บทที่17
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!
ตึง!!
“เท่สัดสัดเลยว่ะมึง” ผมแตะมือไอ้ด้าทันทีที่มันโชว์ชู้ตทำแต้ม 3 คะแนน แม่งเกือบครึ่งสนามมันยังสามารถ!!!
“โน่! กูขออีก 1” เสียงตะโกนดังจากด้านหลังหันไปเห็นไอ้พี่หมากหัวหน้าทีมสลับมือเลี้ยงลูกวิ่งหน้าตั้งแล้วส่งมาที่ผม
“กูจะให้มึงโชว์รีบาวด์เข้าไปรอได้เลยไอ้น้อง” ผมพูดแล้วดันหลังไอ้ด้าให้มันวิ่งเข้าไปรออยู่ใต้แป้น
3....2…..ชู้ต!.......ตึง(พลาด).....รีบาวด์(กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!)
“ YESsssss! Mission complete!” ผมกับไอ้ด้าแตะมือกันอย่างแรง ไอ้พวกรุ่นพี่ทั้งหลายแหล่พากันวิ่งมะรุมมะตุ้มทั้งผมทั้งมัน
“เชี่ยโน่ แม่งเล่นเข้าขา! กูไม่เคยรู้เลยว่ามึงเก่งสัส!” ไอ้พี่หมากทั้งตะโกนทั้งตบลงบนหัวผม
“เฮ้ย! กีฬามหาลัยปีนี้มึงเข้ามาคัดด้วยดิ ” ไอ้พี่หมากยังพูดต่อ พวกผมกำลังทยอยกันเดินออกนอกสนาม มีอีกทีมที่รอใช้สนามอยู่เดินสวนกันเข้าไป สายตาผมจับจ้องอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนข้างรั้วสนามบาส
“ไปแล้วเว้ย ค่อยเจอกัน ขอตัวก่อนครับพี่” ผมบอกไอ้ด้าและพวกรุ่นพี่ทั้งหลายที่ตอนนี้ทยอยแยกย้ายกันแล้ว วันนี้ไอ้ด้ามันนัดให้ผมมาเล่นบาสกับทีมประจำของมัน ไอ้พวกวิศวะทั้งหลายนั่นแหละแต่ละคนแม่งหน้าตาโหด ๆ กันทั้งนั้นแต่ว่านิสัยดีนะผมว่า คนเราจะดูกันแต่หน้าตาไม่ได้จริง ๆ
“โน่” ไอ้ด้ามันเรียกผม
“ไรวะ”
“เมื่อกี้โน่ตั้งใจให้ผมทำรีบาวด์ได้ใช่มะ”
“เปล่า!! กูชู้ตพลาดจริง ๆ ฮ่าฮ่า ไอ้ด้ามึงโดนกูต้มไปเต็ม ๆ 55555”
“มานี่เลยโน่ เดี๋ยวผมจับหักแขนเลยดีมั๊ย” มันพูดพร้อมล็อคคอผมแล้วจับลากเข้าไปที่โต๊ะหินอ่อนอย่างแรง
“อิม อ้วยอูอ้วย ไอ้อ้าอันแอ้งอู!” ผมโวยวายให้ไอ้คิมช่วย ตอนนี้ไอ้ห่าด้ายังเอามือมาปิดปากผมอีก
“หวัดดีครับเฮียคิม” มันพูดพร้อมยัดผมให้นั่งลงบนมาหินอ่อนตรงข้ามไอ้คิม
“ไอ้น้องเวรมึงเล่นเหี้ยอะไรเนี่ย กูนั่งทนโท่อยู่ตรงนี้หัดเกรงใจกูซะบ้าง” มันละสายตาจากรายงานตรงหน้าถอดแว่นออกแล้วจ้องไอ้ด้าเอาเรื่องเลย
“โหย คำพูดนี้นึกว่าจะมีแต่เฮียโป้งพูดกับผมซะอีก เฮียคิมเองก็เป็นกับเค้าด้วย โน่ครับดูดิเฮียคิมรังแกผมอ่ะ” มันยังมีหน้ามาอ้อนผมอีกครับไอ้ห่ามึงดูหน้าไอ้คิมบ้างเหอะ
“มึงกลับได้แล้วด้า กูชักรำคาญ ไปไป” ผมแกล้งผลักมัน
“ครับ ครับกลับแล้วเดี๋ยวโทรหานะ ไปนะครับเฮีย” มันพูดแล้วเดินโบกไม้โบกมือออกไปแถมหันมาหัวเราะผมอีกต่างหาก บ้าเอ้ยหาเรื่องให้กูไม่เว้นแต่ละวัน ช่วงนี้มันติดผมมากไม่รู้เป็นไรตอนเย็นต้องบีบคอให้ผมมาเล่นบาสกับมันให้ได้ไม่งั้นมันจะไปแรดเฝ้าถึงคณะผมเลยครับ เห็นมันบอกว่าผมทำให้มันพัฒนาฝีมือขึ้นเร็วเพราะงั้นเลยอยากให้ช่วยซ้อมให้ก่อนกีฬามหาลัยที่จะจัดขึ้น
“คิมมึงสายตาสั้น?” ผมนึกได้ว่าไม่เคยเห็นมันใส่แว่น
“อืม ใส่เฉพาะตอนอ่านหนังสือแหละ”
“มึงอ่ะทำงานเยอะเกินรู้ป่ะ พักบ้างดิวะ” ผมหยิบขวดน้ำที่มันเลื่อนมาให้ขึ้นซด
“กินดี ๆ สิวะ หกไปหมดแล้ว” มันพูดพร้อมใช้มือเช็ดที่คางให้ผม
“โน่”
“ว่าไง” ผมพลิกดูงานเอกสารของมันไปพลาง ๆ
“วันนี้ค้างกับกูนะ!”
“อืม”
“...........” มันเงียบผมเงยหน้าขึ้นมองเห็นจ้องผมนิ่งเลยไม่รู้เป็นไร
“เป็นอะไร ทำไมท่าทางแปลก ๆ วะ”
“.....มันอ่อนโยนกับมึงไหม!?” อยู่ ๆ มันก็ถามขึ้น
“....ก็ดี มึงถามทำไม คิดอะไรอีกเนี่ย!” ผมเริ่มรู้แล้วครับว่ามันเป็นอะไร ทำไมอยู่ ๆ คิดมากขึ้นมาได้นะ
“แล้ว...มัน...ดีมั๊ย..ดีกว่ากูรึเปล่า” มันหลบตาผม
“คิม! มึงนี่เด็กจริง ๆ เลย คิดมาก!” ผมโบกหัวมันไป 1 ทีครับ โทษฐานคิดอะไรไม่เข้าท่า
“ก็...กลัว... กลัวไปหมดทุกอย่างเลย” มันกำปากกาแน่นเชิดปากสวย ๆ ของมันขึ้น คิ้วผูกเข้าหากันจนจะเป็นโบว์อยู่แล้ว ผมเห็นแล้วอดขำไม่ได้นี่ถ้าไม่ได้นั่งอยู่ในมหาลัยที่ว่าคนเยอะนะ ผมจะจับมันมาจูบเลยแม่งปากสวยชิบ
ช่วงนี้เป็นบ่อยเลยครับ มันทั้งคู่เดี๋ยวคนนั้นน้อยใจคนนี้น้อยใจผมล่ะจะบ้า วัน ๆ ต้องคอยบอกคอยเตือนตลอด นี่ตกลงผมมีแฟน 2 หรือว่ามีลูก 2 กันแน่เนี่ย ใครว้า...บอกว่ามีแฟนหลายคนดี มันปวดหัวเป็นสองเท่ามากกว่านา....
