Tuesday, March 25, 2014

S.W.A.T - D (หน่วยสืบคดีโหด) *Yaoi * ตอนที่ 15


# 15 



คริสตินเหล่ตามองผู้ชายสามคนที่อยู่ตรงหน้าเขาไปมา


ฮ่าฮ่าๆๆๆ อะไรกันว้ามึง นี่กลัวถึงขนาดหนีกลับมาก่อนไม่แมนเล้ยยยน้องกูเสียงหัวเราะล้อเลียนและคำพูดถากถางจากท่านหัวหน้าสุดกวนดังขึ้นเป็นพัก ๆ 


โอ๊ยยย กูตลกมึงจริ๊ง ๆ คริสเอ้ยมึงเข้ามาเป็นตำรวจได้ยังไงเนี่ย เห็นศพทีไรหน้าซีดเป็นกระดาษทุกที”  ท่านพี่ฟ็อกซ์กำลังนั่งเล่นเกมส์ในมือถือเครื่องโตอยู่บนเก้าอี้หวายตัวใหญ่ ขณะที่ปากว่าง ๆ ก็พูดเหน็บแนมเขาไม่หยุด  ส่วนเคนยะกับซาโต้กำลังเข้าโปรแกรมอะไรสักอย่างอยู่ที่หน้าจอโน๊ตบุ๊คทั้งสองเครื่อง สองคนนั่งคุยกันไปมาเบา ๆ 


สำหรับเขาเองตอนนี้นั่งขัดสมาสกอดหมอนอยู่บนเตียง สายตาพยายามจับอยู่บนจอโทรทัศน์  หลังกลับมาจากที่เกิดเหตุนั่น จิตใจก็หดหู่บอกไม่ถูก คริสจึงเปิดทีวีดูรายการต่าง ๆ ไปเรื่อยเปื่อยดับอารมณ์  


ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่ทั้งสี่คนจะมารวมตัวกันอยู่ที่นี่  หลังจากซาโต้ลากคริสออกมาจากสถานที่เกิดเหตุอพาร์ทเม้นท์ที่ น้องหนึ่งถูกฆาตกรรม  


มอเตอร์ไซด์คันใหญ่ก็พาคนทั้งคู่ทะยานตัวมุ่งกลับเข้าที่พักทันที  แม้ขณะเดินขึ้นโรงแรมซาโต้ยังไม่ยอมปล่อยเวลาให้เสียเปล่า ชายหนุ่มติดต่อเข้าหน่วยงานฯเพื่อขอให้ คอร์นแฮกเกอร์มือหนึ่งของ S.W.A.T-D คู่หูสุดเซอร์ของจ่าสุรชัย(หน่วย A) แผนกพิสูจน์หลักฐาน ช่วยเจาะเข้าไปปลดล็อคไฟล์วอลของเซิฟเวอร์ตัวหลักที่โรงพยาบาลเอกชน XXX เปิดใช้บริการอยู่เพื่อตรวจสอบตารางงาน และเจาะกล้องวงจรปิด พร้อมข้อมูลสรุปทั้งหมดของหมอคเชนทร์เท่าที่จะแฮกออกมาได้ 


เหตุเพราะหมอคเชนทร์เป็นผู้ต้องสงสัยที่ได้ใกล้ชิดเหยื่อ(น้องหนึ่ง)มากที่สุดก่อนเกิดเหตุฆาตกรรม


รวมทั้งที่อยู่และความเคลื่อนไหวของ แป๋วผู้พบศพคนแรก ก็ยังไม่ตัดประเด็นน่าสงสัยนี้ออกไป


ในที่สุด คอร์นเจาะได้สำเร็จ ข้อมูลทั้งหมดถูกเรียกขึ้นมาดูและกำลังโหลดเก็บ เป็นเวลาเดียวกับที่หมอเจด้านิติเวชคนสวยเพิ่งโทรเข้ามาแจ้งผลการตรวจเบื้องต้น ช่วงเวลาการเสียชีวิตของน้องหนึ่ง อยู่ในช่วงเวลาประมาณ ตี 4 ถึง 8 โมงเช้า 


