# 17
เสียงเพลงสากลดังสลับสับเปลี่ยนไปเรื่อย ช่วงเวลากลางคืนที่แสนยาวนานยังไม่ผ่านพ้นไป
คืนนี้เป็นคืนวันเสาร์
วันที่เป้าหมายคนที่สองจะต้องโผล่ตัวมาถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด
คริสตินและซาโต้เข้ามาที่ Candy Gaybar เรียบร้อย
บรรยากาศบาร์ยังคึกคักเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
นักเต้นคนแล้วคนเล่าเปลี่ยนหน้าทยอยกันขึ้นไปโชว์
ไม่ว่าจะมีใครอีกสักกี่คนที่ต้องจากไป
การดำเนินชีวิตของคนข้างหลังก็ยังคงอยู่
ชีวิตของคนกลางคืน
คนที่ต้องสร้างความบันเทิงให้กับผู้อื่นอยู่เสมอ
แม้ว่าในใจจะเศร้าหรือขมขื่นเพียงไหน แต่ใบหน้าที่ฉายโชว์นั่น ต้องยิ้มร่าอยู่เสมอ
เพราะนี่ก็คืองาน คนเรามี ‘งาน’
ที่ต่างกันออกไป
“เหม่ออะไรครับน้องคิต” เสียงทุ้มของเม่นถามขึ้น คริสไม่ได้ตอบอะไรอีกฝ่าย
แค่ส่งยิ้มบางกลับไปให้ก็แค่นั้น
สีหน้าเม่นในคืนนี้ดูเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัดรอยยิ้มที่ส่งให้คริสนั้นดูเป็นยิ้มแห้ง
ๆ เหมือนคนกำลังฝืนยิ้มไม่มีผิด
คริสตินมองบาร์เทนเดอร์หนุ่มคนข้าง ๆ
ทำโน่นทำนี่ไปเรื่อย
สายตาผู้หมวดหนุ่มสะดุดลงที่มือซ้ายสวยสะอาดของเม่นทันทีที่เห็นรอยถลอกอะไรบางอย่างที่ด้านหลังฝ่ามือ
มันเป็นรอยคล้ายรอยครูดช้ำอะไรบางอย่างตรงข้อนิ้วจนมีแผล
น่าแปลก...คนที่เป็นบาร์เทนเดอร์ส่วนใหญ่จะดูแลสุขภาพนิ้วมือให้สะอาดดูดีอยู่ตลอดเวลา
ไม่น่าจะทำให้เกิดแผลขึ้นมาได้ ยกเว้นเป็นเหตุสุดวิสัยจริง ๆ
“สวิง แก้วครับ”
เสียงทุ้มนุ่มที่จู่ ๆ ดังขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวเรียกให้คริสเงยหน้าอัตโนมัติ ซาโต้เดินมานั่งลงที่หน้าบาร์เหล้าในขณะที่คริสกำลังก้มลงไปวุ่นวายอยู่กับการหมุนปิดฝาแก้วเช็คที่เม่นเพิ่งส่งมาให้
เสียงทุ้มนุ่มที่จู่ ๆ ดังขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัวเรียกให้คริสเงยหน้าอัตโนมัติ ซาโต้เดินมานั่งลงที่หน้าบาร์เหล้าในขณะที่คริสกำลังก้มลงไปวุ่นวายอยู่กับการหมุนปิดฝาแก้วเช็คที่เม่นเพิ่งส่งมาให้
เมื่อเห็นว่าเป็นเจ้าคู่หูตัวดีคริสจึงได้แต่เลิกคิ้วเป็นเชิงถามว่าอีกฝ่ายมีอะไรถึงได้เดินลอยชายมาถึงหน้าบาร์ได้แทนที่จะรออยู่ที่ฝั่งนักเต้น
แก้วสวิงถูกเลื่อนส่งให้คนตรงหน้า
โดยไม่มีแม้แต่คำพูดตอบกลับ
น้ำสีในแก้วใสกระเพื่อมไปมาค่อนข้างแรงซาโต้มองดูก็รู้ว่าอีกฝ่ายยังไม่หายโกรธ
ตั้งแต่ออกมาจากโรงแรมก็ยังไม่ยอมพูดจากับเขาเลยสักคำ
ชายหนุ่มเหลือบมองที่นาฬิกาข้อมือของตน 5 ทุ่มตรงแล้ว สามชั่วโมงกว่า ๆ ที่ยังไม่มีเสียงตอบโต้อะไรเลยจากคนขี้โวยวายตรงหน้า
ซึ่งผิดวิสัยยิ่ง
“กี่ชั่วโมงครับ” จู่ ๆ ซาโต้พูดขึ้น
คริสที่ทำท่าไม่สนใจแต่ก็ได้ยินคำพูดของคู่หูอย่างชัดเจน
‘มันพูดอะไรวะ
กี่ชั่วโมงอะไรของมัน’
ขณะยังคิดอะไรไม่ทันออก
เสียงทุ้มของซาโต้ก็ดังขึ้นอีก
“ว่าไงครับ ลิมิตความโกรธจะอยู่ที่กี่ชั่วโมง”
บ้าเอ้ย ถามอะไรของมันออกมาได้
