# 5
หลังจากขึ้นมาเซ็นรับเอกสารที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานเรียบร้อย ทั้งคริสและซาโต้นั่งถกเรื่องคดีกับจ่าสุรชัยอย่างออกรส
ใช้เวลาสักพักใหญ่ผู้หมวดหนุ่มจึงขอตัวขึ้นไปที่ห้องทำงานของตัวเองซึ่งอยู่ที่ชั้นสี่ ซาโต้เองก็ตามขึ้นมาด้วย
คริสนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงกระตุกชายเสื้อของคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าเบาๆ
“ครับ ?” ซาโต้หันกลับมาถาม
คริสกำลังจะพูดเรื่องที่จะให้ไปส่งอยู่แล้ว ถ้าเสียงโทรศัพท์ของอีกฝ่ายไม่ดังขึ้นมาซะก่อน ซาโต้กดรับและแยกตัวไปคุยอยู่ราวระเบียง
คริสยักไหล่เดินเลี่ยงเข้าไปในห้องเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อทำงาน
จนสักพักเมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จเจ้าของชายเสื้อที่เขากระตุกไปเมื่อกี้ก็เข้ามาโบกไม้โบกมือขอตัวกลับก่อน
คริสเดาได้ทันทีเช่นกันว่าคงเป็นหมอเจด้าที่โทรมาตาม เพราะนี่ก็จวนค่ำแล้ว
เป็นอันว่าโครงการไหว้วานคู่หูไปส่งบ้านต้องพับเก็บไปก่อน
ผู้หมวดหนุ่มนั่งอ่านและเช็คเอกสารรายงานต่าง ๆ ของคดีนี้อยู่สักพักใหญ่ ๆ พลางในหัวรู้สึกหลอน ๆ ไปกับภาพช็อตต่าง ๆ ของทั้งสามศพที่วางเรียงกันอยู่บนโต๊ะแล้วด้วย
นาฬิกาข้อมือบอกเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว
มิน่าล่ะรู้สึกท้องโหวง ๆ เขายกมือลูบท้องเบา ๆ กะว่าคงต้องหาอะไรกินก่อนกลับ
เนื่องจากวันนี้เคนยะต้องกลับดึกแน่อยู่แล้ว อย่าได้พูดเรื่องกับข้าว ที่แม้แต่การหุงข้าวเขายังทำไม่เป็นเลย อิอิ
เมื่อรวบเก็บข้าวของพร้อมปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างเรียบร้อย คริสโกยภาพถ่ายที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะลงเป้ กระเป๋าสะพายถูกพาดขึ้นที่ไหล่ พร้อมกับตัวคนที่เดินมุ่งหน้าลงจากตึกทันที
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น วันนี้ต้องหารถกลับเอง
โถ่!!!!! เมื่อเช้าไม่น่าโดนไอ้พี่ฟ็อกซ์หิ้วมาเลยรู้งี้ขับรถมาเองซะก็ดี แต่โรคกลัวรถติดทำเอาเขากลายเป็นคนขี้เกียจ
ตั้งแต่ทำงานมาก็อาศัยรถเคนบ้าง ฟ็อกซ์บ้างมาตลอด รถตัวเองแทบจะจอดตายอยู่ที่บ้าน
ขณะกำลังเดินออกไปด้านหน้าสำนักงานฯ เพื่อหวังเรียกแทกซี่สักคันมาใช้บริการ
BMWสีตะกั่วคันวาวเลี้ยวสวนเข้ามาอย่างรวดเร็ว (ไหงรถมันช่างเงาดีแท้ ยิ่งต้องกับไฟถนนสีส้ม ๆ แบบนี้ ท่าจะส่งขัดทุกวันล่ะมั้ง)
รถหยุดลงกระทันหันก่อนที่กระจกสีปรอทจะถูกเลื่อนลงพร้อมหน้าคนขับที่ชะโงกมาอีกฝั่ง
ไอ้ห่า!!!!! กูก็นึกว่ารถใคร สวยแม่ง
แต่เอ๊ะ!! มันขับรถใคร
“ทำไมเพิ่งกลับ” ซาโต้ถามหน้าตื่น