สำหรับแป๋วนั้นไม่พบปัญหาเนื่องจากแป๋วหลังจากเข้าบ้านตอนตี 3 กว่า แล้วก็ไม่ได้ออกไปไหนอีกเลยจนกระทั่ง 10 โมงเช้าของวันนี้  


ส่วนหมอคเชนทร์ โชนิน กุมารแพทย์โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดชลบุรี กลางดึกเมื่อคืนเขากลับไปถึงโรงพยาบาลเมื่อตอน ตี 2 เพื่อรับช่วงเวร ER ต่อจากเพื่อนหมออีกคน ช่วงเวลาหลังจากนั้นถึงตี 3 เขาอยู่ภายในห้องพักตลอดเวลา ขณะที่มีเคสด่วนผ่าคลอดเมื่อตอนตี 3กว่า หมอคเชนทร์เป็นกุมารแพทย์รับเด็กคู่กับคุณหมอสูติฯ อีกคน เขาออกจากห้องทำคลอดเวลา 04.45 น. เดินเข้าห้องทำงานส่วนตัวจนกระทั่งแปดโมงเช้าก็รับเวรตรวจสุขภาพต่ออีกจนกระทั่งเที่ยงตรง ออกเวรจึงขับรถออกจากโรงพยาบาลไป


ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อยมากที่เขาจะเป็นคนลงมือฆ่าเมื่อเทียบกับเวลาที่ต้องเดินทางไปมาไกล ๆ แบบนั้น(ชลบุรี-พัทยา)

คริสตินเอียงศีรษะอย่างใช้ความคิด แม้สายตาจะจับจ้องอยู่ที่จอโทรทัศน์แต่จิตใจกลับนึกถึงแต่เหตุฆาตกรรมก่อนหน้า   


ซาโต้ กูว่าไม่น่าใช่หมอคเชนทร์หรอกว่ะ  เพราะถ้าเป็นกูนะ เพิ่งมานั่งม่อกันหยก ๆ กูจะไม่หลอกไปฆ่าเร็วขนาดนั้นหรอก  มันไม่น่าสงสัยแย่เหรอวะ


เสียงที่จู่ ๆ ลอยทุ้มมาจากบนเตียงเรียกให้อีก 3 หนุ่ม 2 กิจกรรมหันมาโฟกัสที่คนพูดเป็นตาเดียว


แล้วถ้าจะถามว่าทำไมฟ็อกซ์กับเคนยะถึงได้มาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะก็ คำตอบก็คือ 


สองคนมาทำภารกิจบางอย่างแถวชลบุรี ระหว่างทางที่กำลังจะกลับเข้ากรุงเทพฯ สุรชัยก็แจ้งเข้ามาว่ามีคดีต้องสงสัยพัวพันกับคดีฆาตกรรมที่คริสตินกับซาโต้กำลังตามอยู่ นำให้สองหนุ่มเคนและฟ็อกซ์จำต้องรับหน้าแทนเพื่อเซ็นต์เอกสารและบันทึกข้อมูลบางอย่างเบื้องต้นในขั้นตอนการตรวจสถานที่เกิดเหตุ เนื่องจาก สน.พื้นที่ยกคดีนี้ให้ทางหน่วยรับผิดชอบแทนทุกกรณีแล้ว


และเมื่อเคลียร์สถานที่เกิดเหตุเรียบร้อยเคนยะผู้ซึ่งติดน้องชายมากก็บังคับแกมข่มขู่ฟ็อกซ์ให้พามาเที่ยวชมห้องพักที่ทั้งสองคนพักอยู่(จริง ๆ เป็นข้ออ้างของพี่ชายที่แสนดี เคนจะเข้ามาจัดการข้อมูลบางอย่างของภารกิจที่ตัวเองไปทำมาเมื่อเช้า)


แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น ตอนนี้เคนยะกับซาโต้นั่งทำงาน


ในขณะที่ฟ็อกซ์กับคริส ทำแต่เรื่องไร้สาระ(?)  อิอิ


หรือมึงว่าไง ซาโต้คริสตินล้มตัวลงนอนใช้สายตามองเพดานสูงซึ่งถูกปิดทับด้วยวอลเปเปอร์ชั้นดี โดยไม่ได้สนใจว่าอีกสามคนที่เหลือจะมีปฏิกิริยายังไงกับคำพูดของตน


ผลั่ก!!!


