนมึงจอดรถที่ข้างทางแล้วกอดกับมัน…..กูก็เห็น” คราวนี้ผมถึงขนาดต้องกัดฟันไว้เลยครับ อารมณ์กูพลุ่งพล่านสุด ๆ แล้ว
“..........” มันยังเงียบอยู่ไม่พูดอะไร
“มึงชอบมัน!?” สองมือผมกำแน่นไม่ยอมหันมามองมันเด็ดขาด ไม่รู้ว่ามันทำหน้ายังไงรู้ต่ว่าตอนนี้มันปล่อยเอวผมแล้ว
“ไม่ได้ชอบ!” มันตอบออกมาทันที
“แต่มึงกอดกับมัน”
“กูไม่ได้กอดมัน มันกอดกู”
“แต่มึงก็ไม่ได้ว่าอะไร”
“ว่าไปแล้ว”
“มันรู้รึเปล่าว่ามึงมีแฟนแล้ว” ผมหันหน้ามาถามจ้องตามัน
“...........” เงียบ! ไม่มีคำตอบ
“ไม่ได้บอกมัน ?”
“ถ้ามึงอนุญาต กูจะบอกทุกคนเลยว่ามึงเป็นแฟนกู”
“..........” ผมพูดไม่ออก
“ อนุญาตรึเปล่า ? ”
“พูดจาเอาแต่ใจ มึงก็รู้อยู่ความสัมพันธ์แบบพวกเรามันแปลกไม่ใช่รึไง?”
“มึงอายเหรอวะโน่?”
“..........” เฮ้ย ๆ เดี๋ยวก่อน ทำไมกลายเป็นผมโดนกดดันวะเนี่ย!
“คบกับกูมีแต่เค้าอยากเปิดเผยกันทั้งนั้น กูเพิ่งเคยเห็นมึงนี่แหละ” เอาแล้วครับหน้าแม่งซีเรียสขึ้นมา
วันนี้วันเสาร์ครับ ไอ้คิมไปรับผมมาจากคอนโดไอ้โป้งแต่เช้าตั้งแต่ขึ้นรถมาจนถึงห้องผมยังไม่ยอมพูดกับมันสักคำ แล้วตอนที่นั่งรถมันมาผมก็นั่งเบาะหลังด้วยไม่ยอมนั่งหน้าหรอก เรื่องอะไร! เมื่อคืนมันพาไอ้บ้านั่นไปไหนก็ไม่รู้แถมยังกอดกันบนรถมันอีกด้วย ผมยอมนั่งมาด้วยก็ดีเท่าไหร่แล้ว จนกระทั่งมาถึงห้องผมก็ยังไม่สนใจ เปิด TV เอาหนังสือมาอ่านที่โซฟาทำท่าไม่รู้ไม่เห็นสิ่งที่มันทำทุกอย่าง
“โน่ครับ เป็นไรเนี่ย” มันนั่งลงข้างกันโอบเอวผมไว้
“.........” ผมไม่ตอบนั่งอ่านหนังสือต่อไป
“หิวอะไรเดี๋ยวเวฟให้กิน กูซื้อมาไว้เยอะแยะเลยนะ”
“ซื้อมาตอนไหน” ลองถามมันดูวันก่อนของในตู้เย็นหมดมันต้องซื้อเมื่อวานแน่นอน
“เมื่อวาน มีไอติมของมึงเยอะแยะเลย”
“เมื่อวานตอนไหน” ผมซักมันแต่ตายังจ้องหนังสืออยู่
“ตอนเย็น เอ้ย! ตอนดึก ๆ น่ะ หลังจากไปกินข้าวกลับมา” บ๊ะ! มันตอบเข้าทางผมพอดี
“มึงไปกินข้าวกับใคร ไหนบอกกูมาซิ!” คราวนี้ผมจ้องหน้ามันเลยเห็นมันทำหน้างงเล็กน้อย
“กับรุ่นน้องในทีมวิจัยนั่นแหละ มีไร?? ”
“รุ่นน้องที่ชื่อเจสนั่นรึเปล่า?” ผมจ้องหน้าเอาเรื่องเลย
“.....ใช่ มึงรู้จัก?”
“.........” อารมณ์กูขึ้นแล้ว ผมลุกออกจากตรงนั้นครับ เดินไปที่ห้องครัวไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันอยากจะสงบสติอารมณ์ก่อน มันเดินเข้ามากอดไว้
“ไรอ่ะโน่ เป็นไรครับ”
“กูเห็นการ์ดในกระเป๋ามึง เมื่อวานกูเลยลองตามไปดู เจอมึงกับไอ้เด็กนั่น” ผมพูดต่อไม่หันมามองมัน
“...........”
“ขากลับมึงไปส่งมัน พวกกูก็เห็น”
“...........”
“ตอนมึงจอดรถที่ข้างทางแล้วกอดกับมัน…..กูก็เห็น” คราวนี้ผมถึงขนาดต้องกัดฟันไว้เลยครับ อารมณ์กูพลุ่งพล่านสุด ๆ แล้ว
“..........” มันยังเงียบอยู่ไม่พูดอะไร
“มึงชอบมัน!?” สองมือผมกำแน่นไม่ยอมหันมามองมันเด็ดขาด ไม่รู้ว่ามันทำหน้ายังไงรู้ต่ว่าตอนนี้มันปล่อยเอวผมแล้ว
“ไม่ได้ชอบ!” มันตอบออกมาทันที
“แต่มึงกอดกับมัน”
“กูไม่ได้กอดมัน มันกอดกู”
“แต่มึงก็ไม่ได้ว่าอะไร”
“ว่าไปแล้ว”
“มันรู้รึเปล่าว่ามึงมีแฟนแล้ว” ผมหันหน้ามาถามจ้องตามัน
“...........” เงียบ! ไม่มีคำตอบ
“ไม่ได้บอกมัน ?”
“ถ้ามึงอนุญาต กูจะบอกทุกคนเลยว่ามึงเป็นแฟนกู”
“..........” ผมพูดไม่ออก
“ อนุญาตรึเปล่า ? ”
“พูดจาเอาแต่ใจ มึงก็รู้อยู่ความสัมพันธ์แบบพวกเรามันแปลกไม่ใช่รึไง?”
“มึงอายเหรอวะโน่?”
“..........” เฮ้ย ๆ เดี๋ยวก่อน ทำไมกลายเป็นผมโดนกดดันวะเนี่ย!
“คบกับกูมีแต่เค้าอยากเปิดเผยกันทั้งนั้น กูเพิ่งเคยเห็นมึงนี่แหละ” เอาแล้วครับหน้าแม่งซีเรียสขึ้นมา
♬。 ♫♫~♬ ♫~ในใจไม่เคยมีผู้ใด จนความรักเธอเข้ามา ทำให้แววตาฉันเห็นความสดใส♬。 ♫♫~♬ ♫~♬
อู้ยยย! โทรศัพท์ช่วยชีวิต!
ดาด้า! เฮ้ย ๆ มันโทรมาทำไมวะเนี่ย เวลาแบบนี้! ผมเหลือบมองไอ้คิมนิดหน่อยก่อนกดรับ
“ไงมึง”
<โน่! ออกมาเล่นบาสด้วยกันเร็ว ผมรออยู่ที่เดิมนะ>
“เฮ้ย ๆ กูไม่ไปนะเว้ย มึงอย่าเพิ่งวาง”
<อ้าว! วันนี้วันเสาร์โน่ไม่ได้ไปไหนนี่>
“กูก็อยู่กับแฟนกูดิวะ เรื่องไรต้องไปหามึง”
<โหยยยย พูดซะเต็มปากเลยนะโน่ แฟนที่ว่าเนี่ย ใครอ่ะ ผมรู้จักป่ะ>
“...เอ่อ....แล้ว..แล้วมึงกินไรยังอ่ะ” ผมอึกอัก เปลี่ยนเรื่องดีกว่า
<กินแล้ว งั้นตอนบ่ายไปดูหนังกันนะ>
“ด้า กูไม่ว่างว่ะ พรุ่งนี้ได้ไหมมึง” ผมเหลือบไปดูไอ้คิมทำตาเขียวปั๊ดเลย
<พรุ่งนี้ผมไม่ว่าง มีแข่งรอบคัดเลือกของโครงการพิเศษน่ะ>
“เฮ้ย! วันหลังก็ได้ มึงไม่ต้องคิดมากหรอกพรุ่งนี้แข่งดี ๆ ล่ะมึง กูเอาใจช่วย”
<งั้นถ้าพรุ่งนี้ชนะ โน่เลี้ยงข้าวผมนะ>
“ได้เลยน้อง ม.ม.ป.ห.”
<สัญญาแล้วนะ>
“เออกูไม่ลืมหรอก”
เรียบร้อยครับโทรคุยกับไอ้ด้าเสร็จเห็นไอ้คิมกำลังนั่งเลือกแผ่น DVD อยู่ผมเข้าไปดูบ้างหยิบเรื่องที่อยากดูแล้วส่งให้มันเปิด นอนลงดูที่โซฟา มันนั่งลงที่โซฟาด้วยเหมือนกันยกขาผมพาดบนตักมันไว้นวดเท้าให้ผมเบา ๆ
“เมื่อยไหม บีบให้” มันถาม
“อาทิตย์นี้มึงไม่ไปเสม็ดเหรอวะ?” ผมถามขึ้น
“ไม่อ่ะ กูดิวงานไว้เรียบร้อย อยากอยู่กับมึง!”
“ล้างเล็บให้หน่อยดิวะ” ผมบอกมัน ผมชอบทาเล็บใส ๆ เคลือบไว้ที่เท้าครับ มันดูสะอาดดีเวลาผมใส่แตะแล้วมันดูดี ผมคิดว่างั้นนะ ผมลุกขึ้นไปหยิบขวดน้ำยาล้างเล็บ สำลี และขวดน้ำยาเคลือบเล็บที่วางอยู่หน้ากระจกในห้องนอน (สมบัติทั้งหลายแหล่ของผมกินที่หน้ากระจกมันไปเกือบครึ่งครับ) เอามาวางไว้ให้มัน แล้วล้มตัวลงนอนเอาเท้าไปพาดไว้บนตักมันต่อ
มันจัดการใช้สำลีชุบน้ำยาแล้วเช็ดลงที่เล็บเท้าอย่างเบามือ ผมแอบมองดูมัน มันตั้งใจเช็ดมากเลยครับ ก้มลงทำจนหน้าจะติดกับเท้าผมอยู่แล้ว
“เคยทำให้ใครรึเปล่า” ผมถามมัน
“ไม่เคย ไม่สนใจ ไม่คิดจะทำให้ใครด้วย ” มันตอบแต่ยังก้มลงทำอยู่ ผมแอบอมยิ้มกับคำตอบมัน
“เอามือมาสิโน่ เท้าเสร็จแล้ว”
“ไม่อ่ะ กูไม่ได้ทามือ”
“เสร็จแล้ว จะทาไหม” มันถามต่อ
“ทำได้ป่ะล่ะ?”
“เดี๋ยวทำให้ ลุกขึ้นนั่งดิ” ผมลุกขึ้นนั่งเอนหลังพิงโซฟา
“คิม มึงทาได้แน่นะเว้ย?” ผมชักไม่แน่ใจครับ มันลงไปนั่งที่พื้นด้านล่าง จับเท้าผมมาวางไว้บนโต๊ะ
“แปลกดีว่ะโน่ ทำไมมึงต้องทาเล็บด้วยเป็นผู้ชายแท้ ๆ” มันพูดไปบรรจงทาเล็บผมไปมือแม่งสั่น ผมแอบหัวเราะในใจ
“ไม่ได้หรอกเว้ย แฟนกูตั้งสองคนต้องดูแลตัวเองเดี๋ยวแฟนไม่รัก กูต้องดูดีอยู่เสมอ”
“หึหึ ไม่มีทางไม่รักหรอก” มันพึมพำเบา ๆ ผมจ้องดูมันทำเพลินเลยครับ
“อะไรวะโน่! ขนาดยาทาเล็บมึงยังเป็นกลิ่นเมลอนเลย มึงไปซื้อมาจากไหนเนี่ย โคตรทึ่งกับมึงเลยมึงจะบ้าเมลอนไปถึงไหน”
“อ้าว! ก็มึงเองไม่ใช่รึไงเป็นคนซื้อมาฝากกูวันนั้นน่ะ จำไมได้?”
“ไม่รู้ว่ะ กูหยิบมามั่ว ๆ มีแบบนี้ด้วยเหรอ”
“มึงทาดี ๆ สิวะ มือสั่นเลอะขอบไปหมดแล้ว” ผมแกล้งโวยวายมัน
“กูก็พยายามอยู่เนี่ย เล็บมึงแม่งเล็ก” มันจ้องทาลงไปที่นิ้วก้อยอย่างบรรจง
“อะไรเล่า! ใครจะไปเล็บควายอย่างมึง” ผมพูดพร้อมฟาดหมอนลงที่หลังมัน มันขยับหลบอย่างตลกเลยครับ พวกเราเล่นกันไปมาสักพัก ตกเย็นมันพาผมออกไปกินข้าวข้างล่างคอนโด ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าหรอกนะ เสื้อกล้ามเก่า ๆ กับกางเกงกีฬา 5 ส่วนนั่นแหละ ลากแตะแถมมัดจุก ไอ้คิมเองก็ไม่ได้ต่างกันหรอก ใครมาเห็นสภาพพวกผมตอนนี้คงตลกน่าดู
พอกินข้าวเสร็จผมแวะเข้าเซเว่น ส่วนคิมยืนคุยโทรศัพท์รออยู่ด้านนอก มันคุยเรื่องงานมั้งหน้าเครียดเชียว จนกระทั่งผมเดินออกมา เราข้ามถนนกลับขึ้นห้องมันก็ยังคุยต่อไม่หยุด พอถึงห้องผมเข้าไปเปิดคอม ฯ นั่งทำงานต่อ เช็คเมล เช็คเฟส เขียนโปรแกรมไปตามเรื่อง ส่วนไอ้คิมก็ใช้คอมอีกเครื่องนั่งโหลดไฟล์อะไรของมันสักอย่าง เราสองคนต่างคนต่างทำงานของตัวเองไปเงียบ ๆ จนผมดูนาฬิกาที่จออีกที 5 ทุ่มแล้ว ผมปิดเครื่องลุกขึ้นเข้าห้องน้ำแปรงฟัน ออกมาอีกทีมันขนโน้ตบุคกับเอกสารต่าง ๆ ออกไปที่โต๊ะหน้าระเบียงเรียบร้อย ผมเปิดออกไป
“คิม ตี 3 ปลุกนะ งานกูค้างยังไม่เสร็จเลย” มันดึงมือผมพาไปนอน ห่มผ้าให้จูบลงที่หน้าผาก 1 ครั้ง แป็บเดียวครับผมหลับไม่รู้เรื่องเลย รู้สึกตัวอีกทีปรือตามองดูนาฬิกาที่หัวเตียง ตี 2 แล้ว ? แสงไฟหลังม่านริมระเบียงยังสว่างอยู่ ผมลุกเดินไปเปิดม่านดู ใบหน้าหล่อเหลาแต่สวมแว่นสายตาใสทำให้ดูเคร่งเครียดขึ้นมา สายตาจับจ้องอยู่ที่ตารางเอ็กเซลบนจอภาพ คงดูงบการเงินหรือตารางวิจัยอะไรสักอย่าง มือขวาคลิกเมาส์ส่วนมือซ้ายคีย์ฟังชั่นด้วยความรวดเร็ว เอกสารถูกพลิกไปมา
ผม........ทนไม่ไหวแล้วครับ!
“คิม!” ผมเดินออกไปเรียกมัน
“โน่! เพิ่งตี 2 เอง นอนต่ออีกหน่อยไหม” มันถอดแว่นวางไว้ ละสายตาจากทุกอย่างบนโต๊ะ ผมเดินไปผลักโต๊ะทำงานมันออก ขึ้นนั่งคร่อมบนตักมัน โอบมือคล้องรอบคอมันไว้ โน้มหน้าผากตัวเองไปชิดที่หน้าผากมัน
“ทำงานเยอะเกินไปแล้ว” ผมบอกมัน มันงับปากผมเล่นเบา ๆ
“อะไรครับโน่ วันนี้อ้อนรึไง ทำไมตัวหนักขึ้น หืมม”
“กูไม่ได้อ้วนนะ กูอยากอ้อนมึง” ผมพูดงุ้งงิ้งในลำคอ
“อ้อนก็อ้อนสิวะ ไหนบอกสิอยากได้อะไรครับ” มันจูบลงที่ปลายจมูกผมเบา ๆ
“ทำนะ....กูอยากทำ” ผมบอกพร้อมซบหน้าลงที่ไหล่มัน ง่วงก็ง่วง อยากก็อยาก ไม่อยากเห็นมันทำแต่งานแบบนี้ บรรยากาศริมระเบียงก็โคตรรดี เงียบมาก! มองจากจุดนี้แสงไฟดวงเล็ก ๆ เต็มท้องถนนไปหมด ลมพัดโกรกไปมาเบา ๆ ได้ยินแต่เสียงหน้ากระดาษพัดปลิว
มันจูบลงที่ริมฝีปากผมอย่างอ่อนโยนเราแลกจูบกันอย่างดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบตัวที่แสนเงียบ สองมือของมันสอดเข้ามาใต้เสื้อกล้ามบาง ๆ ลูบไล้หลังเนียนนุ่มไปมาจนผมอารมณ์กระเจิง
“อื้อ....คิม!!” ผมส่ายหัวหน้างอ เมื่อมันแกล้งถอนริมฝีปากออกแล้วจ้องเข้ามาในดวงตาผม แสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนกระซิบบอก
“ทำเองนะ!” ไม่พูดเปล่าครับ มือไม้แม่งเร็วชิบหาย รูดกางเกงผมลงสองมือขยำขยี้อยู่ที่สะโพก ริมฝีปากด้าบนบดขยี้กันอย่างเมามัน ผมทั้งจับทั้งล้วงน้องชายของมันให้ออกมา มันขบเม้มริมฝีปาก 2-3 ทีก่อนดันตัวผมให้ละออกจากตัก กดลงไปที่หว่างขาของมัน มันแอ่นส่วนล่างให้ชัดเจนยิ่งขึ้นพิงตัวลงที่พนักเก้าอี้ ผมระดมจูบทั้งไล้ทั้งเลียส่วนอ่อนไหวที่สุดของมันที่ตั้งชันอยู่ก่อนหน้า ครอบริมฝีปากนุ่มลงไปจนสุดด้าม เสียงครางต่ำ ๆ ในลำคอของมันดังขึ้น
“อาา...โน่!” มือมันสอดเข้ามาในเส้นผมอ่อนสลวยของผมขยำขยี้อยู่อย่างนั้น มันยกสะโพกขึ้นลงให้เข้ากับจังหวะการรูดจากริมฝีปากของผม เสียงครางมันเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ
“อืมม...โน่” ศีรษะผมถูกกดรั้งไว้ให้หยุด มันโอบตัวผมให้ขึ้นมานั่งคร่อมซ้อนบนตัก เราหันหน้าเข้าหากัน
“อ๊ะ! คิม” ผมเสียงซ่านแทบขาดใจเมื่อนิ้วของมันเริ่มนำทางสู่ส่วนอ่อนไหวที่สุดของผม ขณะที่ปากเรายังดูดกันไม่หยุด
“อ๊ะ..กูไม่ไหวแล้ว...อ๊าา...” ผมบอกมันเสียงสั่น มันถอนนิ้วที่วนเล่นออกมา สองมือยกสะโพกผมขึ้น ผมคล้องรอบคอมันไว้แน่น ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปในส่วนที่ตั้งชันที่ชูพร้อมอยู่แล้ว
“คิม.......เดี๋ยว...อ๊ะ...จุก....เดี๋ยว” มันค่อย ๆ รอผมปรับสภาพจากด้านบน ผมผลักหน้าท้องมันไว้เบา ๆ
“โยกนะครับโน่ ไม่งั้นเจ็บนะ” มันเกร็งหน้าท้องไว้แบบสุด ๆ จนทุกอย่างลงตัวผมผ่อนลมหายใจ กดสะโพกลงไปจนมิดด้าม
“อื้ออ..คิม...อ๊าา.” ผมครางเสียงกระเส่า มันไม่รอให้ผมขย่มเองแล้วแต่เด้งสะโพกสวนขึ้นลงอย่างแรงและเร็วเสียงเนื้อหนังกระทบกันดังพับๆๆลั่นไปทั้งระเบียง สองมือผมคล้องกอดมันไว้แน่น มันจับใบหน้าผมแล้วระดมจูอย่างเมามัน เราสองคนไม่สนใจว่าใครจะได้ยินอะไรยังไงแล้ว
“ร้องออกมาโน่ ..อืออ... กูอยากได้ยินเสียงมึง!...อ่าา...” มันบอกเสียงสั่นรัญจวนใจผมสุดๆ
“อ๊าา...คิม....โอ้วววซู้ดส์” ผมซู้ดปากครางไม่หยุดปลดปล่อยอารมณด้านมืดออกมาเต็มที่ มันเร่งจังหวะขึ้นสองขาที่ชันเก้าอี้ไว้เมื่อยไปหมดแต่ก็เทียบไม่ได้กับความสุขกระสันที่กำลังกระแทกกระทั้นอยู่ตอนนี้
“กูชอบ...อืออ...ความเงียบ...อาา..อยากได้ยินแค่เสียงของมึงโน่” มันทั้งพูดทั้งคราง ผมละมือลงมาจะจับน้องชายของตัวเองมันปัดมือผมออกอย่างแรงแล้วใช้มือมันทั้งกำทั้งรูดให้อย่างสะใจ
“อืออ..โน่มึงแม่งฟิตเหี้ย...กูจะบ้าอยู่แล้ว”
“อ๊าา..” ผมเสียวแบบฉิบหายเลย
“คิมกูไม่ไหว....กูจะแตก..อ๊ะ” ผมทั้งทุบไหล่มันซุกหน้าลงในซอกคอ ผมกลัวจะไปก่อน มันผ่อนจังหวะให้ช้าลงพักเดียวก้เร่งขึ้นมาอีก
“อ่าา........โน่!!” มันครางใหญ่เลย ระดมจูบผมแบบไม่ยั้ง สะโพกข้างล่างสวนขึ้นลงอย่างแรงและเร็ว สองขาผมทั้งปวดทั้งชา อยู่ข้างบนแม่งลำบากฉิบหาย
“อ๊าาา....คิม” แตกแล้วครับ ผมเรียบร้อยแล้ว มันพลิกตัวผมให้นอนลงในมุมเฉียงของเก้าอี้ยกขาข้างนึงผมพาดไว้ด้านบน ชันขามันขึ้นมากระหน่ำซอยลงมาแบบไม่ยั้ง
“อ่าาาา.....” มันครางต่ำยาว ฉีดพ่นเข้าไปครับน้ำอุ่น ๆ ไหลรดในร่างกายแล้วไหลเยิ้มออกมาด้านนอกผมเสียวที่หน้าท้องแบบสุด ๆ มันถอนสิ่งแข็งขืนออกแล้วอุ้มผมเข้าไปด้านใน วางลงที่เตียงนอนกอดผมไว้ระดมจูบไปทั่วตัวไล่ลงมาจนถึงยอดอกชูชัน เป็นอย่างงี้ทุกที ถ้ามันไม่ทำ...ก็จะไม่ทำเลย แต่ถ้าหากได้ทำ แม่ง! ครั้งเดียวไม่เคยพอสำหรับมัน
“อ๊ะ! คิมอย่าทำรอยพรุ่งนี้กูต้องถอดเสื้อเล่นกีฬา”
“จะไปเล่นที่ไหน” มันถามไปจูบซอกคอผมไปเสียงโคตรหื่น
“ที่มหาลัยแหละ นัดไอ้ด้าไว้”
“ยังคบกับมันอยู่ ? โดนวันนั้นยังไม่เข็ดรึไง”
“อ๊ะ!” มันงับลงที่ไหล่เบา ๆ
“ไม่มีไรหรอก วันนั้นมันเมา กูเองก็เมา ถ้ามันเป็นคนไม่ดีนะป่านนี้กูไม่เหลือแล้ว”
“หึ”
“โอ๊ย!! เหี้ย! มึงกัดกูทำไมเนี่ย” ผมตีมันครับจู่ ๆ กัดลงที่ข้างหัวนมผม
“พรุ่งนี้มันจะได้รู้ว่ามึงมีเจ้าของแล้ว”
“..........” ผมทำหน้างอใส่มัน
“ต่อนะ ไม่พูดเรื่องคนอื่นแล้ว”
ดาด้า! เฮ้ย ๆ มันโทรมาทำไมวะเนี่ย เวลาแบบนี้! ผมเหลือบมองไอ้คิมนิดหน่อยก่อนกดรับ
“ไงมึง”
<โน่! ออกมาเล่นบาสด้วยกันเร็ว ผมรออยู่ที่เดิมนะ>
“เฮ้ย ๆ กูไม่ไปนะเว้ย มึงอย่าเพิ่งวาง”
<อ้าว! วันนี้วันเสาร์โน่ไม่ได้ไปไหนนี่>
“กูก็อยู่กับแฟนกูดิวะ เรื่องไรต้องไปหามึง”
<โหยยยย พูดซะเต็มปากเลยนะโน่ แฟนที่ว่าเนี่ย ใครอ่ะ ผมรู้จักป่ะ>
“...เอ่อ....แล้ว..แล้วมึงกินไรยังอ่ะ” ผมอึกอัก เปลี่ยนเรื่องดีกว่า
<กินแล้ว งั้นตอนบ่ายไปดูหนังกันนะ>
“ด้า กูไม่ว่างว่ะ พรุ่งนี้ได้ไหมมึง” ผมเหลือบไปดูไอ้คิมทำตาเขียวปั๊ดเลย
<พรุ่งนี้ผมไม่ว่าง มีแข่งรอบคัดเลือกของโครงการพิเศษน่ะ>
“เฮ้ย! วันหลังก็ได้ มึงไม่ต้องคิดมากหรอกพรุ่งนี้แข่งดี ๆ ล่ะมึง กูเอาใจช่วย”
<งั้นถ้าพรุ่งนี้ชนะ โน่เลี้ยงข้าวผมนะ>
“ได้เลยน้อง ม.ม.ป.ห.”
<สัญญาแล้วนะ>
“เออกูไม่ลืมหรอก”
เรียบร้อยครับโทรคุยกับไอ้ด้าเสร็จเห็นไอ้คิมกำลังนั่งเลือกแผ่น DVD อยู่ผมเข้าไปดูบ้างหยิบเรื่องที่อยากดูแล้วส่งให้มันเปิด นอนลงดูที่โซฟา มันนั่งลงที่โซฟาด้วยเหมือนกันยกขาผมพาดบนตักมันไว้นวดเท้าให้ผมเบา ๆ
“เมื่อยไหม บีบให้” มันถาม
“อาทิตย์นี้มึงไม่ไปเสม็ดเหรอวะ?” ผมถามขึ้น
“ไม่อ่ะ กูดิวงานไว้เรียบร้อย อยากอยู่กับมึง!”
“ล้างเล็บให้หน่อยดิวะ” ผมบอกมัน ผมชอบทาเล็บใส ๆ เคลือบไว้ที่เท้าครับ มันดูสะอาดดีเวลาผมใส่แตะแล้วมันดูดี ผมคิดว่างั้นนะ ผมลุกขึ้นไปหยิบขวดน้ำยาล้างเล็บ สำลี และขวดน้ำยาเคลือบเล็บที่วางอยู่หน้ากระจกในห้องนอน (สมบัติทั้งหลายแหล่ของผมกินที่หน้ากระจกมันไปเกือบครึ่งครับ) เอามาวางไว้ให้มัน แล้วล้มตัวลงนอนเอาเท้าไปพาดไว้บนตักมันต่อ
มันจัดการใช้สำลีชุบน้ำยาแล้วเช็ดลงที่เล็บเท้าอย่างเบามือ ผมแอบมองดูมัน มันตั้งใจเช็ดมากเลยครับ ก้มลงทำจนหน้าจะติดกับเท้าผมอยู่แล้ว
“เคยทำให้ใครรึเปล่า” ผมถามมัน
“ไม่เคย ไม่สนใจ ไม่คิดจะทำให้ใครด้วย ” มันตอบแต่ยังก้มลงทำอยู่ ผมแอบอมยิ้มกับคำตอบมัน
“เอามือมาสิโน่ เท้าเสร็จแล้ว”
“ไม่อ่ะ กูไม่ได้ทามือ”
“เสร็จแล้ว จะทาไหม” มันถามต่อ
“ทำได้ป่ะล่ะ?”
“เดี๋ยวทำให้ ลุกขึ้นนั่งดิ” ผมลุกขึ้นนั่งเอนหลังพิงโซฟา
“คิม มึงทาได้แน่นะเว้ย?” ผมชักไม่แน่ใจครับ มันลงไปนั่งที่พื้นด้านล่าง จับเท้าผมมาวางไว้บนโต๊ะ
“แปลกดีว่ะโน่ ทำไมมึงต้องทาเล็บด้วยเป็นผู้ชายแท้ ๆ” มันพูดไปบรรจงทาเล็บผมไปมือแม่งสั่น ผมแอบหัวเราะในใจ
“ไม่ได้หรอกเว้ย แฟนกูตั้งสองคนต้องดูแลตัวเองเดี๋ยวแฟนไม่รัก กูต้องดูดีอยู่เสมอ”
“หึหึ ไม่มีทางไม่รักหรอก” มันพึมพำเบา ๆ ผมจ้องดูมันทำเพลินเลยครับ
“อะไรวะโน่! ขนาดยาทาเล็บมึงยังเป็นกลิ่นเมลอนเลย มึงไปซื้อมาจากไหนเนี่ย โคตรทึ่งกับมึงเลยมึงจะบ้าเมลอนไปถึงไหน”
“อ้าว! ก็มึงเองไม่ใช่รึไงเป็นคนซื้อมาฝากกูวันนั้นน่ะ จำไมได้?”
“ไม่รู้ว่ะ กูหยิบมามั่ว ๆ มีแบบนี้ด้วยเหรอ”
“มึงทาดี ๆ สิวะ มือสั่นเลอะขอบไปหมดแล้ว” ผมแกล้งโวยวายมัน
“กูก็พยายามอยู่เนี่ย เล็บมึงแม่งเล็ก” มันจ้องทาลงไปที่นิ้วก้อยอย่างบรรจง
“อะไรเล่า! ใครจะไปเล็บควายอย่างมึง” ผมพูดพร้อมฟาดหมอนลงที่หลังมัน มันขยับหลบอย่างตลกเลยครับ พวกเราเล่นกันไปมาสักพัก ตกเย็นมันพาผมออกไปกินข้าวข้างล่างคอนโด ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าหรอกนะ เสื้อกล้ามเก่า ๆ กับกางเกงกีฬา 5 ส่วนนั่นแหละ ลากแตะแถมมัดจุก ไอ้คิมเองก็ไม่ได้ต่างกันหรอก ใครมาเห็นสภาพพวกผมตอนนี้คงตลกน่าดู
พอกินข้าวเสร็จผมแวะเข้าเซเว่น ส่วนคิมยืนคุยโทรศัพท์รออยู่ด้านนอก มันคุยเรื่องงานมั้งหน้าเครียดเชียว จนกระทั่งผมเดินออกมา เราข้ามถนนกลับขึ้นห้องมันก็ยังคุยต่อไม่หยุด พอถึงห้องผมเข้าไปเปิดคอม ฯ นั่งทำงานต่อ เช็คเมล เช็คเฟส เขียนโปรแกรมไปตามเรื่อง ส่วนไอ้คิมก็ใช้คอมอีกเครื่องนั่งโหลดไฟล์อะไรของมันสักอย่าง เราสองคนต่างคนต่างทำงานของตัวเองไปเงียบ ๆ จนผมดูนาฬิกาที่จออีกที 5 ทุ่มแล้ว ผมปิดเครื่องลุกขึ้นเข้าห้องน้ำแปรงฟัน ออกมาอีกทีมันขนโน้ตบุคกับเอกสารต่าง ๆ ออกไปที่โต๊ะหน้าระเบียงเรียบร้อย ผมเปิดออกไป
“คิม ตี 3 ปลุกนะ งานกูค้างยังไม่เสร็จเลย” มันดึงมือผมพาไปนอน ห่มผ้าให้จูบลงที่หน้าผาก 1 ครั้ง แป็บเดียวครับผมหลับไม่รู้เรื่องเลย รู้สึกตัวอีกทีปรือตามองดูนาฬิกาที่หัวเตียง ตี 2 แล้ว ? แสงไฟหลังม่านริมระเบียงยังสว่างอยู่ ผมลุกเดินไปเปิดม่านดู ใบหน้าหล่อเหลาแต่สวมแว่นสายตาใสทำให้ดูเคร่งเครียดขึ้นมา สายตาจับจ้องอยู่ที่ตารางเอ็กเซลบนจอภาพ คงดูงบการเงินหรือตารางวิจัยอะไรสักอย่าง มือขวาคลิกเมาส์ส่วนมือซ้ายคีย์ฟังชั่นด้วยความรวดเร็ว เอกสารถูกพลิกไปมา
ผม........ทนไม่ไหวแล้วครับ!
