# 35 ทีมชง...
“อื้อ....พี่เอย์พอก่อนครับผมหายใจไม่ทัน”
ผมเบี่ยงหน้าหลบปากและจมูกร้อนที่ระดมซุกไซ้ลงมาอย่างต่อเนื่อง
แต่แทนที่คนถูกปรามจะหยุดกลับรุกเอารุกเอาจนผมตั้งตัวไม่ได้ สองมือดึงสาบเสื้อสูทมันไว้จนแน่นไม่สนแล้วจะยับไม่ยับ
“กูจะทำโทษมึงที่ชอบหนีไปบริษัทนั้นโดยไม่บอกกูตลอด”
“อือ...ผม...ปะ..เปล่านะ”
ผมแสร้งทำเสียงดัดจริตนิดๆ จริง ๆ
จักจี๋มากไม่ได้เสียวเหี้ยไรหรอกส่วนเรื่องหายใจไม่ทันนี่เรื่องจริงปกติเราไม่จูบกันแบบนี้นะแต่วันนี้คือโดนมันแกล้งไง
สามวันหลังจากที่ต้องเข้างานที่อัศวคอนเป็นครั้งแรก ล่วงมาจนถึงวันศุกร์สุดสัปดาห์ทั้งผมทั้งพี่เชนติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์และเซทระบบใหม่ให้กับทุกแผนกเรียบร้อย
หน้าที่ต่อไปคือผมกับพี่เชนต้องเข้าไปนั่งสับเวรกันคุมอยู่ที่นั่นร่วมกับพนักงานอีกสองคนของบริษัทเราเอง
“พยศจริง ๆ
มึงนี่มันดื้อที่สุดของความดื้อ”
“อื้อ...”
ผมมองดูเวลาที่หน้ารถ
เช้านี้เราสายกันแน่ ๆ
อะไรวะพอลงมาจากห้องแค่ผมบอกมันว่ายังไม่รู้เลยว่าวันนี้จะได้อยู่กินข้าวเที่ยงด้วยไหม
มันจับผมฟัดทั้งที่กำลังจะออกรถอยู่แล้ว ดีที่ฟิล์มรถดำมากแล้วที่จอดคือมิดชิด
ผมอดคิดไม่ได้พี่เอย์คงติดฟิล์มดำๆเพื่อการนี้โดยเฉพาะแหง๋ ๆ
“พี่เอย์อย่า..”
ผมพยายามขยับตัวหลบมือซุกซนของมัน มือร้ายเลื่อนเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตผมแล้วหยอกเย้าอยู่ที่สองจุกดึงแล้วบดบี้แบบที่มันชอบทำ
“ตอบกูก่อนวันนี้จะขึ้นไปกินข้าวด้วยกันไหม
หื้ม”
“ผมไม่...ไม่รู้ อ๊ะ...พี่เอย์ผม...”
“จะไปอัศวคอนอีกงั้นดิ่”
“พี่เอย์ผมทำ...ทำงานนี่ครับ...อื้อ...”
ผมแอ่นลำตัวขึ้นมาให้มันดูดได้ถนัดๆไปเลย เอาวะมึงจะดูดจะจูบเหี้ยไรรีบทำ
พอใจแล้วออกรถเสียที
“นมมึงแม่ง”
เพี๊ยะ! “อย่าพูด” ผมฟาดต้นแขนมันไปพี่เอย์กัดแล้วดึงจุกขึ้นมาผมร้องลั่นเลย
“อ๊ากกกกกกก!!!!”
“หึหึ”
มันขำเบาๆในคอ ก่อนเงยหน้าขึ้นมองสายตานี่เจ้าชู้สุด
“พอยัง
พอใจแล้วดิ่ พี่แม่ง”
“ง่ำๆๆๆ”
มันทำเสียงปัญญาอ่อนแล้วแกล้งจะก้มลงไปงับจุกอีกครั้ง ผมรีบพลิกตัวหลบคราวนี้ไม่ยอมแล้วมันกอดไว้แน่นเลย
จูบต้นคอที่พ้นปกเชิ้ตของผมออกมาแค่นิดเดียวเสียงดังมาก
“อิ่มแระ ไปทำงานกันดีกว่าเนอะ”
ผมหันมองมันตาเขียว
มันอิ่มแล้วมันยิ้มหันไปออกรถแต่ผมนี่ดิ่ เสื้อผ้าหลุดลุ่ยต้องจัดแต่งใหม่อีก
ผมเผ้าถูกมันเสยจูบหน้าผากจนเปียกไปหมด เออดี ทำดีแฟนกูแม่ง แง่งๆๆๆ
พี่เอย์ยิ้มตลอดทาง ส่วนผมนั่งอย่างหวาดระแวงนิด
ๆ กลัวมันคึกบ้าขึ้นมาอีก รถออดี้เครื่องเสียงเพราะนะผมว่า เราฟังสปอตโฆษณาตลกๆแล้วเราก็หัวเราะไปด้วยกันอย่างอารมณ์ดี
รถจอดลงที่จอดรถของท่านประธานของอัศวออโต้
“จูบก่อน”
“ห๊า!!”
มันรั้งแขนผมไว้ไม่ให้ลง ผมหันไปมองมันตาโต
“จุ๊บเดียว ตรงไหนก็ได้”
“ไม่เอาหรอกเดี๋ยวคนเห็น
พี่เอย์ครับนี่มันที่ทำงานนะ”
“งั้นมึงไม่ต้องลง เอาดิ่”
“พี่แม่ง” มันบีบแขนผมแน่นมากท่าทางไม่ยอมง่าย
ๆ ผมใช้สายตาปรามแต่ตัวมันไม่สนอยู่ดี มองซ้ายมองขวายังเช้าอยู่มากปลอดคนจับมือมันขึ้นมาจูบรัวที่หลังมือด้วยความเร็วแสง
“จุ๊บๆๆๆ”
พี่เอย์ยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวเรียงสวย ผมตีแล้วผลักมันก่อนกระโดดลงจากรถ
ได้ยินแต่เสียงหัวเราะไล่ตามหลัง วันนี้ที่อัศวคอนฯเวรพี่เชนเฝ้าช่วงเช้าผมกะว่าจะเข้าไปช่วงบ่าย
อาจจะต้องมีงานที่ต้องทำร่วมกัน
เพราะงั้นวันนี้ตอนเช้าจะต้องเข้าอู่ใส่ชุดหมีอย่างที่ใจรักเสียหน่อยไม่ได้ใส่มาหลายวัน
คิดถึงนะ
“อ้าวสวัสดีครับมาทำงานใหม่เหรอครับน้อง”
ผมยืนอยู่หน้าตู้ล็อคเกอร์สวมชุดหมีเสร็จกำลังรูดซิบ เสียงคนพูดดังอยู่หลังบานพับตู้
ผมรีบปิดบานล็อกเกอร์แล้วดูหน้าไอ้คนพูด
“ไอ้เหี้ย กูก็นึกว่าใคร”
ยกขาฟาดตูดมันไปที หมาบาสแม่งมาถึงเข้ามาเปลี่ยนชุดเหมือนกัน
“มาเช้านะเนี่ย มีออดี้สุดสวยของท่านประธานมาส่งนี่เร็วจริงไรจริงน๊าพี่กู
คึคึ”
“ไอ้บาสมึงแม่งอยากคาบประแจเหล็กใส่ปากแต่เช้าเลยดิ่มึง”
ผมไล่เตะมันอีก เราเล่นกันจนไอ้วุฒิเข้ามาเปลี่ยนชุดแล้วเจอ ระหว่างนั้นห้องวุ่นมากเพราะมีพนักงานคนอื่น
ๆ ทยอยเข้ามาวางกระเป๋าเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือน ๆ กันพี่ปอนด์เห็นผมแล้วชี้หน้าเลย
ผมยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้
“หนีงานนะเรา”
“โหพี่ทางนู้นยุ๊งยุ่ง
ผมคิดถึงชุดหมีนี่ตลอดอ่ะ”
“ไอ้เหี้ย
รักงานซ่อมรถหรือรักที่จะใส่ชุดช่างกันวะ”
“รักทั้งคู่”
“ไอ้ตัวเจ้าชู้”
ทั้งห้องหัวเราะกันร่วนก่อนที่เราจะแตกกระจายไปประจำตามจุดซ่อมต่าง
ๆ ผมยังไม่ผ่านด่านบีเอ็มฯเพราะงั้นพี่ปอนด์ยังต้องดูแลผมอยู่ ส่วนไอ้วุฒิเดี๋ยวนี้อัพเกรดไปช่วยที่หน่วยเบนซ์แล้ว
หมาบาสยังอยู่ด้วยกันกับผมที่เดิม
“อ้าววุฒิ มาพอดีมึงหยิบสเปรย์แดงส่งให้กูดิ๊”
พี่ปอนด์เห็นไอ้วุฒิเดินมาใกล้เลยเรียกมันส่งของให้
“มาทำไมชะเรี่ย”
ผมยื่นขาออกไปเขี่ยมัน ไอ้วุฒิเตะกลับมาคืน
คือผมมุดอยู่นะไม่ใช่อะไรวันนี้พี่ปอนด์พามุดท้องรถไม่ยอมใช้เครื่องไฮโดรลิคยกขึ้น
พี่เขาบอกอยากนอนทำเมื่อคืนหนักไปหน่อยเมื่อยสะโพกยืนไม่ไหว พวกเราเลยโห่แซว
แฟนพี่เขาสวยมากนะทำอยู่ฝ่ายบุคคลชั้นบนในตึกน่ะแหละ
“เออมึงมาทำไรวะ เบนซ์ไม่มีคิวอ่อ”
ไอ้บาสถาม
“ไอ้เหี้ย
เบนส์ต่อคิวยาวเป็นหางว่าวกูแอบหนีมาชวนพวกมึงไปเที่ยวกันคืนนี้”
“เที่ยวไหน”ผมยื่นหน้าออกมาเลย
ไอ้วุฒิมันนั่งยอง ๆ อยู่ข้างรถนะ
“ผับไหม ยังไง”
“ไม่ไปบ้านไม้แดงอ่อ ลุกทุ่ง ๆ
เพื่อชีวิต” ผมมองหน้ามัน
“เฮ้ยไม่เอา วันนี้กูอยากกินเหล้าเคล้าภาพนารีสวย ๆ ส่ายสะโพกโยกย้าย แถวตะวันแดงแม่งเจอแต่นารีลูกทุ่งกูเบื่อๆว่ะ