เฮ้ยยย!! โอ๊ยยย!!!ผู้หมวดหนุ่มอุทานดังลั่น ตัวทั้งตัวกองลงไปอยู่ข้างเตียงเรียบร้อย ในขณะที่ตัวต้นเหตุอย่างฟ็อกซ์ย้ายก้นมานั่งเอนตัวสบายอยู่บนเตียงแทนที่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้


อะไรกันเล่าพี่ฟ็อกซ์ นี่พี่ถีบผมทำไมเนี่ย!! เล่นอะไรรุนแรงอยู่เรื่อย คนยังไม่ได้ตั้งตัวเลย ถามกันก่อนสิว่าอยากเล่นด้วยรึเปล่าคริสลุกขึ้นยืนโวยวายพร้อมใช้มือนวดสะโพกที่ถูกกระแทก


มึงแหกตาดูซะบ้างเซ่!   ว่าตอนนี้คู่หูมึงเขารอข้อมูลอะไร ใช่ของไอ้คุณหมอเด็ก(กุมารแพทย์)นั่นรึเปล่า หรือว่าเปลี่ยนไปจับตาดูไอ้หมอสัตว์(สัตวแพทย์)นั่นแล้วมันช่างเน้นคำว่าสัตว์ซะจริง


คริสตินแค่นเสียงในลำคอดัง เฮอะ! ก่อนจะเบนสายตาพร้อมใบหน้าบูดบึ้งเป็นเด็ก ๆ หันไปมองที่หน้าจอของเจ้าซาโต้คู่หู


จริงอย่างที่ฟ็อกซ์ว่า


ข้อมูลที่เจ้าซาโต้ดูอยู่ตอนนี้คือข้อมูลของ ผู้ต้องสงสัยรายที่สอง สัตวแพทย์ ศิริชัย คงศรี ซาโต้กำลังปรับมุมกล้องของระบบกล้องวงจรปิดหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งน่าจะเป็นที่อยู่ของหมอศิริชัย


งานเจาะระบบอาจต้องใช้เวลาสักระยะ ความเป็นจริงไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครหลายคนคิดบางครั้งอาจต้องรอโหลดไฟล์ข้ามวันข้ามคืนต้องจับตาตัวป็อบอัพอยู่ตลอดเวลา ยิ่งตอนนี้ซาโต้กำลังรอรับข้อมูลจาก คอร์นที่ดำเนินการแฮกอยู่ที่สำนักงานใหญ่ 


เวลายังดำเนินต่อไปขณะที่มีเสียงเคาะแป้นพิมพ์ และเสียงคลิกเมาส์ จากทั้งซาโต้และเคนยะดังอยู่เป็นระยะ


เจ้าซาโต้กำลังทำงานเกี่ยวกับคดีบาร์เกย์  แล้วพี่เคนล่ะ กำลังทำอะไรคริสตินเหลือบมองไปที่หน้าจอเครื่องที่เคนยะกำลังซูมภาพเพื่อทำอะไรบางอย่างอยู่


ภาพถนนสายหลักที่ไหนสักแห่ง  ภาพรถที่กำลังพลิกคว่ำแล้วกระแทกอัดเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง  .....ภาพจากกล้องวงจรปิดมุมมองจากที่สูง ซึ่งน่าจะเป็นมุมจากเสาไฟฟ้าของถนนที่ไหนสักแห่ง ภาพถูกหมุนปรับแต่งมุมกล้อง 


พี่เคนกำลังเปลี่ยนภาพ.....อะไร??!!.... 


คริสตินเริ่มหาที่นั่งเพื่อให้ได้มุมที่มองเห็นได้ชัด ๆ ด้วยความอยากรู้


แต่...


