#
15
คริสตินเหล่ตามองผู้ชายสามคนที่อยู่ตรงหน้าเขาไปมา
“ฮ่าฮ่าๆๆๆ อะไรกันว้ามึง
นี่กลัวถึงขนาดหนีกลับมาก่อนไม่แมนเล้ยยยน้องกู” เสียงหัวเราะล้อเลียนและคำพูดถากถางจากท่านหัวหน้าสุดกวนดังขึ้นเป็นพัก
ๆ
“โอ๊ยยย กูตลกมึงจริ๊ง ๆ
คริสเอ้ยมึงเข้ามาเป็นตำรวจได้ยังไงเนี่ย เห็นศพทีไรหน้าซีดเป็นกระดาษทุกที”
ท่านพี่ฟ็อกซ์กำลังนั่งเล่นเกมส์ในมือถือเครื่องโตอยู่บนเก้าอี้หวายตัวใหญ่
ขณะที่ปากว่าง ๆ ก็พูดเหน็บแนมเขาไม่หยุด ส่วนเคนยะกับซาโต้กำลังเข้าโปรแกรมอะไรสักอย่างอยู่ที่หน้าจอโน๊ตบุ๊คทั้งสองเครื่อง
สองคนนั่งคุยกันไปมาเบา ๆ
สำหรับเขาเองตอนนี้นั่งขัดสมาสกอดหมอนอยู่บนเตียง
สายตาพยายามจับอยู่บนจอโทรทัศน์ หลังกลับมาจากที่เกิดเหตุนั่น จิตใจก็หดหู่บอกไม่ถูก
คริสจึงเปิดทีวีดูรายการต่าง ๆ ไปเรื่อยเปื่อยดับอารมณ์
ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่ทั้งสี่คนจะมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ หลังจากซาโต้ลากคริสออกมาจากสถานที่เกิดเหตุอพาร์ทเม้นท์ที่
‘น้องหนึ่ง’ ถูกฆาตกรรม
มอเตอร์ไซด์คันใหญ่ก็พาคนทั้งคู่ทะยานตัวมุ่งกลับเข้าที่พักทันที แม้ขณะเดินขึ้นโรงแรมซาโต้ยังไม่ยอมปล่อยเวลาให้เสียเปล่า
ชายหนุ่มติดต่อเข้าหน่วยงานฯเพื่อขอให้ ‘คอร์น’ แฮกเกอร์มือหนึ่งของ S.W.A.T-D คู่หูสุดเซอร์ของจ่าสุรชัย(หน่วย
A) แผนกพิสูจน์หลักฐาน ช่วยเจาะเข้าไปปลดล็อคไฟล์วอลของเซิฟเวอร์ตัวหลักที่โรงพยาบาลเอกชน
XXX เปิดใช้บริการอยู่เพื่อตรวจสอบตารางงาน
และเจาะกล้องวงจรปิด พร้อมข้อมูลสรุปทั้งหมดของหมอคเชนทร์เท่าที่จะแฮกออกมาได้
เหตุเพราะหมอคเชนทร์เป็นผู้ต้องสงสัยที่ได้ใกล้ชิดเหยื่อ(น้องหนึ่ง)มากที่สุดก่อนเกิดเหตุฆาตกรรม
รวมทั้งที่อยู่และความเคลื่อนไหวของ ‘แป๋ว’ ผู้พบศพคนแรก ก็ยังไม่ตัดประเด็นน่าสงสัยนี้ออกไป
ในที่สุด ‘คอร์น’ เจาะได้สำเร็จ
ข้อมูลทั้งหมดถูกเรียกขึ้นมาดูและกำลังโหลดเก็บ
เป็นเวลาเดียวกับที่หมอเจด้านิติเวชคนสวยเพิ่งโทรเข้ามาแจ้งผลการตรวจเบื้องต้น
ช่วงเวลาการเสียชีวิตของน้องหนึ่ง อยู่ในช่วงเวลาประมาณ ตี 4 ถึง 8 โมงเช้า
สำหรับแป๋วนั้นไม่พบปัญหาเนื่องจากแป๋วหลังจากเข้าบ้านตอนตี
3 กว่า
แล้วก็ไม่ได้ออกไปไหนอีกเลยจนกระทั่ง 10 โมงเช้าของวันนี้
ส่วนหมอคเชนทร์ โชนิน กุมารแพทย์โรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดชลบุรี
กลางดึกเมื่อคืนเขากลับไปถึงโรงพยาบาลเมื่อตอน ตี 2
เพื่อรับช่วงเวร ER ต่อจากเพื่อนหมออีกคน
ช่วงเวลาหลังจากนั้นถึงตี 3 เขาอยู่ภายในห้องพักตลอดเวลา
ขณะที่มีเคสด่วนผ่าคลอดเมื่อตอนตี 3กว่า
หมอคเชนทร์เป็นกุมารแพทย์รับเด็กคู่กับคุณหมอสูติฯ อีกคน เขาออกจากห้องทำคลอดเวลา 04.45
น.
