# 13
ในที่สุดผู้หมวดหนุ่มก็ได้กลับมานอนแผ่หลาบนเตียงกว้างของที่พักอีกครั้ง นาฬิกาข้อมือบอกเวลาตีสองกว่าแล้ว แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ยังคงไม่รู้สึกง่วงเท่าไหร่ ก็แค่เพลียจากงานที่ไม่ชินเท่านั้น
คริสตินพลิกตัวนอนคว่ำเท้าแขนเหลือบมองคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้กำลังเปิดโน๊ตบุ๊คเข้าระบบหน่วยงานลับ พร้อมคีย์ข้อมูลก็อกๆแก๊กๆบางอย่างลงไป
ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่คู่หูทั้งสองยังคงรับบทบาทหน้าที่จอมปลอมอยู่ในบาร์นั่น หลังจากที่เจ๊เปรี้ยวพาซาโต้ไปแนะนำตัวกับเป้าหมายของเราเรียบร้อย คุยกันไปมาจนแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ได้สักพักหนึ่ง เจ๊เปรี้ยวก็ขอตัวนำเจ้าซาโต้เข้ามาเก็บด้านในซะก่อนเนื่องจาก นพ.หนุ่มแสดงท่าทีว่าวันนี้อยากจะคุยกับน้องหนึ่งตามลำพังมากว่า
คริสยังส่งเสียงแซวคู่หูเบา ๆ ว่า ‘ไม่ได้เรื่องหน้าตาไม่ตรงสเป็ค ไร้เสน่ห์ต่อเพศเดียวกันอย่างสิ้นเชิง’ นั่นทำเอาซาโต้กัดฟันกรอด ๆ แล้วบอกให้คริสตินมาทำหน้าที่แทนตนในวันพรุ่งนี้ คริสรีบส่ายหัวปฏิเสธบอกว่าพูดเล่นคิดมากไปได้ เจ้าซาโต้ตัวดีจึงบอกเขาว่ายังเหลือเหยื่ออีกรายในวันพรุ่งนี้นั่นก็คือสัตวแพทย์หนุ่มศิริชัย คราวนี้เขาจะต้องล้วงข้อมูลลึก ๆ ออกมาให้ได้ ชายหนุ่มวาดหวังเป็นมั่นเป็นเหมาะ
นำให้คริสตินหัวเราะหึหึในลำคอเบา ๆ ‘คราวนี้ถ้าไม่ได้เรื่องอีกจะทำยังไงว้าเจ้าซาโต้ ไม่รู้มันเตรียมแผนสำรองอะไรไว้บ้างรึเปล่า’
“คริสจะอาบก่อนไหมครับ ดึกแล้ว ” เสียงทุ้มจากเจ้าซาโต้เรียกสติให้ผู้หมวดหนุ่มตื่นขึ้นจากการคิดอะไรเพลิน ๆ จนเกือบจะหลับ น่าแปลกตอนแรกยังไม่รู้สึกง่วงแท้ ๆ แต่พอตัวถึงที่นอนเท่านั้น ความง่วงเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญจริง ๆ
“อือออ มึงลงข้อมูลเรียบร้อยแล้วเหรอ” คริสตินที่นอนคว่ำหน้างัวเงียลุกขึ้นถาม
“ครับ เรียบร้อยแล้ว”
“อือ งั้นมึงอาบก่อนเลย เสร็จแล้วค่อยเรียกละกัน” พูดจบปุ๊บก็ฟุบหน้าลงนอนต่อปั๊บทันที ซาโต้เองก็คว้าผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้เมื่อเช้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำทันทีเช่นกัน
ชายหนุ่มใช้เวลาไม่นานในการอาบน้ำสระผม (แม้จะดึกมากแล้วแต่ก็ต้องสระเพราะกลิ่นบุหรี่แรงมาก) พอออกมาก็เห็นคริสนอนคว่ำตะแคงหน้าอ้าปากหวออยู่บนเตียง กว่าจะเขย่าตัวคนให้ตื่นได้ก็ลำบากโขอยู่แต่ในที่สุดก็ตื่น
คริสตินเดินงัวเงียกำลังจะเข้าห้องน้ำ ขณะเดินผ่านด้านหลังของซาโต้ที่ตอนนี้นุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียวกำลังค้นหาเสื้อผ้าอยู่ที่ตู้
มือซุกซนช่างไปไวกว่าความคิด เขารั้งขอบผ้าขนหนูด้านหลังของคู่หูให้ต่ำลงอีกหน่อย พร้อมเหล่ตาจ้องมอง จุดประสงค์ที่แท้จริงคือ 'รอยสัก' คำว่าอะไรกันนะที่บั้นท้ายนั่น
ซาโต้เองก็เร็วไม่แพ้กันเมื่อความรู้สึกมันฟ้องว่ามีคนกำลังพยายามดึงผ้าที่ตนนุ่งอยู่ให้ต่ำลง มือแกร่งก็ตรงเข้าตะครุบไว้ทันท่วงที
นั่นทำเอาคริสถึงกับหน้าเหวอ “อุ้ยย!”