“กูพูดเรื่องนี้กับไอ้โป้งไปแล้วคราวนี้จะพูดกับมึง! คำถามไอ้ประเภทใครดีกว่า? ใครเก่งกว่า? ชอบใครมากกว่า? วันนี้อยากอยู่กับใคร? น่ะนะ ห้ามมมมม!!! พูดเด็ดขาด เพราะกูจะไม่มีวันตอบ! ฟังแล้วหัดจำไว้ซะบ้าง กูรักพวกมึงไปแล้วไม่ได้รักที่ร่างกายแต่รักที่ใจ! แต่ละคนก็มีสไตล์เป็นของตัวเองซึ่งไม่เหมือนกัน ในเมื่อกูเลือกที่จะเชื่อใจพวกมึงแล้ว มึงเองก็ต้องเชื่อใจและมั่นใจในตัวกูด้วย! ” ไอ้ห่าให้กูพูดซะยาวเลย แม่งยิ่งกว่ามีลูกแฝดพูดกับคนโน้นเสร็จแล้วก็ต้องมาพูดกับคนนี้เหมือนกันไม่มีผิด กูอยากจะบ้า เดี๋ยวก็ทิ้งแม่งให้หมดเลย! เอ่อ..ประโยคสุดท้ายกูคิดว่ากูพูดเล่น55
“ครับ ครับ ขอโทษครับไม่โกรธนะ กูไม่ถามแล้ว เข้าใจแล้ว จะไม่พูดเรื่องนี้อีก หายงอนนะครับ” คราวนี้ผมแกล้งงอนมันบ้าง มันลุกมานั่งชิดแล้วกอดเอวผมไว้
“รู้ก็ดีแล้ว กูเองก็ต้องมีเพื่อนมีรุ่นพี่มีรุ่นน้อง กูขอแค่ความเชื่อใจแค่นั้นจบ”
“ครับ เข้าใจแล้ว หายงอนนะ” มันโอบเอวผมแล้วโยกตัวไปมาเล็กน้อย
“แล้วมึงมากอดกูทำไมเนี่ย! คนเยอะแยะมึงไม่อายเค้าบ้าง” ผมแกล้งดุมันพร้อมขยับตัวออกนิดหน่อย
“ไม่อายหรอกเค้ารู้กันหมดแล้ว กูมานั่งเฝ้ามึงทุกวันแบบเนี่ย”
ปิ้นนน !!
ไฮบริจสีขาวกระพริบไฟจอดลงริมถนนใกล้ ๆ ม้าหินอ่อนข้างสนามบาสของคณะวิศวะ ผมกับไอ้คิมหลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นรถทันที
ไอ้โป้งครับมันเปลี่ยนมาใช้ไฮบริจเรียบร้อยหลังจากเกิดเรื่องน้องเอมมี่วันนั้น เพราะผมไม่ยอมนั่งรถมันอีก ฮ่าฮ่า วันต่อมามันเลยเอาไปเปลี่ยนกับของมาม๊ามันมาใช้ได้ยินข่าวว่าเพิ่งถอยมาใหม่(ไอ้ห่า! มึงอ้างกูรึเปล่าเนี่ย)
“กินไรวะโน่” ไอ้โป้งถามขึ้นขณะจะยูเทิร์นรถกลับประตูด้านหลังมหาลัยซึ่งใกล้คอนโดมันมากกว่า
“ซื้อของไปทำกินกันมะ กูอยากกินไข่เจียวปูฝีมือมึงอ่ะ วันนั้นมึงทำอร่อยดีกูชอบ”
“งั้นแวะท็อปฯ คิมอ่ะมึงอยากกินอะไร”
“ต้มยำกุ้ง เอาแบบแซบ ๆ เลยตากูจะได้สว่างแม่งคิดถึงเรื่องงานแล้วกูเซ็งคืนนี้ต้องเคลียร์ยาวอีก”
“คิม! มึงปรับแอร์ให้ตรงกูหน่อยสิวะ ข้างหลังร้อนชิบหาย” ผมโวยวายใส่มันครับอากาศช่วงนี้แม่งโคตรรร้อน
เราสามคนกำลังมุ่งหน้าไปช็อปของสดกันที่ท็อปซุปเปอร์ครับ ไอ้โป้งอย่างเหมือนคุณแม่ซื้อโน่นหยิบนี่มีแต่เครื่องครัวทั้งนั้น ส่วนไอ้คิมรับหน้าที่เข็นรถครับมันไม่ค่อยรู้เรื่องงานครัวเท่าไหร่ช่วงนี้เราสามคนทานอาหารตอนเย็นด้วยกันทุกวันที่ห้องไอ้โป้งนั่นแหละครับ ถ้าวันไหนมันกลับบ้านเหลือแค่ผมกับคิมเราก็จะไปทานอาหารข้างนอกกันแทน
ผมชอบอาหารฝีมือไอ้โป้งนะมันทำรสหวานให้ผมกินผมชอบกินรสหวาน แต่ไอ้โป้งชอบรสจืดส่วนไอ้คิมเผ็ดครับ 3 คน 3 สไตล์ไม่รู้มาอยู่ด้วยกันได้ไง หลังจากทานข้าวกันเสร็จไอ้คิมรับหน้าที่ล้างจานพอล้างเสร็จมันก็ไปนั่งดูTV ส่วนไอ้โป้งก็เช็ดทำความสะอาดต่อนิดหน่อย หลังจากผมเทนมผสมอาหารเม็ดให้ไอ้ตัวเล็กเรียบร้อยก็เดินเข้าไปหามัน
“วันนี้กูกลับกับไอ้คิมนะ” ผมพูดขึ้นขณะยืนช่วยมันล้างแอปเปิ้ลเตรียมไว้ให้ผม มันชะงักเล็กน้อยหน้าจ๋อยลงอย่างเห็นได้ชัด จริง ๆ ไม่อยากพูดหรอกครับที่มันเตรียมแอปเปิ้ลไว้เพราะมันรู้ว่าผมชอบใช้แอ็ปเปิ้ลเย็น ๆ เติมพลังทันทีหลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะ!?(ก็มันเป็นประเภทรุนแรงนี่หว่า ผมต้องใช้น้ำตาลจากผลไม้มาเติมโดยด่วน555)
“แล้วพรุ่งนี้?” มันถามโดยไม่มองหน้าผมเลย ผมเหลือบมองไปหน้า TV เห็นไอ้คิมยังนั่งดูอยู่คงไม่ได้ยินสิ่งที่พวกผมพูด
“พรุ่งนี้ก็จะค้างที่นั่น”
“.........” เชื่อไหมครับผมเห็นมันล้างแอปเปิ้ลลูกเดียวนานมากเลย ถูแล้วถูอีกอยู่นั่นแหละ
“โป้ง! ไรวะมึงอ่ะ ช่วงนี้คิมมันงานเยอะช่วงกลางคืนมันไม่ค่อยได้นอน กูอยากช่วยมันเขียนโปรแกรมด้วย งานของพวกกูอ่ะ”
“..........” มันไม่พูดเลยครับเดินเอาจานแอบเปิ้ลไปเก็บในตู้เย็น ถอดผ้ากันเปื้อนวางพาดไว้บนเก้าอี้ หน้ามันแดง ๆ ครับ แล้วมันก็เดินเข้าไปในห้อง ผมรีบเดินตามเข้าไปเห็นไอ้คิมหันมามองพวกผมนิดหน่อย
“มึงโกรธกู?” ผมถามมัน ตอนนี้มันนั่งลงที่ปลายเตียงแล้ว
“.........” ไม่ตอบ ไม่ยอมมองหน้าผมอีกต่างหาก หน้าแม่งงอนอย่างกับตูด
“โป้ง! อย่าทำแบบนี้สิวะ เมื่อวานกูก็อยู่กับมึง วันก่อนก็ด้วย”
“แต่เราไม่ได้ทำอะไรเลย”
“มึงไม่ทำเองนี่หว่า”
“ก็วันนั้นมึงแสบนักนี่! พลิกมาได้กูยังเข็ดไม่หาย 2 วันที่แล้วท่าทางมึงคึกน่าดูกูเลยไม่กล้าทำดิวะ”
“แล้วไง! มึงคิดแต่เรื่องอย่างนั้นกับกูรึไง”
“กู ยังทำได้ไม่ดีพอรึเปล่า” มันก้มหน้าก้มตาพูดหน้าอย่างแดงอ่ะ