เดินเข้าห้องทำงานส่วนตัวจนกระทั่งแปดโมงเช้าก็รับเวรตรวจสุขภาพต่ออีกจนกระทั่งเที่ยงตรง
ออกเวรจึงขับรถออกจากโรงพยาบาลไป
ซึ่งมีความเป็นไปได้น้อยมากที่เขาจะเป็นคนลงมือฆ่าเมื่อเทียบกับเวลาที่ต้องเดินทางไปมาไกล
ๆ แบบนั้น(ชลบุรี-พัทยา)
คริสตินเอียงศีรษะอย่างใช้ความคิด แม้สายตาจะจับจ้องอยู่ที่จอโทรทัศน์แต่จิตใจกลับนึกถึงแต่เหตุฆาตกรรมก่อนหน้า
คริสตินเอียงศีรษะอย่างใช้ความคิด แม้สายตาจะจับจ้องอยู่ที่จอโทรทัศน์แต่จิตใจกลับนึกถึงแต่เหตุฆาตกรรมก่อนหน้า
“ซาโต้ กูว่าไม่น่าใช่หมอคเชนทร์หรอกว่ะ
เพราะถ้าเป็นกูนะ เพิ่งมานั่งม่อกันหยก ๆ
กูจะไม่หลอกไปฆ่าเร็วขนาดนั้นหรอก มันไม่น่าสงสัยแย่เหรอวะ”
เสียงที่จู่ ๆ
ลอยทุ้มมาจากบนเตียงเรียกให้อีก 3 หนุ่ม 2 กิจกรรมหันมาโฟกัสที่คนพูดเป็นตาเดียว
แล้วถ้าจะถามว่าทำไมฟ็อกซ์กับเคนยะถึงได้มาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะก็
คำตอบก็คือ
สองคนมาทำภารกิจบางอย่างแถวชลบุรี
ระหว่างทางที่กำลังจะกลับเข้ากรุงเทพฯ
สุรชัยก็แจ้งเข้ามาว่ามีคดีต้องสงสัยพัวพันกับคดีฆาตกรรมที่คริสตินกับซาโต้กำลังตามอยู่
นำให้สองหนุ่มเคนและฟ็อกซ์จำต้องรับหน้าแทนเพื่อเซ็นต์เอกสารและบันทึกข้อมูลบางอย่างเบื้องต้นในขั้นตอนการตรวจสถานที่เกิดเหตุ
เนื่องจาก สน.พื้นที่ยกคดีนี้ให้ทางหน่วยรับผิดชอบแทนทุกกรณีแล้ว
และเมื่อเคลียร์สถานที่เกิดเหตุเรียบร้อยเคนยะผู้ซึ่งติดน้องชายมากก็บังคับแกมข่มขู่ฟ็อกซ์ให้พามาเที่ยวชมห้องพักที่ทั้งสองคนพักอยู่(จริง
ๆ เป็นข้ออ้างของพี่ชายที่แสนดี
เคนจะเข้ามาจัดการข้อมูลบางอย่างของภารกิจที่ตัวเองไปทำมาเมื่อเช้า)
แล้วก็เป็นอย่างที่เห็น
ตอนนี้เคนยะกับซาโต้นั่งทำงาน
ในขณะที่ฟ็อกซ์กับคริส
ทำแต่เรื่องไร้สาระ(?) อิอิ
“หรือมึงว่าไง ซาโต้” คริสตินล้มตัวลงนอนใช้สายตามองเพดานสูงซึ่งถูกปิดทับด้วยวอลเปเปอร์ชั้นดี
โดยไม่ได้สนใจว่าอีกสามคนที่เหลือจะมีปฏิกิริยายังไงกับคำพูดของตน
ผลั่ก!!!