“สนใจรึไงครับ” ซาโต้ถามยิ้ม ๆ รู้ทั้งรู้ว่าคริสตินอยากรู้อยากเห็นเรื่องรอยสัก แต่ก็ขอแกล้งสักหน่อย
“ถ้าอยากดู ขอดี ๆ ก็ได้ คิดจะเปิดเองแบบนี้ ไม่ยุติธรรมกับผมเลยนี่นา เดี๋ยวโดนข้อหาลวนลามทางเพศนะ หึหึหึ”
“คะ...ใคร ใครจะอยากดูของมึงกั้น กูก็แค่สงสัย แต่ตอนนี้ไม่อยากรู้แล้วก็ได้” คริสตะกุกตะกักแก้ตัว พอพูดจบผู้หมวดหนุ่มรีบถลาเข้าห้องน้ำปิดประตูลงกลอนทันทีด้วยความอาย หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุข
คริสตินได้แต่ตีมือตัวเองในห้องน้ำหลายๆทีทั้งปากก็บ่นพึมพำ “ไอ้มือไม่รักดีทีหลังอย่าหยิบจับอะไรเร็วซี้ซั้วแบบนี้สิวะ กูแก้ตัวให้มึงไม่ทันเล้ยยย เห็นรึเปล่า” โถ่เว้ยสรุปก็ยังไม่รู้อยู่เหมือนเดิมว่ามันสักคำว่าอะไรไว้คนถึงได้กรี๊ดกันขนาดนั้น
พออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย คริสตินรีบถลาขึ้นเตียงทันที วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแถมยังง่วงอีกต่างหาก กะว่าจะนอนให้เต็มตื่นแถมพรุ่งนี้ยังไม่ต้องรีบตื่นเนื่องจากตกลงกันไว้แล้วว่าจะเข้าบาร์ตอนค่ำเลย
“เฮ้อ!! สบายตัว สบายใจ ซาโต้มึงนอนตอนไหนปิดไฟด้วยนะ กูนอนก่อนล่ะไม่ไหวแล้ว” คริสบอกคู่หูที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงอีกฝั่ง ลืมเรื่องรอยสักไปซะสนิท
ซาโต้ลุกขึ้นเดินไปปิดไฟ พอล้มตัวลงนอนปุ๊บชายหนุ่มก็ถามขึ้นทันที
“ไอ้ประกาศรับสมัครงานอะไรนั่น คริสรู้อยู่ก่อนแล้วใช่ไหมครับ”
แง่ววววว!! ถึงแม้ว่าเกือบจะหลับอยู่รอมร่อ แต่ผู้หมวดหนุ่มก็ได้ยินคำพูดทั้งประโยคนั้นของคู่หูอย่างชัดเจน
คริสตินหลับตาปี๋เปลี่ยนท่าเป็นนอนคว่ำหันหน้าหนีทันที ‘ฮึ่ยยยย มันจะมาถามบ้าบออะไรตอนนี้วะ’
“ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าทางร้านเขาต้องการผู้ชายสวมแว่น แต่คริสก็ยังเตือนให้ผมเอาแว่นขึ้นมาสวมใช่ไหมครับ”
คนถาม ถามเสียงเครียดซะจนคริสตินต้องรีบหันกลับมามอง
“เฮ้ยอะไร ซาโต้มึงเป็นไรเนี่ย เรื่องแล้วไปแล้วก็ให้แล้วกันไปสิวะ มึงจะพูดเพื่อ??” คริสเองก็รู้ว่าตัวเองขี้โกงเต็ม ๆ ประตู แต่ก็จะทำไงได้ล่ะ
ซาโต้ยังนอนเงียบยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผากไว้ สีหน้าใต้แสงจันทร์นั้นเคร่งเครียดจนเห็นได้ชัด ริมฝีปากสวยได้รูปไม่ขยับพูดอะไรอีก คริสเห็นอย่างนั้นยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ ผู้หมวดหนุ่มจึงพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าไปคุยกันตรง ๆ
“ก็แล้วจะให้กูทำไงล่ะ มาม่าเข้าก็เลือกมึงไปแล้วมึงก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดสิวะ กูเองก็ใช่ว่าจะสบายต้องยืนชงเหล้าเช็ดแก้วดูผู้ชายเต้นเนี่ย อย่าคิดว่ากูจะชอบนะ”
คริสพูดเสียงอ่อนคราวนี้เป็นเขาที่เริ่มเครียดขึ้นมาบ้างแล้ว
ซาโต้แอบเหล่ตามอง เห็นใบหน้าจืดจ๋อยแบบนั้นของคู่หูก็รู้สึกตลกขึ้นมาเนื่องจากเขาแค่กำลังแกล้งอีกฝ่ายเล่นเท่านั้น ‘หึหึ งั้นก็ต้องแกล้งต่อไป’ ซาโต้คิดแผนไว้ในใจอยู่คนเดียว
“งั้นคริสจะชดเชยให้ผมยังไงล่ะครับ” จู่ ๆ เจ้าคนที่นอนก่ายหน้าผากอยู่เมื่อกี้ก็พูดขึ้น หน้าตายังเครียดอยู่เหมือนเดิมไม่มีผิด
หือออ ชดเชยอะไรของมัน “ก็แล้วมึงอยากได้อะไรล่าาา” คริสจำใจถามกลับไป
“คริสก็ขยับมาใกล้ ๆ สิครับผมถึงจะบอกได้”