“ไม่เกี่ยวเลยโป้ง!” ผมตอบอย่างเหนื่อย ๆ ผมเบื่อปัญหานี้ที่สุดตั้งแต่ตัดสินใจคบกันสามคนแบบนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีปัญหาทุกครั้งที่คุยกัน ไปค้างกับคนนั้น คนนี้ก็น้อยใจ ไปค้างกับคนนี้ คนนั้นก็น้อยใจ เออ!ตกลงกูจะอยู่ของกูคนเดียวดีกว่า ไม่งั้นก็มาอยู่แม่งพร้อมกัน 3 คนเลย นอนแม่งด้วยกัน คิดไปคิดมาอย่างหลังท่าจะทำให้ผมเสียเปรียบมากเกินไป(เดี๋ยวกูเหลืองตายซะก่อน อิอิ)
“เบื่อกู?” มันตาแดงมากขึ้นแล้วแต่ยังไม่ยอมสบตาผมเหมือนเดิม
“ทำไมต้องมีปัญหาแบบนี้ด้วยวะ บอกแล้วใช่ไหมว่ากูทำงานกับมันด้วยไม่ใช่มีแต่เรื่องที่มึงคิดหรอก”
“.........” ผมเห็นมันไม่พูดดีนัก เลยเดินไปนั่งคร่อมลงบนตักมันหันหน้าเข้าหาเอาแบบใกล้ ๆ เลย
“จุ๊บ” กัดปากมันเล่นเบา ๆ มันเบี่ยงหน้าหลบซ้ายขวาทำปากเชิด ๆ ผมใช้สองมือประคองแก้มมันไว้ไม่ให้หันหนี ขบเม้มปากมันเล่นจนสักพักมันหยุดหลบแล้วเผลอยิ้มออกมา
“หึ หึ ร้ายนักนะโน่มึงอ่ะ! เจ้าชู้ไม่มีใครเกิน กูไม่เคยโกรธมึงได้นานสักที”
“แน่สิวะ ไม่งั้นจะปราบมึงได้ยังไง” ขอกัดลงไปอีกทีเถอะวะปากแม่งเชิญชวนกูชิบหาย
“จูบได้ไหม” เอาอีกล่ะ มึงจะอ้อนกูไปถึงไหน ไอ้คิมนั่งอยู่ข้างนอกแท้ ๆ
“ไม่ได้” ผมแกล้งพูดเสียงดุ
“อยากจูบ” สายตาแมร่งอ้อนกูจัง กูก็อยากเป็นเหมือนกันนะโว้ย
“นาทีเดียว” ผมยื่นข้อเสนอให้มัน ไม่ได้ครับเดี๋ยวเตลิดมันยิ่งจูบเก่ง ๆ อยู่ด้วย
“อืมม ~ ~..............อื้ออ ~ ..........พอแล้วโป้ง” ผมผลักมันออกทันทีก่อนจะทนไม่ไหว ห่าแม่ง! ดูดลิ้นกูอยู่นั่นแหละ
“โน่”
“อะไรอีก”
“มันตั้งแล้ว”
“จัดการเองเลยมึง ห้องน้ำอยู่โน่น ” ผมกระโดดลงจากตักมัน กำลังจะเดินออกจากห้อง
“ทำให้หน่อยสิวะ” มันเดินมากอดหลังไว้
“ไม่เอาอ่ะโป้ง อย่าดื้อสิวะ” มันไม่ยอมปล่อยเลยครับกอดแน่นเลย
“อยากให้ทำให้” มันหอมที่ท้ายทอยผม แม่ง! อ้อนกูจังวุ้ย!
“เดี๋ยวกูทำให้ เอาไหม!!!!” ไอ้คิมครับ มันพูดเสียงเข้มยืนหน้านิ่งอยู่หน้าประตู มันเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมกับไอ้โป้งตาโตเลยครับ แต่ไอ้ห่าโป้งยังไม่ยอมปล่อยผมอยู่ดี
“โป้ง เดี๋ยวกูกลับแล้ว มึงปล่อยก่อน” ผมหันมาบอกมัน
“..........” มันเงียบอีกแล้วครับ
“อย่างอนนะ พรุ่งนี้เจอกัน” คราวนี้ผมมองตามันตรง ๆ ประมาณว่าให้เข้าใจกูอะไรแบบนั้น
“จุ๊บ” มันยื่นปากมาจุ๊บผมเบา ๆ แล้วกระซิบที่ข้างหู “รัก” แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว มันเข้าใจผม!
“เหมือนกัน” เดินออกไปเห็นไอ้คิมแอบอมยิ้มยืนส่ายหัวอยู่หน้าประตูจากนั้นเดินเข้ามาแกล้งผลักหัวมันแล้วดึงแขนผมพาออกไป ไอ้โป้งทำไม้ทำมือเป็นรูปโทรศัพท์ประมาณว่าเดี๋ยวกูโทรหาไรแบบนั้น ผมเดินไปลูบหัวไอ้ตัวเล็กที่นอนอยู่ริมประตู ก่อนออกจากห้องไป
หลังจากออกจากห้องไอ้โป้ง คิมมันพาผมขับรถกลับคอนโดมัน ระยะห่างกันพอสมควร ผมสังเกตสีหน้ามันเหนื่อย ๆ อาจเป็นเพราะช่วงนี้งานมันยุ่งมาก ทางมหาลัยกำลังจะจัดงานกีฬาสัมพันธ์ขึ้นแถมที่มหาลัยเราเป็นเจ้าภาพ มันถูกอาจารย์ล็อคตัวเข้าฝ่ายกิจกรรมโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ งานที่มีอยู่แล้วเลยยิ่งเพิ่มขึ้นอีก
ผมเอื้อมมือไปเกลี่ยผมที่ตกลงด้านหน้ามันเบา ๆ มันละสายตาจากหน้ารถหันมามองนิดหน่อย ก่อนจับมือผมไว้แล้วเอาไปชิดที่ริมฝีปากสวยของมัน “จุ๊บ”
“อย่ายั่วครับโน่ วันนี้งานกูเยอะไม่รู้ว่าจะมีเวลาให้มึงรึเปล่า” ผมยิ้มบาง ๆ ให้มันก่อนยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มมัน 1 ที เห็นมันหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ เชื่อไหมครับ ตั้งแต่วันที่มันล่วงเกินผมจนกระทั่งวันนี้มันเพิ่งได้กอดผมแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ถึงแม้ว่าผมจะค้างกับมันบ่อย ๆ แต่เราก็แค่นอนกอดกันแล้วก็หลับไป ช่วงดึก ๆ มันจะลุกขึ้นมาเคลียร์งานเสมอ แค่เห็นหน้ามันผมก็รู้แล้วว่ามันเหนื่อยแค่ไหน(แล้วนี่ก็คือหนึ่งในเหตุผลที่ผมไม่เคยพลิกกลับมันเลย มันช่างไม่เหมือนไอ้โป้ง ไอ้นั่นโคตรหื่นแต่ละคืนคิดแต่เรื่องอย่างว่า สมน้ำหน้าโดนผมสำเร็จโทษกลับจ่อยมาหลายวันแล้วด้วย 555)
“คิม มึงจอดรถก่อนได้ไหมวะ”
“ทำไม” มันถามขึ้นพร้อมเบี่ยงรถจอดเข้าข้างทาง
“กูอยากว่ะ” พูดจบผมคว้าคอมันมาดูดจูบเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแอบคิดว่าอาจอารมณ์ค้างจากไอ้โป้งเมื่อกี้ แต่คิดอีกทีอาจไม่ใช่ ผมกลัวว่ากลับไปมันจะสนใจแต่งานจนลืมเวลาของผมมากกว่า ผมจูบมันอยู่สักพัก มือไม้มันเริ่มอยู่ไม่สุขแล้วครับ ผมแอ่นตัวรับสัมผัสจากมือมันอย่างรู้งาน เสียงอืออาดังลอดออกมาจากลำคอผมเบา ๆ ผมกอดคอมันไว้แน่นจนเกร็ง เสียงลมหายใจดังครืดคราดที่ผมตั้งใจกรอกลงชิดใบหูของมันยิ่งทำให้มันดูดจูบหนักขึ้นไปอีกขณะที่มือยังขยับอยู่ที่ส่วนล่างของผมไม่หยุด จนในที่สุดร่างกายผมกระตุกสองสามทีก็ปล่อยความสุขทะลักออกมาเรียบร้อย มันจุ๊บลงที่แก้มผมอย่างอ่อนโยน