“คิม!” ผมเดินออกไปเรียกมัน
“โน่! เพิ่งตี 2 เอง นอนต่ออีกหน่อยไหม” มันถอดแว่นวางไว้ ละสายตาจากทุกอย่างบนโต๊ะ ผมเดินไปผลักโต๊ะทำงานมันออก ขึ้นนั่งคร่อมบนตักมัน โอบมือคล้องรอบคอมันไว้ โน้มหน้าผากตัวเองไปชิดที่หน้าผากมัน
“ทำงานเยอะเกินไปแล้ว” ผมบอกมัน มันงับปากผมเล่นเบา ๆ
“อะไรครับโน่ วันนี้อ้อนรึไง ทำไมตัวหนักขึ้น หืมม”
“กูไม่ได้อ้วนนะ กูอยากอ้อนมึง” ผมพูดงุ้งงิ้งในลำคอ
“อ้อนก็อ้อนสิวะ ไหนบอกสิอยากได้อะไรครับ” มันจูบลงที่ปลายจมูกผมเบา ๆ
“ทำนะ....กูอยากทำ” ผมบอกพร้อมซบหน้าลงที่ไหล่มัน ง่วงก็ง่วง อยากก็อยาก ไม่อยากเห็นมันทำแต่งานแบบนี้ บรรยากาศริมระเบียงก็โคตรรดี เงียบมาก! มองจากจุดนี้แสงไฟดวงเล็ก ๆ เต็มท้องถนนไปหมด ลมพัดโกรกไปมาเบา ๆ ได้ยินแต่เสียงหน้ากระดาษพัดปลิว
มันจูบลงที่ริมฝีปากผมอย่างอ่อนโยนเราแลกจูบกันอย่างดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบตัวที่แสนเงียบ สองมือของมันสอดเข้ามาใต้เสื้อกล้ามบาง ๆ ลูบไล้หลังเนียนนุ่มไปมาจนผมอารมณ์กระเจิง
“อื้อ....คิม!!” ผมส่ายหัวหน้างอ เมื่อมันแกล้งถอนริมฝีปากออกแล้วจ้องเข้ามาในดวงตาผม แสยะยิ้มเล็กน้อยก่อนกระซิบบอก
“ทำเองนะ!” ไม่พูดเปล่าครับ มือไม้แม่งเร็วชิบหาย รูดกางเกงผมลงสองมือขยำขยี้อยู่ที่สะโพก ริมฝีปากด้าบนบดขยี้กันอย่างเมามัน ผมทั้งจับทั้งล้วงน้องชายของมันให้ออกมา มันขบเม้มริมฝีปาก 2-3 ทีก่อนดันตัวผมให้ละออกจากตัก กดลงไปที่หว่างขาของมัน มันแอ่นส่วนล่างให้ชัดเจนยิ่งขึ้นพิงตัวลงที่พนักเก้าอี้ ผมระดมจูบทั้งไล้ทั้งเลียส่วนอ่อนไหวที่สุดของมันที่ตั้งชันอยู่ก่อนหน้า ครอบริมฝีปากนุ่มลงไปจนสุดด้าม เสียงครางต่ำ ๆ ในลำคอของมันดังขึ้น
“อาา...โน่!” มือมันสอดเข้ามาในเส้นผมอ่อนสลวยของผมขยำขยี้อยู่อย่างนั้น มันยกสะโพกขึ้นลงให้เข้ากับจังหวะการรูดจากริมฝีปากของผม เสียงครางมันเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ
“อืมม...โน่” ศีรษะผมถูกกดรั้งไว้ให้หยุด มันโอบตัวผมให้ขึ้นมานั่งคร่อมซ้อนบนตัก เราหันหน้าเข้าหากัน
“อ๊ะ! คิม” ผมเสียงซ่านแทบขาดใจเมื่อนิ้วของมันเริ่มนำทางสู่ส่วนอ่อนไหวที่สุดของผม ขณะที่ปากเรายังดูดกันไม่หยุด
“อ๊ะ..กูไม่ไหวแล้ว...อ๊าา...” ผมบอกมันเสียงสั่น มันถอนนิ้วที่วนเล่นออกมา สองมือยกสะโพกผมขึ้น ผมคล้องรอบคอมันไว้แน่น ค่อย ๆ กดสะโพกลงไปในส่วนที่ตั้งชันที่ชูพร้อมอยู่แล้ว
“คิม.......เดี๋ยว...อ๊ะ...จุก....เดี๋ยว” มันค่อย ๆ รอผมปรับสภาพจากด้านบน ผมผลักหน้าท้องมันไว้เบา ๆ
“โยกนะครับโน่ ไม่งั้นเจ็บนะ” มันเกร็งหน้าท้องไว้แบบสุด ๆ จนทุกอย่างลงตัวผมผ่อนลมหายใจ กดสะโพกลงไปจนมิดด้าม
“อื้ออ..คิม...อ๊าา.” ผมครางเสียงกระเส่า มันไม่รอให้ผมขย่มเองแล้วแต่เด้งสะโพกสวนขึ้นลงอย่างแรงและเร็วเสียงเนื้อหนังกระทบกันดังพับๆๆลั่นไปทั้งระเบียง สองมือผมคล้องกอดมันไว้แน่น มันจับใบหน้าผมแล้วระดมจูอย่างเมามัน เราสองคนไม่สนใจว่าใครจะได้ยินอะไรยังไงแล้ว
“ร้องออกมาโน่ ..อืออ... กูอยากได้ยินเสียงมึง!...อ่าา...” มันบอกเสียงสั่นรัญจวนใจผมสุดๆ
“อ๊าา...คิม....โอ้วววซู้ดส์” ผมซู้ดปากครางไม่หยุดปลดปล่อยอารมณด้านมืดออกมาเต็มที่ มันเร่งจังหวะขึ้นสองขาที่ชันเก้าอี้ไว้เมื่อยไปหมดแต่ก็เทียบไม่ได้กับความสุขกระสันที่กำลังกระแทกกระทั้นอยู่ตอนนี้
“กูชอบ...อืออ...ความเงียบ...อาา..อยากได้ยินแค่เสียงของมึงโน่” มันทั้งพูดทั้งคราง ผมละมือลงมาจะจับน้องชายของตัวเองมันปัดมือผมออกอย่างแรงแล้วใช้มือมันทั้งกำทั้งรูดให้อย่างสะใจ
“อืออ..โน่มึงแม่งฟิตเหี้ย...กูจะบ้าอยู่แล้ว”
“อ๊าา..” ผมเสียวแบบฉิบหายเลย
“คิมกูไม่ไหว....กูจะแตก..อ๊ะ” ผมทั้งทุบไหล่มันซุกหน้าลงในซอกคอ ผมกลัวจะไปก่อน มันผ่อนจังหวะให้ช้าลงพักเดียวก้เร่งขึ้นมาอีก
“อ่าา........โน่!!” มันครางใหญ่เลย ระดมจูบผมแบบไม่ยั้ง สะโพกข้างล่างสวนขึ้นลงอย่างแรงและเร็ว สองขาผมทั้งปวดทั้งชา อยู่ข้างบนแม่งลำบากฉิบหาย
“อ๊าาา....คิม” แตกแล้วครับ ผมเรียบร้อยแล้ว มันพลิกตัวผมให้นอนลงในมุมเฉียงของเก้าอี้ยกขาข้างนึงผมพาดไว้ด้านบน ชันขามันขึ้นมากระหน่ำซอยลงมาแบบไม่ยั้ง
“อ่าาาา.....” มันครางต่ำยาว ฉีดพ่นเข้าไปครับน้ำอุ่น ๆ ไหลรดในร่างกายแล้วไหลเยิ้มออกมาด้านนอกผมเสียวที่หน้าท้องแบบสุด ๆ มันถอนสิ่งแข็งขืนออกแล้วอุ้มผมเข้าไปด้านใน วางลงที่เตียงนอนกอดผมไว้ระดมจูบไปทั่วตัวไล่ลงมาจนถึงยอดอกชูชัน เป็นอย่างงี้ทุกที ถ้ามันไม่ทำ...ก็จะไม่ทำเลย แต่ถ้าหากได้ทำ แม่ง! ครั้งเดียวไม่เคยพอสำหรับมัน
“อ๊ะ! คิมอย่าทำรอยพรุ่งนี้กูต้องถอดเสื้อเล่นกีฬา”
“จะไปเล่นที่ไหน” มันถามไปจูบซอกคอผมไปเสียงโคตรหื่น
“ที่มหาลัยแหละ นัดไอ้ด้าไว้”
“ยังคบกับมันอยู่ ? โดนวันนั้นยังไม่เข็ดรึไง”
“อ๊ะ!” มันงับลงที่ไหล่เบา ๆ
“ไม่มีไรหรอก วันนั้นมันเมา กูเองก็เมา ถ้ามันเป็นคนไม่ดีนะป่านนี้กูไม่เหลือแล้ว”
“หึ”
“โอ๊ย!! เหี้ย! มึงกัดกูทำไมเนี่ย” ผมตีมันครับจู่ ๆ กัดลงที่ข้างหัวนมผม
“พรุ่งนี้มันจะได้รู้ว่ามึงมีเจ้าของแล้ว”
“..........” ผมทำหน้างอใส่มัน
“ต่อนะ ไม่พูดเรื่องคนอื่นแล้ว”
เร็วเลยครับมันน่ะปลายลิ้นลากไล้ขบเม้มไปทั่วลำคอ
ลากยาวไปเรื่อยที่เนินไหล่ เนินอก วนเล่นอยู่อย่างนั้น
ขณะที่มือมันทั้งขยำทั้งนวดส่วนล่างของผมให้ตื่นตัวอีกครั้ง
ริมฝีปากสวยขบเม้มต่ำลงไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดวนเวียนอยู่รอบ ๆ ท้องน้อย
มันยกขาสองข้างของผมขึ้นใช้หมอนรองสะโพกไว้
ก้มหัวลงไปชอนไชปลายลิ้นอยู่ที่จุดอ่อนไหวทางเข้าออก
“อ๊าาา..คิม” ผมครางเสียงกระเส่าด้วยความเสียวเกร็ง แม่งเหี้ยสุด ๆ มันเล่นห่าอะไรไม่ยอมเลิก ฉกลิ้นเข้าออกจนกูแทบจะบ้า มือผมจิกลงที่หัวมันด้วยความเกร็งและเสียวซ่านแอ่นสะโพกร่อนซ้ายขวา
“อ๊าา..คิม!!.พอ...เหี้ย อ๊าาส์....พอแล้ว” มันดูดจูบแรง ๆ ไปที่ทางเข้าออกส่วนนั้นก่อนประคองตัวผมให้ลุกขึ้น
“ไปเล่นกันในห้องน้ำนะ” ผมแข้งขาอ่อนไปหมด มันอุ้มผมมาวางลงที่เคาท์เตอร์หน้ากระจก เราจูบกันนัวเนียอยู่สักพักมันเอาตัวผมลงมาจับหันหน้าเข้าหากระจก ตัวมันซ้อนอยู่ด้านหลังสีหน้าโคตรหื่นสุดเลยครับ
“อ๊ะ! ..” โยกเข้าโยกออกซอยโคตรรถี่แม่งไม่เห็นใจกูเลย มือนึงจับสะโพกผมดึงเข้าออก อีกมือจับดึงผมของผมเล่น
“อืออ ร้องออกมาโน่ ....อ่าา..กูอยากได้ยินเสียงมึง...ร้องออกมา” มันทั้งพูดทั้งซอยถี่ ๆ กระแทกแบบไม่มียั้ง มันเร่งความเร็วขึ้นอีก เสียงครางทั้งผมและมันดังระงมไปทั้งห้องน้ำ
“คิม...กูจะไปอีกแล้ว..อ๊าา” มันปัดมือผมที่ควบคุมน้องชายตัวเองออกไป ผมส่ายหน้าไม่ได้ดั่งใจ มันไม่ยอมให้ผมได้ปล่อยออกมา ตัวมันกะเสร็จก่อนแหงเลย แผนชั่วอะไรของมัน
“คิม! ฮ.ฮ๊าา” มันฉีดพ่นของเหลวของมันเข้าไปอีกครั้ง กระตุกหยุดเล็กน้อยก่อนถอนออกอย่างรวดเร็ว
“กูอยากกินทุกสิ่งทุกอย่างที่ป็นของมึง! ปล่อยออกมาเลยโน่” มันหันตัวผมให้เข้าหาตัวมันนั่งคุกเข่าลงครอบปากลงที่ส่วนแข็งขืนที่กำลังตั้งชันด้วยอารมณ์คุกรุ่น ผมซอยกระแทกเข้าปากมันแบบไม่ยั้ง สองมือของผมจิกหัวมันโยกเข้าออกด้วยความเมามันส์
“อ่าาา..” เรียบร้อยครับ มันดูดกลืนเลียริมฝีปากเข้าไปจนหมดลุกขึ้นมาแลกจูบกับผมอีกครั้ง กลิ่นคาว ๆ จากน้ำรักของผมยังมีอยู่เต็มปากมัน
“ล้างตัวนะ เดี๋ยวกูทำให้” ผมไม่ไหวแล้ว ล้าไปหมด มันประคองให้มานั่งที่ขอบอ่างอย่างหมดแรง ผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรหลังจากนั้น รู้สึกตัวอีกทีก็มานอนห่มผ้าเรียบร้อย มันเก็บของโน่นนี่ของมันเสร็จเราสองคนก็มานอนกอดกันอยู่บนเตียงแล้ว
“อ๊าาา..คิม” ผมครางเสียงกระเส่าด้วยความเสียวเกร็ง แม่งเหี้ยสุด ๆ มันเล่นห่าอะไรไม่ยอมเลิก ฉกลิ้นเข้าออกจนกูแทบจะบ้า มือผมจิกลงที่หัวมันด้วยความเกร็งและเสียวซ่านแอ่นสะโพกร่อนซ้ายขวา
“อ๊าา..คิม!!.พอ...เหี้ย อ๊าาส์....พอแล้ว” มันดูดจูบแรง ๆ ไปที่ทางเข้าออกส่วนนั้นก่อนประคองตัวผมให้ลุกขึ้น
“ไปเล่นกันในห้องน้ำนะ” ผมแข้งขาอ่อนไปหมด มันอุ้มผมมาวางลงที่เคาท์เตอร์หน้ากระจก เราจูบกันนัวเนียอยู่สักพักมันเอาตัวผมลงมาจับหันหน้าเข้าหากระจก ตัวมันซ้อนอยู่ด้านหลังสีหน้าโคตรหื่นสุดเลยครับ
“อ๊ะ! ..” โยกเข้าโยกออกซอยโคตรรถี่แม่งไม่เห็นใจกูเลย มือนึงจับสะโพกผมดึงเข้าออก อีกมือจับดึงผมของผมเล่น
“อืออ ร้องออกมาโน่ ....อ่าา..กูอยากได้ยินเสียงมึง...ร้องออกมา” มันทั้งพูดทั้งซอยถี่ ๆ กระแทกแบบไม่มียั้ง มันเร่งความเร็วขึ้นอีก เสียงครางทั้งผมและมันดังระงมไปทั้งห้องน้ำ
“คิม...กูจะไปอีกแล้ว..อ๊าา” มันปัดมือผมที่ควบคุมน้องชายตัวเองออกไป ผมส่ายหน้าไม่ได้ดั่งใจ มันไม่ยอมให้ผมได้ปล่อยออกมา ตัวมันกะเสร็จก่อนแหงเลย แผนชั่วอะไรของมัน
“คิม! ฮ.ฮ๊าา” มันฉีดพ่นของเหลวของมันเข้าไปอีกครั้ง กระตุกหยุดเล็กน้อยก่อนถอนออกอย่างรวดเร็ว
“กูอยากกินทุกสิ่งทุกอย่างที่ป็นของมึง! ปล่อยออกมาเลยโน่” มันหันตัวผมให้เข้าหาตัวมันนั่งคุกเข่าลงครอบปากลงที่ส่วนแข็งขืนที่กำลังตั้งชันด้วยอารมณ์คุกรุ่น ผมซอยกระแทกเข้าปากมันแบบไม่ยั้ง สองมือของผมจิกหัวมันโยกเข้าออกด้วยความเมามันส์
“อ่าาา..” เรียบร้อยครับ มันดูดกลืนเลียริมฝีปากเข้าไปจนหมดลุกขึ้นมาแลกจูบกับผมอีกครั้ง กลิ่นคาว ๆ จากน้ำรักของผมยังมีอยู่เต็มปากมัน
“ล้างตัวนะ เดี๋ยวกูทำให้” ผมไม่ไหวแล้ว ล้าไปหมด มันประคองให้มานั่งที่ขอบอ่างอย่างหมดแรง ผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรหลังจากนั้น รู้สึกตัวอีกทีก็มานอนห่มผ้าเรียบร้อย มันเก็บของโน่นนี่ของมันเสร็จเราสองคนก็มานอนกอดกันอยู่บนเตียงแล้ว
“รักนะครับโน่” มันกดจูบเบา ๆ ลงที่ขมับ ส่งเสียงกระซิบที่ข้างหู
ผมเผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
“เหมือนกัน”
คนรักสองคนของผมไม่ว่าจะสไตล์ไหนคำลงท้ายที่พวกมันสองคนให้ไว้กับผมก็เป็นความหมายเดียวกันเสมอ และผมเองก็ตอบกลับไปเหมือนเดิมทุกครั้ง
ผมไม่รู้ว่าความสัมพันธ์แปลกประหลาดของพวกเราคืออะไร คนรัก? แฟน? ผัวเมีย? ผมไม่สนใจคำจำกัดความอะไรแบบนั้น สำหรับผมขอแค่ได้อยู่ข้าง ๆ พวกมันอย่างนี้ไปตลอด.............รักพวกมึงเหมือนกัน
คนรักสองคนของผมไม่ว่าจะสไตล์ไหนคำลงท้ายที่พวกมันสองคนให้ไว้กับผมก็เป็นความหมายเดียวกันเสมอ และผมเองก็ตอบกลับไปเหมือนเดิมทุกครั้ง
ผมไม่รู้ว่าความสัมพันธ์แปลกประหลาดของพวกเราคืออะไร คนรัก? แฟน? ผัวเมีย? ผมไม่สนใจคำจำกัดความอะไรแบบนั้น สำหรับผมขอแค่ได้อยู่ข้าง ๆ พวกมันอย่างนี้ไปตลอด.............รักพวกมึงเหมือนกัน
ตอนพิเศษ
[ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ]
“โป้ง กูจะเอาอันนี้”
“ไม่ได้”
“อันนี้ล่ะ?”
“ก็ไม่ได้”
“งั้นอันนี้”
“อันนี้ก็ไม่ได้อีก”
“แล้วจะให้กูกินอะไร! อันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ได้”
“ก็มึงอ้วนขึ้นตั้ง 2 โล เห็นใจพวกกูบ้าง?!! กินแต่บร็อคโคลี่ต้มไปก่อนมึงอ่ะ”
“จิ๊! คิมมึงดู ไอ้โป้งมันแกล้งกู” ผมเดินไปอ้อนไอ้คิมที่กำลังเข็นรถเดินตามพวกผมช็อปฯ
“หึหึ โป้งมึงพูดถูกว่ะ! เมื่อคืนกูหนักแบบฉิบหายเลย”
“คิม!!” ผมฟาดผั๊วะลงที่หลังมันอย่างแรง
“โน่! กูเจ็บครับ เจ็บๆ พอแล้วๆ” ผมกระหน่ำลงไปแบบไม่ยั้งมือ
“หรือจะกินวุ้นเส้นต้ม” ไอ้โป้งยกห่อวุ้นเส้นขึ้นมาให้ผมดูอีก
“ไม่เอา!” ผมพูดหน้างออีก
“งั้นกินมะเขือเทศเล่น เดี๋ยวกูทำสลัดให้” มันยังเสนอต่อ
“อื้ออ.....กูไม่ชอบกินผัก” ผมเถียงมัน
“ไม่ใช่ผักนะ มะเขือเทศเค้าจัดเป็นผลไม้ชนิดนึงแล้ว”
“ไม่เอา!” ผมหันหน้าไปอีกทางเห็นสิ่งที่อยากได้พอดี
“งั้นกูเอาอันนี้ก็ได้” ผมโชว์สิ่งที่อยู่ในมือขึ้นมา ถังไอติมกะทิเมลอน!! ใหญ่มากกกก
“...........” มันสองคนส่ายหัวพร้อมกัน ทั้งคู่จ้องผมตาเขียวปั๊ด!
----------สรุปสิ่งที่ผมได้มาจากซุปเปอร์ คือ ไอติมถังนั้น-ช็อคโกแลตบาร์ และ ช็อคเค้ก ของโปรดดดด!!!----------
พวกมึงหรือจะขัดใจกูด้ายยยยยยย!!!!____________55555
[ บนรถ (ไอ้โป้งขับ) ]
“คิม กูจะฟังเพลงที่ 7 ของแผ่นที่ 2”
“............” มันไม่พูดแต่กดเปิดให้......
“คิม กูจะฟังเพลงที่ 10 แผ่นแรก”
“............” มันไม่พูดแต่กดเปิดให้อีก......
“คิม เพลงนี้ไม่ค่อยเพราะเลยเปลี่ยนเป็นเพลงที่ 5 ดีกว่ามึงแผ่นเดิมนี่แหละ”
“...........” มันไม่พูดเอื้อมมือไปกดเปลี่ยนให้อีก.....
“เฮ้ย! ฟังวิทยุดีกว่า ดูซิ มีข่าวอะไรบ้าง” คราวนี้เป็นคนขับอย่างไอ้โป้งกดเปลี่ยนให้
“ไม่เอาหรอกมีแต่ข่าวกับข่าว กูจะฟัง CD เหมือนเดิม เอาเพลงที่ 2 ของแผ่น 1”
“........” ไอ้คิมเงียบแต่มันยังกดเปลี่ยนให้อีก
“คิม...”
“โน่ครับ .......อ่ะ รีโมท!”
“ !!!! ” ผมเอง
..
“ดีนะคิมที่รถกูมีรีโมท”
“หึหึ”
...............เงียบ..................ผมงอน.......แล้วผมก็หลับ.....................
ได้ยินแต่เสียงพวกมันหัวเราะผมเบา ๆ __________________________________________
[ ห้องไอ้โป้ง ]
“วันนี้นอนไหน” ไอ้โป้งถามขึ้น
“นอนนี่”
“คิม! มึงอ่ะ ?”
“นอนนี่แหละ มึงไม่ต้องไปส่งกูอีก ดึกแล้ว” มันนอนดูทีวีอย่างสบายใจ
“โน่ รีบไปอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัวอยู่ที่ขอบอ่าง ห้ามแช่นะมึง ดึกแล้ว”
“แชมพูเมลอนกูล่ะ?”
“จะสระผม ?”
“อืม”
“ไม่ให้สระ ดึกแล้วพรุ่งนี้เดี๋ยวกูสระให้”
“งั้นอาบให้หน่อย อาบด้วยกัน” ผมอ้อนไอ้โป้ง ไอ้ตัวที่นอนดูทีวีอยู่ลุกขึ้นนั่งมองหน้าผมทันที
--------ไอ้โป้งเงียบ-------ผมเงียบ---------ไอ้คิมเงียบ----------
__________สรุป อาบด้วยกัน 3 คน !!!!___________
[ ในห้องน้ำ ]
สายตาสองคู่กำลังจับจ้องร่างกายผมอยู่
..
“ทำไม่ไม่ถอดบ็อคเซอร์” ไอ้โป้งถามขึ้น มันยืนแก้ผ้าอยู่หน้าอ่าง
“ไม่อ่ะ.....กูอยากอาบแบบนี้”
“แบบนี้ไม่ให้อาบ เอาเปรียบพวกกู” ไอ้คิมพูดหน้านิ่งยืนเท้าสะเอวล่อนจ้อนอยู่หน้ากระจก
“ถอดครับโน่” ไอ้โป้งพูดอีก
“อื้ออออ........ไม่เอา!” ผมพูดหน้างอ
“........” ไอ้โป้งจ้อง
“........” ไอ้คิมจ้อง
“งั้นกูไม่อาบแล้ว!!!” ผมกระทืบเท้าเดินหน้างอจะออกไป
“......ครับ ครับ ไม่ถอดก็ไม่ถอด อาบแบบนี้ก็ได้เนอะ” ไอ้โป้งรีบเข้ามากอดผมไว้
....
....
มันสองคนลูบไล้แชมพูที่เนื้อตัวผม..............น - า - นนนนนน
ขนลุก........
พยายาม....ข่มใจไว้.......
ผม...บอกตัวเอง.........
...
“โน่!” สองเสียงตะโกนดัง ๆ พร้อมกัน พวกมันจ้องมาที่ผม
“ไรวะ? พวกมึงเป็นไร” ผมตกใจ ถามแบบตื่น ๆ
“มึงนั่นแหละเป็นไร!!!??? เสร็จแล้ว ยืนหลับตาอยู่ได้”
“อ่ะ เช็ดตัว เช็ดหัวด้วยนะเดี๋ยวเป็นหวัด”
____________________!???____________________
[ บนเตียง ]
“ คิม มึงนอนตรงกลาง ” ผมพูดขึ้น
“เรื่องดิ ! ถ้ามันนอนตรงกลางมันก็ได้กอดมึงคนเดียว” ไอ้โป้งโวยวายขึ้น
ผมกับไอ้คิมมองหน้ากัน----- งง!! -----
“มึงแหละมานอนตรงกลาง” ไอ้โป้งยังพูดต่อ
“ไม่เอา! เกิดตอนดึก ๆ พวกมึงสองคนคึกพร้อมกันกูจะทำยังไง!!” ผมโวยวาย
“ไม่คึกหรอก นอนลงเร็วกูง่วงแล้ว” ไอ้คนที่นอนอยู่ตบมือลงบนที่นอนเบา ๆ
ผมลุกขึ้นเดินไปหน้าเตียง ปูฟูกลง
“จะทำอะไร” ไอ้โป้งถาม
“กูจะนอนตรงนี้ พวกมึงสองคนนอนด้วยกันตรงนั้นแหละ”
“โน่ครับ ” ไอ้คิมพูด จ้องหน้าผม
“โน่ครับ ” ไอ้โป้งพูด จ้องหน้าผม
---------เงียบ----------
“เออออออออ ก็ด้ายยยยยยย!! นอนข้างบนก็ข้างบน! แต่ห้ามพวกมึงมาถูกตัวกูนะ” ผมใช้หมอนข้างสองใบกั้นพวกมันไว้
ต่างคนต่างกำลังจะหลับ ผมกำลังเคลิ้ม.....
♫♫~ ♫~ ♫♫~♫~ ♫♫~ ♫~ เ-พ-ล-ง!!!
“โป้ง! มึงเปิดเพลงทำไม?!” ผมลุกขึ้นถามหน้าตาตื่น นึกถึงรสนิยมประหลาด ๆ ของมัน ไอ้คิมงัวเงียลุกขึ้นด้วย
“ไรวะโน่ มึงโวยวายอะไร” ไอ้คิมถามเสียงงึมงำ จากนั้นล้มตัวลงนอนต่อ
“กูนอนไม่หลับถ้าไม่ฟังเพลง” ไอ้โป้งตอบหลบตา มันนอนลงแล้ว เลือกเพลงช้า ๆ ฟังสบาย ๆ
“แน่ใจนะมึง” ผมถามอย่างไม่วางใจ ก็รู้กันอยู่รสนิยมเรื่องเซ็กส์ของมัน! ต้องเปิดเพลงก่อนเสมอ
“ นอนครับโน่นอน นอน กูง่วงแล้ว” ไอ้คิมเอื้อมมือมากอดผมไว้ ผมนอนหันหลังให้มัน หันหน้าไปทางไอ้โป้ง ยังคงไม่วางใจมันเท่าไหร่ จ้องมันไว้ก่อน
“ขอจุ๊บทีนึง” อยู่ ๆ มันก็หันหน้ามาบอกผมเบา ๆ ผมจ้องมันจนตาแทบทะลัก ไอ้ห่าโป้ง!!!
มันกำลังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมเต็มที่ ผมหลับตาแน่นกลัวไอ้คิมตื่น
“ฮึ่มม!!! .......อ่ะ! กูนอนตรงนี้ละกัน!” ไอ้คิมพลิกตัวข้ามตัวผมมานอนลงตรงกลาง หันหน้ามากอดผมไว้แล้วหันหลังให้ไอ้โป้งแทน
ผมแอบหัวเราะในใจ 555555
______เงียบ_____เพลงถูกปิด_____555____สมน้ำหน้าอยากหื่นดีนัก......กอดไอ้คิมไปเหอะมึง!!!
_____________Special Part Complete.
[ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ]
“โป้ง กูจะเอาอันนี้”
“ไม่ได้”
“อันนี้ล่ะ?”
“ก็ไม่ได้”
“งั้นอันนี้”
“อันนี้ก็ไม่ได้อีก”
“แล้วจะให้กูกินอะไร! อันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ได้”
“ก็มึงอ้วนขึ้นตั้ง 2 โล เห็นใจพวกกูบ้าง?!! กินแต่บร็อคโคลี่ต้มไปก่อนมึงอ่ะ”
“จิ๊! คิมมึงดู ไอ้โป้งมันแกล้งกู” ผมเดินไปอ้อนไอ้คิมที่กำลังเข็นรถเดินตามพวกผมช็อปฯ
“หึหึ โป้งมึงพูดถูกว่ะ! เมื่อคืนกูหนักแบบฉิบหายเลย”
“คิม!!” ผมฟาดผั๊วะลงที่หลังมันอย่างแรง
“โน่! กูเจ็บครับ เจ็บๆ พอแล้วๆ” ผมกระหน่ำลงไปแบบไม่ยั้งมือ
“หรือจะกินวุ้นเส้นต้ม” ไอ้โป้งยกห่อวุ้นเส้นขึ้นมาให้ผมดูอีก
“ไม่เอา!” ผมพูดหน้างออีก
“งั้นกินมะเขือเทศเล่น เดี๋ยวกูทำสลัดให้” มันยังเสนอต่อ
“อื้ออ.....กูไม่ชอบกินผัก” ผมเถียงมัน
“ไม่ใช่ผักนะ มะเขือเทศเค้าจัดเป็นผลไม้ชนิดนึงแล้ว”
“ไม่เอา!” ผมหันหน้าไปอีกทางเห็นสิ่งที่อยากได้พอดี
“งั้นกูเอาอันนี้ก็ได้” ผมโชว์สิ่งที่อยู่ในมือขึ้นมา ถังไอติมกะทิเมลอน!! ใหญ่มากกกก
“...........” มันสองคนส่ายหัวพร้อมกัน ทั้งคู่จ้องผมตาเขียวปั๊ด!
----------สรุปสิ่งที่ผมได้มาจากซุปเปอร์ คือ ไอติมถังนั้น-ช็อคโกแลตบาร์ และ ช็อคเค้ก ของโปรดดดด!!!----------
พวกมึงหรือจะขัดใจกูด้ายยยยยยย!!!!____________55555
[ บนรถ (ไอ้โป้งขับ) ]
“คิม กูจะฟังเพลงที่ 7 ของแผ่นที่ 2”
“............” มันไม่พูดแต่กดเปิดให้......
“คิม กูจะฟังเพลงที่ 10 แผ่นแรก”
“............” มันไม่พูดแต่กดเปิดให้อีก......
“คิม เพลงนี้ไม่ค่อยเพราะเลยเปลี่ยนเป็นเพลงที่ 5 ดีกว่ามึงแผ่นเดิมนี่แหละ”
“...........” มันไม่พูดเอื้อมมือไปกดเปลี่ยนให้อีก.....
“เฮ้ย! ฟังวิทยุดีกว่า ดูซิ มีข่าวอะไรบ้าง” คราวนี้เป็นคนขับอย่างไอ้โป้งกดเปลี่ยนให้
“ไม่เอาหรอกมีแต่ข่าวกับข่าว กูจะฟัง CD เหมือนเดิม เอาเพลงที่ 2 ของแผ่น 1”
“........” ไอ้คิมเงียบแต่มันยังกดเปลี่ยนให้อีก
“คิม...”
“โน่ครับ .......อ่ะ รีโมท!”
“ !!!! ” ผมเอง
..
“ดีนะคิมที่รถกูมีรีโมท”
“หึหึ”
...............เงียบ..................ผมงอน.......แล้วผมก็หลับ.....................
ได้ยินแต่เสียงพวกมันหัวเราะผมเบา ๆ __________________________________________
[ ห้องไอ้โป้ง ]
“วันนี้นอนไหน” ไอ้โป้งถามขึ้น
“นอนนี่”
“คิม! มึงอ่ะ ?”
“นอนนี่แหละ มึงไม่ต้องไปส่งกูอีก ดึกแล้ว” มันนอนดูทีวีอย่างสบายใจ
“โน่ รีบไปอาบน้ำ ผ้าเช็ดตัวอยู่ที่ขอบอ่าง ห้ามแช่นะมึง ดึกแล้ว”
“แชมพูเมลอนกูล่ะ?”
“จะสระผม ?”
“อืม”
“ไม่ให้สระ ดึกแล้วพรุ่งนี้เดี๋ยวกูสระให้”
“งั้นอาบให้หน่อย อาบด้วยกัน” ผมอ้อนไอ้โป้ง ไอ้ตัวที่นอนดูทีวีอยู่ลุกขึ้นนั่งมองหน้าผมทันที
--------ไอ้โป้งเงียบ-------ผมเงียบ---------ไอ้คิมเงียบ----------
__________สรุป อาบด้วยกัน 3 คน !!!!___________
[ ในห้องน้ำ ]
สายตาสองคู่กำลังจับจ้องร่างกายผมอยู่
..
“ทำไม่ไม่ถอดบ็อคเซอร์” ไอ้โป้งถามขึ้น มันยืนแก้ผ้าอยู่หน้าอ่าง
“ไม่อ่ะ.....กูอยากอาบแบบนี้”
“แบบนี้ไม่ให้อาบ เอาเปรียบพวกกู” ไอ้คิมพูดหน้านิ่งยืนเท้าสะเอวล่อนจ้อนอยู่หน้ากระจก
“ถอดครับโน่” ไอ้โป้งพูดอีก
“อื้ออออ........ไม่เอา!” ผมพูดหน้างอ
“........” ไอ้โป้งจ้อง
“........” ไอ้คิมจ้อง
“งั้นกูไม่อาบแล้ว!!!” ผมกระทืบเท้าเดินหน้างอจะออกไป
“......ครับ ครับ ไม่ถอดก็ไม่ถอด อาบแบบนี้ก็ได้เนอะ” ไอ้โป้งรีบเข้ามากอดผมไว้
....
....
มันสองคนลูบไล้แชมพูที่เนื้อตัวผม..............น - า - นนนนนน
ขนลุก........
พยายาม....ข่มใจไว้.......
ผม...บอกตัวเอง.........
...
“โน่!” สองเสียงตะโกนดัง ๆ พร้อมกัน พวกมันจ้องมาที่ผม
“ไรวะ? พวกมึงเป็นไร” ผมตกใจ ถามแบบตื่น ๆ
“มึงนั่นแหละเป็นไร!!!??? เสร็จแล้ว ยืนหลับตาอยู่ได้”
“อ่ะ เช็ดตัว เช็ดหัวด้วยนะเดี๋ยวเป็นหวัด”
____________________!???____________________
[ บนเตียง ]
“ คิม มึงนอนตรงกลาง ” ผมพูดขึ้น
“เรื่องดิ ! ถ้ามันนอนตรงกลางมันก็ได้กอดมึงคนเดียว” ไอ้โป้งโวยวายขึ้น
ผมกับไอ้คิมมองหน้ากัน----- งง!! -----
“มึงแหละมานอนตรงกลาง” ไอ้โป้งยังพูดต่อ
“ไม่เอา! เกิดตอนดึก ๆ พวกมึงสองคนคึกพร้อมกันกูจะทำยังไง!!” ผมโวยวาย
“ไม่คึกหรอก นอนลงเร็วกูง่วงแล้ว” ไอ้คนที่นอนอยู่ตบมือลงบนที่นอนเบา ๆ
ผมลุกขึ้นเดินไปหน้าเตียง ปูฟูกลง
“จะทำอะไร” ไอ้โป้งถาม
“กูจะนอนตรงนี้ พวกมึงสองคนนอนด้วยกันตรงนั้นแหละ”
“โน่ครับ ” ไอ้คิมพูด จ้องหน้าผม
“โน่ครับ ” ไอ้โป้งพูด จ้องหน้าผม
---------เงียบ----------
“เออออออออ ก็ด้ายยยยยยย!! นอนข้างบนก็ข้างบน! แต่ห้ามพวกมึงมาถูกตัวกูนะ” ผมใช้หมอนข้างสองใบกั้นพวกมันไว้
ต่างคนต่างกำลังจะหลับ ผมกำลังเคลิ้ม.....
♫♫~ ♫~ ♫♫~♫~ ♫♫~ ♫~ เ-พ-ล-ง!!!