‘อะไรของมันวะ! เรื่องมากจริง ตอนนี้ก็นอนอยู่เตียงเดียวกันแท้ ๆ ใช่ว่าจะไกลสักหน่อย ยังเสือกบอกให้ขยับเข้าไปใกล้ ๆ อีก เอ๊ะ หรือมันเป็นความลับสำคัญของทางราชการขนาดต้องกระซิบกระซาบเพราะกลัวว่าในห้องจะถูกติดเครื่องดักฟัง’ ผู้หมวดหนุ่มเริ่มคิดอะไรไหลออกทะเลไปเรื่อยเปื่อย
“เร็วดิ๊” ซาโต้หันมาเร่งยิก ๆ
“เอ้อออ ๆ ก็ได้ ๆ มึงอยากได้ไร ว่ามา” คริสตินขยับเข้าไปจนตัวติดกับอีกฝ่าย
ซาโต้จึงหันมามองชายหนุ่มแบบใกล้ ๆ แล้วกระซิบบอกเบาๆ “อยากได้แบบเมื่อวาน”
‘ฮึ ! แบบเมื่อวานอะไรของมัน?’ ผู้หมวดหนุ่มเริ่มคิ้วขมวด
“แบบเมื่อวานอะไรของมึง นี่มึงอยากได้ไรพูดให้มันชัด ๆ เลยได้ป่าวเนี่ย” คริสเริ่มโวยวายเมื่อรู้สึกว่าตนเองสื่อกับคู่หูไม่เข้าใจสักที
“ก็แบบนี้ไงคราบบ ที่อยากได้น่ะ” พอพูดจบปุ๊บมือใหญ่ ๆ ก็รวบเอาตัวผู้หมวดหนุ่มไปกอดไว้ทั้งตัว อีกทั้งขาหนัก ๆ นั้นยังพาดทับลงมาอีก
คริสตินตกใจจนหน้าซีด ดันตัวอีกฝ่ายไว้ด้วยความแตกตื่น
“ไอ้ซาโต้ จะมากเกินไปแล้วนะมึง คิดจะแกล้งกูก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย” กำปั้นหนัก ๆ ของคริสตะลุมทุบลงที่ต้นแขนแกร่ง เท้าที่ว่างอยู่ทั้งเตะทั้งถีบลมไม่ยอมหยุด
“หึหึหึ ไหนสัญญาว่าจะให้ แล้วดิ้นทำไมเนี่ย” ซาโต้เนียนต่อ
“ใครไปสัญญากับมึ้ง บ้ารึเปล่า กูแค่ถามว่ามึงอยากได้อะไร ไอ้ซาโต้มึงเอามือเอาขาออกไปนะ บ้าเอ้ยกูหนักเร็ว ๆ เข้า”
“อื้ออออ ง่วงนอนแล้วววววว ” ยังมีหน้ามาทิ้งน้ำหนักเสียงเอาแต่ใจ
ยิ่งเห็นอีกฝ่ายดิ้นคลุกคลักมากเท่าไหร่ ซาโต้ยิ่งอยากจะแกล้งให้หนักขึ้นอีกมากเท่านั้น ท่อนแขนแข็งแรงจึงเพิ่มแรงกอดรัดขึ้นอีกเป็นเท่าตัว พร้อมรอยยิ้มหยักเกิดขึ้นที่มุมปากสวย
“ซาโต้อย่าแกล้งแบบนี้สิวะ เอามือเอาขามึงออกไปเดี๋ยวนี้” คริสเองก็โวยจนเหนื่อยไปหมดแล้วเหมือนกัน
“ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ กอดกันเล่น ๆ นะ ถ้าไม่มีอะไรให้กอดแล้วนอนไม่หลับนี่ นอน ๆ ๆ คราวนี้ไม่พูดแล้วนะครับคริส ผมง่วงจริงแล้ว”
ผู้หมวดหนุ่มถอนใจยาวเริ่มหยุดอาการต่อต้าน เมื่อเห็นว่าสู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหว ‘เออเอาวะ กูจะเป็นหมอนข้างให้มึงอีกสักวันก็ได้วะ ไอ้เด็กโข่งนี่ แทนที่จะเป็นกูนะมึงที่ติดหมอนข้างยักษ์น่ะ’
แต่เมื่อซาโต้เงียบไปจริง ๆ คริสตินกลับนึกอย่างหนึ่งขึ้นมาได้
“เฮ้ย!ซาโต้”
“อือออ นอนนนนน”
“มึงอย่าเพิ่งนอนกูเพิ่งนึกได้ มะรืนนี้เพื่อนกูเขาจะกลับมาจากออสเตรเลีย กูต้องไปรับเขามึงพอจะปลีกตัวได้รึเปล่าวะ”
“หือ วันไหนนะครับ” ซาโต้ลืมตาโพลง
“วันอาทิตย์”
ชายหนุ่มกลอกตาอย่างใช้ความคิด ถึงตารางงานคร่าว ๆ ของตัวเอง
“กูก็รู้ว่าเราต้องทำงาน แต่ขอเวลาแป็บเดียว กูไม่อยากให้เขาน้อยใจกูง้อหญิงไม่ค่อยเป็นว่ะ” คริสตินพูดไปนิ้วเรียว ๆ ของเขาก็ลูบแขนคนที่กอดตนเองอยู่ไปด้วยอย่างลืมตัว
ซาโต้สะดุ้งนิดหน่อย รู้สึกขนลุกตั้งแต่โดนลูบครั้งแรกแล้ว แต่ก็ยังทำเฉยเขารู้ว่าผู้หมวดหนุ่มคงทำไปเพราะความลืมตัวเป็นแน่ ยิ่งคิดยิ่งขำจนลืมตอบคำถามของคนในอ้อมแขน
“ว่าไง จะพากลับกรุงเทพก่อนได้รึเปล่า นะ วันอาทิตย์เย็น ๆ เราค่อยกลับมาใหม่นะ” คริสเงยหน้าขึ้นไปถาม แต่ไม่รู้ทำไมซาโต้กลับรู้สึกเหมือนถูกอ้อนอยู่มากกว่า
...ใจเขาถึงกับสั่นขึ้นมานิด ๆ
เพราะงั้น....ต้องกลบเกลื่อน
“ครับๆได้ๆ เดี๋ยววันอาทิตย์เรากลับกันแต่เช้าเลย วันนี้นอนก่อนนะ ง่วงแล้ว”
...ต้องเนียนถ้าอยากแกล้ง...