ผมเหนื่อยจนหลับไปไม่รู้ว่านานแค่ไหนตื่นมาอีกทีมันปลุกผมให้ตื่นเพราะถึงคอนโดแล้ว ผมเดินขึ้นห้องอย่างคนหมดสภาพเหนื่อยแล้วก็ง่วงมาก พอถึงห้องปุ๊บ ถอดเสื้อโยนไว้แล้วล้มตัวลงนอนคว่ำลงที่โซฟาหน้าทีวี แต่เสียใจครับ คราวนี้ไม่หลับ ตาแข็ง! แอบมองเห็นไอ้คิมเดินไปเดินมา เดี๋ยวก็ห้องน้ำ เดี๋ยวก็ห้องนอน เดี๋ยวก็ห้องรับแขก มันทำอะไรของมัน นอนมองมันอยู่สักพักมันก็มาเรียกไปอาบน้ำ ผมงอแงสิครับ ตัวมันก็ยังไม่อาบสักหน่อยดันมาเรียกคนอื่น ผมก็อยากนอนเล่น ๆ อีกสักพักนี่นา
“ถ้างั้นกูอาบก่อน มึงห้ามหลับนะ อาบดึก ๆ ไม่ค่อยดี ป๊ากูเคยบอกไว้”
“เออ กูจะดู TV รอ” ผมพลิกตัวนอนหงายกดรีโมทเปิดทีวีนอนดูช่องนั้นช่องนี้ไปเรื่อย สังเกตเห็นกระเป๋าสะพายสีดำของมันวางอยู่ข้าง ๆตัว ไม่รู้นึกยังไงครับ ลองเปิดดูดีไหมนะ แต่...การกระทำเร็วกว่าความยับยั้งชั่งใจครับ มือผมเปิดเรียบร้อยแล้ว(กูช่างเหมือนผู้หญิงค้นกระเป๋าสามีจริง ๆ )
กระเป๋าโคตรสะอาด ทุกอย่างเป็นสีดำแม้แต่สมุดโน๊ต ปากกา โทรศัพท์ พวงกุญแจ กระเป๋าไอแพด ไอโฟน ลิปบาร์ม มันจะคลั่งดำอะไรของมันนักหนา แล้วนี่อะไร ช็อคโกแลตบาร์ของชอบผม แอบน่ารักเหมือนกันนี่หว่า อ้าว! แล้วนี่กระดาษอะไรสีชมพูซะด้วย ผมมองไปทางห้องน้ำนิดหน่อย มันยังไม่ออกมาลองเปิดดูดีกว่า
ตึง!!
“เท่สัดสัดเลยว่ะมึง” ผมแตะมือไอ้ด้าทันทีที่มันโชว์ชู้ตทำแต้ม 3 คะแนน แม่งเกือบครึ่งสนามมันยังสามารถ!!!
“โน่! กูขออีก 1” เสียงตะโกนดังจากด้านหลังหันไปเห็นไอ้พี่หมากหัวหน้าทีมสลับมือเลี้ยงลูกวิ่งหน้าตั้งแล้วส่งมาที่ผม
“กูจะให้มึงโชว์รีบาวด์เข้าไปรอได้เลยไอ้น้อง” ผมพูดแล้วดันหลังไอ้ด้าให้มันวิ่งเข้าไปรออยู่ใต้แป้น
3....2…..ชู้ต!.......ตึง(พลาด).....รีบาวด์(กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!)
“ YESsssss! Mission complete!” ผมกับไอ้ด้าแตะมือกันอย่างแรง ไอ้พวกรุ่นพี่ทั้งหลายแหล่พากันวิ่งมะรุมมะตุ้มทั้งผมทั้งมัน
“เชี่ยโน่ แม่งเล่นเข้าขา! กูไม่เคยรู้เลยว่ามึงเก่งสัส!” ไอ้พี่หมากทั้งตะโกนทั้งตบลงบนหัวผม
“เฮ้ย! กีฬามหาลัยปีนี้มึงเข้ามาคัดด้วยดิ ” ไอ้พี่หมากยังพูดต่อ พวกผมกำลังทยอยกันเดินออกนอกสนาม มีอีกทีมที่รอใช้สนามอยู่เดินสวนกันเข้าไป สายตาผมจับจ้องอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนข้างรั้วสนามบาส
“ไปแล้วเว้ย ค่อยเจอกัน ขอตัวก่อนครับพี่” ผมบอกไอ้ด้าและพวกรุ่นพี่ทั้งหลายที่ตอนนี้ทยอยแยกย้ายกันแล้ว วันนี้ไอ้ด้ามันนัดให้ผมมาเล่นบาสกับทีมประจำของมัน ไอ้พวกวิศวะทั้งหลายนั่นแหละแต่ละคนแม่งหน้าตาโหด ๆ กันทั้งนั้นแต่ว่านิสัยดีนะผมว่า คนเราจะดูกันแต่หน้าตาไม่ได้จริง ๆ
“โน่” ไอ้ด้ามันเรียกผม
“ไรวะ”
“เมื่อกี้โน่ตั้งใจให้ผมทำรีบาวด์ได้ใช่มะ”
“เปล่า!! กูชู้ตพลาดจริง ๆ ฮ่าฮ่า ไอ้ด้ามึงโดนกูต้มไปเต็ม ๆ 55555”
“มานี่เลยโน่ เดี๋ยวผมจับหักแขนเลยดีมั๊ย” มันพูดพร้อมล็อคคอผมแล้วจับลากเข้าไปที่โต๊ะหินอ่อนอย่างแรง
“อิม อ้วยอูอ้วย ไอ้อ้าอันแอ้งอู!” ผมโวยวายให้ไอ้คิมช่วย ตอนนี้ไอ้ห่าด้ายังเอามือมาปิดปากผมอีก
“หวัดดีครับเฮียคิม” มันพูดพร้อมยัดผมให้นั่งลงบนมาหินอ่อนตรงข้ามไอ้คิม
“ไอ้น้องเวรมึงเล่นเหี้ยอะไรเนี่ย กูนั่งทนโท่อยู่ตรงนี้หัดเกรงใจกูซะบ้าง” มันละสายตาจากรายงานตรงหน้าถอดแว่นออกแล้วจ้องไอ้ด้าเอาเรื่องเลย
“โหย คำพูดนี้นึกว่าจะมีแต่เฮียโป้งพูดกับผมซะอีก เฮียคิมเองก็เป็นกับเค้าด้วย โน่ครับดูดิเฮียคิมรังแกผมอ่ะ” มันยังมีหน้ามาอ้อนผมอีกครับไอ้ห่ามึงดูหน้าไอ้คิมบ้างเหอะ
“มึงกลับได้แล้วด้า กูชักรำคาญ ไปไป” ผมแกล้งผลักมัน
“ครับ ครับกลับแล้วเดี๋ยวโทรหานะ ไปนะครับเฮีย” มันพูดแล้วเดินโบกไม้โบกมือออกไปแถมหันมาหัวเราะผมอีกต่างหาก บ้าเอ้ยหาเรื่องให้กูไม่เว้นแต่ละวัน ช่วงนี้มันติดผมมากไม่รู้เป็นไรตอนเย็นต้องบีบคอให้ผมมาเล่นบาสกับมันให้ได้ไม่งั้นมันจะไปแรดเฝ้าถึงคณะผมเลยครับ เห็นมันบอกว่าผมทำให้มันพัฒนาฝีมือขึ้นเร็วเพราะงั้นเลยอยากให้ช่วยซ้อมให้ก่อนกีฬามหาลัยที่จะจัดขึ้น
“คิมมึงสายตาสั้น?” ผมนึกได้ว่าไม่เคยเห็นมันใส่แว่น
“อืม ใส่เฉพาะตอนอ่านหนังสือแหละ”
“มึงอ่ะทำงานเยอะเกินรู้ป่ะ พักบ้างดิวะ” ผมหยิบขวดน้ำที่มันเลื่อนมาให้ขึ้นซด
“กินดี ๆ สิวะ หกไปหมดแล้ว” มันพูดพร้อมใช้มือเช็ดที่คางให้ผม
“โน่”
“ว่าไง” ผมพลิกดูงานเอกสารของมันไปพลาง ๆ
“วันนี้ค้างกับกูนะ!”