“โป้ง! มึงเปิดเพลงทำไม?!” ผมลุกขึ้นถามหน้าตาตื่น นึกถึงรสนิยมประหลาด ๆ ของมัน ไอ้คิมงัวเงียลุกขึ้นด้วย
“ไรวะโน่ มึงโวยวายอะไร” ไอ้คิมถามเสียงงึมงำ จากนั้นล้มตัวลงนอนต่อ
“กูนอนไม่หลับถ้าไม่ฟังเพลง” ไอ้โป้งตอบหลบตา มันนอนลงแล้ว เลือกเพลงช้า ๆ ฟังสบาย ๆ
“แน่ใจนะมึง” ผมถามอย่างไม่วางใจ ก็รู้กันอยู่รสนิยมเรื่องเซ็กส์ของมัน! ต้องเปิดเพลงก่อนเสมอ
“ นอนครับโน่นอน นอน กูง่วงแล้ว” ไอ้คิมเอื้อมมือมากอดผมไว้ ผมนอนหันหลังให้มัน หันหน้าไปทางไอ้โป้ง ยังคงไม่วางใจมันเท่าไหร่ จ้องมันไว้ก่อน
“ขอจุ๊บทีนึง” อยู่ ๆ มันก็หันหน้ามาบอกผมเบา ๆ ผมจ้องมันจนตาแทบทะลัก ไอ้ห่าโป้ง!!!
มันกำลังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมเต็มที่ ผมหลับตาแน่นกลัวไอ้คิมตื่น
“ฮึ่มม!!! .......อ่ะ! กูนอนตรงนี้ละกัน!” ไอ้คิมพลิกตัวข้ามตัวผมมานอนลงตรงกลาง หันหน้ามากอดผมไว้แล้วหันหลังให้ไอ้โป้งแทน
ผมแอบหัวเราะในใจ 555555
______เงียบ_____เพลงถูกปิด_____555____สมน้ำหน้าอยากหื่นดีนัก......กอดไอ้คิมไปเหอะมึง!!!
_____________Special Part Complete.
ตอนที่ 18-1 เจส B.E.
“เอามาเลยโน่ มึงขี้โกงนี่หว่า” ไอ้โป้งโวยวายใส่ผมในขณะที่มือมันพยายามไขว่คว้าสิ่งที่ผมถือไว้เต็มที่
“ไรอ่ะ! อยากได้คืนมึงต้องพูดออกมาให้หมด” ผมแกล้งยึดโทรศัพท์มันไว้ครับ หลังจากได้ยินไอ้แบงค์กับไอ้ดิวมาฟ้องผมว่ามันพาน้องเอมมี่ ดาวมหาลัยคู่กรณีเก่าไปดูมันซ้อมบอลถึงขอบสนาม
“โน่ครับ เอามาเร็ว เอาคืนมา” มันยังพูดทำหน้างอน ๆ ปากแม่งเชิดอย่างหน้าจูบเลย
“เดี๋ยวกูดูก่อน มีอะไรนักหนาอยู่ในนี้” ผมพูดพร้อมแกล้งกดมือถือมันดู
“อื้อหือ โป้ง!” ผมแกล้งทำท่าตกใจล้อมัน จริง ๆ แล้วผมยังไม่ได้ปลดล็อคเข้าไปด้วยซ้ำ
“ไม่มีไร ก็....กูถ่ายไว้ตอนมึงเผลอ กูไม่ได้ตั้งใจ กูขอโทษ” มันพูดหน้าแดงหูแดง เฮ้ย ๆ ๆ เมื่อกี้มันพูดอะไรรูปอะไร คราวนี้ผมรีบปลดล็อคเข้าไปดูจริง ๆ แล้ว ลุกขึ้นยืนแล้วถอยห่างออกจากโต๊ะ
“เฮ้ย!! โน่มึงถอยมาทำไม!!” เสียงไอ้ดิวโวยวายขึ้นด้านหลัง มันกับไอ้แบงค์กำลังเดินเข้ามาหาพวกผมที่นั่งคุยกันอยู่ก่อนแล้ว ผมยืนก้มหน้าก้มตาเสิร์ชหาไม่ได้ตอบอะไรมัน
“ห่า! รูปมึงน่ารักว่ะโน่ ไรเนี่ย! แม่งตรึม!!” ยังเป็นไอ้ดิวที่พูดต่อมันยืนซ้อนอยู่ด้านหลังผมกำลังดูรูปที่อยู่ในโทรศัพท์ไอ้โป้ง
“เชี่ยโป้งแม่งโรแมนติกสัด” เสียงไอ้แบงค์พึมพำเบา ๆ อยู่ข้าง ๆ ผม
ผมพูดอะไรไม่ออก รู้สึกว่าหน้าเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ รูปผมเป็นร้อย ๆ รูปถูกจัดเก็บอย่างดีไว้ในโฟล์เดอร์ส่วนตัวในมือถือเครื่องนี้ ส่วนใหญ่เป็นรูปตอนอยู่ด้วยกันในเวลากลางคืนโดยเฉพาะตอนผมนอนหลับ มันแอบมาถ่ายไว้ตอนไหนผมไม่รู้เรื่องเลย...
“แบงค์มึงหัดดูไอ้โป้งไว้เป็นตัวอย่างบ้าง มึงอ่ะไม่เคยหรอก” ไอ้ดิวผลักหัวไอ้แบงค์อย่างแรงจนแว่นของไอ้คนถูกผลักเกือบจะหล่น
“อ่ะ” ผมส่งโทรศัพท์คืนให้ไอ้โป้งแล้วนั่งลง มันหน้าแดงไม่พูดอะไรเลยโดนไอ้แบงค์ศอกข้างหยอกเบา ๆ
“พวกมึงแม่งน่าอิจฉาว่ะ แต่ว่า ไอ้ห่าโป้ง วันนั้นกูเห็นมึงกับน้องเอมมี่นั่งคุยกันอยู่ที่สนามบอลจริงนะเว้ย มึง เล่ามาให้หมด” ไอ้ดิวพูดแล้วยักคิ้วให้ผมหนึ่งที
“ไม่ได้พาไป...น้องเค้าไปเชียร์เอง กูเห็นเลยเข้าไปทักแล้วก็เลยนั่งคุยนิดหน่อย”
“แล้วทำไมเด็ก ๆ กูที่นิเทศน์มันบอกว่าน้องเอมมี่เค้าบอกว่าเค้าคบกับมึงอยู่” ผมจ้องมันเต็มที่ดูสิว่าจะตอบว่ายังไงไอ้ดิวถามได้ดีมากเป็นหูเป็นตาแทนผมอีกด้วย ไอ้นี่มันกว้างขวางครับเด็กกิจกรรมรู้จักคนเยอะมาก
“คบเหี้ยมึงดิ! กูมีไอ้โน่อยู่ทั้งคนแล้วคนอื่นกูเลิกหมดแล้วเว้ยไม่สนใจหรอก” โหยไอ้โป้ง...วันนี้พูดดีชิบหายพรุ่งนี้กูไปค้างกับมึงเดี๋ยวจัดรางวัลให้ชุดใหญ่เลย ผมคิดในใจยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับคำพูดมัน มันเองพูดแล้วก็หูแดงไปหมด
“อ๊วกกกกกกกกกก!!!” ไอ้ดิวแกล้งเยาะพวกผม
“เฮ้ย! เดี๋ยว ๆ !!” อยู่ ๆ ไอ้แบงค์พูดขึ้นหน้าตาตื่น ผม ไอ้ดิว ไอ้โป้งมองมันทันที
“ไอ้คิมอ่ะ! มันยังมาไม่ถึง ?” มันพูดต่อ ผมกับไอ้โป้งมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
“เอ่อใช่เชี่ยแบงค์ กูลืมไปเลย” ไอ้ดิวพูดหน้าตื่นขึ้นอีกคน
“มาไรวะ มันไปพบอาจารย์ที่ตึก L โน่น ประชุมห่าไรของมันไม่รู้มีแม่งทุกวันแหละ” ผมพูดขึ้นอย่างเซ็ง ๆ
“ประชุมเหี้ยมึงดิ! เมื่อกี้กูเจอมันที่ตึกเศรษฐศาสตร์ จอดรถรอใครอยู่ไม่รู้ พวกกูจอดรถทักเห็นมันบอกว่ากำลังจะออกมาหาพวกมึง ป่านนี้ยังมาไม่ถึงอีก?” ไอ้ดิวพูดอย่างใส่อารมณ์ มองตาไอ้แบงค์นิดหน่อยเหมือนคนพูดยังไม่จบ พูดถึงเศรษศาสตร์ใจผมตอนนี้นึกถึงไอ้เหี้ยเจสนั่นแล้วไอ้โป้งเองก็จับตาผมอยู่ตลอด
“มึงพูดมาให้หมดดิว มีไรต่ออีก...” ผมทำหน้าแบบขู่ ๆ เห็นไอ้แบงค์พยักหน้าให้มันนิดหน่อยก่อนมันจะพูดออกมา
“ ข่าวใหม่!! ล่าสุดเลยมึง! รุ่นน้องกูบอกมาว่าไอ้คิมมันไปเฝ้าเด็กเศรษฐศาสตร์อยู่คนนึงบ่ายถึงเย็นถึงเลยนะเว้ย แถมไอ้ห่านั้นยังสวยด้วย เค้าว่ากันว่ามันสวยกว่าผู้หญิงซะอีก พวกสาววายกรี๊ดมันทั้งคณะเลยล่ะมึง”
ตูมม!!!!
ระเบิดลงกลางใจกูเลย
ผมมองไอ้โป้งเห็นมันจ้องผมใหญ่ บอกก่อนเลยนะครับว่าไอ้แบงค์กับไอ้ดิวนะมันบอกพวกผมแล้วว่ามันคบกันอยู่แล้วมันก็รู้ด้วยว่าผมกับไอ้โป้งคบกัน แต่ผมไม่ชัวร์ว่ามันจะรู้ความสัมพันธ์ของผมกับไอ้คิมไหม เพราะส่วนใหญ่ผมกับมันไม่ค่อยได้ใช้เวลาในมหาลัยด้วยกันบ่อยนัก ยกเว้นช่วงเย็นตั้งแต่ผมกลับมาเล่นบาสอีกมันจะชอบไปรอผมที่นั่นแล้วกลับด้วยกัน แต่นั่นก็หกโมงกว่าแล้ว ก่อนหน้านั้นผมก็ไม่รู้ว่ามันจะไปไหนมาบ้างเพราะเราเลิกภาคบ่ายกันช่วง 4 โมงเย็นต่างคนก็ต่างแยกย้ายให้อิสระกันเต็มที่ ผมบาส ไอ้โป้งฟุตบอล ไอ้คิมก็งานกิจกรรมต่าง ๆ ห่าไรของมันนั่นแหละ น้อยครั้งจริง ๆ ที่มันจะมาเล่นกีฬากับพวกผมบ้าง
ผมยกโทรศัพท์กดออกปลายสายทันที
คิม
....
< ฮัลโหลครับ > เสียงใครวะ! กูยิ่งนึกถึงไอ้สวยนั่นอยู่ เอาลงมาดูเบอร์อีกที โทรไม่ผิดนี่หว่า
<ฮัลโหลครับ > มันพูดลงมาอีก
“ขอสายคิม”
< พี่คิมไม่อยู่ตรงนี้ฮะ มีอะไรฝากไว้รึเปล่า >
“ แล้วมันอยู่ไหน ”
< พี่คิมลงไปซื้อของฮะ มีอะไรบอกผมไว้ก็ได้ > โหยไอ้ห่า กูเริ่มขึ้นแระ!
“มึงชื่อไร? สำคัญอะไรกับมันถึงขนาดกูฝากธุระกูไว้ได้” ผมลองหยั่งเชิงมันดู
< ................. > มันเงียบ
“ตอบดิ กูกำลังถามมึงอยู่”
< ........กูชื่อเจส ก็คงสำคัญถึงขนาดเค้ากล้าฝากมือถือไว้กับกู แล้วมึง ? คงไม่สำคัญสินะไม่งั้นเค้าคงไม่ลืมว่ามึงจะโทรมาหรอก หึหึ > โหย......ไอ้เหี้ย! มึงจริง ๆ ดูมึงตอบเข้า อารมณ์กูขึ้นแน่นอนแล้ว กัดฟันไว้แล้วตอนนี้ มือกูก็ชุ่มไปหมดแล้วด้วย
“.............” อะไรดลใจให้กูเงียบก็ไม่รู้ เหมือนกับกูอึ้ง พูดอะไรไม่ออก (กูเป็นนางเอกที่เถียงไม่ทันหรือนี่!!)
< เดี๋ยวกูบอก -แฟน- กูให้ว่ามึงโทรมา มึงชื่อโน่ใช่มะ? > มันยังพูดต่ออีก แต่เดี๋ยว!อะไร!!มันพูดว่าใครแฟนมันวะ ไอ้เหี้ยนี่!!
“....อืม...บอกมันละกันว่า -ผัว- มันโทรมา เล่นของเล่นเสร็จโทรหากูด้วย! ” ผมกระแทกเสียงลงไปอย่างนิ่งแล้วกดวางสายเลย อึ้ง!พูดไม่ออก เห็นไอ้โป้งมองหน้าผมอยู่ตลอด
“โน่! มึงพูดไรวะ ใครผัวมัน มันผัวใคร แล้วใครเป็นของเล่นใคร มึงพูดใหม่สิ” ไอ้ดิวครับอยู่ ๆ พูดขึ้น เห็นไอ้แบงค์ดันแว่นถอนหายใจเฮือกใหญ่ ส่วนไอ้โป้งจ้องผมนิ่งเลย ผมรู้ครับว่าทุกคนเป็นห่วง
“กูพูดไปงั้นแหละแกล้งมันให้มันเหวอเล่น พวกมึงอย่าสนใจเลย” ผมบอกปัด ๆ ไปตอนนี้เซ็งสุด ๆ แล้ว แต่ละคนก็เงียบกันไปหมด
“โป้ง กลับกันเถอะว่ะกูเบื่อแล้ว” ผมพูดแล้วลุกขึ้น ไม่มีอารมณ์ห่าไรแล้ว
“อ้าว! ไหนว่าวันนี้จะไปดูบาสนัดไอ้ด้าไว้ไม่ใช่เหรอ” ไอ้โป้งถาม
“เออ งั้นไปส่งกูที่สนาม ไปเว้ยพวกมึงแล้วเจอกัน” ผมหันไปบอกไอ้สองตัวที่เหลือโบกไม้โบกมือให้พอเป็นพิธี แล้วก็ออกไปกับไอ้โป้ง มันขับรถไปส่งผมที่สนามบาสอินดอร์ของคณะวิศวะฯครับ
“ไม่ต้องมารับ เดี๋ยวกูกลับเอง” ผมหันไปบอกมันพร้อมกับเปิดประตูกำลังจะลงรถ
“วันนี้ไอ้คิมมันต้องมารับมึง มึงอย่าหนีนะโน่คุยกับมันให้รู้เรื่อง” มันดึงแขนผมไว้เบา ๆ พูดหน้าเครียด
“อืม” ผมตอบส่ง ๆ ไป
เดินเข้ามาด้านในอาคารเห็นไอ้ด้ากำลังลงสนามอยู่ ผมนั่งเล่นรอมันเจอพวกรุ่นพี่บางคนเข้ามาทักก็คุยกันทั่ว ๆ ไปครับสักพักนึงไอ้ด้าเดินมานั่งลงข้าง ๆ เหงื่อเต็มตัวมีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดอยู่ที่คอ ในมือยกซดน้ำเปล่าขวดเล็กอยู่
“โน่ มาช้า ผมแข่งจนเสร็จแล้ว นี่ซ้อมให้รุ่นพี่เฉย ๆ หรอก” มันพูดขึ้น
“อืม ไม่ไปเล่นต่ออ่ะ”
“เสร็จแล้ว เล่นป่ะ ออกไปเล่นกันสนามนอก” มันชวน
“ไม่ว่ะ! แค่แวะมาเชียร์มึงหน่อย ถ้าเสร็จแล้วกูกลับเลยละกัน” กูยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ใครจะอยากเล่นห่าอะไรเล่า
“วันนี้ใครมารับ เฮียคิมหรือเฮียโป้ง”
“ไม่มี วันนี้กลับเอง”
“กลับยังไง เอารถมา?”
“ ........ว่าจะนั่งสองแถวกลับไม่ก็แท็กซี่ รถเยอะแยะไป ไปแล้วเว้ย ขี้เกียจคุยเจอกันวันหลัง” ผมบอกมันพร้อมเดินนำออกมา มันกระชับเป้ขึ้นสะพายบ่าแล้วเดินตามมาติด ๆ
“นั่งมอไซด์ได้มะ ? ” อยู่ ๆ มันก็ถามขึ้น ผมหันไปมองหน้ามันนิดหน่อยไม่ได้ตอบอะไรตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป
“มีแค่มอไซด์อ่ะ จะนั่งได้รึเปล่า ? ” มันเดินมาดักหน้าผมแล้วพูด
“........หึ ไปก็ไปดิวะ กูหิวข้าวแล้ว พูดมากมึงอ่ะ!” ผมผลักหัวมัน เห็นมันยิ้มให้นิดหน่อยแล้วเราก็เดินแข่งกันไปจนถึงรถมอไซด์คันใหญ่ของมัน
“ไม่มีหมวกกันน็อคนะ ใส่หมวกแค็ปผมละกัน” มันพูดพร้อมยื่นหมวกแค็ปดำมาให้ ผมรับมาสวมไว้กระโดดขึ้นคร่อมหลังเบาะทันที
มันพาผมนั่งมอไซด์ร่อนซะทั่วเลยเข้าซอยนั้นออกซอยนี้เพราะต้องหลบคุณตำรวจเนื่องจากมีหมวกกันน็อคแค่ใบเดียว จากอารมณ์ไม่ดีกลายเป็นอารมณ์ดีซะงั้น รถจอดลงที่หน้าร้านอาหารตามสั่งข้างทางแห่งหนึ่ง ผมก้าวลงมายืนบิดขี้เกียจอยู่หน้าร้าน
“กินที่นี่นะ ได้มะ?” มันจ้องหน้าถาม
“อะไรวะด้า มึงเห็นกูเป็นอะไร กูง่าย ๆ เว้ย ยังไงก็ได้ทั้งนั้นไม่ต้องเกรงใจให้มากนักหรอก” ผมพูดแล้วเดินนำเข้ามาด้านในหาที่นั่งเหมาะ เรานั่งตรงข้ามกัน
“ใส่หมวกแบบนี้น่ารักจังโน่เหมือนผู้หญิงเลย” อยู่ ๆ มันก็พูดขึ้นทำเอาผมตั้งตัวไม่ทันได้แต่ยกมือขึ้นลูบที่หมวกแก้เขิน
“ด้า มึงอย่าบ้า กูผู้ชายเว้ย! อย่ามาดูกูแค่หน้าตานะ”
“ฮะฮะ กินส้มตำมะ ไก่ย่าง หรือจะเอาต้มแซบ?” มันทั้งถามทั้งหัวเราะ
“เฮ้ย! ไม่เอา กินไม่เป็น กูสั่งข้าวผัดได้ปะ?”
“หึหึ โน่ตลกดี ข้าวผัดก็ข้าวผัด เดี๋ยวผมกินเป็นเพื่อน” มันจัดการสั่งข้าวผัดกุ้งมา 4 จาน มีส้มตำปูของมันด้วย ผมลองชิมดูอร่อยดีแต่ไม่ชอบ เราทานกันอย่างแซบเลย พออิ่มมันเดินไปจ่ายตังค์ ผมมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ 2 ทุ่มกว่าแล้ว
“กลับเลยไหม ให้ผมไปส่งที่ไหน” มันพูดพร้อมถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่ใส่อยู่ออก
“ที่..........” ผมบอกสถานที่ไป มันส่งแจ็คเก็ตตัวนั้นมาให้ผม
“ทำไม ให้กูถือ ?” ผมถามงง ๆ
“ใส่นะ ลมแรงเดี๋ยวขับออกเส้นนอกเมือง”
“อ้าว! แล้วมึง?”
“ผมไม่เป็นไรชินแล้ว โน่รีบใส่เร็ว” มันพูดพร้อมสตาร์ทเครื่อง ผมรีบสวมเสื้อเข้าไปแบบลวก ๆ แล้วขึ้นคร่อมเลยครับ มันขับรถไม่เร็วเท่าไหร่ สบาย ๆ อากาศเย็นขึ้นนิดหน่อย เราสองคนลัดเลาะออกตามซอยต่าง ๆ จนตัดออกถนนเส้นนอก รถไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่แล้ว
ผมเริ่มนึกถึงเรื่องของไอ้คิมขึ้นมาไม่อยากกลับถึงห้องเลยกลัวมันมารออยู่ ตอนนี้มันติดต่อผมไม่ได้เพราะผมปิดเครื่องไว้ กำลังคิดโน่นคิดนี่เพลิน ๆ ไอ้คนที่ขับอยู่ก็เอามือเอื้อมมาจับมือผมให้ไปกอดที่เอวมันพร้อมหันมามองแว็บนึง...
ผมตัดสินใจกอดเข้าไปทั้งสองมือเลยกำลังกลุ้มอยู่พอดี รู้สึกจังหวะรถช้าลงนิดหน่อย แต่ช่างมันเถอะผมไม่อยากคิดอะไรแล้ว สักพักรถจอดลงหน้าคอนโดผมครับ ผมก้าวลงมาถอดหมวกคืนให้มัน มันรับไว้แล้วใส่คืนให้ผมอีกครั้ง!
“พรุ่งนี้ค่อยเอาไปคืนที่สนามนะ” มันบอกทั้งที่ยังนั่งอยู่บนรถ
“ไปเว้ย! ขอบใจมาก” ผมบอกมันแล้วเดินเข้าไปด้านในกดลิฟต์ตรงขึ้นห้อง
..
คิม!!
มันนั่งรออยู่ที่หน้าประตูห้องหน้าเครียดสุด ๆ หันมองมาที่ผม
“โน่! มึงไปไหนมา กูโทรหาไม่ติดเลย” มันลุกขึ้นพูดหน้าตาร้อนลน ผมไขกุญแจเข้าห้อง ไม่ได้ตอบอะไร
พอเข้ามาข้างในผมจัดการถอดหมวกถอดเสื้อคลุมโยนกระเป๋าสะพายลงที่โซฟา กดรีโมทเปิดแอร์เปิดTV เดินไปหยิบกระป๋องเบียร์ในตู้เย็นออกมานั่งกิน ทำเหมือนไม่มีมันอยู่ในห้อง ไอ้คิมยืนอึ้งอยู่หน้าประตูมองผมหน้าเครียด เดินมาหยิบเสื้อกับหมวกที่ผมถอดไว้ขึ้นมาแล้วซัดลงที่เก้าอี้อย่างแรง! มองหน้าผมกัดฟันแน่น
ผมไม่สนใจนั่งดูTV ของผมต่อไป มันยืนนิ่งอยู่สักพัก คงรอให้ใจเย็นขึ้น จัดการล้วงอุปกรณ์ของใช้ต่าง ๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงเอามาวางไว้บนโต๊ะ พวกกระเป๋าตังค์ มือถือ พวงกุญแจ จากนั้นนั่งลงข้าง ๆ ผม
“ถ้างั้นวันนี้นอนนี่” มันพูดขึ้นพร้อมเอื้อมมือจะมากอดเอว ผมรีบลุกขึ้นทันที มันทำหน้างงสุดขีด
“มึงกลับไปเหอะ วันนี้กูจะนอนคนเดียว”
“เป็นไรอ่ะโน่ ไหนบอกกูซิ” มันเดินจะเข้ามากอดอีกผมรีบขยับตัวหนี
“ดึกแล้ว มึงกลับเหอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไอ้โป้งมารับกูเองมึงไม่ต้องมาอีก”
“...........” มันเงียบ ผมหันกลับมามองหน้ากัน
“กลับไปนะ วันหลังค่อยคุยกัน ให้กูใจเย็นกว่านี้ก่อน”
“.......เป็นไร บอกกูไม่ได้เหรอ”
“.........” ผมเงียบ ผมยังไม่อยากพูดตอนนี้ อยากรอให้ใจเย็น ๆ ก่อนอารมณ์ผมยังไม่เข้าที่ มันเดินเข้ามากอด ผมจะขยับหนีมันรีบกอดเอาไว้อย่างแน่น
“......” มีแต่เสียงลมหายใจดังอยู่ข้างหู กับมือที่รัดอยู่รอบเอว
“.......” ผมเงียบ ยืนนิ่งไม่มองหน้ามัน
“อย่าทำแบบนี้ มีอะไรถามกู กูรักมึง มึงรู้ใช่ไหม” มันพูดเสียงสั่น
“........”
“ถ้าเป็นเรื่องเจสไม่มีอะไรนะ เค้าเป็นแค่รุ่นน้อง” มันกอดผมแน่นขึ้นไปอีก แค่กูได้ยินชื่ออินี่กูก็ปรี๊ดขึ้นมาเลย
“ แต่มันชอบมึง มึงไม่รู้รึไง? ”
“........” มันถอนตัวออกมาจ้องหน้าผมนิ่ง
“........” ผมไม่พูดไม่อยากมองหน้ามัน
“ถ้ามึงแคร์ทุกคนที่เข้ามาชอบกูมึงจะไม่สบายใจนะ ทำไมไม่เชื่อใจกู กูมันเชื่อใจไม่ได้เลยรึไง” คราวนี้มันพูดหน้าเครียดเลย จ้องตาผมนิ่งเหมือนจะล้วงลึกหาคำตอบ
“ช่วงนี้มึงไปรับไปส่งมันทุกวันใช่ไหม?” ผมถามขึ้น
“........” มันนิ่งไม่ตอบ
“คิม! ตอบกูมา”
“เฉพาะวันที่ต้องทำงานด้วยกัน”
“แล้วมึงทำงานร่วมกับมันอาทิตย์ละกี่วัน” ผมจ้องมันถามย้ำลงไปอีก
“..........” มันเงียบ เสหน้าไปอีกทาง
“ ทำไมมึงไม่ตอบ”
“ 4 วัน จันทร์ – พฤหัส”
“ มึงไปรับมันหลังเรียนเสร็จ แล้วก็ไปส่งมันก่อนมารับกูที่สนามบาสใช่ไหม” เอากับกูสิ! ตอนนี้กูของขึ้นเต็มที่แล้ว
“......ใช่”
หึ! มึงตอบออกมาได้ เจ็บปวดฉิบหาย
“วันนี้กูโทรไปหามึง ไอ้เจสนั่นมันเป็นคนรับสาย มึงออกไปไหนกับมันมา?” กูจะถามในสิ่งที่กูอยากรู้ให้หมดเลย ดูซิมึงจะตอบว่ายังไง
“พาเค้าไปเอาของ.....ที่ห้อง............ห้องน้องเค้า”
“มึงขึ้นห้องมันแล้ว?”
“........โน่ ไปกันใหญ่แล้ว” มันรีบเดินเข้ามาใกล้ คราวนี้ผมถอยห่างมาหน้าทีวีทันที มันรีบเดินตามมา ผมก็เลี่ยงไปอีกทาง
“แล้วมึงใช้รถคันไหนไปรับมัน รถมึงใช่ไหม” ผมเน้นเสียงเท่าที่จะทำได้เลย
“...โน่”
“คำถามสุดท้าย ของมึง” กูเดือดสุด ๆ แล้ว
“ วันนี้มึงจะนอนที่นี่ใช่ไหม ? ”
“ใช่”
“ถ้างั้นกูจะไปนอนที่อื่น เชิญมึงนอนไปตามสบายเลย” พูดจบผมเดินไปหยิบกระเป๋าที่วางไว้ทันที มันรีบเดินเข้ามาดึงแขนผมไว้แน่น
“โน่! กูตอบในสิ่งที่มึงถามทุกอย่างไม่ได้โกหกเลย แล้วทำไม....”
ครืดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดด
โทรศัพท์มันที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นขึ้น ผมกับมันหันไปดูพร้อมกัน รูปคู่มันกับอีเจสโชว์หราอยู่หน้าจอ รอการรับสาย
ผมมองหน้ามัน....
มันมองหน้าผม....
ด้วยแววตาคนละความหมาย!!
รับสิ! ผมคิดในใจ มึงรับสิ! ถ้ามึงรับนะ มึงจะรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น!!
มันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
กดรับ.........มันกำลังคุยกัน....
ผมมองหน้ามันนิ่ง......มันจับแขนผมไว้อย่างแน่น!
คำพูดสุดท้ายที่มันพูดกรอกลงไปก่อนวางสายคือ “กี่โมงครับ”
ผมไม่รู้ว่าไอ้เหี้ยนั่นมันตอบกลับมาว่ากี่โมง ตอนนี้ตื้อไปหมดทั้งเหนื่อยทั้งง่วง ผมตั้งสติได้ถอนหายใจ 1 เฮือกใหญ่แล้วพูดออกไป
“คิม หยิบน้ำในตู้เย็นให้กูหน่อยกูหิวน้ำ” มันทำหน้างง ๆ วางโทรศัพท์ไว้แล้วเดินไปที่ครัว
เพล้ง!!!!!
แตกกระจายคนละทิศละทาง! มือถือมันถูกผมจับฟาดใส่ผนังสุดแรงเท่าที่จะฟาดได้
ผมไม่รู้มันทำหน้ายังไงเพราะไม่ได้หันไปมองรีบออกจากห้องให้เร็วที่สุด หลบชิดเข้าไปในมุมข้างลิฟต์ ได้ยินเสียงปิดประตูดังโครม! ตามมาติด ๆ มันวิ่งลงไปที่บันได ผมรีบวิ่งไปกดลิฟต์ มองลงไปที่บันไดเห็นมันกำลังวิ่งย้อนขึ้นมา ลิฟต์เปิดออกผมรีบก้าวเข้าไปทันทีกดเรียกชั้น 1
แน่นอนครับผมถึงก่อนอยู่แล้ว พอลงมาผมรีบเดินออกมามองหาแท็กซี่ ต้องไปจากที่นี่คิดอย่างเดียวเท่านั้น ออกไปให้เร็วที่สุด
ด้า!! ผมเห็นไอ้ด้า มันยังจอดรถอยู่ที่เดิม..ตั้งแต่ส่งผมเมื่อกี้ ผมวิ่งเข้าไปหามัน
“ด้า!” ผมเรียก
“โน่!” มันตกใจหันมามองผมอย่างอึ้งเลย หันกลับไปมองด้านหลัง ไอ้คิมออกมาแล้ว ผมรีบเอาหมวกกันน็อคที่แขวนอยู่สวมให้มัน กระโดดขึ้นนั่งคร่อมเบาะหลังบอกมันให้สตาร์ทรถออกไปทันที ลองหันกลับไป ไอ้คิมยืนมองพวกผมอยู่ไกล ๆ รถขับออกห่างมาเรื่อย ๆ จนไม่เห็นตัวมัน...
ผมสวมกอดคนขับไว้แน่นพิงตัวลงซบที่แผ่นหลังกว้างนั้น น้ำตาไหลลงมาทั้งสอง กระชับมือกอดมันแน่นขึ้นเมื่อรู้สึกว่าไม่ได้ดั่งใจไปทุกอย่างทั้งโกรธทั้งโมโห ผมไม่รู้อารมณ์ตอนนี้เรียกว่าอะไร รู้แต่ว่าเสียใจมากขัดใจแบบสุด ๆ
ดึกมากแล้วรถขับไปเรื่อย ๆ ผมเกาะหลังคนขับไว้แน่น ร้องไห้จนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถหยุดแล้วจอดลง มันจับมือที่ผมกอดเอวมันไว้แน่น คงกลัวผมตก
“โน่....หลับไปตั้งนาน ให้ผมไปส่งที่ไหน?”
“ที่ ..........” ผมบอกชื่อคอนโดไอ้โป้งไป มันมองหน้าผมแล้วขับรถออกไปทันทีจนสักพักใหญ่ ๆ รถหยุดลงที่หน้าคอนโดไอ้โป้ง ผมลงจากรถกำลังจะเดินเข้าไป นึกบางอย่างขึ้นมาได้เลยหันกลับมาถามมัน
“ด้า! เมื่อกี้มึงทำไมยังอยู่ที่นั่น ทำไมยังไม่กลับห้อง”
“............” มันไม่ตอบ จ้องหน้าผมนิ่ง
“มึงกลับมาใหม่ ? มีธุระอะไรรึเปล่า ?”
“ผมไม่ได้กลับมาใหม่ แต่ยังไม่ได้ไปไหนเลยต่างหาก” มันหลบตาพูด
“ ทำไม ? มึงคอยอะไร ? ” ผมถามด้วยความสงสัย
“.........” มันเงียบไม่ยอมตอบ ผมไม่อยากถามอะไรมากกลัวว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวของมันเลยรีบตัดบท
“งั้น กูเข้าไปก่อน ขอบใจเว้ยที่มาส่ง แล้วก็กลับได้แล้วด้วยดึกแล้ว เจอกันพรุ่งนี้” ผมตบไหล่มันเบา ๆ เป็นเชิงขอบใจ
“โน่! ......เมื่อกี้ผมรอส่งโน่เข้านอน กะว่าถ้าปิดไฟเมื่อไหร่ก็จะกลับเลย ผม...ตอบแบบนี้โน่จะโกรธรึเปล่า” มันมองผมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ผมเริ่มเข้าใจความหมายนั้น...
“....หึหึ มึงนี่เสี่ยวจริง ๆ ว่ะด้า กูจะโกรธมึงทำไมล่ะ กูรู้สิว่ามึงคิดอะไร! บอกไว้ก่อน ให้ได้มากสุดแค่นี้แหละ ทำใจละกันมึงอ่ะ! ไปโว้ย!! เจอกันพรุ่งนี้” พูดจบผมเดินออกจากตรงนั้นเลยครับ ได้ยินแต่เสียงตะโกนตามหลังมาไกล ๆ
“ขอบคุณนะโน่ แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว!” ผมหันไปยิ้มให้มัน ยกมือขึ้นเป็นเชิงขอบใจที่มันเข้าใจผม กำลังจะเดินผ่านประตูทางเข้า
รถไอ้คิมจอดเข้าซองอยู่ข้าง ๆ รถไอ้โป้งตรงประตูหน้าทางเข้าคอนโดพอดี!