“เฮ้ยยย!! โอ๊ยยย!!!” ผู้หมวดหนุ่มอุทานดังลั่น ตัวทั้งตัวกองลงไปอยู่ข้างเตียงเรียบร้อย
ในขณะที่ตัวต้นเหตุอย่างฟ็อกซ์ย้ายก้นมานั่งเอนตัวสบายอยู่บนเตียงแทนที่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“อะไรกันเล่าพี่ฟ็อกซ์
นี่พี่ถีบผมทำไมเนี่ย!! เล่นอะไรรุนแรงอยู่เรื่อย คนยังไม่ได้ตั้งตัวเลย
ถามกันก่อนสิว่าอยากเล่นด้วยรึเปล่า” คริสลุกขึ้นยืนโวยวายพร้อมใช้มือนวดสะโพกที่ถูกกระแทก
“มึงแหกตาดูซะบ้างเซ่!
ว่าตอนนี้คู่หูมึงเขารอข้อมูลอะไร
ใช่ของไอ้คุณหมอเด็ก(กุมารแพทย์)นั่นรึเปล่า
หรือว่าเปลี่ยนไปจับตาดูไอ้หมอสัตว์(สัตวแพทย์)นั่นแล้ว” มันช่างเน้นคำว่าสัตว์ซะจริง
คริสตินแค่นเสียงในลำคอดัง เฮอะ!
ก่อนจะเบนสายตาพร้อมใบหน้าบูดบึ้งเป็นเด็ก ๆ หันไปมองที่หน้าจอของเจ้าซาโต้คู่หู
จริงอย่างที่ฟ็อกซ์ว่า
ข้อมูลที่เจ้าซาโต้ดูอยู่ตอนนี้คือข้อมูลของ
ผู้ต้องสงสัยรายที่สอง สัตวแพทย์ ศิริชัย คงศรี
ซาโต้กำลังปรับมุมกล้องของระบบกล้องวงจรปิดหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
ซึ่งน่าจะเป็นที่อยู่ของหมอศิริชัย
งานเจาะระบบอาจต้องใช้เวลาสักระยะ
ความเป็นจริงไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครหลายคนคิดบางครั้งอาจต้องรอโหลดไฟล์ข้ามวันข้ามคืนต้องจับตาตัวป็อบอัพอยู่ตลอดเวลา
ยิ่งตอนนี้ซาโต้กำลังรอรับข้อมูลจาก ‘คอร์น’ ที่ดำเนินการแฮกอยู่ที่สำนักงานใหญ่
เวลายังดำเนินต่อไปขณะที่มีเสียงเคาะแป้นพิมพ์
และเสียงคลิกเมาส์ จากทั้งซาโต้และเคนยะดังอยู่เป็นระยะ
‘เจ้าซาโต้กำลังทำงานเกี่ยวกับคดีบาร์เกย์
แล้วพี่เคนล่ะ กำลังทำอะไร’ คริสตินเหลือบมองไปที่หน้าจอเครื่องที่เคนยะกำลังซูมภาพเพื่อทำอะไรบางอย่างอยู่
ภาพถนนสายหลักที่ไหนสักแห่ง ภาพรถที่กำลังพลิกคว่ำแล้วกระแทกอัดเข้ากับเสาไฟฟ้าข้างทาง
.....ภาพจากกล้องวงจรปิดมุมมองจากที่สูง
ซึ่งน่าจะเป็นมุมจากเสาไฟฟ้าของถนนที่ไหนสักแห่ง ภาพถูกหมุนปรับแต่งมุมกล้อง
พี่เคนกำลังเปลี่ยนภาพ.....อะไร??!!....
พี่เคนกำลังเปลี่ยนภาพ.....อะไร??!!....
คริสตินเริ่มหาที่นั่งเพื่อให้ได้มุมที่มองเห็นได้ชัด
ๆ ด้วยความอยากรู้
แต่...