“อืม”
“...........” มันเงียบผมเงยหน้าขึ้นมองเห็นจ้องผมนิ่งเลยไม่รู้เป็นไร
“เป็นอะไร ทำไมท่าทางแปลก ๆ วะ”
“.....มันอ่อนโยนกับมึงไหม!?” อยู่ ๆ มันก็ถามขึ้น
“....ก็ดี มึงถามทำไม คิดอะไรอีกเนี่ย!” ผมเริ่มรู้แล้วครับว่ามันเป็นอะไร ทำไมอยู่ ๆ คิดมากขึ้นมาได้นะ
“แล้ว...มัน...ดีมั๊ย..ดีกว่ากูรึเปล่า” มันหลบตาผม
“คิม! มึงนี่เด็กจริง ๆ เลย คิดมาก!” ผมโบกหัวมันไป 1 ทีครับ โทษฐานคิดอะไรไม่เข้าท่า
“ก็...กลัว... กลัวไปหมดทุกอย่างเลย” มันกำปากกาแน่นเชิดปากสวย ๆ ของมันขึ้น คิ้วผูกเข้าหากันจนจะเป็นโบว์อยู่แล้ว ผมเห็นแล้วอดขำไม่ได้นี่ถ้าไม่ได้นั่งอยู่ในมหาลัยที่ว่าคนเยอะนะ ผมจะจับมันมาจูบเลยแม่งปากสวยชิบ
ช่วงนี้เป็นบ่อยเลยครับ มันทั้งคู่เดี๋ยวคนนั้นน้อยใจคนนี้น้อยใจผมล่ะจะบ้า วัน ๆ ต้องคอยบอกคอยเตือนตลอด นี่ตกลงผมมีแฟน 2 หรือว่ามีลูก 2 กันแน่เนี่ย ใครว้า...บอกว่ามีแฟนหลายคนดี มันปวดหัวเป็นสองเท่ามากกว่านา....
“กูพูดเรื่องนี้กับไอ้โป้งไปแล้วคราวนี้จะพูดกับมึง! คำถามไอ้ประเภทใครดีกว่า? ใครเก่งกว่า? ชอบใครมากกว่า? วันนี้อยากอยู่กับใคร? น่ะนะ ห้ามมมมม!!! พูดเด็ดขาด เพราะกูจะไม่มีวันตอบ! ฟังแล้วหัดจำไว้ซะบ้าง กูรักพวกมึงไปแล้วไม่ได้รักที่ร่างกายแต่รักที่ใจ! แต่ละคนก็มีสไตล์เป็นของตัวเองซึ่งไม่เหมือนกัน ในเมื่อกูเลือกที่จะเชื่อใจพวกมึงแล้ว มึงเองก็ต้องเชื่อใจและมั่นใจในตัวกูด้วย! ” ไอ้ห่าให้กูพูดซะยาวเลย แม่งยิ่งกว่ามีลูกแฝดพูดกับคนโน้นเสร็จแล้วก็ต้องมาพูดกับคนนี้เหมือนกันไม่มีผิด กูอยากจะบ้า เดี๋ยวก็ทิ้งแม่งให้หมดเลย! เอ่อ..ประโยคสุดท้ายกูคิดว่ากูพูดเล่น55
“ครับ ครับ ขอโทษครับไม่โกรธนะ กูไม่ถามแล้ว เข้าใจแล้ว จะไม่พูดเรื่องนี้อีก หายงอนนะครับ” คราวนี้ผมแกล้งงอนมันบ้าง มันลุกมานั่งชิดแล้วกอดเอวผมไว้
“รู้ก็ดีแล้ว กูเองก็ต้องมีเพื่อนมีรุ่นพี่มีรุ่นน้อง กูขอแค่ความเชื่อใจแค่นั้นจบ”
“ครับ เข้าใจแล้ว หายงอนนะ” มันโอบเอวผมแล้วโยกตัวไปมาเล็กน้อย
“แล้วมึงมากอดกูทำไมเนี่ย! คนเยอะแยะมึงไม่อายเค้าบ้าง” ผมแกล้งดุมันพร้อมขยับตัวออกนิดหน่อย
“ไม่อายหรอกเค้ารู้กันหมดแล้ว กูมานั่งเฝ้ามึงทุกวันแบบเนี่ย”
ปิ้นนน !!