ซาโต้จับปลายผ้าห่มยัด ๆ ปิดบังแถวหน้าอกตัวเองไว้กันเสียงหัวใจที่เริ่มเต้นดังผิดปกติ ทั้งที่สองมือของตนยังกอดคริสไว้ไม่ยอมปล่อย
คริสตินได้ยินคำตอบอย่างนั้นก็โล่งอก ถึงแม้ว่างานเยอะงานยุ่งแค่ไหน แต่คนเราก็ต้องมีชีวิตส่วนตัวกันบ้าง ชายหนุ่มหลับตาลงในความมืด
พรั่งพรูลมหายใจสม่ำเสมอออกมาเบา ๆ
ทั้งที่โดนกอดไว้แน่นขนาดนี้...แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกอบอุ่นและสบายใจอย่างบอกไม่ถูกก็ไม่รู้
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มเงียบ ซาโต้เองก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง
ใบหน้าที่ดูเหมือนเด็กนั่น หลับตาพริ้ม แพขนตานิ่งสนิทไม่สั่นไหว กลุ่มเส้นผมนิ่มคลอเคลียอยู่แถวจมูกเขาไม่ห่าง
ใจเขาเองก็เริ่มเต้นเป็นจังหวะปกติแล้ว ชายหนุ่มได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า คงสนุกมากไปหน่อยที่ได้แกล้งคน โดยเฉพาะคริสชอบทำหน้าตลก ๆ เป็นเด็กให้เขาขำได้ทุกครั้งที่โดนรังแก
มือหนาเกลี่ยปอยผมที่ระข้างแก้มนั้นออกเบา ๆ
“หมดฤทธิ์แล้วรึไงครับ” ชายหนุ่มพึมพำ ไร้ซึ่งเสียงโต้เถียงจากอีกฝ่าย ลมหายใจหนัก ๆ และสม่ำเสมอพ่นออกมาจากปลายจมูกโด่ง บอกให้รู้ว่าผู้หมวดหนุ่มหลับลึกลงไปแน่นอนแล้ว
ซาโต้กำลังจะเลื่อนมือออกจากลำตัวของคู่หู แต่มือเรียวยาวนั่นดันกอดแขนเขาไว้ซะแน่น แถมยังเบียดตัวเองเข้ามาชิดยิ่งขึ้นไปอีก เขาจึงจำใจปล่อยเลยตามเลยบวกกับความง่วงที่แทรกเข้ามาตอนไหนก็ไม่รู้ ลมหายใจคลอเคลียอยู่ที่เรือนผมนุ่มไม่ห่าง
ต่างคนต่างดำดิ่งลงสู่นิทราแห่งความฝัน
.
.
.
‘อึ้ม ~ ~ ตุ๊กตาหมีเน่าของเรานี่นา เราเอามาที่นี่ด้วยเหรอเนี่ย’ คริสตินอยู่ในห้วงฝันโอบกอดหมียักษ์ตัวโปรดไว้แน่น ซุกไซ้ใบหน้าฝังปลายจมูกถูไถหน้าอกหมี ‘หอมจัง’
.
.
ขณะที่ซาโต้เองก็กำลังฝันเช่นกัน ‘ฮัดชิ่ววว!! ขนอะไรแหย่จมูกเนี่ย ขนแมวรึเปล่า ฮึ่ยย มันเข้ามาได้ไง ออกไปไกล ๆ เลยนะขึ้นมาบนเตียงได้ไงเนี่ยยย’ ชายหนุ่มตบหัวแมวยักษ์ที่มีขนยาวคลอเคลียร์อยู่แถวจมูกตนให้ออกห่างอย่างแรง(หัวคริส)
นั่นทำเอาคริสถึงกับตื่นขึ้นมานั่งทันทีแบบงง ๆ ‘ไรวะ มีใครมาตบหัวกูเนี่ย’ คริสตินนั่งส่ายหน้าพยายามลืมตาในความมืด
เมื่อมองเห็นว่าคนข้าง ๆ ยังนอนหลับไม่ได้รู้เรื่องอะไรก็คิดว่าตัวเองแค่ฝันไป ชายหนุ่มขยี้ตาแล้วล้มตัวลงนอนต่อ
แต่จะด้วยความเคยชิน(1คืน)หรืออะไรก็ไม่ทราบได้ คริสแทรกตัวลงนอนในอ้อมแขนของคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ก่อนแล้วโดยไม่รู้ตัว
ผู้หมวดหนุ่มหันไปวาดวงแขนกอดเข้าเต็มมือ พร้อมก่ายขากอดไปเต็มแรงเช่นกัน
ในที่สุดก็หลับลงไปอีกครั้ง
โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ทั้งสองคน
Zzzzz Zzzzz Zz Zz