โอ๊ยๆๆๆๆ พี่ฟ็อกซ์อะไรพี่ ผมเจ็บนะโอ๊ยยย!!!มือใหญ่นั้นไม่ใช่แค่บิดแต่มันคือการหิ้วใบหูของคริสขึ้นอย่างแรง


ไม่ต้องนั่งแล้วลงไปข้างล่างกับกูเลย กูหิว ไปหาอะไรขึ้นมากินกันอะไรกันจู่ ๆ ก็พูดขึ้น


จะไปกินที่ไหน โอ๊ยยย เจ็บ ๆ สั่งขึ้นมากินก็ได้ โอ้ยย เจ็บครับเจ็บถามไปก็เท่านั้นพูดไปก็เสียเปล่า คริสจึงได้แต่เดินไปตามแรงดึงของอีกคน 


ข้างฟ็อกซ์เมื่อเห็นว่าผู้หมวดหนุ่มไม่ขัดขืนยอมเดินออกมาจากจุดนั้นเรียบร้อย  มือหนา ๆ ของชายหนุ่มก็ยอมปล่อยออกแล้วอย่างง่ายดาย


เร็วเข้าสิวะ ช้าแบบนี้ไม่ทันกินอะไรสักอย่างทั้งรีบทั้งโวยวายเอาแต่ใจอยู่แถวหน้าประตู


ครับ ครับ เดี๋ยวเอากระเป๋าตังค์ก่อนคริสตินพูดหน้าบูดอย่างขอไปที  เขาใช้มือนวดใบหูอย่างเจ็บปวด เล่นพิเรนทร์


นาฬิกาบอกเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว  แล้วชายหนุ่มเหล่ตามองซาโต้เล็กน้อย ใจจริงไม่อยากทิ้งให้คู่หูต้องนั่งทำงานอยู่คนเดียวเลย ถึงแม้จะไม่ได้ช่วยอะไรมาก อย่างน้อยนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ใกล้ ๆ ให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ ก็ยังดี  


คริสลอบชำเลืองมองไปที่หน้าประตูอีกครั้ง 


พี่ฟ็อกซ์ยืนกอดอกหน้ายักษ์คอยอยู่แล้ว เขาจำใจยัดกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกงอย่างลวก ๆ 


ใจน่ะ ลืมเรื่องงานที่เคนยะกำลังทำไปซะสนิท


ซาโต้เดี๋ยวกูมานะมึงคริสตินโน้มตัวลงไปพูดกับคู่หูเบา ๆ 


แต่ไร้ซึ่งปฏิกิริยาโต้ตอบจากคนที่นั่งทำงานอยู่หน้าจอ ไม่มีสีหน้าแสดงความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งกับเคนยะและซาโต้ สองคนสองจอ หลุดเข้าไปในโลกไซเบอร์เรียบร้อย

.
.
.

หลังจากเดินตามก้นกันลงมาที่ด้านล่าง ทั้งสองหนุ่มฟ็อกซ์และคริสก็เดินเลี่ยงออกไปที่ด้านหน้าล็อบบี้ของโรงแรม จุดประสงค์คือรถเข็นขายผลไม้ดองที่ห่างจากตัวโรงแรมเกือบ 500 เมตร


ไร้สาระ’  คริสกลอกตาล้วงกระเป๋านึก ขณะยืนรอคนขายสับผลไม้หลายชนิดใส่ถุง โดยมีฟ็อกซ์ยืนรอจ่ายเงินอยู่ใกล้ ๆ  


จู่ ๆ เสียงเล็ก ๆ ด้านหลังก็ดังขึ้น


พี่ฮะๆ ซื้อดอกกุหลาบสวย ๆ ไหมฮะเป็นเสียงของเด็กผู้ชายมอมแมมคนหนึ่ง  เรียกให้คริสก้มลงมองดอกกุหลาบดอกใหญ่หลายสิบดอกในมือเล็ก ๆ คู่นั้น