คนโกรธใครจะไปนั่งนับว่าอีกกี่ชั่วโมงถึงจะหาย คริสตินก้มหน้าก้มตาใช้ผ้าผืนเล็ก
ๆ เช็ดถูเคาน์เตอร์อย่างแรง ตวัดสายตาโกรธขึ้นมอง
แต่ดั้นสบเข้ากับอีกฝ่ายที่จ้องมองอยู่ก่อนแล้วพอดี แถมใบหน้านั้นยังส่งยิ้มทะเล้นมาให้เขาอีกด้วย
“ 3 ” คริสกระแทกเสียงใส่
‘ปากหนอปากจู่ ๆ ตอบมันไปทำไมไม่รู้’ ซาโต้ยิ้มร่าเมื่อคนตรงหน้ายอมพูดกับตนแล้ว
ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามานั่งร่วมด้วยเยอะขึ้น
แต่แปลกที่ซาโต้ยังไม่เข้าไปแต่งตัวที่หลังร้าน
“ซาม่อน ไม่ไปเตรียมตัวล่ะ มีโชว์คิวไหน”
เม่นที่กำลังเทคแคร์แขกที่นั่งอยู่อีก 2-3 คนถามขึ้น
“เดี๋ยวไปแล้วครับ ง้อคนบางคนอยู่”
ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ
ยกแก้วสวิงขึ้นดื่มรวดเดียวหมดจากนั้นกระโดดลุกจากเก้าอี้
“ขอบคุณนะครับที่เลี้ยง
แสดงว่าหายโกรธผมแล้วนะ” ชายหนุ่มโน้มตัวข้ามเคาน์เตอร์เข้ามาพูดใกล้
ๆ คริส จนหน้าผากเกือบแตะกัน ทำเอาอีกฝ่ายหน้าแต้มสีขึ้นมาหน่อย ๆ
ดีที่ยังมีเสียงของคนข้าง ๆ
อย่างเม่นเบรกเอาไว้ “อะแฮ่ม
ทำงานก่อน ทำงาน แฟนเราน่ะง้อเมื่อไหร่ก็ได้ ใช่ไหมครับน้องคิต”
คราวนี้หน้าตาท่าทางของเม่นปรับเข้าสู่สภาพปกติเรียบร้อย ไม่อมทุกข์เหมือนเมื่อสักครู่เลยสักนิด
สามคนคุยกันสักครู่ซาโต้ก็ขอตัวเข้าไปที่หลังร้าน
แต่ก่อนไปเขาไม่ลืมกระซิบย้ำบอกคริสตินเรื่องเป้าหมายรายที่สองอีกครั้ง
และแล้วช่วงสเปเชี่ยลไทม์ของวันนี้ก็วนมาถึง แม้ว่าในวันนี้จะไม่มีนักเต้นที่ชื่อ
‘น้องหนึ่ง’ แล้ว ทุก ๆ
นาทีที่ผ่านไปเหมือนกับคืนวานและคืนก่อน ๆ หน้านั้น มีนักเต้นคนใหม่ขึ้นมาแทนที่
เสียงกรี๊ดเสียงแซวยังดังอยู่ไม่ขาดปาก อีกหน่อยไม่นานผู้คนก็จะลืมเรื่องราวของ ‘น้องหนึ่ง’ ไปจนหมดสิ้น
สายตาของชายหนุ่มสะดุดลงที่มุมหนึ่งของร้าน
แป๋วนั่งอยู่คนเดียวเงียบ ๆ ในมือถือแก้วเหล้าโยกเล่นไปมา
สีหน้าแสดงออกถึงความเศร้าหมอง
แป๋วไม่ได้ถูกเจ้าหน้าที่กักตัวไว้แต่อย่างใดเหตุผลอย่างหนึ่งอาจเป็นเพราะเคนยะพี่ชายของเขา
เหตุการณ์และสถานที่แห่งนี้เลยยังดำเนินอยู่ได้ต่อไป คดีจะต้องปิดให้เร็วที่สุด
จะต้องไม่มีใครต้องสังเวยชีวิตให้กับไอ้ฆาตกรโรจจิตอีกเป็นรายที่ห้า
“บรั่นดี!” เสียงหนักแน่น
ทรงพลัง แสดงออกถึงคำสั่งที่ชัดเจน เรียกให้ทั้งคริสและเม่นที่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ
อยู่กับงานเงยหน้าขึ้นมารับออเดอร์ทันที
“สวิงนะครับ” คริสตินพูดตอบรับอัตโนมัติเมื่อเห็นว่าลูกค้านั่งอยู่ตรงหน้าเขาพอดิบพอดี
ในขณะที่เม่นกำลังชงเหล้าให้แขกอีกท่านอยู่
พอตอบออกไปแล้วคริสก็นึกขึ้นมาได้
บรั่นดีในความหมายของลูกค้าอาจไม่ใช่สวิงก็ได้เพราะไอ้ซาโต้บ้าดันสั่งสวิงเมื่อกี้นี้แท้
ๆ ทำให้เขาติดปากยี่ห้อนี้ไป ผู้หมวดหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้นกะว่าจะถามซ้ำอีกครั้ง
แต่....
ลูกค้าคนนี้กำลังนั่งจ้องหน้าเขาอยู่ เผลอสบตาไปนิดแต่ต้องชะงักเนื่องจากสะดุดกับใบหน้านั้นเหลือเกิน...