ในที่สุดผู้หมวดหนุ่มก็ได้กลับมานอนแผ่หลาบนเตียงกว้างของที่พักอีกครั้ง นาฬิกาข้อมือบอกเวลาตีสองกว่าแล้ว แต่กระนั้นชายหนุ่มก็ยังคงไม่รู้สึกง่วงเท่าไหร่ ก็แค่เพลียจากงานที่ไม่ชินเท่านั้น
คริสตินพลิกตัวนอนคว่ำเท้าแขนเหลือบมองคนข้าง ๆ ที่ตอนนี้กำลังเปิดโน๊ตบุ๊คเข้าระบบหน่วยงานลับ พร้อมคีย์ข้อมูลก็อกๆแก๊กๆบางอย่างลงไป
ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่คู่หูทั้งสองยังคงรับบทบาทหน้าที่จอมปลอมอยู่ในบาร์นั่น หลังจากที่เจ๊เปรี้ยวพาซาโต้ไปแนะนำตัวกับเป้าหมายของเราเรียบร้อย คุยกันไปมาจนแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ได้สักพักหนึ่ง เจ๊เปรี้ยวก็ขอตัวนำเจ้าซาโต้เข้ามาเก็บด้านในซะก่อนเนื่องจาก นพ.หนุ่มแสดงท่าทีว่าวันนี้อยากจะคุยกับน้องหนึ่งตามลำพังมากว่า
คริสยังส่งเสียงแซวคู่หูเบา ๆ ว่า ‘ไม่ได้เรื่องหน้าตาไม่ตรงสเป็ค ไร้เสน่ห์ต่อเพศเดียวกันอย่างสิ้นเชิง’ นั่นทำเอาซาโต้กัดฟันกรอด ๆ แล้วบอกให้คริสตินมาทำหน้าที่แทนตนในวันพรุ่งนี้ คริสรีบส่ายหัวปฏิเสธบอกว่าพูดเล่นคิดมากไปได้ เจ้าซาโต้ตัวดีจึงบอกเขาว่ายังเหลือเหยื่ออีกรายในวันพรุ่งนี้นั่นก็คือสัตวแพทย์หนุ่มศิริชัย คราวนี้เขาจะต้องล้วงข้อมูลลึก ๆ ออกมาให้ได้ ชายหนุ่มวาดหวังเป็นมั่นเป็นเหมาะ
นำให้คริสตินหัวเราะหึหึในลำคอเบา ๆ ‘คราวนี้ถ้าไม่ได้เรื่องอีกจะทำยังไงว้าเจ้าซาโต้ ไม่รู้มันเตรียมแผนสำรองอะไรไว้บ้างรึเปล่า’
“คริสจะอาบก่อนไหมครับ ดึกแล้ว ” เสียงทุ้มจากเจ้าซาโต้เรียกสติให้ผู้หมวดหนุ่มตื่นขึ้นจากการคิดอะไรเพลิน ๆ จนเกือบจะหลับ น่าแปลกตอนแรกยังไม่รู้สึกง่วงแท้ ๆ แต่พอตัวถึงที่นอนเท่านั้น ความง่วงเข้ามาโดยไม่ได้รับเชิญจริง ๆ
“อือออ มึงลงข้อมูลเรียบร้อยแล้วเหรอ” คริสตินที่นอนคว่ำหน้างัวเงียลุกขึ้นถาม
“ครับ เรียบร้อยแล้ว”
“อือ งั้นมึงอาบก่อนเลย เสร็จแล้วค่อยเรียกละกัน” พูดจบปุ๊บก็ฟุบหน้าลงนอนต่อปั๊บทันที ซาโต้เองก็คว้าผ้าเช็ดตัวที่พาดไว้เมื่อเช้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำทันทีเช่นกัน
ชายหนุ่มใช้เวลาไม่นานในการอาบน้ำสระผม (แม้จะดึกมากแล้วแต่ก็ต้องสระเพราะกลิ่นบุหรี่แรงมาก) พอออกมาก็เห็นคริสนอนคว่ำตะแคงหน้าอ้าปากหวออยู่บนเตียง กว่าจะเขย่าตัวคนให้ตื่นได้ก็ลำบากโขอยู่แต่ในที่สุดก็ตื่น
คริสตินเดินงัวเงียกำลังจะเข้าห้องน้ำ ขณะเดินผ่านด้านหลังของซาโต้ที่ตอนนี้นุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียวกำลังค้นหาเสื้อผ้าอยู่ที่ตู้
มือซุกซนช่างไปไวกว่าความคิด เขารั้งขอบผ้าขนหนูด้านหลังของคู่หูให้ต่ำลงอีกหน่อย พร้อมเหล่ตาจ้องมอง จุดประสงค์ที่แท้จริงคือ 'รอยสัก' คำว่าอะไรกันนะที่บั้นท้ายนั่น
ซาโต้เองก็เร็วไม่แพ้กันเมื่อความรู้สึกมันฟ้องว่ามีคนกำลังพยายามดึงผ้าที่ตนนุ่งอยู่ให้ต่ำลง มือแกร่งก็ตรงเข้าตะครุบไว้ทันท่วงที
นั่นทำเอาคริสถึงกับหน้าเหวอ “อุ้ยย!”