ไฮบริจสีขาวกระพริบไฟจอดลงริมถนนใกล้ ๆ ม้าหินอ่อนข้างสนามบาสของคณะวิศวะ ผมกับไอ้คิมหลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้วก็เดินขึ้นรถทันที
ไอ้โป้งครับมันเปลี่ยนมาใช้ไฮบริจเรียบร้อยหลังจากเกิดเรื่องน้องเอมมี่วันนั้น เพราะผมไม่ยอมนั่งรถมันอีก ฮ่าฮ่า วันต่อมามันเลยเอาไปเปลี่ยนกับของมาม๊ามันมาใช้ได้ยินข่าวว่าเพิ่งถอยมาใหม่(ไอ้ห่า! มึงอ้างกูรึเปล่าเนี่ย)
“กินไรวะโน่” ไอ้โป้งถามขึ้นขณะจะยูเทิร์นรถกลับประตูด้านหลังมหาลัยซึ่งใกล้คอนโดมันมากกว่า
“ซื้อของไปทำกินกันมะ กูอยากกินไข่เจียวปูฝีมือมึงอ่ะ วันนั้นมึงทำอร่อยดีกูชอบ”
“งั้นแวะท็อปฯ คิมอ่ะมึงอยากกินอะไร”
“ต้มยำกุ้ง เอาแบบแซบ ๆ เลยตากูจะได้สว่างแม่งคิดถึงเรื่องงานแล้วกูเซ็งคืนนี้ต้องเคลียร์ยาวอีก”
“คิม! มึงปรับแอร์ให้ตรงกูหน่อยสิวะ ข้างหลังร้อนชิบหาย” ผมโวยวายใส่มันครับอากาศช่วงนี้แม่งโคตรรร้อน
เราสามคนกำลังมุ่งหน้าไปช็อปของสดกันที่ท็อปซุปเปอร์ครับ ไอ้โป้งอย่างเหมือนคุณแม่ซื้อโน่นหยิบนี่มีแต่เครื่องครัวทั้งนั้น ส่วนไอ้คิมรับหน้าที่เข็นรถครับมันไม่ค่อยรู้เรื่องงานครัวเท่าไหร่ช่วงนี้เราสามคนทานอาหารตอนเย็นด้วยกันทุกวันที่ห้องไอ้โป้งนั่นแหละครับ ถ้าวันไหนมันกลับบ้านเหลือแค่ผมกับคิมเราก็จะไปทานอาหารข้างนอกกันแทน
ผมชอบอาหารฝีมือไอ้โป้งนะมันทำรสหวานให้ผมกินผมชอบกินรสหวาน แต่ไอ้โป้งชอบรสจืดส่วนไอ้คิมเผ็ดครับ 3 คน 3 สไตล์ไม่รู้มาอยู่ด้วยกันได้ไง หลังจากทานข้าวกันเสร็จไอ้คิมรับหน้าที่ล้างจานพอล้างเสร็จมันก็ไปนั่งดูTV ส่วนไอ้โป้งก็เช็ดทำความสะอาดต่อนิดหน่อย หลังจากผมเทนมผสมอาหารเม็ดให้ไอ้ตัวเล็กเรียบร้อยก็เดินเข้าไปหามัน
“วันนี้กูกลับกับไอ้คิมนะ” ผมพูดขึ้นขณะยืนช่วยมันล้างแอปเปิ้ลเตรียมไว้ให้ผม มันชะงักเล็กน้อยหน้าจ๋อยลงอย่างเห็นได้ชัด จริง ๆ ไม่อยากพูดหรอกครับที่มันเตรียมแอปเปิ้ลไว้เพราะมันรู้ว่าผมชอบใช้แอ็ปเปิ้ลเย็น ๆ เติมพลังทันทีหลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะ!?(ก็มันเป็นประเภทรุนแรงนี่หว่า ผมต้องใช้น้ำตาลจากผลไม้มาเติมโดยด่วน555)
“แล้วพรุ่งนี้?” มันถามโดยไม่มองหน้าผมเลย ผมเหลือบมองไปหน้า TV เห็นไอ้คิมยังนั่งดูอยู่คงไม่ได้ยินสิ่งที่พวกผมพูด
“พรุ่งนี้ก็จะค้างที่นั่น”
“.........” เชื่อไหมครับผมเห็นมันล้างแอปเปิ้ลลูกเดียวนานมากเลย ถูแล้วถูอีกอยู่นั่นแหละ
“โป้ง! ไรวะมึงอ่ะ ช่วงนี้คิมมันงานเยอะช่วงกลางคืนมันไม่ค่อยได้นอน กูอยากช่วยมันเขียนโปรแกรมด้วย งานของพวกกูอ่ะ”
“..........” มันไม่พูดเลยครับเดินเอาจานแอบเปิ้ลไปเก็บในตู้เย็น ถอดผ้ากันเปื้อนวางพาดไว้บนเก้าอี้ หน้ามันแดง ๆ ครับ แล้วมันก็เดินเข้าไปในห้อง ผมรีบเดินตามเข้าไปเห็นไอ้คิมหันมามองพวกผมนิดหน่อย
“มึงโกรธกู?” ผมถามมัน ตอนนี้มันนั่งลงที่ปลายเตียงแล้ว
“.........” ไม่ตอบ ไม่ยอมมองหน้าผมอีกต่างหาก หน้าแม่งงอนอย่างกับตูด
“โป้ง! อย่าทำแบบนี้สิวะ เมื่อวานกูก็อยู่กับมึง วันก่อนก็ด้วย”
“แต่เราไม่ได้ทำอะไรเลย”
“มึงไม่ทำเองนี่หว่า”
“ก็วันนั้นมึงแสบนักนี่! พลิกมาได้กูยังเข็ดไม่หาย 2 วันที่แล้วท่าทางมึงคึกน่าดูกูเลยไม่กล้าทำดิวะ”
“แล้วไง! มึงคิดแต่เรื่องอย่างนั้นกับกูรึไง”
“กู ยังทำได้ไม่ดีพอรึเปล่า” มันก้มหน้าก้มตาพูดหน้าอย่างแดงอ่ะ
“ไม่เกี่ยวเลยโป้ง!” ผมตอบอย่างเหนื่อย ๆ ผมเบื่อปัญหานี้ที่สุดตั้งแต่ตัดสินใจคบกันสามคนแบบนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีปัญหาทุกครั้งที่คุยกัน ไปค้างกับคนนั้น คนนี้ก็น้อยใจ ไปค้างกับคนนี้ คนนั้นก็น้อยใจ เออ!ตกลงกูจะอยู่ของกูคนเดียวดีกว่า ไม่งั้นก็มาอยู่แม่งพร้อมกัน 3 คนเลย นอนแม่งด้วยกัน คิดไปคิดมาอย่างหลังท่าจะทำให้ผมเสียเปรียบมากเกินไป(เดี๋ยวกูเหลืองตายซะก่อน อิอิ)
“เบื่อกู?” มันตาแดงมากขึ้นแล้วแต่ยังไม่ยอมสบตาผมเหมือนเดิม
“ทำไมต้องมีปัญหาแบบนี้ด้วยวะ บอกแล้วใช่ไหมว่ากูทำงานกับมันด้วยไม่ใช่มีแต่เรื่องที่มึงคิดหรอก”
“.........” ผมเห็นมันไม่พูดดีนัก เลยเดินไปนั่งคร่อมลงบนตักมันหันหน้าเข้าหาเอาแบบใกล้ ๆ เลย
“จุ๊บ” กัดปากมันเล่นเบา ๆ มันเบี่ยงหน้าหลบซ้ายขวาทำปากเชิด ๆ ผมใช้สองมือประคองแก้มมันไว้ไม่ให้หันหนี ขบเม้มปากมันเล่นจนสักพักมันหยุดหลบแล้วเผลอยิ้มออกมา
“หึ หึ ร้ายนักนะโน่มึงอ่ะ! เจ้าชู้ไม่มีใครเกิน กูไม่เคยโกรธมึงได้นานสักที”
“แน่สิวะ ไม่งั้นจะปราบมึงได้ยังไง” ขอกัดลงไปอีกทีเถอะวะปากแม่งเชิญชวนกูชิบหาย
“จูบได้ไหม” เอาอีกล่ะ มึงจะอ้อนกูไปถึงไหน ไอ้คิมนั่งอยู่ข้างนอกแท้ ๆ
“ไม่ได้” ผมแกล้งพูดเสียงดุ
“อยากจูบ” สายตาแมร่งอ้อนกูจัง กูก็อยากเป็นเหมือนกันนะโว้ย
“นาทีเดียว” ผมยื่นข้อเสนอให้มัน ไม่ได้ครับเดี๋ยวเตลิดมันยิ่งจูบเก่ง ๆ อยู่ด้วย
“อืมม ~ ~..............อื้ออ ~ ..........พอแล้วโป้ง” ผมผลักมันออกทันทีก่อนจะทนไม่ไหว ห่าแม่ง! ดูดลิ้นกูอยู่นั่นแหละ
“โน่”
“อะไรอีก”
“มันตั้งแล้ว”
“จัดการเองเลยมึง ห้องน้ำอยู่โน่น ” ผมกระโดดลงจากตักมัน กำลังจะเดินออกจากห้อง
“ทำให้หน่อยสิวะ” มันเดินมากอดหลังไว้
“ไม่เอาอ่ะโป้ง อย่าดื้อสิวะ” มันไม่ยอมปล่อยเลยครับกอดแน่นเลย
“อยากให้ทำให้” มันหอมที่ท้ายทอยผม แม่ง! อ้อนกูจังวุ้ย!
“เดี๋ยวกูทำให้ เอาไหม!!!!” ไอ้คิมครับ มันพูดเสียงเข้มยืนหน้านิ่งอยู่หน้าประตู มันเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมกับไอ้โป้งตาโตเลยครับ แต่ไอ้ห่าโป้งยังไม่ยอมปล่อยผมอยู่ดี
“โป้ง เดี๋ยวกูกลับแล้ว มึงปล่อยก่อน” ผมหันมาบอกมัน
“..........” มันเงียบอีกแล้วครับ
“อย่างอนนะ พรุ่งนี้เจอกัน” คราวนี้ผมมองตามันตรง ๆ ประมาณว่าให้เข้าใจกูอะไรแบบนั้น
“จุ๊บ” มันยื่นปากมาจุ๊บผมเบา ๆ แล้วกระซิบที่ข้างหู “รัก” แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว มันเข้าใจผม!