อ้าวววว กูจะกลับตอนไหนทำไมมึงต้องตกใจขนาดนี้ด้วย
“ก็....เพิ่งอ่านเอกสารเสร็จ แล้วนายกลับมาทำไม ไม่ได้ออกไปแล้วหรอกเหรอ”
“กลับมาเปลี่ยนรถน่ะ แล้วไงล่ะ จะไปรอแท็กซี่ด้านหน้าเหรอ”
“อือ ก็งั้นแหละ” เปลี่ยนรถอะไรของมันวะ
“อ๋อ วันนี้เคนยะไม่อยู่สินะ” ซาโต้กลอกตาพยักหน้าหงึกๆทำท่าเหมือนพูดกับตัวเอง
เฮ้ยๆ พี่เคนเขาเป็นถึงสารวัตรนะ นี่มึงไม่เคยเรียกคำนำหน้าใครเลยใช่ไหมเนี่ย คริสนึกพร้อมมองคนที่กำลังเดินลงมาจากรถ อ้อมมาหาเขา
“รอนี่ได้ไหม เข้าไปเปลี่ยนรถแป็บเดียว เดี๋ยวออกไปส่ง” คริสหันซ้ายหันขวา ก็ยังดีที่อุตสาห์ถามกัน แต่ใจคอมึงจะให้กูยืนรออยู่กลางสนามหญ้าเปลี่ยว ๆ แบบนี้รึไงวะ (ความจริงก็ไม่เปลี่ยวเท่าไหร่หรอก ด้านข้างตึกมีสนามบาสและสนามตะกร้อ รวมถึงสนามเปตอง ที่พวกเจ้าหน้าที่ ๆ อยู่เวรช่วงดึก ๆ กำลังเล่นกันอยู่ )
“ไม่เป็นไร นั่นไงแท็กซี่มาแล้ว” ผมว่าหนีมันออกไปตอนนี้เลยก็ดี แอบรำคาญเหมือนกัน ได้ข่าวว่ามึงเพิ่งไปส่งแฟนมาแล้วไหงตอนนี้จะไปส่งกูต่อล่ะ กูไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย
“งั้นขึ้นมา เดี๋ยวผมเอาคันนี้ไปส่งก็ได้ เร็ว ๆ อย่าลีลา รถเข้ามาต่อก้นแล้วเห็นไหม”
มีรถเข้ามาจริง ๆ คริสจึงรีบก้าวขึ้นไปอย่างเร่งด่วนเดือดร้อนซาโต้ต้องผงกหัวขอโทษขอโพยรถคันที่กำลังจ่อตูดอยู่เป็นพัลวัน
ขับกันออกมาได้สักระยะคริสจึงเอ่ยถามขึ้น
“คันนี้รถนาย ? ”
“ครับ”
คนขับตอบง่าย ๆ พร้อมกดเปลี่ยนเพลงไปด้วย ดีเหมือนกันเพลงร็อคเขาไม่ค่อยชอบฟังอยู่แล้ว อยู่ด้วยกันแค่วันเดียวอย่ามาทำเป็นรู้ใจหน่อยเล้ยยย หึหึ
“ยิ้มอะไร”
หือ...เขาเผลอยิ้มออกไปเหรอ โด่!!! ก็ดันกดถูกเพลงที่ชอบพอดีนี่หว่า
“เปล๊า...เพลงเพราะดี”
“อ้าวเหรอ งั้นปิด” พูดปุ๊ปมันก็กดหยุดเพลงเฉยเลย เอ๊า! ไอ้นี่!!!!
“เปิดเลย ๆ จะฟังต่อ” คริสพูดพร้อมยื่นมือจะกดเล่นเพลงต่อ เดือดร้อนซาโต้ต้องปัดมือป้องกัน
“อะไร จะแกล้งรึไง” คริสพูดคิ้วขมวด หน้าเริ่มงอเหมือนเด็ก ๆ
“นิดหน่อยเอง แค่อยากรู้ว่าคู่หูตัวเองนิสัยเป็นยังไง หึหึหึ”
“เออ งั้นกูไม่ฟังแล้ว หมดอารมณ์”
ผู้หมวดหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่างชมวิวมืด ๆ ข้างทาง แต่เสียงเพลงโปรดก็ดังขึ้นมาทันทีอีกครั้ง
“ชอบแกล้งดีนักนะมึง เพิ่งรู้ว่าเป็นคนแบบนี้”
หึหึหึ มีแต่เสียงหัวเราะเบา ๆ ที่ส่งกลับมาให้ เรียกให้คริสต้องหันกลับมามองใบหน้าคมด้านข้างที่กำลังขับรถอยู่อีกครั้ง พลันก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
“เออจริงสิ เมื่อกี้บอกว่าจะเข้าไปเปลี่ยนรถ ทำไมกันล่ะ”
“ว่าจะเอามอ’ไซด์กลับน่ะ พรุ่งนี้ต้องแวะไปรับคนบางคนแต่เช้าขี้เกียจขับรถยนต์ เบื่อรถติด”
“ใคร ?”