“เอามาเลยโน่ มึงขี้โกงนี่หว่า” ไอ้โป้งโวยวายใส่ผมในขณะที่มือมันพยายามไขว่คว้าสิ่งที่ผมถือไว้เต็มที่
“ไรอ่ะ! อยากได้คืนมึงต้องพูดออกมาให้หมด” ผมแกล้งยึดโทรศัพท์มันไว้ครับ หลังจากได้ยินไอ้แบงค์กับไอ้ดิวมาฟ้องผมว่ามันพาน้องเอมมี่ ดาวมหาลัยคู่กรณีเก่าไปดูมันซ้อมบอลถึงขอบสนาม
“โน่ครับ เอามาเร็ว เอาคืนมา” มันยังพูดทำหน้างอน ๆ ปากแม่งเชิดอย่างหน้าจูบเลย
“เดี๋ยวกูดูก่อน มีอะไรนักหนาอยู่ในนี้” ผมพูดพร้อมแกล้งกดมือถือมันดู
“อื้อหือ โป้ง!” ผมแกล้งทำท่าตกใจล้อมัน จริง ๆ แล้วผมยังไม่ได้ปลดล็อคเข้าไปด้วยซ้ำ
“ไม่มีไร ก็....กูถ่ายไว้ตอนมึงเผลอ กูไม่ได้ตั้งใจ กูขอโทษ” มันพูดหน้าแดงหูแดง เฮ้ย ๆ ๆ เมื่อกี้มันพูดอะไรรูปอะไร คราวนี้ผมรีบปลดล็อคเข้าไปดูจริง ๆ แล้ว ลุกขึ้นยืนแล้วถอยห่างออกจากโต๊ะ
“เฮ้ย!! โน่มึงถอยมาทำไม!!” เสียงไอ้ดิวโวยวายขึ้นด้านหลัง มันกับไอ้แบงค์กำลังเดินเข้ามาหาพวกผมที่นั่งคุยกันอยู่ก่อนแล้ว ผมยืนก้มหน้าก้มตาเสิร์ชหาไม่ได้ตอบอะไรมัน
“ห่า! รูปมึงน่ารักว่ะโน่ ไรเนี่ย! แม่งตรึม!!” ยังเป็นไอ้ดิวที่พูดต่อมันยืนซ้อนอยู่ด้านหลังผมกำลังดูรูปที่อยู่ในโทรศัพท์ไอ้โป้ง
“เชี่ยโป้งแม่งโรแมนติกสัด” เสียงไอ้แบงค์พึมพำเบา ๆ อยู่ข้าง ๆ ผม
ผมพูดอะไรไม่ออก รู้สึกว่าหน้าเริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ รูปผมเป็นร้อย ๆ รูปถูกจัดเก็บอย่างดีไว้ในโฟล์เดอร์ส่วนตัวในมือถือเครื่องนี้ ส่วนใหญ่เป็นรูปตอนอยู่ด้วยกันในเวลากลางคืนโดยเฉพาะตอนผมนอนหลับ มันแอบมาถ่ายไว้ตอนไหนผมไม่รู้เรื่องเลย...
“แบงค์มึงหัดดูไอ้โป้งไว้เป็นตัวอย่างบ้าง มึงอ่ะไม่เคยหรอก” ไอ้ดิวผลักหัวไอ้แบงค์อย่างแรงจนแว่นของไอ้คนถูกผลักเกือบจะหล่น
“อ่ะ” ผมส่งโทรศัพท์คืนให้ไอ้โป้งแล้วนั่งลง มันหน้าแดงไม่พูดอะไรเลยโดนไอ้แบงค์ศอกข้างหยอกเบา ๆ
“พวกมึงแม่งน่าอิจฉาว่ะ แต่ว่า ไอ้ห่าโป้ง วันนั้นกูเห็นมึงกับน้องเอมมี่นั่งคุยกันอยู่ที่สนามบอลจริงนะเว้ย มึง เล่ามาให้หมด” ไอ้ดิวพูดแล้วยักคิ้วให้ผมหนึ่งที
“ไม่ได้พาไป...น้องเค้าไปเชียร์เอง กูเห็นเลยเข้าไปทักแล้วก็เลยนั่งคุยนิดหน่อย”
“แล้วทำไมเด็ก ๆ กูที่นิเทศน์มันบอกว่าน้องเอมมี่เค้าบอกว่าเค้าคบกับมึงอยู่” ผมจ้องมันเต็มที่ดูสิว่าจะตอบว่ายังไงไอ้ดิวถามได้ดีมากเป็นหูเป็นตาแทนผมอีกด้วย ไอ้นี่มันกว้างขวางครับเด็กกิจกรรมรู้จักคนเยอะมาก
“คบเหี้ยมึงดิ! กูมีไอ้โน่อยู่ทั้งคนแล้วคนอื่นกูเลิกหมดแล้วเว้ยไม่สนใจหรอก” โหยไอ้โป้ง...วันนี้พูดดีชิบหายพรุ่งนี้กูไปค้างกับมึงเดี๋ยวจัดรางวัลให้ชุดใหญ่เลย ผมคิดในใจยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับคำพูดมัน มันเองพูดแล้วก็หูแดงไปหมด
“อ๊วกกกกกกกกกก!!!” ไอ้ดิวแกล้งเยาะพวกผม
“เฮ้ย! เดี๋ยว ๆ !!” อยู่ ๆ ไอ้แบงค์พูดขึ้นหน้าตาตื่น ผม ไอ้ดิว ไอ้โป้งมองมันทันที
“ไอ้คิมอ่ะ! มันยังมาไม่ถึง ?” มันพูดต่อ ผมกับไอ้โป้งมองหน้ากันเลิ่กลั่ก
“เอ่อใช่เชี่ยแบงค์ กูลืมไปเลย” ไอ้ดิวพูดหน้าตื่นขึ้นอีกคน
“มาไรวะ มันไปพบอาจารย์ที่ตึก L โน่น ประชุมห่าไรของมันไม่รู้มีแม่งทุกวันแหละ” ผมพูดขึ้นอย่างเซ็ง ๆ
“ประชุมเหี้ยมึงดิ! เมื่อกี้กูเจอมันที่ตึกเศรษฐศาสตร์ จอดรถรอใครอยู่ไม่รู้ พวกกูจอดรถทักเห็นมันบอกว่ากำลังจะออกมาหาพวกมึง ป่านนี้ยังมาไม่ถึงอีก?” ไอ้ดิวพูดอย่างใส่อารมณ์ มองตาไอ้แบงค์นิดหน่อยเหมือนคนพูดยังไม่จบ พูดถึงเศรษศาสตร์ใจผมตอนนี้นึกถึงไอ้เหี้ยเจสนั่นแล้วไอ้โป้งเองก็จับตาผมอยู่ตลอด
“มึงพูดมาให้หมดดิว มีไรต่ออีก...” ผมทำหน้าแบบขู่ ๆ เห็นไอ้แบงค์พยักหน้าให้มันนิดหน่อยก่อนมันจะพูดออกมา
“ ข่าวใหม่!! ล่าสุดเลยมึง! รุ่นน้องกูบอกมาว่าไอ้คิมมันไปเฝ้าเด็กเศรษฐศาสตร์อยู่คนนึงบ่ายถึงเย็นถึงเลยนะเว้ย แถมไอ้ห่านั้นยังสวยด้วย เค้าว่ากันว่ามันสวยกว่าผู้หญิงซะอีก พวกสาววายกรี๊ดมันทั้งคณะเลยล่ะมึง”
ตูมม!!!!
ระเบิดลงกลางใจกูเลย
ผมมองไอ้โป้งเห็นมันจ้องผมใหญ่ บอกก่อนเลยนะครับว่าไอ้แบงค์กับไอ้ดิวนะมันบอกพวกผมแล้วว่ามันคบกันอยู่แล้วมันก็รู้ด้วยว่าผมกับไอ้โป้งคบกัน แต่ผมไม่ชัวร์ว่ามันจะรู้ความสัมพันธ์ของผมกับไอ้คิมไหม เพราะส่วนใหญ่ผมกับมันไม่ค่อยได้ใช้เวลาในมหาลัยด้วยกันบ่อยนัก ยกเว้นช่วงเย็นตั้งแต่ผมกลับมาเล่นบาสอีกมันจะชอบไปรอผมที่นั่นแล้วกลับด้วยกัน แต่นั่นก็หกโมงกว่าแล้ว ก่อนหน้านั้นผมก็ไม่รู้ว่ามันจะไปไหนมาบ้างเพราะเราเลิกภาคบ่ายกันช่วง 4 โมงเย็นต่างคนก็ต่างแยกย้ายให้อิสระกันเต็มที่ ผมบาส ไอ้โป้งฟุตบอล ไอ้คิมก็งานกิจกรรมต่าง ๆ ห่าไรของมันนั่นแหละ น้อยครั้งจริง ๆ ที่มันจะมาเล่นกีฬากับพวกผมบ้าง
ผมยกโทรศัพท์กดออกปลายสายทันที
คิม
....
< ฮัลโหลครับ > เสียงใครวะ! กูยิ่งนึกถึงไอ้สวยนั่นอยู่ เอาลงมาดูเบอร์อีกที โทรไม่ผิดนี่หว่า
<ฮัลโหลครับ > มันพูดลงมาอีก
“ขอสายคิม”
< พี่คิมไม่อยู่ตรงนี้ฮะ มีอะไรฝากไว้รึเปล่า >
“ แล้วมันอยู่ไหน ”
< พี่คิมลงไปซื้อของฮะ มีอะไรบอกผมไว้ก็ได้ > โหยไอ้ห่า กูเริ่มขึ้นแระ!
“มึงชื่อไร? สำคัญอะไรกับมันถึงขนาดกูฝากธุระกูไว้ได้” ผมลองหยั่งเชิงมันดู
< ................. > มันเงียบ
“ตอบดิ กูกำลังถามมึงอยู่”
< ........กูชื่อเจส ก็คงสำคัญถึงขนาดเค้ากล้าฝากมือถือไว้กับกู แล้วมึง ? คงไม่สำคัญสินะไม่งั้นเค้าคงไม่ลืมว่ามึงจะโทรมาหรอก หึหึ > โหย......ไอ้เหี้ย! มึงจริง ๆ ดูมึงตอบเข้า อารมณ์กูขึ้นแน่นอนแล้ว กัดฟันไว้แล้วตอนนี้ มือกูก็ชุ่มไปหมดแล้วด้วย
“.............” อะไรดลใจให้กูเงียบก็ไม่รู้ เหมือนกับกูอึ้ง พูดอะไรไม่ออก (กูเป็นนางเอกที่เถียงไม่ทันหรือนี่!!)
< เดี๋ยวกูบอก -แฟน- กูให้ว่ามึงโทรมา มึงชื่อโน่ใช่มะ? > มันยังพูดต่ออีก แต่เดี๋ยว!อะไร!!มันพูดว่าใครแฟนมันวะ ไอ้เหี้ยนี่!!
“....อืม...บอกมันละกันว่า -ผัว- มันโทรมา เล่นของเล่นเสร็จโทรหากูด้วย! ” ผมกระแทกเสียงลงไปอย่างนิ่งแล้วกดวางสายเลย อึ้ง!พูดไม่ออก เห็นไอ้โป้งมองหน้าผมอยู่ตลอด
“โน่! มึงพูดไรวะ ใครผัวมัน มันผัวใคร แล้วใครเป็นของเล่นใคร มึงพูดใหม่สิ” ไอ้ดิวครับอยู่ ๆ พูดขึ้น เห็นไอ้แบงค์ดันแว่นถอนหายใจเฮือกใหญ่ ส่วนไอ้โป้งจ้องผมนิ่งเลย ผมรู้ครับว่าทุกคนเป็นห่วง
“กูพูดไปงั้นแหละแกล้งมันให้มันเหวอเล่น พวกมึงอย่าสนใจเลย” ผมบอกปัด ๆ ไปตอนนี้เซ็งสุด ๆ แล้ว แต่ละคนก็เงียบกันไปหมด
“โป้ง กลับกันเถอะว่ะกูเบื่อแล้ว” ผมพูดแล้วลุกขึ้น ไม่มีอารมณ์ห่าไรแล้ว
“อ้าว! ไหนว่าวันนี้จะไปดูบาสนัดไอ้ด้าไว้ไม่ใช่เหรอ” ไอ้โป้งถาม
“เออ งั้นไปส่งกูที่สนาม ไปเว้ยพวกมึงแล้วเจอกัน” ผมหันไปบอกไอ้สองตัวที่เหลือโบกไม้โบกมือให้พอเป็นพิธี แล้วก็ออกไปกับไอ้โป้ง มันขับรถไปส่งผมที่สนามบาสอินดอร์ของคณะวิศวะฯครับ
“ไม่ต้องมารับ เดี๋ยวกูกลับเอง” ผมหันไปบอกมันพร้อมกับเปิดประตูกำลังจะลงรถ
“วันนี้ไอ้คิมมันต้องมารับมึง มึงอย่าหนีนะโน่คุยกับมันให้รู้เรื่อง” มันดึงแขนผมไว้เบา ๆ พูดหน้าเครียด
“อืม” ผมตอบส่ง ๆ ไป
เดินเข้ามาด้านในอาคารเห็นไอ้ด้ากำลังลงสนามอยู่ ผมนั่งเล่นรอมันเจอพวกรุ่นพี่บางคนเข้ามาทักก็คุยกันทั่ว ๆ ไปครับสักพักนึงไอ้ด้าเดินมานั่งลงข้าง ๆ เหงื่อเต็มตัวมีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดอยู่ที่คอ ในมือยกซดน้ำเปล่าขวดเล็กอยู่
“โน่ มาช้า ผมแข่งจนเสร็จแล้ว นี่ซ้อมให้รุ่นพี่เฉย ๆ หรอก” มันพูดขึ้น
“อืม ไม่ไปเล่นต่ออ่ะ”
“เสร็จแล้ว เล่นป่ะ ออกไปเล่นกันสนามนอก” มันชวน
“ไม่ว่ะ! แค่แวะมาเชียร์มึงหน่อย ถ้าเสร็จแล้วกูกลับเลยละกัน” กูยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ใครจะอยากเล่นห่าอะไรเล่า
“วันนี้ใครมารับ เฮียคิมหรือเฮียโป้ง”
“ไม่มี วันนี้กลับเอง”
“กลับยังไง เอารถมา?”
“ ........ว่าจะนั่งสองแถวกลับไม่ก็แท็กซี่ รถเยอะแยะไป ไปแล้วเว้ย ขี้เกียจคุยเจอกันวันหลัง” ผมบอกมันพร้อมเดินนำออกมา มันกระชับเป้ขึ้นสะพายบ่าแล้วเดินตามมาติด ๆ
“นั่งมอไซด์ได้มะ ? ” อยู่ ๆ มันก็ถามขึ้น ผมหันไปมองหน้ามันนิดหน่อยไม่ได้ตอบอะไรตั้งหน้าตั้งตาเดินต่อไป
“มีแค่มอไซด์อ่ะ จะนั่งได้รึเปล่า ? ” มันเดินมาดักหน้าผมแล้วพูด
“........หึ ไปก็ไปดิวะ กูหิวข้าวแล้ว พูดมากมึงอ่ะ!” ผมผลักหัวมัน เห็นมันยิ้มให้นิดหน่อยแล้วเราก็เดินแข่งกันไปจนถึงรถมอไซด์คันใหญ่ของมัน
“ไม่มีหมวกกันน็อคนะ ใส่หมวกแค็ปผมละกัน” มันพูดพร้อมยื่นหมวกแค็ปดำมาให้ ผมรับมาสวมไว้กระโดดขึ้นคร่อมหลังเบาะทันที
มันพาผมนั่งมอไซด์ร่อนซะทั่วเลยเข้าซอยนั้นออกซอยนี้เพราะต้องหลบคุณตำรวจเนื่องจากมีหมวกกันน็อคแค่ใบเดียว จากอารมณ์ไม่ดีกลายเป็นอารมณ์ดีซะงั้น รถจอดลงที่หน้าร้านอาหารตามสั่งข้างทางแห่งหนึ่ง ผมก้าวลงมายืนบิดขี้เกียจอยู่หน้าร้าน
“กินที่นี่นะ ได้มะ?” มันจ้องหน้าถาม
“อะไรวะด้า มึงเห็นกูเป็นอะไร กูง่าย ๆ เว้ย ยังไงก็ได้ทั้งนั้นไม่ต้องเกรงใจให้มากนักหรอก” ผมพูดแล้วเดินนำเข้ามาด้านในหาที่นั่งเหมาะ เรานั่งตรงข้ามกัน
“ใส่หมวกแบบนี้น่ารักจังโน่เหมือนผู้หญิงเลย” อยู่ ๆ มันก็พูดขึ้นทำเอาผมตั้งตัวไม่ทันได้แต่ยกมือขึ้นลูบที่หมวกแก้เขิน
“ด้า มึงอย่าบ้า กูผู้ชายเว้ย! อย่ามาดูกูแค่หน้าตานะ”
“ฮะฮะ กินส้มตำมะ ไก่ย่าง หรือจะเอาต้มแซบ?” มันทั้งถามทั้งหัวเราะ
“เฮ้ย! ไม่เอา กินไม่เป็น กูสั่งข้าวผัดได้ปะ?”
“หึหึ โน่ตลกดี ข้าวผัดก็ข้าวผัด เดี๋ยวผมกินเป็นเพื่อน” มันจัดการสั่งข้าวผัดกุ้งมา 4 จาน มีส้มตำปูของมันด้วย ผมลองชิมดูอร่อยดีแต่ไม่ชอบ เราทานกันอย่างแซบเลย พออิ่มมันเดินไปจ่ายตังค์ ผมมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ 2 ทุ่มกว่าแล้ว
“กลับเลยไหม ให้ผมไปส่งที่ไหน” มันพูดพร้อมถอดเสื้อแจ็คเก็ตที่ใส่อยู่ออก
“ที่..........” ผมบอกสถานที่ไป มันส่งแจ็คเก็ตตัวนั้นมาให้ผม
“ทำไม ให้กูถือ ?” ผมถามงง ๆ
“ใส่นะ ลมแรงเดี๋ยวขับออกเส้นนอกเมือง”
“อ้าว! แล้วมึง?”
“ผมไม่เป็นไรชินแล้ว โน่รีบใส่เร็ว” มันพูดพร้อมสตาร์ทเครื่อง ผมรีบสวมเสื้อเข้าไปแบบลวก ๆ แล้วขึ้นคร่อมเลยครับ มันขับรถไม่เร็วเท่าไหร่ สบาย ๆ อากาศเย็นขึ้นนิดหน่อย เราสองคนลัดเลาะออกตามซอยต่าง ๆ จนตัดออกถนนเส้นนอก รถไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่แล้ว
ผมเริ่มนึกถึงเรื่องของไอ้คิมขึ้นมาไม่อยากกลับถึงห้องเลยกลัวมันมารออยู่ ตอนนี้มันติดต่อผมไม่ได้เพราะผมปิดเครื่องไว้ กำลังคิดโน่นคิดนี่เพลิน ๆ ไอ้คนที่ขับอยู่ก็เอามือเอื้อมมาจับมือผมให้ไปกอดที่เอวมันพร้อมหันมามองแว็บนึง...
ผมตัดสินใจกอดเข้าไปทั้งสองมือเลยกำลังกลุ้มอยู่พอดี รู้สึกจังหวะรถช้าลงนิดหน่อย แต่ช่างมันเถอะผมไม่อยากคิดอะไรแล้ว สักพักรถจอดลงหน้าคอนโดผมครับ ผมก้าวลงมาถอดหมวกคืนให้มัน มันรับไว้แล้วใส่คืนให้ผมอีกครั้ง!
“พรุ่งนี้ค่อยเอาไปคืนที่สนามนะ” มันบอกทั้งที่ยังนั่งอยู่บนรถ
“ไปเว้ย! ขอบใจมาก” ผมบอกมันแล้วเดินเข้าไปด้านในกดลิฟต์ตรงขึ้นห้อง
..
คิม!!
มันนั่งรออยู่ที่หน้าประตูห้องหน้าเครียดสุด ๆ หันมองมาที่ผม
“โน่! มึงไปไหนมา กูโทรหาไม่ติดเลย” มันลุกขึ้นพูดหน้าตาร้อนลน ผมไขกุญแจเข้าห้อง ไม่ได้ตอบอะไร
พอเข้ามาข้างในผมจัดการถอดหมวกถอดเสื้อคลุมโยนกระเป๋าสะพายลงที่โซฟา กดรีโมทเปิดแอร์เปิดTV เดินไปหยิบกระป๋องเบียร์ในตู้เย็นออกมานั่งกิน ทำเหมือนไม่มีมันอยู่ในห้อง ไอ้คิมยืนอึ้งอยู่หน้าประตูมองผมหน้าเครียด เดินมาหยิบเสื้อกับหมวกที่ผมถอดไว้ขึ้นมาแล้วซัดลงที่เก้าอี้อย่างแรง! มองหน้าผมกัดฟันแน่น
ผมไม่สนใจนั่งดูTV ของผมต่อไป มันยืนนิ่งอยู่สักพัก คงรอให้ใจเย็นขึ้น จัดการล้วงอุปกรณ์ของใช้ต่าง ๆ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงเอามาวางไว้บนโต๊ะ พวกกระเป๋าตังค์ มือถือ พวงกุญแจ จากนั้นนั่งลงข้าง ๆ ผม
“ถ้างั้นวันนี้นอนนี่” มันพูดขึ้นพร้อมเอื้อมมือจะมากอดเอว ผมรีบลุกขึ้นทันที มันทำหน้างงสุดขีด
“มึงกลับไปเหอะ วันนี้กูจะนอนคนเดียว”
“เป็นไรอ่ะโน่ ไหนบอกกูซิ” มันเดินจะเข้ามากอดอีกผมรีบขยับตัวหนี
“ดึกแล้ว มึงกลับเหอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไอ้โป้งมารับกูเองมึงไม่ต้องมาอีก”
“...........” มันเงียบ ผมหันกลับมามองหน้ากัน
“กลับไปนะ วันหลังค่อยคุยกัน ให้กูใจเย็นกว่านี้ก่อน”
“.......เป็นไร บอกกูไม่ได้เหรอ”
“.........” ผมเงียบ ผมยังไม่อยากพูดตอนนี้ อยากรอให้ใจเย็น ๆ ก่อนอารมณ์ผมยังไม่เข้าที่ มันเดินเข้ามากอด ผมจะขยับหนีมันรีบกอดเอาไว้อย่างแน่น
“......” มีแต่เสียงลมหายใจดังอยู่ข้างหู กับมือที่รัดอยู่รอบเอว
“.......” ผมเงียบ ยืนนิ่งไม่มองหน้ามัน
“อย่าทำแบบนี้ มีอะไรถามกู กูรักมึง มึงรู้ใช่ไหม” มันพูดเสียงสั่น
“........”
“ถ้าเป็นเรื่องเจสไม่มีอะไรนะ เค้าเป็นแค่รุ่นน้อง” มันกอดผมแน่นขึ้นไปอีก แค่กูได้ยินชื่ออินี่กูก็ปรี๊ดขึ้นมาเลย
“ แต่มันชอบมึง มึงไม่รู้รึไง? ”
“........” มันถอนตัวออกมาจ้องหน้าผมนิ่ง
“........” ผมไม่พูดไม่อยากมองหน้ามัน
“ถ้ามึงแคร์ทุกคนที่เข้ามาชอบกูมึงจะไม่สบายใจนะ ทำไมไม่เชื่อใจกู กูมันเชื่อใจไม่ได้เลยรึไง” คราวนี้มันพูดหน้าเครียดเลย จ้องตาผมนิ่งเหมือนจะล้วงลึกหาคำตอบ
“ช่วงนี้มึงไปรับไปส่งมันทุกวันใช่ไหม?” ผมถามขึ้น
“........” มันนิ่งไม่ตอบ
“คิม! ตอบกูมา”
“เฉพาะวันที่ต้องทำงานด้วยกัน”
“แล้วมึงทำงานร่วมกับมันอาทิตย์ละกี่วัน” ผมจ้องมันถามย้ำลงไปอีก
“..........” มันเงียบ เสหน้าไปอีกทาง
“ ทำไมมึงไม่ตอบ”
“ 4 วัน จันทร์ – พฤหัส”
“ มึงไปรับมันหลังเรียนเสร็จ แล้วก็ไปส่งมันก่อนมารับกูที่สนามบาสใช่ไหม” เอากับกูสิ! ตอนนี้กูของขึ้นเต็มที่แล้ว
“......ใช่”
หึ! มึงตอบออกมาได้ เจ็บปวดฉิบหาย
“วันนี้กูโทรไปหามึง ไอ้เจสนั่นมันเป็นคนรับสาย มึงออกไปไหนกับมันมา?” กูจะถามในสิ่งที่กูอยากรู้ให้หมดเลย ดูซิมึงจะตอบว่ายังไง
“พาเค้าไปเอาของ.....ที่ห้อง............ห้องน้องเค้า”
“มึงขึ้นห้องมันแล้ว?”
“........โน่ ไปกันใหญ่แล้ว” มันรีบเดินเข้ามาใกล้ คราวนี้ผมถอยห่างมาหน้าทีวีทันที มันรีบเดินตามมา ผมก็เลี่ยงไปอีกทาง
“แล้วมึงใช้รถคันไหนไปรับมัน รถมึงใช่ไหม” ผมเน้นเสียงเท่าที่จะทำได้เลย
“...โน่”
“คำถามสุดท้าย ของมึง” กูเดือดสุด ๆ แล้ว
“ วันนี้มึงจะนอนที่นี่ใช่ไหม ? ”
“ใช่”
“ถ้างั้นกูจะไปนอนที่อื่น เชิญมึงนอนไปตามสบายเลย” พูดจบผมเดินไปหยิบกระเป๋าที่วางไว้ทันที มันรีบเดินเข้ามาดึงแขนผมไว้แน่น
“โน่! กูตอบในสิ่งที่มึงถามทุกอย่างไม่ได้โกหกเลย แล้วทำไม....”
ครืดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดด
โทรศัพท์มันที่วางอยู่บนโต๊ะสั่นขึ้น ผมกับมันหันไปดูพร้อมกัน รูปคู่มันกับอีเจสโชว์หราอยู่หน้าจอ รอการรับสาย
ผมมองหน้ามัน....
มันมองหน้าผม....
ด้วยแววตาคนละความหมาย!!
รับสิ! ผมคิดในใจ มึงรับสิ! ถ้ามึงรับนะ มึงจะรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น!!
มันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
กดรับ.........มันกำลังคุยกัน....
ผมมองหน้ามันนิ่ง......มันจับแขนผมไว้อย่างแน่น!
คำพูดสุดท้ายที่มันพูดกรอกลงไปก่อนวางสายคือ “กี่โมงครับ”
ผมไม่รู้ว่าไอ้เหี้ยนั่นมันตอบกลับมาว่ากี่โมง ตอนนี้ตื้อไปหมดทั้งเหนื่อยทั้งง่วง ผมตั้งสติได้ถอนหายใจ 1 เฮือกใหญ่แล้วพูดออกไป
“คิม หยิบน้ำในตู้เย็นให้กูหน่อยกูหิวน้ำ” มันทำหน้างง ๆ วางโทรศัพท์ไว้แล้วเดินไปที่ครัว
เพล้ง!!!!!
แตกกระจายคนละทิศละทาง! มือถือมันถูกผมจับฟาดใส่ผนังสุดแรงเท่าที่จะฟาดได้
ผมไม่รู้มันทำหน้ายังไงเพราะไม่ได้หันไปมองรีบออกจากห้องให้เร็วที่สุด หลบชิดเข้าไปในมุมข้างลิฟต์ ได้ยินเสียงปิดประตูดังโครม! ตามมาติด ๆ มันวิ่งลงไปที่บันได ผมรีบวิ่งไปกดลิฟต์ มองลงไปที่บันไดเห็นมันกำลังวิ่งย้อนขึ้นมา ลิฟต์เปิดออกผมรีบก้าวเข้าไปทันทีกดเรียกชั้น 1
แน่นอนครับผมถึงก่อนอยู่แล้ว พอลงมาผมรีบเดินออกมามองหาแท็กซี่ ต้องไปจากที่นี่คิดอย่างเดียวเท่านั้น ออกไปให้เร็วที่สุด
ด้า!! ผมเห็นไอ้ด้า มันยังจอดรถอยู่ที่เดิม..ตั้งแต่ส่งผมเมื่อกี้ ผมวิ่งเข้าไปหามัน
“ด้า!” ผมเรียก
“โน่!” มันตกใจหันมามองผมอย่างอึ้งเลย หันกลับไปมองด้านหลัง ไอ้คิมออกมาแล้ว ผมรีบเอาหมวกกันน็อคที่แขวนอยู่สวมให้มัน กระโดดขึ้นนั่งคร่อมเบาะหลังบอกมันให้สตาร์ทรถออกไปทันที ลองหันกลับไป ไอ้คิมยืนมองพวกผมอยู่ไกล ๆ รถขับออกห่างมาเรื่อย ๆ จนไม่เห็นตัวมัน...
ผมสวมกอดคนขับไว้แน่นพิงตัวลงซบที่แผ่นหลังกว้างนั้น น้ำตาไหลลงมาทั้งสอง กระชับมือกอดมันแน่นขึ้นเมื่อรู้สึกว่าไม่ได้ดั่งใจไปทุกอย่างทั้งโกรธทั้งโมโห ผมไม่รู้อารมณ์ตอนนี้เรียกว่าอะไร รู้แต่ว่าเสียใจมากขัดใจแบบสุด ๆ
ดึกมากแล้วรถขับไปเรื่อย ๆ ผมเกาะหลังคนขับไว้แน่น ร้องไห้จนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถหยุดแล้วจอดลง มันจับมือที่ผมกอดเอวมันไว้แน่น คงกลัวผมตก
“โน่....หลับไปตั้งนาน ให้ผมไปส่งที่ไหน?”
“ที่ ..........” ผมบอกชื่อคอนโดไอ้โป้งไป มันมองหน้าผมแล้วขับรถออกไปทันทีจนสักพักใหญ่ ๆ รถหยุดลงที่หน้าคอนโดไอ้โป้ง ผมลงจากรถกำลังจะเดินเข้าไป นึกบางอย่างขึ้นมาได้เลยหันกลับมาถามมัน
“ด้า! เมื่อกี้มึงทำไมยังอยู่ที่นั่น ทำไมยังไม่กลับห้อง”
“............” มันไม่ตอบ จ้องหน้าผมนิ่ง
“มึงกลับมาใหม่ ? มีธุระอะไรรึเปล่า ?”
“ผมไม่ได้กลับมาใหม่ แต่ยังไม่ได้ไปไหนเลยต่างหาก” มันหลบตาพูด
“ ทำไม ? มึงคอยอะไร ? ” ผมถามด้วยความสงสัย
“.........” มันเงียบไม่ยอมตอบ ผมไม่อยากถามอะไรมากกลัวว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวของมันเลยรีบตัดบท
“งั้น กูเข้าไปก่อน ขอบใจเว้ยที่มาส่ง แล้วก็กลับได้แล้วด้วยดึกแล้ว เจอกันพรุ่งนี้” ผมตบไหล่มันเบา ๆ เป็นเชิงขอบใจ
“โน่! ......เมื่อกี้ผมรอส่งโน่เข้านอน กะว่าถ้าปิดไฟเมื่อไหร่ก็จะกลับเลย ผม...ตอบแบบนี้โน่จะโกรธรึเปล่า” มันมองผมอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ผมเริ่มเข้าใจความหมายนั้น...
“....หึหึ มึงนี่เสี่ยวจริง ๆ ว่ะด้า กูจะโกรธมึงทำไมล่ะ กูรู้สิว่ามึงคิดอะไร! บอกไว้ก่อน ให้ได้มากสุดแค่นี้แหละ ทำใจละกันมึงอ่ะ! ไปโว้ย!! เจอกันพรุ่งนี้” พูดจบผมเดินออกจากตรงนั้นเลยครับ ได้ยินแต่เสียงตะโกนตามหลังมาไกล ๆ
“ขอบคุณนะโน่ แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว!” ผมหันไปยิ้มให้มัน ยกมือขึ้นเป็นเชิงขอบใจที่มันเข้าใจผม กำลังจะเดินผ่านประตูทางเข้า
รถไอ้คิมจอดเข้าซองอยู่ข้าง ๆ รถไอ้โป้งตรงประตูหน้าทางเข้าคอนโดพอดี!
“โน่ ! ทำไมเพิ่งถึง”
ทันทีที่ผมเปิดประตูเข้าไปไอ้คิมลุกขึ้นถามหน้าเครียด
“..........” ผมไม่ตอบอะไรกำลังจะเดินเลี่ยงเข้าด้านใน
หมับบบบบบ!!!! มันคว้าแขนผมเอาไว้อย่าแรงจนผมเซ
“ไปไหนมา ! มึงไปไหนกับไอ้เหี้ยนั่นมา บอกกูซิ!” มันตะคอกเสียงดังลั่น ผมสะบัดแขนออกทันที แสบผิวไปหมดกำจนแขนกูแดง ผมเดินเลี่ยงเข้าไปด้านในไอ้โป้งนั่งจ้องผมหน้าเครียด ผมไม่สนใจหยิบรีโมทขึ้นมากำลังจะกดเปลี่ยนช่อง
ตุบบบบ!!! รีโมทถูกแย่งไปฟาดลงบนโซฟา
“มึงไม่ต้องดู เคลียร์กับกูให้รู้เรื่องวันนี้เลย กลับไปด้วยกัน” มันกระชากแขนผมให้ลุกขึ้นจากโซฟา ผมผลักไหล่มันอย่างแรงมันจับแขนอีกข้างไว้แน่น
“กลับกับกู ไปเคลียร์ที่ห้อง” มันทั้งพูดทั้งลากทั้งดึง
“ไม่ไป! อย่ามายุ่งกับกู” ผมพยายามรั้งตัวไว้ เหลือบมองไปทางไอ้โป้ง
“โป้ง!” ผมเรียกมันเสียงสั่น ไอ้โป้งลุกขึ้นมาทันที
“คิม! พอเหอะว่ะ อย่าทำมันแบบนี้” ไอ้โป้งรีบเข้ามาห้าม ตอนนี้ผมเจ็บแขนไปหมดแล้ว มันลากผมไปเกือบถึงหน้าประตู
“โป้ง!” ผมเรียกไอ้โป้งดังลั่น “กูไม่ไปนะ กูจะอยู่กับมึง!” มันหยุดทันที บีบแขนผมไว้แน่นมองหน้าผมด้วยแววตาแข็งกร้าว
“มึงโกรธกูใช่ไหมโน่ ?” มันถามด้วยแววตาแดงก่ำ สองมือของมันเพิ่มน้ำหนักบีบขึ้นไปอีก
“กลับไปเคลียร์กับกูนะ อย่าหนีกูแบบนี้ อย่าหนีกูอีก กูกลัว...กลัวว่ามึงจะไม่กลับมาอีกเหมือนกับ....” มันพูดน้ำตาไหลสองตาแดงก่ำ ผมนึกขึ้นมาได้เรื่องแม่ของมันที่หนีมันไปตั้งแต่เด็ก
มันปล่อยแขนผมแล้วกอดเข้ามาทั้งตัว
“กลับกับกูนะ กลับไปคุยกันให้รู้เรื่อง” มันทั้งพูดทั้งสั่น
“..........”
“โน่ครับ...”