ช่วยอุดหนุนหน่อยนะฮะ วันนี้ผมยังขายไม่ได้สักดอกเลย 


เด็กจรจัดที่สามารถรับดอกกุหลาบดอกโตพันธุ์ต่างประเทศแบบนี้มาขายได้แสดงว่าไม่ธรรมดา คริสตินสอดสายตามองโดยรอบเผื่อว่าจะเจอไอ้ผู้ใหญ่แสบที่ชอบบังคับเด็กไม่มีทางสู้


ซื้อให้น้องชายพี่ก็ได้นี่ฮะ พี่เขาต้องชอบแน่เลย 


ห๋า!!!   ไม่รู้ทำไมพอพูดถึงคำว่าน้องชาย ไอ้เด็กมอมแมมคนนี้ถึงปรายตามองไปที่ฟ็อกซ์อย่างซื่อ ๆ พอชายหนุ่มมองตามสายตานั่นไปก็เจอรอยยิ้มหยันของไอ้พี่ฟ็อกซ์พร้อมคิ้วที่ถูกยักขึ้นยักลงแบบกวน ๆ ส่งให้


คริสตินแค่นหัวเราะ หึหึในลำคอ   ‘น้องชายงั้นเหรอ??’  


ก็ใครใช้ให้ไอ้พี่ฟ็อกซ์มันหน้าเด็กขนาดนั้นกันเล่า แม้แต่เด็กข้างทางยังหลงคิดว่ามันเป็นน้องชายเขาซะนี่ แถมตอนนี้มันยังไปตัดผมคล้ายพวกนักเรียน รด. มาซะอีก นั่นมันคอนเซปเด็ก ม.ปลายไม่ใช่รึไง ฮึ่ยยย


นะครับพี่คนน่ารัก ซื้อช่วยผมสักดอกนะ นะคนอ้อนก็ยังอ้อนไม่เลิก ขณะกำลังจะปฏิเสธไปเสียงของอีกคนก็ดังแทรกขึ้น


มึงก็ช่วยซื้อน้องเขาสักดอกสิว้า  น้องเขาน่ารักออก ดูสิพูดจาก็ดี้ดี ใช่ไหมครับหนุ่มน้อยมือใหญ่หยิกลงที่แก้มเด็กจรจัดเบา ๆ 


เด็กน้อยยิ้มรับคำชมพร้อมยัดกุหลาบดอกใหญ่ ๆ หนึ่งดอก ลงในมือคริสตินทันที จากนั้นเงยหน้าสบตาแบมือรอเก็บตังค์จากผู้หมวดหนุ่ม คริสได้แต่ส่ายหน้าจำใจควักแบงค์สีแดงหนึ่งใบแลกกับกุหลาบดอกนั้นแต่เด็กแสบดันชู 2 นิ้วส่งให้ นั่นทำเอาคริสต้องจำใจอีกครั้งควักแบงค์แดงอีก 1 ใบยัดใส่มืออย่างช่วยไม่ได้ 


พอได้เงินปุ๊บก็กระโดดตัวลอยวิ่งหายไปทันที


หนอยยย!!ไอ้เด็กนี่ สองร้อยเชียวนะ แลกกับการโดนหาว่าแก่! แถมยังไม่รู้ว่าจะเอาไอ้ดอกไม้นี่ไปวางไว้ตรงไหนอีก จะให้ถือกลับโทง ๆ แบบนี้มันก็น่าอายอยู่ เขาเหลือบสายตาไปมองไอ้คนต้นเหตุมันทั้งหัวเราะทั้งรีบเดินแซงหน้าเขาไปแล้ว


คริสเองก็เริ่มเร่งฝีเท้าขึ้นบ้าง เฮ้ยๆๆ มึงอย่ามาเดินใกล้กู๊  เดี๋ยวคนเขาจะหาว่ากูซื้อดอกไม้นี่ให้มึง   ไอ้คริสมึงเดินให้มันห่างหน่อยสิวะ กูอายคนนะฟ็อกซ์ทำสีหน้าประหลาดปัดไม้บัดมือรีบจ้ำอ้าวมุ่งกลับโรงแรมให้เร็วที่สุด