“โอ๊ยๆๆๆๆ พี่ฟ็อกซ์อะไรพี่
ผมเจ็บนะโอ๊ยยย!!!” มือใหญ่นั้นไม่ใช่แค่บิดแต่มันคือการหิ้วใบหูของคริสขึ้นอย่างแรง
“ไม่ต้องนั่งแล้วลงไปข้างล่างกับกูเลย
กูหิว ไปหาอะไรขึ้นมากินกัน” อะไรกันจู่ ๆ ก็พูดขึ้น
“จะไปกินที่ไหน โอ๊ยยย เจ็บ ๆ สั่งขึ้นมากินก็ได้
โอ้ยย เจ็บครับเจ็บ” ถามไปก็เท่านั้นพูดไปก็เสียเปล่า
คริสจึงได้แต่เดินไปตามแรงดึงของอีกคน
ข้างฟ็อกซ์เมื่อเห็นว่าผู้หมวดหนุ่มไม่ขัดขืนยอมเดินออกมาจากจุดนั้นเรียบร้อย มือหนา ๆ
ของชายหนุ่มก็ยอมปล่อยออกแล้วอย่างง่ายดาย
“เร็วเข้าสิวะ ช้าแบบนี้ไม่ทันกินอะไรสักอย่าง”
ทั้งรีบทั้งโวยวายเอาแต่ใจอยู่แถวหน้าประตู
“ครับ ครับ
เดี๋ยวเอากระเป๋าตังค์ก่อน” คริสตินพูดหน้าบูดอย่างขอไปที
เขาใช้มือนวดใบหูอย่างเจ็บปวด เล่นพิเรนทร์
นาฬิกาบอกเวลาเกือบหกโมงเย็นแล้ว แล้วชายหนุ่มเหล่ตามองซาโต้เล็กน้อย
ใจจริงไม่อยากทิ้งให้คู่หูต้องนั่งทำงานอยู่คนเดียวเลย ถึงแม้จะไม่ได้ช่วยอะไรมาก
อย่างน้อยนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่ใกล้ ๆ ให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ ก็ยังดี
คริสลอบชำเลืองมองไปที่หน้าประตูอีกครั้ง
พี่ฟ็อกซ์ยืนกอดอกหน้ายักษ์คอยอยู่แล้ว
เขาจำใจยัดกระเป๋าสตางค์และโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกงอย่างลวก ๆ
ใจน่ะ
ลืมเรื่องงานที่เคนยะกำลังทำไปซะสนิท
“ซาโต้เดี๋ยวกูมานะมึง” คริสตินโน้มตัวลงไปพูดกับคู่หูเบา ๆ
แต่ไร้ซึ่งปฏิกิริยาโต้ตอบจากคนที่นั่งทำงานอยู่หน้าจอ
ไม่มีสีหน้าแสดงความรู้สึกใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งกับเคนยะและซาโต้ สองคนสองจอ
หลุดเข้าไปในโลกไซเบอร์เรียบร้อย
.
.
.
.