“สนใจรึไงครับ” ซาโต้ถามยิ้ม ๆ รู้ทั้งรู้ว่าคริสตินอยากรู้อยากเห็นเรื่องรอยสัก แต่ก็ขอแกล้งสักหน่อย
“ถ้าอยากดู ขอดี ๆ ก็ได้ คิดจะเปิดเองแบบนี้ ไม่ยุติธรรมกับผมเลยนี่นา เดี๋ยวโดนข้อหาลวนลามทางเพศนะ หึหึหึ”
“คะ...ใคร ใครจะอยากดูของมึงกั้น กูก็แค่สงสัย แต่ตอนนี้ไม่อยากรู้แล้วก็ได้” คริสตะกุกตะกักแก้ตัว พอพูดจบผู้หมวดหนุ่มรีบถลาเข้าห้องน้ำปิดประตูลงกลอนทันทีด้วยความอาย หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุข
คริสตินได้แต่ตีมือตัวเองในห้องน้ำหลายๆทีทั้งปากก็บ่นพึมพำ “ไอ้มือไม่รักดีทีหลังอย่าหยิบจับอะไรเร็วซี้ซั้วแบบนี้สิวะ กูแก้ตัวให้มึงไม่ทันเล้ยยย เห็นรึเปล่า” โถ่เว้ยสรุปก็ยังไม่รู้อยู่เหมือนเดิมว่ามันสักคำว่าอะไรไว้คนถึงได้กรี๊ดกันขนาดนั้น
พออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย คริสตินรีบถลาขึ้นเตียงทันที วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแถมยังง่วงอีกต่างหาก กะว่าจะนอนให้เต็มตื่นแถมพรุ่งนี้ยังไม่ต้องรีบตื่นเนื่องจากตกลงกันไว้แล้วว่าจะเข้าบาร์ตอนค่ำเลย
“เฮ้อ!! สบายตัว สบายใจ ซาโต้มึงนอนตอนไหนปิดไฟด้วยนะ กูนอนก่อนล่ะไม่ไหวแล้ว” คริสบอกคู่หูที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงอีกฝั่ง ลืมเรื่องรอยสักไปซะสนิท
ซาโต้ลุกขึ้นเดินไปปิดไฟ พอล้มตัวลงนอนปุ๊บชายหนุ่มก็ถามขึ้นทันที
“ไอ้ประกาศรับสมัครงานอะไรนั่น คริสรู้อยู่ก่อนแล้วใช่ไหมครับ”
แง่ววววว!! ถึงแม้ว่าเกือบจะหลับอยู่รอมร่อ แต่ผู้หมวดหนุ่มก็ได้ยินคำพูดทั้งประโยคนั้นของคู่หูอย่างชัดเจน
คริสตินหลับตาปี๋เปลี่ยนท่าเป็นนอนคว่ำหันหน้าหนีทันที ‘ฮึ่ยยยย มันจะมาถามบ้าบออะไรตอนนี้วะ’
“ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่าทางร้านเขาต้องการผู้ชายสวมแว่น แต่คริสก็ยังเตือนให้ผมเอาแว่นขึ้นมาสวมใช่ไหมครับ”
คนถาม ถามเสียงเครียดซะจนคริสตินต้องรีบหันกลับมามอง
“เฮ้ยอะไร ซาโต้มึงเป็นไรเนี่ย เรื่องแล้วไปแล้วก็ให้แล้วกันไปสิวะ มึงจะพูดเพื่อ??” คริสเองก็รู้ว่าตัวเองขี้โกงเต็ม ๆ ประตู แต่ก็จะทำไงได้ล่ะ
ซาโต้ยังนอนเงียบยกมือขึ้นมาก่ายหน้าผากไว้ สีหน้าใต้แสงจันทร์นั้นเคร่งเครียดจนเห็นได้ชัด ริมฝีปากสวยได้รูปไม่ขยับพูดอะไรอีก คริสเห็นอย่างนั้นยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ ผู้หมวดหนุ่มจึงพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าไปคุยกันตรง ๆ
“ก็แล้วจะให้กูทำไงล่ะ มาม่าเข้าก็เลือกมึงไปแล้วมึงก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดสิวะ กูเองก็ใช่ว่าจะสบายต้องยืนชงเหล้าเช็ดแก้วดูผู้ชายเต้นเนี่ย อย่าคิดว่ากูจะชอบนะ”
คริสพูดเสียงอ่อนคราวนี้เป็นเขาที่เริ่มเครียดขึ้นมาบ้างแล้ว
ซาโต้แอบเหล่ตามอง เห็นใบหน้าจืดจ๋อยแบบนั้นของคู่หูก็รู้สึกตลกขึ้นมาเนื่องจากเขาแค่กำลังแกล้งอีกฝ่ายเล่นเท่านั้น ‘หึหึ งั้นก็ต้องแกล้งต่อไป’ ซาโต้คิดแผนไว้ในใจอยู่คนเดียว
“งั้นคริสจะชดเชยให้ผมยังไงล่ะครับ” จู่ ๆ เจ้าคนที่นอนก่ายหน้าผากอยู่เมื่อกี้ก็พูดขึ้น หน้าตายังเครียดอยู่เหมือนเดิมไม่มีผิด
หือออ ชดเชยอะไรของมัน “ก็แล้วมึงอยากได้อะไรล่าาา” คริสจำใจถามกลับไป
“คริสก็ขยับมาใกล้ ๆ สิครับผมถึงจะบอกได้”