เราไม่ได้เที่ยวด้วยกันนานแล้วด้วย เที่ยวแบบเด็กเทพอ่ะเด็กเทพ”
“ไอ้เหี้ยเด็กเทพจริง ๆ
แม่งกูเห็นเที่ยวแต่ลูกทุ่งเพื่อชีวิตนี่แหละมีแต่เด็กต่างจังหวัดกระแดะเที่ยวอาร์ซีเอ”
“เอ้ยไปๆๆกูอยากไป พี่ปอนด์ไปด้วยกันไหมพี่”
ไอ้บาสแทรกขึ้น มันชวนพี่เขาด้วยแต่พี่ปอนด์ยันโครมมันดิ่ แฟนแกปล่อยไปไหนง่าย ๆ
ล่ะ
“กูไปกับพวกมึงได้ก็ดีดิ่สัส”
“ไม่เห็นเป็นไรอยากไปอย่ากลัว
เมียเหรอ จิ๊บๆ”
“กูไม่ได้กลัวเว้ยแต่ไม่อยากมีเรื่อง
โกรธทีง้อเป็นเดือน
อดอยากปากแห้งอีกต่างหากจะไปสอยใครก็ไม่ได้เพราะงั้นพวกมึงหนุ่มโสดไปกันโลด
กูสละสิทธิ์”
“โถพี่กูน่าสงสารเสียจริง”
หมาบาสมันว่า
“ว่าไงวะปิง มึงไปได้ป่ะ”
ผมนิ่งคิดนิดนึง
ดูเหมือนวันนี้จะไม่มีงานที่ต้องเคลียร์ ตอนดึกก็ว่างนะ
แต่อิพี่เอย์นี่ถ้ารู้ว่าผมไปไม่ชวนเดี๋ยวมีเรื่องอีก เพราะงั้นจะชวนมันไปด้วยก็แล้วกัน
มันเคยเที่ยวกับเพื่อนผมแล้ว แล้ววันนั้นก็เห็นนัดกินเหล้ากับไอ้วุฒิ พวกมันคงไม่มีปัญหามั้ง
“เออ ไปได้ ๆ” ผมกะจะชวนพี่เอย์ด้วย
เลยทำปากบอกไอ้วุฒิให้รู้ มันโอเค คือผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อพี่เขาเสียงดัง พี่ปอนด์ไม่รู้เรื่องของผมกับพี่เอย์เพราะงั้นเลยต้องบอกใบ้กันแบบนี้
บาสวุฒิมันก็เข้าใจนะ เวลาไปเที่ยว ไปหลาย ๆ คนมันส์ดี
สาย ๆ
ของวันนั้นพี่เอย์โทรหาแล้วบอกให้ผมรอเดี๋ยวจะเข้าอัศวคอนเหมือนกัน
มันกลัวผมนั่งมอไซด์ตากแดดเลยรีบเคลียร์งานที่นี่จนเสร็จ ผมก็เออตามใจ พี่เขานัดไว้เที่ยงครึ่งผมกินข้าวพร้อมพรรคพวกที่แคนทีน
เปลี่ยนชุดแล้วเดินขึ้นไปหามัน พี่เอย์วางแฟ้มสุดท้ายลงพอดี คุณภีมเข้ามาเก็บแฟ้มงานทุกอย่างแล้วเดินตามพวกเราออกมา
“กินข้าวยัง”
“กินแล้วครับ พี่เอย์ล่ะ”
“ยังดิ่ กลัวไม่ทันมึง
วันศุกร์กูงานเยอะมากต้องเคลียร์ของทั้งสัปดาห์ เร่งเกือบตาย”
“เร่งทำไมอ้ะ
ผมไปเองได้ก็บอกแล้วนี่ครับ”
“นั่นสินะ กูเร่งทำไมวะเนี่ย”
ผมหันขวับไปมองเลยดิ่
มันยิ้มให้แล้วผลักหัวผมแรงมากอยากซุกอกมันนะรู้ว่ามันรักเลยอยากทำงานให้เสร็จไว ๆ
จะได้ออกไปพร้อมกัน แต่อ้อนตรงนี้คงไม่ดีผมหันไปยิ้มกว้างให้พี่เอย์รีบผลักผมออกห่างอีกครั้งผมรู้ดิ่มันกลัวห้ามใจตัวเองไม่ไหวแหง๋มๆ
เราสองคนลงลิฟต์กันมาพี่เอย์ขับรถไม่นานนะระหว่างนั้นผมบอกมันเรื่องเที่ยวชวนพี่เขาไปด้วยมันตอบโอเคอย่างไว
สักพักนึงรถก็เลี้ยวเข้าที่ชั้นใต้ดินอัศวคอนสตรัคชั่น
“พี่เอย์จะกินข้าวที่ไหน”
“เดี๋ยวให้กัสสั่งอาหารขึ้นมาให้
กูกินที่ห้องนี่แหละ”
“กัส....คุณกัสมาเลขาพี่น่ะเหรอครับ”
“ใช่ วันนั้นมึงเจอเขาแล้วนี่”
“.....”
“ปิง?”
รถจอดลงแล้วนะ แต่ผมยังไม่ลง
ผมมองหน้ามันพี่เอย์เองก็คงสงสัยว่าผมเป็นอะไร มันเลิกคิ้วทำหน้าเป็นคำถาม
“ผมไม่ค่อยชอบอ่ะ
รู้สึกว่าพี่สนิทกับเขามากเลยนี่”
“หมาเอ้ย บอกรักกูบ่ายโมงตรงเลยนะมึง”
มันยกนาฬิกาขึ้นดู
“บอกรักที่ไหน” ผมหน้าบู้ใส่ พี่เอย์จะเอามือมาเชยคางผมปัดทิ้ง
“หึงกัสเขาอีกแล้วดิ่”
ผมพยักหน้ารับ ผมหึงจริงผมก็บอกนะ
รู้สึกไม่ชอบว่ะ ตอนแรกกะว่าจะลืม ๆ ไปแล้วเรื่องจัดเนคไท เรื่องเสยผมให้
แต่พอมาเป็นเรื่องอัพรูปลงไอจีนี่แบบ...
“ผมไม่ชอบว่ะพี่”
“ไม่ชอบกัส?”
“อือ ดูเหมือนผมไม่มีเหตุผลใช่ไหมล่ะ
แต่คือตั้งแต่วันนั้นที่พี่เอย์อัพรูปแล้วลบมันไม่ใช่ว่ะพี่คือแบบ...พี่สองคนสนิทกันแบบฉิบหายเลย
ผมคิดนะว่าเออใช่ผมป่ะวะที่เป็นแฟนพี่เนี่ย”
“โหปิง มึงขี้หึงมาก”
“ใช่ครับ ผมยอมรับ”
“กูจะแก้ไขยังไงวะเนี่ย
เรื่องรูปวันนั้นกูอธิบายไปแล้วนี่”
“ผมที่เป็นแฟนพี่ยังไม่เคยอัพรูปแทนพี่เลยนะ
พี่เองก็ไม่เคยยุ่งวุ่นวายกับมือถือผม แล้วเขาเป็นใคร มีสิทธิ์?”
“กูต่อว่าไปแล้ว
กัสเขาก็ขอโทษเขาผิดเขาเองก็ยอมรับ เรานั่งกินกันอยู่หลายคนเจอคนรู้จักเข้ามาทักกูเลยต้องลุกขึ้นไปคุย
กลับมาที่โต๊ะอีกทีถึงได้รู้ว่าลืมมือถือวางทิ้งไว้ก็ไม่ได้สนใจจนเห็นว่าเขาอัพรูปตอนที่ถึงห้องพักนั่นแหละกูบอกไปแล้วนี่”
“......”
“กูทำมึงไม่สบายใจกูขอโทษด้วยแต่อยากให้มั่นใจว่ากูไม่ได้อะไรกับเขาจริง
ๆ นะปิง”
“แล้วเขาล่ะครับ
พี่คนนั้นเขาคิดยังไงกับพี่ คิดแค่เพื่อนเหมือนที่พี่คิดหรือเปล่า”
“ปิง คนคิดเกินเลยกับกูมีเยอะแยะมาก
ถ้ามึงเอามาใส่ใจไปหมดเราต้องมานั่งเคลียร์กันอยู่แบบนี้ตลอดเลยไหม”
“เฉพาะแค่คนนี้แหละ”
พี่เอย์เอื้อมมือมาลูบหัวผมเบาๆ “ปิงครับ
อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดเมื่อเราสองคนรักกัน”
ผมก้มหน้านิ่งรู้ดีว่าคำตอบนั้นคืออะไร
ก่อนตอบมันไปเบาๆ “......ความเชื่อใจ”
“ใช่ ความเชื่อใจ”
“แต่ถ้าพี่ไม่ทำตัวให้ผมเชื่อใจ
แล้วจะมาร้องขอความเชื่อใจจากผมนี่ผมว่าไม่แฟร์นะ”
“กูทำอะไรล่ะ
เรื่องความใกล้ชิดกับเขาใช่ไหม เรื่องความสนิทสนมของกูกับเขา”
“.......” ผมเงียบ รู้สึกตัวเองผิดมากป่ะวะ นี่เรากำลังทะเลาะกัน??
“โอเคได้ มึงไม่สบายใจ งั้นเดี๋ยวกูจะเปลี่ยนเลขาคนใหม่”
ผมรู้สึกตื้อขึ้นมาเลย
รู้สึกตัวเองกลายเป็นคนผิดไปเสียอย่างนั้น คุณกัสมาเขาอยู่ของเขาดี ๆ
แต่ผมจะกลายเป็นคนที่ทำให้เขาต้องเปลี่ยนงาน โยกย้ายตำแหน่ง
งานของพี่เอย์อาจจะมีเขาที่คอยเดินเรื่องให้ทุกอย่างพี่เอย์ทำงานสองที่คนที่จะคอยเก็บงานทั้งสองแห่งคือเลขาที่รู้ใจสองคน
ที่ศูนย์รถมีคุณภีมทำให้ทำไมผมถึงไม่รู้สึกหึง แต่ที่นี่มีคุณกัสมาเป็นคนจัดการให้
เพราะอะไรผมถึงรู้สึกไม่ชอบเขามากขนาดนี้
หรือผมกลัวว่าจะถูกเขาแย่งพี่เอย์ไป
ผมไม่เชื่อใจพี่เอย์งั้นเหรอ??
“เหมือนมึงกับคเชนทร์ไง”
ผมเงยหน้ามองทันที พี่เอย์จ้องผมอยู่
“มึงกับเขาสนิทกันมากเกินไปนะ กูเองก็ไม่ชอบ”
“แต่ว่า...แต่ว่าผมกับพี่เชน....”