หลังจากเดินตามก้นกันลงมาที่ด้านล่าง
ทั้งสองหนุ่มฟ็อกซ์และคริสก็เดินเลี่ยงออกไปที่ด้านหน้าล็อบบี้ของโรงแรม
จุดประสงค์คือรถเข็นขายผลไม้ดองที่ห่างจากตัวโรงแรมเกือบ 500 เมตร
‘ไร้สาระ’ คริสกลอกตาล้วงกระเป๋านึก ขณะยืนรอคนขายสับผลไม้หลายชนิดใส่ถุง
โดยมีฟ็อกซ์ยืนรอจ่ายเงินอยู่ใกล้ ๆ
จู่ ๆ เสียงเล็ก ๆ ด้านหลังก็ดังขึ้น
“พี่ฮะๆ ซื้อดอกกุหลาบสวย ๆ ไหมฮะ”
เป็นเสียงของเด็กผู้ชายมอมแมมคนหนึ่ง เรียกให้คริสก้มลงมองดอกกุหลาบดอกใหญ่หลายสิบดอกในมือเล็ก
ๆ คู่นั้น
“ช่วยอุดหนุนหน่อยนะฮะ
วันนี้ผมยังขายไม่ได้สักดอกเลย”
เด็กจรจัดที่สามารถรับดอกกุหลาบดอกโตพันธุ์ต่างประเทศแบบนี้มาขายได้แสดงว่าไม่ธรรมดา
คริสตินสอดสายตามองโดยรอบเผื่อว่าจะเจอไอ้ผู้ใหญ่แสบที่ชอบบังคับเด็กไม่มีทางสู้
“ซื้อให้น้องชายพี่ก็ได้นี่ฮะ พี่เขาต้องชอบแน่เลย”
“ซื้อให้น้องชายพี่ก็ได้นี่ฮะ พี่เขาต้องชอบแน่เลย”
ห๋า!!! ไม่รู้ทำไมพอพูดถึงคำว่าน้องชาย
ไอ้เด็กมอมแมมคนนี้ถึงปรายตามองไปที่ฟ็อกซ์อย่างซื่อ ๆ
พอชายหนุ่มมองตามสายตานั่นไปก็เจอรอยยิ้มหยันของไอ้พี่ฟ็อกซ์พร้อมคิ้วที่ถูกยักขึ้นยักลงแบบกวน
ๆ ส่งให้
คริสตินแค่นหัวเราะ หึหึในลำคอ ‘น้องชายงั้นเหรอ??’
ก็ใครใช้ให้ไอ้พี่ฟ็อกซ์มันหน้าเด็กขนาดนั้นกันเล่า
แม้แต่เด็กข้างทางยังหลงคิดว่ามันเป็นน้องชายเขาซะนี่
แถมตอนนี้มันยังไปตัดผมคล้ายพวกนักเรียน รด. มาซะอีก นั่นมันคอนเซปเด็ก
ม.ปลายไม่ใช่รึไง ฮึ่ยยย
“ นะครับพี่คนน่ารัก
ซื้อช่วยผมสักดอกนะ นะ” คนอ้อนก็ยังอ้อนไม่เลิก ขณะกำลังจะปฏิเสธไปเสียงของอีกคนก็ดังแทรกขึ้น
“มึงก็ช่วยซื้อน้องเขาสักดอกสิว้า
น้องเขาน่ารักออก ดูสิพูดจาก็ดี้ดี ใช่ไหมครับหนุ่มน้อย” มือใหญ่หยิกลงที่แก้มเด็กจรจัดเบา ๆ
เด็กน้อยยิ้มรับคำชมพร้อมยัดกุหลาบดอกใหญ่
ๆ หนึ่งดอก ลงในมือคริสตินทันที จากนั้นเงยหน้าสบตาแบมือรอเก็บตังค์จากผู้หมวดหนุ่ม
คริสได้แต่ส่ายหน้าจำใจควักแบงค์สีแดงหนึ่งใบแลกกับกุหลาบดอกนั้นแต่เด็กแสบดันชู 2 นิ้วส่งให้
นั่นทำเอาคริสต้องจำใจอีกครั้งควักแบงค์แดงอีก 1 ใบยัดใส่มืออย่างช่วยไม่ได้
พอได้เงินปุ๊บก็กระโดดตัวลอยวิ่งหายไปทันที
‘หนอยยย!!ไอ้เด็กนี่ สองร้อยเชียวนะ
แลกกับการโดนหาว่าแก่! แถมยังไม่รู้ว่าจะเอาไอ้ดอกไม้นี่ไปวางไว้ตรงไหนอีก
จะให้ถือกลับโทง ๆ แบบนี้มันก็น่าอายอยู่
เขาเหลือบสายตาไปมองไอ้คนต้นเหตุมันทั้งหัวเราะทั้งรีบเดินแซงหน้าเขาไปแล้ว
คริสเองก็เริ่มเร่งฝีเท้าขึ้นบ้าง “เฮ้ยๆๆ มึงอย่ามาเดินใกล้กู๊
เดี๋ยวคนเขาจะหาว่ากูซื้อดอกไม้นี่ให้มึง ไอ้คริสมึงเดินให้มันห่างหน่อยสิวะ กูอายคนนะ” ฟ็อกซ์ทำสีหน้าประหลาดปัดไม้บัดมือรีบจ้ำอ้าวมุ่งกลับโรงแรมให้เร็วที่สุด
‘อ้าว ๆ อะไรของมันไม่รู้
ตัวเองเป็นคนบอกให้ซื้อแท้ ๆ ไอ้หัวหน้าพิลึกนี่