ใช่แล้ว! ศิริชัย คงศรี สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องสงสัยรายที่สองนั่นเอง
คริสตินอมยิ้มแทบจะกลั้นอาการดีใจไว้ไม่อยู่เมื่อจู่ ๆ เหยื่อก็เดินเข้ามาให้ล่อถึงที่ ‘ว่าแต่จะล่อแบบไหนกันล่ะ’ คริสรีบก้มหน้าพยายามคิดหาวิธี
“เพิ่งมาทำใหม่เหรอ ไม่รู้ใจกันเลยนี่” ศิริชัยโปรยยิ้มหวานเชื่อม
“หือ....อ่า ฮะใช่ฮะ?” คริสตินงงเล็กน้อย อ้ำๆอึ้งๆ ไปแบบไม่ตั้งตัว สายตาเริ่มกวาดมองหาตัวช่วย ‘ไอ้บ้าซาโต้มันไปไหนของมันวะ! งานอ่อยเหยื่อมันต้องทำไม่ใช่รึไง’ ขณะกำลังเครียดสายตาก็เหลือบไปเห็นคู่หูตัวแสบยืนกอดอกมองเขาอยู่ไกล ๆ ชูนิ้วโป้งยกไลท์ส่งให้อีกต่างหาก ‘ไอ้ห่า! มึงเดินมาเก็บเหยื่อมึงไปสักทีสิวะ อย่าบอกนะว่าต้องเป็นหน้าที่กูน่ะ’
แต่....
ลูกค้าคนนี้กำลังนั่งจ้องหน้าเขาอยู่ เผลอสบตาไปนิดแต่ต้องชะงักเนื่องจากสะดุดกับใบหน้านั้นเหลือเกิน...
ใช่แล้ว! ศิริชัย คงศรี สัตวแพทย์หนุ่มผู้ต้องสงสัยรายที่สองนั่นเอง
คริสตินอมยิ้มแทบจะกลั้นอาการดีใจไว้ไม่อยู่เมื่อจู่ ๆ เหยื่อก็เดินเข้ามาให้ล่อถึงที่ ‘ว่าแต่จะล่อแบบไหนกันล่ะ’ คริสรีบก้มหน้าพยายามคิดหาวิธี
“เพิ่งมาทำใหม่เหรอ ไม่รู้ใจกันเลยนี่” ศิริชัยโปรยยิ้มหวานเชื่อม
“หือ....อ่า ฮะใช่ฮะ?” คริสตินงงเล็กน้อย อ้ำๆอึ้งๆ ไปแบบไม่ตั้งตัว สายตาเริ่มกวาดมองหาตัวช่วย ‘ไอ้บ้าซาโต้มันไปไหนของมันวะ! งานอ่อยเหยื่อมันต้องทำไม่ใช่รึไง’ ขณะกำลังเครียดสายตาก็เหลือบไปเห็นคู่หูตัวแสบยืนกอดอกมองเขาอยู่ไกล ๆ ชูนิ้วโป้งยกไลท์ส่งให้อีกต่างหาก ‘ไอ้ห่า! มึงเดินมาเก็บเหยื่อมึงไปสักทีสิวะ อย่าบอกนะว่าต้องเป็นหน้าที่กูน่ะ’
“ผมดื่มแต่เฮนเนสซี่นะ ไม่เอาสวิง”
เสียงทรงพลังด้านหน้าเปลี่ยนเป็นเสียงเบานุ่มอ่อนหวานมาพร้อมสายตาสุดออดอ้อน
‘ไอ้หมอบ้านี่ก็นั่งจ้องกูอยู่ได้นะมึง มึงจะจ้องกูให้เปลี่ยนเป็นแมวเลยรึไง’
คริสตินฝืนโปรยยิ้มไปสุดแรง
มือไม้ก็ชงเหล้าไปด้วย
“ฮะ ขอโทษนะฮะ” ต้องใช้คำพูดให้ดูน่ารักสไตล์
‘น้องหนึ่ง’
แก้วเหล้าถูกเลื่อนส่งให้อย่างสุภาพ
ไม่มีแม้แต่แรงกระเพื่อมของน้ำสี ‘สุภาพแบบนี้กูทำเพื่อมึงเลยนะ ไอ้หมอสัตว์!(สัตวแพทย์)
ได้ข่าวว่ามึงน่าสงสัยที่สุดในบรรดา ขอให้เป็นมึงทีเถ้อ กูจะได้ปิดคดีเร็ว ๆ
ให้มันจบ ๆ ไปสักที’
ฝ่ามือหนานั้นประกบลงที่มือเรียวของคริสตินจัง
ๆ ผู้หมวดหนุ่มรีบชักมือกลับ
คริสเหลือบมองไปที่จุดที่ซาโต้ยืนอยู่อีกครั้งเหมือนขอความช่วยเหลือ
แต่ชายหนุ่มตรงนั้นหายไปไหนก็ไม่รู้
‘ทิ้งกูนะมึงนะ คืนนี้คอยดูเลย ฮึ่ยย’ คริสตินเริ่มทำตัวไม่ถูก
“ประหม่าอะไรครับ หืมม พี่ใจดีนะ บอกชื่อให้รู้ได้รึเปล่าเอ่ย”
เต็ม ๆ สองรูหูคริสเลย ผู้หมวดหนุ่มหันไปมองเม่นนิดหน่อย
ตอนนี้ชายหนุ่มก็กำลังโดนลูกค้าแต่งสาวคนหนึ่งม่ออยู่เช่นกัน
แบบนี้คงเป็นเรื่องปกติสินะ
คริสสูดลมหายใจยาวเพื่อเรียกสติและความกล้า
เอาวะ...มึงจีบมาเลยเดี๋ยวกูรับมุกเอง
“คิตฮะ ผมชื่อคิตตี้
แล้วพี่ล่ะฮะบอกผมบ้างได้ไหม” ทิ้งน้ำหนักเสียงให้ดูน่ารักเข้าไว้
เหมือนกับที่เคยเห็นน้องหนึ่งคุยกับแขก
คริสเม้มปากตาหยีฝืนยิ้มตอบคำถามนั้นไป
ศิริชัยไม่ตอบอะไรกลับมา
เขาเพียงนั่งมองคนตรงหน้าด้วยสายตาหวานฉ่ำ กระดกแก้วจิบไปเรื่อยเพลงแล้วเพลงเล่า
ไม่แม้แต่จะหันไปดูโชว์เลยแม้แต่น้อย สายตาจ้องจับอยู่ที่คริสตินไม่วางตา
เวลาดำเนินไปได้สักครู่...