‘อะไรของมันวะ! เรื่องมากจริง ตอนนี้ก็นอนอยู่เตียงเดียวกันแท้ ๆ ใช่ว่าจะไกลสักหน่อย ยังเสือกบอกให้ขยับเข้าไปใกล้ ๆ อีก เอ๊ะ หรือมันเป็นความลับสำคัญของทางราชการขนาดต้องกระซิบกระซาบเพราะกลัวว่าในห้องจะถูกติดเครื่องดักฟัง’ ผู้หมวดหนุ่มเริ่มคิดอะไรไหลออกทะเลไปเรื่อยเปื่อย
“เร็วดิ๊” ซาโต้หันมาเร่งยิก ๆ
“เอ้อออ ๆ ก็ได้ ๆ มึงอยากได้ไร ว่ามา” คริสตินขยับเข้าไปจนตัวติดกับอีกฝ่าย
ซาโต้จึงหันมามองชายหนุ่มแบบใกล้ ๆ แล้วกระซิบบอกเบาๆ “อยากได้แบบเมื่อวาน”
‘ฮึ ! แบบเมื่อวานอะไรของมัน?’ ผู้หมวดหนุ่มเริ่มคิ้วขมวด
“แบบเมื่อวานอะไรของมึง นี่มึงอยากได้ไรพูดให้มันชัด ๆ เลยได้ป่าวเนี่ย” คริสเริ่มโวยวายเมื่อรู้สึกว่าตนเองสื่อกับคู่หูไม่เข้าใจสักที
“ก็แบบนี้ไงคราบบ ที่อยากได้น่ะ” พอพูดจบปุ๊บมือใหญ่ ๆ ก็รวบเอาตัวผู้หมวดหนุ่มไปกอดไว้ทั้งตัว อีกทั้งขาหนัก ๆ นั้นยังพาดทับลงมาอีก
คริสตินตกใจจนหน้าซีด ดันตัวอีกฝ่ายไว้ด้วยความแตกตื่น
“ไอ้ซาโต้ จะมากเกินไปแล้วนะมึง คิดจะแกล้งกูก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย” กำปั้นหนัก ๆ ของคริสตะลุมทุบลงที่ต้นแขนแกร่ง เท้าที่ว่างอยู่ทั้งเตะทั้งถีบลมไม่ยอมหยุด
“หึหึหึ ไหนสัญญาว่าจะให้ แล้วดิ้นทำไมเนี่ย” ซาโต้เนียนต่อ
“ใครไปสัญญากับมึ้ง บ้ารึเปล่า กูแค่ถามว่ามึงอยากได้อะไร ไอ้ซาโต้มึงเอามือเอาขาออกไปนะ บ้าเอ้ยกูหนักเร็ว ๆ เข้า”
“อื้ออออ ง่วงนอนแล้วววววว ” ยังมีหน้ามาทิ้งน้ำหนักเสียงเอาแต่ใจ
ยิ่งเห็นอีกฝ่ายดิ้นคลุกคลักมากเท่าไหร่ ซาโต้ยิ่งอยากจะแกล้งให้หนักขึ้นอีกมากเท่านั้น ท่อนแขนแข็งแรงจึงเพิ่มแรงกอดรัดขึ้นอีกเป็นเท่าตัว พร้อมรอยยิ้มหยักเกิดขึ้นที่มุมปากสวย
“ซาโต้อย่าแกล้งแบบนี้สิวะ เอามือเอาขามึงออกไปเดี๋ยวนี้” คริสเองก็โวยจนเหนื่อยไปหมดแล้วเหมือนกัน
“ไม่เห็นเป็นไรเลยครับ กอดกันเล่น ๆ นะ ถ้าไม่มีอะไรให้กอดแล้วนอนไม่หลับนี่ นอน ๆ ๆ คราวนี้ไม่พูดแล้วนะครับคริส ผมง่วงจริงแล้ว”
ผู้หมวดหนุ่มถอนใจยาวเริ่มหยุดอาการต่อต้าน เมื่อเห็นว่าสู้แรงอีกฝ่ายไม่ไหว ‘เออเอาวะ กูจะเป็นหมอนข้างให้มึงอีกสักวันก็ได้วะ ไอ้เด็กโข่งนี่ แทนที่จะเป็นกูนะมึงที่ติดหมอนข้างยักษ์น่ะ’
แต่เมื่อซาโต้เงียบไปจริง ๆ คริสตินกลับนึกอย่างหนึ่งขึ้นมาได้
“เฮ้ย!ซาโต้”
“อือออ นอนนนนน”
“มึงอย่าเพิ่งนอนกูเพิ่งนึกได้ มะรืนนี้เพื่อนกูเขาจะกลับมาจากออสเตรเลีย กูต้องไปรับเขามึงพอจะปลีกตัวได้รึเปล่าวะ”
“หือ วันไหนนะครับ” ซาโต้ลืมตาโพลง
“วันอาทิตย์”
ชายหนุ่มกลอกตาอย่างใช้ความคิด ถึงตารางงานคร่าว ๆ ของตัวเอง
“กูก็รู้ว่าเราต้องทำงาน แต่ขอเวลาแป็บเดียว กูไม่อยากให้เขาน้อยใจกูง้อหญิงไม่ค่อยเป็นว่ะ” คริสตินพูดไปนิ้วเรียว ๆ ของเขาก็ลูบแขนคนที่กอดตนเองอยู่ไปด้วยอย่างลืมตัว
ซาโต้สะดุ้งนิดหน่อย รู้สึกขนลุกตั้งแต่โดนลูบครั้งแรกแล้ว แต่ก็ยังทำเฉยเขารู้ว่าผู้หมวดหนุ่มคงทำไปเพราะความลืมตัวเป็นแน่ ยิ่งคิดยิ่งขำจนลืมตอบคำถามของคนในอ้อมแขน
“ว่าไง จะพากลับกรุงเทพก่อนได้รึเปล่า นะ วันอาทิตย์เย็น ๆ เราค่อยกลับมาใหม่นะ” คริสเงยหน้าขึ้นไปถาม แต่ไม่รู้ทำไมซาโต้กลับรู้สึกเหมือนถูกอ้อนอยู่มากกว่า
...ใจเขาถึงกับสั่นขึ้นมานิด ๆ
เพราะงั้น....ต้องกลบเกลื่อน
“ครับๆได้ๆ เดี๋ยววันอาทิตย์เรากลับกันแต่เช้าเลย วันนี้นอนก่อนนะ ง่วงแล้ว”
...ต้องเนียนถ้าอยากแกล้ง...