“ไม่รู้ใคร แต่ฟ็อกซ์ให้ไปรับที่บ้านเคนยะ”
อา........คงเป็นผมเองแหละ
ไอ้พี่ฟ็อกซ์มันคงคิดจะให้เจ้าซาโต้มารับเขาไปทำงาน ตัวเองจะได้ไปส่งพี่เคนโดยไม่มีใครคอยขัดขวางนั่นเอง
แหม...แผนล้ำนะ ไอ้ฟ็อกซ์!
“อ้าว แล้วทำไมไม่เอาคันนี้ไปซะเลย ขับไปขับมาไม่เหนื่อยรึไง” กูก็อยากนั่งนะบีเอ็มน่ะ ลำโพงนุ้มนุ่มหู(จริง ๆ ผมใช้ CRVอยู่ ส่วนพี่เคนก็เลคซัสดำครับ ลำโพงรื่นหูกว่าบีเอ็มนิดหน่อย ผมว่านะ สำหรับไอ้พี่ฟ๊อกซ์นะเหรอ มันใช้เลคซัสเหมือนพี่เคนเลยครับแต่ของมันเป็นสีตะกั่ว สีเดียวกับเจ้าซาโต้เปี๊ยบ แถมมีมอ’ไซด์คันใหญ่หน้าตาก็เหมือนกับของเจ้าซาโต้อีก แต่จอดทิ้งไว้ที่ทำงานนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้ตอนไหน)
“ไม่ล่ะ คันนี้เอาไว้ไปส่งพวกผู้หญิง จะให้เกาะมอ’ไซด์หน้าถ่อลมไปได้ไง กระโปรงก็สั๊นสั้น ”
โห ช่างคิดเนอะ ทีกูหน้าถ่อลมไปถึงชลบุรีมาเมื่อเช้านี้มึงจะเคยคิดบ้างรึเปล่า...
“คริสเป็นผู้ชาย ไม่เหมือนกัน” ซาโต้พูดขึ้นอย่างกับอ่านความคิดอีกคนหนึ่งออก
เราเงียบกันไปได้สักพัก จนเกือบจะถึงทางเลี้ยวที่จะต้องยูเทิร์นรถ
“พรุ่งนี้เตรียมตัวไว้ด้วยนะครับ ” จู่ ๆ ซาโต้ก็พูดขึ้น พร้อมเปลี่ยนสายตามองมาที่กระจกมองข้าง ถึงซอยเลี้ยวเข้าหมู่บ้านเขาพอดี
“ทำไม จะไปไหน” คริสถาม
ซาโต้ขมวดคิ้ว ละสายตาจากหน้ารถหันมามองเขานิดหน่อย “ไหนว่าอ่านรายงานจบแล้วไง”
“ก็อ่านจบแล้ว ทำไมล่ะ ”
“งั้นก็ต้องรู้สิ พรุ่งนี้เราจะเริ่มทำงานกันแล้ว อาจจะต้องอยู่ที่นั่นหลายวันหน่อย”
ใช่จริง ๆ ด้วยเขาเองก็เพิ่งนึกออก คริสเอียงศีรษะใช้ความคิด
“แล้วสายก็แจ้งข่าวเข้ามาเรียบร้อยเมื่อกี้นี้เอง มีเพื่อนมายืนยันศพผู้ตายแล้ว สถานที่ทำงานของเหยื่อทั้งสามราย”
“ที่ไหน”
“บาร์เกย์ พัทยาใต้ซอย 112 ”
“หืม บาร์เกย์ ?”