“มันไม่เหมือนกันเหรอ กูเองก็หึงนะ
มึงสนิทกับเขามากเลยนี่”
“ผม.....” ผมพูดไม่ออก สายตาพี่เอย์ไม่สดใสเลย
เหมือนมันกำลังบอกว่าทำไมผมถึงไม่เข้าใจมัน
“พี่เอย์ครับ
นี่เรากำลังทะเลาะกันเหรอ”
“เปล่า เราแค่กำลังปรับความเข้าใจกัน
“พี่จะเปลี่ยนเลขาจริงเหรอ”
“จริงสิ”
“......” คือผมเป็นนางเอกไง เป็นคนดี บ้าฉิบ
“กูกับกัส เราเรียนมาด้วยกัน
พักอยู่ที่เดียวกัน สามปีที่กูอยู่นิวยอร์ก ตรง ๆ เลยนะปิง เขาดูแลกู”
“พี่คนนั้นเขาชอบพี่ใช่ไหม”
“ใช่ แต่นั่นมันนานแล้วก่อนกูจะกลับมา
ทุกอย่างจบไปแล้วกูปฏิเสธเขาไปเพราะว่ามีหมาดื้อบางตัวมันยึดใจกูไปตั้งแต่วันนั้นที่มึงใส่ชุดกันเปื้อนเพี้ยน
ๆ มาทำอาหารให้กูกินไง จำได้ไหม”
ผมก้มหน้าแอบยิ้มนิดๆเมื่อนึกถึงวันคืนเก่า
ๆ ของเรา เรื่องจริงของผมกับมัน
ความรักของเราผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะมาก ขนาดวันเวลาที่เราสองคนต้องห่างหัน
ความห่างไกลยังทำลายความรักของเราไม่ได้ ผมยังจะต้องการอะไรจากมันอีก
พี่เอย์อาจไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุด แต่ก็เป็นคนที่ผมเลือกแล้วว่าจะรัก
ผมเงยหน้ามองมันอีกครั้ง
มือใหญ่เลื่อนมากุมมือผมเอาไว้แน่น เราสองคนจ้องตากัน
“อยากจูบมึงว่ะ
แต่ตรงนี้คงไม่ได้เดี๋ยวติดไว้ก่อนละกัน”
ผมชกแขนมันเบา ๆ
พี่เอย์บิดจมูกผมเราสองคนลงจากรถมาพร้อมกัน
“พี่เอย์ครับ” ผมเรียกพี่เขาหันมามอง
“เรื่องคุณกัสมาเลขาพี่ อย่าเพิ่งให้เขาออกนะ”
ผมยังไม่อยากเป็นตัวอิจฉานี่
“ทำไม ไม่หึงกูแล้ว?”
“เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น”
เราเดินมาถึงลิฟต์พี่เอย์ยกมือขึ้นมายีหัวผมอีกแล้ว
“หมา” มันพูดแล้วทำท่าจะหยิกแก้ม ผมรีบหลบแล้วผลักมันออก
“มีแต่นางร้ายนะ เขาทำกันแบบมึง ฟ้องพระเอกให้ไล่นางเอกออกจากงานไง”
“พี่แม่ง แง่งๆๆๆๆ”
ผมถลึงตาใส่มันทำท่าจะเข้าไปกัด อิพี่เอย์แม่งแย่มันทำเสียงดัดจริตล้อเลียนผม
เสียงหัวเราะมันดังลั่นลิฟต์เลย ผมนึกอะไรดี ๆ ได้
“พี่คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกงั้นดิ่” เอาแล้วเว้ย
คุณชายหยุดหัวเราะ มันจ้องผมตาเขียวเลย
“มันก็ไม่แน่หรอก พระเอกอาจไม่ใช่พี่ก็ได้นะ”
“หื้ม??” คุณชายเดินหน้าเข้าหาผมเลย
คราวนี้ผมถอยจนชิดมุม ลิฟต์แม่งวิ่งช้าอะไรวะทำไมมันไม่กดที่ชั้นสามของผม
มันดันกดชั้นยี่สิบสาม แบบนี้เสร็จแน่นานกว่าจะถึง
“ก็ลองดูดิ่วะ
กูกระทืบตายแม่งทั้งคู่อ่ะ มึงลองเปลี่ยนพระเอกให้ไม่ใช่กูดูดิ่”
มันรวบเอาตัวผมจับไว้แน่นอีกแล้ว
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก” โดดดูดหูแรงมาก
ฟินไปดิ่ผมอ่ะ
คุณชายยังมีหน้ามาโบกมือบ๊ายๆตอนผมกดปิดลิฟต์อีกนะ
บ้าฉิบให้ผมขึ้นมาส่งมันก่อนทุเรศสุดผมยกมือขึ้นเช็ดๆน้ำลายเปียกๆที่หูตัวเองก่อนกดลิฟต์ลงมาที่ชั้นสาม
เคาะก๊อกๆสองที่ก่อนเปิดเข้าไปด้านใน
ตายห่า.....
“มาแล้วเหรอ พิชย”
คุณแม่พี่เอย์กับเลขาของท่านพร้อมชาวต่างชาติสองคนกำลังคุยอะไรสักอย่างอยู่กับพี่เชน
ผมรีบเอากระเป๋าวางลงแล้วยกมือสวัสดีท่าน พี่เชนพยักหน้าให้เดินเข้าไปหาใกล้ ๆ
พี่เชนแนะนำผมกับแขกฝรั่งสองคน
ผมจับมือทักทายพูดแนะนำตัวอีกนิดหน่อย คุณปูเลขาของท่านถอยออกไปยืนห่างจนเกือบจะถึงประตู
บทสนทนาภายในห้องเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดทุกถ้อยคำ
คุณแม่พี่เอย์บอกให้ผมแนะนำเรื่องการใช้โปรแกรมเกี่ยวกับโครงสร้างการออกแบบของงานวิศกรรมผสมผสานกับงานทางด้านสถาปัตยกรรม
พี่เชนมองหน้าผมนิ่งเลยทำท่าจะเดินเข้ามาแทน เจอคุณรันเดินเข้าไปหาแล้วบอกปล่อยให้พิชยทำไปคเชนทร์ช่วยมาดูตรงนี้ให้ฉันแทน
พี่เชนมองผมอีกครั้งอย่างเป็นห่วงแต่ผมพยักหน้าไปบอกพี่เขาว่าไม่เป็นไรผมจะค่อย ๆ
ทำ
ผมพาลูกค้าต่างชาติทั้งสองท่านมาดูงานที่โต๊ะผม
มีคอมพิวเตอร์สามเครื่องวางเรียงกันไว้ คอมฯสำหรับงานออกแบบนั้นสเปคจะยิ่งใหญ่กว่าชาวบ้านผมถนัดมากกว่าพี่เชนจึงมอบส่วนนี้ให้ผมดูแล
แล้วโชคดีที่สุดอีกอย่างที่ผมฝึกพูดและฟังภาษาอังกฤษมาจนคล่องแล้วถึงแม้จะยังไม่ชำนาญมากมายแต่ผมมั่นใจว่าสื่อสารได้ไม่มีผิดพลาดแน่
ๆ คุณรันหันมองมาที่ผมเป็นระยะ ขณะที่พี่เชนเองก็เช่นกัน
เวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง
คุณแม่พี่เอย์จึงเดินเข้ามาหาแล้วบอกให้คุณปูพาลูกค้าทั้งสองท่านไปที่ห้องรับรอง
พวกผมจับมือบอกลากัน
หนึ่งในมิสเตอร์ตบบ่าผมแล้วชมผมด้วยนะผมเลยโค้งคำนับให้แบบเก้าสิบองศาเลยเขายิ้มให้อย่างจริงใจแล้วหันไปบอกคุณแม่พี่เอย์ว่าผมยอดเยี่ยมมาก
“คิดว่าสัญญาก่อสร้างครั้งนี้คงไม่มีปัญหา
คนของคุณมีคุณภาพมากนะ หวังว่าทีมวิศวกรและทีมสถาปนิคจะมีคุณภาพเหมือนระบบงานที่มิสเตอร์พิชยแนะนำผมเมื่อครู่”
“แน่นอนมิสเตอร์
ทีมงานของเราการันตีคุณภาพทุกหน่วยอยู่แล้ว ผลงานที่ผ่านมาคุณสามารถใช้เป็นมาตรฐานได้”
ดวงตากลมสวยมองมาที่ผมแล้วพยักหน้าให้เบา
ๆราวกับคำขอบคุณในแบบของผู้ใหญ่ ก่อนที่เธอจะเดินออกไปพร้อมกับเลขาและแขกของท่าน
“ทำดีมาก”
พี่เชนเดินมาตบบ่าให้กำลังใจอีก น้ำตาผมรื้นขึ้นมาจนคลอหน่วย
นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ผมเริ่มฝึกฝนภาษาที่สองแล้วได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ ผมนึกขึ้นได้เลยนะถ้าวันนั้นผมไม่กระตือรือร้นที่จะหัดท่องหัดจำหัดพูด
วันนี้ผมคงจะโดนดูถูกมากเลยและไม่สามารถช่วยให้งานราบรื่น
ถึงแม้ผมจะยังเขียนบทความได้ไม่ถูกต้องตามไวยากรณ์นักแต่ผมก็กำลังฝึกฝนอยู่
ส่วนเรื่องการพูดสำเนียงผมออสซี่เหมือนพี่เชนเป๊ะ
เดี๋ยววันหลังจะไปประชันฝีปากกับสำเนียงอเมริกันของพี่เอย์ดูดิ๊ใครจะรัวกว่ากัน
คึคึ
เวลาผ่านไปเรื่อย ๆ พี่เชนกำลังยุ่งอยู่กับงานที่หน้าจอผมเองก็พักสายตาจากหน้าจอด้วยเหมือนกัน
มองต่ำลงไปที่ช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่ที่วางไว้ที่พื้นใกล้ ๆ กับโต๊ะทำงานของพี่เขา
ช่อดอกไม้ราคาแพงของใครบางคนที่ถูกพี่เชนเมินแล้วทิ้งไว้ช่อแล้วช่อเล่าสามวันมาแล้ว
เขาก็ยังจะส่งมาให้ได้แทบทุกวัน พี่เชนให้พนักงานทำความสะอาดเก็บทิ้งไปทุกวันนะ
ผมมาทำงานอ้าวเห็นช่อใหม่วางไว้อีกแล้ว วันนี้สีแดง
...ผมรู้หรอกว่าของใคร....