“สวิงครับ” ซาโต้นั่งลงแล้ว
ชายหนุ่มเลือกเก้าอี้ว่างที่ใกล้กับเหยื่อมากที่สุดแต่ก็ยังโดนคั่นไว้โดยแขกอีกคน
เขายักคิ้วส่งให้คริสไปที
น้ำสีถูกเลื่อนส่งให้อย่างแรง ‘หึหึ’ ซาโต้ได้แต่นึกขำในใจ
“น้องคิตอยากได้ตังค์ใช้เยอะ ๆ
ไหมครับ ” จู่ ๆ เสียงแกร่งด้านหน้าก็ถามขึ้น
ผู้หมวดหนุ่มชะงักเล็กน้อยแต่ก็ส่งยิ้มหวานกลับไปให้ในทันที พร้อมผงกศีรษะเบา ๆ
ทำทีเป็นเขินอาย
“พี่อยากดูคิตตี้เต้นนะ พี่ต้องจ่ายเยอะแค่ไหนน้าา”
โหยยยย ไอ้เหี้ยย! มึงอย่าได้หวัง
“คิคิ คิตเต้นไม่เป็นหรอกฮะ อายคนเขาเปล่า ๆ แต่....ถ้า......” คริสตินตั้งใจทิ้งหางเสียงเป็นคำถามเพิ่มความเอียงอายเข้าไปอีก ฮึ่มม
เพื่องานๆๆ ท่องไว้ เหลือบมองไปที่ไอ้ซาโต้เห็นมันนั่งกลั้นขำจนตัวงอ สาธุ
ขอให้มันสำลักเหล้าทีเถ้อ
“แต่ถ้าอะไรครับ หืมม” ไอ้ห่านี่ก็ม่อกูจัง
“....ก็.....ถ้าเต้นให้พี่ดูคนเดียวก็ไม่แน่นะฮะ
คิคิคิ” คริสพูดพร้อมเลื่อนแก้วเหล้าใบใหม่ส่งให้คนตรงหน้า
พร้อมหรี่ตาให้ท่าเล็กน้อย
“หึหึ น่ารักจังครับ
ทำไมเราเพิ่งเจอกันก็ไม่รู้” หมอศิริชัยพูดจบปุ๊บก็หันตัวกลับไปดูโชว์ทันที
นั่นทำเอาคริสถึงกับหน้าชาพยายามนึกว่าตัวเองพูดอะไรผิดออกไปรึเปล่า อยู่ดี ๆ
ไอ้หมอนี่มันจะหันหลังให้ทำไม
มองไปทางไอ้คู่หูตัวดีอีกทีเห็นมันกำลังนั่งจ้องเขาอยู่แล้วอย่างนิ่ง
คราวนี้สายตาเริ่มออกแววโหด ๆ ไงไม่รู้สงสัยจะโกรธที่ทำให้เป้าหมายจู่ ๆ
หันหลังให้แบบนี้
โถ่เว้ยยย เอาก็เอาวะ
ชายหนุ่มเอื้อมมือออกไปกะว่าจะไปแตะตัวเรียกคุณหมอให้หันกลับมาคุยต่อ
แต่เป็นจังหวะเดียวกับอีกฝ่ายหันมาพอดี
แก้วเหล้าในมือหนาปะทะเข้ากับฝ่ามือของคริสอย่างจัง เหล้าในแก้วหล่นและหกราดแขนเสื้อชายหนุ่มจนเปียกไปหมดลามไปจนถึงหน้าตัก
คริสรีบขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่
ขณะที่เม่นรีบกุลีกุจอเข้ามาเช็ดเหล้าและเก็บเศษแก้วที่เคาน์เตอร์ให้อีกคน
“เดี๋ยวผมพาไปล้างนะฮะ” คริสเดินอ้อมออกมาด้านนอก ศิริชัยยิ้มให้เขาเล็กน้อย หน้าตาดูอ่อนโยนถึงที่สุดแฝงไว้ด้วยสายตาสุดเจ้าชู้
พร้อมกับพยายามส่ายหน้าให้รู้ว่าตัวเองไม่ถือสาอะไร
“เดินไม่ไหว พยุงพี่หน่อยสิ”
ส่งเสียงออดอ้อนแบบนั้นแต่ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบ
คุณหมอเอื้อมมือมากอดเอาลำคอขาวคริสตินไปแนบไว้ทันที
นั่นทำเอาชายหนุ่มถึงกับหน้าถอดสี เบนสายตาหาซาโต้เพื่อขอความช่วยเหลือ