คิดว่าเขาไม่อายรึไง ผู้ชายตัวโตเดินถือดอกกุหลาบสีแดงเนี่ย
จะทิ้งไปก็นึกเสียดายเงินตั้งสองร้อยเชียว’
“ขึ้นไปกันเลย กูลงมาซื้อแค่นี้แหละ” ฟ็อกซ์บอกออกมาตอนจะเอื้อมมือผลักบานประตูหมุนที่ด้านหน้า
‘หึหึหึ เลเวลความกวนยังอัพขึ้นได้อีกครับพี่ ลากกันลงมาเพื่อซื้อผลไม้ดองไร้สาระแถมยังต้องเสียเงินกับเรื่องไม่เป็นเรื่องมันยังมีหน้ามาบอกว่าเสร็จแล้วขึ้นไปกันได้เลย’
และด้วยความโมโหสั่งสมแต่ไม่มีที่ลง
ระหว่างเดินผ่านล็อบบี้กำลังมุ่งหน้าไปทางลิฟต์คริสตินฉวยหยิบหนังสือพิมพ์ของใครก็ไม่รู้ที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเคาน์เตอร์ติดมือเข้าไปด้วยซะเลย
พอเปิดประตูห้องเข้าไปเท่านั้น
ก็เห็นเคนยะกวักมือเรียกไวไวพร้อมอมยิ้มหวานส่งมาให้ “ฟ็อกซ์มานี่” เสียงเล็ก
ๆ ของพี่เคนน่ารักจริง ๆ
ผู้หมวดหนุ่มสังเกตได้ว่าฟ็อกซ์หน้าแดงขึ้นมาทันที
เคนยะยืนยิ้มอยู่ด้านหลังซาโต้ที่ตอนนี้กำลังปรับซูมหน้าจอเพื่อดูอะไรสักอย่าง
คริสตินแวะเข้าห้องน้ำล้างหน้าเรียกความสดชื่น
สักพักเดินออกมาสมทบเพื่อดูสิ่งที่เจ้าซาโต้เรียกขึ้นมาจากเครื่อง
กล้องวงจรปิดที่ฉายภาพบริเวณหน้าบ้านของ สัตวแพทย์ศิริชัย คงศรี
กลางดึกเมื่อคืนเขากลับถึงบ้านเวลา
สามทุ่มครึ่งจากนั้นไม่ได้ออกไปไหนเลยจนกระทั่งตี 5 ชายหนุ่มสวมชุดวอร์มกีฬาพร้อมผ้าขนหนูพาดที่บ่ากับขวดน้ำเปล่าขับรถออกไปจากหมู่บ้าน
กลับมาอีกทีในเวลา 8.20 น.
ใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวเพียงครึ่งชั่วโมง 8.45 น.
เขาก็ขับรถออกไปทำงานซึ่งตรงกับภาพของกล้องที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลสัตว์แห่งนั้น
เวลา 9โมง เขาถึงที่ทำงานพอดี
ท่าทีการแสดงออกไม่พบพิรุธใด ๆ
ทั้งสิ้นนอกเสียจากหลักฐานเรื่องเวลาถือว่าเขาเป็นคนที่ต้องสงสัยมากที่สุด
ขณะคริสตินกำลังนึกถึงว่าคืนนี้อาจมีโอกาสได้พบกับผู้ต้องสงสัยคนนี้ที่บาร์จู่
ๆ คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็พูดขึ้นแถมยังทำน้ำเสียงจริงจัง
“ฟ็อกซ์ ผมอยากช่วยทำคดีนี้ด้วย นายพอจะช่วยพูดกับผู้ใหญ่ให้ได้รึเปล่า” เคนยะบอกเพื่อนสนิทด้วยสายตาที่มุ่งมั่น
ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้
คิ้วเข้มของหัวหน้าหนุ่มก็ขมวดเข้าหากันทันที ฟ็อกส์เหลือบมองโน๊ตบุ๊คของเคนยะแวบหนึ่ง
เครื่องส่วนตัวของเคนถูกปิดลงแล้ว แสดงว่า ‘งาน’
ของพวกเขาเมื่อเช้าเก็บรายละเอียดเสร็จสมบูรณ์ เคนยะจึงคิดสนใจงานใหม่ชิ้นนี้ขึ้นมา
ชายหนุ่มละสายตาจากทุกสิ่ง
เดินเลี่ยงออกไปที่ระเบียง
“ฟ็อกซ์เดี๋ยวก่อน” เคนเดินตามออกมาในทันที
เขามองดูแผ่นหลังกว้างของเพื่อนสนิทที่ตอนนี้หันหน้าหนีเขาไปอีกทาง
นำให้สารวัตรหนุ่มต้องเรียกขึ้นอีกครั้ง
พร้อมเอื้อมมือไปปิดประตูบานเลื่อนกันเสียงบทสนทนาที่จะลอดเข้าไปด้านในได้
“ฟ็อกซ์ ??”