“เหมือนกัน” เดินออกไปเห็นไอ้คิมแอบอมยิ้มยืนส่ายหัวอยู่หน้าประตูจากนั้นเดินเข้ามาแกล้งผลักหัวมันแล้วดึงแขนผมพาออกไป ไอ้โป้งทำไม้ทำมือเป็นรูปโทรศัพท์ประมาณว่าเดี๋ยวกูโทรหาไรแบบนั้น ผมเดินไปลูบหัวไอ้ตัวเล็กที่นอนอยู่ริมประตู ก่อนออกจากห้องไป
หลังจากออกจากห้องไอ้โป้ง คิมมันพาผมขับรถกลับคอนโดมัน ระยะห่างกันพอสมควร ผมสังเกตสีหน้ามันเหนื่อย ๆ อาจเป็นเพราะช่วงนี้งานมันยุ่งมาก ทางมหาลัยกำลังจะจัดงานกีฬาสัมพันธ์ขึ้นแถมที่มหาลัยเราเป็นเจ้าภาพ มันถูกอาจารย์ล็อคตัวเข้าฝ่ายกิจกรรมโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ งานที่มีอยู่แล้วเลยยิ่งเพิ่มขึ้นอีก
ผมเอื้อมมือไปเกลี่ยผมที่ตกลงด้านหน้ามันเบา ๆ มันละสายตาจากหน้ารถหันมามองนิดหน่อย ก่อนจับมือผมไว้แล้วเอาไปชิดที่ริมฝีปากสวยของมัน “จุ๊บ”
“อย่ายั่วครับโน่ วันนี้งานกูเยอะไม่รู้ว่าจะมีเวลาให้มึงรึเปล่า” ผมยิ้มบาง ๆ ให้มันก่อนยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มมัน 1 ที เห็นมันหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ เชื่อไหมครับ ตั้งแต่วันที่มันล่วงเกินผมจนกระทั่งวันนี้มันเพิ่งได้กอดผมแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ถึงแม้ว่าผมจะค้างกับมันบ่อย ๆ แต่เราก็แค่นอนกอดกันแล้วก็หลับไป ช่วงดึก ๆ มันจะลุกขึ้นมาเคลียร์งานเสมอ แค่เห็นหน้ามันผมก็รู้แล้วว่ามันเหนื่อยแค่ไหน(แล้วนี่ก็คือหนึ่งในเหตุผลที่ผมไม่เคยพลิกกลับมันเลย มันช่างไม่เหมือนไอ้โป้ง ไอ้นั่นโคตรหื่นแต่ละคืนคิดแต่เรื่องอย่างว่า สมน้ำหน้าโดนผมสำเร็จโทษกลับจ่อยมาหลายวันแล้วด้วย 555)
“คิม มึงจอดรถก่อนได้ไหมวะ”
“ทำไม” มันถามขึ้นพร้อมเบี่ยงรถจอดเข้าข้างทาง
“กูอยากว่ะ” พูดจบผมคว้าคอมันมาดูดจูบเลย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแอบคิดว่าอาจอารมณ์ค้างจากไอ้โป้งเมื่อกี้ แต่คิดอีกทีอาจไม่ใช่ ผมกลัวว่ากลับไปมันจะสนใจแต่งานจนลืมเวลาของผมมากกว่า ผมจูบมันอยู่สักพัก มือไม้มันเริ่มอยู่ไม่สุขแล้วครับ ผมแอ่นตัวรับสัมผัสจากมือมันอย่างรู้งาน เสียงอืออาดังลอดออกมาจากลำคอผมเบา ๆ ผมกอดคอมันไว้แน่นจนเกร็ง เสียงลมหายใจดังครืดคราดที่ผมตั้งใจกรอกลงชิดใบหูของมันยิ่งทำให้มันดูดจูบหนักขึ้นไปอีกขณะที่มือยังขยับอยู่ที่ส่วนล่างของผมไม่หยุด จนในที่สุดร่างกายผมกระตุกสองสามทีก็ปล่อยความสุขทะลักออกมาเรียบร้อย มันจุ๊บลงที่แก้มผมอย่างอ่อนโยน
ผมเหนื่อยจนหลับไปไม่รู้ว่านานแค่ไหนตื่นมาอีกทีมันปลุกผมให้ตื่นเพราะถึงคอนโดแล้ว ผมเดินขึ้นห้องอย่างคนหมดสภาพเหนื่อยแล้วก็ง่วงมาก พอถึงห้องปุ๊บ ถอดเสื้อโยนไว้แล้วล้มตัวลงนอนคว่ำลงที่โซฟาหน้าทีวี แต่เสียใจครับ คราวนี้ไม่หลับ ตาแข็ง! แอบมองเห็นไอ้คิมเดินไปเดินมา เดี๋ยวก็ห้องน้ำ เดี๋ยวก็ห้องนอน เดี๋ยวก็ห้องรับแขก มันทำอะไรของมัน นอนมองมันอยู่สักพักมันก็มาเรียกไปอาบน้ำ ผมงอแงสิครับ ตัวมันก็ยังไม่อาบสักหน่อยดันมาเรียกคนอื่น ผมก็อยากนอนเล่น ๆ อีกสักพักนี่นา
“ถ้างั้นกูอาบก่อน มึงห้ามหลับนะ อาบดึก ๆ ไม่ค่อยดี ป๊ากูเคยบอกไว้”
“เออ กูจะดู TV รอ” ผมพลิกตัวนอนหงายกดรีโมทเปิดทีวีนอนดูช่องนั้นช่องนี้ไปเรื่อย สังเกตเห็นกระเป๋าสะพายสีดำของมันวางอยู่ข้าง ๆตัว ไม่รู้นึกยังไงครับ ลองเปิดดูดีไหมนะ แต่...การกระทำเร็วกว่าความยับยั้งชั่งใจครับ มือผมเปิดเรียบร้อยแล้ว(กูช่างเหมือนผู้หญิงค้นกระเป๋าสามีจริง ๆ )
กระเป๋าโคตรสะอาด ทุกอย่างเป็นสีดำแม้แต่สมุดโน๊ต ปากกา โทรศัพท์ พวงกุญแจ กระเป๋าไอแพด ไอโฟน ลิปบาร์ม มันจะคลั่งดำอะไรของมันนักหนา แล้วนี่อะไร ช็อคโกแลตบาร์ของชอบผม แอบน่ารักเหมือนกันนี่หว่า อ้าว! แล้วนี่กระดาษอะไรสีชมพูซะด้วย ผมมองไปทางห้องน้ำนิดหน่อย มันยังไม่ออกมาลองเปิดดูดีกว่า
To พี่คิมฮะ
ดีใจนะฮะที่ได้ทำงานร่วมกับพี่ ผม..ชอบ..พี่มานานแล้ว
อยากคุยกันเรื่องของเรา.....
ศุกร์นี้ 2 ทุ่ม เจอกันที่...................
PS. ผมจะรอจนกว่าพี่จะมา
เจส B.E
อยากรู้จักพี่ให้มากกว่านี้ฮะ
ดีใจนะฮะที่ได้ทำงานร่วมกับพี่ ผม..ชอบ..พี่มานานแล้ว
อยากคุยกันเรื่องของเรา.....
ศุกร์นี้ 2 ทุ่ม เจอกันที่...................