แต่ไอ้คู่หูตัวดีได้แต่นั่งหรี่ตามองเขา มันยิ้มเยาะเย้ยรึเปล่าเขาเองก็ดูไม่ออก‘มึงจำไว้เลย คืนนี้กูเอาคืนแน่’ เขาทั้งประคองไอ้คุณหมอทั้งกัดฟันให้ไอ้ซาโต้
ในที่สุดก็เดินกันมาจนถึงห้องน้ำ
ถึงจะรู้ทั้งรู้ว่าคนที่ตัวเองประคองอยู่แกล้งทำเป็นเมาแต่คริสตินก็ต้องแกล้งโง่ปล่อยเลยตามเลย
ผู้หมวดหนุ่มถลกแขนเสื้ออีกฝ่ายขึ้นช่วยล้างคราบแอลกอฮอล์ที่เลอะตามหน้าอก
แขนเสื้อ ลามไปจนถึงหน้าขา
ไฟในห้องน้ำไม่ได้มืดสลัวเหมือนด้านนอก
คริสตินสังเกตได้ทันทีว่าใต้ชายเสื้อแขนยาวที่ถูกที่เลิกสูงขึ้นมีรอยเขียวช้ำคล้ายรอยถูกมัดและเสียดสีอย่างหนักอยู่ที่ข้อมือนั่น
คริสยังคงใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กเช็ดคราบเหล้าที่หกรดให้อีกฝ่ายให้อย่างลืมตัวขณะใจกำลังนึกถึงแต่เรื่องรอยที่ข้อมือนั่น
ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายดันตัวเขาจนถอยมาชิดติดผนังเรียบร้อย
รู้ตัวอีกทีแผ่นหลังของตนก็ชนเข้ากับผนังกระเบื้องเย็น ๆ ซะแล้ว
สายตาหมอหนุ่มจ้องมองมาที่คนตรงหน้าอย่างหวานฉ่ำ
คริสเผลอสบเข้าจนได้
“หาเรื่องใส่ตัวรึไง จู่ ๆ
ก้มลงไปเช็ดตรงนั้นน่ะครับ” ฝ่ามือหนาลูบเข้าที่สะโพกคริสแบบเต็ม
ๆ ทำเอาชายหนุ่มถึงกับสะดุ้ง รีบตะปบมืออีกฝ่ายไว้
“ดะ.....เดี๋ยวฮะ”
ไอ้เหี้ยนี่ก็แรงดีชะมัด
มึงจะรัดกูแน่นไปไหนครับ
“ไม่รอแล้ว พี่ทนไม่ไหวแล้วครับ”
ใบหน้าคมนั้นจะโน้มลงมาถูกคริสอยู่รอมมะร่อแล้ว
“ไม่เอาฮะ ไม่ใช่ที่นี่ ”
คริสตินพยายามชวนออกนอกเรื่อง ในที่สุดก็ผละตัวออกห่างได้
แต่ก็ยังหายใจไม่ทั่วท้องอยู่ดี
“ถ้างั้นเราเจอกับพี่ข้างนอกได้ใช่ไหมครับ
หืม”
คริสแสร้งยิ้มเอียงอายพร้อมผงกหัวงึกๆเบา
ๆ แต่นั่นทำให้อีกฝ่ายพบว่าเขาช่างน่ารักเหลือเกินจึงดึงรวบเอาเข้าไปกอดไว้แบบเต็ม
ๆ มืออีกครั้ง คริสตินคิดจะดิ้นแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
“อย่าบอกเจ๊เปรี้ยวนะ ห้ามบอกใคร ๆ
ด้วย เดี๋ยวโดนหักเปอร์เซ็นต์พี่ไม่รู้ด้วยนะครับ”
โอ้ยยยย คำพูดที่กูรอคอย คริสได้แต่นึก
“ฮะ ผมไม่บอกใครหรอก
ว่าแต่เราจะเจอกันที่ไหนดีล่ะฮะ ผมอยากเจอกับพี่เร็ว ๆ”
“น่ารักอีกแล้วครับคิตตี้
ทนอีกวันนะ พรุ่งนี้พี่ติดเวรที่โรงพยาบาล เป็นวันจันทร์ดีไหมครับ”
คริสตินทำท่านึก
วันไหนก็ได้แต่ขอให้เร็วที่สุดเป็นพอ
ถ้าเขาพอจะเป็นเหยื่อล่อคนต่อไปได้วันไหนก็ไม่มีปัญหา
ถ้ามันเป็นฆาตกรจริง มันคงไม่ลงมือติด ๆ
กันวันต่อวันแน่
เพราะงั้น.....