“เอ้อพี่เชนครับ คืนนี้ไปเที่ยวกับพวกผมป่ะ”
“เที่ยวไหนวะ”
“ยังไม่รู้เลย ไปหาเอาข้างหน้า
รัชดาแหละ”
“อาร์ซีเอดิ่”
“ไปป่ะล่ะ”
“ไปๆ” พี่เชนตอบแล้วทำเสียงเปรี้ยวปาก
ผมหัวเราะ เราไม่ได้กินเหล้ากันนานแล้วเหมือนกัน ยิ่งไปพร้อมหน้าพร้อมตายิ่งห่างหายไปนานมาก
คืนนี้ได้หวานปากแน่
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทั้งพี่เชนทั้งผมเงยหน้าขึ้นพร้อมกัน
เจ้าของช่อดอกไม้สวยคนนั้น เดินเข้ามาหา
“พิชยทำงานเหรอครับ”
“โหพี่ซ่าร์เรียกผมเต็มยศเลยนะครับ”
พี่เขาหาเก้าอี้ว่าง ๆ นั่งลง
“ยังนะ ถ้าเต็มยศจริงต้องมีคำว่า
น้องสะใภ้ใส่ไปด้วยสิ”
“เหอะๆ เดี๋ยวนี้แซวเก่งนะพี่”
ผมทำหน้าแทบไม่ถูกถ้าพี่เขาไม่ใช่ซีซ่าร์ที่ผมปลื้มนะ มีเฮ ผมคงจับอะไรสักอย่างฟาดใส่แล้ว
น้องสะใภ้พ่องดิ่ ผมกำลังหาทางเป็นน้องเขยพี่อยู่เนี่ย
“หอมจัง หอมอะไรอ่ะ” พี่ซ่าร์ถามขึ้น
ผมเห็นนะพี่เขามองดอกไม้ช่อนั้นด้วยที่กองอยู่น่ะ ตาเศร้าเชียว
“หอมดอกไม้ครับ หอมกุหลาบ”
ผมลุกขึ้นแล้วก้มลงหยิบมันขึ้นมาจากพื้น
“เมื่อกี้คุณแม่พี่เข้ามากับลูกค้า
กลัวว่าจะเห็นน่ะครับพี่เชนเลยเอาวางไว้ที่ใต้โต๊ะก่อน”
พี่ซ่ายิ้มหน้าบาน
ผมเดินเอากุหลาบไปวางไว้ที่โต๊ะพี่เชน รายนั้นเงยหน้ามองผมแบบงงเลย
“รก เอาออกไปวางไว้ที่อื่น”
“ไว้ที่ไหน ตรงนี้แหละ” ผมว่า
“แต่กูไม่ชอบกลิ่นมัน เยอะเกินกูฉุน”
พี่ซ่าเดินมาหาผมทันที
รับเอาช่อกุหลาบนั้นไปแล้วดึงออกมาแค่ดอกเดียววางขวางไว้ที่แป้นคีย์บอร์ด
ไม่สนเลยว่าพี่เชนจะทำหน้าแบบไหน ผมรีบเลี่ยงออกมานั่งลงที่ตัวเองพร้อมถือช่อดอกไม้กลับมาวาง
“แบบนี้ไม่เยอะแล้วดิ่
ดอกเดียวกูคงวางได้นะ”
“เอาออกไปวางที่อื่น
ตรงนี้กูทำงานมึงไม่เห็น”
พี่ซ่าร์ส่ายหน้าเลื่อนตูดขึ้นไปนั่งบนโต๊ะพี่เชน
“มึงก็ทำไปดิ กูแค่ลงมาหาปิงมึงอยากทำอะไรก็ทำไป”
“หยิบดอกไม้มึงออกไปจากแป้นคีย์บอร์ดกู”
เสียงพี่เชนเย็นเฉียบมาก พี่ซ่าร์ส่ายหน้าอีก ผมล่ะเสียวพี่เชนจับดอกเขวี้ยงออกมาจริง
ๆ ดอกไม้สวยนะแต่มันวางผิดที่มากไปหน่อย ผมพยายามแอบดูสุดฤทธิ์ เอากับผมดิ่
อยากรู้อยากเผือกอ่ะ
พี่เชนจ้องหน้า พี่ซ่าร์กำลังจะอ้าปากด่าอะไรสักอย่างรายนั้นรีบหยิบกุหลาบขึ้นมา
เด็ดๆๆแล้วก็เด็ดกลีบดอกร่วงเต็มโต๊ะพี่ซ่าร์ทำท่ายิ่งกว่าผู้หญิงนับ รัก-ไม่รักสลับกันไป
ผมนี่ขำพรืดเลยพี่เชนหันมองผมหน้าแดงแป๊ดปนเขียว ๆ คือทั้งอายทั้งโกรธแน่ ๆ
พี่กูเจอผู้ชายจีบโฮ้ยผมขำ
“ไอ้.......!” พี่เชนจะด่าก็ด่าไม่ออก น่าสงสารว่ะ
“อะไร” พี่ซ่าร์ทำหน้าซื่อๆ
เล่นละครเนียนมากมิน่าเป็นดาราได้
“ทำเชี่ยไรของมึง
อยากเด็ดดอกไม้ไปนั่งเด็ดห้องมึงดิวะ กูทำงานอยู่เนี่ยกวนฉิบหายเลย”
“เอ้ยอย่าๆๆๆๆ”
พี่ซ่าร์ห้ามไว้จับแขนพี่เชนไว้แน่น อิพี่ผมมันปัดกลีบดอกไม้สีแดงสดออกจากโต๊ะมัน
“มึงอย่าทำดิ่กูกำลังนับเลย
เกือบจะรู้แล้วว่ารักหรือไม่รัก เหี้ย!มึงมาปัดของกูทำไมเล่า”
“สกปรก”
“สกปรกที่ไหน
หอมออก สวยด้วยสวยเหมือนมึง”
“ไอ้เหี้ย! น่ารำคาญ ไปนับบนห้องมึงไป๊”
“ไล่ตลอดอ่ะมึง
กูไปเดี๋ยวนี้แล้วก็ได้” พี่เขาลุกขึ้นแบบโมโหปนน้อยใจ พี่เชนไม่สนใจเลย พี่ซ่าร์น่าสงสารว่ะใช้สองมือโกย
ๆ กลีบดอกไม้ทำเป็นกองภูเขาเล็ก ๆ
ผมกัดฟันต้องแกล้งทำนิ่ง
ๆ ประมาณไม่รู้เรื่องไม่ได้ยินทั้งที่โต๊ะอยู่ติดกันไม่ถึงเมตร พี่เชนถูกชมว่าสวย
กูอยากจะบ้า พี่เชนเท่สุดหล่อด้วยไม่มีหรอกคำว่าสวยอะไรนั่น พี่ซ่าร์แม่งไม่มองตัวเองเล๊ยยย
“มึงทำอะไร”
“ก็เก็บไปนับต่อบนห้องไง
นับตรงนี้มันขวางทางมึงนี่ กลัวแฟนรำคาญ”
“ประสาท”
พี่เชนว่าแล้วลุกเลย เดินไปเปิดดูเครื่องเซิร์ฟเวอร์หน้าตาเฉย พี่ซ่าร์โกยกลีบกุหลาบใส่กระดาษเอสี่แถว
ๆ นั้นกำลังจะเดินออกไป แต่ผมเรียกไว้ก่อน
“พี่ซ่าร์ครับ”
“ครับ
ปิงมีอะไร”
“คืนนี้ไปเที่ยวกันไหมพี่
ไปกับพวกผมนะ”
“เที่ยวแบบไหน”
“แฮงค์เอาท์ครับ”
“โอเคได้ เดี๋ยวพี่พาไปรู้จักที่ดีๆอยู่
ค่อนข้างส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน ปิงค่อยโทรบอกเพื่อนๆนะ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง” พี่ซ่าร์ทำไม้ทำมือชี้ไปทางพี่เชนถามแบบไม่มีเสียงว่ารายนั้นไปด้วยไหม
ผมบอกว่าไป พี่ซ่าร์ชูนิ้วโป้งให้แล้วบอกค่อยโทรนัด
“ได้ครับแล้วเจอกันพี่”
พี่เขาเดินออกไปแล้วพี่เชนหันมาจ้องผมใหญ่
“ไปชวนมันทำไม
น่ารำคาญ”
“เอ๋าพี่ซ่าร์เขาน่ารักออก
พี่เชนแหละพูดไม่เพราะเลย ใจดีกับพี่เขาหน่อยก็ไม่ได้”
“ทำไมกูต้องใจดีกับคนแบบนั้น”
“พี่อ่ะ”
“กูไม่อยากไปแล้ว”
“เฮ้ยไม่ได้
ๆ พี่สัญญากับผมแล้ว กินเหล้ากันเหอะพี่ ไม่ปาร์ตี้กันนานแล้วอ่ะเราคลายเครียดกันบาสวุฒิก็ไป”
“แฟนมึงไปด้วยป่ะ”
“ไปดิ่”
“เออดี
ไปมันทั้งพี่ทั้งน้อง มึงคอยดูเหอะกูจะได้กินไหมเหล้า แซะกูอีกสัส”
“กินสิครับกินไม่มีใครแซะหรอก
พี่เชนใจกว้างๆนะ พี่ซ่าร์เขาใจดี ดูสิส่งดอกไม้มาจีบพี่ทุกวันเนี่ย”
“ปิงมึงเงียบไปเลย
รู้ไปถึงไหนอายเขาตายห่าผู้ชายส่งดอกไม้มาจีบกูนี่อยากจะกระทืบมันให้จมดิน”
“โฮ้ยใจร้าย
พี่เชนแม่ง ถามจริงพี่ไม่รู้สึกอะไรกับพี่ซ่าร์จริงอ่อ”
“โน จะไปรู้สึกห่าอะไร จีบกูได้ตลอดศก
ทำอย่างกับกูเป็นผู้หญิง มึงดูหน้ามันกับกูก็รู้แล้วใครจะเป็นฝ่ายไหน ไม่ดูตัวเองชอบทำอะไรแปลกๆ
ถ้ากูชอบกูจีบเอง ใจกล้าหน้าด้านแบบนั้นให้ตายกูชอบไม่ลงหรอก”
“จริงดิ่”
“ก็จริงสิวะ”
ผมยิ้มเจื่อนส่งไป
มันก็จริงว่ะถ้าเป็นผมไม่ชอบนะส่งดอกไม้มาจีบแบบนี้ไม่ค่อยดี ถ้าเป็นผู้หญิงว่าไปอย่างแต่คือพวกผมเป็นผู้ชายไง
ยิ่งแมนๆเท่ ๆ แบบพี่เชนแกไม่ชอบหรอก ต่อยกันแล้วจูบยังดีกว่ามาจีบแบบผู้หญิงจ๋า
เดี๋ยวคืนนี้ผมจะลองบอกพี่ซ่าร์อีกที ผมว่าพี่เชนมีใจนะแต่ปากแข็ง
ก็ถ้าไม่มีใจจะไปจูบไปกอดพี่เขาทำไมที่ผมแอบได้ยินคืนนั้นอ่ะ
ผู้ร้ายปากแข็งจะเอาอะไรมาง้างวะ เดี๋ยวจะลองถามพี่เอย์ดู
คืนนั้น....เราทั้งหมดรวมตัวกันตอนสี่ทุ่ม
ผับหรูขนาดกลางแถวรัชดา พี่ซ่าร์นัดไว้ที่นี่บอกเป็นส่วนตัว
แพงหน่อยชาร์ตเยอะแต่ดูแลความปลอดภัยและรับประกันความสนุก