อ้าว ๆ อะไรของมันไม่รู้  ตัวเองเป็นคนบอกให้ซื้อแท้ ๆ ไอ้หัวหน้าพิลึกนี่ คิดว่าเขาไม่อายรึไง ผู้ชายตัวโตเดินถือดอกกุหลาบสีแดงเนี่ย จะทิ้งไปก็นึกเสียดายเงินตั้งสองร้อยเชียว


ขึ้นไปกันเลย  กูลงมาซื้อแค่นี้แหละ”  ฟ็อกซ์บอกออกมาตอนจะเอื้อมมือผลักบานประตูหมุนที่ด้านหน้า  ‘หึหึหึ เลเวลความกวนยังอัพขึ้นได้อีกครับพี่ ลากกันลงมาเพื่อซื้อผลไม้ดองไร้สาระแถมยังต้องเสียเงินกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมันยังมีหน้ามาบอกว่าเสร็จแล้วขึ้นไปกันได้เลย’  


และด้วยความโมโหสั่งสมแต่ไม่มีที่ลง ระหว่างเดินผ่านล็อบบี้กำลังมุ่งหน้าไปทางลิฟต์คริสตินฉวยหยิบหนังสือพิมพ์ของใครก็ไม่รู้ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเคาน์เตอร์ติดมือเข้าไปด้วยซะเลย 


พอเปิดประตูห้องเข้าไปเท่านั้น ก็เห็นเคนยะกวักมือเรียกไวไวพร้อมอมยิ้มหวานส่งมาให้ ฟ็อกซ์มานี่เสียงเล็ก ๆ ของพี่เคนน่ารักจริง ๆ 
 

ผู้หมวดหนุ่มสังเกตได้ว่าฟ็อกซ์หน้าแดงขึ้นมาทันที เคนยะยืนยิ้มอยู่ด้านหลังซาโต้ที่ตอนนี้กำลังปรับซูมหน้าจอเพื่อดูอะไรสักอย่าง คริสตินแวะเข้าห้องน้ำล้างหน้าเรียกความสดชื่น สักพักเดินออกมาสมทบเพื่อดูสิ่งที่เจ้าซาโต้เรียกขึ้นมาจากเครื่อง


กล้องวงจรปิดที่ฉายภาพบริเวณหน้าบ้านของ สัตวแพทย์ศิริชัย คงศรี  กลางดึกเมื่อคืนเขากลับถึงบ้านเวลา สามทุ่มครึ่งจากนั้นไม่ได้ออกไปไหนเลยจนกระทั่งตี 5 ชายหนุ่มสวมชุดวอร์มกีฬาพร้อมผ้าขนหนูพาดที่บ่ากับขวดน้ำเปล่าขับรถออกไปจากหมู่บ้าน  กลับมาอีกทีในเวลา 8.20 น. ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวเพียงครึ่งชั่วโมง 8.45 น. เขาก็ขับรถออกไปทำงานซึ่งตรงกับภาพของกล้องที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลสัตว์แห่งนั้น เวลา 9โมง เขาถึงที่ทำงานพอดี 


ท่าทีการแสดงออกไม่พบพิรุธใด ๆ ทั้งสิ้นนอกเสียจากหลักฐานเรื่องเวลาถือว่าเขาเป็นคนที่ต้องสงสัยมากที่สุด 


ขณะคริสตินกำลังนึกถึงว่าคืนนี้อาจมีโอกาสได้พบกับผู้ต้องสงสัยคนนี้ที่บาร์จู่ ๆ คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้นแถมยังทำน้ำเสียงจริงจัง


ฟ็อกซ์  ผมอยากช่วยทำคดีนี้ด้วย นายพอจะช่วยพูดกับผู้ใหญ่ให้ได้รึเปล่าเคนยะบอกเพื่อนสนิทด้วยสายตาที่มุ่งมั่น 


ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ คิ้วเข้มของหัวหน้าหนุ่มก็ขมวดเข้าหากันทันที ฟ็อกส์เหลือบมองโน๊ตบุ๊คของเคนยะแวบหนึ่ง


เครื่องส่วนตัวของเคนถูกปิดลงแล้ว  แสดงว่า งานของพวกเขาเมื่อเช้าเก็บรายละเอียดเสร็จสมบูรณ์  เคนยะจึงคิดสนใจงานใหม่ชิ้นนี้ขึ้นมา