“แล้วเราจะเจอกันที่ไหนฮะ บ้านพี่ดีไหม” ลองใจมันสักหน่อย
ถ้ามันใช่ มันต้องไม่พาเขาไปเชือดที่บ้านเด็ดขาด เหยื่อ 4 รายที่ผ่านมาเสียชีวิตนอกสถานที่ทั้งสิ้น
3 คนแรกทิ้งศพที่อื่น มีแต่รายล่าสุดคือ ‘น้องหนึ่ง’ เท่านั้นที่เสียชีวิตภายในที่พักของตัวเอง
“ห้องคิตเลยดีไหมครับ”
ใกล้เข้าไปทุกที
“ก็ดีฮะ แต่พี่รู้จักห้องผมเหรอ”
ลองถามดูหน่อย
“ไม่รู้จักเลย
คิตต้องบอกทางไปนะครับ”
“ไปโรงแรมก็ได้นี่ฮะ
ทำไมต้องไปห้องผมด้วย” ลองเชิงอีกครั้งเพื่อย้ำความมั่นใจ
“โรงแรมไม่เอา ไม่ชอบคนเยอะ
พี่ไม่ชอบให้ใครรู้ คิตตี้อย่าบอกใครเรื่องของเรานะครับ ตื่นเต้นดีนะให้ทุกอย่างเป็นความลับ
มาเล่นกัน”
“ฮะก็ได้ฮะ
งั้นเดี๋ยววันจันทร์ผมโทรเรียกพี่แล้วกัน” สบตามันสักหน่อยให้มันคิดว่าเขาจริงจัง
“ไม่ต้องโทร เดี๋ยวพี่ไปหาเอง สักตี 5 เป็นไง
อพาร์ทเมนท์ไหนบอกสิครับ” โห...เวลาใช่เป๊ะเลย
ฆาตกรรมช่วงเช้าสนุกสนานถึงที่สุด พวกโรคจิตชัด ๆ
“โห ทำไมเช้าจังฮะ
ผมยังไม่ตื่นเลย”
“หืม ทำกันเช้ามืดน่ะ
มันสุขสุดยอดเลย คิตตี้ไม่รู้เหรอครับ เดี๋ยวพี่หมอสอนให้ หึหึ”
รอยยิ้มวิปริตชัด ๆ
“อา...เอางั้นก็ได้ฮะ
พี่เอาเบอร์ผมไป จะมาหาตอนไหนโทรเลยนะฮะ ผมจำชื่ออพาร์ทเม้นท์ไม่ได้ ตื่นเต้นจนลืม
ๆน่ะฮะ แฮ่แฮ่” ต้องบอกปัด ๆ
ไปก่อนยังหาอพาร์ทเมนท์ที่ว่าไม่ได้เลย
ศิริชัยล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมมเบอร์ทันที เมื่อคริสเห็นว่าทุกอย่างลงตัวจึงขอตัวจะเดินเลี่ยงออกมา
ศิริชัยล้วงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเมมเบอร์ทันที เมื่อคริสเห็นว่าทุกอย่างลงตัวจึงขอตัวจะเดินเลี่ยงออกมา
“เดี๋ยวครับน้องคิต จะไปง่าย ๆ แบบนี้น่ะเหรอ” ท่อนแขนแกร่งรั้งเอวผู้หมวดหนุ่มไว้
คริสตินตกใจสะดุ้งลืมตัว ขณะที่กำลังคิดว่าจะทำอย่างไร
คุณหมอหนุ่มก็โน้มใบหน้าลงแถว ๆ ลำคอเขาแล้ว
แต่แล้ว
ผั๊ว!!!
กำปั้นเล็กชกเข้าที่ใบหน้าหมอหนุ่มทันทีดีนะไม่ปล่อยแรงออกมากมายเท่าไหร่
เล่นเอาอีกฝ่ายถึงกับอึ้งสนิทยกมือกุมแก้ม คริสเองก็นึกได้ทันทีว่าลืมตัวไป
ชายหนุ่มรีบอ้ำๆอึ้ง ๆ แก้ตัว
“อะ....เอ่อ ผะ...ผมชอบความรุนแรงน่ะฮะ เขินทีไรมือไม้ไปเองทุกที” แย่แล้วกู คริสนึก
“คราบ
ไม่เป็นไรหรอกพี่เองก็ชอบแบบรุนแรงเหมือนกันเดี๋ยวเก็บไว้เล่นกันวันนั้นนะ
ตอนนี้ยังไม่ได้ก็ไม่เป็นไรแต่ขอจูบมัดจำไว้ก่อนได้รึเปล่า” จมูกซุกซนของไอ้หมอโรคจิตพยายามจะเข้ามาชอนไชคริสตินซะให้ได้
สองคนปล้ำจะจูบกันไปมาอย่างดุเดือด
คนหนึ่งบุกไม่หยุด ส่วนอีกคนก็ต้านไว้อย่างสุดแรงที่มี
เดือดร้อนคนที่ยืนพิงผนังอยู่หน้าห้องน้ำมานานแล้วอย่างซาโต้ส่ายหน้าถอนใจยกโทรศัพท์ขึ้นกดโทรเรียก
เมื่อดูแล้วว่าท่าทางคริสตินคงจะดิ้นหลุดยาก
เมื่อเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขัดจังหวะ
คริสตินรีบถือโอกาสตอนคุณหมอชะงักผละออกมากดรับสาย
“ มาม่าซังโทรตามน่ะฮะ” เสียงโทรศัพท์จากสวรรค์ส่งมาโปรดเขาแท้
ๆ ผู้หมวดหนุ่มนึกขอบใจคู่หูอยู่เหมือนกัน
เขาถึงกับถอนใจโล่งเมื่อคุณหมอรูปหล่อเต็มใจปล่อยเขาออกมาแต่โดยดี
“เดี๋ยวพี่โทรหานะครับ
ถึงเวลาน้องคิตห้ามงอแงนะ”
คริสพยักหน้าโบกมือแสร้งส่งยิ้มให้หมอหนุ่มก่อนเดินเลี่ยงออกไปทางด้านหลังร้าน
ทำทีว่าไปพบมาม่าซังตามที่บอกไปเมื่อสักครู่
ศิริชัยเองก็เดินแยกไปที่บาร์เหล้าทันทีเหมือนกัน
.