“เตรียมตัวไว้ด้วยล่ะ พรุ่งนี้เราจะไปที่นั่นกัน”
หลังจากขึ้นมาเซ็นรับเอกสารที่หน่วยพิสูจน์หลักฐานเรียบร้อย ทั้งคริสและซาโต้นั่งถกเรื่องคดีกับจ่าสุรชัยอย่างออกรส
ใช้เวลาสักพักใหญ่ผู้หมวดหนุ่มจึงขอตัวขึ้นไปที่ห้องทำงานของตัวเองซึ่งอยู่ที่ชั้นสี่ ซาโต้เองก็ตามขึ้นมาด้วย
คริสนึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงกระตุกชายเสื้อของคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าเบาๆ
“ครับ ?” ซาโต้หันกลับมาถาม
คริสกำลังจะพูดเรื่องที่จะให้ไปส่งอยู่แล้ว ถ้าเสียงโทรศัพท์ของอีกฝ่ายไม่ดังขึ้นมาซะก่อน ซาโต้กดรับและแยกตัวไปคุยอยู่ราวระเบียง
คริสยักไหล่เดินเลี่ยงเข้าไปในห้องเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อทำงาน
จนสักพักเมื่อคุยโทรศัพท์เสร็จเจ้าของชายเสื้อที่เขากระตุกไปเมื่อกี้ก็เข้ามาโบกไม้โบกมือขอตัวกลับก่อน
คริสเดาได้ทันทีเช่นกันว่าคงเป็นหมอเจด้าที่โทรมาตาม เพราะนี่ก็จวนค่ำแล้ว
เป็นอันว่าโครงการไหว้วานคู่หูไปส่งบ้านต้องพับเก็บไปก่อน
ผู้หมวดหนุ่มนั่งอ่านและเช็คเอกสารรายงานต่าง ๆ ของคดีนี้อยู่สักพักใหญ่ ๆ พลางในหัวรู้สึกหลอน ๆ ไปกับภาพช็อตต่าง ๆ ของทั้งสามศพที่วางเรียงกันอยู่บนโต๊ะแล้วด้วย
นาฬิกาข้อมือบอกเวลาเกือบสามทุ่มแล้ว
มิน่าล่ะรู้สึกท้องโหวง ๆ เขายกมือลูบท้องเบา ๆ กะว่าคงต้องหาอะไรกินก่อนกลับ
เนื่องจากวันนี้เคนยะต้องกลับดึกแน่อยู่แล้ว อย่าได้พูดเรื่องกับข้าว ที่แม้แต่การหุงข้าวเขายังทำไม่เป็นเลย อิอิ
เมื่อรวบเก็บข้าวของพร้อมปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างเรียบร้อย คริสโกยภาพถ่ายที่กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะลงเป้ กระเป๋าสะพายถูกพาดขึ้นที่ไหล่ พร้อมกับตัวคนที่เดินมุ่งหน้าลงจากตึกทันที
แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น วันนี้ต้องหารถกลับเอง
โถ่!!!!! เมื่อเช้าไม่น่าโดนไอ้พี่ฟ็อกซ์หิ้วมาเลยรู้งี้ขับรถมาเองซะก็ดี แต่โรคกลัวรถติดทำเอาเขากลายเป็นคนขี้เกียจ
ตั้งแต่ทำงานมาก็อาศัยรถเคนบ้าง ฟ็อกซ์บ้างมาตลอด รถตัวเองแทบจะจอดตายอยู่ที่บ้าน
ขณะกำลังเดินออกไปด้านหน้าสำนักงานฯ เพื่อหวังเรียกแทกซี่สักคันมาใช้บริการ
BMWสีตะกั่วคันวาวเลี้ยวสวนเข้ามาอย่างรวดเร็ว (ไหงรถมันช่างเงาดีแท้ ยิ่งต้องกับไฟถนนสีส้ม ๆ แบบนี้ ท่าจะส่งขัดทุกวันล่ะมั้ง)
รถหยุดลงกระทันหันก่อนที่กระจกสีปรอทจะถูกเลื่อนลงพร้อมหน้าคนขับที่ชะโงกมาอีกฝั่ง
ไอ้ห่า!!!!! กูก็นึกว่ารถใคร สวยแม่ง
แต่เอ๊ะ!! มันขับรถใคร
“ทำไมเพิ่งกลับ” ซาโต้ถามหน้าตื่น