“คิม! ขอเวลากู...กูขอเวลาก่อน มึงไปเคลียร์เรื่องของมึงให้เรียบร้อยจนกว่าทุกอย่างจะลงตัวกูจะอยู่กับไอ้โป้ง แล้วมึง! ก็ไม่ต้องมารับมาส่งกูอีก....กูจะไม่นั่งรถมึงอีกต่อไปแล้ว”
“.........” มันเงียบ จ้องหน้าผมนิ่งสองมือคลายออกจากเอวผม แววตาแข็งขึ้นมาอีก
“โป้ง!” จู่ ๆ มันเรียกชื่อไอ้โป้งขึ้นมา
“มึงออกไปก่อนได้ไหม กูขอเคลียร์กับมันให้เรียบร้อย” มันพูดขึ้น ผมหันไปมองไอ้โป้งทันที ไอ้โป้งจ้องหน้าผมนิ่ง
“ขอร้องว่ะโป้ง! กูขอร้องมึง!” มันกัดฟันพูดมือไม้สั่นไปหมด
“ไม่ให้ไป!!” ผมตะโกนลั่น
“มึงนั่นแหละออกไปคิม! กลับไปคิดทบทวนสิ่งที่มึงทำดู มันใช่เรื่องที่ไหนที่มึงต้องไปรับไปส่งไอ้เหี้ยนั่นแบบนั้น” เอากับกูสิกูก็ขึ้นแล้วเหมือนกัน
“แล้วทีมึงล่ะ! ไอ้น้องเหี้ยมึงมารอรับมึงถึงข้างล่าง มึงขึ้นรถไปกับมันทิ้งให้กูยืนอยู่ข้างหลัง มันใช่เรื่องเหมือนกันรึเปล่า!!” มันตะคอกกลับอย่างแรง
“ไอ้ด้ามันเป็นน้องกู”
“เจสมันก็เป็นน้องกูเหมือนกัน”
“แต่มันบอกกูว่ามึงเป็นแฟนมัน” กูเน้นคำว่าแฟนลงไปอย่างแรง
“ไม่มีทาง! มันจะกล้าพูดแบบนั้นได้ยังไง มึงคิดมากไปเอง”
“...........” อึ้ง!! น้ำตากูแตกออกมาแล้วรีบหันไปมองอีกทาง
“....อึกก.....อึกก...ฮึกก..” ผมไม่ไหวแล้วครับ ไอ้โป้งรีบเดินมากอดผมไว้ใช้มือโอบหัวผมซุกลงที่ไหล่มันทันที
“มึงว่ากู.....ฮึกก...โกหกใช่ไหม” ผมถามมันทั้งน้ำตา
“........” มันไม่พูดหันหน้าไปทางอื่นสองมือกำแน่น
“มึง....ฮึกกก...คิดว่ากูโกหกมึง..ฮึกก..”
“กลับไปซะคิม!” ไอ้โป้งพูดขึ้น โอบมือกระชับศีรษะผมไว้แน่น
“........” มันนิ่ง เงียบ
“มึงทำมันเสียใจ มันร้องไห้มึงเห็นรึเปล่า!” คราวนี้ไอ้โป้งเสียงสั่นแล้ว
“.........” มันยังเงียบอยู่อีกกัดกรามไว้แน่นจนแก้มสั่น
“ให้มันใจเย็นกว่านี้ก่อนมึงค่อยเคลียร์กับมัน มึงกลับไปซะ ออกไปตอนนี้เลย” มันพูดจบพาผมเดินเข้าห้องทันที ผมนั่งลงร้องไห้อยู่ที่ปลายเตียงไอ้โป้งยืนลูบหัวผมเบา ๆ ผมกอดเอวมันเอาไว้แน่นซุกหน้าลงที่พุงอุ่น ๆ นั้น
“เดี๋ยวกูคุยกับมันเองมึงรออยู่ในนี้” มันพูดจบก็เดินออกไป ผมเหนื่อยครับน้อยใจที่สุด ล้มตัวลงนอนบนเตียงเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้รู้ตัวอีกทีไอ้โป้งเข้ามาปลุก มันอาบน้ำเปลี่ยนชุดเรียบร้อยนั่งลูบหัวผมอยู่ข้าง ๆ
“อาบน้ำนะ ดึกแล้ว” มันพูดเสียงเหนื่อย ๆ
“อืม” ผมลุกขึ้นตอบรับงัวเงีย เดินเข้าห้องน้ำมองดูตัวเองในกระจก ตาบวมไปหมดคงเพราะร้องไห้จนหลับ ก้มลงใช้น้ำล้างหน้าเบา ๆมองดูตัวเองในกระจกอีกที หยาดน้ำเกาะพราวทั่วใบหน้า ทำไมผมถึงอ่อนแอแบบนี้...พอคิดเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นก็รู้สึกปวดหัวตุบ ๆ เอามือเสยผมขึ้นอย่างลวก ๆ ตัดสินใจเดินเข้าไปอาบน้ำ...เปิดฝักบัวราดรดลงหัวหวังให้สายน้ำชำระล้างความขุ่นมัวในจิตใจออกไป......
พออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยผมเปิดประตูออกมา จมูกก็เตะกับกลิ่นเทียนหอมอ่อน ๆ บวกกับเสียงเพลงเบา ๆ ไฟในห้องถูกหรี่ลงแล้วมีแต่โคมไฟหัวเตียงเท่านั้นที่เปิด ไอ้โป้งนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่
หึ! มันนี่เป็นนักเปลี่ยนบรรยากาศตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ช่างต่างกับก่อนเข้าไปอาบน้ำจริง ๆ ผมสวมแต่บ็อคเซอร์ออกมามีผ้าขนหนูพาดคลุมไว้บนหัว มันมองผมอยู่
“เช็ดให้กูหน่อย” ผมนั่งลงบนเตียงแล้วบอกมัน มันวางหนังสือไว้ลุกขึ้นชันเข่าเช็ดหัวให้ผมอย่างเบามือ
“โป้ง”
“ว่าไง”
“มึงยังชอบผู้หญิงอยู่รึเปล่าวะ?” ผมถามออกไป มันชะงักมือเล็กน้อย
“ทำไมอ่ะ?”
“ตอบก่อนดิ กูอยากรู้”
“ก็ชอบ มองไปเรื่อยแหละ แล้วมึงอ่ะ?” คราวนี้มันหยุดมือแล้วเอียงตัวลงมามองหน้าผมเลย
“อืม กูก็ยังชอบอยู่ว่ะ ใครสวยกูมองหมดแหละ หึ ตลกว่ะโป้ง กูกลายเป็นเกย์ไปซะแระ..โอ๊ย!! เชี่ยโป้งมึงทำไรวะตบหัวกูทำไม” อยู่ ๆ มันก็ตบหัวผมอย่างแรงแถมยังหยุดเช็ดแล้วนั่งหน้างออีกต่างหาก
“เป็นไรอีกอ่ะ?” ผมถามมันงง ๆ
“ก็มึงบอกว่ามึงชอบผู้หญิง มึงพูดออกมาได้ไง” มันพูดงอน ๆ ไม่ยอมมองหน้าผม
“เอ๋า! ก็กูเป็นผู้ชาย ไม่ให้กูมองผู้หญิงให้กูมองใครล่ะวะ เออ..แล้วทีตัวเองก็ยังบอกกูเลยว่าชอบผู้หญิง ไรของมึงโป้ง” ผมหยิบผ้าขนหนูที่มันปล่อยวางไว้ขึ้นมาเช็ดผมต่อ
“กูอ่ะมองได้ แต่มึงห้ามมอง!”
“อ้าว! มึงพูดเห็นแก่ตัวนี่หว่า พูดไรของมึง” ผมพูดปัด ๆ ไม่สนใจมัน มันเอื้อมมือมากอดเอวผมไว้จากด้านหลังเกยคางลงบนไหล่
“ไม่ให้มองนะ ไม่ให้ชอบใครอีก แค่สองคนก็พอแล้วมากกว่านั้นกูรับไม่ได้นะ” มันพูดอ้อน ๆ แต่เหมือนสะกิดแผลในใจผมทันทีเมื่อพูดถึงบุคคลที่ 3 อย่างไอ้คิม
“.....โป้ง เล่นกีตาร์ให้กูฟังหน่อยดิ.....เอาแบบ..เพลงที่มึงชอบเล่นให้กูฟังน่ะ” ผมล้มตัวลงนอนบนตักมัน มันเกลี่ยเส้นผมผมเล่นเบา ๆ ไล้มือลงมาแถวพวงแก้มใส
“มึงนี่น้า....โน่ เวลาไม่สบายใจแล้วขี้อ้อนน่าดูเลย ถ้าไอ้คิมมันรู้ว่ามึงอ้อนกูแบบนี้ มันคงจะไม่ทำให้มึงโกรธเลยแหละ”
“ใครบอกล่ะ มันไม่เคยสนใจกูหรอก ไม่สนด้วยว่ากูจะไปอ้อนใคร เดี๋ยวนี้มันมีคนอื่นแล้ว..มันไม่รักกูอีกแล้ว” ผมพูดแล้วหลับตาลงพยายามข่มใจตัวเองไว้
“อย่าพูดให้มันได้ยินนะ คำว่ามันไม่รักมึงแล้วน่ะ มันจะโกรธมึงมากรู้ไหม” มันพูดจ้องหน้าผมนิ่ง
“..........”
“คนแบบมันน่ะถ้าไม่รัก มันจะไม่แคร์เลย มันเป็นตั้งแต่เด็กแล้วกูเลยไม่ค่อยสนิทกับมันเพิ่งมาตอนโตนี่แหละถึงได้คุยกันจริงจัง” มันยังใช้นิ้วไล้วนอยู่ที่พวงแก้มผม
“ตั้งแต่มึงแย่งสาวคนเดียวกับมันน่ะเหรอ” ผมเงยหน้าแกล้งเยาะมันถึงอดีตของมันกับไอ้คิมที่เคยรู้มา
“ไม่ต้องมาแซวเลยนะเว้ย ตอนนั้นมันได้ไปแดก คราวนี้กูไม่ยอมเหมือนกันมันเลยต้องแชร์กับกูนี่แหละ”
“อ้าว ๆ ! เฮ้ยเชี่ยโป้ง มึงพูดเหมือนกูเป็นของเล่น อะไรแบ่งกันอะไร! กูก็งอนเป็นเหมือนกันนะ” ผมลุกขึ้นนั่งแกล้งงอนมันบ้าง
“โอ๋ๆ กูไม่ได้หมายความอย่างนั้นครับโน่ อย่างอนนะ เดี๋ยวร้องเพลงให้ฟัง หายงอนนะ” มันพูดพร้อมเอื้อมมือไปหยิบกีตาร์ที่หัวเตียงขึ้นมา ผมลุกขึ้นไปจุ๊บแก้มมัน 1 ที แล้วนอนลงห่มผ้าอยู่ข้าง ๆ มัน
“ทำไมไม่ใส่เสื้อเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรือว่าคิดจะยั่วกู” มันถามขึ้นสายตาโคตรรหื่น
“อื้ออออ ไม่เอา กูไม่ชอบใส่เสื้อนอน ร้อน อึดอัด มึงเล่นไปเหอะกูจะนอนฟังแล้วก็หลับเลย ห้ามปลุกนะเว้ย วันนี้ไม่ทำกูไม่มีอารมณ์ บอกไว้ก่อน!” ผมพูดแล้วหลับตาลงกระชับผ้าห่มเข้าที่อก เสียงเกลากีตาร์เริ่มขึ้น มาแล้วครับ
♬。 ♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩♬。 ♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩
ในโลกที่มีความวกวน ในโลกที่ผู้คนต้องดิ้นรน ต้องสับสนจนใจที่มีนั้นแสนเหนื่อย........
...
...
ฉันดีใจที่มีเธอ ฉันภูมิใจที่เจอเธอ เธอคือพลังใจเดียวที่มีไม่ว่านาทีไหน ๆ...
ฉันดีใจที่มีเธอ แม้จะต้องพบอะไร ฉันก็รู้ว่าฉันอุ่นใจ...ก็เพราะฉันนั้นมีเธออยู่ ตรงนี้
♬。 ♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩♬。 ♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩
....
ถึงจะเป็นคืนที่ทุกข์มาก.....แต่ก็เป็นคืนที่มีความสุขมากเช่นเดียวกัน...
....
....
“เชี่ยโน่! เมื่อกี้ไอ้ด้าน้องมึงมาหาว่ะ” ทันทีที่ผมกับไอ้โป้งมาถึงมหาลัยก็เจอไอ้ดิวตะโกนโวกเวกอยู่หน้าซุ้มถ่ายเอกสาร
“หากู ?” ผมถามมัน
“อื้อ เมื่อกี้นี่เอง ขับมอไซด์มาแต่ออกไปแล้ว” มันพูดพลางรับเอกสารที่ไอ้แบงค์เป็นคนไปซื้อมาจากซุ้มไว้ในมือ แล้วแจกจ่ายให้พวกผม
“มึงโทรไปหามันดิ่ เผื่อมันมีธุระสำคัญ” มันยังพูดต่ออีก ผมยกโทรศัพท์กดออกไปหามันทันที
< ครับโน่ >
“ มึงมีไร มาหากูทำไมวะ”
< เปล่า แค่จะแวะไปบอก เย็นนี้ผมมีแข่งรอบรองฯ อยากให้โน่มาเชียร์ ถ้าวันนี้ชนะ พรุ่งนี้งานกีฬาสัมพันธ์จะได้แข่งรอบชิง >
“..........” ผมไม่ตอบอะไรกำลังจะเดินเลี่ยงเข้าด้านใน
หมับบบบบบ!!!! มันคว้าแขนผมเอาไว้อย่าแรงจนผมเซ
“ไปไหนมา ! มึงไปไหนกับไอ้เหี้ยนั่นมา บอกกูซิ!” มันตะคอกเสียงดังลั่น ผมสะบัดแขนออกทันที แสบผิวไปหมดกำจนแขนกูแดง ผมเดินเลี่ยงเข้าไปด้านในไอ้โป้งนั่งจ้องผมหน้าเครียด ผมไม่สนใจหยิบรีโมทขึ้นมากำลังจะกดเปลี่ยนช่อง
ตุบบบบ!!! รีโมทถูกแย่งไปฟาดลงบนโซฟา
“มึงไม่ต้องดู เคลียร์กับกูให้รู้เรื่องวันนี้เลย กลับไปด้วยกัน” มันกระชากแขนผมให้ลุกขึ้นจากโซฟา ผมผลักไหล่มันอย่างแรงมันจับแขนอีกข้างไว้แน่น
“กลับกับกู ไปเคลียร์ที่ห้อง” มันทั้งพูดทั้งลากทั้งดึง
“ไม่ไป! อย่ามายุ่งกับกู” ผมพยายามรั้งตัวไว้ เหลือบมองไปทางไอ้โป้ง
“โป้ง!” ผมเรียกมันเสียงสั่น ไอ้โป้งลุกขึ้นมาทันที
“คิม! พอเหอะว่ะ อย่าทำมันแบบนี้” ไอ้โป้งรีบเข้ามาห้าม ตอนนี้ผมเจ็บแขนไปหมดแล้ว มันลากผมไปเกือบถึงหน้าประตู
“โป้ง!” ผมเรียกไอ้โป้งดังลั่น “กูไม่ไปนะ กูจะอยู่กับมึง!” มันหยุดทันที บีบแขนผมไว้แน่นมองหน้าผมด้วยแววตาแข็งกร้าว
“มึงโกรธกูใช่ไหมโน่ ?” มันถามด้วยแววตาแดงก่ำ สองมือของมันเพิ่มน้ำหนักบีบขึ้นไปอีก
“กลับไปเคลียร์กับกูนะ อย่าหนีกูแบบนี้ อย่าหนีกูอีก กูกลัว...กลัวว่ามึงจะไม่กลับมาอีกเหมือนกับ....” มันพูดน้ำตาไหลสองตาแดงก่ำ ผมนึกขึ้นมาได้เรื่องแม่ของมันที่หนีมันไปตั้งแต่เด็ก
มันปล่อยแขนผมแล้วกอดเข้ามาทั้งตัว
“กลับกับกูนะ กลับไปคุยกันให้รู้เรื่อง” มันทั้งพูดทั้งสั่น
“..........”
“โน่ครับ...”
“คิม! ขอเวลากู...กูขอเวลาก่อน มึงไปเคลียร์เรื่องของมึงให้เรียบร้อยจนกว่าทุกอย่างจะลงตัวกูจะอยู่กับไอ้โป้ง แล้วมึง! ก็ไม่ต้องมารับมาส่งกูอีก....กูจะไม่นั่งรถมึงอีกต่อไปแล้ว”
“.........” มันเงียบ จ้องหน้าผมนิ่งสองมือคลายออกจากเอวผม แววตาแข็งขึ้นมาอีก
“โป้ง!” จู่ ๆ มันเรียกชื่อไอ้โป้งขึ้นมา
“มึงออกไปก่อนได้ไหม กูขอเคลียร์กับมันให้เรียบร้อย” มันพูดขึ้น ผมหันไปมองไอ้โป้งทันที ไอ้โป้งจ้องหน้าผมนิ่ง
“ขอร้องว่ะโป้ง! กูขอร้องมึง!” มันกัดฟันพูดมือไม้สั่นไปหมด
“ไม่ให้ไป!!” ผมตะโกนลั่น
“มึงนั่นแหละออกไปคิม! กลับไปคิดทบทวนสิ่งที่มึงทำดู มันใช่เรื่องที่ไหนที่มึงต้องไปรับไปส่งไอ้เหี้ยนั่นแบบนั้น” เอากับกูสิกูก็ขึ้นแล้วเหมือนกัน
“แล้วทีมึงล่ะ! ไอ้น้องเหี้ยมึงมารอรับมึงถึงข้างล่าง มึงขึ้นรถไปกับมันทิ้งให้กูยืนอยู่ข้างหลัง มันใช่เรื่องเหมือนกันรึเปล่า!!” มันตะคอกกลับอย่างแรง
“ไอ้ด้ามันเป็นน้องกู”
“เจสมันก็เป็นน้องกูเหมือนกัน”
“แต่มันบอกกูว่ามึงเป็นแฟนมัน” กูเน้นคำว่าแฟนลงไปอย่างแรง
“ไม่มีทาง! มันจะกล้าพูดแบบนั้นได้ยังไง มึงคิดมากไปเอง”
“...........” อึ้ง!! น้ำตากูแตกออกมาแล้วรีบหันไปมองอีกทาง
“....อึกก.....อึกก...ฮึกก..” ผมไม่ไหวแล้วครับ ไอ้โป้งรีบเดินมากอดผมไว้ใช้มือโอบหัวผมซุกลงที่ไหล่มันทันที
“มึงว่ากู.....ฮึกก...โกหกใช่ไหม” ผมถามมันทั้งน้ำตา
“........” มันไม่พูดหันหน้าไปทางอื่นสองมือกำแน่น
“มึง....ฮึกกก...คิดว่ากูโกหกมึง..ฮึกก..”
“กลับไปซะคิม!” ไอ้โป้งพูดขึ้น โอบมือกระชับศีรษะผมไว้แน่น
“........” มันนิ่ง เงียบ
“มึงทำมันเสียใจ มันร้องไห้มึงเห็นรึเปล่า!” คราวนี้ไอ้โป้งเสียงสั่นแล้ว
“.........” มันยังเงียบอยู่อีกกัดกรามไว้แน่นจนแก้มสั่น
“ให้มันใจเย็นกว่านี้ก่อนมึงค่อยเคลียร์กับมัน มึงกลับไปซะ ออกไปตอนนี้เลย” มันพูดจบพาผมเดินเข้าห้องทันที ผมนั่งลงร้องไห้อยู่ที่ปลายเตียงไอ้โป้งยืนลูบหัวผมเบา ๆ ผมกอดเอวมันเอาไว้แน่นซุกหน้าลงที่พุงอุ่น ๆ นั้น
“เดี๋ยวกูคุยกับมันเองมึงรออยู่ในนี้” มันพูดจบก็เดินออกไป ผมเหนื่อยครับน้อยใจที่สุด ล้มตัวลงนอนบนเตียงเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้รู้ตัวอีกทีไอ้โป้งเข้ามาปลุก มันอาบน้ำเปลี่ยนชุดเรียบร้อยนั่งลูบหัวผมอยู่ข้าง ๆ
“อาบน้ำนะ ดึกแล้ว” มันพูดเสียงเหนื่อย ๆ
“อืม” ผมลุกขึ้นตอบรับงัวเงีย เดินเข้าห้องน้ำมองดูตัวเองในกระจก ตาบวมไปหมดคงเพราะร้องไห้จนหลับ ก้มลงใช้น้ำล้างหน้าเบา ๆมองดูตัวเองในกระจกอีกที หยาดน้ำเกาะพราวทั่วใบหน้า ทำไมผมถึงอ่อนแอแบบนี้...พอคิดเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นก็รู้สึกปวดหัวตุบ ๆ เอามือเสยผมขึ้นอย่างลวก ๆ ตัดสินใจเดินเข้าไปอาบน้ำ...เปิดฝักบัวราดรดลงหัวหวังให้สายน้ำชำระล้างความขุ่นมัวในจิตใจออกไป......
พออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยผมเปิดประตูออกมา จมูกก็เตะกับกลิ่นเทียนหอมอ่อน ๆ บวกกับเสียงเพลงเบา ๆ ไฟในห้องถูกหรี่ลงแล้วมีแต่โคมไฟหัวเตียงเท่านั้นที่เปิด ไอ้โป้งนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสืออยู่
หึ! มันนี่เป็นนักเปลี่ยนบรรยากาศตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ช่างต่างกับก่อนเข้าไปอาบน้ำจริง ๆ ผมสวมแต่บ็อคเซอร์ออกมามีผ้าขนหนูพาดคลุมไว้บนหัว มันมองผมอยู่
“เช็ดให้กูหน่อย” ผมนั่งลงบนเตียงแล้วบอกมัน มันวางหนังสือไว้ลุกขึ้นชันเข่าเช็ดหัวให้ผมอย่างเบามือ
“โป้ง”
“ว่าไง”
“มึงยังชอบผู้หญิงอยู่รึเปล่าวะ?” ผมถามออกไป มันชะงักมือเล็กน้อย
“ทำไมอ่ะ?”
“ตอบก่อนดิ กูอยากรู้”
“ก็ชอบ มองไปเรื่อยแหละ แล้วมึงอ่ะ?” คราวนี้มันหยุดมือแล้วเอียงตัวลงมามองหน้าผมเลย
“อืม กูก็ยังชอบอยู่ว่ะ ใครสวยกูมองหมดแหละ หึ ตลกว่ะโป้ง กูกลายเป็นเกย์ไปซะแระ..โอ๊ย!! เชี่ยโป้งมึงทำไรวะตบหัวกูทำไม” อยู่ ๆ มันก็ตบหัวผมอย่างแรงแถมยังหยุดเช็ดแล้วนั่งหน้างออีกต่างหาก
“เป็นไรอีกอ่ะ?” ผมถามมันงง ๆ
“ก็มึงบอกว่ามึงชอบผู้หญิง มึงพูดออกมาได้ไง” มันพูดงอน ๆ ไม่ยอมมองหน้าผม
“เอ๋า! ก็กูเป็นผู้ชาย ไม่ให้กูมองผู้หญิงให้กูมองใครล่ะวะ เออ..แล้วทีตัวเองก็ยังบอกกูเลยว่าชอบผู้หญิง ไรของมึงโป้ง” ผมหยิบผ้าขนหนูที่มันปล่อยวางไว้ขึ้นมาเช็ดผมต่อ
“กูอ่ะมองได้ แต่มึงห้ามมอง!”
“อ้าว! มึงพูดเห็นแก่ตัวนี่หว่า พูดไรของมึง” ผมพูดปัด ๆ ไม่สนใจมัน มันเอื้อมมือมากอดเอวผมไว้จากด้านหลังเกยคางลงบนไหล่
“ไม่ให้มองนะ ไม่ให้ชอบใครอีก แค่สองคนก็พอแล้วมากกว่านั้นกูรับไม่ได้นะ” มันพูดอ้อน ๆ แต่เหมือนสะกิดแผลในใจผมทันทีเมื่อพูดถึงบุคคลที่ 3 อย่างไอ้คิม
“.....โป้ง เล่นกีตาร์ให้กูฟังหน่อยดิ.....เอาแบบ..เพลงที่มึงชอบเล่นให้กูฟังน่ะ” ผมล้มตัวลงนอนบนตักมัน มันเกลี่ยเส้นผมผมเล่นเบา ๆ ไล้มือลงมาแถวพวงแก้มใส
“มึงนี่น้า....โน่ เวลาไม่สบายใจแล้วขี้อ้อนน่าดูเลย ถ้าไอ้คิมมันรู้ว่ามึงอ้อนกูแบบนี้ มันคงจะไม่ทำให้มึงโกรธเลยแหละ”
“ใครบอกล่ะ มันไม่เคยสนใจกูหรอก ไม่สนด้วยว่ากูจะไปอ้อนใคร เดี๋ยวนี้มันมีคนอื่นแล้ว..มันไม่รักกูอีกแล้ว” ผมพูดแล้วหลับตาลงพยายามข่มใจตัวเองไว้
“อย่าพูดให้มันได้ยินนะ คำว่ามันไม่รักมึงแล้วน่ะ มันจะโกรธมึงมากรู้ไหม” มันพูดจ้องหน้าผมนิ่ง
“..........”
“คนแบบมันน่ะถ้าไม่รัก มันจะไม่แคร์เลย มันเป็นตั้งแต่เด็กแล้วกูเลยไม่ค่อยสนิทกับมันเพิ่งมาตอนโตนี่แหละถึงได้คุยกันจริงจัง” มันยังใช้นิ้วไล้วนอยู่ที่พวงแก้มผม
“ตั้งแต่มึงแย่งสาวคนเดียวกับมันน่ะเหรอ” ผมเงยหน้าแกล้งเยาะมันถึงอดีตของมันกับไอ้คิมที่เคยรู้มา
“ไม่ต้องมาแซวเลยนะเว้ย ตอนนั้นมันได้ไปแดก คราวนี้กูไม่ยอมเหมือนกันมันเลยต้องแชร์กับกูนี่แหละ”
“อ้าว ๆ ! เฮ้ยเชี่ยโป้ง มึงพูดเหมือนกูเป็นของเล่น อะไรแบ่งกันอะไร! กูก็งอนเป็นเหมือนกันนะ” ผมลุกขึ้นนั่งแกล้งงอนมันบ้าง
“โอ๋ๆ กูไม่ได้หมายความอย่างนั้นครับโน่ อย่างอนนะ เดี๋ยวร้องเพลงให้ฟัง หายงอนนะ” มันพูดพร้อมเอื้อมมือไปหยิบกีตาร์ที่หัวเตียงขึ้นมา ผมลุกขึ้นไปจุ๊บแก้มมัน 1 ที แล้วนอนลงห่มผ้าอยู่ข้าง ๆ มัน
“ทำไมไม่ใส่เสื้อเดี๋ยวก็เป็นหวัดหรือว่าคิดจะยั่วกู” มันถามขึ้นสายตาโคตรรหื่น
“อื้ออออ ไม่เอา กูไม่ชอบใส่เสื้อนอน ร้อน อึดอัด มึงเล่นไปเหอะกูจะนอนฟังแล้วก็หลับเลย ห้ามปลุกนะเว้ย วันนี้ไม่ทำกูไม่มีอารมณ์ บอกไว้ก่อน!” ผมพูดแล้วหลับตาลงกระชับผ้าห่มเข้าที่อก เสียงเกลากีตาร์เริ่มขึ้น มาแล้วครับ
♬。 ♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩♬。 ♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩
ในโลกที่มีความวกวน ในโลกที่ผู้คนต้องดิ้นรน ต้องสับสนจนใจที่มีนั้นแสนเหนื่อย........
...
...
ฉันดีใจที่มีเธอ ฉันภูมิใจที่เจอเธอ เธอคือพลังใจเดียวที่มีไม่ว่านาทีไหน ๆ...
ฉันดีใจที่มีเธอ แม้จะต้องพบอะไร ฉันก็รู้ว่าฉันอุ่นใจ...ก็เพราะฉันนั้นมีเธออยู่ ตรงนี้
♬。 ♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩♬。 ♫♫~♬ ♫~♬ ♪♩
....
ถึงจะเป็นคืนที่ทุกข์มาก.....แต่ก็เป็นคืนที่มีความสุขมากเช่นเดียวกัน...
....
....
“เชี่ยโน่! เมื่อกี้ไอ้ด้าน้องมึงมาหาว่ะ” ทันทีที่ผมกับไอ้โป้งมาถึงมหาลัยก็เจอไอ้ดิวตะโกนโวกเวกอยู่หน้าซุ้มถ่ายเอกสาร
“หากู ?” ผมถามมัน
“อื้อ เมื่อกี้นี่เอง ขับมอไซด์มาแต่ออกไปแล้ว” มันพูดพลางรับเอกสารที่ไอ้แบงค์เป็นคนไปซื้อมาจากซุ้มไว้ในมือ แล้วแจกจ่ายให้พวกผม
“มึงโทรไปหามันดิ่ เผื่อมันมีธุระสำคัญ” มันยังพูดต่ออีก ผมยกโทรศัพท์กดออกไปหามันทันที
< ครับโน่ >
“ มึงมีไร มาหากูทำไมวะ”
< เปล่า แค่จะแวะไปบอก เย็นนี้ผมมีแข่งรอบรองฯ อยากให้โน่มาเชียร์ ถ้าวันนี้ชนะ พรุ่งนี้งานกีฬาสัมพันธ์จะได้แข่งรอบชิง >
เออผมก็ลืมไปเลยพรุ่งนี้งานกีฬาสัมพันธ์ของมหาลัยผมนัดกับไอ้โป้งไว้ว่าแล้วว่าจะไปเชียร์มัน
มันเป็นตัวจริงฟุตบอลด้วยนะ ไม่รู้ติดได้ไงแต่รู้สึกพักหลังมันจะไปซ้อมบ่อยเลย
ผมไม่เคยไปดูแม้แต่ครั้งเดียวจนมันบ่นน้อยใจ
“แล้ววันนี้มึงแข่งกี่โมง?”
< บ่าย 4 โน่เลิกยัง >
“ทัน ๆ เดี๋ยวกูไป เพื่อน ๆ กูก็จะไปด้วย มึงตั้งใจแข่งล่ะ ถ้าชนะเดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปดูรอบชิง” ผมบอกให้กำลังใจมัน พวกไอ้ดิวไอ้แบงค์ไอ้โป้งมองผมตาโต ประมาณว่า กูบอกมึงเหรอออว่าจะไปด้วย??
< ครับ ๆ โน่ แล้วเจอกันนะเดี๋ยวผมรอ>
“เออ....นี่เดี๋ยวกูเรียนเสร็จแล้วกูออกไปเลย” ผมกดวางสายแล้วครับ วันนี้มีเรียนเฉพาะบ่าย พวกผมรีบตรงเข้าห้องทันที
ไม่ต้องถามหาไอ้คิมนะครับ มันเป็นคณะกรรมการงานกิจกรรมกีฬานั่นแหละ รู้สึกจะมีการประชุมเกี่ยวกับงานวันพรุ่งนี้ ไอ้ดิวกับมันประชุมพร้อมกันรอบเช้าไปแล้วรอบนึงกำลังจะไปประชุมอีกในภาคบ่าย ช่วงเที่ยงมันจะหมกตัวอยู่แถวตึกอธิการเลยไม่ได้มาแจมกับพวกผม เรื่องส่วนตัวของเราก็คงต้องพักไว้ก่อนล่ะมั้ง...มันก็เป็นคนอย่างนั้นอยู่แล้ว งานสำคัญเสมอ!
พอเลิกเรียนเสร็จผมกับไอ้โป้งไปรถคันเดียวกัน ส่วนไอ้แบงค์ขับของมันตามมาต่างหาก เรารีบตรงไปสนามบาสกลางซึ่งอยู่แถว ๆ โรงอาหารรวมครับ คนเยอะมากรถก็เยอะด้วย มีทั้งจากมหาลัยอื่นแล้วก็มหาลัยเรา ข้าง ๆ กันเป็นสระว่ายน้ำรวมใหญ่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดคนงี้ตรึม กว่าจะหาที่จอดรถได้วนอยู่หลายรอบเลยครับ สรุปพวกผมได้ที่จอดไกลพอสมควร ไอ้แบงค์ก็เหมือนกันหลังจากรอกันเรียบร้อยเรา 3 คนก็เดินเข้าไปด้านในสนาม
4 โมง 10 นาทีแล้ว ควอเตอร์แรกกำลังเริ่ม ไอ้ด้าวิ่งเคาะบอลอยู่กลางสนามอย่างเร็วเลยครับ ผมแหงนมองสกอร์นิดหน่อยเราตามอยู่ 3 แต้ม มองหาที่นั่งเหมาะ ๆ ได้พวกผมรีบจับจองทันที ได้ที่ด้านหลังแสตนด์มหาลัยเราพอดี ผมคิดว่ามันมองเห็นผมแล้วด้วย มันโชว์รีบาวด์อย่างเท่แล้วหันมายก Like ใส่ผมทันที ไอ้ห่า ! ทำเป็นเล่นนะมึงอ่ะ! สาว ๆ กรี๊ดกันตรึมเลยครับเวลามันอยู่ในสนามนะเท่สุดตรีนนน เหมือนมีอะไรเข้าสิง ออร่ามันเปล่งประกายสุด ๆ เสียงเชียร์ ดาด้า ๆ ดังมาไม่ขาดสาย คะแนนเราเป็นฝ่ายนำขึ้นมาแล้ว
พอถึงช่วงควอเตอร์สุดท้ายเสียงเชียร์ยิ่งกระหึ่มขึ้นไปอีกเมื่อทีมคู่แข่งไล่บี้ทำคะแนนตามาจนทัน จนกระทั่งถึงช่วงโอเวอร์ทาม 5 นาทีสุดท้ายเกิดการฟาวด์ของทีมคู่แข่งเราได้ลูกโทษ ไอ้ด้าโชว์ชูตลงห่วงด้วยความแม่นยำแต่ก็แค่คะแนนเดียวนาฬิกายังคงเดินต่อไปแต่คู่แข่งก็ไม่สามารถจับบอลกลม ๆ ยัดลงไปได้ ในที่สุดมหาลัยเราก็ชนะมาได้ครับด้วยคะแนนเดียวจากลูกโทษลูกนั้นนั่นแหละ
หลังปิดเกมเรียบร้อยคนทยอยเดินออกจากสนามพวกผมลงจากสแตนด์ไอ้ด้ารีบวิ่งเข้ามาหาด้วยสภาพเหงื่อท่วมตัว มันยื่นผ้าขนหนูที่อยู่ในมือมาให้ผม
“เช็ดให้หน่อยดิ” มันทั้งพูดทั้งหอบ
“ผมเก่งใช่ไหมโน่?” มันถามขึ้นอีก ผมมองหน้าไอ้โป้งนิดหน่อย ไอ้โป้งคว้าผ้าขนหนูในมือมันขึ้นมาแล้วเช็ดไปที่หน้ามันอย่างแรง
“อ่ะ! กูเช็ดให้แล้ว มึงพอใจยัง”
“หูยยย เฮียโป้งอ่ะ ผมบอกโน่ต่างหาก”
“เออ มึงเก่งด้า เหลือพรุ่งนี้อีกนัดเดี๋ยวกูมาเชียร์ 5 โมงเช้าใช่มะกูเห็นตารางอยู่ด้านหน้า”
“ครับโน่ อย่าเลทนะ 5 โมงเช้า แล้ว...จะไปไหนกันต่ออ่ะ” ไอ้ด้าถามผม
“ไม่รู้ดิ เดินเล่นอยู่แถว ๆ นี้แหละ”
“งั้นเดี๋ยวผมเคลียร์ทางนี้เรียบร้อยแล้วออกไปหา โน่บอกจะเลี้ยงผมไงถ้าชนะ ต้องเลี้ยงวันนี้ด้วย" เอาแล้วครับมันทวงรางวัลเข้าแล้ว
“เออ เออ เดี๋ยวกูนั่งรออยู่แถวหน้าเซเว่นฝั่งตรงข้ามนะมึง เสร็จแล้วมึงรีบออกมาล่ะ”
พอบอกมันเสร็จพวกผมก็รีบเดินออกจากสนามทันทีครับด้านนอกคนบางตาลงแล้ว ไอ้แบงค์รับหน้าที่ไปซื้อพวกน้ำขนมผลไม้มานั่งกินกันรอไอ้ด้า สักพักไอ้ดิวก็ตามมาสมทบอีกคน
“ประชุมเสร็จแล้วเหรอมึงอ่ะ?” ไอ้โป้งถามไอ้ดิว
“อืม พรุ่งนี้กูหนักแน่ อาจารย์ให้กูไปช่วยฝ่ายพิธีว่ะ แม่งเปิดแต่เช้าปิดก็ค่ำ กูต้องอยู่เฝ้ายามเลยมึง”มันนั่งบ่นของมันไปหยิบขนมเข้าปากไป
“โน่ โน่!” ไอ้ดิวสะกิดเรียกขึ้น ผมหันไปมองจุดที่สายตามันโฟกัสอยู่ ไอ้เหี้ยเจสกับเพื่อนมันยืนอยู่หน้าเซเว่นฝั่งตรงข้ามพวกผมนี่เอง ห่าเอ้ย! ยืนดูดอมยิ้มหันหน้ามาทางกูอีกต่างหาก แค่เห็นหน้ามันผมก็ปรี๊ดแล้ว
ผมหันหน้าไปทางอื่นไม่อยากเห็นมัน นั่งดูโน่นดูนี่ผมไปเรื่อย ยกน้ำแดงขึ้นมาดูดแก้เซ็ง
“สวัสดีครับโน่” ใครวะ ? เสียงแปลก ๆ เรียกกู ผมรีบหันมาทันที อิเจส!! ไอ้โป้งใช้มือบีบที่ข้อศอกผมไว้ ผมจ้องไอ้คนทักนิ่ง
“มาเชียร์กีฬาเหมือนกันเหรอฮะ นึกว่าจะดักดานอยู่แต่ในคณะซะอีก สนุกดีนะได้ไปดูว่ายน้ำไหมฮะเมื่อกี้เพื่อนผมแข่งด้วย” มันพูดลอยหน้าลอยตาในปากดูดอมยิ้มแท่งจิ๋วเอาไว้ แล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
“อืมม...เดี๋ยวหกโมงครึ่งพี่คิมจะมารับผมอ่ะ เราว่าจะไปนั่งกินนมปั่นหลัง มอ. กัน โน่สนใจไปกับพวกเราไหมล่ะฮะ เดี๋ยวผมขอพี่คิมให้” มันพูดแล้วยิ้มมาที่ผม
ผมมองหน้ามัน.....ยิ้มให้มัน....แล้วลุกขึ้น มันยักคิ้วกวนตีนมาให้ผม 1 ที จ้องตาผมนิ่ง
“มึงจะให้กูไปด้วยจริงเหรอวะ?!” ผมถามแล้วเดินออกจากโต๊ะนั่ง ตรงเข้าไปหามันอย่างช้า ๆ
“อ่ะ!” มันล้วงไอโฟนสีดำในกระเป๋าเสื้อมันส่งให้ผม ปากก็ยังดูดอมยิ้มต่อไป เดินเข้าหาผมกระซิบลงใกล้ ๆ
“ของพี่คิม!! ลืมไว้กับกูตั้งแต่เมื่อวาน”
ตุบบบบบ!!!!!