.
“กลับกันเลยนะครับ
วันนี้งานคงจบแล้ว” ซาโต้พูดขึ้นขณะเดินตามหลังคริสมาถึงบริเวณห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ทั้งคู่เดินลัดเลาะเลี่ยงออกไปทางด้านหลังร้าน
“มึงทิ้งกู จำไว้เลยนะซาโต้”
ใบหน้าบูดบึ้งเป็นเด็ก ๆ ฉายชัดจมูกรั้นเชิดออกไปอีกทาง
“ไม่ได้ทิ้งนะครับ
ผมยืนดูอยู่ตลอดนะ”
หืออออ มันบอกว่ายืนดูอยู่ตลอดงั้นหรือ?? แสดงว่าเมื่อกี้มันก็เห็นหมดน่ะสิว่าเขาทำอะไรลงไปบ้าง
ก็แล้วทำไมไม่เข้ามาตอนที่เขาโดนไอ้หมอนั่นมันลวนลามตั้งแต่แรกเล่า ไอ้บ้าซาโต้แกล้งกันชัดๆ
คริสติน เม้มปากคิด
“ไม่เห็นหรอกครับ ได้ยินแต่เสียงนะ ‘ไม่เอาฮะไม่ใช่ที่นี่’ ซาโต้แสร้งดัดเสียงเล็กเสียงน้อยล้อเลียนประโยคที่คริสตินพูดกับเจ้าคุณหมอนั่น แถมยังทำหน้าตาทะเล้นขำเขาอีกต่างหาก
โหยยย ไอ้ห่า!มึงคิดว่ากูอยากพูดแบบนั้นนักรึไง เพี๊ยะ!!!!! นี่แน่ โบกหัวมันไปสักทีโทษฐานหัวเราะเยาะเย้ยเขา ซาโต้โดนเข้าไปหนึ่งดอกเต็ม ๆ ถึงกับอึ้งกิมกี่ หันมาหรี่ตามองคนมือหนักด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“ไม่เห็นหรอกครับ ได้ยินแต่เสียงนะ ‘ไม่เอาฮะไม่ใช่ที่นี่’ ซาโต้แสร้งดัดเสียงเล็กเสียงน้อยล้อเลียนประโยคที่คริสตินพูดกับเจ้าคุณหมอนั่น แถมยังทำหน้าตาทะเล้นขำเขาอีกต่างหาก
โหยยย ไอ้ห่า!มึงคิดว่ากูอยากพูดแบบนั้นนักรึไง เพี๊ยะ!!!!! นี่แน่ โบกหัวมันไปสักทีโทษฐานหัวเราะเยาะเย้ยเขา ซาโต้โดนเข้าไปหนึ่งดอกเต็ม ๆ ถึงกับอึ้งกิมกี่ หันมาหรี่ตามองคนมือหนักด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“อะไร ๆ ๆ ไม่ต้องมามองกูแบบนั้นเลย
มึงแหละผิด” คริสรีบโบ้ย เขาสองคนเดินมาถึงรถพอดี
ซาโต้โยนหมวกกันน็อคส่งให้อีกฝ่าย
“เดี๋ยวคืนนี้ทำโทษอีกคอยดู
จะเอาให้หนักกว่าทุกครั้งเลย ” พูดจบปุ๊บก็สวมหมวกกันน็อคของตัวเองแล้วก้าวขึ้นคร่อมรถไว้ทันที
คริสตินเบ้ปากยักไหล่ไม่สนใจกระโดดขึ้นรถเกาะด้านหลังซาโต้ไว้อย่างเร็ว
รถมอเตอร์ไซด์คันใหญ่เคลื่อนตัวออกไป
เลี้ยวซ้ายเรียบชายหาดไปตามถนนที่ตอนนี้ค่อนข้างเงียบลงมากแล้ว
ฝ่ามือขาวจู่ ๆ
ฟาดลงที่กลางแผ่นหลังกว้างของคนขับอย่างแรง
ผั๊วะ!! ซาโต้สะดุ้งนิด ๆ
หันหน้ามาดูนิดหน่อยจากนั้นหัวเราะออกมาเบา ๆ ขณะที่คนตีทำสีหน้าแทบไม่ถูก
เมื่อเพิ่งคิดได้ว่า ‘แกล้ง’ ในความหมายของซาโต้นั้นคืออะไร.....
โถ โถ ความรู้สึกช้าจริงนะครับคริส หึหึ “คืนนี้โดน!” ซาโต้เปิดหมวกหันกลับมาพูด
“มึงแหละโดน” คริสสวนกลับทันที
“อะไรครับ ผมจะโดนอะไร”
“ก.......ก็โดน...อะไรที่มึงคิดจะทำกับกูน่ะ
มึงแหละจะโดนเอง” คริสไม่ยอมแพ้ ตอบตะกุกตะกักไปเรื่อย
“อ้าวววว งั้นก็แย่สิครับ”
“อะไร?? ทำไมแย่
นี่มึงคิดจะทำอะไรแย่ ๆ กับกูรึไงห๊ะ” สีหน้าคนบางคนเริ่มเปลี่ยน
เขาเกาะเอวซาโต้จนแน่นชะเง้อคอไปถาม
“ หึหึหึ” ซาโต้หันกลับมาส่งสายตาเจ้าเล่ห์พร้อมหัวเราะในลำคอ
“ ขับไปอย่าพูดมาก มึงนี่น้าคิดแต่เรื่องอุบาท”
“อะไร รู้เหรอผมคิดเรื่องอะไรน่ะ”
“ทำไมกูจะไม่รู้
ถ้าคืนนี้กูสึกหรอนะ คืนพรุ่งนี้มึงต้องโดนแบบเดียวกัน”
“หยึยยย แบบนี้แสดงว่า.....”