PS. ผมจะรอจนกว่าพี่จะมา
เจส B.E
อยากรู้จักพี่ให้มากกว่านี้ฮะ
หืมม.....อยากรู้จักมากกว่านี้ ?...เย็นไว้โน่.....นับไว้ 1 - 2 - 3…กูกำลังจะคลั่งตายกับเสน่ห์ของไอ้พวกนี้
“เสร็จแล้วว่ะโน่” มันเดินเช็ดหัวออกมาจากห้องน้ำ กางเกงบอลเสื้อกล้ามปะแป้งซะทั่วตัว นั่งลงข้าง ๆ ผม
“มึงทาแป้งทำไมวะ” ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมันปะแป้งครับ
“กูร้อนว่ะ พอดีเห็นแป้งเย็นอยู่ที่ชั้น ลองทาดูของมึงป่ะ”
“ห่า! กูไม่ใช้แป้งหรอกเว้ย”
“อ้าว! สงสัยของพลอยมั้งตอนกลับคงลืมเอาไปว่ะ” มันพูดจบก็กดดู TV ไปเรื่อย ๆ ผมลุกขึ้นจะไปอาบน้ำบ้าง มันดึงแขนไว้ ผมมองหน้ามันงง ๆ
“ไรวะ”
“อย่านานนะ อยากนั่งดู TV ด้วยกัน”
“อืม”
พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมเดินออกมา อ้าว! มันหลับอยู่หน้าทีวีซะแล้ว มองดูเวลา 4 ทุ่มครึ่ง ปล่อยมันนอนไปก็ดีเพราะอีกเดี๋ยวมันคงตื่นมาเคลียร์งานแน่ ผมเดินไปหยิบหมอนกับผ้าห่มจากในห้องออกมา ปิด TV เร่งแอร์ขึ้นอีก หรี่ไฟลงจนสุด แล้วนอนลงไปข้าง ๆ มัน กอดเอวมันไว้แล้วซุกตัวลงแถว ๆ ไหล่มันครับ ใจผมก็นึกถึงจดหมายเมื่อกี้นะ ไม่เคยเห็นหน้าคนเขียนซะด้วย แต่คราวนี้เป็นผู้ชายแฮะ ใครวะ บังอาจมาลูบคมกู.....มึง!....
มันหันมาลืมตามองผมแล้วกอดผมเบา ๆ หอมลงที่แก้มและซอกคอ
“เดี๋ยวหลับจริงนะ ไม่ไปนอนข้างใน?” มันพูดเสียงงึมงำในลำคอ
“ไปด้วยกันดิวะ”
“โน่ครับ”
“ว่าไง”
“ทำไมกูรักมึงขนาดนี้” ยิ่งพูดยิ่งซุกปลายจมูกลงที่คอผม จนขนลุกไปหมดแล้ว อารมณ์กูพาลจะเกิด!
“ ไหนมึงว่าจะนอน นอนดิ วันนี้นอนตรงนี้แหละเดี๋ยวมึงลุกตอนกลางคืนค่อยปลุกกูเข้าไปข้างใน”
“หนาวว่ะโน่ มึงเปิดแอร์เบอร์ไรเนี่ย” ยิ่งพูดยิ่งซุกตัวเข้ามา
“ไม่รู้ว่ะมันมืดกูกดไปมั่ว ๆ แล้วมึงทาแป้งเย็นแถมยังนอนตรงที่แอร์ตกพอดีอีกเนี่ยนะ”
“งั้นขยับไปดิ”
“ไม่เอาตัวกูติดโซฟาแล้ว” อยู่ ๆ มันก็ลุกขึ้น
“เฮ้ย!! คิมไรเนี่ย!” อยู่ ๆ มันก็อุ้มผมขึ้นครับ ตัวผมเล็กที่ไหนเล่า มันวิ่งพาผมเข้าห้องทันที
“คิม! กูกลัวตกนะปล่อยเลยไอ้บ้านี่”
“อ่ะ” มันโยนผมลงบนเตียงอย่างแรงอ่ะ
“เชี่ย! มึงโยนกู” ผมจิ๊ปากใส่มันทำหน้างอน
“ก็หนักนี่หว่า” มันนั่งลงครับ ลูบหัวผมเบา ๆ
“นอนนะครับ วันนี้กูต้องทำงานต่อ ยังไม่ได้ดูงบการเงินของรีสอร์ทเลย พี่จี๊ดเค้าดั้มไฟล์ส่งมาให้กูแต่เช้าแล้ว” ผมนอนลงอย่างว่าง่ายไม่อยากกวนมันครับปล่อยมันทำงาน ผมแยกแยะได้เรื่องงานเรื่องส่วนตัว เซ็กส์ก็สำคัญนะ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกจริงไหม!
“ขอโทษนะครับโน่” จบคำพูดด้วยการหอมลงที่หน้าผากผมเบา ๆ ผมเองก็จะหลับอยู่แล้วครับตั้งแต่คบกับพวกมันมารู้สึกเหมือนกันว่าตัวเองนอนเร็วขึ้น เมื่อก่อนอยู่ห้องคนเดียวเล่นคอมจนดึกกว่าจะหลับ เดี๋ยวนี้ 5 ทุ่มก็ง่วงแล้วครับกะลุกตอนดึก ๆ อ่านหนังสือแทน
ลมเย็น ๆ ของแอร์ตกกระทบใบหน้าจนผมรู้สึกตัวตื่นขึ้น มองไปรอบห้องมืดไปหมด มีแสงสว่างลอดออกมาจากหลังม่านหน้าต่างริมระเบียงห้อง มองดูนาฬิกาที่หัวเตียง ตี 2
เป็นอย่างนี้ประจำ!
ผมลุกขึ้นหยิบผ้าห่มลากเดินออกไปที่ริมระเบียง
“โน่! ตื่นทำไมครับ ไม่ง่วงเหรอ” มันมองผมงง ๆ ในมือยังจับเมาส์ค้างไว้ กองเอกสารอยู่บนโต๊ะเต็มไปหมด
ผมลากเก้าอี้อีกตัวมาต่อเข้ากับเก้าอี้ยาวที่มันนั่งอยู่ แล้วนอนหนุนหัวลงที่ตัก มันถอดแว่นออกวางไว้จับตัวผมให้ลุกขึ้น
“อย่าทรมานตัวเอง เข้าไปนอนข้างใน” ผมปรือตาด้วยความง่วง ส่ายหน้าแล้วดันตัวนอนลง
“โน่” มันเรียกผมเบา ๆ จ้องลงมองหน้านิ่ง ผมกระชับผ้าห่มชิดขึ้นมาอีก รู้สึกถึงลมที่พัดเย็นกว่าปกติ อาจเพราะระเบียงนี้อยู่ชั้นที่สูงมาก ตัดสินใจค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอีกที วิวด้านนอกสวยมาก ผมไม่ค่อยได้สังเกตเท่าไหร่ แสงไฟดวงเล็ก ๆ ตัดกับความมืดของท้องฟ้าตอนตี 2 ตึกที่ห่างไกลออกไปมืดลงเกือบหมดเห็นแต่ควงไฟเล็ก ๆ จากถนนยามค่ำคืนรถราบางตา ผมลุกขึ้นนั่งชันเข่าพิงหัวลงที่ไหล่หนาดึงผ้าห่มขึ้นจนสุดคอ มันโอบไหล่ผมไว้อย่างเบามือ
“วิวสวยดี มึงชอบทำงานตรงนี้?”
“อืม คิดถึงตอนอยู่บนเกาะ วันหลังไปด้วยกันอีกนะ เดี๋ยวพาเล่นบนเรือเปลี่ยนบรรยากาศ หึหึ”
“ ห่าคิม! กูไม่พูดแล้ว! มึงทำงานต่อดิ เดี๋ยวกูนอนตรงนี้แหละ เข้าไปเมื่อไหร่ปลุกด้วย” คราวนี้ผมนอนลงจริงแล้วครับ อากาศดีแฮะเย็นกว่าอยู่ในห้องแอร์ซะอีก ปล่อยมันนั่งทำงานไป ได้ยินแต่เสียงคลิกเมาส์กับเสียงพลิกกระดาษไปมาจนสักพักผมก็หลับไปจริง ๆ
Tbc.