พี่ซ่าร์มารออยู่ก่อนแล้วใส่หมวกแก็ปสีดำมิดชิดแต่งตัวธรรมดาเสื้อยืดกางเกงยีนส์ แต่ออร่านี่พุ่งกระจายมาก
พี่เขาเปิดประตูรถเดินออกมาเมื่อเห็นรถพี่เอย์จอดลง พี่เชนตามมาจอดข้างกันแบบติดๆ
ขณะที่วุฒิกับบาสขับมอไซด์มารออยู่ก่อนแล้วมันเดินเข้ามาหา
“เข้าไปกันเลยกูจองไว้แล้ว”
พี่ซ่าร์บอกแล้วพวกเราเดินตาม ๆ กันเข้าไปหนุ่มโฉดโสดชั่วคราว ชุดดำยกแก๊งหกคน สาวๆที่ยืนออกันอยู่ด้านนอกนี่มองกันเป็นตาเดียว
พี่ซ่าร์ขยับเข้าไปยืนใกล้ ๆ พี่เชนกับพี่เอย์สองคนนั้นตัวสูงบังไว้ได้หมด ขณะที่บาสวุฒิและผมเดินรั้งท้าย
“หมาปิง
มานี่ดิ่” พี่เอย์มันหยุดแล้วหันมารอยื่นมือออกมาอีกต่างหาก คว้าหมับมือผมไว้เลย ไอ้บาสขยับมาบัง
ๆ ไว้ให้รู้งานแบบนี้มิน่าพี่เอย์ชอบซื้อขนมดี ๆ มาฝากมัน
ที่นั่งเป็นโซฟานุ่มมุมเฉียงของร้านชั้นลอยเตี้ย
ๆ พี่เอย์นั่งลงก่อนผมนั่งข้างถัดมาเป็นพี่เชนหมาบาสและไอ้วุฒิ
ส่วนพี่ซ่าร์เดินมาถึงท้ายสุดแวะคุยกับเจ้าของร้านเห็นว่ารู้จักกันเพื่อนของเพื่อนพี่เขามั้ง
ก่อนเดินไปหาไอ้บาสแล้วบอกขยับไปหน่อย สรุปตอนนี้พี่ซ่าร์พี่เชนนั่งข้างกัน
ตำแหน่งคือ พี่เอย์ ผม พี่เชน พี่ซ่าร์ บาสและวุฒิ
เรียงกันแบบโค้ง ๆ ด้านหน้ามีโต๊ะเล็กวางอาหารเครื่องดื่ม สาว ๆ
สองคนเข้ามาชงเหล้า พี่ซ่าร์ก้ม ๆ ใหญ่
เลยคงกลัวจำได้ไฟยังไม่ค่อยมืดมากเสียงเพลงสนุกสนานเป็นจังหวะเร็ว
เราทั้งหมดหมดดื่มกินพร้อมฟังเพลงไปเรื่อยๆ
เวลามากินเหล้าพี่เอย์จะไม่ค่อยพูดนะมันจะนั่งฟังเพลงแล้วก็ค่อย
ๆ ดื่มของมันไป ผมเองก็จิบ ๆไปนิดหน่อยไม่อยากกินเยอะ พี่เชนนี่คอแข็งกินเยอะเหมือนกันแต่เมายาก
พี่ซ่าร์เหรอดื่มดิ่เยอะนะแต่คิดว่าพี่เขาชิลแหละคอคงแข็งพอๆกับพี่เชน ส่วนไอ้วุฒิไอ้บาสเติมให้พี่ ๆ เขาตลอดไม่มีขาดสาว
ๆ มือชงหายไปไหนไม่รู้ ดึกแล้วเพลงเปลี่ยนจังหวะเป็นช้าๆ
ไอ้วุฒิคว้าบุหรี่ขึ้นมาจุดพ่นควันสบายใจ หน้าที่เติมเหล้าเลยเป็นของหมาบาสคนเดียว
“คะวะอี้
เดสเน๊”
???
จู่ ๆ
พี่ซ่าร์พูดอะไรบางอย่างขึ้น ผมที่นั่งติดกับพี่เชนได้ยินชัดเต็มสองหู พี่เขาถือแก้วเหล้าไว้หันมามองพี่เชนตานี่เยิ้มเลย
คือใครๆก็ดูรู้ว่าคำนี้พูดกับพี่เชนแน่ ๆ
“มึงพูดอะไร”
พี่เชนถามหน้าเหรอหรา คืองงแดกพูดง่าย ๆ จู่ ๆ หันมาพูดอะไรก็ไม่รู้ ทำท่าทางแปลก
ๆ เป็นใครก็ตกใจนะ
“คะวะอี้
เดสเน๊” พี่ซ่าร์ยังพูดคำเดิมอีก คราวนี้พี่เชนคิ้วขมวดเลยเว้ยหันมองผมกับไอ้บาส พวกผมรีบหลบตาทำเป็นมองโน่นนี่ไปผมมองที่เพดานเออว่ะเพิ่งสังเกตหลอดไฟในผับมันเป็นรูปร่างแบบนี้เหรอวะ
ส่วนพี่เอย์กับไอ้วุฒิไม่ต้องพูดถึงนะ
นั่งเงียบไม่สนใจอะไรฟังเพลงจิบเหล้าเงียบ ๆ มีแต่มืออิพี่เอย์มันแหละกอดเอวผมไว้ตลอด
“ไอ้เหี้ย” เสียงพี่เชนดังขึ้น
พี่เขามองหน้าพี่ซ่าร์ท่าทางไม่วางใจ คนพูดภาษาแปลกๆก็ยิ้มนะดูมีเลศนัยยังไงไม่รู้
สมแล้วกับที่พี่เชนหวาดระแวง
“คะวะอี้
เดสเน อยากรู้เหรอแปลว่าอะไร”
พี่ซ่าร์แม่งกวนตีนสุดไรสุดหน้าตาแบบเสือดาวอ่อยเหยื่อมาก
“เชี่ย
กูไม่อยากรู้แล้วมึงอย่าพูดนะ”พี่เชนขยับ ๆ เข้ามาหาผมอีก
คงเจอพี่ซ่าเบียดเข้ามาจากอีกฝั่งแน่ ๆ
“คะวะอี้
เดสเน แปลว่า มึงน่ารักจัง”
เคร้ง!! เสียงที่คีบน้ำแข็งไอ้บาสมันทำตกลงที่โต๊ะ
ผมส่งสายตาให้มันประมาณว่าอย่ากระโตกกระตากจะแอบฟังต้องเนียน
“ไอ้เหี้ยหุบปากไปเลย
ไม่อยากได้ยินจากปากมึงหรอก”
“ใจร้ายว่ะ”
พี่ซ่าร์บ่นอุบอิบ “ชมก็ไม่ได้ ไม่ขอบคุณยังโดนด่าอีกเฮ้อ ซีซ่าร์เซ็ง”
พี่เขาทำท่าเอามือก่ายหน้าผากพิงซบไหล่พี่เชนไว้
นี่ผมกำลังนึกในใจนะไอ้พี่น้องสองคนนี้มันขี้อ้อนมากจริงๆ
แปลกเป็นบ้าเลยพี่เอย์นี่เผลอไม่ได้เอาหัวเข้ามาซบไหล่ผมได้ตลอดผมต้องเด้ง ๆ
ไหล่ให้รู้ว่ามากไปมากไป พี่เอย์อมยิ้มจิบเหล้าแก้เขินแล้วนั่งตรงๆใหม่
แต่พี่เชนไม่ใช่นะรายนั้นเจอพี่ซ่าร์ซบไหล่ใช่ไหมมันผลักหัวเงิบเลยดิ่
ได้ยินแต่เสียงพี่ซ่าร์หัวเราะชอบใจคงสนุกแหละแกล้งพี่เชนได้
นั่งกันไปสักพักพี่เชนเฉยเว้ยพี่ซ่าร์ซบไหล่นานแล้วด้วย
"ขอยืมไหล่หน่อยนะ กูเหนื่อยนี่"
พี่เชนเงียบเว้ยไม่ตอบอะไรแต่ก็ไม่ผลักออกเหมือนทุกครั้ง
ผมแกล้งทำเป็นไม่เห็น
“เฮ้ยพวกพี่ผมนึกอะไรดีๆออก
ฟังๆๆๆทางนี้พี่ ทางนี้” ไอ้บาสหน้าตาท่าทางตื่นเต้นมันดีดนิ้วเหมือนนึกเรื่องอะไรขึ้นมาได้
ไถลก้นมานั่งลงที่พื้นต่อหน้าพวกเราทั้งหมด
“เอางี้นะในฐานะที่พวกผมเป็นน้องแล้วพวกพี่เป็นพี่”
ทุกคนมองไปที่มัน ผมมั่นใจว่าทุกคนกำลังคิดเหมือนกันคือ ไอ้บาสมันเมาก่อนเพื่อนแล้วแน่
ๆ
“เรามาเล่นกัน
ผมจะถามพวกพี่คนละหนึ่งคำถาม เป็นคำถามเดียวกันทั้งหมด
ถ้าใครตอบผ่านแล้วอยากถามอะไรใครต่ออีกก็เชิญ แต่แค่คำถามเดียวนะ
คำถามเดียวเท่านั้น!
สำคัญที่สุดคือคนถูกถามต้องตอบ ถ้าไม่ตอบเหมาจ่ายหมดคืนนี้แล้วเจอพวกผมสามคนบอยคอตใช่ไหมวะปิง”
ผมหูผึ่งพอพูดถึงเรื่องจ่ายตังค์
โฮรรรร กูอยากร้องไห้หมาบาสแม่งเล่นเชี่ยไรไม่มีการเตรี๊ยมกับกูล่วงหน้าเลยสัส
“ว่าไงวะปิง
มึงโอเคใช่ไหม”
“เออๆ”
“โอเคนะ
ใครไม่โอยกมือด้วยครับ”
พวกพี่ๆทุกคนนิ่ง
พี่เอย์มองแล้วก็เฉย พี่เชนพี่ซ่าร์ไม่มีใครว่าอะไรคงคิดว่าไอ้บาสมันไร้สาระ
ผมเองก็รอฟังมันต่อ”
“เอาล่ะ คำถามแรกผมจะถามคนที่หล่อที่สุดในกลุ่มพวกเรา
แต่นแต๊น พี่ซ่าร์”
ครืดดดดดดดดดดดด
เสียงพี่เอย์ใช้เท้ายันโต๊ะที่วางเครื่องดื่มกระแทกใส่หลังมัน
ไอ้บาสหันมอง หน้าตาเหรอหรา
“ถามกูนี่
กูคนแรก”
ไอ้บาสหันซ้ายหันขวารีบประเคนน้ำสีอำพันส่งให้มันอย่างดงาม
คล้ายถวายเครื่องราช แล้วกระซิบบอกขอถามพี่ซ่าร์ก่อนให้เกียรติพี่เขาเป็นดารา
เรื่องหล่อพี่เอย์หล่อกว่าอยู่แล้ว แต่อยากคุยกับไอดอลก่อนแค่นั้นแหละ”
อิพี่เอย์พยักหน้าหงึก ๆ เข้าใจ ผมขำพรืดตลกว่ะเชื่อไอ้บาสต้องไปกินหญ้านะ โดนตบหัวมาอีกมันน่ะชอบรู้ทันผมชกมันไปเบา
ๆ ก่อนหันไปสนใจคำถามจากปากหมาบาส
“พี่ซ่าร์
พี่เคยมีแฟนมากี่คนแล้ว” พี่ซ่าร์ผงะไปนิด ๆ คงงงว่าจู่ ๆ บาสถามอะไรขึ้นมา
“ทะ...ทำไม”
“เอาน่า พี่ต้องตอบนะครับ เรากำลังเล่นกันไง”
"อ้าวเหรอ"
"ใช่ๆ"
“งั้น เดี๋ยวกูนับก่อน”
“โฮ้ยต้องนับด้วย?”