อ้าวววว กูจะกลับตอนไหนทำไมมึงต้องตกใจขนาดนี้ด้วย
“ก็....เพิ่งอ่านเอกสารเสร็จ แล้วนายกลับมาทำไม ไม่ได้ออกไปแล้วหรอกเหรอ”
“กลับมาเปลี่ยนรถน่ะ แล้วไงล่ะ จะไปรอแท็กซี่ด้านหน้าเหรอ”
“อือ ก็งั้นแหละ” เปลี่ยนรถอะไรของมันวะ
“อ๋อ วันนี้เคนยะไม่อยู่สินะ” ซาโต้กลอกตาพยักหน้าหงึกๆทำท่าเหมือนพูดกับตัวเอง
เฮ้ยๆ พี่เคนเขาเป็นถึงสารวัตรนะ นี่มึงไม่เคยเรียกคำนำหน้าใครเลยใช่ไหมเนี่ย คริสนึกพร้อมมองคนที่กำลังเดินลงมาจากรถ อ้อมมาหาเขา
“รอนี่ได้ไหม เข้าไปเปลี่ยนรถแป็บเดียว เดี๋ยวออกไปส่ง” คริสหันซ้ายหันขวา ก็ยังดีที่อุตสาห์ถามกัน แต่ใจคอมึงจะให้กูยืนรออยู่กลางสนามหญ้าเปลี่ยว ๆ แบบนี้รึไงวะ (ความจริงก็ไม่เปลี่ยวเท่าไหร่หรอก ด้านข้างตึกมีสนามบาสและสนามตะกร้อ รวมถึงสนามเปตอง ที่พวกเจ้าหน้าที่ ๆ อยู่เวรช่วงดึก ๆ กำลังเล่นกันอยู่ )
“ไม่เป็นไร นั่นไงแท็กซี่มาแล้ว” ผมว่าหนีมันออกไปตอนนี้เลยก็ดี แอบรำคาญเหมือนกัน ได้ข่าวว่ามึงเพิ่งไปส่งแฟนมาแล้วไหงตอนนี้จะไปส่งกูต่อล่ะ กูไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย
“งั้นขึ้นมา เดี๋ยวผมเอาคันนี้ไปส่งก็ได้ เร็ว ๆ อย่าลีลา รถเข้ามาต่อก้นแล้วเห็นไหม”
มีรถเข้ามาจริง ๆ คริสจึงรีบก้าวขึ้นไปอย่างเร่งด่วนเดือดร้อนซาโต้ต้องผงกหัวขอโทษขอโพยรถคันที่กำลังจ่อตูดอยู่เป็นพัลวัน
ขับกันออกมาได้สักระยะคริสจึงเอ่ยถามขึ้น
“คันนี้รถนาย ? ”
“ครับ”
คนขับตอบง่าย ๆ พร้อมกดเปลี่ยนเพลงไปด้วย ดีเหมือนกันเพลงร็อคเขาไม่ค่อยชอบฟังอยู่แล้ว อยู่ด้วยกันแค่วันเดียวอย่ามาทำเป็นรู้ใจหน่อยเล้ยยย หึหึ
“ยิ้มอะไร”
หือ...เขาเผลอยิ้มออกไปเหรอ โด่!!! ก็ดันกดถูกเพลงที่ชอบพอดีนี่หว่า
“เปล๊า...เพลงเพราะดี”
“อ้าวเหรอ งั้นปิด” พูดปุ๊ปมันก็กดหยุดเพลงเฉยเลย เอ๊า! ไอ้นี่!!!!
“เปิดเลย ๆ จะฟังต่อ” คริสพูดพร้อมยื่นมือจะกดเล่นเพลงต่อ เดือดร้อนซาโต้ต้องปัดมือป้องกัน
“อะไร จะแกล้งรึไง” คริสพูดคิ้วขมวด หน้าเริ่มงอเหมือนเด็ก ๆ
“นิดหน่อยเอง แค่อยากรู้ว่าคู่หูตัวเองนิสัยเป็นยังไง หึหึหึ”
“เออ งั้นกูไม่ฟังแล้ว หมดอารมณ์”
ผู้หมวดหนุ่มมองออกไปนอกหน้าต่างชมวิวมืด ๆ ข้างทาง แต่เสียงเพลงโปรดก็ดังขึ้นมาทันทีอีกครั้ง
“ชอบแกล้งดีนักนะมึง เพิ่งรู้ว่าเป็นคนแบบนี้”
หึหึหึ มีแต่เสียงหัวเราะเบา ๆ ที่ส่งกลับมาให้ เรียกให้คริสต้องหันกลับมามองใบหน้าคมด้านข้างที่กำลังขับรถอยู่อีกครั้ง พลันก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้
“เออจริงสิ เมื่อกี้บอกว่าจะเข้าไปเปลี่ยนรถ ทำไมกันล่ะ”
“ว่าจะเอามอ’ไซด์กลับน่ะ พรุ่งนี้ต้องแวะไปรับคนบางคนแต่เช้าขี้เกียจขับรถยนต์ เบื่อรถติด”
“ใคร ?”