ผมผลักไหล่มันอย่างแรง มันล้มลงไปกองอยู่กับพื้นทันทีคงเพราะมันตัวเล็กด้วย ผมเดินตามกะเข้าไปกระทืบเต็มที่ เสียงเพื่อนผู้หญิงมันโวยวายขึ้นวิ่งเข้ามาดูมัน ไอ้โป้งไอ้ดิวไอ้แบงค์วิ่งเข้ามาดึงผมไว้
“หึ....โมโหอะไรนักหนา กูพูดความจริงก็ไม่ด้ายยยยยย!!”
“แล้ววันนี้มึงแข่งกี่โมง?”
< บ่าย 4 โน่เลิกยัง >
“ทัน ๆ เดี๋ยวกูไป เพื่อน ๆ กูก็จะไปด้วย มึงตั้งใจแข่งล่ะ ถ้าชนะเดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปดูรอบชิง” ผมบอกให้กำลังใจมัน พวกไอ้ดิวไอ้แบงค์ไอ้โป้งมองผมตาโต ประมาณว่า กูบอกมึงเหรอออว่าจะไปด้วย??
< ครับ ๆ โน่ แล้วเจอกันนะเดี๋ยวผมรอ>
“เออ....นี่เดี๋ยวกูเรียนเสร็จแล้วกูออกไปเลย” ผมกดวางสายแล้วครับ วันนี้มีเรียนเฉพาะบ่าย พวกผมรีบตรงเข้าห้องทันที
ไม่ต้องถามหาไอ้คิมนะครับ มันเป็นคณะกรรมการงานกิจกรรมกีฬานั่นแหละ รู้สึกจะมีการประชุมเกี่ยวกับงานวันพรุ่งนี้ ไอ้ดิวกับมันประชุมพร้อมกันรอบเช้าไปแล้วรอบนึงกำลังจะไปประชุมอีกในภาคบ่าย ช่วงเที่ยงมันจะหมกตัวอยู่แถวตึกอธิการเลยไม่ได้มาแจมกับพวกผม เรื่องส่วนตัวของเราก็คงต้องพักไว้ก่อนล่ะมั้ง...มันก็เป็นคนอย่างนั้นอยู่แล้ว งานสำคัญเสมอ!
พอเลิกเรียนเสร็จผมกับไอ้โป้งไปรถคันเดียวกัน ส่วนไอ้แบงค์ขับของมันตามมาต่างหาก เรารีบตรงไปสนามบาสกลางซึ่งอยู่แถว ๆ โรงอาหารรวมครับ คนเยอะมากรถก็เยอะด้วย มีทั้งจากมหาลัยอื่นแล้วก็มหาลัยเรา ข้าง ๆ กันเป็นสระว่ายน้ำรวมใหญ่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดคนงี้ตรึม กว่าจะหาที่จอดรถได้วนอยู่หลายรอบเลยครับ สรุปพวกผมได้ที่จอดไกลพอสมควร ไอ้แบงค์ก็เหมือนกันหลังจากรอกันเรียบร้อยเรา 3 คนก็เดินเข้าไปด้านในสนาม
4 โมง 10 นาทีแล้ว ควอเตอร์แรกกำลังเริ่ม ไอ้ด้าวิ่งเคาะบอลอยู่กลางสนามอย่างเร็วเลยครับ ผมแหงนมองสกอร์นิดหน่อยเราตามอยู่ 3 แต้ม มองหาที่นั่งเหมาะ ๆ ได้พวกผมรีบจับจองทันที ได้ที่ด้านหลังแสตนด์มหาลัยเราพอดี ผมคิดว่ามันมองเห็นผมแล้วด้วย มันโชว์รีบาวด์อย่างเท่แล้วหันมายก Like ใส่ผมทันที ไอ้ห่า ! ทำเป็นเล่นนะมึงอ่ะ! สาว ๆ กรี๊ดกันตรึมเลยครับเวลามันอยู่ในสนามนะเท่สุดตรีนนน เหมือนมีอะไรเข้าสิง ออร่ามันเปล่งประกายสุด ๆ เสียงเชียร์ ดาด้า ๆ ดังมาไม่ขาดสาย คะแนนเราเป็นฝ่ายนำขึ้นมาแล้ว
พอถึงช่วงควอเตอร์สุดท้ายเสียงเชียร์ยิ่งกระหึ่มขึ้นไปอีกเมื่อทีมคู่แข่งไล่บี้ทำคะแนนตามาจนทัน จนกระทั่งถึงช่วงโอเวอร์ทาม 5 นาทีสุดท้ายเกิดการฟาวด์ของทีมคู่แข่งเราได้ลูกโทษ ไอ้ด้าโชว์ชูตลงห่วงด้วยความแม่นยำแต่ก็แค่คะแนนเดียวนาฬิกายังคงเดินต่อไปแต่คู่แข่งก็ไม่สามารถจับบอลกลม ๆ ยัดลงไปได้ ในที่สุดมหาลัยเราก็ชนะมาได้ครับด้วยคะแนนเดียวจากลูกโทษลูกนั้นนั่นแหละ
หลังปิดเกมเรียบร้อยคนทยอยเดินออกจากสนามพวกผมลงจากสแตนด์ไอ้ด้ารีบวิ่งเข้ามาหาด้วยสภาพเหงื่อท่วมตัว มันยื่นผ้าขนหนูที่อยู่ในมือมาให้ผม
“เช็ดให้หน่อยดิ” มันทั้งพูดทั้งหอบ
“ผมเก่งใช่ไหมโน่?” มันถามขึ้นอีก ผมมองหน้าไอ้โป้งนิดหน่อย ไอ้โป้งคว้าผ้าขนหนูในมือมันขึ้นมาแล้วเช็ดไปที่หน้ามันอย่างแรง
“อ่ะ! กูเช็ดให้แล้ว มึงพอใจยัง”
“หูยยย เฮียโป้งอ่ะ ผมบอกโน่ต่างหาก”
“เออ มึงเก่งด้า เหลือพรุ่งนี้อีกนัดเดี๋ยวกูมาเชียร์ 5 โมงเช้าใช่มะกูเห็นตารางอยู่ด้านหน้า”
“ครับโน่ อย่าเลทนะ 5 โมงเช้า แล้ว...จะไปไหนกันต่ออ่ะ” ไอ้ด้าถามผม
“ไม่รู้ดิ เดินเล่นอยู่แถว ๆ นี้แหละ”
“งั้นเดี๋ยวผมเคลียร์ทางนี้เรียบร้อยแล้วออกไปหา โน่บอกจะเลี้ยงผมไงถ้าชนะ ต้องเลี้ยงวันนี้ด้วย" เอาแล้วครับมันทวงรางวัลเข้าแล้ว
“เออ เออ เดี๋ยวกูนั่งรออยู่แถวหน้าเซเว่นฝั่งตรงข้ามนะมึง เสร็จแล้วมึงรีบออกมาล่ะ”
พอบอกมันเสร็จพวกผมก็รีบเดินออกจากสนามทันทีครับด้านนอกคนบางตาลงแล้ว ไอ้แบงค์รับหน้าที่ไปซื้อพวกน้ำขนมผลไม้มานั่งกินกันรอไอ้ด้า สักพักไอ้ดิวก็ตามมาสมทบอีกคน
“ประชุมเสร็จแล้วเหรอมึงอ่ะ?” ไอ้โป้งถามไอ้ดิว
“อืม พรุ่งนี้กูหนักแน่ อาจารย์ให้กูไปช่วยฝ่ายพิธีว่ะ แม่งเปิดแต่เช้าปิดก็ค่ำ กูต้องอยู่เฝ้ายามเลยมึง”มันนั่งบ่นของมันไปหยิบขนมเข้าปากไป
“โน่ โน่!” ไอ้ดิวสะกิดเรียกขึ้น ผมหันไปมองจุดที่สายตามันโฟกัสอยู่ ไอ้เหี้ยเจสกับเพื่อนมันยืนอยู่หน้าเซเว่นฝั่งตรงข้ามพวกผมนี่เอง ห่าเอ้ย! ยืนดูดอมยิ้มหันหน้ามาทางกูอีกต่างหาก แค่เห็นหน้ามันผมก็ปรี๊ดแล้ว
ผมหันหน้าไปทางอื่นไม่อยากเห็นมัน นั่งดูโน่นดูนี่ผมไปเรื่อย ยกน้ำแดงขึ้นมาดูดแก้เซ็ง
“สวัสดีครับโน่” ใครวะ ? เสียงแปลก ๆ เรียกกู ผมรีบหันมาทันที อิเจส!! ไอ้โป้งใช้มือบีบที่ข้อศอกผมไว้ ผมจ้องไอ้คนทักนิ่ง
“มาเชียร์กีฬาเหมือนกันเหรอฮะ นึกว่าจะดักดานอยู่แต่ในคณะซะอีก สนุกดีนะได้ไปดูว่ายน้ำไหมฮะเมื่อกี้เพื่อนผมแข่งด้วย” มันพูดลอยหน้าลอยตาในปากดูดอมยิ้มแท่งจิ๋วเอาไว้ แล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
“อืมม...เดี๋ยวหกโมงครึ่งพี่คิมจะมารับผมอ่ะ เราว่าจะไปนั่งกินนมปั่นหลัง มอ. กัน โน่สนใจไปกับพวกเราไหมล่ะฮะ เดี๋ยวผมขอพี่คิมให้” มันพูดแล้วยิ้มมาที่ผม
ผมมองหน้ามัน.....ยิ้มให้มัน....แล้วลุกขึ้น มันยักคิ้วกวนตีนมาให้ผม 1 ที จ้องตาผมนิ่ง
“มึงจะให้กูไปด้วยจริงเหรอวะ?!” ผมถามแล้วเดินออกจากโต๊ะนั่ง ตรงเข้าไปหามันอย่างช้า ๆ
“อ่ะ!” มันล้วงไอโฟนสีดำในกระเป๋าเสื้อมันส่งให้ผม ปากก็ยังดูดอมยิ้มต่อไป เดินเข้าหาผมกระซิบลงใกล้ ๆ
“ของพี่คิม!! ลืมไว้กับกูตั้งแต่เมื่อวาน”
ตุบบบบบ!!!!!
ผมผลักไหล่มันอย่างแรง มันล้มลงไปกองอยู่กับพื้นทันทีคงเพราะมันตัวเล็กด้วย ผมเดินตามกะเข้าไปกระทืบเต็มที่ เสียงเพื่อนผู้หญิงมันโวยวายขึ้นวิ่งเข้ามาดูมัน ไอ้โป้งไอ้ดิวไอ้แบงค์วิ่งเข้ามาดึงผมไว้
“หึ....โมโหอะไรนักหนา กูพูดความจริงก็ไม่ด้ายยยยยย!!”
มันพูดทิ้งหางเสียงแล้วยิ้มจ้องมาที่ผม ผมฟิวส์ขาดสุดขีดเดินเข้าไปผลักเพื่อนผู้หญิงมันออกจากทาง
กระชากตัวมันขึ้นมาแล้วเหวี่ยงไปอีกทาง มันล้มลงไปชนขอบหินกั้นต้นไม้กองอยู่ตรงนั้น
ผมเดินตามเข้าไปจะเก็บซ้ำทันที จนจะถึงตัวมันอยู่แล้ว
ผลักกกกกก!!!! ตุบบบบ!!
“โอ๊ย!! เชี่ย!!” ผมอุทานอย่างดังมีคนกระชากแขนผมออกอย่างแรง จนตัวผมกระเด็นไปชนราวกั้นตรงฟุตบาต ผมล้มลง
“ โน่!” ไอ้ด้าวิ่งมาจากไหนไม่รู้มารับผมไว้ พร้อม ๆ กับไอ้โป้งที่ถึงตัวผมทันทีเหมือนกัน ผมเงยหน้าขึ้นมองไอ้ตัวต้นเหตุที่มันทำผม
คิม!!!
มันยืนหน้าเครียดจ้องผมด้วยดวงตาแข็งกร้าว
ผมตั้งสติได้ลุกขึ้นทันทีรู้สึกเจ็บจนต้องกุมซี่โครงด้านซ้ายไว้ เห็นมันกำลังนั่งลงไปดูอีเจสที่ยังไม่ยอมลุกขึ้นมาอีกแถมทำท่าทางแบบเจ็บปวดฉิบหาย
มันละสายตาจากอิเจสแล้วลุกขึ้นมา จ้องหน้าผมนิ่ง!
“ ทำแบบนี้ทำไม?” มันพูดแล้วเดินจ้องหน้าเข้ามาหาผม
“มึงทำ-เหี้ย-อะไรของมึงโน่!!” มันพูดตาขวาง
“พี่คิมอย่าว่าพี่โน่ฮะ”เสียงไอ้เหี้ยนั่นดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท ขณะที่ผมกำลังอึ้งกับคำพูดของไอ้คิม
“พี่คิมอย่าว่าพี่โน่นะ ผมผิดเอง ผมไม่เป็นไร โอ๊ยยยย!”
ผลักกกกกก!!!! ตุบบบบ!!
“โอ๊ย!! เชี่ย!!” ผมอุทานอย่างดังมีคนกระชากแขนผมออกอย่างแรง จนตัวผมกระเด็นไปชนราวกั้นตรงฟุตบาต ผมล้มลง
“ โน่!” ไอ้ด้าวิ่งมาจากไหนไม่รู้มารับผมไว้ พร้อม ๆ กับไอ้โป้งที่ถึงตัวผมทันทีเหมือนกัน ผมเงยหน้าขึ้นมองไอ้ตัวต้นเหตุที่มันทำผม
คิม!!!
มันยืนหน้าเครียดจ้องผมด้วยดวงตาแข็งกร้าว
ผมตั้งสติได้ลุกขึ้นทันทีรู้สึกเจ็บจนต้องกุมซี่โครงด้านซ้ายไว้ เห็นมันกำลังนั่งลงไปดูอีเจสที่ยังไม่ยอมลุกขึ้นมาอีกแถมทำท่าทางแบบเจ็บปวดฉิบหาย
มันละสายตาจากอิเจสแล้วลุกขึ้นมา จ้องหน้าผมนิ่ง!
“ ทำแบบนี้ทำไม?” มันพูดแล้วเดินจ้องหน้าเข้ามาหาผม
“มึงทำ-เหี้ย-อะไรของมึงโน่!!” มันพูดตาขวาง
“พี่คิมอย่าว่าพี่โน่ฮะ”เสียงไอ้เหี้ยนั่นดังแทรกเข้ามาในโสตประสาท ขณะที่ผมกำลังอึ้งกับคำพูดของไอ้คิม
“พี่คิมอย่าว่าพี่โน่นะ ผมผิดเอง ผมไม่เป็นไร โอ๊ยยยย!”
เต็ม ๆ สองตาอิเหี้ยเจสมันลุกขึ้นมากอดแขนไอ้คิมแสดงละครเอามือกุมไหล่ไว้ทำท่าทางอย่างกับคนเจ็บปวดจวนจะตาย ผมยืนจ้องมันนิ่งไม่อยากเชื่อกับท่าทางการตอแหลแบบสุด ๆ ของมัน
“ว๊ายยยยย! เจส เลือดมึงไหล” เสียงเพื่อนอิเจสร้องโวยวายขึ้นรีบวิ่งเข้ามาดูแผลถลอกที่ท่อนแขนมัน
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องโวยวายหรอก เดี๋ยวอาจารย์ได้ยินพี่โน่เค้าจะเดือดร้อน พี่คิมอย่าว่าพี่โน่นะฮะผมไม่เป็นไร โอ๊ย! เจ็บบบ!”
กูอดเต็มที่แล้ว คราวนี้เดินกัดฟันเข้าหามันเลยไอ้โป้งรีบจับแขนให้แน่นขึ้นอีก ไอ้คิมเลื่อนตัวมาบังอิเจสไว้
“โน่! มึงอย่าบ้าให้มันมากนัก มึงทำอะไรลงไปหัดดูซะบ้าง ขอโทษน้องเค้าซะโน่!”
“ว๊ายยยยย! เจส เลือดมึงไหล” เสียงเพื่อนอิเจสร้องโวยวายขึ้นรีบวิ่งเข้ามาดูแผลถลอกที่ท่อนแขนมัน
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องโวยวายหรอก เดี๋ยวอาจารย์ได้ยินพี่โน่เค้าจะเดือดร้อน พี่คิมอย่าว่าพี่โน่นะฮะผมไม่เป็นไร โอ๊ย! เจ็บบบ!”
กูอดเต็มที่แล้ว คราวนี้เดินกัดฟันเข้าหามันเลยไอ้โป้งรีบจับแขนให้แน่นขึ้นอีก ไอ้คิมเลื่อนตัวมาบังอิเจสไว้
“โน่! มึงอย่าบ้าให้มันมากนัก มึงทำอะไรลงไปหัดดูซะบ้าง ขอโทษน้องเค้าซะโน่!”
ผมจ้องหน้ามันนิ่งเลยไม่อยากเชื่อว่ามันจะพูดคำ ๆ นี้กับผม กัดฟันกลั้นน้ำตาไว้
“มึงให้กูขอโทษมัน ?” ผมถาม
“ขอโทษน้องเค้าซะ เรื่องส่วนตัวเอาไว้เคลียร์กันที่อื่น มึงมาหาเรื่องน้องเค้าถึงมหาลัย มันงี่เง่าไม่ใช่รึไงโน่!”
ผั๊วะ!!!!
ไอ้โป้งซัดมันเต็ม ๆ ปากเลยครับ สมน้ำหน้ามึง! กูดีใจจริง ๆ แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับมึง!!! ไอ้เจสรีบเดินเข้ามาด้านหลังโอบเอวมันไว้ทันที
“นี่คือคำขอโทษของมัน สำหรับคนโง่ ๆ อย่างมึง คิม!” ไอ้โป้งพูดจ้องหน้ามันนิ่ง
“ไปโน่ มึงไปกับกู กูขอโทษแทนมึงแล้ว” มันพูดจบคว้าข้อมือผมดึงออกไปทันที
ไอ้พวกที่เหลือก็รีบตามออกมา คนเริ่มสังเกตพวกผมแล้วด้วย เราทั้งหมดเลยรีบแยกย้ายกัน ไอ้ด้าอึ้งไปพักใหญ่เลยครับ มันไม่ยอมห่างตัวผมเลย สีหน้ามันกังวลสุด ๆ จนผมต้องบอกอย่างจริงจังว่าไม่เป็นไร มันค่อยยอมกลับแต่หน้าตาก็ยังซีเรียสอยู่
ผมขึ้นมาบนรถ จับ ๆ นวด ๆ ซี่โครง รู้สึกว่าจะกระแทกแรงอยู่เหมือนกัน สังเกตเห็นไอ้โป้งจ้องผมนิ่ง ก่อนที่มันจะขับรถออกไป พอเลยมหาลัยมาหน่อยมันเอื้อมมือไปลดเสียงเพลงลง
“ถ้าเลิกกับมัน มึงจะอยู่ได้ไหม” อยู่ ๆ มันก็ถามขึ้น
“........” ผมไม่ตอบ เอนหัวพิงเบาะด้วยความล้า เอื้อมมือไปเร่งวอลุ่มเพลงจากสถานีวิทยุที่กำลังเปิดอยู่ให้ดังยิ่งขึ้น หลับตาลง....แล้วฟัง....
“ถ้าจะมีแค่กู....จะได้รึเปล่าโน่” เสียงมันสั่นมากจนผมต้องหันไปมอง น้ำตามันไหลลงมาอย่างน่าตกใจ
“.......โป้ง” ผมปลดเบลท์ออก ยกมือไปเช็ดน้ำตาให้มัน
“กูไม่อยากเห็นมึงร้องไห้.....ไม่อยากให้ใครมาว่ามึง...อึกก...ถ้ามึงคบมันแล้วไม่มีความสุข...อึกก....” มันเงียบไม่พูดต่อ ตีไฟจอดรถข้างทาง
“กู.....ไม่อยู่ในสถานะที่จะพูดได้ ไม่ใช่ว่ากูอยากจะเก็บมึงไว้คนเดียว แต่ถ้าหากมึงคบกับมันแล้วมึงต้องทุกข์ขนาดนี้....กูก็อยากให้มึงคิดดูใหม่ นี่กูพูดในฐานะเพื่อน มึงเข้าใจกูใช่ไหม” มันทั้งพูดทั้งร้องจนผมต้องกอดมันเอาไว้ ลูบหลังมันเบา ๆ
“กูเจ็บใจที่มันว่ามึงเมื่อกี้...อึก... กูเสียใจที่ปกป้องมึงได้แค่นี้..อึก..อึก..ขอโทษครับ...อึก..กู..ขอโทษ” น้ำตาเต็มบ่าผมไปหมดมันร้องไห้จนตัวโยน ผมไม่รู้จะทำยังไงนึกถึงคำพูดที่ไอ้คิมพูดออกมาเมื่อกี้ ผมเองก็ฟิวส์ขาด ถ้าไอ้โป้งไม่จัดการมันแบบนั้น ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรลงไปบ้าง.....
“โป้ง อย่าร้องไห้จนหลับนะเว้ย กูเองก็ง่วงเหมือนกันรีบกลับเร็วเข้า” ผมพยายามเปลี่ยนหัวเรื่องทำให้มันอารมณ์ดีขึ้น ไม่รู้ทำไม แทนที่ผมจะเป็นคนร้องแล้วให้มันปลอบ กลับกลายเป็นมันซะได้ที่ร้องไห้แล้วผมต้องมาปลอบแบบนี้
หึ! ไอ้นี่เนี่ย! มันเป็นเพื่อนที่หาได้ยากจริง ๆ ครับ......
เป็นทั้ง.....เพื่อน
เป็นทั้ง.....แฟน
เป็นแทบทุกอย่างของผมเลย.......
“มึงให้กูขอโทษมัน ?” ผมถาม
“ขอโทษน้องเค้าซะ เรื่องส่วนตัวเอาไว้เคลียร์กันที่อื่น มึงมาหาเรื่องน้องเค้าถึงมหาลัย มันงี่เง่าไม่ใช่รึไงโน่!”
ผั๊วะ!!!!
ไอ้โป้งซัดมันเต็ม ๆ ปากเลยครับ สมน้ำหน้ามึง! กูดีใจจริง ๆ แค่นี้ยังน้อยไปสำหรับมึง!!! ไอ้เจสรีบเดินเข้ามาด้านหลังโอบเอวมันไว้ทันที
“นี่คือคำขอโทษของมัน สำหรับคนโง่ ๆ อย่างมึง คิม!” ไอ้โป้งพูดจ้องหน้ามันนิ่ง
“ไปโน่ มึงไปกับกู กูขอโทษแทนมึงแล้ว” มันพูดจบคว้าข้อมือผมดึงออกไปทันที
ไอ้พวกที่เหลือก็รีบตามออกมา คนเริ่มสังเกตพวกผมแล้วด้วย เราทั้งหมดเลยรีบแยกย้ายกัน ไอ้ด้าอึ้งไปพักใหญ่เลยครับ มันไม่ยอมห่างตัวผมเลย สีหน้ามันกังวลสุด ๆ จนผมต้องบอกอย่างจริงจังว่าไม่เป็นไร มันค่อยยอมกลับแต่หน้าตาก็ยังซีเรียสอยู่
ผมขึ้นมาบนรถ จับ ๆ นวด ๆ ซี่โครง รู้สึกว่าจะกระแทกแรงอยู่เหมือนกัน สังเกตเห็นไอ้โป้งจ้องผมนิ่ง ก่อนที่มันจะขับรถออกไป พอเลยมหาลัยมาหน่อยมันเอื้อมมือไปลดเสียงเพลงลง
“ถ้าเลิกกับมัน มึงจะอยู่ได้ไหม” อยู่ ๆ มันก็ถามขึ้น
“........” ผมไม่ตอบ เอนหัวพิงเบาะด้วยความล้า เอื้อมมือไปเร่งวอลุ่มเพลงจากสถานีวิทยุที่กำลังเปิดอยู่ให้ดังยิ่งขึ้น หลับตาลง....แล้วฟัง....
“ถ้าจะมีแค่กู....จะได้รึเปล่าโน่” เสียงมันสั่นมากจนผมต้องหันไปมอง น้ำตามันไหลลงมาอย่างน่าตกใจ
“.......โป้ง” ผมปลดเบลท์ออก ยกมือไปเช็ดน้ำตาให้มัน
“กูไม่อยากเห็นมึงร้องไห้.....ไม่อยากให้ใครมาว่ามึง...อึกก...ถ้ามึงคบมันแล้วไม่มีความสุข...อึกก....” มันเงียบไม่พูดต่อ ตีไฟจอดรถข้างทาง
“กู.....ไม่อยู่ในสถานะที่จะพูดได้ ไม่ใช่ว่ากูอยากจะเก็บมึงไว้คนเดียว แต่ถ้าหากมึงคบกับมันแล้วมึงต้องทุกข์ขนาดนี้....กูก็อยากให้มึงคิดดูใหม่ นี่กูพูดในฐานะเพื่อน มึงเข้าใจกูใช่ไหม” มันทั้งพูดทั้งร้องจนผมต้องกอดมันเอาไว้ ลูบหลังมันเบา ๆ
“กูเจ็บใจที่มันว่ามึงเมื่อกี้...อึก... กูเสียใจที่ปกป้องมึงได้แค่นี้..อึก..อึก..ขอโทษครับ...อึก..กู..ขอโทษ” น้ำตาเต็มบ่าผมไปหมดมันร้องไห้จนตัวโยน ผมไม่รู้จะทำยังไงนึกถึงคำพูดที่ไอ้คิมพูดออกมาเมื่อกี้ ผมเองก็ฟิวส์ขาด ถ้าไอ้โป้งไม่จัดการมันแบบนั้น ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอะไรลงไปบ้าง.....
“โป้ง อย่าร้องไห้จนหลับนะเว้ย กูเองก็ง่วงเหมือนกันรีบกลับเร็วเข้า” ผมพยายามเปลี่ยนหัวเรื่องทำให้มันอารมณ์ดีขึ้น ไม่รู้ทำไม แทนที่ผมจะเป็นคนร้องแล้วให้มันปลอบ กลับกลายเป็นมันซะได้ที่ร้องไห้แล้วผมต้องมาปลอบแบบนี้
หึ! ไอ้นี่เนี่ย! มันเป็นเพื่อนที่หาได้ยากจริง ๆ ครับ......
เป็นทั้ง.....เพื่อน
เป็นทั้ง.....แฟน
เป็นแทบทุกอย่างของผมเลย.......
คิม!!
ทันทีที่ผมกับไอ้โป้งขึ้นไปถึงห้องก็เห็นมันยืนรออยู่ก่อนแล้ว สีหน้าและแววตาแสดงความอ่อนแอจนน่าตกใจ ที่มุมปากด้านซ้ายเป็นรอยช้ำสีเขียวเด่นชัดขึ้นมา
“โน่! เจ็บไหม?” มันเรียกถามเสียงสั่น ไอ้โป้งเลื่อนตัวมาบังผมไว้แล้วจูงมือผมเดินเข้าไปเพื่อไขกุญแจห้อง
“ให้กูดูหน่อย มึงเจ็บมากรึเปล่า” มันพูดขึ้นอีกทันทีที่ประตูถูกปิดลง ผมเดินเลี่ยงเข้ามานั่งอยู่หน้าโซฟา ส่วนไอ้โป้งหลังจากโยนกระเป๋าตังค์กับพวงกุญแจลงบนโต๊ะแล้ว มันก็เดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์กระป๋องขึ้นมา งัดเปิดฝา แล้วเดินมาหาผม
“เคลียร์กับมันซะ จะเอายังไงมึงก็บอกมันไป กูรออยู่ที่ระเบียง จะไม่เข้ามาจนกว่ามึงจะออกไปตาม” มันพูดจบเดินตรงไปเปิดประตูระเบียงออกไปทันที
ตอนนี้เหลือแค่ ผมกับมัน ที่อยู่ในห้อง
ไม่มีการเปิดทีวี....
ไม่มีเสียงเพลง....
ทุกอย่างเงียบ....
มันเดินเข้ามาหา ใช้สองมือจับเอวผมเอาไว้
“ขอโทษครับโน่ เดี๋ยวกูทายาให้นะ” ผมเบี่ยงตัวออก ทันทีที่มันพูดจบ
“อย่ามาใกล้กู กูไม่ได้เจ็บอะไรหรอก” ผมรีบเสหน้าไปอีกทาง
“.........” มันนิ่ง คงกำลังอึ้งกับคำพูดของผมอยู่
“แค่แผลภายนอกน่ะ กูไม่เคยสนใจอยู่แล้ว ไม่เคยเจ็บเท่าแผลที่เกิดขึ้นในใจกูเลย” ผมพูดโดยไม่มองหน้ามัน
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับมึง กูยังไม่เข้าใจมึงเลย มึงเป็นอะไร มึงบอกกูซิ มึงโกรธกูเรื่องอะไรโน่ ? ทำไมเรื่องราวมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้ ? มึงไม่เคยเป็นคนใจร้อนแบบนี้นี่” มันแสดงอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจน
ผมแกะสองมือของมันที่กอดเอวผมไว้ออก แล้วถอยหลังออกมามองหน้ามันชัด ๆ ไม่อยากเชื่อเลยว่ามันเป็นคิมคนเดียวกับที่ผมเคยรัก อะไรมาบังตามันไว้ ทำไมมันถึงได้โง่อย่างนี้ ไม่รู้สถานการณ์อะไรสักอย่าง ความเข้าใจในตัวผมของมันไม่มีอีกแล้ว!
“โน่ครับเรื่องเจสน่ะ เค้าไม่ใช่คนไม่ดีหรอกนะ เค้าเองก็เป็นห่วงมึง กูไม่เข้าใจเลยว่ามึงเข้าใจผิดเรื่องกูกับเจสได้ยังไง เค้าถึงขนาดขอร้องให้กูรีบมาดูมึงด้วยซ้ำ มึงรู้บ้างรึเปล่า”
สมองผมตื้อไปหมดเลยครับ นี่มันพูดอะไรออกมา อิเจสนะเหรอ..ดี... ผมหันหน้าไปอีกทางอย่างช้า ๆ เมื่อหลับตาลงน้ำตาก็ไหลลงมาอาบสองแก้มช้ำ อดคิดไม่ได้ว่าถ้ามันไม่ขอร้องมึง มึงคงจะไม่มาดูกูใช่ไหม?!
แต่..ผมไม่มีคำพูดโต้ตอบ
ร่างกายแน่นิ่ง
มีแต่น้ำตาเท่านั้นที่ไหลลงมาแม้เปลือกตายังปิดไว้แน่น
“โน่ครับ” มันเรียกแล้วเดินมากอดหลังผมไว้แน่น
“ไหนบอกกูซิ มึงยังรักกูอยู่ใช่ไหม” มันเกยคางลงที่ไหล่บางสั่นเทิ้มของผม
“......คิม มึงรู้ไหมอะไรที่เหนือกว่าคำว่ารัก ” ผมถามมันเสียงสั่น สองมือกำไว้แน่น
“........” มันเงียบ ไม่ตอบ กระชับวงแขนกอดผมแน่นขึ้นไปอีก
“ความเข้าใจของเราไงล่ะ! ความเข้าใจของคนที่คบกัน” ผมพูดแล้วหันกลับมามองหน้ามันชัด ๆ
“มึงรู้ไหมคิม ตอนนี้กูมองไม่เห็นเลย กูมองไม่เห็นคำ ๆ นั้นในหัวใจของมึงเลย ความเข้าใจที่มึงมีให้กูมันหายไปไหนหมด มึงถูกไอ้เหี้ยเจสบังตามึงไว้หมดรึยังไงกัน!”