“นับดิ่
รอแปป คณิตคิดเร็ว” ไอ้บาสแม่งทำเสียงติ๊กต๊อกๆๆรอ
“ต้องนับผู้ชายด้วยป่ะ”
พี่ซ่าร์ถามอีก
“ห๊า!” ผมไอ้วุฒิไอ้บาสร้องทักเป็นเสียงเดียว
ตกใจนิด ๆ เออแล้วผมตกใจทำไมก็รู้อยู่แล้วพี่เขาจีบพี่เชน แต่ไอ้บาสท่าจะตกใจมาก
พี่เชนแกนิ่ง นั่งกินเหล้าฟังเพลงเบา ๆ ไปราวกับไม่ได้ยินเรื่องอะไรทั้งนั้น
“อ่ะจ๊ะๆๆ
เด็กๆเข้านอนแต่หัวค่ำ กูล้อเล่นพวกมึงนี่ก็”
“พี่ซ่าร์พี่แม่งร้ายว่ะ ตกลงกี่คนอ่ะพี่”
“ยี่สิบขึ้น
วู๊ว!กูนับไม่หมดลืมแล้ว เยอะเกิน”
“ร้ายกาจจริงด้วย”
“เออแต่กูตอบจริงนะ
ไม่ปิดเว้ย ชายแท้ยอดชายต้องได้ทั้งชายทั้งหญิง คึคึ”
“แหวะ
ผมอยากให้แฟนคลับพี่มาฟังว่ะ ลูกพี่ปิงว่าไง”
ไอ้บาสเอื้อมมือมาดึงแขนผมให้ลงไปนั่งที่พื้นด้วยกัน ผมก็ยอมนะไถลตูดลงมานั่งอยู่ข้าง
ๆ มัน พี่เอย์มอง ๆ แต่ไม่ได้ว่าอะไร ผมหยิบแก้วใครไม่รู้ซดน้ำเปล่าแก้ฝาดปาก
“กูตอบแล้วต่อไปตากูถามใครก็ได้ใช่ป่ะ”
“อ่ะครับ ใช่
ๆ แค่คำถามเดียวนะ แล้วคนถูกถามต้องตอบด้วยไม่งั้นมีอันทุกคนเลิกคบ ฮิ้วววว”
ผมกับหมาบาสประสานเสียงผมหยิบถั่วลิสงคั่วอบเนยมาใส่ปาก รอฟังคำถามจากพี่ซ่าร์
“กูจะถามคเชนทร์”
“ถามว่า...”
ไอ้บาสเป็นลูกคู่ให้
พี่ซ่าร์จ้องหน้าพี่เชนแบบจริงจังมาก ผมกลั้นหัวเราะพอๆกับไอ้หมาบาส
เราสองคนตีคิ้วกันอย่างรู้ทัน
“ผู้ชายที่มึงอยากขึ้นเตียงด้วยมากที่สุด
คือใคร?”
ทุกคนสตั๊นไปหมดกับคำถามตรงแบบอุบาทเกรียนโคตรของพี่ซ่าร์
โดยเฉพาะคนถูกถามหน้านี่ขนาดอยู่ในที่มืดๆยังแดงเห่อขึ้นได้ ไม่รู้โกรธหรืออาย
“.......” พี่เชนไม่ตอบเว้ย
เงียบไปนานมากยกแก้วจิบแล้วจิบอีก
“พี่เชนอย่าโกงพี่ ตอบมาดิ่”
ไอ้บาสมึงช่างกล้า พี่เชนมองผมตาแป๋วเลย ผมก็จ้องพี่เขานะ รอฟังคำตอบ
“ผมนับหนึ่งถึงสาม
พี่ไม่ตอบพวกผมเมินพี่หมดนี่อ่ะ ถือว่าไม่แฟร์” ไอ้บาสมึงจริงจังมากไปป่ะวะ
มันเริ่มนับแล้วด้วย
สาม
สอง
หนึ่ง
“กูขึ้นได้กับทุกคนยกเว้นมึงคนเดียว”
เอื๊อกกกก ผมทำเสียงเอฟเฟคประกอบพี่ซ่าโดนแทงไส้ทะลัก
กำลังจะกระอักเลือดตาย พี่เอย์หัวเราะจนตัวงอเจอพี่ซ่าร์หันขวับไปตวัดสายตาใส่ พี่เชนนั่งขำหึหึ
คุณต้องไม่ลืมนะว่าตอนนี้ผมที่นั่งคั่นกลางระหว่างพี่เอย์กับพี่เชนลงมานั่งข้างล่างแล้วเพราะงั้นตอนนี้พี่สองคนเลยนั่งติดกันแบบอัตโนมัติ
“โอ๊ยกูขำ”
พี่เอย์ยังขำไม่หยุดมันเป็นพวกเส้นตื้นอยู่แล้วพี่ซ่าร์นี่หน้าเขียวปากยู่เลยดิ่
“สมน้ำหน้ามึงว่ะซ่าร์ กูขำมากสมน้ำหน้ามึ้ง”
พี่เอย์เอ้ยยย ขำเหี้ยไรวะสงสัยสะใจคำตอบ
“ไม่เอาดิ่วะพี่ตอบแบบนี้ไม่ได้ครับ
ต้องตอบระบุตัว เดี๋ยวนะเอางี้ง่าย ๆ ในบรรดาพวกเราห้าคนเนี่ย
คนที่พี่อยากขึ้นเตียงด้วยมากสุดคือ.....”
เอาแล้วไม่รู้อะไรดลใจหมาบาสถามอะไรแผลง
ๆ
“จำเป็นต้องตอบเหรอวะ”
“จำเป็นๆมึงรีบตอบมา”
พี่ซ่าร์เสริมเข้าไปเขย่าขาพี่เชนใหญ่เลย
พี่เชนเงียบไปนิดมันจ้องผมนิ่ง
ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ อย่านะเว้ยพี่ ผมคิดในใจอย่าหางานงอกให้ผมเชียวนะ
“ปิงไง
กูนอนกับมันบ่อยออก”
“อ้าวไอ้เหี้ย! พูดแบบนี้เดี๋ยวมึงเจอ” พี่เอย์กระโดดคร่อมพี่เชนไว้เลย
ผมรีบลุกเข้าไปดึงไว้ พี่ซ่าร์เองก็หน้าตาตื่น พี่เอย์แม่งร้ายมากมันดึงคอเสื้อพี่เชนแบบแน่นมากตัวมันขึ้นคร่อมพี่เขาจริงนะ
ท่าทางเอาจริงด้วย
“ล้อเล่น! ไอ้เหี้ย
กูล้อเล่นหรอก” พี่เชนผลักมันออก พี่เอย์กลับมานั่งหน้างอ ผมตบๆต้นขามันไว้บอกให้ใจเย็น
ๆ
“มันแม่ง
พูดจา”
“ไม่มีไรหรอกพี่
พี่เชนล้อเล่นครับ”
“กูรู้เหอะ”
มันยังยู่หน้างอแง ผมตบๆขามันอีกยื่นเหล้าส่งให้
“อ่ะๆ เปลี่ยนคนๆ
คราวนี้ผมถามพี่เชนบ้าง”
ไอ้บาสเห็นท่าไม่ดี
มันจัดการเปลี่ยนคำถาม พวกผมก็รอฟังต่อ พี่เอย์จับหมอนมาคั่นกลางไว้ระหว่างตัวมันกับพี่เชน
แล้วทำท่ารังเกียจโกรธแล้วอะไรแบบนั้น พี่เชนแอบขำมันนะผมเห็น
“พี่เชน แล้วพี่อ่ะ
เคยมีแฟนมากี่คน?”
“กูต้องตอบ?”
“เอ๋า
ต้องตอบดิ่พี่”
“อ่า.....งั้นนับก่อน”
“อะไรพี่ก็ต้องนับอ่อ?”
“ต้องนับดิ่วะ
ใครจะไปจำได้แม่งกูจบมาตั้งนานแล้วเหี้ย” พี่เชนทำหน้าทำตานึก
อิพี่ซ่าร์จ้องมันใหญ่
“นับรวมผู้ชายด้วยนะพี่”
“ไอ้เหี้ย! แฟนกูมีแต่ผู้หญิงจะนับรวมผู้ชายทำไม ไปตายซะ!”
“แต่กูเป็นผู้ชายคนล่าสุดของมึงนะ
มึงต้องนับด้วยดิ่ คเชนทร์”
พี่ซ่าร์เสริมเจอพี่เชนหันขวับไปมองตาถลึง
รายนั้นยกมือบอกยอมๆพี่เชนเลยหันมาหาไอ้บาสกับผมต่อ
“สิบสองคนประมาณนี้....อืม...สิบเอ็ดๆ”
“เฮ้ยอะไรกันแน่สิบเอ็ดหรือสิบสองพี่เอาดีๆ”
“สิบเอ็ด
สิบเอ็ด”
“โหเยอะเหมือนกันนะ
จริงจังป่ะวะพี่”
“จริงจังอยู่สองคน
แล้วสองคนนั้นก็โดนหมาตัวเดียวกันคาบไปแดกทั้งคู่”
“จริงดิ่”
“เออจริง”
“โหจัดมันสักดอกสิ
กวนตีนแบบนั้นเป็นผมไม่เอาไว้เหอะ ชาตินี้ให้ตายไม่มีวันญาติดีด้วย
มันจะต้องเป็นศัตรูคู่แค้นของผมตลอดไป” ผมรีบกระตุกเสื้อไอ้บาสไว้มันหันมาถามอะไร
ๆ
“หึหึ” พี่เชนยิ้มเย้ยไปหาพี่ซ่าร์
เจอพี่ซ่าร์ยกแก้วเทพรวดยัดเข้าปากพี่เขา
พี่เชนสำลักเกือบตายพี่ซ่าร์ตบๆหลังให้ดีนะเป็นน้ำมะนาว
พี่เอย์ขำได้อีก
หัวเราะพี่เชนอีกแล้ว สองคนตาเขียวใส่กัน
“เล่นเหี้ยไรของมึง
อ่ะ..แค่กๆๆๆ” พี่เชนทั้งโวยทั้งไอ
“อ่ะๆต่อๆ
พี่เชนถามใครก็ได้พี่ หนึ่งคำถาม”
ไอ้บาสยังคงทำหน้าที่ของมัน
พี่เชนกวาดสายตามองพวกเราทั้งหมดหนึ่งรอบก่อนหยุดอยู่ที่พี่เอย์เป็นคนสุดท้าย
“เอตั้น
มึงจริงจังกับปิงไหม?”