“ไม่รู้ใคร แต่ฟ็อกซ์ให้ไปรับที่บ้านเคนยะ”
อา........คงเป็นผมเองแหละ
ไอ้พี่ฟ็อกซ์มันคงคิดจะให้เจ้าซาโต้มารับเขาไปทำงาน ตัวเองจะได้ไปส่งพี่เคนโดยไม่มีใครคอยขัดขวางนั่นเอง
แหม...แผนล้ำนะ ไอ้ฟ็อกซ์!
“อ้าว แล้วทำไมไม่เอาคันนี้ไปซะเลย ขับไปขับมาไม่เหนื่อยรึไง” กูก็อยากนั่งนะบีเอ็มน่ะ ลำโพงนุ้มนุ่มหู(จริง ๆ ผมใช้ CRVอยู่ ส่วนพี่เคนก็เลคซัสดำครับ ลำโพงรื่นหูกว่าบีเอ็มนิดหน่อย ผมว่านะ สำหรับไอ้พี่ฟ๊อกซ์นะเหรอ มันใช้เลคซัสเหมือนพี่เคนเลยครับแต่ของมันเป็นสีตะกั่ว สีเดียวกับเจ้าซาโต้เปี๊ยบ แถมมีมอ’ไซด์คันใหญ่หน้าตาก็เหมือนกับของเจ้าซาโต้อีก แต่จอดทิ้งไว้ที่ทำงานนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าใช้ตอนไหน)
“ไม่ล่ะ คันนี้เอาไว้ไปส่งพวกผู้หญิง จะให้เกาะมอ’ไซด์หน้าถ่อลมไปได้ไง กระโปรงก็สั๊นสั้น ”
โห ช่างคิดเนอะ ทีกูหน้าถ่อลมไปถึงชลบุรีมาเมื่อเช้านี้มึงจะเคยคิดบ้างรึเปล่า...
“คริสเป็นผู้ชาย ไม่เหมือนกัน” ซาโต้พูดขึ้นอย่างกับอ่านความคิดอีกคนหนึ่งออก
เราเงียบกันไปได้สักพัก จนเกือบจะถึงทางเลี้ยวที่จะต้องยูเทิร์นรถ
“พรุ่งนี้เตรียมตัวไว้ด้วยนะครับ ” จู่ ๆ ซาโต้ก็พูดขึ้น พร้อมเปลี่ยนสายตามองมาที่กระจกมองข้าง ถึงซอยเลี้ยวเข้าหมู่บ้านเขาพอดี
“ทำไม จะไปไหน” คริสถาม
ซาโต้ขมวดคิ้ว ละสายตาจากหน้ารถหันมามองเขานิดหน่อย “ไหนว่าอ่านรายงานจบแล้วไง”
“ก็อ่านจบแล้ว ทำไมล่ะ ”
“งั้นก็ต้องรู้สิ พรุ่งนี้เราจะเริ่มทำงานกันแล้ว อาจจะต้องอยู่ที่นั่นหลายวันหน่อย”
ใช่จริง ๆ ด้วยเขาเองก็เพิ่งนึกออก คริสเอียงศีรษะใช้ความคิด
“แล้วสายก็แจ้งข่าวเข้ามาเรียบร้อยเมื่อกี้นี้เอง มีเพื่อนมายืนยันศพผู้ตายแล้ว สถานที่ทำงานของเหยื่อทั้งสามราย”
“ที่ไหน”
“บาร์เกย์ พัทยาใต้ซอย 112 ”
“หืม บาร์เกย์ ?”
“เตรียมตัวไว้ด้วยล่ะ พรุ่งนี้เราจะไปที่นั่นกัน”
Tbc.