ผมตะคอกมันด้วยอารมณ์ที่ขึ้นแบบสุด ๆ
“ทำไมมึงต้องไปว่าเค้าด้วยโน่ มึงพูดดี ๆ ไม่ได้รึยังไง ทำไมมึงต้องไปพาดพิงถึงคนอื่น!”
“ทำไมมึงต้องไปว่าเค้าด้วยโน่ มึงพูดดี ๆ ไม่ได้รึยังไง ทำไมมึงต้องไปพาดพิงถึงคนอื่น!”
มันเองก็ตอบกลับมาด้วยเสียงที่ไม่เบาเหมือนกัน
“ทำไมมึงต้องไปปกป้องมันด้วย มันเป็นอะไรกับมึง!” ผมกระแทกเสียงลงไปด้วยความโมโหสุดขีด
“ทำไมมึงต้องพูดคำนี้ มึงอยากให้กูมีอะไรกับมันมากนักรึไง!” มันตะโกนตอบหน้าตาเครียดจัด
“.........” ผมอึ้ง ถอยหลังออกมากัดฟันแน่นด้วยความน้อยใจ
“ไม่พูดถึงคนอื่นได้ไหม คุยแต่เรื่องของเรา” มันพูดแล้วเดินก้าวเข้ามาหา
“คิม” มันหยุด
...
“.....เราถอยกันคนละก้าวเถอะว่ะ” ผมพูดทั้งน้ำตาที่ไหลลงมา...มันช่างเป็นคำพูด....ที่พูดยากที่สุด....แต่ผมก็พูดมันออกมาแล้ว
“กูไม่ไหวแล้ว....จุดที่กูยืนอยู่มันเหนื่อยเกินไปมองไม่เห็นทางข้างหน้าเลย...กูอยากจะถอยออกมาก่อน..ถอยออกมาเพื่อมองอะไร ๆ ให้มันชัดขึ้น”
“......หึ....มึงใช้คำพูดหรูจังเลยนะโน่ แค่อยากจะเลิกกับกูจนถึงขนาดใช้คำว่าถอยคนละก้าว ทำไมมึงไม่พูดออกมาเลยว่าอยากเลิก อยากหยุด เลิกกับกูเถอะแบบนั้นไปเลยล่ะโน่!” มันตะคอกดังลั่น เดินหน้าเข้าหาผมทันที
“ถ้างั้นก็เลิ...ก....อื้ออออออออ....อื้อออ...” มันใช้ปากหยาบ ๆ ของมันจูบปิดคำพูดของผมไว้จนแน่น สองมือของมันล็อคใบหน้าผมไว้ น้ำตาผมไหลลงมาเป็นทาง ผมทั้งผลักทั้งทุบมันมั่วไปหมด มันกอดผมไว้แล้วผลักลงที่โซฟาอย่างแรง
“คิม!! อย่า......อื้อออ......อย่า .. อื้ออ.....คิม.....ฮึกก...ฮ.อื้อ....”มันระดมจูบลงมาไม่หยุดทั้งปากทั้งมือทั้งเท้าผมกับมันซัดกันนัวเนียผมดิ้นสุดกำลังที่มี ในที่สุดมันรวบข้อมือผมไว้ได้ กดแขนทั้งสองของผมลงข้างศีรษะ ผมร้องไห้จนสุดตัวน้ำตาไหลลงมาจนตื้อหายใจไม่ออก ร่างกายสั่นเทิ้มไปหมด .........ในที่สุดผมนิ่ง ไม่ตอบโต้....มีแต่น้ำตาเท่านั้นที่ยังต่อต้านมันอยู่....... จู่ ๆ มันก็หยุด ละริมฝีปากออกมา จ้องมองผมอยู่นาน ผมสะอื้นไห้จนตัวสั่น มองหน้ามันด้วยความรู้สึกเสียใจระคนความหวาดกลัว....
“....ทำไมต้องเลิก ทำไมต้องพูดคำนี้ออกมา......นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่มึงพูดคำนี้กับกู มึงจำได้รึเปล่าครั้งแรกที่มึงบอกเลิกกู มึงเจอกับอะไรโน่!” มันกัดฟันพูด ลงน้ำหนักที่ข้อมือทั้งสองข้างของผมจนยุบลงไปกับโซฟา
“มึงขู่กู ?” ผมถามมัน
“ไม่ได้ขู่ แต่กูทำได้จริง” มันจ้องผมด้วยดวงตาแดงก่ำ
“ทำร้ายกู...แบบที่มึงเคยทำน่ะเหรอ?”
“........” มันไม่พูด กัดกรามแน่นจนปากสั่น
ผมหลับตาลง ตัดสินใจพูดออกมา
“ถ้ามึงอยากทำ ก็ทำเลยคิม กูจะไม่ขัดขืนอะไร....แต่ถ้ามึงทำเสร็จแล้วกูขออิสระของกูคืน!.....ปล่อยกูไปเถอะ.....ฮึกก...อึกก...กูไม่ไหวแล้ว.....กูอยู่กับมึงแล้วไม่สบายใจ...ฮึกกก...กูไม่อยาก...อยู่กับมึงอีกแล้ว....ปล่อยกูไปคิม..ฮือ ๆ ๆ” ผมร้องออกมาอย่างไม่อาย
น้ำตาหยดหนึ่งของมันตกลงมาบนปลายจมูกผม แววตาที่บ่งบอกความแสนเจ็บปวดมองผมอยู่นาน....จนในที่สุด
“มึงอยากถอย....ความสัมพันธ์ของเรา ?” มันถามขึ้น
“.......ใช่”
“นานแค่ไหน ?”
“.........”
“ นานแค่ไหนโน่ ? ” มันถามย้ำเสียงสั่น
“ไม่มีกำหนดเวลาหรอก...ใครจะไปให้คำตอบของอนาคตได้..บางที..ทุกอย่างอาจจบไปเลยก็ได้”
“แล้วคำว่าถอยความสัมพันธ์ของมึง มันหมายความว่า...อึกก.... กูจะไม่มีสิทธิ์กอดมึงอีกแล้วใช่ไหม...อึกก....มึงจะไม่รักกูอีกแล้วใช่ไหม” มันทั้งถามทั้งร้อง
ผมหลับตาลงแน่นแล้วตอบ
“ใช่ ”
“ทำไมมึงต้องไปปกป้องมันด้วย มันเป็นอะไรกับมึง!” ผมกระแทกเสียงลงไปด้วยความโมโหสุดขีด
“ทำไมมึงต้องพูดคำนี้ มึงอยากให้กูมีอะไรกับมันมากนักรึไง!” มันตะโกนตอบหน้าตาเครียดจัด
“.........” ผมอึ้ง ถอยหลังออกมากัดฟันแน่นด้วยความน้อยใจ
“ไม่พูดถึงคนอื่นได้ไหม คุยแต่เรื่องของเรา” มันพูดแล้วเดินก้าวเข้ามาหา
“คิม” มันหยุด
...
“.....เราถอยกันคนละก้าวเถอะว่ะ” ผมพูดทั้งน้ำตาที่ไหลลงมา...มันช่างเป็นคำพูด....ที่พูดยากที่สุด....แต่ผมก็พูดมันออกมาแล้ว
“กูไม่ไหวแล้ว....จุดที่กูยืนอยู่มันเหนื่อยเกินไปมองไม่เห็นทางข้างหน้าเลย...กูอยากจะถอยออกมาก่อน..ถอยออกมาเพื่อมองอะไร ๆ ให้มันชัดขึ้น”
“......หึ....มึงใช้คำพูดหรูจังเลยนะโน่ แค่อยากจะเลิกกับกูจนถึงขนาดใช้คำว่าถอยคนละก้าว ทำไมมึงไม่พูดออกมาเลยว่าอยากเลิก อยากหยุด เลิกกับกูเถอะแบบนั้นไปเลยล่ะโน่!” มันตะคอกดังลั่น เดินหน้าเข้าหาผมทันที
“ถ้างั้นก็เลิ...ก....อื้ออออออออ....อื้อออ...” มันใช้ปากหยาบ ๆ ของมันจูบปิดคำพูดของผมไว้จนแน่น สองมือของมันล็อคใบหน้าผมไว้ น้ำตาผมไหลลงมาเป็นทาง ผมทั้งผลักทั้งทุบมันมั่วไปหมด มันกอดผมไว้แล้วผลักลงที่โซฟาอย่างแรง
“คิม!! อย่า......อื้อออ......อย่า .. อื้ออ.....คิม.....ฮึกก...ฮ.อื้อ....”มันระดมจูบลงมาไม่หยุดทั้งปากทั้งมือทั้งเท้าผมกับมันซัดกันนัวเนียผมดิ้นสุดกำลังที่มี ในที่สุดมันรวบข้อมือผมไว้ได้ กดแขนทั้งสองของผมลงข้างศีรษะ ผมร้องไห้จนสุดตัวน้ำตาไหลลงมาจนตื้อหายใจไม่ออก ร่างกายสั่นเทิ้มไปหมด .........ในที่สุดผมนิ่ง ไม่ตอบโต้....มีแต่น้ำตาเท่านั้นที่ยังต่อต้านมันอยู่....... จู่ ๆ มันก็หยุด ละริมฝีปากออกมา จ้องมองผมอยู่นาน ผมสะอื้นไห้จนตัวสั่น มองหน้ามันด้วยความรู้สึกเสียใจระคนความหวาดกลัว....
“....ทำไมต้องเลิก ทำไมต้องพูดคำนี้ออกมา......นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่มึงพูดคำนี้กับกู มึงจำได้รึเปล่าครั้งแรกที่มึงบอกเลิกกู มึงเจอกับอะไรโน่!” มันกัดฟันพูด ลงน้ำหนักที่ข้อมือทั้งสองข้างของผมจนยุบลงไปกับโซฟา
“มึงขู่กู ?” ผมถามมัน
“ไม่ได้ขู่ แต่กูทำได้จริง” มันจ้องผมด้วยดวงตาแดงก่ำ
“ทำร้ายกู...แบบที่มึงเคยทำน่ะเหรอ?”
“........” มันไม่พูด กัดกรามแน่นจนปากสั่น
ผมหลับตาลง ตัดสินใจพูดออกมา
“ถ้ามึงอยากทำ ก็ทำเลยคิม กูจะไม่ขัดขืนอะไร....แต่ถ้ามึงทำเสร็จแล้วกูขออิสระของกูคืน!.....ปล่อยกูไปเถอะ.....ฮึกก...อึกก...กูไม่ไหวแล้ว.....กูอยู่กับมึงแล้วไม่สบายใจ...ฮึกกก...กูไม่อยาก...อยู่กับมึงอีกแล้ว....ปล่อยกูไปคิม..ฮือ ๆ ๆ” ผมร้องออกมาอย่างไม่อาย
น้ำตาหยดหนึ่งของมันตกลงมาบนปลายจมูกผม แววตาที่บ่งบอกความแสนเจ็บปวดมองผมอยู่นาน....จนในที่สุด
“มึงอยากถอย....ความสัมพันธ์ของเรา ?” มันถามขึ้น
“.......ใช่”
“นานแค่ไหน ?”
“.........”
“ นานแค่ไหนโน่ ? ” มันถามย้ำเสียงสั่น
“ไม่มีกำหนดเวลาหรอก...ใครจะไปให้คำตอบของอนาคตได้..บางที..ทุกอย่างอาจจบไปเลยก็ได้”
“แล้วคำว่าถอยความสัมพันธ์ของมึง มันหมายความว่า...อึกก.... กูจะไม่มีสิทธิ์กอดมึงอีกแล้วใช่ไหม...อึกก....มึงจะไม่รักกูอีกแล้วใช่ไหม” มันทั้งถามทั้งร้อง
ผมหลับตาลงแน่นแล้วตอบ
“ใช่ ”
มันละตัวออกจากตัวผม ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา
ยกสองมือขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้โฮออกมาอย่างไม่อาย
ผมลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ มันร้องไห้ออกมาอย่างหมดอายเหมือนกัน เอื้อมมือไปกอดมันไว้แน่น โน้มศีรษะมันลงมาซุกลงบนบ่าผม ต้องเป็นผมเท่านั้นที่พูด แม้จะต้องกัดฟันพูดก็ต้องพูดให้ได้
“อย่าร้องไห้คิม.....ฮึกก.....กูแค่ขอถอยออกมาก่อน เรายังเป็นเพื่อนกันได้....กูไม่สัญญา...ว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้รึเปล่า....ถ้ามึงยังรักกู...ถ้าเรายังรักกัน...ฮึกก.....วันนึง ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เอง”
ผมลุกขึ้นนั่งข้าง ๆ มันร้องไห้ออกมาอย่างหมดอายเหมือนกัน เอื้อมมือไปกอดมันไว้แน่น โน้มศีรษะมันลงมาซุกลงบนบ่าผม ต้องเป็นผมเท่านั้นที่พูด แม้จะต้องกัดฟันพูดก็ต้องพูดให้ได้
“อย่าร้องไห้คิม.....ฮึกก.....กูแค่ขอถอยออกมาก่อน เรายังเป็นเพื่อนกันได้....กูไม่สัญญา...ว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้รึเปล่า....ถ้ามึงยังรักกู...ถ้าเรายังรักกัน...ฮึกก.....วันนึง ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้เอง”
ผม.....คนที่กำลังกลายจะเป็น........คนรักเก่าของมัน....นับจากนี้
ล้านคำขอโทษจากกู
ขอโทษที่ผิดสัญญา...ว่าจะอยู่ข้างมึงไปตลอด
ขอโทษที่ชอบเอาแต่ใจ......แต่มึงก็ไม่เคยบ่น
ขอโทษที่ชอบงอนไม่เข้าเรื่อง....แต่มึงก็คอยง้อ
ขอโทษที่ชอบให้รอคอย.....แต่มึงก็เฝ้ารอเสมอ
ขอโทษที่ทำให้มึงเสียใจ ร้องไห้.....วันนี้...
ขอโทษที่กูประคองความรักของเราไปต่อไม่ได้
......
และ
ขอโทษที่กู....ยังรักมึงอยู่...........และจะรักตลอดไป
ตอนที่ 19
ตุ่บ! ตุ่บ! ตุ่บ! ผั๊วะ!!
ตุ่บ! ตุ่บ! ตุ่บ! ผั๊วะ!!
“กินให้มันดีสิวะด้า จะรีบไปไหนของมึง” ผมกำลังตบหลังช่วยชีวิตไอ้ด้าอยู่ครับ มันกำลังสำลักขนมเค้กก้อนใหญ่ที่มันเสือกกระเดือกลงไปทั้งชิ้น
“อ่ะ.....แดกน้ำเข้าไปซะ ดูดดี ๆ ล่ะ เดี๋ยวเม็ดไข่มุกก็ติดคอมึงซ้ำเข้าไปอีกหรอก น้องมึงนี่แปลกว่ะโน่ แค่ขนมเค้กชิ้นเดียวยังไม่รู้จักแยกแยะว่าควรกินคำขนาดไหน สมควรแล้ว” ไอ้แบงค์เลื่อนแก้วชานมไข่มุกให้มันพร้อมคำสวดใส่ชุดยาวตามประสาเด็กแว่นวิชาการ
วันนี้งานกีฬาสัมพันธ์มหาลัยเราเป็นเจ้าภาพครับ ช่วงเช้าหลังจากส่งไอ้โป้งที่ฟุตบอลคลับเสร็จหลังจากนั้นก็นัดแนะกับไอ้แบงค์ไปเชียร์ไอ้ด้าแข่งบาส ส่วนไอ้ดิวกับไอ้คิมวันนี้ประจำอยู่ที่ปรัมพิธีตลอดไม่ต้องถามถึง และแน่นอนครับผลการแข่งบาสมหาลัยเราชนะไปได้อย่าสวยงามขาดลอย 2 แต้ม 55 ก็เลยเป็นเวรเป็นกรรมผมต้องพาไอ้ด้ามาเลี้ยงนี่ล่ะครับ อย่าถามเรื่องเมื่อคืนนะผมพยายามจะลบความทรงจำช่วงนั้นอยู่ หลีกเลี่ยงเรื่องเครียด ๆ เพลงเครียด ๆ ไอ้โป้งตื่นมาทำแซนวิชให้กินตั้งแต่เช้าไม่รู้อารมณ์ดีอะไรนักหนา
“โน่ แฮ่ก แฮ่ก....ผมไม่ยอมนะ เลี้ยงแค่นี้ผมไม่เอาอ่ะ” ไอ้คนที่สำลักอยู่ตะกี้ทั้งพูดทั้งส่ายหน้า คิดดูละกันผู้ชายตัวใหญ่ ๆ ทำหน้างอน ๆ อยู่กลางร้านเค้ก อายคนฉิบหาย นี่กูมากับเด็ก 5 ขวบรึเปล่าเนี่ย ผมกับไอ้แบงค์มองหน้ากันด้วยความระอา
“ถ้าเย็นนี้เฮียโป้งชนะโน่ต้องพาผมไปด้วย ผมรู้นะว่าวันนี้โน่จะไปเที่ยวกันน่ะ” ไอ้ตัวดียังพูดต่อ
“ด้า” ไอ้แบงค์เรียกมัน
“ถามจริง มึงไม่มีเพื่อนไม่มีฝูงเหรอวะ มาตัวติดพวกกูขนาดนี้ หนังสือหนังหาอ่านบ้างเปล่ามึง?” ไอ้แบงค์ซักฟอกมันต่อ
“อ่านนนน.....แค่วันนี้อยากอยู่กับโน่ ผมเรียนหนักออก จะได้พักก็เฉพาะช่วงนี้แหละเดี๋ยวก็ต้องเตรียมตัวสอบแล้ว แล้วตกลงโน่ให้ผมไปด้วยนะ” มันยังอ้อนผมต่ออีกครับไอ้เด็กนี่มันจริง ๆ เลย
“มึงอ้อนไอ้โน่แบบนี้ระวังโดนตีนไอ้โป้งกับไอ้คิมนะเว้ย” ไอ้แบงค์แซวขึ้น มันยังไม่รู้เรื่องผมกับไอ้คิมครับ
“ไม่สนหรอก โน่เป็นเหมือนพี่ผม ผมตามโน่ไม่เห็นเป็นไร แล้วตกลงเย็นนี้ว่าไง? ให้ผมไปด้วยนะครับโน่” มันตอบแบบไม่สนใจแถมยังหันมาถามผมต่ออีก
“เอออออ! มึงนี่ตัวรู้ดีจริง ๆ แล้วจะไปเชียร์ไอ้โป้งกับกูรึเปล่า?”
“ ไปครับไปโน่ไปไหนผมไปด้วย” มันรีบตอบใหญ่เลย ไอ้แบงค์ส่ายหัวเบา ๆ กับคำตอบที่เหมือนเด็กติดพี่ของมัน
ผมยกนาฬิกาขึ้นดู บ่าย 4 โมงแล้ว อีกชั่วโมงเดียวบอลจะเริ่มแข่ง ผมเดินเอาบิลไปเคลียร์พวกมันสองคนออกไปยืนรออยู่ที่หน้าร้าน จากนั้นเราทั้งหมดก็ตรงไปที่สนามใหญ่ทันที ไอ้แบงค์โทรหาไอ้ดิวจัดแจงนัดแนะกันเรียบร้อยให้มันหาที่นั่งเหมาะ ๆ ทางฝั่งเราไว้ โชคดีที่มันทำงานอยู่แถวปรัมพิธีพอดี
เราไปถึงสนามบอลก่อนเวลาเล็กน้อย ไอ้ด้าแวะซื้อผลไม้ไปนั่งกินด้วย ไอ้ดิวพอเจอพวกเราก็พาไปหาที่นั่งที่มันดิวกับไอ้โป้งจองไว้ให้ก่อน เพราะฉะนั้นตอนนี้พวกผมก็เลยได้มานั่งหน้าสลอนอยู่ด้านหลังทีมนักกีฬาแบบชิดติดขอบสนามจริง ๆ
“โน่!” ไอ้โป้งที่กำลังยืดเส้นยืดสายอยู่กลางสนามวิ่งเข้ามาหาทันทีที่พวกเรานั่งลง
“ขอกำลังใจหน่อยดิ” มันพูดทำหน้าทะเล้น
“จะเอาอะไรมือหรือตีน” ผมตอบไปกวน ๆ
“........” มันเงียบเท้าสะเอวหรี่ตามองดูผมอย่างเอาเรื่องก่อนจะโน้มตัวลงมา
“เอาทั้งตัวเลย คืนนี้นะ!” พูดแล้ววิ่งเลยครับมันน่ะ ผมชี้หน้าคาดโทษมันอย่างเอาเรื่องโทษฐานกวนประสาทอย่างแรง มาเล่นบ้าอะไรที่แบบนี้ยิ่งกลัวคนได้ยินอยู่ ไอ้ด้าก็นั่งติดกันซะ!
ผมเบะปากแกล้งงอนลอยหน้าลอยตาไปตามเรื่องมองโน่นมองนี่ สายตาไปสะดุดกับร่าง ๆ นึงที่ยืนคุยกับอาจารย์อยู่หน้าโพเดี้ยมหลัก สีหน้ามันฟ้องมากว่าเหนื่อยล้าเหลือเกิน แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงความดูดีไว้ในสไตล์มัน เรื่องเมื่อคืนแวบเข้ามาในใจผมอีกครั้ง...
คำพูดสุดท้ายที่มันทิ้งไว้ให้ก่อนขอตัวกลับไป “คนที่กูรักมีแค่มึงเท่านั้นโน่ กูจะรักตลอดไป จำไว้ด้วยนะครับ”
ผมอยากกอดมันอีกสักครั้งครับ ไม่ใช่แค่มันหรอกที่รักผม ผมเองก็รักมันเหมือนกัน
คงมีแต่เวลาเท่านั้น.....ที่จะพิสูจน์ทุกอย่างได้....
.....
....
“กูเก่งใช่ไหมโน่ ?” ไอ้โป้งวิ่งเข้ามาตะโกนใส่ผมทันทีที่เกมส์จบลงทีมเราเป็นฝ่ายชนะไปอย่างสวยงามด้วยสกอร์ 1-0 ผู้คนเริ่มวิ่งทยอยเข้าสนามเต็มไปหมด เสียงมาร์ชเชียร์ของมหาลัยเราดังกึกก้อง นักกีฬาตั้งแถวรับเหรียญ คนลุกฮือเต็มไปหมดกว่าพวกผมจะแทรกตัวออกมาได้ก็แทบแย่ พวกเราใช้เวลาสักพักไปรอไอ้โป้งอยู่บริเวณหน้าห้องเปลี่ยนชุดของนักกีฬาซึ่งอยู่ภายในตัวอาคาร ไอ้คิมเดินสวนเข้ามาพอดี มันหยุดมองผม
คงมีแต่เวลาเท่านั้น.....ที่จะพิสูจน์ทุกอย่างได้....
.....
....
“กูเก่งใช่ไหมโน่ ?” ไอ้โป้งวิ่งเข้ามาตะโกนใส่ผมทันทีที่เกมส์จบลงทีมเราเป็นฝ่ายชนะไปอย่างสวยงามด้วยสกอร์ 1-0 ผู้คนเริ่มวิ่งทยอยเข้าสนามเต็มไปหมด เสียงมาร์ชเชียร์ของมหาลัยเราดังกึกก้อง นักกีฬาตั้งแถวรับเหรียญ คนลุกฮือเต็มไปหมดกว่าพวกผมจะแทรกตัวออกมาได้ก็แทบแย่ พวกเราใช้เวลาสักพักไปรอไอ้โป้งอยู่บริเวณหน้าห้องเปลี่ยนชุดของนักกีฬาซึ่งอยู่ภายในตัวอาคาร ไอ้คิมเดินสวนเข้ามาพอดี มันหยุดมองผม
“มารอมัน ?” มันถามขึ้นด้วยสีหน้าโคตรเศร้า
“อืม” ผมตอบเลี่ยงไม่มองหน้ามันมากนัก
“คืนนี้พวกมึงไปไหนกัน” มันหันไปถามไอ้แบงค์
“ที่..........นัดกันว่างั้น มึงไปด้วยกันดิ”
“อือ..เดี๋ยวกูตามไป” มันตอบแล้วหันมามองผมนิดหน่อย
“แต่มึงห้ามเอาใครไปนะเว้ย! เฉพาะมึง! คนอื่นพวกกูไม่ต้อนรับ” ไอ้แบงค์เน้นคำว่า เฉาะมึง ลงไปอย่างชัด
“เจอกัน” มันพูดแล้วเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดนักกีฬา สวนทางกับไอ้โป้งเดินออกมาพอดี
“เฮ้ยคิม!” ไอ้โป้งเรียกมันไว้ มันหยุดแล้วหันมามอง
“วันนี้พวกกูจะไปต่อกันที่.......มึงไปด้วยกันป่ะ 4 ทุ่มนะ ถึงแล้วโทรหากูก็ได้” มันพูดจบเดินมา กอดคอผมลากออกไปด้วยกันทันที ผมเหลือบมองไอ้คิมเล็กน้อย เห็นมันยืนมองผมตาละห้อยแล้วก็เดินเข้าไปด้านใน
ผมแยกกับพรรคพวก นัดแนะเรื่องคืนนี้กันเรียบร้อย ผมกับไอ้โป้งตรงกลับคอนโดกันก่อน ผมยังไม่ทานข้าวเลย หิวจนแสบท้องไปหมดมันไม่ยอมแวะทานข้างนอกบอกจะทำให้กินเอง ผมเลยต้องหิ้วท้องรอมันแบบนี้ล่ะครับ
“ขอบใจมากว่ะโป้ง” ผมพูดกับมันทันทีที่มันเลี้ยวรถออกมาจากประตูมหาลัย
“เรื่องไรวะ” มันหันมาถามนิดหน่อย
“เรื่องไอ้คิม มึง...ไม่ได้ทำเหมือนมันเป็นคนอื่น”
“....หึ มันจะเป็นคนอื่นไปได้ยังไงล่ะโน่ มันเป็นเพื่อนกูนะ แล้วตอนนี้มันก็กลายเป็นเพื่อนคนนึงของมึงแล้วด้วย แค่เพื่อนนะ เข้าใจ๊!!”
มันหันมาเน้นประโยคหลังให้ผมได้ยินอย่างชัด ผมยิ้มบาง ๆ ให้มันปรับเบาะเอนลงเล็กน้อย มันยื่นมือมายีหัวผมเล่นเบา ๆ
“อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย มึงจะต้องผ่านมันไปให้ได้ เดินไปพร้อมกันกับกู ไม่มีอะไรที่มึงต้องกลัว” ผมหลับตาลงแน่นทันทีที่มันพูดจบ
มันจะเป็นอย่างนั้นจริง ?
อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอนไม่ใช่รึไง ?
จากเพื่อน...กลับกลายไปเป็น...แฟน
จากแฟน. .กลับกลายไปเป็น...เพื่อน
แค่นี้ก็ยืนยันความไม่แน่นอนของอนาคตได้แล้ว....
อย่าพูดคำสวยหรูให้กูได้ยินนักเลย
กูกลัว.........
กลัวความไม่แน่นอน!
.....
....
“ทางนี้โว้ย โน่!” เสียงไอ้ดิวโบกไม้โบกมือเรียกผมกับไอ้โป้งอยู่แถว ๆ ทางเข้าผับ โหย...มันแต่งตัวซะแปร็ด ตามสไตล์มันเปี๊ยบเลย
.....
....
“ทางนี้โว้ย โน่!” เสียงไอ้ดิวโบกไม้โบกมือเรียกผมกับไอ้โป้งอยู่แถว ๆ ทางเข้าผับ โหย...มันแต่งตัวซะแปร็ด ตามสไตล์มันเปี๊ยบเลย
“ไอ้แบงค์ ?” ไอ้โป้งถามขึ้น
“ด้านในโว้ย ไอ้ด้าไอ้คิมก็มาแล้ว พวกอีฟ้ากับแฟนมันก็มาแล้วเหมือนกัน” มันตอบแล้วเดินนำพวกผมเข้าไปด้านใน วันนี้พวกเรามากันเกือบครบทีม
พอเข้าเจอพวกมันนั่งกันอยู่ก่อนแล้วเป็นมุมตรงกลางติดกับผนังพอดี โซฟาใหญ่ 3 ตัวหันหน้าเข้าหากัน มีโต๊ะเครื่องดื่มอยู่ตรงกลาง โห...ผับหรูแม่ง! ผมไม่เคยมาที่นี่มาก่อนเลย ใครวะช่างสรรหา มองไปรอบ ๆ เห็นเด็กมหาลัยเราอยู่หลายทีมเลยครับ คงนัดกันมาฉลองหลังงานกีฬาเหมือนกัน
ไอ้ดิวกับไอ้แบงค์นั่งเบียดกันอยู่น่ารักมากเลยครับเดี๋ยวก็ด่ากันเดี๋ยวก็หัวเราะกัน ผมกับไอ้โป้งนั่งข้าง ๆ กัน ไอ้คิมนั่งติดกับไอ้ด้า ซึ่งไอ้ด้าก็นั่งอยู่ข้าง ๆ ผมนี่ล่ะครับ มันนั่งเงียบไม่พูดไม่จา ดื่มเครื่องดื่มในแก้วของมันไปมีแต่ไอ้ด้าที่นั่งอยู่ข้าง ๆ คอยชงเหล้าเติมน้ำแข็งให้มันตลอด เออ..ให้มันดูแลกันและกันก็ดี(อันนี้กูแอบคิดเอง 555)
“ขยับมาอีก..เร็ว!” เสียงไอ้โป้งดังขึ้นข้างหู
“โป้ง มึงนั่งดี ๆ สิวะ เบียดกูจนจะนั่งอยู่บนตักกูอยู่แล้วเนี่ย” ผมว่ามันไปเมื่อผมเริ่มรู้สึกว่ามันเริ่มเบียดผมจนแน่นแถมยังบอกให้เขยิบไปหาอีก แถมเอื้อมมือมากอดเอวไว้ มึงช่างไม่อายเพื่อน ๆ คนอื่นบ้าง
“ไรอ่ะโน่ กอดหน่อยก็ไม่ได้” ผมมองหน้ามันทันทีที่มันพูดจบ ไอ้ห่าเพิ่งกินไปแค่แก้วเดียวมึงทำท่าทางอย่างกับเมาแล้ว นัวเนีย ๆ อยู่ข้าง ๆ หูกูนี่แหล่ะ
“โป้ง อย่านะมึง” ผมรีบหันไปดันหน้ามันไว้ครับ กลัวมันแอบมาหอมแก้ม ตอนนี้จมูกเริ่มอยู่ไม่สุขแล้วด้วย มันหัวเราะออกมาเบา ๆ แล้วหันไปคุยกับพี่พิมแฟนของฟ้าที่นั่งอยู่ข้างๆมันต่อ
“เดี๋ยวกูไปห้องน้ำแป็บ” ผมลุกขึ้นแล้วบอกพวกมัน ไอ้คิมแหงนหน้าขึ้นมองเล็กน้อย ส่วนไอ้โป้งคงไม่ได้ยินเพราะมัวแต่คุยกับพี่เค้าอยู่ท่าทางถูกคอกันน่าดู
“ผมไปด้วยโน่” ไอ้ด้าลุกขึ้นเดินตามออกมา
“ไปไหน? ” เสียงไอ้โป้งถามขึ้นตอนที่ผมกำลังจะเดินออกไป
“ห้องน้ำ เดี๋ยวมา” ผมตอบมัน มันพยักหน้าให้
พวกเราเดินลัดเลาะผ่านไปด้านข้างของอีกฝั่ง ผับกว้างมากเลยครับมีชั้นลอยด้วย แถวบันไดสาว ๆ งี้ตรึม! นุ่งสั้น ๆ กันทั้งนั้น มีคนส่งสายตาให้ผมด้วยนะแต่ไม่สนใจหรอกครับ ตอนนี้สายตาจับอยู่ที่มือกลองของวงที่กำลังเล่นอยู่มากกว่า แม่ง! น่ารักโคตร ใส่หมวกแค็ปดำผมยาวระมาที่คอที่สำคัญคือตุ้มหูไม้กางเขนฝังเพชรที่ยาวลงมาข้างเดียวนั่นมากกว่า แม้จะใส่แค่เสื้อยืดขาวกับยีนส์สีอ่อนนั่งอยู่ด้านหลังกลองชุดใหญ่ ก็ไม่หลุดสายตาผมไปได้ โอยย.....นี่ผมกำลังมองผู้ชายอยู่หรือนี่?? ไม่อยากจะเชื่อตัวเองเลย กูเป็นแน่นอนแล้ว 100 % ......
พอถึงห้องน้ำผมกับไอ้ด้าแยกกันจับจองคนละโถครับ โทรศัพท์ไอ้ด้าเสือกดังขึ้นมาพอดี มันชักสีหน้าเล็กน้อยก่อนขอตัวเดินออกไปรับด้านนอก(แน่นอนครับคงขัดความสุขมันอย่างแรง) ผมจัดการตัวเองเรียบร้อยเดินออกมาล้างมือ กำลังจะเดินไปดึงกระดาษ ก็ต้องชะงัก อิเจส!! มันยืนพิงฝากอดอกจ้องมาที่ผม โหยย...ไอ้เหี้ย มึงจะใส่หมวกปิดลงมาแค่ไหนกูก็จำมึงได้อยู่ดีนั่นแหละ แต่งตัวซะแม่ง ทำเป็นลึกลับ
“ขอบใจมึงนะที่ช่วยรับบทนางร้ายแทนกู” มันพูดขึ้นจ้องมาที่ผมอย่างท้าทาย
“หึหึ พี่คิมนี่ก็ซื่อดีเนอะ คิดว่ากูเป็นคนดีซะงั้น แต่!.....ผู้ชายแบบนี้แหละที่กูชอบ คุมง่ายดีว่ะ มึงว่างั้นมะ”
มันยื่นหน้ายื่นตาพูดใส่ผม ผมจ้องมันอย่างไม่เข้าใจว่ามันต้องการอะไรกันแน่ มันเดินเข้ามาหาจ้องหน้าผมนิ่ง ผมมองมันด้วยความเวทนา นี่มันคงยังไม่รู้เรื่องผมกับไอ้คิม แต่อย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน เดี๋ยวกูจะเล่นกับมันสักหน่อย
“กูชอบพี่คิม กูจะเอาเค้ามาเป็นของกูให้ได้ มึงเตรียมใจไว้ได้เลย!!”
“.........” โอ้โห ผมอึ้งเลย อะไรดลใจให้มันกล้าพูดถึงขนาดนั้น ไม่คิดว่ามันจะแรงได้ถึงขนาดนี้
“.........” โอ้โห ผมอึ้งเลย อะไรดลใจให้มันกล้าพูดถึงขนาดนั้น ไม่คิดว่ามันจะแรงได้ถึงขนาดนี้
“มาเที่ยวด้วยกันแต่นั่งห่างกันซะขนาดนั้น กูดูก็รู้แล้วว่าพวกมึงมีปัญหากันอยู่ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ อ่อนนะครับโน่ มึงอ่ะ เดี๋ยวกูจะทำให้มึงดูเอง กูจะแย่งของ ๆ มึงต่อหน้าต่อตามึงนี่แหละ เตรียมใจไว้ซะ!”