ผมมองหน้าพี่เชนทันที
คือไม่คิดว่าพี่เขาจะพูดคำถามนี้ออกมา พี่เอย์มองพี่เชนตาเขียวปั๊ดเลย มันหยิบเอามือถือที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมากดๆๆยุกยิกพักนึงชูหน้าจอใหญ่
ๆ ให้พี่เชนดู สายตานี่กวนแบบสุด
‘จริงจัง ทำไม?’
พี่เชนยกแก้วขึ้นจิบ
“มึงไม่สิทธิ์ถามกู ตอนนี้กูถามมึงได้ฝ่ายเดียว”
พี่เอย์กัดฟันกรอดเลย
ผมเห็นพี่ซ่าร์ยกแก้วขึ้นซดที่เดียวหมดรวดไอ้วุฒิเป็นคนเติมให้
“แล้วมึงใช้มือถือตอบทำไม
ทำไมไม่ตอบกูดี ๆ”
“กูไม่อยากพูดกับมึงไง”
“อ้าว นี่ไม่เรียกว่าพูด?”
“จิ๊! ยุ่ง” เสียงพี่เอย์ฮึดฮัดขัดใจก่อนยกอีกแก้วขึ้นจิบ
“อ่ะๆๆต่อ ๆ มาต่อที่พี่เอย์เลยครับ สารภาพมาให้หมด พี่อ่ะมีแฟนมากี่คนแล้ว
ตอบให้ดีนะครับ คนรอฟังเยอะ”
“เดี๋ยวนะ กูนับก่อน”
“โฮ้ย
ต้องนับอีกแล้วไรวะเนี่ย มันเยอะขนาดต้องยกนิ้วเลยอ่อ”
พี่เอย์มันไม่นับธรรมดานะมันยกมือขึ้นมานับด้วย
สองมือเลย ผมอมยิ้ม เฉย ๆ นะเรื่องอดีตไม่ค่อยสนใจหรอกฟังไปเล่น ๆ สนุก ๆ
“เอามือผมอีกไหมพี่”
ผมแซวมัน พี่เอย์ยื่นมือออกมาผลักหัวผม
“เอออะไรจะเยอะขนาดนั้นวะ
เยอะกว่ากูแหงเลย” พี่ซ่าร์บ่นออกมาอีก กระดกเหล้าเข้าปาก
“สิบสี่อ่ะ
ถ้ารวมคนที่มึงอยู่ด้วยวันนั้น ที่กูพาไปช้อปปิ้งแล้วบอกเลิกอ่ะ คนที่สิบสาม”
“ใช่ย่อยนะเนี่ย
เจ๋งว่ะ” เสียงไอ้บาส
“รวมผู้ชายด้วยป่ะ”
ผมหลอกถามมัน
“ถ้านับคนสุดท้ายก็มีผู้ชายคนเดียว
มึงไง คนที่สิบสี่ปิดบัญชีกูพอดี”
“วู๊วววๆๆๆๆ คำตอบเป็นที่น่าพอใจโว๊ยพี่ปิงหุบยิ้มพี่หุบๆ เอาล่ะพี่เอย์ตาพี่ถามอะไรใครก็ได้มาหนึ่งคำถามครับ”
หมาบาสเป่าปากรู้งานดีมาก ตอนนี้ผมเขินสุด
ปิดบัญชีอะไรวะใช้คำนี้หมายความว่าพี่เอย์จะมีผมเป็นคนสุดท้ายงั้นดิ่ ฟินไป
“อ่ะครับตาพี่เอย์ถามได้หนึ่งข้อ
เชิญเลยพี่”
“กูจะถามซีซ่าร์”
“ว่าไงครับน้องชาย”เสียงพี่ซ่าร์กวนตีนสุด
เมาแล้วมั้งนะ
“มึงมานั่งทำเห้ไรที่นี่”
เราทุกคนหันขวับมองที่พี่ซ่าร์
จะว่าไปมันก็จริงพี่ซ่าร์เป็นดารานายแบบที่ดังมาก
พี่เอย์เคยบอกว่าชวนเที่ยวนี่ยากมากกว่าจะออกมาได้
คราวนั้นถ้าคุณจำได้พี่เขาถึงขนาดปลอมตัวเพื่อไปเที่ยวร้านไม้แดงกับพวกผม
แต่วันนี้ใส่แค่หมวกแก็ปปิดหน้าลงมาต่ำๆแค่นั้น ดูข้าง ๆ ยังหล่อเลยเหอะ
“อะไรวะเรื่องแค่นี้ต้องถาม”
“พี่ซ่าร์ครับตอบพี่
พี่เอย์มีสิทธิ์ถาม”
พี่เขาขยับตัวนั่งดี
ๆ หันไปหาพี่เชน สองคนมองหน้ากันนะผมว่า ก่อนพี่ซ่าร์จะตอบเสียงดัง ฟังชัด แจ่มสุด
“มาจีบคเชนทร์ไง”
จบครับพี่ผม
พี่ซ่าร์ตอบแล้วกระโดดขึ้นนั่งตักมันเลย พี่เชนหน้าหรา “ไอ้เหี้ย!เล่นไรของมึงเนี่ย”
“อยากนั่งนี่”
น้ำเสียงอ้อนตีนพี่เชนเหลือหลาย เมามากแล้วแน่ ๆ หรือแกล้งวะผมก็ดูไม่ออก
นักแสดงด้วยเหอะพี่เชนไม่ทันพี่ซ่าร์หรอกว่ะ
ผมหันไปมองอีกทางพี่เอย์ไม่สนใจพี่มันเลยนะ สงสัยชิน
“ลงไปจากตักกูได้แล้วตัวมึงหนักอย่างกับหมู”
พี่เชนจับเอวพี่ซ่าร์ออกจากตัก ขยับเข้ามาชิดพี่เอย์อีกนิด
“ใจร้าย” เสียงพี่ซ่าร์
“ปิงมึงขึ้นมานั่งข้างบนมาข้างกูนี่”
พี่เชนเรียกผม
“ไม่เอากูจะนั่งข้างมึงคนเดียว”พี่ซ่าร์โวยขึ้น
ส่ายหน้าแล้วซบลงที่ไหล่
“บ้าเอ๊ย มึงเมาเหรอเนี่ย”
“เปล่า”
“งั้นนั่งเฉย
ๆ ถ้ามึงเลื้อยใส่กูอีกกูเปลี่ยนที่จริงนะ”
พี่ซ่าร์เบะปากเงียบไปเลยตั้งแต่ตอนนั้น
ไอ้บาสดีดนิ้วใหม่อีกครั้ง
“เอาล่ะๆสุดท้าย
ๆ ผมจะถามลูกพี่สุดที่รักของผม พี่ปิง” มันเอามือเข้ามากอดคอผม
ไอ้วุฒิมองมาที่พวกเรามันนั่งจิบเหล้าท่าทางมีความสุขมากมือข้างนึงคีบบุหรี่ไว้ด้วยนะ
“ลูกพี่บอกมา
ลูกพี่มีแฟนมากี่คนแล้ว” ไอ้บาสยกแก้วเหล้าส่งให้ผมรับมากระดกรวดเดียวจบ
“คนเดียว” ผมตอบ
“วู๊ววๆๆลูกพี่ผมรักเดียวรักเดียวใจเดียวเว่ยเฮ้ย” ผมแอบเห็นนะพี่เอย์นั่งยิ้มเลยดิ่
มันก้มหน้ากัดปากนิ่งท่าทางน่ารักมากถ้าไอ้บาสตัวดีมันจะไม่เสือกพูดประโยคต่อไปออกมา
“พี่เอย์ครับผมบอกให้รู้นะ
ผู้หญิงคนนั้นสวยด้วย พี่ปิงตามจีบตั้งแต่อยู่ปวช.ปีหนึ่งโน่นแน่ะ
พอได้เขาแล้วก็คบกันดิ่ โอ๊ยยยยยยย!”
ผมเบิร์ดกะโหลกมันไปทีโทษฐานพูดมากไม่ดูหน้าพี่เอย์เล๊ย จากยิ้ม ๆ ในตอนแรก
มันหุบลงเลยทันทีที่หมาบาสพูดว่า เป็นผู้หญิง
“ไอ้เหี้ยบาสกูหมายถึงพี่เอย์
มึงพูดเหี้ยไร” ผมดุมัน
“อ้าวผมก็นึกว่าพี่พูดถึงบุ๋ม”
ยังจะพูดต่ออีก ไอ้หมามึงนะมึง งานกูเข้าอีกแล้ว
พี่เอย์นิ่งไปเลยมันยกแก้วเหล้าซดสองแก้วติดๆ
ไอ้วุฒิเห็นท่าไม่ดีพยักหน้าเรียกบาสให้ขึ้นไปนั่งที่
ผมเองก็ลุกขึ้นไปนั่งที่เดิมด้วย พี่เชนขยับให้ผมนิดๆ
พี่ซ่าร์นี่ซบไหล่พี่เชนแล้วนะ อิพี่เอย์นั่งหน้ามุ่ยกินของมันไปผมเลยเอามือไปจับมือมันไว้
ผมรู้ดิ่ถ้าตอบว่าคบมาหลาย ๆ คนมันคงไม่คิดอะไร แต่นี่ผมตอบว่ามีแค่คนเดียว
ไอ้บาสก็เสือกพูดอีกว่าผมรักเดียวใจเดียว จริง ๆ คือผมมีหลายคนนะแต่ที่ผมคบจริงจังและยอมใช้คำว่าแฟนเท่าที่เพื่อน
ๆ รู้ก็จะมีแค่บุ๋ม คนนั้นแหละผู้หญิงคนที่ครั้งล่าสุดเรากำลังจะมีอะไรกันแล้วพี่เอย์โทรมาตามว่ามันเมามากให้ไปรับ
ผมเลยต้องทิ้งเธอออกมา ไม่รู้คุณจำได้ไหมนะนานมากแล้ว
“เดี๋ยวๆๆยังเลิกเล่นไม่ได้นะกูยังไม่ได้ถามเลย”
ผมยังไม่ยอมจบ อยากถามบ้างไรบ้าง
“เออกูก็ยังไม่ได้ถามเลย”
ไอ้วุฒิเองก็แทรก
“มึงไม่เกี่ยววุฒิ
พวกเราเหมือนคนๆเดียวกันกูเป็นพิธีกรเพราะงั้นมึงก็อยู่เฉยๆด้วย”
“ตกลงเหลือกูถามคนเดียวใช่ป่ะ
ถามใครก็ได้นะ”
“โอเคพี่ปิง
หนึ่งคำถาม”
“กูจะถามพี่เชน”
อิพี่เอย์หันขวับเลย ผมรีบจับมือมันไว้ หันไปขยิบตาให้
“ถามว่า....”