ซาโต้จับปลายผ้าห่มยัด ๆ ปิดบังแถวหน้าอกตัวเองไว้กันเสียงหัวใจที่เริ่มเต้นดังผิดปกติ ทั้งที่สองมือของตนยังกอดคริสไว้ไม่ยอมปล่อย
คริสตินได้ยินคำตอบอย่างนั้นก็โล่งอก ถึงแม้ว่างานเยอะงานยุ่งแค่ไหน แต่คนเราก็ต้องมีชีวิตส่วนตัวกันบ้าง ชายหนุ่มหลับตาลงในความมืด
พรั่งพรูลมหายใจสม่ำเสมอออกมาเบา ๆ
ทั้งที่โดนกอดไว้แน่นขนาดนี้...แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกอบอุ่นและสบายใจอย่างบอกไม่ถูกก็ไม่รู้
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มเงียบ ซาโต้เองก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง
ใบหน้าที่ดูเหมือนเด็กนั่น หลับตาพริ้ม แพขนตานิ่งสนิทไม่สั่นไหว กลุ่มเส้นผมนิ่มคลอเคลียอยู่แถวจมูกเขาไม่ห่าง
ใจเขาเองก็เริ่มเต้นเป็นจังหวะปกติแล้ว ชายหนุ่มได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า คงสนุกมากไปหน่อยที่ได้แกล้งคน โดยเฉพาะคริสชอบทำหน้าตลก ๆ เป็นเด็กให้เขาขำได้ทุกครั้งที่โดนรังแก
มือหนาเกลี่ยปอยผมที่ระข้างแก้มนั้นออกเบา ๆ
“หมดฤทธิ์แล้วรึไงครับ” ชายหนุ่มพึมพำ ไร้ซึ่งเสียงโต้เถียงจากอีกฝ่าย ลมหายใจหนัก ๆ และสม่ำเสมอพ่นออกมาจากปลายจมูกโด่ง บอกให้รู้ว่าผู้หมวดหนุ่มหลับลึกลงไปแน่นอนแล้ว
ซาโต้กำลังจะเลื่อนมือออกจากลำตัวของคู่หู แต่มือเรียวยาวนั่นดันกอดแขนเขาไว้ซะแน่น แถมยังเบียดตัวเองเข้ามาชิดยิ่งขึ้นไปอีก เขาจึงจำใจปล่อยเลยตามเลยบวกกับความง่วงที่แทรกเข้ามาตอนไหนก็ไม่รู้ ลมหายใจคลอเคลียอยู่ที่เรือนผมนุ่มไม่ห่าง
ต่างคนต่างดำดิ่งลงสู่นิทราแห่งความฝัน
.
.
.
‘อึ้ม ~ ~ ตุ๊กตาหมีเน่าของเรานี่นา เราเอามาที่นี่ด้วยเหรอเนี่ย’ คริสตินอยู่ในห้วงฝันโอบกอดหมียักษ์ตัวโปรดไว้แน่น ซุกไซ้ใบหน้าฝังปลายจมูกถูไถหน้าอกหมี ‘หอมจัง’
.
.
ขณะที่ซาโต้เองก็กำลังฝันเช่นกัน ‘ฮัดชิ่ววว!! ขนอะไรแหย่จมูกเนี่ย ขนแมวรึเปล่า ฮึ่ยย มันเข้ามาได้ไง ออกไปไกล ๆ เลยนะขึ้นมาบนเตียงได้ไงเนี่ยยย’ ชายหนุ่มตบหัวแมวยักษ์ที่มีขนยาวคลอเคลียร์อยู่แถวจมูกตนให้ออกห่างอย่างแรง(หัวคริส)
นั่นทำเอาคริสถึงกับตื่นขึ้นมานั่งทันทีแบบงง ๆ ‘ไรวะ มีใครมาตบหัวกูเนี่ย’ คริสตินนั่งส่ายหน้าพยายามลืมตาในความมืด
เมื่อมองเห็นว่าคนข้าง ๆ ยังนอนหลับไม่ได้รู้เรื่องอะไรก็คิดว่าตัวเองแค่ฝันไป ชายหนุ่มขยี้ตาแล้วล้มตัวลงนอนต่อ
แต่จะด้วยความเคยชิน(1คืน)หรืออะไรก็ไม่ทราบได้ คริสแทรกตัวลงนอนในอ้อมแขนของคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่ก่อนแล้วโดยไม่รู้ตัว
ผู้หมวดหนุ่มหันไปวาดวงแขนกอดเข้าเต็มมือ พร้อมก่ายขากอดไปเต็มแรงเช่นกัน
ในที่สุดก็หลับลงไปอีกครั้ง
โดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ทั้งสองคน
Zzzzz Zzzzz Zz Zz
Tbc.