มันกัดฟันพูดต่อหน้าผม ไอ้ด้าเดินเข้ามาพอดี มันมองผมที่ตอนนี้กำลังเดือดได้ที่แล้ว ถึงจะเลิกกันแล้ว แต่ก็แค่วันเดียวความรู้สึกหวงของผมก็ยังคงหลงเหลืออยู่แน่ ยิ่งถ้าต้องเสียไอ้คิมให้คนร้าย ๆ อย่างมัน ถึงไอ้คิมจะเป็นแค่เพื่อน ผมก็ยังเสียดายเลย
“โน่” เสียงไอ้ด้าเรียกสติผมให้กลับคืนมา
“โอ้โห.... มึงเองก็ใช่ย่อยนี่หว่า เล่นผู้ชายพร้อมกันหลายคนขนาดนี้ แบ่งให้กูสักคนสองคนคงไม่เป็นไรมั้ง ฮ่ะฮ่ะ” โหย.....กูจะไม่ไหวแล้ว
“มึงหยุดพูดเลยนะ! ไอ้เหี้ย! ” ไอ้ด้าพูดขึ้นพร้อมผลักไหล่อิเจสให้ออกห่างจากตัวผม
“ด้า! ออกไปเหอะ อย่าสนใจมัน” ผมต้องรีบพาไอ้ด้าออกไปก่อนดีกว่า ท่าทางมันจะขึ้นแล้ว กำลังจะเดินพ้นประตูห้องน้ำอยู่แล้วผมนึกบางอย่างขึ้นมาได้ เดี๋ยวเล่นกับมันซะหน่อย
“ เจส” ผมเรียกมัน
“กูแดกมันจนอิ่มแล้วว่ะไอ้คิมน่ะ! ถ้ามันยอมให้มึงแดก มึงก็เอามันไปเหอะ แต่!...ไอ้นี่มันแดกแต่ของดี ๆ นะโว้ย! มึงต้องทำใจหน่อย!!! ”
ไม่รอให้มันพูดต่อครับผมเดินออกมาทันที ได้ยินแต่เสียงกรี๊ดยาว ๆ ดังแว่วออกมาจากด้านใน
“โน่ นานนนนน” พอนั่งลงปุ๊บมันก็ต่อว่าผมทันทีแถมทำหน้างอนปากจู๋อีกต่างหาก
“มึง 5 ขวบรึไงโป้ง กูไปห้องน้ำนะครับห้องน้ำ” ผมจ้องมันทำตาให้ดูโตที่สุดมันจะได้กลัว
“จุ๊บ”
“ไอ้โป้ง ไอ้เหี้ย! ” ผมรีบหันซ้ายหันขวาทันที ไอ้นี่ทำบ้าอะไรของมัน ยิ่งกลัวเพื่อนเห็นเสือกมาหอมที่คอกูอีก พอด่ามันมันก็หัวเราะร่าเลย เอื้อมมือมากอดเอวผมไว้หลวม ๆ แล้วหันไปคุยกับพี่พิมแฟนของฟ้าต่อ
“มันทำอะไรโน่รึเปล่า เมื่อกี้” เสียงไอ้ด้าดังขึ้นข้าง ๆ
“ฮึ อะไรนะด้า มึงว่าไร” ผมไม่ค่อยได้ยินครับเสียงเพลงค่อนข้างดังแล้วก็กำลังฟังไอ้โป้งโม้อยู่กับพี่พิมพ์เกี่ยวกับเครื่อง GPS ที่พี่เค้าเพิ่งถอยมาใหม่ผมกำลังสนใจรุ่นนี้อยู่พอดี
“ไม่เป็นไรใช่ไหมเมื่อกี้ในห้องน้ำ” มันหันมาถามอย่างจริงจัง
“อ๋อ ไม่เป็นไร ชิล” ผมพยักหน้าตอบมัน พวกเรานั่งคุยโน่นคุยนี่กันเรื่อยเปื่อย พอสักตีหนึ่งต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับ ไอ้ดิวกับไอ้แบงค์กลับด้วยกัน ไอ้คิมกลับคนเดียว พวกฟ้ากลับรถพี่พิม ส่วนผมกับไอ้โป้งเดินออกมากับไอ้ด้า
“ขับดี ๆ ล่ะมึง ยิ่งมอไซด์ กลางคืนมันอันตราย” ผมพูดขึ้นหลังจากส่งมันที่รถ จริง ๆ แล้วเป็นทางผ่านไปรถพวกผมมากกว่าครับแต่มันคงไม่รู้หรอก ฮ่าฮ่า
“ไปแล้วครับโน่ ไปแล้วเฮีย พาโน่กลับดี ๆ ล่ะ” มันโบกไม้โบกมือให้ผมกับไอ้โป้งก่อนสตาร์ทรถขับออกไป
ไอ้โป้งเอื้อมมือของมันมาซ้อนจับมือผมไว้ เราสองคนเดินจูงมือกันไปที่รถครับ ไม่รู้ทำไมทั้งที่เส้นทางที่เราเดินไปนั้นมืดมากแต่ผมกลับไม่รู้สึกกลัวเลย หรือจะเป็นเพราะเจ้าของมือใหญ่มือนี้... ผมหันไปมองหน้ามันนิดหน่อยก่อนจะแอบยิ้มอยู่คนเดียวในใจ อดคิดไม่ได้ว่าถ้ามีมือใหญ่อีกมือจับผมไว้อีกข้างแล้วเดินไปพร้อมกันทั้งสามคนจะดีแค่ไหน...แต่ก็ต้องส่ายหัวไล่ความคิดชั่ววูบนั้นออกไป
“เดี๋ยวถึงแล้วกูทำโจ๊กให้กิน ตอนนอนมึงจะได้สบายท้อง” มันพูดขึ้นทำลายความเงียบฉุดผมขึ้นจากภวังค์พร้อมกระชับมือให้แน่นขึ้นไปอีก
“ขับไหวรึเปล่า หรือจะให้กูขับ” ผมถามขึ้นเพราะรู้สึกหน้ามันแดง ๆ ไงไม่รู้
“หึหึ ไหวสิไม่ได้เมาสักหน่อย ที่หน้าแดงเพราะอย่างอื่นต่างหาก ไม่รู้เหรอ..หืมม”
มันพูดยิ้ม ๆ พร้อมกดรีโมทเปิดรถส่งผมขึ้นฝั่งคนนั่ง ผมขึ้นรถได้ก็รีบปรับเอนเบาะเลยครับ ชักง่วง ๆ แล้วร้านก็ค่อนข้างไกลจากคอนโด เพราะงั้นกว่าจะถึงคงไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงแน่ ขอหลับสักตื่นก่อน มันเอื้อมมือมาลูบหัวผมเบา ๆ หยิบเสื้อคลุมที่วางอยู่เบาะหลังมาห่มให้ผมที่หน้าอก
“อืมม...........” ริมฝีปากอุ่น ๆ ที่มีรสฝาดของเหล้าจูบลงมาที่ริมฝีปากผมอย่างอ่อนโยน..เรียวลิ้นอุ่น ๆ สอดแทรกเข้ามาตวัดหยอกล้ออย่างนุ่มนวล...สักพักมันเพิ่มน้ำหนักขึ้นดูดดุนปลายลิ้นผมเล่น
“อื้ออ...โป้ง.....พอ..พอก่อน..แฮ่ก ๆ ๆ ” ผมดันหน้าอกมันออก รีบส่ายหน้าควานหาอากาศหายใจ มันอมยิ้มจ้องมองผมด้วยแววตาแสนซุกซน
“เล่นไรของมึง ทำไมวันนี้จูบกูแปลก ๆ ” ทุกทีมันจูบเก่งมากผมไม่เคยขาดออกซิเจนแบบนี้เลย
“ก็อยากแกล้งอ่ะ เวลามึงงอนกูชอบดู” สายตาแม่ง!คงอยากเต็มที่แล้ว
“รีบกลับได้แล้วมัวแต่ดูดปากกูอยู่เนี่ย มันจะถึงมั๊ยห้องน่ะ! กูจะนอน ถึงแล้วปลุกด้วย” ผมเอาเสื้อที่ห่มอยู่ขึ้นมาคลุมหัวทันที หลับตานอนเลยครับ รู้สึกง่วง ๆ มึน ๆ ได้ยินแต่เสียงมันหัวเราะผมเบา ๆ
รถเคลื่อนตัวออกไปแล้วผมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้ พอถึงคอนโดไอ้โป้งปลุกขึ้นมาแล้วเราก็ขึ้นห้องไปด้วยกัน พอถึงห้องปุ๊บผมทิ้งตัวนอนลงที่โซฟาทันทีครับ ง่วงมากอยากนอนต่อ ไม่อยากอาบน้ำแล้ว คงเพราะมึนจากแอลกอฮอล์หน่อย ๆ ด้วย
สักพักไอ้โป้งเดินมาปลุกให้เข้าไปนอนดี ๆ ด้านใน มันบังคับผมอาบน้ำจนได้ จับผมถอดเสื้อผ้าใครจะไปทนนั่งอยู่ได้ผมเลยรีบเข้าไปจัดการตัวเอง มันตามเข้ามาด้วย เราสองคนอาบน้ำด้วยกันเป็นเรื่องปกติไปแล้วครับ แต่คราวนี้มันรีบอาบรีบเสร็จเห็นบอกจะไปเตรียมอะไรไว้ให้กิน พอมันออกไปผมถือโอกาสสระผมเลยรู้สึกหัวเหม็นบุหรี่มาก เวลาไปเที่ยวแบบนี้ทีไรดึกดื่นแค่ไหนก็ต้องกลับมาสระครับไม่งั้นกลัวกลิ่นติดหมอน หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเป่าผมจนแห้ง ผมหาบางอย่างที่หน้ากระจกไม่เจอเลยรีบวิ่งออกมาด้านนอก
“โป้ง ยางมัดผมกูล่ะ อันสีดำน่ะ มึงแอบเอาไปรึเปล่า” ผมร้องถามมันพร้อมเดินหาไปทั่วห้อง
“เอ้ย! ผมกูสั้นขนาดนี้จะเอาไปมัดตรงไหนครับโน่” มันตอบกลับมาจากในครัว
“แต่กูเห็นมึงชอบแอบเอาของกูมาเล่น เมื่อคืนกูวางไว้หน้ากระจกดี ๆ มึงนั่นแหละที่เอาไป” ผมทั้งบ่นทั้งหา ตรงเคาท์เตอร์ก็ไม่มี เปิดดูในลิ้นชักก็ไม่มี บนทีวีก็ไม่เห็น
“อะไรครับโน่กูไม่ได้เอาไปนะ มึงอ่ะชอบวางของไม่เข้าที่เดี๋ยววันหลังหากล่องสวย ๆ ให้ใส่ให้ดีมั๊ย” มันยังบ่นตอบกลับมาอีก
ผมเริ่มสังเกตว่ามีชามโจ๊กวางอยู่ที่โต๊ะหน้าโซฟา ผมหันไปมองหน้ามัน แล้วก็ก้มลงดูสิ่งที่อยู่ในชาม
“โจ๊กเซเว่น!” ผมอุทานออกมา
“ครับใช่”
“.........” ผมเงียบ
“โน่ครับ....ไม่เอานะ...อย่าบอกนะว่าจะใจร้ายให้กูตุ๋นโจ๊กของจริงให้มึงอ่ะ ตี 2 แล้วนะครับที่รัก” มันพูดหน้าจ๋อยเดินถือแก้วน้ำกับไอติมแท่งใส่ถ้วยมาวางลงให้ผม
“แต่กูไม่ชอบกลิ่นมันหมูก็ไม่อร่อย” ผมบอกแล้วนั่งลงกดรีโมทเปิดรายการที่ผมชอบ ไม่ยอมแตะสิ่งที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ทำไมครับ.....หืม” มันนั่งลงด้านหลังยกขาขึ้นมาคร่อมตัวผมไว้แล้วโอบตัวผมเข้าไปชิดในหว่างขาแกร่งของมัน
“ยางมัดผมกูก็หาย แถมยังต้องกินโจ๊กที่กูไม่ชอบอีก” ผมเริ่มบ่นหน้างอ
“จุ๊บ! หูหอมจัง” มันเปลี่ยนเรื่องจนได้สิ จูบลงที่หูทำเอาผมขนลุกซู่ไปหมด
“ไหนดูซิ ตั้งรึยัง หืม” มันไม่พูดเปล่าเอามือมาทั้งบีบทั้งนวดผ่านกางเกงบอลนุ่ม ๆ ตัวเก่งของผม
“อื้ออ.....อย่าเล่น...เจ็บ” ผมจับมือมันออก
“อยากจับ” มันพูดเสียงแผ่ว มือมันก็นวดเล่นไปเรื่อย
“ไม่เอาเดี๋ยว...อึม...อืมมม...” เร็วจริง ๆ มันน่ะ ไม่รู้อะไรของมันนักหนาพลิกตัวกลับมาได้ ด้านบนปากก็ดูด ด้านล่างมือก็นวดไป มันทั้งนวดทั้งจูบอยู่ได้สักพักก็ละริมฝีปากนุ่มออกมาจ้องหน้าผมด้วยแววตาโคตรอ้อน
“ทำนะครับ วันนี้กูอยากทำ” พูดแล้วซบลงที่อกผม
“ก็ได้ แต่วันนี้ตากูนะ!” ผมบอกหน้านิ่ง ใช้สายตาซุกซนมองมัน
“ !!!! ” อึ้ง! อึ้งสุดขีด ท่าทางมันช็อคมาก ผมอยากหัวเราะจริง ๆ อยากให้มันเห็นหน้าตัวเองตอนนี้มากเลย ตลกสุด ๆ ไอ้ตัวโคตรหื่นเมื่อกี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
ผมพลิกตัวขึ้นมาอยู่ด้านบนมันทันที เอาจังหวะที่มันกำลังช็อคนี่แหละเหมาะสุด ถอดเสื้อมันออกด้วยความรวดเร็ว ส่วนเสื้อของตัวเองน่ะไม่ต้อง เพราะผมไม่ได้ใส่อยู่แล้ว ก้มตัวลงไปจูบเข้าที่ยอดอกสีชมพูนั้นของมัน ขบเม้มจนแดงไปหมด เสียงมันกัดฟันซี้ดปากดังมาเป็นระยะ ยิ่งได้ยินเสียงผมยิ่งได้ใจ ใช้ขาข้างนึงถีบโต๊ะเล็กหน้าโซฟาออกห่างจากตัวเพราะกลัวชามโจ๊กจะหก ผมจู่โจมยอดอกชูชันอันน้อยนิดสองข้างของมันทั้งปากทั้งมือ กระหน่ำให้มันสะใจไปเลย ทำไมมันมีนมก็ไม่รู้สงสัยออกกำลังกายบ่อย ยิ่งเห็นก็ยิ่งดูดยิ่งดึง เมามันส์มาก
“อืมม......โน่...ซี๊ดส์” มันครางเสียงสั่น ยิ่งทำให้ผมหึกเหิมขึ้น ใช้สะโพกถูไถเสียดสีกับสิ่งที่ตุงสุดขีดอยู่ใต้เนื้อผ้ามันบาง
“อ๊ะ! โน่” มันร้องขึ้นเมื่อผมลงฟันไปที่หัวนมมัน อยากลองกัดแล้วดึงดูสักครั้ง วันนี้อารมณ์ประมาณซาดิสต์หน่อย ๆ ซะด้วย มือมันทั้งลูบทั้งกำขยำอยู่ที่แก้มก้นสองข้างของผม ผมแกล้งลองเบรกจังหวะการเสียดสีด้านล่าง มันก็ชักสีหน้าขัดใจ โอบสะโพกผมขึ้นลงถูไถของ ๆ มันต่อด้วยตัวเอง
“อ๊ะ!.....อืมม...โน่....อ่า..ซี้ดส์..อ๊ะ!” ผมทั้งกัดทั้งดูดทั้งดึง กำลังมันส์จริง ๆ ยิ่งได้ยินเสียงแบบนี้ของขึ้นเป็นบ้า ใครจะไปทนไหว มันแม่งก็ร้องดังเวอร์แต่ผมก็ชอบครับแอ็คติ้งแบบนี้เป็นคุณสมบัติที่ดีของคนเป็นภรรยา(กูมั่ว) ผมลากลิ้นขึ้นไปชอนไชอยู่ที่รูหูของมัน มันยิ่งครางหนักขึ้นไปอีก ผมเหลือบมองมัน โหยย...หลับตาพริ้มเชียวนะมึง นี่ขนาดแค่ส่วนบน ถ้ากูเล่นช่วงล่าง มึงจะไม่ร้องจนข้างห้องได้ยินรึยังไง ขณะความคิดกำลังเตลิดไปไกล
“เฮ้ย!!”
จู่ ๆ มันพลิกตัวออกแล้วอุ้มผมขึ้นพาวิ่งเข้าห้องอย่างเร็ว มันรีบวางผมลงบนเตียง หยิบรีโมทขึ้นมากดเปิดเพลงคราวนี้มันไม่เลือกเพลงเลยครับเปิดแม่งเพลงแรกเลย ผมที่กำลังอึ้งกับท่าทางของมันอยู่ มันคงอาศัยจังหวะนั้นแน่นอนขึ้นมาคร่อมทับตัวผมไว้ทันที
ไอ้ห่า! กูเสียแต้มแน่คราวนี้
“ไม่ยอมหรอกครับโน่ กูแค่หลอกให้มึงดีใจนะ ฮ่าฮ่าฮ่า” มันพูดจบระดมจูบลงมาที่ซอกคอผมอย่างเร็วเลย
“โอ๊ย เชี่ย!!” ผมอุทานดังลั่น มือฟาดลงที่หลังเปลือยเปล่าของมันดังเพี๊ยะ! มันเล่นดูดคอผมอย่างแรง แถมมองหน้าผมแล้วยิ้มอีกต่างหาก
“เดี๋ยวเป็นรอย อย่าทำดิกูไม่ชอบ”
“อะไรครับ ทีตัวเองทั้งกัด ทั้งดูด ทั้งดึง กูไม่เห็นว่า”
“อื้อออ.......ก็มึงชอบนี่ กูเห็นมึงร้องเอาร้องเอา กูก็คิดว่ามึงชอบ” ผมส่ายหน้าเชิดปากแกล้งงอนมัน
“ก็ชอบ....กูแกล้งร้องดัง ๆ ให้มึงมีอารมณ์ไง ดีมะ” มันกอดผมเต็ม ๆ ตัว ละตัวจากด้านบนลงมานอนกอดอยู่ด้านข้างซุกใบหน้าลงที่ซอกคอ กระซิบลงข้าง ๆ หู
“ให้กูทำนะ กูทำให้ มึงนอนเฉย ๆ เดี๋ยวกูจัดการทุกอย่างเอง...นะ” ผมได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้างเพราะตอนนี้สติกำลังกระเจิงกับเพลงเร็วที่กำลังเริ่มขึ้นมาแล้วหลังจากผ่านสองเพลงช้าบิวท์อารมณ์มันเรียบร้อย แน่นอนแล้วครับสัญญาณการเริ่มต้นของมัน....จังหวะแบบนี้ ผมค่อย ๆ หันไปมองมันช้า ๆ สบกับดวงตากรุ้มกริ่มสุดแสนเจ้าชู้ที่อยู่ใกล้กันไม่ถึงคืบ สายตาแบบนี้.....
“แต่.....วันนี้ต้องเป็นตากู” ผมทั้งพูดทั้งอยากจะร้องไห้
“อย่าดื้อนะครับที่รักของโป้ง เดี๋ยวทำให้รู้สึกดี ๆ อย่ามาขอเบิ้ลละกัน ร้องให้ดังชนะเสียงเพลงไปเลยนะ จุ๊บ” มันพูดจบก็เริ่มบรรเลงทันที โอ้โห...มือไม้แม่งเร็วกว่าจังหวะกลองอีก ยิ่งกว่าปลาหมึกเต้นระบำ รู้สึกตัวอีกทีตอนนี้ทั้งผมทั้งมันล่อนจ้อนกันเรียบร้อยครับ มันพลิกตัวผมขึ้นมาด้านบนคร่อมตัวมันไว้ เราแลกจูบกันนัวเนีย มือไม้ลุกลามอยู่แถวสะโพกทั้งขำขยี้บีบคลึงเค้นตามจังหวะเพลง ผมเลื่อนตัวขึ้นไปเพื่อให้หน้าอกอยู่ตรงตำแหน่งของปากมัน มันตอบสนองเต็มที่ใช้ปากทั้งดูดทั้งดึงเสียงดังจ๊วบ ๆ อยู่ไม่ขาด มือไม้ก็ปรนเปรอส่วนล่างอยู่ไม่หยุด นี่มันท่าอะไรกัน ผมคิดในใจ กูจะเล่นพลิกแพลงอะไรขนาดนั้น
“อ๊ะ...โป้ง...อื้ออ.” ผมครางดังลั่นเมื่อถูกมันดูดเม้มที่ยอดอกชูชันนั้นอย่างแรง มันกางขาของมันให้กว้างขึ้นอีกเพื่อแยกสะโพกผมให้กว้างมากขึ้น มือหนาลูบไล้เลื่อนต่ำลงมาแถวเนินสะโพกขาวจนเกือบจะถึงหน้าด่านอยู่แล้ว มันไล้นิ้วขึ้นลงถูไถไปตามร่องก้น
“เดี๋ยวลองเล่นสลับด้านดูมั๊ย โป้งทำให้....นะ” มันพูดเสียงอ้อน ๆ
“อื้ออ..ไม่เอา”
“มา หันก้นมาทางนี้.....หันมานะครับ เดี๋ยวจะทำให้ร้องดัง ๆ เลย”
“อ๊าา..อื้มส์......”
ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!!
--- !!!!! ---
ทุกอย่างหยุดลง ผมพลิกตัวลงมานั่งลงข้าง ๆ
มันจ้องหน้าผม ผมจ้องหน้ามัน ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!!
--- !!!!! ---
ทุกอย่างหยุดลง ผมพลิกตัวลงมานั่งลงข้าง ๆ
เรานิ่งกันสักพัก คิดว่าคงหูฝาด...
ในที่สุดเราเริ่มกันใหม่ เหมือนเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพลงก็บรรเลงต่อไป คราวนี้ผมถูกพลิกลงมาอยู่ด้านล่าง ลิ้นดูดลิ้น เกี่ยวกระหวัดรับส่ง ดูดดื่มพัวพัน ในขณะที่ผมคิดในใจว่าเสียดายท่าเมื่อกี้ฉิบหาย เอาไว้คราวหน้ากูต้องสานต่อให้จบให้ได้ ริมฝีปากนุ่ม ๆ ก็เลื่อนต่ำลงมาเพราะผมเริ่มดันหัวมันลงแล้ว อารมณ์เริ่มจะฉุดลงยาก ลิ้นรัวเร็วลงอยู่ที่เนินอกสักพักถูกผมดันลงมาถึงรอบสะดือสวยมันชอนไชเรียวลิ้นเข้าที่รูอย่างรู้งาน จนผมเสียวเกร็งหน้าท้องไปหมด ผมดันหัวมันต่ำลงไปอีกแอ่นสะโพกขึ้นให้มันรู้ว่าผมต้องการเต็มที่แล้ว มึงลงไปถึงจุดนั้นให้เร็วเลยที่รัก
“โอ้วว....โป้ง เร็วเลย....อื้มม..” ผมครางแบบโอเวอร์กะให้มันกระเจิงเต็มที่ มันยื้อหัวไว้ไม่ยอมลดต่ำลงไปตามแรงกด
“อื้ออ......อย่าแกล้ง....แดกของกูเร็ว ๆ ” มันทั้งจูบทั้งหัวเราะไม่ยอมทำตามใจผม ใจกูจะขาดอยู่แล้วกดหัวมันจนสุดแขนขณะที่สะโพกก็แอ่นขึ้นเพื่อให้เข้าใกล้ปากมันที่สุด
“โป้ง....กูเสียว..อ๊าส์..”
ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!! ติ้งหน่อง!!!!
---หยุดกันอีกครั้งครับ---
ต่างคนต่างหอบหายใจกันเต็มที่
เราจ้องหน้ากันอีกรอบ คราวนี้หูไม่ฝาดแน่รัวขนาดนี้
“ใครวะโน่ มาแม่ง!ดึกดื่นป่านนี้” มันพูดอย่างหัวเสียถอนหายใจดังเฮือก ส่ายหัวก้าวลงจากเตียงอย่างฉุนเฉียว หยิบบ็อคเซอร์ที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมแล้วเปิดประตูออกไปดังโครม
“เฮ้ย! กูไปด้วย” ผมพูดแล้วหยิบบ็อคเซอร์อีกตัวที่กองอยู่ข้าง ๆกัน ขึ้นมาใส่อย่างรวดเร็ว รีบวิ่งตามออกไปด้านนอกทันที
คิม!!!
มันเดินตาแดงเข้ามานั่งลงที่โซฟาด้วยชุดเสื้อผ้าที่ถูกเปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อย ขณะที่ไอ้โป้งยังยืนเซ่ออยู่ที่หน้าประตู ในมือยังจับลูกบิดอยู่เลยด้วยซ้ำ ผมเองก็หยุดชะงักจ้องมองไอ้คิมสลับกับไอ้คนที่ยืนอึ้งอยู่
เป็นไอ้โป้งครับที่ตั้งสติได้ก่อน มันเดินเข้าไปหาไอ้ผู้มาเยือนทันที
“ มึงมาทำไมวะ ? ”
“มานอนด้วย” มันตอบเหมือนเป็นเรื่องปกติ ในขณะที่ผมกับไอ้โป้งมองหน้ากันอย่างอึ้ง!
“นะ....นอน...นอนนี่ ?” ไอ้โป้งถามตาโต
“อืม กูนอนไม่หลับ ขอมานอนกับพวกมึงด้วย กูไม่กวนหรอกพวกมึงจะทำอะไรก็ทำ กูจะนอนอยู่หน้าเตียงเงียบ ๆ ” พอพูดจบ มันก็เดินผ่านหน้าผมเปิดเข้าไปในห้องทันที
ไอ้โป้งมองหน้าผมอย่างอึ้งสุดขีด ผมเองก็อึ้งแดกไม่แพ้กัน ในที่สุดทั้งผมและมันก็เดินตามไอ้ผู้มาเยือนเข้าไปในห้อง เห็นมันกำลังปูฟูกลงเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบหมอนกับผ้าห่มที่มันเคยใช้ออกมา ทำอย่างกับเป็นห้องตัวเองก็มิปาน แล้วมันก็นอนลง ห่มผ้า มองมาที่ผมกับไอ้โป้งที่ยืนจ้องมันอยู่ที่หน้าประตู
“มานอนดิ กูนอนตรงนี้ คงไม่กวนพวกมึงใช่มั๊ย” พูดแล้วมันก็หลับตานอนเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา
ไอ้โป้งที่ตอนนี้ยืนอึ้งสุด ๆ ค่อย ๆ เดินเข้าไปที่เตียงอย่างช้า ๆ นั่งลงบนเตียงฝั่งที่ไอ้คิมนอนอยู่ หยิบรีโมท cd ขึ้นมา
กดหยุด
มองมาที่ผม พยักหน้าเรียกผมเข้าไปหา ผมเองก็เดินเข้าไปอย่างอึ้ง ๆ
“ใส่เสื้อซะ” มันส่งเสื้อยืดบาง ๆ ที่เตรียมเอาไว้ตั้งแต่ตอนอาบน้ำมาให้ผม
“โน่นอนฝั่งนั้นนะเดี๋ยวกูนอนตรงนี้เอง” ผมรับเสื้อมาใส่อย่างอึ้ง ๆ เสร็จแล้วก็ล้มตัวลงนอน ไอ้โป้งห่มผ้าให้เรียบร้อยก็ลุกไปปิดไฟแล้วเดินมานอนลงข้าง ๆ หันหน้าเข้าหาผม กอดผมเอาไว้แน่น
จนสักพัก
“.........โป้ง คลายออกหน่อยสิวะ กูอึดอัด ร้อนด้วย กูอยากถอดเสื้อ กูร้อน” ผมบอกมันเบา ๆ แล้วขยับตัวออก
“ไม่เอา ไม่ให้ถอด จะกอดเอาไว้งี้แหละ” มันกระซิบตอบแล้วซุกหน้าเข้ามาแถวซอกคอแน่นเข้าไปอีก
“จุ๊บ” มันจูบลงที่ซอกหูผมเบา ๆ
“อย่านะโว้ยโป้ง” ผมยื้อตัวออกแล้วกระซิบบอกมัน กลัวไอ้คนที่นอนอยู่หน้าเตียงได้ยิน
“อือ....รู้แล้วน่าไม่ทำหรอก” มันกระซิบตอบกลับเบาขึ้นไปอีก
“จุ๊บ...จุ๊บ...จุ๊บ” มันพรมจูบทั่วใบหูแถมแหย่ลิ้นเข้าไปอีกต่างหาก ไอ้ห่า! ไม่ยอมเลิกครับวุ่นอยู่กับกกหูกูนี่แหละ
“โป้ง...พอแล้วมึง” คราวนี้ผมต้องหันหน้ามาหามันดันตัวมันไว้ บอกมันเบา ๆ กลัวมันจูบลงมาอีก พอหันไปก็รู้ว่าตัวเองตัดสินใจผิดแน่แล้ว เพราะแววตาของมันเจ้าเล่ห์และซุกซนมาก จ้องอยู่ที่ปากผมตลอด มันเข้ามาแล้ว....ผมหลับตาแน่น
“จุ๊บ หึหึ” เฮ้อ...โชคดีที่มันแค่จุ๊บเบา ๆ แล้วละออก
เอาอีก! มันยื่นหน้าเข้ามาอีก คราวนี้แย่แน่ ผมเห็นมันเลียริมฝีปากด้วย ทำยังไงดี ผมจ้องมันตาโตเลยครับ
พรึ่บบบบบ!!!
สว่างครับ จู่ ๆ ไฟทั้งห้องก็สว่างจ้าขึ้นมา ผมหรี่ตาขึ้นมา เห็นไอ้คิมยืนหน้ายักษ์มองพวกผมที่กำลังจูบกำลังหอมกันอยู่
“กูหิวน้ำ จะออกไปกินน้ำ” มันกระแทกเสียงอย่างดัง เวรกรรมอะไรไม่รู้ ทำไมจู่ ๆ มันก็มาที่นี่ แล้วที่สำคัญมันทำอย่างกับไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างผมกับมันเลย พอออกไปได้สักพักมันก็เดินเข้ามา ปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอน
“พวกมึงจะทำอะไรก็ทำไป ไม่ต้องสนใจหรอกว่ากูนอนอยู่ตรงนี้ด้วย” เสียงไอ้คนที่นอนอยู่หน้าเตียงส่งเสียงอย่างดังฝ่าความมืดขึ้นมา ไอ้โป้งหันไปมองมันนิดหน่อยก่อนหันมาทำหน้าขัดใจสุด ๆ กอดผมไว้แล้วหลับตาลง ส่วนผมก็อดที่จะตลกกับสีหน้าแบบนั้นของไอ้หื่นไม่ได้ วันนี้คงขัดใจมันน่าดู แต่ก็...นะ! ไม่ทำก็ดีเหมือนกันไม่งั้นได้เสียแต้มอีกแน่ กู!
พอเช้า ผมเดินออกมาจากห้องในสภาพงัวเงียสุดขีด ไอ้โป้งแต่งตัวชุดนักศึกษาเรียบร้อยมีชุดกันเปื้อนลายมิกกี้เมาส์ สวมทับไว้ เดินทำโน่นทำนี่อยู่ในครัว ผมมองหาไอ้ผู้มาเยือนเมื่อคืนนี้แต่ก็ไม่เห็นมัน
“โป้ง ไอ้คิมอ่ะ มันกลับแล้ว ?” ผมนั่งลงหยิบแซนด์วิชเข้าปากแล้วถามขึ้น
“โอ๊ย!!!” ผมอุทานดังลั่น
“ไรอ่ะ มึงตีกูทำไมเนี่ย!” ผมโวยวายขึ้นทันที ไอ้โป้งตีมือผมอย่างแรงแถมแย่งแซนด์วิชครึ่งอันที่เหลือกลับคืนไป
“ไปแปรงฟันสิครับโน่ ใครเค้าเคยกินอาหารก่อนแปรงฟันอย่างนี้” มันยืนโวยวายขณะบรรจงวางผักสลัดลงบนแผ่นขนมปัง ตามด้วยฮอตดอกต้มและมะเขือเทศชิ้นใหญ่ ผมมองอย่างเพลินเลย มึงสามารถจริง ๆ โป้ง
“ไม่เป็นไรหรอก กูอยากชิมรสชาดฝีมือมึงชัด ๆถ้าแปรงฟันก่อน สารเคมีที่อยู่ในยาสีฟันมันจะกัดลิ้นกู ทำให้รสชาดผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงนะ” ผมแถไปเรื่อย ค่อย ๆ เอื้อมมือไปหยิบแซนด์วิชชิ้นใหม่ที่เพิ่งทำเสร็จ
กำลังจะหยิบได้อยู่แล้วเชียว.....
พรุ๊บ!!
มันใช้ฝาชีเล็กครอบปิดจานนั้นไว้ทันที
--ผมชะงัก-- งอนมัน! ลุกขึ้นสะบัดหน้าเดินเข้าไปอาบน้ำทันทีเลย
พอจัดการตัวเองเรียบร้อย ออกมาอีกทีก็มีอาหารสองชุดถูกครอบเตรียมวางไว้คู่กัน เสียงเพลงฟังเบา ๆ สบาย ๆ คลออยู่แต่เช้า ไอ้โป้งเดินมาหยิบนมในตู้เย็นออกมาสองกล่องวางไว้คู่กับแซนด์วิชของเราคนละจาน มันกับผมนั่งลงข้าง ๆ กันทานอาหารสุดน่ารักและแสนอร่อยที่มันทำเตรียมไว้ให้
“เย็นนี้จะกินอะไร ข้างนอกหรือจะให้กูทำ” มันถามขึ้น ขณะผมกำลังคิดในใจ โอ้...กูได้เมีย เอ้ย! ผัว ถูกคนจริง ๆ
“ไปกินเซเวนเซ่นกันมะ กูอยากกิน ไม่ได้กินนานแล้ว แล้วค่อยกลับมาหาข้าวกินแถวนี้ต่อ” ผมเสนอออกไปพร้อมหยิบฮ๊อตดอกที่แบ่งไว้ยื่นให้ไอ้ตัวเล็กที่นั่งมองอยู่ข้างโต๊ะ
“ก็ดีเหมือนกันว่ะ จะได้ไปชอบปิ้งกันด้วย เดี๋ยวกูซื้อกิ๊บให้ใหม่ เห็นเค้าติดในทีวีอันใหญ่ ๆ น่ารักดี เอาไว้ติดเวลามึงอ่านหนังสือ”
“อืม แล้วอย่าลืมกล่องใส่ที่มัดผมของกูด้วย เอาแบบน่ารัก ๆ เลย ซื้อให้ตัวเล็กด้วยนะมึง” ตามใจมันก็แล้วกันครับ ผมข้างหน้ายาวมากแล้วด้วย ได้กิ๊บใหม่สักอันก็ไม่เลว แต่ให้ตายก็ไม่คิดติดออกไปนอกบ้านเด็ดขาด!!
Tbc.
***ตอนต่อไปเป็นบทที่ 20***