“พี่เชนครับ
พี่ว่าพี่ซ่าร์หล่อป่ะ?”
เอากับผมดิ๊
พี่เชนมันไม่มีวันตอบตรง ๆ
หรอกไอ้ประเภทขี้เหร่มากหรือหล่อสะเด็ดไม่มีหลุดจากปากพี่ผมหรอก
รอฟังคำตอบดูละกัน
“ไอ้ปิง
มึงแม่ง” พี่เชนหันมาตบหัวผมเจอพี่เอย์เอาหมอนฟาดหน้าไปพี่เชนหลบเกือบไม่ทันสองคนจะกัดกันอีกคนกลางอย่างผมได้แต่ห้ามทัพ
“หยุดๆๆๆๆ
พอๆ พี่เชนตอบผมมาพี่” ผมยัดหมอนให้พี่เอย์มันกอดไปก่อน มือจะได้ไม่ว่างกวนพี่เชน
“เร็วครับเร็ว
พี่มัวแต่เล่นกับพี่เอย์อยู่นั่นแหละ ลูกพี่ปิงเขามีสิทธิ์ถาม
พี่มีหน้าที่ตอบก็ตอบมาครับ เป็นผู้ใหญ่แล้วอย่าโกงเด็กๆนะ”
“ไอ้เหี้ยบาสเงียบเลย
กูจะตอบเนี่ย”
พวกผมตั้งใจรอฟัง
พี่ซ่าร์นั่งอมยิ้มมองหน้าผม คือทุกคนลุ้นกันมากว่าพี่เชนจะตอบอะไร
คำว่าหล่อขอบอกว่าน้อยไปนะสำหรับพี่ซ่าร์ ดูดีและหล่อมากนี่ใช่เลย
พี่เชนหันไปหาพี่ซ่าร์
จ้องหน้าแบบ...คือเป็นใครก็ต้องอายอ่ะ พี่ซ่าร์เองก็มอง สองคนจ้องตากันเหรอวะ ให้ตาย นานมากผมหยิกมือตัวเองอยากจะลงไปชักดิ้นชักงอฉิบหายแต่ติดที่ยังไม่อยากโดนกระทืบ
“ดูใกล้ ๆ
มึงขี้เหร่ฉิบหายเลย”
วิ๊ววววววววววว
เสียงผมกับไอ้บาสสองคนเป่าปากขึ้นมาพร้อมกัน พี่เชนตอบเหี้ยไรวะ
พี่ซ่าร์ยิ้มแก้มแทบแตกชกต้นแขนพี่ผมใหญ่ พี่เชนส่ายหัวไม่สนใจอีก
"มึงแม่ง
มึงเป็นคนแรกเลยนะที่พูดว่ากูขี้เหร่"
ฟังดูเหมือนประโยคต่อว่านะแต่พี่ซ่าร์พูดราวกับว่าภูมิใจมากที่ได้ยินประโยคนี้
"กูพูดจริง" เสียงพี่เชนตอบไป
ผมแอบยิ้มกับท่าทางของสองคน
พวกเรานั่งดื่มกันไปเรื่อย
ๆ ช่วงดึก ดนตรีเปลี่ยนจังหวะกลับมาคึกคักอีกครั้งอินโทรเพลงโปรดสุดมันส์ของไอ้บาสดังขึ้น
ไอ้บาสลุกทันทีดึงมือผมแล้วชวนลุกกันออกไปที่ด้านล่าง
พวกผมอยู่ชั้นลอยจุดแรกเพราะงั้นถ้าจะลงไปต้องเดินผ่านบันไดซึ่งคนเยอะมาก
“ไปเหอะลูกพี่
เราไม่ได้เที่ยวแบบนี้กันนานแล้ว ดิ้นๆๆ ออกกำลังกันหน่อย” ไอ้วุฒิลุกมารอด้วยอีกคน
ผมตัดสินใจลุก
เพื่อนผมทั้งนั้นเพราะฉะนั้นไม่ว่ายังไงผมเป็นตัวของตัวเองเพื่อนเฮไหนผมเฮนั่นถึงผมมีแฟนผมก็ไม่เปลี่ยนไปจากเพื่อน
ๆ นะพยายามหาเวลาให้พวกมันเสมอ เราสามคนลงมากันที่ชั้นล่างผมก็โยกๆไปตามจังหวะเพลงโยกไปมาไหงไหลมาอยู่ตรงกลางได้วะเนี่ย
งงตัวเองไอ้บาสยังอยู่ใกล้ ๆ หมาวุฒิเจอผู้หญิงกลุ่มหนึ่งกักตัวไว้แล้วผมกับไอ้บาสเองก็กำลังจะโดน
“หวัดดี
โบว์ค่ะ ตัวเองเรียนที่ไหนเหรอ” เธอเต้นเข้ามาใกล้ ๆ แล้วถาม
ผมก็เออยิ้มไปตามมารยาท แต่เธอนมใหญ่ดีว่ะผมชอบ
แรงส์ใช้ได้ทาปาสีดำๆเปรี้ยวสุดตัวขาว ๆ เล็บสีดำสั้น ๆ เหมือนคนญี่ปุ่น
“หวัดดีครับปิงครับ
ผมทำงานแล้วนะ”
“อ้าวจริงดิ่”
“จริ๊ง”
ผมสีเธอนิด ๆ เอาวะเมาด้วยแหละ จุดนี้คนมั่วมากต่อให้อิพี่เอย์ใส่แว่นสี่ตามันก็ไม่มีทางมองเห็นหรอก
ไฟมืดๆมั่วๆแบบนี้
“ปิง”
ไอ้วุฒิเดินมาเรียก ปากมันคาบบุหรี่ด้วยนะ ไม่เชิงเดินมาหรอกมันเต้นมามากกว่าตอนนี้เต้น
ๆ สีน้องโบว์อยู่กันผมไอ้เหี้ยนี่ ผมดันมันออก
“เพื่อนปิงเหรอ”
“ครับใช่”
“ปิงหล่อจังคะ
เท่กันทั้งกลุ่มเลย”
“โบว์ก็สวยครับ”
“จริงดิ่”
“จริ๊ง”
โบว์หัวเราะเล่นหูเล่นตา เธอเอามือมาตีผมเบา
ๆ
“ออกจากนี้ไปไหนกันเหรอ”
“หืม?”
“โบว์ถามว่าคืนนี้ปิงจะไปต่อที่ไหนอีกไหม”
“อ่า....”
เอาล่ะวะผู้หญิงถามมาแบบนี้มัน....
เฮ้ยอะไรวะผมรู้สึกว่าใครวะเบียดกูจังเบียดชิดอยู่ด้านหลังเนี่ย แม่งเต้นดี ๆ
ไม่ได้หรือไงไอ้วุฒิเดินเต้นมาแทรกระหว่างผมกับน้องเขาอีก
“ปิง”
“ไรวะเรียกเห้ไรนักหนา
โทษทีครับโบว์เพื่อนผมเมา” ผมต่อว่าไอ้วุฒิแล้วหันไปยิ้มให้น้องโบว์
“ไม่เป็นไรๆ
เพื่อนปิงน่ารักดี เดี๋ยวนะเราแลกไลน์กันนะ ปิงยังไม่ตอบโบว์เลยคืนนี้ไปต่อไหน”
เธอควักมือถือขึ้นมาแล้วยิ้ม ล้วงออกมาจากหน้าอกด้วยนะ
“เอ่อ...
“ปิง”
ไอ้วุฒิเรียกอีกผมกำลังจะตอบเธอ แต่คราวนี้ไม่ใช่แค่วุฒิแล้วหมาบาสเองก็เต้นเข้ามาหา
“ลูกพี่ปิงขึ้นไปเหอะ”
มันชวนกระตุกชายเสื้อผมด้วย
“เดี๋ยวดิ่
แปป” ผมกำลังล้วงกระเป๋าหลังจะเอามือถือขึ้นมา โบว์โยกย้ายส่ายสะโพกไปด้วย ยิ้มเชิญชวนให้ผมไปด้วยพร้อมกดเบอร์โชว์ให้ดู
หัวผมไวมากนะเรื่องแบบนี้จำได้แล้วด้วยหมายเลขสิบหลัก
ขณะมือล้วงสองกระเป๋าก็แล้วแต่ทำไมไม่เห็นมือถือตัวเองวะ
เริ่มล้วงกระเป๋ายีนส์ด้านหน้า ไม่เห็นอีก เริ่มคิด...
“หานี่เหรอ”
โทรศัพท์ผมถูกยื่นมาต่อหน้าโดยมือของใครบางคนที่ยืนเต้นเบียดผมอยู่ด้านหลังนานแล้ว
“อ่าใช่ครับ
ขอบคุ.......” ผมพูดไม่จบประโยคเมื่อเห็นว่าเป็นใครที่ยื่นมือถือส่งมาให้
“พะ...พะ...พี่เอย์!!”
“ว่าไงครับปิง”
เสียงเย็นเฉียบเลยมึงหน้ามันนิ่งมาก ผมตายห่าแน่ มันส่งยิ้มไปให้น้องโบว์
เธอไม่รู้เรื่องมองผมกับมันสลับกันไปมา
“พี่ชายปิงเหรอ
เมื่อกี้ได้ยินนะเรียกว่าพี่เอย์ด้วย
โบว์ค่ะยินดีที่ได้รู้จักโบว์เรียนนิเทศฯ....”
“ครับยินดีที่ได้รู้จัก
ผมเอย์ตั้น แฟนปิงครับ คนที่น้องกำลังจีบนี่แหละ” แขนมันล๊อคปั๊บเข้าที่คอ
รั้งเอาแก้มผมให้เอียงรับริมฝีปากร้อนๆ เสียงจ๊วบบบบ!!ดังขึ้นเบา ๆ ขณะที่ผมหรี่ตา
น้องโบว์เงิบบบบไปแล้ว
....ยังคงเหลือแต่ผม
ที่ชีวิตคืนนี้ ตูจะรอดไหม??......
Tbc.