ชายหนุ่มละสายตาจากทุกสิ่ง เดินเลี่ยงออกไปที่ระเบียง


ฟ็อกซ์เดี๋ยวก่อนเคนเดินตามออกมาในทันที เขามองดูแผ่นหลังกว้างของเพื่อนสนิทที่ตอนนี้หันหน้าหนีเขาไปอีกทาง นำให้สารวัตรหนุ่มต้องเรียกขึ้นอีกครั้ง พร้อมเอื้อมมือไปปิดประตูบานเลื่อนกันเสียงบทสนทนาที่จะลอดเข้าไปด้านในได้


ฟ็อกซ์ ??”


คิดอะไรครับเคน หืมม" คนพูดคิ้วขมวดหันมารอสบสายตาจากคนด้านหน้าตรง ๆ 


"คริสเขารู้แค่ว่าเคนทำงานสืบสวนนะไม่เกี่ยวกับสายปราบปราม แล้วงานนี้ก็อยู่นอกเหนือขอบข่ายความรับผิดชอบของเคนด้วย”   


แต่ว่าผม......อยากช่วยน้องใบหน้าหวานก้มหลบสายตาแกร่ง ถ้าไม่ได้อยู่ในโหมดงาน จุดอ่อนที่สุดของผู้ชายคนนี้คือน้องชายสุดที่รักของเขานั่นเอง


ฝ่ามือหนาลูบลงที่ผมนิ่มนั้นเบา ๆ เคนยะผมยาวขึ้นมากตั้งแต่วันที่เขารู้จักกันวันแรกจนถึงวันนี้ ชายหนุ่มจดจำทุกอย่างเกี่ยวกับเพื่อนสนิทคนนี้ได้ดีที่สุด


......ยิ่งกว่าใคร ๆ ทั้งหมด…..


เคน....เรากลับกันนะครับ ปล่อยสองคนนี้ทำงาน ผมรู้ว่าเคนห่วงน้อง ให้เวลาพวกเขานะ  ประสบการณ์จะสอนให้คริสแข็งแกร่งขึ้นมาได้  ซาโต้ก็อยู่ด้วย เคนไม่จำเป็นต้องห่วงอะไรเลยนี่ครับ 


เคนยะได้ฟังดังนั้นจึงเบนสายตาเข้าไปด้านใน  ภาพที่คริสตินน้องชายของเขาท้าวแขนชี้ที่จอมอนิเตอร์คุยงานอยู่กับคู่หูที่นั่งคลิกเมาส์เลื่อนจอภาพไปเรื่อย มือไม้ที่อยู่ไม่สุขทั้งฟาดทั้งต่อยลงบนหลังซาโต้เบา ๆ  มีบางครั้งถึงขนาดโบกหัวกันไปมา มันช่างเป็นภาพที่น่ารักสดใสและเข้ากันได้ดี รอยยิ้มและเสียงหัวเราะแบบนั้นเขาเองเมื่อก่อนก็เคยเป็น  ความไว้ใจและเชื่อในตัวน้องนั้นน่าจะดีที่สุด  การจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือโดยที่เจ้าของคดียังไม่ได้ขอด้วยซ้ำนั่นมันเป็นการทำลายความภาคภูมิใจของน้องโดยไม่ต้องสงสัยเลย


แล้วคริสก็จะทำอะไรไม่เป็น นิดหน่อยก็จะเรียกหาแต่พี่ชาย


ฟ็อกซ์พูดถูก 


ชายหนุ่มถอนใจโล่ง เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงหันหน้ากลับมาสบสายตากับฟ็อกซ์อีกครั้งอย่างเข้าใจ เคนยะพยักหน้าเบา ๆ อีกคนจึงโอบเอาไหล่บางนั่นไว้แล้วพาเดินกลับเข้าไปในห้องตามเดิม


แต่ไหนแต่ไร....คนที่เข้าใจเขามากที่สุด ก็คงมีแต่เพื่อนคนนี้สินะ


Tbc.