“ไอ้ซาโต้ นี่มึงคิดเรื่องอุบาทจริง
ๆ ใช่ไหมเนี่ย”
“ก็คริส......”
“ไม่ต้องมาเถียง เถียงยังไงมึงก็แพ้อยู่วันยังค่ำ”
“ครับ ครับ
ผู้ชายเถียงแพ้ผู้หญิงอยู่แล้ว”
“นี่มึงว่ากูเป็นผู้หญิงเหรอ”
คริสบิดลงที่เอวซาโต้แรง ๆ หนึ่งที “โอ๊ยยย
เปล่านะ พอ ๆ เลิกเล่นๆ”
“ไอ้ซาโต้
มึงแกล้งกูมากแบบนี้ระวังกูจะเอามึงเป็นเมียเข้าสักวัน
ต่อไปจะได้ไม่กล้าแกล้งกูอีก”
เอี๊ยดดดดด!!! ซาโต้เบรกรถจนหัวทิ่มหันมามองคริสตินอย่างหวาดกลัว
ขณะที่อีกฝ่ายแสร้งหันมองที่อื่นไปทั่วไม่สนใจอะไร
“คริสครับ” รถจอดเบี่ยงลงที่ข้างทาง
“อะไร”
“คริสครับ”
“อะไรเล่า” น้ำเสียงเริ่มเปลี่ยน
“มาเล่นกันไหม”
“เล่นอะไร”
“มวยปล้ำ”
“อะไรของมึง”
“คืนนี้ ใครกดใครได้ก่อนคนนั้นชนะ”
หือออ คริสตินกลอกตาคิด ‘อะไรของมันจู่
ๆ ชวนเล่นมวยปล้ำ’
“ใครชนะได้ 1 จูบ”
“ห๋าาา!!!”
“ก็ใช่ไง
ถ้าผมแพ้ผมยอมเสียจูบแรกให้คริสเลยเอา”
“แล้วถ้ากูแพ้??”
“คริสก็ได้จูบแรกจากผมไปไง”
คริสตินกลอกตานึก ๆ แต่ยังประมวลผลไม่ทัน “เห็นไหม คริสมีแต่ได้กับได้นะครับ
ผมน่ะมีแต่เสียกับเสียนะ”
“อะไร
นี่มึงยังไม่เคยจูบกับใครเหรอเนี่ย” ผู้หมวดหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่อยากเชื่อ
“อื้อ”
“จริงน่ะ”
“อื้อ ๆ” ซาโต้พยายามเกร็งหนังหน้าตัวเองสุดฤทธิ์ไม่ให้หลุดหัวเราะออกมา คริสนี่ซื่อสุด
ๆ ไปเลยครับ
“......อืมม.......เอางั้นก็ได้
ยังไงกูก็มีแต่ได้กับได้ ส่วนมึงมีแต่เสียกับเสียนี่หว่า งั้นรีบกลับเหอะ
กว่าจะไปเล่นกันอีกกว่าจะได้นอน” ชายหนุ่มพูดไปเรื่อยแบบไม่ได้คิดอะไร
ซาโต้ตาโตรีบหันหน้ากลับไปตั้งหลักกลืนน้ำลายอึก ๆ ลงคอ ไม่คิดว่าจะหลอกได้ง่ายดายปานนี้
รถมอเตอร์ไซด์เคลื่อนตัวต่อไปอีกครั้ง
แต่....ซาโต้ยังไม่เคลียร์ “คริสจะเล่นคืนนี้เลยเหรอครับ”
ลองถามดูอีกที เผื่ออีกฝ่ายจะนึกเอะใจอะไรขึ้นมาบ้าง เขาเองก็หวั่น
ๆ อยู่เหมือนกันตอนแรกกะจะแค่แกล้งเล่นเท่านั้นไม่คิดว่าจะเอาจริง
“อืมม ก็คืนนี้สิวะ หรือมึงจะเล่นวันหลังล่ะ” ลมเย็น ๆ ปะทะใบหน้าขาว คริสตินสูดอากาศอย่างสบายอกสบายใจไม่ได้นึกเอะใจอะไรเล้ย
“อืมม ก็คืนนี้สิวะ หรือมึงจะเล่นวันหลังล่ะ” ลมเย็น ๆ ปะทะใบหน้าขาว คริสตินสูดอากาศอย่างสบายอกสบายใจไม่ได้นึกเอะใจอะไรเล้ย
“.......ป่าวววว เล่นวันนี้แหละ อยากลองดูอยู่เหมือนกัน” พูดไปลอย ๆ
ไม่รู้ว่าคนซ้อนจะได้ยินหรือไม่
จูบครั้งแรก กับผู้ชายนะ! ส่วนผู้หญิงน่ะจูบมาเยอะแล้วครับคริส หึหึ^^
เป็นไงเป็นกัน เดี๋ยวได้รู้......
Tbc.