“คิดอะไรครับเคน หืมม"
คนพูดคิ้วขมวดหันมารอสบสายตาจากคนด้านหน้าตรง ๆ
"คริสเขารู้แค่ว่าเคนทำงานสืบสวนนะไม่เกี่ยวกับสายปราบปราม
แล้วงานนี้ก็อยู่นอกเหนือขอบข่ายความรับผิดชอบของเคนด้วย”
“แต่ว่าผม......อยากช่วยน้อง”
ใบหน้าหวานก้มหลบสายตาแกร่ง ถ้าไม่ได้อยู่ในโหมดงาน จุดอ่อนที่สุดของผู้ชายคนนี้คือน้องชายสุดที่รักของเขานั่นเอง
ฝ่ามือหนาลูบลงที่ผมนิ่มนั้นเบา ๆ
เคนยะผมยาวขึ้นมากตั้งแต่วันที่เขารู้จักกันวันแรกจนถึงวันนี้
ชายหนุ่มจดจำทุกอย่างเกี่ยวกับเพื่อนสนิทคนนี้ได้ดีที่สุด
......ยิ่งกว่าใคร ๆ ทั้งหมด…..
“เคน....เรากลับกันนะครับ
ปล่อยสองคนนี้ทำงาน ผมรู้ว่าเคนห่วงน้อง ให้เวลาพวกเขานะ ประสบการณ์จะสอนให้คริสแข็งแกร่งขึ้นมาได้ ซาโต้ก็อยู่ด้วย
เคนไม่จำเป็นต้องห่วงอะไรเลยนี่ครับ”
เคนยะได้ฟังดังนั้นจึงเบนสายตาเข้าไปด้านใน ภาพที่คริสตินน้องชายของเขาท้าวแขนชี้ที่จอมอนิเตอร์คุยงานอยู่กับคู่หูที่นั่งคลิกเมาส์เลื่อนจอภาพไปเรื่อย
มือไม้ที่อยู่ไม่สุขทั้งฟาดทั้งต่อยลงบนหลังซาโต้เบา ๆ มีบางครั้งถึงขนาดโบกหัวกันไปมา
มันช่างเป็นภาพที่น่ารักสดใสและเข้ากันได้ดี
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะแบบนั้นเขาเองเมื่อก่อนก็เคยเป็น ความไว้ใจและเชื่อในตัวน้องนั้นน่าจะดีที่สุด การจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือโดยที่เจ้าของคดียังไม่ได้ขอด้วยซ้ำนั่นมันเป็นการทำลายความภาคภูมิใจของน้องโดยไม่ต้องสงสัยเลย
แล้วคริสก็จะทำอะไรไม่เป็น
นิดหน่อยก็จะเรียกหาแต่พี่ชาย
ฟ็อกซ์พูดถูก
ชายหนุ่มถอนใจโล่ง เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงหันหน้ากลับมาสบสายตากับฟ็อกซ์อีกครั้งอย่างเข้าใจ
เคนยะพยักหน้าเบา ๆ
อีกคนจึงโอบเอาไหล่บางนั่นไว้แล้วพาเดินกลับเข้าไปในห้องตามเดิม
แต่ไหนแต่ไร....คนที่เข้าใจเขามากที่สุด
ก็คงมีแต่เพื่อนคนนี้สินะ
Tbc.